CEO โตโยต้าไม่สนรถไฟฟ้า แต่ซุ่มเงียบพัฒนาเครื่องยนต์แอมโมเนีย
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 4 ม.ค. 2024
- เครื่องยนต์สันดาปภายในยุคใหม่ที่จะมาพูดถึงกันในวันนี้ ที่ได้รับการพัฒนาร่วมจาก GAC และ Toyota โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากอุตสาหกรรมการเดินเรือและการขนส่งสินค้า ซึ่งกำลังสำรวจเกี่ยวกับแอมโมเนียเพื่อทดแทนน้ำมันดีเซลสำหรับเรือและรถบรรทุก ตามข้อมูลของ GAC ได้ระบุสเปคว่าใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ผลิตกำลังได้ 120 กิโลวัตต์ และมีกำลังสูงสุด 161 แรงม้า ที่ใช้แอมโมเนียในการเผาไหม้ มันช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ถึง 90% เมื่อเทียบกับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงปกติ
เชื้อเพลิงแอมโมเนียมเหลวจะสามารถให้พลังงานกับเครื่องยนต์ได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น ในปริมาณการใช้งานที่เท่าๆกัน ทว่าในทางกลับกันด้วยการปลดปล่อยคาร์บอนสู่สภาพแวดล้อมที่น้อยกว่า จึงทำให้มันอาจกลายเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ สำหรับผู้ผลิตที่ยังอยากให้ขุมกำลังชนิดนี้ได้เดินต่อไปในภายภาคหน้าอย่างเช่น Toyota แต่นอกจากความหนาแน่นเชิงพลังงานจะต่ำกว่าแล้ว เชื้อเพลิงแอมโมเนียมเหลว ยังมีข้อด้อย หรือที่จริงคือความเสี่ยง เนื่องจากความเป็นพิษของตัวมันเองที่มีต่อมนุษย์อยู่ไม่น้อย จนอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นัก ที่ในช่วงแรกของโปรเจ็กท์การพัฒนาเชื้อเพลิงชนิดนี้ จะต้องถูกจัดการในเรื่องการรั่วไหลให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ นอกจากนี้ ด้วยความที่มันเป็นเชื้อเพลิงซึ่งมีความเข้มข้นของก๊าซไนโตรเจนค่อนข้างสูง จึงทำให้มันอาจจุดระเบิดได้ยาก หากเครื่องยนต์ไม่มีการอัดอากาศเข้ามาสู่ห้องเผาไหม้มากพอ หรือมีอัตราส่วนกำลังอัดไม่มากพอ ทั้งนี้ ทาง GAC และ Toyota ยังไม่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่า พวกเขาจะนำเครื่องยนต์แบบใหม่นี้ มาใส่ในรถยนต์สำหรับการใช้งานทั่วไปในอนาคตหรือไม่ ? เพราะมีความเป็นไปได้ว่า ตอนนี้มันอาจเป็นโปรเจ็กท์ที่อยู่ในขั้นเริ่มต้นเท่านั้น จึงทำให้อาจต้องใช้เวลาในการพัฒนาต่อไปอีกสักพักใหญ่ จึงจะสามารถนำมาใช้งานได้จริง และปลอดภัยกับผู้ใช้ทั่วไปจริงๆ แต่ถึงกระนั้น ผลงานการพัฒนาของ GAC Toyota ในครั้งนี้ก็ถือเป็นความพยายามในการลดคาร์บอนไดออกไซด์ในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์นอกเหนือจากการหันไปใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (BEV) เพียงอย่างเดียว
ขอบคุณทีมงานเขียนสคริปต์และทีมงานตัดต่อ - ยานยนต์และพาหนะ
เคยเห็นนักวิจัยเยอรมัน
ทดสอบใช้แอมโมเนีย
เป็นเชื้อเพลิงในจักรกล
ภาคเกษตรกรรม
มันได้ผลดีเหลือเชื่อ
และต้นทุนถูกกว่า
ใช้งานง่าย และปลอดภัยกว่า
การใช้ไฮโดรเจน
เป็นเชื้อเพลิงโดยตรงครับ
ทางค่ายรถญี่ปุ่นเองคงรู้ว่า เทคโนโลยี่แบตเตอรี่ คงตามจีนไม่ทันและวัสดุตั้งต้นในการผลิตแบตเตอรี่ก็ไม่มี สุดท้ายทำรถไฟฟ้าออกมาก็ต้องพึ่งแบตเตอรี่จากจีนอยู่ดี ดังนั่นเพื่อจะไม่ต้องพึ่งจีน เลยต้องพยายามหาทางอื่น ๆ แทน รถไฟฟ้าหลายยี่ห้อที่ผลิตขายในปัจจุบันส่วนใหญ่ใช้แบตเตอรี่จากจีน อาจจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อม
ญี่ปุ่นนำจีนอยู่นี่ครับ แบตในจีนเผลอๆคือญี่ปุ่นนั่นล่ะครับ
@@PhatrawuthKensomsri สลับไหมครับ รถไฟฟ้าญี่ปุ่นตอนนี้แบตจีนเกือบหมด
@@PhatrawuthKensomsri ล่าสุดรถไฟฟ้า Toyota จับมือรถจีน ใช้เทคโลโลยีของ BYD อยู่ครับ
ถ้าเป็นผม ก็คงไม่อยากพึ่งพาจีนมากเหมือนกัน ถ้าพึ่งพามาเกินไป เกิดปัญหาแน่นอนในอนาคต😢
พึ่งพาคนอื่นมากเกิน เจอปัญหาแทบทุกราย😂
แบทระเบิดเป็นว่าเล่น😂
ดีครับการแข่งขันทำให้ธุรกิจเกิดความหลากหลาย และเป็นการประกันกับโลก ว่าเมื่อเกิดปัญหากับพลังงานใดๆที่ใช้อยู่ไม่ว่าจะน้ำมันหรือแบตเตอรี่ ที่วันนี้พลังงานบางชนิดอาจยังไม่ส่งผลเสียอย่างชัดเจน จะได้มีการศึกษาพลังงานอื่นๆมาก่อนและสามารถพัฒนาใช้ได้ทันทีหรือใช้เวลาน้อยลง
สงสัยแก้ปัญหา Fuel Cell แหละ ถ้ามองไปในการหาวิธีแตกตัว ไนโตรเจน กับไฮโดรเจนออกจากกันแล้วเอาเข้า fuel cell แทน มันจะสามารถบรรจุไฮโดรเจนได้เยอะมหาศาลเลยนะ
แอมโมเนีย ดีสุด ราคา / น้ำหนัก / ระยะทาง / Co2
น่าสนใจสุด
พี่โตแค่ถ่วงเวลา โรงงานอะไหล่ทั้งหลายจะตายถ้าหันไปทำรถไฟฟ้า 😂
รู้สึกว่า โตโยต้าและค่ายญี่ปุ่นพยายามที่จะใช้เครื่องยนต์สันดาปอยู่ หรือ ใช้ให้นานที่สุดก่อน เพราะ ชิ้นส่วนประกอบเครื่องยนต์ มันใช้เยอะอยู่และบริษัทญี่ปุ่นที่ผลิตชิ้นส่วนพวกนี้มีอยู่เยอะ....ถ้าหันไปใช้ระบบมอเตอร์ไฟฟ้า...บริษัทและพนักงานที่ผลิตชิ้นส่วนคงต้องล้มหายไปเยอะ...ซึ่งมีผลกระทบต่อประเทศแน่
จริง ลงทุนไปเยอะ
เขาผลิตเขามองถึงสภาพแวดล้อมด้วย ไม่ใช่แค่ผลิตมาเพื่อขายอย่างเดียวครับ
