ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
วิตกกังวล ไม่สบายใจ คิดวนไปมา -- ลองวิธีนี้สวัสดีครับผมเชื่อว่าทุกคนที่เกิดมานะครับก็คงจะมีช่วงเวลาสักช่วงของชีวิตที่มีความวิตกกังวล คิดมาก คิดในแง่ลบ แล้วความคิดเหล่านี้มันก็วนเวียนอยู่ในสมองของเราทั้งๆที่เรารู้ว่าคิดไปมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรแต่เราก็หยุดความคิดนั้นไม่ได้แล้วก็ทำให้เราไม่มีความสุขไม่สามารถที่จะทำอะไรต่อไปได้การทำงานก็ด้อยประสิทธิภาพลง วันนี้ผมก็เป็นหนึ่งในคนที่เคยมีปัญหาเหล่านี้วนเวียนอยู่ในสมองนะครับ ผมจะลองเอาวิธีส่วนตัวของผมเนี่ยมาแบ่งปันให้เพื่อนๆฟังกันดูว่ามันเป็นอย่างไรแล้วบางทีอาจจะช่วยกู้สถานการณ์ที่ท่านกำลังประสบอยู่ในขณะนี้ก็เป็นได้นะครับ ลองฟังดูแล้วกันนะครับพบกับผมนะครับ นายแพทย์ธนีย์ ธนียวันนะครับ เป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เชี่ยวชาญโรคปอด การปลูกถ่ายปอด และวิกฤตบำบัดนะครับ
1️⃣ก่อนอื่นเลยนะครับถ้าเกิดคนไหนที่เคยฟังคลิปเรื่องของความคิดลบมาจากไหนของผมเนี่ยคงจะพอได้ไอเดียนะครับว่าคนวามคิดแบบนี้เนี่ยที่ทำให้เราเกิดคิดลบเนี่ยนะครับมันจริงๆแล้วไม่ได้มาจากตัวเราเองนะครับ ส่วนใหญ่แล้วมันมาจากเสียงที่อยู่ข้างนอกนะครับเสียงในหัวของเราเนี่ยวันนึงมันเคยเป็นเสียงข้างนอกมาก่อน เคยเป็นเสียงก่นด่า เสียงดูถูก เสียงต่างๆที่เราได้ยินมา แต่นอกเหนือจากนั้นบางครั้งมันกลับกลายเป็นเสียงเตือนนะครับบางคนอาจจะบอกว่า “ออกจากบ้านระวังนะเดี๋ยวโดนรถชน ไปต่างจังหวัดเดี๋ยวเกิดน้ำมันหมดกลางทางจะทำอย่างไร ไปสัมมนาต้องเตรียมตัวให้พร้อมนะไม่อย่างนั้นเดี๋ยวพูดแล้วไม่มีคนเขาสนใจ หรือเราไปพูดหน้าชั้น ออกไปพูดหน้าห้องประชุมคนอื่นเขาจะฟังเราหรือเปล่าคนอื่นเขาจะว่าเราไหมคนอื่นเขาจะทำให้เรารู้สึกขายหน้าหรือเปล่า“ นะครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นคำเตือนแต่ปัญหาคือเขาไม่ได้บอกทางแก้มาให้ แล้วพอไม่บอกทางแก้มาให้แล้วเราได้ยินแบบเนี้ยซ้ำแล้วซ้ำอีกซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่ว่าจะเป็นจากคนใกล้ตัว จากคุณพ่อคุณแม่ จากเจ้านาย จากพี่น้องหรือจากคนที่เขาหวังดีกับเรานะครับมันก็รับสิ่งเหล่านี้เข้ามาอยู่ในหัว พอผ่านไปสักพักหนึ่งถ้าเกิดคนไหนจัดการกับสิ่งเหล่านี้ไม่เป็นแล้วล่ะก็ มันจะกลายมาเป็นคนที่วิตกกังวลไปทุกสถานการณ์เลยไม่ว่าจะทำอะไรก็แล้วแต่นะครับ เช่นบางทีจะไปเที่ยวต่างประเทศ ”พาสปอร์ตเราพร้อมหรือยัง กระเป๋าเราจัดมีของครบทุกชิ้นหรือเปล่าที่เราต้องการเอาไป“ แล้วเช็คทุกเวลานะครับพอจะออกจากบ้านก็เช็คสักทีนึงอีกรอบนึง ไปถึงสนามบินเช็คแล้วลืมโน่นลืมนี่หรือเปล่า แต่บางครั้งเนี่ยนะครับการทำแบบนี้ไปเรื่อยๆเนี่ยมันกลายเป็นคนวิตกจริตนะครับ แล้วที่สำคัญก็คือบางครั้งมันไม่ได้ทำให้ท่านไม่ลืมของเรานั้นแล้วผลลัพธ์ของการกระทำที่ท่านต้องการมันไม่เป็นอย่างที่เราต้องการสิครับมันออกมาแล้วมันไม่ใช่แล้วนะครับ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งซึ่งเกิดขึ้นในทุกๆคนแน่นอนนะครับผมว่าสักช่วงหนึ่งแหละ
2️⃣แล้วอย่างที่บอกมันเกิดจากการรับข่าวสาร รับเสียงทุกอย่างจากข้างนอกเข้ามาในตัวเราจนกระทั่งสุดท้ายมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของเราเองนะครับ แต่ถ้าเราลองแยกย่อยดูดีๆเราจะพอเข้าใจว่าความคิดเหล่านั้นเนี่ยมันมีที่มาอย่างไร มันมาจากไหนนะครับ ถ้าเราสามารถหาที่มาต้นตอของมันได้หรือเสียงนั้นที่มันโผล่ขึ้นอยู่ในหัวใครมันเป็นคนพูดให้เราฟังเป็นคนแรกๆ หรือสมมติเวลาเราไปเที่ยวต่างจังหวัดนะครับบางคนอาจจะมีเข้ามาแว้บในหัวเลยบอกว่าว่า โอ้…จะไปต่างจังหวัดนะเราเห็นภาพแม่เราลอยมาเลยแม่ต้องบอกว่า “เตรียมเสื้อให้พร้อมนะ เอาโน่นเอานี่ไปให้พร้อม หยูกยาเอาไปให้เรียบร้อย ไปต่างจังหวัดก็ต้องมีเบอร์โทรติดต่อ มีถ่านสำรอง รู้ไหมว่าไปที่ไหนยังไง“ หน้าแม่เราลอยมาเลย มันแปลว่าความคิดเหล่านั้นที่เราวิตกกังวลในสิ่งต่างๆเหล่านั้นบางทีอาจจะมาจากแม่เราก็ได้นะครับ นั่นก็เป็นเหตุผลอย่างหนึ่งนอกเหนือจากนี้ท่านลองสังเกตสิครับว่าหลายๆครั้งในเวลาที่เราเสพสื่อต่างๆเรามักจะเสพสื่อในแง่ลบซะมากกว่า เช่นเราอ่านหนังสือพิมพ์เออเดี๋ยวนี้ไม่อ่านหนังสือพิมพ์ เราฟังข่าวนะครับ ข่าวฆ่ากัน ข่าวข่มขืน ข่าวยิงกันนะครับ ไม่ค่อยได้ฟังข่าวอะไรที่มันดูดีๆเลยนะครับ เราจะมีแต่ข่าวอะไรที่เป็นในแง่ลบ แล้วเหตุผลก็คือคนเราเนี่ยชอบฟังของแง่ลบข่าวก็เลยทำออกมาในแง่ลบแล้วเราก็ยังไปฟัง แล้วมันก็วนอย่างงี้อยู่เรื่อยๆนะครับเขาก็ได้กำไรในการทำข่าวให้เราฟังแล้วเราก็ชอบฟังซะด้วยเรื่องชาวบ้านที่เขาตบตีแย่งชิงกันนะครับหรือว่าไปตีรันฟันแทงกัน ตำรวจมีปัญหากับคนนู้นคนนี้เราชอบฟังของลบๆ มันก็เลยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสมองเราไปเลยนะครับหรือ อย่างเวลาดูหนัง หนังที่เป็นในแง่บวกในแง่ดีเนี่ยหลายๆทีเราก็ไม่ได้ดู บางคนไปดูหนังขอดูหนังเศร้าๆเลย ขอดูหนังที่มีแอคชั่นมีการยิงมีสัตว์ประหลาดออกมานะครับมีความรุนแรงอยู่ในหนังเหล่านั้น ทุกๆอย่างมันออกไปทางแง่ลบหมดเลยนะครับ ทีนี้พวกนี้แหละครับการที่เราชอบสื่อที่มันสื่อออกไปในทางแง่ลบเนี่ยมันก็กลายมาเป็นความคิดของเราส่วนนึงแล้วนะครับ แล้วพอผ่านไปสักพักนึงเนี่ยมันจะหล่อหลอมทำให้เราเนี่ยมีสิ่งไม่ดีเหล่านั้นอยู่ในหัวแล้วมันก็จะคิดวนไปวนมาวนไปวนมานะครับ
3️⃣ทีนี้เล่ามานานแล้ว เราพอรู้ที่มาของสิ่งเหล่านี้แล้ว ประการแรกเราต้องคิดให้ได้ก่อนว่าที่มาของสิ่งเหล่านั้นน่ะมันคืออะไรนะครับ นี่เป็นวิธีในการแก้ปัญหาระยะยาวบางทีเราตื่นรู้ขึ้นมาทันทีว่า อ๋อ….จริงๆที่เราคิดแบบนั้นที่เราวิตกกังวลที่เราเป็นแบบนี้มันไม่ได้เป็นเพราะว่าตัวเราเองหรอกมันเป็นเพราะว่าข้างนอกเนี่ยส่งมาให้เราทั้งนั้นเลยนะครับ แต่มันก็มีวิธีอื่นที่ทำควบคู่กันไปได้นะที่ผมจะบอกในวันนี้✅อันแรกที่มันใช้ได้ดีมากๆเลยก็คือการเขียนสิ่งที่วิตกกังวลตอนนั้นน่ะออกมาเลย ถามว่ามันดียังไง? ➡️ท่านลองสิครับเวลาท่านวิตกกังวลอะไรสักอย่างนึงเนี่ยถ้ารู้ตัวว่าคิดไปมันก็ไม่ได้ประโยชน์แต่มันก็คิดนะครับ แล้วพอคิดไปถ้าเกิดคนไหนเนี่ยสมองมันไม่สามารถสร้างภาพได้แบบอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ที่คิดวิเคราะห์ทดลองในสมองได้เนี่ยมันก็จะตันอยู่ที่นึงนะ แล้วพอตันเสร็จปุ๊บแล้วก็ลืมแล้วก็วนลูปใหม่ แล้วก็คิดไปถึงที่เดิมก็ลืมก็วนกลับมาลูปใหม่ วนๆๆอยู่ในหัวแล้วมันไม่หายไปไหนสักที วิธีแก้คือการเขียนมันออกมา เขียนทุกอย่างที่เรากังวลนะครับออกมาบรรยายเป็นคำพูดมันจะทำให้เราเห็น 1 2 3 4 อะไรพวกนี้ขั้นตอนการคิดมันเป็นอย่างไร สิ่งที่เรากังวลจริงๆคืออะไรกันแน่นะครับ วิเคราะห์ว่าตกลงเรากังวลอะไรกันแน่ และสมมติสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตนี้ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่กังวลอยู่เนี่ยมันคืออะไร เขียนออกมาเลย เช่นสมมติว่าเราต้องไปพูดหน้าชั้นเรียนนะครับหรือพูดหน้าหอประชุมสักอย่างนึงสักทีนึงแล้วเรากังวลกับมัน แต่เรากังวลอะไรล่ะ!? เราเขียนออกมาเลยครับ ”เรากังวลว่าเราจะพูดผิด เรากังวลว่าคนเขาจะไม่ฟังเรา คนเขาจะนอนหลับ คนเขาจะเบื่อเรา คนเขาจะถามคำถามที่เราตอบไม่ได้ คนเขาจะไม่เข้าฟังเรา“ อะไรอย่างนี้นะครับแล้วก็เขียนๆไปเลย แล้วเราลองดูสิว่าสถานการณ์ที่แย่ที่สุดที่มันเป็นไปได้คืออะไร เช่น เราไปพูด เราจำบทพูดไม่ได้เลย เราพูดไปแล้วไม่มีใครสนใจ เราพูดไปแล้วเขาถามคำถามที่เราตอบอะไรไม่ได้นะครับ นั่นคือสถานการณ์ที่แย่ที่สุดมันเป็นเช่นนั้น แล้วถามว่าเราต้องกลัวมันหรอ!? แล้วเราต้องทำยังไงต่อนะครับ เราทำยังไงที่จะแก้ไขสถานการณ์นั้นได้ เขียนวิธีแก้ออกมา เช่นว่า เราเตรียมตัวแล้วถ้าเราเป็นคนฟังเราอยากจะฟังอะไรที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเรื่องนั้นนะครับ คำถามที่เราจะถาม เราอยากจะถามอะไรถ้าเป็นตัวเราเราอยากจะรู้เรื่องอะไรนะครับ เขียนออกมาเป็นลิสต์แบบนี้เลย การที่เราทำวิธีแก้ปัญหาของเราที่เราคิดว่าเป็นปัญหาที่หนักที่สุดที่จะเกิดจากสถานการณ์นั้นได้แล้วก็เขียนวิเคราะห์ออกมาเนี่ยมันทำให้เราถ่ายเทความคิดลบจากหัวออกมาในกระดาษแล้วเปลี่ยนให้มันเป็นความคิดบวกที่จะสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้นะครับ มันต้องทำแบบนี้ แล้วทีนี้พอเราทำแบบนี้แล้วเนี่ยโอเคมันแก้ได้เปลาะหนึ่งล่ะ แต่มันไม่เสมอไปเพราะว่าบางครั้งเดี๋ยวพอเราเดินผ่านจากกระดาษไปเดี๋ยวก็คิดขึ้นมาใหม่ ถ้าคิดใหม่เนี่ยให้เราย้อนกลับไปดูในกระดาษใบเมื่อกี้นะครับซ้ำไปซ้ำมามันก็จะช่วยเราได้เยอะ
