ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
00:00 Highlights00:42 การยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบ09:15 ปรัชญาความไม่สมบูรณ์แบบ12:30 ปรัชญาวะบิ ซะบิ20:29 ปรัชญาคินสึงิ35:08 วะบิ ซะบิ และคินสึงิ ในระดับสังคม41:32 คำถามทิ้งท้าย42:11 CV of Failures ของฟางและภาคิน
ช
Cv of failure: สอบไม่ติดมหาลัยที่ตั้งเป้าหมาย แข่งขันไม่ได้รางวัล ทำงานไม่ได้เป้า เคยพูดอะไรโง่ๆออกไปท่ามกลางกลุ่มคน บางอย่างพอนึกย้อนไปก็ยังรู้สึกไม่ชอบใจมันอยู่เลย แต่โดยรวมก็คิดว่าสิ่งเหล่านั้นมันก็หล่อหลอมให้เป็นเราในวันนี้ และก็ถือว่าพอใจนะ
เก่งขึ้นยังกับเป็นคนละคน ส่วนเรื่องในอดีตบางทีเราต้องให้อภัยตัวเอง ปลอบตัวเองว่าไม่เป็นไรไม่ต้องรู้สึกผิด
” เราไม่ได้ตายเพราะจมน้ำ แต่เราตายเพราะขึ้นจากน้ำไม่ทัน “ ชอบประโยคนี้มากๆเลยครับ เดี๋ยวกลับมาฟังอีกรอบ
ชอบเหมือนกันครับ ไม่เคยคิดในแง่มุมนี้มาก่อนเลย คลิปนี้ได้ชี้แนะไว้ดีเลยครับ
คนเราตายเพราะโดนผลักให้ตกน้ำ
ผมเป็นคนที่มีปัญหาเรื่อง self-esteem รู้สึกตัวเองไม่ดีพอ แต่ไม่อยากให้คนอื่นรู้สึกแบบเดียวกัน เลยมักจะใจดีกับคนอื่น แต่มักจะไม่ค่อยใจดีกับตัวเอง ชอบใช้ความคิดมาโบยตีตัวเองอยู่เสมอ
มาฝึกใจดีกับตัวเองไปด้วยกันค่ะ
เป็น ep. ที่เยียวยาหัวใจมากๆเลยค่ะ บางคนในชีวิตไม่มีคนคอยปลอบจริงๆ พอได้ฟังอะไรแบบนี้ก็เหมือนมีคนคอยลูบหลังๆเบาๆ บอกว่า เอาน่า มันไม่้ป็นไรหรอก ไว้เริ่มใหม่ เก่งมากเเล้ว
เป็นกำลังใจให้นะคะ ลูบหลังตัวเองเช่นกันค่ะ 😊😊😊😊
40:00 “ไม่เป็นไรนะ เธอดีพอแล้วนะ ไม่ต้องพิสูจน์กับใครแล้วนะ “
สวัสดีครับ ผมชื่อจอร์จ ผมชอบ EP นี้มาก ไม่ได้นับว่าฟังแล้วกี่รอบ แต่ทุกรอบที่ฟังจะมีแง่ความคิดใหม่ๆ ขึ้นมาทุกครั้ง โดยแง่คิด การเข้าใจชีวิต ไม่ตึง ไม่หย่อน ไม่คาดหวัง เข้าใจธรรมชาติรอบตัว และเข้าใจตัวเองกับผู้คนรอบข้างได้ดีขึ้น สบายใจมากครับ
"เราสนใจอยู่กับบางประโยคในหนังสือ จนเราลืมหนังสือทั้งเล่มไป"ขอบคุณ EP. นี้มากครับ จิตใจผมดีขึ้นเยอะเลย
ชอบอีพีนี้มาก ๆ เลย วาบิซาบิกับคินสึงิเป็นหนังสือที่อยากซื้อมานานมาก แต่ไม่มีโอกาสซักที ฟังอีพีนี้จบแล้วอยากไปซื้อมาอ่านต่อเลย อยากบอกคุณฟางกับคุณภาคินมาก ๆ ว่าอย่างน้อยที่สุดใน 50 นาทีนี้ พวกพี่ ๆ ทำให้คนคนนึงมีความสุขและฮีลใจมากเลยค่ะ เหมือนหนังสือที่พี่ๆ บอกว่าไม่ได้สำคัญอะไรที่อะไรเลย สำคัญที่อ่านจบแล้วหนังสือเล่มนั้นมอบคุณค่าอะไรให้ชีวิต อีพีนี้เหมือนเป็นหนังสือที่อ่านจบแล้ว ทำให้ลุกขึ้นหายใจได้โล่งขึ้นเยอะเลยค่ะชอบมากที่สุดที่บอกว่าคุณต้องตั้งใจใช้ชีวิตมาให้ดีด้วยนะ แต่ถึงมันตะแตกหัก ไม่สมบูรณ์ ผิดพลาด มันก็ไม่เป็นไร เพราะส่วนตัวรู้สึกว่าสิ่งที่ฉุดให้ตัวเองเป็นทุกข์เสมอคือการรู้สึกผิดกับอดีตของตัวเอง รู้สึกไม่เอาไหน เป็นคนที่มีความสัมพันธ์กับใครก็ล่มมาตลอด พอมองย้อนกลับก็มักจะโมโหตัวเอง และโทษตัวเองเสมอเลยค่ะ แต่ฟังวันนี้แล้วเหมือนได้ปลดล็อกบางอย่าง รู้สึกให้อภัยตัวเองได้ดีขึ้น เรามองว่าอย่างน้อยที่สุด ในจุดที่ผิดพลาดก็ไม่เคยมีซักครั้งที่จงใจ หรือตั้งใจให้มันผิดหนิ ก็ทำดีที่สุดในโมเมนต์นั้นเสมอ แล้วที่ผ่านมาใครจะมองเรายังไง วันนี่คงสายกว่าจะอธิบายหรือทำให้เค้าเข้าใจแล้ว ชอบจริง ๆ ค่ะที่บอกว่าไม่จำเป็นต้องพิสูจน์อะไรให้ใครเห็นอีกแล้้ว ผ่านไปแล้วก็แล้วไป เก็บไว้เป็นทบทเรียน เป็นความไม่สวยงาม ที่มีคุณค่าแก่เราในวันนี้และอนาคต ก็คงเพียงพอแล้ว รักอีพีนี้ที่สุดเลยค่า ❤❤
ผมหย่ากับอดีตภรรยา เป็นหนี้บ้านจ่ายคนเดียวไม่ไหว แต่ทุกครั้งที่ตื่นลืมตาผมจะบอกตัวเองเสมอว่า "ปล่อยวางอดีต ทำปัจจุบันให้ดี อย่าไปคาดหวังอนาคต..."
น่ายกย่องมากครับ คนบางคนเจอแบบนี้เข้าไปถึงกับปล่อยจอยชีวิต ติดเหล้าเสพยาบลาๆๆสู้ๆครับ
บางครั้งเราไปเอาไม้บรรทัดของคนอื่นมาวัดตัวเราเอง ในความเป็นจริงแล้ว เราทุกคนเก่งมากกกก เก่งในแบบฉบับของเราเอง
ส่วนตัวเป็นคนใจดีกับคนอื่น แต่ใจร้ายเข้มงวดกับตัวเอง555 ขอบคุณคอนเท้นดีๆเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณที่ทำรายการนี้นะ มันทำให้เราได้ทบทวนตัวเอง และเฝ้าดูความคิดของตัวเอง โดยเฉพาะในวันที่เราจมดิ่ง และว่างเปล่า มีรายการนี้ที่คอยเป็นเพื่อนเตือนเรา ทำให้เราอยากมีชีวิตในวันถัดๆไป ขอบคุณทีมงานทุกคนจริงๆ
ผมอายุ17ชอบฟังรายการนี้มาก น้ำตาคลอเลย🥲
หลายปีก่อน ผมเริ่มเป็นโรคไม่ภูมิใจในตัวเอง ความรักล้มเหลว เรียนโทไม่จบ สอบภายในที่ทำงานไม่ผ่าน มาพร้อมกันในปีเดียว หมดหวังในตัวเองมาก ๆ กว่าจะก่อร่างสร้างใหม่จนสำเร็จตอนนี้ แต่สามปีก่อน ก็เป็นสโตรก ทำให้มือและขาขวาไม่ปกติ ก็ยังกลับมาทำงานได้แบบคนปกติ กลับมาวิ่ง 10 โล ได้ แต่นั่นแหละ ใจความของ EP นี้ คือ ความไม่สมบูรณ์ในชีวิต มีพร้อมทุกอย่าง แต่ไม่สมหวังเรื่องความรัก ความสัมพันธ์ เลย เพื่อนบอกว่า เราอาจสมหวังในเรื่องอื่นแล้ว จะขาดตกบกพร่องบ้าง มันก็คือชีวิต ก็เหมือนที่จานมีรอยบิ่น 😊
ความไม่สมบูรณ์ คือ ความสมบูรณ์พระจันทร์งดงามไม่ใช่แค่ในวันที่มันเต็มดวง
ฟังแล้ว heal หัวใจมากๆเลยครับ
ชอบเลย content สาย heal ผมช่วยดัน engagement ให้
เป็น EP ที่มาได้ตรงเวลาพอดีเลยครับเพิ่งไปสอบข้าราชการมา แล้วโบยตีตัวเองหนักมาก จากการที่ทำข้อสอบไม่ได้เอาเป็นว่า อีก 2 ปีเจอกันใหม่ .. หลอดไฟยังต้องทำเป็น 1000 วิธีเลย ❤❤❤
เป็นพอดแคสต์ที่ผมได้เรื่อยๆเพลินๆ เหมือนเป็นพี่ชายพี่สาวแสนดีเล่านุ้นนี่ให้ฟัง บางทีไม่ได้ฟังเนื้อหามาก แต่รับรู้ถึงพลังงานดีๆฝุดๆ ขอบคุณที่สร้างสรรผลงานดีๆๆครับผม
podcast นี้ทำได้ดีแล้วนะ >.