การเปลี่ยนรถน้ำมันเป็นรถไฟฟ้าเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุครับญี่ปุ่นจึงพยายามทำให้เครื่องสันดาปยังคงอยู่ มาดูกันว่าทำไมค่าCO2ที่ปล่อยจากอุตสาหกรรมใหญ่ทั่วโลกในปี2022 อยู่ที่≈35กิกะตัน(กิกะ=พันล้าน) อุตสาหกรรมด้านพลังงานทุกประเภทสร้างCO2≈14.65กิกะตัน=42.2%(มากที่สุดคือถ่านหินและน้ำมัน+ก๊าซธรรมชาติเฉพาะ3ตัวนี้รวมกันสร้างCO2ประมาณ70-80%ของ42.2%),อุตสาหกรรมด้านการผลิตต่างๆอยู่ที่≈9.15กิกะตัน=26.3%(มากที่สุดคือแบตเตอรี่และสารเคมีต่างๆสร้างCO2ประมาณ60-70%ของ26.3%) ,การขนส่งคมนาคมทุกประเภทอยู่ที่≈7.98กิกะตัน≈23% , การก่อสร้างอยู่ที่≈2.97=8.5% มาเจาะเรื่องการขนส่ง23%ที่ว่า≈7.98กิกะตัน
แบ่งเป็นรถยนต์ส่วนตัวประมาณ40% และที่เหลือ60%เป็นการขนส่งเชิงพาณิชย์(รถบัส รถบรรทุก เครื่องบิน เรือ รถไฟ) ซึ่งรถยนต์1ล้านคันปล่อบคาร์บอน≈เรือเดินสมุทร47ลำ เรือเดินสมุทรทั้งโลกที่ยังใช้งานอยู่มีประมาณครึ่งแสนลำ รถยนต์ทุกประเภททั้งโลกมีประมาณ1พันล้านคันแปลว่าเฉพาะรถยนต์ส่วนตัวทั้งโลกปล่อยมลพิษเทียบเท่าหรือมากกว่าเรือเดินสมุทรที่มีอยู่ในปัจจุบันเพียงเล็กน้อย นี่ยังไม่ได้นับรวมขนส่งอื่นๆเลยนะครับ สรุปง่ายๆคือไม่ได้สร้างนวัตกรรมใหม่หรือรักษ์โลกอะไรเลยแค่หาวิธีที่จะทำให้พลังงานที่มีจำกัดสามารถทำกำไรได้สูงขึ้นโดยบีบอุตสาหกรรมรถยนต์สันดาปให้หมดไปหรือเหลือน้อยที่สุดด้วยมาตรฐานยูโรต่างๆ เพื่อให้ราคาน้ำมันดิบสูงขึ้น ถ่านหินที่เป็นอีกช่องทางในการผลิตไฟฟ้ามีราคาสูงขึ้น แบตเตอรี่และสารเคมีอื่นๆที่เกี่ยวข้องราคาสูงขึ้น สรุปว่าเกี่ยวกับผลประโยชน์ของคนเพียงหยิบมือบนโลกเราก็แค่นั้น
@@chaykang4441 ทุกวันนี้เครื่องยนต์สันดาบผมก็ไม่เห็นว่ามันจะช่วยโลกยังไง ก็ยังก่อมลพิษเหมือนเดิม เห็นวิจัยตั้งแต่ไฮโดรเจน สุดท้ายก็เงียบไป สุดท้ายถ้าตลาดโลกไม่สนใจเชื้อเพลิงสันดาบแบบใหม่ก็ไม่มีใครลงทุนสุดท้ายก็ตายไปครับในเมื่อมันหายาก แต่ไฟฟ้ามันหาได้ทั่วไป แถมผู็ใช้งานก็ดูแลรักษาง่าย มันมีปัจจัยเยอะครับ ผมมองว่าถ้าช่วยโลกจริง ควรไปในทางที่ลดมลพิษจากเครื่องยนต์สันดาบให้มากที่สุดครับ ถึงวิธีการผลิตไฟฟ้าเราจะก่อมลพิษในบางวิธี แต่ก็มีหลายวิธีที่ช่วยสิ่งแวดล้อม มันก็แค่ข้ออ้างของ บริษัทที่ยังอยากทำกำไรรูปแบบเดิม
ไฟฟ้า แร่ลิเทียมราคาพุ้งขึ้น 6 เท่า ไม่นาน อาจแพงกว่านี้หลายเท่า
แค่ไฮโดรเจน ยังลูกผีลูกคน นี่มาแอมโมเนียอีก ...ถ้าจะต้องซื้อรถราคาเกือบ2000000 เพื่อจะได้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ลำบากเงินในกระเป๋า ผมเอาเงิน10000บาท ไปซื้อต้นไม้มาปลูกได้เป็นแสนต้น ก็ได้ชื่อว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเหมือนกัน
ปลูกต้นไม้แต่อากาศแปรปรวนปลูกอะไรไม่ขึ้นแล้วมั้ง มีประโยชน์อะไร โดนสภาวะเรือนกระจก
@@N9gadgetปลูกไม่ขึ้นยังไงก็เห็นคนปลูกต้นไม้กันเยอะแยะ 😂😂😂
@@godeye7457 พูดถึงอนาคต ปีนี้ฝนก็เริ่มน้อยลง ทำเป็นหัวเราะ
@@N9gadget ฝนน้อยยังไงตกจนท่วมอยู่ทุกปี 😂😂😂
@@godeye7457 อากาศมันแปรปรวน บางพื้นที่ในไม่ตก ตกน้อย บางพื้นที่ก็ตกเยอะจนเกินไป หัดใข้สมองมั้งนะจะได้ฉลาด
กว่าจะขายรถไฟฟ้าจีนถูกลง
กว่านี้อีกเกิน50%ตลาดวายพอดี
แค่ต้นทุนการผลิตเครื่องสันดาปกับ EV ก็ต่างกันมากแล้ว ยังไม่นับการต้องบำรุงรักษาที่มากว่าเนื่องจากความร้อนและการเสียดสีที่จะเกิดจากการจุดระเบิด ลำพังเหตุผลแค่นี้ก็ทำให้ระบบสันดาปไม่มีทางไปต่อได้เนื่องจากไม่สามารถแข่งขันการตลาดได้
แต่ที่แน่ๆสันดาปอยู่อีก50ปีเป็นอย่างต่ำ
จริงครับ
สันดาปรถผม25ปีละคับ?รถแบตคุณใช้มากี่ปีละ ในท้องรถ มีรถ แบตหรือรถสันดาปมากกว่ากัน? สมองโง่จริงๆ
ภาคการขนส่งสินค้าในประเทศไปตามพื้นที่ต่างจังหวัดยังจำเป็นต้องใช้รถน้ำมันครับ ด้วยปัจจัยหลายๆด้าน รถไฟฟ้าจะตอบโจทย์สำหรับคนใช้งานในเมืองมากกว่า รถนำมันหายไปจากโลกนี้ยากครับตราบใดที่ยังมีน้ำมันใช้อยู่
@@samurai0737ถ้ารถไฟฟ้าวิ่งได้7/800กิโลเมตรต่อชาร์จราคาไม่เกิน1.2ล้าน1.3ล้านก็อวสานรถน้ำมัน
โตโยคิดถูกแล้วค่ะพวกใช้รถไฟฟ้าเดี๋ยว
ซักพักก็ค่อยรู้ว่าไม่คุ้มนี่ถ้าหนูเป็นบริษัท
ประกันหนูไม่รับประกันเพราะโดนอุบัติ
เหตุนิดหน่อยต้องซ่อมเปลี่ยนแบตหลาย
แสนเดี๋ยวจะเจ๊งเหมือนไปประกันโควิด
บริษัทประกันนี่ก็โง่ดีนะทีรถเก่าเกิน10ปี
บางทีเจ้าของเค้าใช้มือเดียวเค้าก็อยาก
จะทำประกันชั้น1ตลอดแต่บริษัทประกัน
ไม่รับไม่ทราบว่าใช้ตรรกกะอะไรคิดคะ
ดีแล้วที่ไม่ได้ เป็น บ ประกัน
แอมโมเนียนี่อันตรายกว่าทุกแก๊สเลย ติดไฟก็ได้ เป็นพิษระบบทางเดินหายใจอีกต่างหาก
เก็บอยู่ในรูปแอมโมเนียครับเวลาจะใช้จะเปลี่ยนเป็นไฮโดรเจนNH3=N+H3
สรุปคิอโตโยต้าต้องการ
ทำยังไงก็ได้เพื่อให้รถยนต์
ยังคงต้องใช้เครื่องยนต์
คงเพราะลงทุนไปกับ
อุตสากกรรมเครื่องยนต์ไว้เยอะ
ไหนจะซัพพลายเออร์ต่างๆ
ที่เกี่ยวกับเครื่องยนต์อีก
ไม่ยอมปรับเปลี่ยนตัวเอง....
