ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
การปลูกฝังให้คนจบใหม่มีบ้าน เป็นความมั่นคงของ ธนาคารที่กินดอกปล่อยกู้จนพุงกาง - ขอบคุณครับ
ชอบความเห็นนี้ คนรุ่นใหม่ฉลาด กว่าแต่ก่อน แต่ก็ต้องดูว่าไม่ใช่ทุกคน
ใช่ครับ ซื้อเงินสดดีกว่าหรือลง 😊เงินดาวน์เยอะ
กินดอก7%ต่อปี ตอนนี้ขยายไปถึง40ปีแล้วปีแล้ว ส่งเบาๆครับ
ความจริง
@@ttsiart6500 ส่งเบาๆ ดอกบานๆนะครับ 55555
ผมว่าปัญหาเรื่องเงินกู้นี่เป็นปัญหาส่วนนึง แต่ปัญหาจริงๆ คือบ้านแพงขึ้นเรื่อยๆ จนคนที่มีรายได้น้อยเอื้อมถึงไม่ได้มากกว่าครับ การช่วยให้กู้ได้ง่ายขึ้นไม่ได้เป็นผลดีกับคนกู้เลยเป็นประโยชน์กับบริษัทอสังหามากกว่า เพราะสุดท้ายกว่าจะจ่ายหมดก็ 30 ปีอยู่ดี ส่วนราคาที่จ่ายตลอด 30 ปีก็จะอยู่ประมาณ 2-3 เท่าของราคาบ้าน บางคนแค่ค่าผ่อนบ้านขั้นต่ำก็ 40% ของรายได้แล้วจะเหลือเก็บซักเท่าไหร่ครับ
คนรุ่นใหม่ที่ไหนจะมีแรงไปซื้อผมเป็นนักวิทย์อยู่เชียงใหม่ อายุงาน 4.5 ปี เงินเดือน 22,000 ทำงานอยู่ในเมืองจะซื้อบ้านทีก็ต้องห่างจากเมือง 12 กิโลเพราะต้องราคาถูกๆราคาบ้านแบบพออยู่ได้มือสองก็ 2.3 ล้านผ่อน10k ถ้าไกลบ้านก็ต้องใช้รถยนต์อีก รถมือสองคันเล็กผ่อน5kไม่รวมน้ำมัน รวมเบ็ดเสร็จ ผ่อน 15k เหลือกิน 7k ไม่ใช่คนรุ่นใหม่ไม่อยากซื้อ เงินเดือนมันไม่เพิ่มให้ทำยังไง
Refinance ช่วยได่ครับ เรื่องดอกแพง
คุณ Taishan ปัญหา ที่ว่ามาของคนไทย เป็นปัญหาเดียวกับที่ออสเตรเลียปัจจับันค่ะ ราคาบ้านสูงกว่ารายได้ของมนุษย์เงืนเดือนหลายสืบเท่า ถ้าในซิดนีย์ถ้าจะซื้อบ้าน ซึ่งต้องผ่อน 25-30 ปี ในราคา 24-27 ล้านบาท ครอบครัวต้องมีรายได้รวมเดือนละ 3 แสนบาทต่อเดือนขึ่น จึงจะไม่อัตคัต ดอกเบี้ยปัจจับันนั้น คนต้องผ่อนเดือนละ 7-8 หมื่นบาทขึ้น แถมปัญหาเรื่องซัพพลาย ทำให้มีบ้านให่เช่าน้อย คนมีงานทำหลายครอบครัวยังต้องนำรถไปอยู่ตามปาร์ค ที่มีให้เช่าก็แย่งกัน และแพงมากกกกที่เมืองไทยแม้รายได้จะน้อย แต่อพาร์ทเมนท์ให้เช่าราคทไม่แพงยังหาง่ายกว่าเยอะค่ะ
@@DavisonBoบ้านแพงจริง จะให้ซื้อไกล ๆ ก็ซื้อไม่ลง นึกถึงตอนอายุมาก ขับรถไม่ไหว เหมือนขาด้วนเลย จะซื้อรถตอนนั้นก็น่าจะแพงน่าดู(Nissan Serena ราคาไทย ประมาณ 1.4 ล ถ้ามี Full self driving ระดับ 3-4 คงจะแตะ 2 ล้าน ถ้าบ้านไกลต้องซื้อรถประมาณนี้แหละ)จริง ๆ บ้านหลังเดิมก็มีอยู่ แต่อยู่ ตจว ค่อนข้างไกลเหมือนกัน อยากจะขายไปซื้อที่ใหม่ ขนาดผมมีต้นทุนอยู่บ้าง ยังต้องควักเป็นล้าน
@@sawadeeaust9762 ขอบคุณที่แชร์ข้อมูลกันครับ ผมได้ข่าวว่าในยุโรปบางประเทศที่มีพื้นที่ไม่เยอะก็เป็นแบบที่คุณ sawadee เล่าเหมือนกัน คือ supply บ้านน้อยจนค่าเช่าบ้านพุ่งสูงขึ้นมาก หวังว่าจะมีทางออกที่ทำให้ไทยไม่ไปถึงขั้นนั้นครับ ถ้าทิศทางในอนาคตเป็นแบบนี้กันไปหมด พอมีกำลังพอแล้วผมคงต้องรีบซื้อบ้านเหมือนกัน ถ้าคุณ sawadee ยังอยู่ออสผมก็เป็นกำลังใจให้นะครับ 🙂
เคยทั้งซื้อและเช่าคอนโดในตึกเดียวกันสำหรับผมรู้สึกเช่าดีกว่า ตอนเช่าจ่ายต่อเดือน11,000 ตอนซื้อจ่ายแบ้ง13,500(ดอก8,000)แต่มีค่าส่วนกลางอีกหารต่อเดือนเกือบ1,400 คำนวณแล้วเช่าจะประหยัดกว่านิดหน่อยแต่แรกมากับหนี้ระยะยาวกับทรัพย์สินที่สภาพคล่องต่ำ ตอนนี้ไม่ได้อยู่มาเกือบปีแล้วแต่ยังโดนดอกเบี้ยทุกเดือนจะขายก็ไม่ง่าย ถ้ายังเช่าอยู่ก็แค่ยกเลิกสัญญาหรือรอหมดสัญญา ถ้าซื้อให้คุ้มสำหรับผมเองคือต้องหาที่คิดว่าอยู่ประจำแน่ๆและนานๆ แต่ใครจะรู้อนาคตไกลขนาดนั้น
เงินเดือน 15,000 แค่ค่าครองชีพก็หมดแล้วครับ จากใจคนทำงานในเมือง❤❤❤
😢😢😢ในเมืองนี้ลำบากเลย
ผมเป็นคนหนึ่งที่คิดแบบนี้ หมดปัญหาเรื่องซ้อมบำรุง เพื่อนบ้าน สภาพอากาศ หรือการทำงานในที่ต่างๆก็สะดวกมาก ที่สำคัญไม่ต้องเป็นหนี้
ใครๆก็อยากได้บ้าน แต่คนส่วนใหญ่เงินเดือนหมื่นกว่าบาท บ้านราคาเริ่มต้น3.99ล้านบาท โหดมาก😢 ค่าครองชีพ ก็หมดแล้วเอาที่ไหนมาผ่อนบ้าน
ใช่ลย จนทุกคน แต่คนรวยเมืองไทย ติดอันดีบโลก
ผ่อนบ้านได้ชีวิตก็แทบไม่ได้ใช้เลยครับทำงานตลอด
กทม 3.99 ได้แค่คอนโดกับทาวเฮาส์
3.9 ล้านนี้บ้านอย่างง่้อยอะ
ราคาบ้านก็ตั้งโหดเกิน ตั้งอย่างกะว่าคนไทยมีเงินเหลือกินเหลือใช้กัน
ส่วนตัวซื้อคอนโดมา มีแต่เรื่องปวดหัว โดยเฉพาะค่าส่วนกลางที่ขึ้นรัวๆ แต่ค่าเช่าไม่ค่อยจะขึ้น เห็นแถวๆ ที่ผมอยู่มันก็ราคาเท่าเดิมตลอด ค่อนข้างคิดผิดที่ซื้อตอนเงินเดือนน้อยๆ ยังไม่ค่อยพร้อมแหะ รู้งี้รอมั่นคงกว่านี้หน่อย ค่อยซื้อ จะได้อยู่ที่ๆ มันดีกว่านี้
ใช่ค่ะ เราว่าเราก็พลาดที่ซื้อคอนโด แรกๆได้ค่าเช่าเยอะ หลังๆค่าเช่าลดลง ส่วนกลางจ่ายแพงเท่าเดิม ซึ่งไม่คุ้ม ภาระกู้30ปี ดอกเบี้ยกินหมดค่ะ
@@ployc.1741 ค่าส่วนกลางเรารวมไปในค่าเช่าเลยหรอคับ
บ้านมีค่าใช้จ่ายสูงมาก การบูรณะ อุปกรณ์ ความเสียหายที่ต้องซ่อมแซมเรื่อยๆ การบริหารจัดการ ส่วนกลาง ค่าเก็บขยะ ไหนจะปัญหาเพื่อนบ้านแย่ๆ เวลาเปลี่ยนงานก็ย้ายตามไม่ได้ เวลาจะขายก็เก่า ไม่มีคนซื้อ เพราะโครงการใหม่ ทำเลดี ก็มีตลอด สุดท้าย คนรุ่นใหม่ไม่มีลูก เราไม่ต้องการส่งต่อมรดกอะไร เพราะลำพังตัวเอง หรือ ช่วยเหลือพ่อ แม่ ค่าใช้จ่ายก็บาน จนเอาตัวไม่รอดแล้ว ครับ
ไม่ชอบเป็นหนี้ มีเงินเอาไปลงทุนได้ผลตอบแทนมาจ่ายค่าเช่าบ้านคล่องตัวกว่า อยากย้ายไปไหนก็ได้ไม่ต้องกังวล
อีกส่วนนึงที่คนเช่าบ้าน เพราะไม่มีภาระครอบครัว ไม่ต้องส่งต่อมรดกให้ใครถ้าซื้อบ้านอยู่ไปก็ต้องเตรียมค่าซ่อมมากมาย แถมยุ่งยาก การเช่าเป็นทางออกที่ดี ที่เจ้าของบ้านทำหน้าที่ดูแลการซ่อม หาช่างและอุปกรณ์ต่างๆ ถ้าเจ้าของบ้านซ่อมไม่ดีไม่รับผิดชอบ หมดสัญญา ผู้เช่าก็ย้ายได้
...ความเสี่ยงคือบ้านที่แพงขึ้นเรื่อยๆ จะมีผลทำให้ค่าเช่าแพงขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน.....ความเสี่ยงที่ค่าเช่าแพงมากๆ จะทำให้เรานึกย้อนกลับไปว่าทำไมตอนนั้นเราไม่ซื้อเป็นของตัวเอง...
ชีวิตในแบบที่คุณว่ามา ห้ามจน ห้ามพลาด เลยนะครับหากป่วยหาเงินไม่ได้ขึ้นมา หรือ แก่ก่อนที่จะรวยปลายทางชีวิต คือนอนข้างถนนเท่านั้น
@@chavalitdeeudomwongsa8418 ผ่อนไม่ไหวก็นอนข้างถนนเหมือนกัน ต่างอะไรกันหรอ
@@seafc1085 ไม่จริง ทุกวันนี้ค่าเช่าเท่าเดิม แถมจะลดลงด้วย พอซื้อเป็นของตัวเอง ผ่อนไม่ไหว ก็นอนข้าวงถนนอยู่ดี ไม่รวมเรื่องบ้านทรุด ซ่อมบ้าน เงินทั้งนั้น
ผมซื้อนะ บ้านที่ ตจว ราคาไม่แพง ผ่อนเดือนละ 5-6k บาท ถ้าคุณทำงานในเมืองคุณเช่าจะดีที่สุด เก็บเงิน แล้วหาซื้อที่ทางที่ ตจว ไว้สร้างบ้านอยู่ตอนเกษียณ
คนรุ่นใหม่ที่ไหนจะมีแรงไปซื้อผมเป็นนักวิทย์อยู่เชียงใหม่ อายุงาน 4.5 ปี เงินเดือน 22,000ทำงานอยู่ในเมืองจะซื้อบ้านทีก็ต้องห่างจากเมือง 12 กิโลเพราะต้องราคาถูกๆราคาบ้านแบบพออยู่ได้มือสองก็2.3 ล้านผ่อน10k ถ้าไกลบ้านก็ต้องใช้รถยนต์อีก รถมือสองคันเล็กผ่อน5kไม่รวมน้ำมัน รวมเบ็ดเสร็จ ผ่อน 15k เหลือกิน 7k ไม่ใช่คนรุ่นใหม่ไม่อยากซื้อ เงินเดือนมันไม่เพิ่มให้ทำยังไง // สุดท้ายไปอยู่หอพักเล็กๆในเมืองค่า หอ 5k รถมอไซค์จบ ประหยัดไป 10k
20 ปีก่อนนักวิทย์ เงินเดือนstart 14k เชียงใหม่ ตอนนี้start 16k เชียงใหม่ งงอะไรของมัน
รายได้ไม่ขยับตามต่าใช้จ่าย😅😅เช่ายังพอเหลือส่วนต่างมาประทังชีวิตได้
เงินเดือนของคุณ สำหรับผมถือว่าน้อยมากเลยนะครับ ถ้าเทียบกับอาชีพ
เมื่อ20ปีที่แล้วชื้อบ้านเดี่ยวในกท.หลังนึง2.7ล้านตอนนี้แถวบ้านขายกันเริ่มที่10ล้านเงินมันเล็กลงซึ่งน่ากลัวมากๆว่าถ้าหารายได้ต่ำกว่า50,000จะอยู่ได้อย่างไรถ้าพ่อแม่ไม่มีบ้านที่อยู่อาศัยค่ะ
@@whatthecat3855 โคตรน้อยมากครับ
ดีค่ะ สอนลูกหลาน อย่ายึดติดกับสมบัติสิ่งของ ร่างกายเราเองก็เช่ามาเหมือนกัน
เศรษฐกิจไม่มั่งคั่ง การงานไม่มั่นคง บริษัทปิดกิจการ ผู้คนเปลี่ยนงานบ่อย เลยไม่มีใครกล้าเสี่ยงเป็นหนี้ผูกพันธ์ระยะยาว รัฐบริหารประเทศแบบเจ้าพ่อเงินกู้ ดูแล้วเป็นหนี้ระยะยาว ขาดความเชื่อมั่นที่จะได้บ้านเป็นของตัวเอง
อยากได้บ้านมากกว่า แต่ทำไงได้ตัวเลือกที่มีขนาดของรัฐทำยังมีแค่ให้เช่าแค่นั้น รวมหัวกันกับนายทุนเอาแต่กำไรใครมันจะไปซื้อได้ แค่นั้นยังไม่พอยังมรพวกต่างชาติมาเก็งกำไรได้อีก
ต้องรอฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์แตกเหมือนจีนก่อนครับ
ซื้อได้ครับ แต่อย่าซื้อเพราะแค่อยากได้... แต่ซื้อบ้านแบบไหนที่ต่อยอดทำธุรกิจได้ ไม่เป็นภาระ ... ผมยกตัวอย่างที่ผมใช้คือ ซื้ออาคารพาณิชย์ในเมือง อยู่อาศัยชั้นบน ชั้นล่างทำ food delivery ... ทำให้มีรายรับมาช่วยผ่อน ไม่ต้องควักเงินจากกระเป๋าหลักไปใช้ทั้ง 100%
ແມ່ນຄັບ
เราอายุ29 ก็คิดแบบนี้ค่ะ จองคอนโดไปสุดท้ายไม่เอาดีกว่า 😂 รู้สึกว่าไม่อยากซื้อเพราะเป็นภาระระยะยาว ถ้าอยู่นานแล้วเบื่อก็แค่ย้ายได้อยู่ที่ใหม่กว่าเทคโนโลยีดีกว่า ไม่ต้องมากลุ้มใจเรื่องซ่อมบำรุง รถก็เหมือนกันเราคิดแล้วว่าไม่ค่อยได้ใช้ค่ะนั่ง grab เอาคุ้มกว่าค่าผ่อนกับค่าบำรุงเยอะเลย ถ้าจะซื้อขอซื้อที่เปล่าแบบลงทุนดีกว่าค่ะ เกษียณค่อยว่ากัน 😂
ที่ดิน
เก็บเงินเหมือนผ่อนรถก็ซื้อได้แล้วครับ แค่ 5ปี แต่ถ้าผ่อนบ้านตรงๆ 30 เอาเวลาไหนใช้ชีวิต
ความคิดนี้ ยกนิ้วจากใจคน40
