CEO คนใหม่:เครื่องยนต์พลังงานไฮโดรเจนใหม่นี้ จะมาปราบอุตสาหกรรมรถไฟฟ้า(จะทำได้มั้ย?)
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 3 ก.ค. 2023
- เครื่องยนต์ V8 เครื่องยนต์พลังงานไฮโดรเจนตัวใหม่ของโตโยต้าที่พึ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2021 เครื่องยนต์สำหรับคนรักรถประเท muscle car อีกหนึ่งตัวเลือกจากโตโยต้าสำหรับผู้คนที่ใช้รถ
- ยานยนต์และพาหนะ
ยุ่นเก่ง โลหะวิทยา
ถ้ายุ่นทำรถไฟฟ้าEngine+Gearที่ตัวเองถนัด จะหายไปเลย40-50ชิ้นส่วน
ซึ่งไม่ใช่แค่โรงงานเดียวทึ่จะต้องปิดตัวลง
ปล.ประสบการณ์การทำงาน ชิ้นส่วนรถยนต์20กว่าปี
ครั้นจะทำรถไฟฟ้าแข่งขัน
ก็เจอเจ้าตลาดหั่นราคาแบบไม่ให้เกิดกันเลยทีเดียว
ประเด็นสำคัญคือ ต่อให้ทำสำเร็จออกมาได้ ก็ขายเจ้าเดียว เจ้านี้จะตั้งราคาขายโครตแพงแน่นอนตามนิสัยเดิมแน่นอน ขนาดรถEVดัดแปลงของเขา ตั้งราคาแพงกว่าEVแท้เจ้าอื่นเกือบเท่าตัว
แต่พอเทคโนโลยีออกมา เดี๋ยวก็มีการลอกเลียนกันแน่นอน ไม่นานคู่แข่งเยอะก็ราคาลดเอง
มันธรรมดาเมื่อไม่มีคู่แข่ง เขากำหนดราคาได้ ดีมาน ซัปพลาย ตามกลไกตลาด อย่าคิดมาก
ใช่
@@user-zu1zc5ni1e คิดว่าเจ๊งแน่นอน
ประเด็นคือรถที่ใช้เครื่องยนต์ตอนนี้เทียบกับมอเตอร์ไม่ได้แล้วมันเสียกำลังไปเยอะไม่ว่าจะเชื้อเพลิงอะไร รถมอเตอร์ส่งกำลังได้ตรงที่สุด
เห็นพูดมากันยี่สิบปี ทุกอย่างก็เหมือนเดิมครับ แพงโคตรๆ ใครจะซื้อ
คนที่ที่มีเงินเขาไม่เคยว่าแพงหรอกครับ
ให้โตโยต้าพัฒนาต่อไป ตลาดผู้บริโภคจะเป็นตัวตัดสินเอง ว่าอะไรคุ้มค่าและประหยัดเงินกว่า
ถ้าทำดีอนาคตก็น่าใช้มากๆค่ะ แต่ความน่าใช้ก็เต็มไปด้วยอันตรายมากกว่าแน่นอน ระเบิดเคลื่อนที่แหละ ไฮโดรเจน
แบตไม่ระเบิดแต่เสียหายรับแรงกระแทก ก็เกิดไฟไหม้ได้
ไอเสียจาก NOS ก็เอามาให้คนขับตามดม หัวเราะบันเทิงล่ะทีนี้ 555+
โตไปทำให้ยากเอง ไฮโดรเจน ต้องพัฒนาเครื่อง ถังเก็บ ท่อต่างๆ ต้นทุนเพิ่มทั้งคัน รถไม่มีทางถูก ส่วนรถไฟฟ้ามุ่งพัฒนาแบตเตอรี่เมื่อไรที่ลดต้นทุนแบตหรือใช้อย่างอื่นแทนลิเที่ยมได้ เราจะได้ใช้รถดีๆราคาเข้าถึงง่าย ดูแลง่ายมากๆ บางยี่ห้อมีบริการเปลี่ยนแบตไม่ต้องไปชาร์ตให้เสียเวลา
ราคาค่าเชื้อเพลิง รถไฮโดรเจน 5 บาทต่อกิโล รถยนต์ไฟฟ้า 0.5 ต่างกัน 10เท่าขนาดนี้
อุตสาหกรรมรถ หากมุ่งสู่การใช้พลังงานไฮโดรเจนเต็มที่ จะนำสู่ความยั่งยืนแท้จริง เชื่อเช่นนี้ค่ะ
ปัญหาถ้าเกิดอุบัตเหตุ แล้วมีโอกาศระเบิดสูงมากกก ..ซึ่งปัจจุบัน ยังไม่มีทีท่าว่าจะแก้ได้ ..ไฮโดรเจน ยังไงก็ไม่รุง...ไครจะออยากขับรถติดระเบิด ?
@@lelouchv1487 ไฟฟ้าก็ไหม้ได้ครับ แต่ H2 นี้ชนแอบหน้ากลัวจริงครับ
@@lelouchv1487จะระเบิดได้ยังใงในเมื่อไม่มีสลัก
สุดโต่ง ตามกันไป ฮ่าๆ ฮ่าๆ ต้องลงทุนปั้มที่ใช้ทุนมหาสาร จะไหวไหมเนียะ
@@lelouchv1487 เคยมีอุบัติเหตุรถไฮโดรเจนชนระเบิดซักคันมั้ยครับ?