ผมว่าการลงทุนด้านเครื่องยนต์ประเภทสันดาปจนคืนทุนกำไรล้วนๆ มานานแล้วนะ 😅😅😅 ทุกวันนี้ปรับแต่งเป็นไฮบริดก็ยังกำไร ผมว่าเขามองการไกลกว่ารถที่ใช้แค่ไฟฟ้านะ
1 ญี่ปุ่น ไม่มั่งคงทางพลังงานไฟฟ้าครับ ถ้าเสียบปลั๊ก 30% ของประชากรรถยนต์ เราได้เห็นญี่ปุ่นไฟดับแน่ ต้องสันดาบเท่านั้น
2 อุตสาหกรรมญี่ปุ่น พึ่งพาพวกพ้องกันเยอะมากๆ ถ้าไปไฟฟ้า เพื่อนตายหมด ระบบอุตสาหกรรมญี่ปุ่น พินาศ ต้องสันดาบเท่านั้น
@@mr.p.taraka6740 ไม่มีหรอกครับคำว่าคืนทุน เค้าลงทุนต่อๆขึ้นเรื่อยๆ
ผมว่าเขามองเห็นว่าคนที่ซื้อรถสันดาปยังไงก็คุ้มค่ากว่ารถไฟฟ้า ทั้งการใช้งานที่ยาวนานกว่า การดูแลรักษาง่ายกว่า เพราะรถไฟฟ้าในอนาคตปัญหาตามมาเยอะแน่นอนครับ ง่ายๆเลยสถานีบริการชาร์จ ถ้าคนใช้เยอะๆจะไม่พอเพียง คนจะรอชาร์จนานแค่ไหน บางคชาร์จรถทิ้งไว้แล้วไปทำงาน คนรอก็รอไปสิไม่สนใจ แล้วคนที่จะมารอชาร์จไฟ ยุ่งแน่นอนครับ
@@l3ig638รู้ได้ไง. นั้นเขามีทุน จากไหนมาลง😅. ไม่มีใคร ที่ขาดทุน แต่ยิ่งลงทุนเข้าไปอีกหรอ😅😂
ระหว่างรอใช้รถแอมโมเนีย ผมขอใช้รถไฟฟ้าไปก่อนนะครับ เป็นกำลังใจให้พี่โตครับ สู้สู้ครับ
ปัญหาคือชิ้นส่วนจำนวนมาก เหมือนเครื่องยนตร์เดิม ลำบากในการซ่อม
ขับโตโยต้ายังไงถึงได้ลำบากในการซ่อม
เด๋วก้เจ๊ง กลับลำมาใช้ไฟฟ้า
ผมนะเชื่อมั่นในประเทศญี่ปุ่นครับ เขาเก่งจริงๆนอกเรืองนะครับ ผมขอเดาเลยประเทศญี่ปุ่นจะสร้างพลังนิวเคลียร์ฟิงชันได้แหละใช้งานได้จริงเหลือทำไห้มันไห้พลังงานได้นานก็พอหรือถารวผมเล่นญี่ปุ่นกำลังซุ่มทำเหมือนกัน🇯🇵🇯🇵🇯🇵🇯🇵ผมเชื่อมั่นครับ อินเดียอีกใครเขากับกูส่งยานไปดวงอาทิตย์ดีกว่า😅😅😅ประเทศนี้สุดเหมือนกัน
รถยนต์ญี่ปุ่นกำลัง จะตามเครื่องไฟฟ้าญี่ปุ่นไป ความนิยมลดลดเรื่อยๆ พยามเบี่ยงเบนเพราะตามเทคโนโลยีรถไฟฟ้าไม่ทัน แข่งขันไม่ได้
ตอนนี้จีนกำลังโละรถไฟฟ้าออกไปต่างประเทศ เพราะคนที่กำหนดนโยบายเกี่ยวการผลิตรถไฟฟ้าของจีนตั้งแต่เริ่มแรก ไม่ได้มุ่งไปที่ EV แล้วแต่เปลี่ยนไปใช้พลังงานทางเลือกแทนเพราะรู้ว่า EV มีปัญหาและมีข้อจำกัดในการพัฒนา คนไทยต้องมีวิสัยทัศน์และตามเทร็นด์การเปลี่ยนแปลงที่จะเข้ามาให้ทัน
เขาควบคุมรถไฟฟ้ากระป๋อง ที่ไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัย อย่าหลอน ตอนนี้จีน รถไฟฟ้าเต็มเมือง เทสล่าแทบจะมีบ้านละ1คันล่ะ กลายเป็นรถที่โหลสุดในจีนตอนนี้
@@NCG3869 ไม่ได้หลอน แต่ตอนนี้เค้ามุ่งไปพลังงานสะอาดกันแล้ว อย่าลืมว่าแบตเตอรี่ไม่ใช่แหล่งพลังงานไฟฟ้า แต่เป็นแค่ตัวกักเก็บพลังงานเท่านั้น แล้วแหล่งพลังงานที่รองรับ EV ส่วนใหญ่ไม่ใช่พลังงานสะอาด เป็นน้ำมันกับก๊าซส่วนใหญ่ ตอนนี้ทุกประเทศถูกบังคับให้เริ่มเข้าสู่ Carbon Zero กันแล้ว ประเทศไหนไม่ทำ ถูกกีดกันทางการค้าและไม่มาลงทุนด้วย เพราะฉะนั้นทำอะไรต่องมีวิสัยทัศน์มองให้ไกลอย่ามองแค่ตอนนี้ ไม่เช่นนั้นเราจะเดินตามหลังจีนและกลายเป็นแหล่งขยะ EV ที่สร้างมลพิษ ที่จีนพยายามขนออกนอกประเทศ จีนแทบไม่ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ไทยเลย ไทยได้น้อยมาก แม้กระทั่งคนงานจีนก็ขนมา เครื่องจักรก็เอาแบบเก่ามาสร้างมลพิษ
ขอบคุณโตโยต้า ขอบคุณญี่ปุ่นครับ จากเพี่อนคนไทยคนหนึ่งครับ...
