วิเคราะห์งานวิจัยที่ท้าทาย FDA ...วัคซีน mRNA ส่งผลเสียต่อร่างกาย!!?
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 7 เม.ย. 2024
- การอ้างงานวิจัยเป็นหลักฐานของความคิดคือสิ่งที่ควรทำ ไม่ใช่การที่คิดเอาเองแล้วบอกว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ แต่การอ้างวิจัยก็ต้อง
1) อ่านให้เป็น วิเคราะห์ให้ได้ ไม่งั้นก็จะตกเป็นเหยื่อของคนที่มีมันสมองแต่ใช้ไปในทางที่ผิด แบบกรณีคนที่ยกงานวิจัยนี้มาสนับสนุนความคิดตัวเอง
2) ต้องเอางานวิจัยอื่นๆมาด้วย ไม่ใช่เลือกแต่งานวิจัยที่ตรงใจหรือถูกใจตัวเอง เช่น วิจัยที่ว่าวัคซีนโควิดปลอดภัยนั้น มีจำนวนมากกว่าและทำได้ดีกว่า วิจัยที่บอกว่าวัคซีนโควิดมีปัญหาอย่างมากมาย แต่ที่เห็นตอนนี้คือคนที่ไม่เห็นด้วยกับวัคซีน ที่เป็นระดับมันสมอง เช่น ศาสตราจารย์หรือหมอบางคน กลับเลือกนำเสนอข้อมูลด้านเดียว (ที่เป็นข้อมูลที่ระเบียบวิจัยและการสรุปผลทำได้ไม่ค่อยดีนัก) หรือไม่ก็คิดกลไกต่างๆนั่นนี่ขึ้นมาเองว่าวัคซีนไม่ดีอย่างไร ไปทำอย่างไรกับร่างกายบ้าง ซึ่งมันทำให้คนทั่วไปฟังแล้วเชื่อ แต่ถ้ามาเจอระดับผู้ที่เชี่ยวชาญเท่ากันหรือเหนือกว่านั้น เหตุผลที่คนเหล่านั้นเอามาอ้างมันยังอ่อนมากครับ
สามารถไปอ่านงานวิจัยที่นำเสนอได้ที่ www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/arti...
สามารถไปอ่าน Cochrane Review เรื่องที่นำเสนอได้ที่ www.cochranelibrary.com/cdsr/...
สามารถไปดูงานวิจัยเกี่ยวกับโควิดทั้งหมดได้ที่ covid-nma.com
สามารถเข้าร่วม Membership ได้ตามลิงค์นี้ครับ / @drtany
ถ้าสมัครทางมือถือ ต้องทำผ่าน Browser ครับ ทำทาง App มันจะไม่ได้ ถ้าทำในคอมทำได้ปกติครับ
วิเคราะห์งานวิจัยที่ท้าทาย FDA...วัคซีน MRNA ส่งผลเสียต่อร่างกาย!!?
สวัสดีครับ
ก็มีคนส่งงานวิจัยตัวหนึ่งเรื่องเกี่ยวข้องกับผลข้างเคียงของวัคซีนโควิด mRNA มาให้ผมดูนะครับ แล้วก็บอกว่ามีอาจารย์ท่านหนึ่งเป็นคนที่อ้างอิงงานวิจัยตัวนี้มาให้ดูนะครับ ผมก็ต้องบอกว่าอันนี้มันเป็นก้าวที่สำคัญมากเลยนะครับที่เวลาเราจะบอกว่าอะไรมันเป็นแบบไหนนั้นเราต้องมีหลักฐานให้ชัดเจนทางด้านวิชาการนะครับ ผมก็ถือว่าอันนี้น่าชมเชยเป็นอย่างยิ่งที่เราเอาข้อมูลทางงานวิจัยมาถกเถียงกันนะครับ แต่มันก็ไม่ใช่เพียงแค่นั้น ขั้นต่อไปก็คือเราจำเป็นจะต้องอ่านงานวิจัยให้เป็นด้วยนะครับให้เข้าใจด้วยมิฉะนั้นหลายๆคนก็อาจจะเอาตัวเฉพาะงานวิจัยมีชื่อมาแปะไว้เฉยๆแต่ว่าเราไม่เข้าใจว่างานวิจัยนั้นน่ะมันทำให้ถูกต้องหรือไม่ถูกต้องยังไงวันนี้ผมก็เลยจะเอางานวิจัยชิ้นนี้มาอ่านในทุกท่านฟังกันเลยนะครับ
งานวิจัยนี้ตีพิมพ์ในวารสารชื่อว่า “Vaccine” นะครับ แล้วก็นี่มีชื่อว่า Serious adverse events of special interest following mRNA COVID-19 vaccination in randomized trials in adults นะครับ ก็มีคนที่ทำงานวิจัยนี้มากมายหลากหลายนะครับ ก็คือมีที่อเมริกา สเปน ออสเตรเลีย เยอะแยะหลายๆที่นะครับ แล้วก็งานวิจัยตัวนี้ได้รับการตีพิมพ์เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ปี 2022 นะครับ โดยงานวิจัยตัวนี้แน่นอนว่าทุกคนก็ต้องอ่านตัวบทคัดย่อกันก่อน ผมจะมาชี้ให้เห็นเลยว่าแค่บทคัดย่อมันก็มีหลายๆจุดที่เราจำเป็นจะต้องเข้าใจแล้วนะครับ เราอ่านไปด้วยกัน
1️⃣
ตรง Introduction หรือบทนำนี้ผมจะไม่ค่อยได้สนใจนะครับผมจะสนใจว่าผลที่ออกมาแล้วมันได้อะไรบ้างนะครับ อย่างในกรณีนี้เขาบอกว่า Results หรือผลลัพธ์ของ Pfizer and Moderna mRNA COVID-19 Vaccines มีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงเกินกว่าเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ร้ายแรงที่สนใจเป็นพิเศษเพิ่มขึ้น 10.1 กับ 15.1 ต่อ 10,000 คนที่ฉีดวัคซีนเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ใช้ยาหลอก ก็คือ 17.6 ถึง 42 นะครับแล้วผมอยากจะให้ทุกคนดูตรงนี้ Confidence Interval หรือ CI นะครับ CI ตัวนี้มันเป็นส่วนที่สำคัญมากนะครับเพราะว่าการที่เราจะบอกว่าอะไรที่มันมีความแตกต่างกันมันต้องเป็น CI ที่ไม่คร่อม 0 นะครับ สมมุติว่าเรามีความแตกต่างเราจะดูความแตกต่างระหว่าง A กับ B นะครับ เวลาที่เข้ามาดูความแตกต่างก็จะมีการเทียบสเกล สมมุติเราตั้งสมการ A-B มันต้องเท่ากับอะไรสักอย่างที่ไม่ใช่ 0 ถึงจะถือว่า A กับ B มีความแตกต่างกันจริงไหมครับ เพราะถ้า A-B แล้วมันได้ค่าออกมา -5 หรือ A-Bได้ออกมา +/- 10 อย่างนี้ก็แปลว่ามันมีความแตกต่างกัน ถ้า A-Bได้ -5 ก็คือ A มันน้อยกว่า B อยู่ 5 ถ้า A ลบ B ได้ 10 ก็แปลว่า A มากกว่า B ทั้งหมด 10 ก็แปลว่าสองอย่างนี้แตกต่างกันจริงๆถูกไหมครับ แต่ถ้าเกิดเอามาลบกันแล้วมันได้ 0 พอดีเป๊ะเลยก็แปลว่า A = B, A เหมือน B ไม่มีความแตกต่างกันเวลาที่เราดู CI เราต้องดูว่าค่าที่เขาให้ออกมานี้มันมึค่าคร่อม 0 อย่างนี้อยู่หรือเปล่า ถ้ามีค่าที่คร่อม 0 แปลว่า 2 อย่างนี้มีโอกาสที่จะไม่แตกต่างกันเลยสักนิดเดียว
🔶ดังนั้นอันแรกซึ่งผมสะดุดตาคือ CI ของตัวแรกก็คือของ Pfizer นะครับลบ 0.4 ถึง 20.6 แปลว่าไม่มีนัยยะสำคัญทางสถิติครับ
🔶อันที่ 2 ของ Moderna -3.6 ถึง 33.8 ถือว่าไม่มีนัยยะสำคัญทางสถิติเช่นเดียวกัน
ดังนั้นแค่ประโยคแรกผมเห็นเขาพูดอย่างนี้ก็ไม่ถูกต้องแล้ว การที่คนเขียนเขาเขียนว่า Pfizer and Moderna Vaccines มีความเกี่ยวข้องกับผลข้างเคียงรุนแรงมากกว่าคนที่ได้ยาหลอกหรือ Placebo เป็นจำนวนเท่านี้กับเท่านี้มันแปลว่าประโยคนี้ผิดนะครับ ประโยคนี้ต้องแก้ใหม่เลยนะครับว่า Pfizer and Moderna ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการเกิดผลข้างเคียง และก็ไม่ได้แตกต่างไปจากกลุ่มใช้ยาหลอกแต่อย่างใด ถ้าผลที่เขาทำออกมามันได้แบบนี้นะครับ ดังนั้นแค่ประโยคแรกของผลการรักษาของเขาก็ไม่ถูกต้องแล้ว
2️⃣
