ขอบคุณค่ะ เป็นเรื่องที่อยากฟังและตรงกับชีวิตช่วงนี้พอดี😢 ฟังเสร็จแล้วย้อนกลับไปฟังคลิป how to รักตัวเอง ที่คุยกับคุณดุจดาวใน the standard เมื่อ 3-5 ปีที่แล้ว กลับมาตั้งสติได้ค่ะ🍀
เมื่อก่อนเป็นคนใจร้อนมากๆ ได้วิธีแก้ส่วนใหญ่มาจาก Mission To the Moon อ่านหนังสือฟังธรรมะ ทำจิตใจให้สงบออกไปเดินทางทำอะไรใหม่ๆ ทำให้ร่างกายเย็นขึ้น ตัดสินใจงานได้ดีขึ้นค่ะ❤
ตอนนี้
1. นั่งสมาธิวันละ 10-15 นาที มาประมาณ 1 ปีแล้วค่ะ ( 1 เดือนมีแค่ 2-3 วันที่พักค่ะ) นั่งช่วงเช้า ชีวิตค่อยๆดีขึ้นมากๆ จิตใจผ่องใส สงบ และมีความสุขมากขึ้นค่ะ
2. ออกกำลังกายแบบสม่ำเสมอ (ปีกว่าๆ) เน้นเวทเทรนิ่ง สัปดาห์ละ 3 วัน ร่างกายแข็งแรงขึ้นมากๆ รูปร่างดีขึ้น มีความมั่นใจมากขึ้น
3.อ่านหนังสือ และ ฟังpodcast บ่อยขึ้น
ทั้ง3 กิจวัตร เราทำควบคู่กันได้ปีกว่าๆ ชีวิตดีขึ้นทุกๆด้านเลยค่ะ ขอบคุณทางช่องมากๆที่ให้แบ่งปัน และให้แนวทางการพัฒนาตนเอง ขอให้ช่องเติบโตยิ่งๆขึ้นไปนะคะ🎉
ส่วนตัวทำงานประจำ หลังเลิกงานก็รับงานเพิ่ม รู้สึกยุ่งพลังหมดนอนก็ฟุ้งซ่าน แต่เดี๋ยวนี้ดีขึ้นมากจากเรื่องง่าย ๆ ที่เป็น Hight energyสำหรับเรา คือการ ทำอาหารกินเอง โฟกัสที่การเลือกซื้อของแบบพิถีพิถัน การหั่น การปรุง เป็นช่วงเวลาที่รู้สึกมีความสุขและสงบมาก แถมได้พลังงานดีๆจากอาหารที่ทำเองด้วย อีกอย่างคือการเลิกนอนไปกับมือถือ เแล้วเอาเวลาก่อนนอนลูบแมว นั่งมอง นั่งสรุปเรื่องราวทั้งหมดของวันให้แมวฟัง พากันทำสมาธิเปิดเสียงธรรมชาติสัก 10 นาที เสร็จแล้วก็นอนไปด้วยกัน ทำแบบนี้วนไป รู้สึกง่าย ไม่กดดัน เป็นวงจรชีวิตที่ทำได้ทุกวัน และเห็นผลดีในชีวิตการทำงานมากค่ะ :)😊
เป็นวิธีการที่น่ารักมาก บางคืนก็คุยกับแมวแล้วนอนไปด้วยกันเช่นกันค่ะ❤
เย็นลงได้จากนั่งสมาธิ ก่อนนอน วันละ10-20นาทีทุกวันค่ะ ถึงจะยังเย็นไม่สนิทจริงๆ แต่ก็ช่วยได้เยอะขึ้นมากค่ะ
@@halulua จริงมากครับ
เย็นเพราะ คิดว่า ชีวิตเรามันสั้นเกินกว่า จะไปทำให้ตัวเอง หมกมุ่น กังวลกับเรื่องไม่เป็นเรื่องที่ทำให้เรา ไม่มีความสุข รู้ทันตัวเองให้ไว แล้วรีบตัดให้เร็ว
👍
เย็นและสงบขึ้นได้ จากการนั่งสมาธิก่อนอนเริ่มวันละ 10 นาที อีกอย่างนึงคือการอยู่กับลมหายใจปัจจุบันขณะในระหว่างวัน เมื่อไหร่นึกไปถึงอดีต หรือกังวลกับอนาคต จะดึงกลับมาที่ลมหายใจปัจจุบันครับ ฝึกไปเรื่อยๆจนรู้สึกว่าปล่อยว่างกับเหตุการณ์ต่างๆในชีวิตได้ดี นิ่งและสงบ มากขึ้นครับ สุดท้ายผมเป็นเด็กรุ่นใหม่ครับ แต่รู้สึกสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่ล้าหลังหรือดูเป็นกิจกรรมของคนสูงอายุเท่านั้น ซึ่งมองว่าเป็น1ในสิ่งมหัศจรรย์ของชีวิต คือการรู้จักลมหายใจของตัวเองครับ
ผมเย็นลงจากการนั่งเฉยๆเงียบท่ามกลางต้นไม้เเละท้องฟ้าครับ ปิดมือถือห่างจากสื่อ social ผมอยู่บ้านนอกเลยได้สัมผัสบรรยากาศเเบบนี้เต็มๆ มันช่วยได้เยอะมากๆเลย เเล้วพร้อมที่จะจัดระเบียบความคิดใหม่สำหรับวันรุ่งขึ้นอีกด้วย
เย็นได้ด้วยการฝึกดูอารมณ์ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ลดการเล่น social media และนั่งสมาธิ ฝึกการเข้าใจผู้อื่น เห็นอกเห็นใจและไม่ตัดสินคน ใจเย็นขึ้นมากค่ะ
เย็นลงเพราะความคิด เพราะคิดเสมอว่า ถ้าคิดดี ก็จะรู้สึกดี อยากรู้สึกดีให้คิดในทางที่ดี เพราะไม่มีทุกอย่างที่ถูกใจเราเสมอไป