ปัญหาสำคัญ
1.ปั๊มเติม (หายาก)
2.ราคา ก๊าซไฮโดรเจน (แพง)
3.ไฮโดรเจนมีความอันตรายสูงมาก (ระเบิด)
4.การซ่อมบำรุง ? (ร้านทั่วไปคงหมดโอกาส)
5.สามารถรับประกันได้ไหมถ้ารถเกิดอุบัติเหตุ
จะไม่เกิดการระเบิดที่รุนแรง ?
เพิ่มเติมครับ
การขนส่งก๊าซไฮโดรเจนไปที่ปั๊ม จะมีปัญหาความอันตรายสูงกว่าเดิม และถังแรงดันก็ต้องมีความหนามาก น้ำหนักก็สูงตาม
ผมว่าพลังงานก๊าซไฮโดรเจน ยังอีกนาน
ถุกต้อง เครื่องยนต์ ไม่ใช่ปันหา ปกติ lpg ngv ช่วงนี้ ความฮิต ลดระดับไปมากแล้ว
ใช้น้ำเติม แล้วฟิวชั่นในรถเลย
@@SDA.motorsport ฟิวชั่นไรครับ จะเอา H ออกจากน้ำ มันต้องฟิชชั่นเท่านั้น
อย่าลืมภัยคุกคามจากการก่อการร้ายโดยใช้แก๊สH. ซึ่งมันจะมีมากมายถ้ามีรถใช้พลังงานนี้ด้วยนะ
ยาก สำหรับการทำตลาด และ สถานีเติมเชื้อเพลิง
ส่วนตัว การทำงานโดยระบบเชิงกล มีช่องทางการสูญเสียพลังงานมากกว่า การทำงานโดยเชิงไฟฟ้านะ ถ้าบอกจะใช้พลังงานไฮโดรเจนแล้วยังใช้เครื่องยนต์ลูกสูบอยู่แบบนั้นก็ไม่คิดว่าจะดีหรอก
ดูก่อนดีไหมมอเตอร์ไม่ใช่แรงกลเหรอครับ
@@mywaymylife8290 ส่วนตัวสนับสนุน การใช้มอเตอร์โดยเฉพาะ อย่าง motor in wheel เพราะ จะมีการสูญเสียพลังงาน ณตำแหน่ง motor จุดเดียว ไม่เหมือน ระบบสันดาป ที่มีตั้งแต่ สูญเสียที่เครื่องยนต์ ไม่ว่าจะเป็น ความร้อน เสียง และ การสั่นสะเทือน และ จากเครื่องยนต์ ก็ที่มีต้องไปสูญเสียพลงานที่ระบเกียร์ ระบบส่งกำลัง กว่าจะถึงล้อ มีจุดที่สุญเสียพลังงานกี่จุด ถ้าสมมติ (ย้ำนะว่าสมมติ) ในแต่ละจุดสูญเสียพลังงานไป 30% สรุปถ้ามีการจุดต้องสูญเสียพลังงานมากมายเป็นถอดๆ สัก 3 ถอดว่าจะถึงล้อจริง สรุปใส่พลังงานไป 100 หน่วย คงจะเหลือไปถึงล้อให้ขับเคลื่อนสัก 10-15 หน่วยเองมั้ง สำหรับระบบสันดาป
แต่ถ้าเป็นไฟฟ้านะ ถ้า เอาพลังงานจากแบตมาเลยและถ้าใน motor in wheel นะ มันก็สูญเสียที่แบต และที่ motor สรุปพลังงาน 100 ก็ถึงล้อ อาจถึง 50% แล้ว อันนี้คือความหมายที่พูดถึง
@@therddhamkhamsiri9966 ถ้าเป็นเช่นนั้นวงการรถแข่งความเร็วสูงๆ ทำไมจึงเริ่มหันมาหาไฮโดรเจนกันล่ะครับอย่างพวก LM24 หรือ F1 น่าจะมีอะไรเข้าใจผิดหรือเปล่าครับ GR Yaris H2 ก็ระดับแชมป์โลกนะครับ เชื่อมั้ยครับว่ารถในอนาคตอันใกล้นี้หลายค่ายในประเทศจีนก็ต้องเริ่มมาผลิตรถไฟฟ้าไฮโดรเจนกันไม่เว้นแม้กระทั่งค่ายที่อ้างว่าผลิตแต่รถไฟฟ้าชาร์จปลั๊ก
รภไฟฟ้าดีกว่า ชิ้นส่วนน้อย ไม่ซับซ้อนในการใช้งาน
Nokia Kodak Blockblaster ยินดีต้อนรับน้องใหม่ Toyota 😅😅
ขนาดที่อเมริกาขายก่อนตั้งหลายปี มีนักรีวิวรถคนหนึ่งหลงคารมพี่โตจนซื้อมิไรมาขับ สุดท้ายใช้มาหลายปีออกมาสาปส่งกันเลยว่าจะไม่ซื้ออีกแล้วรถไฮโดรเจนนิ ปัญหาเยอะ เช่นปั้ม H ที่แขวนป้ายตลอดว่า H หมด การขนส่ง H ก็ช้า ขนได้น้อย
