เอาแล้วไง!! ส่อวิกฤติ รถ EV จีนล้นตลาด
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 4 ต.ค. 2023
- เอาแล้วไง!! ส่อวิกฤติ รถ EV จีนล้นตลาด
ผ่าวิกฤติฟองสบู่ 'EV จีน' ทำไม 80% ของผู้ผลิต EV จีน อยู่ไม่รอด? แล้วกระแสในประเทศไทยเป็นของจริงหรือไม่ เมื่อตลาดตอนนี้มีแต่รถยนต์ EV สัญชาติจีน
#evcar #EV #รถยนต์ไฟฟ้า #รถไฟฟ้า #จีน #tesla #byd #netav #รถไฟฟ้าจีน #เงิน #การเงิน #ธุรกิจ #ลงทุน #เศรษฐกิจ #การลงทุน #TNNWEALTH
สวัสดีพี่น้องครับผมคนนึงที่ใช้รถ EV ของจีนครับ❤❤❤
ผมไม่ใช่ติ่งจีน แต่พอเข้าใจได้ว่ารถแบรนด์ใหนผลิตไม่ดีก็เจ๊งไป คงเหลือเฉพาะแบรนด์ที่มีศักยภาพจริงๆถึงรอดมาได้
ไม่ใช่ล้นตลาดเพราะความต้องการลดนะ แต่ส่วนใหญ่มาจาก เทคโนโลยีเปลี่ยนเร็วมาก ต้นทุนการผลิตสูง การโปรโมท ใครตามไม่ทัน จะขายไม่ออก และต้องระบายทิ้งหรือจอดทิ้ง
มีเหตุผล
จะชาร์จไฟยังต้องจอง มันจะยุ่งยากอะไรขนาดนั้น 😂😂😂😂
@@user-ge4ii5if2t90%ชาร์จไฟที่บ้านครับ
วงการรถEV มันไม่ต่างกับวงการ IT ที่มีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก รถที่จอดทิ้งขายไม่ได้เพราะเทคโนโลยีไม่ทันเพื่อน ผลิตออกมายังไม่ทันได้ขายเลยเทคโนโลยี่คู่แข่งเปลี่ยนไปละ เช่นสมรรถนะเปลี่ยนไป แบตเตอร์รี่อึดขึ้นและราคาถูกลง รถวิ่งได้ไกลขึ้นเป็นต้น ไม่เหมือนรถสันดาปที่แต่ละยี่ห้อใช้เวลาตั้งแปดปีถึงจะเปลี่ยนโมเดลครั้งหนึ่ง ทำให้มีเวลาปรับตัววางแผนเพิ่มออฟชั่นโน่นนี่นั่นยืนระยะแปดปีเหมือนเป็นการไม่อยู่กับที่ เพราะสิ่งสำคัญของรถสันดาปคือ ความแรงและความประหยัด ซึ่งแต่ละค่ายทำออกมาสูสีกัน เพราะมันเป็นหลักการเดียวกันที่แต่ละค่ายรู้ดีจะเน้นไปทางไหน
Ev แรง เร็ว และประหยัดกว่ามาก ลองเปรียบดูได้ ในราคาเดียวกัน ค่าเชื้อเพลิงและการดูแลซ่อมบำรุง เมื่อรวมทุกอย่างแล้ว
@@supachaichaiyabutr248 ครับรถEVประหยัดกว่ารถสันดาปแน่นอนครับหลังจากซื้อมาแล้ว แต่มันเกิดประเด็นรถEV บางค่ายผลิตออกมาแล้วขายไปไม่ทันไรดันตกรุ่นละ ขายไม่ออก เพราะคนแห่ไปซื้อเจ้าอื่นที่เทคโนโลยี่เหนือกว่า และเทคโนโลยี่ก็เปลี่ยนแปลงเร็วมาก เจ้าที่ตามไม่ทันจึงไปต่อไม่ไหว เพราะรถแต่ละโมเดลมันลงทุนสูงมากในการสร้างไลน์ผลิตแต่ละรุ่น สร้างไลน์เสร็จก็ใช่ว่าจะผลิตขายเลย ต้องผลิตมาเทสอย่างน้อยเป็นร้อยคันให้แน่ใจว่าลูกค้าใช้แล้วจะปลอดภัย รถเทสพวกนี้เสร็จงานต้องทำลายทิ้ง ต้นทุนเลยสูงจุดคุ้มทุนมันใช้เวลานาน แต่รถสันดาปของไทยจะผลิตตาม order ดังนั้นรถทุกคันที่ผลิตจึงมีเจ้าของแล้วจึงไม่มีการจอดทิ้งเป็นแสนๆคันเหมือนที่จีน ที่ผลิตมาสต็อกรอคำสั่งซื้อ แต่ของไทยมีคำสั่งซื้อแล้วค่อยผลิต
@@supachaichaiyabutr248 แสดงว่า ยังไม่เคยเจอตอนซ่อมบำรุงใหญ่สินะ ที่บอกว่าค่าบำรุงรักษาถูกกว่าเยอะเนี่ย 55555 ^^
@@INTHA.Tค่าบำรุงรักษาถูกกว่าเยอะครับ
ลองซ่อมใหญ่ดูสิ่ครับจะถูกไหม
ผมใช้รถสันดาปคันเดียวมา20 กว่าปีแล้ว รถ ev ถ้ารถล้นตลาดผมยินดีรับบริจาคครับ##อย่าเอาไปจอดทิ้งเลยเสียดายครับ😅😂😂😅
เทสล่าปรับลดราคาลงเพราะจีนบังคับให้ใช้แบตเติรี่ที่ผลิตในจีน แต่ไม่ใช่มาตรฐานเทคโนโลยีของอเมริกาเพราะแบตเติรี่จีนราคาถูกกว่าเทสล่าจึงลดราคาลงตามคุณภาพอละราคาของแบตเตอรี่จีน ครับ เพราะที่จีนไม่ให้เทสล่าใช้แบตเตอรี่มาตรฐานอเมริกาเพราะมีเทคโนโลยีความก้าวหน้ามากกว่าผู้ผลิตรายอื่นจึงอาจทำให้เกิดความได้เปรียบและทำให้อุตสาหกรรม รถไฟฟ้าจีนได้รับผลกระทบครับ
ผมมองว่า รถไฟฟ้าในจีนหลายเจ้ามาก ผู้บริโภคเลือกสิ่งที่ดีที่สุด จนผู้ผลิตบางเจ้าที่เทคโนโลยีไม่พอต้องจบตัวลง แต่เจ้าดังๆมีเทคโนโลยีก็ได้ไปต่อ
รถEVไม่ได้มีเทคโนอะไรเลยสร้างง่ายๆ ต้นทุนต่ำ แต่ราคาขายเท่ากับรถ สันดาปภายใน ขอใช้รถน้ำมันดีกว่าเยอะ..
