ชาร์จยังไงไม่ให้รถพัง!! เครื่องและหัวชาร์จมีกี่แบบ ต่างกันอย่างไร? (มือใหม่รถไฟฟ้า) EV Charger
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 23 ธ.ค. 2021
- #รถไฟฟ้า #รถยนต์ไฟฟ้า #ชาร์จรถไฟฟ้า #EVcharger
หลายคนเริ่มหันมาสนใจและเลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น แต่ปัญหาเรื่องของการชาร์จที่ใช้เวลานาน หลายคนก็ไม่แน่ใจว่าควรปิดเครื่องชาร์จแบบไหนดี แบบไหนถนอมอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ แล้วการชาร์จมีกี่แบบต่างกันยังไง ควรเลือกแบบไหนดี ต่างกันอย่างไร คลิปนี้มีคำตอบ
สอบถามรายละเอียดการติดตั้งได้ที่
Facebook : bit.ly/3EHWG49
Website : phithangreen.com/th/
🚘⚡สำหรับใครที่สนใจอยากเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดัน รถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานทางเลือกให้เกิดขึ้นในประเทศไทยให้ได้💥💥
เข้ามาเป็นส่วนนึงในการผลักดัน สมัครเป็นสมาชิกของช่องนี้เพื่อเข้าถึงสิทธิพิเศษต่างๆ👇👇
/ @welldoneguarantee
FB: @welldone guarantee
Tik Tok: bit.ly/3goOcUU
IG: welldone_guarantee
ติดต่องานได้ที่
welldone.guarantee@gmail.com - บันเทิง
สนับสนุนช่องได้
โดยการเสื้อกลุ่มรถไฟฟ้า สั่งเลยที่👇👇
forms.gle/k4XnHDNzUiEjGhKa7
มี 2 ปัจจัย วงจรชาร์จในรถและชนิดและสเป็คของแบตเตอรี่ การชาร์จเร็วไม่ควรชาร์จเต็ม 100% จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว เพราะจะเกิดความร้อนมากในช่วง 80% ขึ้นไป ควรชาร์จแค่ 80% ความเสื่อมจะไม่ต่างจากชาร์จช้ามากนักเพราะความร้อนที่เกิดมีไม่มากนัก แต่ก็อยู่ที่วงจรชารฺ์จในรถหรือ OBC (on bord charger) ด้วยว่าได้ใส่วงจรที่มีฟังชั่นที่หากแบตเตอรี่มีความจุถึง 80% แล้วจะลดกระแสชาร์จให้เหลือน้อยไม่ต่างจากชาร์จด้วย AC tesla จึงแนะนำให้ชาร์จแค่ 80% และไปชาร์จให้เต็ม 100% ด้วยตู้ AC เพราะมันไม่ต่างกัน แม้จะชาร์จด้วยตู้ DC ในวงจร OBC มันก็จำกัดกระแสไว้ เพื่อป้องกันแบตเตอรี่ไม่ให้ร้อนเกินไป การที่แบตเตอรี่ร้อนมากเพราะแบตเตอรี่รุ่นนั้นรับกระแสการชาร์จได้น้อยแต่เราจ่ายเข้ามากมันก็จะร้อนมาก ในแต่ละช่วงของความจุการรับกระแสชาร์จก็จะแตกต่างกัน ช่วง 0-50% จะรับกระได้เต็ม ๆ สเป็ค จาก 50-70% 70-80% 80-90% 90-100% การรับกระแสก็จะรับได้น้อยลง ๆ เรื่อย ๆ เพราะฉะนั้น การชาร์จด้วยตู้ DC ไม่ได้ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมไวมาก หากชาร์จไม่เกิน 80% แต่หากชาร์จจาก 80%-100% บ่อย ๆ จะทำให้แบตเสื่อมไว และหาก