ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าตอนนี้ ระวังขาดทุน?! | Money Buffalo Podcast EP 160
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 27 เม.ย. 2024
- ตอนนี้เหมือนรุ่งอรุณของรถยนต์ไฟฟ้า ดูมีอนาคตรุ่งเรืองสดใส แต่เดี๋ยวก่อน! เราอาจจะไม่ต้องรีบจับจองเป็นเจ้าของรถ EV ตอนนี้ เพราะซื้อมาแล้วอาจจะยังไม่คุ้ม
#MoneyBuffalo #รถยนต์ไฟฟ้า #รถEV
ติดตาม Money Buffalo ในช่องทางอื่น ๆ ได้ที่
- Website : www.moneybuffalo.in.th/
- Facebook : / moneybuffalo
- LINE OpenChats : bit.ly/3WcAzzd
- Instagram : / moneybuffalo.ig
- Twitter : / moneybuffaloth
- TikTok : / moneybuffalo
00:00 เริ่มต้น
05:00 สุสานรถอีวี
07:25 โค้งสุดท้ายของรถน้ำมัน
12:51 ที่ชาร์ตรถไฟฟ้า
14:43 รถยนต์คันที่สอง
เอาตามความจริงนะ ผมซื้อ มอไซ ราคา55000 ผมเติมนเำมันทุกวัน เพราะเดินทางไกลทุกวัน ผมคำนวนแล้ว ปีนึงผมเสียค่าน้ำมันรถ หมื่นกว่า3ปี 5หมื่นกว่า เท่ากับผมได้รถใหม่อีกคัน แล้วแบบนี้ใครจะไหว ส่วนรถไฟฟ้าเพื่อนผมใช้อยุ่ถ้าระยะทางเท่ากันเขาเสียค่าไฟเฉพาะรถไฟฟ้า ปีละ3000 3ปียังไม่ถึงหมื่นเลย แล้วแบบนี้ผมจะไปสนับสนุนรถน้ำมันได้ยังไง ณ ตอนนี้โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว ไม่ต้องห่วงเรื่องเปลี่ยนแบตแล้วแพงหรอก เอาแค่ค่าน้ำมันที่ต้องจ่าย ก้อซื้อแบตได้สบายๆแล้ว นี่ผมคำนวนแค่ มอไซค์ของผมนะ ถ้ารถยนต์จะขนาดไหนคิดเอา แบตยังพัฒนาให้อึดขึ้น หรือราคาถุกลง มันยังทำได้นะ แต่น้ำมันจะทำให้ถุกลง หึหึมันไม่มีทางหรอก เชื้อเพลิงที่ใช้แล้วหมดไป ที่ต้องเอามาจากธรรมชาติ มันไม่มีทางถุกหรอก
ก็จริง ผมก็ขี่มอไซไฟฟ้า ถูกใจมาก แต่เราก็มีความรู้การทำงาน ต้องซ่อมดัดแปลงเป็นด้วย และเก็บตังไว้เปลี่ยนแบตที่เสื่อมด้วย
😂
ก็นั้นละรถไฟฟ้ามันทำให้ถูกได้อีกทำให้ดีได้อีก มันจึงไม่คุ้มในการซื้อตอนนี้
บวกแบตด้วยครับ มันคือพลังงานนะครับ
แบทมันก็ใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้แล้วหมดไปเหมือนกันครับ
การตัดสินใจทุกอย่างมีความเสี่ยงครับ ถ้ารอความชัดเจน ก็ต้องรอไปตลอดชีวิต
ขึ้นกับพอใจ ณ จุดไหน รับความเสี่ยงได้แค่ไหน เทคโนโลยี คู่แข่ง มีเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่ใช่แค่รถ EV แต่หมายถึงทุกอย่างในโลกนี้
ขอบคุณที่แชร์วิวนะครับ
ญี่ปุ่นก็โดนมาเล่นไฟฟ้า แต่เร่งพัฒนารถพลังงานไฮโดรเจน
ส่วนตัวคิดว่าถ้าใช้เยอะคือคุ้มค่ะ ทุกวันนี้ใช้ขับทำงานเดือนละประมาณ 5,000km. ใช้มาเกือบปีประหยัดค่าน้ำมันไป150,000บาท
สุดยอดจริงๆ
มนุษย์เรามีเหตุผล และความชอบที่ต่างกัน.. ใครสนใจใช้รถน้ำมันต่อ...ก็ใช้ต่อไป...ใครสนใจรถ EV ก็ซื้อใช้ไป..ที่สำคัญ เมื่อใช้รถน้ำมัน หรือ รถ EV แล้ว ถ้าช่วยชีวิตของเราให้ดีขึ้น หรือ มีความสุข...ก็เลือกสิ่งนั้น ๆ ไป ครับ !!!
คนที่บอกซื้อรถมาเพื่อใช้ สุดท้ายก็ต้องขายต่อ จะมีซักกี่คนที่ใช้รถจนตัวถังละลาย
แต่ก่อนผมก็มีความคิดแบบนี้ ใช้มา 10 ปี สุดท้าย ก็ต้องขายเพราะทนจุดด้อยของรถไม่ไหว แต่ยังดีที่ใช้รถตลาดราคาขายเลยได้ราคาดี
เคยเห็นคนที่ใช้รถไฟฟ้า ทุกคนบอกว่าไม่กลับไปใช้รถน้ำมันอีก บางคนขับเป็นแสนๆ โล เสื่อมแค่ 3-4%
ที่บ้านมีรถ 3 คัน ซื้อ byd atto เมื่อมี.ค. ที่ผ่านมา ผมใช้รถเยอะสุด วิ่งเฉลี่ย 80km ต่อวัน ปกติจ่ายค่าน้ำมันเดือนละ 7000 ค่าไฟบ้าน 4-5 พัน วันนี้ค่าไฟเพิ่มเป็น 7 พัน สรุปประหยัดค่าน้ำมัน 5 พันต่อเดือน...รถไฟฟ้าหากใช้เยอะคุ้มครับ หากกลัวขาดทุนไม่ต้องซื้อแพง
รถซื้อมาเพื่อใช้ ไม่ได้เกร็งกำไร ฉะนั้นจึงคิดว่า ใช้ ev วันนี้ประหยัดเงินวัน ถ้าวันนี้เราพอใจกับเทคโนโลยีขนาดนี้ก็ใช้ไป ยังไงเทคโนโลยีมันก็พัฒนาไม่สิ้นสุด
ที่สำคัญช่วยลดมลพิษได้ด้วย
👍👍👍
มันมีพวกจะรออีก100ปีแล้วจะซื้อกลัวตกรุ่น
@@tomtomtom3062555
ให้ข้อคิดนิดหนึ่งครับ ....รถน้ำมันผลิตมายาวนาน ปรับปรุง ข้อดี ข้อยด้อย ที่ผ่านมา จนถึงจุดที่ดีที่สุดในการพัฒนาแล้ว หากใครซื้อรถน้ำมันวันนี้ เท่ากับได้รถที่เพรียบพร้อมและดีที่สุดเลยครับ ถ้าเป็นคนก็บอยู่มหาวิทยาลัยปีสุดท้ายแล้วครับ แต่รถ EV ในวันนี้ เหมือนเด็กเพิ่งจะหัดเดิน เพิ่งเริ่มเดินมีล้มลุกบ้างตามประสาเด็กครับ ยังไม่ได้เข้าโรงเรียนเลยครับ (ยังต้องปรับปรุงแก้ไขข้อด้อย ข้อผิดพลาด ) ฉะนั้นซื้อ วันนนี้ จะเสียใจในปีหน้าครับ เทคโนโลยีมันกระโดดไปมากกว่าวันนี้ เช่นเดียวกับมือถือนั่นแหละครับ เมื่อปีที่แล้วระยะวิ่ง 3-400 แต่มาปีนี้ ระยะวิ่ง 5-700 ปีหน้า อาจจะวิ่งได้ 1000 ขึ้นแน่ๆต่อการชาร์จเพียงครั้งเดียว รวมทั้งแบตเตอรรี่ที่แย่งกันพัฒนาแบบไม่หยุดอยู่กัยที่ครับ
มองต่างกันเยอะเลยครับ ถ้ามองว่าซื้อมาแล้วยังไม่คุ้ม แล้วรถน้ำมันตอนนี้ซื้อมาแล้วคุ้มกว่าหรอครับ จากเหตุผลที่ยกมา นี่รถสันดาปอาการหนักกว่าอีกครับ
15 ปี ใช้แล้วขายต่อได้ราคา และบางคนเค้าไม่ได้มีที่ชาร์จไงครับ โลกแต่ละคนไม่เหมือนกัน
Ev มาแรงจนราคารับซื้อรถมือสอง ล่วงหนักกว่าเดิม ส่วนที่บอกที่ชาร์จน้อย ลองโหลดแอฟ EV เช็คเอาครับ 😅
อยู่คอนโดจะหาที่ชาร์จจากไหนครับ? ที่บอกว่าคุ้มไม่คุ้มคือถ้าคุณใช้รถน้อยยังไงรถน้ำมันก็อาจประหยัดกว่า แต่ถ้าใช้รถเยอะก็ไปไฟฟ้าครับ แต่คุณต้องมีบ้านที่มีที่ชาร์จด้วยนะ ลงทุนที่ชาร์จอีกเกือบแสน เกิดแบตเสื่อมในปีที่สามค่าเปลี่ยนแบตเท่าไรครับ? คิดเผื่อกันบ้างหรือยัง?
