8 ข้อเสียของรถ EV ที่สู้รถน้ำมันไม่ได้ จากประสบการณ์ใช้รถ EV 124,000km | มายรีวิว
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 27 ก.ย. 2024
- 8 ข้อเสียของรถ EV ที่สู้รถน้ำมันไม่ได้ จากประสบการณ์ใช้รถ EV 124,000km
เนื่องจากผมได้ขับรถ BYD ATTO3 มา 1 ปี 6 เดือน กับระยะทางกว่า 124,000km ซึ่งก็พอที่จะบอกได้ว่าข้อเสียของรถ EV ก็มีพอสมควรเหมือนกัน ซึ่งวันนี้ผมจะรวบรวมข้อมูลนำเสนอ 8 ข้อเสียของรถ EV ที่สู้รถน้ำมันไม่ได้ ซึ่งมีดังนี้ครับ
1) แบตรถ EV หมดเมื่อไหร่ต้องเรียกรถยกอย่างเดียว เข็นไม่ไปเพราะน้ำหนักเยอะ
2) เสียเวลามากกว่ารถน้ำมัน เพราะต้องชาร์จแบตนาน
3) ดอกเบี้ยของรถ EV แพงกว่ารถน้ำมัน
4) ตัวเลือกในการซ่อมรถ EV มีน้อย ต้องซ่อมที่ศูนย์อย่างเดียว และค่าซ่อมแพง
5) ราคารถ EV มือหนึ่งไม่นิ่งลดราคาเร็ว
6) สถานีชาร์จแบตรถ EV มีน้อยกว่าปั้มน้ำมัน
7) ค่าประกันรถ EV แพงกว่ารถน้ำมัน 30-40%
8) แบตเตอรี่ 12 V ของรถ EV เสียง่ายกว่ารถน้ำมัน
กดติดตามและสั่นกระดิ่งช่องนี้กันด้วยนะครับ
เฟสบุ๊ค / djkorn2530
ติดต่องาน Email : didsakorn1987@gmail.com
#รถev #ข้อเสียรถEV #รถEVเปรียบเทียบรถน้ำมัน - ยานยนต์และพาหนะ
เหมาะกับคนขับเยอะ ประหยัดค่าน้ำมัน
แต่คนขับน้อย วัน ๆ แทบไม่ได้แตะ (แบบผม 2 ปี ยังไม่ถึง 1 หมื่นกิโล) ไปรถน้ำมันดีกว่า
ตามความเหมาะสมของแต่ละคน มัน ไม่เหมือนกัน ต้องใช้สมองคิด ไม่ใช้ตามกัน
10,000 km แรกที่ประหยัดไปต้องเอาไปจ่ายค่าประกันก่อน ปีนึงผมขับเต็มที่ไม่เกิน 12,000 km เท่ากับประหยัดไปไม่เกิน 2,000 บาท ค่ามิเตอร์ TOU กับค่าติดตั้งระบบชาร์จอีก ผมจะคุ้มทุนเมื่อไหร่ 😅😅😅 แต่ถ้ามองว่ารักษ์โลกก็โอเคนะ
ขับเยอะก็เสื่อมไว ระยะ warranty เร็วถ้าแบตหรือมอเตอร์พังหลังจาก หมด warranty ละครับ แต่แล้วคนชอบนะครับ
ต้องซื้อประกันชั้น1ทุกปีปีละเกือบ3หมื่น ถ้าไม่มีประกันขับไม่ได้เกิดชนมาเราผิดต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้คู่กรณี4แสน+ของตัวเองรวม8แสนซ่อมตัวถังอีก2คันเกือบล้านเพราะฉนั้นต้องต่อทุกปีผมรถน้ำมันทุกวันนี้ประกันชั้น3+ปีละ5พันกว่าเราไม่ขับไปชนลูกหลานก็ขับด้วย
เพิ่งรู้ว่ารถevเข็นไม่ได้ แบบนี้ยิ่งหาที่จอดยากโคตร เพราะจอดขวางปลดเกียร์ว่างแบบรถน้ำมันไม่ได้ ดูแล้ว ณตอนนี้ข้อเสียมากกว่าข้อดี
EV กับ Hybrid จอดซ้อนคันไม่ได้เพราะจอดเกียร์ว่างไม่ได้เห็นเขาบอกว่ารถพวกนี้ถ้าเข็นมันจะพังเลย จริงมั้ยไม่แน่ใจแต่ผมใช้อยู่เป็นhybrid จอดเกียร์ว่างไม่ได้
Ev เข็นได้ครับ จอดซ้อนคันทุกคืน
เข็นได้ครับเซลส์จะบอกวิธีทำให้
ใช้รถน้ำมันดีกว่า ถ้าอยากประหยัดก็ใล้คันเล็กลง
@@npldpm96391:38
ส่วนตัวผมยังไม่มองรถไฟฟ้าเลยคือเอาว่าเวลาเดินทางไกลขี้เกียดต้องมานั้งลุ้นเรื่องการชาร์จไฟอะไรพวกนี่
เอาง่ายๆผมไม่มีปัญหากลับเรื่องการเติมน้ำมันถ้าจำเป็นต้องใช้ยังไงก็ต้องเติม ไหนจะเรื่องศูนย์บริการ อะไหล์ การซ่อม สำหรับผมยังไม่ใช่ตอนนี่เเต่ถ้าต่อไปมันดีขึ้นกว่านี่ก็อีกเรื่อง ส่วนตอนนี่ใครพร้อมไปก่อนได้เลยครับ
ผมก็ไม่มีปัญหาว่าจะกินก๋วยเตี๋ยวหรือผัดกระเพรา
@@puddingman2331 กินเด็กหรือแม่ม่าย
คิดเหมือนกัน ใช้ก็จ่ายได้ เอาสะดวกสบายใจ ไม่ต้องมาวางแผนคิดจุกจิกให้ชีวิตมันยุ่งยากเพิ่มแลกกับส่วนต่างไม่เท่าไร ใช้รถน้ำมันสบายๆไปก่อนอย่างแรกเลยคือ ไม่ต้องหาเรื่องเสียเงินไปออกรถใหม่
แบตหมดกันบ่อยตรงสถานียังมีน้อยนี่แหละคับ ไม่ต่างจากรถเสียยกอย่างเดียว
รถEV
1.ประกันรถไม่ครอบคลุม