เรื่องนี้ทำให้เอามาปรับใช้ในช่วงชีวิตตอนนี้ได้เลยค่ะ ตอนนี้ชีวิตในการทำงานต้องอาศัย ความเย็น มากๆ แทบตลอดเวลา สิ่งที่รู้สึกว่าทำให้ การทำงานมันลดแรงปะทะมากขึ้นคือ การฟังอย่างตั้งใจ ตั้งคำถามที่ไม่เข้าใจ และก่อน ตัดสินใจทำอะไรจะเลือกที่จะขอเวลาในการคิดก่อน เพราะไม่อยากตัดสินใจภายใต้อารมณ์ที่กำลังแปรปรวนณขณะที่ฟัง รู้สึกได้จริงๆว่าความเย็นมันเกิดขึ้นแล้วมันก็ทำให้เราไม่เหนื่อยกับเรื่องที่ต้องตัดสินใจแม้จะเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่ดีก็ตามกลับมาบ้านก็ยังรู้สึกถึงความเย็นในจิตใจ ไม่รู้ว่าเป็นวิธีที่ถูกต้องไหมแต่โดยสรุปคือใบเตยจะเลือกที่จะฟังผู้พูดอย่างตั้งใจโดยที่ต่อให้เค้าจะเป็นคนที่เราชอบหรือไม่ชอบก็ตามและเลือกที่จะถามคำถามที่เราไม่เข้าใจอย่างสุภาพเพื่อให้นำมาประกอบการตัดสินใจและใช้เวลาอย่างใจเย็นในการตัดสินใจ
เรารู้สึกดีใจมากๆที่ mission กับเราค่อยๆเติบโตไปด้วยกัน แต่ก่อนเมื่อเทียบหลายปีก่อนๆ รายการจะเน้นชีวิตที่ productive มากๆ แต่ตอนนี้เหมือนค่อยๆกลับมาปรับสมดุลทั้ง กาย ทั้งใจ ให้มีดีขึ้นมากๆ ขอบคุณมากๆนะคะ❤❤
เย็นลงเพราะได้ไปหอมกอดจูบน้องแมว❤😂😂😽😽 ชื่นใจชื่นใจมีความสุขที่สุด
High energy ได้มาจากการฝึกสมาธิส่วนตัวจะพยายามฝึกสมาธิ 2 เวลาคือก่อนทำงาน กับ ก่อนนอน เพื่อที่จะให้ทุกอย่างมันสงบลงแล้วก็ทำให้รู้ตัวว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ แต่พอมีเรื่องพีค ๆ ระหว่างวันจะทำให้ตัวเองเย็นลงโดนการขอตัวเดินไห้องน้ำอยู่คนเดียวสักพัก เดินไปเดินมา ให้รู้สึกว่าหลุดโฟกัสจากเรื่องนั้นไปสักแปบ แล้วกลับมาลุยกับัญหาต่าง ๆ ต่อ #MissionToTheMoon
สิ่งที่ทำให้เย็นลงด้วยการฟัง podcast ช่อง mission to the moon เรื่องจริงแบบไม่อวยเลยค่ะ นอนฟังแล้วคิดตาม ได้ข้อคิดมากมาย
@@janglim3659 จริงเลยค่ะ ถ้าเริ่ม mindset ไม่ดีต้องรีบเปิดmission ฟัง
นั่งสมาธิก่อนนอน 10 นาที เช้า 10 นาที และไม่จับมือถือก่อนนอน 1 ชั่วโมง ไม่จับมือตอนตื่นเช้าอีก 1 ชั่วโมง ช่วยให้มีสติและสงบเย็นลงเยอะ รับรู้ถึงความโชคดีที่เจอทุกๆวัน แม้แต่เรื่องเล็กๆเราก็รู้สึกโชคดีและขอบคุณเรื่องเล็กๆเหล่านั้นได้เองอัตโนมัติ
มีคำสอนของพระอาจารย์ได้กล่าวว่า ยิ่งเรามองเห็นตัวเองมากเท่าไรเราก็เห็นคนทั้งโลกไม่ต้องไปเพ่งเล็งผู้อื่นให้ดูตัวเราเองเพราะมนุษย์มีกิเลสตัวเดียวกัน
@@somtumsap9887 เฉียบคมมากครับ
ชีวิตเริ่มมีความเย็นขึ้นหลังจากการไปฝึกสมาธิจริงจังเมื่อสามปีก่อนจากการได้รับคำแนะนำให้ไปปฏิบัตธรรม หลังจากนั้นก็เอาทริคจากการฝึกอยู่กับลมหายใจมาใช้ในชีวิตจริง และยังไปฝึกอยู่จนถึงทุกวันนี้ เพราะเมื่อเราออกมาใช้ชีวิตก็มักจะได้รับบททดสอบใหม่ๆเสมอ พอเรื่องใหม่ที่ใหญ่ขึ้นเลเวลการรับมือของเราอาจยังไม่เท่าทันมันทำให้อารมณ์เข้าควบคุมง่าย จึงต้องเติมมันอยู่เสมอเพื่อมีสติจัดการปัญหาและไม่ไหลไปกับอารมณ์ชั่ววูบที่เข้ามาค่ะ
เย็นลงได้เพราะอ่านหนังสือคะ เกี่ยวกับการพัฒนาตัวเองหรือรักตัวเอง รู้สึกว่าใจเย็นและมีสติมากขึ้นคะ
สิ่งที่ทำให้เย็นลงคือการมีสติรู้ตัวว่าตัวเองกำลังร้อนค่ะ พอเรารู้ตัวแล้วการทำให้ตัวเองเย็นลงจะง่ายขึ้น
สิ่งที่ทำให้เย็นขึ้นคือประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาค่ะ เจอเรื่องราวหรือคำพูดใดๆเอามาคิดทบทวนและจดจำค่ะ บางทีเรื่องบางเรื่องก็วนมาแบบเดิม ทำให้เรารู้สึกว่า..ไม่ว่าจะยังไงก็จะวนมาเหมือนๆเดิม สู้เรานิ่ง เย็นและใช้สติจะดีกว่าค่ะ(ใช้หลักการหายใจเข้าออกลึกๆ นับ 1-10 และเงียบ นิ่ง คิด ดีกว่า)