ฟังแล้วคิดถึงบทเพลงจากพี่ Boy imagine เลยครับ ขอบคุณมากๆครับ
ขอบคุณที่ทำรายการนี้ขึ้นมา รู้สึกว่าเติบโตและเข้าใจชีวิตมากขึ้นทุกครั้งที่ดูค่ะ
เป็นซึมเศร้าพบว่ารายการนี้เยียวยาเราได้ ขอบคุณมากๆค่ะ
ถอยมาเฝ้ามองธรรมชาติของชีวิต คือการมองชีวิตในอีกมุมนึงจากที่ปกติเรามอง ซึ่งมันคือสิ่งเดียวกับทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปของไอสไตล์ ที่เป็นกฏฟิสิกส์แบบคิดจากมุมอื่นจากที่นักฟิสิกส์คนอื่นคิด มันเจ๋งมาก เพราะไอสไตล์ก็มีทฤษฎีแรงโน้มถ่วง เป็นค่าฟิสิกส์เดียวกับนิวตัน หากแต่เป็นสูตรที่คำนวณเทียบกับคนละสิ่ง เจ๋งป่ะ มันเชื่อมโยงกับพระพุทธศาสนา เพราะไอสไตล์ก็ดำเนินการคิดวิเคราะห์ ตามหลักพระพุทธศาสนาค่ะ
if you're seeing this comment, it might be a sign to read 'Book of Wisdom' from Zirtana ❤️
ฟังหลายรอบมาก ฟังตอนขับรถ ได้แง่คิดมากๆ เลยค่ะ ท่ามกลางสังคม การเติบโตมา หลายๆ ครั้งมันทำให้เราคาดหวังการประสลความสำเร็จอยู่ตลอดเวลา จนบางครั้งก็ลืมไปว่า ชีวิตก็เหมือนเพลง และหนังสือคือมันมีช่วงพัก ช่วงพีค ไม่ต้องคอยพีคอยู่ตลอดเวลาก็ได้ 🥲🥲
ได้โปรเจควันหยุดยาวช่วงปีใหม่ละ ฟังชอตคัทปรัชญาตั้งแต่ ep.1 แล้วตกผลึกตัวเอง
ขอบคุณคลิปนี้ค่ะ อธิบายเข้าใจง่าย ฟังเพลินมากๆค่ะ
ขอบคุณที่ได้ฟังในช่วงเวลานี้ครับ
ขอบคุณคอนเทนต์ที่ชวนทุกคนกลับมาทบทวนถึงสิ่งที่เป็นธรรมดาของโลกนะคะถ้าเราเข้าใจได้ว่า ทุกสิ่งไม่เที่ยง (impermanence) เราจะเข้าใจได้ว่า ทุกสิ่งไม่มีทางสมบูรณ์แบบ (not absolute) และเพราะทุกสิ่งไม่เที่ยง ไม่สามารถคงอยู่สภาวะเดิมได้ จึงเกิดสิ่งที่เรียกว่า time & spaceสภาวะที่เรามองว่า "สมบูรณ์" ก็เป็นเพียงการรับรู้ ณ เวลาหรือสถานที่หนึ่งเท่านั้น แต่เมื่อกาลเวลาเปลี่ยนไปหรือสถานที่เปลี่ยนไป สิ่งเดิมที่เคยเชื่อว่าสมบูรณ์แบบก็จะกลายเป็นสิ่งที่ไม่อาจสมบูรณ์ได้อีกต่อไป เพราะมันไม่เที่ยง ไม่ว่าจะเป็นตัวสิ่งนั้นเอง หรือเงื่อนไขที่เรากำหนดให้ว่าสิ่งนั้น "สมบูรณ์" ก็ล้วนแต่เปลี่ยนแปลงได้เสมอการยึดติดกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ เท่ากับคิดให้ตัวเองทุกข์ตั้งแต่ต้น เพราะเราพยายามรักษาสภาวะบางอย่างให้คงที่ ทั้งที่ธรรมชาตินั้นเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา..เอาง่าย ๆ .. แม้กระทั่งร่างกายของเราเองก็เป็นตัวอย่างของความไม่สมบูรณ์แบบ (ไม่เที่ยง) ที่ชัดเจนที่สุดที่ทุกคนสามารถสัมผัสได้ด้วยตัวเอง ความหิวที่เกิดจากความต้องการพื้นฐานของร่างกาย (ไม่ใช่ความอยากชั่วคราว) เล็บและผมที่ยาวขึ้น ขี้ตาและขี้หูที่สะสม กลิ่นปาก หรือคราบหินปูนที่ต้องกำจัด สิ่งเหล่านี้ล้วนสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าเราจะพยายามดูแลร่างกายให้ดีแค่ไหนก็ตาม การดูแลนั้นก็ยังเป็นเพียงการชะลอการเปลี่ยนแปลง แต่ไม่ใช่การหยุดยั้งความเปลี่ยนแปลงหรือการ ’คงสภาวะเดิม’เมื่อเราพยายามฝืนธรรมชาติของความเปลี่ยนแปลง ผลที่ตามมาคือความขัดแย้งระหว่างความจริงและความคาดหวัง ยิ่งฝืนก็ยิ่งทุกข์ และแรงต่อต้านก็ยิ่งสูงตาม..การเผชิญหน้ากับความจริงเปรียบเสมือนการจัดการกับเสี้ยนที่ทิ่มเข้าไปในเนื้อ หากเราพยายามกดทับเสี้ยนลงไป อาการเจ็บจะยิ่งสะสมและบ่มหนอง หรือเมื่อเสี้ยนต่ำ เรากลับไปเสียเวลาก่นด่าหรือพยายามควบคุมปัจจัยภายนอกโดยบอกว่า อย่าให้มีเสี้ยเกิดขึ้นอีก เพราะเสี้ยนมันมาต่ำฉัน ทั้งเสียเวลาและเสี้ยนนั้นก็ยังคาอยู่แต่หากเรายอมรับว่ามีเสี้ยนอยู่ตรงนั้น แล้วกลั้นใจดึงออกอย่างตรงไปตรงมา อาจรู้สึกเจ็บแปลบในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ก็จะปลดปล่อยตัวเองให้พ้นจากความเจ็บปวด ยิ่งเสี้ยนถูกกำจัดเร็ว เราก็สามารถรักษาบาดแผลได้เร็ว และในที่สุดแผลก็จะหายดี อีกทั้งยังเป็นบทเรียนให้เราเข้าใจว่า ควรทำอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้เสี้ยนแบบเดิมตำซ้ำอีก.ทุกคนเก่งมาก ๆ แล้วนะ ... ไม่มีคนที่ล้มเหลว มีแค่สภาวะที่ไม่ได้ดั่งใจ มีแค่สภาวะที่เราควบคุมไม่ได้ มีแค่สภาวะที่ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง สภาวะพวกนั้นเกิดขึ้น อยู่เพียงชั่วระยะตามเหตุปัจจัย แล้วก็จากไป แต่สุดท้ายทุกคนยังคงหายใจอยู่ อยู่ที่นี่และตรงนี้ 🤍
คล้ายๆผมเคยอ่านเจอในตำราซักเล่ม เค้าบอกว่าคนเราไม่ได้ทุกข์เพราะความทุกข์โดยตัวมันเอง แต่เราทุกข์เพราะมุมมองของเราเองที่มีต่อความทุกข์นั้นต่างหาก
การทำความเข้าใจปรัชญาหรือทฤษฎีใด ๆ จากการอ่านและตกผลึกด้วยตัวเองก็วิธีนึง แต่การนั่งฟังคนสองคนคุยถึงมันให้ฟังในจังหวะที่เราต้องการอย่างพอดิบพอดีก็เป็นช่วงเวลาที่มหัศจรรย์ขึ้นมามาก ๆ สำหรับเรา พูดได้เต็มปากเลยว่าช่วงเดือนที่ผ่านมาเรามี "Shortcut ปรัชญา" เป็นเพื่อนยามยากจริง ๆ จากที่เริ่มฟังแก้เหงาระหว่างทำงาน พัฒนากลายเป็นเสียงสะท้อนและบทสนทนาต่อตัวเราไปจนถึงโลกทั้งใบ ขอบคุณฟางกับภาคินมาก ๆ ครับ คุณสองคนทำให้ผมผ่านหนึ่งในช่วงเวลาสำคัญของชีวิตและจูงมือพาเรากลับไปทำความเข้าใจถึงคำถามภายในหลาย ๆ คำถามได้จริง ๆ
เรายังรู้สึกว่าเรายังพยายามไม่พอ เราดีได้มากกว่านี้ เราควรจะต้องทำได้มากกว่านี้ ที่เราเฟลเพราะเรายังไม่พยายามมากพอ เราล้มเหลวเพราะเราเอง จนตอนนี้ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลวเราก็ยังคิดว่าตัวเองไม่พยายามพอ ต้องพยายามมากกว่านี้ ต้องมากกว่านี้อีก พอเป็นแบบนี้เลยยังให้ภัยกับความล้มเหลวของตัวเองไม่ได้สักที
เป็นกำลังใจให้พี่ๆครับผมชอบรายการพวกพี่มากๆจะรอดูและรอตลอดๆๆๆๆ เลยนะครับ❤
จะร้องไห้แล้วนะ อีพีนี้….. ขอบคุณรายการดีๆๆ แบบนี้นะคะ มันเติมเต็มหัวใจมากๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ 🥹🥹🥹
ชอบ ep. นี้ ขอบคุณครับ
รัก ep นี้มากๆ ขอบคุณที่เล่าได้ชัดเจนมากค่ะ
ขอบคุณค่ะ❤💞🙏
อยากให้คนที่กลัวการถูกปฏิเสธอะค่ะลองนึกถึงสำนักพิมพ์ที่เคยปฏิเสธต้นฉบับแฮรรี่ พอตเตอร์ของ jk ดูอะค่ะมนุษย์เราไม่ได้ฉลาดขนาดเลือกสิ่งที่ดีให้ตัวเองได้ทุกครั้ง และงานของเราก็อาจไม่ได้แย่เพราะถูกปฏิเสธก็ได้ เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ
