นักวิทยาศาสตร์สมองแชร์ “วิธีเพิ่มพลังสมาธิอย่างถาวรภายในไม่กี่นาที” 🧠🔥
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 15 พ.ย. 2024
- คลิปนี้แปลมาจากส่วนหนึ่งของpodcastของนักประสาทวิทยาศาสตร์และอาจารย์มหาวิทยาลัย Stanford ชื่อดัง Dr. Andrew Huberman ด้วยความตั้งใจที่จะแบ่งปันความรู้
สามารถดูคลิปเต็มได้ที่: • ADHD & How Anyone Can ...
ลิสต์หนังสือแนะนำ
📖 เปลี่ยนแปลงนิสัย Atomic Habits: s.lazada.co.th...
📖ประสบความสำเร็จด้วยการเปลี่ยนกรอบความคิด Mindset: s.lazada.co.th...
📖ประสบความสำเร็จด้วยสมาธิแบบดำดิ่ง Deep Work: s.lazada.co.th...
📖 สร้างปาฎิหาริย์ด้วยพลังสมาธิ You are the placebo: s.lazada.co.th...
Fair Use Disclaimer
Under section 107 of the Copyright Act 1976, allowance is made for "fair use" for purposes such as criticism, commenting, news reporting, teaching, scholarship and research. Fair use is a use permitted by copyright statute that might otherwise be infringing. Non-profit, educational or personal use tips the balance in favor of fair use.
Contact: inspirethaichannel@gmail.com
เป็นวิธีการทำวิปัสสนาค่ะ หลักสำคัญคือรู้ทุกอย่างในสิ่งที่เกิดขึ้นในกายใจตามความเป็นจริง รู้แบบกว้างๆและให้สังเกตเห็นการเกิดดับๆ(ไตรลักษณ์)ไปเรื่อยๆ เป็นการเดินปัญญาทางพุทธค่ะ ซึ่งจะต่างจากสมถะ สมถะเอาไว้พักจิตเพราะถ้าเดินปัญญารวดเดียวจะเหนื่อยมากค่ะ ดังนั้นเราจึงต้องทำทั้งสมถะ และวิปัสสนา สลับกันไปเรื่อยๆ เน้นให้เห็นการเกิดดับ บังคับไม่ได้ของกายใจ ขออนุโมทนาบุญกับผู้จัดทำคลิปนี้ด้วยนะคะ
ไม่ต้องกังวนกันการเกิดดับก็ได้เพราะเราไม่รู้ว่าเกิดอะไรตรงไหนหรือดับจากอะไรตรงไหน แต่สามารถรู้ตัวทั่วพร้อมหายใจเข้า-ออกก็รู้ มองให้เห็นลมหายใจเป็นธาตุลม เข้า-ออด แล้วถอดเหลือแต่ความว่างเพราะลมหายใจเริ่มละเอียดนี้แค่ขนิกะสมาธิแบบเข้าถึงอารมจริง
ช่ายยยย
ใช่กายคตาสติ
@@charoonwongsarat397 กายคตาสติต้องระวังเรื่องเวทนามันเกิดขึ้นมากๆก็อยากฆ่าตัวตายจะได้พ้นจากความอึดอัด สะอิดสะเอียน ระอา เกลียดชังร่างกายของตนข้อนี้พระพุทธเจ้าเลยแสดงอานาปานแทน
ฝรั่งเพิ่งรู้ เป็นการพยายามอธิบายให้เป็นวิทยาศาสตร์แบบฝรั่ง
ทางพุทธเรียก
สมถะ และ วิปัสสนา
พระพุทธเจ้าท่านสุดยอดมาก
ถูกต้องครับ การทำสมาธิสูงสุด คือ การ …ไม่ Focus กับอะไรเลย เพราะปกติจิตเราจะฟุ้งซ่าน การ Focus กับ ลมหายใจ หรือ สิ่งใดสิ่งหนึ่ง มันเป็นแค่ มายา หรือ อุบาย ในการหลอกจิตให้หยุดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เท่านั้นครับ แต่จุดสูงสุดของสมาธิ คือ ความว่างเปล่า …ไม่ Focus กับอะไรเลย
การนั่งสมาธิของไทยตามการฝึกสอนของจุดสุดท้ายคือเราจะไม่รับรู้ถึงลมหายใจ
ผมเห็นด้วย การทำสมาธิที่จะได้ผลสูงสุด ต้องไม่โฟกัส ไม่เพ่ง กับสิ่งใดแม้แต่ลมหายใจ มันคือสมาธิเทียม เข้าไม่สุดในธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น บังเอิญเกิดเสียงดัง เราตกใจ กริยาการแสดงของรูปหรือร่างกาย จะแสดงออกเป็นไปตามธรรมชาติ แต่ถ้าเรารู้ก่อนว่าจะมีเสียงดังเกิดขึ้นกริยาการตกใจจะต่างกัน หรือไม่ตกใจเลย
สมาธิที่เกิดจากการโฟกัส กับสมาธิที่ไม่กำหนดอยู่กีบสิ่งใดมีความแตกต่างกัน ผลที่ได้จะแตกต่างกัน แม้ว่าผลลับที่จะได้เหมือนกันคือ ทำให้สมองไม่เกิดความคิด เพราะโดยธรรมชาติของคนจะมีความคิดผุดขึ้นตลอดเวลา เป็นอดีดกับอนาคตไม่ใช่ปัจจุบัน แต่จะคิดได้ในขณะที่สมองนิ่งเฉยหรือไม่คิด กับปัจจุบันหรือวิบากกรรม นี่คือความจริง ที่เกิดขึ้นจริง ที่พิสูจน์ได้ทุกรูปแบบ
สมาธิกับสติ มีอยู่ในเราทุกๆคนตามธรรมชาติ สติกับสมาธิเขาจะไปด้วยกันนั่นคือถ้าสมาธิสูง สติจะสูงตามไปด้วย สติสูงสมาธิก็สูงตาม ผลที่จะได้รับในที่สุดของการฝึกสมาธิคือ "ทำให้สมองไม่เกิดความคิด" อยากให้ฝรั่งเอาไปวิจัยบ้าง เพราะสมาธิของฝรั่งกับพุทธเหมืนกันคือโฟกัส
ทางพุทธ สอนให้ทำได้ง่ายๆให้ผู้ฝึกเห็นภาพง่ายๆครับ เลยให้ฝึกเอาจิตไปจับกับลมหายใจ หรือปลายจมูกก่อน เพื่อไม่ให้จิตวอกแวกคิดไปฟุ้งซ่าน ลอยไปคิดเรื่องอื่น เรียกว่าหาที่อยู่ให้จิต มันคือกรรมฐาน101หรือ อานาปานสติ ฝึกได้แค่นี้จิตก็นิ่ง คลื่นสมองก็เปลี่ยนแล้วครับ ถ้าจะไม่โฟกัสอะไรเลย มันก็ต้องฝึกกรรมฐานขั้นสูงขึ้นไปเรื่อยๆ สติต้องดีแล้ว ถึงทำได้
@@มนต์ชัยศรไชย รู้ก่อนกับไม่รู้ การตกใจเกิดขึ้นต่างกันก็จริง หากเรารู้ว่าจะเกิด จะไม่ตกใจหรือตกใจนิดหน่อย(เช่นดูคนถูกเชือดคอ) แต่ถ้าไม่รู้ก่อน แล้วมีอะไรเกิดขึ้น จะทำให้เราตกใจหนักมาก บางคนจิ้มเอวตกใจ ฟ้าร้องตกใจ ถ้าไม่รู้ว่ามันจะเกิดจะตกใจหนัก ถ้ารู้ว่ามันจะเกิดจะเฉยๆหรือตกใจนิดหน่อย ตามสัญชาตญาณของร่างกาย อันนี้คือ "ลักษณะของคนธรรมดาทั่วไปที่ไม่ได้ฝึกตามหลักวิปัสสนา"................ส่วนคนที่ฝึกตามหลักวิปัสสนาอย่างถูกต้องแบบเอาจริงเอาจัง จะควบคุมทุกอย่างได้โดยอัตโนมัติ ฟ้าผ่า ก็เฉยๆ โดนแอบจิ้มเอว ก็เฉยๆ เกาตีนก็เฉยๆ เพราะเขาสามารถแยกจิต กับ ร่างกายออกจากกันได้ ตามหลักวิปัสสนา
@@v.8101
จะเอาให้ไม่โฟกัสอะไรเลย คือหลุดพ้นไปแล้ว ไม่ยึดติด ถ้าอย่างคนธรรมดาไม่โฟกัสคือฟุ้งซ่านไปเรื่อย
หากต้องการความสงบ ลองพิจารณาและปฏิบัติสิ่งนี้ในเวลาที่ปฏิสัมพันธ์กับตัวเองและผู้อื่นดู ไม่ว่าจะทำด้วย กาย, วาจา, ใจ โดยรับรู้ จิต(อารมณ์) ความคิด อยู่เสมอ เมื่อรู้ 2 สิ่งนี้ เราเรียกมันว่า การมีสติ ขอให้โชคดี
การภาวนานี่
ที่สำคัญ มันไม่ใช่ความสงบนะ
สิ่งสำคัญที่มีค่ายิ่งกว่าความสงบก็คือ
การที่เราได้เห็น อารมณ์ เห็นความคิดที่มันผุดขึ้นมา
และตรงนี้แหละมันจะทำให้เรา
สามารถที่จะเป็นอิสระ
จากความคิดและอารมณ์
แทนที่จะตกเป็นทาสของมัน
ถูกความคิดดึงไป หลอกล่อ
หรือว่าถูกอารมณ์ครอบงำ บงการจิตใจ
เราก็สามารถที่จะเป็นอิสระจากมัน
หรือเป็นนายเหนือมันได้
.