OBC มีการควบคุมกระแสชาร์จที่ดี การชาร์จด้วยตู้ DC ก็ไม่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมไว และหาก OBC มีการควบคุมกระแสชาร์จที่ไม่ดีไม่ละเอียด ไม่สัมพันธ์กับสเป็คของแบตเตอรี่ ไม่ว่าจะเป็นรถรุ่นเก่ารุ่นใหม่ และรวมถึงการชาร์จแบตเตอรี่ทุกชนิดทุกการใช้งาน แบตเตอรี่นั้น ๆ ก็จะเสื่อมไว อย่างพวกเครื่องมือไร้สายอย่างยี่ห้อมากิต้า ก็จะมีแท่นชาร์จเร็ว และชาร์จช้า ใช้แท่นชาร์จเร็วทุกครั้งในการชาร์จ ใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที แบตที่ใช้ก็ไม่ได้เสื่อมไวกว่าแบบชาร์จช้าเลย เพราะมีวงจรควบคุมการชาร์จที่ดี เราควรดูสเป็คของ OBC และแบตเตอรี่ของรถเรา โดยทั่วไปชาร์จเร็วด้วยตู้ DC ไม่ควรเกิน 80% แบตเตอรี่บางรุ่นก็ไม่ควรเกิน 70% 60% มักจะเป็นรุ่นถูกคุณภาพต่ำ ชาร์จตู้ DC ได้บ่อยตามที่ต้องการ และในทางกลับกัน หากเราชาร์จด้วยไฟ AC จาก 90%-100% บ่อย ๆ หากวงจรชาร์จควบคุมกระแสชาร์จไม่ดีก็ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมไวมากเช่นกัน เช่นโทรศัพท์มือถือ แล็ปท็อป โน๊ตบุ๊ค ใช้ไปชาร์จไป แบตเตอรี่ 100% แล้วก็ยังเสียบชาร์จค้างไว้อยู่ แบตเตอรี่ก็จะร้อนมาก ไม่นานบวมเป่ง และไม่นานก็เก็บไฟได้น้อยลง เสื่อมเร็วมาก หากมีวงจรควบคุมกระแสชาร์จที่ดี เสียบชาร์จไปใช้ไปยังไงแบตเตอรี่ก็ไม่เสื่อมไว
ไม่ว่าชาร์ชมือถือหรือรถ สมัยนี้วงจรไม่มีการตัดไฟแบบอัตโนมัตแล้วเหลอครับ
@@cholasuek สมัยนี้แล้วแต่รุ่นรถและรุ่นของโทรศัพท์รุ่นของแล็ปท็อปครับ โดยเฉพาะรุ่นล่าง ๆ ถูก ๆ จะมีหรือไม่มีก็แล้วแต่ผู้ผลิต ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ใส่มา ชาร์จเต็ม 100% ตัดจริง แต่พอลดเหลือ 99% ก็ชาร์จเข้าไปอีก เสียบสายชาร์จค้างไว้ก็เลยทำให้แบตเตอรี่ร้อนสะสมทำให้เสื่อมไว แบตเตอรี่ที่ไม่มีวาวล์ก็จะบวมเป่ง รุ่นดี ๆ ก็จะมีวงจรควบคุมหากเสียบค้างไว้ก็จะใช้พลังงานจากสายชาร์จแทนแบตเตอรี่ หรือจะไม่ชาร์จจนกว่าแบตเตอรี่ลดเหลือ 90% 80% หรือตามที่เราตั้งค่าไว้ ทำให้แบตเตอรี่ไม่ร้อนสะสมมาก พวกรุ่นท็อปแพง ๆ ส่วนมากจึงไม่มีปัญหาเรื่องแบตเตอรี่บวมเป่ง รุ่นถูก ๆ จะเป็นกันเยอะ
เข้าใจมากขึ้นเลย ขอบพระคุณครับ
เข้าใจละขอบคุณครับ
อธิบายเข้าใจง่ายมากครับน้องทราย
สุภาพสตรีท่านนี้เก่งสุด ๆ ครับ
คลิปวีดีโอนี้มีประโยชน์มากๆครับ 👍🏻😊🔌🚘
แนะนำดีมากๆได้ความรู้มากๆครับ
ขอบคุณครับ
ผู้หญิงคนนี้เก่งมากครับ ตอบได้ชัดเจน