ทีนี้เขาก็ยังจะอยากจะเอา Pfizer and Moderna มารวมกันแล้วดูว่าผลมันจะใหญ่กว่าเดิมไหม เขาก็เลยเอา 2 อันมารวมกันเขาเจอว่าค่า CI เพิ่มขึ้น 2.1 ถึง 22.9 เพราะว่าเมื่อตะกี้ผมบอกว่าถ้ามันไม่คร่อม 0 แปลว่ามีความแตกต่าง แต่คุณต้องเข้าใจอย่างนี้ครับ CI ถ้ามันยิ่งกว้างมากๆมันยิ่งแปลว่าเขาไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่นะครับ CI ถ้ามันดีมันจะต้องแคบนะครับ แคบเราจะแปลว่าเรามีความมั่นใจสูงมากยกตัวอย่างเช่นสมมุตินะครับ 5:45 แล้วจุดนี้เป็นเลข 0 นะครับ CI สมมติว่ามันมี H กับ I--I นะครับ ค่า CI ทั้ง 2 อันนี้มันเลยค่า 0 ถูกไหมครับแปลว่ามันมีความสำคัญทางสถิติทั้ง 2 อัน แต่ถ้าเกิด CI ของคุณเป็นกว้างแบบนี้ I---I เช่นอันนี้อาจจะเป็นเลข 1 ถึงเลข 100 ก็ได้นะครับ อันนี้ H อยู่ที่ 1 ถึง 5 แปลว่าเรามั่นใจนะครับถ้าเราดูเลข 1-100 แปลว่าความแตกต่างระหว่าง 2 สิ่งอย่างไม่ตะกี้ A กับ B มันอาจจะอยู่ที่ออกมาแล้ว1-5 ได้ตั้งแต่ 1 ถึง 100 ตรงไหนก็ได้เลยในนี้อาจจะได้เป็น 85 99 50 ตรงไหนก็ได้เลยแต่คุณคิดดูถ้าเกิดว่าคุณได้ค่า CI ที่ 1-5 แปลว่ามันอาจจะมีความแตกต่างอยู่ที่ 1-5 ซึ่งมันแคบมากเวลาที่เราจะบอกว่าอะไรที่เรามั่นใจมากๆเราต้องประมาณการให้มันได้มีอยู่ในวงจำกัดที่สุดซึ่ง 1-5 ถือว่ามันแคบมากมันจำกัดที่สุด แล้วถ้าเกิดเราบอกว่าค่า CI อยู่ที่ 2.1 ถึง 22.9 มันค่อนข้างที่จะกว้างนะครับ แต่พอผมมาดูอย่างนี้มันอาจจะมีคนบางคนที่ดูอีกค่าหนึ่งก็คือค่านี้ Risk Ratio ก็คือถ้าเราเอาความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคึยงในคนที่ได้วัคซีนมาหารด้วยคนที่ไม่ได้วัคซีนมันสูงกว่าเท่าไหร่ มันสูงเป็นกี่เท่านะครับกรณีนี้ก็ได้ค่านี้ออกมา 1.07-1.92 แต่ต้องบอกอย่างนี้ครับมันไม่มีประโยชน์ที่เราจะไปทำแบบนี้ถ้า 2 กลุ่มนี้ไม่มีความแตกต่างกันตั้งแต่ต้นเพราะว่าอย่างประโยชน์อันนี้เราจะรู้เลยว่าทั้ง Pfizer and Moderna ทั้งคู่มีค่า CI ที่คร่อม 0 ทั้งคู่แปลว่าไม่มีนัยยะสำคัญทางสถิติตั้งแต่แรก การเอามันมาจับตั้งหารกับตัว Placebo ไม่มีประโยชน์ใดๆทั้งสิ้นก็ไม่ต้องทำ ดังนั้นตรงนี้ก็เชื่อไม่ได้ มันเป็นการวิเคราะห์ที่ทำให้เราเข้าใจผิดไปเยอะเลยนะครับ
3️⃣
นอกเหนือจากนี้ประโยคแรกนี่มันเป็นการบ่งบอกถึง Adverse events of special interest ซึ่งเดี๋ยวผมจะลองชี้ให้ดูก่อนทีหลังนะครับในตัวเนื้องานว่ามันคืออะไรกันแน่ตอนนี้เราก็เข้าใจอย่างนี้ไปก่อนนะครับ กับ Serious adverse events สองอันนี้มันคืออย่างนี้ครับ เดี๋ยวผมจะวาดให้ดู 8:24 สมมุติว่าเรามีก้อนกลมๆใหญ่ๆนะครับ O อันนี้คือ Serious adverse events นะครับ แต่ถ้าเป็น Adverse events of special interest ที่เขาพูดมันอยู่ใน O ย่อว่า SAE นี้อีกทีนึงนะครับ o เราอาจจะย่อว่า AESI ก็ได้นะครับ เพราะฉะนั้นเวลาที่เราจะดูเราต้องการดูแบบเต็มกับแบบที่มันย่อยอยู่ข้างใน ถ้าเราดูแบบเต็มอันที่ 2 นี่คือแบบเต็มนะครับเขาก็จะดูเหมือนกันบอกว่า Risk Difference ของกรณี Pfizer เราดูเลยว่าเขาเจอ CI 1.2 ถึง 34.9 มันค่อนข้างกว้างนะครับ Risk Ratio 1.36 Moderna 7.1 นะครับ แต่ Moderna คร่อม 0 ไหมครับเพราะว่า -23.2 ถึง 37.4 แปลว่าของ Modernaไม่ได้มีปัญหาอะไรแต่อย่างใดไม่ได้มีความแตกต่างจาก Placebo เลยสักนิดเดียวนะครับ แต่เขาก็ยังไม่ยอมก็เอา 2 อย่างมารวมกันเอา Pfizer and Moderna บวกกันก็คร่อม 0 เหมือนกันแปลว่าไม่มีความสำคัญทางสถิติแต่อย่างใดเลย ดังนั้นผมอ่านแค่ตัวบทคัดย่อหรือ Abstract ก็สามารถบอกท่านได้เลยนะครับว่าอันนี้เขาเขียนมาแล้วก็แปลได้ชัดเจนว่ามันไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าตัววัคซีน Moderna and Pfizer มันมีผลข้างเคียงแตกต่างไปจากคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนแต่อย่างใดเลยไม่มีเลยนะครับ
แต่เราก็มาดูในกรณีของ Discussion นะครับก็คือเขาบอกว่าเขาเจอว่ามี Excess risk of serious ก็คือผลข้างเคียงมากกว่าในคนที่ไม่ได้ฉีดยาหลอก ซึ่งอันนี้มันสรุปแบบนี้ไม่ได้ครับเพราะว่าอย่างเมื่อกี้ที่เราบอกไปถ้ามันคร่อม 0 เมื่อไหร่มันแปลว่าทางสถิติไม่มีผลใดๆทั้งสิ้นนะครับ อันนี้มันเป็นตัวอย่างอย่างหนึ่งของการที่ถ้าเราเอางานวิจัยชิ้นนี้มาเป็นสิ่งสนับสนุนว่าวัคซีนมันมีผลข้างเคียงเยอะนะครับ แล้วเรามีคนเชื่อเยอะแยะไปหมด แปลได้ 2 อย่างครับ
🔷อย่างแรกเราจงใจเอางานวิจัยชิ้นนี้ออกมาเพราะว่าเรารู้ว่าหลายๆคนจะอ่านงานวิจัยไม่เป็น แต่มันจะมีหลายคนที่พอเห็นว่ามีงานวิจัยสนับสนุน แค่มีชื่องานวิจัยสนับสนุนลงตีพิมพ์ก็จะเชื่อไปเรียบร้อยแล้ว 100% นะครับ ทำให้เกิดความไขว้เขวแก่คนทั่วไปนะครับ
🔷อันที่ 2 ถ้าเราไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นก็แปลว่างานวิจัยที่คุณเอามานี้คุณอ่านไม่เป็นเลยนะครับ
มันมีแค่ 2 อย่างเท่านั้นแหละครับ อย่างแรกคุณไม่รู้ว่างานวิจัยนี้มันอ่านยังไงนะครับ ถ้าคุณเป็นระดับอาจารย์แพทย์ใหญ่ๆแล้วอ่านงานวิจัยชิ้นนี้แล้วยังตีความมาว่าตัวนี้มันเป็นสิ่งที่สนับสนุนความคิดที่ว่าวัคซีนมันมีปัญหา อันนี้คุณก็ไม่น่าจะใช่แล้วครับต้องย้อนกลับไปเรียนงานวิจัยใหม่หมดตั้งแต่เด็กเลยนะครับ อันที่ 2 ถ้าคุณจงใจเอางานวิจัยชิ้นนี้ออกมาโดยที่คุณอ่านเป็นแล้วนะแปลว่าคุณจงใจจะหลอก แกล้งคนอื่นทั่วไปนะครับ แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุใดจึงเอาอันนี้ออกมานะ ต้องมีคนที่คิดเอาเองว่าทำไมถึงเอางานวิจัยตัวนี้ออกมานะครับ
4️⃣
