‘การบน’ สู่ ‘สินบน’ เพราะความเชื่อคนไม่เคยเปลี่ยนแปลง? | Shortcut ปรัชญา EP.6
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 19 พ.ค. 2024
- ‘การบน’ กับ ‘สินบน’ เหมือนหรือต่างกันอย่างไร?
Shortcut ปรัชญา เอพิโสดนี้ชวนตั้งคำถามกับพัฒนาการ ‘ความเชื่อ’ ของมนุษย์ ที่ดูเหมือนจะเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย แต่หากมองดีๆ ความเชื่อบางอย่างอาจเปลี่ยนแค่รูปลักษณ์ภายนอก แต่โดยเนื้อแท้กลับไม่ต่างกันมากนัก (หรือเปล่านะ?)
‘การบน’ เทพและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ กับการให้ ‘สินบน’ แก่ผู้มีอำนาจ แท้จริงแล้วคือเรื่องเดียวกันหรือเปล่า ความเชื่อในแต่ละยุคทำงานอย่างไร มีเพื่ออะไร และทำไมเราอาจเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเชื่อในอะไรบางอย่าง?
ชวนคิด ชวนถาม กับ ภาคิน นิมมานนรวงศ์ และ ฟาง-รัฐโรจน์ จิตรพนา
Time Index:
00:00 Sneak Peek
00:28 เกริ่นนำ
01:34 จุดเริ่มต้นของความเชื่อ
04:15 ทำไมเราเชื่อในศาสนาหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์
07:03 ยุคสมัยเปลี่ยน ความเชื่อเปลี่ยนไปอย่างไร
09:00 ถ้าเราเชื่อในสิ่งอื่นเราจะเชื่อในตัวเองน้อยลง?
12:51 ความเชื่อแต่ละยุคเหมือนหรือต่างอย่างไร
18:54 คำถามทิ้งท้าย
กดติดตาม และ กดกระดิ่ง: bit.ly/45KZn3w
ติดตาม THE STANDARD PODCAST ในช่องทางอื่นๆ
Website: www.thestandard.co/podcast
Twitter: / thestandardpod
Facebook: / thestandardth
TikTok: / thestandard.podcast
Spotify: bit.ly/3NhRWZg
Apple Podcasts: bit.ly/42OGIkI
SoundCloud: / thestandardpodcast
#การบน #สินบน #ความเชื่อ #ปรัชญา #Shortcutปรัชญา #TheStandardPodcast #TheStandardTh #TheStandardCo #podcast
00:28 เกริ่นนำ
01:34 จุดเริ่มต้นของความเชื่อ
04:15 ทำไมเราเชื่อในศาสนาหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์
07:03 ยุคสมัยเปลี่ยน ความเชื่อเปลี่ยนไปอย่างไร
09:00 ถ้าเราเชื่อในสิ่งอื่นเราจะเชื่อในตัวเองน้อยลง?
12:51 ความเชื่อแต่ละยุคเหมือนหรือต่างอย่างไร
18:54 คำถามทิ้งท้าย
ขอบคุณ Shortcut ปรัชญา ที่ทำให้นักปรัญชารู้สึกมีที่ยืนในสังคมขึ้นมาหน่อยครับ :)
ความเชื่อยังจำเป็นในการใช้ชีวิตอยู่หลาย ๆ เรื่องครับ อย่างเรื่องเงินที่เราใช้ ๆ กัน ก็เกิดมาจากความเชื่อว่ามันมีค่าใช้จับจ่ายซื้อขายได้ หรือความเชื่อที่ว่าถ้าเราทำงานแล้วจะได้เงินเดือน ก็จะส่งผลให้เราไม่ต้องไปคิดมากว่าชีวิตจะไม่มีเงินไว้ใช้ประทังชีวิต เพราะเราก็มีความเชื่อที่ว่ามันจะกฎหมายซักอย่างแน่ ๆ ถ้าทำงานแล้วไม่ได้เงินเดือน ถ้าเกิดแบบนั้นเราก็จะรู้สึกว่าไม่มีความมั่นคงในชีวิตก็จะทำให้หวาดวิตกนู่นนี่ ผมคิดว่าความเชื่อทำให้เราใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นเพราะไม่ต้องไปวิตกกังกลกับบางเรื่อง ผมเชื่อว่าความเชื่อยังจำเป็นเสมอครับ
