ความย้อนแย้ง กลับชาติมาเกิด กับขันธ์ห้า EP14
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 26 พ.ย. 2021
- พระพุทธเจ้าอธิบายยึดยาวว่า ชีวิตคือการประกอบของขันธ์ห้า แต่คนไทยพุทธส่วนมากกลับเชื่อว่า ชีวิตคือการกลับชาติมาเกิด ประกอบด้วย 2ขันธ์ คือ ร่างกายและดวงวิญญาณ
ในคลิปนี้ ผมใช้คำว่า วิญญาณ ในความหมาย ดวงวิญญาณ soul, spirit ขณะที่คลิปก่อนหน้า (ชีวิตคืออะไร ตอนที่ 2 3) ใช้คำว่า วิญญาณ ในแง่ขันธ์ คือ ตื่นรู้ consciousness
#สังสารวัฏ หรือ #การเวียนว่ายตายเกิด #การกลับชาติมาเกิดใหม่ เป็นของฮินดู-อุปนิษัท
ปัจจุบันเชื่อว่า การระลึกชาติ เป็นการถ่ายความจำผ่าน DNA มักเกิดกรณีของปู่กับหลานชาย เป็นความทรงจำก่อนที่มีลูกชาย ได้สำเนาไปใน DNA ของลูกแล้ว และถ่ายไปให้หลานชายอีกที
คลิปนี้เป็นตอนที่ 4 ของหมวด #ชีวิตคืออะไร #ขันธ์ห้า #ขันธ์5 #พุทธธรรม #EP14
ถ้ามีการเวียนว่ายตายเกิดจริง ทำไมคุณไม่มีความทางจำของชาติก่อน?
![SpokeDark / Talk: อาจารย์ลอย ชุนพงษ์ทอง กับวิทยาศาตร์แห่งการระลึกชาติ [ร่วมกดJOINสนับสนุนเราหน่อยนะ]](http://i.ytimg.com/vi/iwsTxG8wfHk/mqdefault.jpg)
![พรากรัก - เต้ย อภิวัฒน์ [ Official MV ]](http://i.ytimg.com/vi/ShT2ltn8GBE/mqdefault.jpg)
อวิชชาเป็นปัจจัย สังขารจึงมี
ความคิดที่มีความเชื่ออยู่ มันก็เหมือนน้ำเต็มแก้ว การศึกษาพุทธศาสนาต้องเรียนอย่างวิทยาศาสนตร์ อย่างที่อาจารย์แสดง
ขอบคุณครับ ที่เป็นคุณกำลังแก่พระพุทธศาสนา ผู้คนจะได้เห็นว่าธรรมะไม่ใช่เรื่องมงาย🙇🙇🙇
เพิ่งเปิดมาเจอคลิปแรกจะติดตามตอนอื่นๆแน่นอน ขอบพระคุณที่แนะนำค่ะ
ลองทำคลิปเกี่ยวกับอิสลามบ้างครับ
งานวิจัยที่เป็นวิทยาศาสตร์ครับ แต่ยังหาตรรกปัจจุบันมารองรับไม่ได้
th-cam.com/video/DzxtiTOyOZg/w-d-xo.html
โอ้ยน้อบิดเบือนคำสอนนึกคิดเอาเองปฏิบัติไม่ได้ก็หาว่าไม่ใช่
@@teeradechwantaya9152 แล้วคนที่ปฎิบัติได้ ในปัจจุบัน มีกี่คน ..แล้วไครบ้างที่พิสูจน์ได้ว่า สารที่ส่งต่อกันมา 2500 ปี ไม่ได้ถูกบิดเบือน หรือเติมแต่ง
การปฎิบัติ...เราเชื่อการเกิด เชื่อนิพพาน...เชื่อมั่นในคำสอนของพุทธองค์ค่ะ เหตุที่เชื่ออย่างสนิทใจคือการปฏิบัติ...วิปัสสนากรรมฐาน...รู้เฉพาะบุคคลค่ะ
ใช่ไหมคับ กว่าจะเข้าใจคำสอน ตอนนี้เชื่อแบบไม่สงสัยเลย วิปัสนากรรมฐานช่วยไห้รู้เห็น ผมควรทำไงถึงจะดับผู้รู้ได้ กำลังปฎิบัติเพื่อดับคับ อนุโมทนาสาธุด้วยคับผู้รู้
จากผู้ปฏิบัติเหมือนกัน แต่กอนผมฟังหลายทฤษฏีและมองว่าวัฏสงสารคือเรื่องไร้สาระ จนได้ลองนั่งสมาธิเพราะปัญหาชีวิตรุมเร้าเป็นไมเกรน โรคซึมเศร้า ตอนนี้ผมเชื่ออย่างสนิทใจดั่งเช่นคำว่าจิตรู้อยู่ในจิต ไม่ต้องไห้ไครมาบอกจิตมันรู้เอง
หากท่านได้อ่านพระไตรปิฏก ท่านก็จะเห็นว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้สอนแค่การนั่งสมาธิวิปัสนา ท่านสอนตรรกศาสตร์ ความเชื่อมโยงของเหตุและผล
ท่านเอามาบอกมาสอนแล้วตรงหน้า เป็นปัญญาของท่านที่เราควรรับมาพิจารณานั่งพิจารณาไตร่ตรอง
ไม่ใช่การไปนั่งทำสมาธิแล้วให้ปัญญามันเกิดเอง มันเกิดเพราะท่านไตร่ตรองสิ่งต่างๆด้วยกำลังของสติที่ท่านมีต่างหาก การทำสมาธิคือการตั้งมั่นในการครองสติ ให้รับรู้และประมวลผลทุกอย่างอย่างที่มันเกิดจริงๆต่างหาก
ปัญญาไม่ได้เกิดเองลอยๆ เกิดจากการมีสมาธิที่จะกระทำการพัฒนาปัญญาตนต่างหาก
ปัจจัตตัง ไม่ปฏิบัติ ก็คงไม่รู้ ก็คงไม่เห็น
พระพุทธสาสนายังมีเวลาดำรงอยู่ในโลกอีก 2500 ปี
แม้จะดูเหมือนยาวนาน แต่จริงๆ แล้วกลับดูสั้นมากสำหรับผู้เดินทางไกล
1.ผู้ที่เกิดมาเป็นมนุษย์นับว่ามีจำนวนน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับสัตว์อื่นๆ
2.ผู้ที่เกิดมาเป็นมนุษย์แล้วมีร่างกายและจิตใจทื่สมบูรณ์พร้อมยิ่งน้อยลงไปอีกมากๆ เมื่อเทียบกับข้อ 1.
3.ผู้ที่เกิดมาเป็นมนุษย์แล้วมีร่างกายและจิตใจทื่สมบูรณ์พร้อม ได้พบพุทธศาสนา ได้ฟังคำสอนที่ถูกต้อง ก็ยิ่งน้อยลงไปอีกมากๆ เมื่อเทียบกับข้อ 2.
4.ผู้ที่เกิดมาแล้วได้คุณสมบัติครบถ้วนตามข้อ 3. พร้อมกับน้อมนำคำสอนไปปฏิบัติตามอย่างจริงจังนั้น แทบจะนับได้ว่าเป็นจำนวนที่สามารถกำหนด
ออกมาได้อย่างชัดแจ้งเลยก็ว่าได้ นับได้ว่าเป็นผู้มีบุญมาก มีบารมีที่สะสมไว้มาก
ผมขออนุโมทนาบุญแด่ท่านทั้งหลาย ที่ได้พบพุทธศาสนา ได้ฟังคำสอนที่ถูกต้อง และน้อมนำคำสอนไปปฏิบัติตาม ท่านผู้ได้เข้าถึงแล้วซึ่งพระรัตนตรัยอันประเสริฐ ขอท่านทั้งหลายพึงถึงฝ้่งที่ปรารถนาโดยเร็วพลัน เทอญ
วิธีที่จะไม่เกิดอีก พระพุทธเจ้าสอนไว้แล้ว คือ การอยู่กับปัจจุบันขณะ หมายถึงปัจจุบันจริงๆ ทุกวินาที ทุกลมหายใจ ความคิดคือการปรุงแต่งของจิต ทุกความคิดที่เกิดขึ้นไม่ใช่ปัจจุบัน ความคิดเป็นอดีต หรืออนาคต การฝึกสติ ฝึกสมาธิ คือการอยู่กับปัจจุบันขณะ เมื่อเราอยู่กับปัจจุบันขณะได้ทุกลมหายใจ เราจะเริ่มสังเกตุเห็นความคิดเกิดขึ้น ให้เราละความคิดให้เร็ว เราจะเห็นความคิดเกิดขึ้น ความคิดดับไปเร็วขึ้น คล่องขึ้น ให้เราพิจารณาลงไปต่อว่า ความคิดหรือจิตนี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวตน และกาย หรือร่างกายนี้ก็ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เมื่อทำได้อย่างนี้อย่างต่อเนื่อง ภพ หรือ แดนเกิดจะไม่มี เพราะ ความคิดเป็นแดนเกิด คิดดี คิดไม่ดี คือ มโนกรรม กรรมคือแดนเกิด จะไม่มีแดนเกิดต้องอยู่กับปัจจุบันขณะ และถอดถอนความยึดมั่นใน รูป และ นาม หรือ ขันธ์ 5 หรือ กาย กับ ใจ นี้ โดยวิธีปฏิบัติที่พระพุทธเจ้าสอน
ถามจริงครับ ทำได้หรอครับ หรือวิ่งเข้าไปสู่จุดนั้นได้จริงหรอครับ. การบังคับจิตจนว่างถึงทำได้จริง มันก็จะมีกรรมที่กำหนดในชาติเก่าๆอีก วนไปในภพต่างๆอีก ในมุมมองผมน่ะครับ ถ้าอยู่กับปัจจุบันให้สุขทางใจ. มีคนเข้าใจฟังเราก็สุขกับชีวิตแล้ว ถ้าจะฟังเรื่องเหล่านี้ให้ลึกแนะนำแนวหลวงปู่มั่น แนวพุทธวจนะก็ดีครับ แลกเปลี่ยนกันครับ
จริงครับแต่ตอนปติ
เม้นทนี้ถุกต้องสุด
คนที่มีกำลังใจสูง ก็จะมุ่งมั่นฝึกจิตที่ยาก ให้เข้าถึงธรรมได้เมื่อบุญเต็มเปี่ยม ดุจเต่าที่เดินสู่เป้าหมายโดยไม่ท้อถอย ส่วนคนที่กำลังใจไม่เข้มแข็งเพียงพอ จะไม่สามารถฝึกจิตให้สงบมีสมาธิได้ ก็จะท้อแท้ ท้อถอย จนคิดว่าคำสอนพุทธไม่เป็นจริง คนทำไม่ได้และคนที่ไม่มุ่งมั่นทำ มักจะชอบอวดรู้ ส่วนคนที่ทำได้ มักจะสงบเสงี่ยมไม่พูดมาก เพราะรู้ว่ามันเป็นเรื่องที่ยาก ต้องใช้ความขยันอดทนสูงและใช้เวลายาวนานกว่าจะทำได้ มันเป็นเช่นนี้แหละ
