เราก็เคยเป็นหนึ่งคนที่เผลอเอามาตราวัดหรือ standard สังคมมากดดันตัวเองจนเกือบพลาดความงดงามของโลกนี้ไปเลยค่ะ แต่พอกลับมานั่งคิดทบทวน Everyone is not be perfect เราก็แค่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น🤍✨แค่ได้กินอร่อยๆกับคนที่เรารักก็แฮปปี้แล้วค่ะ ใจเบาขึ้นเยอะเลย มองเห็นความธรรมดาเป็นเรื่องที่พิเศษไปได้โดยปริยาย แค่เลิกคาดหวังและปล่อยวาง เท่านั้น เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะเพราะเคยเจ็บปวดจึงได้เรียนรู้เช่นกัน
00:00 Highlight
00:42 ทำไมเราอยากสมบูรณ์แบบ
08:32 โลกแห่งแบบ
18:25 Perfectionist ในปัจจุบัน
27:00 ตัวอย่างจากซีรีส์ Black Mirror
31:49 Perfectionism ทำร้ายเราอย่างไร
36:05 สังคมแบบไหนสร้าง Perfectionist
47:17 คำถามทิ้งท้าย
เราสูญเสียความเป็น perfectionist ตอนไปเรียนอเมริกา เราเรียนเพอร์เฟคมากที่ไทย เกรดดี แต่เราพูดอังกฤษไม่ได้ พอไปเรียนกับฝรั่งเรากลายเป็นเด็กโง่หลังห้องทันที แค่เพราะแปลไม่ออก ตอนนั้นคือเครียดมาก ผิดหวัง กดดัน ว่าทำไมเราโง่จัง เค้าต้องด่าเราดูถูกเราแน่ ๆ แต่แรากฎว่าไม่เลย ไม่มีใครมาด่ามาว่ามาเหยียด เขาไม่ได้สนใจ คนอื่น ๆ ในคลาสก็ไม่ได้เก่งมากแต่ทุกคนก็เรียนได้ อาจารย์ไม่ด่า คือทุกคนใช้ชีวิตแบบปกติ ผิดพลาดได้ เขาให้กำลังใจด้วยซ้ำ มันไม่เป็นไรเลย ตั้งแต่นั้นมาคือหลุดจากperfectionist เลยค่ะ ใช้ชีวิตง่ายขึ้น สบายขึ้น เป็นตัวเองขึ้น
ผมชอบจังหวะอาจารย์พูด "ตอนเด็กผมเกเรมาก่อน" ผมหลุดขำเลยครับ
อีพีนี้ดีมาก แทงใจดำแบบสุด เราเป็น perfectionist แบบเข้มข้นมาก เช่น เวลาทำงานกลุ่มสมัยเรียนมหาลัย จะชอบไปแก้งานของเพื่อนทั้งๆ ที่เขาไม่ได้ขอ อยากให้ทุกอย่างออกมาเพอร์เฟ็กต์ หรือกระทั่งช่วงตกงานตอนโควิด เป็นบัณฑิตจบใหม่พอดี ไฟแรงมาก อยากไปเป็นดาวโดดเด่นบนฟากฟ้า แต่เบรกแตกแหกโค้งเพราะ pandemic ไม่มีใครมากดดันเลยนะ พ่อแม่พี่น้องไม่มากดดัน แต่เราเองนี่แหละที่กดดันตัวเองจนเกือบจะมีภาวะซึมเศร้าเพราะชีวิตไม่สวยงามสมบูรณ์แบบอย่างที่วาดฝันไว้
24:50 เรื่องของการประเมิน ตรงนี้เคยได้ key มาจาก supervisor ที่ทำให้ชีวิตเราเบาขึ้นค่ะ “ที่ผมติคือติที่งาน/วิธีการของคุณ ไม่ได้ติที่ตัวคุณ” พอมานั่ง ๆ คิดแล้วเราก็เบาขึ้นจริง ๆ ค่ะ เราแค่ทำงานให้ดีขึ้น รัดกุมขึ้น เป็นแบบแผนให้มากขึ้น ประเด็นคือคุณต้องลงมือทำต่อ ต่อให้ผลมันไม่ดีขึ้นถ้าวิธีการเราดีที่สุดที่ทำได้แล้ว หัวหน้าก็คิด process ที่ effective กว่านี้ไม่ออกแล้ว มันก็ไม่ควรจะต้องโทษใคร (ถ้าคุณได้หัวหน้าที่ดีละนะ)
Keep on doing well of the way you know how until the better Know-how happens to be able to.
ตอนนี้คิดว่ากำลังเป็นแบบนี้อยู่ค่ะ ทั้งที่เคยคิดกับตัวเองไปแล้วว่า 'ไม่ ฉันไม่คาดหวัง ฉันไม่ต้องการความสมบูรณ์แบบ' แต่กลายเป็นว่าตอนนี้ถึงแม้จะได้รับคำชมมากมาย แต่ 0.1% ไม่ได้ตำหนิเรา เหมือนเขาชมเราน้อยกว่าคนอื่น รู้สึกเลยว่า 'นี่เรายังทำไม่ดีพอเหรอ ฉันยังเก่งไม่พอทั้งที่พยายามมามากแล้วนะ ทำไม?' ผุดขึ้นมาในหัว คิดว่าตอนนี้น่าจะตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้แล้วแน่ๆ เลยค่ะ🥲🥲
นึกว่าจะไม่มาแล้วรายการนี้ อย่าหายไปไหนนะะะะ🙏🏼
ต้องบอกว่าในสมัยนี้ รายการแบบนี้ดีมากๆเลบครับ
ขอใช้คำว่าคนส่วนใหญ่ลืมตัวตนจริงๆ ว่าตัวเองเป็นอะไรชอบอะไรต้องการอะไร
เราทำตามสื่อที่ชักจูงไปในทิศทางอุตสาหกรรมหลักเพื่อคนรวยเพียงไม่กี่เปอเซนต์ ไม่ว่าจะไลฟสไตล์ การกินอยู่ ท่องเที่ยว ความสำเร็จ
กลายเป็นว่าสังคมเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ในปัจจุบัน คนก็เจ็บปวดอยู่แล้ว ต้องมานั่งด้อยค่าตัวเองเข้าไปอีก