ตอนไฟฟ้าออกมาคอนแรกปัญหามันก็มีหนิครับ ก็ต้องรอเขาพัฒนาเทคโนโลยีอ่ะครับ ผมไม่ได้เชียร์อะไรพี่โตนะครับ แต่แนวคิดการใช้ไฮโดรเจนมันดีครับ ถ้าเทคโนโลยีไฮโดรเจนผลิตจนแทนน้ำมันและพลังงานฟอสซิลอื่นๆได้ เราจะได้พลังงานสะอาดแบบจริงๆจังๆละครับ รวมถึงการผลิตไฟฟ้าที่เอาไปชาร์จรถไฟฟ้าอีกทีนั่นแหละครับ รอดูต่อไป
ข่าวจากโตต้า ค่ายนี้เน้น pr ไม่เน้นผลิตจริง 1.เติมเร็วจริงแต่ต้องไปเติมไกลจากชุมชน เพราะถ้าระเบิดขึ้นมารัศมี 5 กม ราบเป็นหน้ากลอง แต่ bev เติมที่บ้านได้ 2.ชิ้นส่วนอะไหล่เคลื่อนไหวเยอะพอๆกับ ice ปกติ(โตต้าต้องการขายสิ่งนี้) แต่รถไฟฟ้ามีน้อยเวลาเข้าศูนย์ไม่ต้องเสียเงินเยอะ 3.ใครจะตั้งปั้มไฮโดรเจนตัองเสียเงินประมาณ 3-5 สิบล้านแต่สถานี ev ไม่ถึง 5 ล้าน หรือไม่กี่หมิ่นที่บ้านตัวเอง ลองเทียบดูครับ
น่าจะตีตลาดยุโรปที่แบนห้ามใช้น้ำมัน แต่ขาซิ่งยังรักเครื่องสันดาปอยู่
อีกอย่างเอาไฟฟ้าเติมเข้ารถ น่าจะคุ้มกว่าเอาไฟฟ้าไปเป็นต้นทุนผลิตไฮโดรเจน แล้วเอามาใช้อีกที คือ BEV มันคุ้มกว่านะ อีกอย่าง แบทราคาถูกลงทุกวัน งานวิจัยใหม่ๆก็ออกทุกวัน ยังไงแบทก็ต้องถูกลง
ชัดเจนดี
อันนี้แสดงว่าไม่เข้าใจเรื่องไฮโดรเจนแน่ๆครับ
รถไฟฟ้าไฮโดรเจนมีทั้ง FCEV, Hybrid และเครื่องยนต์แบบ H2 เทคโนโลยีมันล้ำหน้าไปไกลแล้วครับ ในประเทศไทยก็เตรียมความพร้อมไว้แล้ว ส่วนรถไฟฟ้าชาร์จแบต ทำไมวิ่งหาตู้ชาร์จ DC นอกบ้านกันล่ะครับถ้าชาร์จที่บ้านมันตอบโจทย์ได้จริง
@@the1stoftime เค้าเอาไฮโดรเจนมาผลิตไฟฟ้าครับ ไฟฟ้าใช้พลังงานหมุนเวียนผลิตไฮโดรเจน จัดเก็บไว้ได้ส่วนเกินจากการผลิตเค้าเอามาเติมรถไฮโดนเจน วันนี้แอมโมเนียก็ผลิตไฮโดรเจนได้ ส่วนไฟฟ้ามันจัดเก็บไม่ได้ครับนั่นคือปัญหาหลักๆ
ผมว่าเทคโนโลยี นี้มาช้าไป กว่าไฮโดรเจนจะลงตัวและนำมาใช้งานได้จริง เทคโนโลยีเรืองแบต กับ เรืองเวลาชาร์จของรถไฟฟ้า ที่เป็นจุดอ่อน จะพัฒนาไปอีกเยอะ ครับ ตอนนีบนท้องถนนในกรุงเทพ เริ่มเห็นรถไฟฟ้าเยอะขึ้นเรือยทุกวันครับ
ใครจะกล้าชื้อใช้ พ่อคุณ รถอีวีมาแทนเลยกลัวตัวเองขายอะไหล่ไม่ได้เลยดันทุรังไปวันๆ
ขอบคุณมากครับ
มันอันตรายครับ ไฮโดรเจนคุณลองคิดรถเป็นหมื่นคันเกิดระเบิดเป็นปฎิกิริยาแบบลูกโซ่ มันติดตรงที่เรื่องความปลอดภัยครับ
จริงๆเครื่อง hydrogen มันก็ดีนะ ท่าเทียบกับรถไฟฟ้าที่ใช้พลังงานฟอสซิลในการผลิตในปัจจุบัน hydrogen มีอยู่ทั่วไป เห็นรถบรรทุกของต่างชาติก็ใช้ อย่าง Hyundai งี้เห็นได้ทั่วไปในเกาหลีเลย อีกอย่างสถานที่เติมก็มีแล้วในไทยมันอาจจะน้อย เพราะพึ่งสร้างอีกอย่าง CP กับ Toyota จับมือกันแล้วทำสัญญาซื้อขาย hydrogen ราคาถูก สำหรับเราอาจจะมาอยู่แทนที่รถน้ำมัน แต่ไม่ถึงกับอยู่ระดับเดียวกับรถไฟฟ้า ถ้าราคาถูกก็อีกเรื่อง
พลังงานดีที่สุด ถูกที่สุด แต่นำมาใช้ได้ยากที่สุด โคตรอันตราย พี่โต อยากได้เพราะ ต้องการรักษา TIERs ของเขาทั้งหมด (พวกเราไม่ทิ้งกัน) คำเดียวคับ ยากมาก ลองดูคับ ตูมตามแน่นอนกว่าจะสมบูรณ์