ไปไม่เป็นแล้ว หลังจากตามรถไฟฟ้าไม่ทัน
ขอบคุณช่องเทค สมาร์ท ที่นำเรื่องราวดีๆ มาเล่าให้ฟังครับ
และขอบคุณเหล่าผู้ผลิตที่พยายามคิดค้นหาแหล่งพลังงานที่ปลอดภัยต่อทุกชีวิต ขอให้ประสบความสำเร็จในเร็ววันครับ ❤🎉
ไม่คาดหวังจะได้ไม่ต้องผิดหวัง
เครื่องต้นแบบพึ่งทดลอง แล้วบริษัทญี่ปุ่นด้วย หนทางยังอีกยาวไกล 20-30ปีมีแน่😂😂😂
กับเชื้อเพลิงที่ไม่สามารถหมุนวียนนำกับมาใช้ใหม่ได้ อย่างเช่นน้ำมันที่กำลังจะหมดโลกนี่นะท่าน!?😅😅😅😅😅
สารอันตรายมาก สุดเข้าไปตายสนิท. กูขอใช้รถไฟฟ้า ผลิตไฟจากโซลาบนหลังคาบ้าน. พลังงานฟรีๆ ปลอดภัย. ใช้แบตเตอรี่แบบถอดเปลื่ยนเฉพาะเซลได้ เซลเสื่อมชิ้นไหน เปลี่ยนแค่ชิ้นนั้น สบายใจ ขับไปยังมีเงินเหลือใช้ เติมน้ำมัน1หมื่น฿ เติมค่าไฟ200฿ เหลือเงิน9800฿ใช้สบายใจ
เขาลืมคิดว่ารถไฟฟ้าต่อไปจะใช้ดีกับบ้านเรือนที่ติดโซลาร์เซลล์(พลังงานแสงอาทิตย์)แม้ต้นทุนสูงก็คุ้ม
มันไม่ได้มีทุกบ้านน่ะครับ แล้วจะวิ่งหาตู้ DC กันทำไม
Dc เฉพาะทางไกล
ขนาดไฟฟ้าล้วนยังมาช้า อีกนานแน่นอน
สารพัดเชื้อเพลิงำยุ่น
กว่าเครื่องยนตร์แอมโมเนียจะสำเร็จ รถไฟฟ้าก็ไปถึงไหนแล้ว จะไฮโดรเจน หรือแอมโมเนีย มันไม่จบแค่ที่เครื่องยนต์ แต่ต้องมีสถานีเติมไฮโดรเจน แอมโมเนียมารองรับอีก เรื่องยังอีกยาว ข้อจำกัดรถไฟฟ้าตอนนี้อยูตรงแบตเตอรี่ แต่ก็ดีขึ้นทุกปี ถ้าชาร์จเต็มวิ่งได้จริงๆมากกว่า 1,000 กิโล ถึงจุดนั้นก็เป็นอวสารรถน้ำมัน รถไฟฟ้ายังมีข้อดีกว่าเครื่องยนต์สันดาป เรื่องชิ้นส่วนอะไหล่น้อยกว่ามากๆ ค่าบำรุงรักษาน้อย โตโยต้ายังฝืนแบบนี้ ทำให้ผมนึกถึงโนเกียเลย พยายามฝืนใช้ระบบ Symbian จนเจ๊ง
จีนก็มีขายแล้วนี่ครับเครื่องยนต์แอมโมเนีย ไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่
มันก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือก แต่พี่โตแค่รักษาซับพรายเชนให้นานที่สุด ลองคิดเล่นๆนะครับรถไฟฟ้าค่าบำรุงรักษาเท่าไหร่มีอุปกรณ์กี่ชิ้นที่ต้องดูแล รถสันดาปค่าบำรุงรักษาเท่าไหร่ถึงแม้จะเปลี่ยนเชื้อเพลิงแต่อุปกรณ์ต่างๆยังเหมือนเดิมหรือเพิ่มเติมมาด้วยซ้ำ
ใช่ครับ โตโยต้า บอกเองเลยว่าจะยื้อสันดาบไปให้นานที่สุด แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้พัฒนาEVเลย แถมมีรถไฮโดรเจนด้วยซ้ำรอดูอีก5-10 ปี จะเป็นไง
รอดูอีก 5-6ปี ถึงเวลาเปลี่ยนแบตเตอรี่ ถ้ายังแก้แบตเตอรี่แพงไม่ได้ คนใช้EV. มีร้อง
@@monkey..1582 รถ ev ส่วนมากรับประกันแบต 8ปี ผมว่าอีก8ปีนวัตกรรมแบตคงไปไกลแล้วครับ
แอมโมเป็นเป็นแค่ร่างที่ทำให้เก็บ H ง่าย ใส้มันคือ H แต่มีฟิลเตอร์สกัด H ออกมาในกระบวนการ เพราะH เก็บยาก
ไฟฟ้ากับมอเต้อดีที่สุดครับ
เอาเลยถ้าญี่ปุ่น.ไม่อยากใช้.อีวี.ต่างคนต่างทำต่างคนต่างคิด.แต่อย่า.ใส่ร้ายป้านสี.กัน.จะแอมโมเนีย.หรือ.แอมโมโน..ไม่ว่ากัน.จะได้มี.นวัตกรรมใหม่ๆเกิดขึ้น.ดี.ดี.สบายดี.เด้อ.
