ผมว่าเราไม่มี free will ครับ เพราะ เราถูก shape จาก external world เสมอตลอดเวลา และ biological body ที่ unconsciously function behind consciousness เพราะ being เรา existence ใน ontology แบบมนุษย์แต่เรามี freedom ในการเลือกในสถานการณ์ต่าง ๆ ครับแบบ existentialism (action and meaningfully decision tie with responsibility) ครับ
คนยังไม่มีทางยอมรับ ai ที่ sentient คนเราก็ถูกโปรแกรม hard code มาตั้งแต่ใน genetic อยู่แล้ว คำว่าเสรีมัน meta ขึ้นไปได้เรื่อยๆ จะเอาตรงไหนดีถึงเรียกว่าเสรี ต้องเสรีจากกรรมพันธุ์เลยหรือไม่ ethic และ moral หรืออื่นๆ
00:35 อะไรทำให้มนุษย์ต่างจาก AI
04:48 เจตจำนงเสรีคืออะไร
12:24 แนวคิดที่เชื่อว่าเรามีเจตจำนงเสรี
21:32 แนวคิดที่เชื่อว่าเราไม่มีเจตจำนงเสรี
31:18 ทำไมต้องเชื่อว่าเรามีเจตจำนงเสรี
39:35 ต้องรับผิดชอบแค่ไหน ดูจากอะไร
46:52 AI ต้องรับผิดชอบอะไรไหม
49:28 คำถามทิ้งท้าย
คุยเรื่องลึกซึ้งกันมากเลยครับ ชอบที่โยงเข้ามาแนวคิดในเรื่องกฏหมาย ดูเขาผ่านความคิดมาเยอะเลย
ส่วนตัวผมจะคิดว่าเจตจำนงเสรีจะมีหรือไม่ก็ตาม แต่เราต้องตัดสินใจ เพื่อผลลัพธ์ต่อชีวิตเรา อันนี้น่าจะเป็นเรื่องจริง
มีเรื่องอยากแชร์ครับ
สมองเราปกติมันจะมีระบบออโต้อยู่โดยเรียนรู้จากประสบการณ์ ความคิด การตัดสินใจ รวมไปถึงการรับรู้เช่น ตัดเสียงที่ไม่จำเป็น หรือ หรือการมองเห็นต่างๆ แต่ถ้าคนได้ฝึกสมาธิ ฝึกสติจะมองเห็นว่าเรากำลังคิดอะไร ทุกช่วงขณะ การตัดสินใจมันจะเล็งเห็นผลลัพธ์ เราก็เลือกทำเพื่อตัวเรา และคนอื่นๆถ้าทำได้
ชีวิตเราผมว่ามันเล็กน้อยนัก ไม่ได้สำคัญอะไรกับจักรวาลนักหรอก แต่เราเลือกที่จะมีคุณค่าต่อตัวเราและคนอื่นๆได้
ผมว่ารายการทำคอมมูนิตี้ก็ดีนะครับ แบบ fb group หรือ อื่นๆ เผื่อคนที่เขาชอบแนวนี้คุยกันยาวๆ
วิเคราะห์เรื่อง Free will แบบที่2 แล้วนึกถึง อิทัปปัจจยตา(ทุกๆอย่างเป็นไปตามเหตุปัจจัย) เลยครับ ถ้าวิเคราะห์ตามศาสนาพุทธแล้ว เราก็ไม่มี free will หรอกครับ เพราะขันธ์ 5 เป็นไปตามหลัก อิทัปปัจจยตา - ปฏิจสมุปบาท แม้แต่จิต ก็เป็น 1 ใน ขันธ์ 5 ยกเว้นออกจากระบบขันธ์ 5 ได้ เช่นพระอรหันต์ ดังนั้นปุถุชนก็ไม่ต่างจาก AI หรอก แม้แต่เรื่องเรื่องความคิดสร้างสรรค์ AI จะเก่งกว่าด้วยซ้ำ สิ่งที่คนมีแต่ AI ไม่มี แต่คนมีก็คือ สัตตานังหรือผู้ที่เข้ามายึดติด แต่ปุถุชนจะไม่ aware ตรงนี้ ถ้าวิเคราะห์ เส้นแบ่งระหว่างผู้ที่เข้ามายึดติด กับระบบขันธ์ 5 (ระบบ AI) ซึ่ง free will ตามหลักวิทยาศาสตร์ ก็น่าจะอยู่ในระบบ ขันธ์ 5 นอกจากจะกำจัดอวิชชาออกไปได้แล้ว
จริงครับ สมัยผมอ่านเรื่องนี้ใหม่ๆ นี่ก็รู้สึกเลยว่า โหว พุทธศาสนานี่กำลังดีเบตเรื่องเจตจำนงเสรีนี่หว่า ทำไมสมัยเรียนครูไม่เคยตีความพุทธในแง่นี้ให้ฟังบ้างเลย 😂😅
ไม่มี free will อย่างแน่นอน ควอนตัมฟิสิกส์บอกอย่างนั้น
@@akachi249อยู่ในไตรปิฎกบทไหนครับ ไม่แย้งกับหลักอนัตตา หรือ?
@@pknnnครูกระทรวงศึกษา ยิ่งจบราชภัฎ สอนประถม มัธยม น้อยมากที่เคยเรียนปรัชญา
@@wongtong8735 เศร้าตรงนี้แหละครับ พุทธศาสนานี่มีแง่มุมให้คิดมากมาย แต่สุดท้ายกลายเป็นวิชาท่องจำขั้นสุด 😅
รักรายการนี้มาก ดูแล้วเอาจริง ๆ ก็ตอบยาก ว่าคิดอย่างไร บางอย่างเราก็รู้ว่าเป็นแบบนี้ แต่มันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นตลอดโอ๊ยคือพูดยากตอบยาก แต่ชอบฟังเยอะ คิดว่า ถ้าเราฟังเยอะ ๆ จากนักคิดดี ๆ เราก็น่าจะมีคำตอบที่ดีขึ้นด้วย
ชอบผู้ดำเนินรายการนะครับ มีวิธีการ ตอบสนองแบบเป็นธรรมชาติ ดี ไม่โชว์เก๋าดี น่ารำคาญ
ให้ว่าเป็น ep ที่ชอบที่สุดเลย
หัวข้อมันพาเราไปลึกมากๆ แต่ผู้ดำเนินรายการไม่ได้ทำให้เข้าใจยากขนาดนั้น
คือมันเป็นเรื่องนามธรรมที่อธิบายเป็นคำพูดได้ยากและไม่ใช่ทุกคนจะเข้าใจ แต่คุณภาคินทำให้มันฟังง่ายย่อยง่ายและคิดตามได้ทันแบบไม่สติหลุด จึ้งมาก เริดค่ะขอชื่นชม
ส่วนใหญ่ฟังใน apple podcast ครั้งนี้มาฟังใน TH-cam ได้เห็นภาพประกอบ ฟิลลิ่งดีขึ้นมากๆ
เนื้อหาสื่อคุณภาพ 🤘🏼🙏 ขอบคุณผู้ดำเนินทั้ง2ท่าน
I enjoy every episode of you two!