จริง
แต่ความเชื่อจะทำให้เราสบายใจจนกว่าจะถึงวันที่เรารู้ว่าสิ่งที่เราเชื่อมาตลอดนั้นไม่จริง ดังนั้นควรมีแผนรับมือว่าถ้าเกิดที่เราเชื่อมันผิดเราจะทำยังไง ถ้าให้ดีที่สุดคือเรียนรู้ศึกษาจนเข้าใจแล้วค่อยเชื่อ
มุมมองที่ต่างแต่แฝงไว้ซึ่งความเข้าใจในบริบทที่แตกต่างตามยุกสมัย..ว่ากันในเรื่องความเชื่อ..แหลมคมมากๆ..Fc
ความเชื่อที่ประกอบความรู้ความเข้าใจในทิศทางที่ถูกต้อง ยังคงจำเป็นอยู่เสมอครับ
ความเชื่อจำเป็นมาก ๆ กับชีวิต เพราะเราเชื่อ เราจึงทำให้สิ่งที่เชื่อเป็นจริง ฉะนั้นความเชื่อจึงเหนี่ยวนำชีวิตเราให้ไปสู่พื้นที่บางพื้นที่ที่เราต้องการ
ลุงเชื่อว่า การบนเกี่ยวข้องกับศาสนา เช่นการบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ แต่สินบนเป็นการใช้ในด้านธุรกิจ หรือข้อตกลงต่างๆเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ เส้นทางของการใช้ต่างกัน แต่วัตถุประสงค์เดียวกัน
ส่วนตัวนะครับ
บนบาน และสินบน
ต่างก็เป็นการให้สิ่งของกับสิ่งที่มีอำนาจ
เพื่อให้เราสำเร็จในเรื่องหนึ่งๆโดยมิชอบ
บนบาน ใช้กับอำนาจที่มองไม่เห็น
สินบน ใช้กับคนที่มีอำนาจ
ไม่ได้จำเป็นว่าจะเป็นเรื่องธุรกิจหรือเปล่า
สมมุติผมบนว่าขอให้ขายที่ได้ ขอให้ชนะคดี
ผมก็สามารถติดสินบนให้เจ้าหน้าที่รัฐ,นายหน้า ให้ผมขายที่ได้,ชนะคดีได้ เหมือนกัน
คนบนแล้วเชื่อว่าตัวเองได้ผลประโยชน์เพราะบน แสดงว่าเขาก็รู้ว่าสิ่งที่เขาทำมันไม่ชอบ
บนให้สอบได้แล้วได้ ถ้าได้เพราะบน ก็แสดงว่าเราไปแย่งที่คนเก่งๆ ที่ควรจะได้สิทธิ์เรียนจริงๆมา
ไม่ได้ต่างจากติดสินบนกรรมการคุมสอบให้เราสอบได้เลย
@@DucknoopCUE-ql9xi
"บนให้สอบได้แล้วได้ ถ้าได้เพราะบน ก็แสดงว่าเราไปแย่งที่คนเก่งๆ ที่ควรจะได้สิทธิ์เรียนจริงๆมา" อธิบายแบบวิทยาศาสตร์ให้หน่อยสิว่ามันทำงานยังไง? สมมติผมไปบนอะไรไว้ แล้วคนตรวจข้อสอบเกิดใส่คะแนนผิดพลาดทำให้ผมสอบติดเพราะได้คะแนนมากขึ้น งั้นหรอ? คุณจะอธิบายแบบนี้รึป่าว
ผมคิดว่ายังไงมันก็ต่างกันเพราะการติดสินบน มันเกิดการตกลงระหว่างผู้เกี่ยวข้องและมีคนได้ประโยชน์-เสียประโยขน์โดยตรง แต่การบนบานมันไม่มีใครได้ผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างผู้เกี่ยวข้องเลย ผู้ได้ผลประโยชน์จากการไปบนบานคือ คนดูแลสถานที่นั้น จะเป็นวัด หรือคนขายของเซ่นไหว้ แต่พวกเค้าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตรวจข้อสอบหนิ
อยากให้น้องฟางกลับมาทำรายการ ใดๆในโลกล้วนฟิสิกส์ มีนักสื่อสารวิทยาศาสตร์อีกมากมายที่มีความสามารถ เอาอาจารย์ เจษฎา ก็น่าสนใจ
ก็จริง ผมว่าวิทยาศาสตร์น่าสนใจกว่าปรัชญา เปลี่ยนแค่คนพอ รายการคงอยู่