การออกกำลังกายค่ะ เหงื่อที่ออกมายิ่งเยอะยิ่งเย็นลง จนตอนนี้เสพติดการออกกำลังกายแล้วค่ะ😂
เย็นลงได้จากการอยู่กับตัวเองในพื้นที่สีเขียวกับธรรมชาติ ได้ลองปลูกผัก เเล้วรดน้ำมันทุกวันได้เห็นมันเติบโต ได้เก็บเกี่ยวผลผลิต เเละได้เเบ่งปันผลผลิต รู้สึกได้เลยว่าโดพามีนหลังอย่างมาก จากประสบการณ์เเนะนำลองทำดูครับ มีความสุขมากครับ
ขอบคุณที่ทำคอนเทนเตือนสติอยู่เรื่อยๆนะคะ ทุกครั้งที่ระบบชีวิตรวน ดึงตัวเองกลับมาได้เพราะฟังช่องนี้ทุกที
การทำให้ตัวเองเย็นตัว ส่วนตัวคือรีบหายใจลึกๆและช้าๆค่ะ แค่ 3 ลมหายใจก็สามารถลดความร้อน ความกดดัน ลงไปได้เยอะและรวดเร็วค่ะ
ทุกครั้งที่อารมณ์เสีย จะคิดเสมอว่า
เราก็ไม่สามารถแก้ไขหรือควบคุมสิ่งที่เกิดขึ้นไปได้แล้ว พอคิดได้แบบนี้จะเย็นลงทุกครั้ง จะดึงสติกลับมาเเละคิดเสมอว่าจะไม่เสียเวลาชีวิตไปกับสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้😌#MissionToTheMoon
เย็นลงได้เพราะมีมุมมองต่อชีวิต ว่า สุดท้ายมันก็เท่านี้ แบบ มันเท่านี้จริงๆ
ส่วนตัว High energy ได้มาจากการฝึกสมาธิ ฝึกการตื่นรู้ทางความอารมณ์เลยค่ะ ก่อนหน้านี้ชีวิตค่อนข้างแย่ เลยหันมาฝึกสมาธิ ฝึกการตื่นรู้ทางอารมณ์ ฝึกการตื่นรู้ทางความคิดของตนเอง รู้ทันความคิด ความรู้สึกว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้างณ ขณะนี้ มันแย่หรือดี แล้วเพราะอะไรที่ทำให้รู้สึกแบบนั้น ฝึกแล้วรู้สึกดีขึ้นมาก รู้สึกว่าตัวเองได้อยู่กับปัจจุบันมากขึ้นด้วย มีหันมาออกกำลังกาย งดเล่นโซเชียล ไม่ดูสตอรี่ ไม่ไถฟีดติ๊กตอกนานๆเป็น1-2ชม.เหมือนเมื่อก่อน บางวันเหนื่อยจากการอ่านหนังสือมากๆ มีออกไปเดินเล่นแถวบ้านรับลมเย็นๆ ซึ่งมันดีขึ้นมากๆๆ
#MissionToTheMoon
การนั่งสมาธิ ฝึกลมหายใจ เช้าและก่อนนอน กรณีรู้สึกเครียด หรือโกรธให้เดินออกมาจากตรงนั้นแล้วออกไปเจอลมเจอแดดข้างนอกบ้าง หรือการลุกไปเข้าห้องน้ำ ยึดเส้นยืดสาย ค่อยๆเดิน แล้วบอกตัวเองว่าเด๋วมันก็ผ่านไป เด๋วมันก็ผ่านไป ค่ะ 😊😊
สมัยก่อนผมเป็นคนที่อารมณ์ร้อนมากครับ ซึ่งตอนนี้ก็ยังมีครับ แต่ก็มองเห็นมากขึ้นพยายามใจเย็นหยุดคิดก่อนจะโต้ตอบ ส่วนเรื่องการนอนให้พอกับการออกกำลังผมคิดว่ามันเห็นผลจริงๆครับ มันอาจจะไม่เห็นผลทันทีที่ทำแต่มันทำให้เราดีขึ้น ทั้งในเรื่องของสุขภาพกาย และสุขภาพใจครับผม
เป็นคนใจร้อนค่ะ วิธีที่ใช้แล้วได้ผลคือฝึกการมีสติ ฝึกระลึกรู้ตัวค่ะ เหมือนโฟกัสกับปัจจุบัน จับความคิด ความรู้สึกตัวเองให้ทันค่ะ ตอนนี้โกรธแล้ว ตอนนี้เริ่มโมโหแล้ว พอจับมันได้ทัน รู้สึกว่ามันใจเย็นลง ไม่โมโหโวยวายหรือสติหลุดค่ะ #MissionToTheMoon
รีวิวนิดนึงศรีจันทร์ใช้ดีหลายตัว ทางนี้ใช้กันแดด แป้งโรยผม มอยซ์คือซื้อยกกล่อง หมดมาหลายกล่องแล้ว ❤🎉
สวดมนต์และะนั่งสมาธิก่อนนอนค่ะ ถ้ารู้สึกหงุดหงิดหรือโมโหก็ หายใจเข้าลึกๆ และที่สำคัญ ต้องมีสติตลอดเวลา ค่ะ
ขอบคุณครับ 😊
สิ่งที่ทำให้นิ่งขึ้น คือ การสวดมนต์ทุกเช้าครับ
ทำกิจกรรม ที่ส่งเสริม การมีสมาธิ กับตัวเอง
วิ่ง
เดิน
โยคะ
ปีนเขา
ว่ายน้ำ
อารมณ์เย็นขึ้น จากการฟังธรรมะ ครับ ฟังแล้วคิดตาม นำมาปฏิบัติ ระหว่าง ออกกำลังกาย ก็ฟังไปด้วยได้ครับ ได้ประโยชน์ ควบคู่กันไปครับ
ขอบคุณคุณประวิศคะ ชอบฟังมากๆตอนที่ว่างๆหมดไฟหรือโดดเดี่ยวเหมือนหนูพูดคุยกับใครไม่ได้เข้ามาฟังบ่อยมาก