the voice tone and your chemistry are easy to consume
ช่องนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ การส่งคำถามและการให้คำอธิบาย❤❤ กำลังสนใจพอดี สุดท้ายแล้วเราก็ได้รับผลจากการตัดสินใจเลือก 😢ผมเลือกในการถนอมจิตใจคนที่ผมรักแต่คนที่ผมรักมีถึงสามคนสุดท้ายเสียหมด😢 พวกเค้ารักผมแต่ต้องเป็นแบบที่เค้าอยากให้เป็น😂😂😂
19:40 อันนี้ไปต่อช่องเพื่อนบ้านเลยค่ะ ปลาส้มๆ เรื่องลำดับพระพุทธเจ้า ว่าพระโคดมเคยเจอกับพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ แล้วทำนายไว้ว่าโคดมจะมารับตำแหน่งต่อ แล้วพอทำนายแล้วดันลาออกไม่ได้เสียด้วย 😂
ดีครับ เป็นรายการดีๆทุกวันศุกร์ ทำให้ได้ย้อนคิดอะไรเยอะเลย
มาถึงเรื่องของชีวิต Free will แล้ว
อยากให้มีตอนใหม่ๆพูดไปถึงเรื่อง Existentialism, Nihilism และ Absurdism เลยครับ
ฟินมาก รายการยาว 50 นาที ชอบหัวข้อดีฟๆแบบนี้ค่ะ
ชอบที่พี่ฟางยกตัวอย่าง Pual Sarte มากคับ อยากฟังยาวๆเลย ติดตามนะค้าบ
เมื่อเดือนกุมภาซึ่งเป็นเดือนเกิด ได้ตัดสินใจลงชื่อบริจาคอวัยวะให้นศพ.และบริจาคดวงตา เริ่มแรกตั้งใจบริจาคเพราะรู้สึกว่าร่างกายเราในเมื่อหมดเวลาใช้แล้ว ก็ให้คนอื่นไปใช้ประโยชน์ต่อดีกว่า เป็นความรู้สึกอยากแบ่งปันเท่านั้น
แต่น่าแปลกใจ ที่หลังจากกดปุ่มยินยอมบริจาคเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่รู้สึกเพิ่มเติมขึ้นมาในใจคือ เห้ย freewill ชีวิตเป็นของเราว่ะ เป็นการตัดสินใจของเราแท้ๆเลย แม้แต่ตอนที่เราจะตาย เรายังเลือกก่อนได้เลยว่าตายแล้วร่างกายเราจะถูกจัดการยังไงหรือไปอยู่ตรงไหน
แล้วอีกแง่หนึ่ง อยู่ๆคำถามที่ว่า “ตายแล้วไปไหน” ที่มันสงสัยอยู่ลึกๆในใจก็ได้รับคำตอบอย่างเป็นรูปธรรม เพราะเราเห็นภาพแล้วว่าตายแล้วร่างของเราจะไปอยู่ที่ไหน
มันเป็นความรู้สึกแปลกใหม่มาก ไม่เคยรู้สึกปลอดโปร่งแบบนั้นมาก่อนตั้งแต่เกิดมา 26 ปี (หรืออาจจะเคยรู้สึก แต่รู้สึกในช่วงที่ยังจำความไม่ได้)
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าเราตายไปแล้วแต่ญาติไม่ยอมให้ร่างเราไปอยู่ในที่ที่เราเลือกก็คงทำไรไม่ได้แล้ว5555555 ตอนนั้นไม่มีฟรีวิลล์แล้วแม้แต่น้อยย55555
สนุกมากค่ะ ฟังเพลิน และได้มุมมองอีกมุมมองดีนะคะ รอชมอีพีต่อไป ชอบพี่ๆ❤❤❤
ฟอเรสกั้มเคยพูดว่า
ผมไม่รู้ว่าคนเราต้องลิขิตชีวิตมั้ย(free will)
รึว่าแค่ล่องลอยไปตามลมเท่านั้น(Determinism)
แต่ผมว่ามันน่าจะถูกทั้งคู่อาจเป็นได้ทั้งสองอย่างพร้อมๆกัน(compatibilism)
ผมคิดถึงคุณนะเจนนี่(Perception)
ชอบเนื้อหาในช่วงนาทีที่ 40 กว่าๆ มากค่ะ เราควรตั้งคำถามเกี่ยวกับความรับผิดชอบของคนกลุ่มนั้นมากกว่าที่เป็นอยู่จริงๆ
เรื่องความรับผิดชอบในการตัดสินใจ จากที่ฟังตัวเรามีแนวโน้มจะเป็นแบบ Libertarianism เลยคิดว่าเราต้องมีความรับผิดชอบต่อการตัดสินใจ 100% นะคะ ต่อจะให้เป็นสถานการณ์บังคับ เช่น นายสั่ง เราไม่อยากทำจริง ๆ เรามีอีก 100 ช้อยส์ที่จะแก้ไขสถานการณ์ ลาออกก็เป็นหนึ่งในนั้น 😅 แต่การตัดสินใจของเรามันอยู่บนแนวคิดที่ว่า "ต่อให้สถานการณ์นี้ผ่านมาอีก 100 ครั้ง (ตั้งแต่อดีตจนถึงจุดที่ตัดสินใจ ไม่รวมอนาคต) เราก็ยังคิดแบบนี้" ถ้าเรารู้จักตัวเองเป็นอย่างดี สิ่งที่เราตัดสินใจเราก็พร้อมรับผิดชอบหมดไม่ว่าผลจากการตัดสินใจนั้นจะดีขึ้น หรือแย่ลง (แน่นอนว่าตอนตัดสินใจเราไม่รู้หรอก) แต่สิ่งที่ทำไปแล้วขัดกับ true self ของเราต่อให้ชีวิตข้างหน้าจะดีขึ้น เราก็จะเสียความมั่นใจในการตัดสินใจและรู้สึกขัดแย้งกับตัวเองไปตลอดชีวิต
อย่างที่ครูภาคินกล่าวในอีพีก่อนแหลค่ะ ชีวิตที่ดีคือชีวิตที่เลือกได้ แต่ขอเติมว่า เลือกผิดหรือถูกไม่อาจตอบได้แต่เลือกที่เป็นตัวตนของเรายังไงก็มีคำตอบเดียว
ถูกกำหนดไว้แล้วทุกสรรพสิ่ง
ผมว่าเราไม่มี free will ครับ เพราะ เราถูก shape จาก external world เสมอตลอดเวลา และ biological body ที่ unconsciously function behind consciousness เพราะ being เรา existence ใน ontology แบบมนุษย์แต่เรามี freedom ในการเลือกในสถานการณ์ต่าง ๆ ครับแบบ existentialism (action and meaningfully decision tie with responsibility) ครับ
รายการนี้ ช่วยเปิดโลก ให้ผมได้ออกมาจากกล่องใบเล็ก เปิดแล้ว เปิดอีก เปิดมากี่ EP แล้วเนี่ย ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะอยู่ในกล่องลึก ๆ หลายชั้นขนาดนี้ ..