2.อู่แทบจะไม่รับรถEV
3.การเปลี่ยนแบตต่อครั้งราคาหลักแสน
4.ระบบไฟฟ้าหากเสียไล่ระบบยกคัน
5.ที่ชาร์ตตามปั้มรอนานเสียเวลา
6.มือสองยังไม่รับซื้อหรือขายต่อยาก
7.หากระบบลวนบริการรถยกอย่างเดียว
แต่ข้อดีก็มีนะครับเสียงเงียบประหยัดเงินในการเติมน้ำมัน
ใช้เยอะ10ปีเงินที่ประหยัดซื้อรถใหม่ได้อีกคัน ใช้น้อยก็เนต้าวู่หลิงคันละ4แสนกว่า5แสนกว่าบาทกิโลเมตรละ40/45สตางค์เอง ประหยัดค่าน้ำมันโคตรคุ้ม ใช้10ปีเงินที่ประหยัดประหยัดน้ำมันซื้อรถใหม่ได้อีกคัน ใช้10ปีรถขายเป็นเศษเหล็กก็ยังโคตรคุ้ม
ที่สำคัญหากเกิดระบบไฟรั่วตอนน้ำท่วมช็อตตายได้เลยนะ
เปลี่ยนแบตครั้งละ400000บ.ต้องไม่ชล่าใจเก็บเงินเอาไว้ค่าแบตด้วย
@@อินแต่งพชรโชติโภคิน ใช้10ปีซื้อรถใหม่เลย เอาเงินที่ประหยัดน้ำมันมาซื้อ คันเก่าขายเป็นเศษเหล็กก็ยังโคตรคุ้ม
@@เคี้ยงแซ่อึ๊ง-ล2ว คิดแต่ค่าน้ำมัน แล้วไม่คิดค่าอื่นๆเลยเหรอครับ ค่าประกัน ค่ารถยก ค่าเสียเวลาเสียโอกาส ไม่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้
มันมีข้อ 9. ครับ หากท่านใช้ไป 9-10 ปี แบตเสื่อมต้องเปลี่ยนแบต ราคา4-5 แสนบาท ซึ่งรถน้ำมันไม่มีตรงนี้ (เงินก้อน คนกินเงินเดือนจะหาเงินที่ไหนมาเปลี่ยน)
อีก10ปีข้างหน้า อาจจะมีแบตรุ่นใหม่มาที่สามารถแทนของเดิมได้และราคาถูกลงด้วย ดีไม่ดีอาจจะวิ่งได้ไกลขึ้นด้วย
เอาช่วงนี้หรือหลังจากนี้ดีกว่า เพราะหลายคนใช้งานเยอะ ประกันหมดไม่ก้ใกล้จะหมดกันแล้ว อยากได้ความรู้ หลังการรับประกันแบตหมด จะมีทางออกยังไงบ้าง
ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง.......รอให้เป็นแบตพลังงานนิวเคลียร์ออกมาค่อยซื้อกันครับเพราะรถคงน้ำหนักเบา หรือรอให้ใช้พลังงานไฮโดรเย่น ออกมาค่อยซื้อดีกว่า
โทรศัพท์มือถือ ตอนออกใหม่ๆ คือของสำหรับคนรวย ฉันไดฉันนั้นครับ อีก 10 ปี เทคโนโลยีรถ EV กระโดดไปไกลแล้ว
@@sayanchemeakong401 ข้อ 9 แทบจะมองข้ามไปได้เลยครับ โอกาสที่จะได้เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ทั้งชุดเป็นไปได้น้อยมาก คำว่าเสื่อมอาจจะตีว่า ระยะทางวิ่งได้น้อยลง สัก 20% แต่เราก็สามารถใช้รถได้ต่อเนื่อง เมื่อถึงเวลานั้น ถ้าเทียบกับรถน้ำมันการดูแลบำรุงรักษาจะน้อยเพราะอุปกรณ์ชิ้นส่วนต่างๆมันน้อยกว่า ต่างกันกับรถน้ำมันคุณต้องดูแลอย่างมาก
ถ้าใช้รถน้อยน่าจะไม่คุ้ม เพราะโดนประกัน เปลี่ยนมิเตอร์ไฟบ้าน แล้วต้องรับความเสี่ยงแบตเตอรี่อีก อย่างผมขับรถปีละ 7000 โล คงขาดทุนยับ
เรียกแก๊บ-นั่งรถเมล์-รถไฟฟ้า-เช่ารถ คุ้มกว่า อย่าซื้อรถเลย
ผมจะบอกว่าผมคงเหมาะกับ ice มากกว่า ev
แต่ถ้าตัวเลือกระหว่างใช้รถสาธารณะ กับซื้อรถ ถ้ากำลังถึงบอกได้ว่าซื้อรถเถอะ เพราะระยะยาวคุ้มกว่านั่งสาธารณะ
เหมือนกันเลยค่ะ ขับปีละสามพันกว่าโล ไม่คิดว่าคุ้ม
ซื้อรถทำไม?
ตีกะหรี่ชั่วโมงละ 1,500
แต่คุณจ่ายการนั่งบนรถชั่วโมงละ 5,000 คุณคิดอะไรอยู่
จะซื้อมาเพิ่ม แต่ปัญหาประกันแพงและคุ้มครองไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ดอกแพง ไม่คุ้ม
ห้ามชน ห้ามน้ำเข้า
ระวังไฟติด ระเบิด
จุดพลังงานมีจำกัด รอนาน
ขายต่อไม่ได้
มีลุ้นตลอดแบบชิงช้าสวรรค์มนต์พระ😅
มันก็มีข้อดีข้อด้อยต่างกันไป ใครเหมาะแบบไหนก็เลือกกันไป เห็นมันขิงกันแล้ว โคตรเบื่อ มันควรมีทั้งสองแบบนั่นแหละ ทำให้แข่งขันกันเพื่อประโยชน์ผู้บริโภค อย่าให้ใครยึดครองตลาดผู้เดียวไม่งั้น เขาจะทำอะไรก็ได้
รถevชาร์จ40%กับรถน้ำมันเติม40%รถevมีปัญหาเกี่ยวกับกำลังขับใหมถ้าเทียบกับรถน้ำมัน?