ผมเคยอ่านหนังสือของท่านพระพรมคุณาพร ปยุตโต หนังสือเรื่อง เกี่ยวกับฤทธิ์ปาฏิหาริย์ นานมากแล้วจำชื่อหนังสือไม่ได้แน่ชัด มีเนื้อหาตอนหนึ่ง มีคนถามพระพุทธเจ้าว่า ฤทธิ์ปาฏิหาริย์ มีอยู่จริงหรือไม่ พระพุทธเจ้าเลี่ยงที่จะตอบว่ามีหรือไม่มี ท่านกล่าวไว้ว่า จะสนใจไปทำไมเพราะมันไม่ใช่หนทางในการดับทุกข์ ทำนองนี้ ในความคิดเห็นส่วนตัวของผม ถ้าให้วิเคราะห์คำตอบของพระพุทธเจ้า ผมว่าฤทธิ์ปาฏิหาริย์มีอยู่จริงเพราะถ้ามันไม่มีอยู่จริง พระองค์คงจะตอบตรงๆว่ามันไม่มีอยู่ไม่เห็นต้องอ้อมค้อมเกรงใจใคร ที่พระองค์ไม่ตอบว่าไม่มีอยู่จริงเพราะพระองค์มิอาจกล่าวเท็จ เพราะว่ามันมีอยู่จริงพระองค์จึ่งเลี่ยงที่จะตอบ ว่ามีหรือไม่มี เหตุผลก็เพราะไม่อยากให้คนหลงมัวเมากับสิ่งเหล่านี้ที่มันไม่ใช่หนทาางในการดับทุกข์ไมเป็นไปเพื่อความหลุดพ้น
จริง และก็ในพระไตรปิฏกก็มีเรื่องเกี่ยวกับฤทธิ์ปาฏิหาริย์อยู่ไม่น้อย
พระพุทธเจ้าจะตรัสอะไรออกมา สิ่งนั้นต้องเป็นความจริงและเป็นประโยชน์ ถ้าตรัสแล้วทำให้คนถามเห็นผิดเข้าใจผิดยึดมั่นผิดๆพระองค์จะเลี้ยงและใช้คำตอบที่ทำให้คนถามมีความเห็นที่ถูกตรงเท่าที่จะทำได้ ส่วนเรื่องปาฎิหาริย์ถ้าพูดกันในกลุ่มคนที่มีความเห็นถูกต้องแล้วอย่างพระอรหันต์จะพูดกันเป็นเรื่องปกติไม่ใช่เรื่องปาฎิหาริย์ แต่เป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งแค่นั้น
@@suphakwanisubut6609 ใช่ค่ะ สิ่งที่คนเรียกว่า "ปาฏิหาริย์" ก็มีอยู่ในธรรมชาติที่หากปฏิบัติก็สามารถเห็นจริงและเข้าถึงได้ค่ะ
ปาฏิหารย์มี 2อย่าง
เท่าที่เคยฟังมา
คือ อิทธิปาฏิหารย์
กับ อาเทสนาปฏิหารย์
อย่างแรก พระพุทธเจ้าทรงห้ามสาวกแสดง
ของพวกนั้นถูกสร้างขึ้นหลังจากมนุษย์เกิด
พระเจ้ามี2แบบ แบบแรกพระเจ้าที่สร้างเรา
แบบที่2 เราที่สร้างพระเจ้า
มันเป็นความเชื่อ และการบริหารความเชื่อ หากมาตรฐานคุณธรรมพุทธเบื้องต้น คือ ศีล สมาธิ ปัญญา เราทำได้ไม่เดือดร้อนอะไร ... เช่นนี้ ... ยามมีชีวิต ก็สันติสุข หากตายไปแล้ว ดันมีปรโลกจริงๆ ก็รอด นั่นเอง ไม่ได้เสียหาย ลำบาก ยากเย็น อะไร
.
ทัศนะพุทธ การทำความดี มุ่งพัฒนาตนเอง มิใช่มุ่งหลอกสังคมให้สงบ
.
ปรโลก นรก สวรรค์ จากพระพุทธวจนะ มี 3 มิติ คือ จิตใจ สังคม และปรโลก อย่าไปจับแค่วจนะเดียว แล้วเททิ้งวจนะที่เหลือ
.
พุทธทาส ถ้าศึกษาท่านมาจริง จะพบว่า ท่านแค่เน้นสอนปัจจุบันธรรม ที่มองเห็นได้ง่าย เอาใจคนร่วมสมัย แต่ท่านไม่ได้ปฏิเสธปรโลก ท่านแค่บอกว่าไม่แตะต้อง เพราะมองเห็นได้ยาก จะสอนเน้นปัจจุบันแค่นั้น
.
การสอนความเชื่อ ไม่ใช่เรื่องผิด โง่ หตือหลอกลวง ... เพราะจริยธรรมพุทธ มันเชื่อมโยงปัจจุบันธรรมไว้หมดแล้ว จะเชื่อหรือไม่ก็ได้ทแต่หากปัจจุบันเหตุดี ได้มาตรฐาน ปรโลกก็ไปดี
ไม่เคยมีตัวตนในอดีต
ไม่เคยมีตัวตนในอนาคต
ปัจจุบันก็เป็นเพียงการประชุมกันของธาตุขันธ์
ในการประชุมกันของธาตุขันธ์ก็ประกอบด้วยการเกิด-ดับ อยู่ทุกขณะจิต ตัวตนที่เกิดขึ้นก็เกิดจากอวิชา แสดงตัวตนให้เข้าใจถึงการมีอยู่ของตัวตน
หากเราตาย ธาตุขันธ์ก็แยกออก แต่เพราะอวิชานั่นเองที่จะนำให้เกิดการประชุมของธาตุขันธ์ใหม่ ภายใต้วัฏสงสารสืบเนื่องไป
ถ้าพูดว่ามีการเวียนว่ายตายเกิดจริง มันจะคล้ายๆการเปลี่ยนภาชนะของจิต ซึ่งจะคล้ายๆ ศาสนาเทวนิยม ผมว่าอาจจะคลาดเคลื่อนจากพุทธศาสนา
แต่ทั้งหมดทั้งมวลปัญญาแบบโลกุตตระไม่สามารถใช้ความคิดได้ ไม่อย่างนั้นคนคงใช้ความคิดไปนิพพานกันหมด ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้
ความคิด ความรู้สึก เกิดจากจิต ไม่ใช่เกิดจากปฏิกิริยาทางเคมีในสมองและเส้นประสาท ผมสรุปได้แบบนี้ครับ หลังจากศึกษามานานอย่างลึกซึ้งทุกศาสตร์
ทำไมคนเป็นโรคซึมเศร้าต้องกินยาปรับสารเคมีในสมองครับ
@@papadata2532 กินเหล้าก็ต้องเมา
ตื้นเขินไป โลกก็แค่เม็ดฝุ่นเมื่อเทียบกับอนันตจักรวาล รู้ระบบนิเวศน์หนึ่ง แล้วเอาอธิบายระบบนิเวศน์อื่นได้อย่างไร
งั้นพระพุทธเจ้าคงตื้นเขินสิ ที่บอกคนต้องเป็นไปตามกรรม บางครั้งคุณก็มองไรซับซ้อนไป จนไม่เชื่อในสิ่งที่เป็น คุณต่างหากที่ตื้นเขิน
@@kang_6201 พระพุทธเจ้าไม่ผิดหรอก กรรมมันลึกซึ่งมาก ไม่มีญาณวิสัยยากที่คนธรรมดาจะเข้าใจ
@@user-hu9lj9kl6t ไม่อ่ะ มันไม่มีไรลึกซึ้งยากขนาดนั้นหลอก มันคือเรื่องธรรมดาที่ทุกคนก็เข้าใจได้ครับ แค่ตอนเราไม่มีสติเราไม่ได้มองมัน และไม่ได้มีสติที่จะมองมันได้ตลอดเวลา แต่กรรมมันก็มีและเห็นอยู่อย่างชัดเจน เด็กเล็กก็ยังรู้ คุณอย่าไปทำไรให้พุทธศาสนามันไกลตัวสิ
@@kang_6201 😂😂😂
ให้ท่านลอย ช่วยศึกษาต่อคำสอนตามพุทธวจน เพิ่มอีกนิดเดียว ท่านจะเข้าใจ
เรื่อง สังขต และอสังขต
แล้วท่านจะทราบเข้าใจแท้จริง
@Vee คำสอนจากไหนครับ ขอข้อมูลเพิ่มเติมหน่อยครับ
@@papinwit.s3350สัจธรรมคือ ปฏิจจสมุปบาท การหมุนในแต่ละรอบ คือหนึ่งชีวิต ปฏิจจสมุปบาทจะหมุนของมันไปเรื่อยๆ เกิดดับๆๆๆๆ สังสารวัฏก็ยาวออกไปเรื่อยๆ เพราะเป็น ปฏิจจสมุปบาท สายเกิด
สมเด็จพระญาณสังวรฯ...
"ชีวิตนี้น้อยนัก", "อำนาจอันยิ่งใหญ่แห่งกรรม"
ดังตฤณ...
"เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน", "เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว", "มหาสติปัฏฐานสูตร"
ท่านพุทธทาส อินทปัญโญ...
"คู่มือมนุษย์", ความว่าง (สุญญตา)
สาธุครับ
พระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้ได้นี่คือไม่จำเป็นต้องบำเพ็ญบารมีมาเหรอครับ ถ้าไม่เชื่อเรื่องเวียนว่ายตายเกิด แล้วคนที่จะเกิดเป็นพระพุทธเจ้านี่ควรเป็นใคร ใช้เกณฑ์อะไรมาวัด
ถ้าเชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด คนที่จะเกิดมาเป็นพระพุทธเจ้าจะต้องบำเพ็ญบารมีมาอย่างยาวนาน
พระพุทธเจ้าไม่อยากสอนเพราะธรรมเขาใจยาก ตอนหลวงตามหาบัวเป็นมหาเปรียญแล้วไปปฎิบัติกับหลวงปู่มั่น ท่านให้วางความรู้จากการเรียนไว้ทุกอย่างแล้วปฎิบัติอย่างเดียวตามมรรคแปดจนได้บรรลุธรรม ตามหลักกาลามสูตร การอ่านอย่างเดียวแล้วตีความก็จะออกทะเล เพราะธรรมนั้นลึ้งซึ้งนักเกินกว่าจะคิดเอาเอง
ใช่ค่ะพี่ไม่มีใครรู้ไปสะทุกอย่างหรอกโลกทิพย์โลกธาตุต้องใช้ตาทิพเป็นเครื่องมือเสมือนกล้องจุลทรรศน์ที่ใช้ส่องแบคทีเรียหากคุณไม่มีเครื่องมือมันก็ไม่เห็น พระพุทธบอกคนเราตายแล้วเกิดกระดูกกองอย่างภูเขา น้ำตาแห่งความทุกข์เหมือนทะเล และรายการของ อ.โอเล่ห์เราว่าชาติภพมีจริง บุญ กรรม จะบวกคูณหาญให้เองว่าคุณจะเกิดมา สูงค่ำดำเตี้ย ตระกูลดี อยู่ที่ดีๆ กินของดีๆ เกิดดีๆ เพราะคุณทำดีไว้. ศาสนาพุทธปฎิบัติเองรู้ได้เฉพาะตน หากคุณยังไม่เคยปฎิบัติย่อมไม่มีทางรู้แจ้งเห็นจริง. ส่วนการถ่ายทอดแล้วแต่จริตแต่ละท่านว่าถ่ายทอดเก่งหรือไม่เก่ง. ในทางนิพพาน รู้มากเก่งมากฉลาดมากไม่ใช่หนทาง แห่งนิพพานสักนิด
เดินตามแผนที่ กับ เดินไม่อาศัยแผนที่ แบบไหนจะหลงทางง่ายกว่ากัน ?