ต้องขอบใจศาสดาเคน
เพราะมีสิ่งโน้นเกิดขึ้น สิ่งนั้นจึงเกิดขึ้น เป็นต่อเนื่องๆกันไป ตามเหตุปัจจัย
นึกถึงคำสอนของพุทธอันนี้เลยคับ
content ดีงาม คุณภาพจริงๆ
พิธีกรสวยจัง ยิ้มน่ารักสุดๆ รอยยิ้มทำให้ใจผมละลายเลย❤
ฟังดูคล้ายๆกับสิ่งที่ Buddha ตรัสรู้เลยครับ
เราเป็นเราเพราะเราเป็นเรา หรือเพราะคนอื่นบอกว่าเราเป็นเรา เขาบอกว่าเราชื่อนี้ นามสกุลนี้ อันนี้แขนนะ อันนี้ขานะ อันนี้พ่อ อันนี้แม่ แล้วก่อนหน้านั้นเราคืออะไร สิ่งๆนี้ไม่มีความทรงจำในท้องแม่ ไม่มีความทรงจำอะไรเลยตอน 1-2 ขวบ ความเป็นตัวเรายังไม่ถูกสร้างขึ้น แต่เพราะหลังจากนั้นสิ่งๆนี้ถูกป้อนข้อมูลเข้ามามากขึ้นๆ พอวัยนึง ฟังก์ชันการจดจำและบันทึกสมบูรณ์มากขึ้น และถูก activated ขึ้นมา Loop ของความเป็นตัวเราก็ค่อยๆถูกสร้างขึ้นต่อจากนั้นทันที ว่าอ่อ นี่ชื่อเรา นี่แขนเรา นี่ตัวเรา นี่พ่อเรา นี่แม่เรา นี่คือครอบครัวของเรา แล้วเราก็หลงอยู่ในสิ่งๆนั้น ยึดติด วนเวียนอยู่ใน Loop เพราะไม่เห็นหรือมีความเข้าใจตามความเป็นจริง ว่าสิ่งๆนี้แท้จริงไม่ใช่เรา และ ก็แท้จริงแล้วนั้นไม่เคยมีเรามาตั้งแต่แรก
Buddha บอกว่าเขาพยายามคิดมาทุกๆทางที่เป็นไปได้แล้วไม่มีวิธีอื่นเลยที่จะพาเหล่าสัตว์ออกจาก Loop นี้ได้ นอกจาก วิธีนี้ ที่เรียกว่า มรรค8 (มรรค แปลว่า way แหละ) และเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไม มรรค ตัวแรก ถึงต้องเป็น สัมมาทิฐิ (คือ มีความเห็นที่ถูกต้อง)
มันคือก้าวแรกที่สำคัญหรือเรียกว่าการสร้างเหตุที่ถูกต้องเพื่อไปถึงผลที่ถูกต้อง และ เมื่อมีความเห็นความเข้าใจที่ถูกต้องแล้ว ก็จะไปสู่ก้าวที่ 2 คือ สัมมาสังกัปปะ (คือ มีความคิดที่ถูกต้อง) พอมีความคิดที่ถูกต้องแล้ว ไปก้าวที่ 3 สัมมาวาจา (คือ มีการพูดออกไปอย่างถูกต้อง เพราะคนเราก่อนจะพูดอะไรออกไป ก็จะเกิดจากเป็นก้อนความคิดมาก่อน และความคิดก็เกิดจากความเห็นและความเข้าใจของคนนั้นๆ) จากนั้นก็ไป ก้าวที่ 4 ก้าวที่ 5 ไปจนถึง ก้าวที่8 จะเกิดไล่เรียงกันต่อๆมาตามลำดับ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือก้าวแรกแหละ ถ้าสร้างเหตุถูกต้อง ผลย่อมถูกต้อง Buddha อธิบายว่าทุกๆสิ่งที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นมาเพราะอย่างงี้ เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี เพราะสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้ย่อมไม่มี เพราะมีเหตุ จึงมีผล ถ้าปราศจากเหตุ ก็ไม่มีผล ภูเขาศักสิทธิ์ แม่น้ำศักสิทธิ์ เทพต่างๆ เทวดาต่างๆ หากสิ่งนั้นสามารถ ดลบันดาลสุขทุกข์ให้กับสัตว์ได้จริง สิ่งใดเล่าจะเสื่อม? Buddha said like this เพราะสิ่งทั้งหลายทั้งปวงล้วนเกิดจากเหตุ ถ้าไม่มีเหตุก็เกิดขึ้นไม่ได้ Buddha ถึงให้โฟกัสที่การสร้างเหตุให้ถูกต้อง
มีคำพูดของ Buddha ที่บอกว่า “ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา” เห็นเราที่ว่าหมายถึง “เห็นเหมือนเรา” เห็นสิ่งที่เราตรัสรู้ เห็นแบบเดียวกับแบบที่เราเห็น ว่าแท้จริงแล้ว ทุกสิ่งแค่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปทั้งสิ้น ทุกสิ่งมันเป็นเช่นนั้นเอง เกิดจากเหตุและผล จะว่ามีจริงก็ไม่ใช่ จะว่าไม่มีก็ไม่ใช่ เป็นเพียงแค่สภาวะนึง เหมือนฝนที่ตกลงมาแล้วพักนึง น้ำจากฝนพวกนั้นก็ระเหยแล้วหายไป เหมือนความร้อนที่ค่อยๆลดลงในแก้วกาแฟที่ตั้งไว้ในอุณหภูมิห้อง ที่มืดกับที่สว่าง แท้จริงแล้วก็คือที่เดียวกัน เราคือธรรมชาติ และ ธรรมชาติคือเรา
(กฎอิทัปปัจจยตา)
”เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี เพราะสิ่งนี้เกิดขึ้น สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น เพราะสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้จึงไม่มี เพราะสิ่งนี้ดับไป สิ่งนี้จึงดับไป“
- Buddha 🙏🏻 -
สาธุ