เรา focus ช่วงเช้ากับก่อนนอนค่ะ สำคัญมากจริงๆ จะพยายามไม่แตะมือถือ (ยังมีหลุดบ้าง แต่จะแทนที่ด้วยการเปิดเพลง jazz เบาๆเป็น ambient ในห้อง และ focus กับตัวเอง เขียน journal และพยายามอยู่กับคนที่มี mindset ดีๆ จะช่วยให้เรา set mood ได้เย็นตามเขาค่ะ
#MissionToTheMoon
อ่านหนังสือ ให้ความคิดบวก ฟังบอร์ดแคส เพิ่มพลังบวก
การฝึกดูจิต หรือคอยรู้ทันอารมณ์ความคิดของตนเองไปเรื่อยๆค่ะ จากที่เมื่อก่อน เป็นคนที่ตอบโต้ไวมากๆ ไม่มีสติ รู้สึกว่าตัวเองมีสติมากขึ้น นั่งสมาธิก็ช่วยได้ค่ะ เอาเท่าที่แต่ละคนจะไหว ส่วนหนู นั่งบ้างไม่นั่งบ้าง แต่ในทุกๆอิริยาบถ พยายามรู้เนืัอรู้ตัว รู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ ฝึกแบบนี้ไปเรื่อยๆค้า ❤❤❤❤❤
ทำสมาธิและเล่นพิลาทิส ค่ะ
ช่วยทั้งร่างกายและจิตใจ
และขอขอบคุณคุณรวิศและทีมงานมากๆค่ะ ที่สร้างช่องนี้มา ติดตามมาประมาน3ปีแล้ว นำข้อมูลและวิธีคิดต่างๆไปใช้ ทำให้ชีวิตเราพัฒนาขึ้นเยอะจิงๆค่ะ ❤
1.การห่างโทรศัพท์ (โซเชียล)
2.ทำให้เกิดการนอนหรือการพักผ่อน
เมื่อพักผ่อนเพียงพอเราจะมีสติมากขึ้น
3.หากเจอเรื่องที่ต้องตัดสินใจให้หายใจเข้าลึกๆ จะทำให้เราตัดสินใจช้าลง และดีขึ้น
นึกถึงว่า เวลาเราทำอะไรไม่ดีกับใคร มันจะสะท้อนกลับมาที่ตัวเรา ทั้งความ toxic และภาพลักษณ์ สกิล การบริการ ช่วยทำให้ใจเยนค่ะ ไม่ว่าจะเจอลูกค้ายังไง เราต้องมีสติและรับฟังสิ่งที่ลูกค้าต้องการ สิ่งนี้เมื่อทำสม่ำเสมอ เราจะมีสติ ใจเย็น ช่วยเราได้ค่ะ อีกอย่างหนึ่งคือการวิ่งไกลค่ะ ระยะทางไกล ทำให้เราต้องใจเยน ไม่วู่วาม ค่อยๆเป็น ค่อยๆไปและ ควบคุมสติ เป็นนักวิ่งแบรนด์รองเท้าแตะ VING ค่ะ❤
ช่วงเวลาจิตใจวุ่นวาย เป็นเพราะนอนไม่ดีเป็นเรื่องจริงค่ะ ส่วนตัวจะชอบไปวิ่งออกกำลังกาย ไปเดินตามสวนสาธารณะ ฟังเสียงธรรมชาติ นั่งสมาธิ ช่วยได้ดีค่ะทำให้จิตใจสงบขึ้นค่ะ
ใช้ความนิ่ง ความเงียบ ตั้งสติ ไปโฟกัสที่ลมหายใจค่ะ
เมื่อก่อนอารมณ์ร้อนมาก เจออะไรมากระทบอารมณ์ จะสวน ตอนนี้คือดีขึ้นมากๆ จากการฝึกวิ่งมาราธอน ทำให้กลับมาดูแลสุขภาพ อาหาร นอนหลับ ออกกำลังกาย ฝึกสมาธิอยู่กับตัวเอง
ในที่ทำงานจะต้องพบเจอคนหลากหลาย หลายสไตล์ หลายอารมณ์ ไม่แปลกที่เราจะต้องทำงานร่วมกับคนที่มีความคิด ทัศนคติต่างกัน อาจนำมาสู่ปัญหาในอนาคตได้ ...การมี empathy เข้าอกเข้าใจว่าแต่ละคนเป็นยังไง และมีความต่างกัน ก็น่าจะทำให้รับมือกับผู้คนที่หลากหลายได้มากขึ้น สงบขึ้น เย็นขึ้นครับ
#MissionToTheMoon
อยู่กับตัวเอง และไม่เสพข่าวดราม่า เลือกดูในสิ่งที่สร้างพลังให้ชีวิต และรู้เรื่ิงคนอื่นให้น้อยลง #missiontothemoon
เย็นลงจากการรู้ิทันอารมณ์ตัวเองค่ะ โกรธอยู่ หิวอยู่เลยโมโหหิว นอนน้อยเลยไม่มีแรงอยากทำอะไร เย็นอีกรูปแบบก็คือ ทำอะไรที่อยากทำ และรู้ว่ามันดีมากขึ้น เช่น ระบายสี อ่านหนังสือ ไปที่ๆมีธรรมชาติ ประมาณนี้ค่ะ😊
#MissionToTheMoon
เป็นคนวัยยี่สิบต้นๆที่ต้องรับผิดชอบตัวเองและดูแลครอบครัว การอยู่กับตัวเองฝึกสมองให้ตัดความคิดลบเป็นอะไรที่เพิ่ม high energy มากๆค่ะ ววันหหยุดบางทีไม่ต้อองการไปเที่ยวเลยแค่อยากนอนพักและนั่งขีดเขียนทบทวน บางทีสถานการณ์มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น ต้องฝึกไม่ให้สงสารตัวเอง ไม่ให้เวทนาตัวเอง แต่เปลี่ยนไปเป็นให้กำลังใจตัวเองว่า ตัวเราแค่นี้แต่ทำได้ตั้งเท่านี้และจะทำได้ยิ่งๆขึ้นไปอยู่ในสังคมดีๆและหัดยิ้มแย้ม มองบวกค่ะ ทุกๆคนมีเรื่องทุกข์แต่เขาดูมีความสุขเพราะเค้าใช้ชีวิตกันอยู่ พอคิดแบบนี้แล้วมีพลังสู้ต่อค่ะ
