E-Power เทคโนโลยีขับเคลื่อนสุดล้ำจากค่าย Nissan นิสสัน
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 12 ม.ค. 2020
- E-POWER เป็นการประยุกต์จากแนวคิดของเทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าที่มีอยู่ในนิสสัน ลีฟ (Nissan LEAF) ที่ประสบความสำเร็จในด้านยอดขายและได้รับการยอมรับจากผู้ใช้งานมาแล้วทั่วโลก โดยในระบบใหม่นี้ มีการติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปภายใน
ขนาดเล็กเพิ่มเติม ให้ทำหน้าที่เป็นเครื่องปั่นไฟฟ้าพลังงานสูง
เพื่อสร้างกระแสไฟฟ้าชาร์จเข้ามาเก็บในแบตเตอรี ลดการพึ่งพาพลังงานไฟฟ้าจากภายนอก
แต่ยังให้พลังงานไฟฟ้าในขนาดใกล้เคียงกัน
นั่นหมายความว่ารถที่ใช้เครื่องยนต์ e-power จะเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า
แต่ไม่ต้องจอดชาร์จไฟนั่นเอง - ยานยนต์และพาหนะ
คลิปนี้แหละครับ ที่ผมอยากดู ว่า ความแตกต่างของระบบทั้งสามระบบแตกต่างกันอย่างไร
หัวรถจักรของการรถไฟ (ยกเว้นรถดีเซลราง) ที่ลากขบวนรถสายต่างๆนั้น ก็มีหลักการแบบ อีพาวเวอร์ มานานแล้วนะครับ แต่ของนิสสันมีแบตเตอรี่ลิเธียมที่มีประสิทธิภาพในการเก็บประจุได้ดี
เป็นระบบที่มีอนาคตมากที่สุดแล้ว พูดง่ายๆ คือรถไฟฟ้าที่ติดเครื่องปั่นไฟนั่นแหละ
AO ZtahC ผมว่าไม่นะครับเพราะสุดท้ายก็ยังใช้น้ำมันสร้างมลพิษอยู่ดี ในยุคที่ต่างประเทศเขาแบนรถน้ำมันกันหมดจะเกิดคงยากครับแต่ในไทยก็ไม่แน่ เพราะอะไรก็รู้ๆกันอยู่
นั่นแหละครับ หมายถึงประเทศที่ยังต้องพึ่งพาน้ำมันอยู่ นั่นคือไทย ส่วนประเทศที่ส่งเสริมไร้มลพิษไป EV หมดแน่นอน
ไทยเราก็มียุนะครับต้องนี้เป็นค่ายMG ZS EV ไฟฟ้า100%
คุณพูดมานั้นถูกต้องเลย นิยามได้ตรงมาก
ตามนั้นครับ ผมบอกแล้วมันเกิดยากในตลาดโลก
facebook.com/100001142892059/posts/2646888382025899/
เปนแนวคิดที่เยี่ยม ยิ่งมาพร้อมกับราคาที่จับต้องได้และรถสวยยอดขายแซงทุกค่ายแน้ๆ
ข้อเสียของระบบนี้ที่ผมเห็นคือ แบตเตอรี่ลิเธียม ปัจจุบันแพง และไม่มั่นใจว่ารอบในการใช้งานของแบตเตอรี่ทางบริษัทเคลมไว้ที่กี่ cycle หรือรับประกันกี่ปี และข้อเสียที่สองคือ ยังคงต้องใช้ระบบการสันดาปของเชื้อเพลิงที่แปลงไปเป็นไฟฟฟ้า ดังนั้นถ้าหากระบบสันดาปหรือgenerator มีปัญหา ก็ส่งผลให้รถไม่สามารถใช้ได้ สุดท้ายระบบ e power มีองค์ประกอบเยอะกว่ารภทั่วๆไป ดังนั้นค่าซ่อมบำรุงและการรักษาระยะยาวคงเยอะพอสมควร ถ้าสำหรับผมยังคงไม่ซื้อ แต่ถ้าซื้อคงอยากให้แบตเตอรี่สามารถชาร์จได้โดยตรง เป็นการ add in อีก function หนึ่งเข้ามา ถ้าแบบนั้นผมว่าน่าสนใจ 😅
แบบนี้สุดยอดพึ่งพาตัวเอง
คราวก่อนคิคค้นรถอีโคคารเจ้าแรกคราวนี้อีเพาเวอรกับไฟฟ้า100%
ย้อนหลังเมื่อยี่สิบปีนิสสันคิดค้นกระบะเอ็นวีเครื่องเบนซินอันโด่งดังเจ้าแรกและเจ้าเดียว
Accord hybrid ก็เป็นแบบนี้เลย เค้าขายก่อนมา 2 ปีแล้วจ้า
Accord hybrid ทำได้3รูปแบบ ไฟฟ้า100% เครื่องยนต์อย่างเดียว หรือ เครื่องยนต์บวกไฟฟ้า มีสวิตช์โมดสลับได้