ปัญญามี 3 ระดับคือ 1.สุตมยปัญญา ปัญญาที่เกิดจากการฟัง 2.จินตามยปัญญา ปัญญาที่เกิดจากการคิด 3.ภาวนามยปัญญา ปัญญาที่เกิดจากการปฎิบัติจนบรรลุธรรมตั้งแต่โสดาบัน-อรหันต์ (ปัญญาข้อที่1,2 ทางโลกใช้เรียนประถม-ปริญญาเอก ถ้านำมาวิเคราะห์ธรรมะอาจออกทะเลได้ พระพุทธเจ้าเน้นปัญญาข้อที่3 ภาวนามยปัญญาคือปัญญาที่เกิดขึ้นเองเหนือกว่าปัญญาข้อที่1,2 ดวงตาเห็นธรรมเมื่อไรก็จะเข้าใจเอง ว่าทำไมขันธ์ห้าถึงเป็นอนัตตา)
@@dom03226 อ่านข้อความของพี่ได้ความรู้มากๆขอบคุณค่ะ. แต่ อ.ลอยก็มีหลายคลิปทางโลกที่ได้ประโยชน์และความรู้ชอบติดตามและนับถือค่ะ. แต่บางเรื่องเช่นนี้ๆ อ.ลอยอาจไม่ถูกต้องเสมอไปเป็นเรื่องธรรมชาติค่ะ
ในทางพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าท่านมีการใช้โยนิโสมนสิการ มันคือดารคิดวิเคราะห์อย่างแยบคาย
มันไม่ใช่การคิดเอาเอง แต่เป็นการประมวลผลจากการรับรู้ของเราต่างหาก
ท่านปฏิเสธการคิดไม่ได้ แต่สามารถปฏิเสธความคิดที่ผิดได้
ขอบคุณอาจารย์ที่ เปิดโลกทัศน์ของผมอีกครั้งครับ
ขอบคุณแนวคิดของอาจารย์แต่ผมเชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดครับ.... เพราะสิ่งที่อาจารย์เสนอก็ไม่ใช่ว่าผมจะเชื่อทั้งหมดอาจดูมีเหตุผลแต่อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องทั้งหมด
ความเชื่อเป็นแค่ความมั่นใจว่าเป็นความจริง ความเชื่อไม่มีเหตุผล ไม่มีหลักฐานยืนยัน พิสูจน์ไม่ได้ รวมทั้งความเชื่อไม่ใช่ปัญญา เพราะนำมาใช้ดับทุกข์ตามหลักอริยมรรคไม่ได้
ปัญญาจะต้องประกอบด้วยเหตุผลที่สมเหตุสมผลที่สามารถอธิบายให้เข้าใจได้ และต้องมีของจริงมายืนยัน รวมทั้งต้องนำมาใช้ดับทุกข์ของจิตใจในชีวิตปัจจุบันได้ด้วย
แล้วเรามีปัญญากันบ้างแล้วหรือยัง? หรือยังถูกความเชื่อครอบงำสติปัญญากันอยู่อย่างมิดชิด?
เชื่อเช่นกัน ว่าคนเราเวียนว่ายตายเกิด
จากการผู้ที่ศึกษา
หาผู้ที่ระลึกชาติได้
ในเมืองไทยมีหลายราย ตอนนี้บางคนยังมีชีวิตอยู่
@@gueng1 สอนที่ในสิ่งที่พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนว่าสอนตั้งในนรก1กัป
เห็นด้วยครับ
ผมว่าคนเราไม่ได้รู้ ไม่ได้เก่ง ไปทุกเรื่องหรอกครับ ถ้าฟังแบบเพลินๆก็คล้อยตาม
@@omsinmonk พระอาจารย์กล่าวได้ดีครับ เพราะว่าถ้าพระพุทธเจ้าสอนเรื่องเหตุและผล พระองค์คงไม่สอนให้เชื่ออย่างไร้เหตุผลแน่นอนครับ
ผมอยากให้อาจารย์ลองนั่งสมาธิให้ได้ถึงฌานที่4ให้ได้แล้วจะเข้าใจว่ากายกับจิตนั้นแยกจากกันได้ในขณะตัวเป็นๆนี้แหละครับ ผมเป็นวิศวกรครับฝึกภาวนามา10กว่าปีครับ ละอธิบายพระธาตุได้มั้ยทำไมพระธาตุของพระอรหันต์กลายเป็นแก้วใสๆ ผมมีและเกิดกับพระธาตุของพระอาจารย์ผมเองก่อนละหลังผมถ่ายภาพไว้ อาจารย์กับนักปฏิบัติคือคนละเรื่อง อาจารย์กำลังสอนให้คนเข้าใจผิดนะครับ คือบุญบาปไม่มีนั่นแหละครับ
อาจารย์นี้ขั้นหนักเลย ฟังจากแกพูด แกเชื่อสมองตัวเอง เมื่อใดก็ตามเอาสมองคิด ให้คิดให้ตาย ก็โดนหรอกโดยกิเลส สมองที่คิดแบบวิทยาศาสตร์ มันสั้น เพราะมันรับรู้จากตาหูจมูก มาเป็นสัญญา ต่อให้เอาเครื่องมือ มาช่วยวิเคราะห์ก็ มองได้สั้น กว่าทีจะเข้าใจ สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน ไอ้เวลา หลายล้านปี ที่แกพูด ยังสั้น กว่า สิ่วที่พระพุทธเจ้าเห็น และเอามาสอน เพราะเขารู้ที่ใจ มันไม่มีขอบเขต ล้านปีนี้ถือว่าจิดเดียว ใจ คนเรา มันคู่กับกิเลสมาแบบ ไม่มีจุดเริ่มต้น กิเลส กับเวลา ก็ไม่มีจุดเริ่มต้ ไม่มีจุดสิ้นสุด ไม่มีกว้าง ไม่มียาว ไม่มีนำ้หนัก อย่างความโลภ เอาจักรวาลมาใส่ก็ไม่พอ รู้เท่าใหนก็โลภเท่านั้น ถ้ากิเลส มันมีลักษณะแบบนี้ และมันอยู่ที่ใจเรา ทำไม ใจเรา มันก็เป็นแบยเดียวกัน ไม่มีจุดเริ่มต้น ไม่มีจุดสิ้นสุด
เรื่องกรเวียนวายตายเกิดคำถามนี้เคยฟังมีคนถาม อาจารย์เสถียร โพธินันทะ ได้ให้คำตอบไว้ว่ามาจากโลกธาตุอื่น ส่วนเรื่องอื่นๆที่ฟังอาจารย์ลอย บางเรื่องก็ได้ความรู้ใหม่ บางเรื่องก็ตีกับความรู้อื่นที่ได้รู้ศึกษามาก่อนหน้า 55ยังไงก็รับฟังและเลือกมาปรับพิจารณาปฎิบัติเพื่อให้ก้าวไปสู่ปฏิเวธ
เราว่าอ.ลอยเชื่อมั่นหลักการเกินควรไปเช่น..
ชาติหน้าไม่มี... ชาติที่แล้วก็ไม่มี... เท่ากับว่าเป็นพวกนอกศาสนา... คือพวกที่ปฏิเสธ..รึ..ว่าเป็นพวกนัตถิกทิฏฐิ.. 5555
@@TaTa-dr3vd อาจารย์ลอยสอนขั้นสูงในการอธิบายทฤษฎี(เช่นเดี่ยวกับการที่มีอภิธรรมมาขยายความเพียงแต่ลีลาแตกต่างกันออกไป) หากผู้ไม่ศึกษาขั้นพื้นฐานถึงระดับกลาง+ปฎิบัติประยุกต์+ฟังผู้รู้มาหลายๆที่และคัดแต่สิ่งที่สมควร ก็อาจจะเข้าใจไปทางมิจฉาฯได้ (บางทีคิดว่าตนเองอาจจะภูมิไม่ถึงก็ได้จึงค่อยๆเก็บไปไม่ปักใจเชื่อ+คิดว่าเชื่อสิ่งแบบไหนแล้วผลดีมากกว่ากัน เช่นเรื่องการทำบุญหากชาติหน้าไม่มีจริงก็ไม่เสียหายอะไร หากมีจริงก็ถือว่าได้ประโยชน์)
....อันที่จริงหากฟังศานาเปรียบเทียบ นิกายเปรียบเทียบจะได้รู้อะไรหลายอย่าง เช่นคำสอนในจุดที่ว่าเหมือนกันแต่มีจุดแตกต่างกันนิดเดียว อ.เสถียรก็ได้บอกไว้
......อ.เสถียรบรรยายไว้ ในช่อง Somkid Preecha ลำดับที่ 421-588 ที่เหลืออาจะกระจายนานๆพบทีแต่เป็นเรื่องตัดจากในช่วงวีดีโอดังกล่าว (หมายเหตุหากฟังควรฟังตั้งแต่421 จะลำดับเรื่องไว้ดี )
อยากให้ อาจารย์ลอย ศึกษาเรื่อง จิตคือพุทธะ ของ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล ครับท่านอธิบายได้ละเอียดกระชับ เข้าใจง่าย ที่จารย์ลอย และหลายๆท่านสงสัย ท่านตอบไว้ทั้งหมด เสียเวลา ไม่ถึง ชั่วโมงครับ
แล้วคุณรู้ได้ไงว่า เขาไม่เคยศึกษามาก่อน
ปุพเพนิวาสนุสติญาณ (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๑) การระลึกชาติได้ ของพระพุทธเจ้าหรือหลวงปู่หลวงพ่อหลายท่านมึจริงมั๊ย เพราะถ้ามีก็แสดงว่ามีชาติที่แล้ว
สัมมาทิฏฐิ 10 ประการ (จาก พุทธพจน์)ได้แก่
1 . ทานที่ให้แล้วมีผลจริง
2 . ยัญที่ทำแล้วมีผลจริง
3 . การเซ่นสรวงหรือการบูชามีผลจริง
4 . วิบากแห่งกรรมดีกรรมชั่วมีผลจริง
5 . โลกนี้มีจริง
6 . โลกหน้ามีจริง
7 . มารดามีคุณจริง
8 . บิดามีคุณจริง
9 . โอปปาติกสัตว์นั้นมีอยู่จริง
10 . พระอรหันต์ผู้ สามารถรู้แจ้งโลกนี้โลกหน้ามีอยู่จริง
สัมมาทิฏฐิของคุณแต่งขึ้นเองเหรอครับ ศึกษามาจากไหน ขอแหล่งข้อมูลด้วย
เชื่อในคำสอนของพระพุทธเจ้า นักปฏิบัติ พระสุปฏิปันโน ไม่เชื่อนักคิด นักเขียน นักมโน ครับ
นี่มันเป็นสัมมาทิฏฐิระดับศีลธรรม เขาเอาไว้สอนเด็กหรือคนป่าคนดง ถ้าจะสอนปัญญาชนต้องใช้สัมมาทิฏฐิระดับโลกุตตระ (เหนือโลก) ที่สอนเรื่องอนัตตา (ความไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง) สุญญตา (ความว่าง)
@@omsinmonk ระดับไหนๆ เขาก็สอนว่า มีโลกหน้าครับ
"การเกิดทุกคราว เป็นทุกข์ร่ำไป" นี่ก็พุทธพจน์
ถ้าเชื่อว่ามีโลกหน้าก็มีโลกหน้าครับ ถ้าไม่เชื่อก็คือไม่มี ทุกอย่างคือจิตปรุงแต่งหมด คุณตายไปก็จำอะไรไม่ได้ต่อให้เกิดใหม่มันก็เหมือนนับหนึ่งใหม่ตัวตนใหม่อยู่ดี หรือง่ายๆก็คือไม่มีตัวตนถาวร
🎉🎉🎉ดีใจทุกครั้งที่อาจารย์ลงคลิป..ขอบคุณมากค่ะ
ดีแต่พูด,ไม่ประติบัติ,
@@phoukhamnanethong8911 พิมพ์ให้ถูกก่อนเถอะ ก่อนจะไปว่าคนอื่นเขา
ครูพุทธยังสอนอยู่ทุกวันเลยครับ
สอนเข้าใจง่ายดีครับ ทำออกมาเรื่อยๆนะครับ ติดตามแล้ว
ในคำสอนของพุทธศาสนา คือถ้าหมดสงสัยในเรื่องการเกิดดับของภพชาติได้เมื่อไหร่ ก็จะพบความจริงว่าทุกอย่างมันคือความว่างเปล่า ส่วนการเวียนว่ายตายเกิด มันก็เป็นแค่กระบวนการตามธรรมชาติ ไม่มีอะไรที่จะต้องมาสงสัยอีกต่อไป...