@@voyagerwithin8363 สวัสดีครับ ที่ชาร์จไม่ถึงแสนครับ บางแบรนด์ แถมฟรีครับ : ใช้รถน้อยรถเยอะ ไฟฟ้าก็ประหยัดกว่าครับ : แบตรับประกัน 8 ปีครับ : อยู่คอนโดชาร์จไหน ลองศึกษาดูครับ
ที่ชาร์จเขาแจกฟรีครับ ติดตั้งฟรี
ตอนนี้คนกำลังรอระยะเวลาชาร์จที่ไม่เกิน 5 นาที และระยะทาง 500 กม.ขึ้นไปแบบใช่ได้จริงๆ และยกเลิกมาตราฐานที่โอ้อวดทิ้งไป รอวันที่รถเสถียรมากขึ้นครับ
ผมใช้ byd 3 ส่วนตัว คิดว่า 8-10 ปี รถอะไรก็ขายไม่ได้ราคาอยู่เเล้ว เเต่ระหว่างที่ใช้รถ 8-10 ปีนี้ ต้องจ่ายค่าน้ำมันต่อเดือน มากว่า 3 เท่าตัว เอาค่าจ่ายน้ำมันไปต่อยอดอย่างอื่นดีกว่า ดีไม่ดี ใช้รถพรี หากคิดว่าเทคโนโลยีปีต่อไปดีกว่า ก็เหมือน รอไอโฟน 16
แบบนั้นก็ถุก ใช้น้ำมันไม่ต้องใช้เงินก้อน
ตัววัดที่ดีคือ ใช้แล้วรู้สึกว่าชีวิตตัวเองดีขึ้นมั้ย
ถ้าใช้รถ EV แล้วชีวิตดีขึ้น ก็ใช้ EV
ถ้าใช้รถน้ำมันแล้วชีวิตดีขึ้น ก็ใช้น้ำมัน
ขาดทุนหรือไม่ อยู่ที่
1) วางอคติลงครับ ตัดสินด้วยข้อเท็จจริง
2) อยู่กับปัจจุบันครับ
ยอมรัยความจริงด้วยนะทุกๆๆ 10 เปลี่ยนแบตฯ เหมือนซื้อใหม่และค่าบำรุงรักษาแพงมากๆๆ เหมือนได้รถใหม่เลยหละ
@@user-zc4up9pn6qแบตเสื่อมก็ไม่ได้จำเป็นต้องเปลี่ยนเดี๋ยวนั้นเลยนะครับรถมันก็ยังใช้ได้อยู่ปกติอารมเดียวกับแบตโทรศัพท์เลยใช้ไป3ปีแบตเสื่อมเค้าก็แค่แนะนำให้เราเปลี่ยนแต่เราไม่เปลี่ยนโทรศัพท์ก็ยังใช้ได้ปกติ
@@user-zc4up9pn6q คือลองคิดอีมุมนึงนะครับ อีกสิบปีเราก็ไม่รู้หรอกครับว่าถ้าต้องเปลี่ยนราคาแบตจะเป็นยังไง แต่ผมเชื่อว่าเทคโนโลยีจะไม่พัฒนาถอยหลัง และทุกๆครั้งที่เดินหน้ามักจะได้ของดีเมื่อเทียบกับราคาแน่นอน และของที่เป็นของเก่ากว่าราคาถูกลงเช่นกัน
แบตราคา500000บาทเปลี่ยนทุก10ปีตกปีละ25000บาทตก กมละ1บาทค่าไฟอีก1บาทก็ประมาณ2บาทต่อกมถ้าใช้ยาริสติดแก๊สตกกมละ1.20บาท
น้ำมันก้ตก 2บาทนิดๆ เอง
ซื้อรถอะไรก็ขาดทุน ราคาขายต่อลดลง ต้องใช้ให้คุ้มค่าที่จ่าย ราคาน้ำมันแพงตอนนี้ยิ่งประหยัด
ใช่ครับ
ช่วงนี้กำลังพัฒนาEV มีการลงทุนฯ 100% ราคาจะสูงอยู่ แต่เมื่อมันคุ้มทุนฯ ราคาก็จะถูกลงมากกว่านี้ เพราะรถไฟฟ้า โครงสร้างบอดี้แถบไม่มีอะไรมากมาย แพงอยู่ที่แบ๊ตเท่านั้น ถ้าแบ๊ดพัฒนาชาร์เร็วได้ดี มีความเสถียร์สูง อายุการใช้งานได้นาน มีวัสดุหลากหลายในการผลิต แน่นอนว่าแบ๊ดถูกลงอย่างมาก เมื่อนั้นรถไฟฟ้า และแบ๊ตยังเกี่ยวโยงไปธุรกิจอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นมือถือ ตัวเก็บพลังงานไฟฟ้าโซล่าเซส ทั้งในบ้าน แหล่งผลิตกระแสไฟฟ้า อุตสาหกรรมโรงงาน ร่วมไปถึงเครื่องมือ และอุปกรณ์ไฟฟ้าในการทำงานมากมาย เหล่านี้ล้วนเป็นแหล่งสำรองไฟฟ้า
คหสต. ผมว่าคุ้มครับ ถ้าใช้งานเยอะ 2,××× ขึ้นไปต่อเดือน
ผมออก atto3 มาได้ 2 เดือน เฉลี่ย 2,500 กม./เดือน × 3.5 บาท(น้ำมันเฉลี่ย 35-40 บาท/ลิตร) = 8,750 บาท แต่เสียค่าไฟฟ้าแค่ 1,750 บาท (0.70 บาท/กม.) ส่วนต่าง 7,000 บาท เอาไปผ่อนรถครับ + ได้รถใหม่ ***ดีกว่าจ่ายทิ้ง 8,750 บ./ด. แล้วขับรถเก่าไปเรื่อยๆครับ ^^ (รถ crv gen4 = 9 ปี)
เมื่อคุณใช้ไป8_10ต้องซื้อรถใหม่หรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ราคา550000บาทคุณจะเปลี่ยนความคิดใหม่
@@user-lm6ro1gm6lผมใช้รถน้ำมันญี่ปุ่นเข้าปีที่10 ความคิดผมเปลี่ยน อยากขายรถน้ำมัน suv ไปซื้อรถ EV แต่เสียดายเพราะราคามันตกเหลือเกินซื้อล้านกว่าตอนนี้ราคาขายเหลือ 3แสนนิดๆ ค่าแรงเข้าศูนย์แพงมากถ้ามี EV สเปคและราคาเท่านี้เมื่อ10ปีก่อนจะซื้อไม่ลังเล
@@user-lm6ro1gm6l โดยหลักการแล้วรถมีอายุของมัน ชิ้นส่วนอะไหล่ นานไปก็หาไม่ได้แล้ว จะไฟฟ้าหรือน้ำมันผมว่าก็เหมือนกันแร่ะ
คนที่คิดว่าจะซื้อรถคันเดียว ขับตลอดชีวิต บอกเลย คิดผิด เพราะสมัยก่อนที่ผมซื้อรถคันแรก ผมก็คิดแบบนั้น สุดท้ายเสียจุดสำคัญ ไม่มีอะไหล่มือหนึ่ง ศูนย์บอกว่าเลิกผลิตแล้ว ถึงผลิตราคาต่อหัว (หัวฉีดน้ำมัน) 10000 ว่าบาท