4️⃣✅หรือวิธีอื่นๆที่ผมเคยเล่าไปในคลิปเรื่องของความคิดลบเนี่ยนะครับคือการสร้างกิจวัตรประจำวันของเราออกมาตัดความคิดเหล่านี้เลยคือถ้าเกิดว่าคนเราที่มันต้องทำอะไรอยู่ตลอดเวลาเป๊ะๆเหมือนมีตารางสอนนะครับ ตารางสอนในตอนสมัยที่เราเรียนมันเป็นยังไงครับ? ตอนเช้าเราอาจจะคิดเรื่องอะไรสักอย่างอยู่แล้วพอเข้าเรียนคาบหนึ่งเราก็ต้องไปจดจ่อกับสิ่งที่อยู่ในคาบเรียนนั้นใช่ไหมครับพอเปลี่ยนคาบ อ่ะเราเปลี่ยนสิ่งที่สนใจ ในระหว่างนั้นถ้าครูเขามาจี้อยู่ข้างหน้าเราตลอดเวลาหรือมีอะไรให้เราทำอยู่ตลอดเวลาเราจะไม่มีเวลาที่เราไปคิดในสิ่งที่เรากังวลอยู่หรอกครับมันก็จะกังวลอยู่กับสิ่งที่เราเห็น สมาธิ สติที่จดจ่ออยู่กับปัจจุบันในสิ่งที่เรากำลังทำ ดังนั้นถ้าเราสามารถจัดตารางสอนให้ตัวเองได้นะครับโดยใส่สิ่งต่างๆเข้าไปในนั้นมันก็จะช่วยตัดความคิดลบตัวนี้ไม่ให้มีช่องที่จะเข้ามาอยู่ในหัวเราได้นะครับ ความคิดเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องประหลาดนะครับทั้งความคิดดี ความคิดลบ ความคิดวิตกกังวลอะไรก็แล้วแต่มันเกิดขึ้นของมันเอง เราเนี่ยไปทำให้มันหายไป ทำให้มันไม่คิดไม่ได้ เรายังไม่ใช้พระอรหันต์นะครับ แต่สิ่งที่เราทำได้คือมันออกมาแล้วเราหยุดมันได้ เราตัดวงจรไม่ให้มันวนๆได้อย่างวิธีเมื่อกี้ที่เล่าไปนะครับ ทีนี้โอเคถ้ามันยังโผล่ขึ้นมาล่ะ เวลามันโผล่ขึ้นมาผมปกติผมทำยังไง?➡️ถ้าคนที่ฟังคลิปผมเรื่อยๆจะรู้ว่าเวลาที่ผมมีเรื่องอะไรสักอย่างที่ไม่สบายใจมากๆสิ่งที่ผมทำคือการไปออกกำลังกายเพราะว่าเวลาที่เราเหนื่อยจนเต็มที่มันจะคิดอะไรไม่ออกเลยมันจะคิดอยู่อย่างเดียวคือทำยังไงให้หายใจให้ทัน เช่นสมมติผมวิ่งเร็วๆอย่างนี้นะครับ วิ่งเร็วแล้วมันหอบเหนื่อยมากๆมันคิดอย่างอื่นไม่ออกครับ มันคิดแต่จะทำยังไงให้หายใจให้ทันแล้ววิ่งไปเรื่อยๆได้นะครับ มันจะฝืนตัวเองให้ผมต้องวิ่งต่อให้ได้ ถ้ามันยังคิดอยู่ก็จะวิ่งต่อนะครับ คืออันเนี่ยมันก็สามารถทำได้ถ้าท่านเป็นนักกีฬาหรือว่าเป็นคนที่ออกกำลังกายประจำ แต่สำหรับคนที่ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อนจริงๆวิธีนี้ผมก็แนะนำเหมือนกันนะครับเพราะว่ามันทำให้ร่างกายของท่านแข็งแรงขึ้นด้วย ได้สุขภาพแล้วก็ลดความคิดลบไปในตัวนะครับ
5️⃣นอกเหนือจากนี้ ความคิดเหล่านี้เนี่ยถ้าเราทำทุกวิถีทางและมันยังกังวลอยู่นะครับเราต้องลองแบบนี้ 2-3 อย่าง✅อย่างแรกนะครับคือเรากังวลกับสถานการณ์วิตกกังวลอะไรสักอย่าง ผมลองเอาเป็นเรื่องที่มันคอขาดบาดตายมากกว่านั้นดีกว่าคือการไปพูดหน้าชั้นเรียนเนี่ยถ้าเราพูดแล้วเพื่อนหัวเราะเนี่ยมันก็แค่อาย มันก็แค่เสียความมั่นใจนะครับ ลองเป็นเรื่องที่มันยากกว่านั้นดีกว่าสมมติว่าเรามีญาติอยู่คนนึงเป็นคนที่เรารักมากแล้วเขากำลังจะตายนะครับ เขาป่วยหนักมากอยู่ที่โรงพยาบาล แล้วเราก็กังวลมากว่าเขาจะรอดไหม เราจะทำยังไงดี มีวิธีรักษาอะไรไหม มีเทคโนโลยีอะไรใหม่ๆไหม เราต้องทำยังไงให้เขารอด เขาจะรอดหรือเปล่า อ้าว…เมื่อกี้พูดซ้ำแล้วนี่! ใช่มั้ย วนแล้ว สมองคุณก็จะเป็นแบบนี้ครับ เขาจะรอดหรือเปล่า ต้องทำยังไงดี เอ๊ะ…พรุ่งนี้เขาจะไปไหม จะไปกี่โมง แล้วมีอะไรต้องทำต่อไหม ต้องหาหมอหรือเปล่า เขาจะรอดไหมเนี่ย เนี่ยมันจะวนอย่างเงี้ยครับ แล้วมันไม่ออกไปไหนเลยนะครับ ให้เราเขียนออกมา เขียนออกมาว่าเรากลัวอะไรมากที่สุด แล้วสุดท้ายพอเรารู้ว่า โอเค…คนๆนี้เขาอาจจะไม่รอดนะครับอาจจะ แต่ว่าสิ่งที่เราทำได้คือทำเต็มที่ ทำเต็มที่นะครับ แล้วก็ลองดูว่าสิ่งอะไรที่เราทำได้ หาข้อมูล หาข้อมูลจากคุณหมอถามให้ละเอียดไปค้นข้อมูลโรคโรคนั้นลองดูซิว่ามีอะไรที่เราพอทำได้บ้าง เราทำตามนั้นนะครับ และเมื่อเราทำเต็มที่แล้วผลสุดท้ายที่มันจะออกมายังไงมันไม่ใช่สิ่งที่เราควบคุมได้
เป็นคุณหมอคนเดียวที่ไม่ขายของ ไม่ขายคอร์สเหมือนหมอบางคน ขอบคุณคุณหมอมากๆครับ
ขายของไม่ผิดครับ แต่ที่ผิดคือการให้ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนเพื่อประโยชน์ในการขายสินค้าหรือคอร์สของตน บางคนเจตนาทั้งๆที่รู้ว่าการปกปิดข้อมูลบางส่วนนั้นผิด หมอประเภทนี้แย่มากครับ
ติดตามมา1ปีกว่าละ
มีหมอวีรพันธ์อีกคนค่ะไม่ขายคอสให้คำแนะนำจากใจจริงคุณหมอเเนะนำธรรมมะด้วยค่ะให้คนไข้รักษาด้วยทางโรคและทางธรรม😊
จะขายก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรนี่ครับ
@@PibulpatKrai-nq6srอารมณ์แบบจะหนีร้อนไปพึ่งเย็น แต่ไปเจออุ่นแทน กำลังทุกข์ อยากได้แนวทาง แต่ไปไม่สุด ต้องไปเรียนในคอร์สถึงจะได้แนวทางที่แท้จริง 😅
“ เป็นคนชอบคิดมาก วิตกกังวลตลอดเวลาค่ะ “ วิธีที่ทำแล้วได้ผลคือ การเขียน ไดอารี่ จริงๆๆค่ะ .. แต่ที่ทำอยู่คือ เวลานั่งทำงาน จะเอาสมุดไว้ข้างๆตัว พอเริ่มคิดปุ๊ป เขียนเลย คิดเรื่องอะไร กังวลเรื่องไหนก็จะเขียนลงไปเลยคืะ ทำแบบนี้ตลอดทั้งวัน ที่คิดวนไปวนมา ( ด้วยงานที่ทำมันสามารถทำได้ ) แล้วผลคือ สมองมันจะโล่ง ความวิตกกังวลน้อยลงมากๆ มันดีมากๆๆ 🎉 .. (และตื่นเช้ามาก็เขียน ก่อนนอนก็เขียน นะคะ ) จะบอกว่า เริ่มเขียนได้4-5วัน คุณหมอก็มาพูดเรื่องนี้ ตรงประเด็น ตรงใจมากๆเลยค่ะ ❤ ขอบคุณ คุณหมอมากๆ ค่ะ
น่าสนใจ ขอบคุณที่แชร์วิธี จะลองนำไปปรับใช้ดูบ้างครับ
มันยิ่งไม่เหมือนไปรีพีท ความคิดหรอคะ 🙏🏻
น่าจะเหมือนว่าเราได้เอาสิ่งๆนั้นออกจากความคิดมาไว้บนกระดาษมากกว่าครับ เราจะสบายใจว่าไม่ว่าความคิดนั้นคืออะไร เราจะกลับมาดูมันได้อีกครั้ง ไม่ลืมแน่นอน@@positivevibes920
จริงค่ะ เราเขียนเป็นเล่มเลย บางหน้าขีดเละ วาดรูป แต่มันโล่งมากๆ ลองดูนะคะทุกคน
@@positivevibes920ไม่ค่ะ พอเราเขียน เราจะเริ่มแยกตัวเองออกมาค่ะ จัดระเบียบไม่ให้มันวนในหัว เราเขียนเยอะมากค่ะ ได้ผลจริงๆ บางทีได้ทางออกด้วย ลองดูนะคะ
คลิปใหม่มาแล้วค่ะ...หัวข้อวันนี้ เรื่อง... วิตกกังวล ไม่สบายใจ คิดวนไปมา -- ลองวิธีนี้1. หาต้นตอของความวิตกกังวลต่างๆว่ามาจากอะไร2. เขียนเรื่องราวที่ท่านกำลังวิตกกังวลอยู่ออกมาว่า มันคืออะไร เขียนรายละเอียดทุกอย่างออกมา แล้วค่อยๆนั่งวิเคราะห์ความกังวลเหล่านี้ทีละอย่างๆ ถ้ายังกังวลอยู่ก็ย้อนกลับไปวิเคราะห์ใหม่3. สร้างกิจวัตรประจำวันออกมา ใส่กิจกรรมต่างๆลงไปในทุกๆช่วงเวลาเพื่อตัดวงจรความวิตกกังวล4. ออกกำลังกายเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ เพราะการนั่งคิดถึงสิ่งที่เรากังวลไม่ได้ทำให้ความกังวลหายไป แต่ให้ลุกออกไปออกกำลังกายดีกว่า ลุกขึ้นมาทำบางอย่างที่มีประโยชน์กับตัวเราดีกว่า5. เลิกเสพข่าว หรือ ข้อมูลด้านลบ เพราะหลายครั้งที่ความวิตกกังวล เกิดจากการเสพข่าวสารหรือ ข้อมูลที่เป็นด้านลบ ดังนั้น การหลีกเลี่ยงแรงกระตุ้นในด้านลบ ก็จะช่วยลดความวิตกกังวลของท่านได้6. ปล่อยวางและคิดเสมอว่า ท่านทำอย่างเต็มที่แล้ว ท่านทำดีที่สุดแล้ว ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นและมูฟออนต่อไป
7. ดูรูปน้องโรซี่อ้อนแดดดี๊ 🥰
@@CherryChonny โรซี่ทำหน้าอ้อนน่ารักที่สุดเลยค่ะ😍
ขอบคุณค่ะคุณทริป🙏🥰
@@nung-noppapat ยินดีค่ะคุณหนึ่ง😍😘
8.ดูคุณหมอเล่นของ 😂🤣เล่นของเล่นเป็นเด็ก
ใช่เลยครับ บางคนบอกว่าเป็นโรคที่ได้ยินเสียง พอเข้าเสียงที่เราได้ยินราวกับหลอกหลอน มันก็แค่เสียงด่า ว่าดูถูกที่มาจากคนนอก
ขอบคุณคุณหมอ นอกจากจะเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้ว ยังเป็นนักปราชญ์ที่มีมุมมองที่ดีเสมอ 🙏🙏
ชอบประโยคที่คุณหมอพูด “ทำเต็มที่ ทำให้ดีที่สุด คนเรามีหน้าที่เกิดมาแล้วทำให้เต็มที่” จริงที่สุดค่ะ ณ เวลานั้น เราไม่รู้หรอกเพราะมันเพิ่งเกิดขึ้นกับเราครั้งแรก เราไม่มีประสบการณ์ มีข้อมูลเท่านั้น มัน heal ใจมากค่ะ เพราะตอนนี้มีน้องหมาสุดที่รักป่วย มีหลายโรค น้องแก่ด้วย เราเครียดเพราะน้องผอมมากค่ะตอนนี้ มีปัญหาเรื่องไม่ค่อยดูดซึมอาหาร เราจะดูแลน้องให้ดีที่สุด เพื่อว่าเราจะได้ไม่เสียใจทีหลัง ขอบพระคุณคุณหมอมากๆ นะคะ ขอให้ใจที่คิดดีและแบ่งปันให้ผู้อื่นของคุณหมอพบแต่ความสุขในทุกด้านของชีวิตนะคะ
คุณหมอเป็นหมอที่ปรึกษาชีวิต.คุยได้ทุกเรื่อง..ดีมากๆครับ..