สิ่งทำตัวเองเย็นได้คงเป็นการที่ไม่พยายามจับโทรศัพท์ นั่งทวนความคิดตัวเองสักแป๊บนึง พูดกับตัวเองว่าเป็นอะไร ต้องการอะไร หายใจเข้าลึกๆ พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นหาข้อดี ก่อนข้อเสีย เพื่อเข้าใจมัน และผ่อน
ใช้ชีวิตทุกๆนาที มีสติรู้ตนเองเสมอค่ะ ว่าทำอะไรอยู่ มีอดไรเกิดขึ้นตอนนี้
อย่างที่ในคลิปเราจะช้าลง ดีเลย์แต่มันคือการมีสติที่จะตอบ ที่จะแก้ไขปัญหาค่ะ
การรดน้ำต้นไม้ค่ะ ช่วยทำให้เราช้าลง ใจเย็นลง อยู่กับตัวเอง ฟังเสียงน้ำ ดมกลิ่นต้นไม้ สายตามองธรรมชาติ ค่อยๆได้กลับมาอยู่กับตัวเอง ฟังเสียงตัวเอง พูดกับตัวเอง
แบบนี้ดีค่ะ
เข้าใจ Emotional Independent ค่า เย็นลงได้คือการที่เข้าใจ รับรู้ และรับผิดชอบอารมณ์ของตัวเอง เช่น เพื่อนอาจทำให้เรารู้สึกโกรธ แต่เมื่อเพื่อนขอโทษแล้ว ถ้าเรายังโกรธอีก นั้นคือปัญหาของเรา... เพราะงั้น เข้าใจและรับรู้ว่าเรารู้สึกยังไง และรับผิดชอบมัน โดยการที่เราเลือกได้ ว่าโอเค รู้สึกแล้ว พอแล้ว ไม่สานต่อ 😊 สมาธิก็ช่วยได้ดีมากค่า
เย็นได้ด้วยการนอนครับ ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับเตียง
ใช่ค่ะ ทุกวันนี้ก้อทำวิธีนี้เลยค่ะ อะไรๆดีขึ้นมากค่ะ❤❤
เย็นได้เพราะการพูดดีๆแต่กับตัวเองแล้วก็ผู้อื่นค่ะ อยู่กับปัจจุบันให้มาก ใช้ชีวิตตอนนี้ให้ได้ที่สุด
อ.เก่งจังคะฟังไได้ข้อคิดกับชีวิตกับได้งานใหม่
หลายความคิดดีเยอะคะ
อ.วัยเดียวกันคะถึงบอกว่าอ.เก่งมากคะ❤🎉😅
ขอบคุณค่ะ เป็นเรื่องที่อยากฟังและตรงกับชีวิตช่วงนี้พอดี😢 ฟังเสร็จแล้วย้อนกลับไปฟังคลิป how to รักตัวเอง ที่คุยกับคุณดุจดาวใน the standard เมื่อ 3-5 ปีที่แล้ว กลับมาตั้งสติได้ค่ะ🍀
ผมใจเย็นลงได้จาก การคิดถึงผลที่ตามมา มันไม่ใช่ทำได้ง่ายๆ ต้องฝึก ลองนับดูครับ 1 วันเราใจร้อนกับอะไรไปบ้างทั้งหมดกี่ครั้งแล้วดูผลที่ตามมา
ขอบคุณมากๆครับ❤(ชอบเรื่องขาโต๊ะมากๆครับ)
เย็นลงได้จากการฝึกหายใจจากที่เคยร้อน พอหยุดนิ่งแล้วมาเพ่งที่ลมหายใจจากจมูก หายใจให้ช้าลง จับความรู้สึกว่าเรารู้สึกอย่างไรขณะนี้ จะเย็นและมีสติมากขึ้นเลยครับ
เริ่มจากตื่นเช้ามาออกกำลังกาย คุยกับตัวเอง ทานอาหารทำเอง(เลือกสารอาหารที่ไม่ทำร้ายร่างกาย)
ทำให้มีสมาธิมากขึ้น และรู้เท่าทันอารมณ์ตัวเองมากขึ้น
เมื่อรู้ทันอารมณ์ตัวเองก็สามารถจัดการกับเหตุการณ์ต่างๆที่เจอได้เย็นลง
คนเราเปลี่ยนตัวเองได้ (อย่างรวดเร็ว) “open mind" สำคัญมาก ฝึกฝนต่อไปไม่หยุดค่ะ
ฝึกตัวเองให้เย็นอยู่เสมอค่ะ ไม่ใช่แค่ฝึกช่วงเวลานึงนะคะ แต่ควรฝึกทุกครั้งที่มีโอกาสและสม่ำเสมอ ฝึกจากกิจวัตรที่ทำทุกวันก็ได้ผลดีค่ะ เช่น การยืนกดน้ำที่ค่อยๆไหลลงในขวดทีละนิดจนเต็ม,ยืนต่อแถวรอซื้ออาหาร ⏳และอีกหลายๆกิจกรรมที่ฝึกให้เรารอให้ได้ นิ่งให้เป็น แล้วเราจะเป็นคนใจเย็นค่ะ #MissionToTheMoon
เมื่อก่อนเป็นคนใจร้อนมากๆ ได้วิธีแก้ส่วนใหญ่มาจาก Mission To the Moon อ่านหนังสือฟังธรรมะ ทำจิตใจให้สงบออกไปเดินทางทำอะไรใหม่ๆ ทำให้ร่างกายเย็นขึ้น ตัดสินใจงานได้ดีขึ้นค่ะ❤
การตื่น 5.30 น ทุกวันเพื่อมาทำกับข้าวหรือออกกำลังกาย ไม่ว่าจะนอนเวลาไหน แค่ตื่นมาสู้กับความหนืดตัวเองในตอนเช้าได้😂 จะทำให้ทั้งวันเจอแต่เรื่องง่ายๆ รู้สึกนิ่งและมีสติมากขึ้น บางวันตื่นก่อนนาฬิกาเหมือนร่างกายรู้เวลา🎉 ขอบคุณตัวเองที่พยายามทุกวัน และขอบคุณ #MissiontoTheMoon ที่ทำให้เราเปลี่ยนความคิดและชีวิตให้ดีขึ้นค่ะ❤❤