ขอบคุณมากเลยนะคะ ชอบ EP นี้มากเลยค่ะ เหมือนได้เยียวยาและปลอบโยนจิตใจให้สามารถใช้ชีวิตต่อไปได้จากการที่โดนด้อยคุณค่า ❤
คุณเคยทำงานโดยนำเอา A.I. มาประยุกต์ใช้บ้างไหม ? มันน่าจะสนุกมากเลยนะ 😊
ชอบ ep นี้ที่สุด❤❤❤
พระจันทร์ก็ยังงดงามเสมอ แม้ในตอนที่มันไม่เต็มดวง
ดีมากๆค่ะ❤
ดีมากๆเลย ขอบคุณครับ
อุดมคติอยู่ตรงไหนก็อยู่ตรงนั้น มั่นใจๆไปเลย มากกว่าการแพ้ชนะคือการได้พัฒนาตัวเอง
ทำต่อไปนะครับ ดีมากๆเลยครับ ❤❤
ขอบคุณรายการดีๆนะครับ
รอเรื่องปรัชญาเต๋านะครับ
Resume of Failure : ประวัติการจีบสาวไม่ติดตั้งแต่ประถมจนอายุ 31 ครับ น่าจะได้ enlighten ได้ว่าทำไมเรายังมีปัญหาด้านนี้ ได้เห็นมุมมองใหม่ๆ คับ ขอบคุณฮะ
คนล้มเหลวมีมากกว่านะครับ ผมเลย 40 แล้วก็ยังอยู่เป็นเพื่อนคุณ มองอีกมุมนึง ถ้าได้มาไม่ถูกใจนี่ตอนเอาไปคืนลำบากกว่านะครับ อย่าให้เวลามาบีบ
@theemeepeek2947 นั่นแหละคับ เลยได้เห็นมุมมองเรื่องความสัมพันธ์ใหม่เลย จากที่ไม่เคยพอใจเพราะไม่เคยมี กลายเป็น อย่างน้อยก็ไม่ต้องรับความเสี่ยงเกินกว่าจะแก้ปัญหาได้
ขอบคุณมากนะครับ
พอพูดถึงดูดฝุ่นและทำเตียงให้ตึงนี้เห็นภาพตัวเองเลยครับ กวาดแล้วกวาดอีก ดึงแล้วดึงอีก 😂😂😂😂😂
ขอบคุณมากๆเลยครับ
โดยความรู้สึกส่วนตัว เชื่อว่า มนุษย์ถูกสร้างมาให้ไม่สมบูรณ์ เพื่อให้เกิดการเดินทางออกตามหาความสมบูรณ์ และระหว่างทางนั้น ก็จะได้เรียนรู้และพัฒนาสติปัญญา. ส่วนความสมบูรณ์จะมีอยู่จริงหรือไม่ อันนี้ยังบอกไม่ได้เหมือนกันเพราะตอนนี้ยังไม่เจอ. หรือจะจบแค่การรู้สึกยอมรับในตัวเอง? ก็ยังบอกไม่ได้แน่ชัด.
ประสบการณ์ของชีวิตที่มีขึ้นมีลงตามวัตจักรรกทำให้กลับมานั่งคิดว่าชีวิตของคนเราไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆค่ะ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ถ้าเราเอาใจไปใส่ไว้ก็จะทุกข์ แต่ถ้าเราถอยออกมานิดนึง กลับมาดูที่ใจของเรา มันก็จะง่ายขึ้นเพราะสิ่งที่เราทุกข์นั้นเกิดขึ้นเพราะอะไร ท้ายที่สุดชีวิตของแต่ละคนก็เจออะไรที่แตกต่างกัน ไม่สามารถลอกเลียนแบบกันได้เลย
ขอบคุณ นะครับ
ผมไม่สมบรูณ์เเผนในทุกด้านครับเเละผมชอบยึดติดกับความล้มเหลวในอดีต😢😢😢😢😢😢😢😢😢😢😢😢ผมอยากได้การปลอบใจเเต่เหมือนไม่มีใครเข้าใจผมเลย
เป็นกำลังใจให้ครับ อาจจะไม่มีใครปลอบใจเราได้ตลอดเวลาแต่คุณให้กำลังใจตัวเองได้นะ
ชีวิตเรามันก็มีแค่นั้นแหละครับ มันไม่มีอะไรสมบูรณ์หรอก การที่เราได้ทำมันอย่างเต็มที่แล้วนั่นก็ถือว่าสมบูรณ์ที่สุดแล้ว😊
เราลูบหลังให้ตัวเองได้ ปลอบตัวเองได้ ค่ะ เมตตาต่อตัวเองก่อนที่จะหาให้คนอื่นเมตตาเรา ค่ะ
วิบิซาบินีืกินแล้วขึ้นจมูกไหมครับ 😊
good video yet again, thank you love ❤️
มีทางที่จะได้ฟัง ep ที่ถูกตัดไหมครับ?
จริงๆ ไม่ได้ตัดทิ้งไปเลย แต่อัดซ่อมใหม่ครับ 😅 ถ้าจำไม่ผิดอีพีที่อัดซ่อมน่าจะออกไปหมดแล้วทุกอันนะครับ
Thanks!
ขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุนและกำลังใจ ทีมงานจะพัฒนาคุณภาพของเนื้อหาและการนำเสนอคอนเทนต์ที่ดีต่อไปครับ 💜
ขอบคุณครับ
งดงามมากครับ
นึกถึงประโยคในซีรีส์The BearA: I wont make a mistake again.B: Yeah, you will, but not cause you’re you. Just cause shit happens
การชงชาหรือวิถีแห่งชา (Chado) เคยอ่านในหนังสือชื่อว่า Omoiyari ของ Erin Niimi Longhurst ซึ่งวิถีแห่งชาในหนังสือบอกว่ามาจากแนวคิด "วะ" = ความสอดคล้อง สันติสุข ความสมดุล และความสมานสามัคคี ให้คุณค่ากับความสัมพันธ์เชื่อมโยงซึ่งกันและกันของสิ่งต่างๆ วิถีแห่งชา ประกอบด้วย Wa (ความสอดคล้องกับธรรมชาติ เช่น การเลือกอาหาร เครื่องเคลือบ รายละเอียดต่างๆ) Kei (การเคารพซึ่งกันและกันรวมถึงพิธีการ) Sei (ความบริสุทธิ์ พิธีชงชาก็เหมือนการชำระล้างจิตใจ) Jaku (ความสงบงาม การค้นหาความสงบงามโดยทำให้เป็นรูปธรรมผ่านการชงชา)
ไม่ง่ายจริงๆค่ะ การยอมรับความล้มเหลว มันจะอึดอัด เสียใจ และกลายเป็นความกลัวที่จะล้มเหลวอีก แต่พอลองค่อยๆลุกและยอมรับกับความผิดพลาดในอดีต มันภูมิใจกับตัวเองและสร้างความสุขเล็กๆในการเจ็บในอดีตเหมือนกัน ขอบคุณรายการดีๆในทุกๆ EP. นะคะ
พ่อผมไม่เคยสอนผมด้วยการดุด่าว่ากล่าว แต่พ่อผมสอนผมด้วยการทำให้ดู ผมเลยติดนิสัยพ่อผมมาจนถึงวัยทำงาน เวลาผมสอนลูกน้องผมก็สอนแบบที่พ่อผมสอนผมคือไม่ดุด่าแต่ทำให้ดู ไม่มีปัญญาทำก็ไร้ตัวตนไป ตัวอย่างที่พ่อผมสอนผมก็เช่น มีครั้งหนึ่งแกตัดกิ่งมะม่วงแล้วแกสั่งให้ผมลากไปทิ้ง ด้วยความที่รังมดมันเยอะแล้วรังมันตกกระแทกพื้นแตก แค่เดินเข้าไปใกล้มดมันก็ไต่ขึ้นถึงหัวแล้ว ผมเข้าไปลากแค่แป๊บเดียวมดก็ไต่ขึ้นเต็มตัวแล้ว พ่อผมแกเห็นผมเดินเข้าเดินออกสองรอบแล้วแกคงรำคาญแกเลยเข้าไปลากกิ่งมะม่วงไปทิ้งเองแบบลากไปทีเดียวถึงที่ทิ้งเลย ทั้งหัวทั้งหน้าแกแดงไปด้วยมดแต่แกก็ไม่สนใจทำจนเสร็จ เจอแบบนี้ยิ่งกว่าโดนด่า ผมเลยติดนิสัยมานะอดทนในการทำงานมาจากพ่อผม น้าผมแกเคยเป็นทหารแต่ออกจากราชการก่อนเพราะพิการจากการรบ ทั้งโดนยิงทั้งโดนระเบิดแต่รอดมาได้แกก็ชอบคุยข่มเวลาพลาดเกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บว่า แค่นี้ยังไกลหัวใจ ส่วนความคิดผมจะได้รับอิทธิพลมาจากการอ่านมากกว่า เห็นหนังสือน่าอ่านแล้วยังไม่ได้อ่านแล้วรู้สึกพลาด แต่ไม่ชอบอ่านนิยาย ชอบอ่านอะไรที่มีสาระมากกว่า
41:11 จริงครับ😊
รู้สึกร่างกายรูปร่างหน้าตาของเราไม่สวยไม่ดีเท่าคนอื่นตลอดเวลา เหมือนถ้วยชาที่บิ่นเบี้ยวขาดๆเกินๆ หมกมุ่นอยู่กับการวางแผนทำศัลยกรรมทั่วหน้า กังวลเรื่องรูปร่างจนไม่มีความมั่นใจ เหมือนกับที่ผ่านมามักมีคนคอยวิจารณ์รูปร่างหน้าตาเราตลอดเวลา เคยถูกเพื่อนล้อที่โหนกแก้มใหญ่หาว่าบ้านนอก จมูกบาน ตัวหนา จนกลายเป็นคนที่สูญเสียความมั่นใจในทุกๆด้าน รู้สึกฉันไม่ดีพอไม่คู่ควรกับสิ่งดีๆ ที่คนอื่นมอบให้
ลองไปร้านถ้วยชามือสองกันดูมั้ยครับ แข่งกับถ้วยออกจากโรงงานแล้วเหนื่อย >.