ผมก็เป็นเครียดสะสม กังวล ตึงเครียด “วิตกจริต” แปลกดี เป็นมาตลอดชีวิตตั้งแต่เด็ก ถูกกดันทางความคิด ตอนนี้พยายามฝึกจิตสมาธิครับ รับข่าวสารและสื่อสมัยใหม่น่าจะมีส่วนมากๆ🎉🎉🎉
ใช่คุณหมอไม่ขายของ พูดให้ฟังดูดีวิเคราะห์ได้ตามที่พูด
◾สำหรับผู้ที่เป็น "โรควิตกกังวล" คือ มีความกังวลมากกว่าปกติ ซึ่งสาเหตุของโรคนี้อาจจะเกิดจากความผิดปกติทางจิตใจ หรือความไม่สมดุลของสารสื่อประสาทในสมอง ซึ่งอาจเกิดจากพันธุกรรมก็ได้ รวมถึงอาจเกิดจากสภาพแวดล้อม การเลี้ยงดู หรือการเลียนแบบพฤติกรรมจากพ่อแม่ หรือคนใกล้ชิด การประสบกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่ก่อให้เกิดโรควิตกกังวลจนส่งผลกระทบกับจิตใจและร่างกาย◾ใครที่กังวลจนถึงขั้นเป็นโรควิตกกังวลสามารถไปพบจิตแพทย์เพื่อทำการพูดคุย เพื่อการประเมินโรคทางจิต ก่อนวางแผนการรักษา ซึ่งการรักษาโรควิตกกังวลสามารถรักษาให้หายขาดได้... และปัจจุบันการพบจิตแพทย์สามารถทำได้ง่ายขึ้น ไม่จำเป็นต้องเขินอาย หรือกลัวการเข้าพบจิตแพทย์ เนื่องจากการเข้าพบจิตแพทย์ไม่ต่างอะไรกับการหาที่ปรึกษา เหมือนการหาเพื่อนช่วยรับฟังปัญหา เพียงแต่เพื่อนในที่นี้คือแพทย์ที่มีหลักการรักษา ให้คำแนะนำต่างๆ และบางครั้งอาจจะจำเป็นต้องรักษาด้วยยาที่เหมาะสม◾แม้แต่คุณหนุ่ม กรรชัย จ้ดรายการโหนกระแสจนไม่รู้ตัวว่า ตัวเองสะสมความเครียดมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะแต่ละเรื่องเป็นกระแสข่าวดังทั้งสิ้น... จนวันหนึ่งคุณหนุ่มตัดสินใจไปพบจิตแพทย์ จนสามารถรับมือกับปัญหาต่างๆได้ดีขึ้น ไม่นำเรื่องราวต่างๆมาคิดวิตกกังวลอีกต่อไป...
พี่หนุ่มกรรชัยแกเป็นเพนิคครับ
มีทางหายไหมครับ
@@SaharatSatsamai มีทางหายค่ะ คือผู้ป่วยต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และต้องปฎิบัติตามคำสั่งแพทย์และทานยาที่หมอสั่งอย่างสม่ำเสมอค่ะ
คุณหมอเป็นคนฉลาดรู้ทันความคิดเลยไม่ทุกข์และยังมีเมตตาแบ่งปัน❤❤❤ ตอนยังเด็กคุณแม่เป็นโรควิตกกังวลซึมเศร้านอนไม่หลับเคยกินยานอนหลับฆ่าตัวตายกินยกขวดเลยเพราะแม่ทรมานมากนอนไม่หลับ หามส่งโรงบาลหลับอยู่ 3 วันหมอล้างท้องให้ แม่เล่าให้ฟังว่าคิดแต่วิธีฆ่าตัวตายว่าจะทำอย่างไร เคยบอกแม่ว่าอย่าคิดมากคุณแม่บอกว่าไม่ได้คิดมันมาเอง ตอนเป็นเด็กประถมก็ไม่รู้ว่าจะช่วยยังไงพอเรียนม.ปลายก็เริ่มนั่งคุยบ่อยๆคอยช่วยงานในบ้านในร้านค้าทุกอย่างจนแม่บอกว่าโอ้ยไม่เหลืออะไรให้แม่ทำเลย ดูแม่สบายใจขึ้นมากแต่ยังทานยาอยู่ หยุดยาเมื่อไหร่โรคกลับมาอีกมีอะไรมากระทบโรคก็กลับมาอีก สภาพแวดล้อมในครอบครัวสำคัญมาก ลูกเยอะแต่ละคนก็มีปัญหาต่างกันเลยต้องกินยาตลอดชีวิต ตอนนี้ท่านหมดทุกข์แล้วค่ะไปเป็นนางฟ้าแล้ว แม่เป็นเสาหลักของบ้านถ้าไม่มีแม่คงไม่ได้เรียนขอบคุณนางฟ้าของลูก
บางครั้งวิตกไปล่วงหน้า พอถึงเวลาจริงๆมันก็ไม่เกิดอย่างที่คิด เพราะว่าจิตมันสั่งกาย ต้องพยายามให้กายชนะจิตให้ได้ พอชนะเราก็มีแต่ความสุข
แนะนำเข้าใจง่ายมากค่ะ นำไปใช่ได้จริงขอบคุณค่ะ😊❤
เป็น content ที่มีคุณค่ามากๆเหมาะกับคนในยุคปัจจุบันมากๆ ปรัชญาล้วนๆช่วงท้ายคลิปเข้าใจมากๆเลยค่ะ 1 การเขียนสิ่งที่กังวลให้ออกจากหัว 2 บริหารกำลังใจให้สม่ำเสมอ คำนี้ดีจริงๆ เป็นการสร้างพลังจากข้างใน 3 สร้างทักษะการ ช่างมัน และตัดใจในอดีตได้ focus ปัจจุบันแล้วเรื่องที่กำลังจะเกิดข้างหน้าเท่านั้น จริงๆคือ สมาธินะเนี่ย เลิศมากค่ะ รักคลิปนี้
ถ้ามีเรื่องไม่สบายใจ ทำให้คิดมาก การปล่อยวางเป็นเรื่องยากมากเลยค่ะ ตอนนี้ได้แต่ออกมาจากสถานที่ๆทำให้เราไม่สบายใจ แล้วหาอะไรทำ เพื่อไม่ให้เรากลับไปคิดวน หาเพื่อนมาเพื่อฟังเราระบายทุกข์ และแสดงความเห็นกับสิ่งที่เราจะไปเผชิญกับปัญหาอย่างสร้างสรรค์ค่ะ
ขอบคุณมากครับ สำหรับคำแนะนำผมจะลองใช้ดู จะได้สบายใจขึ้นเวลาโดนกดดันขอบคุณครับ🥰
สวัสดีค่ะคุณหมอแทนเราไม่สามารถหยุดคิด หรือหยุดความวิตกกังวลได้ ไม่ว่าใครๆก็มีความวิตกกังวล อยู่ที่เราจะจัดการกับมันอย่างไรหัดคิดอย่างเป็นระบบ พักเรื่องที่ยังมาไม่ถึง เรื่องที่เกินจำเป็นตัดออก เรื่องที่ควบคุมไม่ได้ให้ปล่อยวาง แต่บางเรื่องการปล่อยวางไม่ใช่เรื่องง่าย (ยากสุดๆ)แท้จริงแล้วความคิดมาแล้วก็ไป แต่ที่เราทุกข์เพราะคิดแล้วยึด ไม่วาง ทุกสิ่งมีความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ไม่ควรยึดมั่นถือมั่นในอะไรเลย ก็คือความรู้ตามความเป็นจริง เหมือนที่คุณหมอเคยพูดไว้ค่ะขอบคุณมุมมอง แง่คิดดีดี ของคุณหมอแทนค่ะใช้ได้จริงเสมอค่ะ 🏡🧡🏕
🎉🎉ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะคุณหมอ ยอดผู้ติดตาม500,000คนแล้ว🎉🎉ขอบคุณมากค่ะสำหรับความรู้มากมายที่ได้รับ ตั้งแต่ติตามมา ขอให้คุณหมอสุขภาพแข็งแรง เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงานยิ่งๆขึ้นไป รุ่งเรือง รุ่งโรจน์ สดใส ต่อไปหนึ่งล้านไวๆนะคะ
กู๊ดมอร์นิ่งค่ะพี่หมวย... ครบ 5 แสนคนแล้ววววว 🎉ยินดีกับอาจารย์หมอด้วยค่ะ🎉
@@FragranzaTrippa มอร์นิ่งค่ะน้องทริป ลุ้นทุกวัน ดีใจมากค่ะ ช่องดี มีคุณภาพ อยากให้มีผู้ติดตามเยอะๆ
สวัสดีค่ะ ช่วงเวลาที่ คิดมาก และวิตกกังวลนั้น มีมากหลายครั้ง.หลายหนในชีวิต ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นความกังวลใจกับ คนอื่น ที่เรารัก และสัตว์เลี้ยง ที่เรารัก กังวลใจคิดซ้ำๆ ทุกข์ ที่เค้าป่วย หรือเค้าไม่สบายใจ กับตนเองนั้น จัดการได้ ไม่ยาก เพราะไม่คิดลบอยู่แล้ว ในทุกเรื่อง หาเหตุผลมาหักล้างความคิดลบได้ จากประสบการณ์เสมอมา เพราะไม่เอาเสียงคนอื่นมาไว้ในหัวเราค่ะ คุณจะพูดอย่างไรแนะนำอะไร ก็ตาม ถ้าเราคิดแล้วไม่ถูก ต้อง ก็เข้ามาในหัวเราไม่ได้ ทุกอย่างเราคิดเป็น เรารู้ว่าจะทำอย่างไร บางทีสิ่งที่คุณบอกนั้น มัน ไม่มีเหตุผลที่ดีคือ ผ่านเลย ที่กังวลแล้วกำจัดได้ยากคือความทุกข์ที่เห็นคนอื่นทุกข์ ทั้งๆที่รู้ว่า เราช่วยอะไรไม่ได้ ให้เค้ารอด ให้สัตว์รอด และตัวเราได้ทำอย่างเต็มที่ สุดท้าย ก็ปล่อยเค้าไป ตามกาลเวลา เราอยู่เลี้ยงดูกันเท่านี้ หมดเวลาก็ต้องจาก ไป ตายจาก หรือ ไปตามทางของแต่ละคน คือต้องปล่อยวาง เพียงแต่เราต้องยอมรับ ทำใจ ให้เข้มแข็ง ส่วนการงานนั้น ทำด้วยความตั้งใจ ทุกเรื่อง ทุกครั้งอยู่ ผลจะออกมาอย่างไรก็ไม่ได้ทำให้เสียดาย แม้ทำดี ไม่มีใครเห็น แต่เรารู้ว่าเราทำอะไร เพื่อใคร ดีที่สุดแล้ว ก็ไม่กังวล ถ้าโดนว่ากล่าว ทางร้าย ก็ฟังไว้ เอามาแก้ไข ในการทำงานต่อไป ปัญหาถ้าไม่เกิด และเราไม่ได้ใช้สติปัญญาแก้ไข นั้นๆ นั่นต่างหาก น่าเสียดายให้ เอา สิ่ง ไม่ดี มาปรับ ให้มันดี จะดี กว่าเราจะภูมิใจ ปรับให้ดีขึ้น เด็กๆ เสียใจอะไรต่างๆแบบ หยุดคิดไม่ได้ พอโตขึ้น สิ่งที่เรากังวล กับคำพูดของเพื่อน ที่มีต่อเรา บางทีเราคิดไปเอง เพื่อนไม่ทราบด้วยซ้ำ เวลาผ่าน ความคิดเราจะเปลี่ยน ไป ตามอายุด้วย ขอให้คิด หาเหตุผล หาข้อสรุปให้ได้ ให้จบ เร็วที่สุด อย่าเก็บไว้นาน เรื่องร้าย ๆกับจิตใจ มันจะบั่นทอนจิตใจเรา คิดแบบนี้ได้ผล สำหรับตัวเองเสมอโชคดีที่ ตัวเองไม่ ใช่คนวิตกจริต ต้องอย่างนั้น อย่างนี้ เสมอ 🌿ใช้วิธีหาเหตุผล วิเคราะห์ บอกตัวเองว่า อย่าเอาใจตัวเองไปผูก กับเรื่อง อะไร หรือใครๆ มากเกินไป จนทำให้เราเสียความเป็นตัวของตัวเองไปค่ะ ใช่ค่ะ วางลงได้ ไม่แบกค่ะ คุณหมอยกตัวอย่างดีมากๆ ถือไว้นาน ก็หนัก นาน เมื่อยค่ะ 😊 ขอบคุณที่มาแชร์วิธีการ ค่ะ🙏
ช่วงนี้ที่กทม ฝนตกหนักมาก ☔️ มีวันนึง เรารถติด2 ชม แทบไม่ขยับ เราเซ็งมาก แล้วเราก็ลองมองดูคนข้างนอกกระจก เขาลุยน้ำท่วม เขารอรถเมล์นาน คนขับมอเตอร์ไซค์เปียกและกลัวน้ำกระเด็น คนตากฝนไม่มีร่ม จากนั้นเราก็ไม่บ่นละค่ะ แค่รถติด 🚙 🚗 แต่เรายังมีแอร์เย็นๆ และเท้าไม่เปียก และยังไงคืนนี้ก็ต้องถึงบ้านได้กินอาหารอร่อย แล้วรถก็หายติดเลยค่ะ คุณหมอ 😊
รอบหน้าขึ้นรถไฟฟ้านะคะ😊
ความคิดเยี่ยม มากๆค่ะ
หมายถึงเม้นท์ข้างบนนะคะ
สำหรับผมเวลาคิดอะไรวน ๆ ซ้ำ ๆ จนนอนไม่หลับ จะใช้วิธีจินตนาการถึงป่าไม้ ธรรมชาติ หรืออะไรที่สงบ ๆ ช่วงแรกก็จะฝืน ๆ หน่อย แต่พอทำไปแล้วก็จะเคลิ้มหลับไปเอง สำหรับบางคนที่ไม่เคยฝึกสมาธิแนะนำ Challange ตัวเองก่อนเลยว่าฉันจะไม่คิดอะไรแม้แต่เรื่องเดียวในหัว พยายามตามให้ทันความคิดว่าเรากำลังคิดอะไรอย่าเพลินไปกับสิ่งที่สมองสั่งออกมา
ขอบคุณกำลังใจที่ได้รับสม่ำเสมอ ขอบคุณพลังบวก👍💚🩵..