ชอบอีพีนี้ค่ะ เป็นสิ่งที่ตั้งคำถามมาตลอดเวลาฟังหรือดูชีวิตของคนอื่นที่บอกว่าชีวิตต้องแบบนั้น ต้องแบบนี้ สงสัยว่าชีวิตต้องเป็นแแบบที่เขาบอกจริงๆหรอ ทำให้เราเกิดบางอย่างขึ้นมาในใจ มาตรฐานบางอย่างที่ครอบให้ตัวเราคิดแบบที่เขาบอก จนเราด้อยค่าความจริงที่เขามองว่าอาจจะไม่ได้สวยงาม ซึ่งจริงๆแล้วสิ่งนั้นคือความจริง ไม่มีสวยงามหรือไม่สวยงาม มันก็คือความจริงในตัวของมันเอง อยู่ที่มุมมองที่เราจะมอง ที่เราพอใจ ขอบคุณมากๆค่ะ ติดตามทุกๆอีพีเลยค่ะ ขอให้มาตั้งคำถามหลายๆคำถาม ชวนกันคิดแบบนี้ไปเรื่อยๆนะคะ เพราะชีวิตมันมีสีสันมากกว่าที่คิดค่ะ
ดีมากๆ แค่ปล่อยวาง และบอมรับว่าคนเรามันแตกต่างกัน เมื่อก่อนเวลากินข้าวละมีคนเคียวเสียงดัง นั่งหลังค่อม เดินลากเท้า เสียงในหัวมันด่าอัตโนทัติเลยว่า ต่ำจัง ไม่รู้เรื่อง " แต่พอปล่อยวางได้ สบายใจมาก แค่ไม่ต้องใส่ใจคนอื่น พัฒนาตัวเองพอ คนอื่นจะแย่ขนาดไหนก็เขาจัดการเอง 😊
ขอบคุณมากๆๆสำหรับ content นี้ค่ะ น้ำตาจะไหล
ทุกสิ่งทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวเรา อย่าไปยึดติดกับสิ่งต่างๆในโลกนี้มากนัก อยู่ให้มีความสุขไม่เกิน100ปีเราก็ตาย
เป็นตอนที่จะเก็บไว้ฟังแล้วฟังอีก โดยเฉพาะในวันที่เริ่มโบยตีตัวเอง 😊
เป็น EP.ที่โคตรดีครับ อีสามตอนที่แล้วว่าดีแล้ว ตอนนี้เหมือนมาขยายครอบรวมๆอีกที แล้วสรุปได้ดีมากๆ
ชอบหน้าปกมาก “ความลับที่ Perfectionist ไม่อยากรู้” ผมฟังแล้วหลับโดยไม่รู้ตัวเลย เหมือนจิตใต้สำนึกไม่อยากรับรู้จริงนะ 😂
โห ดีมากๆเลยค่ะ ฟังแล้วนึกย้อนถึงตัวเองตอนเด็กๆ ตอนนั้นถ้าสอบไม่ได้ที่ 1-3 คือแซดมาก ยังจำได้จนถึงทุกวันนี้ว่าตอนป.3 สอบได้ที่4 แต่ตอนนี้กำลังฮีลตัวเองอยู่ค่ะ รอฟังep.หน้านะคะ
Netflix ต้องเข้าแล้วครับ😁, ผมไม่ใช่ perfectionist แต่ก็คิดว่าจะพยายามทำเต็มที่ ถ้ามันเต็มที่ ณ เวลานั้นแล้ว มันจะล้มเหลว เราก็คงทำดีกว่านั้นไม่ได้ ก็ต้องยอมรับแล้วพยายามต่อไป ผมไม่เชื่อว่ามันมีตัวตนที่ดีที่สุด เชื่อว่าดีของแต่ละคนต่างกัน และแม้คนที่ประสบความสำเร็จที่สุด ก็จะต้องมีเรื่องล้มเหลวในบางเรื่องแน่นอน
ผมคิดว่าในความพยายามต่างๆ การบริหารจิตใจก็สำคัญ ตั้งกฏให้ตัวเองเพื่อจิตใจตัวเองด้วย
ขอแชร์เรื่องของผมนะครับ อาจจะยาวหน่อยนะครับ
ผมมองว่าตัวเองเป็น Perfectionist มาตั้งแต่ก่อนจะรู้จักคำนี้อีกครับ น่าจะตั้งแต่ช่วงเด็ก ๆ จนตอนนี้อายุ 24 ปีแล้ว น่าจะประมาณ 10 กว่าปีเลย ผมรู้สึกว่าเราต้องทำไลให้ได้ดีที่สุดในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเรียนวิชาอะไร ต้องได้คะแนนดีกว่านี้ในครั้งต่อ ๆ ไป จนกว่าจะได้คะแนนเต็ม (หรือบางครั้งได้คะแนนเกินคะแนนเต็มด้วยซ้ำครับ) ไม่งั้นจะรู้สึกหวั่นอยู่ในใจ เราทำพลาดตรงไหน แม้จะแค่คะแนนเดียวก็ทำให้ร้อนรุ่มใจไปหมดครับ กับการเล่นเกมก็ชัดเหมือนกันเพราะเกมก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ทำการวัดความสมบูรณ์แบบได้ชัดเจนและบ่อยครั้งเลยทีเดียว
ผมสารภาพว่าตอนฟังเรื่องนี้ครั้งแรกเหมือนจะหลับไปแบบไม่รู้ตัว แต่จริง ๆ คือรู้สึกแอบเจ็บปวดจนไม่อยากฟังมากกว่าครับ วันนี้ได้โอกาสเลยตั้งใจฟังดู พอฟังไปถึงจุดหนึ่งแล้ว (ใกล้จบแล้ว) ก็หยุดร้องไห้ไม่ได้เลยครับ ประโยคที่สั่นคลอนที่สุดน่าจะเป็น “เพราะอะไร เราถึงโบยตีตัวเราเองได้ขนาดนี้” ผมรู้สึกเลยว่าทุกอย่างที่ผมเก็บเอาไว้มันพรั่งพรูออกมาหมดเลยครับ เหมือนกับว่าเบื้องหลังของการใฝ่หาความสมบูรณ์แบบของผมมันคือความทุกข์ทรมานใจความไม่มั่นใจความเศร้าที่ไม่ได้รับการยอมรับคุณค่าของตัวเราจากคนอื่นโดยเฉพาะคนที่สำคัญกับเราอย่างครอบครัวและคนใกล้ชิด