เจ๊งครับ ญุ่นเอ้ย หมดยุคเอ็งแล้ว
ปัญหาของรถไฮโดรเจนคือเรื่องราคาเชื้อเพลิง การขนส่งและปั๊มที่จะเติม ราคาตั้งปั๊มสูงกว่าปั๊มน้ำมันหลายสิบเท่า สูงกว่าปั๊มชาร์จไฟแบตเตอรี่หลายเท่าเช่นกัน ควรทราบว่าแรงดันของแกสในถังประมาณ 700 bar สูงกว่า2เท่าถังแกสNgvเลย แต่ข้อดีคือไม่ต้องแบกน้ำหนักแบตเตอรี่ เติมเร็วปริมาณแกสเติมเพียง 5-7kg(รถเก๋ง) แต่ถังแก๊สไม่เบานะ และแกสที่ได้ส่วนใหญ่ก็มาจากการแยกก๊าซธรรมชาติ ส่วนการผลิตโดยแยกน้ำด้วยไฟฟ้ามีสัดส่วนน้อยกว่า ส่วนใหญ่จะใช้กับรถขนส่งขนาดใหญ่เพราะมีเส้นทางที่แน่นอนใช้จำนวนปั๊มน้อยครับ
ตอนนี้ แบตรถไฟฟ้า เขาจะใช้เกลือเป็นวัตถุดิบแล้วนะครับ รถไฟฟ้าก็คงพัฒนาแบตไปเรื่อยๆ
เค้าศึกษามานานแล้ว เชื่อว่ามันต้องมีเหตุผล ว่าทำไมเค้าถึงมองข้ามไฟฟ้าไป แแบบไม่สนใจแยแส หรือบางทีข้อจำกัดของประเทศเค้าทำให้ใช้ไฟฟ้าอาจจะไม่เหมาะ ถ้ามองในแง่ดี ถ้าทำสำเร็จจะกลายเป็นเจ้าตลาดเพียงเจ้าเดียว ถ้าสามารถใช้ได้2ระบบได้คงจะดีมาก แต่กับประเทศไทย และทั่วโลกต้องจะเหมาะสมหรือไม่ ต้องรอติดตาม
ผมว่าไฟฟ้ามันเป็นขยะตามมาทีหลังเยอะครับและอันตรายด้วย หรือเปล่าครับ
Toyota ไม่ใช่เจ้าเดียวที่ผลิตรถไฟฟ้าไฮโดรเจนครับ มีหลายค่ายในอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีนและยุโรป Toyota ผลิตของตัวเองและขายสิทธิบัตรเป็นหลักครับ
รูปลักษณ์ดีเยี่ยมคับ
จัดไปเอาให้สุดเลยลูกพี่....เดี๋ยวคนซื้อจะตัดสินใจว่าจะรุ่งหรือเจ๊ง
ระบบ การจุดระเบิด มักจะมีหลากหลายขั้นตอน
เห็นพัฒนามาเกือบ 30ปีแล้วยังไม่ถึงไหนเลย รถEVเขาไปไกลแล้ว
ผมว่าคงสู้รถไฟฟ้าไม่ได้ อย่างแร่ที่นำมาทำแบต อีกหน่อยก็อาจใช้แร่ที่ราคาถูกๆ และนำมา รีไซเคิลใหม่ได้ เครื่องยนต์ไฮโดรเจน มันก็ต้องใช้น้ำมันหล่อลื่นอยู่ดี ทุกอย่างเหมือนกับรถน้ำมัน มันจะมีค่าโสหุ่ยบำรุงรักษา ซึ่ง คนสมันนี้คงจะไม่เสียเวลากับสิ่งนั้น นอกเสียว่าจะทำเป็นรถแข่ง หรือคนที่ชอบเสียงที่ทรงพลัง เหมือนรถบิ๊กไบด์
ลิเธียม ถ้ายังใช้อยู่ในระยะยาว 1.ลิเธียมขาดตลาด 2.การผลิตลิเธียมต่อตันใช้ทรัพยากร มหาศาล แต่ H2 ก็อันตรายมากเหมือนกันอย่างกับขับระเบิดเคลื่อนที่เลย คําตอบผมว่าต้องใช้แบตเตอรี่จากแร่อื่น ส่วนตัวผมยังสนับสนุนการใช้ Nuclear Power plan อยู่
ไม่มีทางเลย ไฮฯแพงกว่าน้ำมันอีก สถานีเติมใช้งบสูง เครื่องยนต์อุปกรณ์มากมายวุ่นวายดูแลซ่อมแซมบำรุงยากมากๆ 😅
รถไฟฟ้าค่าซ่อมบำรุงโคตรถูก ชอบตรงนี้หละ
ไม่ถูกนะครับ ถ้าเปลี่ยนแบตเตอร์รี่ที300000+แน่นอน
มันสำคัญที่ว่า ถูกกว่าน้ำมัน และ ไฟฟ้า ผู้ซื้อถึงจะซื้อ
ชอบรถไฟฟ้า ตรง ไม่ต้องเหยียบครัช เข้าเกียร์นี่แหละ น้ำมันเครื่องลืมได้เลย ไม่ต้องเติม ไม่ต้องเช็คเครื่อง 😁
นี่เป็นเสน่ห์ของ EV เลยครับ
แต่ต้องมากังวลดู ปริมาณไฟในแบตแทน....