พูดถึงวาบิซาบิ ผมนึกถึงซูชิก่อนเลยฮะ ต้องจิ้มวาซาบิ😂😂😂
สนุกดีครับ
เป็นตอนที่ฟังแล้วแสงออกหัวมาก
ผมเชื่อครับ ว่าคนเราเติมโตจากความเจ็บปวด ไม่ได้ทิ้งมันไป แล้วหล่อหลอมมันใหม่ จากของเก่าศิลปะกับความเจ็บปวดผมพอจะเข้าใจนะครับ เป็นอารมณ์ความคิดในช่วงนั้น เหมือน รัก โลภ โกรธ หลงบางคนออกมาเป็นเพลงหรืองานต่างๆ ผมออกมาเป็นเรื่องราว และตัวละคร
เริ่มซื้อ LTF ช้าไป และป็นตอน set all time high
ถ้าจะให้ผมเขียน CV แห่งความล้มเหลว อาจจะเป็นเรื่องลำบาก เพราะเขาชอบแนะนำว่า CV ที่ดีควรมีขนาดกะทัดรัด 1-2 หน้า แต่ CV แห่งความล้มเหลวของผม ใช้พื้นที่แค่ 1-2 หน้า คงอาจจะไม่พอ
ขอบคุณมากค่ะ
พี่ภาคินพูดว่าผ้าปูที่นอนผมสะดุ้งนึกว่าเข้าสะแล้ว5555
แล้วถ้าชีวิตเราควบคุมไม่ได้ ความฝันของเราแม้ว่าจะพยายามก็อาจไม่สำเร็จ แล้วเราจะเอาอะไรมาเป็นแรงบันดาลใจหรือเป็นกำลังใจให้เราทำสิ่งนั้น ในเมื่อบั้นปลายก็ไม่มีอะไรการันตีว่าเราจะสำเร็จ ชีวิตนี้ของเราเราจะพยายามไปทำไม? ระหว่างทางที่เหน็ดเหนื่อยกับบั้นปลายที่ไม่รู้จะได้หรือเปล่า มันคุ้มที่้เราจะตั้งใจและทุ่มเทความเหนื่อยให้กับมันจริงๆเหรอคะ?
ก็เลยเป็นเหตุผลให้คุณรู้สึกไม่อยากลงมือทำอะไรเลย เพราะกลัวจะไม่สำเร็จ แบบนี้รึเปล่าคะ ถ้าเป็นแบบนั้นอยากให้ลองดูอีพีก่อนหน้านี้เรื่อง Perfectionism ค่ะ และอีพี Absurdism ด้วย อาจจะพอไขคำตอบให้คุณได้ค่ะ 😊
ถ้ามองภาพยาวแล้วเหนื่อย มองสั้น ๆ ลงก็ได้นะครับ เก็บตังเที่ยวหรือกินของอร่อยดูมั้ยเวลาที่เราทำสิ่งที่อยากทำจริง ๆ เรามักจะไม่แคร์ผลลัพธ์มากขนาดนั้น ถ้าเราสนใจผลมาก แปลว่าเราอยากได้ แต่เราไม่ได้อยากทำ งานที่ต้องทำให้อยู่รอดก็ทำครับ แต่วางแผนชีวิตในวันโลกแตก ถ้าไม่ว่างจริง ๆ ลองไม่ทำบ้างก็ดีครับ อาจจะมีความสุขมากขึ้น
🙏🙏
แม่งเอ๊ย ผมเคยดูคลิปปูผ้าปูที่นอน 5555
หรือว่า ... คุณเรียนจบการโรงแรม !!! ตึ่งโป๊ะ
ซ่อม แต่ไม่ได้ซ่อน จุ่มอยู่กะอันนี้พักนึงเลย
วาบิซาบิ คือ ช่องของฮิโระซัง ทำสุโก้ย เจแปน 😂😂
32:32 ผมนี่ Note เลยไปเอาปากกามาจดเลย
บางทีเราคิดว่าเราล้มเหลว แต่จริง ๆ แล้วกลายเป็นว่าเราไปยึดเอาความคิดเห็นหรือการตัดสินของคนอื่นเป็นข้อสรุปว่าเราบกพร่องล้มเหลว fact กับ opinion แยกยากนะครับ
💯
โจทย์ กพ ปี 67 😂
ถ้าเปรียบชีวิตเป็นกีฬาถ้าอีกฝั่งนึงPerfect อยู่ฝ่ายเดียว อีกฝั่งห่วยแตกเลย ชีวิตมันก็ไม่สนุกแล้วแหละ มันต้องมีสลับกันพลาดสลับกันเก่ง นี่แหละชีวิต
ส่วนตัวไม่ค่อยอินคินสึงิในนิยามที่พูดมาเลยค่ะ การใช้ทองไปแต่งเติมก็ตรงข้ามกับวะบิซะบิแล้วอ่ะ เหมือนแค่การสร้างใหม่ให้มันเพอร์เฟ็คต์สวยงามกว่าเดิมมากกว่าก้าวข้ามความบกพร่อง ถ้าจะยอมรับความไม่เพอร์เฟ็คต์จริงๆ ก็ควรจะยอมรับรอยร้าวที่ไม่มีสีทองได้ การใส่สีทองเข้าไปยิ่งเหมือนกลบเกลื่อนความไม่เพอร์เฟ็คต์ด้วยการเอาสิ่งภายนอกมาทดแทนการแตกร้าว เหมือนบกพร่องแล้วพยายามทำให้ความบกพร่องมา romanticize ให้ความบกพร่องนั้นสูงส่งกว่าความเพอร์เฟ็คต์หรือธรรมชาติมากกว่า การรู้จักคุณค่าของตัวเองที่แท้จริงน่าจะเป็นการยอมรับสภาพแตกร้าวที่ซ่อมกลับคืนมาแม้มีร่องรอยน่าเกลียดแต่มันยังคุณสมบัติเดิมคือเป็นถ้วยชามที่ใช้ได้เหมือนเดิมมากกว่า ยิ่งศิลปินบางคนไม่ได้ซ่อมแต่จงใจทำแตกเพื่อสร้างงานคินสึงิยิ่งไม่อินเลยค่ะ อันนี้เราไม่ได้สนใจคินสึงิมาก่อนเลยอาจจะไม่รู้จักมันมากนะคะ เป็นความเห็นเท่าที่ฟังในอีพีนี้เท่านั้น
เห็นด้วยครับ ไม่เคยอินกับคินสึงิเลย😅
โอ้ว สำหรับผม ฟังแล้วเกิดแรงบันดาลใจ และเข้าใจประเด็น "กาวสีทอง" ที่หลักคิดนี้ต้องการสื่อสารครับ คำว่า "สีทอง" ผมว่าเป็นเชิงสัญลักษณ์ความสวมงามภายนอกเฉย ๆ แต่นัยยะคงเป็นว่า "มันก็ต้องประสาน และเราต้องรู้สึกว่าสิ่งนี้ (รอยร้าวที่แตก) มันสวยงาม (ในมุมสิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว ล้วนดีงามเสมอ) เพื่อให้เรา "มองเห็น" และเดินทางไกลไปต่อ ครับ
คิดว่าเป็นเรื่องปรกติที่จะเห็นต่างนะครับ เราอ่านหนังสือเล่มเดียวกันหน้าเดียวกัน แต่สนใจในจุดที่แตกต่างกัน แนวคิดเดียวกันแต่ต่างศาสนาใช้คำอธิบายไม่เหมือนกัน เราก็ชอบแบบนึงมากกว่าอีกแบบถ้าผมบังเอิญไปเจอคนที่ตั้งใจทำชามแตกเพื่อมาเชื่อมสีทองให้เนี๊ยบ ๆ แล้วค่อยมาฟัง EP นี้ ก็อาจจะทำให้บริบทของผมในการฟังมันเปลี่ยนไป
เห็นด้วย มองว่าเป็นการสร้างเรื่องราว เพื่อเพิ่มมูลค่าของสินค้ามากกว่า
@@suzume444 แชร์คหสตนะคะ เราคิดว่าถ้าเราจะใช้แก้วใบนั้นต่อไม่ทิ้ง ก็เลยหาอะไรมาปิดมาเชื่อมไม่ให้มันบาดปากหรือชำรุดง่ายเพราะมันอยู่ในสถานะที่มีโอกาสเสี่ยงแตกน่ะค่ะ เอาไปอุดเพื่อให้ได้ไปต่อใช้ต่อแต่ก็ไม่ได้ซ่อนรอยร้าว เปิดเผยยอมรับว่ามันมีสิ่งที่ร้าวอยู่ เราเลยมองว่าอันนี้คือบรรลุในใจเราแล้วน่ะค่ะ
รายงานนี้เหมือนเป็นที่พึ่งทางใจของเรา
00:00 Highlights
00:42 การยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบ
09:15 ปรัชญาความไม่สมบูรณ์แบบ
12:30 ปรัชญาวะบิ ซะบิ
20:29 ปรัชญาคินสึงิ
35:08 วะบิ ซะบิ และคินสึงิ ในระดับสังคม
41:32 คำถามทิ้งท้าย
42:11 CV of Failures ของฟางและภาคิน
ช