ความคิดนี่ ถ้าหากว่าเราไม่รู้ทันมัน
มันก็เป็นนายเหนือเรา แต่ถ้าเรารู้ทันนะ
เราก็เป็นนายมัน
ความคิดมันเป็นบ่าวที่ดีแต่เป็นนายที่เลวนะ
คนไม่ค่อยตระหนักเท่าไร
มันเป็นบ่าวที่ดีถ้าเรารู้จักใช้มัน
ใช้มันแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องชีวิต
ปัญหาเรื่องทำมาหากิน
หรือแม้กระทั่งปัญหาในทางธรรม
ความคิดนี่ถ้าเรารู้จักใช้มัน มันมีประโยชน์
แต่ถ้าเราปล่อยให้มันเป็นนายเรานี่ เราแย่เลย
...
ความคิดก็เหมือนกันนะ อารมณ์ก็เหมือนกัน
โดยเฉพาะความคิดนี่เป็นบ่าวที่ดี เป็นนายที่เลว
ถ้าเราปล่อยให้มันเป็นนายเมื่อไร
เรากินไม่ได้นอนไม่หลับ
ต้องไปทะเลาะเบาะแว้งกับผู้คน
เพราะว่าเขาคิดไม่เหมือนเรา
เขาคิดต่างจากเรา
หรือคิดต่างจากสิ่งที่อยู่ในหัวของเรา
บางทีก็ฆ่ากันเพราะความคิดที่ต่างกัน
ฆ่าเพื่อปกป้องความคิดที่อยู่ในหัวของเรา
...
อารมณ์ก็เหมือนกัน
ถ้าเราไม่รู้ทันอารมณ์
เราก็จะตกเป็นทาสของมัน
ปล่อยให้มันบงการ
ไม่ว่าจะเป็นความโกรธ
ความเศร้า เวลาเศร้านี่
ความเศร้ามันก็จะหลอกให้เราเศร้าไปเรื่อย
สรรหาเหตุผลมากมายว่าเราควรเศร้า
เพราะถ้าเราไม่เศร้าแสดงว่าเราไม่รักเขา
ถ้าเรารักเขาเราต้องเศร้า ต้องเศร้าไปเรื่อยๆ
ถ้าหายเศร้าเมื่อไรแสดงว่าไม่รักเขา
ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นพ่อ แม่ หรือลูก
มันก็หลอกให้เราจมอยู่ในความเศร้า
ดำดิ่งอยู่ในความเศร้า
จนกระทั่งกลายเป็นโรคซึมเศร้าไปเลย
...
หรือความโกรธก็เหมือนกัน
มันก็จะหลอกจะล่อ
สรรหาเหตุผลให้เราโกรธ เพื่อความถูกต้อง
เพื่อจะได้สั่งสอนมัน
ไม่ให้มันทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องต่อไป
ฉะนั้นเนี่ย ไม่ใช่โกรธอย่างเดียว ต้องจัดการด้วย
...
คนเราถ้าไม่รู้ทันความคิด ไม่รู้ทันอารมณ์
มันก็สามารถสร้างทุกข์ให้กับตัวเองได้
และสิ่งที่ต้องการคือความสงบนี่
มันก็จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย
การภาวนานี่
คนส่วนใหญ่ก็ปรารถนาแต่ความสงบ
สงบที่เขาเข้าใจคือไม่คิดอะไร
แล้วก็ไปห้ามความคิดหรือไปกดข่มอารมณ์ด้วย
มันมีความคิดก็กดมันเอาไว้
มันมีอารมณ์เกิดขึ้นก็กดมันเอาไว้
เพราะคิดว่านี่มันจะทำให้ตัวเองสงบ
...
แต่ที่จริงแล้ว สิ่งที่ดีกว่าก็คือ”การเห็น”
เห็นความคิดและอารมณ์
ซึ่งจะเห็น หรือรู้ทันมันได้
ก็ต้องยอมให้มันเกิดขึ้น
อนุญาตให้มันเกิดขึ้น ไม่กดข่มมัน
ใหม่ๆ ก็ไม่เห็นนะ พอมันเกิดขึ้นทีไร
มันก็ครองใจเราทันที เรียกว่า “เข้าไปเป็น”
...
แต่ต่อไปนี่เราฝึกการเห็นบ่อยๆ
ฝึกเห็นบ่อยๆ มันก็จะเห็นได้เร็วขึ้น
แล้วมันก็จะเข้าไปเป็นน้อยลง
พอเห็นเมื่อไรนะ มันก็จะครองใจเราไม่ได้
และนี่ก็คือการค้นพบที่สำคัญเลย
เพราะมันหมายถึงการที่เราสามารถ
จะเป็นอิสระจากความคิดและอารมณ์ได้.
...........
การค้นพบตัวเองที่สำคัญ
พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต
แสดงธรรมเย็นวันที่ 11 กันยายน 2565
มีในสติปัฏฐาน4และอานาปานสติ ที่พระพุทธเจ้าสอน...โดยพิจารณาลมหายใจเข้าออกอย่างช้าๆและรู้ตัวทั่วพร้อม
ฝึกแบบพุทธจะง่ายกว่า ถ้าฝึกแบบสติปักฐาน4 ยืน เดิน นั่ง นอน เป้นสมาธิ รุ้สึกตัวตลอดในปัจจุบันขณะ รุ้สึกถึงลมหายใจ การเคลื่อนไหวของร่างกาย การกระทำ แม้กระทั่งความคิดว่ากำลังคิดอะไรอยู่ จะทำอะไร มันจะรู้ตัว เป็นการฝึกพื้นฐานที่ดี เป้นรูปแบบหนึ่งของการฝึก กายานุปัสนา พอสมาธิมันสูงขึ้นๆ มันจะรับรุ้ความรู้สึกภายในร่างกายมากขึ้น ก็จะเปลี่ยนลำดับขึ้นไปเรื่อยๆ จากกาย ไปสู่เวทนา จากเวทนาไปสู่จิต จากจิตไปสู่ธรรม เป็นต้น ถ้าฝึกแค่พื้นฐาน ไม่ต้องนั่งสมาธิเลยก็ได้ แค่รู้ว่าจะเดินยังไง จะยืนยังไง จะนั่งยังไง จะนอนยังไง ให้มันมีสติรู้สึกตัวได้ตลอดในปัจจุบัน และไม่ฟุ้งซ่านไปอดีต อนาคตบ่อย หรือคิดปรุงแต่งนั้นนี้บ่อย เลือกใช้ความคิดแค่เฉพาะวเลาที่จะคิด เวลาไม่มีธุระให้คิดก็รุ้สึกตัวสงบ นิ่ง ว่าง ไปกับปัจจุบันขณะ แบบนี้จะใช้ได้ในชีวิตประจำวันเลยละ อีกประการหนึ่ง ฝรั่งเขาอาจจะยังไม่เข้าใจเรื่องที่ว่า สมาธิมันเสื่อมได้ ถ้าไม่ฝึกฝนประจำ หรือฝึกแบบสติปักฐาน4ไปเลย เพราะอันนี้จะทรงสมาธิได้ตลอดตั้งแต่ตื่นยันหลับ เป็นต้น หากฝึกแค่เฉพาะเวลา หรือฝึกแค่ครั้งเดียว พอกำลังสมาธิมันหมด มันก็จะกลับมาสู่สภาวะเดิมก่อนหน้านั้นตามเดิม ก็ตามนั้นละ แต่ก็ถือว่าดีที่พากันสนใจ และทำการวิจัยออกมา เพราะจะเป้นประโยชน์ต่อมนุษย์ในอนาคตข้างหน้า
นี่คืออานาปานสติ สติปัฏฐาน4..แต่นำมาอธิบายในมิติของวิทยาศาสตร์..ดีงามครับ
ขึ้นอยู่กับกำลังสติ ต้องฝึกให้สอดคล้องกับกำลังสติจึงจะเห็นผล
กำลังสติน้อย ฝึกกายานุปัสนา
กำลังสติปานกลาง ฝึกเวทนานุปัสนา
กำลังสติสูง ฝึกจิตตานุปัสนา
ต้องมีอาจารย์คอยแนะนำนะครับ ทำเองเดี๋ยวจะหลงทาง😊
จริงการปฏิบัติสมาธิที่แท้จริง ก็ลักษณะนี้อยู่แล้ว มีสิ่งที่เรียกว่าสติ-การระลึกได้ และสัมปชัญญะ-ความรู้ตัว เหล่านี้อยู่ในการปฏิบัติอยู่แล้ว แต่ผู้ที่ทำสมาธิไม่น้อยที่ไม่เข้าใจ อาจเพราะฝึกเอาเองจึงไม่ทราบสภาพแวดล้อมของสมาธิ เพราะสมาธิเป็นเรื่องของใจ นามธรรม หากไปสนใจในเชิงรูปธรรมมากไปมันได้ผลที่ไม่ชัดเจน
