EV ดีจริง! แต่ยังไม่เหมาะกับทุกคน เช็คก่อนซื้อว่าคุณพร้อมหรือไม่? | Welldone
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 22 มี.ค. 2024
- สมัครห้องเรียนวงใน / @kimpropertylive
แจกคอร์สเรียนฟรี : line.me/ti/p/%40spc2852x
บทความอสังหา : www.properth.com/
สนใจสัมมนา : line.me/ti/p/%40spc2852x
ดูเเล้วชอบ อยากดูต่อ ติดตามด้วยเน้อ
ตรงนี้ goo.gl/segwTS
รับความรู้ฟรี
LINE : line.me/ti/p/%40spc2852x
มีคำถาม / สอบถาม
LINE : line.me/ti/p/%40spc2852x
★☆★ เรียนรู้เพิ่มเติม ★☆★
บทความอสังหา : www.properth.com/
รับความรู้ผ่าน LINE : line.me/ti/p/%40spc2852x
สำหรับติดต่อ :
kim.property.work[at]gmail.com หรือ
kim.chatchawan[at]gmail.com
★☆★ SOCIAL MEDIA ★☆★
Facebook : / kim.properth
LINE : line.me/ti/p/%40spc2852x
Blog : www.properth.com/
Instagram : / kimpropertylive
★☆★ สนใจสัมมนา ★☆★
LINE : line.me/ti/p/%40spc2852x
คอร์สทั้งหมด : goo.gl/gQyd4i
รายละเอียดสัมมนา : www.properth.com/property-inve...
ผมสรุปให้ คุณควรมี2คันเลย คือรถน้ำมันคันเก่า และรถไฟฟ้าคันใหม่ แต่ละคันมีข้อดีข้อเสียที่มองข้ามไม่ได้
แล้วใช้มันตามวัตถุประสงค์ แต่ถ้าคุณเป็นคนหมุนเงิน แล้วมีรถน้ำมันอยู่ ใช้มันต่อไป อย่าเพิ่งซื้อรถอีวี แม้น้ำมันจะแพงขึ้น
แต่คุณไม่ต้องจ่ายแปดแสนไปก่อนเพื่อจะประหยัดเดือนละ5-8พัน แล้วค่อยมาเอาตีนก่ายหน้าผากเพื่อคำนวณจุดคุ้มทุน
ซึ่งอาจคุ้มทุนในปีที่3-4 เงิิน8แสนยังพอให้คุณจ่ายเพื่อเติมน้ำมันและซ่อมรถน้ำมันได้อีกหลายปี ถึงตอนนั้นรถอีวีจะราคาลด
จาก8แสนเหลือ4แสนในเวลาที่ผ่านไป แล้วได้รถที่วิ่งได้1000กิโลเมตรต่อชาร์จ
เห็นด้วยครับ
ที่จอดละ 😅😅😅
ใช่ครับถ้าเป้าคือลดค่าพลังงาน เอารถน้ำมันไปติดแก๊สครับคุ้มทุนไวกว่าแน่ๆ
บ้านผมก็ซื้อรถไฟฟ้ามาใช้สองคันแล้วครับ และเก็บรถน้ำมันไว้ใช้ในทางไกลเหมือนกัน
ถ้าทำงานในเมืองเป็นหลักและมีบ้าน ใช้เดินทางไปต่างจังหวัดไม่บ่อยก็คุ้มค่าครับ โครตคุ้ม แต่รถน้ำมันเหมาะสมสำหรับเดินทางไกลก็ยังจำเป็นอยู่ในบางสถานการณ์
คิดเหมือนผมเลยครับ รถไฮบริดมันมีอยู่ในบ้านเราแทบทุกบ้านอยู่แล้ว แค่รับรถไฟฟ้าล้วนเข้ามาแค่นั้นเอง พอเราไปไกลๆก็รถน้ำมันไป เพราะยังไงๆรถน้ำมันเราเอาไปตีราคาที่เต้นรถก็ได้ไม่ต่างจากเศษเหล็กอยู่แล้ว เอาไว้วิ่งไกลๆอย่างเดียวคุ้มกว่าขายอีกครับ👍🏻👍🏻👍🏻😅😁
คิดว่าจะซื้อมารั ส่ง ลูกไปโรงเรียน จ่ายตลาด ส่วนรถน้ำมันเอาไว้เดินทางไกล😅😅
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่รถ ปัญหาอยู่ที่คน คุณซื้อรถ เพื่อมาแก้ปัญหา ของคุณ อย่างเช่น มารับส่งลูกไปโรงเรียน รถไฟฟ้าก็เหลือเฟือ แต่ถ้าคุณมารับส่งคน จากหนองคายไปกรุงเทพฯ รถไฟฟ้าก็ไม่ตอบโจทย์ มันอยู่ที่คุณซื้อรถมาทำอะไร
ถูกต้อง สะดวกอะไรใช้งานแบบไหนก็ซื้อที่มันเหมาะสมการใช้งานไม่เห็นยาก
ตอบได้ดี
และรถไฟฟ้า ก็เป็นรถคันที่สี่ของบ้านผมด้วย ผมเดินทางจริงๆผมใช้ น้ำมัน
รถเมล์ในกรุงเทพ เป็นรถไฟฟ้าเกือบหมดแล้ว รถทัวร์ วิ่งต่างจังหวัดหลายๆต่างจัลหวัดไปอยู่ไหนมา โง่ คิจริงฟ
กระแสมันพาไป จำเป็นต้องตาม กระแสด้วยรึ เค้าไม่ได้ให้เราฟรีๆนะครับ
ผู้บริโภคมองหาการประหยัดจากการใช้รถเดินทางทุกวัน รถ EV คือคำตอบดีที่สุด
แต่ไม่ใช่จากจีนใช่มั้ย? (EV จีน มีระบบชาประกิจทั้งตัวรถและผู้ใช้มันได้เลย)
อย่าเหมารวม
รถน้ำมันติดแก๊สคุ้มกว่าครับ ลงทุนหลักหมื่น
จริงอย่างที่ที่เวลพูด อย่างผมมีรถยนต์คันแรก คันเดียว 13 ปีแล้ว ผมไม่ต้องการเทคโนโลยีอะไรมากมาย แค่ใช้ได้พื้นฐาน กันแดดได้ กันฝนได้ พาเราเดินทางไปเที่ยวที่ต่างๆได้ ผมก็ซื้อแค่เก๋งเครื่อง 1500 ตัวเริ่มต้น ราคาถูกที่สุด .....ทุกวันนี้ผ่านมา 13 ปี ก็ยังแฮปปี้กับมัน รถEV ก็เหมือนกัน อยู่ที่ว่า ไลฟสไตล์ที่คุณจะเดินทางแบบไหน ถ้า90% คุณใช้รถไม่เกิน 200กม. ต่อเดือน แต่คุณจ่ายเงินแพงซื้อรถEV ที่วิ่งได้ 500กม. มันก็เกินความจำเป็น
500 อะไร นี่มันจะรออีก 2 ปี ชาร์จได้ 700-800 กม. อย่าไปถามเลยว่า มันจะเอาทำไม (คือความโลภธรรมดา) จะเอาแต่ของดีๆที่สุด. คุ้มค่าเงิน
มีเงินก็ซื้อ รถ
EV ยังไม่สมบูรณ์แต่ก็ไม่ถึงกับแย่ยังมีหลายอย่างที่ต้องพัฒนา..แต่ถ้าเราไม่ใช้กันเลยมันก็จะไม่เกิดในอนาคต มีเงินก็ใช้กันเลยคับไม่เสียหาย..