ปกติOBC (On-board Battery Charger) หรือเครื่องชาร์จที่ติดอยู่ในรถไฟฟ้า ที่ค่ายรถบอก6.6kW คือ กำลังไฟฟ้าด้านดีซี(กำลังไฟฟ้าเอาต์พุตของOBC) ส่วนที่เครื่องชาร์จแสดงคือ 6.9kW คือกำลังไฟฟ้าด้านเอซี(กำลังไฟฟ้าอินพุตของOBC) ค่าด้านเอซีจะสูงกว่าด้านดีซีนิดหนึ่งเพราะ OBC มีความสูญเสียในการแปลงไฟเอซีเป็นดีซี โดยทั่วไปOBCจะมีประสิทธิภาพอยู่ที่ประมาณ 94-95% ครับ
เยี่ยมเลยครับ
ขอบคุณคุณ well กับน้องด้วยครับ ได้ความรู้มากครับ
ขอบคุณครับกับสาระดีๆครับ
แขกรับเชิญน่ารักครับ
คุณทราย สวยทะลุ mask ครับ
กำลังจะตัดสินใจซื้อรถไฟฟ้า แต่ยังไม่มีบ้านที่จะติด wallbox ถ้าซื้อรถไฟฟ้ามาโดยชาร์จตามสถานีชาร์จอย่างเดียวจะมีข้อเสียอะไรบ้างครับ
ขอเสริมนิดนึง Wall box 11 kW เป็นไฟ 3 เฟส เฟสละ 3.6 kW ถ้าใช้กับรถที่มี on-board charger เฟสเดียวอย่าง good cat หรือ EP จะชาร์จได้แค่ 3.6 kW นะครับ
นั่นหมายความว่า ถ้าเป็น Wall box 3เฟส ควรจะเป็น รุ่น 22kw ถึงจะเหมาะสมกับ good cat ใช่มั้ยครับ
เท่าที่ทราบ g c on board charger 7.4 kw แบบ 1 เฟส ถ้าชาร์จด้วยเครื่องชาร์จ 7.4 kw จะดีถ้าที่บ้านติดเครื่องชาร์จ wall box 11, 22 kw 3 เฟส ราคาเครื่องชาร์จจะแพงขึ้นเวลาชาร์จก็ได้แค่ 7.4 kw และต้องรู้ peek load ของรถรุ่นนั้นๆ ด้วยต้องแจ้ง กฟน.
เปลี่ยนจาก 1 เฟสเป็น 3 เฟสหรือขอมิเตอร์แยกต่างหากหลายตังค์ใครรู้ช่วยบอกด้วยครับ
good cat ใช้ 7Kw ได้ครับ
ใช่เครี่องปั่นไฟเชาร์ได้ให้มครับ
Volvo XC40 Pure Electric on-board charger เท่าไหร่คะ
ตั้งแต่ดูคลิปการให้ความรู้เรื่องการชาร์จรถไฟฟ้ามา คลิปนี้เข้าใจง่ายและดีที่สุดครับ❤
กระจ่างเลยทีนี้
เปิดแอร์ให้แบตเตอรี่ครับ เทสล่ามีหน้าน้ำแบตเตอรี่ดึงความร้อนออกได้
ดูแล้วก็เกิดคำถามว่า "แล้วรถไฟฟ้าดัดแปลงล่ะ" แบบที่ทำคลิปมาให้ดู จะรองรับได้ขนาดไหน แต่คิดว่า 7 kw. ก็คงปลอดภัยเหล่ะ
งั้นคงเป้นรถในเมืองชาตดีซีเเล้วเเบตเสื่อมเร็ว สำหรับคนออกต่างจังหวัดนี้เเย่เลยค่ะ
ถ้าอยู่คอนโดคงต้องพึ่งสถานีชาร์จข้างนอกจะเหมาะไหม
อยากให้พี่เวลรีวีวมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าhsemบ้างจังครับเห็นเค้าให้เช่าอยู่แต่ไม่ค่อยมีใครรีวิวเท่าไหร่เลยครับ
ติดตามครับ
แต๊งส์เลย
ใช้สายชาร์จแบบไม่เกิน 3 kw ได้มั้ง ไม่ต้องเปลี่ยนมิเตอร์ไม่ต้องเดินสายไฟใหม่ เกินนี้ต้องเดินสายใหม่หมดทั้งบ้าน แต่จะชาร์จนานมาก
การชาร์จแบบ โหมด 4
เป็นการชาร์จแบบจ่ายไฟ DC เข้าไปหาแบตเตอรี่โดยตรง โดยไม่ผ่าน on board charger
ถูกต้องไหมครับ
แต่ทำไมข้อมูลบางแหล่งเขาอธิบายบอกว่า โหมด 4 อุปกรณ์ชาร์จรถยนต์จ่ายเป็นไฟ AC ไปหารถยนต์ ผมก็เลยงงว่าตกลงยังไงกันแน่