++ 1 ที่ดิน สำคัญสุด ตะอยู่บ้านกระต๊อบ บ้านเล็กใหญ่ไม่สำคัญแล้วยุคนี้ สำคัญว่า เราจะเอาชนะเงินเฟ้อ บริหารจัดการชีวิตให้สมดุล และมีชีวิตหลังเกษียณที่ไม่ทุกข์มาก
มีพวกนึ่งมีบ้านแบบง่ายๆโดยรุกที่สาธารณะในคลองแล้วก็ได้สิทธิตามโครงการบ้านมั่นคงหาเงินกู้สร้างบ้านให้เสร็จแถมอยู่ติดรถไฟฟ้าไปมาสะดวก
ยุคนี้ซื้อยากจริงๆ แพงมากๆ รายได้ก็น้อยถ้าพ่อแม่ไม่ทิ้งบ้านไว้ให้เป็นมรดกก่อนตาย ป่านนี้ผมนอนข้างถนนไปแล้ว
สำหรับตัวเรานะบ้านสำคัญก็จริง เเต่ค่อยเก็บเงินซื้อสดค่ะ ตอนนี้เช่าไปก่อน ไม่รีบ เอาเงินเเต่ละเดือนไปลงทุนทำอะไรสักอย่างเเล้วค่อยกลับมาซื้อบ้านสด ไม่รีบ ไม่อยากมีหนี้สิน ดอกเบี้ยเเพง เงินเดือนออกหักไปลงทุนให้เกิดรายได้ การเงินคือเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งในชีวิต จัดการดีๆ
ความคิดคุณดีมากค่ะ แต่ อีกปัจจัยหนึ่ง อย่าลืมว่า การลงทุนคือความเสี่ยง
@@nalikasaai5108 ก็ต้องศึกษาก่อนการลงทุนจากหนังสือ ตำรา หรือผู้เชี่ยวชาญเสมอค่ะ ทุกอย่างมีความเสี่ยงเสมอค่ะ เเต่ที่เสี่ยงที่สุดคือการลงทุนในสิ่งที่เราไม่รู้ค่ะ อันนี้เสี่ยงสุดค่ะ
ตอนเราอายุ 27 ปี เราผ่อนที่ดินจัดสรร 60 ตารางวา เดือนละ 2,500 บาท แต่เราผ่อนมากกว่านั้นเลยใช้เวลาแค่ 8 ปี กะว่ามีครอบครัวเมื่อไหร่จะเอาโฉนดเข้าธนาคารกู้เงินออกมาสร้างบ้านแต่ตอนนี้ขายไปแล้ว 600,000 บาท
เช่าดีกว่าซื้อ เพราะบางทีงานก็ต้องย้ายไปตามกาลเวลา ถ้าตกงานขึ้นมาโดนยึดแถมโดนฟ้องร้อง เงินที่ผ่อนมาหายไปหมดแถมได้คดีความ บางทีการเช่าอยู่ก็ดีกว่าการเสียดอกเบี้ยที่เยอะและต้องเผื่อการตกงานในอนาคตที่เราไม่รู้เลยว่านายจ้างจะเลิกจ้างหรือเลิกกิจการเมื่อไหร่
100% อยากได้บ้านครับ แต่เขาเอื้อมไม่ถึง ไม่ใช่ไม่อยากได้ครับ ย้ำคือ เขาเอื้อมไม่ถึง
ถ้าคนต้องนอนหลับ ยังไง บ้านก็สำคัญ
เรื่องเงินก็ส่วนหนึ่ง ที่ต้องจ่ายค่าบ้าน + ดอกเบี้ย แต่เราโสด ไม่มีลูก เราไม่รู้ว่าซื้อไปพอตายแล้วก็เอาบ้านไปไม่ได้หรือไม่มีคนให้ส่งต่อ เลยไม่รู้จะซื้อไปทำไม เราเห็นเพื่อนแต่งงานตอน 40 ซื้อบ้าน ต้องเอาเงินเดือนไปผ่อนบ้านเกือบหมด ที่เคยซื้อของแพงๆดีๆก็ซื้อไม่ได้แล้ว แต่เขาตัดสินใจไม่มีลูก เราก็งงว่าซื้อทำไม ตายไปจะผ่อนหมดหรือเปล่าก็ไม่รู้ แถมยังไม่มีคนส่งต่อให้อีก บ้านที่ซื้อก็ชานเมืองถึงผ่อนไหว แล้วความเป็นอยู่ก็ใช่ว่าจะดีเพราะต้องเอาเงินไปผ่อนบ้านเกือบหมด ป่วยไม่ได้ 😂 แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ไม่อยากงัดข้อกัน
ไม่ใช่ไม่อยากซื้อ แต่ไม่มีปัญญาซื้อ อยากอยู่ในเมืองทำเลดีๆ แต่ต่างชาติมาซื้อราคาก็ถีบสูงขึ้น เพราะเค้ารวยกว่า ค่าเงินแพงกว่า ขนาดแค่คนรัฐแคลิฟอเนียแห่ย้ายไปเท็กซัสราคาบ้านยังขึ้นมาเท่าตัว คนเท็กซัสยังบ่นเลย ส่วนบริษัทอสังหาก็อยากทำขายให้ต่างชาติ อยากจะให้ขายคอนโดให้ต่างชาติได้100% ลามไปอยากให้ขายบ้านให้ต่างชาติได้อีก คนไทยมนุษย์เงินเดือนธรรมดาก็ต้องไปอยู่รอบนอกชานเมือง ส่วนบางกลุ่มก็อยู่แบบบุกรุกที่หลวงในเมือง เรียกร้องอยากมีบ้านบ้าง เห็นใจคนจนหน่อย แต่ขออยู่ที่เดิมกลางเมืองนะ ไม่ย้ายไปอยู่ที่อื่นหรอกเพราะอยู่กันมานานแล้ว ส่วนคนที่ทำตามระบบจบปริญญาตรีทั่วไปก็ก้มหน้าผ่อนบ้านชานเมือง จะให้ใกล้เมืองก็เป็นคอนโดเล็กเท่ารูหนูต่างชาติมาซื้อคอนโดปล่อยเช่า ขนเงินกลับประเทศภาษีไม่ต้องจ่าย คนไทยเจ้าของประเทศก็เช่าเค้าเอา วิธีแก้คือขึ้นภาษีที่ดินกับต่างชาติ แต่เดี๋ยวมันก็มาซื้อสัญชาติ อุ้มบุญซื้อพ่อ นอมินี สารพัดวิธี รัฐบาลก็ควรเอาจริงได้แล้ว ไม่ใช่ยิ่งออกฎหมายประเคนถวายเพียงแค่จะเอาใจบริษัทอสังหา ชูตัวเลขจีดีพี แต่รวยกระจุกจนกระจาย
โชคดีจัง รุ่นเรา อายุ 50 ซื้อบ้านได้ 2 หลัง ผ่อนหมดแล้ว สมัยก่อนดอกเบื้ยไม่แพง รายได้มากพอที่จะซื้อ
มองอีกมุม ผมว่ามันเป็นการวางแผนเกษียณ อสังหาราคามันขึ้นไวกว่าค่าครองชีพอีก ตอนเรายังอยู่ในวัยทำงานหาเงินได้ดีเราค่อยๆผ่อนไป 20-30 ปี ถึงวัยเกษียณก็ปลอดภาระพอดี พวกเช่าแล้วกะเก็บเงินจะไปซื้อตอนแก่ขนาดราคาตอนนี้ยังยากเลยอนาคตไม่ต้องพูดถึงว่าราคาเท่าไหร่
ต้องดูเป้าหมายชีวิตของแต่ละคนว่าต้องการอะไร ส่วนตัวก็มองว่าการมีบ้านยังไงก็เป็นต่อกว่าการเช่า เราเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ จะทำอะไรก็ได้ ทำธุรกิจ ต่อยอดอะไร ก็ทำได้ ของเราเอง แต่เช่าเขาข้อจำกัดเยอะและจากการผ่านโลกมาเกือบ 35 ขวบ เคยได้ยินคนอายุมากๆ หรือ รุ่นเดียวกันหลายคน ชอบพูดว่า “รู้งี้” บ่อยมาก เพราะช่วงที่มีแรง มีกำลัง ไม่เคยสร้างรากฐานอะไรไว้เลย และรากฐานแรกที่ควรมีคือ “บ้าน” ค่ะ
ผ่านมาจน 35 เหมือนกัน เห็นข่าวร้องไห้ออกสื่อขายบ้านหนีเพื่อนบ้านหมาเห่า ก็รู้เลยว่า รู้งี้เช่าดีกว่า
แต่ที่ในหัวเมืองทำเลดี มีปลูกกล้วยชิวๆถ้าอยู่แบบเช่าจริงๆ คือลูกต้องไม่ต้องเลี้ยงพ่อแม่นะ แบบฝรั่งจัดการชีวิตตัวเอง ขนาดรุ่นก่อนซื้อบ้านง่ายกว่า ปัญหาสังคมผู้สูงอายุยังปวดหัว ขนาดมีที่ดินยังไม่คิดถึงตอนแก่ สวัสดิ์การเดือน600
หัวเมืองก็ราคาพอ ๆ กับ กทม ละอย่างแถวสนามกีฬาหาดใหญ่ ก็ 5 ล้านละ ทำเลการค้าใช่ว่าจะดี อยู่อาศัยก็แคบ (เป็นอาคารพาณิชย์) ถ้าอยากซื้อกำเงินไปซื้อที่ กทม หรือพัทยาดีกว่า ถ้าไม่ได้อยากอยู่ที่ไหนเป็นพิเศษ
ราคาที่อยู่อาศัยแถมดอกเบี้ยแพงมาก แล้วรายได้ก็ไม่เคยพอกับค่าใช้จ่ายจะเอาเงินที่ไปซื้อคะ แล้วรัฐบาลไม่เคยมาช่วยเหลือประชาชนเลยในเรื่องที่อยู่อาศัย
อสังหาราคาสุงเกินไม่สัมพันธ์กับรายได้ ซัพพลายคอนโดล้นตลาดเยอะมาก ตัดค่าเช่ากันเละ ผู้เช่ามีสิทธิเลือก
มีบ้านแล้ว พอบ้านอายุ 20+ปี เดี๋ยวเจอค่าซ่อมค่าปรับปรุงแล้วก็ตีนก่ายหน้าผากเหมือนกัน
ผมไม่ใช่คนรุ่นใหม่ วัยไม้ใกล้ฝั่ง ตัวคนเดียว ยังคิดจะขายบ้านที่อยู่ปัจจุบัน. เก่าทรุดโทรมเต็มที่ (คือขายที่นั่นแหละ ตัวบ้านคนซื้อคงทุบทิ้ง)ไม่อยากรีโนเวทหรือซ่อมมันแล้ว แลัวไปเช่าบ้านอยู่
ปัญหาด้านสินเชื่อเป็นปัญหาหลักเลย เพราะการจะกู้ซื้อบ้านต้องปิดสินเชื่อทั้งหมดก่อน และดอกเบี้ยก็เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้คนจะกู้ต้องคิดหนัก เพราะ rate มันมากกว่า 3% จ่ายแค่ดอกก็จุกอยู่เหมือนกัน
ยุคใหม่เปลี่ยนแปลงเร็ว การย้ายงาน ย้ายประเทศจะเป็นเรื่องปกติ ภาษีที่ดิน บ้านจะแพงขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นภาระ บ้านที่ไม่มีคนอยู่ตอนนี้เยอะมาก คนรุ่นใหม่เข้าใจว่าชีวิตไม่แน่นอน
ใช่มองง่ายๆ รุ่นพี่ที่ทำงานที่อายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นในสมัยเขาเงินเดือนต่อเดือนสามารถซื้อทองได้ 1 บาท ในขณะที่เงินเดือนเรา 3 เดือนถึงจะสามารถซื้อทองได้ ปัญหาหลักๆคือค่าครองชีพสูงมากกว่ารายรับ
ถ้าประหยัด อดออม ทำได้แน่ครับ
คนรุ่นใหม่ที่มีเงินเค้าก็ซื้อกันค่ะ ซื้ออยู่เอง ซื้อให้คนเช่า ถ้าเปลี่ยนงานก็ให้คนเช่า บางคนไม่ซื้อเพราะที่บ้านอาจมีบ้านให้แล้วหรือซื้อคอนโดให้อยู่ตั้งแต่สมัยเรียน แต่คนที่ไม่ซื้ออย่างดิฉันในสมัยก่อนก็เพราะยังไม่มีเงินดาวน์หรือกลัวผ่อนไม่พอ การบอกว่าซื้อแล้วเป็นหนี้นานและจ่ายดอกเยอะ แต่อย่าลืมว่าพอจ่ายหมดเราได้บ้าน ถ้าเช่าอยู่ 20-30 ปี ก็เสียค่าเช่า และอย่าลืมว่าค่าน้ำค่าไฟของอพาร์ทเม้นท์แพงกว่าที่เราจ่ายตรงกับการไฟฟ้าการปะปาโดยตรง (คนคงไม่เช่าบ้านในเมืองใหญ่ เพราะยิ่งแพงและหาไม่ได้) จากประสบการณ์ส่วนตัว คนน่าอยากจะซื้อบ้าน/คอนโดนะคะ ยิ่งเด็กรุ่นใหมา่ชอบแต่งบ้าน แล้วเวลาเป็นบ้านเราเอง ความรู้สึกที่อยู่ต่างจากตอนเช่าจริง อยากจะเจาะผนังติดรูป อยากปรับปรุงห้องอย่างไรก็ได้ ....แต่มันไม่มีเงินน่ะค่ะ เลยไม่รู้จะซื้อได้อย่างไร ดิฉันเลยต้องเช่าอยู่ก่อน หลายคนบอกว่าซื้อบ้านเป็นภาระระยะยาว เช่าอยู่ก็ภาระยาวเช่นกัน ถ้าไม่มีบ้านแล้วเราอายุถึง 70 ก็มีภาระจ่ายถึง 70 เช่นกัน ถ้าไม่จ่ายก็ต้องออกเหมือนกันค่ะ
มีคอนโดปล่อยให้เช่า 3ห้อง ได้เดือนละ 2-3 หมื่น คนเช่าก็เป็นพวก first jobber กับ นศ. กินค่าเช่าสบายๆเลย
คนไทยไม่จน
สองสามกมื่นจากค่าเช่าก็ต้องเอาไปเป็นค่าป่อนคอนโดค่ะคงไม่มีใครเอาเงินสดจากไหนไปซื้อสดถึงสองสามห้องหรอกถ้าไม่ใช่เศรษฐีๆก็ยังชอบผ่อนเเล้วเอาเงินสดที่มีไปลงทุนค่ะรายได้จากบ้านเช่าคอนโดให้เช่าจึงตกเป็นค่าผ่อนส่งธนาคารหมดที่ได้จริงคือสามสิบปีจะได้คอนโดมาเป็นของเราฟรีหมดภาระส่งค่าเช่าจึงมาเข้ากระเป๋าใหห้เราใช้ตอนการผ่อนสิ้นสุดลงค่ะและมีค่ารีโนเวททุกสิบปีด้วยหรือทุกครั้งที่คนเช่าย้ายออกแถมหาเงินมาซ่อมไม่พอนะคะยังต้องหาเงินประกันสองหรือสามเดือนมาคืนคนเช่าอีกเดือดร้อนกระเป๋าเราด้วยเรื่องนี้ไม่มีคนพูดกัน
สงสารลูกหลานของคนรุ่นใหม่จัง
ผ่อนบ้าน 9,100 ต้น 2,500 ดอก 6,600 รู้สึกท้อแท้ อยากขายบ้านไปเช่าอยู่ เอา 6,600 ไปเช่า เอา 2,500 ไปเป็นเงินเก็บ ยังพอได้รู้สึกว่า มันพอสมเหตุสมผล / เห็นดอกเบี้ยแล้วเหนื่อยจริงๆค่ะ😢😢 ร้องไห้หนักมาก
เวลาแก่ตัวไป ก้อไม่มี บ้านนะคะ แถมทำงานไม่ไหว จะเอารายได้ทีไหนไปเช่า
@user-go3vo9xถ้f1l
@@สุภาวดีวิภาดาไพรศาลถ้าผ่อนไม่ไหว และไม่หมด ก็ ไม่มีบ้านเหมือนกัน..แถมจะตายก่อน ผ่อนบ้านหมดรึป่าว...
