โรงงานแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าของไทย หรือ อินโดนีเซีย ใครจะเป็นพี่ใหญ่ในอาเซียน l EV Story
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 7 ต.ค. 2021
- ต้องเร่งรัดให้ไทยเป็นฐานการผลิตรถไฟฟ้า 100% ภายในปี 2578 หรือในอีก 14 ปีข้างหน้า ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายเดิมที่วางไว้ในปี 2583 หรือเร็วขึ้นกว่าเดิม 5 ปี
ปี 2578 จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสะสม 18.41 ล้านคัน แบ่งเป็นรถยนต์นั่งและรถปิกอัพ 8.62 ล้านคัน, รถจักรยานยนต์ 9.33 ล้านคัน, รถบัสและรถบรรทุก 4.58 แสนคัน
โดยมาตรการแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่
ระยะที่ 1 (ระยะเร่งด่วน) : ปี 2564 - 2565 นำร่องส่งเสริมการใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานรองรับทั่วประเทศ
ระยะที่ 2 : ปี 2566 - 2568 พัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า โดยมีเป้าหมายการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์นั่งและรถกระบะ 225,000 คัน รถจักรยานยนต์ 360,000 คัน และรถบัส/รถบรรทุก 18,000 คัน ภายในปี 2568 รวมถึงการผลิตแบตเตอรี่เพื่อตอบสนองการผลิตในประเทศ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดแรกและถือว่าเป็นเป้าหมายการผลิตในระดับ Economy of Scale
ระยะที่ 3 : ปี 2569 - 2573 ขับเคลื่อนแผนและมาตรการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมเพื่อให้บรรลุตามนโยบาย 30/30 ซึ่งมีเป้าหมายการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์นั่งและรถกระบะทั้งสิ้น 725,000 คัน ประเภทรถจักรยานยนต์จะมีการผลิตทั้งสิ้น 675,000 คัน คิดเป็น 30% ของการผลิตในปี 2573 และรวมถึงการผลิตแบตเตอรี่เพื่อตอบสนองการผลิตในประเทศ (ที่มา : เว็ปกระทรวงพลังงาน)
สรุป เปรียบเทียบ ไทย กับ อินโดนีเซีย ใครจะเป็นพี่ใหญ่ในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ ซึ่ง ณ ตอนนี้ ผมจะขอยกเอากำลังการผลิตสูงสุดที่บริษัทต่างๆ ของประเทศเราวางแผนไว้เลยนะครับ
. EA 1000 MWH + GPSC 1000 MWH + BANPU /BPP 1000 MWH + BCPG 0 + EVLOMO 8000 MWH จะได้เท่ากับ 11000 MWH หรือ 11 GWH
ในขณะที่ประเทศอินโดนีเซียนั้น เมื่อใช้เงื่อนไขเดียวกัน คือ ใช้กำลังการผลิตสูงสุดที่เค้าวางแผนไว้ ผลก็คือ ออกมาที่ 30 GWH เลยทีเดียว และข้อสังเกตอีกอย่างคือ อินโดนีเซีย มีผู้ที่ร่วมทุนเป็นบริษัทระดับโลกที่เป็นทั้งผู้ผลิตแบตเตอรี่ยู่แล้ว และเป็นบริษัทที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอยู่แล้วด้วย มาร่วมลงทุน ซึ่งความชำนาญและแผนระยะยาวที่เค้าวางไว้ น่าจะชัดเจนกว่าอีกด้วย ซึ่งต้องมารอดูและช่วยกันลุ้นต่อไปว่า ประเทศไทย จะมีจุดเปลี่ยน หรือ มีเหตุการณ์อะไรที่อาจจะทำให้เราสามารถดึงดูด หรือ มีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นกว่านี้ได้อีก ไม่ว่าจะเป็น นโยบายของภาครัฐเอง ปรือ เทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่คนไทยซุ่มวิจัยอยู่ในขณะนี้ ก็อาจเปลี่ยนเกมส์นี้ได้เช่นกัน
เป็นกำลังใจให้ช่อง Captain DIY / Buy Me a Coffee : ko-fi.com/captaindiy
ฝากกดติดตามด้วยครับ / @captaindiy
Link สำหรับเข้ากลุ่ม พลังงานสะอาด เพื่ออนาคต : / 229210145584059
สนใจติดตั้งโซล่าร์เซลล์ และระบบ EV Charger ติดต่อได้ที่
Line : @108ukwwg
captain-diy.com/
ประเทศไม่มีทรัพยากร มันจะไปเหนือเค้าได้ยังงัย ควรเล่นเกมส์ เพิ่มทักษะงานประกอบ งานวิจัย งานวัสดุ ให้มีคุณภาพสูง และเนี้ยบ ประเภทที่ว่าโลกต้องอยากได้รถไฟฟ้าที่ประกอบจากไทย จะดีกว่า เพราะอีกไม่นานไทยจะเป็นสนามรบ EV แน่นอน โดยดึงทรัพยากรเพื่อนบ้านมาปรุงที่บ้านเราให้อร่อยและเพิ่มมูลค่าให้สูง น่าจะเป็นแนวทางที่ดีที่สุด
จริง วันใดที่ประเทศจีนงอแงไม่ส่งวัตถุดิบให้ก็เจ๊งทั้งระบบ ผมเป็นห่วงวันข้างหน้าเราจะใช้โรงงานอะไรในการผลิตไฟฟ้าให้เพียงพอต่อความต้องการ เห็นข่าวพลังงานไฟฟ้าเริ่มขาดแคลนในบางมณฑลของจีนแล้วก็เป็นห่วงในเรื่องนี้
ต้องสร้างแบรนไทยเเล้วละ รอให้คนอื่นมาเปิดตลอดไม่ได้ ค่าแรงแพงเขาย้ายหนีทำคนไทยตกงานอีก เราผลิตสินค้าให้หลายบริษัทมานาน ถึงเวลาแบรนไทยต้องเกิด ไม่ว่าจะรถยนต์ มือถือ อะไรอีกมากมาย อยากเป็นประเทศพัฒนาเเล้วรายได้สูง เทคโนโลยีเราต้องเกิด
ใช่เลย! ดีแต่ส่งเสริมนักร้องนักเต้นประจบสอพลอตอแหลสร้างภาพ และที่สุดท้ายก็ต้อง
มาลงทะเบียน บัตรคนจน,คนละครึ่ง,เราชนะ
ไทยขนะ ฯ ประเทศ🇹🇭ที่ไม่มี มาตรฐานแม้แต่ ผู้พิพากษา ยังคอรัปชั่น ในคดี โตโยต้า
เหนือกว่าได้ถ้าเราไปตั้งโรงงาน เหมือนเจ้าของโรงสียังไงก็รวยกว่าชาวนา 😀😀😀 สิงคโปไม่มีอะไรซักอย่างยังมียอดส่งออกสูงที่สุดในอาเซียน
ประเทศไทยมีทรัพยากรมากมาย ใครว่ามีน้อยไปฟัง"มาลัยแห่งไฟเย็นเลยไป๊!"
ทั้งแก็ส,นํ้ามัน,แร่แรร์เอิร์ธ,นิเกล,ทังสเตน สารพัด ทั้งทองคำ!ออสเตรเลียมาเอาไปถลุงขาย ให้สัมปทานแต่ผู้มีอำนาจเอาเงินไป เจ้าของประเทศชาวบ้านต้องคืนให้มัน
ทุเรศมากจ้า!
อย่างน้อยของไทยนั้นเป็นความร่วมมือจากหลายประเทศและใช้หลายเทคโนโลยีที่หลากหลายกว่า ที่สำคัญคือทุกอันจะมีบริษัทไทยมีส่วนร่วมและเป็นเจ้าของ ตลาดไม่ได้ถูกผูกขาดโดยเจ้าเดียวพอมีการแข่งขัน ราคาก็จะยิ่งต่ำลงตามกลไกตลาดเกิดประโยชน์กับผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งต่างจากอินโด ของเค้านั้นคือเน้นเกาหลี ใช้บริษัทเกาหลีเต็มๆ ภาคเอคชนอินโดแทบไม่ได้มีส่วนร่วมเลย และใช้เทคโนโลยีแบตในแบบเฉพาะของตัวเองเท่านั้น มองภาพรวมความสามารถในการแข่งขันไทยไม่ได้ด้อยกว่านะ เอาเข้าจริงคือ Final Product ของเรากลับมีช้อยส์และทางเลืองให้ลูกค้าเลือกใช้มากกว่าด้วยซ้ำไป แถมราคาก็ไม่ได้ถูกผูกขาดโดยบริษัทเดียว มองภาพรวมส่วนตัวคิดว่าของไทยสดใสและน่าจะไปได้สวยเลยครับ
Indonesia battery corporation?????.
It's a combination of local Indonesian companies to make electric batteries for cars and wants to acquire a German company to make Indonesian electric cars far ahead of Thailand
เกาหลีคบไม่ได้ เราใช้สินค้าจีน/ญี่ปุ่น ดีกว่า
@@filmkorea405 go ahead
ช่วยกันพัฒนาครับ อย่ามัวแต่ด้อยค่าตัวเอง
ช่วยกันพัฒนา อย่ามัวแต่อวยตัวเองครับ
ดูที่ความมีเสถียรภาพทางธุรกิจ ในไทยคือธุรกิจร่วมทุน และบางบริษัทลงทุนโดยธุรกิจของไทย 100/% ต่างจากอินโดนีเซีย เป็นการลุงทุนจากต่างชาติ ความมั่นคงในกิจการแตกต่างกัน
ชีวิตไม่ต้องแข่งขัน ชีวิตไม่ต้องไล่ล่าความมั่งคั่ง อำนาจ หรือความภาคภูมิใจ...