@@jakkittsiripomajak463 เลอะเทอะ ต้นทุนต่ำ ตลก
การเปลี่ยนเป็นรภEVไม่ใช่แค่ผู้ซื้อใช้เงินไปซื้อแต่ต้องเพิ่มการรองรับทั้งภาคบริการต่างๆ มันใช้เงินจำนวนมหาศาลเกินไปโดยไม่คุ้มกับยอดที่จะได้มา เพราะข้อจำกัดของ battery ในปัจจุบัน
ยังต้องรอการพัฒนาของ battery แต่ถ้า battery ไม่สามารถก้าวพ้นข้อจำกัดของตัวมันเองในปัจจุบัน EV car จะเป็นได้แค่รถหรู เช่น Ferrari, Lamborghini เท่านั้น แต่ Hybrid ไปได้แน่ในการผสมสันดาป และอาจไปต่อผสม Hydrogen
@@somchaisubanake8246 PHEV ก็อยู่ระหว่างกลางพอดีครับ แต่อนาคตคงไปจบที่ FCEV+BEV (hybrid) กันซะส่วนมาก
0⁰
อีก400 รายที่ว่าไปไม่รอด มาที่ไทยซิ น่าจะรุ่ง เพราะว่ายังไม่ค่อยมีคู่แข่ง และคนไทยส่วนใหญ่มักตอบรับสิ่งใหม่ๆเสมอที่สำคัญ ถ้ารถไม่แพงเกินไปสามารถผ่อนได้ / คุณภาพเครื่องดี / ประหยัดกว่าน้ำมัน /ชาร์แล้วปลอดภัยไม่อันตราย / เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม / ทำความเร็วได้ดี / มีจุดบริการชาร์จและซ่อมรถมากพอ ตลอดจนอะไหล่ที่หาง่ายไม่แพง และบริการหลังการขายที่ดี คนไทย ซื้อแน่นอน
มาก็รอดยากซิครับ ขนาดผลิตในประเทศตัวเองยังมีปัญหา
ขยะจากจีนเชิญครับ
ซื้อขยะเข้าประเทศ
ถูกและดี มีด้วยหรอ ขอเอากับเทวดาดีกว่า😂
อย่าให้เหมือนรถถังเวลาเสียต้องส่งไปซ่อมที่เมืองจีน
รถอะไรก็ได้แต่ให้มีมาตรฐาน ขอแค่ราคาเชื้อเพลิงไม่แพงจนเป็นภาระครับ ผู้ใช้รถส่วนใหญ่หนี้ไปใช้รถไฟฟ้าเพราะราคาน้ำมันแพงเกินไป (เสียเงินก้อนใหญ่เพื่อเปลี่ยนรถยนต์ มันเป็นภาระมากสำหรับหลายท่าน) แทนที่จะนำเงินไปลงทุนให้เกิดดอกผล เพื่อมีรายได้ให้ฐานะมั่นคงขึ้นครับ
สินค้าที่ผลิต หรือนำเข้าจะมีมาตรฐานอุตสาหกรรมคุมอยู่ครับ (อาจมีหลุด Defect มาบ้างเป็นเรื่องปกติ) ที่นี่ก็อยู่ที่ว่าใครจะทำให้สูงกว่ามาตราฐาน หรือเอาแค่ผ่านมาตรฐาน หรือแค่เลยมาตราฐานมานิดเดียว
ก็เอาน้ำมันไปผลิตไฟฟ้า ต้นทุนไฟฟ้าก็คือน้ำมันและการลงทุนสถานีชาร์จมันก็เป็นไปตามกลไกครับ ถ้ารถน้ำมันจะรอดก็ต้องใช้พลังงานทางเลือกอื่นๆ
@@PhatrawuthKensomsri แต่รถใช้ไฟฟ้ามีค่าใช้จ่ายราคาพลังงานต่ำกว่ามาก 2-3เท่าถ้าเทียบกับรถน้ำมันนะครับ (คนใช้รถไฟฟ้ายังรู้สึกมีเงินเหลือในกระเป๋าตังค์มากกว่าเติมน้ำมันนะครับ เติมน้ำมันแต่
ะครั้งมิเตอร์มันไม่ยอมหยุดซะที555) ทราบดีว่าไฟฟ้ามาจากน้ำมัน แต่ถ้าบ้านไหนกล้าลงทุนติดโซล่าร์เซลที่บ้านนะครับ คือจะดีต่อครอบครัวเลยนะครับ ไฟบ้านก็ได้ใช้ รถยนต์ก็ได้ใช้ ตอนนี้ที่เรารอๆกันอยู่คือ ราคาแบตเตอรี่โคตรแพง555 ผมยังรอให้แบตมันราคาไม่สูง กะจะรอซื้อรถไฟฟ้า ถ้าน้ำมันมันแพงมากขึ้นเกินไปครับ
@@PhatrawuthKensomsri อันนี้น่าจะทราบอยู่แล้วมั้งครับ ว่าต้นทุนของน้ำมันเองก็คือไฟฟ้าส่วนหนึ่งเหมือนกัน เราใช้ไฟฟ้าสูบ และกลั่น และอื่นๆ ในกระบวนการเหมือนกัน