มึงก็อวยเว่อร์เกิน Chevrolet Volt ใช่ระบบนี้มาตั้งนานแล้ว มันขายตั้งแต่ปี 2011 จนตอนนี้ปิดการผลิตไปแล้ว หัดออกมาจากกะลายุคสลิ่มครองเมืองได้แล้ว
@@user-cz5rs2kv8q นั้นมันตั้งแต่นิสสันยังเป็นดัสสันครับ ดัสสันก็เครื่องเบนซิล เอ็นวีไม่ใช่กระบะตัวแรกที่เป็นเบนซิล
ขอบคุณสำหรับความรู้นี้
ถือเป็นรถที่น่าใช้มากถึงมากที่สุดเลยครับ..นี่แหระที่รอคอย😍😍😍
อธิบายได้เห็นภาพมากเลยครับ ขอบคุณครับ
แบบนี้ที่รอคอย
แสดงว่าต้องมาคอยบำรุงรักษาระบบเครื่องยนต์เหมือนเดิม แถมต้องมาคอยดูระบบไฟฟ้าอีก แบบนี้ก็แทบไม่ต่างกับไฮบริด
ข้อมูลดีครับ อ่านชัดเจน แต่มันจะหลับ...สู้ๆนะครับ
ชอบแนวคิดนี้มากเลยครับ
ประหยัดน้ำมันเพราะเครื่องยนต์มีน่าที่ชาร์จแบตอย่างเดียวแต่ควรออกแบบเครื่องยนต์เล็กๆเพื่อประหยัดพลังงานครับ
แนวคิดนิสสันนี่ล้ำจริงๆค่ะ
เทคโนโลญีจากรถไฟ ดีเซลไฟฟ้าครับ สรุปคือเก่ามากแต่ใหม่สำหรับรถยนต์
ของรถไฟต้องติดเครื่องยนต์ตลอดเวลา ไม่มีแบตเตอรรี่ขั้นอยู่ตรงกลาง อ้อเครื่องยนต์สันดาปภายนอกก็ใข้ได้นะครับ 555+
@@BoySkyro รถยนต์ก็ใช้
มาหลายปีแล้วครับตั้งแต่ปี 2555 หรือมากกว่า 7 ปีที่แล้ว อยู่ใน Mitsubishi Outlander PHEV ครับ
มันไม่ได้ล้ำอะไรหรอกครับ เพียงแต่ค่ายรถ EV จุดประสงค์เขาคือลดมลพิษให้เหลือ 0 แต่อันนี้มันเหมือนเติมน้ำมันไปปั่นไฟ เขาก็เลยไม่ทำกันครับ
วอลโว ก็มีมานานแล้ว เครื่อง 1,000cc ปั่นไฟ แต่ ราคานำเข้าแพง คนไทยเลยไม่นิยม
ผมว่าเครื่องยนต์e power มันเจ๋งกว่า เครื่องยนต์ไฮบริดไฮบริด และเครื่องยนต์ปั่นไฟของnissanจะทำงานไม่หนักมากเพราะทำหน้าที่แค่เป็นเพื่อนเครื่องปั่นไฟเท่านั้นใช้ระยะยาวคุ้มประหยัดมันอยู่เส้นคาบเกี่ยวที่ใช้งานได้จริงของรถน้ำมันก้าวไปสู่รถไฟฟ้า 100%ครับผม
ดีอ่ะดีเลย
ได้ความแรง แต่ความประหยัดยังไม่ประหยัดอย่างที่คิด ในเรือสินค้า เรือโดยสารเขาใช้มา 30 -50 ปีที่แล้วละครับ เหตุผลเพราะได้แรงบิดสูง แต่ไม่ได้ประหยัดอย่างที่คิด แต่เรือขนาดใหญเขาต่อตรงไมามีแบต ฯ
ใครยัง งง เอาง่ายๆ e pover คือ ใช้มอเตอในการขับนั้นและ แต่ใช้เคื่องยนในการปั่นไฟ เเบตเตมเมื่อไรเครื่องก็จะหยุดทำงาน
อธิบายได้ดี ครับ สั้น เข้าใจง่าย
ต้องรอดูไปอีกครับ เพราะได้ข่าวว่ามีการพัฒนาแบตความจุสูงได้แล้ว และอีกแบบคือ เปลี่ยนแบตก้อนเก่าเอาก้อนใหม่ใส่เลย เหมือนเราซื้อถังแก๊สหุงต้มในบ้านน่ะ เอาถังเก่าไปเปลี่ยนถังใหม่ เออสะดวกดีนะ ส่วน e-power นั้นมันยังทะแม่งๆน่ะ แล้วการชาจไฟตลอดแบบนั้นแบตมันไม่เสื่อมเร็วเหรอ
อยากให้ทุกคนลองนึกถึงค่าซ่อมบำรุงนะครับ มันจะต้องบำรุงถึง 3 ส่วน 1.เครื่องยนต์ 2.เจน 3. มอเตอร์
คิดเหมือนผม คือต้องดูความแข็งแรง ของการใช้ทั้ง 3 ระบบ ว่ามันสเถีนรแค่ไหน และค่าบำรุงรักษาเป็นไง เช่น เกิดปั่นไฟแล้วไม่ค่อยเจ้าแบต หรือไม่ปั่นเลยพอถึงเวลาที่ควรปั่น หรือจอกแล้วปั่นไฟเฉยๆได้ไหมอะไรแบบนี คงต้องขอดูการใช้งานจริงซักัพกนะ
ช่วยกันทำงาน มันจะพังเร็วได้ไง?