รถน้ำมันซื้อมากี่แสนกี่ล้านก็ตาม ใช่ไปหลายสิบปี กว่าจะซ่อมซ่อมที่ก็ใช้ไปจนลืม ส่วนรถไฟฟ้าซื้อมาวิ่งได้ไม่กีร้อยกิโลเมตร์ต้องชาร์ดแบตร์และชาร์ดแตละที่ก็นานมาก และแบตร์เขารับประกันแค่แสนกิโลเมตร์หากใช่งานแค่ปีกว่าๆก็ต้องเปลี่ยนแบตร์และเปลี่ยนแตละครั้งก็ออกรถใหม่ป้ายแดงได้เลิยยังงัยลุงก็ยังมั่นใจรถน้ำมันสดวกแรงใกล้ไกลหนักเบาเอาอยู่หมดรถน้ำมันดีที่สุด
@@MoMo-fg7hxที่พิมพ์มายาว ๆ นี่ซื้อรถ EV มาขับเองหรือยังครับ ? หรือฟัง ๆ เขาบ่นกันมาย่อยเอง ? 😂😂😂
ฟังข้อดีบ้างก็ดีนะครับ
@@MoMo-fg7hx รถน้ำมันเข้าปีที่ 5 ก็อกแก๊กเตมไปหมด เปลี่ยนนุ่น เลี่ยนนี่เหมือนกัน ถ้าคิดราคาซ่อมศูนย์ก็ยับไม่ต่างกันหรอก แล้วที่บอกมันทน ก็ไม่แปลกหรอก มันเล่นไม่ได้ใส่อะไรให้เลย ใช้มือหมด แต่นี่ปี 2024 จะเอารถโล้นๆ แพงๆ เทคโนโลยี ความปลอดภัย ที่กั๊กมันทุกอย่าง ไฟบางตัวยังฮาโลเจน สวนทางกับราคาที่ขึ้นเอาทุกปีๆ มันหมดยุคฟันกำไรหนาๆแล้วไง เมื่อก่อนมันคู่แข่งไม่ได้มี แข่งกันเองแค่รถญี่ปุ่น แล้วถ้าบอกว่ารถน้ำมันแรงใกล้ไกลเอาอยุ่ รถไฟฟ้าอัตราเร่งมันเหนือกว่าเยอะ แล้วถ้าบอกว่าปปีเดียวแบตพัง เขาก็ถึงรับประกันให้ 8 ปี 10 ปีนะ เขาไม่ได้ตั้งโปรแกรม 8 ปีแบตหมด รถพังนะฮะ ประสบการณ์มันหากันเอาเอง รถไฟฟ้าก็ยังใหม่ จะเอาประสบการณ์ที่มีมาบอกว่ามันดีที่สุดแล้ว ผมว่าแปลก
ไม่มีรถที่สมบูรณ์หรอก ไม่ว่าน้ำมันหรืออะไรก็ตาม มีเงินซื้อแล้วได้ใช้คุ้มค่าที่สุดคือสุดๆของเงินที่จ่ายไป
@@3chalokezah647 รอสมบูรณ์ไม่ต้องใช้กันพอดี 5555 ถ้ารถน้ำมันสมบูรณ์ 100% อู่คงไม่เต็มบ้าน เต็มเมืองขนาดนี้หรอก คิดง่ายๆ
ใครซื้อEVตอนนี้ก็เก็บเงินหยอดกระปุกเอาไว้ซื้อแผงโซลาห์ไว้เลย พอแบตรถเสื่อมลง30%ก็ถอดเอาไปทำระบบโซลาห์เซลเซฟค่าไฟบ้านต่อ
ล้านกิโล กว่าจะเสื่อมถึง30%
ชอบไอเดีย👍
ซื้อเครื่องปั่นไฟติดท้ายรถไปด้วยครับ
@@jonin2526 ซาก Ev กองเต็มที่จีน ไทยพึ่งตื่นเต้น
@@ffala465 ไม่เข้าใจจริงๆหรอ
ใช่ค่ะ..ซื้อเมื่อคุณพร้อมถูกต้อง..ตอนนี้ซื้อรถไฟฟ้ามาใช้สะดวกมากค่ะ..ชาร์จไฟบ้านราคาถูกมากค่ะ.ใช้รถไฟฟ้า.SO7❤❤
ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า ร้องสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. หลังซื้อรถไฟฟ้าป้ายแดง แต่พบปัญหาหลากหลายอาการ เช่น เครื่องยนต์ดับกระทันหัน เครื่องยนต์เร่งเอง หรือบางคันรถเบรกเองขณะใช้ความเร็ว จากปัญหาผู้ใช้รถได้เรียกร้องความรับผิดชอบจขากบริษัทรถยนต์แต่เรื่องไม่คืบหน้า
รถไฟฟ้าเร่งเอง คือแบบใหน เครื่องดับคืออะไร หมายถึงไฟไม่เดินใช่ใหม เหยียบคันเร่งแล้วรถไม่วิ่ง ส่วนเรื่องยนต์เร่งเอง สคบ คงปวดหัว เพราะเครื่องยนต์รถEVไม่มี มันเลยยากจะตรวจสอบ อาจจะเป็นปัญหาที่ลำโพงเสียงหลอก แอมป์ขับเสียงมีปัญหารึเปล่า ตามที่แจ้งไปทาง สคบ. เขาคงงง และคิดว่าลูกค้าหลอกเขาล่ะมั้ง เลยเฉยๆ หรือไม่อย่างนั้นรถคันนี้ก็ไม่ใช่รถไฟฟ้า แต่เป็นรถยนต์สันดาบภายใน ไฮบริด
นั้นแหละ รถไฟฟ้าที่ไหนมีเครื่องยนต์กัน งงเด้😂😂😂@@copcop5053
ผมอาชีพไรเดอร์ครับ ใช้รถน้ำมัน 125 ซีซี วิ่งงาน ปีๆนึงใช้ต้นทุนทุกๆอย่างรวมทั้งค่าน้ำมันด้วย อยู่ที่ 30000-35000 ต่อปี วิ่งไปประมาณ 40000-45000 กม.ต่อปี
พอเปลี่ยนมาใช้ รถไฟฟ้าซื้อมา 58,600 แบตรับประกัน 1 ปี หรือ 30000 กม.