ะ้าผ่อนบ้านด้วยมีลูกด้วย ค่าเทอมลูกอีก
ถ้าไม่มีที่อยู่เป็นของตัวเอง จะเป็นสัญญาณอันตรายในอนาคต
จริงๆก็อยากซื้อค่ะแต่ค่าครองชีพกับรานได้สู้ไม่ไหว ไม่เหมือนยุค boomer เปนเจ้าของอสังหากันได้ไม่ยาก เด็กรุ่นใหม่ลำบากมากค่ะ
ใครบ้างไม่อยากเป็นเจ้าของ ใครบ้างอยากบอกคนอื่นว่าชอบเช่ามากกว่า นอกจากหลอกตัวเองอยู่ ยอมรับเถอะว่ามันเป็นเพราะเศรษฐกิจและค่าครองชีพมันไม่ไหว
อยากซื้อแต่ไม่มีเงินครับ😂😂😂
เด็กรุ่นใหม่ต้องความสะดวกสบาย ถ้าเป็นเด็กมาจาดต่างจังหวัด ที่มีมรดกที่พ่อแม่มอบให้ บั้นปลายขีวิตกลับไปอยู่ต่างจังหวัดเพราะงานสามารถทำออนไลนได้ จะเข้าบริษัทที่กรุงเทพแต่เดือนละครั้งดังนั้นจึงไม่คิดว่าเช่าดีกว่า
ผมเคยอ่านประวัติเศรษฐีหุ้นท่านหนึ่ง เขาบอกว่า ผมมีบ้านอยู่ต่างจังหวัดแต่เวลาอยู่กรุงเทพผมนอนโรงแรม นอนมาแล้ว 10กว่าปี สาเหตุเพราะรับส่งลูกไปโรงเรียนสะดวกดี เลือกเอาโรงแรมที่ใกล้โรงเรียนที่สุดค่าโรงแรมเฉลี่ยวันละ 2พันบาท รวมอาหารเช้า 1ปีก็ 730,000 บาท 10ปี ก็ 7ล้านกลับกันถ้าซื้อบ้านใกล้ๆโรงเรียนคงราคาแพง ไหนจะค่าบำรุงรักษาอีก แต่ถ้าเป็นโรงแรม ถ้าเราเบื่อๆก็ย้ายได้เลย
หืม 7ล้าน
ใครเรอะครับ
คิดไม่ถึงเลยนะครับเนี่ย ถ้าเป็นผมรวยขนาดนั้นคงซื้อบ้านไว้จริงๆ ตีไว้สัก 5ล้าน พอผ่านไป 10ปี ลูกเรียนจบ ก็ขายเท่าทุน 5 ล้านบาทพอได้เงินกลับมา ไม่คิดเอากำไรจากค่าที่ดินที่เพิ่มขึ้น 🤭
@@MrLemonchang ผมก็สงสัยอยู่ว่าเค้ารวยก่อนหรือหลัง เช่าโรงแรมนอน
ผมคิดแบบเขาเลย
ปัจจุบันเช่าบ้านถูกกว่าผ่อนบ้าน และกฎหมายคุ้มครองผู้เช่าสูง เคยปล่อยบ้านให้เช่าเดือนละ7 พัน แต่ต้องส่งค่าผ่อนบ้านหมื่นสอง ผ่อนบ้านต้องผ่อนทุกเดือน แต่ปล่อยเช่าได้ไม่ทุกเดือน การเช่าจึงคุ้มกว่า
เหมือนใช่ชีวิตไปวันๆจริงๆ ถ้าชีวิตไม่มีต้นทุน เหนื่อยมาก เงินเดือนไม่สมเหตุสมผล ทำงานทั้งเดือนซื้อของได้ไม่กี่อย่าง
คอนโดเราอยู่สิบปีเริ่มมีปัญหาเยอะมาก เดียวน้ำไม่ไหล ไฟดับ ลิฟมีปัญหา นิติเปลี่ยนบ่อย เอาอะไรมาผ่อนสามสิบปี เช่ายังได้ย้ายไปคอนโดใหม่ๆ
พ่อผมบอกว่า เมื่อ 50ปี ที่แล้ว ที่ดินแถวรัตนาธิเบศร์วาละ 100 บาท เอาว่าเทียบเงินเฟ้อมาถึงตอนนี้ก็ประมาณ 10,000 แล้วไปดูราคาทุกวันนี้ซิ รัตนาธิเบศร์วาละเท่าไหร่ (เอาที่ซื้อขายกันจริงๆนะครับ) ก็เลยไม่แปลกที่แม้แต่คน 40กว่าอย่างผมคงได้แค่มองเท่านั้น
ไม่ซื้อเหมือนกันค่ะ ถ้าสร้างเราสร้างที่ ตจว.เอาไว้รอเกษียณ ไปอยู่กับธรรมชาติสบายๆชิลๆดีกว่าค่ะ รถก็ไม่ซื้อค่ะ เช่าคุ้มกว่า ไม่เสียค่าซ่อมแซม มีมอไซค์ไว้ขับสักคันก็พอ ถามว่ากู้ได้มั้ย กู้ได้ผ่านด้วย หลักทรัพย์พร้อม แต่ไม่ขอเสี่ยงกับเศรษฐกิจและสภาพการเมืองแบบนี้ค่ะ ใช้ชีวิตให้มีความสุขดีกว่า เวลาไปเที่ยวเราก็ไม่ค่อยชอบนั่งรถนานๆค่ะนั่งเครื่องแป้บเดียวถึง ไม่งั้นก็รถไฟ รถทัวร์ ได้นั่งชมวิวตามธรรมชาติด้วยค่ะ
อายุ 29 จบ ป.ตรี ทำงาน เเละเที่ยวบางวัน ใช่ชีวิตอยู่ไปเเบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่มีครอบครัว ค่ะ ไม่มีความคาดหวังอะไรกับชีวิตเเล้ว ไม่อยากได้อะไรเลย😅
ลำบากใจแทนคนรุ่นใหม่ ทั่วโลกเอาแต่กดค่าเงินตัวเองเพื่อความสามารถในการแข่งขัน ดูเผินๆ เหมือนจะเพื่อผลประโยชน์ของคนในชาติ แต่แท้จริงแล้วได้หนักๆ กับเจ้าของธุรกิจ
ให้ความรู้สึกเหมือนอยากย้ายถิ่น สมมุติซื้อบ้านเพราะทำงานใน กทม แต่มีความต้องการบั่นปลายชีวิตไปใช้ชีวิตที่ต่างจังหวัด-ทำงานแถวไหนเช่าอยู่แถวนั้น ไม่มีอะไรการัณตีว่าจะทำงานที่นั้นแถวนั้นตลอดไป- แล้วเกษียรค่อยไปกลับถิ่นเกิด ไม่ก็หาซื้อจังหวัดน่าอยู่แบบสงบๆส่วนใครที่มีที่อยู่ให้เช่า ก็ให้เค้ามีธุรกิจกันไปเถอะ เพราะถ้าบ้านมีเหตุให้ต้องซ่อมเค้าก็ต้องมาซ่อมหลังเราออกไปทุกคนจะเป็นนายทุนเองไม่ได้ circle มันไม่ครบ
ราคาอสังหาแพงขึ้น + เงินเดือนขึ้นตามไม่ทัน + ค่านิยมยุคใหม่ผมมองว่าเช่าบ้านไปสักอายุ 40กลางๆ ระหว่างนั้นก็เก็บเงินสร้างบ้าน อายุ 40ปลายๆ -50ต้นๆ มีบ้าน อายุ 60 เกษียณ น่าจะเหมาะที่สุด
ถ้ามีคนคิดแบบนี้เยอะขึ้น อีกหน่อยคนซื้อบ้าน ที่มีบ้านเกิน 1 หลัง อาจไม่ต้องผ่อนเอง... ซื้อให้คนกลุ่มนี้เช่า...เพื่อเอามาผ่อน ....ละเอาเงินไปต่อยอดอย่างอื่นได้อีก...
บางทำเลไม่ค่อยคุ้ม ได้ปีละ 30000 ซ่อมปีละ 1-2 หมื่น ไม่รวมค่าเดินทาง
ปล่อยสบายเลยคับ ผมปล่อยให้ นศ กับพวก first jobber อยู่มา 3 ปี และ กินสบายๆทุกเดือน อยากให้คิดแบบนี้เยอะๆคับ นักลงทุนสบาย
รวยๆจ้า..สาธุ👍❤🤟
บ้านที่นนทบุรี ทาวเฮ้าส์มือสองผมซื้อมา6.5แสนเอง 18 ตรว ชั้นเดียว โทรมๆต่อเติมไม่ถึงแสน ในกรมบังคับคดีมีเยอะครับ
ดีจังค่ะ อยู่เย็นเป็นสุข บ้านดี เพื่อนบ้านดีนะคะ
เช่าอยู่ใกล้ๆที่ทำงานก็พอ เก็บเงินไว้ซักอายุ 40 ค่อยเอาเงินกลับไปปลูกบ้านที่ต่างจังหวัดกทม.แพงมาก ค่าผ่อนแพง ปล่อยเช่าแพงก็ไม่มีใครเช่า แถมกังวลไม่รู้จะได้คนเช่าแบบไหน
ผู้ดำเนินรายการ สวย และไอเดียในการนำเสนอเนื้อหาได้ตรงประเด็น ครอบคลุม
ส่วนนึงเพราะคนรุ่นใหม่มีบ้านที่เป็นของพ่อและแม่ไว้แล้ว ที่เน้นเช่าเพราะแค่อยู่อาศัยตอนเข้ามาทำงานในเมืองใหญ่เฉยๆ อีกอย่างส่วนมากภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด
คนที่ยังต้องเช่าไม่มีบ้านอยู่ ถ้าคิดจะทำงานอยู่ในเมือง กทม อย่างน้อยซื้อห้องคอนโดเก่า มีตั้งแต่ 3 แสนถึง 1 ล้าน อย่างน้อย อายุ 60 ก็ยังไม่ต้องไปเช่าเขาอยู่ ผ่อนเหลด 2000-6000 เอง ผมเห็นมาเยอะแล้วรุ่นพี่ เช่าเดือนละ 6000 มา 20 ปี สุดท้ายทุกวันนี้บอกทำไมตอนนั้นคิดไม่ได้ อย่าไปสนใจว่าใครจะมองเราอยู่ที่ถูกหรือแพง ดูดีตามค่านิยมไหม สุดท้ายทุกคนต้องรับผิดชอบครอบครัวและชีวิตตัวเอง เมื่อก่อนอยู่เอื้ออาทรผ่อนเดือนชนเดือน พอวันนึงได้โอกาสซื้อบ้าน 2-3 ล้าน ขายเอื้ออาทรได้ส่วนต่างมา 3 แสน ที่เคยผ่อนธนาคารไปก็ได้กลับมา
เอาแค่เงินเดือนกับค่าครองชีพประจำวัน อยู่รอดได้ก็เก่งแล้ว
ดีแล้วน้อง ๆ ทั้งหลาย คิดแบบนั้นดีแล้ว เช่า/ผ่อนกันต่อไป อิ ๆ
ไม่ใช่ไม่ซื้อ แต่น่าจะยังไม่สามารถซื้อได้ เพราะยังไงๆการมีบ้านเป็นของตัวเองก็ย่อมดีกว่า แต่ปัจจุบันการซื้ออสังหาฯต้องใช้เงินเยอะ
บ้านถือเป็นทรัพย์สิน แต่กว่ามันจะเป็นของเราจริงๆคำว่าหนี้สินก็กินไปค่อนชีวิตละ จริงๆแล้วบ้านคือหนี้สินที่ทำให้เราขยับไปไหนไม่ได้ปล.สำหรับมนุษย์เงินเดือน
ถ้าผ่อนไม่ไหว. โดนยึด. สรุปแล้วซื้อเงินสดดีกว่า. ไม่มีก็ไม่ต้องซื้อ. ดูความสามารถของตัวเอง
มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองยังไงก็ดีกว่าอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเล็ก จะใหญ่ ตามกำลังเรา ตอนช่วงอายุที่ยังทำงานหาเงินได้ มันก็ดี เช่าเขาอยู่ ก็สะดวกดี แต่พอถึงวันหางินไม่ได้ จะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายค่าเช่าบ้าน ถึงตอนนั้นคิดจะซื้อ ราคาก็ทะยานไปไกลเกินจะชื้อ
เป็นข้อคิดที่ดีมากยิ่งอายุมากขึ้นต้องมีที่อยู่ของตัวเองพื้นที่พออยู่ได้ก็ยังดีกว่าเช่า
มองกลับกัน แล้วถ้าวันนึงที่หาเงินไม่ได้ แต่ยังมีภาระผ่อนบ้านอยู่ มันจะต่างจากเช่าไหมคะ เพราะยังไง มันก็ยังไม่ใช่ของเรา
ผมยังถือว่าบ้านยังเป็นทรัพย์สินมากกว่าหนี้ กำเงินไว้ในมือมีแต่ค่าลดลงๆ ถ้าคุณผ่านชีวิตมาพอสมควรจะเห็นว่าเงิน 20 บาทเมื่อก่อน มีค่าไม่เท่ากับทุกวันนี้ เมื่อก่อนซื้อข้าวจานนึงได้สบาย สมัยนี้เหรอ 40-70 บาท ถึงจะซื้อข้าวได้ ผิดกับบ้านหรือที่ดิน ถือไว้มีแต่ค่าเพิ่มขึ้น ยิ่งอยู่ทำเลดีๆ หรือถ้าว่างก็ปล่อยเช่าคนยุคนี้เอาเงินมาใช้เป็นเสือนอนกินสบายไป แล้วการเช่าไปเรื่อยๆมันไม่ได้หรอกถ้าไม่มีมรดกจากรุ่นก่อนๆ งานมันก็มีวันหมดลง สังขารมีเสื่อมถอย ถ้าไม่มีเงินมาเช่าที่อยู่ในอนาคตจะไปอยู่ไหนกัน ให้ดูคนที่ไม่มีที่ดินทำกินปัจจุบันก็ได้นี่ก็ลำบากกันขนาดไหนแล้ว 😅
อนาคตถ้าเศรษฐกิจกิจแบยนี้มันก็ดีหมดสำหรับคนมีเงินต่อเดือนเยอะ แต่ สภาวะสำหรับคนเงินน้อยตอนนี้ก็ไม่ใช่ เพราะรายได้เท่าเดิม ทุกอย่างแพง คนมีเงินมันคือผลดีอยู่แล้ว แต่ไม่ใช้สำหรับคนมีเงินไม่พอต่อค่าครองชีพ
ปัญหาคือบ้านทำเลดีๆราคามันเข้าถึงไม่ได้แล้วครับสำหรับคนส่วนใหญ่ ถ้าจะไปเป็นหนี้ระยะยาวกับบ้านชานเมือง ผ่อนหมดก็เกือบเกษียณแล้ว บ้านก็เก่าพอดี เงินเก็บก็ลงกับบ้านไปหมดแล้ว คราวนี้ต่อให้ Value ของบ้านมันสูงขึ้น (สูงขึ้นที่ไม่ได้แปลว่าขายง่าย) ก็ใช้ชีวิตยากอยู่ดี สุดท้ายอนาคตของวัยชราก็คือ Senior Living แล้ว Senior Living ก็ต้องเช่าอยู่ดีเพราะโมเดลนี้ไม่มีการขายขาด Lease Only การสะสมเงินหรือสะสมในสินทรัพย์อื่นที่สภาพคล่องสูงกว่าบ้านและที่ดินจึงอาจจะตอบโจทย์อนาคตมากกว่าอันนี้ไม่นับกรณีบางครอบครัวที่ตั้งใจจะฝากชีวิตกับลูกหลานนะครับ ส่วนตัวไม่มีมรดกจากครอบครัว แล้วก็ไม่น่าจะมีลูกหลานต่อ ผมเลยสะสมความมั่งคั่งในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องแปลงที่เป็นเงินได้ง่ายกว่าบ้านและที่ดิน ตอบโจทย์มากกว่า
เพิ่มเติม คุณแม่ผมก็มีที่ดินมรดกจากคุณยาย แต่ก็มีไปอย่างนั้นแหละครับ แกเกษียณแล้วก็ไม่เคยกลับไปอยู่ ยังอยู่บ้านเช่าเดิมที่อยู่มา 50 ปี คนทำงานบริษัทมาทั้งชีวิตแถมเข้าวัยชรา กลับไปปลูกผักปลูกหญ้าไม่ไหวแล้วครับ สิ่งที่ตอบโจทย์จริงๆคือ ความสะดวก การเข้าถึงทางการแพทย์ และการมีสังคม การเช่ามันไม่ได้แย่เลยตราบใดที่เราวางแผนการเงินสำหรับเกษียณมาดี ทุกอย่างจบแฮปปี้มากครับ
ซื้อบ้าน ปลูกบ้านที่ต่างจังหวัดสิคะ ในกทม.ใช้วิธีเช่าเอา เช่าไว้อยู่อาศัย เช่าใกล้ๆที่ทำงาน ไม่ต้องเสียค่ารถ ค่าเดินทางแต่ถ้าคนพอมีกำลัง งานมั่นคง การเลือกใช้ชีวิตแบบเจ้าของคอมเม้นท์มันก็ดีแต่หลังจากยุคโควิดมา ยังไงก็ขอมีเงินสดสำรอง ไม่ผ่อนอะไรที่หนักตึงมือเกินไป
คนรอบข้างพูดกรอกหูกดดันเรามากว่าให้ซื้อบ้านหรือคอนโด แต่เราขี้เบื่อมากกก อยู่ที่เดิมนานๆไม่ได้ ไม่กล้าซื้อเลย
ถ้าเราปล่อยให้ต่างชาติมาซื้อมาขายตามความพอใจ วันนึงมันก็คงจะแพงจนคนทั่วไปซื้อไม่ได้ บ. มหาชนชอบใจแต่คนไทยเก๊กซิมค่ะ
นโยบายที่ดี ขอแค่เรืองปัจจัย4 โครงการบ้านหลังแรกราคาถูกควรออกมา และต้องมีมาตรการควบคุมการโกงกินให้มากกว่าเดิม
บ้านผ่อนหนักมาก เราผ่อนเดือนละ2หมื่นแทบอ๊วกปีที่3นี่แทบท้อ ตอนนี้เหลือหนี้ล้านห้า ปล่อยเช่ามีเงินเหลือแล้ว ชีวิตค่อยโล่งหน่อย เข็ตแล้วหนี้ก้อนใหญ่ เหนื่อยหลาย
ถ้าคิดว่าอยากมีบ้านก็จะได้ ไม่ต้องคิดว่ายังไง มันก็จะมีเอง เคยคิดไว้ ไม่เคยคิดว่าจะผ่อนยังไง แต่สุดท้ายก็ผ่อนได้หมดใน 3 ปี เอาจริงๆ สมัยเรามันก็แพงนั้นแหละ เอาจริงๆ คิดว่าจะได้ในหัว มันก็จะได้ในชีวิตจริง
หนูก็พึ่งซื้อบ้านไปค่ะ 2.1 ล้านบาท ระยะเวลาผ่อน 40 ปี แต่คงไม่ผ่อนนานขนาดนั้นค่ะ ดอกเบี้ยก็เอาเรื่องอยู่นะคะ 4.1% จะโปะให้หมดไวไวเลยค่ะ .