โตโยต้ายังหลงทางอยู่ สำหรับตอนนี้และหลังจากนี้อี5ปี รถน้ำมันที่จะออกใหม่จะลดไปอีกมาก แต่ในขณะเดียวกัน รถไฟฟ้าก็ยิ่งพัฒนาไปอีก และมิหนำซ้ำ เขาจะติดโซล่าร์เซลล์ลงไปในรถอีก ทีนี้ก็จะพัฒนาไม่ทันจีนแล้ว ไหนจะ ยุโรป เลิกผลิตรถน้ำมันอีก มันดูแล้วน่าจะตามไม่ทันเลย เคยเห็นบริษัทญี่ปุ่น ต้องกลับบ้านไปเพราะ ไม่ยอมที่จะปรับตัว
น่ากลัวนะครับ ถ้ารถมีโซล่าเซลในตัว
คุณคงไม่เคยสัมผัสโซล่าเซลที่ตากแดดเปี่ยงๆทังวันยิ่วตอนบ่ายโมงแล้ว มันร้อนขนาดที่แผง มือจับมีสดุ่งเบาๆ
เอามาติดรถที่ตากแดดร้อนๆ แล้วปิดกระจกด้วย การระบายความร้อนไม่ดีเอาเสียเลยนะ
อาจนะ!เคยเห็นรถไฟไหม (รถไฟไหม้)
แผงเวลาผลิตกระแสและจ่ายโหลด ก็เกิดความร้อนในตัวเองเเล้ว
รถที่ตากแดด เปิดประตูออกมา ภายในร้อนขนาดไหน พลาสติกที่วางไว้หน้ารถยังละลายเสียรูปไปเลย
ถ้าคุณเคยนะ
รถไฟ55555 อย่าเชื่อว่ามันสุดยอดตามโฆษณา ไม่งั้นมีเขาบนหัว หาความรู้กว้างๆครับ
@@user-vm8ec1qc5c คุณคงจะเก่งมากนะครับ ทำไมไม่เป็น ที่ปรึกษา บริษัทรถยนต์ ล่ะครับ ยังอุตส่าห์มาตอบคอมเม้นห่วยๆแบบผมอีก ดูเสียแรงนะครับ
@@user-pq5yg1rg9hแผงโซล่าเซลล์โคตรอันตรายถ้าไม่ดูแลรักษาเป็น
@@user-pq5yg1rg9hเขาก็คงคิดว่าเก่ง เหมือนคุณที่บอกโตโยต้าหลงทางอยู่นั้นแหละครับ 🤣🤣🤣
โตโยต้้ากำลังเป็นแบบ โนเกีย ไม่พยายามตามกระแส
โตโยต้า ไฟฟ้าเขาทำมานานแล้ว มีแต่พวกหน้าใหม่ทั้งนั้นที่เหิ่อกันตอนนี้ หาพลังงานทางเลือกใหม่ เขาทำถูกแล้ว อาจจะเป็นผู้นำในอนาคต ของพลังงานใหม่
แล้วแต่เลยครับ เห็นมีแต่ซุ่ม ตั้งแต่ไฮโดรเจน น่าจะสัก 20 ปีที่แล้วละมั๊ง ยังไม่ขึ้นไลน์ผลิต Mass Production สักรุ่น ตอนนี้มาแอมโมเนียอีกแล้ว 😂😂😂 เขาคงคิดถ้ารถน้ำมันยังขายได้ ทางโตโยต้าคงยังไม่เปลี่ยนหรอก ต่างจากจีน ทำก่อน ขายก่อน ได้ก่อน อนาคตค่อยว่ากัน ส่วนตัวไม่เคยชอบยี้ห้อนี้เลย ส่วนคนที่ชอบก็จัดไปครับ
อย่ามองว่าโตโยต้าทิ้งรถไฟฟ้านะครับ เพียงแต่ไม่ได้เน้นแค่นั้นเอง ตอนนี้จีนเริ่มโละไฟฟ้าออกนอกประเทศแล้ว จีนเริ่มแบนออกไปนทางพลังงานทางเลือกแทน เพราะเอาเข้าจริง EV ไม่ได้ลดโลกร้อนจริง
@@ultrasnook ข้อนั้นรู้ครับว่าเทคโลโยยีรถไฟฟ้ามันไม่ได้ลดโลกร้อน เพราะการผลิตไฟฟ้า 85% โดยประมาณ(ข้อมูลปี 65)ในปัจจุบันยังคงใช้ ก๊าซธรรมชาติ และ น้ำมันเชื่อเพลิง(แต่สัดส่วนน้อยกว่ามาก) บริษัทที่ผมทำงานอยู่ก็ผลิตชิ้นส่วนส่ง Toyota อยู่ตอนนี้โดยเฉพาะ Engin Part ส่วนลูกค้าอื่นๆ ก็เริ่มลดการสั่งซื้อ Engine Part แล้วเริ่มมีการขอ Quatation EV Part เข้ามาบ้างแล้ว ก็พอได้สัมผัสคนญี่ปุ่นที่ทำงานอยู่ใน Toyota ทั้ง TMT ทั้ง STM ก็เยอะแยะเขาก็เล่าให้ฟังอยู่แนวคิดของคนญี่ปุ่นค่อนจ้างจริงจังกับการใช้พลังงานที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม ผมไม่ได้บอกว่าเขาทิ้งครับ แค่คิดว่ามันช้าไปหน่อยรถพลังงานไฮโดรเจน พัฒนามา 20 กว่าปีแล้ว ยังไม่ขึ้น Line Mass เลย ส่วนที่บอกว่าจีนโล๊ะ ที่เห็นจอดทิ้งเกลื่อนนั่น จริงๆ จีนก็ไม่ได้แคร์โลกร้อนขนาดนั้น แต่เป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีแบตเตอรี่ ที่ค่อนข้างเร็วมาก จึงทำให้มีรถที่ถูกทิ้งเยอะแยะ เนื่องจากระยะทางวิ่งมันสั้น เปลี่ยนแบตราคาพอๆกับซื้อรถใหม่ เขาเลือกซื้อใหม่ดีกว่า ที่ยังขายได้ทุกวันนี้ก็เพราะแบรนติดตลาด อะไหล่หาง่าย ปัญหาจุกจิกน้อย รวมถึงการบริการหลังการขายก็โอเค
สุดท้าย ถ้ารถน้ำมันยังคงขายได้และขายดี มันยังยากที่ไฟฟ้าจะมาแทนที่ แต่สำหรับจีน ทำก่อน ขายก่อน กำไรก่อน แล้วอนาคตค่อยว่ากัน ขอบคุณที่แลกเปลี่ยนครับ
@@autopks หลายๆ คนเริ่มเห็นตรงกัน ถ้าต้องการพลังงานสะอาด EV คงไม่ใช่คำตอบ เพราะแหล่งที่มาของพลังงานมันไม่ใช่พลังงานสะอาด แหล่งที่มาของพลังงานสะอาดไม่้เพียงพอสำหรับรถ EV ในอนาคตที่มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ(อย่าลืมว่าแบตเตอรี่เป็นตัวเก็บประจุไฟฟ้าหรือพลังงานไฟฟ้าแค่นั้น)ตอนนี้คนที่กำหนดนโยบายพัฒนารถไฟฟ้าของจีนตั้งแต่แรกได้มุ่งไปที่พลังงานไฮโดรเจนแล้ว กำลังพัฒนาแข่งกับโตโยต้าในการทำให้มีประสิทธิภาพและมีราคาถูกลง ลดการใช้แบตเตอรี่ลง เพราะไฮโดรเจนเป็นพลังงานสะอาดไม่มีวันหมด เพียงแต่เทคโนโลยีตอนนี้ยังทำให้ถูกลงได้ไม่มาก แต่อยู่ในระดับที่ปลอดภัยมากแล้ว จริงๆโตโยต้าไม่ได้คิดผิดเรื่องการพัฒนาพลังงานไฮโดรเจน แต่เวลาและเทคโนโลยี มันยังไม่แมทช์กัน อย่าลืมว่าตอนนี้ทุกอย่างมุ่งตรงไปสู่ Green Energy ใครไปได้เร็วคนนั้นชนะ (ตอนนี้ทุกประเทศถูกบังคับมากำหนดนโยบายพลังงานสะอาดตรงนี้กันแล้ว ว่าพร้อมได้ในปีไหน ซึ่งมีผลต่อการค้าขายและการเข้าไปลงทุนในประเทศนั้น)