จริง ๆ ตอนนี้ผมอยู่ในภาวะของโรคซึมเศร้ามาค่อนข้างนานแล้วครับ น่าจะประมาณ 7-8 ปีที่อาการชัดขึ้นแบบสังเกตตัวเองได้ แต่พึ่งเป็นหนักช่วงโควิดที่พักอยู่บ้านอย่างเดียว และพึ่งได้รับการวินิจฉัยโดยแพทย์อย่างจริงจังเมื่อ 2-3 เดือนนี้เองครับ ผมสงสัยมาตลอดว่าที่มาที่ไปของความเศร้าจำนวนมหาศาลนี้มันมาจากอะไร ก็จริงที่เราอาจจะเคยผ่านเรื่องราวบางอย่างมาที่ทำให้เราเศร้า แต่เพราะอะไรมันถึงยังตามมามีผลกับเราอยู่จนถึงทุกวันนี้ เพราะอะไรเราถึงไม่มีความสุข เพราะอะไรเราถึงต้องพยายาม “ทำให้ดีที่สุด” “อยากมีประโยชน์” “ไม่อยากไร้ประโยชน์” รู้สึกว่าตัวเราไม่มีคุณค่าด้วยตัวเราเอง โบยตีตัวเราเองได้มากถึงขนาดนี้ พอฟังคลิปนี้ผมก็ได้ทบทวนตัวเองหลายอย่างแล้วเข้าใจตัวเองมากขึ้นมาก ๆ เลยครับ ผมรู้สึกว่าความ “สมบูรณ์แบบ” ที่ผมถูกหล่อหลอมมานี่แหละที่เป็นต้นตอของปัญหาที่ผมเผชิญอยู่มาจนถึงปัจจุบัน
ผมพยายามไม่คิดโทษตัวเองและใครก็ตามหรือรวมถึงสังคมที่ทำให้ผมกลายเป็นคนที่หมกมุ่นอยู่กับ Perfection นะครับ ผมคิดว่าในมุมหนึ่งคือมันดีมากเลยนะที่ผมกลายเป็นคนที่พยายามทำให้สิ่งต่าง ๆ ดีขึ้นอยู่เสมอ มาถึงจุดนี้วันนี้ ณ เวลานี้ผมกลับดีใจมากกว่าที่ผมพบวิธีที่จะปลดเปลื้องความเจ็บปวดของตัวผมเองออกจากการเป็น Perfectionist ด้วยการลดการประเมินคุณค่าของตัวเองลง และเข้าใจถึงความจริงที่ว่า คุณค่าของชีวิต อาจไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบก็ได้ ไม่ว่าเราจะถูกสั่งสอนมาตั้งแต่เด็กมากน้อยแค่ไหน แต่ในวันนี้เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลานี้ เราโตมากพอที่จะสอนตัวเองใหม่ได้แล้วนะ ความสมบูรณ์แบบอาจเป็นสิ่งที่ดี แต่เราอาจไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบครับ (หรือจะพยายามทำให้สมบูรณ์แบบบ้างก็คงไม่ผิดอะไร แค่อาจจะไม่จำเป็นต้องสมบูณณ์แบบตลอดเวลาก็ได้ ไม่งั้นเราเองนี่แหละที่จะเป็นคนโบยตีตัวเองต่อไป และอาจจะกลายเป็นตัวเราที่ไปโบยตีคนอื่นต่อไปอีกโดยที่เราไม่รู้ตัว)
ขอบคุณที่แชร์ให้ฟังมาก ๆ เลยนะครับ ผมรู้สึกดีใจและมีความสุขมาก ๆ ที่ได้มีโอกาสมาฟังมุมมองแนวคิดนี้นะครับ ขอให้มีวันที่ดีนะครับ❤
47:18 ขอแชร์ประสบการณ์ครับ
เคยกดดันตัวเองตอนทำงานอยู่ครับ
กดดันตัวเองมากเสียจน รู้สึกว่าตัวเราเองไม่ดีพอจนหมดไฟไปเลยช่วงนึง
แต่สุดท้ายพอลองกลับมาคิดดูว่า
"เออที่เราทำพลาดมันก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตขนาดนั้นนี่" สุดท้ายก็สามารถหลุดออกมาจากความ Perfectionistได้ครับ
เคยเป็นครับ แล้วเจ็บปวดกับสิ่งที่เป็นมาก พอมีสติแล้วลองมองไปรอบๆให้ดี คนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่เขาก็มีชีวิตที่ดี มีความสุขได้ เลยลองทำอะไรสวนทางกับที่เคยทำมา บอกตัวเองว่า เราดีพอแล้ว สิ่งที่เรามี สิ่งที่เราเป็น มันโอเคแล้ว ชีวิตก็มีความสุขขึ้นเยอะเลยครับ
จังหวะที่บอกว่าได้ 80/100 ต่อให้ได้เอก็เศร้า คือนึกถึงตัวเองเลยค่ะ เราจบมาได้ 3.6/4.0 โดยที่เกียรตินิยมอันดับ 1 ตัดที่ 3.5 แค่เราก็ยังไม่พอใจ เพราะตั้งเป้าที่ 3.7-3.8 เพราะมันดูเก่งจริง ไม่ใช่คาบเส้น 🥲
จุกมาก ผมเป็นจนเสียแฟนไปแล้วตอนนี้ ขอบคุณนะครับ ❤
โอ้ว อีพีนี้ดีมากค่ะ ยิ่งฟังยิ่งใช่ ตอนนี้กำลังเป็นอยู่และรู้สึกหมดไฟ เสียสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตไปเยอะมากเหมือนกันกับคำนี้
ปัญหาอยู่ที่ 1.เป็น perfectionist โดยที่ตัวเองไม่อยากจะเป็น, หรือไม่รู้ว่าไม่จำเป็นต้องเป็นก็ได้ 2. ความสมบูรณ์แบบที่อยากจะได้/มี/เป็น มันไม่สามารถเป็นจริงได้ ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง (เช่น เป้าหมายที่ไม่มีอยู่จริง หรือศักยภาพของตัวเองไม่พอที่จะไปถึง หรือสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย เป็นต้น)
ผมคาดหวังโลกที่ คนทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ผมติดอยุ่ในความเป็น perfectionist เรื่องนี้ ... รู้ตัวครับ 🙂