ภพชาติแบ่งออกเป็น 2 อย่างคือ
1. ภพชาติทางรูป(ร่างกาย)
2. ภพชาติทางความรู้สึกนึกคิด
(จิตใจ)
หากรู้เช่นนี้แล้ว จิตก็หลุดพ้นการปรุงแต่ง ไม่มีอะไรที่เหนือไปกว่านี้...
ผมอายุ64 และเข้าใจเรื่องที่คุณพูดอยู่ตั้งแต่อายุ28 คือสรุป เข้าใจว่า ร่างกายและจิตใจไม่ใช่ตัวตนและของๆตน แต่ผมก็ไม่ค่อยพูดกับใครเรื่องนี้ นานๆก็จะพูดสักที วันนี้ ได้ฟังคนที่เข้าใจเหมือนกันพูด รู้สึกดีใจมาก ผมฟังคุณมาสัก7-8คลิป เป็นเรื่องอื่นๆก็ชอบมาก พอคลิปนี้เด้งมา ได้ฟังแล้วรู้สึกดีใจมากครับ ผมก็ไม่อยากไปโต้เถียงกับใคร 55 อยู่แบบรู้คนเดียว อิอิ
แต่ผมรู้ตั้งแต่ตอนอายุ 15
@@infinitylogic1164ผมรู้ตอนอายุ ได้ 1ชม
จงขอ แล้วเจ้าจะได้
ขอบคุณอ.ที่นำความจริงมาให้วิเคราะห์ร่วมกัน
-กำเนิดจักรวาลทุกอย่างมาจากอนุภาค(ที่เราเรียกว่าสิ่งไม่มีชีวิต)เดียวกัน
-ตรงกับญาณของพระพุทธองค์ที่ตรัสว่า ไม่มีคนหรือสัตว์ที่ไม่เคยเป็นญาติพี่น้องกันมาก่อน ที่จริงท่านคงอยากจะตรัสว่ารวมทุกอย่างเลยทั้งพืชและสสารทุกอย่าง แต่คงเกินเลยวิสัยที่คนจะเข้าใจได้
มีหลายอย่างที่มนุษย์ไม่รู้ เราเกิดมาพร้อมกับความไม่รู้ เรามาศึกษาเอาภายหลังทั้งสิ้น ..เราควรเดินตามผู้รู้อย่างพระพุทธเจ้า อยากให้ไปอ่านพระไตรปิฎก..เพราะพระองค์คือผู้รู้ที่แท้จริง
พระพุทธเจ้าลืมคิดไปว่า ถ้ามีเวียนว่าย แล้วจำนวนวิญญาณกับจำนวนสิ่งมีชีวิตทำไมมันไม่เท่ากัน
คนเห็นคนเป็นคนเหมือนกัน *เกิดขึ้น*ตั้งอยู่*ดับไป ทุกอย่างเป็นสิ่งสมมติ 🌱🍃🍂
ตรรกะคมมากเลยครับ รู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ดูคลิปอาจารย์ เป็นเรื่องที่จะหาคำตอบด้วยเหตุและผลที่ดีจากคนรอบข้างหรือสังคม ได้ยากมาก ขอบคุณอาจารย์ครับ
ขอบคุณลอยจ้ะ ได้เรียนความรู้ใหม่เพียบ
ปฏิบัติเท่านั้น ถึงจะรู้ ออกมาฟุ้ง ก็เท่านั้น
งมงาย
@@natthawatjuntrasut601 อะไรคือ งมงาย
@@famous577 แล้วปฏิบัติเห็นอะไรไหมล่ะ ถ้าไม่เห็น .....ไม่มี000000000
@@natthawatjuntrasut601 เห็นอะไรหรอครับ ปฏิบัติ จะเห็นหรือไม่เห็นเค้าไม่มาบอกหรอกครับ
แล้วมาบอกผมงมงาย ผมไหว้ผี ทายหวย หรือยังไงถึงบอก คนอื่น งมงาย
ยังไงผมก็ยังเชื่อตามคำสอนของพระศาสดาครับว่าความคิดที่ว่าตายแล้วสูญเป็นความคิดที่สุดโต่งเกินไป ตราบใดนะครับที่ยังมีอวิชาเป็นเครื่องปิดบังและยังมีตัญหาเป็นเครื่องผูกมัดเรายังคงเวียนว่ายตายเกิดอย่างไม่มีวันสิ้นสุดไม่ต้องนับเป็นปีเป็นชาติแต่นับเป็นกัป อสงไขยกันเลยทีเดียวครับ
การเวียนว่ายตายเกิดคือสันตติการสืบต่อคือการสืบพันธุ์ของสัตว?นั้นเอง
@@user-dr6gr6sg8v ขอบคุณครับ
ผมเชื่อคนกลับชาติมาเกิด,,ผมไม่เคยมีใครสอนบอกสถานที่ผมใช่ชีวิตอยู่ชาติก่อนผมสามารถบอกเล่า
ตายแล้วไม่สูญครับ แต่สิ่งที่ไม่สูญไม่ใช่กายหรือจิต แต่จิตที่ยังอยู่คือการกระทำของเราที่ส่งผลต่อโลก ต่อผู้คน ไม่ใช่จิตแบบจิตวิญญาณ ข้อเสียของศาสนาพุทธคือ ภาษาพอแปลแล้วเข้าใจผิดกัน
เยี่ยมเลยคะเข้าใจมากแจ้งมากเลยจาร.ขอบพระคุนคะจารที่ได้รัยฟัง 🙇
ขอบคุณมากๆค่ะ
เรื่องภพ เรื่องชาติ แบบรับรู้ได้ หาประโยชน์ได้ ต้องมาแล้วครับอาจารย์ ผมว่าอาจารย์มีคำตอบกับเรื่องนี้แน่.
@@servantofthepeople5405แว๊ปนึงแห่งความคิดก่อให้เกิดหนึ่งเรื่องราว หนึ่งเรื่องราวคือหนึ่งชาติ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ สำผัสกับเหตุปัจจัยภายนอกก่อให้เกิดหนึ่งความรู้สึก(ยินดี ยินร้าย หรือเฉยๆ)กับเรื่องนั้นๆ ก่อให้เกิดตัวเรา ตัวตนของเราในเรื่องนั้นๆ (ผู้ที่ได้รับรู้ความรูู้สึกยินดี ยินร้าย หรือเฉยๆนั้น) อย่างนี้ผมเรียกว่าหนึ่งชาติ แล้วรับเอาความรู้สึกนั้นปรุงแต่งชาติต่อไปเรื่อยๆไม่สิ้นสุด สำหรับผมเรื่องชาติแบบนี้หาประโยชน์ได้มากที่สุดแล้ว ขอบคุณครับ.
ชอบ clip นี้ครับ ชาติหน้าจะมีจริงหรือไม่มี ขอใช้ชีวิตให้มีความสุขดีกว่า ดีกว่ามากลัวนั่นกลัวนี่ กลัวจะไปเกิดเป็นอย่างนั้นอย่างนี้
ชัดเจน ยอมเยี่ยมมากครับ
ขอบพระคุณค่ะอาจารย์
คนที่ปฏิบัติเท่านั้นจะรู้
ข้อนี้ ยอมสุดใจ
รู้ผิดก็ปฏิบัติผิด รู้ถูกจึงจะปฏิบัติถูก
อยากดูตอนต่อไปแล้วครับอาจารย์ ติดยิ่งกว่าดู Netflix series
ดีใจ ที่ได้ฟัง หลักที่ถูกต้อง เราเป็นคนรุ่นเก่าที่ถูกฝังความคิดอีกแบบหนึ่ง
อาจารย์พูดซะเห็นภาพเลย... 😆 ขอบคุณมากค่ะ ดีมากๆ
“.....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้น เบื้องปลายไม่ได้ เมื่อเหล่าสัตว์ผู้มีอวิชชาเป็นเครื่องกางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่ ที่สุดเบื้องต้นย่อมไม่ปรากฏ
“.....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เหมือนอย่างว่า บุรุษตัวทอนหญ้าไม้ กิ่งไม้ใบไม้ ในชมพูทวีปนี้ แล้วจึงรวมกันไว้ ครั้นแล้ว พึงกระทำให้เป็นมัดมัดละ ๔ นิ้ว วางไว้ สมมติว่านี้เป็นมารดาของเรา นี้เป็นมารดาของมารดาของเราโดยลำดับ มารดาของมารดาแห่งบุรุษนั้น ไม่พึงสิ้นสุด ส่วนว่าหญ้าไม้ กิ่งไม้ ใบไม้ในชมพูทวีปนี้ พึงถึงการหมดสิ้นไปข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่าสงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ เมื่อเหล่าสัตว์ผู้มีอวิชชาเป็นเครื่องกางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ท่องเที่ยวไปมาอยู่ ที่สุดเบื้องต้นย่อมไม่ปรากฏ พวกเธอได้เสวยทุกข์ ความเผ็ดร้อน ความพินาศ ได้เพิ่มพูนปฏพีที่เป็นป่าช้าตลอดกาลนาน ฉะนั้น ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็เหตุเพียงเท่านี้พอทีเดียวเพื่อจะเบื่อหน่ายในสังขารทั้งปวง พอเพื่อจะคลายกำหนัด พอเพื่อจะหลุดพ้น ดังนี้”
ติณกัฏฐสูตร นิ. สํ. (๔๒๑-๔๒๒)
ตบ. ๑๖ : ๒๑๒ ตท. ๑๖ : ๑๙๙
ตอ. K.S. II : ๑๑๘-๑๑๙
สาธุ สาธุ สาธุ
ชาติที่แล้วผมคิดว่ามีครับ ผมเกิดมาวาดรูปได้เก่งกว่าคนอื่น ทั้งที่ผมไม่ได้ฝึกหัด และ อาจารย์ ประเมินจำนวนสิ่งมีชีวิตน้อยไป และ เวลาของสิ่งมีชีวิตน้อยไปครับ รอบแต่ละครั้งในการเกิด ไม่เท่ากัน มีทั้งสั้นแล้วก็นานมากจนคิดว่าเป็นอมตะ
ถูกต้องค่ะพี่.