เอาที่ไหนเติมอ่ะครับ เครื่องยนต์ แอมโมเนีย
สารแอมโมเนียเข้มข้นมันคือสารพิษอันตรายถึงตายถ้าเราอยู่ใกล้ๆและสูดดมเข้าไป จะแน่ใจได้ยังไงที่จะป้องกันการรั่วไหลได้100% ยิ่งคนไทยชอบละเลยความปลอดภัยอยู่บ่อยๆอ่ะนะ
Lpg ngvเค้าทำยังไงก็ทำแบบนั้น มันจะยากตรงไหน ไม่ใช่กากนิวเคลียซักหน่อย
@@beerhamchaiyaket7858 มันยากตรงที่มันเป็นสารพิษและถ้ามันรั่วสารสถานะแก๊ส(NH3)ที่ปล่อยออกมามันจะลอยต่ำๆให้เราสูดดมจนอาจจะสลบได้ง่ายๆ เมื่ออยู่ในรถแล้วหนีไม่ทันก็ตายไง มันไม่เหมือนกับแก๊สธรรมชาติ(NGV)ที่ส่วนใหญ่เป็นมีเทน(CH4)และแก๊สมวลโมเกุลเบาอื่นๆ ถ้ารั่วออกมามันจะลอยขึ้นไปบนอากาศ โอกาสสูดดมก็น้อยเพียงแต่ต้องระวังสะเก็ดไฟ ซึ่งอุปกรณ์และเครื่องยนต์รถที่ใช้NH3ก็ต้องมีการป้องกันการรั่วไหลให้ได้100%มันก็เลยยากและก็ต้องตรวจสอบระบบอยู่อย่างสม่ำเสมอจะละเลยไม่ได้
@@beerhamchaiyaket7858 ระดับความเข้มข้นที่จะเริ่มส่งผลอันตรายมันต่างกันมากๆนะครับ แอมโมเนียบริสุทธิมันทำให้เกิดNh4OHซึ่งเป็ด่างทำให้เกิดความระคายเคืองมากๆในขณะที่ความเข้มข้นเดียวกันของเบนซินเราเดินได้แบบชิวๆ ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาก็หนีตายอลหม่านเหมือนที่เกิดขึ้นกับการรั่วไหลในโรงน้ำแข็ง(ขนาดนั้นแค่เอามาใช้เป็นสารหล่อเย็นนะครับไม่ใช่เอามาเป็นเชื้อเพลิง ถ้าเอามาเป็นเชื้อเพลิงต้องใช้ในปริมาณที่มากกว่านี้มากๆครับ)
รั่วทีนี่ โคตรเหม็นเลย ขอบอก
วิศวกรเขาคงคิดมาดีแล้วแหละครับ ไม่ต้องไปกลัวแทนเขา จะรั่วเอา😂😂😂😂
ไฮโดรเจน ไปถึงไหนแล้ว
หาทำเเต่เรื่องยากๆ ก็ทำevก็จบ
ไฮโดเจ้นเอง เอาไปไห้รอดก่อน ไปถึงไหนละรถไฮโดเจ้นเอง😅😊😊😊,55
ถ้าใช้ ammonia ผลิตไฟฟ้าได้มั้ยคะ
เอาอีกแร้ว พี่โตสำนักวิจัย
รอๆ
ไม่มีใครพัฒนาเครื่องยนต์ คาร์บอนไดออกไซด์หรือครับ ถ้้าทำได้คงดีครับ
เอาให้สุดครับ
แล้วใครจะลงทุนสถานีแอมโมเนียให้
ความอยากเป็นผู้นำ ขุดเทคโนโลยี่โบราณ
พี่โตเขาจะซื้อเวลาเครื่องสันดาปให้ได้
รอพัฒนา
รถไฟฟ้าเหมาะสำหรับคนรวยครับ เขาพร้อมจะทิ้งได้ทุกเมื่อ หลังใช้6ปี ส่วนตัวผมยังใช้ไมตี้Xอยู่ครับ ผมว่ามันดีกว่ารถไฟฟ้าน่ะ ขนข้าวออกจากนา ขนมันออกจากไร่ ขนอ้อยออกจากไร่
ถ้าใช้ฉี่คนน่าสนใจ
🤔โอเคๆ...
ฝากถามทั่นปธ.โตโยดะด้วยนะครับว่า ไฮโดรเจน และ แอมโมเนีย ผลิตมาจากอะไรบ้างครับ ต้องใช้พลังงานมากแค่ไหนในการผลิต การแปรรูปแล้วยังต้องขนส่ง และมันมีประสิทธิภาพเชิงพลังงานกี่ %
เอาแอมโมเนียไปสันดาปเพื่อลดการปล่อยคาร์บอน แต่ได้ NOx ที่เป็นพิษมากกว่าออกมาแทน 😂😂😂
ต้องแก้ด้วย Catalytic converter ซึ่งต้องใช้โลหะพวก Pd, Pt 💰😅
ไปอ่านเจอใน สวทช. มีงานวิจัยของมหา'ลัยคุมาโมโตะของญี่ปุ่น จะมีการเติมสารเพื่อไม่ให้เกิดปฎิกิริยาเคมีระหว่างการเผาไหม้ จะไม่เกิด NOx ส่วนพี่โตไม่รู้ว่าจะเอางานวิจัยตัวนี้มาร่วมด้วยหรือเปล่า
แล้วฝากถามคนอวย Ev ด้วยนะว่าเอาพลังงานไฟฟ้ามาจากไหนมายัดใส่รถ EV กันใช้พลังงานจากน้ำมัน ถ่านหิน แก๊ส นิวเคลียร์ใช่หรือเปล่า จะมาโม้ว่าใช้พลังงานสะอาดอย่าง ลม แสงอาทิตย์ ราคา่ต่อหน่วยการผลิตแพงกว่าเท่าไหร่ จำนวนพลังงานที่ผลิตได้เทียบไม่ติดกับพลังงานที่บอกว่าสกปรก พลังงานน้ำก็โคตรทำลายธรรมชาติป่าไม้โดนทำลายไปเท่าไหร่ สัตว์น้ำหายไปกี่สายพันธุ์ ที่ญี่ปุ่นมันไป ไฮโดรเจนหรือแอมโมเนีย เพราะในอนาคตพลังงานที่ว่ามาอย่างไฮโดรเจนมันโคตรสะอาดผลิตได้ล้นเหลือเพราะแยกมาจากน้ำ ส่วนพลังงานที่เอามาแยกก็ใช้พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตมาจากเตาปฎิกรฟิวชั่นที่เขากำลังพัฒนาอยู่เขาวางสเตปเอาไสว้แบบนี้ส่วน EV มันแค่ของขั่นเวลาสนองนีสพวกคลังรักษ์โลก คลั่งโลกมากก็ควรปั่นจักรยานเฟ้ย ไม่ใชาจะมาเอาสบายใช้รถ แบตเตอร์รี่ที่ผลิต Evv ทำลายภูเขากี่ลูก กระบวนการผลิตแร่เรเอิร์ธทั้งกลายที่เอามาผลิต EV สร้างมลพิษเท่าไหร่ พลังงานไฟฟ้าที่เอามาชาร์ตที่มาสะอาดนักเหรอ รุ EV พอถึง 5 ปีก็ขยะอิเล็กทรอนิกส์รกโลกชัดๆ เอ้อก่อนจะแซะญี่ปุ่นเรื่องไฮโดรเจนบอกก่อนนะอีจีนแม่งก็ซุ่มวิจัยไอโดรเจนเหมือนกันแถมหัวจ่ายไฮโดรเจนในจีนยังมีมากที่สุดในโลกด้วยนะไอ้พวกโดนหลอกขาย EV