แล้วอีกอย่างหนึ่ง ผมจะทำดาวไว้ในสิ่งที่สำคัญผมอ่านงานวิจัยทั้งฉบับนะครับ ผมจะไม่ได้อ่านเฉพาะแค่บทคัดย่อ แต่ผมจะเลือกเฉพาะตรงดาวที่ผมคิดว่าสำคัญมานะครับ เขาบอกว่างานวิเคราะห์ของเขาครั้งนี้เขาเอางานที่ Pfizer and Moderna ทำงานทดลองก่อนที่ FDA จะอนุมัติตัววัคซีนนี้เอาข้อมูลตรงนั้นมาวิเคราะห์ แต่เขาไม่วิเคราะห์หลังจากนั้นอีกต่อไปเลยนะครับซึ่งถือว่าไม่ดีเพราะว่าหลังจากที่เรามีวัคซีนโควิดขึ้นมาบนโลกนี้แล้วเขาก็มีการเก็บสถิติว่าเกิดผลเสียผลดีอะไรยังไงนะครับ ดังนั้นตรงนั้นต่างหากล่ะครับที่เป็นข้อมูลสำคัญที่เราจะเอามาเปรียบเทียบกันว่าตกลงแล้วมันมีปัญหาอะไรไหมนะครับ ไม่ใช่เอาแค่ข้อมูลตอนแรกสุดที่จำนวนคนฉีดวัคซีนน้อย แต่หลังจากวัคซีนใช้แล้วจำนวนคนที่ใช้มันเยอะเราก็ต้องเก็บข้อมูลตรงนั้นมาวิเคราะห์ ดังนั้นอันนี้อาจจะไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่นะครับ แล้วก็ตรงนี้ Serious adverse event เขาก็มีนิยามชัดเจนทั้งของ Pfizer and Moderna นะครับ ถ้าเกิดว่าใครมีเวลาว่างก็ไปอ่านดูว่ามันคืออะไรบ้างนะครับ
แต่ที่อยากจะบอกไว้อย่างหนึ่งก็คือเมื่อตะกี้นี้ผมลืมเล่าอันนี้นะครับ ผมจะให้ดูอีกอย่างหนึ่งซึ่งมันสำคัญนะครับคือตรงนี้ เขาบอกว่าสิ่งที่เขาศึกษาคือ Event/จำนวนคน ที่ชัดๆหน่อยคืออันนี้นะครับเขาบอกว่าในกรณีของ Pfizer คือ 10.1 Moderna คือ 15.1 นะครับสูงกว่ากลุ่มใช้ยาหลอกซึ่งคือ 17.6 กับ 42.2 นะครับ อันนี้หมายความว่าอะไรผมจะชี้ให้ดูตรงนี้นะครับ AESI ของ Pfizer และของ Moderna คือ 10.1 มากกว่าในกรณีของ Placebo ก็คือ 10.1 + 17.6 ก็เป็น 27.7 ต่อ 10,000 คน ถ้าเป็นของ Pfizer ก็ต้องเอา 15.1 + 42.2 ก็เป็น 57.3 ต่อ 10,000 คน อันนี้แปลว่ามีจำนวนครั้งของการเกิดผลข้างเคียงที่เขาสนใจอย่างนี้เลยนะครับของการเกิดผลข้างเคียงที่เขาสนใจเท่านี้ครั้งต่อจำนวน 10,000 คนซึ่งจริงๆมันเป็นการเปรียบเทียบที่ไม่สมควรนะครับ เราสมควรจะเปรียบเทียบอย่างนี้ครับ สมมุติผมบอกว่า “ถ้าคุณกินยาตัวนี้แล้วคุณจะเกิดผลข้างเคียงทั้งหมดกี่ครั้ง” คุณคงจะสงสัยว่ามันประหลาด ถ้าผมจะบอกอย่างนั้นผมก็บอกว่า “ถ้าเกิดคุณกินยาตัวนี้โอกาสที่คุณจะเกิดขึ้นในจำนวน 10,000 คนจะมีสัก 10 คนที่เกิดผลข้างเคียงขึ้นมา” จะไม่มีการบอกว่ามันมีผลข้างเคียงทั้งหมดกี่ครั้งเพราะว่า 1 คนอาจจะมีผลข้างเคียงมากคนหนึ่งอย่างก็ได้ เช่น สมมุติคนคนนี้เกิดผลข้างเคียงนะครับเรานับเป็น 1 คนในหมื่นคนเป็นต้น แต่ถ้าเกิดคนคนนี้มีปวดหัวนับเป็น 1 อย่าง ปวดตัวนับเป็นอย่างที่ 2 มีไข้นับไปอย่างที่ 3 ท้องเสียนับไปอย่างที่ 4 ก็แปลว่าใน 10,000 คนนี้คุณขยายคนคนนึงให้มันมี 4 คน มันก็จะทำให้ดูเหมือนน่ากลัวขึ้นมามากกว่าปกติ ดังนั้นโดยทั่วไปเราจะไม่ใช้วิธีนี้ในการบอกว่ามันจะมีปัญหาอะไรมากแค่ไหน เราจะใช้วิธีบอกว่าคนที่มีปัญหาจะมีจำนวนทั้งหมดกี่คนต่อจำนวนที่เราศึกษานะครับ ดังนั้นอันนี้เป็นสิ่งที่ผมมองแล้วรู้สึกว่ามันมันแปลกอยู่นะครับที่เขาเลือกใช้อันนี้ในการเอามาบรรยายนะครับ
5️⃣
และตรงนี้เขาก็บอกว่างานศึกษาของเขามีความแตกต่างจาก FDA นะครับ เหตุผลที่เขาบอกว่ามันแตกต่างจาก FDA คือเขาบอกว่า “FDA วิเคราะห์ข้อมูลในแง่ของจำนวนผู้เข้าร่วมที่ประสบเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ในณะที่งานวิจัยนี้วิเคราะห์ในแง่ของจำนวนครั้งที่เกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ทั้งหมด” พูดอย่างที่เมื่อกี้ผมบอกเลยครับ FDA ทำถูกต้องแล้วเพราะว่า FDA เขาจะดูเวลาเกิดผลข้างเคียงขึ้นมาเขาจะดูว่ามีกี่คนที่เกิดผลข้างเคียงต่อจำนวน 10,000 คนแต่ในกรณีนี้เขาบอกว่ามีผลข้างเคียงทั้งหมดกี่อย่างต่อจำนวนคนไข้ 10,000 คนซึ่งมันไม่สมควรทำอยู่แล้วนะครับ ซึ่งก็ไม่เหมาะนะถ้าถามผมนะครับ แต่ว่าบางคนก็อาจจะบอกว่าเหมาะนะครับ กรอบสี่เหลี่ยมนี้เดี๋ยวผมจะอธิบายทีหลัง
อันนี้เป็นส่วนสุดท้ายที่ผมจะอธิบายนะครับ เขาบอกว่าใน Discussion ของเขานั้นเขาเขียนตรงนี้เลยครับที่สำคัญแล้วผมคิดว่าน่าจะเอามาเป็นตัวอย่างสำหรับคนที่อ่านแล้วก็ไม่เข้าใจนะครับ ขาบอกว่า การวิเคราะห์ของเขานี้พยายามที่จะตัดเอา Efficacy SAEs ออกไป หมายความว่าเวลาที่เราทำงานวิจัยเรื่องวัคซีนนะครับ Efficacy หรือประสิทธิภาพของวัคซีนมันมีไว้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการของโควิดแล้วก็ป้องกันไม่ให้เกิดอาการรุนแรงจากโควิด เช่น อาการรุนแรงจากโควิดคือปอดอักเสบถูกไหมครับ แต่ว่าถ้าคุณมีข้อมูลไม่ครบแล้วคนไข้คนนึงเกิดปอดอักเสบขึ้นมาคุณจะรู้ได้ยังไงว่ามันเกิดจากโควิดหรือเกิดจากวัคซีนจริงไหมครับ เวลาที่เราวิเคราะห์ข้อมูลถ้าเรามีข้อมูลครบทุกอย่างเราต้องตัดคนที่เป็นโควิดออกเพราะว่ามันถือว่าอันนี้มันเป็นเรื่องของประสิทธิภาพของวัคซีนมันไม่เกี่ยวข้องกับผลข้างเคียงของวัคซีนมันเกิดจากโควิดมันไม่ได้เกิดจากวัคซีนต้องตัดตรงนี้ออก ปัญหาคือคนกลุ่มนี้เขาบอกว่าเขาไม่มีข้อมูลในระดับของคนไข้เลยคือเขาไม่รู้ว่าคนไข้ที่อยู่ในงานทดลองอันนี้มันเป็นยังไงบ้าง มีข้อมูลอะไรบ้างเขาไม่รู้ พอเขาไม่รู้ก็จะเกิดแบบนี้ขึ้นมาครับบอกว่าคนที่อยู่ในงานศึกษาครั้งนี้มันมีโอกาสที่จะมีผลข้างเคียงที่เกิดเพราะว่าโควิดแต่เขาแยกไม่ได้ว่าเป็นเพราะโควิดหรือเป็นเพราะวัคซีนหรือว่าเป็นเพราะอย่างอื่นกันแน่ ดังนั้นอาจจะมีปัญหาเรื่องของการปนของพวกนี้เข้ามาทำให้เขาวิเคราะห์ได้ไม่ถูกต้องนะครับ
Haters gonna hate จริงๆค่ะอาจารย์... คนที่เข้ามาฟังการวิเคราะห์งานวิจัยนี้พอเห็นว่า มันชัดเจนว่าวัคซีนไม่ได้มีปัญหา ก็เริ่มจะบิดไปว่า เอ๊ะ งานวิจัยนี้มีอำนาจเงินเข้ามาเกี่ยวข้องหรือเปล่า เพราะไม่รู้จะนำอะไรมาแย้งได้ก็เลยออกในรูปแบบนี้ตลอด เห็นบ่อยมากค่ะ ดิฉันคิดว่า งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์จริงๆมันไม่มีใครที่จะมาให้เงินเพื่อทำให้ผลการวิจัยมันออกมาตามที่เขาต้องการ งานวิจัยสำคัญทางวิทยาศาสตร์แบบนี้ต้องฟังความคิดเห็นของนักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆมากกว่าว่าเขาคิดอย่างไร การดูที่ประเด็นว่าโดนอำนาจเงิน อันนั้นไม่น่าจะเป็นงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์แล้ว ซึ่งเรื่องนี้อย่างที่อาจารย์บอกค่ะ คือ ไม่ใช่บอกว่างานนี้มีอำนาจเงินมาเกี่ยว เพียงเพราะแค่ผลงานวิจัยมันไม่ตรงใจเขาค่ะ...