@@PhatrawuthKensomsri เพิ่มเติมอีกนิด ครับ ข้อมูลการไฟฟ้า เดือน สิงหา 66 พลังงานที่ผลิตจากดีเซลคิดเป็นร้อยล่ะ 0.19 ยังไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์เลย ได้แค่ 30.40 เมกะวัตต์ ได้มากกว่ากังหันลมที่ลำตะคลองนิดนึงคือที่ลำตะคลองผลิตได้ 0.15 เปอร์เซ็นต์ รวมสองเฟสแล้ว(เฟสแรกได้ 0.01 น้อยจัดๆ)
ตลาดที่มีการแข่งขันมีการสมดุลทั้งส่วน suply และราคา ก็เป็นเรื่องปกตินี่ครับ แต่สำหรับผู้ใช้ผู้บริโภค อันนี้ของจริง คนได้ประโยชน์จริงจากผลิตภัณฑ์
อีก10ปีค่อยว่ากัน
ตอนนี้อะไรก็ไม่ชัดเจน
อะไรๆ ก็ยังแพงอยู่มาก
ขายของแพงหมดแล้ว
เอากำไรไปพัฒนากันต่อ
วันหน้าถ้ามีสิ่งทดแทนได้
อะไรๆ น่าจะถูกลงมาก
ตอนนี้ใครพอซื้อได้ก็ใช้ไป
ถือว่าช่วยส่งเสริมเทคโนโลยี่
เพื่อให้ผู้ลงทุนมีกำลังใจ
อันนี้เป็นประวัติศาสตร์ ev ในจีนครับ ไม่ใช่ปัจจุบัน ถ้าปัจจุบบัน ev จีนเป็น อีนดับ 1 แล้วครับ เฉพาะรถไฟฟ้า ส่วนรถน้ำมัน จีนยังสู้ยักษ์ใหญ่ยังไม่ได้ เลยลุยรถไฟฟ้าไปเลย ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดของโลก
นั่นไม่ได้เรียกว่าล้นตลาด แต่มันไม่เป็นที่ต้องการของตลาด(ลูกค้า)ด้วยเหตุผลคุณภาพ ราคา ความน่าเชื่อถือ และสิทธิประโยชน์รัฐ
และการที่บริษัทต่างๆพากันปิดตัวก็เพราะธรรมชาติของระบบตลาด คัดสรร(แข่งขัน)เพื่อสิ่งที่ดีที่สุด
เห็นด้วยครับ ไม่ได้ล้นตลาด หลักการและเหตุผลตรรกะง่ายๆ
คนขายได้ก็ขายได้ คนขายไม่ได้ผลิตออกมาแต่ไม่มีคนซื้อ มันก็ล้นตลาดล่ะครับ มีล้นกับขาด
คนไทยไง ทาสตลาด แซะรถญี่ปุ่น รถน้ำมัน แต่พอพูดเรื่องอะไหล่ ศูนย์ซ่อม พากันเงียบเอ๋อแดกไปไม่เป็น
คุณภาพและราคา ลูกค้าคือผู้คัดเลือก คนที่ขายได้ก็ยังขายได้ คนขายไม่ได้ แต่เดิมได้เงินอุดหนุนการผลิต ทำให้เล็งการผลิตเพื่อหวังยอดอุดหนุน ทำให้พออยู่ได้ พอเงินอุดหนุนหมดแต่ลูกค้าไม่ซื้อ ก็ต้องลาโลกไปเป็นธรรมดา
@@PhatrawuthKensomsriล้นตลาดมันก็ต้องไม่มีใครขายได้เลยสิครับ นี่รายเล็กขายไม่ได้ แต่รายใหญ่ยังขายได้อยู่แสดงว่าผู้บริโภคเขาเลือกซื้อที่แบรนด์ คุณภาพ และความน่าไว้ใจ แบรนด์เล็กๆ เลยไปไม่รอด
ตามชอบตามกำลังทรัพย์ครับ
มองว่าเป็นเรื่องการแข่งขันครับ ซึ่งช่วยในการพัฒนาคุณภาพรถ ให้ดียิ่งขึ้นเมื่อออกสู่ตลาดโลก เหมือนโทรศัพท์มือถือหรือเครื่องใช้ไฟฟ้า Huawei Vivo Oppo Xiaomi
รบกวนปรับเสียงให้ดังเพิ่มขึ้นอีกนิดครับ จังหวะโฆษณามาเสียงดังมากเลย ขอบคุณครับ
55555รอส่งมาสต้อคไทยเยอะๆ..แล้วคนไทยอย่าพึ่งซื้อ...รอให้ดัมป์ราคาลงอีกค่อยซื้อ😂😂😂
มาแน่ๆครับ
+1 ผมว่าราคาจะลงได้อีก และจะไปดึงราคารถน้ำมันลงด้วย และผมว่าจะถล่มทุกตลาดในโลก
งานนี้พี่ยุ่นหนาวๆ ร้อนๆ
นี่คือเหตุผลที่ผู้ผลิตอยู่ไม่ได้ เคราะห์ก็เกิดกับผู้บริโภคแทน
เอากองซากมาปัดฝุ่นจากโน้นมาขายทิ้งนี่ก็คุ้ม ลงทุนครับ จัดมา
การแข่งขันสูง ใครล้าหลังก็เจ็ง ไม่แปลกเลย
ยังไม่กล้าลองเพราะระบบต่างๆ ยังไม่เสถียรเท่าไหร่ ดห็นคนที่ใช้อยู่เจอปัญหาต่างๆ มากมาย