เมื่อก่อนผมเป็นคนใจร้อนมากครับ ตอนนี้ผมใจเย็นมากขึ้น เพราะผมนั่งสมาธิทุกวัน วันละ10-20 นาทีทุกวัน และฝึกวางอารมณ์ปล่อยวางบางอย่างที่ปล่อยไปได้ ยอมรับความจริงในสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พยามฝึกให้มีสติอยู่กับตัวเองตลอดเวลา ก่อนจะพูดหรือทำอะไรออกไป #MissionToTheMoon
ผมทำงานตอนกลางคืนแต่ในช่วงเวลากลางวัน ผมเข้าสวน ผมอยู่กับต้นไม้ที่วิธีปลูกให้พ่อกับแม่ ชอบบรรยากาศในสวนไผ่ร่มรื่น อากาศสดชื่น มองดูท้องฟ้าสีน้ำเงิน มองสุดสายตาสามารถเห็นเขาใหญ่ได้ครับ ผมคิดว่าการที่เราอยู่กับธรรมชาติทำให้ผมตระหนักว่า เราไม่ได้ยิ่งใหญ่อย่างที่เราคิด เมื่อเทียบกับภูเขาหรือท้องฟ้าครับ สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมใจเย็นขึ้นเยอะ และมีสติมากขึ้น ตลอด 2 ปีที่ผมเริ่มเข้าสวนครับ
ปล.อีกเหตุผลที่ผมเข้าสวน ผมก็ต้องการไปดูแลพ่อแม่ในตอนกลางวัน ผมคิดว่า ดูแลท่านทั้งสองให้ดีในตอนที่ยังมีชีวิต เพื่อที่ผมจะได้ไม่ต้องเสียใจในตอนที่ท่านทั้งสองได้จากไปครับ
ดีมากเลยค่ะ อยากให้คนเข้ามาฟังเยอะๆ เพราะถ้าทุกคนเป็นพลังงานที่ดีและเป็นคนใจเย็นมีสตอได้ ชีวิตจะแฮปปี้ขึ้นและพลังงานดีๆจะส่งไปยังคนอื่นๆ ได้อีกมาก🥰
ใจเขาใจเรา ทำความเข้าใจทั้งตัวเขาแล้วก็ตัวเรา
เย็นลงได้เพราะการดูแลตัวเองค่ะ ตัวเราจะรู้อยู่ภายในตลอดว่าเราทำสิ่งที่เป็นผลดีให้ตัวเองมากแค่ไหน ผลลัพท์มันจะสะท้อนอยู่ในตัวเอง สุขภาพกายที่ดีจากกการออกกำลังกาย สุขภาพใจที่ดีจากการปล่อยวางความคิด อยู่กับปัจจุบันเป็นตัวเองในแบบที่ดีขึ้นในทุกๆวัน
เราเย็นและสงบลงได้จากความผิดหวัง จากการตั้งความหวังที่สูงมากกับอะไรสักอย่าง จนมันจมดิ่งลงไปแบบสุดๆ เลยใช้สติและสมาธิไปกับการอยู่กับตัวเอง โฟกัสการออกกำลังกาย การกินและการนอนที่ดี โฟกัสที่ตัวเอง และลดโซเชียล มันดีขึ้นมากๆค่ะ
จากคนใจร้อนพร้อมปะทะตลอดเวลา จนรู้สึกว่าบรรยากาศรอบข้างมันไม่น่าอยู่ด้วย เราเริ่มจากการลดการใช้โทรศัพท์ค่ะ เพราะบางทีอ่านเจอคอนเทนต์ที่กระทบความรู้สึกก็จะอินไปด้วย จากนั้นค่อยๆปรับชีวิตตัวเองทีละนิด ใส่ใจกับตัวเองมากขึ้น ลองทำอะไรที่ไม่เคยทำ ไปออกกำลังกายเบาๆ พอทำได้ดีกว่าที่คิดก็ใจฟูมากๆเกินคาด เลยอยากทำต่อ ปรับเวลาตื่นเช้ามาฟังpodcastไปและทำสมาธิไป ให้ตัวเองมีสมาธิมากขึ้นเพราะแค่อยากมีสติในการทำงาน รู้สึกว่าตัวเองนิ่งขึ้นจนบรรยากาศมันดีขึ้น ดูสดใส ตั้งใจจะทำต่อไปค่ะ ขอบคุณสำหรับเนื้อหาดีๆ นะคะ 😊
จริงค่ะ เริ่มนั่งสมาธิมา3-4เดือน 5-10นาทีเริ่มมีสติไม่ตอบโต้ด้วยอารมณ์โมโหกลับไป นิ่งขึ้นมากเหมือนที่คุณพูดในคลิปเลยขอบคุณpodcast ดีๆ ยูทูป โลกโซเชี่ยล ที่ยังมีด้านดีๆอีกเยอะ ทำให้พัฒนาตัวเองขึ้น รักตัวเองขึ้นมาก
เริ่มจากการออกจากห้องสี่เหลี่ยมแคบๆที่ทำให้รู้สึกเครียด และไปออกกำลังกาย เดิน วิ่ง หรืออะไรก็ได้ที่ทำให้เราไม่ต้องคิดอะไรครับ
ออกกำลังกาย, สวดมนต์, to do list,focus หน้าที่&เป้าหมายในแต่ละวัน,ปล่อยวาง❤
ผมใช้ ธรรมะ คือ การ เข้าใจ ในสิ่งที่กระทบทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และ สมอง เรื่องความไม่ถูกใจ โดย ไม่ไปโต้ตอบ เขา =ไม่ขี้เหนียว เรื่อง การยอมรับ ความจริงข้อนี้ เราเองก็มี ครับ (แท้จริงแล้ว ธรรมชาติ ไม่มีถูกหรือผิด เป็นที่ อัตตาเรา สังคม ให้ค่า ตามบันทึกสัญญาของเรา นั่นเอง ครับ)❤❤❤