สาธุครับ
ผู้บรรยายในคลิป ท่านพูด ให้ฝึก panorama monitor คือ การฝึก สัมปชัญญะ นั่นเอง
การฝึกสมาธิคือการค้นหาความจริงด้วยตัวเอง ทำไมคุณแนะนำให้ไปฟังคำสอนคนอื่น ไม่สมเหตุผล
@@rickfreunde5957การมีีอาจารย์ที่ปฏิบัติได้ก่อนแล้ว มาสอนเหมือนทางลัด
เพราะอาจารย์ทั้งหลายก็มีพระพุทธเจ้าเป็นพระศาสดาทรงเป็นบรมครู ทรงเป็นเลิศแล้ว มันไม่ดีกว่าหรอ แม้แต่มีอจ.คอยสอน สำหรับยังใช้เวลานานและยากเลย
แต่ละคนเก่งไม่เท่ากัน ปัญญามีไม่เท่ากัน พระพุทธเจ้าไม่มีใครสอน ใครบอก...ถึงเรียกว่าตรัสรู้โดยพระองค์เอง
แม้แต่อจ.เองก็สอนไม่เหมือนกัน บางท่านสอนให้หลงทางก็เยอะ ถ้าให้เข้าถึงลึกซึ้งจริงๆมันยากมากนะ ถึงต้องมีผู้สอนที่รู้จริง
@@rickfreunde5957ฟังคำสอน แล้วนำมาค้นความจริงด้วยตัวเอง
ถูกต้องแล้วค่ะ แต่ต้องมีคนสอน แต่ถ้าเก่งพอ ไม่ต้องฟังใครสอนก็ได้ เรียนเอง หาเอง ทำเอง
คลิปนี้ดีมากๆๆๆ เลยครับ ผมจะลองฝึกตาม
แค่นึกว่าตัวเองถอยออกมาจากโฟกัส จะเห็นภาพชัดขึ้นกว้างขึ้น รวมถึงเห๋นตัวเรากับสภาพแวดล้อมนั้นๆ...ไม่ใช่โฟกัสแค่แก้วกาแฟสีเขียวที่มีไอร้อนค่อยๆลอยออกมา.....เปรียบให้เห็นภาพ มันจะสอดคล้องกับในคลิปที่บอกว่า มันจะประมวลผลภาพนั้นๆได้เร็วไวขึ้น
ฮั่นแน่ จ๊ะเอ๋ ลูปัส 😊
@@2rit.Yt9
❤
10 เรื่องจริง ... ที่คุณ อาจ ไม่เคยรู้ 555 เสียงลอยมาเลย
คนโบราณทำกุศโลบายให้เราปฏิบัติตามมานานแล้ว คือ การสวดมนต์และนั่งสมาธิก่อนนอน การสวดมนต์สัก 20-30 นาทีจะทำให้สมองเราเลิกกังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งวันแล้วจดจ่ออยู่กับการสวดมนต์นั้น พอสวดมนต์เสร็จก็ให้ทำสมาะฺอีกสัก 10-20 นาที ระหว่างทำสมาธิคือการผ่อนคลายจิตใจและกล้ามเนื้อหลังจากที่สวดมนต์ต่อเนื่องมาสักพักนั่นเอง การทำแบบนี้ทุกวันจะได้ฝึกทั้งสมาธิแบบโฟกัสและการผ่อนคลายหรือเปิดตาแบบพาโนราม่านั่นแหล่ะ แท้จริงๆเราต่างนั่งทับของดีสิ่งล้ำค่าอยู่นี่เอง รู้สึกตื้นตันใจที่ค้นพบสิ่งนี้เจอ
มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์แต่มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เราทำทุกวันตอนอยู่ปี1 ทำให้ตอนนั้นความจำดีมากและสอบ Anatomy ได้คะแนนเต็มคนเดียวในรุ่น แต่ตอนนี้ไม่ได้นั่งสมาธิอย่างนั้นมาหลายปีแล้ว สติเริ่มแตก🤣
@@primadonnathailand4235ทำยังไงบ้างครับบอกหน่อย
@@primadonnathailand4235ยังไงบ้างครับรบกวนบอกหน่อยได้ไหม
เป็นคำอธิบาย ที่สุดยอดมากครับ
แล้วถ้าตอนทำสมาธิแล้วสมองคิดฟุ้งซ่านล่ะคะ
นี่เป็นคลิปที่ดีมากๆ นี่เป็นคลิปแรกที่ได้เจอคุณ และคุณได้ถ่ายทอดมันออกมาได้ดีเป็นพิเศษ ชอบน้ำเสียง ชอบเสียง ชอบการพูด เสียงเพราะมาก เสียงน่าฟังมาก ข้อมูลที่นำมาแบ่งปันดีมากๆ ไม่รอช้าเรากดติดตามเลยทันที จะคอยติดตามและเป็นกำลังใจให้ตลอดไปนะคะ เราชอบอะไรแบบนี้ ฟังแล้วรู้สึกเชื่อมโยงอย่างมาก การพูดและการถ่ายทอดการอธิบายของคุณทำให้ฟังแล้วเข้าใจได้ง่ายมาก ขอบคุณที่สร้างอะไรดีๆแบบนี้ขึ้นมา จงทำมันต่อไปค่ะ ❤
อธบายดีมากเลยคะ..ถ้าทำสมาธิออกจากการนั่งวิปัสนาธิแบบทีพระสอนเวลาไปวัด..อันนี้เข้าใจง่ายไม่มีพิธีอะไรเหมือนหลวงปู่ติชนัทฮันท์เคยสอนไว้..ฟังทบทวนทำให้เข้าใจมากขึ้นและเป็นเรื่องง่ายขึ้นจริงคะ..ขอบคุณนะคะ
ยอดเยี่ยมไปเลยค่ะ เคยมีคนแนะำให้นั่งสมาธิแบบลืมตา ไม่โฟกัสกับอะไรเหมือนกัน ตอนนั้นทำแบบไม่เข้าใจ ไ่ม่เก็ท ไม่สนุก ตอนนี้ได้แรงบันดาลใจและเข้าใจแล้วว่ามันได้ผลได้อย่างไร ขอบคุณมากๆค่ะ
ขอบคุณมากๆนะคะ🤍
จริงๆก็คือการฝึกสติปัฐฐาน 4 แบบของพุทธนี่แหละ ซึ่งของพุทธจะลึกซึ้งกว่า ไม่ใช่แค่การนั่งหลับตาสมาธิ แม้การ เดิน ยืน นั่ง นอน ก็ฝึกได้ รู้สึกตัวอิริยาบทต่างๆ
@@INSPIRE_Thai คนทำคลิปได้เรียนพุทธศาสนาป่าว เขาสอนมาหลายสิบปีและมันคือคำสอนของพระพุทธเจ้าด้วยซ้ำ แต่ยกเครดิตให้นักวิจัยโดยที่ไม่กล่าวถึงสิ่งที่มีมานาน แย่จัด
ขอบคุณสำหรับคลิปแบ่งปันงานวิจัยครับ , ถ้าอยากได้ความละเอียดมากขึ้นในเรื่องความคิด ที่อธิบายในแบบปรัชญาพุทธด้วย แนะนำคลิปที่ชื่อว่า "ศิลปะแห่งการเท่าทันความคิด" ที่คุณพศินอัพลง TH-cam นี้ครับ แนะนำเลยจริงๆ ได้อะไรเยอะแน่นอนในเวลาไม่กี่นาที
เป็นวิธีเดียวกับที่พระพุทธเจ้าเคยสอนไว้ เพียงใช้คำพูดต่างกันเฉยๆครับ
ขอบคุณที่ทำคลิปแบบนี้ออกมาครับ
เมื่อร่างกายเรานิ่งสังเกตุว่าความคิดเราจะเดิน เมื่อร่างกายเราเดินความคิดจะหยุด ดังนั้นเวลาเครียดการนั่งสมาธิอาจจะไม่ใช่ทางออกที่ดีเพราะสมองเราจะฟุ้งซ่านดึงไปที่ต่ำได้ง่าย ให้หาอะไรทำก่อน แล้วมีเวลาที่ผ่อนเบาลงค่อยๆนั่งคิดทบทวน แล้วฝึกสมาธิถ้ามีอะไรรบกวนใจให้ลืมตาแล้วหลับตาลงอีกครั้งเพื่อเรียกสติ
#พระพุทธเจ้า ผู้มาก่อนกาล 🙏
นี่สิที่เค้าว่า วิทยาศาสตร์ยิ่งค้นพบ!