สายอวยจีนบอกว่าคนจีนเปลี่ยนรถบ่อยเหมือนเปลี่ยนมือถือ แต่ความจริงนั้นแสนเจ็บปวดมันคือเจ๊งสนิท
รู้เลยว่าเป็นช่องไหนแมร่งอวยสุดๆ และชอบด้อยค่าคนไทยด้วย
ไม่ได้เจ๊งเพราะตลาดอิ่มตัว แต่เจ๊งเพราะตามเทคโนโลยีไม่ทัน
ผู้ผลิตที่อัพเดทตัวเองได้ทันจึงสามารถอยู่ต่อได้ ดังนั้นเรียกว่าเป็นฟองสบู่ของรถอีวี(แบบรวมๆ)ก็ไม่ตรง ถ้าเรียกว่าฟองสบู่ของตลาดรถอีวีคือผิดเลย.... แต่เรียกว่าเป็นฟองสบู่ของผู้ผลิตรถอีวีได้
รถยนต์ไฟฟ้าจีนมีมากเกิน250ยี่ห้อ ไม่แปลกอะไร สุดท้ายเหลือยี่ห้อที่ดีที่สุดหลักร้อยต้นๆ เป็นผลดีต่อผู้บริโภค
น่าจะมีบริษัทท๊อปยังคงอยู่ครับเป็นเรื่องปกติ รถ BEV มันยังคงเหมาะที่จะใช้งานในเมืองบ้านใครมีที่ชาร์จยิ่งดีแต่สิ่งที่ต้องยอมรับคือราคารถจะตกลงไปมากกว่าที่คาดคิดกัน
@@kobphon ในแง่การแข่งขัน เป็นผลดีต่อผู้บริโภค แค่ช่วงสั้นๆ
แต่ในแง่ทรัพยากร การมีบริษัทขนาดเล็กกระจายออกไปมากมาย ทุกบริษัทหวังรวยกันหมดเอาคนเป็นล้านๆไปทำงานที่สุดท้ายแล้วเจ๊ง มันคือความเสียหายต่อภาพรวมมหาศาลเช่นกัน...
ทุกอุตสาหกรรมควรมีความสมดุลโดยรูปแบบโดยขนาดที่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมด้วย ไม่ใช่แค่เป็นผลดีต่อประชาชนแล้วจะมีสักล้านบริษัทก็ได้ อันนั้นสุดท้ายมันแย่ครับ
นอกจากมีมากเกินไปแล้วแย่ ในด้านกลับกัน เช่นโทรคมนาคมบ้านเรา สุดท้ายเหลือ 2 ค่ายใหญ่มันก็แย่ ควรจะมีสักสี่ห้าค่ายอาจสัมปทานแยกภาคกันไป ในแง่ทำไงให้ค่ายเล็กๆไปต่อได้อาจทำบริษัทพูลอินฟราสตรัคเจอร์ ลงหุ้นร่วมกันรัฐบาลลงด้วยแล้วใครจะใช้ก็มาเช่า.. ทำให้เกิดการประหยัดทรัพยากร
ค่ายรถยนต์ก็สามารถทำพูลร่วมกันได้ในหลายๆด้านโดยมีรัฐบาลชี้นำ เพื่อให้ผู้บริโภคมีเอี่ยวได้ด้วย ไม่งั้นรายย่อยตาย รายกลางถูกซื้อ รายใหญ่กินรวบแบบที่ผ่านมานี่หละ
สรุปคือรัฐบาลต้องมีเอี่ยว ไม่ใช่แค่พลังงาน ด้านการขนส่ง ด้านไอที อะไรที่เป็นจุดเปลี่ยนใหญ่ๆในสังคม รัฐบาลต้องมีเอี่ยวทุกเรื่อง ไม่งั้นจะดูแลสังคมได้ไง
ซื้อรถมาถ้านำไปใช้ถูกที่ ถูกทาง นำไปหาเงินได้มากกว่าค่าน้ำมัน ค่าไฟ ค่าบำรุงรักษา ถือว่าคุ้ม ซื้อมาเพื่อขับไม่กี่กิโล ขับเพื่ออวดกัน ยังไม่พอกับค่าผ่อน ค่าใช้จ่าย ค่าน้ำมัน ค่าไฟรายเดือน ยังไงก็ไม่คุ้ม ไหนพอหมด 5 ปีค่าราคารถหายไปกว่าครึ่ง ไม่ว่ารถน้ำมันหรือรถไฟฟ้า ถ้าพาคุณไปประมูลงาน หรือติดต่องานได้กำไรหลักแสนหลักล้าน เรื่องค่าน้ำมัน ค่าไฟ ก็กลายเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเรื่องค่าแรงคนยังเป็นปัจจัยสำคัญของต้นทุนการผลิต ขายได้ ไม่ได้ ก็ต้องจ่ายค่าแรง ส่วนเรื่องรักษ์โลก ต้องให้นักวิจัย เก็บข้อมูลรวบรวม ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ทั้งแต่ละแบบว่าข้อดี ข้อเสียเป็นอย่างไรกันแน่ ต้องรอข้อสรุปกันไป
แค่ซันลูบเสีย รออะไหล่ 3 เดือนก็ยังไม่มา ดีแต่ขาย บริการหลังขายแย่ อะไหล่หายาก เหมือนรถอินเดีย ที่เข้ามาก่อนหน้า