ส่วนตัวชอบรายการนี้เพราะเราได้คิดตามทั้งคลิป ไม่ใช่แค่รับฟังคำตอบแต่ได้คิดคำตอบของตัวเองด้วย
@@ak0338ทุกคนคิดคำถามและตอบในสิ่งที่ตัวเองอยากให้คำตอบเสมอแหละ
มีประโยชน์ แต่น้อยกว่าความรู้แท้ๆเยอะ
ถ้าอยากแค่มีคนตั้งคถามให้ ไปให้พระถามก็ได้
เห็นด้วยครับ อยากให้รายการกลับมา เพื่อกระจายความรู้ความใจวิทยาศาสตร์ สำหรับคนทั่วไปมากขึ้น มีประโยชน์มาก
ขอความรู้วิทยาศาสตร์ดีกว่า
แนวปรัชญา ไม่มีคำตอบ ไม่ได้ความรู้อะไรเลย เพราะมันพื้นๆมาก เรื่องที่คุยกันเนี่ย
ผมเชื่อในความพยายามมากครับ ความพยายามจะไม่ทำให้เราผิดหวัง เคยมีคนบอกผมว่าบางครั้งความพยายามก็ไร้ความหมาย ผมบอกเขาไปว่าถ้าโทมัสเอดิสันคิดแบบคุณ ป่านนี้เราคงไม่ทีหลอดไฟใช้แล้ว😅
ติดตามทุก ep ครับบ
น่าเอาเรื่องสินบน-ของขวัญมาพูดนี่จะมันส์กว่า
เงินไม่ใช่ทุกสิ่งในชีวิต เราจึงต้องจบเรื่องเงินกับเรา จนมีชีวิตที่เลือกได้ เพื่อไม่ให้คำว่า “บน” หรือ “สินบน” มากวนใจกวนชีวิต❤❤
เอาเงินมาให้ผมได้มะ เงินยังจำเป็นต่อผม
@@johanlofilelo5359 ของฟรีไม่มีในโลก😁✌🏼
อยากฟังนานๆครับ ชอบๆๆๆ
ผมว่าความเชื่อจำเป็นอยู่ในทุกยุคทุกสมัยครับ เพื่อพลักดันให้เราทำอะไรบางอย่าง เพื่อทำให้ชีวิตมีความหมายอะไรสักอย่าง ถ้าเราไม่เชื่อในอะไรเลย เราก็เหมือนไม่มีชีวิต กลายเป็นคนตายที่มีชีวิต
ผมเชื่อว่าอย่างนั้น
”ศาสนา“ คือความเชื่อที่มีหลักการ รูปแบบที่ชัดเจน หลักคำสอนที่เป็นระบบระเบียบ มีความเชื่อมโยงกันในแต่ละประเด็นที่มากพอจะเป็นศาสตร์อย่างหนึ่งได้ โดยเป็นหลักที่แทบจะไม่เปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อม สังคมและยุคสมัย ส่วนความเชื่อที่ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของศาสนา ก็เป็นสิ่งที่มีความหลากตามภูมิภาคและยุคสมัย
ใบเบิลสอนว่ามนุษย์ที่มีความเชื่อในพระเยซูคริสต์ พระองค์ทรงประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้(พระเจ้าอยู่ในผู้เชื่อ)ก็มีดูนามิส แปลว่าอานุภาพ พลัง บางครั้งก็เรียกว่าฤทธิ์เดช ใกล้เคียงกับคำว่าไดนาไมต์ ความจริงแล้วมนุษย์มีพลานุภาพ ขอเพียงมั่นใจในตนเอง(ในทางที่ถูก)พระเจ้าทรงออกแบบให้มนุษย์ดำเนินในทางที่ถูกต้อง
พระเยซูต้องรับกรรมที่ตัวเองไม่ได้ทำการกินบ้านกินเมืองก็เช่นกันกรรมตกไปอยู่ในมือคนบริสุทธิ์นับล้าน
ชีวิตมันต้องเดินตามหาความฝัน~
นักธุรกิจที่เก่งและรวยบางคนยังใช้ศาสตร์ความเชื่อเพื่อส่งเสริมเกื้อหนุนกับความสามารถของตัวเอง ใครกันจะกล้าพูดได้เต็มปากว่าตัวเองไม่ใช้ความเชื่อในส่วนนึงของชีวิต นอกเสียจากคุณไม่มีจิตใจเหมือนหุ่นยนต์
คณิตศาสตร์เวลาจะเริ่มนิยามทฤษฎีบทก็ต้องเริ่มต้นมาจากสัจพจน์ซึ่งต้อง"เชื่อ"ว่าเป็นจริงโดยไม่ต้องพิสูจน์เช่นกัน
คิดถึงน้องฟาง
เชื่อในเชื่อ...