ถ้าจะซ่อมก็ราคา 4-5 หมื่น
ต้องหามือสองมาใส่ ขับไปไม่กี่เดือนก็เป็นอีก ซ่อมครั้งที่ 3 ผมก็ขายทิ้ง แล้วซื้อใหม่ ราคาขาย เท่ากับ ราคายาง + max คันใหม่เลย
นี้ไม่นับชิ้นส่วนอื่น ๆ ที่มันสึกหรอนะครับ
คันที่ 2 เพิ่งใช้มา 4 ปี กำลังคิดว่าจะใช้ต่อกี่ปีดี เพราะกลัวราคาตกเหมือนคันแรกที่ทนใช้มาตั้ง 10 กว่าปี ดีหน่อยคันที่ 2 เป็นรถตลาด ราคาไม่น่าลงมาก
ผมก็รอดูทิศทางรถไฟฟ้า อีกสัก 2-4 ปี ถ้าการแข่งขันเยอะ ราคาดี ผมก็เปลี่ยน ณ เวลานี้ถ้าซื้อได้สบาย ก็ NETTA V, กัดฟันหน่อยได้ Dolphin, แต่ส่วนตัวผมชอบ SUV แบบ atto
ตั้ง Spec รถเอาไว้ว่า B-SUV วิ่งได้สัก 500-600 ต่อชาร์จ แรงม้า แรงบิด แรงพอเหยียบหนี 10 ล้อรถพ่วงได้ ผมก็พอใจแล้ว
@@user-lm6ro1gm6lไปเอามาจากไหนว่า 8-10ปี ต้องเปลี่ยนแบตใหม่นะคับ ความคิดนี้มันมายังไง
@@ryujadai2 ถ้าคุณจะเปลี่ยนทุก2ปีไม่มีใครว่าเพราะเงินของคุณเอง
ดูน้องนิสสันใบไม้ วิ่งได้แค่ 300km ต่อการชาร์จ มือหนึ่งขายเทียบไม่ออกต้องลดราคาเป็นล้าน ขายต่อมือสองใครจะซื้อครับ รุ่นใหม่ๆ เทคโนโลยีดีกว่า วิ่งได้ไกลกว่า ชาร์จได้ไวขึ้น ราคามือสองจะเหลือเท่าไหร่
ซื้อรถอะไรก็ขาดทุนครับ ถ้าเดิมมีรถน้ำมันอยู่แล้วมันยังโอเคไม่เสีย ไม่กินน้ำมันหนักมาก ก็ใช้ไปก่อน รอก่อนก็ได้ไม่ต้องรีบ ถ้าจำเป็นต้องใช้ต้องการประหยัด บ้านมีที่จอด หรืออย่างน้อยๆมีที่เสียบปลั๊กชาร์จได้ ก็แนะนำให้เริ่ม EV ครับ
แทบไม่ต้องไปชาร์จนอกบ้าน ยกเว้นเดินทางต่างจังหวัดไกลๆเท่านั้น อยู่คอนโดถ้าคอนโดไม่มีที่ชาร์จก็วุ่นวายครับดูไปจะไม่สะดวกด้วยซ้ำ นึกภาพมีที่ชาร์จกลับบ้านกลับคอนโดมา เสียบชาร์จขึ้นห้อง เช้ามาเอาปลั๊กออกไปทำงานได้ แทบไม่ต้องแวะปั้มเลย
เอาแน่ๆคือยังไงก็ต้องปรับมาใช้รถ EV เพราะสุดท้ายค่ายรถยนต์ก็ต้องพลันตัวมาผลิตรถพลังงานอื่นตามกระแสโลก ไทยยังตามไม่ทัน ยังอยู่ในยุคบุกเบิก
ช่วงนี้มันเริ่มนิ่งแล้วครับ ออกมาแต่ละรุ่นไม่ได้ต่างกันแบบที่คุณคิด ถ้ากลัวตกรุ่นก็ไม่ต้องซื้ออะไรแล้วครับ วันเวลาผ่านไปมันมีตกรุ่นทุกสินค้าอยู่แล้ว เราซื้อมาใช้ครับ ไม่ได้ซื้อมาทำกำไร สำหรับผม 6เดือนแรกประหยัดไปเกือบ 50,000฿ ถ้าจะต้องเปลี่ยนอยู่แล้วEV เป็นทางเลือกที่ดีครับ
ใช่ครับ ผมจากน้ำมัน 7000 ต่อเดือน เหลือค่าไฟไม่ถึง 1500-2000 วิ่งวันละ 95 กิโล รังสิต-สีลม ตกวันละ 50 บาท มาสองคนกับแฟน ถูกกว่าค่ารถโดยสารอีก ทำไมจะไม่ใช้
1 ปีประหยัด 60,000 ใช้ 10 ปี ประหยัค 600,000 สบาย
คุณขับระยะทางเยอะๆ(ยิ่งมากยิ่งคุ้ม).มากว่า 2500กม/เดือน.คุ้มแน่นอนครับ แต่ถ้าต่ำกว่านี้ขาดทุนครับ ค่าน้ำมัน จะชดเชยค่า แบต(60%ของราคารถ) ,ค่าประกันรถ(3เท่าของปกติ), ค่ายยางรถไฟฟ้า(2-3เท่าของยางปกติ) ลองคำณวนดูสิ ว่าคุ้มไม๊ครับ..?ให้เป็นข้อมูลครับ
@@toms9174 ประกันมันก็พอๆกัน 10,000 ปลายถึง 20,000 นิด ยางก็ใช้ขนาดเท่ากันแค่เติ่มลมแข็งกว่ารถน้ำมัน ไปเอาที่ไปนมาว่าแพงกว่า 2-3 เท่าเอายางเครื่องบินมาใส่เหรอครับ
สรุปแบบที่ผมเข้าใจและเข้าใจแบบนั้นมาตลอด เทคโนโลยีใหม่(นวัตกรรมใหม่) มีใว้สำหรับคนที่พร้อม(ด้านการเงิน)
เรื่องนี้เหมือนเป็นลัทธิ ความเชื่อของแต่ละคนต่างกัน แล้วคนที่เชื่อในรถไฟฟ้า เขาจะไม่ฟังเหตุผลอะไรของใครทั้งนั้น ลองไปสิงในกลุ่ม ev ใครไปเห็นต่างนะ โดนรุมย้ำไม่ต้องโงหัว ....แต่เราคิดเหมือนท่านเลยยังชะลอรถไฟฟ้าออกไป ยังคงซื้อรถน้ำมันแทน
มีเหตุให้ไปเที่ยว ต่างจังหวัดกับเพื่อนด้วย รฟฟ บอกเลยว่า เบาหวานรออยู่ไม่ไกล ไปแค่ใกล้ๆ กทม แต่ไม่สามารถขับไปกลับได้โดยไม่ต้อง ชาร์จระหว่างทริปได้ ต้องแวะหาที่ชาร์จและเสียเวลาไปเป็น ชัวโมง แวะร้านกาแฟ เพราะต้องรอชาร์จอีก 30 นาทีเพื่อ ต้องขับกลับ
สเปค 480 ขับจริง เปิดแอร์ 19 เพราะข้างนอกร้อนมาก แค่ไปกลับวันเดย์ทริป 300 กิโล ยังไม่พอกลับ
จริงอย่างคุณว่า สำหรับผม รออีกสัก 5-6 ปี ค่อยคิดว่าจะซื้อ รถ ev