หืมมมมม...ไม่ต้องเหยีบคลัชเข้าเกียร์นี่ไม่รู้จักเกียร์ออโต้งั้นเหรอขอโทษทีมุนอยู่รูไหนมาครับเนี้ย ไม่ต้องเช็คเครื่องต่อให้ใช้มอร์เตอร์ยังไงก็มีการดูแลรักษาแบตเตอร์รี่ระบบไฟฟ้าในตัวรถไม่คิดจะเช็คเลยว่างั้น อวยแต่รถไฟฟ้าถามจริงว่ากว่าจะได้แบตสักลูกต้องมีขั้นตอนยังไงมา มอร์เตอร์ที่ใช้มีแร่เรเอิร์ธเท่าไหร่ถึงแม้จะมีข่าวว่าพัฒนาจนเลิกใช้แร่เรเอิร์ธได้แล้วไอ้แร่ตัวนี้กว่าจะได้มากระบวนการมันทำลายสิ่งแวดล้อมขนาดไหน ไฟฟ้าที่เป็นพลังงานได้มายังไงจะมาโม้ว่ามาจากพลังสะอาดเพราะพลังงานสะอาดไม่มีทางที่จะผลิตไฟฟ้าให้มนุษย์ใช้ได้อย่างเพียงพอถ้ายังพัฒนาเตาปฎิกรฟิวชั่นยังไม่เสร็จ
@@thanakornzaddyza3762 ขี้เกียจทะเลาะกับคุณ 😁
คลัชคืออะไรครับผมมีรถ3คันทำไมเขาไม่ให้คลัชมาด้วย😂😂😂😂😂
ไฮโดรเจน ถ้า ทำให้มันไม่เป็นระเบิดเคลื่อนที่ก็.. น่าใช้มาก
ส่วนรถไฟฟ้า ถ้าชาร์ท ในเวลาสั้น ก็เยี้ยมเลย
การผลิตและการขนย้าย hidrogen มีค่าใช้จ่ายสูง และค่าบำรุงรักษาของรถยนต์สันดาบภายในสูงกว่ารถไฟฟ้า ชิ้นส่วนก็มากกว่ารถEV ปั้มhidrogenก็สร้างยากกว่า ดังนั้นEVง่ายกว่าในทุกองค์ประกอบ เหลือแค่พัฒนา แบตเตอรี่ ให้ชาร์จเร็วและใช้วัตถุดิบในการผลิตแบตเตอรี่ที่ถูกลงครับ
ทุกอย่างบนโลก อะไร ที่ เพิ่งเริ่มเกิด เพิ่งเริ่มทำกันไม่นาน มันก็ COST สูงทั้งนั้น หลักเศรษฐศาสตร์ ........แต่ เรื่องไหน ที่ทำบ่อย ๆ ทำเพิ่มซ้ำ ๆ ทำมากขึ้นไปเรื่อย ๆ เดี๋ยว COST มันก็ ถูก ลงมาเองครับ .........ส่วนตัว มองว่า ถ้า จีน เป็นคนผลักดัน HYDROGEN จะเกิดแพร่หลายได้เร็วกว่า ญี่ปุ่นทำ มาก .......แค่ ประธาน สี ออกคำสั่ง ครั้งเดียว ประเทศเขาก็พร้อมเปลี่ยนแปลงทั้งแผ่นดินแล้ว นี่คือ ความชำนาญของ ระบอบสังคมนิยม
แบตเตอรี่ก็เสื้อม แล้วไงต่อ ต้องเปลี่ยนแบตราคามากกว่าครึ่งหนึ่งของราคารถและ แร่ธาตุทำแบตคหายาก เดี๋ยวก็หมด หมดไวกว่าน้ำมันอีก
@@khanitinthupthap5044 ผมถึงบอกไงเหลือแต่รอพัฒนาให้ชาร์จเร็วและใช้วัตถุดิบผลิตแบตเตอรี่ให้ถูกลง นี่คือจุดอ่อนใหญ่ของรถไฟฟ้าที่ต้องไปพัฒนาต่อ
จะมีSupraขุมพลังไฮโดรเจ้นมั้ยคับ
กว่าจะมีปั๊มไฮโดรเจน ที่ชาร์ตรถไฟฟ้าเต็มเมืองก่อนแล้ว
ส่วนตัวเชื่อว่า รถไฟฟ้าและ ไฮโดรเจนควรเป็นเทคโนโลยีคู่ขนาน ไม่ก็ไปถึงไฮบริด คิดแบบโลกอนาคต พลังงานทดแทน+พลังงานสะอาด+พลังงานผลิตเอง รถที่ใช้ก็จะต้องเลือกว่าจะเอา ใช้ประจำวัน หรือท่องเที่ยว พูดถึงส่วนของไฮโดรเจน ผมนึกถึง รถไฮบริดที่ แบตใหญ่ และมีถังไฮโดรเจนไว้ผลิตไฟฟ้า มากกว่าที่จะเป็นเครื่องยนต์สันดาปน่ะนะ
รถขับเคลื่อนด้วยแม่เหล็กอีกหนึ่งทางเลือก ที่ต้องวิจัยกันต่อไป
@@user-cz6fk8bg5c แบบไหนครับ คงไม่ใช่แนวคิดรถลอยเหนือพื้นความฝันสมัยถนนยังไม่ลาดยางใช่มั้ย บอกเลยว่า ถึงเทคโนโลยีมันทำได้ แต่ มันจะไม่ใช่แบบรถส่วนบุคคลแน่นอน
ในอนาคตสู้ไฟฟ้าไม่ได้หรอกครับ ไฟฟ้าได้ก้าวข้ามไปแล้ว
@@user-il4tc8jk7g แต่อนาคตโลกเหมือนจะใช้ไฮโดรเจนกับนิวเคลียร์ฟิวชั่นผลิตไฟฟ้านะครับและค่ายรถก็เริ่มเบนเข็มผลิตรถไฮโดรเจนกับ FCEV กันแล้วคงเริ่มเห็นมากขึ้นเร็วๆนี้ครับแม้กระทั่งในเมืองไทย