ขอข้อมูลในส่วนนี้ด้วยครับว่าตกลงการชาร์จแบบ โหมด 4 อุปกรณ์การชาร์จรถยนต์จ่ายเป็นไฟ DC ออกไปใช่ไหมครับ
สรุปคือชาร์จช้าๆดีกว่าเยอะ
การชาร์จ DC ในโรงงานคงจะบายพาส On-board Battery Charger ไปเลย
การชาร์ตแต่ละครั้งมีผลทำให้ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมากเท่าไรครับ
ไม่รู้ ก็มารู้ คลิปนี้แหละ ครับ
ยินดีเลยครับ เป็นความตั้งใจของคลิปนี้เลย
10 amp 220 volt 2.2kw หรือปล่าว
รบกวนสอบถามค่ะ ถ้าซื้อ Good Cat ก็ไม่จำเป็นต้องขอไฟ 3 เฟส ใช่มั้ยคะ หรือควรขอจะดีกว่า ไฟที่บ้าน 15(45)
30/100 เหมาะสมกว่า
รถมี ประกัน 8 ปี ควร ใช้ อย่าง สบายใจ
แล้วชาร์จ AC อยู่บ้าน ควรให้รถแบตเหลือกี่ % ค่อยชาร์จให้ครบ 100% ถึงจะถนอมแบตได้ดีที่สุดครับ
ยกตัวอย่าง
A : เหลือแบตอยู่ 70% พอถึงบ้านก็เสียบชาร์ตจนถึง 100% ตื่นมาถอดขับรถไปทำงาน
B : เหลือแบตอยู่ 30% พอถึงบ้านก็ชาร์ตให้ถึง 100% ตื่นมาไปทำงาน
ควรทำแบบ A หรือ B ครับ
ขอบคุณมากครับ
อยุ่แถวไหนครับ
เวลาดูไฟเข้าไปเช็คที่รถนะครับ ดูที่ wall box ไม่เท่ากับที่รถรับได้จริงมันมีพวก Heat loss อยู่
ขอลิงค์งานวิจัยที่บอกว่า dc charge ไม่ดีครับ
www.myev.com/research/interesting-finds/is-dc-fast-charging-bad-for-your-electric-car
ลองดูมีของ Kia ที่ทดลอง
@@WelldoneGuarantee ขอบคุณครับพี่เวล มีที่ทดสอบกับแบตรถปัจจุบันไหมครับ ในบทความทดสอบกับรถปี 2012 หรือว่าเทคโนโลยีแบตกับ bms เมื่อ 10 ปีที่แล้วกับปัจจุบันเป็นตัวเดียวกันครับ
มีสถานที่อบรมหรือสอนการติดตั้งไม้ครับ
สวัสดีครับพี่
มาแล้ว
กรณีชาร์จข้างนอกปั้มหรือ pea สังเกตุจะไม่มีหลังคาถ้าฝนตก เบาๆ ตกปานกลางถึงหนักจะชาร์จไฟได้ไหมคือชาร์จไปแล้วฝนตก กับกำลังตกจะเสียบชาร์ตได้ไหม ไฟจะดูดไหม มีทดสอบเสมือนจริงให้ดูไหม
ุถ้าระหว่างชาร์ตอยู่แล้วฝนตก ก็โอเคครับ แต่ถ้าชาร์จเสร็จแล้วและจะถอดออกก็ไม่ควรทำ หรือถ้าจำเป็นต้องถอดก็ควรรอให้ฝนหยุดหรือไม่ก็ควรกางร่ม
ผมยังไม่มีรถไฟฟ้า แต่เท่าที่สังเกตุการชาร์จ ตอนที่เสียบสายชาร์จเข้าตัวรถ เครื่องจะยังไม่จ่ายไฟเข้ารถจนกว่าจะต้องล็อครถบ้างสแกนโคดว์บ้าง เครื่องถึงจะทำ Hand check กับตัวรถและทำการล็อคหัวจ่ายแล้วถึงจะเริ่มจ่ายไฟ และช่วงนี้ใครจะดึงสายออกก็ไม่ได้ นอกจากจะสั่งให้เครื่องหยุดชาร์จถึงจะคลายล็อคแล้วถึงจะดึงสายออกได้ โอกาสไฟรั่วน่าจะถูกออกแบบไว้แล้ว จึงไม่น่ากลัวแม้นจะไม่มีหลังคาคุม
@@prasertthammawattana50 dc จะlock หรือไม่ lock ก็ชาร์จได้ครับ
นั่นผมก็กังวลอยู่
แน่ใจว่านะคคับว่า DC Quick บ่อยๆไม่ดี ?