เชื่อในไม่เชื่อ...
มีที่ไปต่อ กะมีที่ต่อไม่ไปจากสิ่งที่มอง...
คิดถึงใดๆในโลกจังครับ😢😢😢
คิดถึงเหมือนกัน จากช่องความรู้ กลายเป็นช่องค้นหาปรัชญา 😢
บางทีคนเราก็EGO สูงจนยอมละทิ้งความรู้ไป
@@patpat7065 แล้วปรัชญาไม่ใช่ความรู้หรอคะ
ความเชื่อยังจำเป็นไหมสำหรับเรา..อาจจะบอกว่ามันมีการนำมาใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน ถ้าเราไม่เชื่อว่าการฝึกฝนตัวเองทุกวันจะทำให้เราเก่งขึ้น เราก็คงไม่สามารถไปไหนได้ไกล ทั้งนี้มันก็ขึ้นอยู่กับการพิสูจน์ของตัวเองด้วยว่าความเชื่อนั้นๆ ผ่านประสบการณ์ชีวิตเรามาแล้วมันยังเป็นจริงในชีวิตเราหรือไม่
แต่ส่วนตัวก็ไม่อยากให้ความเชื่อภายนอกมามีอิทธิพลกับความตั้งใจในการลงมือทำอะไรของคนๆหนึ่ง (ความเชื่อภายใน) เราเลยไม่อินกับการบนบาน หรือแม้แต่เรื่องสินบน เพราะเราอยากมีความภาคภูมิในใจตัวเองและสิ่งที่ได้รับมาด้วยความสามารถอย่างเต็มที่ ถ้ามันจะต้องแพ้ใครเพราะเรื่องกำลังทรัพย์หรือเจ้าไหนให้อิทธิฤทธิดีกว่า ก็แค่ทำใจไว้ว่า ว้า..น่าเสียดายที่คู่ค้าไม่ได้ทำงานกับคนที่ทุ่มเทความสามารถอย่างเต็มที่แบบเรา หรือถ้ามีใครจะแนะนำเราให้บริษัทหรือคู่ค้า ก็อยากให้เป็นการแนะนำเพราะมั่นใจในความสามารถของเราจริงๆ ถ้ามีโอกาสได้พึ่งพาสิ่งที่มองไม่เห็นก็คงขอแค่ให้ตัวเองมีกำลังใจทำในสิ่งที่ตั้งใจโดยไม่เหนื่อย ไม่ย่อท้อ แบบนั้นซะมากกว่า
คลิปได้คำตอบเพิ่มจึ้นเลยครับ 🤔🤔🤔
เคยคุยกับแฟนเรื่องศาสนากำลังถดถอยมาหลายครั้ง เค้าข้องใจมาตลอดว่า "ถ้าศาสนา (ไม่ว่าศาสนาอะไรก็ตาม) สอนให้มนุษย์เป็นคนดี ทำไมยุคนี้ทำดีไม่ได้ดี ทำชั่วยิ่งเจริญ?"
เพราะมันอาจไม่ตอบโจทย์โลกยุคใหม่ที่ผู้คนหนาแน่นขึ้น ไม่ได้แข่งแค่กับคนข้างหมู่บ้าน แต่กับคนทั้งเมืองหรือทั้งโลก ต้องการชีวิตที่ก้าวหน้า หากพึงพระเจ้าที่จับต้องไม่ได้ งั้นพึงมนุษย์ที่มีอำนาจเงินทอง จับต้องได้ น่าจะดีกว่า หรือเปล่า???