ใช้มา 1 ปี วิ่งไป 44000+ กม. ประกันหมดทััง 2 เงื่อนไข แบตเริ่มเสื่อมชาร์จไม่ค่อยเข้า แบตหมดเร็วมาก จะซื้อแบตก้อนใหม่จากบริษัทที่จำหน่าย พอทราบราคาแทบช็อค ราคาแบตก้อนใหม่ 45000 รวมกับค่าไฟที่ชาร์จมาตลอดทั้งปีอยู่ที่ 5000+ รวมค่าเปลี่ยนยางอะไหล่อีก 4 ครั้ง 2600 รวมต้นทุน ราวๆ 52000+ เลย
สรุปค่าใช้จ่ายรถไฟฟ้า วิ่งงาน ไรเดอร์ มากกว่า รถน้ำมัน 2 เท่าเลยครับ
ส่วนนี้ เฉพาะรถ มอเตอร์ไซค์ นะครับ...
ถ้า8ปีเปลี่ยน แบต 5-6แสน ผมขับรถน้ำมัน20ปีหมดค่าน้ำมันยังไม่ถึง 5 แสนเลย แล้วไม่ต้องกังวนกับสิ่งที่เราไม่รู้อีก ขอฝ่านก่อน รอให้ พัฒนามากกว่านี้ก่อน ครับ
แล้วแต่คนครับ ผมเดือน1ค่าน้ำมันเดือน ละ 10k
ขับน้อยมาก20ปีค่าน้ำมันไม่ถึง5แสน
ดีครับใช้รถให้ตรงกะบคัวเรายินดีด้วยครับ
เห็นด้วยครับรอมันพัฒนามากกว่านี้ค่อยซื้อครับ
7-8ปีที่แล็ว ติดแก๊ส 4-5หมื่น
ตอนนี้เหลือ 6-7พัน
แบตคงไม่ยืนพื้นราคานี้ไปตลอด
หรอกมั้ง
รอดูอีก 5-10 ปี รอดูมาตรฐานเทคโนโลยีแบตรถไฟฟ้าให้สูงกว่าปัจจุบันให้มากพอ แบตมีทนทานสูงขนาดวิ่งมาด้วยความเร็วแล้วถูกชน แบตก็ยังไม่เสียหายมากนัก แบตยังสามารถซ่อมแซมให้กลับมาใช้งานได้ แบตทนทานต่อความร้อนสูงต่อเนื่อง แบตทนทานน้ำท่วมยาวนาน สามารถแปลี่ยนแบตได้ง่าย และแบตราคาถูกเมื่อเทียบกับราคารถ
ผมว่าถ้าเปรียบเทียบรถน้ำมันกับรถไฟฟ้า
ต้องเปรียบเทียบทั้งจุดดีและจุดเสียนะ
ไม่ใช่เวลาเทียบจุดดี เราเทียบกับรถน้ำมัน
เวลาเทียบจุดเสีย ไม่เทียบกับรถน้ำมัน แต่บอกว่าเป็น norm ของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไว
มันแปลกๆที่เวลาคุยเรื่องจุดเสียเราไปเทียบกับตลาดมือถือ แทนที่จะเทียบกับรถน้ำมัน
ผมเห็นด้วยนะครับ
ว่าโจทย์ของผู้ใช้งานเป็นตัวตัดสินว่าควรซื้อไม่ควรซื้อ
ดังนั้นการเปรียบเทียบจึงสำคัญ
แต่จากที่ฟัง ผู้บรรยายให้ข้อมูลการเปรียบเทียบหลายๆอย่างดูไม่หมัดต่อหมัด
เช่นที่บอกว่ารถไฟฟ้ามือ2ดีกว่ารถน้ำมัน
เพราะรถน้ำมันขับไปแสนโลเครื่องหลวม (แสนโลนี่ 5-6ปีเลยนะครับ)
แต่ถ้ารถไฟฟ้ามือสอง ใช้งานต่อได้เลย(ผมว่ารถไฟฟ้า5-6ปีนี่ แบตน่าจะเสื่อมใกล้ซื่อแบตใหม่แล้วนะครับ จากที่ประกัน5ปี)
หรือประเด็นว่ารถที่จะซื้อไม่ใช่รถคันแรก ก็ดู neutral เท่าไหร่
เทคโนโลยีเติบโตเป็นเรื่องปกติ
สำหรับเทคโนโลยีใหม่ใช่ครับ
แต่รถน้ำมันเทคโนโลยีมัน optimizeถึงจุดนิ่งแล้วนะ
พูดตามตรงคือรถน้ำมันรุ่นใหม่ซื้อต่างกันแค่ดีไซน์ กับ option นะ
เครื่องแทบไม่เปลี่ยน
ไหนจะเรื่องอะไหล่และประกันที่ควรมาเปรียบเทียบอีก
ดังนั้นควรพิจารณาแบบตีแตกประเด็นแบบหมัดต่อหมัดให้ชัดเจนเพื่อให้คนไปพิจารณาต่อได้ง่าย ไม่เข้าใจผิดจนเกิดbias ครับ
ผมเห็น ด้วยครับ กำลังว่าจะเขียนตอบในทำนองนี้เหมือนกัน
@@kriengsakchaisiri6183 คือผมก็เห็นด้วยนะครับ ว่ารถยนต์พลังงานทางเลือก จะเป็นอนาคตแน่ๆ