35:27 เป็นประโยคที่แทงใจดำเรามากค่ะ สิ่งที่ทำให้รู้สึกภูมิใจกลับกลายเป็นเรื่องเมื่อสิบกว่าปีก่อน เพราะกลัวความผิดพลาด จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่กล้าลงมือทำอะไรเลย 😔😔😔😔😔
ชอบมากครับฟังตอนทำงานเเละก่อนนอนทุกคืนครับ ชอบมากครับ❤️❤️❤️
เนื้อหาดี น่าสนใจ พิธีกรเก่งครับ
เรามีงานที่ดีทำแล้ว แล้วด็พยายามตามหาความรักที่ดี พอฟังอีพีนี้แล้ว รู้สึกเหมือนถูกแทงใจดำ 😂
รู้สึกผ่อนคลายลง ในการคาดหวังต่อสิ่งต่างๆ
ผมเป็นคนหนึ่งที่วิ่งตามความสมบูรณ์แบบมาตลอด โฟกัสอยู่กับเป้าหมายปลายทางปลอมๆ ที่สร้างขึ้นมา เพื่อให้ตัวเองเป็นคนมีเป้าหมาย มุ่งมั่นทำทุกอย่างเพื่อที่จะไปถึงปลาบทาง จนละเลยสิ่งที่อยู่รอบข้าง(งานต้องมาก่อน) และรู้สึกผิดทุกครั้งที่มีความสนุก หรือทำอะไรที่ผ่อนคลาย รู้ตัวตลอดว่าการที่เป็นอยู่แบบนี้มันบั่นทอนตัวเอง แต่ก็หาทางยุติไม่ได้
เปรียบเสมือนรถที่วิ่งด้วยความเร็วเพื่อให้ไปถึงปลายทางโดย
จนสุดท้ายได้ประสบอุบัติเหตุจนต้องกลายเป็นคนพิการ
ทำงานต่อไม่ได้ ทำตามเป้าหมายไม่ได้
เสมือนรถที่วิ่งด้วยความเร็วได้หยุดลงไปต่อไม่ได้
แต่ผมกลับมีความสุข รู้สึกดี ได้อยู่กับครอบครัว เห็นโลกในแง่มุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
เสมือนรถที่หยุดลงนั้น ได้จอดที่ริมทางที่ข้างทางเป็นท้องนาที่อาบด้วยแสงอาทิตย์ตกดิน
ชอบรายการนี้มากๆค่ะ เหมือนได้ทบทวนตัวเองและกระบวนการคิด
รักรายการนี้ครับ อยู่ไปนาน ๆ นะครับ ❤
เราก็เคยเป็นหนึ่งคนที่เผลอเอามาตราวัดหรือ standard สังคมมากดดันตัวเองจนเกือบพลาดความงดงามของโลกนี้ไปเลยค่ะ แต่พอกลับมานั่งคิดทบทวน Everyone is not be perfect เราก็แค่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น🤍✨แค่ได้กินอร่อยๆกับคนที่เรารักก็แฮปปี้แล้วค่ะ ใจเบาขึ้นเยอะเลย มองเห็นความธรรมดาเป็นเรื่องที่พิเศษไปได้โดยปริยาย แค่เลิกคาดหวังและปล่อยวาง เท่านั้น เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะเพราะเคยเจ็บปวดจึงได้เรียนรู้เช่นกัน
ขอบคุณที่ทำ ep.นี้ขึ้นมาค่ะ
ตัวตนสั่นคลอน ยังคงเชื่ออยู่ว่า มีประโยชน์เท่ากับมีค่า ถ้าไม่มีประโยชน์ก็ไม่มีค่า เราใช้เวลาในวันหยุดในการพัฒนาตัวเองในด้านการทำงาน แทบจะทำคนเดียวได้เลยในสโคปงานของฝ่ายที่ทำอยู่ คนอื่นมองมาก็อาจจะดีในระดับนึงแล้ว แต่ก็รู้สึกว่าเราเก่งไม่พอ ไม่กล้าใช้คำว่าเก่งแล้วชมตัวเองได้เลย แต่ถ้าแกล้งๆ นึกถึงคนอื่นที่ทำงานแล้วมองดูตัวเองก็ เห้ย เราก็เก่งนะ คือมีปัญหากับก.เปรียบเทียบ พอไปเจอคนที่โม้ว่าตัวเองทำได้ๆ แต่รู้สึกว่าอ่าว ไม่ได้เก่งจริง ก็จะไม่ยอมรับเค้า จนกลายเป็นเหม็นหน้า เอามาตรวัดตัวเองไปตัดสินคนอื่น ทำให้เข้ากับคนได้ยาก แต่ถ้าเจอคนเก่งจริง ก็ยิ่งโบยตีตัวเอง
อีกอย่างที่เพิ่งค้นพบ คือเพิ่งรู้ว่าตัวเองก็อยากสวย แต่ไม่เคยยอมรับ โกหกตัวเองว่า เราไม่ให้คุณค่าทางด้านนี้ ก็เลยเอาเวลาทั้งหมดไปทุ่มที่ความสามารถ ผลงาน เพื่อกลบความไม่สวย ถ้ายอมรับแต่แรกก็จะได้ไปศัลยกรรม จะได้ไม่ต้องเพอร์เฟ็คด้านการงานมากขนาดนี้ เพราะจะได้ดีในที่ทำงานได้ บางทีก็ไม่ใช่แค่ความสามารถ
ทุกครั้งที่ผมวาดรูปเสร็จ ผมจะเอารูปนั้นมาตั้งเป็นวอลเปเปอร์ของมือถือและแทบแลตเพื่อจะได้สังเหตุเห็นจุดผิดพลาดและไปแก้ไขมันทุกครั้ง เกือบทุกวันที่มองผมก็จะเห็นจุดผิดพลาดและแก้ไปเรื่อยๆ😂 แต่ตอนนี้ผมอาการดีขึ้น พบายามปล่อยวางขึ้นละคับ
ความจริง จริงๆ ที่เรากำลังหาอยู่นั้น อาจจะเป็นความจริงที่เรากำลังทำร้ายคนอื่นและตัวเราเอง
ความจริงก็คือความจริง
อีพีนี้มาได้ถูกจังหวะมาก เราพึงเริ่มงานได้เดือนนึง รสประเมินตัวเองอยู่ตลอดเวลา เอาคุณค่าของงานมาผูกกับตัวเอง
Ep นี้ดีมากๆค่า ปลดล็อคอะไรบางอย่างในตัวเอง