กราบขอบพระคุณค่ัะ การที่คุณหมอยังคงให้ความสำคัญกับเรื่องวัคซีนเป็นเรื่องที่ดีมากๆค่ะ เพราะไม่งั้นก้จะไม่มีใครมาให้ความรุ้ในเรื่องนี้แล้ว ส่วนมากจะไปให้ความสนใจเรื่องอื่นๆกันแล้วค่ะจะมีก้แต่กลุ่มที่ต่อต้านวัคซีนที่ยังคงขยันหาข้อมูลที่ต่อต้านวัคซีนและผลเสียที่มีต่อร่างกายและชีวิตมาทำให้ปชช สับสนและเข้าใจไม่ถูกต้องตลอดๆ 🙏
กราบขอบพระคุณอย่างสูงค่ะอาจารย์หมอแทน ที่กรุณาให้ความรู้และรื้อฟื้นรื้อฟื้นความรู้ทางงานวิจัยให้ผู้เกี่ยวข้องได้ฟังอีกครั้ง ยอมรับจากใจว่าอาจารย์หมอแม่นยำรอบคอบและมีความรู้ครบมิติในการพิจารณางานวิจัยชิ้นใดชิ้นหนึ่ง สมแล้วที่เป็นถึงอาจารย์แพทย์ กรณีของผู้ที่รีบร้อนเผยแพร่ข้อสรุป ระดับงานวิจัยออกสู่สาธารณะ โดยไม่ทันอ่านและทำความเข้าใจเองให้ดีก่อน นอกจากจะเป็นผลเสียให้ประชาชนเข้าใจผิดทำให้ปิดโอกาสทางการรับวัคซีน/ยา/หรือรับการรักษาของประชาชน แล้วยังกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้รีบร้อนนำเสนออีก เป็นผลให้ต่อไปข้อมูลผลสรุปที่เขาพูดจะขาดความน่าเชื่อถือและเป็นที่เคลือบแคลง ดังนั้นนักวิชาการผู้ค้นคว้าวิจัยควรให้ความสำคัญและให้เวลากับการอ่านทำความเข้าใจกับสิ่งที่จะนำเอาไปแถลงการณ์หรือเผยแพร่อย่างละเอียดถ่องแท้ หากตัวเองไม่สามารถเข้าใจสาระรายละเอียดหรือสถิติทางการวิจัย ควรขอคำชี้แนะจากผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ไว้บ้าง เพื่อความถูกต้องน่าเชื่อถือในการนำเสนอ เพื่อประโยชน์ที่แท้จริงถูกต้องต่อสาธารณะ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นสิ่งที่ทุกท่านต้องการ
การอธิบายพร้อมแสดงภาพเอกสารจริง มีการใช้เครื่องหมาย วงกลมแถบสี รูปดาว กล่อง ขีดถูกผิด การชี้โยงเส้น เน้นไปที่ส่วนสำคัญได้แก่ ตัวเลข คำ ข้อความ ตารางเปรียบเทียบข้อมูล พร้อมสรุปทำความเห็นส่วนตัวปิดท้าย ทำให้ผู้ฟังเห็นความชัดเจน มีความง่ายต่อการเข้าใจ ในงานวิจัยที่วิเคราะห์ ขอบคุณอาจารย์ค่ะ
สวัสดีค่ะคุณหมอธนีย์
คุณหมอเคยสอนหลักการอ่านงานวิจัย คือพยายามหาจุดบกพร่อง จุดอ่อนของงานวิจัยให้ได้
งานวิจัยฉบับนี้ มีจุดบกพร่องหลายที่เช่น
เอางานที่ไฟเซอร์กับโมเดอร์นา ทำการทดลองก่อนที่ FDA จะ Approve ตัววัคซีนมาวิเคราะห์ แต่ไม่ได้วิเคราะห์หลังจากนั้น ไม่ได้มีการเก็บสถิติผลดี ผลเสีย ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญ
อ่านงานวิจัยว่ายากแล้ว การตีความงานวิจัยยากยิ่งกว่า
โชคดีจังค่ะ เป็น FC คุณหมอแทน ไม่ต้องอ่านงานวิจัยเอง
ขอบคุณมากค่ะคุณหมอแทน
ขอให้คุณหมอและครอบครัว
มีสุขภาพแข็งแรงและมีความสุขมากๆนะคะ
🏡🍎🍇🍈🧡🍍🍊🍏🏕
นอกจากฟังคุณหมอก็อ่านคอมเม้นท์ใต้คลิปไปด้วยนี่แหละ..ได้ประโยชน์สองเด้ง
สุดยอดคอมเม้นท์ เดอะเบสท์ออฟเดอะเบสท์
ขอบคุณค่ะคุณหมอแทน
สำหรับคำอธิบาย
โรซี่ก็มาฟังด้วย
สวัสดีค่ะคุณหมอ ขอบคุณข้อมูลนะคะ ขอให้คุณหมอมีสุขภาพแข็งแรงค่ะ😊😍😍
ต้องขอบคุณอาจารย์ ที่ช่วย ให้ความรู้ซึ่งเป็นประโยชน์มาก ครับ
ดูจนจบเลยค่ะ นึกว่าเป็นงานวิจัยแล้วจะงงจนดูไม่จบ คุณหมออธิบายดีมากค่ะ
😊ขอบคุณอจ.หมอมากค่ะ🙏🐰
ขอบคุณสำหรับคลิป
วิเคราะห์งานวิจัยเกี่ยวกับวัคซีน mRNA ค่ะ
ขอบพระคุณคุณหมอมากค่ะ ชัดเจนด้วยความสามารถการอ่านงานวิจัยของคุณหมอจริง ๆ ค่ะ มีหลักฐานให้ดูไปพร้อม ๆ กัน ดีมากค่ะ ขอบคุณค่ะ
สวัสดีครับ คุณหมอ
สุขภาพแข็งแรง
เฮงๆรวยๆครับ
ขอบพระคุณ คุณหมอมากค่ะ
เชื่อมั่น คุณหมอมาตลอดค่ะ
ชื่นชมคุณหมอครับ
ขอบคุณค่ะอาจารย์🙏🥰
ขอบคุณครับอาจารย์หมอ
งานวิจัยก็มีปัญหาได้
คนใช้งานวิจัยก็มีปัญหาได้
วัคซีนก็อาจมีปัญหาได้ในบางกรณี บางบุคคล
และวัคซีนที่ดีก็อาจจะมีประโยชน์มากมายมหาศาลได้...
ถามว่าควรมีคนค้านไหมเพื่อถ่วงดุล....ควรมี
มีรัฐบาล ก็ต้องมีฝ่ายค้าน เพื่อให้เกิดทางเลือกทางออกที่ดีที่สุด
อนาคตถึงจะมีความไม่แน่นอน แต่ก็ควรทำให้ดีที่สุดในปัจจุบัน และขอให้เป็นสุขในทุกการกระทำ เป็นความเห็นส่วนตัวนะ
ทุกอย่างมีปัญหาได้ เราจึงต้องหัดพิจารณารอบคอบโดยไม่เอาอคติส่วนตัวเป็นที่ตั้ง และแบบนี้เราก็จะเห็นความเป็นจริงอย่างที่มันควรจะเป็นครับ
งง
วัคซีนเพื่อสุขภาพที่ดีของมวลมนุษยชาติ เกี่ยวไรกับฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาล
เห็นด้วยกับข้อมูลตามคลิปที่คุณหมอTanyชี้แจงไว้ และขอขอบคุณ อคติเป็นสิ่งไม่ดีไม่ควรมีต่อกัน ถึงจะมีความแตกต่างกันบ้างทางความคิดก็ตาม ......ยังไงก็ขอขำกับเรื่อง งงๆ หน่อยนะ ตลกดี มีรัฐบาลกับฝ่ายค้านด้วยเรา เป็นคำเปรียบเปรยนะ ของที่มีคุณประโยชน์ ก็มีโทษมหันต์ด้วยถ้าไม่รอบครอบ จึงต้องมีทั้ง2ฝ่ายมาถกกันในสภานะ...คนถูกฉีดวัคซีนก็มีสิทธื์ที่จะรู้ที่จะเลือกนะ อยากโดนกี่เข็มล่ะ...ขำๆนะ จิตจะได้ผ่องใสแจ่มใส มีคนสอนไว้
เรื่องการแพทย์ กับ การเมือง ไม่เกี่ยวข้องอะไรกันเลยค่ะ โอเคในเรื่องการเมือง มีฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้านเอาไว้ถ่วงดุลอำนาจกัน แต่! ในเรื่องการแพทย์ไม่มีค่ะ จะมีก็แต่เรื่อง ความถูกต้องตามหลักการแพทย์และวิทยาศาสตร์เท่านั้น เช่น เรื่องวัคซีน เราจะดูกันที่วัคซีนปลอดภัยหรือไม่ ฉีดแล้วช่วยลดการระบาดได้หรือไม่ เรื่องใครจะเห็นด้วยกับวัคซีน หรือ ใครจะต่อต้านวัคซีนนั้นมันมีมาตั้งแต่วัคซีนไข้ทรพิษ (ฝีดาษ) ออกมาแล้วค่ะ เรื่องนี้จะนำมาถกเถียงกันเพื่อคานอำนาจไม่ได้แน่นอน มีแต่ว่า วัคซีนได้ผลหรือไม่เท่านั้น ซึ่งพิสูจน์มามากมายหลายวัคซีนแล้วค่ะ...
@@parvichatpromin3515 แล้วแต่ป้าละกัน555
😊🌸🍃ขอบคุณมากนะคะ🙏
You are the best person for this thing. Thank you very much.
Scholars of Thailand should be proud that a Thai MD, an Instructor at Harvard U, is able to detect the errors in a paper published and reported by the US NIH ( National Institutes of Health).
This shows his exceptional and extraordinary knowledge bases besides his expertise in pulmonolgy and lung tx.
Hope that one day he will move back and contribute to the Thai society.
Really proud of you.
ขอบพระคุณมากค่ะอาจารย์ที่สอนข้อสังเกตในการอ่านงานวิจัย และคำอธิบายโดยละเอียดเกี่ยวกับงานวิจัยนี้มีประโยชน์สำหรับผู้ที่อ่านงานวิจัยไม่เป็น🙏🙏
สงสัย editor กับ reviewers จะใช้ chat GPT ช่วยอ่านครับ ระยะหลังมี GPT et al. ผ่านเข้ามาเยอะเสียด้วยครับ
ขอบคุณคุณหมอมากๆครับ ที่สละเวลาทำเรื่องนี้มาตลอด ให้ความรู้แก่ประชาชน (น้ำเงินขาว พราววิไล)
สวัสดีค่ะอาจารย์หมอ👍💯
ขอบคุณอาจารย์หมอมากค่ะ🥰
ชอบคุณ
ขอบพระคุณ อ.หมอมากๆค่ะ ได้ประโยชน์ในการอ่านงานวิจัยมากๆค่ะ สรุปรวบตรงประเด็นมากกว่าตอนเรียนในมหาลัยอีกค่ะ ❤❤
ขอบคุณค่ะ
สุดยอดค่ะอาจารย์
สวัสดีค่ะ อาจารย์หมอ
🙏สวัสดีค่ะคุณหมอแทน.,✨
กราบขอบพระคุณมากๆๆค่ะ สำหรับการอ่านงานวิจัยและข้อมูลสำคัญๆ ที่ให้ความรู้
ให้เป็นวิทยาทานสอนอย่างละเอียดมากค่ะ ชื่นชมค่ะ❤
...สำหรับผู้ที่ต่อต้านมาตลอด
...ผู้ที่ไม่ประสงค์ดี ผู้ที่เสาะหา
...ผู้ที่สร้างประเด็นไปเรื่อยๆ...