Cv of failure: สอบไม่ติดมหาลัยที่ตั้งเป้าหมาย แข่งขันไม่ได้รางวัล ทำงานไม่ได้เป้า เคยพูดอะไรโง่ๆออกไปท่ามกลางกลุ่มคน บางอย่างพอนึกย้อนไปก็ยังรู้สึกไม่ชอบใจมันอยู่เลย แต่โดยรวมก็คิดว่าสิ่งเหล่านั้นมันก็หล่อหลอมให้เป็นเราในวันนี้ และก็ถือว่าพอใจนะ
เก่งขึ้นยังกับเป็นคนละคน ส่วนเรื่องในอดีตบางทีเราต้องให้อภัยตัวเอง ปลอบตัวเองว่าไม่เป็นไรไม่ต้องรู้สึกผิด
” เราไม่ได้ตายเพราะจมน้ำ แต่เราตายเพราะขึ้นจากน้ำไม่ทัน “ ชอบประโยคนี้มากๆเลยครับ เดี๋ยวกลับมาฟังอีกรอบ
ชอบเหมือนกันครับ ไม่เคยคิดในแง่มุมนี้มาก่อนเลย คลิปนี้ได้ชี้แนะไว้ดีเลยครับ
คนเราตายเพราะโดนผลักให้ตกน้ำ
ผมเป็นคนที่มีปัญหาเรื่อง self-esteem รู้สึกตัวเองไม่ดีพอ แต่ไม่อยากให้คนอื่นรู้สึกแบบเดียวกัน เลยมักจะใจดีกับคนอื่น แต่มักจะไม่ค่อยใจดีกับตัวเอง ชอบใช้ความคิดมาโบยตีตัวเองอยู่เสมอ
มาฝึกใจดีกับตัวเองไปด้วยกันค่ะ
เป็น ep. ที่เยียวยาหัวใจมากๆเลยค่ะ บางคนในชีวิตไม่มีคนคอยปลอบจริงๆ พอได้ฟังอะไรแบบนี้ก็เหมือนมีคนคอยลูบหลังๆเบาๆ บอกว่า เอาน่า มันไม่้ป็นไรหรอก ไว้เริ่มใหม่ เก่งมากเเล้ว
เป็นกำลังใจให้นะคะ ลูบหลังตัวเองเช่นกันค่ะ 😊😊😊😊
40:00 “ไม่เป็นไรนะ เธอดีพอแล้วนะ ไม่ต้องพิสูจน์กับใครแล้วนะ “
สวัสดีครับ ผมชื่อจอร์จ ผมชอบ EP นี้มาก ไม่ได้นับว่าฟังแล้วกี่รอบ แต่ทุกรอบที่ฟังจะมีแง่ความคิดใหม่ๆ ขึ้นมาทุกครั้ง โดยแง่คิด การเข้าใจชีวิต ไม่ตึง ไม่หย่อน ไม่คาดหวัง เข้าใจธรรมชาติรอบตัว และเข้าใจตัวเองกับผู้คนรอบข้างได้ดีขึ้น สบายใจมากครับ
"เราสนใจอยู่กับบางประโยคในหนังสือ จนเราลืมหนังสือทั้งเล่มไป"
ขอบคุณ EP. นี้มากครับ จิตใจผมดีขึ้นเยอะเลย
ชอบอีพีนี้มาก ๆ เลย วาบิซาบิกับคินสึงิเป็นหนังสือที่อยากซื้อมานานมาก แต่ไม่มีโอกาสซักที ฟังอีพีนี้จบแล้วอยากไปซื้อมาอ่านต่อเลย อยากบอกคุณฟางกับคุณภาคินมาก ๆ ว่าอย่างน้อยที่สุดใน 50 นาทีนี้ พวกพี่ ๆ ทำให้คนคนนึงมีความสุขและฮีลใจมากเลยค่ะ เหมือนหนังสือที่พี่ๆ บอกว่าไม่ได้สำคัญอะไรที่อะไรเลย สำคัญที่อ่านจบแล้วหนังสือเล่มนั้นมอบคุณค่าอะไรให้ชีวิต อีพีนี้เหมือนเป็นหนังสือที่อ่านจบแล้ว ทำให้ลุกขึ้นหายใจได้โล่งขึ้นเยอะเลยค่ะ
ชอบมากที่สุดที่บอกว่าคุณต้องตั้งใจใช้ชีวิตมาให้ดีด้วยนะ แต่ถึงมันตะแตกหัก ไม่สมบูรณ์ ผิดพลาด มันก็ไม่เป็นไร เพราะส่วนตัวรู้สึกว่าสิ่งที่ฉุดให้ตัวเองเป็นทุกข์เสมอคือการรู้สึกผิดกับอดีตของตัวเอง รู้สึกไม่เอาไหน เป็นคนที่มีความสัมพันธ์กับใครก็ล่มมาตลอด พอมองย้อนกลับก็มักจะโมโหตัวเอง และโทษตัวเองเสมอเลยค่ะ แต่ฟังวันนี้แล้วเหมือนได้ปลดล็อกบางอย่าง รู้สึกให้อภัยตัวเองได้ดีขึ้น เรามองว่าอย่างน้อยที่สุด ในจุดที่ผิดพลาดก็ไม่เคยมีซักครั้งที่จงใจ หรือตั้งใจให้มันผิดหนิ ก็ทำดีที่สุดในโมเมนต์นั้นเสมอ แล้วที่ผ่านมาใครจะมองเรายังไง วันนี่คงสายกว่าจะอธิบายหรือทำให้เค้าเข้าใจแล้ว ชอบจริง ๆ ค่ะที่บอกว่าไม่จำเป็นต้องพิสูจน์อะไรให้ใครเห็นอีกแล้้ว ผ่านไปแล้วก็แล้วไป เก็บไว้เป็นท
บทเรียน เป็นความไม่สวยงาม ที่มีคุณค่าแก่เราในวันนี้และอนาคต ก็คงเพียงพอแล้ว
รักอีพีนี้ที่สุดเลยค่า ❤❤
ผมหย่ากับอดีตภรรยา เป็นหนี้บ้านจ่ายคนเดียวไม่ไหว แต่ทุกครั้งที่ตื่นลืมตาผมจะบอกตัวเองเสมอว่า "ปล่อยวางอดีต ทำปัจจุบันให้ดี อย่าไปคาดหวังอนาคต..."
น่ายกย่องมากครับ คนบางคนเจอแบบนี้เข้าไปถึงกับปล่อยจอยชีวิต ติดเหล้าเสพยาบลาๆๆ
สู้ๆครับ
บางครั้งเราไปเอาไม้บรรทัดของคนอื่นมาวัดตัวเราเอง ในความเป็นจริงแล้ว เราทุกคนเก่งมากกกก เก่งในแบบฉบับของเราเอง
ส่วนตัวเป็นคนใจดีกับคนอื่น แต่ใจร้ายเข้มงวดกับตัวเอง555 ขอบคุณคอนเท้นดีๆเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณที่ทำรายการนี้นะ มันทำให้เราได้ทบทวนตัวเอง และเฝ้าดูความคิดของตัวเอง โดยเฉพาะในวันที่เราจมดิ่ง และว่างเปล่า มีรายการนี้ที่คอยเป็นเพื่อนเตือนเรา ทำให้เราอยากมีชีวิตในวันถัดๆไป ขอบคุณทีมงานทุกคนจริงๆ
ผมอายุ17ชอบฟังรายการนี้มาก น้ำตาคลอเลย🥲
หลายปีก่อน ผมเริ่มเป็นโรคไม่ภูมิใจในตัวเอง ความรักล้มเหลว เรียนโทไม่จบ สอบภายในที่ทำงานไม่ผ่าน มาพร้อมกันในปีเดียว หมดหวังในตัวเองมาก ๆ กว่าจะก่อร่างสร้างใหม่จนสำเร็จตอนนี้ แต่สามปีก่อน ก็เป็นสโตรก ทำให้มือและขาขวาไม่ปกติ ก็ยังกลับมาทำงานได้แบบคนปกติ กลับมาวิ่ง 10 โล ได้ แต่นั่นแหละ ใจความของ EP นี้ คือ ความไม่สมบูรณ์ในชีวิต มีพร้อมทุกอย่าง แต่ไม่สมหวังเรื่องความรัก ความสัมพันธ์ เลย เพื่อนบอกว่า เราอาจสมหวังในเรื่องอื่นแล้ว จะขาดตกบกพร่องบ้าง มันก็คือชีวิต ก็เหมือนที่จานมีรอยบิ่น 😊
ความไม่สมบูรณ์ คือ ความสมบูรณ์
พระจันทร์งดงามไม่ใช่แค่ในวันที่มันเต็มดวง
ฟังแล้ว heal หัวใจมากๆเลยครับ
ชอบเลย content สาย heal ผมช่วยดัน engagement ให้
เป็น EP ที่มาได้ตรงเวลาพอดีเลยครับ
เพิ่งไปสอบข้าราชการมา แล้วโบยตีตัวเองหนักมาก จากการที่ทำข้อสอบไม่ได้
เอาเป็นว่า อีก 2 ปีเจอกันใหม่ .. หลอดไฟยังต้องทำเป็น 1000 วิธีเลย ❤❤❤
เป็นพอดแคสต์ที่ผมได้เรื่อยๆเพลินๆ เหมือนเป็นพี่ชายพี่สาวแสนดีเล่านุ้นนี่ให้ฟัง บางทีไม่ได้ฟังเนื้อหามาก แต่รับรู้ถึงพลังงานดีๆฝุดๆ ขอบคุณที่สร้างสรรผลงานดีๆๆครับผม
podcast นี้ทำได้ดีแล้วนะ >.