แต่ในคลิปหัวข้อคือตอนนี้เหมาะสมที่จะใช้หรือยัง
ผมคิดว่าคำตอบนี้ จากสภาวการณ์ของตลาดก็ยังคงตอบได้ไม่ชัดเจน
ด้วยเทคโนโลยี ปริมาณพลังงาน ราคาขายมือ2 การรับประกัน อัตราอุบัติเหตุบนท้องถนน(ตอนนี้รถไฟฟ้าชนทีนี่หน้าสั่นนะครับ)
ผมคิดเองว่าสุดท้ายรถไฟฟ้าคงมาทดแทนรถน้ำมันแหละ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
ผมเดาๆเอาเองนะว่าคงคล้ายๆกับนาฬิกาช่วง quartz crisis ผลลัพธ์คือ
นาฬิกา quartz เหมาะกว่าสำหรับกลุ่มmass
เที่ยงตรงกว่า ถูกกว่า คุ้มค่ากว่า
นาฬิกา auto อาจจะเหมาะกับการรักษามูลค่าและการแสดงคุณค่าทางสถานภาพมากกว่าครับ
คนที่คุณดูอยู่(คุณเวล)เปลี่ยนจากฟอร์ด มาใช่เทสล่า เขาชั่งน้ำหนักมามากพอแล้ว เพราะเขาตามและทำงานอยู่ในแวดวงนี้อยู่ มันอยู่ในจุดที่เขาไว้ใจระดับหนึ่ง เขาอาจจะไม่ได้ใช้รถจีนอยู่ แต่เขาตามปัญหาและการซ่อมบำรุงของรถไฟฟ้า เพื่อเป็นประโยชน์กับผู้ใช้หรือคนที่กำลังเรียนรู้เพิ่มเติม มันไม่มีรถประเภทไหนที่ไม่มีปัญหา อยู่ที่บริษัทเขาตามและคอยปรับปรุงพัฒนาหรือเปล่า แค่หารถที่เราใช้ได้ตามที่เราต้องการ รถไฟฟ้าไม่มีเสียงหรือควัน คนที่อยู่ในชุมชนเสียงรถปกติคงไม่ส่งผลกระทบกับคนทั่วไป แต่ประเภทท่อดังควันดำท่วม คงไม่ดีแน่
ตอบคำถามได้ละเอียดชัดเจน ได้ความรู้ความเข้าใจในEVได้ดีขึ้น
ชอบการตอบคำถามของคุณที่ร่วมเป็นพิธีกรครับเปรียบเทียบได้ดี เข้าใจง่าย ได้ข้อคิดดีครับ
ซื้อเมื่อคุณพร้อม....ดีที่สุดไม่มีใครบอกคุณได้..อยากซื้อก็ซื้อไม่อยากซื้อไม่อยากใช้ก็ไม่ต้องซื้อ ไม่ต้องมาขิงใส่กัน..
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ
ผมใช้2คันค่าน้ำมัน10000 ต่อเดือน
เปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้า1คันและยังใช้รถน้ำมันอีก1คันค่านำ้มันเหลือ2000ค่าไฟรถเหลือ1200ต่อเดือน
แต่คุณจะโดนเอาคืนจากค่าประกัน ค่าซ่อม ที่แพงขึ้น แล้วก็ตอนเปลี่ยนแบ็ต
@@natchan1150 เคยใช่รึ
ต้องแบบเปรียบเทียบ เป็น 1 ปี หรือ 5 ปี หรือ จนแบตหมดประกัน น่าfairy
@@natchan1150เปลี่ยนแบตตอนปีไหนนะ 8 ปี เงินส่วนต่างค่าน้ำมัน 560,000 เลยนะ เปลี่ยนยกคันยังคุ้มเลย
ต้องลองใช้งานช่วงเทศกาล หรือใช้รถติดๆในเมือง บอกเลยรู้เรื่อง ผมใช้รถประจำทั้งน้ำมัน ไฟฟ้า ผมยอมเสียค่าน้ำมันมากกว่าเสียเวลาและโอกาสในธุรกิจ
เปิดคอร์สเรียนช่องทางไหนครับ
ถ้าไม่จำเป็น ณ ตอนนี้ใช้คันเก่าไปก่อน
มันจะมีค่ายEVที่ไปต่อไม่ไหวแล้วล้มแน่ๆ รอดูบริการหลังการขายของแต่ละยี่ห้อก่อน3-5ปีเป็นอย่างน้อย
ถ้าบ้านเราเน้น BYD GWM 2เจ้านี้ อยู่รอดแน่ๆ
จริงครับ เหมือนเชฟโรเลต เป็นกรณีให้ศึกษา
พยายามซื้อแบรนด์หลักๆ นะ เพราะภายใน3ปีนี้น่าจะมี "ล้มหายตายจาก" หลายเจ้าแน่นอน เนื่องด้วยเปิดขายกันเยอะมากๆ และกำไรต่อหน่วยก็น้อย....