ตอนนี้มันถูกแอมโมเนีย แต่ใช้ได้จริง ภาษีต้องมา ใบโน้นนี่อนุญาต รวมๆคงเท่าน้ำมันเหมือนเดิม
ไหนบอกจะเน้นไฮโดรเจน มาแอมโมเนียแล้วหรือ กว่าจะไปถึงเป้าหมาย รถไฟฟ้าเขาคงบินได้แล้ว
+1
ไฮโดรก็วิ่งอยู่ในไทยนะรุ่น มิรา นะ
เครื่องยนต์แอมโมเนีย หลักๆมันคือ เชื้อเพลิงมันถูกมากๆ
ตอนนี้มันก็บินได้แล้วนะ
เครื่องยนต์น้ำมันเค้าก็บินมาเป็นชาติแล้วนะครับ
NH3=N+H3 การไม่รู้ของคุณก็มาไกลได้แค่นี้สินะ
โตโยต้าเคยลงทุนร่วมกับteslaในเฟสแรก แต่โตโยต้ารอไม่ไหวเลยถอนทุนไปพร้อมกับบูลลี่รถไฟฟ้ามากมาย เทสลาทำสำเร็จคิดหรอว่าโตโยต้าจะได้ส่วนบุญครั้งนี้ ผู้บริหารก็ต้องพูดสวยหรูอยู่แล้ว ฟังๆมากลัวรถบึ้มอีก ไหนจะโรงงานบึ้มอีก ญี่ปุ่นตอนนี้ไม่มีอะไรน่ากลัวแล้วขายบริษัทให้จีนกับยุโรปจะหมดละ
แล้วทำไมไม่ส่งเสริมให้ทำโซลาร์เซลล์ติดตามบ้านผลิตไฟฟ้า แม้จะไม่ได้ลดการใช้ถ่านหินแต่ก็ช่วยลดลงไปได้บ้าง
เค้าไม่ได้ห้ามนี่ครับ ขายไฟคืนได้ด้วย
@@PhatrawuthKensomsri ไปดูเงื่อนไขของการไฟฟ้า เยอะมาก รัฐควรส่งเสริมด้วย
เพิ่มเติม ใช้รถไฟฟ้าถ้ามีเงินพอขั้นตอนแรกเปลี่ยนมิเตอร์บ้านเป็น TOU เพราะค่าไฟจะถูกให้ดูตารางว่าช่วงไหนถูก(กลางคืน) และไม่ควรจอดรถตากแดดและศึกษาข้อมูลก่อนจะดีมากมันเหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าตัวหนึ่ง มีระบบทัชสกรีน plc
เห็นด้วยครับ
ทำ Direct Ammonia Fuel Cells
พัฒนารถยนต์พลังงานนิวเครียเลยคับ...เน้นเอามัน...แต่ไม่เน้นขาย
แอมโมเนียลิตรกี่บาท
สู้ๆเพื่อนทำไงได้
มันพูดเหมือนไฟฟ้ามาจากถ่านหินอย่างเดียว ทั้งที่ไฟฟ้ามีแหล่งต้นกำเนิดได้กว้างขวาง สายน้ำ สายลม โซลาร์เซล พลังงานใต้พิภพ นิวเคลียร์ แต่เลือกมาแหล่งกำเนิดที่ดูภาพลักษ์แย่สุดคือโรงไฟฟ้าถ่านหิน
แทนที่จะวิจัยรถไฟฟ้าแบบใหม่กันจะเอาเครื่องสันดาปภายในอยู่อีก
เอาสักทางนะหัวหน้าที่ ที่มันคิดว่าใช่
ถ้าใช้จริงกระบวนการผลิตแอมโมเนียหล่ะครับ มันไม่ก่อมลพิษหรือครับ?
แอมโมเนียอันตรายมาก..
นิวเคลียร์ ฟิวชั่น สันดาบ ทำได้เมื่อไหร่ จบทุกเครื่องยน
โอเค ....มันปลอดภัย เพราะติดไฟยาก
.....ว่าแต่ ปริมาณการผลิตในโลล่ะ
.....เพียงพอใทวีปหนึ่งๆืหรือไม่
......ต้นทุนการผลิต การขนส่ง การกักเก็บ การจำหน่าย สูงกว่าน้ำมันหรือไม่
ใช้ไฮโดรเจนดีกว่า จะได้ใช้น้ำเติม😊
ตอนแรกก็แอบค้านโตโยต้านะว่าทำไมไม่ลงมาเน้น EV แต่พอคิดอีกทีก็ดีเหมือนกันที่โลกจะมีรถยนต์พลังงานทางเลือกหลายๆรูปแบบ ก็ขออวยพรให้ประสบความสำเร็จทั้ง H2 และ NH3
ญี่ปุ่นเป็นเกาะ พลังงานไฟฟ้ามีจำกัด ยกเว้นจะเปิดโรงงานไฟฟ้านิวเคลียได้
เวลารถเกิดอุบัติเหตุ แอมโมเนียรั่วไหล คนขับจะได้รับอันตรายหนักกว่าเดิมและ กู้ภัยไม่สามารถเข้าช่วยเหลือได้โดยทันที เพราะอาจสูดดมเข้าไป อันตรายมาก
รอไฮโดรเจน
ขอให้ค้นพบวิธีการเติมน้ำเปล่าแล้วขับเคลื่อนรถยนต์ได้จริง
เพราะในน้ำ มีไฮโดรเจน2ใน3ส่วน
ถ้าเติมฉี่ได้นี่แจ่มเลย😅
ไปเรื่อยเลยค่ายนี้😂😂😂
งั้นจะลอยแพร bz4x ใช่ไหม
แนวคิดของอโมจีมันเวอร์คมากกว่านะ เอาไปปั่นไฟแบบพลังงานไฮโดรเจน FCEV แทนและราคาแพงถูกกว่าไฮโดรเจนเหลว3 เท่า
ดีครับในการพัฒนา
คำถามทำไมต้องใช้การจุดระเบิดในการขับเคลื่อนลูกสูบ? พัฒนาแบบอื่นได้ไหมแบบไม่ต้องจุดระเบิดฮิๆ
มอเตอร์,แบตเตอรี่ ก็ขับเคลื่อนได้ , ระบบไฮบริด แล้วอย่างอื่นมีไหม ผมคิดว่ามีนะแบบใช้ไฟฟ้าหรือแบตเตอรี่ครึ่งชั่วโมงแล้วตัดออก แล้ววิ่งได้ตัวของมันเอง แบบนี้งะ(ฝากด้วยครับ )
แล้วจะเอาแอมโมเนียที่ไหนมาเติม เฮอ..ฉลาดจริงๆ
Hเอามาจากน้ำครับ Nมีอยู่อากาศสัดส่วน69%ในมวลอากาศ
เวลาอยู่ในรถก็จะเก็บเชื้อเพลิงในรูปNH3เพราะมันไม่ติดไฟพอจะเอาไปสันดาบก็แยกเอาNออกและได้ไฮโดเจนไปใช้ครับ การไม่รู้ของคุณก็คงมาไกลได้แค่นี้สินะ
ช้าๆ ได้พร้ามเล่มงาม แต่ก้อช้ามากๆๆ
แอมโมเนียเหลวมีขายที่ไหน?