คุณฟาง กับคุณภาคิณ ทำออกมาบ่อยๆนะครับ ชอบการดำเนินเรื่องของคุณทั้งสองมากๆครับ
อยากร้องไห้เลยค่ะ แทงจัย //หนูไม่รู้ว่าตัวเองเป็นหรือป่าวนะคะ เพราะหนูไม่มีอะไรเลยที่เก่ง หรือภูมิใจตัวเองที่ทำได้ดี แต่เวลามีคนชมว่าทำได้ดีแล้ว แต่ในสายตาเรามักมองว่า ไม่ได้ มันทำได้ดีกว่านี้ค่ะ บ่อยมากเลยที่เราคิดแบบนี่ จนตอนนี่ก็ยังเป็น ตอนเด็กรู้สึกเป็นหนักกว่าตอนนี่นะคะความเป้ะ ตอนนี่มันขี้เกียจค่ะ เราเหมือนหมดแรงเลยเวลาใช้ชีวิตหรือพยายามทำอะไรสักอย่างเหมือนสมัยก่อน เรารู้ว่าชีวิตมันเฆี่ยนตี แต่เราก็ยังไม่หลุดพ้นความผิดซ้ำซากเหมือนเดิมค่ะ …. ไม่รู้สิ รู้แค่ว่าต้องทำต่อไป และต้องทำให้ได้แค่นี่เลย ทำไปเรื่อยๆ ยังไงชีวิตมันก็เป็นแบบนี่ไปแล้ว ชั้งเถอะ
Epนี้ต้องตั้งใจฟังเลยนะ หลุดทีนึงคืองงเลย
ชอบ EP นี้มากๆเลยครับรู้สึกว่าเกิดขึ้น และยังคงอยู่กับตัวเองในบางเวลา
ผมโบยตีตัวเองทุกวันเลยครับ รู้สึกตัวเองไม่สำเร็จ ไม่มีอะไรเลยตามมาตรฐานสังคม ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว เป็นซึมเศร้า หาหมอ แต่สุดท้ายก็ยังไม่อยากทำอะไรอยู่ดีกลัวไปทุกอย่าง ไม่กล้าทำอะไร อยากทำแต่แค่นอนเฉยๆ ให้หมดวัน ไม่ต้องพูดถึงเรื่องให้มันจบ พอจะมีวิธีไหนทำให้ผมหลุดออกจากอาการแบบนี้บ้าง😢
เรากำลังเป็นซึมเศร้าเหมือนกันค่ะ แต่ตอนนี้เริ่มดีขึ้นแล้ว ช่วงนี้เราเคว้งๆเหมือนคุณเลย แต่เราอยากลองแนะนำ ให้คุณลองหางานอดิเรกง่ายๆ ได้ทำในสิ่งที่คุณพอจะทำได้ง่ายๆดูค่ะ ได้กินอาหารที่อยากกิน แล้วมองให้มันเป็นความสุขเล็กๆในแต่ละวัน
เราเองค่อยๆฝึกจากการมองสิ่งเล็กๆ แล้วชื่นชมมันแม้มันจะเล็กน้อย แต่เราว่าดีกว่าการที่เราจะเอาแต่วนคิดเรื่องเดิมๆนะคะ
ปล.อยากจะให้กำลังใจคุณ และอยากบอกคุณให้รักตัวเองมากๆ เราทุกคนมีคุณค่าเป็นของตัวเอง เพียงแต่เราไม่ค่อยจะมองเห็นแค่นั้นเองค่ะ เพราะงั้นลองค่อยๆหาความสุขเล็กๆในแต่ละวัน แล้วรักตัวเองแม้ว่าวันนั้นเราอาจจะยังไม่ดีพอ แต่สักวันมันจะค่อยๆดีขึ้นเองนะคะ กอดๆเป็นกำลงใจให้ค่ะ😺
Shotcut ปรัชญา รายการมีประโยชน์มากๆค่ะ ❤
สั่นคลอนมากค่ะ ขอบคุณมากมายกับการตั้งคำถาม เพื่อเข้าใจปรากฎการณ์ค่ะ 👍🏻👍🏻👍🏻
จุกมาก ฟังแล้วปลดล็อกหลายเรื่องมากค่ะ❤
คำว่ามาตรฐานสูง คุณภาพสูงนี่แหละ คือที่มาของความฉิบหายในความปกติมนุษย์ เพราะชีวิตมนุษย์ขับเคลื่อนด้วยตัณหาและอุปทาน
EP นี้ทรงคุณค่ามาก
ผมนี่มีนิสัยนี่เลยเป็นโปรแกรมเมอพยายามเขียนด้วยความตั้งใจเพื่อ ส่งโค้ทอันไร้บัคแต่ก็ทำไม่สำเร็จแถมงานช้า ไปเจอวลีที่ว่า โค้ทที่ไม่บัคคือโค้ทที่ไม่ได้เขียนหลังจากนั้นผมก็ทำงานได้ดีขึ้น 555555
ดีงามมากๆตอนนี้🎉🎉🎉🎉❤❤❤
ขอบคุณครับ ขอให้รายการอยู่คู่คนไทยหมื่นๆ ปี
ผมรู้สึกว่าระบบของมนุษย์ในปัจจุบันมันบังคับเราให้สมบูรณ์เเบบครับ ทั้งตอนเด็กที่ครอบครัวต้องการที่1ที่เราไม่เคยทำได้ก็นะระบบการศึกษามันมีการจัดอันดับอยู่เสมอ ตอนขึ้นมหาลัยที่ต้องยื่นเกรด ผลคะเเนนเพื่อเข้าศึกษาทั้งที่ตอนนั้นยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชอบอะไร การสัมภาษณ์งานที่ต้องยื่นผลงานเข้าไปซึ่งคนที่ใกล้ความสมบูรณ์เเบบมากกว่าก็จะมีโอกาสมากกว่า(ในทางทฤษฎี) ทุกอย่างมันบังคับให้เราต้องเเสดงคุณค่าของตัวเราออกมา เหมือนว่าสังคมจะยอมรับคนที่ใกล้เคียงความ"สมบูรณ์เเบบ"มากที่สุดครับ ซึ่งมันเจ็บปวดมากเลยสำหรับผมที่ตาเเพ้เเสงเเต่ต้องเเข่งจ้องดวงอาทิตย์เพื่อให้ยังคงมีชีวิตอยู่😢
