เพราะอะไรคนใช้รถไฟฟ้า ถึงกลับไปใช้รถน้ำมัน(ซะงั้น)!? สิ่งที่ต้องศึกษาก่อนตัดสินใจซื้อ
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 12 พ.ค. 2021
- #รถไฟฟ้า #รถยนต์ไฟฟ้า #Tesla #เทสล่า
ทำไมคนที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้าถึงกลับไปใช้รถน้ำมัน ข้อมูลงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียเมื่อ3ปีที่แล้ว ค้นพบว่าในเมืองแคลิฟอร์เนีย 20% ของคนที่ซื้อรถไฟฟ้าไปใช้กลับไปใช้รถน้ำมันเหมือนเดิมซึ่งด้วยเหตุผลบางอย่างเรามาดูกันว่ามีอะไรกันบ้างและถ้าอยากจะใช้รถยนต์ไฟฟ้าต้องดูอะไรมีความพร้อมแค่ไหนมาติดตามดูกัน
ขอบคุณข้อมูลจากทาง @BlinkDrive555 ด้วยครับ
🚘⚡สำหรับใครที่สนใจอยากเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดัน รถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานทางเลือกให้เกิดขึ้นในประเทศไทยให้ได้💥💥
เข้ามาเป็นส่วนนึงในการผลักดัน สมัครเป็นสมาชิกของช่องนี้เพื่อเข้าถึงสิทธิพิเศษต่างๆ👇👇
/ @welldoneguarantee
FB: @welldone guarantee
Tik Tok: bit.ly/3goOcUU
IG: welldone_guarantee
ติดต่องานได้ที่
welldone.guarantee@gmail.com
📌สมัครสมาชิก กอดคอกันดันกันโต
ถูกอย่างที่พี่พูดครับ จะเปลี่ยนจากรถน้ำมันไปเป็นไฟฟ้าได้ จุดชาร์จต้องเยอะเหมือนปั๊มน้ำมัน และระยะเวลาชาร์จต้องเร็วพอๆกับการเติมน้ำมันครับ ถึงจะพร้อมเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้า
อีกกลุ่มที่ควรสนับสนุนให้ทำใช้ EV มากที่สุดคือภาคขนส่ง และรถสาธารณะ เช่นรถเมล์ เรือเมล์ รถบรรทุก แท็กซี่ ขนส่งเดลิเวอรี่ เพราะ
ยุโรปหลายประเทศ ไม่สามารถ กลับไปใช้ รถน้ำมันได้อีก เพราะ ใช้นโยบายเลิกใช้รถน้ำมัน มันเป็นมุมมองที่เห็นได้ว่า รัฐคือปัจจัยสำคัญ ถ้ามีการส่งเสริม อย่างจริงจัง มันก็จะเป็นประโยชน์
คุณต้องมีรถหลายคันหลายประเภท ไม่ใช่เป็นรถคันเดียวจะใช้ไปทุกที่อันนี้ผิด รถไฟฟ้าใช้ไปทำงาน ส่งลูก ไปห้างฯ หรือไป ตจว.ใกล้ๆ หากไปไกลๆก็ต้องรถน้ำมัน วางแผนให้ดีให้ถูกมันก็โอเค
สำหรับไทย ปัญหาหลักเลยคือราคา
ทำไมพูดกันแต่เรื่องสถานีชาร์จไฟอย่างเดียวอีกอย่างที่หนักกว่าคือค่าแบเตอรรี่ที่ใช้ได้10ปีต้องเปลี่ยนใหม่ราคา5แสนกว่าไม่พูดกันเลยเวลาแบตฯหมดอายุชิ้นส่วนอื่นๆก็หมดอายุด้วยคนที่เมกาเขาถึงกับระเบิดรถทิ้งตามที่เป็นข่าว อย่าหวังว่าค่าแบตฯจะถูกลงไม่มีทาง แบตเตอรี่รถนำ้มันเมื่อก่อนลูกละ1พันเดี๋ยวนี้เกือบ2พันแล้ว มัวแต่ประหยัดค่านำ้มันที่เติมทุกวันที่เติม พอถึงตอนจบจ่าย5-6แสนเป็นค่าแบตฯอาจจะต้องทิ้งรถเพราะใช้10ปีเก่าและล้าสมัยแล้ว รถนำ้มัน15-20ปีก็ยังขับกันไได้ดีอยู่