เม้นต์นี้กระตุกให้คิดได้ถึงกลไลการตลาดทำให้ผู้บริโภค(เราๆ)ได้ประโยชน์..เยี่ยมครับ
ปล.ไม่ต้องขิงกันมีสมองกันทุกคน มีตังค์ก็ลอง ไม่มีตังค์ก็รอ(ดูไปก่อน)..แค่นั้นเอง
มันจะเป็นแบบนี้แหละตอนออกใหม่ๆหรือซื้อมาใหม่ก็ออกอวยกันซะจน... หลังจากใช้ไปปีนี้ 1-2 ปีคราวนี้แหละจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยเชียว ไม่ได้อิจฉาใครแต่ไม่มีเงินซื้ออ้าว 😂😅😢
ชอบความเห็นที่ตรงไปตรงมา เป็นข้อเสียจริงๆ ซึ่งทุกอย่างมีข้อดีข้อเสีย ขึ้นอยู่กับว่ารับข้อเสียได้มั้ย ทั้งอีวีและน้ำมัน
จากที่ฟังมา สรุปแล้วรถไฟฟ้าไม่เหมาะกับคนทุกกลุ่ม จะเหมาะสำหรับคนที่ใช้ขับระยะทางต่อวันมากๆๆๆๆเช่น200กิโลขึ้นไปต่อวัน เพราะมีข้อดีข้อเดียวคือประหยัดค่าพลังงาน ดังนั้นคนที่ใช้รถน้อยไม่คุ้มค่า สุดท้ายครบ8ปีแบตเสื่อมสภาพ รถหมดราคามือสองต้องขายซากทิ้ง
สุดท้ายคำตอบอยู่ที่ตัวเราจะคิด และจะรู้เมื่อถึงเวลานั้น😢😢😢
เท่าที่รู้ แบตเสื่อมไม่ถึงกับชาร์จไม่เข้าเลยหรือขับไม่ได้เลย แต่ระยะการวิ่งต่อชาร์จจะลดลง
8 ปีประสิทธิภาพจะลดขนาดไหนน่าจะมีหลายปัจจัย บางรุ่นดูแลดีๆ ก็ลดไม่กี่ %
และถ้าเสื่อมเยอะจริงๆ ทางเลือกน่าจะเป็นเปลี่ยนแบตแล้วใช้ต่อมากกว่าขายซาก
รถเทสล่ารุ่นเมื่อ 10 ปีก่อน สภาพแบตยังเหลือเกิน 80% อีกครับ
วิ่งทั้ง grab และ bolt ทั้งกลางวันและกลางคืนค่ะ สมัยใช้รถน้ำมันได้เงินมา เกือบๆ 3 พัน พอหักทุกค่า(ค่าน้ำมัน+ค่ากิน+ค่าทางด่วน แล้วไม่เหลือค่ะ แต่พอใช้รถไฟฟ้ายังเหลือวันละ 2000 กว่าบาทค่ะ
คุณลืมพูดไปหรือเปล่ามันช่วยสิ่งแวดล้อมมันไม่มีเสียงรบกวนสอบมันไม่มีควัน
@@B_AShiya ใช่ๆใช้แบบนี้คุ้มมากๆๆ แต่ถ้าสายจอดนี่ไม่คุ้ม😀😀😀
ถ้ายังรับกับจุดเสียตามนี้ไม่ได้ ใช้รถน้ำมันไปก่อน
แต่ถ้ารับได้ รออะไรละ ใช้เยอะคุ้ม😊
มันต้องชาร์จไฟเก็บในแบตเตอรี่ได้ในตัว ถึงจะใช้ได้ดี ไม่เสียเวลา ไม่ใช่ว่า แบตเตอรี่หมด จอดกลางถนน ตรงนี้ที่ขายไม่ดี อีกอย่างแบตต้องมีความทนทาน ราคาถูกด้วย ถึงจะดี
งง รถBEV ก็ชาร์จไฟเก็บเข้าแบตฯอยู่แล้วนี่ครับ 555 สับสนอะไรหรือปล่าวหนู
ผมซื้อรถน้ำมันมา10ปีเเล้ว ไม่เคยซ่อม รถEVคงไม่ซื้อ ค่าซ่อมทีฉิบหายวายวอด
จริงค่ะ ต้องใช้คำว่าฉิบหายวายวอดด้วยคน
ชอบคลิปนี้ที่เวลาพูดปัญหาที่เจอของBEV เป็นปัญหาของBEVจริงๆ คลิปอื่นที่เจอมาจะเป็นปัญหารถครึ่งปัญหาบริษัทครึ่ง
สักพักจะเหมือนโทรศัพมือถือ
มีแต่จะถูกลงๆเรื่อยๆ มีอีกหลายแบรนที่จะเข้ามาแข้งขันกัน
น่าจะเปนแบบนั้น เพราะพวกสินค้าเทคโนโลยีดิจิตอล มักจะมาแนวนั้นหมด
ใครยากซื้อรถไ ฟฟ้าก็ซื้อไปแต่ผมชอใช้น้ำมันดีก่วา
ใช่แล้วครับ ใช้รถไฟฟ้ามีดีอยู่ข้อเดียว คือไม่ต้องเติมน้ำมัน แต่ขอเสียมากกว่า8ข้ออีก
ev ประหยัดจริงแต่ข้อเสียเยอะมันก็แสนจะแพงขึ้นทุกวันผมใช้แก๊สดีกว่าละ 17 บาท
จริงค่ะ ขอน้ำมันไม่เปลี่ยนแปลง
ข้อเสียอีกอย่างคือ เวลาเกิดอุบัติเหตุเกี่ยวกับแบตฯ อาจต้องคืนทุนประกัน นั้นแหละคือความฉิบหายของเจ้าของรถ เพราะจะขาดทุนทันที2-3แสนบาท
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ😊
โอ้ว...แม่จ้าว. รถEVหนัก 1.8 ตัน.
นี่มันหนักกว่ารถกระบะผมเกือบ 300 กก.
รถถังในร่างรถเก๋ง.
รถเก๋งสันดาปหนักๆเกิน 1.8ตันเยอะคับ โดยเฉพาะ Phev:bm x3 หนัก 2.1ตัน x5หนัก 2.2 ตัน benz cclass 2ตัน eclass2.2ตัน
น้ำหนักเท่ารถตู้เลย รถตู้ผม1.7ตัน
ตัวรถขนาดเดียวกัน evจะหนักกว่าจริงๆครับ
ขั้นต่ำครับ 1.8-2ตันกว่า เป็นเรื่องปกติครับ
หนักกว่ารถกระบะขนหินเต็มกระบะเลย
ที่น่าเสียดาย EV แรงแต่ใช้ความแรงแซงรถน้ำมันไม่ได้ ความแรงที่ให้มาใช้เดินทางแบบรถน้ำมันไม่ได้
ทำไมเป็นงั้นอ่ะ
ไม่น่าใช่นะครับ
ไม่จริงอะEV ชนะซุปเปอร์คาร์ ราคา 100 ล้านด้วย
ความหมายลึกซึ้งคับ ผมเคยเมนท์ในคลิปนึงว่า
***รถเหล่านี้ ทำแข่งกันทำอัตราเร่งมาสูงๆขนาดนี้ ไม่มีคันไหน สามารถวิ่ง 150กม/ชม ได้ระยะถึง 300กม จากแบตเต็มถึง0% ซักคันเดียว ทำให้วิ่งเร็วปิ๊ดได้ แต่วิ่งเร็วทีนึง ระยะหายฮวบๆ 0-100 ทีนึงระยะร่าง1% จะขับๆโหดๆ ต้องขับแถวบ้าน ไม่งั้นวิ่งมันส์ได้ไม่เกิน1ชม ไปรอที่ปั๊มอีก45นาที ***
สรุปว่ารถ EV ทีทำมา "แรง" มันเหมือน self-defeating คือมีความขัดแย้งในตัวเอง คือคุณจะไม่สามารถใช้ความ"แรง"ที่ทำมาได้ โดยไม่เสียหายต่อระยะการเดินทาง EV ควรจะทำแบบเปอโยต์ ดีมากกก รุ่นใหม่(E-3008 E-5008) ถ้าเข้าไทยผมคงซื้อ (ถ้ายังไม่ได้ซื้ออะไรไปก่อน) 0-100 ทำได้แค่7วิ แต่แบต 110-120KWH! แบบนี่สิ ถึงจะถูกต้อง เป็นรถไฟฟ้าที่ต้องการ ไม่ใช่ 0-100 3วิ แบต 60khw 555 ตายๆๆ