ไม่ต้องการมัน ขอแค่อยู่อย่างสงบสุขทั้งๆที่มีชีวิตอยู่ ฉันมาจากอินโดนีเซีย
ผมก็ไม่ชอบการแข็งขันผมชอบความร่วมมือในการพัฒนาไปด้วยกันครับ
@@heverygamer8465 อันที่จริงในอินโดนีเซียเรายังห่างไกลจากการพัฒนาเพราะพื้นที่มีขนาดใหญ่เกินไปและจำนวนเกาะในอินโดนีเซียไม่เท่ากัน หลายเกาะยังคงใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก
สรุปจากคลิป กำลังการผลิตแบตเตอรี่ ไทย 11 GWH, อินโดนีเซีย 30 GWH ขอบคุณข้อมูลครับ
สรุป เปรียบเทียบแต่ละค่าย จาก คลิ๊ป การแข่งขันกำลังการผลิตแบตเตอรี่ LFP อินโดนีเซีย(แค่ไม่กี่ปีนี้ 2567 จะผลิตได้) 30 GWH แต่ ไทย 11 GWH (ผลิตได้เต็มรูปแบบปี พ.ศ.2578 คือ อีก 14 ปี)
อินโดนีเซีย ได้เปรียบไทยตรงที่
1 มีแหล่งแร่
2 ค่าแรงถูกกว่า
3 ประขากรเยอะ แรงงานเยอะ ผู้บริโภคเยอะ
ไทยคนน้อยกว่า อินโด เราทำได้ขนาดนี้ ถือว่า อัตราส่วนต่อคนมากกว่าแถมเราทำเอง อินโด ทุนจีน
ด้วยการมีปริมาณสำรองนิกเกิลที่ใหญ่ที่สุดในโลกทำให้อินโดนีเซียวางแผนที่จะเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ในบรรดา บริษัท ที่ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุน ได้แก่ LG, PANASONIC, BASF, CATL โดยผลิตแบตเตอรี่บน ขนาดใหญ่ และทำให้อินโดนีเซียเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในบรรดาบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุนในอินโดนีเซีย BYD, NETA, WULING, GEELY, HONDA, MITSUBISHI, NISAN, SUZUKI, TOYOTA, MAZDA, DALHATSU, FORD, VW, FOXCON , ฮุนได และ โซนี่ และ TESLA จะลงทุนในปี 2568
เทคโนโลยีแบตยังพัฒนาไปได้เรื่อยๆ อาจใช้แร่อื่นๆแทนได้ในอนาคต
ใครจะเป็นพี่เป็นน้องก็ได้ ขอให้ราคาแบต.ถูกลงเรื่อยๆดีครับ
ไทยต้องเป็นพี่ใหญ่สิครับ เราต้องให้ประเทศนี้พัฒนามากขึ้น ยังไงก็เชียร์ไทยอยู่แล้ว
Thanks for sharing information
ข้อมูลดีมากครับ กำลังมองหา EV
วิสัยทัศน์ดีทั้งสองประเทศ ใครจะผลิตได้มากกว่า ไม่สำคัญ ขึ้นอยู่กับกับสินค้า ใครจะดีกว่า ราคาต่ำกว่า เทคโนโลยีแบต ก็ปรับเปลี่ยนได้อีกไม่หยุดนิ่ง
แบต แบบไหน ดีต่อสิ่งแวดล้อมกว่ากันครับ เพราะเรื่อง Energy convention
ที่ไหนได้พอถึงเวลา โลกดันมีเทคโนโลยีการผลิตพลังงานโดยไม่ต้องใช้แบตเตอรี่😂
ตั้งกำแพงภาษี สินค้าของบริษัทที่ไม่มีประโยชน์ต่อไทย และให้สิทธิ์บริษัทคู่เเข่ง ของบริษัทเกาหลี ที่ไปลงทุนต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมการเเข่งขันครับ
เหมือนแร่ลิเทียม,นิกเกิลเค้ามีมากกว่าเรารึปล่าวคะ?
อินโดนีเซียได้เปรียบเรื่องมีแร่นิเกิลมากและบริษัทที่มาลงทุนก็มีเป้าหมายเช่นเจนว่าใช้เพื่อรถยนต์ไฟฟ้า แต่บ้านเราที่ผลิตไม่ได้เน้นไปที่รถยนต์ ผลิตเพื่อตอบโจทย์บริษัทตัวเองมากกว่า มองภาพนี้ยังไงอินโดก็ยังได้เปรียบกว่าบ้านเรามาก
ด้วยการมีปริมาณสำรองนิกเกิลที่ใหญ่ที่สุดในโลกทำให้อินโดนีเซียวางแผนที่จะเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ในบรรดา บริษัท ที่ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุน ได้แก่ LG, PANASONIC, BASF, CATL โดยผลิตแบตเตอรี่บน ขนาดใหญ่ และทำให้อินโดนีเซียเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในบรรดาบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุนในอินโดนีเซีย BYD, NETA, WULING, GEELY, HONDA, MITSUBISHI, NISAN, SUZUKI, TOYOTA, MAZDA, DALHATSU, FORD, VW, FOXCON , ฮุนได และ โซนี่ และ TESLA จะลงทุนในปี 2568
รัฐบาลไทยต้องให้การสนับสนุนทั้งใต้ดินบนดิน
ดึงกลุ่มที่มีศักยภาพและ
ความชำนาญมาลงทุนด้วย
ขอบคุณมากครับ ที่ช่วยรวบรวมข้องมูลดีๆมีประโยชน์มาเล่าสู่กันฟัง
แต่ผมขออนุญาตเรียนแนะนำหน่อยครับว่า เนื่องจากมีผู้ติดตามมากพอสมควร จึงอยากให้แอดมินได้ใช้โอกาสนี้เป็นตัวอย่างที่ดีในการใช้ภาษาไทยของเรา โดยออกเสียงภาษาไทยของเราที่มี ร. เรือ ด้วยครับ
หากคำแนะนำนี้เป็นการล่วงเกินหรือไม่เหมาะสมผมก็ขออภัยครับ
ก่อนอื่นลองดูว่าประเทศที่มีกำลังผลิต Lithium ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้คือ Australia และ China
Supply chain ไทยไม่สามารถเปรียบเทียบกับ Indonesia ที่ประเทศตั้งอยู่ใกล้ Australia ได้
ที่ไม่ตั้งโรงงานผลิตที่ Australia เพราะค่าแรงสูง ที่ไปตั้งที่ Indonesia ค่าแรงต่ำกว่า
ประเทศจีนก็ต้องเน้นผลิตภาคในประเทศเนื่องจากมี Demand สูง
มันคือจุดเด่นทางภูมิรัฐศาสตร์ของเขา
อย่าเอาลิงกับปลามาเปรียบเทียบกัน
จุดเด่นของเราคืออะไร เราคือจุดศูนย์กลางของภูมิภาคนี้
จุดเด่นเราคือ Logistics
เขมร ลาว พม่า คือลูกค้าหลักของเรา อาจจะมีจีน(ตอนใต้) เวียตนาม บังคลาเทศ อินเดียประปราย เพราะมีแผ่นดินติดกันมีการขนส่งด้วยระบบรางเชื่อมถึงกัน ค่าขนส่งถูกกว่าสะดวกกว่าส่งจากอินโดเยอะ
ด้วยการมีปริมาณสำรองนิกเกิลที่ใหญ่ที่สุดในโลกทำให้อินโดนีเซียวางแผนที่จะเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ในบรรดา บริษัท ที่ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุน ได้แก่ LG, PANASONIC, BASF, CATL โดยผลิตแบตเตอรี่บน ขนาดใหญ่ และทำให้อินโดนีเซียเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในบรรดาบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุนในอินโดนีเซีย BYD, NETA, WULING, GEELY, HONDA, MITSUBISHI, NISAN, SUZUKI, TOYOTA, MAZDA, DALHATSU, FORD, VW, FOXCON , ฮุนได และ โซนี่
พี่กัปตันครับอยากขอให้พี่ช่วยหาข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตชิปหน่อยครับ ตอนนี้ชิปขาดตลาดมากอยากทราบว่าทำไมเมืองไทยเราถึงไม่สามารถผลิตชิปได้ และจะเป็นไปได่ไหมถ้าเราจะผลักดันให้ประเทศไทยสามารถผลิตได้ อยากทราบความน่าจะเป็นครับ..ขอบคุณพี่กับตันล่วงหน้าครับผม
ขอบคุณค่ะ ชอบข้อมูลเปรียบเทียบแบบนี้ ขอคลิปแบบนี้มาอีกนะคะ อยากรู้ความเคลื่อนไหว ทิศทางของทั้งในไทยและอาเซี่ยนค่ะ " รู้เค้า รู้เรา"
ขอบคุณมากเลยครับ