ระบบนี้ดีกว่าไฮบริดน่ะครับ!
หลายคนรอคอยให้มาเสียที?
ดีมากครับ
concept ดีมาก ๆ ถ้าเอามาใช้กับรถหรู ๆ ยิ่งดีใหญ่ ตลาดจะได้กว้างขึ้น
เป็นเทคโนโลยี่ที่มาคั่นกลางระหว่างระบบน้ำมันกับไฟฟ้าที่ลงตัวที่สุดแล้วในตอนนี้
จริงๆผมว่ายุคนี้เขาข้ามไปรถไฟฟ้ากันหมดแล้วนะครับ แต่ในไทยนี่ก็ไม่แน่
@@tanpisitparkpean9858 รถไฟฟ้า 100% ในไทยผมว่ายังอีกระยะนึงเลยครับ ขนาดรถที่ผมสนใจแต่มันมีแต่ plugin ทำให้เป็นอุปสรรคไม่สามารถซื้อได้เพราะบ้านเป็นอาคารพาณิชย์ในต่างจังหวัด ไม่สามารถมาตั้งที่ชาร์จไฟที่ริมถนนได้
จริง ๆ ผมเช่าที่จอดรถ แต่น่าจะลำบากเรื่องไปขอตั้งที่ชาร์จ เพราะเค้าคงต้องเดินไฟใหม่หมดและคงไม่มาลงทุนแบบนี้แน่ ๆ ถ้าอยากชาร์จต้องขับไปชาร์จอีกจังหวัดห่างไปเกือบ 200 กิโล
เคยดูรายการที่มีคนลองเอารถไฟฟ้าขับจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ด้วยรถไฟฟ้า ใช้เวลา 17 ชั่วโมง คือจบเลยแบบนั้น
@@sandsunwind จริงๆส่วนใหญ่ในต่างประเทศคนเขาก็ชาร์จที่บ้านกันครับ ชาร์จตอนนอนเพราะหนึ่งวันเขาใช้แบตไม่หมดอยู่แล้วครับสำหรับคนปกตินะครับ แต่ถ้าขับไกลๆมันต้องมีสถานี supercharger ครับอย่างในอเมริกาจะมีทุก 200 กม. อีกอย่างรถมันคำนวณได้ว่าเราจะไปไหนแบตเหลือพอมั้ย ต้องไปชาร์จตรงไหน มันก็เลยไม่ได้ลำบากเหมือนในไทยครับ
@@tanpisitparkpean9858 ใช่ครับ ถ้ารัฐบาลอยากสนับสนุนจริง ๆ ต้องสร้างสถานีชาร์จไฟให้ได้มาก ๆ ก่อน ไม่ใช้รอให้คนใช้รถไฟฟ้าเยอะ ๆ แล้วค่อยสร้าง ไม่งั้นคนทั่วไปที่ไหนจะยอมเสี่ยงซื้อรถแพง ๆ มาเสี่ยงดวงรอสถานีชาร์จไฟ นอกจากคนรวย ๆ มีเงินซื้อมาเป็นของเล่น มีรถสำรองใช้หลายแบบหลายคัน
ทีนี้มามองเมืองไทย หลายคนอาศัยที่อาคารพาณิชย์ (ตึกแถวนั่นแหละ) จะชาร์จที่บ้านก็ไม่ได้ หรืออย่างผมถ้าสร้างบ้านส่วนตัว เอาตามจริงก็ทำได้ แต่ผมนอนที่ตึกแถวสะดวกกว่า ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง เช้าตื่นขึ้นมาไม่ต้องเสียเวลาขับารถไปทำงาน พอพักงานก็เดินขึ้นบันไดไปนอนพัก พอถึงเวลาทำงานก็เดินลงมาทำต่อ ถ้าสถานีชาร์จเมืองไทยยังเพิ่มขึ้นแบบเต่าคลานแบบนี้ก็คงขายได้ในกรุงเทพล่ะครับ
มันเหมาะกับช่วงรอยต่อเทคโนโลยีมากๆ เพราะกว่าจะได้แบตที่จุไฟมากน้ำหนักเบา ขนาดเล็ก และสามารถชาร์จได้ไวทันใจแถมราคาถูกนั้น คงต้องใช้เวลาอีกเป็น 10 ปี E-power คือคำตอบของรอยต่อนี้ ยิ่งถ้า E-power สามารถ upgrade เพิ่มแบตและชาร์จด้วยไฟบ้านได้ด้วย เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานน้อยลง รับรองว่าขายดีเป็นเทน้ำเทท่าแน่นอนครับ
จริงๆแบตมันไม่ได้แพงขนาดนั้นหรอกครับ บ้านเรามันแพงกับภาษีนี่แหละครับ
ต่างประเทศรถ EV สมรรถนะเท่า super car แต่ราคาเท่า eco car เยอะแยะครับไม่จำเป็นต้องรอเป็น 10 ปีหรอกครับเปลี่ยนรัฐบาลก็อาจจะช่วยได้แล้วครับ
Nissan e-Power ใช้พลังงานแบบเดียวกับ รถ Nissan Leaf แถมพลังเทียบเท่ากับรถ Hybrid ทั่วไปครับ
นิสสัน สุดยอดจริงๆ
ดีมาก
สุด !! เด่วค่ายอื่นตามแน่