@@aeashisadไม่ต้องศซุปเปอร์คาร์หรอกแค่ซิตี้คาร์ แข่งกรุงเทพฯ-หาดใหญ่ ผมว่ารถอีวีก็ไม่มีปัญญาชนะ
รถไฟฟ้า 124000x0.75 = 93000 บาท - รถน้ำมัน 124000 x 3 = 372000 บาท ส่วนต่างค่าพลังงานคือ 279000 บาท
ยางเเพง ลุยน้ำสูงไม่ได้ เสี่ยงเเบตเสีย
รถ EV เหมาะสำหรับคนที่ต้องใช้รถไปทำงานประจำวัน ไปเช้าเย็นกลับ กลางคืนชาร์จไฟที่บ้าน จะคุ้มค่าสุดๆ แต่ถ้าหลายวันใช้งานที ไม่เหมาะแน่นอน ไม่คุ้มค่า ใช้รถเครื่องยนต์ดีกว่า ถึงจะมีค่าบำรุงรักษาก็นานจะได้ดูแลสักครั้ง เพราะไม่มีเวลาใช้รถ เพราะอาชีพพ่อค้า นอกเสียจากอยากไปกินข้าวนอกบ้าน หรือปิดร้านเที่ยว นานใช้ที ก็ซื้อเครื่องชาร์จราคาไม่เกินพันใช้ ก็ ok ค่าประกันก็ไม่แพง (ปี 29 รัฐจะขึ้นภาษีรถเครื่องยนต์สันดาป ก็ควรรีบซื้อก่อนปี 29 ครับ)
เหมาะกับทำงานในเมืองวิ่งหลักสิบสบายๆ แต่จะไปโหดแบบน้ำมันคงยาก
27-06-2568...สวัสดีครับ...ขอบพระคุณมากครับ กับสาระดีๆ และข้อมูล ความคิดเห็นฯ ครับ ผม สวัสดีครับ...
ผมชื่นชมคนใช้รถ EV ทุกท่านครับ เพราะ 1. เค้าทดลองให้และจะเป็นผู้ที่ผลักดันให้สถานีชาร์จเยอะขึ้น 2. เค้า emission = 0 ครับ ขอบคุณครับ
ในฐานะที่แอดใช้อีวีมาเป็นปีๆแล้ว ขอสักคำถามไว้เก็บเป็นข้อมูลการตัดสินใจในปีหน้าครับ รถคันต่อไปของแอด จะซื้อรถอีวีคันใหม่ หรือว่า เปลี่ยนกลับมาใช้รถนน้ำมันครับ (หากพร้อมซื้อด้วยเงินสด) ขอบคุณมาก
คันต่อไปจะซื้อรถ EV ครับ แต่ถ้า EREV มาก็อยากลองเหมือนกันครับ
ชัดเจนนะครับ ไม่ร้องนะกับคำตอบ
@@puddingman2331 อะไร ตรงไหน ทีทำให้คิดว่าผมร้องหรือครับ ผมกำลังเลือกระหว่าง C40 กับ Model Y จะเอาไว้ใช้ในเมืองครับ ชาร์จบ้านอย่างเดียวอยู่แล้ว ได้ดูคลิปนี้ก็แค่อยากทราบ ครส. ของแอดว่าเค้ามีมุมมอง ณ ปัจจุบันอย่างไรเท่านั้น *** อีกนิดนึง ผมไม่เคยอยู่ในเกมส์ขิงกันระหว่าง EV กับ ICE ***
EV ก็น่าสนใจ แต่อยากแนะนำเพิ่มว่า 1.ควรซื้อแบตใหญ่ 100kwh หรืออย่างน้อยมากกว่า80kwh เพราะแบตต้องเสื่อมแน่นอน ไม่มีทางไม่เสื่อม 7ปี 10-15% 10ปี 15-20% เผื่อใจไว้ แบตใหญ่เท่านั้นคือทางไปห้ามซื้อเด้ดขาดพวก 60khw ทั้่งหลาย นอกจากท่านจะขับในเมืองสั้นๆจริงๆ
2.เลือกที่ชาร์จได้เร็วกว่า 120KW เพราะตู้ชาร์จมันกั๊ก ตอนไหนเร็วได้ต้องรีดให้ได้เร็วที่สุด
3.ซื้อแล้วต้องตัดใจไปเลย ใช้เอง15ปี ไม่ต้องคิดจะขาย ขายไม่ได้
@@foncecamustang3373 KIA EV5 ก็ดีนะท่าน c40 ก็ดีแต่ต้องซือมือหนึ่ง เพราะต้องเอารุ่นแบตใหญ่เท่านั้น (รุ่นก่อนแบตเล็กกว่า) ส่วน model y ต้อง yLR เท่านั้นไม่ง้นอีกหลายปีแบตเสื่อม10% แล้วจะรู้ว่าพลาดไป
ขอบคุณที่คุณออกมาพูดด้านลบของ EV car ด้วย
เพื่อการตัดสินใจ
รถไฟฟ้ามีไว้ใช้งานเยอะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเท่านั้น คุ้มสุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
9 รถEV อยู่ในที่ชื้นมากไม่ได้ตากฝนโดนค่าซ่อมเป็นล้าน
10 รถEV หนูกัดไม่ได้
11 รถEV เกิดอุบัติเหตุไม่ได้ ประกันจ้องคืนแต่ทุน😂😂😂
เจ้าของช่องเขามาตอบในเมนท์แล้วครับ คันต่อไปหากจะซื้อ ก็ EV อยู่ดี 😂😂😂
12, เวลา ในการชาร์จ ถือว่า เป็น ต้นทุนที่ สูงมาก โดยไม่มีใคร กล่าวถึง
13, กรณี ฉุกเฉิน จำเป็นต้อง เดินทาง เช่น ลูก เมีย ป่วย แต่ ปริมาณไฟ ที่ กำลังชาร์จ มีแค่ 10% แต่ รพ. อยู่ไกล
@@supholdech1 บ. Catl ผู้ผลิตแบตเจ้าตลาดกำลังจะออกแบตรุ่นใหม่ครับ วิ่งได้ 1000 กิโลเมตร แถมชาร์ตไฟเร็วมาก ชาร์ตไฟจาก 0-80 % ใช้เวลาแค่ 10 นาที นี่จึงเป็นเหตุผลให้ BYD รีบลดราคา เพราะยังใช้เบลด แบตเตอรี่อยู่
@@youtubepremium7463 ประเด็น นี้ น่าสนใจมากครับ ถ้า ชาร์จ ได้เร็ว และ วิ่งได้ไกล แต่ ขออย่าให้ ราคา และ ค่าซ่อม แพงเลย
@@youtubepremium7463 ไม่มีหรอกจ้า มีก็ชาร์จได้แค่ "ความเร็วตู้" เท่านั้น แบต400v สาย charge ของปตท. ทนได้แค่200A เอา400*200=80KW ได้เท่านั้นแหละจร้า มา2คันเหลือ40KW สมมติจะชาร์จแบตลูกขนาดกลางๆ80Kwh ต่อให้แบตชาร์จเร็วเท่าสายฟ้า แต่พอมาชาร์จตู้ช้า 0-80% ก็ต้องใช้เวลา 45นาที(80KW) -1ชม.กว่า(40KW) จร้า
สันดาป 20ยังใช้ได้สบาย... EV 5ปีมีจอดบาน
20ปีน่าจะรอดอยู่ไม่กี่คัน
20 ปีไม่ใช่ทุกคัน และซ่อมไปเท่าไหร่แล้ว?