ไม่มีตรรกะอะไรในพระพุทธศาสนาครับ และไม่มีตรรกะอะไรในศาสนาอื่น ๆ ด้วย ในพุทธศาสนาสอนด้วยการสร้างกฎ เล่าเนื้อเรื่องอะไรต่าง ๆ แล้วให้ทำตาม เชื่อตาม แต่ในขณะเดียวกันก็บอกว่าอย่าเชื่อให้พิสูจน์ ซึ่งสุดท้ายแล้วก็ต้องเชื่อ เพราะตัวเรา (ผู้สอน) รู้แจ้งทุกอย่างแล้ว
พุทธศาสนาไฮไลท์ที่การก่อให้เกิดปัญญา แต่การสอนด้วยกฎ และความเชื่อเรื่องกรรมเวร ไม่ได้ช่วยให้เซลล์สมองพัฒนาขึ้นมีปัญญาขึ้น เพราะ การให้ทำตามกฎหรือศีลและการให้กลัวความผิดบาป เป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้สมองหยุดคิด การทำงานของสมองคือ ถ้าคุณเชื่อศรัทธามาก ความคิดด้านตรรกะความมีเหตุผลก็จะลดลงมาเท่านั้น หรือไม่ก็หายไปเลย
ฟิสิกส์คลาสสิคจะยอมรับว่าไม่มีเสรี ฟรีวิว แต่ถ้าฟิสิกส์ควอนตัม เรื่องฟรีวิวผูกอยู่กับจิตสำนึกหรือ consciousness ซึ่งก็จะผูกอยู่กับความเข้าใจ การสอนของทุกศาสนาในขณะนี้ ไปในทางไม่มีฟรีวิว คำสอนต่าง ๆ เน้นที่กฎ เหมือนในโรงเรียนที่เน้นกฎระเบียบ แต่ไม่มีเรื่องความเข้าใจ พนักงานทำงานไปก็ต้องตัดสินใจตามที่บริษัทคิด ฟรีวิว ความเข้าใจไม่มี ก็ไม่ต่างจาก chatGPTถ้าเข้าถึงคำสอนศาสนา 100% ผลก็ออกมาให้เราไม่ต่างจาก AI chatGPT ไม่มีความโลภ โกรธ หลง ทำตามกฎที่กำหนดมาแล้วอย่างเคร่งครัด ถ้าเป็นพนักงานบริษัทก็คือพนักงานชั้นยอด ที่ทำตามสั่งอย่างเคร่งครัด
ทำไมนักวิทยาศาสตร์ยังคงยึดติดกับฟิสิกส์คลาสสิก เพราะควอนตัมมันคำนวนหาค่าให้แน่นอนไม่ได้ เราตรวจจับหา consciousness ไม่ได้ ในทางศาสนามันก็คือวิญญาณ นี่แหล่ะแล้วมันอาจเกี่ยวข้องกับการแสดงค่าที่แน่นอนทางควอนตัม ฟรีวิวคือจิตสำนึก การศึกษา ศาสนา วัฒนธรรม ระบบอะไรก็ตาม เหล่านี้ที่สอนให้จำ มันเป็นอุปสรรคต่อการรักษาจิตสำนึกให้เรามีฟรีวิว คิดเองได้ คิดเองเป็น มีตรรกะ และมีเหตุผล ได้ด้วยตัวเอง ผมคุยกับ ChatGPT มาหลายรอบเรื่องนี้ แล้วมันใช่ เรื่องความชั่ว ความทุกข์ จิตตกอะไรต่าง ๆ ก็มาจากปัญหาทางสมองที่กถูกกระทบในระดับ epigenetics มันไม่มีใครดีใครชั่วแบบที่แต่ละศาสนานิยามครับ อารมณ์ขุ่นมัวความทุกข์ยังมามีสาเหตุมาจากลำไส้เลย ดังนั้น เรื่องบอกว่าตรัสรู้ว่ารู้ทุกอย่างแล้ว มันมีมากมายที่แย้งได้ครับว่าไม่น่าจะใช่
ฟังเสร็จแล้วคับ ลงep.ใหม่ได้เลย ❤
>>ความเร็วในการเล่น 2X
แกดูเร็วป๊าาาย😂
@@hugoboss6095 555555 เราเม้นหยอกน่ะ แต่ตอนนี้ฟังจบแล้วจริงๆนะะะ อย่างดี
ดูเร็วขนาดนี้ ทีมงานเดอะสแตนดาร์ดแน่ๆ ครับ 55555
Ha! 😮
แล้วสัตว์เลี้ยง และสัตว์ป่า มีเจตจำนงเสรีไหมครับ
ไหนๆก็แตะ Existentialism แล้ว จัดมาเต็มๆเลยฮะ
มีเพื่อนคนที่บกพร่องทางการได้ยินที่เรียนปรัชญามาด้วยกันมาบอกว่า อยากให้มีซับไตเติ้ลด้วยครับ รบกวนทางรายการเก็บไว้พิจราณาด้วยนะครับ😊
อยากให้ช่วยคิดว่า ทำไมมนุษย์เราจึงชื่นชมภาพถ่ายที่เหมือนภาพวาด และชื่นชมภาพวาดที่เหมือนภาพถ่าย ทั้งๆที่ภาพถ่ายหรือภาพวาดมันมีความสวยงามในตัวมันเองอยู่แล้ว อย่างเช่นการให้รางวัลภาพถ่ายหรือภาพวาดที่เราเคยได้เห็นกันครับ
อยากฟังแนว ปรัชญากับ คำสอนพระพุทธศาสนาเลยครับ ^^
ลึกซึ้ง
ชอบมากครับ
รายการดี❤
ถ้าการมีอยู่ของเราคือต้องใช้ชีวิต แล้วการเลือกยุติชีวิตของตัวเองเพราะไม่อยากมีตัวตนแล้ว ถือเป็นเจตจำนงเสรีได้มั้ยครับ
เจตจำนงเสรีอาจจะเป็นแค่หัวข้อนึง(หรือที่ท้ายๆจะไปไกลถึงความรับผิดชอบ😅)ที่พยายามแยกตัวเราออกจากai แต่มีแนวคิดนึงที่ผมก็มองว่าน่าสนใจเหมือนกัน คือ ai มันขับเคลื่อนด้วยความคิดหรือตัวเลขชุดคำสั่งอะไรนั่นแหละ ถ้าสั่งให้มันทำอย่างแรกมันก็ต้องประมวลผลซึ่งก็เป็นในตัวเลขชุดคำสั่งอะไรอีกทีแล้วให้ผลลัพธ์กับเราก็คือความคิดมาก่อน ข้อมูลมาก่อน แต่สิ่งมีชีวิตเนี่ยมันขับเคลื่อนด้วยความรู้สึก ลองนึกถึงตัวเองก็ได้ เช่น ทำไมมานั่งในห้องแอร์ ก็เพราะสบาย ความรู้สึกไปก่อนความคิด สรุปคือaiมันจะทำอะไรมันต้องคิดก่อน