ยิ่งโคจรเข้ามาสู่ "ถนนสายของพุทธะ"
เพราะความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวครับ👍
พราหมณ์ ฤาษี โยคี สอนมาก่อนนานแล้ว สิทธัตถะแค่จำมาสอนต่อ
@@พระมหาวีระต้นแบบธรรมะให้พระพุทแต่พราหมณ์ ฤาษี โยคี ได้สอนสิ่งพวกนี้เหล่านี้คุณไหมล่ะ
อย่าด้อยค่ะพระพุทธเจ้าค่ะ
ใครคิดก่อนเจอก่อนไม่สำคัญเท่าคนที่ทำให้สิ่งนั้นมันสำคัญขึ้นมา เข้าใจประโยคนี้ใช่ไหมคะ
@@พระมหาวีระต้นแบบธรรมะให้พระพุท
พราหม์ ฤาษี เน้นสมถะสมาธิ เช่นการเพ่งกศิน เพ่งไฟ ให้จิตจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรืออารมณ์ใดอารมณ์หนึ่ง เมื่อเกิดความคิดก็จะไม่สนใจ จะวางทันที แล้วกลับมาที่สิ่งที่จดจออยู่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีมานานมากแล้วก่อน เจ้าชายสิทธัตถะ เพราะตอนที่ไปเรียนกับอาจารย์ทั้ง 2 ก็สอนสมาธิ แต่ก็ไม่สามารถพบหนทางแห่งการหลุดพ้นได้ จนเจ้าชายสิทธัตถะ ค้นพบการทำงานของความคิดที่เกิดจากขันธ์ 5 เข้าไปเห็นการเกิดดับของความคิด และค้นพบว่าความคิดกับจิตเป็นคนล่ะส่วนกัน ไม่ใช่ตัวตนของเรา แม้แต่จิตที่เห็นความคิด ก็ไม่มีตัวตน สิ้นสุดการเกิดดับ ของอัตตาตัวตน สู่การหลุดพ้น
@@พระมหาวีระต้นแบบธรรมะให้พระพุทจริงครับพรามห์ โยคี ฤาษีเขาทำมาก่อนแล้ว แต่แค่สมาธินะระดับสมาถะ แต่พระพุทธเจ้าท่านค้นพบวิปัสสนาทำให้สามารถหลุดพ้นได้😊
@@mikky7531 พราหมณ์ โยคี สอนวิปัสสนา มาก่อนแล้ว สิทธัตถะไม่ใช่ผู้คิดค้น
ในพระพุทธศาสนา มันก็คือ จิตเกิดดับตลอดเวลา มีวิธีฝึกให้เห็นตรงนี้ ลึกลงไปอีก จะเห็นตัวรู้ตัวสัมผัส คือเห็นจิตตัวเองมันสัมผัสการเกิดดับ
และการให้มองกว้างแบบที่เขาบอกมา ก็คือการสักแต่ว่ารู้สักแต่ว่าเห็น แล้วมันจะวางเอง แล้วรับรู้อะไรได้มากกว่าปรกติ เพราะไม่ได้แบกเรื่องไดเรื่องนึ่งใว้ รอเรื่องใหม่มาให้รู้เรื่อยๆ
ขอเสริมนิดนึงครับ จิตเป็นนามธรรม ไม่มีของใคร เป็นธาตุเกิดดับตามธรรมชาติ
@@thanyapuedmeeprayoat9284 ท่านรู้แล้วๆๆ นี่แหละสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์เข้าไม่ถึง ยกเว้นไอสไตน์ ที่รู้ว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้ทุกเรื่อง แม้เรื่องควอนตัม
เป็นการแปล/บรรยาย เห็นภาพและปฎิษัติได้จริง สำหรับผมนะ
ผมใช้วิธีการเพ่ง มาโดยตลอด
ส่วนใหญ่จะไม่นิ่ง ผมได้วิธีฝึกจากคลิบนี้ 1. สังเกตุภาพรวมสิ่งกระทบกาย 2. รับรู้ลมหายใจ 3. เข้าสู่สมาธิ...🙏🙏🙏ขอบคุณมากครับ
ตาม อ.คนนี้ใน youtube อยู่ค่ะ คุณ Andrew Huberman เป็น professor ประสาทวิทยาศาสตร์ ในแลปที่ Stanford ให้ความรู้หลายเรื่องควรนำมาแปลและแชร์ให้คนไทยฟังจริงๆ
การทำสมาธินั่นเอง ฟังคำอธิบายเสียเหนื่อย แต่ควรปฏิบัติทุกๆวันจะเกิดผลมากค่ะ เรารอดและมีความสุขทุกวันนี้ด้วยการทำสมาธิหลักสำนักวัดธรรมมงคล
จริง
คือการฝึกสติ ตามรู้ความรู้สึกการรับรู้นั่นเอง ศาสนาพุทธสอนไว้ทุกอย่าง
ดีแท้ ผู้คนหลายคนมีความรู้เพิ่มขึ้น จากการค้นหาของตนเอง ซึ่งมีครบในคำสอนของ พุทธองค์ เรียนรู้กันต่อไปครับ สำหรับผู้ที่ยังไม่สุด
ผมไม่จำเป็นต้องสวดมนต์ผ่อนคลายอะไร ผมก็สามารถรักษาสมดุลในตัวเองทำให้ดำรงชีวิตได้แบบสบายๆ ของแบบนี้ บอกไปใครจะเชื่อ ชีวิตที่ไม่ได้หรูหราอะไร แต่ก็มีความสุขได้ ไม่เครียด ไม่คิดฟุ้งซ่าน แต่สวดมนก็ดีจะได้ความจำดีขึ้น
สุขกว่า การรวย เพราะมันคือ ความสุขอย่างผ่องแท้ จากตัวเราเอง
ผมโคตรยึดติ อีโก้ ในตัวเอง
แต่ในตอนนี้ ผมสลัดอีโก้ ออกไป
อยู่แบบที่ตัวเราเป็น รับในความเป็นจริงให้ได้ การยอมรีบความจริงพูดจริง มันไม่มีอะไรค้างในใจเรา
แม้ไม่มีเงิน ผมก็สามารถ ดำรงค์ชีวิตได้ เพียงทุกครั้งที่หลับ ตื่นมาขอให้มีลมหายใจก็พออ
ฟังคลิปเสร็จ มาอ่านเม้นท์คนเม้นท์ถ่ายทอดเข้าใจกว่าฟังคลิปซะอีกแต่ก็ขอบคุณเจ้าของคลิปน่ะค่ะที่ถ่ายทอดความรู้ให้เราฟัง🙏เลยนั่งอ่านเม้นท์ซะยาวเหยียดเลย และขอขอบคุณทุกเม้นท์น่ะค่ะที่ขยายความให้ชัดเจนขึ้น เข้าใจง่ายขึ้น🙏ขอบคุณค่ะ
พระพุทธเจ้าสอนมา 2500 ปีแล้ว อยุ่กับลมหายใจ หายใจเข้าก็รู้ หายใจออกก็รู้ ในทางพุทธศาสนาเรียกว่าคณิกะสมาธิ เป็นการทำสมาธิขั้นต้น
คือนำ หลักพุทธ..มาอธิบายใหม่..แนวทางการอธิบาย พยายามให้เป็นการคิดค้น จากตะวันตก..จริงๆคือ อาณาปาณสติ นั่นเอง..พระพุทธเจ้า สอน ทุกอย่าง ด้วยหลักความจริง..ฉะนั้น พุทธศาสน์ คือวิทยาศาสตร์..ที่พิสูจน์ได้นั่นเอง🙏🙏🙏
มันเป็นอารมณ์ที่นิ่งเฉยในเชิงบวก นั่งปล่อยใจเบาๆ ไม่ต้องมีอะไรคิดในหัว รู้สึกโอเคสำหรับเรานะ