0-100กี่วิ ครับครับยรต์แอมโมเนีย
พอเผาใหม้ ไม่หมด จะเกิดอะไรขึ้น หรือป่าว อันตรายต่อคนตรงๆเลยไหม
ถ้าแยกไฮโดรเจนออกแล้วเข้าเครื่อง fuel cellเป็นไฟฟ้าจะง่ายกว่า
เค้าจะเปลี่ยนไปไฟฟ้าทันทีไม่ได้หรอก supply chain เยอะ ต้องทะยอยออก
ยังมีคนรอรถไฟฟ้าพี่โตอยุ่หรอ
ใช้ไมค์ตตี้เอ๊กคับ
ผลิตเครื่องยนต์ผลิตไฟฟ้าใช้แอมโมเนียเป็นเชื้อเพลิง
เพื่อผลิตไฟฟ้าให้รถยนต์ไฟฟ้า...จบเลย สะอาดสุดๆ โลกนี้😊😊😊
แอมโมเนียเป็นไฮโดรเจน เอาไฮโดรเจนไปเติมรถและผลิตไฟฟ้าได้อีก
แล้วเชื้อเพลิงแอมโมเนียถูกหรือแพง ไม่ใช่แบบไฮโดรเจนอีก
สำหรับประเทศไทยแพง
@@LHJ714ประเทศไทยอะไรก็แพง
@@PK-xj3eyมีถูกอย่างเดียว ยาบ้า 😅😅
มันเป็นสารพิษหากรั่วไหลออกสู่อากาศหากสูดดมจะหมดสติแสบตาและตายในที่สุด
น้ำมันเราสังสัมผัสได้ เเต่แอมโมเนียนี่ฉุน เเสบตาเเสบจมูกเเสบผิวหนังเลยนะ ถ้าไปโดน เพราะผมทำงานที่เกี่ยวข้องกับสารตัวนี้อยู่ หรอสัมผัสไอระเหยมันไกลๆ
กว่าพี่โตจะรู้ตัวหรือไหวตัวทัน จีนกินตลาดไปหมดแล้ว ไม่แปลกที่จะเสียตลาดให้กับเทสล่าไปมหาศาล แม้แต่ไทยก็เถอะ ตอนนี้จีนหายใจรดต้นคอแล้ว
จีนหายใจรดต้นคอแล้ว ยังไงอ่ะ หาย ใจรดต้นคอนี่มันอยู่หน้าหรือหลัง ที่บอก จีนกินตลาดไปหมดแล้ว ยังอยู่หลังอีกเหรอ
รถยนต์สันดาบยังขายได้อีกนานซึ่งจีนไม่มีปัญญาที่จะทำรถสันดาบแข่งกับญี่ปุ่นเพราะจีนแม่งกากเรื่องเครื่องยนต์สันดาบทพแข่งกับเกาหลียังไม่ได้เลย จีนมันก็เลยมาเอาดีทาง EV แปล้วก็โม้เยดม้าว่าของจีนน่ะดีที่สุดในโลก ไปแหกตาดูตลาดรถ EV จีนนอกกะลาไทยเลนด์ก่อนเถอะว่าขายดีหรือยอดกาก ส่วนญี่ปุ่นที่ไม่มาเอาดีทาง EV เพราะมันทำตลาดในประเทศตัวเองยากเพราะเรื่องที่ชาร์ตมันหาพื้นที่ทำยาก เรื่องเบตเตอร์ก็ปัญหาใหญ่เพราะการผลิตมาซัพรถจำนวนมากๆจะทำยังไงให้ผลิตออกมาใช้ให้พออย่าลืมว่าแบตเตอร์รี่ยังต้องเอาใช้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างอื่นอีกจะมาแย่งกันใช้แบบนี้จะสร้างโรงงานกี่โรงถึงจะผลิตมาพอใช้ แร่ลิเทียมก็ต้อองขุดจากใต้ดินการถลุงก็สร้างมลพิษมหาศาล แถมอายุการใช่งานรถ EV ก็ไม่ได้ยาวนานเหมือนรถสันดาบทีสามารถลากใช้งานได้เป็นสิบๆปี จีนแม่งก็ทำกับรถ EV เหมือนตอนที่โฆษณาชวนเชื่อเรื่อง 5Gนั่นแหละแค่จีนอยากเอาสินค้าที่จีนทำเป็นมาตรฐานโลกบ้างเอาไว้โม้ขิงทับประเทศอื่น
ในไทยเทสล่า. และรถไฟฟ้าจีน. เยอะ พอๆกันเลย.
@@somaithongdee2374 มูลค่าเทสล่า มากกว่าโตโยต้าในระดับโลก และบีวายดีของจีนก็เป็นอันดับสี่ของโลกนะจ๊ะ ส่วนในไทย ดูจากงานมอเตอร์เอ๊กซ์โปที่โตโยต้าเคยกวาดยอดขายถล่มทลายทุกปี มาปีนี้โดนรถจีนแย่งส่วนแบ่งไปเยอะ ไปดูข้อมูลได้ ไม่ต้องพูดถึงปีต่อๆ ไปว่า จะเพิ่มอีกแค่ไหน
@@ArmMobile-pn2cq จากที่เมื่อก่อนโตโยต้ากับรถค่ายญี่ปุ่นเคยกวาดยอดจองยอดขายไปเกือบหมด แต่มาปีนี้ โดนรถค่ายจีนมาแย่งไปเกือบครึ่ง นี้แสดงให้เห็ฯถึงรถค่ายญี่ปุ่นไม่ใช่สินค้าหลักของคนไทยอีกต่อไป ที่พูดถึงว่า เทสล่าเหนือกว่าโตโยต้า คือ มูลค่าการตลาดในระดับโลก ไปดูข้อมูลได้ เทสล่า อันดับหนึ่ง บีวายดีของจีน อันดับ 4 นะจ๊ะ
รอซื้อรถยนต์พลังงานนิวเครียร์
ญี่ปุ่นเริ่มเพ้อเจ้อคะทำราคาสู้รถEVจีนไม่ได้เลยปั่นกระแสไปวันๆเพ้อเจ้อไปวันๆ🤭😹
เข้าใจหัวอกเบอร์ 1 ครับ เจ้าพ่อสันดาปเขาทุ่มเทมานานมาก กว่าจะเพิ่มแต่ละม้า เจอมอเตอร์ไร้แรงเสียดทาน จบเห่เลย 😅 เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่มีอะไรยืนยง ส่วนตัวผมยังขับน้ำมันอยู่นะ รอความพร้อมของสถานีชาร์จก่อน (ไม่รีบ)
แล้วทำไมคนต้องเชื่อตามโตโยต้าด้วยครับ
ผมชอบโตโยต้าออกอะไรมาผมพร้อมซื้อ
นึกถึง nokia , kodak เรียกว่าฝืน
จงซุ่มเงียบตลอดไปเถอะ555