Without faith , we have nothing 🥺🥺
"ชีวิตยังมีงวดหน้าเสมอ"
สิ่งที่ขอมีเพียงหนึ่งเดียว ตัวเลข 2 ตัว
จะว่าได้ไหมว่า ความไม่เชื่อก็คือความเชื่ออย่างหนึ่ง แค่เชื่อในสิ่งที่ครงกันข้าม
เพราะเชื่อจึงลงมือทำ แต่ให้ตระหนักว่าความเชื่อเกิดจากข้อมูล ถ้าข้อมูลเปลี่ยนก็อย่าจมปลักเชื่อแต่สิ่งเดิมๆ
สัปดาห์นี้งดหรอครับ
สังคมไทย..หัวหมูขายดีอยู่ครับ
ในที่สุดก็มีคนพูดเรื่องนี้ ว่า การบนคือการคอรัปชั่นรูปแบบหนึ่ง ต้องให้ข้อเสนอเพื่อที่จะได้สิ่งที่ขอ
สิ่งเดียวที่ผมยังเชื่ออยู่คือ ความยุติธรรมไม่มีอยู่จริง
ธรรมชาติ จะตอบคุณเอง
เราบนเหมือนเดิมเเค่ ไม่ใช่เทพเเต่เป็นมานุสที่มีอำนาจเหนือกว่าในด้านที่ต้องการ
1:06 เชื่อ คำคม.
คุณฟางเอาคุณป๋องไปขังใว้ใหนละครับ
ความเชื่อกับความหวังดหมือนกันมั้ยครับ
ไม่จำเป็นแล้วครับความเชื่อ แต่บางอย่าง ถ้ามันดูดี ดูเท่ดี ถึงรู้ว่ามันไม่จริง ก็น่าจะออกมาเล่าต่อๆกัน
ในมุมของผม ความเชื่อ อาจจะถูกซ่อนเบลอๆไว้ข้างหลังสิ่งที่เรียกว่า ”ความต้องการ“
เพราะ ผมสังเกตุได้ว่าคนหลายคน ไปขอพรพระแม่ กราบไอ้ไข่ ไหว้พญานาคเชื่อมจิต ใส่เสื้อสีมงคล สวมกำไลหินปี่เซียะ ฯลฯ
ทั้งหมดนี้อยู่เหตุผลว่า ”ฉันต้องการ“ ทั้งนั้นเลย
เพราะฉะนั้น ความเชื่อ อยู่กับมนุษย์เราอยู่แล้วครับ ไม่แยกจากกัน
"พระแม่ ไอ้ไข่ ไหว้พญานาคเชื่อมจิต ใส่เสื้อสีมงคล สวมกำไลหินปี่เซียะ ฯลฯ" แล้วสิ่งที่คุณว่ามานี่มันเกี่ยวอะไรกับศาสนาหรือ?
ศาสนาพุทธไม่ได้สอนให้คนทำเรื่องพวกนี้หนิ ดังนั้นคนที่ไม่นับถือศาสนาแต่ทำในสิ่งที่คุณพูด ก็ยังมีค่าเท่่ากับ "คนไม่มีศาสนา" ไม่ได้มีอะไรย้อนแย้งหนิ
@@eak9110 ผมแค่ยกตัวอย่าง เพื่ออธิบายถึงการแสดงออกว่า “เชื่อ” เพราะ “ต้องการ”
ซึ่ง ที่ผมใช้ตัวอย่างนี้ เพราะคนรอบตัวผมหลายๆคน บอกผมว่าไม่มีศาสนา แต่ทำแบบที่ผมพูด ครับ
ผมแค่ใช้ตัวอย่างที่ผมมี ไม่ได้เหมาเราว่าคนไม่มีศาสนาทุกคนจะทำ
@@eak9110 อ้อ ขอบคุณที่มาทักท้วงกันนะคับ ผมน่าจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับนิยามของ “ไม่มีศาสนา” ที่ไม่ตรงกันกับทุกคนนิดหน่อยมั้งคับ ขอบคุณมาทักท้วงจริงๆ
ผมแค่เข้าใจว่า พระแม่คือศาสนาพราหมณ์ ไอ้ไข่คือศาสนาผี สีมงคลมาจากโหราศาสตร์ยิปซี ปี่เซียะคือความเชื่อจีนโบราณ
ขอบคุณมากๆคับ กระจ่างขึ้นเยอะเลย 🙇🏻♂️🙇🏻♂️
@@tumxc ไม่เป็นไรครับ เราแลกเปลี่ยนความเห็นกันได้ครับ สำหรับผู้ที่ไม่นับถือศาสนา ผมก็เห็นด้วยว่าพวกเค้ามีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจอื่นๆ แทนศาสนา เพราะส่วนนึงศาสนาพุทธเองเป็นสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจและปฏิบัติตาม ซึ่งอาจไม่เหมาะกับบางคนที่ต้องการความง่าย รวดเร็วและเห็นผลทันใจ ตัวอย่างบางคำสอนให้เราปล่อยวาง แม้เป็นที่ดูเหมือนทำได้ง่ายๆ แค่มาจิตใจของเรา แต่มันช่างเป็นสิ่งยากในการปฏิบัติจริง
เมื่อมีเทคโนโลยีให้พึ่งพา ศาสนาก็เสื่อมมนต์ ..