...ก็ยังผุดขึ้นมาอยู่ร่ำไป อย่าง
ไรก็แล้วแต่ มันไม่เหมาะสมเลยด้วยประการทั้งปวงที่จะนำมาเผยแพร่ เพราะเป็นการวิเคราะห์งานวิจัยที่ไม่ถูกต้องทำให้เกิดความเข้าใจผิด ซึ่งทำให้ประชาชนเกิดความสับสนอีกแล้ว และนำไปสู่การ ให้ข้อมูลที่ผิดๆ ไม่สามารถเชื่อถือได้ ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า วัคซีนmRNA ส่งผลเสียต่อร่างกาย!!!???!!!
..ทำ..ทั้งๆที่รู้ว่าที่ถูกเป็นอย่างไร .. ทำได้อย่างไร...
ทำเพื่อ.. ท่านทำเช่นนี้เท่ากับท่านทำให้ประชาชนจับโป๊ะการนำเสนอของตัวท่านเองให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาต่อสาธารณะชนต่างหาก ..
เฮ้อ..คราวนี้ไม่รู้ว่าจะร้องเพลงอะไรดีน๊าา...คิดสิ..คิดสิ
🎀🎀🎀🎀🎀🎀🎀🎀🎀
@✨18.05 น วันอังคารที่
@✨ 9 เมษายน 2567✨💫
ไม่เข้าใจเหมือนกันครับว่างานวิจัยแรกถึงกล้าตีพิมพ์ทั้งๆที่ข้อมูลไม่ชัดเจน และสำนักพิมพ์ก็ให้ตีพิมพ์ด้วย ส่วนตัวก็ฉีดทั้งแอสตร้าฯและไฟเซอร์ก็ไม่พบอาการผิดปกติกับร่างกายอย่างใดนอกจากเจ็บรอยเข็มทิ่มเท่านั้นครับ
สวัสดีค่ะคุณหมอ
ตอนนี้กำลังเรียนวิชา research method อยู่เลยครับ ทำให้เข้าใจการอ่านงานวิจัยเพิ่มขึ้นเลยครับ อาจารย์
คุณหมอที่มากความรู้ ความสามารถมากๆขนาดนี้ ผมเสียดายแทนคนไทยทั้งประเทศ จังเลย คุณหมอน่าจะกลับมาช่วย ประเทศไทย พัฒนาวงการแพทย์ ยิ่งตอนนี้
รัฐบาลไทยยุคปจุบัน กำลังมีแผนจะพัฒนาผลักดันให้ประเทศไทยเป็น Hub แห่งวงการแพทย์ในด้านการรักษาผู้ป่วยเป็นระดับโลกให้ได้ เพราะการรักษาถูกมากในสายตานานาชาติ แต่ได้ได้รับการดูแล ระดับประเทศที่พัฒนาแล้ว อย่างในอเมริกา และ ยุโรป ปีนึงๆ จึงมีต่างชาติเดินทางเข้ามารักษาตัวในไทยเยอะมากๆ ชาวต่างที่เข้ามารักษาต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าวงการแพทย์ที่นี่เก่งมากๆ ฝีมือระดับชั้นนำของโลก อันนี้ไม่ได้ยกยอปอปั้นกันเอง แต่เสียงจาก ทั้งคนอเมริกา ยุโรป
ที่อพยบมาอยู่ไทย หรือ มาทำงานในไทย ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ได้รับการรักษาที่ดีมากๆขนาดนี้ ถ้าเป็นในอเมริกา คงจ่ายราคาแพงมากๆ แต่ในไทย การดูแลรักษาระดับนานาชาติขนาดนี้ แต่ราคากลับไม่แพงเลย เครื่องไม้เครื่องมือแพทย์ ก็ทันสมัย ชาติอาหรับ ล้วนเดินทางเข้ามารักษาตัวในไทย เพิ่มมากขึ้นกว่าแต่ก่อนๆ เป็นเท่าทวี ด้วยชื่อเสียงที่ดีในด้านนี้ รัฐบาลยุคประจุบันเลยมี นโยบายที่จะผลักดันให้ไทย เป็นศูนย์กลาง หรือ Hub ทางด้านการแพทย์ให้ได้ ถ้าได้คุณหมอที่มีความสามารถขนาดนี้ มาเสริมทัพในไทย ก็จะเป็นคุณประโยชน์ ต่อชาติไทยมากๆ อยากให้หมอ กลับมาพัฒนาประเทศแผ่นดินแม่ครับ
คุณหมอรักษาที่ไหน ก็คือการช่วยเหลือเพื่อนมนุษยชาติ อยู่ดีครับ คิดแบบนี้ดีกว่า
เคยเล่าไปแล้วล่ะครับถึงเหตุผลต่างๆ th-cam.com/video/uBvt30Wk2ZA/w-d-xo.htmlsi=0p6MXRwp8MYcrN7J
เป็น comment ที่ดีนะคะ ชื่นชมคุณหมอคนเก่ง คุณหมอเคยบอกว่าไม่อยากเล่นการเมืองค่ะและความเชี่ยวชาญของคุณหมอคือการปลูกถ่ายปอด
ที่ไทยไม่มีปอดของผู้ให้บริจาคมากแบบที่อเมริกาค่ะ 😊
การทำ TH-cam ให้ความรู้แบบนี้ก็ทำประโยชน์ให้กับประเทศไทยได้เหมือนกันค่ะ และถ้าจำเป็นเดี๋ยวนี้ก็สามารถทำการประชุมผ่านonline ได้สบายค่ะ เราดู TH-cam คุณหมอทุกวันก็เหมือนคุณหมออยู่ไทยค่ะ 😄 ถ้าคุณหมอกลับไทยคงตรวจคนไข้ได้แค่วันละไม่เกิน 20 คนแต่แบบนี้คือให้ความรู้คนได้วันละเป็น 10,000 คนเลยค่ะ
ผมเคยคิดแบบคุณ แต่หากคิดดีๆคนไทยและวงการแพทย์ไทยจะได้มากกว่านั้น
ถ้าคุณหมอยังมีไฟมีใจจะซึมซับความรู้ใหม่ๆวิทยาการยากๆใหม่ๆมาถ่ายทอดได้
ประเทศไทยขาดความพร้อมมากเมื่อเทียบกับอเมริกาครับ ทั้งทุนทั้งองค์ความรู้ใหม่ๆมันต่างกันเกินไป
สวัสดีต่ะคุณหมอ ขอบคุณมากคะวันนี้มาให้ความรู้วิเคราะห์งานวิจัยท้าทาย FDA ..วัคซีน MRNA ส่งผลเสียต่อร่างกาย ได้ความรู้ดีมีประโยชน์มากคะ👍🙏🌹
สวัสดีค่ะคุณหมอ
ขอบคุณคุณหมอมากๆเลยค่ะที่ให้ความมั่นใจเรื่องวัคซี
Moderna and Pfizer มีความโล่งใจใจขึ้นมากเลยค่ะ ขอคุณพระอวยพรคุณหมอในทุกๆด้านนะคะ จะได้ทำคลิปที่ดีมีประโยชน์แก่พวกเราต่อไปค่ะ 🙏
Thanks!
สวัสดีค่ะคุณหมอ❤
ท่าทาง บุคลากรทางการแพทย์เหล่านั้นจะไม่เคยอ่านงานวิจัยด้วยตัวเองสินะครับ ถึงไม่รู้แม้กระทั่งสถิติพื้นฐานที่ นศพ. เรียนกันตอน ปี 1
จริงๆผมว่าอ่านนะครับ แต่พออ่านแล้วผลสรุปมันโดนใจ เลยลืมใช้ความรู้ไปหมด รีบเอาออกมาพูดครับ
@@DrTany ปิ๊งงงป่องกับ คำตอบนี้ของคุณหมอเลยค่ะ
ทุกครั้ง สงสัยการกระทำ ของ ศจ. มาโดยตลอด คิดหาเหตุผลว่าทำไมถึงทำแบบนั้น เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่คนระดับนั้นจะไม่รู้
วันนี้ เข้าใจละ เฮ้ออออ
ขอบคุณสำหรับความรู้ และลิ้งค์แนบ และ หลักการพิจารณา ผลการวิจัย การดูค่าความน่าเชื่อถือ ของตัวเลข สถิติที่ใช้ในงานวิจัยค่ะ 📚📚
ขอบคุณค่ะ Tany สำหรับ 💚💚💚💚💚💚💙💙💙💙💜💜💜💜💜 Have a wonderful & happiness moment time together with an adorable Rosy ค่ะ 😁😄🐶🐶💐💐🌸🌸
งานวิจัยทางด้านเกษตร/โรคพืช ก็เป็นครับ ไม่รู้ว่าผ่านทาง board editor มาได้ยังไง
ต้องวางใจเป็นกลาง แล้วเอาหลักฐาน ต่าง ๆ มาคุยกันครับ❤️
เห็นด้วยครับ และคนที่อ่านงานตัวนี้แล้วเอาไปอ้างอิงแบบ ศ white clot นี่ใจไม่เป็นกลางแล้วครับ เพราะงานชิ้นนี้มันผิดตั้งแต่ต้นเลยครับ ผิดขนาดที่เด็กพึ่งเรียนสถิติวิจัยใหม่ๆยังบอกได้ครับ
แอบเห็นโรซี่ด้วย 😊
ล่าสุด เอา narrative review มาสู้แล้วครับ เค้าไม่รู้เหรอว่างาน review มันก็แค่การคาดเดาครับ
Those FLCCC physicians got their medical license revoked by the Board of Medicine here in the US for "spreading false or inaccurate medical information". Is The Medical Council of Thailand doing anything about this? Just asking.
@@AvecBella I have heard that because that White Clot guy has the professor title, is senior, and has backup, the university takes this as “freedom of academic contents”. Otherwise, he should be punished by now. This is the ultimate disgrace to the most prestigious university and detrimental to the newly graduated med students under his supervision.