Agreed ครับ ถ้า charge 1 ครั้งได้เกิน 1,000 และใช้เวลาชาร์จไม่เกิน 30 นาที ผมจะซื้อ
อีวียังไม่เหมาะสำหรับหลายๆคน รวมถึงเจ้าของคลิปด้วยครับ แต่ก็ไม่เห็นด้วยในหลายจุด
1. เรื่องสุสานรถ EV นั่นไม่ใช่รถมือสองนะครับ เป็นการปิดตัวของบริษัท Car-Sharing
2. รถ EV ถึงแม้จะตกรุ่นหรือเก่าแล้ว แบตเตอร์รี่ยังสามารถนำมาใช้เก็บไฟฟ้าได้
3. ราคารถยนต์ EV อาจจะตกเร็วในช่วงนี้ แต่ถ้าในอนาคต ทุกคนหันไปใช้รถ EV กันหมด ราคารถยนต์ที่ใช้น้ำมันก็อาจจะยิ่งตกมากกว่า
4. ที่ชาร์จรถไฟฟ้าตามบ้าน ค่าเครื่อง+ค่าติดตั้ง อยู่ประมาณ 2-3 หมื่น แต่ส่วนใหญ่จะแถมฟรี
5. ค่าไฟ หากใช้มิเตอร์ TOU จะอยู่เพียง 0.5-0.8 บาท/กิโลเมตร เท่านั้นครับ
6. ยาง จริงๆแล้วไม่จำเป็นต้องใช้ยาง EV ก็ได้ครับ
แต่อย่างไรก็ตามรถ EV ก็มีข้อเสีย และไม่ได้เหมาะกับทุกคนครับ แต่ข้อดีก็มีไม่น้อย
น่าจะเป็น changan S7 นะครับ น่าจะโดนใจนะครับ น่าจะเปิดตัวปลายปี รถ suv เบาะดี ราคาไม่แพง วิ่งไกลพอสมควร
ใช้ที่ชอบนั่นแหละดีที่สุดครับ ส่วนตัวที่บ้านเปลี่ยนก่อนไปสามคันละ ไม่คิดจะซื้อรถน้ำมันอีกแล้ว 🙂
ของวิภาคเรื่อง 1 ครับ
ไฟฟ้าที่ซื้อกำลังตกรุ่นเหมือน N95
แต่ ice ที่คุณซื้ออาจเหมือน โทรศัพท์บ้านก็ได้ครับ
BEV ก็ไม่น่าต่างจากตู้โทรศัพท์หยอดเหรียญในอนาคต แต่โทรศัพท์บ้านทุกวันนี้ยังใช้กันตามบริษัทและโรงแรมนะครับ
ค่ายรถญี่ปุ่นออกมาร้องแล้วครับ
เห็นด้วยมากๆครับ
ซื้อรถน้ำมันตอนนี้ได้กำไรเหรอครับ
เห็นด้วยครับ ผมใช้รถมา 5 คัน 25 ปี เดาอนาคตได้เลยครับ คนมองแต่เรื่องประหยัด แต่การขับรถมีอะไรมากกว่าประหยัดครับ
เหมือนกันขับรถมาสามสิบกว่าปี ยิ่งอายุเยอะขึ้น ยิ่งมองแต่เงินในกระเป๋า😂
ซื้อมาเพื่อใช้งานจรืง และรุ่นนั้นมันเหมาะกับเรา ในราคาที่จับได้ ใช้เถอะครับ ซื้อก่อนใช้ก่อน ถ้าไม่ได้ซื้อเพื่อเก็งกำไร แล้วกะขายต่อ ยิ่งรถน้ำมัน มือสองเต็มไปหมด ราคาตำ่มาก แต่ต้องจ่ายค่าน้ำมันแพงหูฉี่ คุ้มค่าหรือไม่อยู่ที่ได้ใช้รถจริง?
ใช้ก่อนประหยัดก่อน
ซื้อก่อนใช้ก่อน ถ้ารอก็ต้องรอไปเรื่อยๆ เป็นทาสน้ำมันยาวไป ซื้อรถน้ำมันตอนนี้แหล่ะที่จะต้องระวังขาดทุนเพราะใช้เทคโนโลยีโบราณ
ผมว่า นั่นคือข้อมูลที่ดีแต่ผมยังมองว่าคุ้มค่าทั้งในเรื่อง ประกันแบต และยังมีส่วนดีในเรื่องเทคโนโลยี ผมยังมองอีกว่า รถน้ำมันที่ใช้กันอยู่ ราคาสูงเกิประสิทธิภาพบางทีการเสี่ยงทำไรก่อน ก็อาจจะมีข้อได้เปรียบในเรื่องโปรโมชั่น. ผมมีรถสามล้อขนส่งเล็ก ใช้งานดี ประหยัดดี คุ้ม
ถ้าใครต้องซื้อรถใหม่ตอนนี้ แล้วฟัง Podcasts อันนี้แล้วซื้อรถน้ำมัน ใช้ไปๆ ราคาขายรถน้ำมันในอีก 3-4 ปี ในช่วงที่เทคโนโลยีรถไฟฟ้าอยู่ตัว จะเหลือราคาเท่าไรล่ะครับ
ไม่ต้องไปห้วงราคารถน้ำมันหรอกครับ ห่วงรถไฟฟ้าเถอะ
ซื้อก่อนใช้ก่อน คิดแบบนี้ ไม่ได้ซื้อใช้พอดี เฮ้ยรออีกปีสองปีเด่วก็ออกรุ่นใหม่ ซื้อใช้ก่อนเรียนรู้ไปกับใหม่มันไม่ขาดทุนหรอกถ้าเราเสือกซื้อมาใช้งาน สถานีชาร์จเยอะแยะ ตามต่างจังหวัดสมัยก่อนน้อยจริง แต่เดียวนี้แถบไม่ต้องต่อคิวแล้ว
คนใช้รถไฟฟ้า เกิน 80 %. จะไม่อยากกลับไปใช้รถน้ำมัน 😅
อีก20เปอเซน คือ กลับมาใช้รถน้ำมัน
@@twosticker5820 ใช้แก๊ส 5555
มีรถอยู่แล้ว มีเงินเหลือ สมควรซื้อใช้ (แต่ กรณีคันแรก EV ถ้าเกิดปัญหา รอซ่อมนานแน่ ขายมือสอง ราคา รับไม่ได้แน่นอน ครับ) ความเห็นส่วนตัวครับ
ผมว่าพูดโดยใช้ความคิดเห็นส่วนตัวมากไป และวิจารณ์โดยไม่มีความรู้มองแง่เดียว แนะนำหาพันธมิตรมาคอลแลปนะครับ เปิดมุมมองและได้ให้ความรู้แกผู้ติดตามไปด้วย
มองให้เป็นกลางครับ แคค่าเชื้อเพลิงเรื่องเดียวก็สามารถทำให้หลายคนเปลีายนใจได้แล้ว
เขาเชียรรถสันดาป
ถ้าซื้อมาเน้นจอดEVไม่เหมาะครับ ใช้รถน้ำมันเถอะ แต่ถ้าใช้งานเยอะวิ่งประจำอันนี้รถEVน่าจะตอบโจทย์ ผมว่ายิ่งใช้เยอะจุดคุ้มทุนน่าจะคืนทุนเร็ว
ใช้ก่อนแล้วค่อยโฟส ความคิดจะเปลี่ยน
คนซื้อใช้ไม่บ่น คนบ่นไม่ใช้....