ศูนย์ Nissan kkt ที่ขอนแก่น สามารถทำให้ไฟหรี่ LED Almera กลายเป็นไฟ Day time ได้ เป็นเครื่องมือแท้จากโรงงาน (แห่งเดียวในอีสาน) ไม่มีผลกับประกัน ไม่ต้องตัดต่อสายไฟ
ผมเห็นเขาก็ทำได้ทุกศูนย์นะ 555
ล้ำครับชอบๆ
E-Power ฟังดูเเล้ว คล้ายๆ เครื่องปั่นไฟ
ถ้าจำไม่ผิดเค้าก็ใช้เครื่อง1.2ของมาร์ช.โน้ต.. มาปั่นไฟ เครื่องดีนะทนถูกซ่อมง่ายลงทุนต่ำ ไม่ต้องลงทุนผลิตเครื่องอื่นมาก็ใช้ได้
สุดยอดจิงๆ แต่ก็ไม่พ้นเครื่องยนต์อยู่ดีและ ถ้าไฟฟ้าก็ต้องชาดแบตเตอรี่เป็น ชม แล้วถ้ารีบๆไปทำงานไกลไปเอ้าแบตหมดชิปหายนี้จะใช้ไฟฟ้าให้ทันสมัยหรือมาทวงเวลาของคนขับกันแน่แล้วถ้าเป็นกะบะไฟฟ้า100%ล่ะจะวิ่งรอดหลอพูดระบบไฟฟ้า100%น่ะที่ไม่มีเครื่องเปลี่ยนแบตทีก็หลายตังเอาจิงๆสู้เครื่องได้หลอเครื่องใช่เป็น10-20 ปีราคาซ่อมก็ถุกกว่าเยอะผมไม่ชอบรถไฟฟ้าเอาตรงๆจบ นํ้ามันเติมเสร็จก็วิ่งต่อ
ดีครับ ไม่ต้องปวดหัวเรื่องเกียร์ส่งกำลัง เหยียบเต็มตีนไปเลย ไม่ต้องกลัวเกียร์พัง
ทำกระบะอีเพาเวอร์บ้างน่าจะดีนะคับ รอชม
แจ่ม
ก็น่าจะทำ 2 แหล่งจ่ายได้อ่ะนะ ตอนวิ่งก็เครื่องปั่นไฟปกติ พอถึงบ้านก็เสียบชาร์จไฟบ้านเอา หรือกลัวจะซ้ำกะ plug in hybride
อยากได้นิสสันนะครับ เเต่ไม่รู้ว่า ศูนย์ยังบริการดีเหมือนเดิมไหม (ลอง Search เน็ตดูนะครับ) ใจคอไม่ดีเลย
เหมือนหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า รถขุดตักบางรุ่น
แต่นิสสันเป็นเจ้าแรกที่นำมาใช้กับรถยนต์ นับได้ว่าล้ำมากๆครับ ดีแล้วครับมาตอนนี้ เพราะหากรอให้รถไฟฟ้าวิ่งได้ถึง หนึ่งพันกิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งได้เมื่อไหร่ อีพาวเวอร์ก็จะหมดความสำคัญลงเพราะ ในการชาร์จไฟฟ้าที่ระยะ หนึ่งพันกิโลเมตรนั้นก็น่าจะตรงกับช่วงเวลาพักผ่อนของมนุษย์เช่นเดียวกัน
Samart Kongsuthee tesla roadster 2020 วิ่งได้ 1000 กม. แล้วครับ tesla cybertruck ก็ 800 กม. แล้วครับเดี๋ยวพวก model s/3/x/y ก็คงขยับขึ้นมาประมาณนี้กันหมดแหละครับ e power คงเกิดยาก แต่ก็อาจจะเป็นไปได้ในไทยเพราะรัฐบาลเราไม่ค่อยอยากจะสนับสนุน EV
E power. ดีกว่า ไฮบริด มันใช้งาน ได้ยืดหยุ่น กว่า จริงๆมันไม่ได้ไหม่อะไรเลย มอเตอร์ มีแรงบิดที่สูง รถไฟหัวจักร ดีเซล ใช้เครื่องยนตร์ ขับเจนเนอเรเตอร์ จ่ายกำลังไฟฟ้าให้มอเตอร์เพื่อขับเคลื่อน E Power มีระบบแบตเตอรี่เพิ่มช่วยในช่วงเร่ง และทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ที่ติดตั้งเครื่องเจนเนอเรเตอร์ ผลิตกระแสไฟฟ้าช่วยขับมอเตอร์ จึงทำให้เครื่องยนตร์ทำงานที่รอบต่ำและคงที่จึงประหยัดเชื่อเพลิง
ชอบ e- power มากกว่า รถไฟฟ้าเปลี่ยนแบตทีอ๊วกเลย
ผมมีความคิดที่จะทำรถE power มานานแล้วครับรถแบบนี้แหละที่ตอบโจทร์นะตอนนี้แต่ถ้าให้ดีรถe power ต้องชาตร์ไฟได้ด้วยและก็บนหลังคารถหน้าจะคิดแผงโซลาเซวเพื่อชาตร์ไฟได้ด้วยบ้านเรามี่แดดทั้งปี และรถแบบนี้ไม่มีวันหมดไฟจอดตากแดดก็ขับต่อได้แล้ว ค่ายรถไหนทำได้ก่อนรวยก่อนครับ
น่าสนใจนะครับผม...