@@AvecBella The medical council in Thailand does nothing. There are A LOT OF CROOKED Thai physicians who use their professions for their own goods. E.g., spreading false knowledge regarding drinking milk is detrimental, support CDS, intentionally cover some facts to sell expensive online health courses, etc. All these have been reported to the medical council but there has been no reaction whatsoever.
ขอบคุณครับ
ได้ความรู้เรื่องการอ่านงานวิจัยด้วยครับ
สวัสดีค่ะ คุณหมอแทน❤❤❤🥰ค่ะ
เห็นหลายๆงานวิจัย ที่ใช้คำที่ให้สื่อความหมายผิด หรือ ผิดไปเลย ทำไมถึงยังให้ตีพิมพ์ได้ แล้วพวกคำเฉพาะทางหรือคำเทคนิคต่างๆ น่าจะมีคำอธิบายเพิ่มเติม
ขอบพระคุณมากค่ะที่ชาวยชี้แนะวิธีการวิเคราะห์วิจารณ์งานวิจัยค่ะ ไเ้ความรู่เพิ่มขึ้นค่ะ
ขอบคุณมากครับ อาจารย์หมอ วัคซีนไม่มีปัญหากับร่างกาย
ผมฉีด pfizer ตอนนี้ร่างกายปกติครับ ฉีด 3 เข็ม
เรากับแฟนเป็นลิ่มเลือดด้วยกันทัังคู่..ฉีดไฟเซอร์ 2 โมเดอร์น่า 2...สุขภาพปกติดี
อยากให้ AI มาช่วย peer จังจะได้เอางานวิจัย bias ออกไปให้หมด
หมอจุฬาคนนั้น วิจารย แทบทุกวันเกี่ยวกับ mrna อันตราย โจมตีหนักมากคะ
ขอบคุณมากค่ะหมอแทนที่ให้ความกระจ่างจริงๆ พร้อมทั้งหลักฐานงานวิจัย
คนๆนั้นวิจารณ์ไม่ถูกเลยครับ ไม่มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้เลยสักนิด ผมไม่ทราบว่าเขาทำไปทำอะไร และเชื่อแบบนั้นทั้งๆที่เป็นอาจารย์ได้อย่างไรครับ
@@DrTany โดนเค้ากระแหนะกระแหนมาแล้วค่ะ เค้าโพสต์หน้าตัวเองเลยว่าเราเป็นเกรียนคีย์บอร์ด ทั้งทั้งที่เราพูดดีและส่งคลิปแนบของคุณหมอแทนไปด้วย
ไม่ต้องไปยุ่งที่เพจเขาหรอกครับ พวกนั้นเขาเชื่อในสิ่งที่เขาอยากจะเชื่อเท่านั้น และคนพวกน้ันก็มายุ่งที่ยูทูปของผมไม่ได้เช่นกันครับ
สวัสดีคะ อยากให้คุณหมอ อธิบาย โรคแสบร้อนในปาก หรือ Burning mouth syndrome
เป็นมาเกือบปีทแล้ว คะ ตอนเป็นใหม่ๆ ทราม มาก แล้ว หาข้อมูลได้น้อยมาก คะ เหมือน ไม่ค่อยมีคนรู้และพูดถึง เท่าไร คะ คุณหมอ
ขอบพระคุณอาจารย์ครับ สำหรับการวิเคราะห์ผลการวิจัยนี้ ช่วยให้เข้าใจในทุก ๆ ประเด็นสำคัญครับ 🙏
มีความสงสัยว่า เหตุใดงานวิจัยที่ไม่น่าเชื่อถือ และสรุปผลไม่สอดคล้องผลวิจัยที่ได้ จึงได้รับการตีพิมพ์และเผยแพร่ครับ
ถ้าคนที่รีวิวงานวิจัยไม่รอบคอบ มันก็จะเป็นแบบนี้ครับ ดังนั้นหน้าที่ตัดสินงานวิจัยจึงเป็นของคนอ่านครับ
ขอบพระคุณครับอาจารย์
ขอบพระคุณคุณหมอที่ไม่เบื่อที่จะอธิบายข้อมูลความจริงให้ประชาชนรู้เกี่ยวกับวัคซีน...ใครที่แปะงานวิจัยแล้วอ้างว่ามีแล้วนี่ไง..ไหนลองอ่านงานวิจัยและวิเคราห์ให้ประชาชนฟังแบบที่คุณหมอธนีย์ทำหน่อยสิ..พวกชอบชิโนแวคขยันแปะงานวิจัยแต่ขี้เกียจอธิบายว่างั้น?
ขอถามอาจารย์หมอเป็นความรู้ค่ะ ว่าการนำเสนอเปเปอร์บนยูทูปแบบนี้จะติดเรื่องลิขสิทธิ์มั้ยคะ ขอบคุณค่ะ
ไม่ติด เพราะมันเปิดสาธารณะ แต่ถ้าแบบต้องเสียเงินแล้วเอามา อันนั้นผิดครับ
สวัสดีค่ะคุณหมอ ตอนนี้ Spikevax เป็น version ล่าสุดของ Moderna ใช่มั้ยคะ และยังควรฉีด Covid vaccine ทุกปีใช่มั้ยคะ ขอบคุณค่ะ
ช่วยตอบนะคะ... ใช่ค่ะ ชื่อทางการค้า คือ Spikevax ผลิตโดยบริษัทโมเดอร์น่าค่ะ... และควรฉีดวัคซีนโควิดทุกปีค่ะ
ควรฉีดทุกปีครับ
❤❤❤❤❤
🙏🤟❤️by hello
สวัสดีครับคุณหมอ ผมสงสัยว่า ทำไมงานวิจัยนี้ถึงได้ตีพิมพ์หรอครับงาน ทั้งๆที่ดูเหมือนว่าจะอ่านผลวิจัยไม่ตรงกับข้อมูลสถิติตามที่ อ.อธิบายมาเลยครับ
เวลาที่คนรีวิวงานวิจัยไม่รอบคอบก็จะเป็นแบบนี้ได้ ดังนั้นคนอ่านจึงมีหน้าที่ตีความและพิจารณาให้ถี่ถ้วน ผมถึงย้ำเสมอๆว่าไม่ใช่มีงานวิจัยแล้วเราจะเชื่อได้ทันที (แต่ก็ดีกว่าการที่เชื่อโดยความคิดส่วนตัวแบบกลุ่มต่อต้านวัคซีนที่เกือบทุกครั้งไม่มีหลักฐานทางการวิจัยใดๆสนับสนุน) และตัวอย่างที่ร้ายแรงกว่านั้นคือ งานวิจัยถูกตีพิมพ์ไปแล้ว สุดท้ายโดนถอนออกครับ
❤
ถามเพื่อเป็นความรู้ค่ะ....ที่หมอแทนบอกว่าถ้าค่าCIคร่อม0ถือว่าผลจะไม่ต่างกัน(อย่างมีนัยยะสำคัญ) อันนี้แม้ว่าค่าCIจะค่อนไปทาง(+)มากว่า(-)เหรอคะ จากงานวิจัยนี้เป็นแบบนั้นเขาก็เลยตีความว่าเป็น(+)มากกว่ารึป่าวคะ (ค่าmeanเป็น(+))
เขาตีความเพื่อประโยชน์ของตัวเขาเองครับตามหลักสถิติจริงๆมันไม่ควรจะผ่านเข้าไปตีพิมพ์ได้ด้วยซ้ำ
ไม่ว่าจะไปทางไหนมากกว่า ถ้ามันคร่อม 0 ก็แปลว่าไม่มีความแตกต่างกันพอให้พูดว่ามันต่างกันได้ในงานวิจัยครับ ดังนั้นกรณีนี้คือ ผิดมากๆเลยล่ะครับ
สวัสดีคะคุณหมอ พอดีดูวิดิโอเรื่อง วัคซีนHPV ขอคุณหมอแล้วคะ มีข้อสอบถามเพิ่มเติมนิดนึงค่ะ พอดีอยู่เนเธอร์แลนด์ อยากทราบว่าวัคซีน HPVที่ตปท. กับที่ไทยเค้าใช้ตัวเดียวกันไหมคะ คนเอเชียสามารถฉีด วัคซีน HPV ที่ยุโรปได้ไหมคะ ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ
ช่วยตอบนะคะ... ตัวเดียวกันค่ะ ประเทศไทยใช้อยู่ 2 ยี่ห้อ คือ Gardasil (กราดาซิล) เป็นวัคซีน 4 สายพันธุ์ และอีกยี่ห้อคือ Cervarix (เซอวาริคซ์) เป็นวัคซีน 2 สายพันธุ์... คนเอเชียฉีดวัคซีน HPV ที่ยุโรปได้ค่ะ...
ถ้าเป็นไปได้ให้เลือก Gardasil-9 ครับ มันครอบคลุม 9 สายพันธุ์ เราสามารถถามคนฉีดได้ครับว่าใช้แบบไหนครับ
ขอบพระคุณทั้งคุณหมอ และคุณพี่Fragranza Trippa ที่มาช่วยตอบและไขความกระจ่าง ขอบพระคุณมากๆค่ะ ปล.วันนี้ไปพบหมอที่นี่มา เค้าบอกว่าไม่ต้องฉีดแล้วค่ะเพราะว่าอายุเกินแล้ว (อายุ33ค่ะ) บวกกับผลตรวจHPV เมื่อ 2 ปีก่อนค่าเป็นลบค่ะ ตอนนี้สับสนเลยค่ะ ว่าควรไปหาฉีดดีไหมคะ
@@Janeykitty34 แนะนำฉีด Gardasil 9 ค่ะ ฉีดได้ในช่วงอายุ 27-45 ปีค่ะ
@@FragranzaTrippa ขอบพระคุณมากๆค่ะพี่🙏🙏🙏
อาจารย์ครับ ต้องคร่อม1รึป่าวครับ
เปล่าครับ คร่อมหนึ่งนั่น ratio ครับ ไม่ใช่ difference แบบกรณีนี้ครับ
คร่อม 1 H0 เป็น test stat A / test stat B = 1 ครับ
@@DrTany อ๋ออ เข้าใจละครับ ขอบคุณมากครับ
Good Morning Monday ka Doctor Tany. May this week be filled with laughter, learning, adventure, and every day bring new opportunities 🌤️🌸🍎
…
Be back to listen and comment.