ลงทุนก็รับความเสี่ยงเองครับ
ใช้ก่อน เท่ห์ก่อน เจ็บก่อน เป็นธรรมดาครับ 555
ปัจจุบันรถยนต์ยังดูแพงไปครับ ราคามันค่อนข้างสูง ถ้ารออีก ห้าปีสิบปีผมว่าราคาต้องถูกกว่านี้แน่นอนเพราะเทคโนโลยีมันพัฒนาทำให้อุปกรณ์ถูกลง คล้ายๆ โซล่าเซล์นั่นแหล่ะ ทุกวันนี้ราคาเอื้อมถึง
ดูปีหน้าละกันครับ ว่าน้ำมันราคาจะไปขนาดไหน ทนราคาน้ำมันไหว ก็ไปต่อครับ
ใช้ก่อนประหยัดค่าน้ำมันเลยทันที พอใจมากกๆค่ะ คือไม้ง้อน้ำมันแล้ว ไปกลับ แล้วชาร์ทที่บ้านเอา ไปเที่ยวก็พัทยา ระยอง อยุธยา เหล่านี้รอดนะคะ สบายๆเลย(edit byd atto3)
ยินดีด้วยครับ ว่าแต่เคยคำนวนราคาแบตเตอรี่หรือเปล่าครับ
ผมลองคำนวนจากรถเก่าผมกินประมาณ 10กิโล/ลิตร ค่าน้ำมัน+น้ำมันเครื่อง+ยางรถ ประมาณ 20k+ประกัน เทียบกับ รถ ev ค่าไฟ+ยางev ประมาณ 45k+ประกัน ถ้าใช้รถเกิน 20,000 km. ต่อปีรถไฟฟ้าถูกกว่า ไม่นับรวมพวกค่าซ่อมเครื่องหรือแบตเตอรี่นะครับ ต่างคนตาางใช้ไม่เหมือนกัน ส่วนตัวผมมองไฮบริด ครับน่าจะประหยัดกว่าช่วงนี้
ซื้อมาใช้ครับ ไม่ได้ซื้อมาขาย ไม่อยากใช้EVก็ใช้รถน้ำมัน คนที่ซื้อรถเขามีข้อมูลตัดสินในการตัดสินใจอยู่แล้วคนใช้EV ทุกคนก็เคยมีและใช้รถน้ำมันอยู่แล้ว เคารพการตัดใจของทุกคน เงินใครเงินมัน ตัวใครตัวมันครับ จะรอไปอีกกี่ปีก็ไม่ว่ากัน อีก20ปีเทคโนโลยีจะยิ่งไปไกลมากเลย
ถ้าเอาเรื่องขายต่อมาคิด
คิดว่าถึงเวลาที่เทคโนโลยีแบตนิ่งๆ นอกจาก BEV ที่ใช้แบตรุ่นเก่าจะขายต่อยากแล้ว รถ ICE อาจจะขายต่อยากกว่า
เพราะคนที่จะซื้อต่อ เขาก็ต้องคิดเหมือนกันว่าเขาอยากได้รถไฟฟ้าหรือรถน้ำมัน
วันที่แบตพัฒนาจน pain point เรื่องเวลาในการชาร์จหายไปแล้ว ถ้าไม่เหลือใครอยากได้รถน้ำมัน รถเราจะไปขายใคร
เท่าที่รู้แค่ช่วงนี้ เต๊นท์รถมือสองก็น่าจะลำบากแล้ว
ปัญหาของรถไฟฟ้าคือในตอนนี้ยังมึการพัฒนาประสิทธิภาพของแบตอย่างต่อเนื่องดังนั้นอีก3ปีข้างหน้ารถไฟฟ้าส่วนมากอาจจะวิ่งได้1,000โลต่อชาร์ทแทบทุกยี่ห้อส่วนรุ่นเก่าๆที่วิ่งได้600โลต่อชาร์ทหรือวิ่งได้น้อยกว่านี้ก็จะตกรุ่นไป
สุสานที่จีนคือรถที่นำมาทำกิจการรถเช่า เมื่อกิจการไปไม่รอด จึงเกิดสุสานรถ
ซื้อมาใช้ ไม่ได้ซื้อมาลงทุน จึงไม่มีคำว่าขาดทุน
กำไรคือที่เราได้ใช้มัน
ปัญหาอย่างเดียวคือราคาแบตเตอรี่ที่พ้นระยะประกัน8ปีหรือ160,000กม.นี่แหละ ที่ราคาแพง6-7แสน
แต่ถ้าไม่มีเงินสดก็ผ่อนเอา ถือว่าซื้อกำไร
แบบนั้นก็ไม่ถูก ผู้ซื้อ ev ตอนนี้คือผู้บุกเบิกต้นทุน ให้ ev พัฒนาต่อเพื่ออนาคตที่ดีขึ้น คนหลังๆ จะได้เทคที่พัฒนาขึ้นอีกราคาก็ดีขึ้น
ผมเห็นด้วยนะครับ น่าจะต้องรอ 3-5 ปี ถึงค่อยถอย EV สัก คันครับ
ใครไม่ใช้ ไม่ต้องใช้ครับ รออีก 4-5 ปี
ถึงตอนนั้นลองคำนวนค่าน้ำมันกับค่า แมนทาเแน๊น กับค่าซ่อมอีกทีครับ
ส่วนแบตอีก 6-7ปีค่อยว่ากันครับ ถ้าขับดีๆ 10 ปีกว่าค่อยเป็นปัญหาครับ
ปีนี้ผมซื้อ 2 คันแล้วครับ
จากคนขับน้ำมันมา 25 ปี
เรื่องรถตู้ ผมลูก2 ยังไม่เห็นมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นรถตู้เลยครับ ดูความจำเป็นตัวเองอย่าตามค่านิยมส่วนใหญ่จนเกินไป สำหรับผมจะซื้อรถตู้ก็ต่อเมื่อ เดินทางไปไหนมาไหนเกิน5คนบ่อยๆ และมีคนขับให้ครับ
ถ้าซื้อมาใช้แล้วประหยัดไปก่อนสัก 4 ปีก็โอเคแล้วครับ จนถึงตอนขาย ถึงตอนนั้นก็คุ้มค่า ประหยัดน้ำมันไปแล้วครับ ถ้าเปลี่ยนรุ่นเร็วมือถือเปลี่ยนเร็วราคาก็ตกเหมือนกันครับ
ความคิดแบบเน้นไม่เสี่ยง ผู้ตาม เหมือนไอโฟนเริ่มมาแล้ว แต่ยังใช้โนเกีย รอให้ไอโฟนนิ่ง ซึ่ง รอไปเรื่อยไปละกัน อีกสัก5 ปี ตามสบายใจครับ
การใช้งงานคล้ายๆกันเลย ทำให้ชั่งใจรอไปอีกซักระยะ
Maxus9 ผมขับอยู่ครับ ให้ข้อมูลด้านระยะทาง ถ้าขับปกติไม่เกิน100 จะได้ระยะ 420-460 km แต่ถ้าขับ120 จะได้360-390 แต่ถ้าขับ120-140 ระยะทางได้ไม่ถึง 300 ครับ ส่วนการแวะกลางทางส่วนใหญ่จะเข้าห้องน้ำซื้อของที่เซเว่น ก็ใช้เวลาเกือบ 15 นาทีก็จะได้ระยะทางเพิ่ม100
สดงว่าเจ้าของคลิปขับไว เห็นบอกขับแป้บเดียว เกลี้ยง
@@bobbythegreat009รถค่อนข้างหนักด้วยครับ ทุกยี่ห้อถ้าขับช้าก็ใกล้เคียง spec ขับเร็วแบตก็หมดเร็วครับ
เราพึ่งเปลี่ยนมาใช้ ปกติ เดือนหนึ่ง เติมน้ำมัน ดีเซล 15,000-20,000 บาท / เดือน นี่ ใช้มา 1 เดือน ชาร์จค่าไฟ ไป ประมาณ2,400 บาท นี่คือ ชาร์จที่ตู้ EV นะคะ รอ หม้อ ไฟ Tou มา ถูกกว่านี้อีก แล้วคิดว่า แบบนี่ คุ้ม ที่จะเปลี่ยนไหมอ่ะคะ 😅
ไปจ่ายหนักตอนปลายอายุรถแทนครับ ลองดูความคุ้มครองของบริษัทประกันภัยครับ ตั้งแต่ 3 ปีเป็นต้นไปเริ่มเหงื่อตกแล้ว อนาคตอาจจะหาแบตเปลี่ยนไม่ได้อีกต่างหาก ต่างประเทศโดนกันเยอะครับ ต้องซื้อยี่ห้อที่ไม่ทำรุ่นย่อยๆเยอะเพราะบริษัทเค้าไม่สต๊อกแบตเตอรี่ไว้เยอะ รถเปลี่ยน model แทบทุกปี
@@PhatrawuthKensomsri ไม่เป็นไรค่ะ แบต ประกัน 8 ปี กว่าจะถึงตอนนั่น น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแล้ว แหละ
@@thanattha4291 ถูกต้องครับ กว่าจะถึง 8 ปีเทคโนโลยีต่างๆมันก็เปลี่ยนไปหมดแล้ว แต่ถ้าขับเกิน 150,000 km ก่อน 8 ปีเจ้าของก็ต้องยอมรับเงื่อนไขการรับประกันครับ จริงๆน่าจะให้ซัก 500,000 km