พี่ครับผมมีเรื่องอยากถามครับ เกี่ยวแบตเตอรี่รถยนตไฟฟ้าอย่างเช่น เทสล่า ครับ เค้ามีทีมวิจัยแบตเตอรี่เองให้มาอยู่บริษัทเรา เป็นคนของเราเหมือนกับเราจ้างเค้ามาทำงานให้กับเรา กับ เราให้เจ้าอื่นมาผลิตแบตเตอรี่ให้เรา 2 อย่างนี้ไม่เหมือนกันใช่มั้ยครับพี่ ( ถ้าเรามีทีมวิจัยเป็นของตัวเอง เปรียบเสมือนเราผลิตแบตเตอรี่เองใช่มั้ยครับ )
ถ้า ดู ที่ แบต EV และ ตัวเลข ที่วางแผน ก็ที่อินโด แต่ ถ้าดู องค์รวม ผลการทบ ในหลายๆ ด้าน เช่น การจัดการตลาด อยู่ในมือของ 1 กลุ่มบริษัท กับ หลายกลุ่ม ความยืดหยุน ในการผลิต ความสามารถในการพัฒนา และการปรับตัว สรุป อบ่าสนใจมากเรื่องความใหญ่ สนใจเรื่องใครอยู่รอดดีกว่า เจ้าตลาด EV ในอนาคต ไม่ใช้ เกาหลี
สู้สู้
ยังไงๆก็คำนึงถึงการจัดการwaste และสิ่งแวดล้อมด้วยแล้วกัน คนรุ่นหลังจะได้ไม่เดือดร้อน
เทคโนโลยี้ ทางแบตผมว่ายังไม่ค่อยนิ่ง ถ้าจะลงทุนต้องวางแผนดีๆ หรือไม่ก็ต้องยืดหยุ่นสูงพอที่จะเปลี่ยนตามเทคโนโลยี่
อยากรู้ว่าปริมาณไฟฟ้าของอินโดนีเซีย มีมากพอสำหรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตมากแค่ไหน เพราะอินโดเป็นเกาะ
ของไทยจำได้ว่าไทยมีปริมาณไฟฟ้าเกินอยู่ 50% ซึ่งเพียงต่อการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ สบายๆ เลยทีเดียว
เกิน 30% ครับเราจึงมีต้นทุนนำมาคำนวนค่าไฟต่อเดือนสูงกว่าปกติ
ด้วยการมีปริมาณสำรองนิกเกิลที่ใหญ่ที่สุดในโลกทำให้อินโดนีเซียวางแผนที่จะเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ในบรรดา บริษัท ที่ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุน ได้แก่ LG, PANASONIC, BASF, CATL โดยผลิตแบตเตอรี่บน ขนาดใหญ่ และทำให้อินโดนีเซียเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในบรรดาบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุนในอินโดนีเซีย BYD, NETA, WULING, GEELY, HONDA, MITSUBISHI, NISAN, SUZUKI, TOYOTA, MAZDA, DALHATSU, FORD, VW, FOXCON , ฮุนได และ โซนี่ และ TESLA จะลงทุนในปี 2568
เทคโนโลยี่ยี่ปุ่ณ
ดีตรงไหน. อำเภอเล็กๆบ้านผมยังระบาดหนัก ขอเหตุผนหน่อยครับ
ส่วนตัวมองว่าแค่ภาครัฐก็แพ้แล้ว เพราะอินโดปัญหาการเมืองไม่เยอะแบบบ้านเรา และประชากรอินโดก็เยอะกว่าของไทยมากในแง่ของฐานลูกค้า แต่ก็สนับสนุนบริษัทในไทยบางบริษัทที่พยายามผลิตอย่าง GPSC ฯลฯ อยากให้ผลักดันใช้รถไฟฟ้าเพื่อลดมลภาวะ และก็ขอให้ราคาไม่สูงมาก จะได้กระจายสู่คนที่มีรายได้ไม่มากสามารถจับต้องได้ ขอบคุณที่แชร์ค่ะ
รออินโดนีเซียผลิตมาขายให้กับไทย ราคารถยนต์ไฟฟ้าถูกลงแน่นอนครับ
ด้วยการมีปริมาณสำรองนิกเกิลที่ใหญ่ที่สุดในโลกทำให้อินโดนีเซียวางแผนที่จะเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ในบรรดา บริษัท ที่ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุน ได้แก่ LG, PANASONIC, BASF, CATL โดยผลิตแบตเตอรี่บน ขนาดใหญ่ และทำให้อินโดนีเซียเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในบรรดาบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุนในอินโดนีเซีย BYD, NETA, WULING, GEELY, HONDA, MITSUBISHI, NISAN, SUZUKI, TOYOTA, MAZDA, DALHATSU, FORD, VW, FOXCON , ฮุนได และ โซนี่
ทำไมการเมืองไทยถึงมีปัญหามากกว่าอินโด
ถามคนอินโดอาจออกมาอีกแบบ
LG battery ที่ส่งให้ Chevrolet USA. เกิดปัญหาลุกไหม้บ่อย โดยเฉพาะรุ่น Chevy Bolt.
14 ปีนี้คือเร่งรัดแล้วใช่ไหม
ฝากให้ทำคลิปครั้งหน้าสรุปให้ชัดว่าใครทำได้เท่าไรเป็นภาพ เพราะบางครั้งฟังเพลินได้ได้จด ตัวเลข จำไม่ได้ครับ
ถามรัฐ ทั้งสองปท. ว่า ..มีถนนให้วิ่งไหม
👍
สปปลาว จะมี โครงการ electrical supplier. ผลิตภัณฑ์ ทุกชนิด เกี่ยวกับ ระบบ ไฟฟ้า ครบวงจร เข้า กับ นะโยบาย battery of Asia
ก็อยากจะรู้เหมืือนกัน ระหว่าง อินโด กับไทย อยากจะให้ช่วยกันพัฒนา ทั้งสองประเทศแหละดี
อย่าลืม อินโด มีภูเขาไฟ อิอิ
ด้วยการมีปริมาณสำรองนิกเกิลที่ใหญ่ที่สุดในโลกทำให้อินโดนีเซียวางแผนที่จะเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ในบรรดา บริษัท ที่ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุน ได้แก่ LG, PANASONIC, BASF, CATL โดยผลิตแบตเตอรี่บน ขนาดใหญ่ และทำให้อินโดนีเซียเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในบรรดาบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุนในอินโดนีเซีย BYD, NETA, WULING, GEELY, HONDA, MITSUBISHI, NISAN, SUZUKI, TOYOTA, MAZDA, DALHATSU, FORD, VW, FOXCON , ฮุนได และ โซนี่ และ TESLA จะลงทุนในปี 2568
รัฐบาลไทยต้องผลักดันจริงจังครับไม่ใช่ยังกั๊ก คาดว่าอินโดน่าจะนำหนือเหนือกว่าครับ รัฐบาลเค้าส่งเสริมจริงจังกว่า
นายกทะเลาะกับพลังประชารัฐอยู่ กำลังคิดว่าทำยังไงให้ได้เป็นนายกต่อ
ก็แค่ วัคซีน ไม่ทันเกมเลย แล้วจะเอาอะไร ไปสู้เขา หมายถึงรัฐบาล ที่มา
โดยไมาชอบธรรม เดียว ก็เก็บภาษี
เพิ่มเฉยเลย เอาแน่นอนไม่ได้ โรงงานแจ๋งซิครับ
ทำไมไทยเริ่มต้นยุครถยนต์นั่งไฟฟ้าช้า เมื่อเทียบกับประเทศฐานการผลิตรถยนต์อื่นๆ
อย่างแรก ก็เพราะค่ายญี่ปุ่นไม่ยอมเปลี่ยน เขาแบกบุคคลากรด้านเครื่องยนต์ ทั้งออกแบบวัสดุอะไรต่างๆใว้ในญี่ปุ่นสี่ห้าล้านตำแหน่ง
ถ้าตามที่เขาจะทำ ไฮบริดจส์ก่อน กว่าจะมีรถยนต์นั่งไฟฟ้ามาเต็มตัว อย่างเร็วก็อีกแปดเก้าปี
อย่างที่สอง รัฐบาลนี้ตามโลกไม่ทัน ในขณะที่รถไฟฟ้ากลายเป็นแมสไปหลายปีแล้ว ทั้งในอเมริกาและจีน
ดันทำโครงการอีโคคาร์เฟสสองออกมา ค่ายญี่ปุ่นเขาลงทุนไปแล้วก็ถอยหลังไม่ได้สิ ต้องถอนทุนก่อน
จะให้ค่ายญี่ปุ่นเร่งทำรถไฟฟ้าขายในไทย เขาก็ไม่เอาแล้วเพราะ ตลาดไทยอิ่มตัว ถ้าทำสองแบบพร้อมกันแต่ยอดขายเดิมๆต้องแบกภาระทั้งอะไหล่และบริการมหาศาล ตายแน่นอน
แล้วภาษีแบตก็ยังสูงมาก เพื่อใว้กดดันให้ค่ายใหญ่ๆมาลงทุนทำโรงงานผลิตแบตเตอรี่ในไทยและเป็นการปกป้องอุตสาหกรรมแบตเตอรีในไทย
แต่ค่ายญี่ปุ่นมาช้า ไทยก็เลยช้าไปมากๆทั้งที่ด้วยความเป็นฐานการผลิตสำคัญ ไทยควรจะเริ่มได้ก่อนนี้สักสี่ห้าปีด้วยซ้ำ
ควรจะปลดแอกค่ายญี่ปุ่นได้สักครึ่ง ควรจะมีแบรนด์ตัวเองสักหนึ่งในสิบของรถยนต์บนท้องถนนก็ยังดี