ที่อธิบายมาทั้งหมดมันก็คือ การอานาปานสติ เป็น1วิธีของศากยมุนี การทำกรรมฐานมันมีทั้งหมด40วิธี นักวิทยาศาสตร์ยังตามหลังศากยมุนี อีกมาก
เป็นสิ่งดีกับมนุษยชาติมาก
สาธุ
เพราะบุญแต่ละคนไม่เหมือนกัน
นี่เป็นวิธีจูงคนเข้ามาสู่สายทางบุญแบบวิทยาศาสตร์
ท่องคำบริกรรม พุท-โธ จนจิตสงบก่อน ก็ได้
ไม่ให้คิดอะไร ถ้าคิดก็ให้กลับมา พุท-โธ สองคำนี้ไปเรื่อยๆ จนจิตจดจ่อ แค่สองคำนี้
แล้ว ก็ทำต่อไปเรื่อยๆ จิตจะละเอียดขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายจะรู้สึกเบาขึ้นเรื่อยๆ จนจิตทำคำบริกรรมหาย เป็นศูนย์เปล่า ไม่มีคำบริกรรม ไม่มีคิดอะไร โล่งๆ เปล่าๆ สักพักจะเกิดความสว่างขึ้นไปทั่วทิศเลย สักพักจะเกิดความสุขอย่างที่ไม่เคยพบ ไม่เคยเจอมาก่อน เป็นความสุขที่ละเอียดอ่อน ซึ้งใจมาก ที่ได้ค้นพบ มุมมองชีวิตจะเปลี่ยนไป เราจะมองเป็นสองอย่าง คือ ทางโลก กับ ทางธรรม อยู่ที่เราจะเลือก ถ้าฝึกขั้นต่อไป จิตจะยิ่งละเอียดขึ้น แต่ก็จะยากยิ่งขึ้น ใครที่ฝึกมาได้ขั้นเบื้องต้นนี้แล้ว หมดความสงสัยแล้วครับ ว่าศาสนาพุทธมีจริงไหม สิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านพยายามสอน น้อยคนมากที่จะเข้าใจ ที่จะค้นพบ ยังไงผมก็ขออนุโมทนาบุญ กับ ผู้ที่ทำขั้นนี้ได้แล้วน่ะครับ
ส่วนใครที่กำลังฝึกยังทำไม่ได้ ก็อย่าพึ่งท้อใจ ท่านต้องหมั่นฝึกเยอะๆ ฝึกบ่อยๆครับ
ถึงจะทำได้ หากจะถามว่านานไหม ผมตอบให้ไม่ได้หรอกครับว่ากี่วัน กี่เดือน หรือ กี่ปี
เพราะมันอยู่ที่ท่าน จะตั้งใจฝึกไหม และจิตของแต่ล่ะคนก็ต่างกันออกไป บางคนเรียนรู้ไว บางคนเรียนรู้ช้า บางคนไม่ตั้งใจ ไม่สนใจ ไม่เชื่อ ไม่มีความตั้งอก ตั้งใจ ตั้งมั่นมันก็ทำไม่ได้เลยก็มีครับ อย่างที่ผมบอกอยู่ที่ตัวท่าน คำสอน และวิธีการน่ะมีแล้ว อยู่ที่ตัวท่านจะตั้งมั่นปฏิบัติไหมเท่านั้นแหละครับ
ไม่ต้องไปหาวิธีวิปริตพิศดารอะไรทั้งนั้น วิธีการขั้นตอน ทำตามเขาบอกเลย เขามีสอนให้หมดแล้วครับ
พุทธ มีให้หมดแล้วยุที่ว่าใครจะเอาไปฝึก มันก็คือ1ในศาสตร์ ของโลกที่ควรฝึกตอนที่ยังมีชีวิต เพราะมันส่งผลดีขณะมีชีวิต
โดยรวมแล้วมันคือหลักสัมมาสมาธิอยู่แล้ว
ผ่อนคลาย ไม่เพ่งจ้องสิ่งใดมากจนเกินไป มีสติระลึกรู้สิ่งที่เกิดขึ้นในกายและใจเนืองๆสบายๆเรื่อยๆ
ซึ่งสิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบและอธิบายในรายละเอียดได้ลึกซึ้งกว่านี้มากๆตามลำดับขั้น
พราหมณ์สอนมาก่อน อย่าแอบอ้าง
@@พระมหาวีระต้นแบบธรรมะให้พระพุทพรามสอนแค่สมถะ อย่าแอบอ้างซ้อนแอบอ้าง
พุทธศาสนาเป็นศาสนาวิทยาศาสตร์. พิสูจน์ได้. สติดี สมาธิมา. ปัญญาเกิด. 🙏🏻🙏🏻🙏🏻❤️❤️❤️❤️❤️❤️
เป็นสิ่งที่ตรงกันกับคำสอนของพระพุทธเจ้าที่เดียว เป็นวิทยาศาสตร์ เห็นจริงและปฎิบัติได้จริง เราต้องภูมิใจในคำสอนขององค์ศาสดาครับ นั่นคือการชี้ทาทางพ้นทุกข์ครับ
ใช่ครับ พระพุทธเจ้าค้นพบมานานกว่า2500ปีแล้ว
ตลก
เรียกว่า อานาปานสติครับ พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้หลายพระสูตรมาก ท่านแนะนำให้ปฏิบัติ และท่านใช้เป็นวิหารธรรมเองด้วยครับผม ดีสำหรับคนปฏิบัติจริงๆทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ลองทำดูให้สม่ำเสมอ แล้วจะรู้ได้ด้วยตนเองครับ🙏😇
นั่งสมาธิทุกวัน ครึ่ง ชม เห็นผลจริงครับ
การฝึกจิตแบบนี้ พราหมณ์ ฤาษี ทำมาก่อน สิทธัตถะไม่ใช่ผู้คิดค้น
ฝรังมันชอบเอาไปอธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์แบบที่มันเข้าใจ
มันแค่เป็นสมาธิเบืองต้นเท่านั้นเอง
ที่ฝรั่งอธิบายทั้งหมดนี่ก็คือการนั่งสมาธิแบบ. สมถะสมาธิ ครับ
การทำสมาธิมี๒แบบครับแบบที่1คือสมถะสมาธิแบบที่ฝรั่งตั้งใจอธิบายนั่นแหล่ครับคือหลับตาแล้วกำหนดจิตไว้ที่ลมหายใจไม่ให้คิดถึงเรื่องอื่นบ้างคนถ่องพทโธ บางคนท่องยุบหนอพองหนอจนจิตสงบ
พอได้แบบที่๑จนชำนาณแล้วก็จะเข้าไปแบบที่2เรียกว่าวิปัณชณากรรมฐาน แบบนี้ให้กำหนดจิตไว้ที่กฎไตรรัต คือพิจารณการเกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไปจนจิตสงบก็จะเข้าณาณต่อไปครับ
ใช่ครับ ทำตามนี้เลย สาธุ จะมีเกิดปิติสุขด้วยน่ะครับ สำหรับผู้ที่กำลังฝึก
ตัวที่กำลังพยายามอธิบายทั้งหมด ส่วนที่พยายามโฟกัส ทางพุทธเรียกว่า" สติ" ส่วนที่จดจ่อเรียกว่า "เพ่ง" อยู่ในส่วนของวิธีการของสมถะ มีวิธีฝึก 40 แบบ
เสียงเพราะมากเลยค่ะ ชอบมาก
ขอบคุณข้อมูลดีๆ เป็นประโยชน์มากๆ ครับ🙏🏻
เสียงนิ่มน่าฟักมากค่ะ ขอบคุณนะคะ ข้อมูลดีๆค่ะ
ขอบคุณมากๆเลยค่า🙏🏻💕