@Ozeanien RKCK แล้วอะไรคือตัวกำหนดให้มีพรสวรรค์หรอถ้างั้น
อ.แกคิดแค่ชาติที่แล้ว ชาตินี้ ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน แต่สิ่งที่เรารับมามันผสมมาเป็นล้านๆชาติ อยู่ที่อะไรจะส่งผลก่อนครับ แต่ที่สำคัญที่สุดคือชาตนี้! คุณจะทำอะไรมากกว่า..
@Ozeanien RKCK คุณอธิบายมากกว่าคำว่า พรสวรรค์ได้มั้ยครับ
@@chatpongseven4915 มันก็ขัดแย้งกับเรื่อง ภพภูมิที่พระพุทธเจ้าได้กล่าวไว้สิครับ
พระพุทธเจ้าตรัสถูกต้องแล้ว รู้ได้เฉพาะตน สอนให้ผู้อื่นรู้ตามเป็นเรื่องยาก สาธุ ๆ
ตามอาจารย์มาตั้งแต่เรื่องกัญชา การเมือง รัฐธรรมนูญ พอมาเรื่องพุทธธรรม ผมรู้สึกเหมือนเราเอานักเตะที่ดีที่สุด เก่งที่สุดของไทย ไปเล่นพรีเมียร์ลีก คหสต.นะครับ แต่ต่อให้ผลเป็นยังไง สังคมเราต้องการคนอย่างอาจารย์อีกมากครับ ขอชื่นชมและขอบคุณในความรู้ของอาจารย์เสมอมาครับ
แล้วเรื่อง ทศชาติ
แสดงถึง การมาเกิดใหม่ ตามแรงอธิษฐาน
ที่จะมาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไหม
แล้วการพิสูจน์เรื่อง
การระลึกชาติ ทั้งในปท.และตปท.
หลายเคส ก็น่าทึ่งนะคะ
ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่อธิายทั้งจักรวาล เชื่อเรื่องมนุษย์ต่างดาว และเชื่อเรื่องความละเอียดของกาย วิญญาณจึงมีเยอะมากๆ ไม่ใช่ว่าจะเอาแค่ในโลกใบนี้มาคำนวณ
@@anansunday4803 ทวีปอันนั้นเป็นนอกโลกออกไปครับ ส่วนเรื่องทับซ้อนมีอยู่ในโลกเหมือนกัน
ขอบพระคุณมากคับอาจารย์ ขอบพระคุณจิงๆ
อนุโมทนา สาธุ ในวิทยาทาน ครับ อาจารย์ ติดตามตลอด ช่องนี้อุดมปัญญา
เป็นประโยชน์มากสำหรับมนุษย์ที่คิดเป็น
ใช่เลยครับอาจารย์ เทียบเคียงได้ใกล้มากจนสามารถเห็นภาพพจน์ได้ถึงแก่นจริงๆ แกนกลางที่ว่านี้จะเปลี่ยนแปลงได้จะต้องใช้การฝึกฝนจากภายนอก (ความคิด) จนเกิดความชำนาญหรือที่เรียกว่า วสี จึงจะสามารถพลิกสภาพสภาวะที่เป็นฐานที่อยู่ภายใน (แกนจิต) ให้กลับกลายไปในทางที่ต้องการหรือที่เราเรียกว่า อาสวะ หรือสันดานเดิมที่นอนหนุนเนื่องอยู่ภายในให้กลับกลายจากที่เคยขุ่นมัวเป็นกระจ่างใสได้ เหมือนดั่งที่พระองค์เคยตรัสไว้ว่า การฝึกเจริญสติก็เป็นเครื่องมืออันหนึ่งที่เมื่อทำถึงจุดแล้วจะสามารถทำให้จิตของคนเรากระจ่างแจ้ง เบิกโพลง จนกระทั่งตื่นรู้ได้ในที่สุด เมื่อจิตตื่นรู้จนถึงทุกขณะจิตแล้วก็จะไม่มีพลั้งเผลอจากความสุขทุกข์ บาปบุญคุณโทษ ไม่ขุ่นมัว แม้แต่เศษเสี้ยวของวินาที และก็จะถึงที่สิ้นสุดของความเกิดแก่เจ็บตาย เข้าถึงพระนิพพานในที่สุด นั่นเอง ใครเข้าใจก็หมายถึง เริ่มเข้าสู่ สัมมาทิฏฐิ อันเป็นก้าวแรก ของมรรคมีองค์แปด เมื่อเข้าใจถูกต้องแล้ว สัมมาตัวอื่นๆก็จะตามมา ไม่มีทางเดินไปในทางที่หลงผิดอีกตลอดไป ที่เหลือก็เพียงแต่อยู่ที่การขยันฝึกฝนเท่านั้น สาธุๆ ครับ
คนเราพูดง่ายๆว่าละโลภ โกรธ หลงแค่นี้ก็หลุดพ้น แต่มันไม่ง่ายอย่างที่พูดถ้าไม่มีเครื่องมือมาฝึกฝน ถ้าไม่ฝึกจนกระทั่งเกิดมหาสติก็ยาก หรือจะใช้วิธีจากการฝึกฌาณก่อนแล้วค่อยฝึกมหาสติก็ได้ เช่น การทำพองยุบ อาณาปาณสติ หรือท่องบ่นคำภาวนา เป็นต้น ต้องรู้รูปนามที่ทุกคนจะต้องผ่านให้ได้ จึงจะมาถูกวิธี ต้องลอง...นึกเอาเองไม่ใช่ครับ
ขอบพระคุณอาจารย์ ช่วยเปิดโลกทัศน์ด้านความคิดเกี่ยวกับโลกและสังคมของตัวเองได้มากเลยค่ะ
ขอบคุณครับ อาจารย์
ในศาสนาพุทธมีวิชา 3 วิชา 8 ถ้าฝึกฝนไป ฝึกให้ได้อตีตังญาณ ก็จะรู้ว่าอดีตคืออะไร จิตมีความพิเศษมาก มาถึงตรงนี้ผมถึงเข้าใจแล้วว่า การปฎิบัติเป็นสิ่งสำคัญจริงๆ กว่าการรู้ทฤษฎี จิตตัวรู้ ไม่ใช่ตรรกะ เพราะฉะนั้น ผู้รู้จึงรู้ได้เฉพาะตน ขอบคุณครับอาจารย์ลอย
ท่านสามารถเข้าถึงญาณ4แล้วหรอครับ???
@@nineshark9469 ผมเป็นแค่เด็กน้อยเดินเตาะแตะคับ อย่าว่าแต่ฌาณ4เลย ฌาณ 1ยังไม่ได้สัมผัสเลยครับ
สาธุ สาธุ สาธุ
วิญญาณ ในความหมาย ดวงวิญญาณ soul, spirit เป็นเรื่องของความเชื่อพื้นเมืองของคนทั้งโลก ทั้งศาสนาผี และศาสนาแบบฝรั่งยิวอาหรับถือพระเจ้า
ซึ่งคนไทยที่นับถือพุทธจำนวนมาก ก็เข้าใจตามอย่างฝรั่ง คือเข้าใจผิดไปจากคำสอนของศาสนาพุทธ ส่วนวิญญาณในความหมายแบบพุทธ คืออาการรับรู้ ซึ่งเกิดขึ้นในส่วนของนาม
แนวทางพุทธ ชีวิตคนและสัตว์ ประกอบด้วย รูปและนาม ส่วนของรูปคือเรื่องทางกายภาพส่วนที่เป็นรูปธรรมทั้งหมด และนาม คือ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ซึ่งเป็นนามธรรม
และมองว่า เรื่องทางรูปธรรมมีการหมุนเวียนผัดเปลี่ยน เรื่องทางนามธรรมก็มีแนวทางหมุนเวียนผัดเปลี่ยนเช่นกัน
เข้าท่าต้องแบบนี้
พุทธศาสนา มีความละเอียดมากครับ
ผมติดตามยาวๆเลยครับอาจารย์ลอย
อาจารย์ลอย อธิบายได้เข้าใจง่ายดีครับ แต่สิ่งที่อาจารย์อธิบาย ไม่ใช่พุทธศาสนาครับ จิตในศาสนาพุทธไม่ได้เกิดมาดื้อๆ ตอนปฏิสนธิ แล้วก็ดับไปดื้อๆตอนตาย ในศาสนาพุทธเชื่อว่าจิตเกิดและดับสืบเนื่องกันต่อๆกันไป ดังนั้นชาติหน้าไม่ใช่ดวงจิตชาตินี้ดับ แล้วไปเกิดใหม่ชาติหน้า แต่เป็นดวงจิตที่เกิดดับสืบเนื่องกันนี่แหละ ที่ไปได้อัตภาพใหม่ ถ้าอาจารย์เคยอ่านตำราพุทธ ข้อความนี้น่าจะผ่านตาบ้าง "ในขณะดีดนิ้วครั้งเดียว จิตเกิดขึ้นหลายโกฏิแสนดวง" ถ้าจิตมีลักษณะเป็นอย่างที่อาจารย์ว่าแล้ว จะขัดกับพระไตรปิฎกมากมาย ทั้งคำอธิบายเรื่องจิตในแง่มุมต่างๆ หรือบริบทต่างๆที่พระพุทธองค์ตรัสเกี่ยวกับเรื่องชาตินี้ชาติหน้า จนที่สุดแม้นิพพานจะเพื่ออะไรถ้าในเมื่อตายแล้วก็จบ พื้นที่ตรงนี้ผมคงอธิบายไม่หมด แต่เชื่อว่าแม้อาจารย์จะอยู่แคนาดาแต่ก็หาศึกษาเพิ่มเติมได้ไม่ยากครับ
ขออนุญาตให้ความเห็นในฝั่งของคนที่เชื่อพุทธศาสนาในฝั่งตำรานะครับ
การเวียนว่ายตายเกิด ไม่ได้เวียนอยู่แค่ มนุษย์กับสัตว์(เดรัจฉาน) แต่รวมถึง นรก อสูรกาย เปรต เดรัจฉาน มนุษย์ เทวดา พรหม (รูปพรหม และอรูปพรหม)