ฟังแล้วคิดถึงบทเพลงจากพี่ Boy imagine เลยครับ ขอบคุณมากๆครับ
ขอบคุณที่ทำรายการนี้ขึ้นมา รู้สึกว่าเติบโตและเข้าใจชีวิตมากขึ้นทุกครั้งที่ดูค่ะ
เป็นซึมเศร้าพบว่ารายการนี้เยียวยาเราได้ ขอบคุณมากๆค่ะ
ถอยมาเฝ้ามองธรรมชาติของชีวิต คือการมองชีวิตในอีกมุมนึงจากที่ปกติเรามอง ซึ่งมันคือสิ่งเดียวกับทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปของไอสไตล์ ที่เป็นกฏฟิสิกส์แบบคิดจากมุมอื่นจากที่นักฟิสิกส์คนอื่นคิด มันเจ๋งมาก เพราะไอสไตล์ก็มีทฤษฎีแรงโน้มถ่วง เป็นค่าฟิสิกส์เดียวกับนิวตัน หากแต่เป็นสูตรที่คำนวณเทียบกับคนละสิ่ง เจ๋งป่ะ มันเชื่อมโยงกับพระพุทธศาสนา เพราะไอสไตล์ก็ดำเนินการคิดวิเคราะห์ ตามหลักพระพุทธศาสนาค่ะ
if you're seeing this comment, it might be a sign to read 'Book of Wisdom' from Zirtana ❤️
ฟังหลายรอบมาก ฟังตอนขับรถ ได้แง่คิดมากๆ เลยค่ะ ท่ามกลางสังคม การเติบโตมา หลายๆ ครั้งมันทำให้เราคาดหวังการประสลความสำเร็จอยู่ตลอดเวลา จนบางครั้งก็ลืมไปว่า ชีวิตก็เหมือนเพลง และหนังสือ
คือมันมีช่วงพัก ช่วงพีค ไม่ต้องคอยพีคอยู่ตลอดเวลาก็ได้ 🥲🥲
ได้โปรเจควันหยุดยาวช่วงปีใหม่ละ ฟังชอตคัทปรัชญาตั้งแต่ ep.1 แล้วตกผลึกตัวเอง
ขอบคุณคลิปนี้ค่ะ อธิบายเข้าใจง่าย ฟังเพลินมากๆค่ะ
ขอบคุณที่ได้ฟังในช่วงเวลานี้ครับ
ขอบคุณคอนเทนต์ที่ชวนทุกคนกลับมาทบทวนถึงสิ่งที่เป็นธรรมดาของโลกนะคะ
ถ้าเราเข้าใจได้ว่า ทุกสิ่งไม่เที่ยง (impermanence) เราจะเข้าใจได้ว่า ทุกสิ่งไม่มีทางสมบูรณ์แบบ (not absolute) และเพราะทุกสิ่งไม่เที่ยง ไม่สามารถคงอยู่สภาวะเดิมได้ จึงเกิดสิ่งที่เรียกว่า time & space
สภาวะที่เรามองว่า "สมบูรณ์" ก็เป็นเพียงการรับรู้ ณ เวลาหรือสถานที่หนึ่งเท่านั้น แต่เมื่อกาลเวลาเปลี่ยนไปหรือสถานที่เปลี่ยนไป สิ่งเดิมที่เคยเชื่อว่าสมบูรณ์แบบก็จะกลายเป็นสิ่งที่ไม่อาจสมบูรณ์ได้อีกต่อไป เพราะมันไม่เที่ยง ไม่ว่าจะเป็นตัวสิ่งนั้นเอง หรือเงื่อนไขที่เรากำหนดให้ว่าสิ่งนั้น "สมบูรณ์" ก็ล้วนแต่เปลี่ยนแปลงได้เสมอ
การยึดติดกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ เท่ากับคิดให้ตัวเองทุกข์ตั้งแต่ต้น เพราะเราพยายามรักษาสภาวะบางอย่างให้คงที่ ทั้งที่ธรรมชาตินั้นเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
.
.
เอาง่าย ๆ .. แม้กระทั่งร่างกายของเราเองก็เป็นตัวอย่างของความไม่สมบูรณ์แบบ (ไม่เที่ยง) ที่ชัดเจนที่สุดที่ทุกคนสามารถสัมผัสได้ด้วยตัวเอง ความหิวที่เกิดจากความต้องการพื้นฐานของร่างกาย (ไม่ใช่ความอยากชั่วคราว) เล็บและผมที่ยาวขึ้น ขี้ตาและขี้หูที่สะสม กลิ่นปาก หรือคราบหินปูนที่ต้องกำจัด สิ่งเหล่านี้ล้วนสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าเราจะพยายามดูแลร่างกายให้ดีแค่ไหนก็ตาม การดูแลนั้นก็ยังเป็นเพียงการชะลอการเปลี่ยนแปลง แต่ไม่ใช่การหยุดยั้งความเปลี่ยนแปลงหรือการ ’คงสภาวะเดิม’
เมื่อเราพยายามฝืนธรรมชาติของความเปลี่ยนแปลง ผลที่ตามมาคือความขัดแย้งระหว่างความจริงและความคาดหวัง ยิ่งฝืนก็ยิ่งทุกข์ และแรงต่อต้านก็ยิ่งสูงตาม
.
.
การเผชิญหน้ากับความจริงเปรียบเสมือนการจัดการกับเสี้ยนที่ทิ่มเข้าไปในเนื้อ หากเราพยายามกดทับเสี้ยนลงไป อาการเจ็บจะยิ่งสะสมและบ่มหนอง หรือเมื่อเสี้ยนต่ำ เรากลับไปเสียเวลาก่นด่าหรือพยายามควบคุมปัจจัยภายนอกโดยบอกว่า อย่าให้มีเสี้ยเกิดขึ้นอีก เพราะเสี้ยนมันมาต่ำฉัน ทั้งเสียเวลาและเสี้ยนนั้นก็ยังคาอยู่
แต่หากเรายอมรับว่ามีเสี้ยนอยู่ตรงนั้น แล้วกลั้นใจดึงออกอย่างตรงไปตรงมา อาจรู้สึกเจ็บแปลบในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ก็จะปลดปล่อยตัวเองให้พ้นจากความเจ็บปวด ยิ่งเสี้ยนถูกกำจัดเร็ว เราก็สามารถรักษาบาดแผลได้เร็ว และในที่สุดแผลก็จะหายดี อีกทั้งยังเป็นบทเรียนให้เราเข้าใจว่า ควรทำอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้เสี้ยนแบบเดิมตำซ้ำอีก
.
ทุกคนเก่งมาก ๆ แล้วนะ ... ไม่มีคนที่ล้มเหลว มีแค่สภาวะที่ไม่ได้ดั่งใจ มีแค่สภาวะที่เราควบคุมไม่ได้ มีแค่สภาวะที่ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง สภาวะพวกนั้นเกิดขึ้น อยู่เพียงชั่วระยะตามเหตุปัจจัย แล้วก็จากไป
แต่สุดท้ายทุกคนยังคงหายใจอยู่ อยู่ที่นี่และตรงนี้ 🤍
คล้ายๆผมเคยอ่านเจอในตำราซักเล่ม เค้าบอกว่าคนเราไม่ได้ทุกข์เพราะความทุกข์โดยตัวมันเอง แต่เราทุกข์เพราะมุมมองของเราเองที่มีต่อความทุกข์นั้นต่างหาก
การทำความเข้าใจปรัชญาหรือทฤษฎีใด ๆ จากการอ่านและตกผลึกด้วยตัวเองก็วิธีนึง แต่การนั่งฟังคนสองคนคุยถึงมันให้ฟังในจังหวะที่เราต้องการอย่างพอดิบพอดีก็เป็นช่วงเวลาที่มหัศจรรย์ขึ้นมามาก ๆ สำหรับเรา พูดได้เต็มปากเลยว่าช่วงเดือนที่ผ่านมาเรามี "Shortcut ปรัชญา" เป็นเพื่อนยามยากจริง ๆ จากที่เริ่มฟังแก้เหงาระหว่างทำงาน พัฒนากลายเป็นเสียงสะท้อนและบทสนทนาต่อตัวเราไปจนถึงโลกทั้งใบ ขอบคุณฟางกับภาคินมาก ๆ ครับ คุณสองคนทำให้ผมผ่านหนึ่งในช่วงเวลาสำคัญของชีวิตและจูงมือพาเรากลับไปทำความเข้าใจถึงคำถามภายในหลาย ๆ คำถามได้จริง ๆ
เรายังรู้สึกว่าเรายังพยายามไม่พอ เราดีได้มากกว่านี้ เราควรจะต้องทำได้มากกว่านี้ ที่เราเฟลเพราะเรายังไม่พยายามมากพอ เราล้มเหลวเพราะเราเอง จนตอนนี้ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลวเราก็ยังคิดว่าตัวเองไม่พยายามพอ ต้องพยายามมากกว่านี้ ต้องมากกว่านี้อีก พอเป็นแบบนี้เลยยังให้ภัยกับความล้มเหลวของตัวเองไม่ได้สักที
เป็นกำลังใจให้พี่ๆครับผมชอบรายการพวกพี่มากๆจะรอดูและรอตลอดๆๆๆๆ เลยนะครับ❤
จะร้องไห้แล้วนะ อีพีนี้….. ขอบคุณรายการดีๆๆ แบบนี้นะคะ มันเติมเต็มหัวใจมากๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ 🥹🥹🥹
ชอบ ep. นี้ ขอบคุณครับ
รัก ep นี้มากๆ ขอบคุณที่เล่าได้ชัดเจนมากค่ะ
ขอบคุณค่ะ❤💞🙏
อยากให้คนที่กลัวการถูกปฏิเสธอะค่ะ
ลองนึกถึงสำนักพิมพ์ที่เคยปฏิเสธต้นฉบับแฮรรี่ พอตเตอร์ของ jk ดูอะค่ะ