สุดท้ายค่ายจีนดันมาก่อนค่ายญี่ปุ่นเสียอีก และถ้ารัฐบาลไม่กั๊กภาษีแบต ค่ายจีนเข้ามาเร็วกว่านี้สี่ห้าปีแน่ๆ
จนตอนนี้ค่ายญี่ปุ่นยังเน้นขายไฮบริดสจ์อยู่เลย
เรื่องที่ว่ารัฐบาลส่งเสริมนั่นนี่ โม้แทบทั้งนั้น ทุนงานวิจัยเรื่องรถยนต์นั่งไฟฟ้าที่รัฐบาลให้วิทยาลัย แล้วออกข่าวกันเรื่อยๆ
คนในกลุ่มยานยนต์รู้กันว่าแทบไม่กระทบอะไรกับตลาดเลย แต่ถ้าลดภาษีแบตเตอรีสักครึ่งสิ กระทบแน่ๆ
แล้วเรื่องที่ ปตท. เขาทำโรงงานแบตนี่ เป็นวิสัยทัศน์ของ ปตท. เขาเอง
ถ้ารัฐบาลตู่สนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าจริงจังตั้งแต่แรก โครงการอีโคคาร์เฟสสองไม่เกิดหรอก แต่พวกหัวเก่าคิดกันว่า ต้องให้เมืองนอกใช้ก่อนจนเทคโนโลยีเสถียรแล้วไทยค่อยนำเข้า เรื่องจะทำวิจัยอะไรเองแล้วเอาออกสุ่ตลาดเป็นเรื่องเป็นราว โดยเร่งทำเป็นเจ้าแรกๆเพื่อให้มีองค์ความรู้พอที่จะออกนำหน้าสังคมโลกเขาได้บ้าง
รัฐบาลนี้ไม่มีในสมองหรอก อะไรๆก็รอค่ายญี่ปุ่น จนสุดท้ายเจอค่ายจีนมาก่อนเลย นี่ก็ชัดเจนว่า รัฐบาลรอแต่สังคมจะลากไปอย่างเดียวเลย
@@radhanasiri ทำไมต้องเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้า ต้องคิดตรงนี้ก่อน // ตะวันออกกลางต้องรีบไหม อเมริกา ยุโรปต้องรีบไหม ทำไมจีนต้องรีบ ทำไมญี่ปุ่นไม่รีบ // ถ้าดูจากหลายๆมุม แล้วจะเข้าใจ // 1) แหล่งพลังงานในประเทศ 2) การจ้างงาน อุตสาหกรรมในประเทศ 3) ความมั่นคง //แต่ละประเทศทรัพยากรต่างกัน อุตสาหกรรมในประเทศต่างกัน รายได้ต่างกัน การเปลี่ยนจากรถน้ำมัน ไปไฟฟ้า ต้องต่างไป // ไทยก็เหมือนกัน ต้องดูว่า อุตสาหกรรมในประเทศเป็นไง แหล่งพลังงานมีไหม จะพัฒนาไปทางไหน
@@pataradit
1 รัฐบาลตู่ปล่อยให้โรงงานไฟฟ้าเอกชนผุดเป็นดอกเห็ดครับ อันนี้คืออะไรครับ กฟผ. ผลิตเองเหลือกี่เปอร์เซ็นต์
2 การจ้างงาน ถ้าญี่ปุ่นพร้อม อุตสาหกรรมในประเทศ ยังอยู่และไปต่อได้เลยครับ เพราะส่วนที่มีปัญหาหนักคือคนในด้านออกแบบระบบส่งกำลัง เครื่องยนต์ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ซึ่งญี่ปุ่นเขากั๊กใว้ ไม่ยอมปล่อยให้โรงงานไทยทำได้ครบทุกอย่าง
แล้วตอนนี้ปัญหาการเปลี่ยนระบบขับเคลื่อน มันย้อนเข้าตัวญี่ปุ่นเอง คือย้อนกลับไปโรงงานประเทศญี่ปุ่นเลย เพราะต้องแบกภาระบุคคลากรด้านนั้น
3 นั่นคือความล่าช้าในทุกวันนี้เป็นปัญหาของค่ายญี่ปุ่นและโรงงานในญี่ปุ่น แต่แทบไม่เป็นปัญหาของประเทศไทย เพราะถ้าจะทำรถยนต์ไฟฟ้าเองหมด สมมุติเป็นแบรนด์ไทยเลย ในด้านโรงงานเราทำส่วนประกอบอื่นๆได้เองแทบหมด * คนของเราก็ยังมีงานทำเกือบเท่าเดิม ส่วนที่ขาดคือออกแบบและระบบขับเคลื่อน ซึ่งนำเข้าจากแหล่งอื่นๆเช่นจีนได้โดยการร่วมทุน ส่วนเรื่องการตลาดก็เหมือนค่ายรถยนต์ทั่วไป ดีลเลอร์ก็มีเจ้าเก่าในท้องถิ่นอยู่แล้วหละ
ดังนั้นถ้าค่ายญี่ปุ่นไม่ติดปัญหาเรื่องนี้ เราก็ไม่ต้องมีไฮบริดสจ์หรอก สามารถไป EV ได้เลยทันทีครับ
4 ผลจากการยืมจมูกญี่ปุ่นหายใจมาเกือบร้อยปี แถมญี่ปุ่นเขายังกั๊กส่วนสำคัญใว้เอง แม้กระทั่งผู้ผลิตชิ้นส่วนรายย่อยจะร่วมมือกันทำเองก็ยาก เพราะค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นมีอำนาจเหนือตลาดบ้านเรา โรงงานเล็กๆบางจะทำส่งเจ้าอื่นบ้างก็ต้องคิดหนักกลัวเสียลูกค้ารายใหญ่
พอเขาพลิกตัวไม่ทัน แทนที่รัฐบาลเราจะใช้จังหวะนี้ อุดหนุนทำวิจัย หนุนด้านกฏหมายต่างๆเปิดทางแก่เอกชนของเราให้มาก เพื่อออกตัวระบบขับเคลื่อนของเราเองบ้าง เรากลับช้าไปกับญี่ปุ่นด้วย ซ้ำรัฐบาลยังทำอีโคคาร์เฟสสองมาตอกย้ำลากระยะการใช้รถน้ำมันเข้าไปอีก นั่นคือเสียโอกาส และมีแนวโน้มจะกลายเป็น ฐานการผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลใช้น้ำมันอันดับท้ายๆของโลกด้วยครับ
หนึ่งปรผ่านไปกลับมาดู
แร่ธาตุเราไม่แต่ก็หาได้นิ ปตท ไปสัมปทานทํเหมืองแร่ลิเธียมที่ประเทศเปรูทางอเมริกาใต้โน้นถ้าเราไม่่พร้อมทําคงโดนหัวเราะตายละชอบมองคนอื่นดีกว่าตัวเองก่อนเสมอมีปมด้วยรึเปล่า
สวัสดีครับพี่
สวัสดีครับ
ข้อได้เปรียบหลักๆ ของอินโด ก็คือ 1.มีวัตถุดิบ เพียบ และ 2.มีทรัพยากรแรงงาน เยอะมากๆ..หนำซ้ำยังมีค่าแรงที่ถูกกว่าไทยมากๆอีกด้วย
😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊
😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊
😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊
😊😊😊😊
😊
้เรื่องนี้ไม่เสมอไปว่า อินโดจะชนะไทยเพราะมีนิกเกิ้ลเยอะ ขอแบ่งแบตตารี่รถยนต์สมัยใหม่ มีแบตนิกเกิ้ล กับลิเทียม แบตนิกเกิ้ลมีราคาถูก ไม่ติดไฟ แต่จุแบตได้น้อย สมมุติกำลังไฟแบตสำหรับรถวิ่งได้ 400 กิโลเมตร แบตนิกเกิ้ลอาจหนัก 800 กิโลกรัม ส่วนแบตลิเทียมจะหนัก400 กิโลกรัม แบตนิกเกิลไม่เสถัยรในการชาร์ทและเก็บประจุไฟซึ่งลิเทียมเสถียรกว่า แบตนิกเกิลมีอายุตลอดใช้งานต่ำกว่าลิเทียม 5 ต่อ 10 ปี ข้อเสียแบตลิเทียมคือติดไฟได้ และแพงกว่า ไทยน่าจะมุ่งเน้นที่ลิเทียม การไปถือหุ้นเหมืองแร่ลิเทียมในอาเจนติน่าของบางจาก อาจทำให้การผลิตของไทยมั่นคง การแข่งขันช่วงแรกแบตนิกเกิลของอินโด อาจตีตลาดราคาถูก แต่ระยะยาวจะโดนเท เจ๊ง!ในที่สุด ด้วยความคุ้มค่า.....มีงานวิจัยแบตใหม่คือการทดแทนลิเทียม ด้วยสังกะสั และโซเดียม ซึ่งมีการทดลองใช้แล้ว และมีการใช้คาร์บอนน้ำตาลกับธาตุโซเดียม ให้ผลการกักเก็บไฟมากกว่าลิเทียม20%...ซึ่งไทยมีทั้งสังกะสี โซเดียม และน้ำตาล มากมหาศาล นวัตกรรมนี้ยังสู้กันอีกยาวไกล ไทยคงนำเข้าแบตนิกเกิลจากอินโด สำหรับตลาดล่างที่ไม่สนขนาดน้ำหนัก
ชอบบทวิเคราะห์ที่เขียนครับ ^_^ เทคโนโลยีแบต วัตถุดิบเป็นปลายเปิดมาก
ด้วยการมีปริมาณสำรองนิกเกิลที่ใหญ่ที่สุดในโลกทำให้อินโดนีเซียวางแผนที่จะเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ในบรรดา บริษัท ที่ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุน ได้แก่ LG, PANASONIC, BASF, CATL โดยผลิตแบตเตอรี่บน ขนาดใหญ่ และทำให้อินโดนีเซียเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในบรรดาบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุนในอินโดนีเซีย BYD, NETA, WULING, GEELY, HONDA, MITSUBISHI, NISAN, SUZUKI, TOYOTA, MAZDA, DALHATSU, FORD, VW, FOXCON , ฮุนได และ โซนี่ และ TESLA จะลงทุนในปี 2568