จริงๆแล้วถ้ามันยุ่งยากแบบนี้นะครับ ผมก็ไม่อย่ากซื้อแล้วครับ เสียบใว้ค้างคืน ถ้าเครื่องไม่ตัดเองงี้ก็แย่นะครับ แล้วถ้าแบตเสื่อมพอใช้นะบบ DC ใช้บ่อยๆจะทำให้แบตเสีย แล้วพี่คนหนึ่งที่นอร์เวย์ที่ขอบรีวิวให้ดูในการเดินทาง ซึ่งใช้ supercharger ตลอด มันจะไม่พังเหลอครับ บางที่ทฤษฎีมากไปก็แย่นะครับ ถ้า DC ใช้ชาร์จบ่อยในเวลาเดินทางไม่ได้ แล้วเขาจะมีให้ตามที่ชาร์ชเจอร์ตามจังหวัดต่างๆทำไม มันแย้งกันทุกมุม เห็นใหมครับตอนท้ายบอกว่าการชาร์จ DC ต้องทำระหว่างการเดินทางแต่ไม่ควรชาร์จบ่อย วี้ถ้ามัวไปรอ AC (3-4 ชม ขึ้น) ไม่ต้องข้างคืนทุกจุดเลยเหลอครับ
@@cholasuek ใช่ครับย้อนแย้งมาก
@@cholasuek หากจำเป็นต้องชาร์จ DC ก็ชาร์จแค่ 80% ก็พอ เรื่องความร้อนที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมก็ไม่ต้องกังวลมากหรอกครับ รถเขาออกแบบระบบความร้อนมาให้ บางคันใช้น้ำระบายความร้อน บางคันใช้อากาศ บางคันใช้ระบบหล่อเย็นของเครื่องปรับอากาศ ระบายความร้อน เขาเพียงแค่บอกว่า ใช้ DC บ่อย ๆ โอกาสที่แบตเตอรี่จะเสื่อมมีมากกว่าชาร์จ AC ก็เท่านั้น
ถ้ารถวิ่ง 250-350km แบตจะร้อน จะเสื่อมไวขึ้นไหมครับ
ไม่เกี่ยวครับแบตจะร้อนอยู่ที่การเหยียบคลื่นความเร็วสูงนานๆกับตอนชาร์จแบตเตอรี่ด้วยไฟสูงๆครับ
คล้ายๆมือถือ ...