@@user-sd8lh1cr3y รถ Gen ถัดไปจะเป็น flying car ครับปัจจุบันและอนาคตอันกันนี้จะเป็น รถไฟฟ้าวิ่งบนถนนก่อนไม่ว่าจะ BEV, FCEV, HEV, PHEV กฏหมายประเทศต่างๆกำลังร่างขึ้นมาเพื่อรองรับรถประเภท flying car มีบางเมืองเริ่มทดลองใช้แล้วแต่ราคายังค่อนข้างสูงครับ
ผมก็ยังชิวๆกับนํ้ามันยุนะ อนาคต ต่างคนต่างพัฒนา ดีหมดแหละ
แด่ fc ญี่ปุ่นทั้งหลาตอนนี้หุ้นรถค่ายญี่ปุ่นร่วงระนาวพลอยฉุดเศรษฐกิจญี่ปุ่นลงไปด้วย เงินเยนอ่อนค่า ไม่ใช่ว่าเค้าไม่อยากทำ EV นะ แต่เค้ายังทำไม่ได้ เพราะถ้าทำทันที ระบบโซ่อุปทานที่ป้อนการผลิตยานยนต์จะพังหมด แถมคนรุ่นใหม่ไปอยู่ต่างประเทศ ตอนนี้เลยขาดกำลังคนและ knowhow เป็นอย่างมาก
แบตแบบsolid state กำลังมา พี่ยังดันรถ hydrogen ก็เสียเงินเปล่าๆแน่ๆ
มองแต่ปัญหาก็เจอแต่ปัญหา มองหาความสำเร็จก็เห็นช่องทางเป็นไปได้ ปัญหาและอุปสรรค์ทุกอย่างเค้าคงรู้หมดตั้งแต่เริ่มจะคิดแล้วและคงได้คำตอบและคาดการณ์ผลลัพธ์สำหรับจัดการปัญหาเหล่านั้นเกือบทุกข้อแล้ว...รอดูความสำเร็จครับ
เอาเลยครับ เอาให้สุดอยากรู้เหมือนกัน ว่าจะเจ๋งมั้ย
จบครับ...ยิ่งดึงดันยิ่งเจ้ง...ทุกอย่างดี...แต่สภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวยจบ
นี้และสะอาดที่สุด
ถ้าดีจริงควรทำและใช้ในญี่ปุ่นให้ทั่วประเทสก่อน ให้ประเทศอื่นเห้นข้อดี แล้วเดินตามรอย
แต่ถ้าประเทศตนเองยังไม่รอด มีข้อจำกัดเยอะแล้วยังจะทำต่ออีก ไม่ยึดหยุ่น ระวังจะตามประเทศอื่นไม่ทัน
สักที รอนานแล้ว
เยี่ยมๆครับ
ขายขำไปเรื่อยนะพี่โต
พลังงานลมคือที่สุดครับ รอครับ
มันต้องมีหลายๆทางเลือก สุดท้ายง่าย สบาย ปลอดภัย แต่ข้อจำกัด ไฟฟ้าตอนนี้ยังถูก ขนาดจีนยังไม่สามารถเปลี่ยนได้ทึ้งหมด ตอนนี้การผลิตไฟฟ้า ต้องทำให้เพียงพอ
มันดีจริง ทำมาขายสักทีเถอะ
มันต้องพิสูจน์ ลงสนามจริง
ขนาดถังดับเพลิง ยังระเบิดเลย
ต้าควรทำ 2 แนวทางรถเก่งกระบะ ev รถขนส่งบรรทุก 10 ล้อใช้ hy
โดยหลักการณ์มันดีจริง และยั่งยืน ถ้าเทียบกับพลังงานตัวอื่น
แต่อย่างไรเสีย โอกาสที่จะโตในเชิง รถยนต์ส่วนบุคคล แทบเป็น0 เช่นเดียวกับการปล่อยของเสียจากการเผาไหม้นั่นแหละ เพราะข้อจำกัดไฮโดรเจน ในเรื่อง ต้นทุนการผลิต การขนส่งไปยังสถานี และรถที่ใช้การสันดาปภายในแบบไฮโดรเจน ยิ่งมีความซับซ้อนของชิ้นงาน มากกว่าแบบน้ำมัน ยากต่อการซ่อมบำรุง สรุปแล้วคงได้ผลิตแค่ตัวโมเดลนั่นแหละครับ เอวัง
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีครับแอดเสียงหวาน
สุดท้าย คุณจะเจ๊งแน่นอน
ควรเลิกคิดถึงเครื่องยนต์ได้แล้วเพราะมีชิ้นส่วนมาก ควรเอา Ho2 มาสร้างกระแสไฟฟ้าเพื่อขับมอเตอร์ดีกว่า
แบบนั้นเขาก็ทำสำเร็จไปแล้วนี่ครับ TOYOTA MIRAI เขาแค่อยากเพิ่มความเป็นไปได้และตัวเลือกให้มากที่สุดครับ
เขาแค่อยากคงโรงงานผลิตชิ้นส่วนให้ได้มากที่สุดครับ ตัวเลือกเพิ่ม👎🏻 เพิ่มภาระผู้บริโภค👍🏻
คนญี่ปุ่นเก่งมาก สนับสนุนครับ
วิศวกรไทยในคอมเม้นท์เยอะจัง สุดยอด!!