มนุษย์เราไม่ได้ฉลาดขนาดเลือกสิ่งที่ดีให้ตัวเองได้ทุกครั้ง และงานของเราก็อาจไม่ได้แย่เพราะถูกปฏิเสธก็ได้
เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ
ขอบคุณมากเลยนะคะ ชอบ EP นี้มากเลยค่ะ เหมือนได้เยียวยาและปลอบโยนจิตใจให้สามารถใช้ชีวิตต่อไปได้จากการที่โดนด้อยคุณค่า ❤
คุณเคยทำงานโดยนำเอา A.I. มาประยุกต์ใช้บ้างไหม ? มันน่าจะสนุกมากเลยนะ 😊
ชอบ ep นี้ที่สุด❤❤❤
พระจันทร์ก็ยังงดงามเสมอ แม้ในตอนที่มันไม่เต็มดวง
ดีมากๆค่ะ❤
ดีมากๆเลย ขอบคุณครับ
อุดมคติอยู่ตรงไหนก็อยู่ตรงนั้น มั่นใจๆไปเลย มากกว่าการแพ้ชนะคือการได้พัฒนาตัวเอง
ทำต่อไปนะครับ ดีมากๆเลยครับ ❤❤
ขอบคุณรายการดีๆนะครับ
รอเรื่องปรัชญาเต๋านะครับ
Resume of Failure : ประวัติการจีบสาวไม่ติดตั้งแต่ประถมจนอายุ 31 ครับ น่าจะได้ enlighten ได้ว่าทำไมเรายังมีปัญหาด้านนี้ ได้เห็นมุมมองใหม่ๆ คับ ขอบคุณฮะ
คนล้มเหลวมีมากกว่านะครับ ผมเลย 40 แล้วก็ยังอยู่เป็นเพื่อนคุณ มองอีกมุมนึง ถ้าได้มาไม่ถูกใจนี่ตอนเอาไปคืนลำบากกว่านะครับ อย่าให้เวลามาบีบ
@theemeepeek2947 นั่นแหละคับ เลยได้เห็นมุมมองเรื่องความสัมพันธ์ใหม่เลย จากที่ไม่เคยพอใจเพราะไม่เคยมี กลายเป็น อย่างน้อยก็ไม่ต้องรับความเสี่ยงเกินกว่าจะแก้ปัญหาได้
ขอบคุณมากนะครับ
พอพูดถึงดูดฝุ่นและทำเตียงให้ตึงนี้เห็นภาพตัวเองเลยครับ กวาดแล้วกวาดอีก ดึงแล้วดึงอีก 😂😂😂😂😂
ขอบคุณมากๆเลยครับ
โดยความรู้สึกส่วนตัว เชื่อว่า มนุษย์ถูกสร้างมาให้ไม่สมบูรณ์ เพื่อให้เกิดการเดินทางออกตามหาความสมบูรณ์ และระหว่างทางนั้น ก็จะได้เรียนรู้และพัฒนาสติปัญญา. ส่วนความสมบูรณ์จะมีอยู่จริงหรือไม่ อันนี้ยังบอกไม่ได้เหมือนกันเพราะตอนนี้ยังไม่เจอ. หรือจะจบแค่การรู้สึกยอมรับในตัวเอง? ก็ยังบอกไม่ได้แน่ชัด.
ประสบการณ์ของชีวิตที่มีขึ้นมีลงตามวัตจักรรกทำให้กลับมานั่งคิดว่าชีวิตของคนเราไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆค่ะ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ถ้าเราเอาใจไปใส่ไว้ก็จะทุกข์ แต่ถ้าเราถอยออกมานิดนึง กลับมาดูที่ใจของเรา มันก็จะง่ายขึ้นเพราะสิ่งที่เราทุกข์นั้นเกิดขึ้นเพราะอะไร ท้ายที่สุดชีวิตของแต่ละคนก็เจออะไรที่แตกต่างกัน ไม่สามารถลอกเลียนแบบกันได้เลย
ขอบคุณ นะครับ
ผมไม่สมบรูณ์เเผนในทุกด้านครับเเละผมชอบยึดติดกับความล้มเหลวในอดีต😢😢😢😢😢😢😢😢😢😢😢😢
ผมอยากได้การปลอบใจเเต่เหมือนไม่มีใครเข้าใจผมเลย
เป็นกำลังใจให้ครับ อาจจะไม่มีใครปลอบใจเราได้ตลอดเวลาแต่คุณให้กำลังใจตัวเองได้นะ
ชีวิตเรามันก็มีแค่นั้นแหละครับ มันไม่มีอะไรสมบูรณ์หรอก การที่เราได้ทำมันอย่างเต็มที่แล้วนั่นก็ถือว่าสมบูรณ์ที่สุดแล้ว😊
เราลูบหลังให้ตัวเองได้ ปลอบตัวเองได้ ค่ะ เมตตาต่อตัวเองก่อนที่จะหาให้คนอื่นเมตตาเรา ค่ะ
วิบิซาบินีืกินแล้วขึ้นจมูกไหมครับ 😊
good video yet again, thank you love ❤️
มีทางที่จะได้ฟัง ep ที่ถูกตัดไหมครับ?
จริงๆ ไม่ได้ตัดทิ้งไปเลย แต่อัดซ่อมใหม่ครับ 😅 ถ้าจำไม่ผิดอีพีที่อัดซ่อมน่าจะออกไปหมดแล้วทุกอันนะครับ
Thanks!
ขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุนและกำลังใจ ทีมงานจะพัฒนาคุณภาพของเนื้อหาและการนำเสนอคอนเทนต์ที่ดีต่อไปครับ 💜
ขอบคุณครับ
งดงามมากครับ
นึกถึงประโยคในซีรีส์The Bear
A: I wont make a mistake again.
B: Yeah, you will, but not cause you’re you. Just cause shit happens
การชงชาหรือวิถีแห่งชา (Chado) เคยอ่านในหนังสือชื่อว่า Omoiyari ของ Erin Niimi Longhurst ซึ่งวิถีแห่งชาในหนังสือบอกว่ามาจากแนวคิด "วะ" = ความสอดคล้อง สันติสุข ความสมดุล และความสมานสามัคคี ให้คุณค่ากับความสัมพันธ์เชื่อมโยงซึ่งกันและกันของสิ่งต่างๆ วิถีแห่งชา ประกอบด้วย Wa (ความสอดคล้องกับธรรมชาติ เช่น การเลือกอาหาร เครื่องเคลือบ รายละเอียดต่างๆ) Kei (การเคารพซึ่งกันและกันรวมถึงพิธีการ) Sei (ความบริสุทธิ์ พิธีชงชาก็เหมือนการชำระล้างจิตใจ) Jaku (ความสงบงาม การค้นหาความสงบงามโดยทำให้เป็นรูปธรรมผ่านการชงชา)
ไม่ง่ายจริงๆค่ะ การยอมรับความล้มเหลว มันจะอึดอัด เสียใจ และกลายเป็นความกลัวที่จะล้มเหลวอีก แต่พอลองค่อยๆลุกและยอมรับกับความผิดพลาดในอดีต มันภูมิใจกับตัวเองและสร้างความสุขเล็กๆในการเจ็บในอดีตเหมือนกัน ขอบคุณรายการดีๆในทุกๆ EP. นะคะ
พ่อผมไม่เคยสอนผมด้วยการดุด่าว่ากล่าว แต่พ่อผมสอนผมด้วยการทำให้ดู ผมเลยติดนิสัยพ่อผมมาจนถึงวัยทำงาน เวลาผมสอนลูกน้องผมก็สอนแบบที่พ่อผมสอนผมคือไม่ดุด่าแต่ทำให้ดู ไม่มีปัญญาทำก็ไร้ตัวตนไป ตัวอย่างที่พ่อผมสอนผมก็เช่น มีครั้งหนึ่งแกตัดกิ่งมะม่วงแล้วแกสั่งให้ผมลากไปทิ้ง ด้วยความที่รังมดมันเยอะแล้วรังมันตกกระแทกพื้นแตก แค่เดินเข้าไปใกล้มดมันก็ไต่ขึ้นถึงหัวแล้ว ผมเข้าไปลากแค่แป๊บเดียวมดก็ไต่ขึ้นเต็มตัวแล้ว พ่อผมแกเห็นผมเดินเข้าเดินออกสองรอบแล้วแกคงรำคาญแกเลยเข้าไปลากกิ่งมะม่วงไปทิ้งเองแบบลากไปทีเดียวถึงที่ทิ้งเลย ทั้งหัวทั้งหน้าแกแดงไปด้วยมดแต่แกก็ไม่สนใจทำจนเสร็จ เจอแบบนี้ยิ่งกว่าโดนด่า ผมเลยติดนิสัยมานะอดทนในการทำงานมาจากพ่อผม น้าผมแกเคยเป็นทหารแต่ออกจากราชการก่อนเพราะพิการจากการรบ ทั้งโดนยิงทั้งโดนระเบิดแต่รอดมาได้แกก็ชอบคุยข่มเวลาพลาดเกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บว่า แค่นี้ยังไกลหัวใจ ส่วนความคิดผมจะได้รับอิทธิพลมาจากการอ่านมากกว่า เห็นหนังสือน่าอ่านแล้วยังไม่ได้อ่านแล้วรู้สึกพลาด แต่ไม่ชอบอ่านนิยาย ชอบอ่านอะไรที่มีสาระมากกว่า
41:11 จริงครับ😊
รู้สึกร่างกายรูปร่างหน้าตาของเราไม่สวยไม่ดีเท่าคนอื่นตลอดเวลา เหมือนถ้วยชาที่บิ่นเบี้ยวขาดๆเกินๆ หมกมุ่นอยู่กับการวางแผนทำศัลยกรรมทั่วหน้า กังวลเรื่องรูปร่างจนไม่มีความมั่นใจ เหมือนกับที่ผ่านมามักมีคนคอยวิจารณ์รูปร่างหน้าตาเราตลอดเวลา เคยถูกเพื่อนล้อที่โหนกแก้มใหญ่หาว่าบ้านนอก จมูกบาน ตัวหนา จนกลายเป็นคนที่สูญเสียความมั่นใจในทุกๆด้าน รู้สึกฉันไม่ดีพอไม่คู่ควรกับสิ่งดีๆ ที่คนอื่นมอบให้
ลองไปร้านถ้วยชามือสองกันดูมั้ยครับ แข่งกับถ้วยออกจากโรงงานแล้วเหนื่อย >.