@@สุณีกรประสิทธิ์ มีเงินก็โปะไวไวค่ะ จ่ายเพิ่มจากที่ผ่อนปกติไปดีกว่าไม่เพิ่มเลย แต่ เอาที่ไหวไม่เดือดร้อน พอครบสามปีก็รีไฟแนนซ์ให้ดอกเบี้ยมันลดลง หรือไม่ก็เปลี่นธนาคารถ้าศักยภาพไปไหวนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ หนูก็มีสินทรัพย์เป็นของตัวเอง อนาคตอยากจะทำอะไร ก็มีต้นทุนเล็กๆ 😊
ตอนเราเริ่มทำงาน ก็คิดงี้ละ ซื้อรถทำไม ซื้อคอนโดทำไมแต่พอวัยมากขึ้น 30+ ก็ซื้อหาตามที่สมควรว่าชีวิตควรจะมี จะได้ทำงานสะดวกสบาย คอนโดค่าผ่อน ก็เอาเท่าที่ตนเองสบาย คือพอพอกับค่าเช่าห้องเลยถ้ามีเงินพอ ใครๆ ที่ต้องใช้ชีวิตในเมือง ใน กทม ก็อยากมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นส่วนชีวิต ตจว ชนบท ก็อีกแบบนึง
ผมว่าก็ไม่จริงขนาดนั้นนะ ใครจะอยากจ่ายค่าเช่าจนเกษียณละครับ ตัวผมเองซื้อบ้านก่อนรถอีก เพราะไม่งั้นชีวิตก็ไม่มีเป้าหมาย ไม่มีถ้วยรางวัลให้ชีวิตเลย
ถ้าทำเลไม่ดีก็ไม่คุ้มที่จะซื้อ บ้านนอกเขตเมืองเห็นติดป้ายขายกันเยอะมาก
ซื้อมาอยู่นะจ๊ะ
@@zeta2691 ติดเยอะแต่ราคาก็ยังแพงทั้งที่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ขนาดทาวน์เฮาส์ตอนแรกเห็นติดไว้1.2 ล้าน ผ่านไปปีเศษๆ2ล้านแล้ว
ปัจจุบันการขยายตัวของเศรษฐกิจเร็วมากครับมองจากพื้นที่ที่เราอยู่..ร้านค้าเพิ่มขึ้น..ตลาดเพิ่ม
เป้าหมายในชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกันนะครับ บางคนก็ไม่ใช่บ้านไม่ใช่รถ
โลกใหม่ = วิธีคิดใหม่ = คนรุ่นใหม่ ..สู้ฯ ครับ
ถ้าอายุ 40 ปี จะซื้อคอนโดเงินสดดี หรือว่า เช่าไปเรื่อยๆดีครับ(หากเอาเงินก้อนไปซื้อก็จะใช้เงินที่เหลือติดๆขัดๆหน่อย แต่หากเช่า ก็จะมีเงินเหลือใช้สบายๆไปอีกเป็นหลายๆปี)
เช่าบ้านในวัยทำงานๆ เก็บเงินๆ หลังเกษียณก็ไปหาบ้านบ้านพักคนชราอยู่รอวันตุย ก็not badนะ น่าคิดๆ ถ้าคิดจะอยู่แบบโสดๆแบบไม่สร้างภาระ 😂😂😅😊
การสร้างความมั่นคง คือการซื้อทรัพย์สิน สมบัติเพื่อสร้าวอนาคต ? การ มีความคิดแค่เช่า ถือว่าไม่มีการวางแผนอนาคต เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับตัวเราเอง ?สัญญาเช่า แตกต่างจากสัญญาซื้อขายอย่างไร ? อสังหาริมทรัพย์ ตึก แตกต่างจากบ้านพร้อมที่ดิน เพราะ การคิดค่าเสื่อมราคา แตกต่างกัน ?
อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวนะจบจากมหาลัย ทำงานในเมือง ให้เช่า ถ้าไม่ได้อยู่ที่เดิมเกิน สิบปีจากนั้นเก็บเงิน ในรูปแบบหุ้น หรือ เงินฝาก (เพื่อทำ statement) แล้วให้ย้ายไปทำงานต่างประเทศ จากนั้นเก็บเงินมาซื้อบ้านที่ไทย ไว้อยู่ตอนแก่ 😅
อ่านคอมเม้น อยากจะแนะนำ เงินเดือน 20,000 ก็ซื้อได้ เริ่มจากเล็กๆก่อน คอนโด6-7แสนก็มี อยู่ในซอย มอเตอร์ไซรับจ้างก็ขึ้นไปซิ รถอย่าเพิ่งไปซื้อ ผ่อนหมดก็ขาย ขยับขยายต่อไป ค่าผ่อนก็พอๆกับค่าเช่า เช่าเมื่อไหร่ จะมีเป็นของตัวเอง มันไม่มีวันพร้อมหรอกถ้าไม่เริ่ม
ประเด็นที่น่าคิดคือ 1.หลังเกษียณเรายังต้องจ่ายค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นทุกปีไปเรื่อยๆขณะที่รายได้ประจำไม่มีเข้ามาแล้วเราจะทำอย่างไร 2.เราไม่มีบ้านเป็นของตัวเองแล้วเราเอาเงินไปออมในอะไรการออมนั้นทำให้คุณมีเงินมากขึ้นกว่าราคาบ้านจริงหรือ
แต่ถ้าผ่อนบ้านไม่หมดก็ไม่มีที่ซุกหัวนอนเช่นกัน แถมประวัติเสียเพราะติดคดีด้วย
ผ่อนไปดิ 30-40ปี มีปัญหากับเพื่อนบ้าน ย้ายหนีก็ไม่ได้ ตกงานงานขึ้นมาเมื่อไหร่ ได้รู้แน่😂😂
จะซื้อบ้านต้องมีเงินเดือนที่สูง ถ้าสมมุติเงินเดือน20000 ยังต้องคิดเลยเพราะเงินเดือนไม่ได้สูงเท่าไหร่ อย่างต่ำควรได้ 30000up ไม่มีภาระ ผ่อนหลายอย่าง ในหัวนี่ยังคิดเลยอยากมีคอนโดเป็นของตนเองเลยอยู่นอกกรุงเทพแถวปริมณฑล เพราะอยู่บ้านมันอึดอัด อยากมีพื้นที่ส่วนตัวบ้าง โตแล้วก็อยากแยกจากพ่อแม่ไปมีชีวิตส่วนตัวไปอยู่คนเดียวบ้าง ทำอะไรแทบไม่มีความส่วนตัว โดนจับตามองตลอด ถ้าได้เงินเดือนสูงๆก็ยอมหาคอนโดใกล้บ้านนอกกรุงเทพ เก็บเอาไว้เผื่ออยู่คนเดียว อยากมีความเป็นส่วนตัวส่วนเรื่องการเช่า - เข่าอพาร์ตเมนต์ดีกว่า เพราะราคาต่ำกว่าเช่าคอนโด ส่วนคอนโดถ้าจะอยู่ซื้อดีกว่า ถ้าได้งานที่ดีมั่นคงเงินเดือนพอที่จะกู้และผ่อนได้ ถ้าสมมุติ 20000 ยังคิดหนัก หรือพวกได้ 18000 ก็ควรหาแบบเช่าดีกว่า ถ้าเช่าคอนโดมันแพงกว่า แถวบ้านอย่างต่ำ 5500 -10000 ถ้าคอนโดมีเกรดดีหน่อยก็หมื่นอัปราคาสูง อันนี้ไม่ได้อยู่กรุงเทพค่าเช่าคอนโดราคานี้นะ แล้วอย่าลืมมีค่าน้ำไฟ และค่าอินเตอร์เน็ต ค่าโทรศัพท์ ค่ากินอยู่ ค่าเดินทางไปทำงาน ถ้ารถไม่มี เดินทางรถสาธารณะ ส่วนเรื่องผ่อนบัตรเครดิตก็ต้องจ่าย - ถ้าได้งานเงินเดือนสูง ยอมจ่ายโปะปิดยอดไปเลย ปิดบัตรไม่ใช้แล้ว แล้วค่อยมาคิดเรื่องคอนโด ผ่อนจ่ายเป็นเรื่องๆไปมันดีกว่า ผ่อนนั่นนี่หลายอย่างในเวลาเดียวกัน หนี้ท่วมหัวถ้าครอบครัวไหนมีพ่อแม่ที่มีฐานะเค้าซื้อสดไปเลย ไม่ผ่อนเป็นหนี้ระยะยาว อย่างญาติเราเค้าได้เงินจากการขายที่ดิน เค้าก็เอาเงินไปซื้อคอนโด ซื้อแบบจ่ายเงินสดไม่ผ่อน แต่จะมีใครที่มีเงินขนาดนั้นล้ะ การผ่อนคือทางที่ปลอดภัยสุด ถ้าเงินเดือนไม่เยอะ งานไม่ได้มั่นคงก็ไม่ควรซื้อ เช่าอพาร์ตเมนต์ดีกว่าราคาต่ำกว่าคอนโด
คำถามคือสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน แนวคิดการบริหารงานของรัฐบาลที่ห่วยแตกคนรุ่นใหม่จะได้มีอายุเกษียณอยู่ไหม??????????
เทรนฝรั่งนะครับ ที่ผมทำงาน ฝรั่งก็เช่าระยะยาวเหมือนมีกรรมสิทธิ์ ราคาซื้อกับเช่าต่างกันเยอะอาจจะมากว่าครึ่งต่อครึ่่ง
ขอบคุณครับ
บางทีค่าเช่า ก็แพงกว่าค่าผ่อนก็มี บ้านมือ2 ทำเลดีดีก็เป็นอีกทางเลือก ถ้าเบื่อก็ขายไปสิ ก็ยังได้เงินกำไร และที่ไม่กล้าซื้อ ก็น่าจะเกิดจากวินัยทางการเงินทีไม่ดีและความรู้ทางอสังหาที่ยังรู้กันน้อยมากกว่า
ไม่ใช่ไม่อยากมีบ้านเป็นของตัวเองใครก็อยากมีบ้านแยากมีรถ ตอนนี้แค่เลี้ยงตัวเองก็แทบจะไม่รอดแล้วครับจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อบ้านซื้อรถครับ
ชื้อ ได้ หรือ ไม่ ได้ ให้ฟังเยอะๆ ค่อยพิจารณา ซื้อแล้ว บอกเลยมีค่าบำรุงรักษาต่อปีเบอะมาก
"เจ้าของ"เป็นเพียงความรู้สึกแต่เพิ่มภาระและไม่อยากอยู่ทำงานในประเทศเผด็จการปรสิต!