ในแง่ขอบเขตเวลา ก็ไม่ใช่แค่อายุโลก แต่เกิดดับ ไม่สิ้นสุด วนเวียนกันไป มีการกล่าวถึง ระยะเวลาหนึ่งกัป คือหนึ่งรอบของการเกิดดับของจักรวาล (อรูปพรหม มีอายุนานหลายกัป)
แค่มาให้ข้อมูลเพิ่มเติม สุดท้ายใครเชื่อแบบไหน ก็เป็นไปตามเหตุปัจจัยครับ
อย่าเคืองกันเลยนะครับ
ไม่ว่ากันครับ บางคนเขาก็จะเชื่อเฉพาะในสิ่งที่พิสูจน์ได้ เป็นเหตุเป็นผลในทางวิทยาศาสตร์
เรื่อง ภพชาติ การ เวียน ว่าย ตาย เกิดหรือสังสารวัฏหรือวัฏสงสารตามตำรา
เรื่อง ชีวิตหลังความตาย , เรื่อง ผี (Ghost)
แม้จะมีคน ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งหรือเอเชียพยายามค้นคว้าวิจัย เรื่องการระลึกชาติ เช่น งานของ Ian Stevenson ก็ยัง ไม่สามารถจะหาข้อหักล้างคนที่เขาไม่เชื่อได้
ผมพยายามบอกว่าหาก จะคุย เรื่องที่มันพิสูจน์ได้ยาก มันก็จะจบตรงที่ เราไม่สามารถจะหาคำตอบได้ ในเชิงที่เป็นเหตุเป็นผล
เหมือนคนที่บอกว่า เคยเห็นผี แต่บางคนก็บอกว่าไม่เคยเห็น
คนที่ไม่เชื่อ ก็จะมองว่า คนเหล่านั้นหลอกตัวเองจนสำเร็จ
ขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับว่ายังมีช่องโหว่ที่บางเรื่องวิทยาศาสตร์ อธิบายไม่ได้
ผมจะบอกอย่างนี้ หากเราไม่สุดโต่ง ไม่อยู่ขวาสุด ไม่ซ้ายจนตกขอบ...ถ้าเราไม่ทำตัวเป็น "น้ำ" เต็มแก้ว "น้ำ" มันก็จะไม่ล้นแก้ว ฉันใดก็...ฉันนั้น
ไม่ว่า ทั้งสองฝั่ง หากเริ่มจาก ไม่มอง คนที่เห็นต่าง อยู่ตรงข้าม “ต้องกลับมาหาพุทธพจน์เลยนะ พระพุทธเจ้าท่านตัดสอนว่า กัลยาณมิตรเป็นสิ่งสำคัญที่สุด กัลยาณมิตร คือ ผู้ที่กล้าตักเตือนเรา พูดสิ่งที่เราไม่อยากฟัง
พี่น้องมุสลิมจึงมีหลักว่า ศรัทธาของท่าน ย่อมเป็นของท่าน ศรัทธาของเรา ย่อมเป็นของเรา
ตื่นเถอะครับ ที่พูดมาอย่าใช้ภาษาไทย ให้เยอะเรื่องเลยครับ เช่น กิน ทาน เสวย ฉัน สวาปาม แดก โซ้ย ผลลับเท่ากับกิน ใช่ใหมครับ สรุป ตามคุณพูด "สุดท้ายใครเชื่อแบบไหน ก็เป็นไปตามเหตุปัจจัย"หล่อสุด เพราะแปว่า เหตุอันเป็นเครื่องหนุนให้เกิด แต่ ไปหาพระ คำว่าปัจจัย คุณจะคิดว่าไร... ช่าย คิดว่า กีบาทดี// สรุปสุดท้าย จาร์ญเค้า พูดถึงคำสอน มิใช่ ผู้เผยแผ่ที่การบงว่ายกัน อีกในนึง ต่อให้ไหว้แทบตาย มีแขวนขึ้นคอ องศ์ top แต่ไม่ทำตามคำสอน แล้วไหว้เพื่อ คำสอนมันเป็น ปรัชญา แปลว่า แล้วแต่ผู้ฟังที่จะไปคิดได้ลึงแค่ใหน ไรเวียครับ จาร์ญเค้าไม่ได้มาโจมตี เค้าให้คิด
แต่ก่อนไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนี้
แต่มันมีเหตุที่ทำให้เปลี่ยนความคิด
เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม เพราะอะไรเราต้องกลับมาเกิด กลับมาทำบททดสอบ
กลับมาใช้กรรม ที่เราก่อ กลับมาสร้าง
กรรมดี ความบังเอิญไม่มีอยู่จริง
@@user-kb1bj3iw6e กรรมกับคนอะไรเกิดก่อนกัน
รู้สึกยาก ตั้งใจมาฟังซ้ำเพื่อทบทวน ขอบคุณครับ
นักวิทยาศาสตร์ ที่สามารถพิสูจน์ หลักธรรมคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ สุดยอดจริงๆ
ขอให้พ้นทุกข์ได้จริง ขอให้ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดได้จริง
ถ้าทำได้จริงทั้งสองอย่างนี้ ก็เชื่อได้ว่า มาถูกทางแล้ว
ถ้ายังกลัดกลุ้ม ทุกข์ร้อน ยังโลภโกรธหลงอยู่
ก็ชัดเลย.....
ชัดเลยคือ ?
ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนกล้าพูดความจริง ตรงๆแบบนี้ นึกว่าผมเชื่อแบบนี้คนเดียว กว่าผมจะคิดได้แบบนี้ต้องผ่านอะไรหลายๆอย่าง จนพบกับความจริงที่ว่า ความรู้สึกว่ามีตัวตน คือเรื่องหลอกลวง...
ผมเพิ่งได้รู้เมื่ิอมาดูอาจารย์ลอยครับ รู้สึกโลกเปลี่ยนไปเลยจริงๆครับ รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติไปเลย
คนที่มีความเข้าใจแบบนี้ ต้องไปทำงานกู้ระเบิดนะ
มันลุ้นดี จะตัดสายแดง หรือสายดำ ถ้าตัดผิดก็ บึ้ม ถึงเวลานั้น จะได้รู้ใขตนเองว่า ยังมีตัวตนอยู่ไหม
คุณเชื่อแบบใดก็แล้วแต่รู้ไว้ว่า ความเวียนไปในแต่ล่ะจักรวาลมีจริง
@@user-dx1hu3um9sปฏิจจสมุปบาทก็หมุนของมันไปเรื่อยๆ เกิดดับๆๆๆๆ สังสารวัฏก็ยาวไกลไปเรื่อยๆเพราะเป็น ปฏิจจสมุปบาท สายเกิดนั่นเอง ชาตินี้ได้เกิดเป็นคน การได้รู้ อริยสัจสี่ จึงเป็นลาภอันประเสริฐ
อาจารย์สุดยอดมากๆครับ😁
ทำให้ผมเข้าใจถึงเรื่องจิตและหลักการทำงานของจิต เพราะเรื่องแบบนี้คนธรรมดาทั่วไปไม่สามารถพูดได้เดี๋ยวคนหาว่าเพี้ยน
แต่อาจารย์มีทั้งหลักฐานและข้อมูลเพื่อมาสอน
ทำให้ผมเข้าใจอะไรหลายอย่างมากขึ้นครับ😁
ทำมาเรื่อยๆนะอาจารย์ ผมชอบฟังเรื่องแนวนี้ครับ😄👍👍
มนุษย์เรานี้แปลกซ้อนแปลกน่ะผมว่า มีจิตสมาธิ พอทำสมาธิให้ลึกๆ จะได้ฌานหรืออภิญญามาติดตัวเปนของแถม แต่จิตนี้เกิดจากอะไร พอทำสมาธิได้
ถึงทำให้เกิดอภิญญาหรือหูทิพตาทิพได้
สักวันถ้าผมมีโอกาศบวช จะลองทำสมาธิดูคับ เพราะชอบทำตั้งแต่เดกแล้วแต่โตมาไม่มีโอกาศทำ อยากรุ้ว่ามีอภิญญาได้ไหมของคนทั่วไป
@@Mit_Xeek ใครห้ามไว้หรือเปล่า? แปลกมากที่ คุณต้องรอให้ได้บวช จึงจะลองทำสมาธิ
ชอบคริปนี้มากเลย
ฟังตั่งแต่Ep1 จนจบEp14เวียนว่ายทบทวนฟังรอEp15ครับ ขอบคุณกรรมดีดีครับ
อ่านเม้น สนุกมาก ได้ข้อคิดมากมาย
รอ อ.ลอย ให้ความรู้ในคลิปต่อไป
ขอบคุณอ.ลอย ที่แบ่งปันสิ่งมีค่าค่ะ
(มีโยมคนหนึ่งถามหลวงปู่)
โยม : หลวงปู่ครับ ชาติหน้ามีจริงไหมครับ..ถ้ามี ช่วยพาไปดูหน่อยครับ
(หลวงปู่ยังไม่ตอบ แต่ถามกลับ)
หลวงปู่ : โยมพรุ่งนี้มีจริงไหม?.ถ้ามีช่วยพาอาตมาไปดูหน่อยจะได้ไหม?.
พรุ่งนี้ไม่มีจริงเพราะโลกหมุนรอบตัวเองพรุ่งนี้วันนี้ คือการเเบ่งเวลาที่คนสร้างขึ้นมา
@@user-ij1xd7nn8y ก็เพราะรูปธรรม นามธรรมต่างๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้นนี่แหละ ส่งผลให้จิตยังยึดติด วนเวียนว่ายตายเกิดในจักรวาลนี้ (ภพภูมิ,ชาตินี้,ชาติหน้า,)เป็นแค่สิ่งที่ใช้เป็นนามธรรมเพื่อสื่อสารอธิบาย
ขอบคุณมากครับ จารย์
ทำดี ไม่ได้หมายความว่าจะต้องได้ดี แต่มันมีแนวโน้มที่จะได้ดีมากกว่าไม่ทำ ขออนุญาตเอาไปโพสต์ในเฟสบุ๊คครับ เริ่มรักท่านแล้ว...