ฟังมาหลายสำนักและ ไม่มีใครบอกว่าประหยัดขนาดไหนเป็นตัวเลขชัดเจนเลย
ถ้าหากสมมุติว่ามันจะติดเครื่องด้วยรอบเดินเบาตลอดเวลา นิสสัน kicks ที่กำลังจะเข้าไทย ใช้เครื่องอัลเมร่า 1200 ซีซี ซึ่งเครื่องอัลเมร่านี้ถ้าติดเครื่องในรอบเดินเบาจะกินน้ำมันอยู่ที่ชั่วโมงละ 1 ลิตรนิดๆ แต่ระบบ e power จะเร่งรอบเครื่องยนต์มากกว่ารอบเดินเบานิดหน่อยอาจจะเป็นที่ 2000 รอบ ก็น่าจะกินน้ำมันชั่วโมงละ 2 ลิตร ขับรถ 1 ชั่วโมงระยะทางประมาณ 60-70 กิโลเมตร กินน้ำมัน 2 ลิตร น้ำมันลิตรละ 24 บาท E20 รวม 48 บาท อัตราการกินน้ำมันอาจจะอยู่ราวๆ 30 กิโลต่อลิตร
ปล. ผมแค่ลองคำนวณเล่นๆนะ
ปล.2 ที่ต้องคำนวณด้วยชั่วโมงเพราะว่า เครื่องยนต์ทำงานแค่ปั่นไฟอย่างเดียว รอบเครื่องยนต์น่าจะคงที่ อาจจะแปรผันแค่เล็กน้อยด้วย ecm
Sorn Toomgasorn ต้องรอให้เค้าเปิดตัว แล้วส่งมอบรถให้สำนักต่างๆ ไปทดลองขับก่อนสิครับ เพราะอัตราการประหยัด มันขึ้นกับน้ำหนักตัวรถด้วย ถ้าอยากรู้ลองไปดูอัตราการบริโภคน้ำมันของ Note e-power, Serena e-power ที่วางขายแล้วในญี่ปุ่นก่อนก็ได้ครับ
ได้ยินแว่วๆมาว่า
40โล/ลิตรครับ
ถ้าผมจำไม่ผิด
ขอถามหน่อยครับ 2 คำถามครับ
1. มอเตอร์ขับเคลื่อน เป็น DC กระแสไฟฟ้าตรง หรือ AC ไฟฟ้าสระลับครับ
2. มอเตอร์กำเนิดไฟฟ้า เป็น AC กระแสไฟฟ้าสระลับ หรือ DC ไฟฟ้าตรงครับ
ระบบนี้น่าจะดี
เจ้าอื่นก็คิดครับแต่ไม่กล้าพัฒนา(เพราะเป็นเทคโนโลยีเก่าที่รถไฟใช้มาเกือบ100ปีละ)..ไม่ใช่เป็นเทคโนโลยีใหม่แต่อย่างไดเพราะก็เลียนแบบมาจากรถไฟ..ไทยก็ใช้รถไฟอีเพาวเวอร์อยู่ทุกวัน
นนทวัฒน์ ปัญญาธิกะโพธิญาณรักประเทศไทยชอบดื่มโอเลี้ยง คล้ายกันครับ แต่ของรถไฟมันปั่นเข้ามอเตอร์โดยตรง แต่ของรถปั่นเข้าแบตเตอรี่ ใช้แบตขับเคลื่อน
ไม่ใช่ไม่กล้าครับแต่เขาไม่ทำ เพราะสุดท้ายก็ใช้น้ำมันก่อมลพิษอยู่ดี
facebook.com/100001142892059/posts/2646888382025899/
มันก้อคือเอาเครื่องปั่นไฟไปติดตั้งในรถ เพื่อผลิดไฟให้แบต พอแบตหมดก้อใช้เครื่องปั่นต่อ
น่าจะมีปลั๊กไฟฟ้่าสำหรับชาร์ตไฟฟ้าที่บ้านด้วยนะครับ
ก็อยากได้อีกแล้ว
ไม่น่าจะคุ้มค่านะครับเพราะมีการสูญเสียถึง2ครั้ง กว่าจะได้พลังงานมาขับที่ล้อ เสียที่เครื่องยนต์ครั้งหนึ่งต่อให้เป็นเครื่องเทอร์วาวล์แปรผันที่มีประสิทธิภาพสูงสุดก็ไม่เกิน50% แล้วยังมาเสียที่มอเตอร์อีกคิดว่าได้ไม่ถึง95%ของพลังงานที่จ่ายให้กับมอเตอร์ กลัวว่าจะเป็นงานหลอกๆเหมือนไฮบริดรุ่นพรีอุสของโตโยมากกว่า
เห็นด้วยครับ
ตั้งเปลี่ยนผู้บริหาร มีแต่ดีขึ้นเรื่อยๆเลย
ถือเป็นแนวคิดที่น่ายกย่องของค่ายนิสสัน.สงสัยเหมือนกันว่าใครจะคิดระบบชาร์จเจอร์แบบนี้ก่อน.