ผุ้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจยิ้ม😊 มีคนเช่า=รายได้
เพราะรัฐบาลมันไม่ควบคุมราคาบ้านและที่ดิน คนจนจะเอาอะไรซื้อครับถามหน่อย
ซื้อคอนโดมือสองคุณภาพดีที่สถาบันต่างๆนำออกมาขายสิ ราคาเบาๆ หกแสนถึงเก้าแสนคุณภาพดีทำเลดีมีเยอะแยะ
การทำงานพนักงานบริษัทในไทยรายได้น้อยและไม่มีความมั่นคงในการทำงานเนื่องจากระบบทุนนิยม บริโภคนิยม ผมโชคดีหน่อยมีที่ดินของตัวเอง เก็บเงินสร้างบ้านเองราคาถูกกว่าซื้อหมู่บ้านจัดสรร
โรคโควิด เป็นบทเรียน ใครทำงานก็คิดแล้วว่ามั่นคง กู้ได้ผ่อนได้ จบเรียนมาเข้าทำงาน คิดแค่เฉพาะอยู่คนเดียวยังไม่เหลืออะไร ผ่อนๆไปครึ่งๆกลางๆ ส่งไม่ไว โดนฟ้องไปๆมาๆชีวิตบ้านปลายชีวิต ไม่เหลืออะไรเลย ตามจริงต้องคิดความเป็นจริง ถามโควิดจบแล้ว หนี้ที่ผ่อนส่งบ้านจำนวนกีราย อะไรๆก็สร้างโครงการบ้าน ผลประโยชน์ใครได้กันแน่ ตลาดหลักทรัพย์ก็ดี ผู้ถือก็ได้ปั่นผล เศรษฐกิจของประเทศก็ดีขึ้นราคา แต่คนมีเงินเดือนผ่อนไหวไหม คิดง่ายๆต้มยำกุ้ง จบแล้วคิดว่าคนที่รอดจากการถูกยึดบ้านมีเท่าไร โควิดจบ หนักกว่าต้มยำกุ้งอีก บริษัทปิดกิจการ ลดพนักงาน ค้าขายสะดุด แม้จะมองในแง่ลบแต่คิดให้รอบคอบดีกว่า
คนเก่งเงินเดือนเยอะ ก็เปลี่ยนงานบ่อย ที่ไหนให้สูงๆ สวัสดิการณ์ดี ก็เปลี่ยนงาน เปลี่ยนที่อยู่ ส่วนคนทำงานเงินเดือนต่ำก็ไม่มีเงินผ่อนครับ
อยากมีนะ ถึงจะวางแผนการเงิน กับมั่นใจว่า 5 ปีจากนี้ มีสำรองพอไหวสำหรับผ่อน แต่หลังจากนั้น ไม่มั่นใจตัวเองเลย ยิ่งเป็นคนตัวคนเดียว ยิ่งคิดหนัก แต่ถือว่าโชคดีมากว่ามีบ้าน มีที่ที่ ตจว แก่ก็แค่กลับบ้าน
อายุใกล้ 40 แล้ว อยากย้ายกลับไปทำงานที่สำนักงานฯ ภาค ใช้เงินเดือนราชการ 40,000-50,000 บาท/เดือน เพื่ออยู่บ้านตัวเองที่ตัวเองเป็นเจ้าของ ไม่วังวนระบบขนส่งเพราะสมัยนี้ซื้อสินค้าออนไลน์ส่งได้ทั่วไทย 7-11 แมคโครก็มี ห้างก็มี การศึกษาก็เรียนรู้ได้ทุกแห่ง สบายๆๆ
ส่วนใหญ่ก็อยากได้กันทั้งนั้นแหละ ยังไงบ้านก็คือพื้นฐานของปัจจัย4 ไม่ซื้อตอนมีกำลัง มีแรง แล้วจะไปซื้อตอนไหน จะรอ30+ 40+ ธนาคารก็ปล่อยกู้ยากแล้ว ท้ายที่สุดยามแก่ตัวไปเราก็ยังอยากอยู่บ้านที่เป็นหลักเป็นแหล่งอยู่ดี
อยากซื้อบ้านนะ...แต่กลัวผ่อนไม่ไหว...รอเก็บเงินดาวน์ สัก 30% ค่อยว่ากัน
ค่าเช่าที่นิยมในกลุ่มคนทำงานคือ 6000-8000 บาทต่อเดือน
การปลูกฝังให้คนจบใหม่มีบ้าน เป็นความมั่นคงของ ธนาคารที่กินดอกปล่อยกู้จนพุงกาง - ขอบคุณครับ
ชอบความเห็นนี้ คนรุ่นใหม่ฉลาด กว่าแต่ก่อน แต่ก็ต้องดูว่าไม่ใช่ทุกคน
ใช่ครับ ซื้อเงินสดดีกว่าหรือลง 😊เงินดาวน์เยอะ
กินดอก7%ต่อปี ตอนนี้ขยายไปถึง40ปีแล้วปีแล้ว ส่งเบาๆครับ
ความจริง
@@ttsiart6500 ส่งเบาๆ ดอกบานๆนะครับ 55555
ผมว่าปัญหาเรื่องเงินกู้นี่เป็นปัญหาส่วนนึง แต่ปัญหาจริงๆ คือบ้านแพงขึ้นเรื่อยๆ จนคนที่มีรายได้น้อยเอื้อมถึงไม่ได้มากกว่าครับ การช่วยให้กู้ได้ง่ายขึ้นไม่ได้เป็นผลดีกับคนกู้เลยเป็นประโยชน์กับบริษัทอสังหามากกว่า เพราะสุดท้ายกว่าจะจ่ายหมดก็ 30 ปีอยู่ดี ส่วนราคาที่จ่ายตลอด 30 ปีก็จะอยู่ประมาณ 2-3 เท่าของราคาบ้าน บางคนแค่ค่าผ่อนบ้านขั้นต่ำก็ 40% ของรายได้แล้วจะเหลือเก็บซักเท่าไหร่ครับ
คนรุ่นใหม่ที่ไหนจะมีแรงไปซื้อผมเป็นนักวิทย์อยู่เชียงใหม่ อายุงาน 4.5 ปี เงินเดือน 22,000 ทำงานอยู่ในเมืองจะซื้อบ้านทีก็ต้องห่างจากเมือง 12 กิโลเพราะต้องราคาถูกๆราคาบ้านแบบพออยู่ได้มือสองก็ 2.3 ล้านผ่อน10k ถ้าไกลบ้านก็ต้องใช้รถยนต์อีก รถมือสองคันเล็กผ่อน5kไม่รวมน้ำมัน รวมเบ็ดเสร็จ ผ่อน 15k เหลือกิน 7k ไม่ใช่คนรุ่นใหม่ไม่อยากซื้อ เงินเดือนมันไม่เพิ่มให้ทำยังไง
Refinance ช่วยได่ครับ เรื่องดอกแพง
คุณ Taishan ปัญหา ที่ว่ามาของคนไทย เป็นปัญหาเดียวกับที่ออสเตรเลียปัจจับันค่ะ ราคาบ้านสูงกว่ารายได้ของมนุษย์เงืนเดือนหลายสืบเท่า ถ้าในซิดนีย์ถ้าจะซื้อบ้าน ซึ่งต้องผ่อน 25-30 ปี ในราคา 24-27 ล้านบาท ครอบครัวต้องมีรายได้รวมเดือนละ 3 แสนบาทต่อเดือนขึ่น จึงจะไม่อัตคัต ดอกเบี้ยปัจจับันนั้น คนต้องผ่อนเดือนละ 7-8 หมื่นบาทขึ้น แถมปัญหาเรื่องซัพพลาย ทำให้มีบ้านให่เช่าน้อย คนมีงานทำหลายครอบครัวยังต้องนำรถไปอยู่ตามปาร์ค ที่มีให้เช่าก็แย่งกัน และแพงมากกกก
ที่เมืองไทยแม้รายได้จะน้อย แต่อพาร์ทเมนท์ให้เช่าราคทไม่แพงยังหาง่ายกว่าเยอะค่ะ
@@DavisonBoบ้านแพงจริง จะให้ซื้อไกล ๆ ก็ซื้อไม่ลง นึกถึงตอนอายุมาก ขับรถไม่ไหว เหมือนขาด้วนเลย จะซื้อรถตอนนั้นก็น่าจะแพงน่าดู
(Nissan Serena ราคาไทย ประมาณ 1.4 ล ถ้ามี Full self driving ระดับ 3-4 คงจะแตะ 2 ล้าน ถ้าบ้านไกลต้องซื้อรถประมาณนี้แหละ)
จริง ๆ บ้านหลังเดิมก็มีอยู่ แต่อยู่ ตจว ค่อนข้างไกลเหมือนกัน อยากจะขายไปซื้อที่ใหม่ ขนาดผมมีต้นทุนอยู่บ้าง ยังต้องควักเป็นล้าน
@@sawadeeaust9762 ขอบคุณที่แชร์ข้อมูลกันครับ ผมได้ข่าวว่าในยุโรปบางประเทศที่มีพื้นที่ไม่เยอะก็เป็นแบบที่คุณ sawadee เล่าเหมือนกัน คือ supply บ้านน้อยจนค่าเช่าบ้านพุ่งสูงขึ้นมาก หวังว่าจะมีทางออกที่ทำให้ไทยไม่ไปถึงขั้นนั้นครับ ถ้าทิศทางในอนาคตเป็นแบบนี้กันไปหมด พอมีกำลังพอแล้วผมคงต้องรีบซื้อบ้านเหมือนกัน ถ้าคุณ sawadee ยังอยู่ออสผมก็เป็นกำลังใจให้นะครับ 🙂
เคยทั้งซื้อและเช่าคอนโดในตึกเดียวกันสำหรับผมรู้สึกเช่าดีกว่า ตอนเช่าจ่ายต่อเดือน11,000 ตอนซื้อจ่ายแบ้ง13,500(ดอก8,000)แต่มีค่าส่วนกลางอีกหารต่อเดือนเกือบ1,400 คำนวณแล้วเช่าจะประหยัดกว่านิดหน่อยแต่แรกมากับหนี้ระยะยาวกับทรัพย์สินที่สภาพคล่องต่ำ ตอนนี้ไม่ได้อยู่มาเกือบปีแล้วแต่ยังโดนดอกเบี้ยทุกเดือนจะขายก็ไม่ง่าย ถ้ายังเช่าอยู่ก็แค่ยกเลิกสัญญาหรือรอหมดสัญญา ถ้าซื้อให้คุ้มสำหรับผมเองคือต้องหาที่คิดว่าอยู่ประจำแน่ๆและนานๆ แต่ใครจะรู้อนาคตไกลขนาดนั้น
เงินเดือน 15,000 แค่ค่าครองชีพก็หมดแล้วครับ จากใจคนทำงานในเมือง❤❤❤
😢😢😢ในเมืองนี้ลำบากเลย
ผมเป็นคนหนึ่งที่คิดแบบนี้ หมดปัญหาเรื่องซ้อมบำรุง เพื่อนบ้าน สภาพอากาศ หรือการทำงานในที่ต่างๆก็สะดวกมาก ที่สำคัญไม่ต้องเป็นหนี้
ใครๆก็อยากได้บ้าน แต่คนส่วนใหญ่เงินเดือนหมื่นกว่าบาท บ้านราคาเริ่มต้น3.99ล้านบาท โหดมาก😢 ค่าครองชีพ ก็หมดแล้วเอาที่ไหนมาผ่อนบ้าน
ใช่ลย จนทุกคน แต่คนรวยเมืองไทย ติดอันดีบโลก
ผ่อนบ้านได้ชีวิตก็แทบไม่ได้ใช้เลยครับทำงานตลอด
กทม 3.99 ได้แค่คอนโดกับทาวเฮาส์
3.9 ล้านนี้บ้านอย่างง่้อยอะ
ราคาบ้านก็ตั้งโหดเกิน ตั้งอย่างกะว่าคนไทยมีเงินเหลือกินเหลือใช้กัน
ส่วนตัวซื้อคอนโดมา มีแต่เรื่องปวดหัว โดยเฉพาะค่าส่วนกลางที่ขึ้นรัวๆ แต่ค่าเช่าไม่ค่อยจะขึ้น เห็นแถวๆ ที่ผมอยู่มันก็ราคาเท่าเดิมตลอด ค่อนข้างคิดผิดที่ซื้อตอนเงินเดือนน้อยๆ ยังไม่ค่อยพร้อมแหะ รู้งี้รอมั่นคงกว่านี้หน่อย ค่อยซื้อ จะได้อยู่ที่ๆ มันดีกว่านี้
ใช่ค่ะ เราว่าเราก็พลาดที่ซื้อคอนโด แรกๆได้ค่าเช่าเยอะ หลังๆค่าเช่าลดลง ส่วนกลางจ่ายแพงเท่าเดิม ซึ่งไม่คุ้ม ภาระกู้30ปี ดอกเบี้ยกินหมดค่ะ
@@ployc.1741 ค่าส่วนกลางเรารวมไปในค่าเช่าเลยหรอคับ
บ้านมีค่าใช้จ่ายสูงมาก การบูรณะ อุปกรณ์ ความเสียหายที่ต้องซ่อมแซมเรื่อยๆ การบริหารจัดการ ส่วนกลาง ค่าเก็บขยะ ไหนจะปัญหาเพื่อนบ้านแย่ๆ เวลาเปลี่ยนงานก็ย้ายตามไม่ได้ เวลาจะขายก็เก่า ไม่มีคนซื้อ เพราะโครงการใหม่ ทำเลดี ก็มีตลอด สุดท้าย คนรุ่นใหม่ไม่มีลูก เราไม่ต้องการส่งต่อมรดกอะไร เพราะลำพังตัวเอง หรือ ช่วยเหลือพ่อ แม่ ค่าใช้จ่ายก็บาน จนเอาตัวไม่รอดแล้ว ครับ
ไม่ชอบเป็นหนี้ มีเงินเอาไปลงทุนได้ผลตอบแทนมาจ่ายค่าเช่าบ้านคล่องตัวกว่า อยากย้ายไปไหนก็ได้ไม่ต้องกังวล
อีกส่วนนึงที่คนเช่าบ้าน เพราะไม่มีภาระครอบครัว ไม่ต้องส่งต่อมรดกให้ใคร
ถ้าซื้อบ้านอยู่ไปก็ต้องเตรียมค่าซ่อมมากมาย แถมยุ่งยาก การเช่าเป็นทางออกที่ดี ที่เจ้าของบ้านทำหน้าที่ดูแลการซ่อม หาช่างและอุปกรณ์ต่างๆ ถ้าเจ้าของบ้านซ่อมไม่ดีไม่รับผิดชอบ หมดสัญญา ผู้เช่าก็ย้ายได้
...ความเสี่ยงคือบ้านที่แพงขึ้นเรื่อยๆ จะมีผลทำให้ค่าเช่าแพงขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน...
..ความเสี่ยงที่ค่าเช่าแพงมากๆ จะทำให้เรานึกย้อนกลับไปว่าทำไมตอนนั้นเราไม่ซื้อเป็นของตัวเอง...
ชีวิตในแบบที่คุณว่ามา ห้ามจน ห้ามพลาด เลยนะครับ
หากป่วยหาเงินไม่ได้ขึ้นมา หรือ แก่ก่อนที่จะรวย
ปลายทางชีวิต คือนอนข้างถนนเท่านั้น
@@chavalitdeeudomwongsa8418 ผ่อนไม่ไหวก็นอนข้างถนนเหมือนกัน ต่างอะไรกันหรอ
@@seafc1085 ไม่จริง ทุกวันนี้ค่าเช่าเท่าเดิม แถมจะลดลงด้วย พอซื้อเป็นของตัวเอง ผ่อนไม่ไหว ก็นอนข้าวงถนนอยู่ดี ไม่รวมเรื่องบ้านทรุด ซ่อมบ้าน เงินทั้งนั้น
ผมซื้อนะ บ้านที่ ตจว ราคาไม่แพง ผ่อนเดือนละ 5-6k บาท ถ้าคุณทำงานในเมืองคุณเช่าจะดีที่สุด เก็บเงิน แล้วหาซื้อที่ทางที่ ตจว ไว้สร้างบ้านอยู่ตอนเกษียณ
คนรุ่นใหม่ที่ไหนจะมีแรงไปซื้อผมเป็นนักวิทย์อยู่เชียงใหม่ อายุงาน 4.5 ปี เงินเดือน 22,000ทำงานอยู่ในเมืองจะซื้อบ้านทีก็ต้องห่างจากเมือง 12 กิโลเพราะต้องราคาถูกๆราคาบ้านแบบพออยู่ได้มือสองก็2.3 ล้านผ่อน10k ถ้าไกลบ้านก็ต้องใช้รถยนต์อีก รถมือสองคันเล็กผ่อน5kไม่รวมน้ำมัน รวมเบ็ดเสร็จ ผ่อน 15k เหลือกิน 7k ไม่ใช่คนรุ่นใหม่ไม่อยากซื้อ เงินเดือนมันไม่เพิ่มให้ทำยังไง // สุดท้ายไปอยู่หอพักเล็กๆในเมืองค่า หอ 5k รถมอไซค์จบ ประหยัดไป 10k
20 ปีก่อนนักวิทย์ เงินเดือนstart 14k เชียงใหม่ ตอนนี้start 16k เชียงใหม่ งงอะไรของมัน
รายได้ไม่ขยับตามต่าใช้จ่าย😅😅
เช่ายังพอเหลือส่วนต่างมาประทังชีวิตได้
เงินเดือนของคุณ สำหรับผมถือว่าน้อยมากเลยนะครับ ถ้าเทียบกับอาชีพ
เมื่อ20ปีที่แล้วชื้อบ้านเดี่ยวในกท.หลังนึง2.7ล้านตอนนี้แถวบ้านขายกันเริ่มที่10ล้านเงินมันเล็กลงซึ่งน่ากลัวมากๆว่าถ้าหารายได้ต่ำกว่า50,000จะอยู่ได้อย่างไรถ้าพ่อแม่ไม่มีบ้านที่อยู่อาศัยค่ะ
@@whatthecat3855 โคตรน้อยมากครับ
ดีค่ะ สอนลูกหลาน อย่ายึดติดกับสมบัติสิ่งของ ร่างกายเราเองก็เช่ามาเหมือนกัน
เศรษฐกิจไม่มั่งคั่ง การงานไม่มั่นคง บริษัทปิดกิจการ ผู้คนเปลี่ยนงานบ่อย เลยไม่มีใครกล้าเสี่ยงเป็นหนี้ผูกพันธ์ระยะยาว รัฐบริหารประเทศแบบเจ้าพ่อเงินกู้ ดูแล้วเป็นหนี้ระยะยาว ขาดความเชื่อมั่นที่จะได้บ้านเป็นของตัวเอง
