ฎีกา InTrend ep.79 ผู้ที่ปิดท่อระบายน้ำทำพนังกั้นน้ำและถมกลบลำรางในที่ดินตัวเองจะต้องรับผิด....
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 20 ก.ค. 2022
- ฎีกา InTrend ep.79 ผู้ที่ปิดท่อระบายน้ำทำพนังกั้นน้ำและถมกลบลำรางในที่ดินตัวเองจะต้องรับผิดกรณีน้ำท่วมที่ดินข้างเคียงหรือไม่
The Host : กองสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ สำนักงานศาลยุติธรรม
Guest Host : สรวิศ ลิมปรังษี
ที่ปรึกษา : สรวิศ ลิมปรังษี, อรวรานันท์ ธนาพันธ์วรากุล
Show Creator : นันทวัลย์ นุชนนทรี, ศณิฏา จารุภุมมิก
Episode Producer & Editor : ศณิฏา จารุภุมมิก, ปนัสยา ชื่นอุระ
Sound Designer & Engineer : กฤตภาส ทองแจ้ง, กิติชัย โล่สุวรรณ
Coordinator & Admin : สุภาวัชร์ ดลมินทร์, โสรัตน์ ไวศยดำรง
Art Director : สุภาวัชร์ ดลมินทร์
Webmaster : ผุสชา เรืองกูล, วชิระ โรจน์สุธีวัฒน์
การที่ที่ดินอยู่ติดกันทำให้อาจมีบางกรณีที่ที่ดินแปลงหนึ่งอาจต้องรับภาระบางอย่างที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติอยู่บ้าง แต่หากมีการกระทำที่ทำให้การรับภาระดังกล่าวเปลี่ยนแปลงย่อมส่งผลกระทบต่อบุคคลที่มีที่ดินอยู่ใกล้เคียง กรณีที่จะนำมากล่าวถึงในตอนนี้จะเป็นปัญหาที่เจ้าของที่ดินปิดท่อระบายน้ำ ทำพนังกั้นน้ำถมกลบลำรางในที่ดินตนเองเป็นเหตุให้น้ำในที่ดินข้างเคียงไม่มีทางระบายกรณีเช่นนี้จะทำให้เจ้าของที่ดินนั้นต้องรับผิดหรือไม่ และการเยียวยาจะทำได้อย่างไร
นายมีนากับนายเมษามีที่ดินอยู่ใกล้เคียงกัน โดยมีที่ดินแปลงอื่นคั่นอยู่ เดิมที่ดินบริเวณดังกล่าวเคยเป็นของนางกุมภา แต่ได้มีการแบ่งแยกขาย โดยได้มีการแบ่งที่ดินส่วนหนึ่งทำเป็นถนนผ่านเข้าไปกลางพื้นที่เพื่อทำให้สามารถเข้าถึงที่ดินด้านใน ๆ ได้อย่างสะดวกมากขึ้น ที่ดินดังกล่าวมีด้านหนึ่งติดกับถนนบ้านบึง-แกลง โดยใต้ถนนบ้านบึง-แกลงมีการฝังท่อระบายน้ำให้น้ำไหลจากฝั่งหนึ่งของถนนไปยังฝั่งตรงข้าม
ในบริเวณที่ดินที่มีการแบ่งแยกนั้น ได้มีการทำท่อระบายน้ำฝังอยู่ใต้ถนนที่ทำผ่านกลางที่นั้นเพื่อให้น้ำไหลไปลงท่อระบายน้ำแล้วผ่านไปทางลำรางที่อยู่ในที่ดินของนายเมษาเพื่อออกไปทางท่อระบายน้ำที่อยู่ใต้ถนนบ้านบึง-แกลงระบายออกไปลงคลองชุมแสง เดิมหากฝนตกหนักก็จะมีน้ำท่วมขังอยู่บ้างแต่ไม่นานก็จะระบายแห้งไป
ต่อมานายเมษาอ้างว่าน้ำที่ไหลผ่านมาทางที่ดินของนายเมษามีเศษไม้และของเสียจากบ่อปลา รวมทั้งสารเคมีด้วยทำให้ต้นยางพาราในที่ดินของนายเมษาเสียหาย นายเมษาจึงได้ทำคันดินในบริเวณที่ของตนเอง ปิดปากท่อระบายน้ำและทำพนังกั้นน้ำ ทำให้น้ำไม่สามารถไหลออกไปสู่คลองชุมแสงได้เป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมขังในที่ดินของนายมีนา ทำให้ต้นไม้และปลาที่นายมีนาเลี้ยงไว้ตาย นายมีนาจึงได้มาฟ้องนายเมษาเรียกค่าเสียหายและให้จัดการให้ที่ดินของนายเมษาเองกลับไปอยู่ในสภาพเดิม
ข้อเท็จจริงประการหนึ่งในคดีเรื่องนี้คือ การกระทำทั้งหมดของนายเมษาไม่ว่าจะเป็นการทำพนังกั้นน้ำ การปิดปากท่อระบายน้ำหรือทำคันดินล้วนแต่เกิดขึ้นในเขตที่ดินของนายเมษาเอง เพียงแต่ผลของการกระทำนั้นส่งผลกระทบต่อเจ้าของที่ดินข้างเคียงด้วย จึงต้องพิจารณาดูว่าการใช้สิทธิของนายเมษานี้เป็นการใช้สิทธิอันสมควรที่สามารถกระทำได้ตามกฎหมายหรือไม่