ชอบความคิดคุณหมอครับ เข้าใจโลก หวังดีต่อเพื่อนมนุษย์ และกล้าชนกับพวก... ทั้งหลาย ชอบครับ 👍🏻
วันนี้เพิ่งจะหายกังวลไปเรื่องนึงนะ กังว๊ลกังวล ใจคอยุกยิกไปหมด ตอนนี้หายเป็นปลิดทิ้งแล้ว เพระอาจารย์หมอแทนของพวกเรา *500K Sub* แล้วค่าาา ต้องกล่าวว่าเรายินดีนักๆนะคะ การที่ได้ยินเสียงอาจารย์แทนมาสอนทุกวัน ถือเป็นมงคลชีวิตมา 4-5ข้อเชียวนะ(จาก38ข้อ!) ไม่คบคนพาล-คบบัณฑิต(ถูกบัณฑิตดุบ้างนิดหน่อย 55)-บูชาคนที่ควรบูชา-มีวินัย-ขยัน(ฟัง)หมั่นเพียร-ตั้งตนชอบ สาธุ กราบขอบพระคุณอาจารย์หมอแทนอย่างจริงใจ ที่ให้ความรู้ ที่ตักเตือนเรื่องสุขภาพ ที่สร้างแรงบันดาลใจ และมีน้ำใจแบ่งปันอุทิศความรู้ในรูปแบบ playlist เป็นร้อยเป็นพัน ให้สาธารณชน
😊❤🎉🎉🎉
ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ ปกติก็ชอบคิดวนไปวนมาบ่อย ๆ ค่ะ แต่ก็ใช้วิธีเขียนอย่างที่คุณหมอบอกแล้วก็ได้ผลค่ะ ทุกอย่างค่อย ๆ ผ่อนคลาย รู้สึกเหมือนเราได้ทำสิ่งที่คิดไปเรียบร้อยแล้วค่ะ จริง ๆคือการเตรียมและทบทวนสิ่งที่จะทำค่ะ เมื่อถึงเวลาเราจะไม่มีความกังวลเกิดขึ้นค่ะ ขอบคุณคุณหมออีกครั้งค่ะสำหรับสิ่งดี ๆ ที่นำมาให้ในทุกๆ วันค่ะ
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณคะ
บางครั้งไม่ว่าทำยังไง มันก็ไม่หายกังวลได้ครับ มันยังคงวนเวียนในหัวอยู่ดี ทำยังไงก็ไม่หาย เหมือนผมเมื่อปีที่แล้ว ผมเป็นโรค anxiety disorder คือกลัวตาย เป็น panic ด้วย ทำอะไรนิดหน่อยก็กลัวไปหมด หายใจถี่นิดเดียว ก็กลัวหัวใจวาย ไม่กล้าออกกำลังกาย นอนก็ไม่หลับ ฝันร้ายแทบทุกคืน จนร่างทรุดโทรม ผมไปเอายาจากหมอจิตเวชมากิน ก็ซ้ำร้ายหนักกว่าเก่า ซึม มึน ง่วง ทั้งวันทั้งคืน เหมือนซอมบี้เลย มันแย่มากๆ กว่าผมจะผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายนั้น ก็ร่วมปี เมื่อถึงเวลา พอมันเป็นมากๆเข้า จู่ๆมันก็หายไปเองครับ ผมก็งงเหมือนกัน อาการที่ว่ามา หายเป็นปลิดทิ้ง เหมือนไม่เคยเป็นมาก่อน 😅 จนคิดว่าเราไปโดนใครเล่นของใส่รึป่าว ถึงเป็นไปได้ขนาดนั้นอย่างคำที่พระพุทธเจ้า เคยพูดไว้ ทุกข์เท่านั้นที่เกิดดับ คือต่อจะให้ทุกข์แค่ไหน ในที่สุดซักวันมันก็จะหายไปเอง ต่อให้เราไม่ทำอะไรกับมัน มันก็จะหายไปเอง เมื่อวิตกกังวลมากๆ จนถึงจุดนึง มันก็จะเลิกกังวลไปเอง คล้ายๆกับว่ากังวลจนเหนื่อยแล้ว กังวลจนเบื่อแล้ว มันก็จะล้า และเลิกกังวลไปเอง 😂
บางครั้งที่ว่านี่ ผมว่ายังไม่เคยเขียนมันออกมาครับ
โชคดีจังค่ะหายได้เร็ว
ขอบคุณค่ะ😊
ขอบคุณค่ะ ❤
ขอขอบคุณ
ขอบคุณ
ขอบคุณค่ะ.มากๆค่ะ.
ขอบคุณค่ะคุณหมอ
ขอบคุณจากใจค่ะ
ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ🙏🏻
ขอบคุณครับ 👍💪🌈
ขอบคุณนะครับคุณหมอ
ขอบคุณค่ะคุณหมอ ❤
ขอบคุณ คุณหมอ❤❤❤❤
ขอบคุณมากครับอาจารย์หมอ❤❤❤
ขอบคุณมากคะ
ขอบพระคุณมากค่ะคุณหมอ
จริงแบบที่คุณหมอบอกนะคะ การวิ่ง การออกกำลังกายทำให้เราอารมณ์ดีขึ้น อารมณ์มั่นคง บวกกับการกินอาหารที่มีประโยชน์ด้วย อารมณ์และจิตใจไม่ขุ่นมัวค่ะ
ขอบคุณมากๆคะ คุณหมอ ❤❤
🙏🙏ขอบคุณค่ะ คุณหมอ🙏🙏🙏
ขอบคุณคุณหมอมากจริงๆค่ะ
ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ ❤
ขอบคุณคุณหมอมากๆนะคะที่แบ่งปัน🙏
ขอบคุณมากค่ะ
ขอบพระคุณ อาจารย์หมอมากค่ะ
ขอบคุณนะคะคุณหมอ
😊ขอบคุณอจ.หมอมากนะคะ🎈🎈
ขอบคุณอาจารย์มากครับ
ขอบคุณค่ะอาจารย์🙏🥰
โดนใจมากค่ะ มีประโยชน์ที่สุด
ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ
ขอบคุณคุณหมอมากๆค่ะ
ขอบคุณคุณหมอมากครับ
ขอบคุณ คุณหมอค่ะ จะทำตามดูค่ะ
ขอบคุณครับ...😮😮❤คุณหมอ
ขอบคุณครับ ผมชอบฟังมากเลยคับ
ขอบคุณค่ะ🙏❤🎉
ขอบคุณค่ะ
ใช่ค่ะคุณหมอ คุณหมอพูดถูกต้องเลยค่ะ สาธุ สาธุค่ะ
😢😢😢ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณค่ะคุณหมอ Tany😋
ขอบพระคุณครับ
ขอบคุณครับ คลิปดีมาก
สวัสดีครับรับชมอยู่ครับ
ขอบคุณคริปนี้ค่ะ❤❤❤❤❤
ขอบคุณครับคุณหมอ
ขอบคุณคะ คุณหมอ
ขอบคุณคลิปดีดีมากค่า คุณหมอ ^^
ขอบคุณมากๆค่ะคุณหมอ❤
ขอบคุณมากๆจ้า คำแนะนำ กำลังใจ ❤❤❤
รักคุณหมอมากๆเลยค่ะ
ขอบคุณ คุณหมอมากครับ
กำลังเป็นพอดีเลยครับ ขอบคุณมากครับคุณหมอ 🙏🙏
ขอบคุณมากครับ สำหรับcontent ดีๆ ที่ทำตามได้จริงครับ :)
สวัสดีค่ะคุณหมอ ขอบคุณที่มาแบ่งปันนะคะ😊😍😍
🙏❤️ขอบคุณ คุณหมอมากๆน้ะจ้ะ
สวัสดีค่ะคุณหมอ❤
ขอบพระคุณมากค่ะคุณหมอ^^
กลับมาฟังย้อนหลังค่ะคุณหมอ ❤❤❤
ดี คลิปนี้
ดีมากๆๆคะจะนำไปปฏิบัตินะคะ ขอบคุณคุณหมอคะ
ขอบคุณคลิปดีดีของคุณหมอนะคะ
เครียดอยู่ ๆ คับ ขอบคุณที่แชร์คับ
500,000 แล้วค่ะ เย้ๆๆ ฉลองๆๆ 🥳👍🎉🎉
สวัสดีค่ะ🙏คุณหมอจิตใจดีงาม มีความคิดที่ดี เป็นคนน่ารักมากๆค่ะ ชื่นชมค่ะ😊🌷⚘️💐
Sabaidee อาจารย์Doc 🙏 thank you 🙏 ค่ะ for share
ขอบคุณนะคะ คุณหมอ
สวัสดีค่ะ คุณหมอ
อ๊ะ 500k แล้วรึคะ ยินดีด้วยน้า ติดตามมาตั้งแต่โควิดซีซั่นแรก ยอดเยี่ยมที่สุดเลยจ้า 🎊🎉🎁🎉🌈
คลิปนี้ดีมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ 🥹
สวัสดีค่ะคุณหมอ🙏 และขอขอบคุณๆหมอตลอดเวลาค่ะ🙏♥️☘️
ขอบคุณมากๆนะคะ ติดตามตลอดได้ความรู้ ต่างๆมากมาย ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ จะนำไปใช้นะคะ เป็นประโยชน์มาก ๆ ค่ะ
![อาจารย์ยอด : เรื่องแปลกจากท้องนา [ผี]](http://i.ytimg.com/vi/8PxYzVOjmK8/mqdefault.jpg)
วิตกกังวล ไม่สบายใจ คิดวนไปมา -- ลองวิธีนี้
สวัสดีครับ