อันนี้แชร์จากประสบการณ์ที่โดน perfectionist จากสังคม Gen เดียวกันครับผมอยู่ Gen Z พึ่งเรียนจบมหาลัยมาครับ หลังจากเรียนจบมาผมก็ตัดสิ้นใจว่าจะเรียนป.โทแบบชิวๆ ว่างงาน ไม่ต้องทำไรนอกจากเรียนและทำสิ่งที่ชอบเช่นการเป็น TH-camrเพราะชอบแบ่งปันมุมมองด้านหนังสือหรือแนวคิดครับแต่แล้ว ในสายตาของเพื่อนหรือสังคม Gen เดียวกันผมกลายเป็น ผู้ล้มเหลวที่ไม่มีงานทำ กลายเป็นว่าผมทั้งๆที่มีจุดหมายที่ชัดในสายทางชีวิตตัวเอง ก็ค่อยๆพยายามกลบสิ่งนั้นไว้และอยากแสดงออกว่า ฉันก็มีงานทำได้นะฉันไม่ใช่คนล้มเหลวนะ มันช่างเป็นทุกข์สะเหลือเกินครับทุกข์อยู่หลายเดือนเลยทำงานของตัวเองคือไม่มีความสุขเลยครับ จนหลังจากที่ได้กลับมาทบทวนตัวเอง ผมเสียพ่อไปตั้งแต่เด็กๆ พ่อทิ้งเงินก้อนโตไว้ให้ในรูปแบบพันธบัตร(และปัจจุบันผมก็ฝากทบต้นไปเรื่อยๆ)และส่วนของลูกผมอีกก้อน(ปัจจุบันยังไม่มีลูกนะครับพ่อคิดเผื่อให้😂)และทิ้งจำพวกอสังหาคอนโด รถ บ้านที่ดินไว้ให้ผมที่เป็นลูกคนเดียว ผมจึงไม่เคยคิดหรือต้องการเรื่องเงินอีกเลยและส่วนตัวเป็นคนประหยัดมากๆถูกแต่ดีนี่แหละผม😅 แล้วโดยปกติผมไม่ค่อยลงโซเชียลคนคงมองจากภาพลักษณ์ประหยัดของผมกันมากกว่า แล้วหากมาคิดดีๆอีกตามความต้องการของมาสโลของผม หากไม่เอากรอบของเพื่อน Gen เดียวกันมาจำกัดตัวเรา ผมก็จะเห็นว่าสิ่งที่เรามีในหลายๆขั้นมันมาไกลมากแล้ว มันจึงทำให้รู้ครับว่าชีวิตเราทุกคนถูกเริ่มต้นจากการก้าวเดินในเส้นทางของแต่ละคนมาตั้งแต่เริ่มดังนั้น ควรไปต่อด้วยเท้าของตัวเอง ที่ไม่ได้ถูกตีตรวนโดยใครแต่หากเป็นแต่ตัวเราเอง
ติด Perfect สถานะทางสังคม (ทรัพยากรทางการเงิน การงาน ความเก่ง)
แต่ไม่ติด Perfect ทางกายภาพ (รูปทรง วัตถุกระจัดกระจาย)
เดาว่ามาจาก ความสำคัญ , เพราะสิ่งนั้นสำคัญต่อเรามากๆ พอไม่ได้เลยยิ่งเจ็บปวด
ตอนนี้ ใช้วิธี (ณ ตอนนี้ เรากำลังทำสิ่งนั้นอยู่ หากพลาดผลั้งไม่ได้ผลลัพธ์ ถือว่า ได้ทำแล้ว ไม่มีอะไรติดค้างในโลกนี้อีก) แก้ไปก่อน
ความเจ็บปวดน้อยลง
*ที่จริงอาจจะมีคำตอบที่ดีกว่านี้ แต่ก็หาไม่เจอ
มันมีหลายสิ่งที่ฉุกคิดนะ
1. มันจะมีสักกี่คน ที่อยู่ในถ้ำแบบที่เพลโตให้จินตนาการ กล้าและลองออกมาจากถ้ำ หรือมีโอกาส
2.การที่คนเรารับเรื่องพวก ให้เชื่อไว้ก่อน เขาบอกกันมา คนนั้นพูด คนส่วนใหญ่เขาทำแบบนี้กันหมด ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ที่ว่ามามันคือการสร้างความเชื่อ แต่ไม่ได้ทำอะไรกับความเชื่อนนั้น เราว่า คนในถ้ำที่ถูกจับให้ดูเงาอ่ะ มันคือสิ่งที่เราเป็นกันเลยนะ ถ้าไม่มีการศึกษาที่ถูกต้อง เพราะเรากลัวโดยธรรมชาติ เราอยู่กับแบบใช้ สัญชาตญาณมากกว่า
การศึกษาที่ดีมันจะพาตัวเองออกไปจากถ้ำได้
3.เรามองว่า ไอการที่คนที่ได้ออกไปจาก ถ้ำ คือคนที่ได้เห็นความจริง แล้วถ้าหากไอ้คนที่ไปนอกโลก ไปดาวอื่นๆแล้วไม่ได้อยู่แต่ในโลก แล้วไปเห็นความจริงอีกแบบขึ้นมาละ ไอคนที่ออกจากถ้ำ จะเชื่อเหมือนกับคนอยู่ในถ้ำแหละ ถ้าไอคนที่ได้ออกไปนอกโลก ได้ไปรู้ความจริงที่นอกเหนือจากโลกมีอ่ะ ถึงอย่างนั้นก็ตาม คนที่ออกมาจากถ้ำก็ต้องใช้เวลาเข้าใจโลกพอสมควรทั้งชีวิตคงไม่พอ ถึงจะเข้าใจได้หมด เช่นกัน คนที่ออกไปนอกโลกคงใช้เวลามหาศาลถึงจะเข้าใจว่า ไอตัวสมมติความจริงชั่วคราวที่สปีชีส์คนมันมีมันเป็นแบบนี้ มันคือความเชื่อชั่วคราว หรือถาวรก็ได้สำหรับๆคนๆนั้น แต่ความจริงธรรมชาติ มันยิ่งใหญ่ มันมีมาก่อนเรา มันสร้างมนุษย์เรา เราแค่เป็นสัตว์ที่มีความคิด ความรู้สึกเป็นของตัวเอง มีภาษาเพื่อเข้าใจความหมาย เพื่อมาเข้าใจธรรมชาติผ่านการเรียนรู้อีกทีนึง แล้วก็มีชีวิตที่โคตรสั้น
ลงคลิปใหม่หรอครับ ผมเหมือนเคยดูเคยฟังแล้วเลยครับ
เพื่อการยอมรับจากตนเอง รึใครที่สำคัญ รึรอง ๆ รึเปนที่ต้องการ เปนประโยชน์ เปนทุกสิ่งให้ตนได้อยู่ อยู่ได้กับทุกสถานะ ทุกสิ่งอย่างครบถ้วนที่ทำได้ผ่านเกณฑ์ตนเอง รึการยอมรับจากเรื่องราวนั้น ๆ
ฟังแล้วจะร้องไห้ ติดกับดักมานาน รู้ทั้งรู้แต่สลัดออกไปไม่ได้