ปัจจัยง่ายนะครับ คนที่จะซื้อรถ ev คือเป็นรถคันที่สองของบ้านครับเอาไว้ใช้ในจังหวัด ที่ทำงานใกล้ครับ การใช้งานก็ประหยัดกว่ากัน โอกาศจะขายออกผมว่านะ ตอนที่อายุแบตรถใกล้หมดประกัน ช่วงนั้นนานขายที่สุดครับ
วิ่งกลับมาจากส่งพ่อ รถติด มารับพ่อต่อเลย ตอนเย็น
ถ้ากลัวข้อเสียรถไฟฟ้า ก็ซื้อรถสันดาปที่มีระบบ PHEV ครับ
ปี 2023 แนะนำ Haval H6 PHEV แบตเตอรี่ใหญ่สุด ใน PHEV ขับ EV mode ได้ไกล 200 กิโลเมตร
มีเครื่องยนต์ขับต่อไปได้ ไม่ต้องรอชาร์ตไฟ
เหมาะสำหรับ ใน กทม และหัวเมืองที่รถติดจัดๆๆ รถจอดนิ่ง ก็ขับ EV mode ไปยาวๆๆ
แต่ถ้าเงื่อนไขของการซื้อรถ คือราคาขายต่อมือสอง
แนะนำซื้อรถสันดาป เท่านั้น และเลือกยี่ห้อ เจ้าตลาดเท่านั้น ครับ
สุสานรถในจีน เป็นการสร้างทิ้งแบบจงใจเพื่อสร้างภาพยอดขายให้สูง เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจ ว่ามีคนกล้าซื้อใช้ และให้นัดลงทุนมั่นใจว่ารถขายได้จะได้ขอเงินลงทุนเพิ่มได้ สรุปคือ
1 ฝึกฝนการผลิตของโรงงาน
2 หลอกนักลงทุน
3 หลอกลูกค้า
*** ผลิตเอง ขายเอง ซื้อเอง แต่ได้ความมั่นใจจากลูกค้า และได้เงินทุนเพิ่มขึ้น
ไม่ใช้แต่รถจีนนะครับ รถเวียดนามก็ทำ !! ท
ถูกต้องครับ น้อยคนจะรู้เรื่องนี้
นึกถึงมือถือเก่าๆที่แบตฯเสื่อม
และนึกถึงรถจากจีนที่เคยอำลาตลาดรถบ้านเราไปทั้งรถยนต์และมอร์เตอร์ไซค์
สรุปส่วนตัวรอไปอีก ปี-2ปีให้มีการพัฒนาและแข่งขันกันมากๆแล้วค่อยตัดสินใจซื้อก็ไม่เป็นไร
แต่ถ้าใช้รถเยอะมากๆและไม่ได้สนใจราคาขายต่อในวันหน้าตอนแบตฯใกล้เสื่อมก็จัดไปเลยคำนวนกันดูถ้าคุ้มก็ซื้อไปเลย
ผมเลือกไฮบริดครับ .. เหมาะกับช่วงเวลานี้มากที่สุด ..
รถอินโนวาผมใช้แก๊ส lpg มา10 ปีรู้สึกประหยัดมาก อยากได้รถ EV แต่ยังไม่รีบรออีก2-3 ปีได้ครับเพื่อศึกษาข้อมูลและรอการพัฒนาระบบให้สมบูรณ์ก่อนครับ
เห็นด้วยครับ โดยเฉพาะ เรื่อง เวลา ที่ มีต้นทุนสูงมาก
เราซื้อมาขับ แทนรถแก๊สคันเก่า แก๊สไม่แพงแต่ทนค่าซ่อมไม่ไหว แก๊สมือ 2 ของเราปี2004😢 ปีแรก service โดนไป 30,000 ปี 2 โดน 50,000 ค่าแก๊ส+น้ำมัน เฉลี่ย 45,000 ต่อปี พอรถไฟฟ้า ราคา พอกับ eco car เลยกล้าเสี่ยง สุดท้าย มีคนซื้อตามจ้า😂😂 ตอนแรกก็คิดมากเหมือนคุณ อ้อ..อนาคตเราคิดว่าทุกคนน่าจะไปใช้โดรนแบบส่วนตัวแทนรถไฟฟ้าแล้วหล่ะ😂😂😂
ยี่ห้อไหนราคาพอกับ eco car
Neta v
จริงแท้ครับ ราคาตกเร็วมากครับ ต้องทู่ซี้ขับให้คุ้มทุนส่วนต่างค่าน้ำมันให้เร็วที่สุดครับ
คนที่ไม่ต้องเปลี่ยนก็ไม่ต้องซื้อครับคนที่จะต้องซื้ออยู่แล้วนี้ก็ควรมองรถไฟฟ้า
ใช้ก่อนประหยัดก่อน อีก 10 ปี ค่อยว่ากัน แบตมันไม่ได้เปลี่ยนทั้งหมดทีเดียว อันไหนเสื่อมก็เปลี่ยนเฉพาะโมดูลเป็นช่องๆก่อน รถอะไรซื้อมามันก็ขาดทุนทั้งนั้นและครับ
ผมยังไม่ซื้อรถ ev เพราะอะไรยังไม่ครอบคุม ช่าง ร้านซ่อม ความรู้ที่อู่และผู้ใช้ แถมราคาแบตเตอรี่ที่แพงเว่อ ใครบอกว่าแบตเตอรี่จะถูกลงถ้ามีการผลิตมากขึ้น มันเป็นไปได้ยาก
ราคาแบตเตอรี่มันจะถูกในระดับของมัน ถ้าแบตเตอรี่จะถูกลงป่านนี้อบเตอรี่มือถือคงถูกไปนานแล้ว
ในแง่เป็นรถอีวีแล้วราคาแล้วราคาจะลงเนื่องจาก มีเทคโนโลยีใหม่มาทดแทน ผมมองว่าในอนาคตก็น่าจะลงเยอะเหมือนกัน และอาจจะลงมากกว่าด้วยซ้ำไป
จากประสบการณ์จริงขายรถน้ำมันราคาลงเหลือเชื่อซื้อมา 1,200,000 ขายได้แค่ 500,000 ตอนนี้ถ้าจะเล่นรถน้ำมันแนะนำรถมือสองครับราคาดีมาก
ส่วนในแง่ของการใช้รถหากเป็นคนไม่มีวอชาร์ทที่บ้านจริงๆก็ยังไม่เหมาะกับการใช้อีวีจริงๆครับจากประสบการณ์จริงที่ใช้มาแล้ว แล้วยิ่งถ้าใช้รถไม่เยอะมากจริงๆ รถน้ำมันรถน้ำมันยังเป็นทางเลือกที่ดีครับ
ขอบคุณบทความดีๆ นะครับ
เป็นรถคันที่ 2 ของบ้านดีงามครับ จะใช้เป็นหลักก็ได้ถ้าบริหารจัดการเรื่องพลังงานได้ แต่ควรมีรถน้ำมันไว้ช่วงที่ยังเป็นการนำเข้ามาแบบนี้ รถจนกว่าการผลิตอะหลั่ยต่างๆหรือจุดชาร์จจะพร้อม ซึ่งอีกนานแสนนานกว่าจะมี ecosystems ที่พร้อม
อย่าเอามือถือไปเปรียบเทียบกับรถยนต์ ไม่แน่ว่า EVกับ ICEมันจะพัฒนาไปควบคู่กัน เมื่อก่อนก็มีคนกล่าวว่า iPhone iPadจะ disrupt Windows ดูอย่างปัจจุบันสิ PCก็ยังไม่ตายนะ
Ev กับ น้ำแข็งหรอคับ ผมงงนะ ขอชื่อเต็มๆได้ไหม
@@kira555007เครื่องสันดาปครับ😅
@@kira555007 internal combustion engine = เครื่องยนต์สันดาปภายใน
มูลค่าไม่มียุแล้ว เพราะอายุการใช้งานแบตจบทุก10ปี เพราะเปลี่ยนแบตทีไม่คุ้ม ราคาแบตลูกนึงก็จะได้รถคันใหม่แล้ว ซื้อใหม่ไปเลยจะดีกว่า เต๊นมือสองเขาก็เสี่ยงถ้ารับซื้อต่อ เพราะมือ1 แข่งกันถูก ก็เหมือนเอาค่าผ่อนงวดรถมาจ่ายแทนค่าน้ำมันนั่นแหละ แต่ได้ขับรถใหม่ใช้เทคโนโลยีใหม่ จุดคุ้มทุนราคารถต้องยุราว3-4แสน เกินนั้นก็เท่ากับผ่อนค่างวดไม่รุจบ หมด10ปีเป็นหนึ้ต่อ
เซเลริโอ+แก๊ส LPG ตกโลละ 0.7 บาท/กม ครับ กันแดดกันฝนแอร์เย็นเพลงเพราะ เช่นกันครับ
ดูลำบากเนอะ
@@puddingman2331 ไม่ลำบากเลยครับ ให้เซลล์ไปติดให้ มีหน้าที่ขับอย่างเดียว เติมแก๊สทีได้น้ำเปล่ามากินทีละ 2-3 ขวด ส่วนต่างกับรถไฟฟ้า 7-8 แสน วิ่งต่อกิโล พอๆกัน
เหมาะสำหรับบางคน..ถ้ามันเจ๋งจริงมันมีเครื่องบินโดยสาร.ไฟฟ้าแล้ว.ยังยังก็ต้องพึ่งพาน้ำมันอยู่ดี.ในเรือขนส่งไฟฟ่า...