ค่ายอื่นเขาทำขายกันมาหลายปีแล้วครับ ที่ขายดีที่สุดคือ Mitsubishi Outlander PHEV ขายมา 7 ปี แต่ไม่เข้าไทยสักที
รถไฟครับ
รถขายน้ำอ้อยงานวัดครับ
นี่แหละที่คนจพมาซื้อเยอะกว่ารถยนต์ไฟฟ้า 100 % เพราะถ้าแบตจะหมดก็ใช้เครื่องยนต์ปั่นไฟ และวิ่งได้ดีไม่ต้องห่วงเรื่องที่ชาร์จไฟอีกต่อไป ไปถึงทีาหมายได้หมดห่วง
ทิศทางการพัฒนา e-Power คือจะเข้าใกล้ EV ครับ นั่นคืออีกหน่อย จะสามารถรับพลังงานได้สองทาง คือทั้งจากเครื่องยนต์สันดาปปั่นไฟเข้าแบตเตอรี่ และจากการชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่โดยตรงแบบ EV
หัวรถจักร ของรถไฟใช้อยู่นานแล้วครับ
Mitsubishi Outlander PHEV ขายมา 7 ปีแล้วครับ
@@user-ph5dm6kq5g Mitsubishi Outlander PHEV เป็น Plug-In Hybrid ที่สามารถรับพลังงานได้สองทางเหมือนกันครับ
หลักการทำงานคล้ายรถจักรดีเซลไฟฟ้าเลยครับ
ไม่ต้องเข้าใจอะไรยากเย็นหรอกเครื่องปั่นไฟก็จบครับ แทนที่จะใช้มอเตอร์กับแบตเตอรี่ แต่เครื่องปั่นไฟสนุกสนับสนุนกำลังไปมอเตอร์
E power ตอบโจทร์ครับแต่ถ้าให้ดีควรเป็นน้ำมันดีเซวที่ทำจากพืช100%ครับไม่ต้องน้ำเขาน้ำมันอีกต่อไปสร้างรายได้ให้ชาวสวนคนที่ปลูกข้าวก็มาปลูกฟามร์ปลูกมันแทน มีแต่ได้ทั้งนั้น คนไทยคิดเองทำเองเลยรถ E Power ผมจะซื้อเป็นคนแรกไม่กลัวว่ามันจะดีหรือไม่ดี ช่วยชาวสวนช่วยคนไทย
เป็นแนวคิดที่ดีมากเลยครับ 🥰
ปรับเป็น1.25ครับ แล้วชีวิตจะดีขึ้น
เป็นระบบในอุดมคติเลยคิดไว้นานแล้วในที่สุดก็มีการทำออกมาใช้งานจริงเสียที
เป็นไปได้อยากให้ทำ cc เล็กเท่ามอเตอร์ไชค์ พอได้ปั่นไฟเพียงพอ
น่าจะเพิ่มฟังก์ชั่นถอดเครื่องปั่นได้ ถ้าในอนาคตมีที่ชาร์จเยอะๆ รถจะได้เบาขึ้น
ผมทำแล้วใช้เครื่องมอไซ ปั่นไฟเข้าแบต
เอามาไว่ในกะบะตัวใหม่เลยครับ
ระบบนี้ดีมากน้ำมันปั้นไฟ ไม่ต้องจอดชาตสำหลับคนที่ไม่มีที่ชาตไม่สะดวกชาต
เวลาเปลียนแบตจะแพงไหมน้อ
👍👍👍
จินตนาการว่า มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ มีระบบน้ำกรดไหลหมุนเวียนเข้าออกแบบระบบหม้อน้ำรถยนต์ หรือเหมือนระบบแอร์
เมื่อน้ำกรดขาเข้าไหลเข้าไปใช้งานสักพักก็ลดประสิทธิภาพลงก็ไหลออกมาเข้าอุปกรณ์หรือวงจรปรับปรุงภายนอก โดยอุปกรณ์ภายนอกนี้อาจจะใช้พลังงานเพียงเล็กน้อย แล้วก็ไหลเข้าไปในแบตเตอรี่ใหม่ ทำให้แบตเตอรี่มีไฟใช้ตลอดเวลา หมุนเวียนอยู่อย่างนี้..เรื่อยไป....