ถ้าศึกษาเรื่องจักรวาลแบบกว้างๆไม่ยึดแค่ที่ดาวโลก คิดว่ามีความเป็นได้ที่เกิดการเวียนว่ายตายเกิดอยู่นะคะ หลายคนลืมนึกถึงความยาวนานและขนาดของจักรวาลที่มีมากพอให้เกิดขึ้นได้ และถ้าคิดอย่างง่ายเลยตามหลักวิทย์ สิ่งมีชีวิตก็เป็นหนึ่งในสสารและพลังในจักรวาลแห่งนี้ โดยปกติก็ไม่น่าสญหายไปไหนคงเปลี่ยนค่าและสถานที่ไปเรื่อยๆ - จริงๆแล้ว ถ้าดวงจิตเป็นหนึ่งในพลังงานรูปแบบหนึ่ง สิ่งที่ทำให้ไปเกิดในที่และลักษณะที่ต่างกันอาจขึ้นกับค่าพลังงานของใครของมันมั้งคะ จิตเป็นอย่างไรคงส่งผลต่อค่าพลังงานนี้
ความคิดคุณสมเหตุสมผลมากครับ หากมองในมุมจัดรวาล
ขอบคุณนะคะ เราพยายามปะติดปะต่อจากที่ชอบ ศึกษาเรื่องจักรวาลวิทยากับพุทธศาสนาไปพร้อมๆกัน แต่ความจริงเป็นอย่างไรก็มีโอกาสที่จะต่างจากที่คิดไปเลยเหมือนกัน😊
@@goonheart ถ้าเป็นเช่นนั้นทำไมในโลกนี้ถึงไม่มีคนที่สามารถระลึกชาติได้จากดาวดวงอื่นบ้างเลยล่ะครับ
ฟังแล้ว จึงรู้ว่า ท่านหลงทาง แล้ว ท่านจะได้เกิดอีก
ฟังแล้วงง เราศึกษาพระไตรปิฏก และทำสมาธิ เชื่อสนิทใจในคำสอนของพระพุทธเจ้า
ตกลงใครหลงทางกันแน่
หรือจะเอา
สัจธรรมคือปฏิจจสมุปบาท เห็นสายปฏิจจสมุปบาท นั่นคือชีวิตในหนึ่งครั้ง ตอนนี้ทุกคนและสัตว์กำเนิดเดรัจฉานที่ยังไม่ตาย สายปฏิจจสมุปบาทหมุนมาถึง ชาติ แล้ว บางคน บางตัว ก็หมุนมาถึง ชรา ปฏิจจสมุปบาทจะหมุนไปเรื่อยจนถึง มรณะ การเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ นั่นเอง การได้การเกิดใหม่ เพราะคนเป็นเพียง รูปขันธ์ ที่ตั้งวิญญาณมี 4 กายแตกทำลาย ก็จะเหลือ เวทนา สัญญา สังขาร คิดถึงสิ่งใด ดำริถึงสิ่งใด หรือมีจิตฝังลึกปักลงไปในสิ่งใด นั่นคือการตั้งอยู่ของวิญญาณ เมื่อวิญญาณตั้งอยู่เฉพาะแล้ว เจริญงอกงามแล้วนั่นคือภพใหม่อันเป็นภัยที่น่ากลัว ผัสสะปัจจะยาเวทนา เวทนาทุกข์ เป็น กามภพ นรก กำเนิดเดรัจฉาน เปรตวิสัย เวทนา
เวทนา สุข เป็น กามภพ มนุษย์ และ เทวดากามภพ เวทนาอุเบกขา ที่เป็นสมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 เป็นรูปภพ เป็นเทวดารูปภพ เวทนาอุเบกขาเนกขัมมะ ที่เป็นสมาธิอรูปสัญญา เป็น เทวดาอรูปภพ เมื่อมีภพจึงมีชาติ สถานที่เกิดยังมี จึงมีการเกิดนั่นเองคะ สายปฏิจจสมุปบาทก็เกิดดับๆๆๆ เปลี่ยนภพภูมิไปเรื่อยๆ เวียนว่ายตายเกิดไปเรื่อยๆ สังสารวัฏก็ยาวไกลออกไปเรื่อย เมื่อรู้อริยสัจสี่ก็จะจบการเวียนว่ายตายเกิด
สนุกและได้รับความรู้
สุดยอดมากๆครับ
ขอบคุณครับอาจารย์ลอย คุณทำให้ผมตาสว่างเเละเปลี่ยนชีวิตครับ จะฟังไปเรื่อยๆครับ เเค่ฟังก็รู้ว่าทุ่มเวลามารวบรวมทำให้ผมมีปัญญามากขึ้นครับ คุณเป็นส่วนหนึ่งของคนไทยที่มาชี้เเจงเเถลงไขในหลายเรื่อง เเละมีส่วนที่ช่วยพัฒนาความคิดเเละทัศนคติเเบบใหม่ๆที่มีตรรกะเหตุผลชัดเจนครับ ขอบคุณครับ
วิญญาณไม่ใช่ผู้เวียนว่ายตายเกิด วิญญาณเป็นเพียงธาตุตามธรรมชาติ สิ่งที่เรียยกว่า จิต มโน วิญญาน ดวหนึ่งเกิดขึ้นดวงหนึ่งดับไปตลอดวันตลอดคืน สิ่งที่เข้ามายึดติดขันทั้งห้า(รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาน) พระองค์ทรงเรียหสิ่งนั้นว่า สัต หรือ สัตตะ สัตตา สัตโต สัตตานัง ต่างหากที่เป็นผู้ท่องเที่ยวไป
คนที่พระพุทธเจ้าตำหนิอย่างมากถึงขึ้นบอกว่าเป็นโมฆบุรุษคือ สาติ เกวัตตะบุตร ...ก็เนื่องจากสาติบอกว่าวิญญาณเวียนวายตายเกิดนี่แหละ
จาร.ครับ..ละเอียด.แบบ.ละออง..จน...ปันญา..หยัง..ยาก.เข้าถึง..เก่งมากครับจาร..อธิบายระดับ.ปรมณู..สุดท้ายคืนสู่สามัญ..ปลง..ตน.เผาตน..เหตุ..เราสร้างเอง...แต่กรรมใครกรรมมัน..อย่า..อาวร..ที่เหตุ..ยอมรับ..แล้ว..ไปเถอะ..ที่..ยังอยู่..ไม่นับ.ว่า.เป็นเพราะ.เรา..ไม่.เป็นของเรา
..จะได้จบ.ภพชาติกัน.55
นักวิชาการไม่เชื่อเรื่องเวรกรรมว่ามีจริงแต่ผมเชื่อและอธิบายได้เป็นอย่างดีเล่าแค่บางส่วนเท่าที่จำได้พี่น้องผมเคยรวมหัวหักหลังใช้ศาลเตี้ยใส่ร้ายผมแถมโกงผมทั้งๆที่ผมเปลียบเสมอปู่พวกเขาถึงผมจะเป็นน้องเล็กแต่การกระทำใจใหญ่รู้จักให้ และคอยปกป้องพวกเขาตลอดเวลาแต่ไม่น่าเชื่อผมมักจะถูกมองข้ามใส่ร้ายป้ายสีในชีวิตจริงผมถูกกระทำคล้ายรัฐประหารสองครั้งแล้วในชีวิตและทุกครั้งผมเห็นคนเหล่านั้นพินาศในเวลาที่ไม่นานถึงตอนนี้ก็เชื่อได้อย่างสนิดว่าเวรกรรมมีจริงๆและนอกเหนือไปจากนี้เมื่อสมัยที่ผมยัง15ครูของผมเคยเอาผมมาพูดในห้องว่าผมคืนน้องของศรีธนงไชยวันนึ่งข้างหน้าผมจะเป็นคนปราญพี่ผมสมัยนั้นผมก็ฟังผ่านๆไม่นึกว่าจะเป็นจริงๆ และไอ้ที่ว่าผมปราบนี้ผมก็ไม่ได้ทำอะไรเขากันเลยแต่เป็นเพราะกรรมชั่วของพวกเขาที่กดขี่ใส่ร้ายป้ายสีผมมาทั้งชีวิตนี่เอง กรรมจึงสนองแรง พวกเขาหรอกเมียผมให้หลงกลจากนั้นก็แยก ไม่ยอมช่วยรอจนพัง เหมือนกับฝังครอบครัวของผมทั้งเป็น แต่กลับไม่ช่วยกรรมจึงแรงมากตอนนี้พวกเขาเมียก็ทิ้งทั้งโคตร
การเชื่อว่าตายแล้วสูญนี่ มันอยู่ในมิจฉาทิฐินะครับ ถ้าเชื่อว่าตายแล้วสูญมานั่งศึกษาธรรมมะกันทำไม อยากทำอะไรก็ทำชีวิตมีชีวิตเดียว
เดี๋ยวก็ตาย ผมเชื่อว่าการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้ามีประโยชน์มากกว่านั้น เหมือนชีวิตคือการล่องเรือไป แล้วเส้นทางปกติของทุกคนจะมีหน้าผา ไม่ว่าเราจะเชื่อหรือไม่เชื่อว่าข้างหน้ามีหน้าผา เมื่อถึงเวลา ก็ตกหน้าผา ท่านเห็นแล้วว่าเป็นอย่างนั้นจึงมาเตือนว่าถ้าไม่อยากตกหน้าผาจะมีทางอีกเส้นทางขวาเพื่อขึ้นฝั่ง นั้นหมายถึงการละทิ้งตัวตน ละสังโยชน์10ได้ จิตไม่ถูกครอบงำจึงเป็นอิสระ ไม่ต้องมาเกิดใหม่ ปัญหาคือ ไม่ใช่มานั่งคิดวิเคราะห์ แล้วมันจะเข้าใจ มันต้องปฎิบัติ ผมชอบอาจารย์ลอยหลายเรื่อง แต่เรื่องนี้ผมว่ามันเป็นแนวคิดอีกแบบตามความเข้าใจอีกแบบ แล้วผมมองว่ามันถ้ามันมีหน้าผาจริง อ ลอยก็ไม่รู้หรอก
ผมว่าพระพุทธเจ้าอยากให้มีความสุขและพ้นทุกข์ในการล่องเรือมากกว่านะครับ มีความสุขหลังตกหน้าผาก็กระไรอยู่
@@chaosinpark9773 คุณจะกังวลกับความทุกข์บนเรือทำไม ถ้าคุณอยู่บนเรือแล้วคุณอดยาก ตายง่ายกว่าไหมจบ เหมือนหลายๆคนที่ฆ่าตัวตายเพราะชีวิตลำบาก ไม่ต้องมาสอนหรอกว่า ถ้าไม่อยากทุกข์ต้องละกิเลศ สอนวิธีฆ่าตัวตายแบบไม่ทรมานดีกว่า แล้วประกาศไปเลยชาติหน้าไม่มีจริง การเวียนว่ายในวัฏสงสารไม่มีจริง จบทำให้ยากเพื่อ
@@tontraisit เอะอะก็เอาแต่จะตาย เป็นอะไรมากปล่าวคุณ
@@chaosinpark9773 แล้วคุณคิดว่าคนที่เขาฆ่าตัวตาย เขามีความสุขเหรอ เขาก็คิดอย่างนี้แหละว่าอยู่ก็ทุกข์ตายก็จบ แค่นั้น ผมไม่ได้ชวนทะเลาะนะ แต่ที่ผมเข้าใจคือถ้าไม่อยากเกิดคุณก็ต้องดับทุกข์ ไล่ไปตามหลักปฎิจจสมุปบาท ถ้าคุณทำได้นั้นแหละคุณจะไม่เกิด หลุดจาก เมทริกซ์ แต่ถ้าคุณทำไม่ได้ก็ยังต้องอยู่ในเมทริก ไม่ใช่ใครตายไป ก็หลุดจากเมทริกกันหมด เพราะเมทริกคือของปลอมแต่จะมีสักกี่คนที่ไม่ยึดติดกับมัน
@@tontraisit ลองคิดย้อนกลับนะครับ คนฆ่าตัวตายจากทุกข์เพราะอะไร เพราะเขาไม่รู้วิธีดับทุกข์ลดอุปาทานในขันธ์5ไงครับ จะไปรอดับทุกข์หลังตายมันเพ้อฝันครับ ดับทุกข์ให้เร็วที่สุดสร้างปัจจัยให้มากที่สุด ไม่ใช่รีบตายให้เร็วที่สุด โลกนี้โดยสามัญสำนึกสุขทุกข์ธรรมดาๆไม่มีใครอยากตายหรอกครับ แม้แต่สัตว์แบบปกติๆยังไม่ฆ่าตัวตายเลยครับ
อย่าเชื่อในสิ่งที่เขาพูดหรือพูดตามกันมา ต้องศึกษาและปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าให้ถ่องแท้.