ผมเชื่อว่าทุกคนที่เกิดมานะครับก็คงจะมีช่วงเวลาสักช่วงของชีวิตที่มีความวิตกกังวล คิดมาก คิดในแง่ลบ แล้วความคิดเหล่านี้มันก็วนเวียนอยู่ในสมองของเราทั้งๆที่เรารู้ว่าคิดไปมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรแต่เราก็หยุดความคิดนั้นไม่ได้แล้วก็ทำให้เราไม่มีความสุขไม่สามารถที่จะทำอะไรต่อไปได้การทำงานก็ด้อยประสิทธิภาพลง วันนี้ผมก็เป็นหนึ่งในคนที่เคยมีปัญหาเหล่านี้วนเวียนอยู่ในสมองนะครับ ผมจะลองเอาวิธีส่วนตัวของผมเนี่ยมาแบ่งปันให้เพื่อนๆฟังกันดูว่ามันเป็นอย่างไรแล้วบางทีอาจจะช่วยกู้สถานการณ์ที่ท่านกำลังประสบอยู่ในขณะนี้ก็เป็นได้นะครับ ลองฟังดูแล้วกันนะครับ
พบกับผมนะครับ นายแพทย์ธนีย์ ธนียวันนะครับ เป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เชี่ยวชาญโรคปอด การปลูกถ่ายปอด และวิกฤตบำบัดนะครับ
1️⃣
ก่อนอื่นเลยนะครับถ้าเกิดคนไหนที่เคยฟังคลิปเรื่องของความคิดลบมาจากไหนของผมเนี่ยคงจะพอได้ไอเดียนะครับว่าคนวามคิดแบบนี้เนี่ยที่ทำให้เราเกิดคิดลบเนี่ยนะครับมันจริงๆแล้วไม่ได้มาจากตัวเราเองนะครับ ส่วนใหญ่แล้วมันมาจากเสียงที่อยู่ข้างนอกนะครับเสียงในหัวของเราเนี่ยวันนึงมันเคยเป็นเสียงข้างนอกมาก่อน เคยเป็นเสียงก่นด่า เสียงดูถูก เสียงต่างๆที่เราได้ยินมา แต่นอกเหนือจากนั้นบางครั้งมันกลับกลายเป็นเสียงเตือนนะครับบางคนอาจจะบอกว่า “ออกจากบ้านระวังนะเดี๋ยวโดนรถชน ไปต่างจังหวัดเดี๋ยวเกิดน้ำมันหมดกลางทางจะทำอย่างไร ไปสัมมนาต้องเตรียมตัวให้พร้อมนะไม่อย่างนั้นเดี๋ยวพูดแล้วไม่มีคนเขาสนใจ หรือเราไปพูดหน้าชั้น ออกไปพูดหน้าห้องประชุมคนอื่นเขาจะฟังเราหรือเปล่าคนอื่นเขาจะว่าเราไหมคนอื่นเขาจะทำให้เรารู้สึกขายหน้าหรือเปล่า“ นะครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นคำเตือนแต่ปัญหาคือเขาไม่ได้บอกทางแก้มาให้ แล้วพอไม่บอกทางแก้มาให้แล้วเราได้ยินแบบเนี้ยซ้ำแล้วซ้ำอีกซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่ว่าจะเป็นจากคนใกล้ตัว จากคุณพ่อคุณแม่ จากเจ้านาย จากพี่น้องหรือจากคนที่เขาหวังดีกับเรานะครับมันก็รับสิ่งเหล่านี้เข้ามาอยู่ในหัว พอผ่านไปสักพักหนึ่งถ้าเกิดคนไหนจัดการกับสิ่งเหล่านี้ไม่เป็นแล้วล่ะก็ มันจะกลายมาเป็นคนที่วิตกกังวลไปทุกสถานการณ์เลยไม่ว่าจะทำอะไรก็แล้วแต่นะครับ เช่นบางทีจะไปเที่ยวต่างประเทศ ”พาสปอร์ตเราพร้อมหรือยัง กระเป๋าเราจัดมีของครบทุกชิ้นหรือเปล่าที่เราต้องการเอาไป“ แล้วเช็คทุกเวลานะครับพอจะออกจากบ้านก็เช็คสักทีนึงอีกรอบนึง ไปถึงสนามบินเช็คแล้วลืมโน่นลืมนี่หรือเปล่า แต่บางครั้งเนี่ยนะครับการทำแบบนี้ไปเรื่อยๆเนี่ยมันกลายเป็นคนวิตกจริตนะครับ แล้วที่สำคัญก็คือบางครั้งมันไม่ได้ทำให้ท่านไม่ลืมของเรานั้นแล้วผลลัพธ์ของการกระทำที่ท่านต้องการมันไม่เป็นอย่างที่เราต้องการสิครับมันออกมาแล้วมันไม่ใช่แล้วนะครับ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งซึ่งเกิดขึ้นในทุกๆคนแน่นอนนะครับผมว่าสักช่วงหนึ่งแหละ
2️⃣
แล้วอย่างที่บอกมันเกิดจากการรับข่าวสาร รับเสียงทุกอย่างจากข้างนอกเข้ามาในตัวเราจนกระทั่งสุดท้ายมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของเราเองนะครับ แต่ถ้าเราลองแยกย่อยดูดีๆเราจะพอเข้าใจว่าความคิดเหล่านั้นเนี่ยมันมีที่มาอย่างไร มันมาจากไหนนะครับ ถ้าเราสามารถหาที่มาต้นตอของมันได้หรือเสียงนั้นที่มันโผล่ขึ้นอยู่ในหัวใครมันเป็นคนพูดให้เราฟังเป็นคนแรกๆ หรือสมมติเวลาเราไปเที่ยวต่างจังหวัดนะครับบางคนอาจจะมีเข้ามาแว้บในหัวเลยบอกว่าว่า โอ้…จะไปต่างจังหวัดนะเราเห็นภาพแม่เราลอยมาเลยแม่ต้องบอกว่า “เตรียมเสื้อให้พร้อมนะ เอาโน่นเอานี่ไปให้พร้อม หยูกยาเอาไปให้เรียบร้อย ไปต่างจังหวัดก็ต้องมีเบอร์โทรติดต่อ มีถ่านสำรอง รู้ไหมว่าไปที่ไหนยังไง“ หน้าแม่เราลอยมาเลย มันแปลว่าความคิดเหล่านั้นที่เราวิตกกังวลในสิ่งต่างๆเหล่านั้นบางทีอาจจะมาจากแม่เราก็ได้นะครับ นั่นก็เป็นเหตุผลอย่างหนึ่ง
นอกเหนือจากนี้ท่านลองสังเกตสิครับว่าหลายๆครั้งในเวลาที่เราเสพสื่อต่างๆเรามักจะเสพสื่อในแง่ลบซะมากกว่า เช่นเราอ่านหนังสือพิมพ์เออเดี๋ยวนี้ไม่อ่านหนังสือพิมพ์ เราฟังข่าวนะครับ ข่าวฆ่ากัน ข่าวข่มขืน ข่าวยิงกันนะครับ ไม่ค่อยได้ฟังข่าวอะไรที่มันดูดีๆเลยนะครับ เราจะมีแต่ข่าวอะไรที่เป็นในแง่ลบ แล้วเหตุผลก็คือคนเราเนี่ยชอบฟังของแง่ลบข่าวก็เลยทำออกมาในแง่ลบแล้วเราก็ยังไปฟัง แล้วมันก็วนอย่างงี้อยู่เรื่อยๆนะครับเขาก็ได้กำไรในการทำข่าวให้เราฟังแล้วเราก็ชอบฟังซะด้วยเรื่องชาวบ้านที่เขาตบตีแย่งชิงกันนะครับหรือว่าไปตีรันฟันแทงกัน ตำรวจมีปัญหากับคนนู้นคนนี้เราชอบฟังของลบๆ มันก็เลยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสมองเราไปเลยนะครับหรือ อย่างเวลาดูหนัง หนังที่เป็นในแง่บวกในแง่ดีเนี่ยหลายๆทีเราก็ไม่ได้ดู บางคนไปดูหนังขอดูหนังเศร้าๆเลย ขอดูหนังที่มีแอคชั่นมีการยิงมีสัตว์ประหลาดออกมานะครับมีความรุนแรงอยู่ในหนังเหล่านั้น ทุกๆอย่างมันออกไปทางแง่ลบหมดเลยนะครับ ทีนี้พวกนี้แหละครับการที่เราชอบสื่อที่มันสื่อออกไปในทางแง่ลบเนี่ยมันก็กลายมาเป็นความคิดของเราส่วนนึงแล้วนะครับ แล้วพอผ่านไปสักพักนึงเนี่ยมันจะหล่อหลอมทำให้เราเนี่ยมีสิ่งไม่ดีเหล่านั้นอยู่ในหัวแล้วมันก็จะคิดวนไปวนมาวนไปวนมานะครับ
3️⃣
ทีนี้เล่ามานานแล้ว เราพอรู้ที่มาของสิ่งเหล่านี้แล้ว ประการแรกเราต้องคิดให้ได้ก่อนว่าที่มาของสิ่งเหล่านั้นน่ะมันคืออะไรนะครับ นี่เป็นวิธีในการแก้ปัญหาระยะยาวบางทีเราตื่นรู้ขึ้นมาทันทีว่า อ๋อ….จริงๆที่เราคิดแบบนั้นที่เราวิตกกังวลที่เราเป็นแบบนี้มันไม่ได้เป็นเพราะว่าตัวเราเองหรอกมันเป็นเพราะว่าข้างนอกเนี่ยส่งมาให้เราทั้งนั้นเลยนะครับ แต่มันก็มีวิธีอื่นที่ทำควบคู่กันไปได้นะที่ผมจะบอกในวันนี้
✅อันแรกที่มันใช้ได้ดีมากๆเลยก็คือการเขียนสิ่งที่วิตกกังวลตอนนั้นน่ะออกมาเลย ถามว่ามันดียังไง?