แต่สิ่งมีชีวิตมันจะใช้ความรู้สึกแล้วทำแบบไม่รู้ตัว ส่วนคนนั้นก็แค่มีความรู้สึกที่ซับซ้อนขึ้นมาซึ่งก็กลายมาเป็นการหาทางเลือกที่ทำให้สบายใจหรือก็คือเหตุผลที่ควรทำอย่างนั้น ถ้าคุณบอกว่าคุณใช้เหตุผลในการตัดสินใจบอกเลยอาจจะใช่หรือไม่ก็ได้😁 ยกตัวอย่าง ถ้าแฟนมาถามคุณว่าลิปสติกอันไหนสวยสุด ซึ่งแต่ละอันมีส่วนองค์ประกอบเหมือนกันหมด คุณที่อยู่เฉยๆ งงๆอยู่ก็เลือกไม่ถูก(ไม่มีอารมณ์ร่วม) แต่พอคุณลองจินตนาการถึงแฟนคุณในแต่ละแบบคุณก็จะพบอันที่คุณคิดว่าสวยที่สุดซึ่งก็คืออันที่ทำให้คุณใจเต้นที่สุด(ใช้อารมณ์) ถ้าให้aiเลือกมันก็คงเลือกไม่ถูกเพราะไม่มีอารมณ์ แต่ใช้ข้อมูลส่วนประกอบแทนซึ่งเหตุผลมาก่อนอีกแล้ว😂👌
จิตเป็นตัวควบคุมพฤติกรรม โอยเชื่อว่าถ้าจิตเกิดดับมาหลายๆครั้ง จิตดวงนั้น้ได้ผ่านการสร้างกรรมนั้นมามากเช่นจิตดวงนั้นเคยเคยชอบลักขโมยมาบ่อย พอเกิดมาชาตินี้ก็ยังมีความอยากลักขโมยอยู่ในสัญชาติญาณ ศานนาพุทธจึงเน้นเรื่องการละบาปละกิเกศ เพื่อจิตดวงนั้นจะไม่ต้องก่อกรรมเพื่อที่ จิตดวงนั้นจะมีอิสระขึ้นในชาติต่อไป(หรือออกจากวงจรที่ใช้กรรมเป็นเป็นตัวกำหนด) เป็นไปได้หรือไม่
การเลือกของมนุษย์ที่มีเหตุและผลชัดเจน ให้จุ่มมือลงในน้ำเปล่า กับ จุ่มมือลงในน้ำเดือด คนจะเลือกจุ่มในน้ำเปล่า ที่เราเรียกว่าชีวิตมันถูกขับเคลื่อนโดยเฟิร์มแวร์พื้นฐานคือความกลัว ถ้าเอาความกลัวมาให้ตัดสินใจจะเห็นชัดว่าเราเลือกทางที่ทำให้เราคลายความกลัว แต่ถ้าเป็นการสุ่มล่ะ ให้เลือกตัวเลข 0-9 มา 1 ตัว ในเวลาเดิมปัจจัยเดิม ไม่ว่ายังไง ย้อนเวลาไปกี่ครั้งคุณจะเลือกเลขเดิมซึ่งทุกอย่างมันฟังดูเหมือนการสุ่มแต่ ความจริงทุกปัจจัยก่อนหน้ามีผลต่อการเลือกทั้งหมด ที่เราเรียกว่าการคิด เราแค่นำเอาเหตุการที่เคยเจอมาผูกโยงกันเหตุการณ์ไหนเกิดซ้ำมากก็จะอยู่ในภาพมโนในหัวมากซึ่งมีผลต่อการเลือก งั้นทุกการกระทำในอดีตมันได้กำหนดปัจจุบันไว้มั๊ย คำตอบคือใช่ ถ้าแบบนั้นหมายความว่า อนาคตก็ได้กำหนดไว้แล้ว แล้วถ้าเป็นแบบนี้เราก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว อยู่เฉยๆดีกว่า เพราะชีวิตไร้ความหมาย คุณหยุดไม่ได้หรอก เพราะความกลัวเป็นตัวกำหนดให้เลือก ไม่ใช่ตัวคุณเอง ทุกอย่างไม่มีบังเอิน ทุกอย่างไม่มีการสุ่ม เมื่อก่อนผมคิดว่าทุกคนก็เข้าใจเรื่องนี้ดี แต่จริงๆ ไม่ใช่เลย น้อยมากที่จะเข้าใจ หรือยอมรับมัน เพราะกลัวการเสียตัวตน ซึ่งเป็นเราจริงๆรึป่าวก็ไม่รู้ หรือเป็นแค่ธาตุมารวมกันมีการไหลของเคมี ทำให้มนุษย์รู้สึกมีตัวตน ผมพยายามนอนคิดสิ่งที่ผมไม่เคยเจอ ไม่เคยเห็นและมันไม่เคยมี และผมไม่เคยคิดออกเลย ว่ามันเป็นยังไง อย่างมากมนุษย์ก็คิดแบบติดปะ เอานั่นมาติดนี่ ปะนั่น ออกมาเป็นงูมีปี4ขา
อยากให้รายการพูดถึงทีีมาของประโยคทีีว่า “hell is others” หน่อยค่ะ อยากรู้มาก ไม่รู้เป็นปรัชญาหรือเปล่า
สนุกมากกกกก
ดีมาก
มนุษย์ต้องดำรงอยู่ต่อไปในทุกสภาวะด้วยการสืบพันธุ์(อย่างมีคุณภาพ) - Ai พัฒนา-อัพเกรดตัวเอง เพื่อรู้ทันจนก้าวล้ำมนุษย์ เพื่อทำให้มนุษย์ดำรงอยู่ แบบที่Ai ประมวลและคิดแทนมนุษย์
ดีมากเลยคับ
ผมอยู่ในกลุ่มของคนที่ไม่เชื่อว่ามีFree will นะครับ ตอบคำถามท้ายคลิป ที่เรายังต้องรับผิดชอบต่อการเลือก เพราะว่าเราไม่มีFree Will ยังไงหล่ะครับ เมื่อเลือกด้วยความเชื่อใดใดก็แล้วแต่ ยังไงผมก็จะต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เลือกแน่นอน เพราะเราไม่ได้มีอิสระขนาดนั้น
ชอบฟังเรื่องแบบนี้
อยากให้มีแปลศัพท์ขึ้นจอให้ด้วย
ใดๆ ในโลก ล้วนอิทัปปัจยตา คือ เพราะมีสิ่งนี้เป็นปัจจัย สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น เพราะความดับไปแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงดับไป
ประเด็นสำคัญคือ การนิยามของการมี หรือ ไม่มี มันคือ0%กับ100% (ไม่มีตรงกลาง)
.