อยากได้บ้านมากกว่า แต่ทำไงได้ตัวเลือกที่มีขนาดของรัฐทำยังมีแค่ให้เช่าแค่นั้น รวมหัวกันกับนายทุนเอาแต่กำไรใครมันจะไปซื้อได้ แค่นั้นยังไม่พอยังมรพวกต่างชาติมาเก็งกำไรได้อีก
ต้องรอฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์แตกเหมือนจีนก่อนครับ
ซื้อได้ครับ แต่อย่าซื้อเพราะแค่อยากได้... แต่ซื้อบ้านแบบไหนที่ต่อยอดทำธุรกิจได้ ไม่เป็นภาระ ... ผมยกตัวอย่างที่ผมใช้คือ ซื้ออาคารพาณิชย์ในเมือง อยู่อาศัยชั้นบน ชั้นล่างทำ food delivery ... ทำให้มีรายรับมาช่วยผ่อน ไม่ต้องควักเงินจากกระเป๋าหลักไปใช้ทั้ง 100%
ແມ່ນຄັບ
เราอายุ29 ก็คิดแบบนี้ค่ะ จองคอนโดไปสุดท้ายไม่เอาดีกว่า 😂 รู้สึกว่าไม่อยากซื้อเพราะเป็นภาระระยะยาว ถ้าอยู่นานแล้วเบื่อก็แค่ย้ายได้อยู่ที่ใหม่กว่าเทคโนโลยีดีกว่า ไม่ต้องมากลุ้มใจเรื่องซ่อมบำรุง รถก็เหมือนกันเราคิดแล้วว่าไม่ค่อยได้ใช้ค่ะนั่ง grab เอาคุ้มกว่าค่าผ่อนกับค่าบำรุงเยอะเลย ถ้าจะซื้อขอซื้อที่เปล่าแบบลงทุนดีกว่าค่ะ เกษียณค่อยว่ากัน 😂
ที่ดิน
เก็บเงินเหมือนผ่อนรถก็ซื้อได้แล้วครับ แค่ 5ปี แต่ถ้าผ่อนบ้านตรงๆ 30 เอาเวลาไหนใช้ชีวิต
ความคิดนี้ ยกนิ้วจากใจคน40
++ 1 ที่ดิน สำคัญสุด ตะอยู่บ้านกระต๊อบ บ้านเล็กใหญ่ไม่สำคัญแล้วยุคนี้ สำคัญว่า เราจะเอาชนะเงินเฟ้อ บริหารจัดการชีวิตให้สมดุล และมีชีวิตหลังเกษียณที่ไม่ทุกข์มาก
มีพวกนึ่งมีบ้านแบบง่ายๆโดยรุกที่สาธารณะในคลองแล้วก็ได้สิทธิตามโครงการบ้านมั่นคงหาเงินกู้สร้างบ้านให้เสร็จแถมอยู่ติดรถไฟฟ้าไปมาสะดวก
ยุคนี้ซื้อยากจริงๆ แพงมากๆ รายได้ก็น้อย
ถ้าพ่อแม่ไม่ทิ้งบ้านไว้ให้เป็นมรดกก่อนตาย ป่านนี้ผมนอนข้างถนนไปแล้ว
สำหรับตัวเรานะบ้านสำคัญก็จริง เเต่ค่อยเก็บเงินซื้อสดค่ะ ตอนนี้เช่าไปก่อน ไม่รีบ เอาเงินเเต่ละเดือนไปลงทุนทำอะไรสักอย่างเเล้วค่อยกลับมาซื้อบ้านสด ไม่รีบ ไม่อยากมีหนี้สิน ดอกเบี้ยเเพง เงินเดือนออกหักไปลงทุนให้เกิดรายได้ การเงินคือเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งในชีวิต จัดการดีๆ
ความคิดคุณดีมากค่ะ แต่ อีกปัจจัยหนึ่ง อย่าลืมว่า การลงทุนคือความเสี่ยง
@@nalikasaai5108 ก็ต้องศึกษาก่อนการลงทุนจากหนังสือ ตำรา หรือผู้เชี่ยวชาญเสมอค่ะ ทุกอย่างมีความเสี่ยงเสมอค่ะ เเต่ที่เสี่ยงที่สุดคือการลงทุนในสิ่งที่เราไม่รู้ค่ะ อันนี้เสี่ยงสุดค่ะ
ตอนเราอายุ 27 ปี เราผ่อนที่ดินจัดสรร 60 ตารางวา เดือนละ 2,500 บาท แต่เราผ่อนมากกว่านั้นเลยใช้เวลาแค่ 8 ปี กะว่ามีครอบครัวเมื่อไหร่จะเอาโฉนดเข้าธนาคารกู้เงินออกมาสร้างบ้านแต่ตอนนี้ขายไปแล้ว 600,000 บาท
เช่าดีกว่าซื้อ เพราะบางทีงานก็ต้องย้ายไปตามกาลเวลา ถ้าตกงานขึ้นมาโดนยึดแถมโดนฟ้องร้อง เงินที่ผ่อนมาหายไปหมดแถมได้คดีความ บางทีการเช่าอยู่ก็ดีกว่าการเสียดอกเบี้ยที่เยอะและต้องเผื่อการตกงานในอนาคตที่เราไม่รู้เลยว่านายจ้างจะเลิกจ้างหรือเลิกกิจการเมื่อไหร่
100% อยากได้บ้านครับ แต่เขาเอื้อมไม่ถึง ไม่ใช่ไม่อยากได้ครับ ย้ำคือ เขาเอื้อมไม่ถึง
ถ้าคนต้องนอนหลับ ยังไง บ้านก็สำคัญ
เรื่องเงินก็ส่วนหนึ่ง ที่ต้องจ่ายค่าบ้าน + ดอกเบี้ย แต่เราโสด ไม่มีลูก เราไม่รู้ว่าซื้อไปพอตายแล้วก็เอาบ้านไปไม่ได้หรือไม่มีคนให้ส่งต่อ เลยไม่รู้จะซื้อไปทำไม เราเห็นเพื่อนแต่งงานตอน 40 ซื้อบ้าน ต้องเอาเงินเดือนไปผ่อนบ้านเกือบหมด ที่เคยซื้อของแพงๆดีๆก็ซื้อไม่ได้แล้ว แต่เขาตัดสินใจไม่มีลูก เราก็งงว่าซื้อทำไม ตายไปจะผ่อนหมดหรือเปล่าก็ไม่รู้ แถมยังไม่มีคนส่งต่อให้อีก บ้านที่ซื้อก็ชานเมืองถึงผ่อนไหว แล้วความเป็นอยู่ก็ใช่ว่าจะดีเพราะต้องเอาเงินไปผ่อนบ้านเกือบหมด ป่วยไม่ได้ 😂 แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ไม่อยากงัดข้อกัน
ไม่ใช่ไม่อยากซื้อ แต่ไม่มีปัญญาซื้อ อยากอยู่ในเมืองทำเลดีๆ แต่ต่างชาติมาซื้อราคาก็ถีบสูงขึ้น เพราะเค้ารวยกว่า ค่าเงินแพงกว่า ขนาดแค่คนรัฐแคลิฟอเนียแห่ย้ายไปเท็กซัสราคาบ้านยังขึ้นมาเท่าตัว คนเท็กซัสยังบ่นเลย ส่วนบริษัทอสังหาก็อยากทำขายให้ต่างชาติ อยากจะให้ขายคอนโดให้ต่างชาติได้100% ลามไปอยากให้ขายบ้านให้ต่างชาติได้อีก คนไทยมนุษย์เงินเดือนธรรมดาก็ต้องไปอยู่รอบนอกชานเมือง ส่วนบางกลุ่มก็อยู่แบบบุกรุกที่หลวงในเมือง เรียกร้องอยากมีบ้านบ้าง เห็นใจคนจนหน่อย แต่ขออยู่ที่เดิมกลางเมืองนะ ไม่ย้ายไปอยู่ที่อื่นหรอกเพราะอยู่กันมานานแล้ว ส่วนคนที่ทำตามระบบจบปริญญาตรีทั่วไปก็ก้มหน้าผ่อนบ้านชานเมือง จะให้ใกล้เมืองก็เป็นคอนโดเล็กเท่ารูหนู
ต่างชาติมาซื้อคอนโดปล่อยเช่า ขนเงินกลับประเทศภาษีไม่ต้องจ่าย คนไทยเจ้าของประเทศก็เช่าเค้าเอา วิธีแก้คือขึ้นภาษีที่ดินกับต่างชาติ แต่เดี๋ยวมันก็มาซื้อสัญชาติ อุ้มบุญซื้อพ่อ นอมินี สารพัดวิธี รัฐบาลก็ควรเอาจริงได้แล้ว ไม่ใช่ยิ่งออกฎหมายประเคนถวายเพียงแค่จะเอาใจบริษัทอสังหา ชูตัวเลขจีดีพี แต่รวยกระจุกจนกระจาย
โชคดีจัง รุ่นเรา อายุ 50 ซื้อบ้านได้ 2 หลัง ผ่อนหมดแล้ว สมัยก่อนดอกเบื้ยไม่แพง รายได้มากพอที่จะซื้อ
มองอีกมุม ผมว่ามันเป็นการวางแผนเกษียณ อสังหาราคามันขึ้นไวกว่าค่าครองชีพอีก ตอนเรายังอยู่ในวัยทำงานหาเงินได้ดีเราค่อยๆผ่อนไป 20-30 ปี ถึงวัยเกษียณก็ปลอดภาระพอดี พวกเช่าแล้วกะเก็บเงินจะไปซื้อตอนแก่ขนาดราคาตอนนี้ยังยากเลยอนาคตไม่ต้องพูดถึงว่าราคาเท่าไหร่
ต้องดูเป้าหมายชีวิตของแต่ละคนว่าต้องการอะไร ส่วนตัวก็มองว่าการมีบ้านยังไงก็เป็นต่อกว่าการเช่า เราเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ จะทำอะไรก็ได้ ทำธุรกิจ ต่อยอดอะไร ก็ทำได้ ของเราเอง แต่เช่าเขาข้อจำกัดเยอะ
และจากการผ่านโลกมาเกือบ 35 ขวบ เคยได้ยินคนอายุมากๆ หรือ รุ่นเดียวกันหลายคน ชอบพูดว่า “รู้งี้” บ่อยมาก เพราะช่วงที่มีแรง มีกำลัง ไม่เคยสร้างรากฐานอะไรไว้เลย และรากฐานแรกที่ควรมีคือ “บ้าน” ค่ะ
ผ่านมาจน 35 เหมือนกัน เห็นข่าวร้องไห้ออกสื่อขายบ้านหนีเพื่อนบ้านหมาเห่า ก็รู้เลยว่า รู้งี้เช่าดีกว่า
แต่ที่ในหัวเมืองทำเลดี มีปลูกกล้วยชิวๆ
ถ้าอยู่แบบเช่าจริงๆ คือลูกต้องไม่ต้องเลี้ยงพ่อแม่นะ แบบฝรั่งจัดการชีวิตตัวเอง ขนาดรุ่นก่อนซื้อบ้านง่ายกว่า ปัญหาสังคมผู้สูงอายุยังปวดหัว ขนาดมีที่ดิน
ยังไม่คิดถึงตอนแก่ สวัสดิ์การเดือน600
หัวเมืองก็ราคาพอ ๆ กับ กทม ละ
อย่างแถวสนามกีฬาหาดใหญ่ ก็ 5 ล้านละ ทำเลการค้าใช่ว่าจะดี อยู่อาศัยก็แคบ (เป็นอาคารพาณิชย์) ถ้าอยากซื้อกำเงินไปซื้อที่ กทม หรือพัทยาดีกว่า ถ้าไม่ได้อยากอยู่ที่ไหนเป็นพิเศษ
ราคาที่อยู่อาศัยแถมดอกเบี้ยแพงมาก แล้วรายได้ก็ไม่เคยพอกับค่าใช้จ่ายจะเอาเงินที่ไปซื้อคะ แล้วรัฐบาลไม่เคยมาช่วยเหลือประชาชนเลยในเรื่องที่อยู่อาศัย
อสังหาราคาสุงเกินไม่สัมพันธ์กับรายได้ ซัพพลายคอนโดล้นตลาดเยอะมาก ตัดค่าเช่ากันเละ ผู้เช่ามีสิทธิเลือก
มีบ้านแล้ว พอบ้านอายุ 20+ปี เดี๋ยวเจอค่าซ่อมค่าปรับปรุงแล้วก็ตีนก่ายหน้าผากเหมือนกัน
ผมไม่ใช่คนรุ่นใหม่ วัยไม้ใกล้ฝั่ง ตัวคนเดียว ยังคิดจะขายบ้านที่อยู่ปัจจุบัน. เก่าทรุดโทรมเต็มที่ (คือขายที่นั่นแหละ ตัวบ้านคนซื้อคงทุบทิ้ง)ไม่อยากรีโนเวทหรือซ่อมมันแล้ว แลัวไปเช่าบ้านอยู่
ปัญหาด้านสินเชื่อเป็นปัญหาหลักเลย เพราะการจะกู้ซื้อบ้านต้องปิดสินเชื่อทั้งหมดก่อน และดอกเบี้ยก็เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้คนจะกู้ต้องคิดหนัก เพราะ rate มันมากกว่า 3% จ่ายแค่ดอกก็จุกอยู่เหมือนกัน
ยุคใหม่เปลี่ยนแปลงเร็ว การย้ายงาน ย้ายประเทศจะเป็นเรื่องปกติ ภาษีที่ดิน บ้านจะแพงขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นภาระ บ้านที่ไม่มีคนอยู่ตอนนี้เยอะมาก คนรุ่นใหม่เข้าใจว่าชีวิตไม่แน่นอน
ใช่มองง่ายๆ รุ่นพี่ที่ทำงานที่อายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นในสมัยเขาเงินเดือนต่อเดือนสามารถซื้อทองได้ 1 บาท ในขณะที่เงินเดือนเรา 3 เดือนถึงจะสามารถซื้อทองได้ ปัญหาหลักๆคือค่าครองชีพสูงมากกว่ารายรับ
ถ้าประหยัด อดออม ทำได้แน่ครับ
คนรุ่นใหม่ที่มีเงินเค้าก็ซื้อกันค่ะ ซื้ออยู่เอง ซื้อให้คนเช่า ถ้าเปลี่ยนงานก็ให้คนเช่า บางคนไม่ซื้อเพราะที่บ้านอาจมีบ้านให้แล้วหรือซื้อคอนโดให้อยู่ตั้งแต่สมัยเรียน แต่คนที่ไม่ซื้ออย่างดิฉันในสมัยก่อนก็เพราะยังไม่มีเงินดาวน์หรือกลัวผ่อนไม่พอ การบอกว่าซื้อแล้วเป็นหนี้นานและจ่ายดอกเยอะ แต่อย่าลืมว่าพอจ่ายหมดเราได้บ้าน ถ้าเช่าอยู่ 20-30 ปี ก็เสียค่าเช่า และอย่าลืมว่าค่าน้ำค่าไฟของอพาร์ทเม้นท์แพงกว่าที่เราจ่ายตรงกับการไฟฟ้าการปะปาโดยตรง (คนคงไม่เช่าบ้านในเมืองใหญ่ เพราะยิ่งแพงและหาไม่ได้) จากประสบการณ์ส่วนตัว คนน่าอยากจะซื้อบ้าน/คอนโดนะคะ ยิ่งเด็กรุ่นใหมา่ชอบแต่งบ้าน แล้วเวลาเป็นบ้านเราเอง ความรู้สึกที่อยู่ต่างจากตอนเช่าจริง อยากจะเจาะผนังติดรูป อยากปรับปรุงห้องอย่างไรก็ได้ ....แต่มันไม่มีเงินน่ะค่ะ เลยไม่รู้จะซื้อได้อย่างไร ดิฉันเลยต้องเช่าอยู่ก่อน
หลายคนบอกว่าซื้อบ้านเป็นภาระระยะยาว เช่าอยู่ก็ภาระยาวเช่นกัน ถ้าไม่มีบ้านแล้วเราอายุถึง 70 ก็มีภาระจ่ายถึง 70 เช่นกัน ถ้าไม่จ่ายก็ต้องออกเหมือนกันค่ะ
มีคอนโดปล่อยให้เช่า 3ห้อง ได้เดือนละ 2-3 หมื่น คนเช่าก็เป็นพวก first jobber กับ นศ. กินค่าเช่าสบายๆเลย
คนไทยไม่จน
สองสามกมื่นจากค่าเช่าก็ต้องเอาไปเป็นค่าป่อนคอนโดค่ะคงไม่มีใครเอาเงินสดจากไหนไปซื้อสดถึงสองสามห้องหรอกถ้าไม่ใช่เศรษฐีๆก็ยังชอบผ่อนเเล้วเอาเงินสดที่มีไปลงทุนค่ะรายได้จากบ้านเช่าคอนโดให้เช่าจึงตกเป็นค่าผ่อนส่งธนาคารหมดที่ได้จริงคือสามสิบปีจะได้คอนโดมาเป็นของเราฟรีหมดภาระส่งค่าเช่าจึงมาเข้ากระเป๋าใหห้เราใช้ตอนการผ่อนสิ้นสุดลงค่ะและมีค่ารีโนเวททุกสิบปีด้วยหรือทุกครั้งที่คนเช่าย้ายออกแถมหาเงินมาซ่อมไม่พอนะคะยังต้องหาเงินประกันสองหรือสามเดือนมาคืนคนเช่าอีกเดือดร้อนกระเป๋าเราด้วยเรื่องนี้ไม่มีคนพูดกัน
สงสารลูกหลานของคนรุ่นใหม่จัง
ผ่อนบ้าน 9,100 ต้น 2,500 ดอก 6,600 รู้สึกท้อแท้ อยากขายบ้านไปเช่าอยู่ เอา 6,600 ไปเช่า เอา 2,500 ไปเป็นเงินเก็บ ยังพอได้รู้สึกว่า มันพอสมเหตุสมผล / เห็นดอกเบี้ยแล้วเหนื่อยจริงๆค่ะ😢😢 ร้องไห้หนักมาก
เวลาแก่ตัวไป ก้อไม่มี บ้านนะคะ แถมทำงานไม่ไหว จะเอารายได้ทีไหนไปเช่า
@user-go3vo9xถ้f1l
@@สุภาวดีวิภาดาไพรศาลถ้าผ่อนไม่ไหว และไม่หมด ก็ ไม่มีบ้านเหมือนกัน..แถมจะตายก่อน ผ่อนบ้านหมดรึป่าว...