คนเเรก
เย่ขอบคุณครับ
ตู้ DC chareger ราคาประมาณเท่าไรครับ พี่สนใจ
ราคา 2-5แสนครับ
จับธุรกิจอนาคต แบงก์รุมปล่อยกู้555
ไม่ว่าจะชาร์จ AC หรือ DC สุดท้ายไฟที่เข้าแบตคือ DC ที่ถูกควบคุมไม่ให้กระแส DC เกินค่าที่กำหนด และถูกควบคุมไม่ให้แรงดันเกิน 4.2V/cell เพียงแต่กำลังของเครื่องชาร์จ AC มักจะน้อยกว่าเครื่องชาร์จ dc เสมอ ช่วงปลายๆ ตอนที่ชาร์จแบตได้มากกว่า 80% แล้ว ถึงอยากจะให้กระแสเข้าเร็วเหมือนช่วงแรกๆ ก็ทำไม่ได้หรอก เพราะความแตกต่างของแรงดันแบตกับแรงดันที่ชาร์จเจอรฺ์จ่ายมีน้อย (เพิ่มแรงดันชาร์จเจอร์อีกไม่ได้ เพราะโดนจำกัดที่ 4.2V/cell) วิธีชาร์จคือเป็นแบบ constant current and limit voltage แต่ขณะชาร์จอาจมีการลดกระแสถ้าอุณหภูมิแบตเกิน ถ้าจะทดลองให้เห็นจริง ต้องมีเครื่องวัดพลังงานที่ไหลเข้าเทียบกับระยะเวลาแล้วพล๊อตกราฟ อาจจะพล๊อททุกๆ 1 นาที
OBC = BMS เหมือนกันหรือป่าวครับ
ไม่เหมือนกันครับ
OBC คือ On Board Charger ตัวแปลงไฟจาก AC เป็น DC เพื่อชาร์จเข้าแบตเตอรี่ แบตเตอรี่เป็น DC หรือกระแสตรง
ส่วน BMS Battery management System หรือระบบในการจัดการบริหารแบตเตอรี่ ใช้ในการ Balance แบตเตอรี่ เพราะแบตที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า มาจากแบตเตอรี่ก้อนเล็กๆหลายก้อนต่อกัน จึงจะต้องมีตัวทำหน้าที่ควบคุมจัดการ บริหารให้จ่ายไฟเท่ากัน
ก่อนเขาจะชื้อเขาศึกษามาแล้ว
ราคาแพงไป ตัวชารท์จ ภายในจริง ไม่ได้มีอะไรมาก ขายเกือบ 6-7หมื่น ต้นทุนไม่น่ามีอะไรมากเท่าไร
MG EP 50 kw. OBC 7 kw
ORA 47.8 kw OBC 6.6 kw
Tesla model 3 66 kw OBC 11kw
ถ้าใข้ wall box. แล้วยังติดเรื่อง obc ในรถ แบบนี้ จะซื้อ wall box ใหญ่ kw สูงๆ ก้อไม่มีผล
ไม่เห็นมีบอกว่าDCที่เครื่องจ่ายไฟให้รถเป็นไฟDCกี่โวลต์ เพราะเท่าที่รู้ โวลต์ยิ่งต่ำเท่าไหร่ แอมป์ก็จะยิ่งสูงตรงข้ามกัน
ใช่ Volt เยอะแอมป์ต่ำ สายไฟจะเส้นเล็กลง
เครื่องชาร์ทในคลิปเป็น Home Charger จ่ายไฟเป็น AC 220 Volt ครับ จากนั้นตัว On-Board Charger จะทำหน้าที่แปลงเป็น DC เองเพื่อชาร์ทเข้า Battery ตัว OBC จะติดมากับรถรุ่นใครรุ่นมัน ทำหน้าที่เหมือน Adapter ตัวชาร์ทของมือถือที่เรามีใช้ในการชาร์ทโทรศัพท์
@@prasertthammawattana50 จึงอยากทราบว่า ตัวDC fast charge มันจ่ายไฟDCกี่โวลต์กันเพราะเห็นรถรุ่นใหม่ในข่าวชาร์จเร็วแค่5นาทีทั้งๆที่แบตมากขึ้นวิ่งไกลขึ้น เท่ากับแอมป์มหาศาลเลย แล้วโวลต์มันเริ่มที่กี่โวลต์กันแน่ มาตรฐานเดียวกันทั่วโลกรึเปล่า อย่างไฟAC ยังมี110 กับ220V.แล้วDC fast charge มันกี่โวลต์
@@kasem5271 น่าจะอยู่ที่วงจรในการชาทของรถรุ่นนั้นๆครับ ว่าออกแบบการชาทแบบไหน
ตู้ชาร์ตไม่เกิน 150 kW ส่วนมากจะจ่าย DC ประมาณ 400 V ถ้าเป็นตู้ 200 kW ขึ้นไปน่าจะเป็น DC 800 V
ชาร์จดีซี ไม่ดี??? คำถามแรกที่เกิดในหัว
ใช่ เพราะมันร้อน นานๆชาร์ททีได้
มีวิธีชาร์จแล้วทำให้รถพังทันทีไดเเหรอ ตั้งชื่อได้ misleading และ click bait มาก
คุณทรายอธิบายให้ความรู้ชัดเจนเข้าใจง่ายดีมากครับมีประโยชน์ต่อผู้ฟังมาก