มันคือการคัดสรรค์ทางธรรมชาติของดีจริงเจ๋งจริง ลูกค้าตอบรับยังไงก็ได้ไปต่อ คนเเพ้ก็ต้องออกจากตลาด
รถจีนที่ขายในไทยไม่นานพอเก่า ตลาดมือ2คงขายยาก เก่ามากพอเริ่มมีปัญหาซ่อมบำรุงที่ไหนอะไหล่ตามร้านทั่วไปไม่มีขาย ความทนทานคงสู้น้ำมันไม่ได้ ถ้าคนที่มีเงินน้อยคงไม่เลือกยอมใช้รถน้ำมันดีกว่ารถญี่ปุ่นที่ใช้ทั่วไป พังก็หาซื้ออะไหล่ได้ทั่วไป
ใช่ครับ
อะไหลโครตแพง เวลาเสีย
นิซื้อมาเวลาเสียยังจอดนอนอยู่เลย
ยอดขายรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าล้วนเพิ่มขึ้น 44.1% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 รวมเป็น 3.7 ล้านคัน อย่างไรก็ตาม อัตราการเติบโตนี้น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของการเติบโตประจำปี 2022 ซึ่งอยู่ที่ 93.4% โดยรถยนต์ไฟฟ้าคิดเป็น 28.3% ของยอดขายรวม เพิ่มขึ้นจาก 25.6% ในปีก่อนหน้า
จีนได้กลายเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า
เปรียบเทียบง่ายๆ เหมือนมือถือครับ
รถที่จอดทิ้งไว้ควรเอามาขายและ ลดราคาสัก70-80% ดีกว่าทิ้งไว้แบบนั้น
ไปเชื่ออะไรช่องนี้ ไม่ได้รู้ข่าวสารอะไรเลย ถ้าทำได้เขาทำกันแล้ว รถที่จอดอยู่นั่นเป็นรถที่เกิดจากการคอรับชั่นโครงการรัฐ เอาไปใหนไม่ได้หรอก ไม่งั้นเขาเอาไปขายกันแล้ว แกะซากขายหรือหลอมใหม่ไม่เหลือไปนานแล้ว
รถ EV จีนทางยุโรปไม่ค่อยเป็นที่นิยมมั้งครับ เขาห่วงเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย
ผู้บริโภค สบายครับ
ถ้ามีไทยก็ดีครับ ผมรอมือสอง ลด 50% แบบตกรุ่นไรงี้ แต่ ถ้าแบต ยัง 6 7 แสนอีก ก้คงรอไปก่อน , รถใส่ถ่าน มันผลิตง่าย เหมือน model ของเล่นขยายส่วน ไม่เหมือน รถสันดาป ยากกว่า ส่วนเรื่องที่ว่ารถจีนขายได้ ผมว่ามันก็ได้แหละ แต่ผมเห็น ความกระเสือกกระสนของคนอยากได้อยากมีนะ แถวบ้านผม เป็นเทาวเฮาส์ รายได้ ก็ ไม่เยอะ ออก Testla มาขับ เห็นได้เลยว่าคิดเกินตัวอีกเยอะ รอมือสองได้เลย ประเทศเรามันขับก่อน ผ่อนทีหลัง
ห่วงวิกฤติการต่อคิวการชาร์จ จากสังเกตดูตามปั๊มยังไม่ค่อยมีสถานีเท่าไหร่เลย ตอนนี้ก็ยังไม่กล้าซื้อ ไปต่างจังหวัดไกลๆไม่ได้
เดี้ยวสุดท้ายก็ต้องเปลี่ยนมาใช้ ไฟฟ้ากันเกือบหมดในอนาคตข้างหน้าครับ เทคโนโลยีไปไว คู่แข่งเยอะผลิตมาแต่เจอรุ่นอื่นออฟชั่นดี ก็เรียบร้อย
รถน่าจะมีปัญหามากและซ่อมบำรุงแพงเกินไป อย่างแบต BYD ราคา 670,000 มันแพงไม่น่าใช้ สำหรับไทยต้องอีก 4-5 ปี ให้พัฒนาเต็มที่และใช้เวลาชาตให้ไวและสถานบริการก่อนถึงจะน่าใช้
ประกันแผงมาก ต้องให้ บ.ประกันถูกลงมา และ แบตเตอร์รี ก็แผงเท่ากับซื้อรถใหม่ ต้องให้ แบตซื้อ ตามท้องตลาดมีขาย เขาจะได้ซื้อไปใส่รถเก่ากัน นี้คือปันหาผมคิดยังนั้น
ไม่ใช่แค่แบตฯ ซอฟแวก็สำคัญมาก บ. ใหญ่ๆจึงได้เปรียบ
เจ้งไม่เจ็บไม่รู้
แต่ รถ ev. ยังไม่มียอดยึด
ในไทย
ของไม่มีคุณภาพก็ต้องจบ.ผู้บริโภคตัดสินเอง.