ไปให้สุดครับอย่าหยุด
ปล่อยน้ำขาด น้ำมันเครื่องขาดทีนี่ อู่เขียนรายการอะไหล่เพียบเลย
สั้นๆ ไฮโดรเจน หาเติมได้ที่ไหน
ผมดูคลิปนึง ที่ประธานtoyotaคนใหม่เขาบอกว่า จะทำรถ EV นะครับ แต่จะทำหลังจากนี้อีกประมาณ 3-4เจน มีรถต้นแบบที่ล้ำมากๆ ให้นับaltis ไปอีก4รุ่นครับ เขาถึงจะทำEV
คงอยากรักษา ซัพพายเอ้อ ผลิตชิ้นส่วน เครื่องยนต์ อยู่สินะ รู้น้า
NOKIA KODAK...............TOYOTAกำลังตามมา55555555555555555555555
ฝันมั้ง
พัฒนาเครื่องบินรบให้ใช้ ไฮโดรเจนไปก่อนจะดีกว่า มันน่าจะทำความเร็วได้สูงขึ้นไปอีก เครื่องยนต์เครื่องบินต้องใช้น้ำมันเท่านั้นหรือ
Rolls Royce กำลังทำอยู่
ปั๊มไฮโดรเจนถ้าระเบิดขึ้นมาเวลาหนีคงไม่มี หายไปเลยทั้งปั๊ม
คนไทยชอบมีปั๊มใกล้ตลาดนัดด้วย เหมือนเป็นความสะดวกอ่ะ เกิดเหตุขึ้นมาคงตายเกลื่อน จึงต้องคิดดีๆก่อนจะตั้งปั๊มแก๊สH.ด้วยหละ
กว่าจะผลิตและสร้างกระแสให้กับไฮโดรเจนได้ รถไฟฟ้าเต็มถนนไปแล้ว กลับไปกลับมาอยู่แบบนี้ สงสัยโตโยต้าอาจจะเป็นโนเกีย 2 ก็เป็นได้ (สูญพันธ์ก่อนทำสำเร็จ)
ถามด้วยความไม่รู้นะ มันเติมอะไรไปในถัง
เติมอากาศทีเท่าไหร่ครับ
ขอให้จริงคับ
ต้องใช้ไฟฟ้ามาแยกน้ำเปล่าเป็นไฮโดรเจนกับออกซิเจน แล้วค่อยต่อก๊าซไฮโดรเจนเข้าห้องจุดระเบิด ก็สู้เอาไฟฟ้าต่อกับมอเตอร์ให้รถวิ่งไปเลยมันง่ายกว่าเยอะน่ะ จะไปแยกน้ำสร้างเชื้อเพลิงทำไมให้ขั้นตอนซ้ำซ้อนล่ะนี่ แต่ก็เอาที่สบายใจนะ
จัดไปพี่โต
แล้วชิ้นส่วนเคลื่อนไหวอื่น ๆ ในเครืรองยนต์นี้ ยังต้องใช้น้ำมันเครื่องเป็นส่วนของระบบหล่อลื่นอยู่รึเปล่า
เหมือนเดิม ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเหมือนเดิม
ยาก!เพราะเชื้อเพลิงไฮโดรเจนไม่มีทางถูกกว่าไฟฟ้า สมมุติถ้าแร่ทำแบตหมดไม่มีรถไฟฟ้าคนก็หันไปใช้รถน้ำมันเหมือนเดิม
แร่กว่าจะหมด น้ำมันคงหมดก่อน
โห ดีมากเลย
ไฮโดเจนแรงดันในถังเท่าไหร่ครับ
ต้องการขายอะไหล่ ต่อไป เรื่อยๆ โดยไม่สนใจว่า ไฮโดรเจน ต้องใช้เทคโนโลยีที่แพงกว่ารถน้ำมันเสียอีก .... เห็นNokia กลายๆล่ะ ถังแก๊สเต็มรถเลย ถูเข้าไป หรือมองอีกมุม ดึงเกมส์ไปเรื่อยๆก่อน ... ให้สาวกใช้รถเครื่องสันดาปไปเรื่อยๆก่อน ว่าซ่าน.....