➡️ท่านลองสิครับเวลาท่านวิตกกังวลอะไรสักอย่างนึงเนี่ยถ้ารู้ตัวว่าคิดไปมันก็ไม่ได้ประโยชน์แต่มันก็คิดนะครับ แล้วพอคิดไปถ้าเกิดคนไหนเนี่ยสมองมันไม่สามารถสร้างภาพได้แบบอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ที่คิดวิเคราะห์ทดลองในสมองได้เนี่ยมันก็จะตันอยู่ที่นึงนะ แล้วพอตันเสร็จปุ๊บแล้วก็ลืมแล้วก็วนลูปใหม่ แล้วก็คิดไปถึงที่เดิมก็ลืมก็วนกลับมาลูปใหม่ วนๆๆอยู่ในหัวแล้วมันไม่หายไปไหนสักที วิธีแก้คือการเขียนมันออกมา เขียนทุกอย่างที่เรากังวลนะครับออกมาบรรยายเป็นคำพูดมันจะทำให้เราเห็น 1 2 3 4 อะไรพวกนี้ขั้นตอนการคิดมันเป็นอย่างไร สิ่งที่เรากังวลจริงๆคืออะไรกันแน่นะครับ วิเคราะห์ว่าตกลงเรากังวลอะไรกันแน่ และสมมติสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตนี้ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่กังวลอยู่เนี่ยมันคืออะไร เขียนออกมาเลย เช่นสมมติว่าเราต้องไปพูดหน้าชั้นเรียนนะครับหรือพูดหน้าหอประชุมสักอย่างนึงสักทีนึงแล้วเรากังวลกับมัน แต่เรากังวลอะไรล่ะ!? เราเขียนออกมาเลยครับ ”เรากังวลว่าเราจะพูดผิด เรากังวลว่าคนเขาจะไม่ฟังเรา คนเขาจะนอนหลับ คนเขาจะเบื่อเรา คนเขาจะถามคำถามที่เราตอบไม่ได้ คนเขาจะไม่เข้าฟังเรา“ อะไรอย่างนี้นะครับแล้วก็เขียนๆไปเลย แล้วเราลองดูสิว่าสถานการณ์ที่แย่ที่สุดที่มันเป็นไปได้คืออะไร เช่น เราไปพูด เราจำบทพูดไม่ได้เลย เราพูดไปแล้วไม่มีใครสนใจ เราพูดไปแล้วเขาถามคำถามที่เราตอบอะไรไม่ได้นะครับ นั่นคือสถานการณ์ที่แย่ที่สุดมันเป็นเช่นนั้น แล้วถามว่าเราต้องกลัวมันหรอ!? แล้วเราต้องทำยังไงต่อนะครับ เราทำยังไงที่จะแก้ไขสถานการณ์นั้นได้ เขียนวิธีแก้ออกมา เช่นว่า เราเตรียมตัวแล้วถ้าเราเป็นคนฟังเราอยากจะฟังอะไรที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเรื่องนั้นนะครับ คำถามที่เราจะถาม เราอยากจะถามอะไรถ้าเป็นตัวเราเราอยากจะรู้เรื่องอะไรนะครับ เขียนออกมาเป็นลิสต์แบบนี้เลย การที่เราทำวิธีแก้ปัญหาของเราที่เราคิดว่าเป็นปัญหาที่หนักที่สุดที่จะเกิดจากสถานการณ์นั้นได้แล้วก็เขียนวิเคราะห์ออกมาเนี่ยมันทำให้เราถ่ายเทความคิดลบจากหัวออกมาในกระดาษแล้วเปลี่ยนให้มันเป็นความคิดบวกที่จะสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้นะครับ มันต้องทำแบบนี้ แล้วทีนี้พอเราทำแบบนี้แล้วเนี่ยโอเคมันแก้ได้เปลาะหนึ่งล่ะ แต่มันไม่เสมอไปเพราะว่าบางครั้งเดี๋ยวพอเราเดินผ่านจากกระดาษไปเดี๋ยวก็คิดขึ้นมาใหม่ ถ้าคิดใหม่เนี่ยให้เราย้อนกลับไปดูในกระดาษใบเมื่อกี้นะครับซ้ำไปซ้ำมามันก็จะช่วยเราได้เยอะ
4️⃣
✅หรือวิธีอื่นๆที่ผมเคยเล่าไปในคลิปเรื่องของความคิดลบเนี่ยนะครับคือการสร้างกิจวัตรประจำวันของเราออกมาตัดความคิดเหล่านี้เลยคือถ้าเกิดว่าคนเราที่มันต้องทำอะไรอยู่ตลอดเวลาเป๊ะๆเหมือนมีตารางสอนนะครับ ตารางสอนในตอนสมัยที่เราเรียนมันเป็นยังไงครับ? ตอนเช้าเราอาจจะคิดเรื่องอะไรสักอย่างอยู่แล้วพอเข้าเรียนคาบหนึ่งเราก็ต้องไปจดจ่อกับสิ่งที่อยู่ในคาบเรียนนั้นใช่ไหมครับพอเปลี่ยนคาบ อ่ะเราเปลี่ยนสิ่งที่สนใจ ในระหว่างนั้นถ้าครูเขามาจี้อยู่ข้างหน้าเราตลอดเวลาหรือมีอะไรให้เราทำอยู่ตลอดเวลาเราจะไม่มีเวลาที่เราไปคิดในสิ่งที่เรากังวลอยู่หรอกครับมันก็จะกังวลอยู่กับสิ่งที่เราเห็น สมาธิ สติที่จดจ่ออยู่กับปัจจุบันในสิ่งที่เรากำลังทำ ดังนั้นถ้าเราสามารถจัดตารางสอนให้ตัวเองได้นะครับโดยใส่สิ่งต่างๆเข้าไปในนั้นมันก็จะช่วยตัดความคิดลบตัวนี้ไม่ให้มีช่องที่จะเข้ามาอยู่ในหัวเราได้นะครับ ความคิดเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องประหลาดนะครับทั้งความคิดดี ความคิดลบ ความคิดวิตกกังวลอะไรก็แล้วแต่มันเกิดขึ้นของมันเอง เราเนี่ยไปทำให้มันหายไป ทำให้มันไม่คิดไม่ได้ เรายังไม่ใช้พระอรหันต์นะครับ แต่สิ่งที่เราทำได้คือมันออกมาแล้วเราหยุดมันได้ เราตัดวงจรไม่ให้มันวนๆได้อย่างวิธีเมื่อกี้ที่เล่าไปนะครับ
ทีนี้โอเคถ้ามันยังโผล่ขึ้นมาล่ะ เวลามันโผล่ขึ้นมาผมปกติผมทำยังไง?
➡️ถ้าคนที่ฟังคลิปผมเรื่อยๆจะรู้ว่าเวลาที่ผมมีเรื่องอะไรสักอย่างที่ไม่สบายใจมากๆสิ่งที่ผมทำคือการไปออกกำลังกายเพราะว่าเวลาที่เราเหนื่อยจนเต็มที่มันจะคิดอะไรไม่ออกเลยมันจะคิดอยู่อย่างเดียวคือทำยังไงให้หายใจให้ทัน เช่นสมมติผมวิ่งเร็วๆอย่างนี้นะครับ วิ่งเร็วแล้วมันหอบเหนื่อยมากๆมันคิดอย่างอื่นไม่ออกครับ มันคิดแต่จะทำยังไงให้หายใจให้ทันแล้ววิ่งไปเรื่อยๆได้นะครับ มันจะฝืนตัวเองให้ผมต้องวิ่งต่อให้ได้ ถ้ามันยังคิดอยู่ก็จะวิ่งต่อนะครับ คืออันเนี่ยมันก็สามารถทำได้ถ้าท่านเป็นนักกีฬาหรือว่าเป็นคนที่ออกกำลังกายประจำ แต่สำหรับคนที่ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อนจริงๆวิธีนี้ผมก็แนะนำเหมือนกันนะครับเพราะว่ามันทำให้ร่างกายของท่านแข็งแรงขึ้นด้วย ได้สุขภาพแล้วก็ลดความคิดลบไปในตัวนะครับ
5️⃣
นอกเหนือจากนี้ ความคิดเหล่านี้เนี่ยถ้าเราทำทุกวิถีทางและมันยังกังวลอยู่นะครับเราต้องลองแบบนี้ 2-3 อย่าง
✅อย่างแรกนะครับคือเรากังวลกับสถานการณ์วิตกกังวลอะไรสักอย่าง ผมลองเอาเป็นเรื่องที่มันคอขาดบาดตายมากกว่านั้นดีกว่าคือการไปพูดหน้าชั้นเรียนเนี่ยถ้าเราพูดแล้วเพื่อนหัวเราะเนี่ยมันก็แค่อาย มันก็แค่เสียความมั่นใจนะครับ ลองเป็นเรื่องที่มันยากกว่านั้นดีกว่าสมมติว่าเรามีญาติอยู่คนนึงเป็นคนที่เรารักมากแล้วเขากำลังจะตายนะครับ เขาป่วยหนักมากอยู่ที่โรงพยาบาล แล้วเราก็กังวลมากว่าเขาจะรอดไหม เราจะทำยังไงดี มีวิธีรักษาอะไรไหม มีเทคโนโลยีอะไรใหม่ๆไหม เราต้องทำยังไงให้เขารอด เขาจะรอดหรือเปล่า อ้าว…เมื่อกี้พูดซ้ำแล้วนี่! ใช่มั้ย วนแล้ว สมองคุณก็จะเป็นแบบนี้ครับ เขาจะรอดหรือเปล่า ต้องทำยังไงดี เอ๊ะ…พรุ่งนี้เขาจะไปไหม จะไปกี่โมง แล้วมีอะไรต้องทำต่อไหม ต้องหาหมอหรือเปล่า เขาจะรอดไหมเนี่ย เนี่ยมันจะวนอย่างเงี้ยครับ แล้วมันไม่ออกไปไหนเลยนะครับ ให้เราเขียนออกมา เขียนออกมาว่าเรากลัวอะไรมากที่สุด แล้วสุดท้ายพอเรารู้ว่า โอเค…คนๆนี้เขาอาจจะไม่รอดนะครับอาจจะ แต่ว่าสิ่งที่เราทำได้คือทำเต็มที่ ทำเต็มที่นะครับ แล้วก็ลองดูว่าสิ่งอะไรที่เราทำได้ หาข้อมูล หาข้อมูลจากคุณหมอถามให้ละเอียดไปค้นข้อมูลโรคโรคนั้นลองดูซิว่ามีอะไรที่เราพอทำได้บ้าง เราทำตามนั้นนะครับ และเมื่อเราทำเต็มที่แล้วผลสุดท้ายที่มันจะออกมายังไงมันไม่ใช่สิ่งที่เราควบคุมได้
เป็นคุณหมอคนเดียวที่ไม่ขายของ ไม่ขายคอร์สเหมือนหมอบางคน ขอบคุณคุณหมอมากๆครับ
ขายของไม่ผิดครับ แต่ที่ผิดคือการให้ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนเพื่อประโยชน์ในการขายสินค้าหรือคอร์สของตน บางคนเจตนาทั้งๆที่รู้ว่าการปกปิดข้อมูลบางส่วนนั้นผิด หมอประเภทนี้แย่มากครับ
ติดตามมา1ปีกว่าละ
มีหมอวีรพันธ์อีกคนค่ะไม่ขายคอสให้คำแนะนำจากใจจริงคุณหมอเเนะนำธรรมมะด้วยค่ะให้คนไข้รักษาด้วยทางโรคและทางธรรม😊
จะขายก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรนี่ครับ
@@PibulpatKrai-nq6srอารมณ์แบบจะหนีร้อนไปพึ่งเย็น แต่ไปเจออุ่นแทน กำลังทุกข์ อยากได้แนวทาง แต่ไปไม่สุด ต้องไปเรียนในคอร์สถึงจะได้แนวทางที่แท้จริง 😅
“ เป็นคนชอบคิดมาก วิตกกังวลตลอดเวลาค่ะ “ วิธีที่ทำแล้วได้ผลคือ การเขียน ไดอารี่ จริงๆๆค่ะ .. แต่ที่ทำอยู่คือ เวลานั่งทำงาน จะเอาสมุดไว้ข้างๆตัว พอเริ่มคิดปุ๊ป เขียนเลย คิดเรื่องอะไร กังวลเรื่องไหนก็จะเขียนลงไปเลยคืะ ทำแบบนี้ตลอดทั้งวัน ที่คิดวนไปวนมา ( ด้วยงานที่ทำมันสามารถทำได้ ) แล้วผลคือ สมองมันจะโล่ง ความวิตกกังวลน้อยลงมากๆ มันดีมากๆๆ 🎉 .. (และตื่นเช้ามาก็เขียน ก่อนนอนก็เขียน นะคะ ) จะบอกว่า เริ่มเขียนได้4-5วัน คุณหมอก็มาพูดเรื่องนี้ ตรงประเด็น ตรงใจมากๆเลยค่ะ ❤ ขอบคุณ คุณหมอมากๆ ค่ะ
น่าสนใจ ขอบคุณที่แชร์วิธี จะลองนำไปปรับใช้ดูบ้างครับ
มันยิ่งไม่เหมือนไปรีพีท ความคิดหรอคะ 🙏🏻
น่าจะเหมือนว่าเราได้เอาสิ่งๆนั้นออกจากความคิดมาไว้บนกระดาษมากกว่าครับ เราจะสบายใจว่าไม่ว่าความคิดนั้นคืออะไร เราจะกลับมาดูมันได้อีกครั้ง ไม่ลืมแน่นอน@@positivevibes920
จริงค่ะ เราเขียนเป็นเล่มเลย บางหน้าขีดเละ วาดรูป แต่มันโล่งมากๆ ลองดูนะคะทุกคน
@@positivevibes920ไม่ค่ะ พอเราเขียน เราจะเริ่มแยกตัวเองออกมาค่ะ จัดระเบียบไม่ให้มันวนในหัว เราเขียนเยอะมากค่ะ ได้ผลจริงๆ บางทีได้ทางออกด้วย ลองดูนะคะ
คลิปใหม่มาแล้วค่ะ...