มาเร็วไปเร็ว ตกรุ่นเร็วมาก
ซื้อได้แต่ไม่ต้องคิดถึงตอนขาย
ก็ดีแล้ว งี้ก็จะทำให้ EV ราคาจริงๆก็ถูกลงอ้ะสินะ 😊
ประเทศไทยมีคนรวยกี่%คนจนกี่% วางแผนการตลาด ดูจากอะไรครับ
การอุดหนุนรถ EV คือเอาเงินทิ้งน้ำ เพราะปัญหาเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ Battery เป็นตัวจำกัด ทำให้ที่สุดรถจะไปได้แค่ Hybrid ทั้ง hybrid ผสม เครื่องสันดาป หรือ ไฮโดรเจน ที่มีโอกาสไปได้คือรถมอเตอร์ไซค์ EV
นี่คือคำตอบของ Toyota ครับทำไมไม่ทำรถ ev เน้นไปH หรือ Hybrid
@@yamikoko9307ค่ายจีนเองก็เริ่มหันไป FCEV กับ H2 ครับ เค้าเล่นกันตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ส่วน BEV ก็จะค่อยๆ Transform ไปในรูปแบบ Hybrid BEV+FCEV แทน แบบ PHEV ในรถสันดาป
@@yamikoko9307ไมกี่ปีประเทศไทยก็จะกลายเป็นที่ทิ้งขยะของจีนตามบ้านนอกต่างจังหวัดก็มีรถญี่ปุ่นตั้งไว้เลียงสนิมเกือบจะทุกบ้าน
คนซื้อรถประเภทนี้เดี๋ยวก็จะรูสึกค่ะหนูไม่คิด
มากซื้อยาริสATVมาใช้ดีที่สุดถูกกว่าประหยัด
@@yamikoko9307 ไม่ทำตรงไหน ไปหาข่าวดู แค่ทำช้าแค่นั้นเอง 555+++
ถ้าน้ำมัน แพง รับรอง รถไฟฟ้า อีวี ไปได้เยี่ยม
มันจะไม่ล้นได้ยังไงเศรษฐกิจจีนล่มสลายส่วนรงผลิตมีกว่าห้าร้อยเจ้าเจ๊งไปสามสี่ร้อยเจ้าเหลือร้อยกว่าที่ใหญ่จริงๆมีสิบกว่ายี่ห้อเท่านั้นมันปกติประเทศขาลงว่าแต่จีนจะเอารถตกรุ่นรถจอดทิ้งไว้ตากแดแตากฝนมาขายให้คนไทยใช้คนไทยเราก็ดีใจกันใหญ่😂😂😂😂😂
รถเหลือ ๆ จะโดนนำเข้ามาไทย แบบไม่มีประกัน ไม่มีศูนย์ แต่ถูกมากจริง ๆ เหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้า เหลือ 2-3 แสน ก็น่าเสี่ยงอยู่
มันก็สมควรแล้ว ทำอะไรดี ก็ทำตามกันเป็นแถว มันก็เก่อ นะซิ้.
😮 กน้าเสียดายรถ ไทยควนฉวยโอกาสขอเลือกซื้อรถพวกนี้ มาดัดแปลงให้ล้ำสมัย ขายให้คนไทยแบบถูกๆ และส่งออกไปต่างประเทศ 😊
รถ EV จีนล้นมานานแล้วนะ จอดทิ้งเป็นสุสานในจีนเยอะเลย
ก็เล่นหลับหูหลับตา-ผลิตมาอย่างเดียว-ตลาดในต่างประเทศเขายังไม่ยอมรับกันสักเท่าไหร่เลย?ก็พา-เจ้ง-เจ้ง-เจ้ง
ถ้าหาข่าวดีๆ จะรู้ว่า รถที่จอดไว้ เยอะๆ ทั้ง 6 เมือง เกิดจากการจงใจผลิตเกิน เพื่อเอาเงินอุดหนุนจากรัฐ ซึ่ง ผู้ผลิต ก็รู้อยู่แล้วว่าขายไม่ได้
ประกอบกับ ส่วนหนึ่งเป็นรถเช่าที่ปลดประจำการ
ดังนั้น ไม่น่าใช่ ล้นตลาด
น่าจะมีปัจจัยเรื่องการเปลี่ยนรถบ่อยของผู้บริโภคในจีนด้วยครับ อย่างบ้านเราพรีออเดอร์ ที่โน่นก็น่าจะทั้งพรีออเดอร์และสต๊อก ช่วงหลังๆการทำตลาดเริ่มใช้วิธีการ price war รายย่อยๆอยู่ยากครับ ส่วนเรื่องเทาๆคงมีบ้างครับในทุกธุรกิจอยู่แล้ว จีนน่าจะเปลี่ยนรถกันบ่อยกว่าบ้านเราครับ รุ่นเก่าก็ขายยากไปอีก เทคโนโลยีเปลี่ยนแทบทุกเดือน ของถึงมือเรารุ่นใหม่ก็เตรียมวางขายอีก สายปั่นโฆษณาชวนเชื่อก็ทำตลาดกันไป คนก็ลังเลว่าจะเอารุ่นเก่า ปัจจุบันหรือรอในรุ่นถัดไปดี แต่ที่รอไม่ได้คือผู้ผลิตที่ผลิตออกมาแล้วตลาดไม่ต้อนรับ ต้นทุนมันเกิดไปแล้ว
รถอีวีจีน ที่เลอกกิจการไปก็ดีแล้ว เพราะไม่สามารถพัฒนารถไฟฟ้าให้ดียิ่งขึ้นได้และไม่มีมาตรฐานพอ ดีครับเหลือแต่รุ่นที่ดีๆ อยู่รอดได้และพัฒนาขึ้นไปอีก....?
จีน-ไต้หวัน ใช้น้ำมันประยัดกว่าครับ เดินทางสะดวกกว่า ผมยุ่ไต้หวัน 95ลิตรล่ะ34 nt.จากค่าแรงขั้นต่ำ1500NT.ดีเซลมีแค่เกรดเดียวลิตรล่ะ28NT.จากค่าแรงขั้นต่ำวันล่ะ1500NT.