เราอันดับหนึ่งสร้างพญานาค
555 ไทยแลนด์โอนลี่
รออินโดนีเซียผลิตมาขายให้กับไทย ราคารถยนต์ไฟฟ้าถูกลงแน่นอนครับ
ด้วยการมีปริมาณสำรองนิกเกิลที่ใหญ่ที่สุดในโลกทำให้อินโดนีเซียวางแผนที่จะเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ในบรรดา บริษัท ที่ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุน ได้แก่ LG, PANASONIC, BASF, CATL โดยผลิตแบตเตอรี่บน ขนาดใหญ่ และทำให้อินโดนีเซียเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในบรรดาบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุนในอินโดนีเซีย BYD, NETA, WULING, GEELY, HONDA, MITSUBISHI, NISAN, SUZUKI, TOYOTA, MAZDA, DALHATSU, FORD, VW, FOXCON , ฮุนได และ โซนี่ และ TESLA จะลงทุนในปี 2568
นิกเกิลกับลิเธียมประสิทธิภาพต่างกันพอสมควร
ชอบข้อมูลของพี่ดลมากไม่เหมือนบางคนพูดแต่เรื่อง บ้าteslaจนเอามาด้อยค่าประเทศเพียงเพราะอยู่อเมริกาเลยมีโอกาสมากกว่าคนไทยด้วยกัน
ขอบคุณมากครับ อีกไม่นานบ้านเราก็จะพัฒนาไปเช่นกันครับ
สิ่งที่ไทยเรามีคือระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ไทยนั้นเป็นฐานการผลิตและส่งออกรถยนต์อันดับต้นๆในเอเชียและของโลก เบื้องต้นที่จำได้จะมี
- ระบบขนส่งโลจิสติกส์ (มีการขนส่งที่ลากหลายรวดเร็ว)
- ระบบซับพลายเออร์ (มีโรงงานประกอบแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ค่อนข้างเยอะ)
- และปัจจุบันสามารถสร้างแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ได้เอง 90%
- อื่นๆ จำไม่ได้ละ
ระบบ
ระบบ
อ้ายต้องไปแจ้งให้ไอ้ยุทธนะโรงงานแบตเตอรี่ไทย จะได้ไปเก็บค่าช่วยได้รู้ไหม ถ้าไม่จ่ายค่าสวยนะ ไม่เกิดเลยจะบอกให้
อินโดนีเซียเป็นประเทศมีเกาะ มีภูเขาเป็นจำนวนมากและมีแร่ที่เป็นวัตถุดิบในการผลิตแบตเตอรี่เป็นจำนวนมาก บริษ้ทส่วนใหญ่จึงไปลงทุนที่อินโด เพราะต้นทุนการผลิตต่ำ
เป็นแหล่งวัตถุดิบ ค่าแรงก็ถูก ขนาดบริษัทยักษ์ใหญ่ไทยยังไปลงทุนเลย
Indonesia pandai dalam memanfaatkan sumber daya alam nikel bahan baku batere, pemerintah tidak mau menjual bahan mentah ke luar negara, wajib diolah didalam negeri terlebih dahulu baru kemudian dijual ke luar negeri sebagai produk jadi, makanya perusahaan korea LG & Hyundai berinvestasi besar²an di Indonesia karena indonesia merupakan salah satu penghasil nikel terbesar di dunia
เป็นทางเลือกของผู้บริโภค.ไทยได้เปรียบตรงที่ไม่ค่อยมีอุทกภัยเหมือนอินโดนีเซีย
แน่นอนครับจากที่ฟังพี่มาแล้ว อินโด เอาบริษัท Tesla ไปกินอย่างไม่ต้องสงค์ใสแล้ว
Tesla เค้าประกาศแล้วนิว่าไปลงอินเดียไม่ใช่รึครับ
ด้วยการมีปริมาณสำรองนิกเกิลที่ใหญ่ที่สุดในโลกทำให้อินโดนีเซียวางแผนที่จะเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ในบรรดา บริษัท ที่ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุน ได้แก่ LG, PANASONIC, BASF, CATL โดยผลิตแบตเตอรี่บน ขนาดใหญ่ และทำให้อินโดนีเซียเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในบรรดาบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุนในอินโดนีเซีย BYD, NETA, WULING, GEELY, HONDA, MITSUBISHI, NISAN, SUZUKI, TOYOTA, MAZDA, DALHATSU, FORD, VW, FOXCON , ฮุนได และ โซนี่ และ TESLA จะลงทุนในปี 2568
ทรัพยากรทางอินโดพร้อมกว่า เลือกไม่ยากจะไปตั้งโรงงานที่ไหน
ด้วยการมีปริมาณสำรองนิกเกิลที่ใหญ่ที่สุดในโลกทำให้อินโดนีเซียวางแผนที่จะเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ในบรรดา บริษัท ที่ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุน ได้แก่ LG, PANASONIC, BASF, CATL โดยผลิตแบตเตอรี่บน ขนาดใหญ่ และทำให้อินโดนีเซียเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในบรรดาบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุนในอินโดนีเซีย BYD, NETA, WULING, GEELY, HONDA, MITSUBISHI, NISAN, SUZUKI, TOYOTA, MAZDA, DALHATSU, FORD, VW, FOXCON , ฮุนได และ โซนี่ และ TESLA จะลงทุนในปี 2568
ขอแก้ไขข้อมูล EA - AMITA นะครับ Phase แรกที่กำลังการผลิต 1 GWH ( ไม่ใช่ 400 MWH ) และ สามารถขยายเป็น 4GWH ภายในระยะเวลาไม่เกิน 2 ปีครับ
อินโดน่ามีศักยภาพสูงมากด้วย แหล่งแร่นิเกิลครับ แต่ไม่ว่าแร่ rare earth จะอยู่ที่ไหนในโลก 75% ก็จะถูกถลุงและมาทำสารตั้งต้นที่ประเทศจีนส่วนใหญ่ ทำให้ EV เมกา เกาหลี ญี่ปุ่น ยุโรป ต้องยืมจมูกจีนหายใจอยู่ดี
ดังนั้น TESLA , LG ถ้าต้องการปลดล็อกตรงนี้ก็ต้องมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีที่พึ่งพาสัดส่วนสารตั้งต้นที่มาจากพวก RARE EARTH แพงๆ เช่น Co , Li
ทำให้ LIB สูตร NCMA จึงเป็นทิศทางที่จะลดการพึ่งพาได้เพราะใช้ปริมาณ Ni มากขึ้นและ Ni ถูกกว่า อินโดมีแร่เยอะ แต่ถ้าจะปลดแอกให้ได้ต้องทำเหมือง --> refinery สารตั้งต้น --> ผลิต LIB --> Recycle เอา Rare Earth กลับมาใช้ ครับ
ถ้าไทยจะสู้คงต้องจับมือกับ LIB + EV สัญชาติจีน ไต้หวัน ครับ ให้ไทยเป็นฐานผลิต EV ส่งขายใน ASEAN ให้ได้ เหมือนที่ GWH และ FOXCONN + PTT กำลังทำ
ถ้าสู้แบบ STAND ALONE สู้ยากครับ
เพิ่มให้อีกก็ได้ครับ ไทย 15 GWH, Indo 30 GWH Indoยังเยอะกว่า เท่าตัวครับ
คงสู้อินโดฯยากครับทั้งปริมาณ และวัตถุดิบ แต่ใข่ว่าจะไม่มีหนทางสู้ ดูความเป็นศูนย์กลางกาผลิตรถยนต์ที่ไทยนำหน้าอินโดฯมายาวนานเป็นเคสตัวอย่าง ทั้งๆที่ประชากรเขามากกว่าเราถึง 4 เท่า ถ้าเปนียบเทียบความต้องการรถไฟฟ้า กับความต้องการรถยนต์ในอดีตที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันก็บอกได้ว่าอินโดฯมีข้อจำกัดเรื่องรายได้ประชาชนอยู่ ถึงจะเปลี่ยนเป็นรภไฟฟ้า ตัวเลขความต้องการก็คงไม่แตกต่างกับตอนยังเป็นรถใช้น้ำมันอยู่ดี ด้วยข้อจำกัดทางรายได้ของประขาชน ลูกค้าก็คือคนกลุ่มเดิมเป็นหลัก ทรัพยากรเขามี แต่ก็แปลกนะ อย่างเหมืองถ่านหิน ก็ บริษัท บ้านปู ได้สัมปทาน บริษัทของอินโดฯทำไมไม่ได้รับการสนับสนุน อาจเป็นในเรื่องข้อจำกัดด้านความสามารถหรือเปล่า นี่ก็ดึงต่างชาติเข้าไป ในขณะที่ไทยเราออกไปต่างประเทศ พอๆกับที่ดึงต่างชาติเข้ามา. ถ้าจะให้ผมวิจารณ์นะไม่ใข่วิเคราะห์เพราะไม่เก่งปานนั้น ไทยเราเหนือกว่าทั้งด้านการทำธุรกิจ และด้านการผลิต คงสู้ได้น่า อย่างน้อยก็เสมอตัว เหมือนนักมวยตัวเล็ก ชกกับนักมวยตัวใหญ่กว่ามาก เชิงมวยเท่านั้นที่จะปราบมวยตัวใหญ่ลงได้ โดยเฉพาะลูกกระโดดเตะก้านคอ 5555