Happy Mondayyy! 🙃
☘️🌸🍀🌸☘️
คุณหมอครับ ผมนศพ ปี3 ครับ อยากสอบถามว่า ทำไมการฉีดใดๆก็ตามในช่วงที่หายจากหวัดได้ 1-2 สัปดาห์ ถึงทำให้ประสิทธิภาพวัคซีนลดลงหรอครับ เป็นผลจาก IFN type I หรือ T-helper cell หรอครับ รบกวนช่วยอธิบายให้กระจ่างได้ไหมครับ ว่าเกิดจากอะไรครับ
มันไม่เกี่ยวอะไรกับหวัดครับ แต่มันเกี่ยวข้องกับว่าการเจ็บป่วยนั้นจะต้องเกิดจากเชื้อที่เป็นคนละชนิดกับวัคซีน เพราะถ้าเกิดว่ามันเป็นเชื้อเดียวกันแล้วล่ะก็มันจะไม่ค่อยได้ประโยชน์เนื่องจากการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันมันสูงอยู่แล้วตั้งแต่แรก ปกติการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันจะดีที่สุดเมื่อระดับภูมิคุ้มกันในร่างกายมันเริ่มตกลง ไม่ใช่ในขณะที่มันสูงอยู่เต็มที่ครับ
@@DrTany แล้วการที่ฉีดวัคซีนต้องเว้นระยะจากการเป็นไข้หวัด ประมาณ 1 เดือน สาเหตตุเพราะอะไรหรอครับ
จริงๆไม่ต้องเว้นอะไรครับ หายแล้วฉีดได้ทันที แต่เขาแค่ไม่ต้องการให้อาการข้างเคียงจากวัคซีน เช่น ไข้ เพลีย ฯลฯ ไปสับสนกับอาการจากหวัดหรือการติดเชื้อที่พึ่งหายครับ ดังจะเห็นว่าบางทีเป็นหวัดเล็กน้อยอาการไม่มาก เรายังให้ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทั้งๆที่ยังไม่หายหวัดครับ
@@DrTany ขอบคุณมากครับ
คลิปใหม่มาแล้วค่ะ...
หัวข้อวันนี้ เรื่อง... วิเคราะห์งานวิจัยที่ท้าทาย FDA ...วัคซีน mRNA ส่งผลเสียต่อร่างกาย!!?
◾วัคซีน mRNA ผ่านจุดที่เรียกว่า “ทดลอง” มานานแล้ว เพราะวัคซีน mRNA มีการฉีดไปแล้วมากกว่าพันล้านโดสทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน ต้องเรียกว่าเป็นวัคซีนที่มีการศึกษาประสิทธิภาพและความปลอดภัยตามกระบวนการที่เข้มงวด ทั้งก่อนและหลังการขึ้นทะเบียน นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจากการศึกษาทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ที่มีการฉีดวัคซีนครอบคลุมในประชากรที่แตกต่างกัน ผลออกมาชัดเจนว่า ยิ่งอัตราการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นเท่าใด จำนวนผู้ป่วยรวมถึงอัตราการเสียชีวิตในประชากรจะยิ่งลดลง ซึ่งเน้นย้ำให้เราเห็นว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อ ป้องกันการแพร่กระจายโรค และป้องกันการเสียชีวิตในประชากรได้จริง
◾ดิฉันยังนึกถึงเคสชายชาวเยอรมัน วัย 62 ปี ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 มากถึง 217 เข็ม! ภายในระยะเวลา 29 เดือน ขณะที่ผลตรวจร่างกายไม่มีอะไรผิดปกติ และไม่พบผลข้างเคียงใดๆ แถมยังไม่พบปัญหาเรื่องการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอลงเลย... คนที่ฉีดมา 5-6-7 เข็มนี่เด็กๆไปเลยจ้า... แค่นี้ก็เป็นการรับประกันอย่างชัดเจนแล้วค่ะ
เคสชายเยอรมันนั่น เอามาใช้อ้างอิงอะไรไม่ได้หรอกครับเพราะมันมีเคสเดียว ส่วนเปเปอร์ที่ตีพิมพ์เรื่องผู้ชายคนนี้ก็เป็นได้แค่เคส Report ครับ
@@armnakornthab6867 มันก็จริงค่ะอจ. แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้เป็นอะไรเลย ยังปกติดีค่ะ ฉีดวัคซีนเยอะ กับ ติดโควิดบ่อย ขอเลือกอย่างแรกค่ะ😁
มันก็เหมือนที่คนต่อต้านวัคซีนอ้างเคสไม่กี่เคสนั่นแหละครับ แต่อันนี้มีหลักฐานบันทึกไว้ดีพอควร ต่างจากกรณีของคนพวกนั้นที่ไปเอาหลักฐานที่ตัวเองทำเอง มาพูดครับ และเรื่องนี้เราเอามาพูดก็ได้ ไหนๆใช้วิธีนี้มา เราก็ใช้กลับ แต่ของเรามีหลักฐานชัดกว่าเยอะครับ
สวัสดีครับ ต้องเป็น 95%CI ที่ต้องคร่อม 1 หรือเปล่าครับ ผลถึงจะไม่ sig แต่ในเปเปอร์ก็คร่อม 1 คือไม่ sig ตามที่บอกอยู่เเล้วครับ
ไม่ sig คร่อม 0 จาก H0: test stat กลุ่ม A - test stat กลุ่ม B = 0 ครับ
ถ้าคร่อม 1 นั่นต้องเป็นกรณี Ratio ครับ ไม่ใช่ difference เหมือนในกรณีนี้ครับ
@@DrTany ขอบคุณมากครับ
@@armnakornthab6867 ขอบคุณครับ
ขอนอกเรื่องหน่อยครับคุณหมอ อยากรู้ว่าสิ่งที่ตรงข้ามกับสมาธิสั้นมีรึเปล่าครับ มันแปลว่าใจเย็นหรือสมาธิยาวรึเปล่า ผมไม่ได้มากวนเลยครับ มันสงสัยจริงๆ ค้นหาก็ไม่เจอ มันคือ opposite of adhd รึเปล่า ผู้ที่จดจ่อจนไม่ได้ยินเสียงรอบข้าง ประมาณนี้ครับ สาระเลย
มีครับ แต่ก็ตอบแค่นี้พอ ถ้าต้องการรู้ก็ลองค้นเพิ่มดูด้วยตัวเองครับ
ออทิสติกไงครับ ถ้ามีสมาธิจะจดจ่อกับสิ่งที่ตนสนใจได้แบบไม่หยุดเลย
🙏🙏🙏❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️
งานวิจัยมีโอกาสโดนอำนาจเงินไหมครับ
ไม่มีค่ะ
ถ้ามีเงินจ่ายให้หมอทั้งโลกที่อ่านงานวิจัยเป็นก็เป็นไปได้ครับ เพราะคนที่ไม่ได้คงซัดงานวิจัยร่วงแน่ๆ
ถ้าห่วยๆมีครับ ออกข่าวก็มีนิ ที่ซื้อชื่อในงานวิจัยไป
มีครับ ต้องไปอ่านว่าสปอนเซอร์งานวิจัยเป็นใครครับ อย่างยาหลายตัว สปอนเซอร์คือบริษัทเจ้าของยาครับ แต่ทั้งนี้ที่เคยอ่าน ก็จะมีส่วนนึงที่ ผลลัพธ์งานวิจัยที่ออกมาจะไม่ได้ดีจนเห็นได้ชัดขนาดนั้น (ไม่งั้นคงเตะตาเกินไป)
ขึ้นกับงานครับ ดังนั้นเป็นหน้าที่ของคนอ่านที่ต้องดูให้ออก อ่านให้เป็น อย่าให้พวกความคิดผิดปกติมาอ้างวิจัยหลอกเราได้ครับ
bias สูงมากตั้งแต่บทนำ แถจนได้ตีพิมพ์
แต่ ศ white clot ก็ยังเอามาใช้อ้างอิงครับ ไม่รู้ไม่ได้อ่าน อ่านไม่เป็น หรือจงใจอ้างเหมือนกันครับ
Solar Eclipse today beginning around 2pm EDT. Are you watching it???