@@isciadminEV 20 ปีมีรอดกี่คันครับ
Civic2004ตอนนี้ยังใช้ดี ไม่ค่อยซ่อม คุ้มมาก
โตโยต้าดูแลดีๆ 80%ใช้เกิน 20 ปี รถผมhonda ใช้มา 27 ปีล่ะ
ระวังแบตชื้นหลังจากการวิ่งลุยน้ำท่วมขังแม้น้ำจะไม่ลึกมากก็ตาม ยิ่งถนนที่น้ำท่วมลึกห้ามวิ่งผ่านเด็ดขาดจะผิดเงื่อนไขทันที ห้ามไปชนใครและห้ามให้ใครมาชน อย่าให้เกิดอุบัติเหตเด็ดขาด รถไฟฟ้าจุดอ่อนจุดเปราะบางเยอะมาก หากหมดระยะประกันศูนย์แล้วก็ตัวใครตัวมัน เมื่อรถมีอะไรผิดปกติต้องเข้าเช็คที่ศูนย์เท่านั้นห้ามนำรถไปซ่อมอู่ด้วยตัวเองเด็ดขาด ผมมองว่ารถไฟฟ้าเหมาะกับเป็นรถสำรองของคนมีฐานะร่ำรวยที่บ้านมีรถหลายคัน มากกว่ามนุษย์เงินเดือนที่มีรถใช้เป็นหลัก หรือใช้เพื่อทำมาหากินด้วยรถคันนี้เพียงคันเดียว
รถเทสล่าขายมา 10 ปีแล้วครับ ผ่านเงื่อนไขการใช้งานมาทุกสภาพแล้ว และรถเทสล่าก็ตั้งราคาเจาะกลุ่มคนชั้นกลางขั้นไป (mass)
ขอบคุณที่มาแชร์ค่ะ
มี 1 ข้อ ที่ดี เป็นประโยชน์ กับอากาศของโลก จะดีขึ้น อากาศ สะอาดขึ้น
สะอาดปลอมๆ
ประเทศต้นน้ำที่ผลิตลิเธียม หลายๆที่ ตอนนี้มีแต่คนป่วยเพราะสารพิษ พื้นที่โดยรอบแถวนั้น ทั้งสัตว์น้ำ ทั้งต้นไม้ ตายห่าหมดละ
พูดตรงไปดีครับ
ขาลุยต้องน้ำมันครับขึ้นเขา
ถ้าดีคนใช้เยอะ ทำไมราคาน้ำมันยังแพงอยู่ ก็เพราะไม่มีคนใช้ ?
ว่าแต่น้ำมันแพงขึ้นทุกวันเติมทีกระเป๋าเบาเลย ยิ่งวิ่งทางไกลค่าน้ำมันกินหมด กำลังเชียร์รถไฟฟ้าให้เข้าที่เข้าทางจะได้ประหยัดหน่อย
เออใครไม่เคยไปลองก่อน อย่าจินตนการ ส่วนผมใช้แล้วไม่กลับไปน้ำมันแน่ๆ นุ่ม นิ่ง เกาะ แรง ประหยัด
เปลี่ยนแบตเตอรี่ที....ต้องขายบ้าน,..ขายนา...เชิญ...บ่เอานำดอก......ถ้าเป็นเศรษฐี..ไม่ว่ากัน..
ขอบคุณมากคะสำหรับความรู้❤❤❤
ข้อเสียข้อที่ 9 ขายมือสอง ต้องเป็นเงินสด เพราะไฟแนนซ์หลายแห่งไม่รับจัด แต่ถ้าผ่อนอยู่ ส่งต่อได้ หากดาวน์มาเยอะ เหลือค่าขนมนิดหน่อย แต่ถ้าดาวน์มาน้อย ไม่มีใครรับต่อ แน่นอน 😅
พี่โหดมาก ขับไปส่งลูกทุกเช้า 150 กม. เลยหรอครับ ขยันขับรถมากเลยครับ 555
ของผมเกือบ 80,000 กม. แล้วครับ
ตอนนี้ผมเปรียบเทียบกับการใช้รถน้ำมันเมื่อก่อนกับการใช้รถไฟฟ้าของผมไป ประหยัดไปได้ 220,000 โดยประมาณแล้วครับ
ยังไงก็คุ้มนะ เท่าที่ผมใช้งานมาครับ
ถ้าประหยัดเงินเติมน้ำมัน แต่ไปจ่ายเนื่องอื่น เปลี่ยนแบตก็แพง
ของอะไรที่มันใหม่เกิน ความคงไม่
มี ยิ่งคนทำงายแข่งกับเวลา ต้องมา
นั่งรอ ชาร์ตแบต คงผิดนัดแน่ๆ
ทางที่ดีรถน้ำมันดีที่สุด มันไม่มีอะไรที่จะราคาถูกอีกแล้วค่ะ
ไม่ว่าจะรถอะไร เราก็ต้องมีต่าใช้จ่ายอยู่ดี ทางที่ดีเราเลือกความสะดวกดีกว่าคะ
แบต 12v ถัาใช้เป็น LiFePo4 จะดีขึ้นมั้ยครับ
เคยใช้รถน้ำมันแล้วไปเติมน้ำมันเจอน้ำปนในน้ำมันจนเครื่ื่องพังซ่อมไป3หมื่นกว่า รถไฟฟ้าปลอดภัยเรื่องนี้
ขอบคุณข้อมูลดีๆครับ😎👍
เรื่อง low piority สังเกตุมั้ยครับว่าเป็นเฉพาะตู้ ptt อันอื่นผมไม่เคยเจอนะครับ เพื่อนผมพัฒนา app ให้ altervim เก็บ log มาเป็นปี ๆ ก็ไม่เคยเจอสัญญานขอให้ low ซักครั้ง พวกผมก็ไม่เข้าใจนะทำไมติด low อยู่เจ้าเดียว
ต้องหน้าสู้ดินหลังสู้ฟ้าหน่อยนะครับมีเงินอย่างเดียวไม่ได้ หรือไม่ก็ซื้อบ้านพักต่างอากาศ ที่ต่างจังหวัดนะครับที่ใหนไปบ่อยๆเห็นไหมการแก้ปัญหาง่ายๆ😂😂 สต๊อกแบตสำรองไว้ทุกหลัง ละอ่าน ยูทูปการเปลี่ยนแบตเตอรี่เองก็ได้ครับมีสอน