อยากรู้อย่างเดียวคือน้ำมันถังนึงวิ่งได้เท่าไหร่ สิ้นเปลืองเท่าไหร่ ตรงนี้จะตอบได้50%เลยว่าคนจะซื้อมั้ย
ค่าบำลุงรักษาเสียสองต่อนะครับ ทั้งเครื่องยนร์ และแบตเตอรี
อยากได้ข้อมูลตอนซ่อมแพงไหม..จุกจิกไหม
Hydrogen Fuel Cell EV เซลล์เชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าแบบเติมไฮโดรเจน ญี่ปุ่นกำลังพัฒนา แต่ดูแล้วเสียวๆ แบบรถใช้แก๊ส แต่เคยมีเซลล์แบบเติมน้ำมัน ข้อเสียคือราคาแพงมากๆ(มีส่วนผสมจากทองคำขาว)
Somjitra ราคาเชื้อเพลิงแพงกว่าน้ำมันอีกมั้งครับ อีกอย่างเหมือนพกระเบิดไว้บนรถเลย ระเบิดทีน่าจะรุนแรงกว่ารถติดแก๊สเยอะครับ
รถแก๊สระเบิดแหกแค่หลังรถ แต่ H2 แหกทั้งคันครับ ถ้ารั่วโดนแดดระเบิดทันที ไม่มีสีไม่มีกลิ่น รู้ตัวตอนอยู่ รพ แล้ว
คล้ายๆกับหลักการทำงานของรถไฟไทยไหมครับ แต่รถไฟใช้เครื่องดีเซลปั่นไฟ
ประหยัดเงินตอบโจทย์ความต้องการของคุณและคนไทยทุกคน
นิสสัน เขาพัฒนามานานแล้วเรื่องนี้ ขายทั่งโลก โดยเฉพาะนิสสัน leaf E-power ตอบโจทย์ประเทศที่มีสถานีชาร์จน้อย หรือไม่มีมี มลภาวะก็น้อยมาก น้อยกว่าเครื่องตัดหญ้าอีกด้วย เป็นเครื่องเล็กๆ แค่ปั่นไดชาร์จก็ใช้ได้แล้ว ไฟฟ้าหมด ก็ปั่นอีก มีระบบควบคุม โอ้ยยอดจริงๆ
มลภาวะมันน้อยขนาดนั้นเลยหรอครับ
ผมเคยดูคริปที่สดสอบเขาบอกว่าอีพาวเวอร์ไม่ประหยัดน้ำมันนะครับ
จะมีระบบเบรกแบบชาร์จกลับหรือเปล่า
สุดท้ายก็ไปจบที่ EV ไม่ได้ต่างจาก Hybrid เท่าไหร่
e-power จึงแค่ฉีกไปวิ่งทางคู่ขนานมอเตอร์เวย์คนเดียว
แต่ชูประเด็นหลอกว่าเป็นรถไฟฟ้า
e-power ประหยัดแต่วิ่งในเมือง
ยิ่งวิ่งเร็วขึ้นกลับประหยัดน้อยลง เพราะเครื่องต้องติดปั่นไฟถี่ขึ้นๆจนความเร็วสูงสุดแทบไม่หยุดเลย
แพ้รถไฟฟ้าEVที่ประหยัดค่าใช้จ่ายกว่า
แถมไม่ได้ประหยัดกว่ารถHybridมากจนคุ้ม ถึงขนาดต้องทิ้งHybridไปหา e-power
ถ้าราคาไม่แรงมาก ผมซื้อแน่นอน. นิสสัน
ผมว่าพลังงานมันดูหลายทอดไปหน่อย น้ำมัน - เผาไหม้ - ปั่นมอเตอร์ - ขับเคลื่อน มันเหมือนแปลงพลังงานกลเป็นไฟฟ้า แล้วแปลงไฟฟ้าเป็นกลอีกทีนึง ถ้าอยากพัฒนาจิงๆ ต้องทำให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพสูงจิงๆถึงจะนำไปปั่นไฟได้เต็มที่ ไม่งั้นเชื้อเพลิงที่ใช้ไปมันจะสูญเสียระหว่างกระบวนการ เป็นไอเดียที่ดีนะแต่ยังพัฒนาต่อไปอีกได้ไกล
ผมกลัวมันจะไม่โลกสวยยังที่ว่าอะดิครับ ดูจะสเปค เเบตลูกนิดเดียว วิ่งได้นิดเดียวก็ต้องติดเครื่อง เผลอๆเครื่องติดแทบตลอด ไม่มีที่เสียบปลักอีก ข้อเสียหนักๆคือถ้าระบบไหน เช่น drive ขับเคลื่อน หรือ driveชาต์จ มีปัญหาขึ้นมา คือจอดอย่างเดียว จะประคองขับแบบพวก toyota ไม่ได้
ดูเหมือนจะดีครับ แต่พอคิดตามดูแล้ว กำลังเครื่องยนต์ยนต์เล็ก แบตเตอรี่ก็เล็ก แล้วกำลังการขับเคลื่อนขอรถยนต์ที่ใช่พลังงาน e-power จะมีแรงกำลังแค่ไหน ดูเหมือนว่าจะเหมาะกับการใช่ในเมืองเท่านั้น ข้ามจังหวัดคงเดินทางกันเหนื่อย
สรุปมาเลยกี่โลลิตร จะได้รู้ว่าคุ้มไหม
ดีมาก อี เพาเวอร์
ชอบมากครับ หากพัฒนาต่อให้ประหยัดอีกกว่านี้ จะเจ๋งเลย เช่นเพิ่มขนาด,คุณภาพแบตเตอรี่ ให้สัก400 กม. ชาตไฟทีนึง จะประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นอีก