เริ่มจาการออกกำลังกายแล้ว การออกกำลังกายจะส่งผลให้เราอยากทานแต่อาหารที่ดี ไม่ทำร้ายร่างกายเรา 😊และทำให้เราหลับดีขึ้นเยอะมากค่ะ
การฝึกมีทัศนคติที่ดีต่อสิ่งที่เจอ มองเห็นอารมณ์ที่ไม่ดีตัวเอง แล้วฝึกยอมรับและแก้ไข หายใจเข้าออก ให้ช้าลงและฝึกนั่งสมาธิค่ะ❤#MissionToTheMoon
สิ่งที่ทำให้เย็นขึ้นคือการฝึกอยู่กับปัจจุบันค่ะ เราได้รับรู้สภาวะอารมณ์นั้นๆและไม่ตอบโต้ต่อสิ่งต่อสิ่งเย้ายวนใจทำให้มีสติมากขึ้น การฝึกง่ายๆแค่อยู่กับอยู่กับลมหายใจฝึกการหายใจเป็นประจำค่ะ
ส่วนตัวถ้าอยู่คนเดียวจะนั่งสมาธิ ช่วงเช้าจะเลือกฟังแต่podcastที่ดี ถ้าอยู่ร่วมกับครอื่นแล้วรู้สึกเครียดหรือไม่โอเค จะปลีกตัวเองมาจับลมหายใจตัวเอง หายใจเข้าลึก กลั้นหายใจสักพัก แล้วหายใจออกยาวๆ ช่วยให้อารมณ์เย็นลงค่ะ
ส่วนตัวเวลาที่จะทำให้อารมณ์ดีหรือใจเย็นมากขึ้น จะเป็นช่วงเวลาที่ได้ดื่มกาแฟและอ่านหนังสือไปพร้อมกัน มีฟังเพลง มีแค่เสียงดนตรี พร้อมกับการอ่านหนังสือไปด้วย จะทำให้โฟกัสของตัวผม และการทำงานดีไปด้วย พลังงานก็จะดีด้วย และสังเกตว่าวันไหนที่ไม่ได้อ่านหนังสือจะทำให้การโฟกัสกับการทำงานลดน้อยลงครับ ครับผม ขอบคุณนะครับ
Focus ที่ตัวเองค่ะ โฟกัสไปทีละอย่าง
ไม่ multitask อันนี้ช่วยให้รักษาระดับพลังงานตัวเองได้ดีมากๆ พอไรมากระทบก็จะไม่ค่อยร้อน เพราะเราที่ปรับโฟกัสตัวเองได้เร็ว
ใช้วิธีการปล่อยวางและทบทวนเป้าหมายของตัวเองเสมอค่ะ เราจะรีเชคและรีเซ็ตตัวเองเป็นรายวันเลย แล้วจดลงในสมุด บางวันที่เจอเรื่องหนัก ๆ การเขียนช่วยได้มาก ๆ เลยค่ะ ทำให้เราได้มาอ่านความคิดตัวเองความรู้สึกตัวเอง เป็นอะไรที่สะท้อนความต้องการและสิ่งที่อยากจะเป็นได้เยอะมากๆ ทำให้เวลาทำอะไรก็จะคิดเยอะกว่าเดิมมาก (ไม่ใช้คิดมากนะคะ)จะนิ่งขึ้น ไตร่ตรองเยอะขึ้น เป็นวิธีหนึ่งที่ใช้มาตั้งแต่อยู่ ม.ปลาย ตอนนี้อยู่ปีสี่แล้ว เป็นวิธีที่ดีเลยค่ะ
ปรับอารมณ์ดีดีต่อตัวเรา พยายามฝึกทำอยู่ค่ะ
เย็นได้กับทุกสถานการณ์แค่ฮึ้บนับ1-3ก่อนพูด จังหวะนั้นแหละคือนาทีทองที่ทำให้รู้ว่าควรพูดหรือไม่ควรพูดควรทำหน้ารีแอคยังไงและทีเด็ดคือทุกอย่างที่เกิดเดี้ยวก็ผ่านไปอันนี้ประโยคเบสิคและจริงที่สุด ไม่ว่าจะดีไม่ดีเดี้ยวก็ผ่านไปยิ่งถ้าเรื่องไม่ดีในนาทีนั้นเราคิดได้ทันว่าเป็นเรื่องธรรมชาติเดี้ยวก็ผ่านไปเราก็เย็นไปเองแบบงงๆเหมือนกันค่ะ
ดึงสติตัวเองให้ทัน clam down ตัวเอง และยิ้ม และนิ่งขึ้น ปล่อยให้เป็นไปโดยที่ใจไม่ยึดติดค่ะ
เย็นขึ้นจากการได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองหรือโฟกัสกับอะไรสักอย่างค่ะ อย่างการเปิดดนตรีสบายๆพร้อมทำความสะอาดห้องให้เราอยู่ในบรรยากาศทีดีมีกลิ่นหอมๆ ตอนวาดรูป ตอนที่เรานั่งจดบันทึก หรือตอนที่นั่งสมาธิแล้วทบทวนตัวเองค่ะ การออกไปนั่งที่สวนสาธารณะนั่งรับลมฟังเสียงบรรยากาศรอบๆ ก็ทำให้เรารู้สึกเย็นและหายเหนื่อยได้ดีเช่นกันค่ะ 🫶🏻
คิดให้ช้าลงค่ะ แบบทุกอย่างต้องมีเหตุมีผลอยู่แล้ว พอรู้เหตุบางทีสิ่งที่เราจะพุ่งไปตอบสนองแบบตอนแรกมันก็อาจจะเปลี่ยนไปค่ะ คงแบบพยายามเข้าใจที่ไปที่มาก่อนตอบสนองเลยทำให้ใจเย็นขึ้นมั้งคะ
เมื่อก่อนเป็นคนใจร้อนมาก ต้องเร็วทุกอย่าง สิ่งที่ทำให้ใจเย็นลงได้คือการปรับเปลี่ยนความคิด คิดเป็นเหตุเป็นผลมากขึ้น พยายามไม่ใช้อารมณ์ คิดว่าปัญหาที่เกิดต้องมีทางออกเสมอ และสวดมนต์นั่งสมาธิ แค่นี้ก็ทำให้รู้สึกใจเย็นมากขึ้นค่ะ