ประเทศไทยไม่มีวัตถุดิบและไม่มีเทคโนโลยี 😂 เราจะแข่งขันกันได้อย่างไร? เศรษฐกิจของประเทศไทยลดลงอย่างต่อเนื่อง จำนวนประชากรลดลง อายุมากขึ้น และความวุ่นวายทางการเมือง อนาคตคุณจะแข่งขันอย่างไร?😂
@@mdbert_2599 คำว่าไทยไม่มีวัตถุดิบ มันก็แค่บางอย่าง ไม่ใช่ไม่มีอะไรเลย บางอย่างไทยมีแต่ไม่นำออกมาใข้ เพื่อเก็บไว้ใช้ในอนาคต อเมริกามีน้ำมันมหาศาล แต่ทำไมยังซื้อน้ำมันจากอ่าหรัย หรือแม้แต่ซื้อจากไทย แถมเป็นหนี้ไทย ปรมาณ 2.5 หมื่นล้านดอลล่า ด้วยนะ เพราะเขาวางแผนการไกล โลกไม่มีน้ำมันเมื่อไหร่ เขาถึงจะดูดออกมาขายได้ทั้งเงินได้ทั้งอำนาจควบคุมระบบเศรษฐกิจโลก ที่บอกว่าการเมืองไทยวุ่นวายเพราะโลกประชาธิปไตย มันก็วุนวายไปทั่วนั่นแหละเพราะประขาชนมีสิทธิมีเสียงเรียกร้องเรื่องเดือดร้อาต่างๆได้ เพียงแต่ข่วสารแบบนี้ไม่มีนำเสนอในโลกคอมมูนิสต์ รัฐบาลกลัวประชาชนจะนำมาเลียนแบบลุกฮือไล่รัฐบาลไง ข่าวไม่ดีจึงไม่ค่อยมีในประเทศคอมมูนิสต์ มีแต่ข่าวยกย่อง ข่าวประชาชนร่วมแรงร่วมใจกันพัฒนาท้องถิ่น เรืองแบบนี้ไทยมีมานานแล้ว และไม่ใช่เรืองใหญ่ต้องมาทำเป็นข่าว คนไทยจึงตลกข่าว ทีวีลาว มันไร้สาระ ไม่มีความรู้ที่ดีกว่ามานำเสนอให้ประชาชนหูตากว้าง.. ส่วนที่ว่าเศรษฐกิจถดถอย คำว่าถดถอยของประเทศไทย อาจเท่ากับการล่มสลายของเศรษผฐกิจของลาวไปเลย เพราะอะไร เพราะแค่เงิน 3 พันล้านดอลล่า รัฐ่บาลลาวยังไม่มีไปผ่อนหนี้ แต่ 3 พันล้านดอลล่านี่เล็กน้อยมากสำหรับไทย แต่ละโครงการของไทย มูลค่า 5-6 หมื่นล้านดอลล่า แบบนี้เหรอที่ว่าเศรษฐกิจถดถอย เห็นสร้างถนน สะพาน ทางด่วน ทางรถไฟกันทุกภาคของประเทศ ช่วงโควิดระบาด ขนาดอเมริกายังต้องขอพิมพ์เงินเพิ่ม เพราะรัฐบาลไม่มีเงินเลยว่างั้นเถอะ ไทย ยังสบายๆอยู่เลย ฟังข่าวประเทศอื่น แล้วมาเทียยกับไทยนะ ไทยรวยกว่าเยอะ ที่บ่นๆกันน่ะ เขาเรียกว่า ขาดทุนกำไร คือเคยได้กำไร 200% ตอนนี้เหลือแค่ 50% คือขาดทุนกำไรไป 150 แต่ก็ยังเหลือกำไรอยู่ 50 มันเป็นแบบนี้แหละ ยิ่งถ้าเอาไทยไปเทียบกับจีนนะ ไทยงี้ตัวเท่า มด ลาวนี่ต้องใช้กล้องจุลทรรศร์ส่องหาเขื้อโรคส่องถึงจะมองเห็น
Hanya anjing yang menggonggong keras ke musuhnya sedangkan harimau hanya butuh ketenangan untuk menjatuhkan lawan😂
@@intrickchannel7705 so funny
@@intrickchannel7705 Keep your mouth alive.😂😂
แร่ลิเธี่ยมในไทยที่พังงาคุณภาพดีกว่าอินโดนีเซีย
ราคาต้องถูกนะใช้ในปะเทศ
ของไทย คนไทยเป็นเจ้าของ ด้วยความร่วมมือพัฒนาเทคโนโลยี่ร่วมกับไต้หวัน ของอินโด มีวัตถุดิบเรียกให้บริษัทต่างชาติแบรนด์ดังมาตั้งโรงงานซื้อแร่จ้างคน เหมือนค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นจ้างไทยผลิต
Lg ตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่นิเกิลในอินโด แต่ผลิตแบตเตอรี่ลิเที่ยมในประเทศเกาหลีเอง
ด้วยการมีปริมาณสำรองนิกเกิลที่ใหญ่ที่สุดในโลกทำให้อินโดนีเซียวางแผนที่จะเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ในบรรดา บริษัท ที่ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุน ได้แก่ LG, PANASONIC, BASF, CATL โดยผลิตแบตเตอรี่บน ขนาดใหญ่ และทำให้อินโดนีเซียเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในบรรดาบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุนในอินโดนีเซีย BYD, NETA, WULING, GEELY, HONDA, MITSUBISHI, NISAN, SUZUKI, TOYOTA, MAZDA, DALHATSU, FORD, VW, FOXCON , ฮุนได และ โซนี่ และ TESLA จะลงทุนในปี 2568
ไทยครับเพราะไทยมีตลาดรถยนตร์และช่างฝีมือยอดเยี่ยมมากกว่าครับ
3:29 10 GWh
ราคาน้ำมันพุ่งแบบทุกวันนี้ รถไฟฟ้ามาเร็วขึ้นแน่นอน
จัดสักคันไหมครับ
อประเด็นมันอยู่ที่วัตถุดิบนั่นแหละครับ ทำไมเค้าถึงไปตั้งที่อินโด นิกเกิ้ลมีรองรับ ไม่ต้องนำเข้า เราต้องหาแนวทางอื่นแทนแล้วครับ อย่างเช่น การประกอบ
ด้วยการมีปริมาณสำรองนิกเกิลที่ใหญ่ที่สุดในโลกทำให้อินโดนีเซียวางแผนที่จะเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ในบรรดา บริษัท ที่ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุน ได้แก่ LG, PANASONIC, BASF, CATL โดยผลิตแบตเตอรี่บน ขนาดใหญ่ และทำให้อินโดนีเซียเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในบรรดาบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุนในอินโดนีเซีย BYD, NETA, WULING, GEELY, HONDA, MITSUBISHI, NISAN, SUZUKI, TOYOTA, MAZDA, DALHATSU, FORD, VW, FOXCON , ฮุนได และ โซนี่ และ TESLA จะลงทุนในปี 2568
ตอนมีคนถามคนทำถุงพลาสติก ถ้าเขาเลิกใช้ถุงพลาสติก คุณจะทำยังไง เขาตอบว่าผมทำถุงขยะพลาสติกเพราะคุณไม่เหลือถุงพลาสติกมาใส่ขยะ
ถ้ามีคนถามว่า ถ้ารถสันดาปหมดไป คุณจะทำยังไง ก็บอกโรงงานที่เขาจะปิดในประเทศเขามาตั้งที่ไทยแล้วผลิตส่งเขาสิ ถ้าทุกคนทำ EV เราก็เหมา รถสันดาปมาทำเป็น niche market ที่ใหญ่กว่าตลาดเดิม
เราควรจะเบื่อได้แล้วการเป็นอันดับหนึ่ง เมื่อก่อน ข้าวส่งออกอันดับหนึ่ง แล้วยังไง ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว แต่คนที่ปลูกข้าวอยู่ที่อยู่ได้คือปลูกข้าวพันธุ์ดี ไอ้ที่ปลูกมั่วๆก็จบเห่
รถ EV มีส่วนประกอบที่มีมูลค่าสูงตอนนี้คือ แบต เหมือนมือถือสมัยก่อนที่แบตก้อนใหญ่โตและแพงเก็บปะจุได้ไม่มาก เดี๋ยวนี้ส่วนที่แพงที่สุดคือ chipset และ OS รถยนต์ EV ก็จะไปทางเดียวกัน
วัตถุดิบเทคโนโลยี่สิ่งแวดล้อมเป็นตัวกำหนดกะแสไม่ใช่ตัวกำหนดอีกต่อไป.
นี่คือยุคเริ่มต้นของ รง.ผลิตแบตเตอรี่สำหรับ BEV เท่านั้น ในอนาคตการแข่งขันจะแรงขึ้นอย่างมากๆ แน่นอน..