ะ้าผ่อนบ้านด้วยมีลูกด้วย ค่าเทอมลูกอีก
ถ้าไม่มีที่อยู่เป็นของตัวเอง จะเป็นสัญญาณอันตรายในอนาคต
จริงๆก็อยากซื้อค่ะแต่ค่าครองชีพกับรานได้สู้ไม่ไหว ไม่เหมือนยุค boomer เปนเจ้าของอสังหากันได้ไม่ยาก เด็กรุ่นใหม่ลำบากมากค่ะ
ใครบ้างไม่อยากเป็นเจ้าของ ใครบ้างอยากบอกคนอื่นว่าชอบเช่ามากกว่า นอกจากหลอกตัวเองอยู่ ยอมรับเถอะว่ามันเป็นเพราะเศรษฐกิจและค่าครองชีพมันไม่ไหว
อยากซื้อแต่ไม่มีเงินครับ😂😂😂
เด็กรุ่นใหม่ต้องความสะดวกสบาย ถ้าเป็นเด็กมาจาดต่างจังหวัด ที่มีมรดกที่พ่อแม่มอบให้ บั้นปลายขีวิตกลับไปอยู่ต่างจังหวัดเพราะงานสามารถทำออนไลนได้ จะเข้าบริษัทที่กรุงเทพแต่เดือนละครั้งดังนั้นจึงไม่คิดว่าเช่าดีกว่า
ผมเคยอ่านประวัติเศรษฐีหุ้นท่านหนึ่ง เขาบอกว่า ผมมีบ้านอยู่ต่างจังหวัด
แต่เวลาอยู่กรุงเทพผมนอนโรงแรม นอนมาแล้ว 10กว่าปี สาเหตุเพราะรับส่งลูกไปโรงเรียนสะดวกดี เลือกเอาโรงแรมที่ใกล้โรงเรียนที่สุด
ค่าโรงแรมเฉลี่ยวันละ 2พันบาท รวมอาหารเช้า 1ปีก็ 730,000 บาท 10ปี ก็ 7ล้าน
กลับกันถ้าซื้อบ้านใกล้ๆโรงเรียนคงราคาแพง ไหนจะค่าบำรุงรักษาอีก แต่ถ้าเป็นโรงแรม ถ้าเราเบื่อๆก็ย้ายได้เลย
หืม 7ล้าน
ใครเรอะครับ
คิดไม่ถึงเลยนะครับเนี่ย ถ้าเป็นผมรวยขนาดนั้นคงซื้อบ้านไว้จริงๆ ตีไว้สัก 5ล้าน พอผ่านไป 10ปี ลูกเรียนจบ ก็ขายเท่าทุน 5 ล้านบาทพอได้เงินกลับมา ไม่คิดเอากำไรจากค่าที่ดินที่เพิ่มขึ้น 🤭
@@MrLemonchang ผมก็สงสัยอยู่ว่าเค้ารวยก่อนหรือหลัง เช่าโรงแรมนอน
ผมคิดแบบเขาเลย
ปัจจุบันเช่าบ้านถูกกว่าผ่อนบ้าน และกฎหมายคุ้มครองผู้เช่าสูง เคยปล่อยบ้านให้เช่าเดือนละ7 พัน แต่ต้องส่งค่าผ่อนบ้านหมื่นสอง ผ่อนบ้านต้องผ่อนทุกเดือน แต่ปล่อยเช่าได้ไม่ทุกเดือน การเช่าจึงคุ้มกว่า
เหมือนใช่ชีวิตไปวันๆจริงๆ ถ้าชีวิตไม่มีต้นทุน เหนื่อยมาก เงินเดือนไม่สมเหตุสมผล ทำงานทั้งเดือนซื้อของได้ไม่กี่อย่าง
คอนโดเราอยู่สิบปีเริ่มมีปัญหาเยอะมาก เดียวน้ำไม่ไหล ไฟดับ ลิฟมีปัญหา นิติเปลี่ยนบ่อย เอาอะไรมาผ่อนสามสิบปี เช่ายังได้ย้ายไปคอนโดใหม่ๆ
พ่อผมบอกว่า เมื่อ 50ปี ที่แล้ว ที่ดินแถวรัตนาธิเบศร์วาละ 100 บาท เอาว่าเทียบเงินเฟ้อมาถึงตอนนี้ก็ประมาณ 10,000 แล้วไปดูราคาทุกวันนี้ซิ รัตนาธิเบศร์วาละเท่าไหร่ (เอาที่ซื้อขายกันจริงๆนะครับ) ก็เลยไม่แปลกที่แม้แต่คน 40กว่าอย่างผมคงได้แค่มองเท่านั้น
ไม่ซื้อเหมือนกันค่ะ ถ้าสร้างเราสร้างที่ ตจว.เอาไว้รอเกษียณ ไปอยู่กับธรรมชาติสบายๆชิลๆดีกว่าค่ะ รถก็ไม่ซื้อค่ะ เช่าคุ้มกว่า ไม่เสียค่าซ่อมแซม มีมอไซค์ไว้ขับสักคันก็พอ ถามว่ากู้ได้มั้ย กู้ได้ผ่านด้วย หลักทรัพย์พร้อม แต่ไม่ขอเสี่ยงกับเศรษฐกิจและสภาพการเมืองแบบนี้ค่ะ ใช้ชีวิตให้มีความสุขดีกว่า เวลาไปเที่ยวเราก็ไม่ค่อยชอบนั่งรถนานๆค่ะนั่งเครื่องแป้บเดียวถึง ไม่งั้นก็รถไฟ รถทัวร์ ได้นั่งชมวิวตามธรรมชาติด้วยค่ะ
อายุ 29 จบ ป.ตรี ทำงาน เเละเที่ยวบางวัน ใช่ชีวิตอยู่ไปเเบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่มีครอบครัว ค่ะ ไม่มีความคาดหวังอะไรกับชีวิตเเล้ว ไม่อยากได้อะไรเลย😅
ลำบากใจแทนคนรุ่นใหม่ ทั่วโลกเอาแต่กดค่าเงินตัวเองเพื่อความสามารถในการแข่งขัน ดูเผินๆ เหมือนจะเพื่อผลประโยชน์ของคนในชาติ แต่แท้จริงแล้วได้หนักๆ กับเจ้าของธุรกิจ
ให้ความรู้สึกเหมือนอยากย้ายถิ่น สมมุติซื้อบ้านเพราะทำงานใน กทม แต่มีความต้องการบั่นปลายชีวิตไปใช้ชีวิตที่ต่างจังหวัด
-ทำงานแถวไหนเช่าอยู่แถวนั้น ไม่มีอะไรการัณตีว่าจะทำงานที่นั้นแถวนั้นตลอดไป
- แล้วเกษียรค่อยไปกลับถิ่นเกิด ไม่ก็หาซื้อจังหวัดน่าอยู่แบบสงบๆ
ส่วนใครที่มีที่อยู่ให้เช่า ก็ให้เค้ามีธุรกิจกันไปเถอะ เพราะถ้าบ้านมีเหตุให้ต้องซ่อมเค้าก็ต้องมาซ่อมหลังเราออกไป
ทุกคนจะเป็นนายทุนเองไม่ได้ circle มันไม่ครบ
ราคาอสังหาแพงขึ้น + เงินเดือนขึ้นตามไม่ทัน + ค่านิยมยุคใหม่
ผมมองว่าเช่าบ้านไปสักอายุ 40กลางๆ ระหว่างนั้นก็เก็บเงินสร้างบ้าน อายุ 40ปลายๆ -50ต้นๆ มีบ้าน อายุ 60 เกษียณ น่าจะเหมาะที่สุด
ถ้ามีคนคิดแบบนี้เยอะขึ้น อีกหน่อยคนซื้อบ้าน ที่มีบ้านเกิน 1 หลัง อาจไม่ต้องผ่อนเอง... ซื้อให้คนกลุ่มนี้เช่า...เพื่อเอามาผ่อน ....ละเอาเงินไปต่อยอดอย่างอื่นได้อีก...
บางทำเลไม่ค่อยคุ้ม ได้ปีละ 30000 ซ่อมปีละ 1-2 หมื่น ไม่รวมค่าเดินทาง
ปล่อยสบายเลยคับ ผมปล่อยให้ นศ กับพวก first jobber อยู่มา 3 ปี และ กินสบายๆทุกเดือน อยากให้คิดแบบนี้เยอะๆคับ นักลงทุนสบาย
รวยๆจ้า..สาธุ👍❤🤟
บ้านที่นนทบุรี ทาวเฮ้าส์มือสองผมซื้อมา6.5แสนเอง 18 ตรว ชั้นเดียว โทรมๆต่อเติมไม่ถึงแสน ในกรมบังคับคดีมีเยอะครับ
ดีจังค่ะ อยู่เย็นเป็นสุข บ้านดี เพื่อนบ้านดีนะคะ
เช่าอยู่ใกล้ๆที่ทำงานก็พอ เก็บเงินไว้ซักอายุ 40 ค่อยเอาเงินกลับไปปลูกบ้านที่ต่างจังหวัด
กทม.แพงมาก ค่าผ่อนแพง ปล่อยเช่าแพงก็ไม่มีใครเช่า แถมกังวลไม่รู้จะได้คนเช่าแบบไหน
ผู้ดำเนินรายการ สวย และ
ไอเดียในการนำเสนอเนื้อหา
ได้ตรงประเด็น ครอบคลุม
ส่วนนึงเพราะคนรุ่นใหม่มีบ้าน
ที่เป็นของพ่อและแม่ไว้แล้ว ที่เน้นเช่า
เพราะแค่อยู่อาศัยตอนเข้ามาทำงาน
ในเมืองใหญ่เฉยๆ อีกอย่างส่วนมาก
ภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด
คนที่ยังต้องเช่าไม่มีบ้านอยู่ ถ้าคิดจะทำงานอยู่ในเมือง กทม อย่างน้อยซื้อห้องคอนโดเก่า มีตั้งแต่ 3 แสนถึง 1 ล้าน อย่างน้อย อายุ 60 ก็ยังไม่ต้องไปเช่าเขาอยู่ ผ่อนเหลด 2000-6000 เอง ผมเห็นมาเยอะแล้วรุ่นพี่ เช่าเดือนละ 6000 มา 20 ปี สุดท้ายทุกวันนี้บอกทำไมตอนนั้นคิดไม่ได้ อย่าไปสนใจว่าใครจะมองเราอยู่ที่ถูกหรือแพง ดูดีตามค่านิยมไหม สุดท้ายทุกคนต้องรับผิดชอบครอบครัวและชีวิตตัวเอง เมื่อก่อนอยู่เอื้ออาทรผ่อนเดือนชนเดือน พอวันนึงได้โอกาสซื้อบ้าน 2-3 ล้าน ขายเอื้ออาทรได้ส่วนต่างมา 3 แสน ที่เคยผ่อนธนาคารไปก็ได้กลับมา
เอาแค่เงินเดือนกับค่าครองชีพประจำวัน อยู่รอดได้ก็เก่งแล้ว
ดีแล้วน้อง ๆ ทั้งหลาย คิดแบบนั้นดีแล้ว เช่า/ผ่อนกันต่อไป อิ ๆ
ไม่ใช่ไม่ซื้อ แต่น่าจะยังไม่สามารถซื้อได้ เพราะยังไงๆการมีบ้านเป็นของตัวเองก็ย่อมดีกว่า แต่ปัจจุบันการซื้ออสังหาฯต้องใช้เงินเยอะ
บ้านถือเป็นทรัพย์สิน แต่กว่ามันจะเป็นของเราจริงๆ
คำว่าหนี้สินก็กินไปค่อนชีวิตละ จริงๆแล้วบ้านคือหนี้สิน
ที่ทำให้เราขยับไปไหนไม่ได้
ปล.สำหรับมนุษย์เงินเดือน
ถ้าผ่อนไม่ไหว. โดนยึด. สรุปแล้วซื้อเงินสดดีกว่า. ไม่มีก็ไม่ต้องซื้อ. ดูความสามารถของตัวเอง
มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองยังไงก็ดีกว่าอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเล็ก จะใหญ่ ตามกำลังเรา ตอนช่วงอายุที่ยังทำงานหาเงินได้ มันก็ดี เช่าเขาอยู่ ก็สะดวกดี แต่พอถึงวันหางินไม่ได้ จะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายค่าเช่าบ้าน ถึงตอนนั้นคิดจะซื้อ ราคาก็ทะยานไปไกลเกินจะชื้อ
เป็นข้อคิดที่ดีมากยิ่งอายุมากขึ้นต้องมีที่อยู่ของตัวเองพื้นที่พออยู่ได้ก็ยังดีกว่าเช่า
มองกลับกัน แล้วถ้าวันนึงที่หาเงินไม่ได้ แต่ยังมีภาระผ่อนบ้านอยู่ มันจะต่างจากเช่าไหมคะ เพราะยังไง มันก็ยังไม่ใช่ของเรา
ผมยังถือว่าบ้านยังเป็นทรัพย์สินมากกว่าหนี้ กำเงินไว้ในมือมีแต่ค่าลดลงๆ ถ้าคุณผ่านชีวิตมาพอสมควรจะเห็นว่าเงิน 20 บาทเมื่อก่อน มีค่าไม่เท่ากับทุกวันนี้ เมื่อก่อนซื้อข้าวจานนึงได้สบาย สมัยนี้เหรอ 40-70 บาท ถึงจะซื้อข้าวได้ ผิดกับบ้านหรือที่ดิน ถือไว้มีแต่ค่าเพิ่มขึ้น ยิ่งอยู่ทำเลดีๆ หรือถ้าว่างก็ปล่อยเช่าคนยุคนี้เอาเงินมาใช้เป็นเสือนอนกินสบายไป แล้วการเช่าไปเรื่อยๆมันไม่ได้หรอกถ้าไม่มีมรดกจากรุ่นก่อนๆ งานมันก็มีวันหมดลง สังขารมีเสื่อมถอย ถ้าไม่มีเงินมาเช่าที่อยู่ในอนาคตจะไปอยู่ไหนกัน ให้ดูคนที่ไม่มีที่ดินทำกินปัจจุบันก็ได้นี่ก็ลำบากกันขนาดไหนแล้ว 😅
อนาคตถ้าเศรษฐกิจกิจแบยนี้มันก็ดีหมดสำหรับคนมีเงินต่อเดือนเยอะ แต่ สภาวะสำหรับคนเงินน้อยตอนนี้ก็ไม่ใช่ เพราะรายได้เท่าเดิม ทุกอย่างแพง คนมีเงินมันคือผลดีอยู่แล้ว แต่ไม่ใช้สำหรับคนมีเงินไม่พอต่อค่าครองชีพ
ปัญหาคือบ้านทำเลดีๆราคามันเข้าถึงไม่ได้แล้วครับสำหรับคนส่วนใหญ่ ถ้าจะไปเป็นหนี้ระยะยาวกับบ้านชานเมือง ผ่อนหมดก็เกือบเกษียณแล้ว บ้านก็เก่าพอดี เงินเก็บก็ลงกับบ้านไปหมดแล้ว คราวนี้ต่อให้ Value ของบ้านมันสูงขึ้น (สูงขึ้นที่ไม่ได้แปลว่าขายง่าย) ก็ใช้ชีวิตยากอยู่ดี สุดท้ายอนาคตของวัยชราก็คือ Senior Living แล้ว Senior Living ก็ต้องเช่าอยู่ดีเพราะโมเดลนี้ไม่มีการขายขาด Lease Only การสะสมเงินหรือสะสมในสินทรัพย์อื่นที่สภาพคล่องสูงกว่าบ้านและที่ดินจึงอาจจะตอบโจทย์อนาคตมากกว่า
อันนี้ไม่นับกรณีบางครอบครัวที่ตั้งใจจะฝากชีวิตกับลูกหลานนะครับ ส่วนตัวไม่มีมรดกจากครอบครัว แล้วก็ไม่น่าจะมีลูกหลานต่อ ผมเลยสะสมความมั่งคั่งในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องแปลงที่เป็นเงินได้ง่ายกว่าบ้านและที่ดิน ตอบโจทย์มากกว่า
เพิ่มเติม คุณแม่ผมก็มีที่ดินมรดกจากคุณยาย แต่ก็มีไปอย่างนั้นแหละครับ แกเกษียณแล้วก็ไม่เคยกลับไปอยู่ ยังอยู่บ้านเช่าเดิมที่อยู่มา 50 ปี คนทำงานบริษัทมาทั้งชีวิตแถมเข้าวัยชรา กลับไปปลูกผักปลูกหญ้าไม่ไหวแล้วครับ สิ่งที่ตอบโจทย์จริงๆคือ ความสะดวก การเข้าถึงทางการแพทย์ และการมีสังคม การเช่ามันไม่ได้แย่เลยตราบใดที่เราวางแผนการเงินสำหรับเกษียณมาดี ทุกอย่างจบแฮปปี้มากครับ
ซื้อบ้าน ปลูกบ้านที่ต่างจังหวัดสิคะ
ในกทม.ใช้วิธีเช่าเอา เช่าไว้อยู่อาศัย เช่าใกล้ๆที่ทำงาน ไม่ต้องเสียค่ารถ ค่าเดินทาง
แต่ถ้าคนพอมีกำลัง งานมั่นคง การเลือกใช้ชีวิตแบบเจ้าของคอมเม้นท์มันก็ดี
แต่หลังจากยุคโควิดมา ยังไงก็ขอมีเงินสดสำรอง ไม่ผ่อนอะไรที่หนักตึงมือเกินไป
คนรอบข้างพูดกรอกหูกดดันเรามากว่าให้ซื้อบ้านหรือคอนโด แต่เราขี้เบื่อมากกก อยู่ที่เดิมนานๆไม่ได้ ไม่กล้าซื้อเลย
ถ้าเราปล่อยให้ต่างชาติมาซื้อมาขายตามความพอใจ วันนึงมันก็คงจะแพงจนคนทั่วไปซื้อไม่ได้ บ. มหาชนชอบใจแต่คนไทยเก๊กซิมค่ะ
นโยบายที่ดี ขอแค่เรืองปัจจัย4 โครงการบ้านหลังแรกราคาถูกควรออกมา และต้องมีมาตรการควบคุมการโกงกินให้มากกว่าเดิม
บ้านผ่อนหนักมาก เราผ่อนเดือนละ2หมื่นแทบอ๊วกปีที่3นี่แทบท้อ ตอนนี้เหลือหนี้ล้านห้า ปล่อยเช่ามีเงินเหลือแล้ว ชีวิตค่อยโล่งหน่อย เข็ตแล้วหนี้ก้อนใหญ่ เหนื่อยหลาย
ถ้าคิดว่าอยากมีบ้านก็จะได้ ไม่ต้องคิดว่ายังไง มันก็จะมีเอง เคยคิดไว้ ไม่เคยคิดว่าจะผ่อนยังไง แต่สุดท้ายก็ผ่อนได้หมดใน 3 ปี เอาจริงๆ สมัยเรามันก็แพงนั้นแหละ เอาจริงๆ คิดว่าจะได้ในหัว มันก็จะได้ในชีวิตจริง
หนูก็พึ่งซื้อบ้านไปค่ะ 2.1 ล้านบาท ระยะเวลาผ่อน 40 ปี แต่คงไม่ผ่อนนานขนาดนั้นค่ะ ดอกเบี้ยก็เอาเรื่องอยู่นะคะ 4.1% จะโปะให้หมดไวไวเลยค่ะ .