รู้ลมหายใจเข้า-ออก (ไม่ต้องเพ่งลม) กับ เวลาคิดหรือปรุงแต่งในขณะทำสมาธิ ก็ให้เข้าไปรู้สึกว่ากำลังคิด บ้านผมเว้าอีสานว่ารู้ซื่อๆ นี่แหละครับ อีหลีเด้ฝรั่งเหมือนคำเว้าพระอาจารย์สมภพ โชติปัญโญ อีหลีเด้บาดนี่ สาธุ🙏🙏🙏
พระพุทธองค์ทรงเป็นนักวิทยาศาสตร์เอกพระองค์แรกของโลก.🙏🙏🙏
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ เสียงพากษ์เบาๆดังๆบางช่วงครับ
ขอบคุณค่ะ
ใช้แล้วเห็นผลดีมากๆๆๆๆ
พระพุทธเจ้าทรงค้นพบมานานแล้ว
วิทยาศาสตร์ตามหลังเยอะมาก เราคิดว่าพุทธศาสนาเป็นแค่ความเชื่อจริงๆคือการปฎิบัติที่เราต้องทำเองถึงจะเข้าใจ แล้วการเข้าใจมีหลายระดับไม่ใช่แค่มาพูดคุย วิทยาศาสตร์ก้าวหน้ามากขึ้นทำให้อธิบายพุทธศาสนาได้แบบมีหลักการให้คนทั่วไปเข้าใจได้ยอมรับได้ แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือการปฎิบัติด้วยตัวเองเท่านั้น เราพยายามหาเหตุผลหรือการทดลองเพื่อพิสูจน์ว่าพุทธศาสนานั้นดีจริง พระพุทธเจ้าตรัสว่าความรู้นั้นมากมายเหมือนใบไม้ในป่าแต่ความรู้ที่จำเป็นกับเราจริงๆมีแค่ใบไม้ในมือเราแค่หยิบมือเดียว ท่านได้บอกและสอนทุกอย่างครบถ้วนกว่า2,500ปี คำสอนและวิธีที่พระองค์ตรัสยังใช้ได้อยู่จริงกับทุกยุคทุกสมัย
พระพุทธเจ้ามีตัวตนอยู่จริงในอดีต ผมนี่อึ้งเลย
@@overcastinggamesxl301ใช่ครับ มีสถานเกิด สถานที่สิ้นพระชนม์มายุ มีสถานที่เผยแพร่คำสั่งสอน มีสถานที่เก็บกระดูกของพระองค์ไว้
พวกเพ้อเจ้อ เอาคำสอนมาเป็นดาบฟาดฟัน ผมเห็นในพระไตรปิฏก ไม่เคยมีคำพูดนี้ในหนังสือ รู้จริงเปล่าเนี่ย
@@overcastinggamesxl301 ผมไม่รู้เหมือนกันครับแต่พระองค์บอกว่าไม่ต้องมายึดติดที่พระองค์ไม่สำคัญเลย แล้วไม่ต้องเชื่อแม้แต่ในสิ่งที่ท่านสอนหรือบอกด้วย จนกว่าจะได้ปฎิบัติเองรู้และเห็นเอง ถ้ามันใช้ได้จริงใช้ได้ดี เราก้อควรระลึงถึงท่านที่แบ่งปันหนทางวิธีการแก้ปัญหาให้จิตใจเราดีขึ้น ด้วยกันนึกถึงพระพุทธก้อคือพระองค์ท่าน พระธรรมคำสอน พระสงฆ์ผู้ที่จะถ่ายทอดสานต่อ หรือที่สวดกันง่ายๆอะระหังสัมมาสัมพุธโธ... สวาขาโต..ธรรมมัง...สุปัญติปัญโน...สังฆังนะมามิ นั่นแหละเพียงพอแล้วไม่ต้องมีบทอะไรมากมาย
ขอบคุณครับเป็นประโยชน์มากครับ❤
คนนี้เขาเข้าใจคนสมาธิสั้นดีมากเลยนะ ผมก็เป็นคนนึงที่อาจารย์ตอน ม.ต้นบอกว่าสมาธิสั้น ตอนแรกก็ไม่เชื่อ แต่ลองสังเกตดูเราจะเป็นคนไม่โฟกัสกับสิ่งที่ไม่ชอบเลย การบ้านมักจะไม่ทำ แต่เราสามารถโฟกัสกับสิ่งที่เราสนใจอยู่ตลอดเวลา ตอนเด็กๆชอบเตะบอลใช้เวลาในการเตะเยอะมาก ในห้องเรียนก็จะคุยแต่เรื่องฟุตบอลกับเพื่อน ม.ปลายเริ่มเล่นดนตรีก็สนใจแค่ฟุตบอลกับดนตรี จนไม่โฟกัสเรื่องอื่นจริงๆ แต่มหาลัยดันไม่เลือกคณะที่เกี่ยวกับสองสิ่งที่ชอบ ดันไปเลือกวิศวะตามค่านิยมสายวิทย์-คณิต แต่ก็จบมาได้ แต่พอทำงานแล้วรู้เลย เราแทบไม่โฟกัสกับงาน เราจะนึกในหัวแต่เรืองที่เราชอบตลอดเวลา ซึ่งมันส่งผลกับเรามาก เพราะเราจะไม่ค่อยเปิดรับกับงานสายนี้ และทำอะไรผิดพลาดบ่อย
จริง ครับตอนนี้เป็นปัญหากับการใช้ชีวิตมากทั่งในการทำงานและครอบครัว พอทำงานก็จะบ้างานสิ่งเดียวไม่สนใจสิ่งรอบข้าง เหมื่อนทำงานร่วมกับคนอื่นยากเพราะสมาธิเราหลุดตลอดกว่าจะโฟกัสงานออีกก็ช้ากว่าคนอื่นๆ
ดีมากๆ ฟังหลายๆรอบ
รบกวนขอลิ้งค์ ต้นฉบับได้มั้ย เพราะมีเพื่อนคนต่างประเทศ เป็นอาการสมาธิสั้น อยากให้เขาดูคลิปวีดีโอภาษาอังกฤษ ครับ
ลิงค์อยู่ใน description ใต้คลิปเลยค่ะ podcast เต็ม3ชั่วโมงกว่าแต่มีประโยชน์มากๆเลยค่ะ
ทุกวิธีภาวนาคือทางเข้า ถึงจุดนึงมันจะทิ้งคำภาวนา จิตกับกายมันขาดกัน ความสุขทุกอย่างที่เราผ่านมาเทียบไม่ได้ ผมตั้งใจจะบวชไม่สึกเพราะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองเจอเกี่ยวกับสมาธิ 🙏
อนุโมทนาบุญด้วยครับ🙏สาธุสาธุสาธุ
อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ
อนุโมทนาขออนุญาตร่วมบุญในครั้งนี้ด้วยนะคะสาธุๆ
อยากให้ทุกท่านฟังคลิปของอาจารไพศาล แสนไชยคับ มนุษย์มีกรรมเป็นทายาท เป็นเผ่าพันธุ์ วนเวียนไม่จบสิ้น
เขาเรียกว่าเกิดปิติ ของสมาธิ อนุโมทนาด้วยน่ะครับ เป็นความสุขที่ละเอียดซึ้งใจมาก
ขอให้พัฒนาขั้นต่อๆไปน่ะครับ ยิ่งขั้นสูงขึ้น ยิ่งยากขึ้น สู้ๆน่ะครับผม
ฟังแล้วรู้สึกดีมาก💕💞
ขอบคุณครับ ผมทำทุกเช้าดีจริง
สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่นครับ
มันถูกค้นพบมาแล้วมากกว่า2560ปี
และอีกสิ่ง1ในขั้นพื้นฐานที่ดีกับสุขภาพมาก
ก็คือการงดอาหารเย็นครับ..