ใช้แล้ว คุ้มค่า เวลาไหน?ก็ใช้ได้..ถ้าจะรอให้เทคโน.สูงสุด..คงไม่ได้ใช้..เพราะการพัฒนา ไม่มีสิ้นสุด..ต้องดูที่ความจำเป็น จะต้องใช้..👍
ออกแล้วค่ะmg4...โคตรดี..ช่วงล่างหนึบมาก..ทดลองขับแล้วสั่งจองวันนั้นเลยจ้า...ความปลอดภัยโคตรดีอะ..ส่งลูกไปโรงเรียนเองสบายๆๆๆๆ...รถมือ2เราเอาขายเต้น...บางเต้นตอนนี้ไม่รับซื้อแล้วจ้า..ซื้อก็กดราคามากๆๆๆๆ..เรามาถึงจุดรี้ได้ไง..ยอมรับรถไฟฟ้ามาไวมาก....แล้วระบบรถเค้ามีบอกด้วยจ้าว่ามีสถานีชาติตรงไหนบ้าง...ตอนนี้เทคโนโลยีไปไกลมากค่ะ..บอกเลยซื้อเทคโลโลยีมาใช้จ้า...mg4ได้340กิโลสบายๆๆจ้า...ส่วนแบตเราเอามาทำไฟฟ้าใช้ในบ้านได้ไม่ต้องเอาไปทำลาบเออ...ใครพร้อมเปลี่ยน..ไม่พร้อมรอไปก่อนจ้า
จัดว่าเป็นประโยชน์มากครับ
รถ ev car ในจีน ที่จอดรทิ้งคือ กลโกงของผู้ผลิตที่ต้องการเงินสนับสนุนจากรัฐ ไปหาความรู้ใหม่นะ ผมยังใช้รถน้ำมันนะ แต่หลายข้อ วิเคราะห์ได้ผิดมากข้อมูล ไม่ถูกต้อง วิเคราะห์เปรียบเทียบแบบผิดๆ
สมมุติอีก 5 ปี 10ปี ตอนที่ ev พัตนาก้าวกระโดดไปไกลจนน่าใช้สุด ต้องใช้แล้ว ตอนนั้นรถน้ำมันที่คุณซื้อวันนี้จะเหลือราคาเท่าไหร่ครับ ตอนที่ทุกคนต้องซื้อ ev ใช้แล้ว ไม่มีใครอยากซื้อรถน้ำมันคันเก่าของคุณแล้ว เต๊นท์จะกดราคาแค่ไหน และตอนนั้นจ่ายค่าน้ำมันค่าบำรุงรักษาไปแล้วเท่าไหร่
อยากถามแอ๊ดว่าใครซื้อรถแล้วได้กำไรบ้าง. นอกจากคนซื้อขายรถอาชีพ ผมเองซื้อรถรุ่นที่ออกมาแรกๆepawerต่อมาอีกไม่กี่เดือนราคาลดลงเกือบสองแสน ขาดทุนไปสองแสนแล้ว คนซื้อรถมาใช้ไม่มีทางกำไรหรอกมีแต่ลดๆๆๆๆ
เดี๋ยวพอครบ 3 ปี ก็รอต่ออีก 3 ปีเพราะเทคโนโลยีมันพัฒนาไม่หยุดยั้ง ( อีกอย่างชีวิตไม่แน่ไม่นอนนะครับไม่รู้ว่าเราจะอยู่ถึงอีก3 ปีหรือเปล่าอะไรที่ทำแล้วมีความสุขวันนี้ได้ก็ทำไปก่อนเลยดีกว่าครับด้วยความเห็นผมนะ)
เห็นด้วย ครับ
ใช้ ev มา 1 ปี แฮปปี้ มากครับ
ค่า น้ำมัน เปลี่ยนเป็นค่าผ่อน ชิวๆ
ส่วนอนาคต จะลง ก็เรื่องของมัน
มีความสุข กับปัจจุบัน ครับ
ผมใช้จักรยาน ที่บ้านมี 8คันผมอยู่บึงกุ่ม กรุงเทพฯจะไปมีนบุรีก็นั่งรถเมล์ จะไปประตูน้ำก็นั่งเรือคลองแสนแสบ จะไปสำโรงก็นั่งรถไฟฟ้าที่บางกะปิ อาจจะใช้แท็กซี่บ้างบางคราว วินมอร์ไซก็มี หรืออยากจะขนของก็มีรถรับจ้าง ผมไม่ต้องจ่ายค่าจอด ค่าประกัน ค่าพรบ.ค่าน้ำมัน ค่าแบ็ตฯลฯ มาใช้จักรยานกันเถอะครับ เพื่อสุขภาพและลดมลพิษ
ไอเลิฟเลยครับพี่ ผมอยู่บางกะปิใกล้ๆกัน
ตั้งแต่ใช้รถไฟฟ้าก็ ลดรายจ่ายได้เดือนละหมื่นกว่า ใครจะรอก็รอผม ไปก่อนไม่รอละนะ
ต้องรอเพื่อความคุ้มค่าครับ
ใช้รถน้ำมันก็ขาดทุนเหมือนกัน
ขาดทุนที่จะเอาเงินส่วนต่างไปทำอย่างอื่นที่จะทำให้เงินงอกเงิย ซึ่งเยอะซะด้วย
ใช้ทุกวัน 100กม+/วัน คุ้มแน่นอนครับบ 😅
รถยนต์ทุกคันที่ถอยรถออกบริษัทจัดจำหน่าย ราคาตกทันที จะมากหรือจะน้อยมันขึ้นอยู่ความต้องการใช้รถของลูกค้า ถ้ามีความต้องการใช้รถยนต์ยี่ห้อนี้มากราคาจะไม่ตก ถ้าความต้องการใช้รถยี่ห้อนี้ ราคาก็จะตก จะต้องดูว่า เราต้องการใช้เพื่ออะไร เพื่อบรรทุก วิ่งระยะทางเท่าไร หรือ เพื่อความบันเทิง ความสบาย เราก็รู้เองต้องการอะไร เราก็ซื้ออย่างที่ชอบ ตามฐานะตัวเอง
คิดเหมือนกันว่าไม่เหมาะกับคนที่มีเงินซื้อรถคันเดียวแบบเราค่ะ แค่มาทำงานแล้วหาที่ชาร์จ ก็ตัดสินใจได้แล้วว ทำงานปริมณฑล รอบข้างบ่อปลา😅 เราขับไม่เยอัด้วยค่ะ คิดเหมือนกันเลยว่าสำหรับตัวเอง ไม่คุ้ม
คิดแบบนี้ก็นะ..... โลกเขาไปถึงไหนแล้ว
รอไป รอต่อไป และรอจนกว่าทัศนคติจะเปลี่ยน ค่อยซื้อก็ทัน อย่าให้เห็นนะว่าใน 2-3 ปี แอบไปซื้อรถไฟฟ้ามาใช้ อยู่คอนโดก็ชาร์จด้วยตู้ชาร์จก็โลละไม่ถึงบาท รถน้ำมันทำได้มั้ยกับคันที่ใช้อยู่ ลักษณะมองให้ต่างจากกระแส
รถไฟฟ้าสำหรับผมไม่ใช่ประหยัดคับ แต่ลดมลพิษ เพราะประหยัดน้ำมันแต่ เอาไปแต่งส่วนอื่น เปลี่ยนล้อเปลี่ยนโช็ค แต่งสวย