ในเรื่องของน้ำที่เกิดจากฝนที่ตกมาตามธรรมชาติ น้ำย่อมต้องไหลจากที่ที่สูงกว่าไปยังที่ที่ต่ำกว่าตามแรงโน้มถ่วงของโลก และโดยธรรมชาติน้ำย่อมไหลไปสู่แม่น้ำลำคลองที่เป็นทางน้ำตามธรรมชาติต่อไป ด้วยเหตุนี้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1339 จึงได้กำหนดให้เจ้าของที่ดินที่อยู่ต่ำกว่าต้องยอมรับน้ำที่ไหลมาจากที่ดินที่สูงกว่าที่ไหลตามธรรมดามาสู่ที่ดินของตน
ในกรณีที่เป็นน้ำที่มีเกิดจากการระบายมาจากที่ดินที่อยู่สูงกว่า มาตรา 1340 ก็ได้กำหนดไว้คล้ายกันว่าหากเป็นกรณีที่ปกติก่อนมีการระบายนั้น น้ำก็ไหลจากที่ดินที่สูงกว่ามาในที่ดินใกล้เคียงที่อยู่ต่ำกว่าอยู่แล้ว เจ้าของที่ดินที่อยู่ต่ำกว่าก็ต้องยอมรับให้น้ำระบายผ่านมายังที่ดินตนได้ เพราะไม่เช่นนั้นน้ำย่อมไม่มีทางระบายต่อไปยังทางน้ำตามธรรมชาติได้และจะเกิดการท่วมขัง
กรณีระหว่างนายมีนากับนายเมษานี้ ที่ดินของนายเมษาอยู่ต่ำกว่า โดยปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีลำรางที่ปกติน้ำไหลผ่านที่ดินของนายเมษาเพื่อออกไปสู่ท่อที่อยู่ใต้ถนนสายบ้านบึง-แกลงและไหลต่อไปสู่คลองสาธารณะอยู่ก่อนแล้ว
นายเมษาย่อมมีหน้าที่ต้องยอมให้น้ำที่ไหลจากที่ดินของนายมีนาที่อยู่สูงกว่าไหลผ่านที่ดินของตนเพราะเป็นการไหลของน้ำตามธรรมชาติ ไม่ได้เกิดจากการที่นายมีนาไปทำการสูบน้ำเพื่อให้น้ำเปลี่ยนทิศทางจากทางน้ำตามธรรมชาติเข้าไปยังที่ดินของนายเมษา
เมื่อนายเมษาไปปิดปากท่อระบายน้ำ ทำพนังกั้นน้ำและทำคันดินจนเป็นเหตุให้น้ำไม่สามารถไหลผ่านที่ดินของนายเมษาได้และเกิดการท่วมขังในที่ดินของนายมีนาจนทำให้ต้นไม้และปลาที่อยู่ในที่ดินของนายมีนาตายจึงถือเป็นการใช้สิทธิที่มีแต่จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น นายเมษาจึงต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นและยังมีหน้าที่ต้องทำสภาพที่ดินให้กลับคืนดังเดิมเพื่อให้น้ำสามารถไหลผ่านไปสู่คลองสาธารณะได้
กรณีนี้คงสรุปได้ว่าหากเป็นน้ำที่ไหลตามธรรมชาติจากที่ดินสูงไปยังที่ดินต่ำกว่า เจ้าของที่ดินที่ต่ำกว่าต้องยอมให้น้ำไหลหรือระบายตามธรรมชาติผ่านที่ดินของตนไปได้ หากไปกระทำการใดที่เป็นการกั้นขวางไม่ให้น้ำไหลผ่านจนเกิดความเสียหาย เจ้าของที่ดินที่กระทำการนั้นต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายและทำสภาพที่ดินให้กลับคืนดังเดิมด้วย
(คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 660/2564)
มีคำพิพากษาฉบับเต็มไหมครับอาจารย์ ผมค้นหาไม่เจอเลยครับ
ขอบคุณมากๆค่ะ เจอปัญหาแบบนี้พอดีค่ะ
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีค่ะ กำลังเจอปัญหานี้พอดีค่ะ
ต้องไปฟ้องร้องที่หน่วยงานไหนครับ
ชอบมากครับ
สวัสดีครับ.ขอขอบคุณการเผยแพร่ความรู้กฏหมายที่มีประโยชน์อย่างยิ่งครับ.
เพื่อนบ้านขุดสระปิดท่อระบายน้ำ.เดิมมี2ท่อท่อใหญ่1ท่อท่อเล็ก1ท่อ.ท่อใหญ่เขาใช้ท่อเล็กต่อ.ส่วนท่อเล็กเขาปิดเลยแล้วน้ำไหลมาบ้านผมต้องทำอย่างไรครับ
ถ้ามีปัญหาจะแจ้งเรื่องใด้ที่ใหนครับ
ขอสอบถามคะ หนูกำลังเจอปันหาแบบนี้ แต่ถ้าตอนซื้อที่ดินมา เจ้าของเดิม ได้ถมที่ดิน ที่เป้นรางน้ำ ที่ไม่ใช่ทางน้ำสาธารณะประโยชน์ แล้วได้ขายที่ดินให้หนู กรณีนี้หนูผิดมั้ยคะ
ถมก้ต้องมีทางให้น้ำไหลได้ครับ
ขอบคุณความรู้ด้านกฎหมายเรื่องนี้ค่ะ กำลังเจอปัญหาน้ำท่วมสวน จากกรณีถูกปิดกั้นร่องระบายน้ำ