พูดถึงวาบิซาบิ ผมนึกถึงซูชิก่อนเลยฮะ ต้องจิ้มวาซาบิ😂😂😂
สนุกดีครับ
เป็นตอนที่ฟังแล้วแสงออกหัวมาก
ผมเชื่อครับ ว่าคนเราเติมโตจากความเจ็บปวด
ไม่ได้ทิ้งมันไป แล้วหล่อหลอมมันใหม่ จากของเก่า
ศิลปะกับความเจ็บปวดผมพอจะเข้าใจนะครับ
เป็นอารมณ์ความคิดในช่วงนั้น เหมือน รัก โลภ โกรธ หลง
บางคนออกมาเป็นเพลงหรืองานต่างๆ ผมออกมาเป็นเรื่องราว และตัวละคร
เริ่มซื้อ LTF ช้าไป และป็นตอน set all time high
ถ้าจะให้ผมเขียน CV แห่งความล้มเหลว อาจจะเป็นเรื่องลำบาก เพราะเขาชอบแนะนำว่า CV ที่ดีควรมีขนาดกะทัดรัด 1-2 หน้า แต่ CV แห่งความล้มเหลวของผม ใช้พื้นที่แค่ 1-2 หน้า คงอาจจะไม่พอ
ขอบคุณมากค่ะ
พี่ภาคินพูดว่าผ้าปูที่นอนผมสะดุ้งนึกว่าเข้าสะแล้ว5555
แล้วถ้าชีวิตเราควบคุมไม่ได้ ความฝันของเราแม้ว่าจะพยายามก็อาจไม่สำเร็จ แล้วเราจะเอาอะไรมาเป็นแรงบันดาลใจหรือเป็นกำลังใจให้เราทำสิ่งนั้น ในเมื่อบั้นปลายก็ไม่มีอะไรการันตีว่าเราจะสำเร็จ ชีวิตนี้ของเราเราจะพยายามไปทำไม? ระหว่างทางที่เหน็ดเหนื่อยกับบั้นปลายที่ไม่รู้จะได้หรือเปล่า มันคุ้มที่้เราจะตั้งใจและทุ่มเทความเหนื่อยให้กับมันจริงๆเหรอคะ?
ก็เลยเป็นเหตุผลให้คุณรู้สึกไม่อยากลงมือทำอะไรเลย เพราะกลัวจะไม่สำเร็จ แบบนี้รึเปล่าคะ ถ้าเป็นแบบนั้นอยากให้ลองดูอีพีก่อนหน้านี้เรื่อง Perfectionism ค่ะ และอีพี Absurdism ด้วย อาจจะพอไขคำตอบให้คุณได้ค่ะ 😊
ถ้ามองภาพยาวแล้วเหนื่อย มองสั้น ๆ ลงก็ได้นะครับ เก็บตังเที่ยวหรือกินของอร่อยดูมั้ย
เวลาที่เราทำสิ่งที่อยากทำจริง ๆ เรามักจะไม่แคร์ผลลัพธ์มากขนาดนั้น ถ้าเราสนใจผลมาก แปลว่าเราอยากได้ แต่เราไม่ได้อยากทำ งานที่ต้องทำให้อยู่รอดก็ทำครับ แต่วางแผนชีวิตในวันโลกแตก ถ้าไม่ว่างจริง ๆ ลองไม่ทำบ้างก็ดีครับ อาจจะมีความสุขมากขึ้น
🙏🙏
แม่งเอ๊ย ผมเคยดูคลิปปูผ้าปูที่นอน 5555
หรือว่า ... คุณเรียนจบการโรงแรม !!! ตึ่งโป๊ะ
ซ่อม แต่ไม่ได้ซ่อน จุ่มอยู่กะอันนี้พักนึงเลย
วาบิซาบิ คือ ช่องของฮิโระซัง ทำสุโก้ย เจแปน 😂😂
32:32 ผมนี่ Note เลยไปเอาปากกามาจดเลย
บางทีเราคิดว่าเราล้มเหลว แต่จริง ๆ แล้วกลายเป็นว่าเราไปยึดเอาความคิดเห็นหรือการตัดสินของคนอื่นเป็นข้อสรุปว่าเราบกพร่องล้มเหลว fact กับ opinion แยกยากนะครับ
💯
ขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุนและกำลังใจ ทีมงานจะพัฒนาคุณภาพของเนื้อหาและการนำเสนอคอนเทนต์ที่ดีต่อไปครับ 💜
โจทย์ กพ ปี 67 😂
ถ้าเปรียบชีวิตเป็นกีฬาถ้าอีกฝั่งนึงPerfect อยู่ฝ่ายเดียว อีกฝั่งห่วยแตกเลย ชีวิตมันก็ไม่สนุกแล้วแหละ มันต้องมีสลับกันพลาดสลับกันเก่ง นี่แหละชีวิต
ส่วนตัวไม่ค่อยอินคินสึงิในนิยามที่พูดมาเลยค่ะ การใช้ทองไปแต่งเติมก็ตรงข้ามกับวะบิซะบิแล้วอ่ะ เหมือนแค่การสร้างใหม่ให้มันเพอร์เฟ็คต์สวยงามกว่าเดิมมากกว่าก้าวข้ามความบกพร่อง ถ้าจะยอมรับความไม่เพอร์เฟ็คต์จริงๆ ก็ควรจะยอมรับรอยร้าวที่ไม่มีสีทองได้ การใส่สีทองเข้าไปยิ่งเหมือนกลบเกลื่อนความไม่เพอร์เฟ็คต์ด้วยการเอาสิ่งภายนอกมาทดแทนการแตกร้าว เหมือนบกพร่องแล้วพยายามทำให้ความบกพร่องมา romanticize ให้ความบกพร่องนั้นสูงส่งกว่าความเพอร์เฟ็คต์หรือธรรมชาติมากกว่า การรู้จักคุณค่าของตัวเองที่แท้จริงน่าจะเป็นการยอมรับสภาพแตกร้าวที่ซ่อมกลับคืนมาแม้มีร่องรอยน่าเกลียดแต่มันยังคุณสมบัติเดิมคือเป็นถ้วยชามที่ใช้ได้เหมือนเดิมมากกว่า ยิ่งศิลปินบางคนไม่ได้ซ่อมแต่จงใจทำแตกเพื่อสร้างงานคินสึงิยิ่งไม่อินเลยค่ะ อันนี้เราไม่ได้สนใจคินสึงิมาก่อนเลยอาจจะไม่รู้จักมันมากนะคะ เป็นความเห็นเท่าที่ฟังในอีพีนี้เท่านั้น
เห็นด้วยครับ ไม่เคยอินกับคินสึงิเลย😅
โอ้ว สำหรับผม ฟังแล้วเกิดแรงบันดาลใจ และเข้าใจประเด็น "กาวสีทอง" ที่หลักคิดนี้ต้องการสื่อสารครับ
คำว่า "สีทอง" ผมว่าเป็นเชิงสัญลักษณ์ความสวมงามภายนอกเฉย ๆ แต่นัยยะคงเป็นว่า "มันก็ต้องประสาน และเราต้องรู้สึกว่าสิ่งนี้ (รอยร้าวที่แตก) มันสวยงาม (ในมุมสิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว ล้วนดีงามเสมอ) เพื่อให้เรา "มองเห็น" และเดินทางไกลไปต่อ ครับ
คิดว่าเป็นเรื่องปรกติที่จะเห็นต่างนะครับ เราอ่านหนังสือเล่มเดียวกันหน้าเดียวกัน แต่สนใจในจุดที่แตกต่างกัน แนวคิดเดียวกันแต่ต่างศาสนาใช้คำอธิบายไม่เหมือนกัน เราก็ชอบแบบนึงมากกว่าอีกแบบ
ถ้าผมบังเอิญไปเจอคนที่ตั้งใจทำชามแตกเพื่อมาเชื่อมสีทองให้เนี๊ยบ ๆ แล้วค่อยมาฟัง EP นี้ ก็อาจจะทำให้บริบทของผมในการฟังมันเปลี่ยนไป
เห็นด้วย มองว่าเป็นการสร้างเรื่องราว เพื่อเพิ่มมูลค่าของสินค้ามากกว่า
@@suzume444 แชร์คหสตนะคะ เราคิดว่าถ้าเราจะใช้แก้วใบนั้นต่อไม่ทิ้ง ก็เลยหาอะไรมาปิดมาเชื่อมไม่ให้มันบาดปากหรือชำรุดง่ายเพราะมันอยู่ในสถานะที่มีโอกาสเสี่ยงแตกน่ะค่ะ เอาไปอุดเพื่อให้ได้ไปต่อใช้ต่อแต่ก็ไม่ได้ซ่อนรอยร้าว เปิดเผยยอมรับว่ามันมีสิ่งที่ร้าวอยู่ เราเลยมองว่าอันนี้คือบรรลุในใจเราแล้วน่ะค่ะ
ขอบคุณมากๆเลยครับ
รายงานนี้เหมือนเป็นที่พึ่งทางใจของเรา