โรงงานใหญ่ๆเดี๋ยวนี้ไปอยู่แถวเพื่อนบ้านหมดแล้วไทยเราชักไม่ค่อยจะมีแล้วเกี่ยวกับการเมืองไทยเราหรือเปล่าก็ไม่ทราบครับ
ดีที่ของเราเป็นการลงทุนในประเทศด้วย อยากให้รัฐส่งเสริมให้เกิด โรงงานผลิตแบตเยอะๆ เพื่อเป็นจุดเด่นดึงดูดโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทย
ได้เวลาซื้อหุ้นพวกนี้แระ เล็งดีๆละกัน
แอดมินน่าจะเขียนผิด ที่นาทีที่3.28พูดว่า30กิกกะวัตต์อาวเอเวอร์ แต่กลับเขียน KWh ที่ถูกต้องเขียน GWh
ขอบคุณมากครับ
ไทยได้เปรียบเรื่องงานตัวถังและงานประกอบครับ
วัตถุดิบเป็นตัวแปรสำคัญทำให้ราคาสินค้าถูกลงบ้านใครมีจะได้เปรียบ
อัพเดตหน่อยค่าตอนนี้เรื่องแบตเป็นงัยบ้าง
ดูที่เซมิแบตเตอรี่ รถไฟฟ้าจะใช้แบตรุ่นนี้แทนในอนาคต ด้วยน้ำหนักและระยะทาง
หมายถึง semisolid หรือ solid-state battery เหรอครับ
ขี่จักรยานดีกว่าไม่เสียตังค์เยอะ ไทยยิ่งผลิตยิ่งเเพง ไม่ไหว รถบ้านเราแพงฉิบหาย
ไทยทำได้หมดแต่ขาดอย่างทรัพยากรในการผลิต
อินโดนีเซียได้เปรียบตรงที่มีวัตถุดิบ นิเกิ้ล มากที่สุดในโลก แม้แต่ เทสลา ก็สนใจจะไปตั้งโรงงานด้วยเช่นกัน คอยดูกันครับ
ด้วยการมีปริมาณสำรองนิกเกิลที่ใหญ่ที่สุดในโลกทำให้อินโดนีเซียวางแผนที่จะเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ในบรรดา บริษัท ที่ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุน ได้แก่ LG, PANASONIC, BASF, CATL โดยผลิตแบตเตอรี่บน ขนาดใหญ่ และทำให้อินโดนีเซียเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในบรรดาบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุนในอินโดนีเซีย BYD, NETA, WULING, GEELY, HONDA, MITSUBISHI, NISAN, SUZUKI, TOYOTA, MAZDA, DALHATSU, FORD, VW, FOXCON , ฮุนได และ โซนี่ และ TESLA จะลงทุนในปี 2568
สู้อินโดนีเซียไม่ได้หรอก ขนาดอีลอน มัคส์ยังสนใจลงทุนที่อินโดเลย
ผมว่าสาเหตุที่เขาไปลงทุนนั้น เพราะค่าแรงขั้นต่ำเขาถูกคับ แรงงานคนประชากรเยอะ ค่าครองชีพไม่สูงมาก
@@tnssne9094 นั่นแหละครับที่เราสู้ไม่ได้
@@pataradit ใช่คับ ประเทศเขามีแหล่งทรัพยากร ที่เอามาใช้ได้มากกว่าเรา
@KnowHub ถ้าโซลิสเตจ์ที่เราผลิดสำเร็จราคาถูก แบตอื่นก็สู้ไม่ได้
@KnowHub คุณคิดว่าคุณมีเทคโยโลยีที่ดีว่าเขา
มันคืออะไร
แล้วโรงงานรถใช้น้ำมันญี่ปุ่นที่เพิ่งย้ายไปอินโดยังไม่ได้ทุนคืนเลย จะโดนเทอีกแล้ว รถไฟฟ้าความเร็วสูงญี่ปุ่นโดนอินโดเทมาแล้ว ยังไม่หายเจ็บเลย
ด้วยการมีปริมาณสำรองนิกเกิลที่ใหญ่ที่สุดในโลกทำให้อินโดนีเซียวางแผนที่จะเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ในบรรดา บริษัท ที่ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุน ได้แก่ LG, PANASONIC, BASF, CATL โดยผลิตแบตเตอรี่บน ขนาดใหญ่ และทำให้อินโดนีเซียเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในบรรดาบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุนในอินโดนีเซีย BYD, NETA, WULING, GEELY, HONDA, MITSUBISHI, NISAN, SUZUKI, TOYOTA, MAZDA, DALHATSU, FORD, VW, FOXCON , ฮุนได และ โซนี่ และ TESLA จะลงทุนในปี 2568
มองว่าอินโดฯได้เปรียบแน่ เพราะเขาเป็นเจ้าของทรัพยากรลิเทียม และเป็นตลาดรถยนต์ใหญ่มีประชากรมาก แต่ผมว่าวิสัยทัศน์ไทยดีกว่า เพราะผู้ประกอบการไทยลงทุนทำด้วย เทคโนโลยีเราได้มาอยู่ในมือเราเอง ดูเหมือนว่าผู้ประกอบการไทยจะค่อนข้างพร้อมกว่าของอินโดฯ
Indonesia battery corporation??????
ด้วยการมีปริมาณสำรองนิกเกิลที่ใหญ่ที่สุดในโลกทำให้อินโดนีเซียวางแผนที่จะเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ในบรรดา บริษัท ที่ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุน ได้แก่ LG, PANASONIC, BASF, CATL โดยผลิตแบตเตอรี่บน ขนาดใหญ่ และทำให้อินโดนีเซียเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในบรรดาบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุนในอินโดนีเซีย BYD, NETA, WULING, GEELY, HONDA, MITSUBISHI, NISAN, SUZUKI, TOYOTA, MAZDA, DALHATSU, FORD, VW, FOXCON , ฮุนได และ โซนี่ และ TESLA จะลงทุนในปี 2568
ผู้นำมีสมอง84000เซล ลองดูจะสู้อินโดได้ไหม
แน่นอนว่าไม่ได้ครับ
🙏ด้วยการมีปริมาณสำรองนิกเกิลที่ใหญ่ที่สุดในโลกทำให้อินโดนีเซียวางแผนที่จะเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ในบรรดา บริษัท ที่ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุน ได้แก่ LG, PANASONIC, BASF, CATL โดยผลิตแบตเตอรี่บน ขนาดใหญ่ และทำให้อินโดนีเซียเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในบรรดาบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุนในอินโดนีเซีย BYD, NETA, WULING, GEELY, HONDA, MITSUBISHI, NISAN, SUZUKI, TOYOTA, MAZDA, DALHATSU, FORD, VW, FOXCON , ฮุนได และ โซนี่ และ TESLA จะลงทุนในปี 2568
โรงงานแบตฯยกให้อินโดไปเลยค่ะ เรามีอุตสาหกรรมและสินค้า บริการอะไรให้ทำเยอะ โรงงานผลิตแบตไม่ได้มีแต่ข้อดี รอเป็นฐานผลิต/ประกอบรถEVพอค่ะ
ด้วยการมีปริมาณสำรองนิกเกิลที่ใหญ่ที่สุดในโลกทำให้อินโดนีเซียวางแผนที่จะเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ในบรรดา บริษัท ที่ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุน ได้แก่ LG, PANASONIC, BASF, CATL โดยผลิตแบตเตอรี่บน ขนาดใหญ่ และทำให้อินโดนีเซียเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในบรรดาบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุนในอินโดนีเซีย BYD, NETA, WULING, GEELY, HONDA, MITSUBISHI, NISAN, SUZUKI, TOYOTA, MAZDA, DALHATSU, FORD, VW, FOXCON , ฮุนได และ โซนี่ และ TESLA จะลงทุนในปี 2568
ให้ไทยพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองบางก็ได้ครับ ไม่งั้นเปนแต่ ผู้รีบจ้างผลิตตลอดไป
คงจะแก่อยู่แต่บ้านแล้วหรือไม่ก็ตายจากก่อนรถevจะมา
ประเทศไทยเป็นโรงงานผลิตรถยนต์ในประเทศ แต่รถยนต์กลับแพงกว่าประเทศอื่น แล้วคนไทยตัวเล็กๆได้ประโยชน์อะไร? แบตเตอรี่ก็คงเหมือนกัน
ฟังเขามาต้องหาความรู้เพิ่มด้วยว่าจริงรึเปล่าไม่ใช่เชื่อหมด
รถยนต์พื้นฐานทั่วไปของไทยราคาแทบจะถูกสุดในอาเซียน
Ford ranger ตัวท็อปที่ไทย 1ล้าน ออสเตรเลีย 1.5ล้าน
มีแต่รถยนต์นำเข้าถึงแพง
โห อินโด ส่วนตัวแค่เราไม่มีแร่ตั้งต้นเราก็ยากจะไปสู้เขาได้เยี่ยงไร??? อินโดมีสารตั้งต้น ประเทศเจ้าของเทคโน จะเลือกไปตั้งที่ไหน??? คิดเห็น
🙏🙏ด้วยการมีปริมาณสำรองนิกเกิลที่ใหญ่ที่สุดในโลกทำให้อินโดนีเซียวางแผนที่จะเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ในบรรดา บริษัท ที่ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุน ได้แก่ LG, PANASONIC, BASF, CATL โดยผลิตแบตเตอรี่บน ขนาดใหญ่ และทำให้อินโดนีเซียเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในบรรดาบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุนในอินโดนีเซีย BYD, NETA, WULING, GEELY, HONDA, MITSUBISHI, NISAN, SUZUKI, TOYOTA, MAZDA, DALHATSU, FORD, VW, FOXCON , ฮุนได และ โซนี่ และ TESLA จะลงทุนในปี 2568
จากข้อจำกัดเดิม แบตเตอรี่แบบเดิม ที่ใช้เวลาชาร์จที่นานจนน่าเบื่อ และต้นทุนแบตเตอรีลิเทียมที่แพง ..และแล้ว --> game changing graphene aluminum ion battery"
อินโดมีวัตถุดิบตั้งแต่ต้นน้ำ แต่ไทยต้องนำเข้า ถ้าไทยเป็นผลิตนำหน้าอินโดถือว่าเก่งมากๆ
แบบนี้ราคาของไทยต้องแพงกว่ารึป่าวคะ?