ที่ว่าสินบน คือเราไปติดสินบนคนที่มีอำนาจมาก ให้เขาทำแทนเรา และเขาก็ทำได้จริง แต่เราต้องเสียตังค์ ทุกวันนี้สังคมถึงเลอะเทอะเละเทะ
สินบนมีมาทุกยุคทุกสมัย
อย่าเรียกว่าสินบน เรียกว่าถวายเงินให้ใช้ตามใจดีกว่าค่ะ
เชื่อหมดจดเลยครับ ว่ามนุษย์เกือบทั้งหมด บูชาเงิน
'ความเชื่อคือความมั่นใจในสิ่งที่หวังไว้ เป็นความแน่ใจในสิ่งที่มองไม่เห็น '
ฮีบรู 11:1
ความเชื่อที่ไม่มั่นใจเรียกว่า งมงาย ครับ
เอาตรงๆนะครับ คุยกับแบบ เปิดใจเลยนะ ผมชอบคนเก่ามากกว่า เขาเป็นคนที่มีชั้น เชิงการพูด การคุยที่ ค่อยๆลากคนฟังเข้าไป ในมุมที่จะสื่อ เล่าในมุมที่ มันคือความคลั่ง ไคล่ในเรื่องนั้นจริงๆ สื่อสารออกมาได้เข้าใจ ง่ายๆ ทั้งๆที่มันเป็นเรื่องที่ยากมากๆ พูดตรงๆ ผมเสียดายที่ทางผู้บริหาร ตัดสินใจแบบนั้น ความผิดที่เกิดขึ้น มันเป็น พฤติกรรมของ มนุษย์ ไม่มีใครสมบูรณ์ในทุกด้าน และเขา ทำได้ดีในการถ่ายทอด ทำให้อยากไปศึกษา ต่อ เพราะมีแหล่งอ้างอิงจริงๆ พอเป็น แนว ปรัชญา พิธีกรเขาใจแบบนึง คนฟังก็รับรู้ มาอีกแบบ มันเลยขัดแย้งกันทางข้อมูล ซึ่ง เทียบกับวิทยาศาสตร์สายหลัก ที่มีคำตอบ จริง พิสูจน์ได้ และสนุกด้วยมันให้อารม ความ รู้สึกที่ สนุกที่ได้เฝ้ารอคอยว่าสัปดาห์นี้จะ
ความเชื่อ เชื่อได้ แต่อย่าเชื่อหมดใจ ต้องมีคำถามสงสัยด้วย
เชื่อว่าประเทศไทยจะเลือกตั้งสว.อย่างโปร่งใส😅😅😅
ทุกวันนี้วิทยาศาสตร์ยังตอบไม่ได้เลยถึงจุดกำเนิดแรกของทุกสรรพสิ่ง มีแต่จินตนาการกับการเดา
สังคมมนุษย์ขับเคลื่อนด้วยความเชื่อร่วมกัน ไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยเหตุผล ถ้าคนเชื่อมากพอ จินตนาการร่วมก็อาจกลายเป็น “ความจริง” ขึ้นมาได้
ผ่านมา 6 EP แล้ว ไม่ปังเท่าอันเก่า 😢 สู้ๆครัช
ไม่เห็นด้วยครับ สินบนไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความเชื่อ แต่สินบนมันคือเครื่องมือตอบสนองการฉ้อโกง
เค้าไม่ได้บอกว่ามันคือความเชื่อหนิ เค้าบอกว่าคนยังมีความเชื่อเกี่ยวกับการบนบานสิ่งศักสิทธิ์ และยังเริ่มเชื่อเรื่องสินบนกับผู้มีอำนาจจะช่วยให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการมากขั้น
และสินบนไม่จำเป็นต้องเกิดในรูปแบบผลประโยชน์ทับซ้อนเสมอไป
@@eak9110 คลิปชื่อ "การบนสู่สินบน ความเชื่อไม่เคยเปลี่ยนแปลง" ผมไม่คิดว่านี่คือเรื่องที่บังเอิญเอ่ยถึง แต่มันคือความจงใจสื่อแบบนั้น ตามชื่อคลิป
@@palerpater สรุปคุณจะอ่านแค่ชื่อคลิปโดยไม่ต้องดูเนื้อหาหรอครับ เอาแบบงั้นจริงดิ?