ข้อเสียอย่างเดียวสำหรับเราคือ ชาร์จยาก เพราะถ้าเราไปเที่ยวแล้วพักโรงแรม มันหาที่ชาร์จลำบาหและใช้เวลานานเกินไป
ทุกการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีเริ่มต้นราคาสูงทั้งนั้นละครับ ดูง่ายๆยุคมีมือถือใหม่ๆเครื่องหลักแสน คงรอ 5-10 ปีข้างหน้าผมเชื่อว่ารถไฟฟ้าจะมาแทนที่ อะไหล่ถูกลง เทคโนโลยีกชาร์ตจะเร็วขึ้นเอง
สำหรับเราผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าหนึ่งในเหตุผล ที่หวนกลับไปใช้รถน้ำมันก็คือ
อย่าลืมว่า 1:5 นี่คือศึกษาในอเมริกา ซึ่งมีเทสล่าและแบรนทางเลือกอื่นๆ ซึ่งราคาไม่สูง แถมมีรัฐสนับสนุนเรื่องภาษี แถมสถานีชาร์ตเร็วแทบจะทั่วไปหมด ซึ่งในไทยไม่มีที่ว่าเลย ถ้ามาสำรวจในไทยมากกว่า1:5แน่ๆครับ แค่เอาเรื่องต้องเสียเวลาจอดชาร์ตชม. สองชม.แทนที่จะเข้าปั้มห้านาทีออก แค่นี้ก็ขอบายละครับ อีกสิบปีเจอกันรถไฟฟ้า
ตอนนี้เรายังเลือกได้อยู่ ใครชอบแบบไหนก็ใช้กันไป แต่ในอนาคต เราคงไม่มีสิทธิ์เลือก เพราะโลกมันต้องเปลื่ยนไป ชอบหรือไม่ชอบ ก็ต้องเอา
รถไฟฟ้ามันยังไม่สุดครับคือการพัฒนาได้แค่ครึ่งเดียวคือมันยังมีปัญหาเรื่องการที่ต้องใช้เวลาและเทคโนโลยีในการชาร์จครับ ขั้นสุดคือ fuel cells ครับมันเป็นเครื่องเปลี่ยน ไฮโรเจนและออกซิเจนเป็นไฟฟ้าโดยตรงโดยไม่มีการสันดาบ
สำหรับผมอีก 2-3 ปีข้างหน้า รถที่จะมองหาคงยังเป็นแบบ HEV PHEV หรือรถที่ใช้เครื่องยนต์ผลิตไฟฟ้าไปก่อน น่าจะเหมาะกับสภาพเมืองไทยในตอนนี้มากกว่า แต่อีก 12-15 ปีข้างหน้า เมื่อการชาร์จไฟให้รถไม่ใช่ปัญหาแล้ว รถยนค์ EV 100% จึงน่าใช้
ธรรมดาของการวิวัฒนาการของเทคโนโลยีครับ เดียวทุกอย่างพร้อมมันก็จะไปพร้อมๆกัน
ที่เติมพลังงานไฟฟ้าไม่เพียงพอต่อความต้องการ และต่อให้มีก็ชาร์จนาน ต่างประเทศ fast change เต็มถังครึ่งชั่วโมงถึงชั่วโมง
มันต้องใช้เวลา อีกนิดครับ คล้ายๆกับเทคโนโลยีโทรศัพท์ในยุคโนเกียร์ผงาด ระบบแอนด์ดรอยออกใหม่ ก็ไม่มีใครนิยมชมชอบ พอเวลาผ่านไปไม่นาน เฮ้ย!!!มันใช้ง่าย!!! มันดีโว้ย!!!
EV มาเรื่อยๆ อีกหน่อยก็คงเหมือนรถน้ำมันนั่นหละครับ ที่เต็มประเทศ วันนั้นชาร์จที่บ้านทุกคน และชาร์จที่สถานีเวลาออกต่างจังหวัด ข้อดีเค้าเยอะ ข้อเสียก็มี รอไปด้วยกันครับ เยี่ยมครับคุณเวล
ความสะดวก ไง เติมนำ้มัน ง่ายเร็ว ไม่ต้องวางแผนเดินทางเยอะ เจอปั้มแล้วเติม ไม่ต้องรอชาจนาน แต่ เอาง่ายๆ ยังไงรถไฟฟ้าก็ต้องมา เพราะพลังงาน ที่มาเป็นไฟฟ้า หลากหลายกว่า ยังไงอนาคตรถไฟฟ้าก็ต้องมา
เจย์ เลโน เป็นพิธีกรทอล์คโชว์ระดับตำนาน น่าจะเปรียบได้กับ ดำรง พุฒตาล ของบ้านเราได้มั้ง เป็นคนรักรถมาก มากจนไปออกรายการรับเชิญเกี่ยวกับรถหลายรายการ บ่อยซะจนมาทำรายการรถของตัวเอง