🕶️ + 🌞 = 😎
Maybe not as I’ll be seeing patients
งานวิจัยที่พิมพ์ไปแล้วมีการถอดออกไหมคะ
มีได้ครับ
ทำไม จากการที่คุยกันหลาย ๆคนบอกว่าร่างกายไม่เหมือนเดิม
เพราะไปคุยกับคนที่มีอคติและโทษวัคซีน ถ้าลองมาคุยกับคนที่ รพ ผมที่ฉีดกันทุกคน และครอบครัวผมที่ฉีด ก็จะบอกว่าไม่มีปัญหาอะไร
ฝุ่น pm 2.5 ทำให้เกิดโรคหัวใจ หลอดเลือดสมอง มะเร็ง อัลไซเมอร์ ได้เพิ่มขึ้นนะรู้ยัง แต่พวกงั่งก็จะมาบอกว่าเป็นเพราะวัคซวยอยู่ดี
มาคุยกับผมด้วยสิ ผมก็ไม่เป็นอะไรนะ
@@armnakornthab6867ชอบตรงพวกงั่งนี่ล่ะค่ะ อธิบายมาตั้งแต่เริ่มมีวัคซีนใหม่ๆ และพวกติ่งซิโนแวคมายี้ mRNA อธิบายเรื่อง basic molecular biology ก็แล้ว ยกเปเปอร์มาก็แล้ว พวกนี้ก็ยังจะแถไปได้เรื่อยๆ ตีปิ๊บดังเสียด้วย เอาจนตั้งแต่ชาวบ้านจนถึงหมอหลายคนในไทย ก็กลัวหัวหดไปกับเค้าด้วย
ถึงขั้นมีคอมเม้นท์เอา cds มาล้างพิษ คิดได้ไง หมอ white clot กับพันธมิตรที่อ้างวิทยาศาสตร์ก็ไม่เคยห้ามปราม
เคยไปไฟท์กับหมอ white clot ตอนแกเอาpreprint มาตีปิ๊บเรื่อง myocarditis ด้วยค่ะ จนตอนนี้พูดจนเลิกพูดแล้วเหนื่อยมากค่ะ การศึกษาไม่ช่วยอะไรจริงๆ
ดีที่ยังมีช่องยูทูปของคุณหมอ คอย debunk ข้อมูลผิดๆ เพี้ยนๆ
มีคลิปเรื่องวัคซีนของคุณหมอออกมาทีไร ก็ได้โอกาสแชร์ทุกที
มันขึ้นอยู่กับว่า คุยกับใคร? ถ้าคุณมาคุยกับดิฉันและคนในชุมชนของดิฉันหลายสิบคน ดิฉันและพวกเขาก็จะบอกว่า ฉีดแล้วร่างกายปกติดี ไม่มีใครเป็นอะไรเลย แถมมีภูมิคุ้มกันด้วย แข็งแรงดีค่ะ... ทุกวันนี้ดิฉันขอบคุณวัคซีนนะ ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนเชื้อตาย เชื้อเป็น หรือ mRNA เพราะทุกวัคซีนช่วยโลกของเราเอาไว้ค่ะ... โดยเฉพาะวัคซีน mRNA ที่ถือว่า มีประสิทธิภาพสูงสุด
มันคือการเอาค่าที่ไม่มีนัยสำคัญมาตั้งแต่แรก มาหาเรื่องเอามารวมกัน เพื่อให้เกิดตัวเลขที่น่าสนใจ มันก็คือการจงใจให้งานวิจัยที่ไม่ควรจะมีอะไรที่น่าสนใจ ให้กลายมาเป็นมีความน่าสนใจตามที่ใจของผู้วิจัยต้องการ แบบนี้ชัดเจนว่าทำงานวิจัยแบบมีธงที่อยากจะได้ตั้งแต่แรก เลยหาเรื่องให้มันได้คำตอบแบบนี้ออกมา การทำงานวิจัยแบบไม่มีความเป็นกลางแบบนี้ ถือเป็นงานวิจัยที่แย่มากๆ อันที่จริงคนที่เรียนสายงานทางนี้ ควรจะมีความเข้าใจเรื่องนี้หมดแล้วว่าอะไรถูกต้องอะไรไม่ถูกต้อง แต่ยังอุตส่าห์ทำงานวิจัยแบบที่ตรงข้ามกับสิ่งที่ตัวเองเรียนมาหมดเลย เพียงเพื่อให้ได้ผลตามใจที่ตนเองอยากจะให้เป็น นี่เป็นงานวิจัยที่ชุ่ยจริงๆ ครับ แย่มาก . . .
หมอคนที่ข้อมูลอันนี้ไปอ้างอิงยิ่งแย่กว่าครับ คงใช้ประโยชน์จากการที่คนทั่วไปอ่านวิจัยไม่เป็นนั่นแหละครับ
@@DrTany หมอ white clot เจ้าเก่าสินะครับ ไม่เข้าใจจริงๆว่า จุดประสงค์ของแกคืออะไรกันแน่ เป็นแค่พวก "เสียคนตอนแก่" หรือว่ามีผลประโยชน์อะไรแอบแฝงอยู่เบื้องหลัง
สวัสดีค่ะอาจารย์หมอ วิเคราะห์งานวิจัยที่ท้าทาย FDA วัคซีนmRNAส่งผลเสียต่อร่างกายเวลาจะบอกว่าอะไรเป็นแบบไหนเราต้องมีหลักฐานให้ชัดเจนทางด้านวิชาการเป็นสิ่งที่ดีหากได้นำงานวิจัยมาถกเถียงกันที่สำคัญต้องอ่านงานวิจัยให้เป็น อ่านให้เข้าใจแล้ววิเคราะห์ ให้ได้ไม่ใช่เอางานวิจัยที่มีชื่อมาแปะไว้เฉยๆ หรือเอาเฉพาะงานวิจัยที่ถูกใจตัวเองสนับสนุนความคิดของตัวเองนำเสนอแต่ด้านเดียวโดยไม่เอางานวิจัยอื่นๆมา ด้วย ซึ่งวันนี้อาจารย์หมอก็ได้มาอ่านวิจัยให้ฟังด้วย งานวิจัยอันแรกมีข้อจำกัดมากมายทำออกมาก็ไม่เจอความแตกต่างแต่เขียนว่าเจอความแตกต่างซึ่งอาจารย์หมอมองว่าไม่สมควรทำ ส่วนของCochrane Review ข้อมูลมากกว่าแต่ก็ไม่พบว่ามีปัญหาอะไรก็ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่เอาตัวนี้มาอ่านวิเคราะห์ให้ฟัง ดิฉันขอขอบพระคุณอาจารย์หมอเป็นอย่างสูงค่ะที่มาอ่านงานวิจัยให้ฟังก็ได้เรียนรู้ไปในตัวดิฉันจะพยามยามทำความเข้าใจค่ะ และสุดท้ายดิฉันได้ไปดูหลานม่าแล้วคือแค่เริ่มต้นน้ำตาไม่รู้มาจากไหนค่ะ
ส่วนตัวฉีดซีโนแวคก็ไม่มีผลเสียกับร่างกายครับ
แต่หลายคนฉีด mRNA จากไม่เคยป่วยก็ป่วยบ่อยๆ
หลายคนที่ว่าถ้ามาถามผมและคนที่โรงพยาบาลทุกคนรวมทั้งเพื่อนร่วมงานกับครอบครัวของผมที่ฉีดวัคซีน mRNA ก็ไม่เห็นจะมีใครป่วยอะไรเลยนะครับ อันนี้แสดงว่าไปสอบถามคนที่เค้ามีอคติหรือไม่ฉะนั้นก็มีโรคอะไรซักอย่างซ่อนอยู่ในร่างกายอยู่แล้ว ทีนี้พอฉีดวัคซีนเลยไปโทษที่วัคซีนนั่นแหละครับ
ซีโนแวค ก็มีข่าวฉีดแล้วตาย ฉีดแล้วเดี้ยง ไม่เคยได้ยินเหรอครับ แถมสุดท้ายกันไม่ได้แีก ขนาดจีนยังใช้ mRNA แล้วตอนนี้
@@DrTany งั้นก็คงแล้วแต่ร่างกาย ส่วนตัวฉีดวัคซีนที่ทางรัฐจัดให้ และรวดเร็ว ดีที่สุดครับ และ ผลลัพท์ก็คือปัจจุบัน โรคนี้ไม่ได้เป็นสิ่งที่น่าตื่นตระหนกอะไร มากฐบาลในตอนนั้นที่จัดหาวัคซีน และทำหน้าที่ดได้ดี แน่นอนรวมทั้งคุณหมอ และพยายามบาลและเจ้ากน้าที่ทุกคนด้วย
ตอนนั้นมีวัคซีนอะไรก็ต้องฉีดครับ รวมทั้งวัคซีนเชื้อตายด้วย แต่เรารู้ว่ามันสู้วัคซีนอื่นๆไม่ได้ตอนนั้นเลยมีดราม่าอยากได้วัคซีนอื่นๆเข้ามาไงครับ แต่พอมีวัคซีนอื่นๆเข้ามาก็มีดราม่าคนต่อต้านวัคซีนกันอีก ซึ่งยังคงพูดเรื่องนี้อยู่จนตอนนี้ ... จริงๆปัญหามันอยู่ที่ คนที่ไม่เห็นด้วยกับวัคซีน ไม่เคยได้เอาหลักฐานทางการแพทย์และงานวิจัยที่หนักแน่นพอมาเป็นหลักฐานยืนยัน และส่วนมากจะพูดขึ้นมาลอยๆ หรือใช้ประสบการณ์ส่วนตัวซึ่งมันจะมีอคติได้แน่ๆอยู่แล้ว หรือไม่งั้นก็จะอ้างว่าวิจัยมีผลประโยชน์แอบแฝงถึงเชื่อไม่ได้ ดังนั้นพอเป็นแบบนี้ผมก็เลิกยุ่งครับ เพราะไม่ว่าจะอธิบายอะไรคนเหล่านี้ก็หาข้อแก้ตัวไปได้เรื่อยๆ ไม่จบสักที เสียเวลาที่จะไปเสวนาด้วยครับ
@@atichartintra7842 มันก็ถูกส่วนหนึ่งค่ะที่ว่า ตอนนั้นรัฐบาลรีบนำวัคซีน Sinovac ที่เราสามารถซื้อได้จากจีนมาฉีดให้อย่างรวดเร็ว เพราะเราไม่มีวัคซีนอื่น วัคซีนอะไรหาได้ก่อนก็ควรฉีดไปก่อนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่... จริงๆแล้ววัคซีนโควิดทั้งชนิดเชื้อตายและ วัคซีน mRNA เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด แต่วัคซีนเชื้อตายเขาใช้วิธีการแบบดั้งเดิมโดยการนำอนุภาคไวรัสเชื้อตายมาใช้เพื่อกระตุ้นการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน แต่วัคซีน mRNA ก็มีข้อดีที่แตกต่างกันออกไปค่ะ วัคซีน mRNA ไม่มีอนุภาคไวรัสที่มีชีวิต ทำให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ เทคโนโลยี mRNA ยังช่วยให้การพัฒนาวัคซีนเร็วขึ้นและมีศักยภาพในการปรับตัวให้เข้ากับสายพันธุ์ใหม่ได้ง่ายขึ้น ทั้งสองวัคซีนมีจุดแข็งของตัวเอง แต่เราก็ต้องดูเรื่องประสิทธิภาพของวัคซีนเมื่อมีการกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์อื่นด้วย... ซิโนแวคคือวัคซีนที่ใส่ไวรัส "สายพันธุ์อู่ฮั่น" เข้าไป แต่ช่วงหลังไวรัสมีการกลายพันธุ์ไปมากมาย หมายความว่า ซิโนแวคไม่มีประสิทธิภาพแล้วค่ะ แม้กระทั่งประเทศจีนก็ทราบปัญหานี้ค่ะ เขาเลยผลิตวัคซีน mRNA ออกมาเช่นกันค่ะ