เศรษฐกิจพอเพียงยานากาวา | ผักโขม ผักดี มีคุณค่า ไม่เฉพาะแต่ป๊อปอายห์ เป็นราชาผักเพิ่มพลัง

แชร์
ฝัง
  • เผยแพร่เมื่อ 16 ก.ย. 2024
  • ผักโขม ผักดี มีคุณค่า ไม่เฉพาะแต่ป๊อปอายห์ เป็นราชาผักเพิ่มพลัง
    หากใครได้ดูการ์ตูนเจ้าหนุ่มกะลาสีก็จะรู้ดีว่าป๊อปอายส์จะมีพลังมากขึ้นเมื่อกินผักโขม ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่ว่าผักโขมนั้นช่วยเพิ่มพลัง แถมยังมีคุณค่าต่อร่างกายนานัปการ อีกทั้งยังเป็นเมนูแสนอร่อยที่ใครหลายคนชื่นชอบ เมนูยอดฮิตที่ว่าเป็นที่ชื่นชอบนั่นก็คือ “ผักโขมอบชีส” ทั้งอร่อยทั้งได้ประโยชน์แบบนี้ มาทราบถึงคุณค่าทาง
    กันเลย
    ผักโขมเป็นไม้พุ่มเตี้ยและเป็นพืชล้มลุกปีเดียว สูง 30-100 ซม. ลำต้นอวบน้ำมีสีเขียวตั้งตรงแตกกิ่งก้านสาขามาก โคนมีสีแดงน้ำตาล ใบเป็นใบเดี่ยวรูปไข่คล้ายสามเหลี่ยมใบออกแบบสลับกว้าง 2.5-8 ซม.ยาว 3.5-12 ซม. ผิวเรียบหรือมีขนเล็กน้อย ขอบใบเรียบ หลังให้เป็นคลื่นเล็กน้อย ดอกเป็นดอกช่อสีม่วงปนเขียว ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบและปลายกิ่ง ดอกย่อยเรียงตัวอัดกันแน่น เมล็ดมีลักษณะกลมสีน้ำตาลเกือบดำ ขนาดเล็ก
    ประโยชน์ของผักโขม
    ทางอาหาร ยอดอ่อน ใบอ่อน ต้นอ่อน นำมาต้ม,ลวกหรือนึ่งให้สุกรับประทานเป็นผักจิ้มกับน้ำพริกเช่น น้ำพริกปลาร้า ปลาจ่อม กะปิ ปลาทูและน้ำพริกอีกหลายชนิด หรือนึ่งพร้อมกับปลา ทำผัดผักกับเนื้อสัตว์ นำไปปรุงเป็นแกงเช่น แกงเลียง ชาวไทยอีสาน จังหวัดศรีสะเกษ บอกว่ากินใบผักโขมเป็นอาหาร เป็นยาชูกำลัง ทำให้สุขภาพดี
    ประโยชน์ทางยา
    ทั้งต้น ดับพิษภายในและภายนอก แก้บิด มูกเลือด ริดสีดวงจมูก ริดสีดวงทวาร แก้ผื่นคัน แก้รำมะนาด รักษาฝี แผลพุพอง ใบสด รักษาแผลพุพอง ต้น แก้อาการแน่นหน้าอกและไอหอบราก ดับพิษร้อนถอนพิษไข้ ขับปัสสาวะ
    สมัยกรีกโบราณ ผักโขม หรือ amaranth เป็นของศักดิ์สิทธิ์ เชื่อกันว่าผักโขมมีฤทธิ์ในการเยียวยา และเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นอมตะ มีการใช้ภาพของใบผักโขมในการประดับที่อยู่ของพระเจ้าและหลุมศพต่างๆ ดูจากการใช้งานทางการแพทย์ก็พอจะเห็นว่า ผักโขมเป็นพืชศักดิ์สิทธิ์ได้
    ผักโขมมีฤทธิ์ทางอัลลีโลพาที โดยสารสกัดจากใบ ลำต้นและรากที่สกัดด้วยน้ำแล้วเจือจางให้ได้ความเข้มข้น 20 - 100 % ยับยั้งการงอกของเมล็ดพริกพันธุ์จินดา
    คุณค่าทางอาหารของผักโขม
    ผักโขมมีโปรตีนสูงและมีกรดอะมิโนครบทุกชนิด เหมาะกับผู้ที่กินอาหารมังสวิรัติ เป็นผักใบเขียวที่มีวิตามินเอ บี 6 ซี ไรโบฟลาวิน โฟเลต และแร่ธาตุ สำคัญได้แก่ แคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียมโพแทสเซียม สังกะสี ทองแดงและแมงกานีส ผักโขมเป็นผักใบเขียวที่มีปริมาณสารออกซาเลตค่อนข้างสูง ดังนั้น ผู้ที่มีปัญหาเรื่องนิ่ว เกาต์ ข้ออักเสบรูมาตอยด์ รวมถึงผู้ที่ต้องการสะสมปริมาณแคลเซียมควรจะต้องหลีกเลี่ยงการกินผักขมในปริมาณมาก ผักโขมยังเป็นผักบำรุงน้ำนมสำหรับคุณแม่ลูกอ่อน และแม้ผักโขมจะเป็นผักใบเขียว แต่ก็มีบีตา-แคโรทีนสูง โดยมีสารลูทีนและสารเซอักแซนทิน ซึ่งเป็นสารแคโรทีนอยด์อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งสารทั้งสองนี้มีสรรพคุณช่วยชะลอความเสื่อมของดวงตา ลดความเสี่ยงจากโรคดวงตาเสื่อมได้ถึงร้อยละ 43 ทั้งยังมีผลในการลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ และมีสารซาโปนินที่ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดได้อีกด้วย นอกจากนั้นผักโขมยังมีเส้นใยอาหารมาก จึงช่วยระบบขับถ่าย และลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้
    คุณค่าทางโภชนาการของผักโขม
    ผักโขม นิยมรับประทานใบและลำต้นเป็นอาหาร ซึ่งนักโภชนาการได้ศึกษาคุณค่าทางอาหารของผักโขม โดยผักโขมขนาด ขนาด 100 กรัม ให้พลังงานมากถึง 23 กิโลแคลลอรี่ มีสารอาหารสำคัญ ประกอบด้วย โปรตีน 5.2 กรัม ไขมัน 0.80 กรัม คาร์โบไฮเดรต 6.70 มิลลิกรัม แคลเซียม 341 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 76 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 4.10 มิลลิกรัม วิตามินบี1 0.01 มิลลิกรัม วิตามินบี2 0.37 มิลลิกรัม วิตามินซี 120 มิลลิกรัม ไนอาซีน 1.80 มิลลิกรัม และ เบต้าแคโรทีน 558.76 RE
    ขอบคุณข้อมูลจาก วิกิพีเดีย เว็บไซต์ beezab.com
    ด้วยความปรารถนาดีจากโรงเรียนมัธยมยานากาวา

ความคิดเห็น •