เออ ช่างมันเถอะ ขอให้มันลดมลพิษลงบ้าง ลดโลกร้อนลงบ้าง หยุดทำลายโลกลงบ้าง มีคนสนใจรักษ์โลกปกป้องโลก ช่วยกันคนละนิดคนละหน่อยก็ยังดี
น่าคิดครับ
อันนี้เห็นด้วยครับ
ต้องเข้าใจรถEVเป็นเรื่องใหม่(น่าจะเกิดมาประมาณ10ปี)คงไม่มีทฤษฎีไหนถูกต้องหรือสามารถนำไปเทียบเคียงได้อย่างวางใจ คงต้องรออีกสักพัก(อาจนาน10ปี)เพื่อรองานวิจัยเรื่องนี้ ปกติงานวิจัยบางอย่างอาจมากกว่า20ปี ดังนั้นผู้ซื้อคงต้องวางแผนและเก็บข้อมูลด้วยตนเองไปก่อน สู้ๆครับ
ชีวิตมึงมีแต่ คงจะนั่นคงจะนี่ คงๆๆๆๆ
ใช่ครับใครไม่พร้อมก็ไม่ต้องซื้อ แต่ปัญหาคือค่ายรถโปรโมทหนักจนคนคิดว่ามันไม่ต่าวกับรถน้ำมัน เห็นแต่ข้อดีคิดว่าตัวเองพร้อมครับ
ถาม ไม่เริ่มตอนนี้จะเริ่มตอนไหนคนซื้อก่อนนับมีบุญคุณกับคนรุ่นหลังๆมีดีมาน ก็มีการพัฒนา ลด pm 2.5 ต่อรองกับบริษัทน้ำมันที่ขึ้นราคาเอาเปรียบคนใช้รถ
ผมชอบรถไฟฟ้ามาเป็นสิบปีแล้ว เป็นการชอบในใจ และชอบมากที่มันไม่ปล่อยไอเสียเหม็นๆ เพราะฉนั้นผมจึงไม่สนใจว่ามันจะมีข้อดีข้อเสียยังไง...ซื้อโลดครับ
ส่วนตัวไม่ควรใช้ เสียอู่ทั่วไปซ่อมได้ไหม มีอะไหล่ไหม บริการตามปั้มทั่วไปมีพอแค่ไหน มีกี่หัวต่อปั้ม
ผมใช้อยู่4คันBev 1ไฉบริด2 ice1ใช้รถตามึวามเหมาะสม
เคยซื้อไฮบริดตอนพรีอุสออกใหม่ๆ ก็ ฟิลลิ่งนี้แหละ แบตแพง สองแสน ตอนนี้ราคาเหลือหกหมื่นละ แล้วดูไฮบริดตอนนี้
ไฮบริดไม่ต้องรอ ชาร์ทอะดิ เวลาสำคัญ ประหยัดเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า ใช่ไฮบริด ก็ประฟยัด นำมันพอตัว 😂😂😂 จะมานังรอชาร์จเพื่อ
จุดดีจุดด้อยแตกต่างกัน ส่วนผมใช้รถน้ำลุยน้ำลุยฝนมาหลายสิบปี รถไฟฟ้าเหมาะสำหรับใช้ในเมือง ส่วนรถน้ำมันเหมาะกับงานหนักและลุยป่าเขา เลือกเอาครับ อย่าไปด้อยค่าเพื่อการขายเลยครับ.....
มุมมองของผมนะค่าบำรุงรักษาของรถสันดาบต่อเดือนเป็นเวลาหลายปีโดยรวมแล้วน่าจะพอๆกับเปลี่ยนแบตเตอรี่เลย อีกอย่างรถไฟฟ้าถ้าเกิดอุบัติเหตุมางานช้างเลย รถไฟฟ้าขี่ดีแต่ถ้าชนมาปัญหาและค่าซ่อมจะเเพงมาก คือห้ามชนเลยซึ่งคนไทยถ้าขี่ไม่ชนนี่ยากมาก สรุปผมไม่คิดจะซื้อแล้ว ใช้มอเตอร์ไซไฟฟ้าน่ะดีที่สุด ไปไหนไกลกับครอบครัวค่อยใช้รถยนต์สันดาบ
ค่าบำรุงรักษารถ้น้ำมันป้ายแดง หลักหมื่นครับ ยกเว้นเข้าปีที่ 10 อันนี้จะเริ่มเยอะ แต่มันก็ใช้เงินในการซ่อมน้อยกว่า EV ยิ่ง EV ตอนนี้อู่นอกยังไม่มี ศูนย์จับเปลี่ยนอย่างเดียว ราคาแพงแน่ครับ
ซื้อเมื่อพร้อมจริงๆค่ะ
อีก 5 ปีค่อยซื้อ รอให้ทุกอย่างลงตัวก่อนดีกว่า ศูนย์ซ่อม อะไหล่ ราคาแบตเตอรี่ เวลาการชาจน์แบต สถานที่ชาจน์แบต
แล้วค่าเปลี่ยนแบตเท่าไหรครับ
ใช้มาปีกว่าๆถือว่าโครตคุ้ม เพราะต้องใช้รถในรูทเดิมๆทุกวัน200กิโล ประหยัดค่าน้ำมันไปโครตเยอะ ฟินมากตอนนี้
ถ้าใช้ 1 วัน ใน 1 ชาร์จแบบไม่ชาร์จข้างนอกได้นี่ ผมว่าคุ้มโคตรๆละ ประหยัดได้เยอะ เทคโนโลยีก็เจ๋ง 😊 เดินทางไกลๆ ถ้าเผื่อเวลา ชิลๆก็ดีอยู่นะ
พอๆกับรถน้ำมันครับ
แบตเตอรี่วิ่งได้ 1แสนไมล์(160,000 กิโลเมตร) ก็ต้องเปลี่ยนแล้วครับ
ราคาแบต 3-6 แสนบาท (ยังไม่รวมค่าไฟฟ้าชาร์ทแบต)
ถ้าหากรถน้ำมัน วิ่ง160,000 กิโลเมตร ก็ใช้น้ำมัน 16,000ลิตร
ราคาน้ำมัน ตีง่ายๆ 35บาท
ก็เสียค่าน้ำมัน 560,000 บาท
@@klarWorksbydมีคนใช้ไปแล้ว 1 แสนกิโลหลายคันเข้าศูนย์เช็คปกติตลอด คุณ,่ะเคยใช้มั๊ยหรือข้อมูลจากไหน
@@klarWorksสมอง เอาข้อมูลไหนมา160,000 มันคือระยะที่ประกัน180,000 แต่แบตเทสล่าที่เขาใช้หลักหลายแสนโล ยังใช้ได้เลย