ทุกสิ่งในจักรวาลนี้เกิดขึ้นจากพลังงานที่มีการผสมผสานเชื่อมโยงกัน
ฟรีวิล ก็เช่นกัน มันมี แต่มีมากน้อยของแต่ละคนไม่เท่ากัน
อิ่มสมองมากกก ชอบสุดๆครับ
ขอขอบคุณ
ขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุนและกำลังใจ ทีมงานจะพัฒนาคุณภาพของเนื้อหาและการนำเสนอคอนเทนต์ที่ดีต่อไปค่ะ 💜
คิดแบบสนุกอย่างอนิเมะ😮😮😮เราเป็นผู้เล่นในเกมส์เพื่อนำข้อมูลบ้างอย่างไปใช้ เราต่างจากai เราไม่ใช่โปรแกรมคอมพิวเตอร์สองมิติ มีเควสให้แต่ละคนไปแก้ผลรับคือข้อมูล ส่วนตัวเรารับในสิ่งที่ทำ😮😮เราคือแบบจำลองของต้นแบบมันเป็นพันธสัญญา ดีนะอยู่ในเขตของศาสนาพุทธ😊เอาไปเล่นแบบนี้ได้ไหมครับ😊
เหมือนๆคนชั่วกับคนเลว ทั้งสองเป็นคนประเภทเดียวกัน แต่ต่างกันที่อย่างแรกใช้ความคิดเหตุและผลกับอย่างหลัง ใช้อารมณ์และสถานการณ์ ทำให้ความรับผิดชอบของต่อสิ่งที่เกิดขึ้น อย่างแรกมักจะได้รับผลลัพธ์น้อยกว่าอย่างหลัง เนื่องจากเขาคิดมาดีมากๆแล้วว่า สิ่งที่ตัวเองจะทำผลลัพธ์จะเป็นยังไง และควรรับมือเช่นไรกับมัน
Shortcut ปรัชญา จะเป็นรายการ ที่ผมรัก จะเป็ยกำลังใจให้ทำต่อไปเลื่อยๆ นะครับ
คนยังไม่มีทางยอมรับ ai ที่ sentient คนเราก็ถูกโปรแกรม hard code มาตั้งแต่ใน genetic อยู่แล้ว คำว่าเสรีมัน meta ขึ้นไปได้เรื่อยๆ จะเอาตรงไหนดีถึงเรียกว่าเสรี ต้องเสรีจากกรรมพันธุ์เลยหรือไม่ ethic และ moral หรืออื่นๆ
ผมเชื่อว่า Free will ไม่มีจริง แต่ผมเชื่อว่าชีวิตเราการกระทำของเราสุดท้ายเราก็ต้องเลือกเอง ถ้าเลือกผิดก็ต้องรับผลที่ตามมาในสิ่งที่ตัวเองเลือก ผมคิดแบบนี้😊😅
ไดโอจีนีส ขอปรัชญาหน่อยครับ
ชอบวิธีการเล่าเรื่องและเปรียบเทียบได้ดีเลยครับ
Henri Bergson - Time and free will
นึกถึง Attack on Titan เอเรนพยายามหาอิสระแต่แท้จริงแล้วตัวเองเป็นหมากของตัวเองและยูมี แม้จะมีพลังมากแต่ไม่สามารถแก้ไขผลลัพธ์ให้ดีได้
รายการโปรด
Host อธิบายได้กล่มกล่อมมากครับ
"มนุษย์ก็แค่เครื่องจักรชีวมวล" Robert Sapolsky
พูดในหนังสือเล่มไหนครับ พอมีแนะนำไหม
เรื่องเจตจำนงเสรี นี่เอามาเชื่อมกับเอไอ งงนะ คือ เจตจำนงเสรีเป็นอะไรที่เอาเขียนในรัฐธรรมนูญพอ การมีสิทธิเลือกว่าจะทำหรือไม่ทำอะไรมันดูไม่ได้เข้ากับบริบทการใช้งานเอไอในตอนนี้ ถ้าเลือกประเด็นจริยธรรมหรือการละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญาจะเป็นอะไรที่น่าขยายความกับการใช้งานมากกว่านะ
ขออนุญาตตอบนะครับ เจตจำนงเสรีเป็นประเด็นทางปรัชญาครับ มันเกี่ยวข้องกับความสามารถของมนุษย์ที่จะตัดสินใจอะไรได้เองโดยเป็นอิสระจริงๆ จากเงื่อนไขแวดล้อมทุกอย่าง (aka เลือกเองจริงไหม) สิ่งนี้ต่างจากสิทธิเสรีภาพในการเลือกซึ่งกฎหมายรับรองได้ (aka เลือกอะไรได้บ้าง)
ในระดับโลก ประเด็นเรื่องเจตจำนงเสรีเชื่อมโยงกับประเด็นเอไอแน่นอน เพราะมันดูเป็นเส้นแบ่งเพียงไม่กี่อย่างที่ทำให้เอไอดูจะยังต่างจากมนุษย์ และไม่มีเหตุผลให้เอไอต้องรับผิดชอบใดๆ กับผลของการกระทำ เพราะมันเป็นเพียงสิ่งที่ทำงานตาม 'ชุดคำสั่ง' ไม่ได้ตัดสินใจใดๆ อย่างเป็นอิสระแบบที่มนุษย์เชื่อว่าตัวเองทำครับ
แต่มนุษย์ตัดสินใจเองได้จริงเหรอ อันนี้ก็คือประเด็นที่เขาถกเถียงกันดังที่เสนอในอีพีนี้ครับ
สมมุติว่ามี
ร้บข้อมูลเรื่องอะไรมา ย่อมจะพร้อมเป็นไปตามนั้นฯลฯ
ถ้าเลือกที่จะไม่รับผิดชอบต่อการกระทำ คือFree will รึเปล่า?