คุณพูด...ด้วยอวิชชา คือความไม่รู้ของคุณเอง
รู้ทันความแปรปรวน ความเปลี่ยนแปลง ไม่ยึดติด เดินสายกลาง เทคนิคง่ายๆ ศึกษาตนเอง ฝึกปรับตัว ไม่วิตกกังวล ไม่เครียด มีสติ มีปัญญา อดีตผ่านไปดีแล้ว เป็นบทเรียน ทำปัจจุบันให้ดี เพื่ออนาคตคือวันต่อไป พอใจที่เกิดมา สุขทุกข์เป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่หลงไม่รังเกียจ รู้เรื่องร้อนเย็นอุ่น จิตวิญญาณมีจริงหรือไม่ ไม่ขัดแย้งใคร มีก็มี ไม่มีก็ไม่มี แล้วแต่จะคิด แล้วแต่จะเชื่อ เถียงกันทำไม ให้เกียรติซึ่งกันและกัน สงบดีกว่า ไม่สงสัยดีกว่า ขอบคุณที่เข้าใจครับ
+1 kub
ขอบคุณมากครับ ที่นำความรู้ มาให้ แบบที่ ไม่มีใคร มา อธิบายใด้ แบบ นี้ มาก ก่อน (ความคิดส่วนตัว) ความรู้ใหม่ มีเหตุผล มากขึ้น ขอบคุณมาก ครับ
สุดยอดแห่งความเป็นครูผู้ชี้ทางสว่างทางปัญญา/วิชาการและจิตวิญญาณ...ขอคารวะอาจารย์ลอย ชุนพงษ์ทอง ชาวพุทธที่แท้จริง
ตามดูทุกคลิปค่ะ ชุดพุทธรรม
คำถามในปีนี้ที่ค้างคาใจมาตลอด ว่าเวรกรรมมีจริงไหม สมัยก่อนที่ ทางกายไม่แข็งแรงทำให้ใจไม่แข็งแรงไปด้วย ก็เชื่อว่าเวรกรรมมีจริง แต่พอหันมาดูแลสุขภาพจนทำให้กายและใจแข็งแรง เลยมีคำถามในในใจว่าเวรกรรมมีจริงไหม และคิดวิเคราะห์ได้เองว่าไม่มีจริง วิเคราะห์จากพวกคนที่ปกครองบ้านเมืองอยู่กันสุขสบาย เลยวิเคราะห์ได้ว่าไม่มีจริง พอดูคลิปอาจารย์ลอยที่อธิบายว่าไม่มี ก็คอนเฟิร์มสิ่งที่คิดไว้ อีกคำถามที่คิดไว้ ว่ามนุษย์ยุคหินก่อนไม่มีศาสนา เขาก็ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เขาบาปหรอมนุษย์ต้องทำเพื่ออยู่รอดไหม ไม่งั้นก็คงไม่กำเนิดพวกศาสดา
ขอบคุณครับ
ระดับที่ 1.
ก๋วยเตี๋ยวไม่มีอยู่จริง มีแต่เครื่องปรุง
ระดับที่ 2.
เครื่องปรุงก็ไม่มี มีแต่ถ้วยปล่าวๆ
ระดับที่ 3.
ถ้วยปล่าวนั้นก็ไม่มีอยู่จริง
ระดับที่ 4.
ความจริงคือไม่มีความจริง
ระดับทั้งหมดที่แบ่งไว้นี้
ไม่มีอยู่จริง
ตื่นเถิด! นีโอ ...
มันมีของมันอยู่อย่างนั้นเพียงเราแค่สมมติปรุงแต่ง(ชื่อ,นาม)ให้มันเอง // สาธุครับ
อันนี้ชอบ🙂
อาจาร์ยศึกษาพุทธศาสนา จากข้อมูลอย่างเดียวหรือป่าวครับ หากอาจาร์ยศึกษาพุทธทั้งจากตำรา หรือ ปฏิบัติธรรมจริงๆ อาจาร์ยจะไม่มีข้อสงสัยเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดด้วยซ้ำ ถ้าจะใช้สัญญาศึกษาก็จะได้ประมาณนี้ละครับ แต่ถ้าศึกษา จากการปฏิบัติธรรมจริง เข้าถึงแก่นธรรม จะไม่มีข้อสงสัยเรื่องนี้แน่นอน ธรรมะไม่ใช่แค่อ่านและวิเคราะหรือศึกษาจากวัตถุแบบวิทยาศาสตร์ ศึกษา จะเอาผลทางวิทยาศาสตร์มาเปรียบเทียงทั้งหมดคงไม่ถูกครับด้วยความเคารพ ปล.ผมเองก็ศึกษาวิศวะ ชอบวิทยาศาสตร์ เพียงแต่ว่ารู้สึก ว่า วิทยาศาสตร์มันไม่สามารถอธิบายพุทธได้ทั้งหมดแน่ๆ มีอีกหลายเรื่องที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าเป็นเรื่อง อจิณไตย ซึ่งถ้าอาจาร์ยไม่ได้ทำสมาธิถึงระดับสูงๆ ได้ จะเข้าใจเรื่องจิตได้อย่างไร เหมือนเพียงอาศัยการวิเคราะข้อมูล สถิติ หลักการทางวิทยาศาสตร์ และ Math มาอธิบาย ด้วยความเคารพครับ
ศาสนามันคือความเชื่อครับ แต่มนุษย์ที่พัฒนาตัวเองได้ เกิดจากปัญญาของมนุษเองที่ใช้วิทยาศาสตร์และสมการในการวิเคราะห์ และมันคือสิ่งที่เป็นพื้นฐานที่มีหลักฐานข้อมูลในการอธิบาย ที่ไม่ใช่การบอกปากต่อปากแบบไม่มีเหตุมีผล. อาจารเค้ากำลังใช้วิทยาศาสตร์ในการอธิบายพระพุทธศาสนา
คุณลอย อธิบายแบบนี้ ไม่ถูกต้องตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า🙄
@@DuangdaraLuckySripinyo ไม่ถูกต้องยังไงครับอธิบายหน่อย
ผมเชื่อเพราะเคยฟังเทศของหลวงตามหาบัว ท่านเป็นพระอรหันต์ของจริง เรื่องนรกสวรรค์ลองไปฟังนะ
อัจศจรรย์ธรรมน้ำตาล่วง ท่านเปิดหมดให้รู้
@Vee พระพุทธเจ้าไหนบอกว่าไม่มีการเกิดใหม่
ขอบพระคุณครับ
อาจารย์คะฟังอาจารย์แล้วเข้าใจง่ายแต่ภาคปฏิบัติยากมากคะมนุษย์แต่ถ้าเราวางจากการเป็นมนุษย์แล้วปัญญาจะใช้ได้ใช่ไหมคะนุศรัทธาพระพุทธเจ้ามากคะ
อยากเชื่ออะไรตามสะดวกครับคิดเองทำเองนักเลงพอแต่อย่าไปติคนที่คิดไม่เหมือนเรา..แค่นี้ครับ
ชัดเจนดีครับ 🙏🥰
ติเพื่อให้คนอื่นไม่ไปหลงเชื่อผิดๆจะเกิดโทษกับคนที่หลงเชื่อตาม
สิ่งที่อาจารย์พูดพระพุทธเจ้าเรียกว่าลัทธิขาดสูญ ตายแล้วสูญ เป็นนอกรีตนะครับ
ชัดเจน...ขอบคุณครับ 😊
อาจารย์คะฟังอาจารย์แล้วก็เข้าใจมากคะ
แต่ส่วนตัวผมเชื่อพระธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้าสอนแต่สิ่งดีๆๆไม่เคยสอนในสิ่งที่ไม่ดีเลยและผมเชื่อความดีกับบาป
อ.อาจจะเก่งทุกเรื่องแต่เรื่อง ที่สัมผัสไม่ได้อ.น่าจะ50%ก็พอนะครับ.
แฟันธง 100 เปอเซนนะสิ
อาจารย์ลอยพยายามอธิบายตรรกะของศาสนาพุทธให้เป็นวิทยาศาสตร์ จากความเข้าใจของตัวเอง ซึ่งแต่ละบุคคลก็มีความเข้าถึงได้ต่างกัน เหมือนบัว4เหล่า แต่จากประสบการณ์ของตัวเองที่เคยเจอเรื่องอาภินิหารของพระพุทธเจ้า ไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อยในเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด เพราะในแต่ละวัน เดือน ปี หรือดาราจักรในจักรวาล หรือ เซลล์ทุกเซลในร่างกาย ต่างก็วนเวียน เกิดดับ เกิดดับ มานับครั้งไม่ถ้วน
ขอบคุณ สำหรับคลิปนะครับ แต่ไม่ได้ทำให้ผมลดความเชื่อลงไปเลย กลับรู้สึกว่าตัวเรามีบุญมากที่ได้เห็นด้วยตาตนเอง
วิญญาณไม่ได้เวียนว่ายตายเกิด อันนี้โอเค
แต่ถ้าบอกว่า การเกิด ภพชาติหน้าไม่มี นี่เท่ากับตายแล้วสูญเลยนะ กฏแห่งกรรมจะเป็นหมันเอา
ถ้าจะสอนปฏิจจ จะตัดเรื่องภพชาติออกด้วยมั้ยนี่ เพราะมันมีแจ้งไว้โต้งๆว่า เหตุเกิดของภพชาติคืออะไร และจะดับได้เพราะอะไร หรือท่านเขียนไว้บรรทัดไหน ว่าตายแล้วจบ
อาจารย์ครับ...สิ่งที่ยากที่สุดนั่นคือทำให้บุคคลทั้งหลายตื่น...เป็นข้อที่ยากที่สุด....
ความเห็นนี้สรุปได้สุดยอดเลย ยกนิ้วให้
พระพุทธเจ้าจึงเปรียบเป็นบัว 3 เหล่า อ่ะค่ะ ที่พระองค์ทรงสอนก็เพราะมีกลุ่มที่เมื่อได้รับคำสอนพระองค์ จะบรรลุธรรมได้ นึกถึงครั้งพระองค์ตรัสรู้ใหม่ๆ เจอปริพาชกถ่มน้ำลายใส่ เมื่อพระองค์บอกว่า ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า แสดงว่ารุนแรงตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต อ่ะค่ะ
ชีวิตผลิตความถูกแลผิดมีทั้งต้อง...จิตประคองมามากภพนับชาติไม่หวาดไหว...ในหนึ่งคนมีจิตครองภพอจินไตร...จิตเป็นใหญ่เป็นรองพระเอกนางน้อง
อุบัติได้ทุกเวลา..สาธุๆ..โลกใบนี้คือศูนย์รวมใหญ่ในการทดลองกลับชาติแลสูญหายทุกรูปแบบทุกสปีชี้..สาธุๆ
อาจารย์ กำลังพยายามทในแบบแยบคาย ธรรมชั้น โลกุตระ ลึกซึ้ง คับ ธรรมวินัย จากพุทธโอษฐ์