@@klarWorks ค่าน้ำมันเครื่องน้ำมันเกียร์ค่าบริการ0 เช็คระยะ รวมเข้าไปด้วยนะ ไฟฟ้าถ้าแบตมันเสื่อมสภาพจริงๆแต่ก็ยังวิ่งได้แน่ๆ อาจจะวิ่งได้น้อยลง ถอดขายในกลุ่มโซล่าเซลลได้อีกคิดว่าได้เกือบ200000แสน ตัวรถก็เอาดินใส่ปลูกสะระเหน่ซะ หรือทำระบบโซล่าเซลลใช้เองในบ้านก็คุ้มไม่เสียค่าไฟฟ้า ผมใช้evจะ 60000โลละ แต่ก็ยินดีกับคนที่ซื้อรถน้ำมันตอนนี้ที่เจอevถล่มจนราคาลดกันเป็นแถวๆ ใช้ตามสะดวกแต่อนาคตคิดว่ารถน้ำมันจะไปขายใคร แค่ตอนนี้รถน้ำมันผม2คันยังจอดสนิท ขายก็ไม่มีราคาแล้ว ถูกเกิ้น
ผมใช้รถอีวี พอใจและมีความสุข
ใช้ AV ก้อโอเครนะ
ตีง่ายๆ 8ปี เปลี่ยนแบต 3แสนบาท
เฉลี่ย คุณต้องจ่ายค่าเสือมแบต 3แสน หาร 8 หาร 12 = 3,125 บาท/เดือน (ถึงแม้จะวิ่งหรือไม่ก็ตาม)
ส่วนหากวิ่งเยอะ แบตอาจเสื่อมใน 5ปี
เฉลี่ย คุณต้องจ่ายค่าเสือมแบต 3แสน หาร 5 หาร 12 = 5,000 บาท/เดือน
ตัวเลขนี้ยังไม่รวมค่าไฟฟ้าต่อเดือน
@@klarWorks อันนี้ค่าแบตกี่เปอร์ครับ 100% หรอครับ
@@klarWorksถ้าเทียบระยะทาง ระหว่างรถ ev vs รถน้ำมัน
@@YUNALOVE039 หมายถึงยังไงหรอครับ
เพราะ เวลาเปลี่ยนต้องเปลี่ยนทั้งหมด ไม่ใช่หรอครับ
และบางยี่ห้อค่าเปลี่ยนแบต ปาไปเกือบ 6แสนบาท
ถ้าคำนวณต่อเดือน(กรณีเปลี่ยนแบตหลังใช้งานมา 8ปี) ก็ตกค่าแบตเดือนละ 6250 บาท/เดือน(ยังไม่รวมค่าไฟฟ้า ที่ต้องชาร์ทแบตอีก)
ผมอยุ่ที่ อเมริกา EV ยังไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่ ยังไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง เวลาไปเที่ยวนอกเมืองไม่สะดวก คำนวณส่วนต่างค่าน้ำมัน ภายใน 5 ปี รถน้ำมันยังถูกกว่า
ev เหมาะ ทำงานไปไม่ไกล ไม่ออกต่างจังหวัด ใช้บ่อยๆ แต่ไม่ไกล ที่สำคัญ ต้องมาชาทที่บ้านของตัวเอง ถึงคุ่มค่า เป็นรถควรคันที่ 2 ของบ้าน เพื่อ ev มีเหตุใช้งานไม่ได้จากสาหตุอะไรก็ช่าง
คนที่ซื้อรถ EV ตอนนี้หลักๆ คือมันถูกและประหยัดน้ำมัน เท่านั้นละ
รถไฟฟ้าคือใช้ก่อนจ่ายทีหลัง รถน้ำมันจะใช้ต้องจ่ายเลย ของผมเติมน้ำมันเดือนละประมาณ 3000 บาท เข้า ศูนย์ทุก 6 เดือนประมาณครั้งละ 2500-3000 บางปีเข้าครั้งเดียวเพราะขับระยะทางไม่ไกลมาก ปีละประมาณ 10000 กม. นับไป ตอนนี้7 ปีแล้ว โดนชนเบาๆมาบ้างซ่อมหลักพัน ตีเลขกลมๆ 10 ปี อาจไม่ถึง 4 แสนบาท ไม่ต้องสำรองจ่ายเพราะจ่ายแค่ไหนใช้เท่านั้น / ถ้าขับรถไฟฟ้าระดับกลางๆค่าเปลี่ยนแบตน่าจะประมาณ 500000 บาท เลยทีเดียวในเวลาที่ประมาณ 10ปี
เป็นธรรมชาติที่คนส่วนใหญ่ จะชอบมองอะไรในระยะสั้น
บอกตามตรง ผมรอ Solid State Battery อย่างเดียวเลย ตอนนี้ขอใช้น้ำมันไปก่อน
ไม่รีบขนาดนั้น แต่ถ้า SSB มา คนสันดาป พร้อมไปแน่นอน
ผมว่ารอให้พัฒนา แบทให้มีความ
ใช้งานได้ง่ายกว่านี้ ก็ได้นะ
เหมือนมันเป็นปัญหา ที่ทุกค่ายกำลัง เร่งพัฒนาตรงนี้ ใครทำได้ก่อน นำคู่แข่งขาดแน่ๆ
เหมือนโทรศัพท์ และหน้าทำรถขนส่งก่อน จะดีมาก
ผมรอก่อนนะ เพราะใช้รถไม่เยอะ อยากให้แบต 1.ขนาดเล็ก กว่านี้ 2.เบากว่านี้ และ3.ชาร์จได้เร็วกว่านี้ 4. ใช้แร่หาไม่ยากแทน หรือ Solid state เพราะแบตมันจะยังดีได้มากกว่านนี้อีกเยอะครับ 1. แบตขนาดเล็กลง... ก็ช่วยให้เวลาอุบัติเหตุ มันจะไม่โดนกระแทกไปด้วยพอรถเบา 2. แบตเบา ...รถวิ่งได้ไกลขึ้น และ ยางก็ไม่ต้องใช้ยางพิเศษ 3. ชาร์จเร็ว เราก็จะไม่มีคิวยาว ๆ ที่จุดชาร์จ 4. แบตถูกลง เราก็เปลี่ยนได้ง่ายขึ้น เมื่อมันหมดอายุ