สวัสดี
เทค สมาร์ททูกคน 🙏🌹🌷🙋
อนาคตรถยนต์ไฟฟ้าก็จะใช้เวลาชาร์จน้อยมากเท่ารถใช้น้ำมัน ส่วนรถยนต์เครื่องยนต์ไฮโดเจนก็สร้างยากกว่ามากเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้า ส่วนแบตรถยนต์ไฟฟ้าก็ใช้แร่ที่จำกัดและมีไม่มากในโลก อนาคตพอแร่ทำแบตขาดแคลนคนใช้รถยนต์ก็จะต้องหาทางเลือกใหม่ๆอยู่ดี เพราะแบตน่าจะแพงมาก ข้อดีของการที่มีเครื่องไฮโดรเจนในตลาดคือ ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น ไม่ต้องไปพึ่งพาแหล่งพลังงานแบบใดแบบหนึ่ง เหมือนอย่างเรามีรถยนต์ใช้น้ำมัน แล้วพอมีใช้แก๊ส NGV LPG ก็ใช่ว่าการมีรถใช้แก๊สมาแล้ว คนจะเลิกใช้รถใช้น้ำมันไปทันที มันก็ใช้สลับๆกันนี่แหละ ยิ่งไฮบริดกันได้หมดทุกระบบ น่าจะเป็นเทรนใหม่ในอนาคต แต่จะรวมเครื่องยังไง😂
คิดถึงNokia ตอนปฏิเสธระบบแอนดรอยน์เลย
รอซื้อมือสองมาติดแก๊สLPG😅😅😅
ธุรกิจมันคือเทรน เทรนมันจะทำให้การลงทุนน่าลงทุน การสวนกระแส มันไปไม่รอดหรอกคับ ตราบใดที่ยังไม่มีใครร่วมลงทุนมันก็คือ 0เปล่า บางครั้งมันต้องรอเวลา รอจังหวะด้วย
ถ้าเป็นเครื่องยนต์ แม้จะเติมไฮโดรเจน ถึงมันจะไม่มีมลพิษในอากาศ
แต่การซ่อมบำรุงรักษาของเครื่องยนต์นั้น มันจะต้องเสียเงินเพิ่มขึ้นกว่าเครื่องยนต์ในปัจจุบัน หรือปล่าวคนใช้จะต้องคิดหนัก แต่รถไฟฟ้า 8-10 ปี คนที่ใช้ถึงจะเอาไปเปลี่ยนแบตเตอรี่ ก็เพราะชิ้นส่วนของรถไฟฟ้ามีไม่มาก
จ่ายเงินเกือบ3000000เพื่อจะได้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผมบรจาคเงินสัก5000ไปปลูกต้นไม้ก็ได้ ไม่ต้องเสียเงินหลักล้าน ปัญหาของรถไฮโดรเจน มันอยู่ทีสถานีเติม ใครจะไปลงทุนให้โตโยต้า ถ้าไม่สร้างเอง แภมราคาค่าเติมแพงพอๆกับรถน้ำมัน ก็เข้าใจโตโยต้านะ จะไปทางไฟฟ้าก็คงทำราคาสู้จีนไม่ได้ ....
อาจเป็นไปได้ แต่คงยากมากครับ
เป็นไปไม่ได้เพราะ มันไม่สามารถขายได้ ใครจะลงทุนทำปั๊มเติมไฮโดรเจน
เอาดีทางรถน้ำมันนี่แหละค่ะไม่ต้องไป
เห่อตามกระแสรถEVให้มากยังไงระยะ
ยาวรถน้ำมันได้เปรียบกว่าแค่ออกแบบ
ให้ค่าสิ้นเปลืองไม่น้อยกว่า30กม/ลิตร
เทคโนโลยีประหยัดเชื้อเพลิงยอดเยี่ยม แต่ราคาคาบำรุงรักษาคงแรงกว่าน้ำมันสันดาบแน่เพราะ กลไกการได้มาและสันดาบจะอันตรายและราคาค่าบำรุงโหดแน่นอนไม่คุ้ม
ผมตามเรื่องไฮโดรเจนมา 20กว่าปีแล้ว แต่รถที่ใช้งานจริงๆยังไม่มีขายทั่วไปสักที ความจริงมันเก็บแบบไม่ระเบิดได้ตั้งนานแล้ว แต่เมื่อก่อนราคาน้ำมันมันยังถูกอยู่ เลยไม่เกิดสักที
การดูแลรักษารถไฟฟ้าถูกกว่า รถไฮโดรเจนนะ อันนี้ความคิดผมนะ
ถึงอย่างไรก็แหลกกันกับระหว่างรถไฟฟ้า100%กับไฮโดรเจนก็คือเครื่องสันดาบภายในอยู่เหมือนเดิมมีค่าบำรุงรักษาเพิ่มมากขึ้นเนืองจากความร้อนสูงมากๆตรงกันข้ามกับไฟฟ้าการบำรุงรักษาดูแค่น้ำล้างกระจกเองผมเหลือกรถไฟฟ้าดีกว่าครับผมผมเองใช้รถโตโยมาคันที่3แล้วรอชุดคิททาง บ.ทำมาเปลี่ยนรถเดิมที่ใช้น้ำมันให้เป๋นไฟฟ้าอยู่ เพราะว่า ผู้บริหาร.คนเก่าพูดไว้ว่าจะเปลี่ยนรถเก่าที่ลูกค้าเดิมชื้อไปเป๋นไฟฟ้ามิใช่หรือคับเพิ่มเติมคับมอเต้อไฟฟ้ามีชิ้นส่วนน้อยกว่าเครื่องสันดาปตั้ง90%เลยแถมมอเต้อยังให้กำลังร่วม100%ของการลงทุนพลังงานที่ลงไปได้กลับมามากกว่าครับ
ผมว่ารถ EV ตอนนี้มาดีครับ แต่อนาคตรถ ,H2 หรือไฮโดรเจนจะมาเยอะขึ้น เนื่องจากเเร่ที่นำมาผลิต Battery EV เริ่มน้อยลง
แบตกำลังพัฒนาอยุ่คับ ยากอยุ่กว่าจะหมดคับ
สู้ๆสำหรับคนชอบเครื่องยนต์อย่างผม
เสียงมอเตอร์มันก็มี เสียงแหลมรอบสูงกว่าเครื่องยนต์อีก
ดีครับผู้บริโภคจะได้มีตัวเลือก ในอนาคตปัญหาขยะแบตเตอรี่คงเป็นปัญหาใหญ่toyotaเขามองไกลกว่านั้น
น่าจะถูกใจผู้ก่อการรัายสายคาร์บอม