ถ้าคิดจะซื้อev นี่ไม่ต้องคิดเผื่อขายมือสองเลยนะ แบตคือแพงสุด ใครจะยอมใช้มือสอง
FC พี่หมูกะน้องปริณคับ
อีกหน่อยมีปัญหาเเน่....ทั้งตลาดรถใหม่ เเละมือ 2.. ..รถไฟฟ้ามือ 2 ต่อไปจะขายได้มั้ย
ดีเลย จะได้แข่งกันขายถูก
ส่วนตัวขอใช้รถสันดาปน้ำมัน เพราะมีการพัฒนามาเป็นร้อยปีนับตั้งแต่เริ่มมีรถยนต์ มีชิ้นส่วนและอะหลั่ยมากมายที่ขายในไทย รถอีวีหากถูกชนจะหาชิ้นส่วนจากไหน หากต้องใช้ของใหม่ก็เสียเวลารอ ที่สำคัญเรื่องแท่นชาร์จไฟที่ยังไม่เพียงพอรวมถึงการใช้เวลาชาร์จนาน ประเทศไทยมักจะมีน้ำท่วมบนถนนในหน้าฝน ทำให้เกิดความไม่อุ่นใจว่ารถอีวีจะเสียหายที่ต้องแช่น้ำ
ผมใช้รถมอเตอร์ไฟฟ้า มาหกพันโล ลุยน้ำท่วมหนักเต็มล้อไปหลายกิโล ไม่เห็นเป็นไร ประเงินค่าเติมน้ำมันกว่าสิบเท่า
ก่อนที่โลกจะพังไปมากกว่านี้ เพราะควันคาร์บอน ร่วมกันใช้รถไฟฟ้าดีกว่าครับ
แล้วจะล้ม เหมือนอสังหาไหม 😂
คุณภาพ และราคา ต้องสอดคล้องกัน
ยังเป็นของที่ใหม่ ไม่รู้ว่าเวลานานไป จะซ่อมกลับมาใช้ได้ใหม่อีกไหม
ระวังคุณภาพ ทำเยอะโอกาสหลุดคิวซีสูง
ของจีน ผมไม่นิยม ใช้แล้ว ผิดหวัง อย่าไปใช้เด็ดขาด
รถไฟฟ้ายี่ห้อจีน เยอะมาก 400-500 เจ้าดังขายดี พวกที่สมัครเล่นก็ไปไม่รอด ปกติ 😊
ประวัติศาสตร์วงการรถยนต์ มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ยุคแรกๆ แค่มันฉายซ้ำ ในรถยนต์ไฟฟ้า
ถึงเวลาขาลงแล้วนะลุงสี้ลงฮวบๆ
ไทยเปิดรับ EV ทั้งๆที่ยังไม่มีความชัดเจน กฎหมายควบคุมจะจัดการแบตเตอรี่เก่ายังไง ใครเป็นคนรับผิดชอบกำจัดแบตเตอรี่เก่า
มันมี มอก ไหมได้ข่าวไหม้ไป 3000 คันแต่ไม่ออกข่าว..เช่นมีการทดสอบชน..แช่น้ำ..ตากฝน..เจออุหภูมิที่ผิดปกติ..
รถยนต์ ต้องใช้เวลาพิสูจน์ บริการหลังการขาย ราคาอะไหล่ ความทนทาน หลังแบตเตอรี่เสื่อมจะทำไงต่อ ถ้าเจ๋งจริง ท้าชนอัลติส แท็กซี่เลย
ระยะทางพิสูจน์ม้า การเวลาพิสูจน์อีวี !!!
ออกมาเยอะ แข่งกันขาย ไม่เน้นคุณภาพ ตลาดใหญ่คืออาเซียนโดยเฉพาะไทย เห่อมอยกันเหลือเกิน ซื้อมาก็ว่าคุ้มว่าถูก แต่เรื่องคุณภาพ เรื่องซ่อม อุปกรณ์อะไหล่ ศูนย์ซ่อมไม่ได้คิดเลย และมาแซะรถญี่ปุ่นว่าล้าหลัง เอาจริง ญี่ปุ่นมาช้า แต่ชัวร์เรื่องคุณภาพนะ คอยดูสิ ถ้าลุยเรื่องรไฟฟ้าเมื่อไร รถจีนถอยกลับบ้านหมดแน่
ใช่ค่ะ
เคยใช้แล้วหรอครับ ถึงส่าเขาไม่มีคุณภาพ อะไหล่รถหรือเสื้อผ้าแบรนดังๆส่วนมากก็ผลิตที่จีน แต่ตีตราแบรนอื่น เทสล่าแบตเตอร์รี่ก็ผลิตที่จีนแบตเดียวกัน กับ byd ไอโฟนชิ้นช่วนผลิตหรือแบตก็ผลิตที่จีนนะครับ แล้วเกิดการทะเลาะกันจีนเลยเลิกผลิตให้
แต่ก่อนจีนเรียนรู้เรื่องรถไฟฟ้าจากญี่ปุ๋นความเร็วสูงจากญี่ปุ่น จนสามารถทำรถไฟฟ้าที่เร็วที่สุด และไม่ตกราง ได้ ถ้าสินค้าเขาไม่มีคุณภาพ เขาไม่ขายได้เรื่อยๆหลอกครับ
ความคิดสลิ่มเบาๆ
@@akkharawat9220ลองหาอะไหล่ซ่อมเองตามอู่ทั่วไปดูสิครับ ต่อให้เป็นศูนย์บริการของแบรนด์นั้นก็ตาม รอนานอะไหล่ติดแบลคออเดอร์ และสุดท้ายต้องเปลี่ยนยกชุด เพราะเขาวางระบบไว้แบบเปลี่ยนยกชุดไม่ใช่แค่เปลี่ยนอะไหล่ ซึ่งจะไม่มีสแปร์พาวรองรับสำหรับอะไหล่ชิ้นส่วนเล็กๆ เช่นมอเตอร์ อาจะต้องเปลี่ยนยกชุด
ส่งเสริมเงินให้โรงงานผลิต
แล้วจะเอามาขายที่ไทยไหมคับ
เมืองไทยเปิดบริษัทไว้ 2 ปีแล้ว แต่ไม่เห็นเข้ามาขาย
ดีแล้วล่ะ ให้มันเหลือคันละสองสามหมื่นพอ.....แพงกว่านี้ไม่อยากซื้อ