หัวข้อวันนี้ เรื่อง... วิตกกังวล ไม่สบายใจ คิดวนไปมา -- ลองวิธีนี้
1. หาต้นตอของความวิตกกังวลต่างๆว่ามาจากอะไร
2. เขียนเรื่องราวที่ท่านกำลังวิตกกังวลอยู่ออกมาว่า มันคืออะไร เขียนรายละเอียดทุกอย่างออกมา แล้วค่อยๆนั่งวิเคราะห์ความกังวลเหล่านี้ทีละอย่างๆ ถ้ายังกังวลอยู่ก็ย้อนกลับไปวิเคราะห์ใหม่
3. สร้างกิจวัตรประจำวันออกมา ใส่กิจกรรมต่างๆลงไปในทุกๆช่วงเวลาเพื่อตัดวงจรความวิตกกังวล
4. ออกกำลังกายเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ เพราะการนั่งคิดถึงสิ่งที่เรากังวลไม่ได้ทำให้ความกังวลหายไป แต่ให้ลุกออกไปออกกำลังกายดีกว่า ลุกขึ้นมาทำบางอย่างที่มีประโยชน์กับตัวเราดีกว่า
5. เลิกเสพข่าว หรือ ข้อมูลด้านลบ เพราะหลายครั้งที่ความวิตกกังวล เกิดจากการเสพข่าวสารหรือ ข้อมูลที่เป็นด้านลบ ดังนั้น การหลีกเลี่ยงแรงกระตุ้นในด้านลบ ก็จะช่วยลดความวิตกกังวลของท่านได้
6. ปล่อยวางและคิดเสมอว่า ท่านทำอย่างเต็มที่แล้ว ท่านทำดีที่สุดแล้ว ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นและมูฟออนต่อไป
7. ดูรูปน้องโรซี่อ้อนแดดดี๊ 🥰
@@CherryChonny โรซี่ทำหน้าอ้อนน่ารักที่สุดเลยค่ะ😍
ขอบคุณค่ะคุณทริป🙏🥰
@@nung-noppapat ยินดีค่ะคุณหนึ่ง😍😘
8.ดูคุณหมอเล่นของ 😂🤣เล่นของเล่นเป็นเด็ก
ใช่เลยครับ บางคนบอกว่าเป็นโรคที่ได้ยินเสียง พอเข้าเสียงที่เราได้ยินราวกับหลอกหลอน มันก็แค่เสียงด่า ว่าดูถูกที่มาจากคนนอก
ขอบคุณคุณหมอ นอกจากจะเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้ว ยังเป็นนักปราชญ์ที่มีมุมมองที่ดีเสมอ 🙏🙏
ชอบประโยคที่คุณหมอพูด “ทำเต็มที่ ทำให้ดีที่สุด คนเรามีหน้าที่เกิดมาแล้วทำให้เต็มที่” จริงที่สุดค่ะ ณ เวลานั้น เราไม่รู้หรอกเพราะมันเพิ่งเกิดขึ้นกับเราครั้งแรก เราไม่มีประสบการณ์ มีข้อมูลเท่านั้น มัน heal ใจมากค่ะ เพราะตอนนี้มีน้องหมาสุดที่รักป่วย มีหลายโรค น้องแก่ด้วย เราเครียดเพราะน้องผอมมากค่ะตอนนี้ มีปัญหาเรื่องไม่ค่อยดูดซึมอาหาร เราจะดูแลน้องให้ดีที่สุด เพื่อว่าเราจะได้ไม่เสียใจทีหลัง ขอบพระคุณคุณหมอมากๆ นะคะ ขอให้ใจที่คิดดีและแบ่งปันให้ผู้อื่นของคุณหมอพบแต่ความสุขในทุกด้านของชีวิตนะคะ
คุณหมอเป็นหมอที่ปรึกษาชีวิต.คุยได้ทุกเรื่อง..ดีมากๆครับ..
ผมก็เป็นเครียดสะสม กังวล ตึงเครียด “วิตกจริต” แปลกดี เป็นมาตลอดชีวิตตั้งแต่เด็ก ถูกกดันทางความคิด ตอนนี้พยายามฝึกจิตสมาธิครับ รับข่าวสารและสื่อสมัยใหม่น่าจะมีส่วนมากๆ🎉🎉🎉
ใช่คุณหมอไม่ขายของ พูดให้ฟังดูดีวิเคราะห์ได้ตามที่พูด
◾สำหรับผู้ที่เป็น "โรควิตกกังวล" คือ มีความกังวลมากกว่าปกติ ซึ่งสาเหตุของโรคนี้อาจจะเกิดจากความผิดปกติทางจิตใจ หรือความไม่สมดุลของสารสื่อประสาทในสมอง ซึ่งอาจเกิดจากพันธุกรรมก็ได้ รวมถึงอาจเกิดจากสภาพแวดล้อม การเลี้ยงดู หรือการเลียนแบบพฤติกรรมจากพ่อแม่ หรือคนใกล้ชิด การประสบกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่ก่อให้เกิดโรควิตกกังวลจนส่งผลกระทบกับจิตใจและร่างกาย
◾ใครที่กังวลจนถึงขั้นเป็นโรควิตกกังวลสามารถไปพบจิตแพทย์เพื่อทำการพูดคุย เพื่อการประเมินโรคทางจิต ก่อนวางแผนการรักษา ซึ่งการรักษาโรควิตกกังวลสามารถรักษาให้หายขาดได้... และปัจจุบันการพบจิตแพทย์สามารถทำได้ง่ายขึ้น ไม่จำเป็นต้องเขินอาย หรือกลัวการเข้าพบจิตแพทย์ เนื่องจากการเข้าพบจิตแพทย์ไม่ต่างอะไรกับการหาที่ปรึกษา เหมือนการหาเพื่อนช่วยรับฟังปัญหา เพียงแต่เพื่อนในที่นี้คือแพทย์ที่มีหลักการรักษา ให้คำแนะนำต่างๆ และบางครั้งอาจจะจำเป็นต้องรักษาด้วยยาที่เหมาะสม
◾แม้แต่คุณหนุ่ม กรรชัย จ้ดรายการโหนกระแสจนไม่รู้ตัวว่า ตัวเองสะสมความเครียดมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะแต่ละเรื่องเป็นกระแสข่าวดังทั้งสิ้น... จนวันหนึ่งคุณหนุ่มตัดสินใจไปพบจิตแพทย์ จนสามารถรับมือกับปัญหาต่างๆได้ดีขึ้น ไม่นำเรื่องราวต่างๆมาคิดวิตกกังวลอีกต่อไป...
พี่หนุ่มกรรชัยแกเป็นเพนิคครับ
มีทางหายไหมครับ
@@SaharatSatsamai มีทางหายค่ะ คือผู้ป่วยต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และต้องปฎิบัติตามคำสั่งแพทย์และทานยาที่หมอสั่งอย่างสม่ำเสมอค่ะ
คุณหมอเป็นคนฉลาดรู้ทันความคิดเลยไม่ทุกข์และยังมีเมตตาแบ่งปัน❤❤❤ ตอนยังเด็กคุณแม่เป็นโรควิตกกังวลซึมเศร้านอนไม่หลับเคยกินยานอนหลับฆ่าตัวตายกินยกขวดเลยเพราะแม่ทรมานมากนอนไม่หลับ หามส่งโรงบาลหลับอยู่ 3 วันหมอล้างท้องให้ แม่เล่าให้ฟังว่าคิดแต่วิธีฆ่าตัวตายว่าจะทำอย่างไร เคยบอกแม่ว่าอย่าคิดมากคุณแม่บอกว่าไม่ได้คิดมันมาเอง ตอนเป็นเด็กประถมก็ไม่รู้ว่าจะช่วยยังไงพอเรียนม.ปลายก็เริ่มนั่งคุยบ่อยๆคอยช่วยงานในบ้านในร้านค้าทุกอย่างจนแม่บอกว่าโอ้ยไม่เหลืออะไรให้แม่ทำเลย ดูแม่สบายใจขึ้นมากแต่ยังทานยาอยู่ หยุดยาเมื่อไหร่โรคกลับมาอีกมีอะไรมากระทบโรคก็กลับมาอีก สภาพแวดล้อมในครอบครัวสำคัญมาก ลูกเยอะแต่ละคนก็มีปัญหาต่างกันเลยต้องกินยาตลอดชีวิต ตอนนี้ท่านหมดทุกข์แล้วค่ะไปเป็นนางฟ้าแล้ว แม่เป็นเสาหลักของบ้านถ้าไม่มีแม่คงไม่ได้เรียนขอบคุณนางฟ้าของลูก
บางครั้งวิตกไปล่วงหน้า พอถึงเวลาจริงๆมันก็ไม่เกิดอย่างที่คิด เพราะว่าจิตมันสั่งกาย ต้องพยายามให้กายชนะจิตให้ได้ พอชนะเราก็มีแต่ความสุข
แนะนำเข้าใจง่ายมากค่ะ นำไปใช่ได้จริงขอบคุณค่ะ😊❤
เป็น content ที่มีคุณค่ามากๆเหมาะกับคนในยุคปัจจุบันมากๆ
ปรัชญาล้วนๆช่วงท้ายคลิปเข้าใจมากๆเลยค่ะ
1 การเขียนสิ่งที่กังวลให้ออกจากหัว 2 บริหารกำลังใจให้สม่ำเสมอ คำนี้ดีจริงๆ เป็นการสร้างพลังจากข้างใน
3 สร้างทักษะการ ช่างมัน และตัดใจในอดีตได้ focus ปัจจุบันแล้วเรื่องที่กำลังจะเกิดข้างหน้าเท่านั้น จริงๆคือ สมาธินะเนี่ย เลิศมากค่ะ รักคลิปนี้
ถ้ามีเรื่องไม่สบายใจ ทำให้คิดมาก การปล่อยวางเป็นเรื่องยากมากเลยค่ะ ตอนนี้ได้แต่ออกมาจากสถานที่ๆทำให้เราไม่สบายใจ แล้วหาอะไรทำ เพื่อไม่ให้เรากลับไปคิดวน หาเพื่อนมาเพื่อฟังเราระบายทุกข์ และแสดงความเห็นกับสิ่งที่เราจะไปเผชิญกับปัญหาอย่างสร้างสรรค์ค่ะ
ขอบคุณมากครับ สำหรับคำแนะนำ
ผมจะลองใช้ดู จะได้สบายใจขึ้นเวลาโดนกดดัน
ขอบคุณครับ🥰
สวัสดีค่ะคุณหมอแทน
เราไม่สามารถหยุดคิด หรือหยุดความวิตกกังวลได้ ไม่ว่าใครๆก็มีความวิตกกังวล อยู่ที่เราจะจัดการกับมันอย่างไร
หัดคิดอย่างเป็นระบบ พักเรื่องที่ยังมาไม่ถึง เรื่องที่เกินจำเป็นตัดออก เรื่องที่ควบคุมไม่ได้ให้ปล่อยวาง แต่บางเรื่องการปล่อยวางไม่ใช่เรื่องง่าย (ยากสุดๆ)
แท้จริงแล้วความคิดมาแล้วก็ไป แต่ที่เราทุกข์เพราะคิดแล้วยึด ไม่วาง
ทุกสิ่งมีความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ไม่ควรยึดมั่นถือมั่นในอะไรเลย ก็คือความรู้ตามความเป็นจริง เหมือนที่คุณหมอเคยพูดไว้ค่ะ
ขอบคุณมุมมอง แง่คิดดีดี ของคุณหมอแทนค่ะ
ใช้ได้จริงเสมอค่ะ 🏡🧡🏕
🎉🎉ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะคุณหมอ ยอดผู้ติดตาม500,000คนแล้ว🎉🎉
ขอบคุณมากค่ะสำหรับความรู้มากมายที่ได้รับ ตั้งแต่ติตามมา ขอให้คุณหมอสุขภาพแข็งแรง เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงานยิ่งๆขึ้นไป รุ่งเรือง รุ่งโรจน์ สดใส ต่อไปหนึ่งล้านไวๆนะคะ
กู๊ดมอร์นิ่งค่ะพี่หมวย... ครบ 5 แสนคนแล้ววววว 🎉ยินดีกับอาจารย์หมอด้วยค่ะ🎉
@@FragranzaTrippa มอร์นิ่งค่ะน้องทริป ลุ้นทุกวัน ดีใจมากค่ะ ช่องดี มีคุณภาพ อยากให้มีผู้ติดตามเยอะๆ
สวัสดีค่ะ ช่วงเวลาที่ คิดมาก และวิตกกังวลนั้น มีมากหลายครั้ง.หลายหนในชีวิต ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นความกังวลใจกับ คนอื่น ที่เรารัก และสัตว์เลี้ยง ที่เรารัก กังวลใจคิดซ้ำๆ ทุกข์ ที่เค้าป่วย หรือเค้าไม่สบายใจ กับตนเองนั้น จัดการได้ ไม่ยาก เพราะไม่คิดลบอยู่แล้ว ในทุกเรื่อง หาเหตุผลมาหักล้างความคิดลบได้ จากประสบการณ์เสมอมา เพราะไม่เอาเสียงคนอื่นมาไว้ในหัวเราค่ะ คุณจะพูดอย่างไรแนะนำอะไร ก็ตาม ถ้าเราคิดแล้วไม่ถูก ต้อง ก็เข้ามาในหัวเราไม่ได้ ทุกอย่างเราคิดเป็น เรารู้ว่าจะทำอย่างไร บางทีสิ่งที่คุณบอกนั้น มัน ไม่มีเหตุผลที่ดีคือ ผ่านเลย ที่กังวลแล้วกำจัดได้ยากคือความทุกข์ที่เห็นคนอื่นทุกข์ ทั้งๆที่รู้ว่า เราช่วยอะไรไม่ได้ ให้เค้ารอด ให้สัตว์รอด และตัวเราได้ทำอย่างเต็มที่ สุดท้าย ก็ปล่อยเค้าไป ตามกาลเวลา เราอยู่เลี้ยงดูกันเท่านี้ หมดเวลาก็ต้องจาก ไป ตายจาก หรือ ไปตามทางของแต่ละคน คือต้องปล่อยวาง เพียงแต่เราต้องยอมรับ ทำใจ ให้เข้มแข็ง
ส่วนการงานนั้น ทำด้วยความตั้งใจ ทุกเรื่อง ทุกครั้งอยู่ ผลจะออกมาอย่างไรก็ไม่ได้ทำให้เสียดาย แม้ทำดี ไม่มีใครเห็น แต่เรารู้ว่าเราทำอะไร เพื่อใคร ดีที่สุดแล้ว ก็ไม่กังวล ถ้าโดนว่ากล่าว ทางร้าย ก็ฟังไว้ เอามาแก้ไข ในการทำงานต่อไป ปัญหาถ้าไม่เกิด และเราไม่ได้ใช้สติปัญญาแก้ไข นั้นๆ นั่นต่างหาก น่าเสียดายให้ เอา สิ่ง ไม่ดี มาปรับ ให้มันดี จะดี กว่าเราจะภูมิใจ ปรับให้ดีขึ้น เด็กๆ เสียใจอะไรต่างๆแบบ หยุดคิดไม่ได้ พอโตขึ้น สิ่งที่เรากังวล กับคำพูดของเพื่อน ที่มีต่อเรา บางทีเราคิดไปเอง เพื่อนไม่ทราบด้วยซ้ำ เวลาผ่าน ความคิดเราจะเปลี่ยน ไป ตามอายุด้วย ขอให้คิด หาเหตุผล หาข้อสรุปให้ได้ ให้จบ เร็วที่สุด อย่าเก็บไว้นาน เรื่องร้าย ๆกับจิตใจ มันจะบั่นทอนจิตใจเรา คิดแบบนี้ได้ผล สำหรับตัวเองเสมอ
โชคดีที่ ตัวเองไม่ ใช่คนวิตกจริต ต้องอย่างนั้น อย่างนี้ เสมอ
🌿ใช้วิธีหาเหตุผล วิเคราะห์ บอกตัวเองว่า อย่าเอาใจตัวเองไปผูก กับเรื่อง อะไร หรือใครๆ มากเกินไป จนทำให้เราเสียความเป็นตัวของตัวเองไปค่ะ ใช่ค่ะ วางลงได้ ไม่แบกค่ะ คุณหมอยกตัวอย่างดีมากๆ ถือไว้นาน ก็หนัก นาน เมื่อยค่ะ 😊 ขอบคุณที่มาแชร์วิธีการ ค่ะ🙏
ช่วงนี้ที่กทม ฝนตกหนักมาก ☔️ มีวันนึง เรารถติด2 ชม แทบไม่ขยับ เราเซ็งมาก แล้วเราก็ลองมองดูคนข้างนอกกระจก เขาลุยน้ำท่วม เขารอรถเมล์นาน คนขับมอเตอร์ไซค์เปียกและกลัวน้ำกระเด็น คนตากฝนไม่มีร่ม จากนั้นเราก็ไม่บ่นละค่ะ แค่รถติด 🚙 🚗 แต่เรายังมีแอร์เย็นๆ และเท้าไม่เปียก และยังไงคืนนี้ก็ต้องถึงบ้านได้กินอาหารอร่อย แล้วรถก็หายติดเลยค่ะ คุณหมอ 😊
รอบหน้าขึ้นรถไฟฟ้านะคะ😊
ความคิดเยี่ยม มากๆค่ะ
หมายถึงเม้นท์ข้างบนนะคะ
สำหรับผมเวลาคิดอะไรวน ๆ ซ้ำ ๆ จนนอนไม่หลับ จะใช้วิธีจินตนาการถึงป่าไม้ ธรรมชาติ หรืออะไรที่สงบ ๆ ช่วงแรกก็จะฝืน ๆ หน่อย แต่พอทำไปแล้วก็จะเคลิ้มหลับไปเอง สำหรับบางคนที่ไม่เคยฝึกสมาธิแนะนำ Challange ตัวเองก่อนเลยว่าฉันจะไม่คิดอะไรแม้แต่เรื่องเดียวในหัว พยายามตามให้ทันความคิดว่าเรากำลังคิดอะไรอย่าเพลินไปกับสิ่งที่สมองสั่งออกมา
ขอบคุณกำลังใจที่ได้รับสม่ำเสมอ ขอบคุณพลังบวก👍💚🩵..