คิดว่าการเป็นคนใจเย็น และลดการหงุดหงิดง่ายกับเรื่องเล็กๆน้อยๆหรือแม้กระทั่งนอนเร็ว ช่วยเซฟ energy ได้เยอะมากๆค่ะ
นั่งสมาธิไม่ช่วยพัฒนาเลย สำหรับตัวเอง เริ่มต้นด้วยการฟังคลิปที่สอนให้รู้เนื้อรู้ตัว ตามความคิดตัวเองให้ทัน เฝ้าสังเกตตัวเองเรื่อยๆ ผลรับจะสัมผัสได้เอง มันสบายขึ้น เมื่อเห็นผลในเบื้องต้น ก็ไม่ยากที่จะพัฒนาขึ้น เลือกแบบที่ถูกจริต ผลรับคือมีความสุขได้ง่ายขึ้น และทุกข์ไม่นาน😊
เย็นลงได้เพราะการนอนและการจด การเขียนลงสมุดค่ะ บางครั้งเราไม่อยากเอาอารมณ์ที่ไม่ดีของตัวเองไปใส่ใคร เลยเลือกที่จะเขียนใส่สมุดและมันช่วยได้จริงๆ การนอนที่ดีจะทำให้เราคิดและจัดสินใจอะไรๆได้ดีขึ้นมากๆ
เช่นด้วยทุกอย่างค่ะ ทุกวันนี้ก็ทำเเบบนั้นค่ะ ยิ่งเราเป็นหัวหน้าคน ยิ่งต้องฟังหูฟังหูไว้หู บุมบ่ามไม่ได้ ขอบคุณมากๆนะคะ
นั่งสมาธิตื่นนอนและก่อนนอน ในระหว่างวันก็มีสติ จดจ่อในสิ่งที่ทำอย่างเต็มที่ ก็จะมีความสุขได้ทั้งวัน รับเรื่องลบๆให้น้อยที่สุด และให้อภัยและรู้จักขอบคุณสิ่งที่พบเจอใสชีวิตค่ะ
สิ่งที่ทำให้เราเย็นลงได้ คือการเขียนค่ะ ปกติเราจะเป็นคนที่พกไดอารี่ใส่กระเป๋าไปทำงานทุกวัน เพราะรู้ว่าในแต่ละวันต้องมีปะทะกับคนและเจอคนไม่น่ารักอยู่เรื่อยๆ ทุกครั้งที่มีอารมณ์โกรธหรือโมโห เราจะระบายทุกอย่าลงในไดอารี่ เขียนณ. ตอนที่อารมณ์ร้อนๆเลยค่ะ เขียนแล้วแล้วกัน อารมณ์ดีขึ้น ใจเย็นมากขึ้น นิ่งทบทวนเหตุการณ์ที่เจอและเข้าใจเรื่องที่ทำให้เกิดอารมณ์โกรธมากขึ้นค่ะ
เย็นได้จากการกินน้ำเย็นๆค่ะ และก็ตอนสุญอากาศเย็นๆค่ะ เพราะมันสอชื่น และก็ตอนหายใจเจ้าออกช้าช้าาาค่ะะะ❤❤
สิ่งที่ทำให้ใจเย็นคือฟังmisssion to the moon ก่อนนอนค่ะ เวลาเรามีปัญหาที่กวนใจเราจะฟังและตื่นมาเริ่มต้นวันใหม่พร้อมด้วยวันที่ดี #MissionToTheMoon
ธรรมชาติค่ะ นอกเหนือจากการกินดี นอนดี ทำสมาธิ รู้สึกได้เลยว่าช่วงไหนที่ไม่ได้สัมผัสธรรมชาติจะว้าวุ่นมาก ต้องหาเวลาไปสัมผัสต้นไม้ใบหญ้า ไปสวนสาธารณะให้ได้มากที่สุด แล้วช่วงนั้นพลังงานจะเสถียรมากขึ้นค่ะ
นั่งสมาธิช่วยได้อย่างยิ่งครับ
เย็นลงใจจากการกลับมาอยู่กับตัวเอง และธรรมชาติค่ะ หายใจลึกๆยาวๆ มองต้นไม้ ใบหญ้า นกร้อง สัก 10 นาที แล้วกลับมาสู้ใหม่ค่ะ
หลายๆ ครั้งที่เรารู้สึกเย็นลงได้ ทุกอย่างมันเริ่มตั้งแต่คืนก่อนหน้าแล้ว ส่วนตัวจะตั้งเป้าไว้ง่ายๆ ทั้งก่อนนอนและหลังตื่นนอนตลอดเลยว่า เราจะทำงานร่วมกับทีมโดยพวกเราไม่รู้สึกอึดอัด ไปพร้อมๆ กับการก้าวเท้าออกจากบ้านด้วยเอเนอร์จี้ที่ดี พร้อมเอนจอยไปกับเรื่องที่คิดไว้และไม่ได้คาดคิด
อารมณ์เย็นได้ด้วยการฝึกจิตให้นิ่งค่ะ พยายามเข้าใจผู้อื่น มองในมุมมองของเขา เลือกที่จะตอบโต้ให้น้อยที่สุด วางใจให้เป็นกลางให้เหตุและผลของเหตุการณ์ โฟกัสในสิ่งที่จำเป็นอะไรที่ควรแก้ไขก็แก้ไขให้มันถูก ที่สำคัญคือต้องฝึกสมาธิและความแข็งแกร่งของจิตค่ะ ถ้าเราทำได้และเข้าใจทุกอย่าง ใจเราก็จะเย็นลง
มรณานุสติ คือสิ่งที่จะทำให้อารมณ์เย็นลงได้ทุกสภาวะอารมณ์ หลายๆครั้ง เรายึดติดสิ่งๆนั้น คนๆนั้น เหตุการณ์นั้นๆมากจนเกินไป แต่ถ้าเราสมมติว่าพรุ่งนี้เวลาของเราจะหมดแล้ว เราจะยังคงมานั่งโกรธ หงุดหงิด เสียใจ น้อยใจกับเรื่องพวกนี้มั๊ย เราจะเห็นคุณค่าของเวลามากขึ้น และเห็นว่าเราไม่ควรจะต้องใส่ใจมันด้วยซ้ำ สิ่งนี้เองที่เราจะเห็นอารมณ์ตัวเองและควบคุมให้มันอยู่ในสภาวะสงบได้อย่างเร็วที่สุด #missiontothemoon