จังหวะงามๆ ซื้อ EV ตอนนี้คุ้มที่สุด ราคาไม่แพง แถมมันคืออนาคต😊
ภายใน 3 ปีข้างหน้า จะไม่มีใครซื้อรถเก๋งพ่นควันเพราะราคาน้ำมันไปที่ลิตรละ 60 บาท และมีคนที่ได้ใช้รถ EV เปิดเผยว่าขับดีกว่ารถพ่นควัน แม้ว่าราคารถEV อาจแพงขึ้นกว่าตอนนี้ถึง 20%
กลัวค่าแบต
ผมเก็งว่าแบตโซเดียมจะออกมา แล้วมันจะถูกลงเยอะ
ตัดเรื่องคุณภาพ อะไหล่ ศูนย์ซ่อมออกไปเลย เน้นความคุ้มความล้ำ เสียซ่อมไม่ได้ก็จอดไว้เท่ห์ๆ
รอราคาแบตที่สมเหตุผลก่อน บวกกับต้องรอให้ช่างไทยสายรถไฟฟ้ามีเยอะๆค่อยมาดูอีกที เงินจ่ายไปจะได้คุ้มค่า
ใช้ไม่นานก็เป็นตำนานอยู่ในอู่
หลักการ 20-80 ครับ
มีแค่ 20% ที่ยอดขายรวมกัน 80%
ตอนนี้ยังไม่กล้าใช้รถไฟฟ้าจีนค่ะ
เทคโนโลยีมันไปเร็วมาก
ใครสายป่านสั้น ก็อยู่ได้ไม่นาน
เรื่องธรรมดา แปลกตรงไหน
จีนชิงตลาดก่อนคุณภาพอาจไม่ได้ญี่ปุ่นกำลังจะมา ช้าแต่คุณภาพกำลังจะมา
ณ.วันนี้รถ อีซี ยังมีข้อจำกัดหลายอย่างอยู่ ที่เห็นว่าดีหน่อยก็ รถนิสสันคิกส์
ช่วงนี้เป็นโอกาสของเศรษฐีที่จำเป็นต้องมาลงในต่างประเทศรวมทั้งไทยถ้าไม่ทำแบบนี้จะผ่องถ่ายเงินของเศรษฐีจีนได้อย่างเพราะรัฐบาลจีนห้ามนำเงินออกนอกประเทศ สุดท้ายในประเทศไทยจะมีโรงงานร้างเพิ่มขึ้นมา สังเกตุล้งผลไม้หลายแห่งที่คนจีนมาลทุนสร้าง แล้วไม่ได้ใช้งานกลายเป็นล้งร้างอยู่เวลานี้
การแข่งขันเขาก็ต้องหาดีที่สุด
ล้น ก็ ลด ราคา ครับ ผลดีกับผู้บริโภค
อย่าไปคิดมากกับพวกเขาไทยส่วนมากไม่ไช้.
แต่เมืองนอกเขาสั่งเข้ามาอย่างมากเราก็ขับอยู่ที่นี่มีแต่รถEV ทั้งนั้น
แม้แต่รถบัสเขายังเปลี่ยนหมดเป็นEV
ไฟฟ้าอิเลคทรอนิคน์เทคโนโลยีเปลี่ยนไวมาก ตกรุ่นอย่างไว
ยิ่งล้นตลาดยิ่งดีต่อผู้บริโภคม่ะใช่เหรอ ราคาจะได้ต่ำลงอีก คุณภาพก็ต้องดีไปอีกเพราะแข่งกันผูกใจลูกค้า แล้วมันวิกฤตสำหรับใครเหรอ งง
พูดถึงรถยนต์ไฟฟ้าแล้วแบรนด์จีนกับผมมีได้รุ่นแล้วครับก็คือ mg หรือ byd และ gwm ที่สามารถทำ top speed ได้ 180 กิโลเมตรก็ถ้าทำtop speedได้ต่ำกว่า 180 กิโลจะถึงว่าไม่ใช่ความเร็วเดินทาง
ไม่แปลกนิ คิดง่ายๆ คนขายกาแฟมีเป็นพันๆเจ้า เหลือรอด กี่เจ้า คนแข่งเยอะ คนใช้น้อย บวกกับภาพลักษณ์แบรนด์ อยู่ได้แต่เจ้าใหญ่ๆ ปกติ ของทุกวงการ
สินค้าการลงทุนต่างกันเยอะ เทียบกันไม่ได้ครับ
คนไทยชอบลองของแล้วจะรู้สึก
ผมมองว่าตลาดรถEVเหมือนตลาดIT ตลาดโทรศัพท์
เทคโนพัฒนาเร็ว เค้าเลยซื้อใหม่ดีกว่า
ตรงๆนะคุณภาพมันไม่ได้ มาที่ไทยปัญหาก็เริ่มมีไห้เห็น เช่น แบตเตอรี่หลักๆ
จีนคนเป็นพันล้าน แล้วเทคโนโลยีพัฒนาเร็วด้วย
จีนเอารถที่ขายไม่ได้จากจีน ขนมาขายที่ไทย เพราะกดราคาได้
ใครอยากใช้ก็ใช้ไปนะรถไฟฟ้าอ่ะ...ส่วนตัวผมไม่เอาดีกว่า..ผลสุดท้ายแร้วก็สู้รถใช้น้ำมันไม่ได้ยุดี
ฟังตั้งนานยังไม่รู้เลย เอวีไม่ดียังไง อ้อมค้อมอยู่นั่นแหละ
หลักของการตลาดของที่ดีราคาสมเหตุผลจึงจะอยู่ในเกณฑ์ตลาดได้ แต่การเน้นข้อมูลเพียง บ ที่เลิกเหมือนตั้งใจให้เห็นว่ารถ ev ไม่ดี
รถน้ำมันจะเหลือน้อย และเจ๊งแบบโนเกียไหม
อีกหน่อยบ้านเราก็ไม่ต่างกัน
ไทยเองก้อมีการพัฒนามาพักใหญ่แล้วครับ แต่ด้วยเทคโนโลยี หรือระบบการใช้งานไม่ทนต่อการขับขี่ จึงไม่โด่งดังครับ สิบกว่าปีที่แล้วมีใครรู้จักจักรยาน แอลเอ บ้างครับ แต่ด้วยระบบต่างๆมันไม่สนองผู้ขับขี่ครับ ซ่อมทีก้อหลายตังค์ครับ