คนไม่ใช้ปัณหาจะเยอะ คนใช้ปัญหาไม่ค่อยจะมี แบ็ตที่ว่าแพงตอนนี้บางค่ายมาผลิตในไทยแล้ว เดี่ยวราคาก็ถูกลง ตีตนไปก่อนไข้ ขนาดมือถือไอโฟน ใช้มา5ปีแล้วครับ ยังใช้ได้ดีอยู่ เอาค่าน้ำมันมาหักลบ ผมว่ามันคุ้ม ซื้อมาใช้ไม่ใช่ซื้อมาขายนะ คุ้ม
ผมใช้รถไฟห้าอยู่ คุ้มค่ามาก มีรถน้ำมัน จอดยาวๆ เอาไว้สำรองใช้
อีกหน่อย รถไฟฟ้าวิ่งได้ 700-800 โล โอเคเลย
ราคาไม่เกิน 1.5 ล้าน บาท ยิ่งเฟอร์เฟคเลยครับ
เขารอแบตเตอรี่โซลิดสเตทอยู่ครับ ที่กำลังพัฒนา เพราะชาตได้เร็วเท่ากับเติมน้ำมัน แบตติดไฟยากรอบการใช้ยาวนานกว่าเดิมเยอะพอสมควร วิ่งระยะได้ไกลไม่แพ้รถน้ำมัน
รถน้ำมันในเวลานี้ คือ ยานพาหนะที่เหมาะสมกับการเป็นรถคันที่ 2 ที่ใช้เพื่อเดินทางประจำวันมีระยะทางแน่นอนที่ไม่ไกลเกินไป แล้วให้เหมาะที่สุด คือ ต้องมีบ้านที่อยู่อาศัยของตัวเองเพื่อติดตั้ง home charge ที่บ้านได้ เพื่อไม่ต้องเจอปัญหาการเที่ยววิ่งรอกหาที่ชาร์จจนเสียจริตไปตาม ๆ กันครับ
รถไฟฟ้าหรือรถน้ำมันครับ?เอาให้แน่ๆ เพราะที่คุณว่ามันน่าจะเป็นรถไฟฟ้ามากกว่า
เริ่มแรกๆออกใหม่ๆ ว่าผู้ที่มีเงินและมีรสสำรองหลายคันเค้าก็อาจจะซื้อมาลองเล่นๆได้ ค่ะส่วนตัว คิดว่าอย่างนั้นนะ อย่างเรา ต้องรอ ดูรอฟัง เท่านั้นก่อน
คิดง่ายๆละกันครับ สำหรับคนห่วงเรื่อวแบต
อีกหน่อย วิศวกร จะออกแบบใช้ทดแทนกันได้หมดครับ สามารถถอดเปลี่ยนยกชุดได้เลย
เพราะ แบตก็คือแบต โมดิไฟนิดเดียว สบายบรื๋อ
ส่วนคุณภาพ ตามราคาที่ดปลี่ยนครับ อย่ากังวล
คนใช้จริง อยากได้เพิ่ม อีกคัน
ของเล่นใหม่?
ผมใช้มาเป็นปีแล้ว ค่ายรถทั่วโลกเลิกผลิตเครื่องยนต์แล้ว ฮะฮะไปอยู่ไหนมาทันสมัยหน่อย
ถ้าผมมีเงินผมจะใช้2อย่างครับ นำ้มัน+ไฮบิด 1คัน ไว้เดินทางไกล รถEv 1คัน ใช้ในบริเวณไกล้เคียงไปทำงาน ไปซื้อกับข้าวครับ ทุกอย่างมันมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันครับ มีเงินก็ซื้อ2แบบเลยครับ
ถูก
คนเยอรมันถึงไม่ค่อยนิยม ยอดขายไม่ถึงเป้า benz BM เลยกลับคำ มาขายรถน้ำมันต่อ+HB เพราะปัญหาเรื่องการชาร์จ อากาศที่หนาว และต้องเผื่อเวลามากขึ้นในการเดินทาง เนื่องจากเวลาวิ่งข้ามเมือง บางประเทศมันไกลมาก รถ Ev ส่วนตัวเหมาะกับรถใช้ในเมืองหรือชานเมือง จะคุ้มมาก ตอนนี้เลยใช้ HB ไปก่อน ไม่ประหยัดเท่า EV แต่ประหยัดกว่าน้ำมันล้วนแน่นอน
อยู่เมืองไทยใช้ในเมืองไทยมันไปเกี่ยวอะไรกับเยอรมัน
@@themovie7888 แล้วเกี่ยวอะไรกับเมืองไทยครับ ถ้าอ่านแล้วงง ก็วนไปอ่านใหม่ครับ ก็ผมหมายถึงเยอรมันและภาพรวม และ ev ทั่วโลกกระแสมันไม่ได้ดีย่างที่ติ่งอวย ที่จีนก็ไม่ได้ใช้กันเยอะมากมาย เพราะปัญหาที่ยกตัวอย่างไป แล้วถามว่าในไทยไม่มีปัญหาสงครามหน้าตู้ชาร์จหรอครับ ? ใครจะใช้ก็ใช้ไปเงินของคุณครับ
แล้วผมพูดถึงเมืองไทยตอนไหนครับ ก็พูดถึงเยอรมัน ปัญหาของเยอรมัน ถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจ ก็ไปอ่านใหม่ครับ และปัญหา ev สงครามหน้าตู้ชาร์จที่ไทยไม่มี? จะขับไกลๆทีต้องเผื่อเวลามั้ย? แล้วมันต่างกันยังไง ไม่มีใครห้ามครับจะใช้ก็ใช้ไปเงินคุณ @@themovie7888
กระบะอีวีที่อีสุสุเปิดตัว วิ่งได้ 300km/ชาร์ต ที่ความเร็ว 130 km/ชั่วโมง ควรเปิดมาคาเดียวกับ เครื่องดีเซลน่ะครับ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า เพราะกระบะอีวีจีน หากต้องสู้กับเจ้าตลาด ต้องมาราคาต่ำกว่าเครื่องดีเซล หรือ ราคาเดียวกับดีเซล ก็เป็นได้