ชอบความคิดคุณหมอครับ เข้าใจโลก หวังดีต่อเพื่อนมนุษย์ และกล้าชนกับพวก... ทั้งหลาย ชอบครับ 👍🏻
วันนี้เพิ่งจะหายกังวลไปเรื่องนึงนะ กังว๊ลกังวล ใจคอยุกยิกไปหมด ตอนนี้หายเป็นปลิดทิ้งแล้ว เพระอาจารย์หมอแทนของพวกเรา *500K Sub* แล้วค่าาา ต้องกล่าวว่าเรายินดีนักๆนะคะ การที่ได้ยินเสียงอาจารย์แทนมาสอนทุกวัน ถือเป็นมงคลชีวิตมา 4-5ข้อเชียวนะ(จาก38ข้อ!) ไม่คบคนพาล-คบบัณฑิต(ถูกบัณฑิตดุบ้างนิดหน่อย 55)-บูชาคนที่ควรบูชา-มีวินัย-ขยัน(ฟัง)หมั่นเพียร-ตั้งตนชอบ สาธุ กราบขอบพระคุณอาจารย์หมอแทนอย่างจริงใจ ที่ให้ความรู้ ที่ตักเตือนเรื่องสุขภาพ ที่สร้างแรงบันดาลใจ และมีน้ำใจแบ่งปันอุทิศความรู้ในรูปแบบ playlist เป็นร้อยเป็นพัน ให้สาธารณชน
😊❤🎉🎉🎉
ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ ปกติก็ชอบคิดวนไปวนมาบ่อย ๆ ค่ะ แต่ก็ใช้วิธีเขียนอย่างที่คุณหมอบอกแล้วก็ได้ผลค่ะ ทุกอย่างค่อย ๆ ผ่อนคลาย รู้สึกเหมือนเราได้ทำสิ่งที่คิดไปเรียบร้อยแล้วค่ะ จริง ๆคือการเตรียมและทบทวนสิ่งที่จะทำค่ะ เมื่อถึงเวลาเราจะไม่มีความกังวลเกิดขึ้นค่ะ ขอบคุณคุณหมออีกครั้งค่ะสำหรับสิ่งดี ๆ ที่นำมาให้ในทุกๆ วันค่ะ
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณคะ
บางครั้งไม่ว่าทำยังไง มันก็ไม่หายกังวลได้ครับ มันยังคงวนเวียนในหัวอยู่ดี ทำยังไงก็ไม่หาย
เหมือนผมเมื่อปีที่แล้ว ผมเป็นโรค anxiety disorder คือกลัวตาย เป็น panic ด้วย ทำอะไรนิดหน่อยก็กลัวไปหมด หายใจถี่นิดเดียว ก็กลัวหัวใจวาย ไม่กล้าออกกำลังกาย นอนก็ไม่หลับ ฝันร้ายแทบทุกคืน จนร่างทรุดโทรม ผมไปเอายาจากหมอจิตเวชมากิน ก็ซ้ำร้ายหนักกว่าเก่า ซึม มึน ง่วง ทั้งวันทั้งคืน เหมือนซอมบี้เลย มันแย่มากๆ
กว่าผมจะผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายนั้น ก็ร่วมปี เมื่อถึงเวลา พอมันเป็นมากๆเข้า จู่ๆมันก็หายไปเองครับ ผมก็งงเหมือนกัน อาการที่ว่ามา หายเป็นปลิดทิ้ง เหมือนไม่เคยเป็นมาก่อน 😅 จนคิดว่าเราไปโดนใครเล่นของใส่รึป่าว ถึงเป็นไปได้ขนาดนั้น
อย่างคำที่พระพุทธเจ้า เคยพูดไว้
ทุกข์เท่านั้นที่เกิดดับ คือต่อจะให้ทุกข์แค่ไหน ในที่สุดซักวันมันก็จะหายไปเอง ต่อให้เราไม่ทำอะไรกับมัน มันก็จะหายไปเอง เมื่อวิตกกังวลมากๆ จนถึงจุดนึง มันก็จะเลิกกังวลไปเอง คล้ายๆกับว่ากังวลจนเหนื่อยแล้ว กังวลจนเบื่อแล้ว มันก็จะล้า และเลิกกังวลไปเอง 😂
บางครั้งที่ว่านี่ ผมว่ายังไม่เคยเขียนมันออกมาครับ
โชคดีจังค่ะหายได้เร็ว
ขอบคุณค่ะ😊
ขอบคุณค่ะ ❤
ขอขอบคุณ
ขอบคุณ
ขอบคุณค่ะ.มากๆค่ะ.
ขอบคุณค่ะคุณหมอ
ขอบคุณจากใจค่ะ
ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ🙏🏻
ขอบคุณครับ 👍💪🌈
ขอบคุณนะครับคุณหมอ
ขอบคุณค่ะคุณหมอ ❤
ขอบคุณ คุณหมอ❤❤❤❤
ขอบคุณมากครับอาจารย์หมอ❤❤❤
ขอบคุณมากคะ
ขอบพระคุณมากค่ะคุณหมอ
จริงแบบที่คุณหมอบอกนะคะ การวิ่ง การออกกำลังกายทำให้เราอารมณ์ดีขึ้น อารมณ์มั่นคง บวกกับการกินอาหารที่มีประโยชน์ด้วย อารมณ์และจิตใจไม่ขุ่นมัวค่ะ
ขอบคุณมากๆคะ คุณหมอ ❤❤
🙏🙏ขอบคุณค่ะ คุณหมอ🙏🙏🙏
ขอบคุณคุณหมอมากจริงๆค่ะ
ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ ❤
ขอบคุณคุณหมอมากๆนะคะที่แบ่งปัน🙏
ขอบคุณมากค่ะ
ขอบพระคุณ อาจารย์หมอมากค่ะ
ขอบคุณนะคะคุณหมอ
😊ขอบคุณอจ.หมอมากนะคะ🎈🎈
ขอบคุณอาจารย์มากครับ
ขอบคุณค่ะอาจารย์🙏🥰
โดนใจมากค่ะ มีประโยชน์ที่สุด
ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ
ขอบคุณคุณหมอมากๆค่ะ
ขอบคุณคุณหมอมากครับ
ขอบคุณ คุณหมอค่ะ จะทำตามดูค่ะ
ขอบคุณครับ...😮😮❤คุณหมอ
ขอบคุณครับ ผมชอบฟังมากเลยคับ
ขอบคุณค่ะ🙏❤🎉
ขอบคุณค่ะ
ใช่ค่ะคุณหมอ คุณหมอพูดถูกต้องเลยค่ะ สาธุ สาธุค่ะ
😢😢😢ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณค่ะคุณหมอ Tany😋
ขอบพระคุณครับ
ขอบคุณครับ คลิปดีมาก
สวัสดีครับรับชมอยู่ครับ
ขอบคุณคริปนี้ค่ะ❤❤❤❤❤
ขอบคุณครับคุณหมอ
ขอบคุณคะ คุณหมอ
ขอบคุณคลิปดีดีมากค่า คุณหมอ ^^
ขอบคุณมากๆค่ะคุณหมอ❤
ขอบคุณมากๆจ้า คำแนะนำ กำลังใจ ❤❤❤
รักคุณหมอมากๆเลยค่ะ
ขอบคุณ คุณหมอมากครับ
กำลังเป็นพอดีเลยครับ ขอบคุณมากครับคุณหมอ 🙏🙏
ขอบคุณมากครับ สำหรับcontent ดีๆ ที่ทำตามได้จริงครับ :)
สวัสดีค่ะคุณหมอ ขอบคุณที่มาแบ่งปันนะคะ😊😍😍
🙏❤️ขอบคุณ คุณหมอมากๆน้ะจ้ะ
สวัสดีค่ะคุณหมอ❤
ขอบพระคุณมากค่ะคุณหมอ^^
กลับมาฟังย้อนหลังค่ะคุณหมอ ❤❤❤
ดี คลิปนี้
ดีมากๆๆคะจะนำไปปฏิบัตินะคะ ขอบคุณคุณหมอคะ
ขอบคุณคลิปดีดีของคุณหมอนะคะ
เครียดอยู่ ๆ คับ ขอบคุณที่แชร์คับ
500,000 แล้วค่ะ เย้ๆๆ ฉลองๆๆ 🥳👍🎉🎉
สวัสดีค่ะ🙏คุณหมอจิตใจดีงาม มีความคิดที่ดี เป็นคนน่ารักมากๆค่ะ ชื่นชมค่ะ😊🌷⚘️💐
Sabaidee อาจารย์Doc 🙏 thank you 🙏 ค่ะ for share
ขอบคุณนะคะ คุณหมอ
สวัสดีค่ะ คุณหมอ
อ๊ะ 500k แล้วรึคะ ยินดีด้วยน้า ติดตามมาตั้งแต่โควิดซีซั่นแรก ยอดเยี่ยมที่สุดเลยจ้า 🎊🎉🎁🎉🌈
คลิปนี้ดีมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ 🥹
สวัสดีค่ะคุณหมอ🙏 และขอขอบคุณๆหมอตลอดเวลาค่ะ🙏♥️☘️
ขอบคุณมากๆนะคะ ติดตามตลอดได้ความรู้ ต่างๆมากมาย ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ จะนำไปใช้นะคะ เป็นประโยชน์มาก ๆ ค่ะ