ตัวรถราคาหนึ่งล้าน ราคาแบตสมมุตินะ หกแสน ใช้ไปสามปีถ้าขายเป็นมือสอง สมมุติว่าอยากขายสักห้าแสน คนจะซื้อก็คิดหนักว่า ถ้าซื้อมาแล้วเจอแบตเสือมหรืออะไรก็ตามที่ทำให้ถึงกับต้องเปลี่ยนแบตหลังจากใช้รถได้ไม่นาน ถ้ารวมแล้วเพิ่งซื้อมาห้้าแสนมาเจอค่าแบตอีกหกแสน กลายเป็นได้รถมือสองที่ได้แบตใหม่ในราคาหนึ่งล้านหลึ่งแสนบาท สมมุตินะ ส่วนตัวคิดเล่นๆแบบนี้ก็เลยยังไม่คิดจะเป็นเจ้าของรถไฟฟ้าและยังคิดว่าจะใช้รถน้ำมันไปอีกนาน หรือจนกว่าจะมีแบตวางขายเกลื่อนเสียก่อนถึงจะเอาสักคัน สำหรับคนมีเงินเยอะไม่เดือดร้อนก็จัดไปก่อนเลยจ้า
ขอบคุณครับ
ของผมใช้มา2ปี3เดือนวิ่งไป190,000โลเพิ่งเปลี่ยนแบตแต่แบตยังไม่เสียนะครับแต่เปลี่ยนก่อน
ยางรถราคาแพงกว่าเยอะด้วยอ่ะ
3-4 ปีเปลี่ยนยาง ก็ไม่ได้แพงขนาดนั้นครับ ตีซะ 3-4 ปี ค่าเปลี่ยนยาง 20000-25000 ผมรับได้ครับ
กระเพราทะเล แพงกว่ากระเพราหมู
@@puddingman2331ขิงจัง
ใส่ยางปกติ วิ่งไม่ได้หรือครับ? มันจะไม่จ่ายไฟ หรือยังไง?
@@tanakittana5635เห็นว่าเนื่องจากรถออกตัวแรง .. ยางต้องแข็งแรงกว่ายางทั่วไป
ไม่ใช่ปัญหาครับ...อยู่ที่ความชอบส่วนตัว
ประกันแพง ใช้น้อยก็ไม่คุ้ม คนเลยหาเรื่องออกก็เที่ยวบ่อยๆ แต่อย่าลืมว่า อาหารและที่พักมันไม่ได้ถูกด้วยนะ
เติมมน้ำมันเต็มถัง 2000-3000 บาท ชาตแบตเต็ม 160 บาม วิ่งได้ 300 โล ประหยัดมาก ีก 2-3 ปี ราตสแบตน่าจะลงอีก หรือมีระบบ ขยายไฟ
เซอร์วิสทีซื้อคันใหม่ได้เลย
รถแบบนี้ขับลุยน้ำแค่ครึ่งล้อ พังกะพัง เพราะระบบไฟฟ้าถูกน้ำไม่ได้ (ถ้าขับตากแดดนานๆอากาศร้อนๆ มีหวังได้วิ่งออกจากรถแน่ จอดนานหลายวันแบตก็จะเสื่อมอีก (ที่แน่ๆขายต่อยากมากๆ ใครจะซื้อมือ2ละ)ขนาดมือ1ยังมีปัญหาเลย
รถน้ำมันปล่อยควันเสียเท่าไหร่ครับ
แบต ดีแม็ก ปี 15 ใช้มา 6ปี แล้ว ยังไม่ เสีย เลย
ข้อที่ 5 ทำใมช่องรีวิวที่ดังๆระดับต้นๅของประเทศ บอกสถานีชาร์จเยอะมาก(แต่ใช้ได้จริงเท่าไหร่ไม่ได้ยอก)
ข้อ 6 เช่นเดียวกันนักรีวิวรถบอกชาร์จ 30-80% ใช้เวลา40นาที บอกชาร์จเร็วมากเลยกับรถค่ายนึง 😅
แบ๊ตเตอร์รี่ของมัน ถ้าอุบัติเหตุช๊อต มันสามารถทำความร้อนได้สูงถึง 1,100 องศา ไม่มีอะไรดับมันได้ ต้องปล่อยให้ไหม้จนหมดเท่านั้น
ถ้าไปเที่ยวเป็นกลุ่มแบบขับไปพร้อมกัน เราจะเกรงใจเพื่อนรถน้ำมันมาก
เขาเติมน้ำมันเสร็จจะไปต่อ ติดรอเราชาจไฟ
แพลนเที่ยวก็ไปลึกลับมากไม่ได้ ไม่มีสถานีชาร์จ
ที่เจอกับตัว เช่น สวนผึ้งราชบุรี
รบกวนทำclipข้อดีของev compare กับรถน้ำมัน
รถไฟฟ้าสเปกไม่ได้ออกแบบมาสำหรับการขับขี่ของคนไทยปัญหาจุกจิกเยอะอีกอย่างคนไทยขับรถไฟฟ้าต้องรู้เรื่องเตรียมพร้อมชาร์จไฟและแบตเตอรี่🔋12โวลต์ต้องใช้ของมีคุณภาพรถไฟฟ้านำเข้าราคาแพงปัญหาเยอะไฟแนนซ์เงื่อนไขโหดอยู่แล้ว สถานีชาร์จไฟแผนงานเฮงซวยความพร้อมไม่มีปัญหาจะเยอะมาแย่งสถานีชาร์จความพร้อมไม่มีแผนงานไม่มีคนใช้รถเดือดร้อนและซ่อมแพง
ตั้งแต่่ออกมาเเรกๆเมื่อ5-6ปีที่แล้ว รถไฟฟ้าดีจริง เร็วจริง ทันสมัยจริง แต่ปัญหามีเยอะเเน่นอน และเป็นของจีนด้วย อุปกรณ์ภายใน วัสดุการใช้งานทนทานจริงหรือ? อะไหล่ต่างๆถ้าเสียหายต้องรอนานแค่ไหน เพราะมันเพิ่งกำเนิดดมาแค่5-6ปีที่ผ่านมา เอาจริงๆต้องไปสักอีก5ปี รถไฟฟ้าจึงจะเสถียร และะคงทนได้เช่นรถนํา้มัน ครับ และที่สำคัญรถจีนยังไม่มีการยอมรับจากทั่วโลกอย่างแท้จริง ในสมรรถนะ ความทนทาน วัสดุการใข้งาน ระบบไฟฟ้าในรถ 10ปีข้างหน้าไม่เเน่ แต่รถไฟฟ้าฝรั่งคงแซงงไปไกลแล้วล่ะ จีน copy เก่ง