@@eak9110 ตามสบายเลยครับ ขอบคุณที่ร่วมแสดงออกครับ
ก่อนที่คุณจะบอกว่า สินบน ไม่เกี่ยวอะไรกับความเชื่อ คุณต้องรู้ก่อนว่าความเชื่อคืออะไร ซึ่งในคลิปอธิบายไว้แล้วว่าความเชื่อคืออะไร และความเชื่อส่งผลต่อมนุษย์เราอย่างไร
เมื่อคุณทราบแล้ว เราก็มาหาความหมายของการบนบาน มันคือ ขอร้องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยโดยให้คำมั่นว่าจะให้สิ่งของตอบแทนหรือทำตามที่ให้สัญญาไว้เมื่อเป็นผลสำเร็จ มันคือความเชื่ออย่างหนึ่งว่า สิ่งศักดิ์จะช่วยเราได้
แล้วความหมายของสินบน มันคือ ทรัพย์ หรือสิ่งของที่จะให้เป็นเครื่องตอบแทนผู้ที่จะช่วยให้สำเร็จตามประสงค์
หรือจะให้ความหมายทางกฎหมาย ก็หมายความว่า ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดที่ให้แก่บุคคลเพื่อจูงใจให้ผู้นั้นกระทำการ หรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นชอบ หรือมิชอบด้วยหน้าที่
สินบนเนี่ย เมื่ออ่านตามความหมายมันใช้ได้กับทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์และมนุษย์ด้วยกันเอง และมันไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับการฉ้อราษฎรบังหลวงแต่เพียงอย่างเดียว
และเพราะ เรามีความเชื่อว่าบุคคลที่มีอำนาจ สามารถทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เราร้องขอได้ เราจึงต้องการตอบแทนเมื่อสิ่งนั้นเป็นผลสำเร็จ
ฉะนั้น สินบนมันจึงเกี่ยวข้องกับความเชื่อ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเสมอ
ตอบแบบความรู้ทางญาณวิทยา (Epistomology) หรือหนึ่งในสาขาทางปรัชญานะครับว่าความเชื่อยังจำเป็นอยู่ไหมคำตอบของผมคงตอบว่าจำเป็นอย่างมาก เพราะความเชื่อนั้นก็เป็นส่วนประกอบของความรู้ของเราในปัจจุบัน โดยส่วนประกอบของ"ความรู้" (Knowledge) นั้นมาจาก J (Justification) คือเหตุผลสนับสนุน + T (Truth) คือ ความเป็นจริง + B (ฺBelief) คือ ความเชื่อ ซึ่งความทุกองค์ประกอบล่วนแล้วสำคัญ ยกตัวอย่าง เช่นเมื่อสมัยก่อนมีคนเชื่อว่าโลกนั้นแบนแต่ก็มีนักเดินเรือที่ไม่เชื่อและออกเดินเรือไปและพิสูจน์ว่านั้นกลม ที่จะกล่าวก็คือถึงแม้ว่าเราจะเชื่อบางสิ่งบางอย่างจนทั้งใจแต่สิ่งที่เชื่อนั้นอาจจะไม่เป็นความจริงหรือไม่ส่งผลดีต่ออนาคตก็ได้นะครับ ดังนั้นหากเราจะเชื่ออะไรก็ต้องลองหาเหตุผลสนับสนุนว่าหลักการมันถูกต้องไหมด้วยนะครับ จงอย่าเชื่อไปแบบหลับหูหลับตาครับผม