@@สุณีกรประสิทธิ์ มีเงินก็โปะไวไวค่ะ จ่ายเพิ่มจากที่ผ่อนปกติไปดีกว่าไม่เพิ่มเลย แต่ เอาที่ไหวไม่เดือดร้อน พอครบสามปีก็รีไฟแนนซ์ให้ดอกเบี้ยมันลดลง หรือไม่ก็เปลี่นธนาคารถ้าศักยภาพไปไหวนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ หนูก็มีสินทรัพย์เป็นของตัวเอง อนาคตอยากจะทำอะไร ก็มีต้นทุนเล็กๆ 😊
ตอนเราเริ่มทำงาน ก็คิดงี้ละ ซื้อรถทำไม ซื้อคอนโดทำไม
แต่พอวัยมากขึ้น 30+ ก็ซื้อหาตามที่สมควรว่าชีวิตควรจะมี จะได้ทำงานสะดวกสบาย คอนโดค่าผ่อน ก็เอาเท่าที่ตนเองสบาย คือพอพอกับค่าเช่าห้องเลย
ถ้ามีเงินพอ ใครๆ ที่ต้องใช้ชีวิตในเมือง ใน กทม ก็อยากมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ส่วนชีวิต ตจว ชนบท ก็อีกแบบนึง
ผมว่าก็ไม่จริงขนาดนั้นนะ ใครจะอยากจ่ายค่าเช่าจนเกษียณละครับ ตัวผมเองซื้อบ้านก่อนรถอีก เพราะไม่งั้นชีวิตก็ไม่มีเป้าหมาย ไม่มีถ้วยรางวัลให้ชีวิตเลย
ถ้าทำเลไม่ดีก็ไม่คุ้มที่จะซื้อ บ้านนอกเขตเมืองเห็นติดป้ายขายกันเยอะมาก
ซื้อมาอยู่นะจ๊ะ
@@zeta2691 ติดเยอะแต่ราคาก็ยังแพงทั้งที่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ขนาดทาวน์เฮาส์ตอนแรกเห็นติดไว้1.2 ล้าน ผ่านไปปีเศษๆ2ล้านแล้ว
ปัจจุบันการขยายตัวของเศรษฐกิจเร็วมากครับ
มองจากพื้นที่ที่เราอยู่..ร้านค้าเพิ่มขึ้น..ตลาดเพิ่ม
เป้าหมายในชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกันนะครับ บางคนก็ไม่ใช่บ้านไม่ใช่รถ
โลกใหม่ = วิธีคิดใหม่ = คนรุ่นใหม่ ..สู้ฯ ครับ
ถ้าอายุ 40 ปี จะซื้อคอนโดเงินสดดี หรือว่า เช่าไปเรื่อยๆดีครับ
(หากเอาเงินก้อนไปซื้อก็จะใช้เงินที่เหลือติดๆขัดๆหน่อย แต่หากเช่า ก็จะมีเงินเหลือใช้สบายๆไปอีกเป็นหลายๆปี)
เช่าบ้านในวัยทำงานๆ เก็บเงินๆ หลังเกษียณก็ไปหาบ้านบ้านพักคนชราอยู่รอวันตุย ก็not badนะ น่าคิดๆ ถ้าคิดจะอยู่แบบโสดๆแบบไม่สร้างภาระ 😂😂😅😊
การสร้างความมั่นคง คือการซื้อทรัพย์สิน สมบัติเพื่อสร้าวอนาคต ? การ มีความคิดแค่เช่า ถือว่าไม่มีการวางแผนอนาคต เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับตัวเราเอง ?สัญญาเช่า แตกต่างจากสัญญาซื้อขายอย่างไร ? อสังหาริมทรัพย์ ตึก แตกต่างจากบ้านพร้อมที่ดิน เพราะ การคิดค่าเสื่อมราคา แตกต่างกัน ?
อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวนะ
จบจากมหาลัย ทำงานในเมือง ให้เช่า ถ้าไม่ได้อยู่ที่เดิมเกิน สิบปี
จากนั้นเก็บเงิน ในรูปแบบหุ้น หรือ เงินฝาก (เพื่อทำ statement) แล้ว
ให้ย้ายไปทำงานต่างประเทศ จากนั้นเก็บเงินมาซื้อบ้านที่ไทย ไว้อยู่ตอนแก่ 😅
อ่านคอมเม้น อยากจะแนะนำ เงินเดือน 20,000 ก็ซื้อได้ เริ่มจากเล็กๆก่อน คอนโด6-7แสนก็มี อยู่ในซอย มอเตอร์ไซรับจ้างก็ขึ้นไปซิ รถอย่าเพิ่งไปซื้อ ผ่อนหมดก็ขาย ขยับขยายต่อไป ค่าผ่อนก็พอๆกับค่าเช่า เช่าเมื่อไหร่ จะมีเป็นของตัวเอง มันไม่มีวันพร้อมหรอกถ้าไม่เริ่ม
ประเด็นที่น่าคิดคือ 1.หลังเกษียณเรายังต้องจ่ายค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นทุกปีไปเรื่อยๆขณะที่รายได้ประจำไม่มีเข้ามาแล้วเราจะทำอย่างไร 2.เราไม่มีบ้านเป็นของตัวเองแล้วเราเอาเงินไปออมในอะไรการออมนั้นทำให้คุณมีเงินมากขึ้นกว่าราคาบ้านจริงหรือ
แต่ถ้าผ่อนบ้านไม่หมดก็ไม่มีที่ซุกหัวนอนเช่นกัน แถมประวัติเสียเพราะติดคดีด้วย
ผ่อนไปดิ 30-40ปี มีปัญหากับเพื่อนบ้าน ย้ายหนีก็ไม่ได้ ตกงานงานขึ้นมาเมื่อไหร่ ได้รู้แน่😂😂
จะซื้อบ้านต้องมีเงินเดือนที่สูง ถ้าสมมุติเงินเดือน20000 ยังต้องคิดเลยเพราะเงินเดือนไม่ได้สูงเท่าไหร่ อย่างต่ำควรได้ 30000up ไม่มีภาระ ผ่อนหลายอย่าง ในหัวนี่ยังคิดเลยอยากมีคอนโดเป็นของตนเองเลยอยู่นอกกรุงเทพแถวปริมณฑล เพราะอยู่บ้านมันอึดอัด อยากมีพื้นที่ส่วนตัวบ้าง โตแล้วก็อยากแยกจากพ่อแม่ไปมีชีวิตส่วนตัวไปอยู่คนเดียวบ้าง ทำอะไรแทบไม่มีความส่วนตัว โดนจับตามองตลอด ถ้าได้เงินเดือนสูงๆก็ยอมหาคอนโดใกล้บ้านนอกกรุงเทพ เก็บเอาไว้เผื่ออยู่คนเดียว อยากมีความเป็นส่วนตัว
ส่วนเรื่องการเช่า - เข่าอพาร์ตเมนต์ดีกว่า เพราะราคาต่ำกว่าเช่าคอนโด
ส่วนคอนโดถ้าจะอยู่ซื้อดีกว่า ถ้าได้งานที่ดีมั่นคงเงินเดือนพอที่จะกู้และผ่อนได้ ถ้าสมมุติ 20000 ยังคิดหนัก หรือพวกได้ 18000 ก็ควรหาแบบเช่าดีกว่า
ถ้าเช่าคอนโดมันแพงกว่า แถวบ้านอย่างต่ำ 5500 -10000 ถ้าคอนโดมีเกรดดีหน่อยก็หมื่นอัปราคาสูง อันนี้ไม่ได้อยู่กรุงเทพค่าเช่าคอนโดราคานี้นะ แล้วอย่าลืมมีค่าน้ำไฟ และค่าอินเตอร์เน็ต ค่าโทรศัพท์ ค่ากินอยู่ ค่าเดินทางไปทำงาน ถ้ารถไม่มี เดินทางรถสาธารณะ
ส่วนเรื่องผ่อนบัตรเครดิตก็ต้องจ่าย - ถ้าได้งานเงินเดือนสูง ยอมจ่ายโปะปิดยอดไปเลย ปิดบัตรไม่ใช้แล้ว แล้วค่อยมาคิดเรื่องคอนโด ผ่อนจ่ายเป็นเรื่องๆไปมันดีกว่า ผ่อนนั่นนี่หลายอย่างในเวลาเดียวกัน หนี้ท่วมหัว
ถ้าครอบครัวไหนมีพ่อแม่ที่มีฐานะเค้าซื้อสดไปเลย ไม่ผ่อนเป็นหนี้ระยะยาว อย่างญาติเราเค้าได้เงินจากการขายที่ดิน เค้าก็เอาเงินไปซื้อคอนโด ซื้อแบบจ่ายเงินสดไม่ผ่อน แต่จะมีใครที่มีเงินขนาดนั้นล้ะ การผ่อนคือทางที่ปลอดภัยสุด ถ้าเงินเดือนไม่เยอะ งานไม่ได้มั่นคงก็ไม่ควรซื้อ เช่าอพาร์ตเมนต์ดีกว่าราคาต่ำกว่าคอนโด
คำถามคือสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน แนวคิดการบริหารงานของรัฐบาลที่ห่วยแตกคนรุ่นใหม่จะได้มีอายุเกษียณอยู่ไหม??????????
เทรนฝรั่งนะครับ ที่ผมทำงาน ฝรั่งก็เช่าระยะยาวเหมือนมีกรรมสิทธิ์ ราคาซื้อกับเช่าต่างกันเยอะอาจจะมากว่าครึ่งต่อครึ่่ง
ขอบคุณครับ
บางทีค่าเช่า ก็แพงกว่าค่าผ่อนก็มี บ้านมือ2 ทำเลดีดีก็เป็นอีกทางเลือก ถ้าเบื่อก็ขายไปสิ ก็ยังได้เงินกำไร และที่ไม่กล้าซื้อ ก็น่าจะเกิดจากวินัยทางการเงินทีไม่ดีและความรู้ทางอสังหาที่ยังรู้กันน้อยมากกว่า
ไม่ใช่ไม่อยากมีบ้านเป็นของตัวเองใครก็อยากมีบ้านแยากมีรถ ตอนนี้แค่เลี้ยงตัวเองก็แทบจะไม่รอดแล้วครับจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อบ้านซื้อรถครับ
ชื้อ ได้ หรือ ไม่ ได้ ให้ฟังเยอะๆ ค่อยพิจารณา ซื้อแล้ว บอกเลย
มีค่าบำรุงรักษาต่อปีเบอะมาก
"เจ้าของ"เป็นเพียงความรู้สึกแต่เพิ่มภาระและไม่อยากอยู่ทำงานในประเทศเผด็จการปรสิต!
ผุ้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจยิ้ม😊 มีคนเช่า=รายได้
เพราะรัฐบาลมันไม่ควบคุมราคาบ้านและที่ดิน คนจนจะเอาอะไรซื้อครับถามหน่อย
ซื้อคอนโดมือสองคุณภาพดีที่สถาบันต่างๆนำออกมาขายสิ ราคาเบาๆ หกแสนถึงเก้าแสนคุณภาพดีทำเลดีมีเยอะแยะ
การทำงานพนักงานบริษัทในไทยรายได้น้อยและไม่มีความมั่นคงในการทำงานเนื่องจากระบบทุนนิยม บริโภคนิยม ผมโชคดีหน่อยมีที่ดินของตัวเอง เก็บเงินสร้างบ้านเองราคาถูกกว่าซื้อหมู่บ้านจัดสรร
โรคโควิด เป็นบทเรียน ใครทำงานก็คิดแล้วว่ามั่นคง กู้ได้ผ่อนได้ จบเรียนมาเข้าทำงาน คิดแค่เฉพาะอยู่คนเดียวยังไม่เหลืออะไร ผ่อนๆไปครึ่งๆกลางๆ ส่งไม่ไว โดนฟ้องไปๆมาๆชีวิตบ้านปลายชีวิต ไม่เหลืออะไรเลย ตามจริงต้องคิดความเป็นจริง ถามโควิดจบแล้ว หนี้ที่ผ่อนส่งบ้านจำนวนกีราย อะไรๆก็สร้างโครงการบ้าน ผลประโยชน์ใครได้กันแน่ ตลาดหลักทรัพย์ก็ดี ผู้ถือก็ได้ปั่นผล เศรษฐกิจของประเทศก็ดีขึ้นราคา แต่คนมีเงินเดือนผ่อนไหวไหม คิดง่ายๆต้มยำกุ้ง จบแล้วคิดว่าคนที่รอดจากการถูกยึดบ้านมีเท่าไร โควิดจบ หนักกว่าต้มยำกุ้งอีก บริษัทปิดกิจการ ลดพนักงาน ค้าขายสะดุด แม้จะมองในแง่ลบแต่คิดให้รอบคอบดีกว่า
คนเก่งเงินเดือนเยอะ ก็เปลี่ยนงานบ่อย ที่ไหนให้สูงๆ สวัสดิการณ์ดี ก็เปลี่ยนงาน เปลี่ยนที่อยู่ ส่วนคนทำงานเงินเดือนต่ำก็ไม่มีเงินผ่อนครับ
อยากมีนะ ถึงจะวางแผนการเงิน กับมั่นใจว่า 5 ปีจากนี้ มีสำรองพอไหวสำหรับผ่อน แต่หลังจากนั้น ไม่มั่นใจตัวเองเลย ยิ่งเป็นคนตัวคนเดียว ยิ่งคิดหนัก แต่ถือว่าโชคดีมากว่ามีบ้าน มีที่ที่ ตจว แก่ก็แค่กลับบ้าน
อายุใกล้ 40 แล้ว อยากย้ายกลับไปทำงานที่สำนักงานฯ ภาค ใช้เงินเดือนราชการ 40,000-50,000 บาท/เดือน เพื่ออยู่บ้านตัวเองที่ตัวเองเป็นเจ้าของ ไม่วังวนระบบขนส่งเพราะสมัยนี้ซื้อสินค้าออนไลน์ส่งได้ทั่วไทย 7-11 แมคโครก็มี ห้างก็มี การศึกษาก็เรียนรู้ได้ทุกแห่ง สบายๆๆ
ส่วนใหญ่ก็อยากได้กันทั้งนั้นแหละ ยังไงบ้านก็คือพื้นฐานของปัจจัย4 ไม่ซื้อตอนมีกำลัง มีแรง แล้วจะไปซื้อตอนไหน จะรอ30+ 40+ ธนาคารก็ปล่อยกู้ยากแล้ว ท้ายที่สุดยามแก่ตัวไปเราก็ยังอยากอยู่บ้านที่เป็นหลักเป็นแหล่งอยู่ดี
อยากซื้อบ้านนะ...แต่กลัวผ่อนไม่ไหว...รอเก็บเงินดาวน์ สัก 30% ค่อยว่ากัน
ค่าเช่าที่นิยมในกลุ่มคนทำงานคือ 6000-8000 บาทต่อเดือน