ขออนุญาตแลกเปลี่ยนความเห็นครับ Perfectionist ในเรื่องงาน + ครอบครัว + การเงิน ดูเป็น dki normalized and stardardize perfection ในระดับนึง ซึ่งในปัจจุบันคิดว่า ระดับการ Perfectionist ไม่ดันหยั่งรากลึกไปมากขึ้น มันกลายเป็น Start + ความเป็นตัวเอง ยิ่งในยุคสมัยใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความเป็นตัวเองมากขึ้น เช่น ชอบร้องเพลงเป็นงานอดิเรกก็ควรร้องเพลงให้ดี กลายเป็นในระดับตัวเองที่โดนโบยตีแม้ในระดับความชอบ หรือความสนใจ ทำให้เกิดการประเมินตัวเองนอกจากในเรื่อง Basis แล้วกลายเป็นการประเมินตัวเองในทุกเรื่องของชีวิตเลย จนต้องย้อนมาตั้งคำถามกับตัวเองใหม่ว่าถ้าไม่ดีแล้วมันเป็นอะไรมั้ย มันล้มเหลวเหรอ
เป็นคนที่หาตำหนิและโทษตัวเองขั้นเทพเลยค่ะ อย่างอื่นไม่เก่งแต่กดดันตัวเองเก่ง ทั้งๆที่พยายามไม่วิ่งตามคนอื่น ไม่ใช้ชีวิตแบบคนทั่วไป แต่ก็ดันอยากสมบูรณ์แบบในทางนี้ Ep นี้เตือนสติดีมาก ทุกคนที่กดดันตัวเอง ก็ถอยออกมา เพื่อมองอย่างผ่อนคลายนะคะ เราจะลองทำอะไรที่ไม่สมบูรณ์ดูบ้าง ทั้งๆที่รู้ว่าไม่สมบูรณ์ ต่อให้มันเละเทะโลกก็คงไม่แตก
Perfectionist สัมพันธ์กับ imposter syndrome ด้วยมั้ยคะ
ชอบอีพีนี้มาก
ผมนั่งขำกับEP นี้ เพราะมันทิ่มผมทุกประโยคเลย 😂
ฟังแล้วอยาก tag รายการ The Secret Sauce (แซวเล่นครับ )
มีอาชีพเป็น auditor ที่ต้องชี้จุดบกพร่องของคนอื่น ทั้งที่ก็รู้ตัวแหละว่าไม่ได้เป็นคนสมบูรณ์แบบอะไร หลายครั้งถูกมองด้วยสายตาประมาณว่า “แล้วเธอดีนักหรอถึงมาตัดสินฉัน!?“ แรก ๆ ก็รู้สึกกระอักกระอ่วนอยู่บ้าง แต่จากการทำงานไปนาน ๆ มันกลายเป็นชิน และยอมรับว่าทุกคนไม่สมบูรณ์แบบหรอก แต่อย่างน้อยก็ควรพยายามเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีขึ้นกว่าเดิมบ้างเถอะ...ถ้ามันจะเป็นประโยชน์ต่อตัวเองและคนรอบข้างนะ 😅
Parents’ expectations นี่เศร้ามากๆ
ตอนนี้แทงใจดำครับ ปกตินั่งดูแล้วคิดตาม ตอนนี้นั่งดูแล้วจุก5555
น่าจะมีคำเตือน สปอยหนัง อย่างเซ็ง
ขอบคุณค่า🎉
เพราะความไม่สมบูณ์แบบนี่แหละทำให้เราไม่เหมือนคนอื่น และคนอื่นก็ไม่เหมือนเราเหมือนกัน :)
เหตุผลใช้กับโลกความจริงไม่ได้ ความต้องการให้โลกมีเหตุผล ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ไม่ได้ ต้องปล่อยวาง ไม่ยึดติด ขอแค่ทำให้ดีที่สุด ผลเป็นยังไงก็ต้องปล่อย ความสมบูรณ์แบบมันอยู่ในตัวเราอยู่แล้ว ไม่ต้องพยายามเพื่อพิสูจน์ใดๆทั้งสิ้น ทำสิ่งที่เรารู้สึกว่ามีความสุขก็พอ
เกร็งรอเลยฮะ
Perfectionist มันก่อตัวในยุคอุตสาหกรรม ใครเคยเรียนจิตวิทยาองค์กร เรียน modern management มา รับรองว่า get ทันที ตัวชี้วัดการทำงาน ผลิตภาพต่างๆ เริ่มในยุคนี้เอง แต่มันก็เป็นเรื่องที่ทำให้มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เอาง่ายๆ อุตสาหกรรมการบิน จะมาถึงวันนี้ได้อย่างไร ถ้าไม่ได้คนแบบนี้ หรือแนวคิดแบบนี้มาขับเคลื่อน.. "ความปลอดภัย เป็นเรื่องที่ ไม่มีการประนีประนอม" นั่นแหละ ตัวอย่างข้อดีของ Perfectionist😅 สังคมอุตสาหกรรมนี้เอง ทำให้เราคาดหวัง และถูกคาดหวัง อีกทั้งสร้างกรอบอ้างอิงนี้ขึ้นมา ยกตัวอย่าง เราซื้อมือถือมาใหม่ เปิดออกมา หน้าจอ มีรอยถลอกตรงมุม ที่ไม่กระทบกับการใช้งาน เราจะคืน-ขอเปลี่ยน หรือยอมๆไป 😊
คุณฟางน่าร๊ากกก
เคยเข้าใจว่า perfectionist คือคนที่อยากทำงานให้สมบูรณ์ด้วยตัวเองแบบไม่ต้องมีคนอื่นมากดดัน
ติตามตลอด😊😊😊
ปกติเป็นคนไม่เม้นไรในโพส
ฟังมาหลายอีพี ประทับใจในการอธิบายธรรมชาติของมนุษย์ในหลากหลายมุมมอง
นึกถึงเรื่อง Molly's Game
ผมก็อยากจะแชร์ประสบการณ์นะครับ แต่ชีวิตผมมันยังไม่รู้ความหมายของคำนี้เลย "สมบูรณ์แบบ" หรือพระเจ้าจะสาปให้ผมเข็นหินไปตลอดกาล ลำบากหาเช้ากินค่ำ ก็มีรายการนี้ครับที่เป็นเพื่อนที่เป็นช่องทางหลบหนี ความจริง ของชีวิต มาฟังปรัชญาชีวิตเยียวยาจิตใจ เหมือนได้กินเหล้า นารีแดงสักไห พอมึนๆจะได้หลับ สะบายๆ แล้วพรุ้งนี้ ก็กลับสู่ความเป็นจริง และ ปัจจุบัน หาที่เช้ากินค่ำ เหมือนเดิม