ผู้คนจะศึกษา และพัฒนาไปพร้อมกับเทคโนโลยีรถไฟฟ้า ที่นับวันจะดีวันดีคืน และการพัฒนาต่อยอดไแเรื่อยๆ จนกระทั่งใช้แบตเตอรี่แพคขนาดเล็กลง และวิ่งได้ไกลจนลืม วันนึงเราอาจเห็นรถไฟฟ้าเสรี ที่ทุกครัวเรือนสามารถสร้างเองได้ หากไร้ข้อจำกัดเกี่ยวกับ แบตเตอรี่แพค
1.เข็นไม่ได้ เพราะตัวรถที่หนัก 2. แบตเสื่อมไวกว่ารุถน้ำมัน 3. ดอกเบี้ยไฟแนนซ์แพงกว่า 4. ราคาตกไวกว่า 5. สถานีชาร์จยังน้อยกว่า 6. เปลืองเวลาชาร์จมากกว่า 7. ที่ซ่อมยังมีน้อยและแพงกว่า 8. ประกันรถแพงกว่า
สิบปีใช้EVเหนื่อยขายมือสองเหมือนให้ฟรีไปHEVดีกว่าไหม
แบตหมดเปลี่ยนลูกเท่าไหร่ครับ
แสนโล ผมขับสี่-ห้าปีเลยนะ รถบ้านส่งลูกเรียนจ่ายตลาด
ค่าซ้อมก็ว่าแพงซ้อมตรงใหนครับ
ขอบคุณค่ะ
ถ้ามีเจ้าไหนกล้ารับประกันแบตกับมอเตอร์ 10 ปีไม่จำกัดระยะทางค่อยน่าซื้อหน่อย
เคยอยากได้นะคะรถไฟฟ้า#พอดูคลิปแล้วยังก่อนค่ะ รอให้เค้าพัฒนารถให้ดีกว่านี้กนอนค่ะ#แบบไม่ต้องชาร์จบ่อย😊😅
ผมไม่เคยใช่ ไร้ความรู้
แต่คิดเล่น เหมือน มือถือเลย
แบบที่ถ้าแบตพังต้องเปลี่ยน เครื่องใหม่อย่างเดียว
ไม่เคยคิดจะซื้อเลย
ไม่คิดที่จะซื้อเลย เพราะรถ EV ยังไม่ตอบโจทย์การใช้งาน ด้วยประการทั้งปวง
รถน้ำมันเกิดมานานแล้วสถานีย่อมมากรถEV อยู่แล้ว😅😅😅😅
ข้อดี คือ ตอนนี้ รถมือสองน้ำมัน ราคาถูกลงกว่าเดิม มาก ตั้งแต่มีคนหันมาใช้รถ อีวี กันเยอะ ขนาด เต้นท์รถมือสองหลายๆเต้นท์ ปิดตัวลง เพราะขายรถมือสองไม่ได้ หรือว่าเปนที่เศรษฐกิจ ขาลง
รถEVน่าจะสร้างระบบชาร์จไฟในตัวเองได้ในขณะที่รถกำลังแล่นอยู่โดยอาศัยล้อรถทำการหมุน มูเล่ย์เคยเห็นและอ่านมีรถเมล์ในประเทศออสเตรเลียผ่านตามาประมาณ สิบกว่าปีแล้วที่เขาใช้มาวิศวกรรมน่าจะทำได้.
อย่างไรผมก็จะซื้อรถEV แต่ไม่ใช่คันเดียวในบ้านแน่นอน และรถEV ที่เหมาะกับผมคือต้อง500กิโลเมตรใช้งานจริง/ชาร์จ นั่นหมายความว่าเคลม600กว่า
อีกเรื่องที่เหมือนตลกร้ายคือ ชิ้นส่วนที่น้อยชิ้นใครว่าดี
รถน้ำมัน อาจจะ 1000 ชิ้น ชิ้นละ พันบาท
ไฟฟ้า อาจจะ 100 ชิ้น แต่ก็อาจตกชิ้นละ หมื่นบาท เปลี่ยนทีอาจสะดุ้ง
โทรศัพย์ มือถือใช้นานสุดกี่ปี...
รถ EV ก็คิดว่าประมาณนั้น...
การเสื่อมของแบตมันหนีไม่พ้น...
ผมว่าตอนนี้ เทคโนโรยี่ แบตโทรศัพย์ นี่ที่สุดแล้ว ถ้าเค้าบอกว่า มีเทคโนโรยี่แบตรถแบบใหม่ มันน่าจะโผ่มาในโทรศัพย์ก่อน....
อยากถามว่าถ้าใช้ความเร็วมากๆและนานๆจะทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วหรือไม่?
พึ่งมาบูม ปี2 ปีเอาอะไรมาก ยอดมีแต่กระโดดขึัน จากคนใช้อีวี ก็ไม่อยากกลับไปใช้รถน้ำมันอีกแล้ว😅
มีคนเจอปัญหาค่าซ่อม มโหราน วิ่งกระแทกแบตแตกไฟใหม้เพิ่งเปนข่าวไป สมมุติถ้าเจออุบัติเหตุรุนแรงคนติดในรถ คงนึกภาพออกนะ ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เทสล่า คือ บริษัทซ่อมในเครือกะกินนิ่ม
ส่วนคันที่มีปัญหาไฟไหม้ คือ ชิ้นส่วนรถพ่วง ทำหล่นไว้ คันไหนก็ไม่รอด รถน้ำมันก็ไม่รอด
จาก15000ชิ้นเหลือ3000ชิ้นมันจะแย่กว่าได้ยัง มีแต่ชาร์จแล้วขับ แล้วโลกก็เปลี่ยนเทคโนโลยีไปแล้ว มันจะต้านถึง5ปีเป่าเล่นดึง ทั้งสันดาปแบกแบตเตอรี่เข้าไปด้วยมันสู้ev 100%ได้ไง
ค่าแบตเท่าไรคับ ไม่ได้แจ้ง
Dolphin ทิ้งบอมมือ1เดิม699 มือสองปัจจุบัน450000
💀.....งั้นเล่นมือ1 ดีกว่า 559.....💀
@@user-infantry11 400000ถ้วนจัดไป
ข้อเสียอีกข้อ เอารัยมาเชื่อมั่นว่า บ.จะอยู่ถึง8ปี ตามระยะประกันเเบต เค้าสามารถกลับบ้านโดยไม่ต้องบอกลาได้ตลอดเวลา ไม่ผิดกฎหมาย
ผมก็ใช้รถน้ำมันเหมือนกันครับ toyota altis2022
ใช้รถปี ครึ่ง 150,000 กม ? มากไปไหมครับ?
ส่งลูก 150 กม? ไม่น่าใช่?