มันชาร์จไฟไม่ได้ครับ ไม่มีปลั๊กครับ เติมน้ำมันอย่างเดียวครับ
อยากได้สักคัน จังเลย
งั้นก็ไม่ต่างจาก*หัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า*แหล่ะ แค่มีแบตเพิ่มมา กับ ชาจต์ไฟนอกได้ ส่วนด้านประสิทธิภาพดีกว่า ระบบไฟฟ้า100%ยุแล้ว แต่ด้านราคาแพงโขเลย เพราะต้องมีตทั้งเครื่องยนต์สันดาป ทั้งไดปั่นไฟ ชุดชาจต์อีก ที่เพิ่มมากจากระบบไฟฟ้า100%
เอาเครื่องยนต์ไปปั่นไฟฟ้า ใช้ไฟฟ้าไปขับเคลื่อน
หลักการก็แบบเดียวกะรถไฟ ดีเซลไฟฟ้าเลย
รถถัง ABRAM ก็ใช้หลักการนี้นะแต่ใช้เครื่องอีกแบบ
ผมคิดได้หลายปีแล้วครับ...แต่ผมทำไม่ได้
อีเพาเวอร์ ดีไม่ต้องจอดชาร์จไฟ แต่มีมลพิษบ้าง แต่น้อยกว่ารถใช้น้ำมัน100%
ผมชอบไฟฟ้าล้วน ไม่ต้องมีเครื่องยนต์สันดาปภายในมาเกี่ยว ไม่ปล่อยไอเสียทำให้โลกร้อน
ทำไมไม่ออกแบบให้มอเตอร์ไปอยู่ที่ดุมล้อซะเลย ประหยัดชิ้นส่วนส่งกำลังไปอีกหลายชิ้น
เทคโนโลยี่ใหม่นี้ ญึปุ่นจะเริ่มนำมาใช้งาน ในกีฬา โอลิมปิค แต่ขอบอกว่า ค่ายญี่ปุ่นอื่นๆ ก็กำลังทำ เพื่อให้ทันโอลิมปิค ให้ผู้ผลิตทดลองไปก่อน ไม่นานก็มาขายในไทย แบบรถพลังงานไฟฟ้า คนไทยรับทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ขอให้มาเห้อะ
เครื่องยนต์ปั่นไฟควรจะประมาณ0.5ลิตรก็มีกำลังเพียงพอแล้ว นิสสันลองพัฒนาเพิ่มเติม
เขาเผื่อขึ้นทางชันขึ้นดอยหรือป่าวครับ
เอาตรงๆ นิสสันมีเครื่อยนยนต์เล็กสุดที่พัฒนาอยู่ในยุคปัจจุบันคือ 1 ลิตรครับ ซึ่งก็เป็นเครื่องยนต์เดียวกับที่ใช้ใน Almera 1.0 Turbo ตัวใหม่น่ะแหละครับ ถ้ามองในแง่ธุรกิจ ความคุ้มทุน การพัฒนาและผลิตเครื่องยนต์หลายรุ่น หลายขนาด ก็อาจจะมีต้นทุนสูงกว่าและไม่คุ้มครับ
เพราะว่านิสสันอยากใช้เครื่อวเดิมที่มีอยู่แล้วครับ เครื่อง 1.2 รหัส HR12DE อยู่ในอัลเมร่าและมาร์ชตั้งแต่รุ่นแรกอยู่แล้วคงไม่อยากวิจัยเครื่องใหม่
แต่อนาคต ถ้าผลตอบรับ e-Power ดี มีกำไรใน segment นี้ ผมเชื่อว่า นิสสันต้องลงทุนกับไอ้เครื่องยนต์ปั่นไฟตัวนี้ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นแน่นอน เผลอๆจะมีลูกเล่นพวก Load variable Electronic controlled speed, torque หรือแม้แต่ charge converter ยังมีทิศทางให้วิจัยพัฒนาต่อได้อีกเพียบครับ
การจะผลิตเครื่องยนต์รุ่นใหม่ออกมานั้น มันต้องใช้งบประมาณในการวิจัยเยอะ ต้องสร้างเครื่องจักรผลิตใหม่ สร้างไลน์ผลิตใหม่ ไหนจะจ้างแรงงานเพิ่มอีก เขาก็เลยเลือกเอาเครื่องยนต์ที่มีอยู่ในปัจจุบันมาใส่ เพื่อลคค่าใช้จ่าย
ค่าmaintenanceจะตามมาเยอะมั๊ยทั้งเครื่องยนต์ เจน มอเตอร์ขัข แบตเตอรี่ถ้าevจะมีแค่มอเตอร์กับแบต
#ขอเทคนิคลึกหน่อยนะครับ
#หาข้อมูลไว้เป็นตัวเลือกครับ
1.e-POWER เครื่องยนตร์จะไม่ทำงานตลอด #ถาม ECU จะเก็บข้อมูลการทำงานของเครื่องยนต์หรือไม่ (ถ้ารถน้ำมันจะถ่าย นมค.ที่ 10,000 km.ซึ้งวัดจากระยะที่เครื่องยนต์ทำงานจริง) 2.ที่ทราบ e-POWER เครื่องจะทำงาน 3 ช่วงรอบความเร็ว 2000,4000,6000 #ถาม ช่วงความเร็วรอบ รถให้ความเร็วเท่าไร (Hybrid ของ H วิ่ง ตจว.ถ้าจำไม่ผิดความเร็ว 💯 ขึ้นจะใช้กำลังจากเครื่องยนต์ รอบ 2000 ทำให้ประหยัด)
ค่าบำรุงรักษาก็ถือว่าเบิ้ลสองเพราะต้องดูแลทัังน้ำมันและไฟฟ้า
ประหยัด น้ำมัน กี่%