นี่คือความลับที่เป็นธรรมชาติของจักรวาลที่พระพุทธเจ้าทรงไปค้นพบและนำมาเผยแผ่เป๋นศาสนาพุทธ....สาธุค่ะ
เข้ามาฟังอีกรอบค่ะ❤😊
ขอรบกวนขอชื่อเพลง background ของคลิปหน่อยได้ไหมคะ ฟังแล้วรู้สึกผ่อนคลายดีค่ะ
ขอบคุณค่ะ เสียงเพราะ ฟังเพลินมากค่ะ
ขอบคุณมากๆเลยค่า🙏🏻💕
ต้องระวังและเข้าใจ เรื่องสมาธิ แค่อาปนะสติ คือเรื่องของสติ ทำอะไรก็ต้องมีสติ ทุกที่ทุกเวลา เป็นเรื่องของกุศลผลบุญ ถ้าสูงกว่านั้นต้องมีครูบาอาจารย์ มิเช่นนั้นจะจำบ้านเลขที่ไม่ได้ ไม่ต้องเชื่อผม ลองไปปฏิบัติดูเอง ขอบคุณมากครับ
นี่คือวิธีที่พระสัมมาสัมพุทเจ้าทรงค้นพบตั้งแต่สมัยพุทธกาล❤ คือ ทำความรู้เฉพาะลมหายใจที่เข้า-ออก ไม่กำหนด แค่รู้เฉยๆ ว่าสั้น ว่ายาว … ไม่ท่อง ไม่บริกรรมอะไรทั้งนั้น… ภูมิใจที่ได้เกิดมาพบพุทธศาสนา(พุทธแท้ๆ)
ใช่ค่ะนี่คือการเจริญวิปัสสนากรรมฐานตามหลักสติปัฏฐาน4 การเข้าไปรู้ซึ่งลมหายใจเข้าออกคือ อานาปานสติ มีสัมปชัญญะคือรู้ตัวทั่วพร้อม (panorama) ในกายทุกอิริยบทยืนนั่งก้าวเดินเคลื่อนไหวหรือหยุดนิ่ง ให้จิตไม่เหิรห่างจากกาย ไม่เหิรห่างจากลมหายใจเข้าออก กายนี้จะไม่ชำรุด สมองก็ไม่ชำรุดไม่เสื่อมโทรมง่ายดาย
ทำคลิปออกมาอีกนะครับ มีประโยชน์ดี
ขอบคุณมากๆเลยเลยค่ะ💕
ชอบค่ะ เพราะชอบทางนี้อยู่แล้วพอมีแนวทางเพิ่มก็ดีอีกแบบค่ะ
ขอบคุณมากครับที่ช่วยแปลอีกที ฟังภาษาอังกฤษบ้างครั้งไม่ค่อยเข้าใจ อ่านซับก็ไม่ค่อยมีเวลาดูแบบเต็มๆต้องฟังเอาแล้วช่องที่แปลมาเป็นหลักวิทยาศาสตร์ที่ควรมีมากในการศึกษา
คลิปดีมากเลยค่ะ
พระพุทธเจ้า ส่งต่อมาพุทธทาส สอนมันในนาม อานาปา อานาปานสติ การรู้ลมหายใจตลอดเวลา น่าทึ่งจริงๆครับ
ชอบ content มากคับ ปกติตาม Dr. andrew อยู่แล้ว อยากให้ทำ content แนวสรุปแบบนี้มาเรื่อย ขอบคุณคับ
ช่วงหนึ่งผมเคยทดลองให้ใจอยู่กับปัจจุบันอยู่กับตัวเองหรือทำในสิ่งอยู่ตรงเฉพาะหน้าไม่ส่งใจออกไปข้างนอก ราว15-20นาทีผลคือรู้สึกใจเราเป็นสุขมากขึ้นใจมันเบิกบานแบบไม่ทราบสาเหตุ เหมือนปลดล็อกอะไรบางอย่าง
ความสุขจากความสงบ
เป็นกำลังใจให้เจ้าของช่อง อยากให้ทำคลิปสรุปของ dr.andrew ออกมาเรื่อยๆเลย เป็นช่องที่ดีมากจริงๆ
มองแบบไม่ focus ใช่ได้จริง ทำให้การรับรู้นะเวลาที่ หลุด focus สมองมันตื่นตัวในการรับรู้ มากกว่า ถ้าเวลาอ่านหนังสือมันช่วยปิดกันความคิดแล้วทำให้สมองเลือกที่จะรับรู้สิ่งต่างๆเข้ามาแทน ถ้าอ่านหนังสือผมจะใช้วิธี Doodling มันจะช่วยให้เราหลุด focus ในสิ่งเดียวแล้วสมองจะหยุดคิดและเพิ่มการรับข้อมูลมากขึ้น เวลาที่เรา focus มากๆสมองจะปิดกั้นการรับรู้เรื่อยๆจน มีแต่การรับรู้จากภายในหรือเรียกอีกอย่างคือฟุ้งซ่าน คิดเองเออเองไปเรื่อย
สิ่งที่นี้ที่คุณกล่าวถึง
คือ การปิดอายตนะ 5 และเหลือไว้ 1 คือ ปิดการรับรู้ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย และคงเหลือการรับรู้ทางใจไว้ นั้นเป็นทางแห่งสมาธิ พื้นฐานของกรรมฐานเกือบทั้งหมด คือ ลมหายใจ ลมหายใจแก้ฟุ้งซ่าน ศีล 5 เป็นที่ตั้งของสมาธิ ศีล คือ สภาวะปกติ เหมือนเวลาของถูกตั้งอยู่นิ่งๆ การตั้งอยู่นิ่งๆนั้นเป็นศีลของๆนั้น ต่อมาจะเกิดสมาธิจิต จิตจะรวม ส่วนใจมีหน้าที่รู้ แต่ไม่เข้าไปกระทำใดๆ เพราะมีหน้าที่ในการรู้อารมณ์หรือสภาวะที่เกิดดับ ต่อมาจะเกิดปัญญาอัตโนมัติ
วิธีฝึกกรรมฐาน มีอยู่ตั้ง 40 วิธี หรือที่เรียกว่ากรรมฐาน 40 กอง เลือกเอาตามสไตล์ที่ถนัด ผลลัพธ์ได้เหมือนกัน
ขอให้เป็นวันที่ดี🥰
จิตเกิดดับ ตลอดวัน ตลอดคืน หรือ เรียกว่า การมา และการไป ของจิต เมื่อคิดหรือ ดำริถึงสิ่ง ใด สิ่งนั้น ย่อมเป็นที่ตั้งของ จิต หรือ มโน วิญญาณ 3 สิ่งนี้ คือตัวเดียวกัน แต่เกิดกันช่วงคนละขณะ เราสามารถ ใช้วิทยาศาสตร์ และแนวทางปฏิบัติ แบบพุทธศาสนา ผสมผสาน กันได้
ฟังมาตั้งนาน ก็นึกว่าจะมีอะไรพิเศษ ที่พูดมาทั้งหมดนั่นก็คือหลักของการทำสมาธิทั้งนั้นเลย เรียกว่าเป็นพื้นฐานของการทำสมาธิด้วยซ้ำไปไม่มีอะไรพิเศษ
ดีมากๆค่ะชอบคลิบนี้มากค่ะ
สาธุ..รวยๆจ้า👍❤🤟
ขอขอบคุณ
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ จะตั้งทำใจทำคลิปให้มีประโยชน์และดีขึ้นเรื่อยๆนะคะ🙏🏻💖
นี่คือการทำสมาธิในพระพุทธศาสนา ในแบบ "ลักขณูปนิชณาน" คือการทำสมาธิเพื่อการเจริญวิปัสสนา โดยการ "รู้กาย" นั่นเอง
เหมือนทำ กายคตาสติ(มีสติอยู่กับกาย) ใช่ไหมคะ
ขอบคุณสำหรับคลิปดีๆค่ะ
เห้ยยยย ผมพึ่งจะนั่งทบทวนตัวเองด้วยการนั่งเงียบๆ แล้วเราลองบังคับเซลล์สมองดู แต่ไม่ได้นั่งถึง17นาที แต่มันเห็นขึ้นจริงครับอาจจะยังไม่เก่งมากนัก มันคือการบังคับร่างกาย ผมคิดว่านี่มันร่างกายของผม ผมต้องรู้สิ่ว่าผมเป็นอะไร ปวดหัวทำไม เครียดทำไม คิดเยอะทำไม ทำไมผมไม่โฟกัสอะไรชัดเจนขึ้น มันไม่เหมือนกับการนั่งสมาธิสักเท่าไหร่นะครับ เพราะนั่งสมาธิคือการฝึกจิต ฝึกปล่อยวาง แต่ผมคือการสังเกตุร่างกายของเรา สังเกตุสมองเมื่อเวลาเราคิดมากจะทำงานยังไง ทำให้เราเคลียสมองได้ง่ายขึ้น ขอบคุณครับที่ทำให้ ทษฏดีของผมที่คิดขึ้นมาเอง เป็นจริงอย่างคลิปนี้ ผมพูดตรงๆนะ ผมไม่เคยดูคลิปแบบนี้มาก่อนแต่มันเด้งขึ้นมากับจังหวะที่ผมกำลังทำพอดี ขอบคุณมากจริงๆครับ
คลิปนี้ทรงคุณค่ามากครับ ติดตามแล้วนะค้าบ❤
การทำสมาธิต้องใช้ทั้งสัมปชัญญะและสติ(รู้ตัวและควบคุมได้) แต่อันนี้คือตัดสติทิ้งและใช้แค่สัมปชัญญะ(รู้ตัวแต่ไม่ต้องควบคุม) ว่างั้นเถอะ