ขอบคุณครับ
26:59 serie โปรดของผม ❤
Perfectionnist มันควรเอาไว้ใช้เวลาสร้างงานอะ ไม่ควรเอามาใช้ในการดำเนินชีวิต
ส่วนตัวผม ไม่มีคุณค่าอะไร
หิวก็กิน ง่วงก็นอน
ปรุงตามสั่ง ๆ เลยครับ
รู้แค่นี้ครับ
เขาเรียกว่าป่วยจิต มากกว่า เพราะอยากได้ คาดหวัง อะไรที่ไม่ดูไม่เข้าใจธรรมชาติของสิ่งที่ตัวเอง คาดหวัง หรืออยากได้เลย มันคือนิสัยที่บ่มเพาะให้จิตมันป่วย คนที่อยากให้มันสมบูรณ์แบบจริงๆในสิ่งที่ปราถนา มันต้องเจอแบบนี้หมดอ่ะ ถ้าเราไม่กรอง ไม่แก้ปัญหาอ่ะ เวลาทั้งชีวิตจะเสียเปล่า แล้วยังได้นิสัยบ่มเพาะจิตป่วยๆแถมมาอีก เช่น ยิ่งใส่ความไม่พอใจลงไปในมาตรฐานความสมบูรณ์แบบเข้าไปอีก ยิ่งตอกย้ำมัน ยิ่งให้ท้ายมัน มันก็ยิ่งแข็งแร็ง มนุษย์ถึงเป็นสัตว์ที่ควบคุมตัวเองได้จริง แต่เรากระจอกนะ เพราะอิทธิพล นิสัยหรือสันดานที่มัน เป็นเรา อ่ะ แต่สิ่งที่ทำให้เราเปลี่ยนไปคือ การควบคุมตัวเอง โคตรตลก แล้วคนเราก็ชอบฝึก ชอบไปอยู่กับ อะไรที่ให้เราควบคุมตัวเองได้แย่ลงไปอีก
สมบูรณ์แบบคนเดียว อย่าปีนเกลียวคนอื่นพอ แบบนั้นทำงานด้วยคือ ปสด มากจ้า เพราะจริงๆ เค้าไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่หลอกตัวเองอยู่
SHORTCUTปรัชญาเชิญ ฅนตื่นธรรม ใครเห็นด้วย กดไลค์
EP.นี้โครตดีครับ ขออีกๆ
เคยคิดว่า การที่ทำอะไร perfect มัน defne ตัวเรา มันเหนื่อยมากเลย
พระเจ้า นิพพาน พรหมัน..ล้วนเป็นแนวคิดทางศาสนาที่โหยหาความสมบูร แม้ในพุทธศาสนาการยกพุทธเจ้าให้เป็นมหาบุรุษ,สัพพัญญญูก็เพราะอยากให้ท่านเป็นคนสมบูณ
พุทธสอนทางสายกลาง
ความสมบูรณ์คือสุดโต่งต่างหาก
สมบูรณ์จนเบี้ยวเลยนะ ถ้าไปดูทศชาติเป็นการสั่งสมบารมีขั้นสุดจนทำอะไรบิดเบี้ยวจนบางชาติเรียกว่าดียังยากเลย เช่น พระเวสสันดรบริจาคลูกเมียนี่บุญแบบใด
@@vijjamanjaหลักศาสนาจริงๆๆคือ อริยสัจ4 กับมรรคมีองค์8 ทางสายกลางหนะถูกแล้ว ไม่ตึงเกินไป ไม่หย่อนเกินไป ตัวศาสนาจริงๆๆคือพรรหมจรรย์ พระพุทธเจ้าคือผู้ชี้ทาง ทุกอย่างต้องอาศัยตัวเราเองเป็นคนกระทำ ตามกฎแห่งการกระทำ ทำกรรมเช่นไร ต้องได้รับผลของกรรม เช่นนั้น ผู้ใดเห็นกระแส ปฏิจสมุปบาท ผู้นั้นเห็นตถาคต
@@vijjamanjaอันนั้นนิทาน ไม่ใช่คำสอน แต่ภายในแก่นเปลือกก็หุ้มเยอะ ภิกษุก็ท่องนกแก้วนกขุนทอง90%จนทุกวันนี้
@@กรธัชพัชณี งั้นพุทธประวัติก็นิทานเหมือนกันนะครับเริ่มตั้งแต่เดิน 7 ก้าวเลยเหาะเหินเดินอากาศ ภิกษุเปรียญ9ก็จำเอามาโม้ว่าคนแต่ก่อนบินได้ เอาละผมหยุดขำได้แล้วจะมาอธิบายต่อว่า ถ้าเราบอกว่าชาดกคือนิทานเป็นเปลือกห่อหุ้มแก่นแล้วไอ้แก่นที่ว่าคืออะไร มันก็คือความสมบูรณ์แบบในอุดมคติที่สุดโต่งนั่นแหละ เพราะถ้าคุณไม่เต็มเปี่ยมยังพร่องอยู่ก็บรรลุไม่ได้
พึ่งคิดได้: เราโบยตีตัวเองก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นมาโบยตีเราภายหลัง. แต่ถ้าโบยตีตัวเองแล้ว ยังโดนคนอื่นโบยตีอีก อันนี้โคตรซวย 😂.
ซีรีย์ssไหนตอนที่เท่าไหร่ครับ
Season 3 EP1 ครับ
ความยืดหยุ่น ดีกว่า ความฉลาด
Xerox 💯💯💯💯
ขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุนและกำลังใจ ทีมงานจะพัฒนาคุณภาพของเนื้อหาและการนำเสนอคอนเทนต์ที่ดีต่อไปครับ 💜
มักมีคนถามว่า "คุณเป็นที่ 1 ในสายงาน/ความถนัด/ตำแหน่ง ฯลฯ" แล้วหรือยัง
จริงๆก็ไม่ได้อะไรมากแค่คันปากเพราะเถียง(ด่า)กลับไม่ได้เพราะต้องใช้เงิน XD
🩶
21:05 อาจารปรัญญาท่านหนึ่งของผม
หังมาครึ่งคลิป รู้สึกว่า Perfectionist.ดูเป็นคำเหยียด เป็นสิ่งไม่ดี
ดูจนจบ ไม่มีคำอธิบายเชิงบวกใดๆเลย
เป็นอีกอีพีที่มันช่างจ้าซะเหลือเกิน ผิดๆๆ ดีเสียเหลือเกินค่ะ 5555 // ว่าแต่พอจะมีคลิป/แนะนำแหล่งเอาท์ฟิตคุณฟางบ้างมั้ยคะ 🥹