เรื่องรถ เรื่องแบตเขาพัฒนาไม่หยุดแน่นอนครับ จะเอาตอนนี้ไปเปรียบเทียบอนาคตได้ยังไง ต้องมาเทียบเวลาตอนนี้คือคุณใช้รถน้ำมันหรือใช้รถอีวีอันไหนคุ้มกว่ากัน อันใหนประหยัดและสะดวกกว่ากัน แอดมินเอาเรื่องอนาคตมาเทียบจึงไม่ถูกต้อง
ใช้รถ EV เถอะ ไม่มีทางขาดทุน จะกำไรทั้งคนใช้และประเทศชาติ สาเหตุเพราะ
1. การใช้พลังงานของรถไฟฟ้ามีประสิทธิภาพมากกว่ารถน้ำมัน 3-4 เท่า รถไฟฟ้าใช้พลังงานในการขับเคลื่อนแค่ 0.16 Kwh/กม. ขนาดที่รถน้ำมันใช้เฉลี่ยใช้ถึง 0.55 Kwh/กม. (คิดที่ 18กม/ลิตร น้ำมัน 1 ลิตรให้พลังงาน=10Kwh) ในแง่ของราคาพลังงาน รถไฟฟ้าจะตกประมาณ 1 บาท/กม รถน้ำมันจะถึง 1.9 บาท/กม (คิดราคาน้ำมันลิตรละ 35 ส่วนค่าไฟหน่วยละ 6 บาท) อย่าลืมว่าประเทศไทยไม่มีบ่อน้ำมัน พลังงานเกือบทั้งหมดเราต้องนำเข้า ถ้าเราใช้รถที่กินพลังงานน้อยจะช่วยประเทศชาติ ทั้งยังช่วยกระเป๋าตัวเอง ลองคิดดูถ้ารถยนต์ในไทยเปลี่ยนเป็นรถ EV สักครึ่งหนึ่ง ไทยจะสามารถลดการนำเข้าพลังงานได้กี่แสนล้าน/ปี ไม่ต้องพูดถึงว่าจะช่วยค่าใช้จ่ายคนในชาติได้เท่าไร
2. รถ EV ไม่สร้างมลภาวะให้คนไทย รถ EV ไม่มีการเผาไหม้ ไม่ปล่อยไอเสีย ไม่มีเสียง ไม่สร้างฝุ่น pm2.5 ภาวะอากาศเสียกำลังจะเป็นภาวะถาวรของคนในเมือง สาเหตุเพราะคนไทยเกือบทุกครัวเรือนเริ่มมีรถใช้ และรถตอนนี้เกือบทุกคันก็เป็นรถน้ำมัน ถ้ามีรถ EV 1 คันเพิ่มขึ้นในถนนก็จะลดรถน้ำมันไป 1 คันไปด้วย อากาศในถนนจะดีขึ้นแค่ไหน มลภาวะไม่ใช่มีผลกับผู้ใหญ่อย่างเราซึ่งกำลังจะแก่ตาย แต่มีภาวะกับเด็ก ๆ ที่เป็นอนาคตของเรา
3. รถ EV ต้องการบำรุงรักษาน้อย เพราะชิ้นส่วนน้อย ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายของเหลวบ่อยเพราะไม่มีเครื่องยนต์ ค่าบำรุงรักษาจึงน้อยกว่าเครื่อง ICE เป็น 10 เท่า รถ EV ใช้ยางรถธรรมดาได้ ผ้าเบรคก็ธรรมดา ใช้อุปกรณ์ที่รถ ICE ใช้ได้หมด มีแต่รถ EV ราคาแพงที่ต้องการอุปกรณ์พิเศษ ราคาแบตเตอรี่แพงจริง แต่ทุกบริษัทรับประกันถึง 8 ปี และจากการวิจัยแบตเตอรี่ของรถ EV ทนมาก ใช้ได้ถึงหลักล้าน กม. ทนกว่าเครื่องยนต์อีก ราคาแบตที่แพงและจึงทำให้ค่าประกันภัยที่สูงตามไปด้วยเป็นภาวะชั่วคราว เพราะตอนนี้ไทยยังไม่มีโรงงานทำแบตเตอรี่ ๆ ต้องนำเข้าและเสียภาษีสูง รวมทั้งยังไม่มีโรงงานรับซ่อมแบต Recycle แบต เชื่อว่าถ้าตลาดรถ EV ใหญ่กว่านี้จะเกิดอุตสหกรรมแบตเตอรี่มือสองมาแน่นอน (เหมือนที่มีเซียงกงรถยนต์)
รถไฟฟ้าจะยังถูกลงกว่านี้ได้อีกเพราะเทคโนโลยี่ยังพัฒนาต่อเนื่องทำให้ต้นทุนถูกลง ถึงไม่ถูกลงก็มีลูกเล่นใหม่ ๆ แต่รถน้ำมันเทคโนโลยี่ถึงที่สุดแล้วมาหลายสิบปี พอมาเทียบประสิทธิภาพยากที่สู้กับรถ EV ภายใน 1-2 ปีจากนี้จะมีรถน้ำมันทยอยลดรุ่นการผลิต จนถึงปิดกิจการ ยังมีหลายคนที่ตามเทคโนโลยี่ไม่ทัน ยังคิดว่ารถน้ำมันขายต่อราคาดีกว่า ตลาดรถมือสองกำลังจะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มให้เห็นบ้างแล้วไม่เชื่อลองถามเต้นท์รถดู คนที่ชื่นชอบรถน้ำมันผมแนะนำให้ลองติดตามดู
ผมคิดว่า คนที่ใช้รถเยอะคุ้มครับ ถ้าผมใช้เยอะ ผมก็จะซื้อรถไฟฟ้า แต่ทุกวันนี้ ปีนึง ขับอยู่ 3,000 โล บ้านกับที่ทำงานอยู่ใกล้ๆกัน
คิดเหมือนกันเกือบทุกข้อครับ
1. Ecosystem ยังไม่พร้อม เพราะถ้าขับไกลต้องชาจบ่อยและนานและส่วนตัวไม่ใช่คนชอบแวะปั๊มนาน
2.เทคโนโลยียังไม่นิ่ง แบตที่เบากว่าวิ่งได้ไวขึ้นอาจจะออกมาอีก
3.คชจ. ประกัน, ค่ายางแพง
คิดว่า plug-in เปนตัวเลือกที่ดีกว่า ณ ปัจจุบัน
ขอแชร์ครับ ผมเป็นคนปุ๊บปั๊บ อยากไปไหนต้องได้ไป ลูกค้าเรียกไปแก้ปัญหาที่ไซต์ต้องออกได้เลย ยิ่งรู้สึกว่าการใช้รถน้ำมันยังสะดวกกว่ามากครับ รอให้ facility ทุกอย่างนิ่งกว่านี้ก่อน หรือแบตจุได้มากกว่านี้ ชาร์จเร็วกว่านี้ก่อนถึงพร้อมซื้อคับ