ถ้าตามนั้นก็ดูว่ามันเป็น Freewill อยู่ แต่ว่า เราจะยังรู้สึกผิดต่อการกระทำที่เรายังไม่รับผิดชอบเลยรึเปล่า
ถ้าเราไม่รู้สึกผิด สังคมคงจะมองว่าเรามันไม่รู้สำนึก ไร้ผิดชอบชั่วดี
แต่ก็มันอิสระไง ทำอะไรก็ได้ มันผิดก็ไม่แคร์ เพราะมีอิสระที่จะไม่แคร์ไง
สังคมคงจะหายนะแหงๆ
สังคมหล่อหลอมมาแบบไหน(สังคมคือชุดโปรแกรม) สังคมในที่นี้คือสังคมโลกคือ ชุดโปรแกรมหลัก ส่วนโปรแกรมย่อยต่างๆก็เช่นชุดโปรแกรมของละประเทศจะหล่อหลอมสังคมนั้นมายังไง คนส่วนใหญ่ก็จะมีชุดความคิดแนวๆนั้น
ก่อนแต่งหรือหลังแต่ง
ถ้าเราทำตัวแบบไม่มีเหตุและผมจะถือว่าเป็นfree willได้หรือเปล่านะ? แต่คงไม่เพราะเราตัวไม่มีเหตุผล เพราะสงสัยเรื่องที่ว่าการทำตัวไม่มีเหตุผลเป็นfree willมั้ย
มีรากฐานของ Determinism อยู่ดีครับ
หวัดดีซุปเปอร์ เตย
เมื่อเขาควบคุมมนุษย์ในพื้นที่การปกครองของตัวเองไม่ได้ เขาก็จะหาทมนุษย์สายพันธ์ใหม่ขึ้นมาแทน เขาก็จะกลายเป็นมนุษย์ยุคหินในอีกหมื่นปีข้างหน้า😂
Ep. ต่อไป เอาประเด็นความรับผิดชอบต่อการกระทำ ทั้งทางจริยธรรม และทางกฎหมาย ออกได้ไหม
..เอาแค่ ข้อมูลทั้งหมด ควบคุมเรา สั่งเรา หรือข้อมูลทั้งหมดในสมองเราเป็นกรอบในการตัดสินใจ ในการกระทำของเรา ใช่หรือไม่ ?? เจตจำนง เกิดจากข้อมูลของคนคนนี้ใช่หรือไม่ !? จึงไม่มีอิสระจริง ใช่หรือไม่ !?
..ช้อยส์ ในการตัดสินใจของเรา แต่ละเรื่อง ขึ้นอยู่กับข้อมูลของเราเท่านั้น ไม่ได้มีเจตจำนงค์อิสระ หรือไม่
..เช่น หากผมโตมาในโลกที่มีเพียงสีเขียว ไม่มีสีอื่นเลย อยู่ๆ ผมจะบอกว่าผมชอบสีชมพู ก็เป็นไปไม่ได้ ดังนั้น มนุษย์ จึงไม่มีเจตจำนงค์อิสระ ใช่หรือไม่
ไม่มี freeview เพราะทุกวันนี้ทำงานเพื่อเงิน แล้วให้ สังคมยอมรับ ในตัวเรา
แล้วในยุคนี้
เมนู ผัดกะเพรา,,,เป็นเมนูอาหารไทย
มีตามร้านข้าวต้ม,ร้านอาหาร,ร้านข้าวแกง
อาหารตามสั่งๆผัดกะเพราหมู สั่งคะน้าหมูกรอบ
ต้องใส่ข้าวให้ด้วยไหมครับ
555
ถ้าลงรายลงลึกขนาดนั้น ก็คงไม่มีเจตจำนงเสรี
มันเหมือนกับไม่มีใครเป็นคนดี100% เพียงแต่การที่ได้คิดแบบนี้มันทำให้มองอะไรได้ลึกและกว้าง แล้วมันทำให้เราเข้าใจว่า อย่างน้อยการตัดสินใจใดๆย่อมต้องมีเหตุผลที่มาที่ไป และยอมรับว่าคนดีไม่จำเป็นต้อง100% แค่ทำให้ได้มากที่สุดก็พอ
ส่วนตอบคำถาม เราควรต้องรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของเรา อย่างเหมาะสมกับผลกระทบที่เกิดจากการตัดสินใจนั้นๆ
❤❤❤
ที่เราเม้นนี่.. เราเม้นอย่างอิสระ โดยมีเจตจำนงเสรีมั้ยนะ?🤔
ไม่ครับ ครอบครัวการเลี้ยงดูการศึกษา ปลพสังคม หล่อหลอมเรามาให้มีความสนใจเนื้อหาในคลิปนี้ เราจึงกดมาดูแล้วเม้น
การมีอยู่ของ กฏทางฟิสิกส์ สูตรทางคณิตศาสตร์ นี่แหละคือสิ่งบ่งชี้ ว่า เราไม่มีเจตจำนงเสรี
ฟังสนุกดี.แต่อย่าไปใส่สูตรให้กับชีวิต... ชะตาฟ้าไม่ได้ลิขิต อนาคตไม่ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว ปัจจุบันเป็นตัวกำหนดอนาคตเสมอ
เช่น นักการเมืองที่มีอำนาจในการควบคุมแต่ไม่รับผิดชอบใดๆ และอำนาจมากพอควบคุมกฎหมาย😢
เหมือน วิถีเต๋า ไหมครับ?
คนที่เข้าใจ Philosophy มากพอที่จะ apply เข้ากับ AI ได้
หายากนะครับ ขอบคุณมากครับ 🎉
48:30 คิดถึงโพสต์นึงที่ไวรัลไม่นานมานี้เลย ที่มีชาวเน็ตท่านนึงออกมาเตือนภัย AI ว่ามันใช้สร้างรูปโป๊ได้ ด้วยการเอารูปเพื่อนตัวเองไปให้ AI มันสร้างรูปโป๊ออกมา ซึ่งคอมเมนท์ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ภัยสังคมไม่ใช่AI แต่เป็นแกเนี่ยแหละ 55555555
สรุปแล้ว…พระพุทธเจ้าท่านรู้ก่อนใครเพื่อน เมื่อมีเหตุสิ่งนี้จึงเกิด
ใช้สรรพนามเรียก AI ว่า "เขา", ฟังแล้วรู้สึกดีกว่าเรียกว่า "มัน". 😊
ไม่ว่าคนหรือเอไอ ก็เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของจักรวาล
ไม่ว่าจะ determinism คนก็ไม่มีฟรีวิล
หรือจะ none determinism คนก็ไม่มีฟรีวิล
หรือว่าจักรวาลจะเป็นทั้ง สองแบบในเวลาเดียวกันหรือไม่ใช่ทั้งสองแบบ คนก็ไม่มีฟรีวิลอยู่ดี
เล่นกับความคิด ดูซีรีย์ Westworld
เลือกตามสมองที่มีความรู้
อาจจะมีในกลุ่มคนอัมไซเมอร์ และ กลุ่มออทิสติค
งงตอนท้ายของ Churchland ว่าถ้าใช้หลักว่าควบคุมได้มากน้อยแค่ไหนมันวัดจากอะไร มากคือแค่ไหน น้อยคือเท่าไหร่ แล้วเรื่อง control มันคือคำถามหลักของการ debate เรื่องนี้เลยไม่ใช่เหรอ 5555
1. ถ้าใช้หลักของ determinism มาจับ เค้าก็จะบอกว่าควบคุมอะไรไม่ได้เลย ก็เท่ากับว่าไม่มีใครต้องรับผิดชอบอะไรเลย
2. ถ้าใช้หลักของ libertarianism มาจับ เค้าก็จะบอกว่า control มันไม่มี degree มีแค่ either you do it, or you don't ก็เท่ากับว่าทุกคนจะต้องรับผิดชอบทุกทุกการกระทำแบบ 100%
จริงๆ ผมเห็นด้วยกับหลัก "Degree of control" ในการ justify สัดส่วนความรับผิดชอบต่อการกระทำของใครบางคนนะ แต่มันน่าจะต้องใช้มาตรวัดโดยเทียบเคียงจากความคาดหวังของคนส่วนใหญ่ในสังคม หรือถ้าจะให้พูดแบบบ้านๆ ก็คือคล้ายๆ หลักวิญญูชนพึงกระทำแบบนี้รึเปล่ามันถึงจะ make sense ที่สุด?