ด้วยการมีปริมาณสำรองนิกเกิลที่ใหญ่ที่สุดในโลกทำให้อินโดนีเซียวางแผนที่จะเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ในบรรดา บริษัท ที่ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุน ได้แก่ LG, PANASONIC, BASF, CATL โดยผลิตแบตเตอรี่บน ขนาดใหญ่ และทำให้อินโดนีเซียเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในบรรดาบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุนในอินโดนีเซีย BYD, NETA, WULING, GEELY, HONDA, MITSUBISHI, NISAN, SUZUKI, TOYOTA, MAZDA, DALHATSU, FORD, VW, FOXCON , ฮุนได และ โซนี่ และ TESLA จะลงทุนในปี 2568
ไทยโรงงานผลิตรถยนต์ดีกว่าเพราะฝีมือดีกว่า แต่อินโดเหมาะสมกว่าเพราะมีแร่ลิเธียมความพร้อมมากกว่าเราและ มีโรงงานแบตฯพานาโซนิคที่อินโดและเทสล่สเทคโอเวอร์ไปแล้ว เตรียมผลิตอีกไม่นาน ครับ
ด้วยการมีปริมาณสำรองนิกเกิลที่ใหญ่ที่สุดในโลกทำให้อินโดนีเซียวางแผนที่จะเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ในบรรดา บริษัท ที่ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุน ได้แก่ LG, PANASONIC, BASF, CATL โดยผลิตแบตเตอรี่บน ขนาดใหญ่ และทำให้อินโดนีเซียเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในบรรดาบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุนในอินโดนีเซีย BYD, NETA, WULING, GEELY, HONDA, MITSUBISHI, NISAN, SUZUKI, TOYOTA, MAZDA, DALHATSU, FORD, VW, FOXCON , ฮุนได และ โซนี่ และ TESLA จะลงทุนในปี 2568
มันไม่ได้อยู่ที่ใครสร้างโรงงานแบตเตอรี่ใครใหญ่
สวัสดีครับพี่ติดตามตลอดจากสุราษฎร์ครับ
ขอบคุณมากครับ
เรื่องผลิตแบตอาจจะสู้อินโดยาก เพราะแร่ที่ใช้ในการผลิตแบต อยู่ใต้พิภพของอินโดมากสุดในโลกแล้ว ทรัพยากรเค้าเยอะ แต่อย่างอื่นพอสู้ได้
หมายถึงแร่อะไรครับ
แร่นิเกิลครับ
ด้วยการมีปริมาณสำรองนิกเกิลที่ใหญ่ที่สุดในโลกทำให้อินโดนีเซียวางแผนที่จะเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ในบรรดา บริษัท ที่ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุน ได้แก่ LG, PANASONIC, BASF, CATL โดยผลิตแบตเตอรี่บน ขนาดใหญ่ และทำให้อินโดนีเซียเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในบรรดาบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุนในอินโดนีเซีย BYD, NETA, WULING, GEELY, HONDA, MITSUBISHI, NISAN, SUZUKI, TOYOTA, MAZDA, DALHATSU, FORD, VW, FOXCON , ฮุนได และ โซนี่ และ TESLA จะลงทุนในปี 2568
ขออย่าเก็บภาษีแพงกว่าเพื่อนบ้านสู้ได้แน่นอน มีน้ำมันเป็นตัวอย่าง
ถ้าประยุทธ์อยู่ต่อ ผมว่าเเพงเเน่ๆครับ ต้องการภาษีเพื่อใช้หนี้เเละไปซื้ออาวุธ
เรื่องต้นทุนค่าแรงอินโดคือตัวเลือกที่นักลงทุนจะเลือกอินโด ไทยจะสู้ได้ คือเรื่องคุณภาพฝีมือแรงงาน คุณภาพการผลิต ถ้าไทยไม่พัฒนายกระดับก็คงสู้อินโดไม่ได้ อีกอย่าง การบริหารจัดการ ระบบขนส่ง ภาษี สำคัญคือ คุณภาพ ประสิทธิภาพ
ด้วยการมีปริมาณสำรองนิกเกิลที่ใหญ่ที่สุดในโลกทำให้อินโดนีเซียวางแผนที่จะเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ในบรรดา บริษัท ที่ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุน ได้แก่ LG, PANASONIC, BASF, CATL โดยผลิตแบตเตอรี่บน ขนาดใหญ่ และทำให้อินโดนีเซียเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในบรรดาบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุนในอินโดนีเซีย BYD, NETA, WULING, GEELY, HONDA, MITSUBISHI, NISAN, SUZUKI, TOYOTA, MAZDA, DALHATSU, FORD, VW, FOXCON , ฮุนได และ โซนี่ และ TESLA จะลงทุนในปี 2568
อ่านเร็วเกินไปครับ ฟังแทบไม่ทัน เอกสารประกอบคำบรรยายเปลี่ยนเร็วเกินไปและไม่สัมพันธ์กับเนื้อเรื่องที่กำลังพูดครับ
ผมสรุปให้ครับ อินโด 30 GWH ไทย 11 GWH อินโดชนะครับ มีกำลังผลิตแบตเตอรี่เยอะกว่า
รออินโดนีเซียผลิตมาขายให้กับไทย ราคารถยนต์ไฟฟ้าถูกลงแน่นอนครับ
โครงสร้างพื้นฐาน ความสามารถและศักยภาพของบริษัทเอกชนของไทยเหนือกว่าแน่ แต่วิสัยทัศน์และความสามารถของผู้นำประเทศของไทยและระบบราชการไทย.... อืม.. คงไม่ต้องอธิบาย
แล้วระบบราชการอินโดดีกว่าหรือไม่ละครับ
@@dontreekhrutdilakanan8548 ระบบราชการอินโด ผมไม่ทราบ แต่ระบบราชการไทยเรื่องขั้นตอน.. และอะไรซึ่งต้องใช้เอกสาร หรือการได้ใบอนุญาติระบบราชการไทย ขั้นตอนเยอะ และวิธีคิดแบบราชการและระบบอุปถัมป์ไม่เอื้อต่อการแข่งขัน ส่วนเรื่องวิสัยทรรศน์ผู้นำ ของทั้งสองประเทศ ก็อย่างที่เห็น.. ได้รับทราบ.... ไม่อยากเปรียบเทียบ..
สิ่งที่บ้านเราขาดคือแหล่งเงินทุนหลักหรือแหล่งเก็บภาษี ขอยกตัวอย่างหลายๆ เกาหลีใต้-- ใช้ซีรีย์ K-pop samsung ญี่ปุ่น-- หนังสือการตูน หนังAV ประมง แบรนรถยน สิงคโปร์-- ค่าผ่านทางเดินเรือ อังกฤษ ฟุตบอล แบรนเสื้อผ้า ประเทศหลายประเทศที่เจริญมีแหล่งดึงดูดเงินจากประเทศอื่นได้มาก ส่วนประเทศเราได้แค่การท่องเที่ยวกับเกษตร ทางเดียวที่เราจะได้เงินทุนเยอะๆคือ คอคอตกะ แต่ผมว่าเป็นไปได้ยากอยู่ที่จะทำได้ ประเทศเสียผลประโยชน์จากเราพยามโจมตีเราอย่างหนัก บ้านเราจริงๆแล้วไม่เดือนร้อนหนักนะ ถ้าไม่มีค่าแรงขั้นต่ำ โครงการนี้ทำให้หลายประเทศพังในอดีต มีบทเรียนให้เห็นเยอะ ค่าแรงแพง ของขายแพง ขายแพงกว่าประเทศอื่นก้อเขาไม่ซื้อ ขายถูกก้ออยู่ไม่ได้ โรงงานหนีย้ายออก ประชาชนตกงานคับ
เสียทีไทยไม่ขุดคลองกระตุ้นการลงทุนภายใน มันจะเด่นกว่าใคร ไทยไม่ต้องไปจ่ายอะไรให้สิง.โปร
มันขุดไม่ได้ครับ เขาเลิกพูดกันนานละเรื่องนี้เพราะเจอภูเขาครับ ตรงคอดๆ อ่ะ ถ้าเลี่ยงไปหน่อยก็ไม่คอดล่ะครับ ต้นทุนสูง แถมประหยัดเวลาได้ไม่เท่าไหร่ คงไม่มีใครอยากมาใช้
แล้วประเทศเป็นอะไร น้ำมันก็แพง รถไฟฟ้าก็ขายแพงกว่าประเทศอื่น
ไทยเทียบไม่ติดเลยครับ
ขอแค่มมีก็ดีใจละครับ
indo มีแหล่งแร่ ใช้ทำแบตได้ บ.พวกนี้เลยเข้าไปอยู่ที่นั่น
🙏ด้วยการมีปริมาณสำรองนิกเกิลที่ใหญ่ที่สุดในโลกทำให้อินโดนีเซียวางแผนที่จะเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ในบรรดา บริษัท ที่ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุน ได้แก่ LG, PANASONIC, BASF, CATL โดยผลิตแบตเตอรี่บน ขนาดใหญ่ และทำให้อินโดนีเซียเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในบรรดาบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าที่ลงทุนในอินโดนีเซีย BYD, NETA, WULING, GEELY, HONDA, MITSUBISHI, NISAN, SUZUKI, TOYOTA, MAZDA, DALHATSU, FORD, VW, FOXCON , ฮุนได และ โซนี่ และ TESLA จะลงทุนในปี 2568