รู้ว่าหายใจแต่ไม่จับจ้อง
รู้ความสึกแต่ไม่จดจ่อ
รู้ทุกอย่างแต่ไม่จับอะไรเลย
แน่นอนว่าฟังดูง่าย แต่จะยากสำหรับคนธรรมดาที่ฝึกปฏิบัติธรรมเป็นประจำเพราะฝึกตัวเองใช้จิตจับลมหายใจและความรู้สึกเป็นปกติ จะบอกเขาให้แค่รู้แล้วปล่อยผ่านคงยาก
พระพุทธเจ้าค้นพบและเผยแพร่ (อาจไม่ใช่คนแรก) แต่เป็นครู ทำให้เรามีแนวทางไม่ต้องลำบากค้นหาเอง และโหมดพาโรนามาก็เดินจงกรมดีๆนี้เอง ซึ่งเอาจริงๆสมัยนี้มีสิ่งต่างๆที่ทำให้ค้นหาข้อมูลได้ แต่จะทำจริงๆยากมาก มักอ้างไม่มีเวลาและขี้เกียจ คอมเมนท์เตือนตัวเอง ใครทำได้สาธุครับ ตอนนี้เพิ่งเริ่มต้นเรียนที่สถาบันพลังจิตนุภาพ มีครูสอนไม่ต้องเสียเงินเหมือนต่างประเทศถ้าจะเรียน😊😊😊
นัตถิสันติประรังสุขขัง❤
ขอบคุณนะครับ😊
ขอบคุณครับกับคำแนะนำดีดี😊
เป็นคลิปที่ดีมากๆครับ ผมกดไลค์ให้สองครั้งเลย
เอ๊ะ ก็เหมือนกับการฝึกนั่งสมาธินิ
ที่พูดมาทั้งหมด เขาเรียก "อานาปนสติ"
ที่พูดมาทั้งหมดคือการเจริญสติในกายานุปัสสนาในศาสนาพุทธ เพียงแต่การนำเสนอต่างกันเท่านั้น
ศาสนาพุทธคือความเป็นกลาง
รู้เห็นตามความเป็นจริงของธรรมชาติ น่าเสียดายคนรุ่นใหม่บางกลุ่มด่าทอพระพุทธเจ้าด้อยค่าศาสนาพุทธ ยกย่องศาสนาอื่น ใกล้ถึงเวลาของความเสื่อยถอยแล้ว😢 อยากให้เข้าไปฟังหลวงพ่อปราโมท ปราโมทโช เผื่อใครถูกจริตกับท่าน ฟังแล้วจิตตื่นรู้
ขอบสำหรับการแปลข้อมูลที่ทำให้เข้าใจชัดเจนในการทำสมาธิและนำไปใช้ได้จริงค่ะ ขอบคุณค่ะ
อธิบายเข้าใจง่ายคะ แต่อยากดูแบบคลิปเต็ม 10 กว่านาทีคะ
การมีสติ, การรู้สึกตัว, การฝึกสติปัฏฐาน4
ดูพระอาจารย์ปราโมทย์ อธิบายดีกว่าครับเข้าใจมากกว่า
ยังไงคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นจริงตลอดกาล สาธๆๆ
คำว่า สมถะ
ได้แก่ มีบัญญัติเป็นอารมณ์
ใช้คำบริกรรมมาช่วยให้จิตตั้งมั่นเป็นสมาธิ เช่น พุทโธ พองหนอ ยุบหนอ กสิณ ฯลฯ
อาศัยคำบริกรรมต่อเนื่อง ทำให้จิตเป็นสมาธิ
คำว่า วิปัสสนา
ได้แก่ มีรูปนามเป็นอารมณ์
การกำหนดสภาวะที่มีเกิดขึ้นตามจริง
อาศัยการกำหนดต่อเนื่อง ทำให้จิตเป็นสมาธิ
คำว่า ไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
การที่จะรู้ลักษณะอาการที่มีเกิดขึ้น ทำง่ายๆ
โดยการทำกรรมฐาน จะใช้สมถะหรือวิปัสสนา ใช้ได้หมด ไม่มีข้อห้าม แรกเริ่มจะเป็นแบบนี้ก่อน
เมื่อนั่งอยู่ ไตรลักษณ์จะปรากฏในรูปแบบของเวทนากล้า
ส่วนจะปวดมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับความยึดมั่นถือมั่นในอุปาทานขันธ์ ๕ ที่มีอยู่
หลักการทำกรรมฐาน พระพุทธเจ้าทรงตรัสย่อไว้
๑. สมถะ กามเหสสูตรที่ ๑ ที่มีเกิดขึ้นขณะจิตเป็นสมาธิในรูปฌาน อรูปฌาน ที่เป็นสัมมาสมาธิ
๒. วิปัสสนา กามเหสสูตรที่ ๒ ที่มีเกิดขึ้นขณะจิตเป็นสมาธิในรูปฌาน อรูปฌาน ที่เป็นสัมมาสมาธิ
๓. สมถะและวิปัสสนา กามเหสสูตรที่ ๓ ที่มีเกิดขึ้นขณะจิตเป็นสมาธิในรูปฌาน อรูปฌาน ที่เป็นสัมมาสมาธิ
มิจฉาสมาธิ ความรู้เห็นนี้จะไม่มีเกิดขึ้นได้
พระอานนท์นำพระธรรมพระพุทธเจ้าทรงขยายข้อความไว้ให้
ยุคนัทธวรรค ยุคนัทธกถา
[๕๓๔] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้
สมัยหนึ่ง ท่านพระอานนท์อยู่ ณ โฆสิตาราม ใกล้พระนครโกสัมพี
ณ ที่นั้นแล ท่านพระอานนท์เรียกภิกษุทั้งหลายมาว่า ดูกรอาวุโสทั้งหลาย
ภิกษุเหล่านั้นรับคำท่านพระอานนท์แล้ว
ท่านพระอานนท์ได้กล่าวว่า ดูกรอาวุโสทั้งหลาย
ก็ภิกษุหรือภิกษุณีรูปใดรูปหนึ่ง พยากรณ์อรหัตในสำนักเรา
ด้วยมรรค ๔ ทั้งหมดหรือด้วยมรรคเหล่านั้นมรรคใดมรรคหนึ่ง
มรรค ๔ เป็นไฉน ฯ
ดูกรอาวุโสทั้งหลาย
ภิกษุในศาสนานี้ ย่อมเจริญวิปัสสนาอันมีสมถะเป็นเบื้องต้น
เมื่อภิกษุนั้นเจริญวิปัสสนาอันมีสมถะเป็นเบื้องต้นอยู่ มรรคย่อมเกิด
ภิกษุนั้นเสพ เจริญ ทำให้มากซึ่งมรรคนั้น
เมื่อภิกษุนั้นเสพ เจริญทำให้มากซึ่งมรรคนั้นอยู่
ย่อมละสังโยชน์ได้ อนุสัยย่อมสิ้นไป ฯ
อีกประการหนึ่ง ภิกษุเจริญสมถะมีวิปัสสนาเป็นเบื้องต้น
เมื่อภิกษุนั้นเจริญสมถะมีวิปัสสนาเป็นเบื้องต้นอยู่ มรรคย่อมเกิดขึ้น
ภิกษุนั้นเสพ เจริญทำให้มากซึ่งมรรคนั้น
เมื่อภิกษุนั้นเสพ เจริญ ทำให้มากซึ่งมรรคนั้นอยู่
ย่อมละสังโยชน์ได้ อนุสัยย่อมสิ้นไป ฯ
อีกประการหนึ่ง ภิกษุเจริญสมถะและวิปัสสนาคู่กันไป
เมื่อภิกษุนั้น เจริญสมถะและวิปัสสนาคู่กันไป มรรคย่อมเกิด
ภิกษุนั้นเสพ เจริญ ทำให้มากซึ่งมรรคนั้น
เมื่อภิกษุนั้นเสพ เจริญทำให้มากซึ่งมรรคนั้นอยู่
ย่อมละสังโยชน์ได้ อนุสัยย่อมสิ้นไป ฯ
อีกประการหนึ่ง ภิกษุมีใจนึกถึงโอภาสอันเป็นธรรมถูกอุทธัจจะกั้นไว้
สมัยนั้น จิตย่อมตั้งมั่นสงบอยู่ภายใน
เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ตั้งมั่นอยู่
มรรคย่อมเกิดแก่ภิกษุนั้น
ภิกษุนั้นเสพ เจริญ ทำให้มากซึ่งมรรคนั้น
เมื่อภิกษุนั้นเสพ เจริญ ทำให้มากซึ่งมรรคนั้นอยู่
ย่อมละสังโยชน์ได้ อนุสัยย่อมสิ้นไป
ดูกรอาวุโสทั้งหลาย ก็ภิกษุหรือภิกษุณีรูปใดรูปหนึ่ง
พยากรณ์อรหัตในสำนักเรา ด้วยมรรค ๔ นี้ทั้งหมด
หรือด้วยมรรคเหล่านั้นมรรคใดมรรคหนึ่ง ฯ
อธิบายแบบนี้คนรุ่นใหม่คนที่ไม่เชื่อถือในศาสนาอาจรับได้เพราะอยู่ในแนวเขา แต่จริงแล้วมันคือการทำสมาธินั่นล่ะ เป็นสิ่งมีมาก่อนพุทธฯอีก ขั้นต่อไปที่สูงขึ้นเปนวิปัสนาที่หลายคนกล่าวไว้แล้ว
การคิดดี พูดดี ทำดี จะทำให้สมาธิดีตลอดเวลาไม่ว่าจะยืน ดิน นั่งหรือนอน ไม่ต้องนั่งสมาธิ