ปล. ตอนแรกเห็นบอกว่าจะแยกเป็น 3 จำพวก เลยนึกว่าจะมีอธิบาย compatibilism ด้วย ไม่แน่ใจว่าลืมรึเปล่า
ขอบคุณมากครับ เท่าที่ผมเข้าใจ Churchland สนใจประเด็นเรื่อง control มากกว่า เพราะในระดับหนึ่งเธอคิดว่าคำว่า free will มันเป็นปัญหาเชิงภาษามากกว่าปัญหาเชิงปรัชญาในตัวมันเอง เพราะคนที่ใช้คำคำนี้เข้าใจมันไม่ตรงกัน เธอเลยพยายามหาสิ่งที่ชัดเจนกว่าและชี้วัดได้มากกว่า งานของ Churchland เลยหันไปศึกษาความสามารถในการควบคุมตัวเองซึ่งซ่อนอยู่ในสมองและร่างกายของเราเอง และหลายครั้งความสามารถในการควบคุมตัวเองนี้เกิดขึ้นโดยเราไม่จำเป็นตัวรู้ตัวด้วยซ้ำไป (unconscious control)
เพราะฉะนั้น ควบคุมได้มากน้อยวัดจากอะไร Churchland น่าจะตอบว่าให้ย้อนไปดูการทำงานของสมองส่วนที่ควบคุมการตัดสินใจของเราและสารเคมีรวมถึงปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจนั้นๆ ถ้าเราอยู่ในสภาวะปกติ ควบคุมตัวเองได้มาก ความรับผิดชอบก็ตามมา แม้ว่าเธอจะเคยพูดไว้ด้วยว่าในบางกรณี สองอย่างนี้ (ความสามารถในการควบคุมกับความรับผิดชอบ) ไม่จำเป็นต้องไปพร้อมกันเสมอไป
อย่างไรก็ตาม คนกลุ่มอื่นๆ ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอนี้แน่นอนแบบที่คุณ oatkungar ว่ามาครับ 5555555
@@pknnn ขอบคุณที่มาตอบครับ ชอบรายการนี้มาก ถึงแม้จะมีบาง ep ที่ยังไม่มีความกล้ามากพอที่จะดูเช่น ep. 15-16 เพราะรู้สึกว่ามันจะต้องมีความหมายกับเรามากๆ แน่ๆ แต่ยังไงก็สัญญากับตัวเองแล้วว่าจะต้องย้อนกลับมาดูให้ได้ในซักวันนึง ในเวลาที่เหมาะสม
สังเกตว่ายอดวิวของรายการอาจจะไม่ได้เยอะเท่ารายการอื่น แต่คอมเม้นทุกคอมเม้นจากทุกคนมันกลั่นกรอง มัน reflective มันลึกซึ้งและทำให้คนดูได้คิดไตร่ตรองมากกว่ารายการไหนๆ อยากให้ the standard ทำรายการนี้ต่อไป เพราะผมคิดว่ามันช่วยคนได้เยอะจริงๆ ครับ
@@oatkungar ขอบคุณมากๆ เลยครับ 🙏🙏
อยากเสรี อันดับแรก ต้องมีอะไรกิน แบบฟรีๆ ถ้าเรามีอาหารการกินแบบฟรีๆ นั้นแหละเสรี แต่ตราบใดที่ยังต้องซื้อกิน ต้องเพาะปลูก ไม่มีวันเสรี
มีแบบฟรีๆ ก็อาจจะไม่มีเจตจำนงเสรีครับ คนละเรื่องกัน
@@pdc-iq8k สำหรับผม เสรีครับ งานไม่ต้องทำ อยากไปไหนก็ได้ กินข้าวที่ไหนก็ได้ ตื่นกี่โมงก็ได้ นอนกี่โมงก็ได้ ai ทำตามแบบแผน ถ้าเราไม่อยากทำตามแบบแผน อันดับแรก เรื่องกิน เพราะทุกวันนี้ทำงานตามแบบแผน เพราะเรื่องกิน ความคิดที่ไม่เสรีก็มาจาก ต้องอยู๋เป็นมีเงินใช้ อยากจะมีเจตจำนงเสรี แค่มีกินฟรี เสกของกินขึ้นมาได้ ค่อยคิดเรื่องเจตจำนงเสรี
แล้วใครมันจะมาทำให้คุณกินฟรีๆละครับ คุณจะหากินแต่ของฟรีโดยที่ไม่ต้องทำอะใรเลยหรือ นอนกินอย่างเดียวเลย
@@LoveRonaldo250 มันเหตุการณ์สมมุติ (--) แค่ยกตัวอย่าง แยกไม่ออกหรอ
แล้ว ... เมา ขาดสติ หล่ะ ขาดความสามารถในการควบคุมตัวเอง ???
เอาเพลงชาติมาเทียบ หาตัวอย่างอื่นไม่ได้หรือ
ยังไม่หลับมาหรอเพื่อนเราอ่ะ
มีเป้าหมายในชีวิตไม่ได้ถ้ามีคนแทรกแซงในบ้านยิ่งถ้าเข้าใกล้จุดศูนย์กลางยิ่งเลิกฝันไปได้เลยเพราะเลือกไม่ได้จริงๆเปลี่ยนไปมากๆแทบเป็นคนละคน ลุกขึ้นตัวมันจะหนักสุดๆถ้าลุกได้บางครี้งจะปวดท้องต่อมยับยั้งจะแทบไม่มีคิดปุ๊พูดเลยเพราะนิ้วเล็กลงหรืออะไรอีกก็ไม่รู้แต่สิ่งต่างๆมีจริงจากคนปกติที่ไม่พูดกลายเป็นคนแบบนี้ได้จริงๆ
วัฏจักรแห่งกรรมมาละ กิเลส กรรม วิบาก
คำตอบน้อง AI ถ่อมตัวมาก
ดีนะเอาเพลงชาติ555555555555555
ความรู้สึกทำไห้มนุษย์ด้อยกว่าAI