มันคือข้อเสียสำหรับปัจจัยที่นอกเหนือจากตัวรถหนิครับ มันจะเรียกว่าข้อเสียของรถได้ยังไงหละครับ การที่คุณจะใช้รถอะไรมันก็ต้องศึกษาว่ามันเหมาะสมกับการใช้จำวันของคุณหรือเปล่า และมันควรที่จะเป็นรถคันเดียวของคุณหรือควรเป็นรถคันที่สองเพื่อเติมเต็มในชีวิตประจำวันของคุณ ถ้าจะเปลียบเทียบไปเลื่อยมันก็มีแต่ปัญหาโลกแตกที่มนุษย์จะไม่สามารถพัฒนาตนเองไปไหนได้
คิดแต่ว่านั่ง"เกวียน"ไม่อันตรายกว่า"รถถีบ"
ปั่นรถถีบไม่อันตรายกว่า"รถเครื่อง"
ขับรถเครื่องไม่อันตรายกว่า"รถไฟฟ้า"
สุดท้ายก็โทษบอกว่าประเทศไม่พัฒนาเหมือนต่างชาติ ก็เพราะความคิดคนไทยส่วนมากไม่พัฒนาไงหละครับกลัวที่จะริเริ่มอะไรใหม่ๆ😂
ข้อ.1 คนซื้อรถEV ต้องศึกษาการใช้ว่าเหมาะสมกับวิถีชีวิตประจำวันหรือไม่..เคสคุณเกิดจากการอยากทดลอง..ใข้รถจริงๆ30%ก็ชาร์ตงจแล้ว
2.แบตรถน้ำมันไม่เกิน2ปีก็หมดต้องเปลี่ยน EV ประมาณปีครึ่ง ไม่ต่างกันมากเมื่อเทียบแล้วก็ไม่ต่างกัน เวลาล้างรถคาร์แคร์ต้องแจ้งร้านว่าอย่าเปิดประตูค้างไว้..เช็คแล้วให้รีบปิด
3.Atto3 ตอนเปิดตัวอัตราดอกเบี้ยถูกกว่ารถน้ำมัน ปัจจุบันก็ไม่ต่างจากรถน้ำมัน ที่บอก3%กว่า..คาดว่าจัดไฟแนนซ์เกิน5ปี ดอกเบี้ยรถน้ำมันบ่งยี่ห้อที่ถูกเพราะเอาส่วนลดไปsubดอกเบี้ยแทน
4.ราคาถูกลงเพราะปัจจัยแบตราคาลดลงเกือบ40% แต่ก็แลกด้วยของแถม และไม่ฟรีค่าบำรุงรักษา ประกอบกับการแข่งขันในตลาดเริ่มมีมากขึ้น..คนที่ซื้อไปแล้วกว่า1ปี แทบไม่รู้สึกอะไร
5.สถานีชาร์จปีนี้มีเพิ่มมากกว่าปีที่แล้ว2เท่า และจะเพิ่มมากขึ้นอีก..คาดว่าในปี2568 จะมีสถานีชาร์จเพิ่มมากกว่าปี2566 ถึง3เท่า ในประะเทศนอร์เวย์ปัจจุบันสถานีน้ำมันต้องปรับสัดส่วนในสถานีเป็นน้ำมัน30% ชาร์จไฟ70%
6.รถEV ปัจจุบันมีระบบชาร์จ DC และขึ้นกับเทคโนโลยีของแต่ละยี่ห้อ การชาร์จไม่จำเป็นต้องให้เต็มชาร์จตามความจำเป๋นเพียงพอไปชาร์จต่อที่บ้านยกตัวอย่างatto3 ชาร์จ15นาทีได้ระยะทางเพิ่มอีกประมาณ200 กม.
7.กรณีที่รถหมดระยะรับประกัน..ถึงเวลาจะมีช่างที่เก่งและสามารถซ่อมได้...โครงสร้างพื้นฐานของรถก็เหมือนรถน้ำมัน..ไม่น่ากังวล
8.บริษัทประกันประเมินค่าเบี้ยจากความเสี่ยงจากการใช้รถ อะไหล่ของรถ..แน่นอนว่าเมื่อแบตราคาถูกลง ค่าเบี้ยคงไม่ต่างจากรถน้ำมัน..ทั้งนี้ถ้าผู้ใช้เรียนรู้ศึกษารถก่อนซื้อจะเข้าใจ..เช่น..ฝนตกหนักคาดว่าน้ำท่วมแน่นอน..ต้องตัดสินใจหาที่จอดที่น้ำท่วมไม่ถึง..รอจนกว่าจะเดินทางได้..แม้รถจะรับประกันว่าสามารถแช่น้ำได้4ชม.แต่จะไปเสี่ยงทำไมล่ะครับ
ข้อ 4 ที่บอกคนซื้อปีนึงแทบไม่รู้สึก...นี่ใช่ที่ออกข่าวจะฟ้องบริษัทที่ลดราคา3แสนกว่ารึเปล่าครับ
ขอสอบถามเป็นข้อมูลครับ??
EV ระหว่างที่เสียบตู้รอชาต สามารถนั่งเปิดแอร์รอในรถระหว่างชาตได้ไหมครับ (BYD)
ผมนั่งในรถเปิดแอร์ประจำครับ
น้ำท่วมนี่คือไปไม่ได้ใช่มั๊ยคะ
แบตหมดอายุเปลี่ยนใหม่แพงมาก และเวลามีอุบัติเหตุมักเกิดไฟไหม้รถง่ายมาก
ฟังได้มีเหตุผล..แต่พอมีกัซื้อเลย.ev..ในก.ท.ม.เขาอยากให้ใช้...
ผมมองว่ารถอีวีทุกวันนี้เป็นรุ่นบุกเบิก ย่อมมีข้อผิดพลาดบ้าง อนาคตถ้าน้ำมันหมดไปจากโลก หลายๆประเทศก็คงมาผลิตรถไฟฟ้ากัน เชื่อว่าต้องมีรถไฟฟ้าดีๆใช้อย่างแน่นอน ในอนาคตข้างหน้า
จากข้อ 1 ก็หมายความว่าต่อไปถ้ารถอีวีครองถนน ถนนก็จะพังเร็วขึ้นด้วยใช่หรือไม่
ไม่มีผลขนาดนั้น ที่ถนนพังสาเหตุหลักเพราะรถบรรทุกน้ำหนักเกินต่างหาก ยังไง EV ก็ไม่หนักเท่ารถบรรทุกแน่
พยายามช่วยรถน้ำมันเต็มที่เลย
รถอีวีไม่เหมาะกับคนซื่อบื้อ
อ้า ความสามารถในการปรับตัวและเรียนรู้
อ้าว!!
มันใช่ข้อสรุปเหรอครับ?
จ้ะ, พ่อคนฉลาด
อ้อ ! ช่วยยกระดับภาษาไทยหน่อย
มันสาก
@@jongrakchai-anuphan1091 ติ่งรถน้ำมันมาดิ้น สงสัยโดนใจตรงคำว่าซื่อบิ้อ คงสงสัยในตัวเอง 555