คนซื้อ EV เขาคิดเอาตัวรอดไม่ใช่ตามกระแสจะบอกให้ เขาเอาที่ประหยัดค่าน้ำมันไปผ่อนรถ เขาจึงมีรถขับ ถ้าเขาผ่อนรถน้ำมันแล้วจะเอาเงินที่ไหนจ่ายค่าน้ำมัน ตรรกะง่ายๆ ส่วนอีกสิบปี รถน้ำมันก็ราคาตกเกือบไม่มีค่า ซื้อล้านขายได้สองแสน รถไฟฟ้าราคาก็ไม่มีเช่นกัน แต่รถไฟฟัาเขามีค่าบำรุงรักษาต่ำ คนมันต้องเอาตัวรอด
เห็นด้วยครับ รถไฟฟ้ายังถอดแบตขายได้นะคับ เิาไปทำระบบโซล่าเซลล์ ใช้ในบ้าน
คนไทยหันมาเดินทางโดยใช้ วัวเทียมเกวียน น่าจะดีที่สุด แบบพอเพียงชีวิตไม่รีบร้อน ❤❤❤❤
ความเสี่ยงมีมากครับเสี่ย
ความเสี่ยงสูงซะด้วย ไม่ใช่เสี่ยงแค่หมื่น2หมื่น
ถ้าคุณมีธุรกิจ มีรายได้พอซื้อรถ จ่ายค่าน้ำมัน ค่าซ่อม ค่าประกัน คงไม่มีใครมาทะเลาะกันเรื่องค่าแบต ค่าไฟ ค่าน้ำมัน เพราะสิ่งเหล่านี้ต่อให้หมดอายุขัยเรา มันก็ยังคงมีต่อไปเรื่อยๆ แค่มีมากขึ้นหรือน้อยลง สิ่งใหม่ๆก็จะมีมาเรื่อยๆ ไม่สิ้นสุด
อยากให้มีคนทำบริการ แบตเปลี่ยนได้แบบรถTamiya แต่คัสซีเดิม บอดี้เดิม มอเตอร์เดิม เปลี่ยนแต่แบต 😅
รอเทคโนโลยี และพัฒนาการของรถEVก่อนจึงจะตัดสินใจรถอะไรก็ดีหมดขอให้มีตังค์ซื้อ
ล้านต้นๆ เลือก รุ่นไหนดีค่ะ ไม่ค่อบขับบ่อย ขับกทม ปริฑล แนะนำหน่อยค่ะ
ถ้าเพิ่มอีกนิด ส่วนตัว เทสร่าเลยครับ สวยด้วย 😅
จะซื้อ ev ต้องพร้อมเรื่องเงินค่าประกัน ค่ายาง ค่าแบตเตอรี่ และพร้อมเรื่องเวลา ตอนซ่อม และพร้อมทำใจเมื่อจะขาย และพร้อมมีเรือทดแมนตินน้ำท่วม หน้าฝน
ขอเสนอว่า ในบรรดาผู้มีความรอบรู้รถ EV ควรตั้งองค์กร(สถาบันเป็นกลาง) เพื่อ 24:09 ประเมินผลให้ เรทติ้งอู่ซ่อมรถ EV 5 4 3 2 1 ดาว เพื่อเป็นข้อมูลให้เจ้าของรถเลือกนำรถ EV ตนเองเข้าใช้บริการ โดยมีเกณฑ์แบบประเมินผลที่ชัดเจนและเปิดเผย เช่นเดียวกับการให้ ดาว ร้านอาหารต่างๆ แล้วเผยแพร่สู่สาธารณะ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างสูงต่อประชาชนทั้งเจ้าของรถ EV และอู่ซ่อมคุณภาพ และเพิ่มความเชื่อมั่นต่อห่วงโซ่โดยรวมต่อธุรกิจนี้อย่างดีและยั่งยืน ต่อไปครับ
ทั้งบ้านผมมีรถคันเดียว ยังผ่อนไม่หมดเลย จะได้ชื้อรถไฟฟ้าคงอึกนานครับ ใช้น้ำมันแพงๆไปก่อนนะ ไม่มีตังชื้อไหม้ครับ
😉เงินพร้อม😉ก็เป็นไปได้ทุกอย่าง ไม่มีเงินอย่าบังอาจซื้อรถไฟฟ้ามาใช้เด็ดขาดครับ รถไม่มีปัญหาไม่เป็นไร แต่ถ้ามีปัญหาเมื่อไหร่ แทบอยากจะขายทิ้งเลยล่ะครับ😭😭😭
ถ้าอยากได้อะไรๆก้อตามแล้วอยากใช้แบบสบายใจ ต้องเริ่มต้นเมื่อพร้อม
ซื้อเลย ประหยัดจริง
คนที่ไช้งานแล้วเหมาะ มันก็ออกมาดี แต่บางคนไช้แล้วไม่เข้ากับชีวิต เขาก็ขายออก แล้วกลับมาไช้น้ำมัน มันมีดีมีเสีย ด้วยกันทั้งหมด เน้นไช้ในเมืองระยะไม่ใกล ขับทำงาน รับลูก เดินทางก็ต้องวางแผนดีๆ evตอบโจท แต่ถ้าไช้งานเร่งรีบ เดินทางใกล ลุยๆ บรรทุก น้ำมันดีสุด ความคิดผมนะ evตอนนี้ยังไงก็ประหยัดกว่า เพราะใหม่กว่า แต่ถ้าระยะยาวยังตอบไม่ได้ แต่น้ำมันตอบได้ เพราะรถน้ำมัน ผมไช้งานยาว 10-15ปี แต่ละคัน
นึกถึงอีก50ข้างหน้าที่เทคโนโลยีไปไกล มีแบตคุณภาพระดับสูง แล้วการจะปรับแต่งรถก็อยู่ที่คุณภาพแบต ถ้าซื้อระดับสูงสุดจะทําให้รถวิ่งเร็วสุดๆ
เอาเป็นว่าใครอยากใช้รถน้ำมันก็ใช้ต่อไป นั้นละส่วนคนที่อยากลอง ev ก็ลองเลยถ้าลังเลดูรีวิวก่อนค่อยซื้อ
ใครอยากใช้ก็ใช้เถอะครับเงินคุณ ทดลองไปคนใช้ก่อนก็ได้รับปัญหาก่อน แต่ยังไม่ใช้รถไฟฟ้าตอนนี้ รถน้ำมันยังใช้ดีอยู่
ตอน e85มา ลิตรละ 16-18บาท พอคนใช้เยอะปัจจุบัน e85แพง ส่วนน้ำมันตอนโควิด19 เหยมันเหลือ 19-20 กว่าบาท แสดงว่า demands &supply มันก็ยังเป็นจริงนะ
ใช้ปีละสองสามพันโลใช้อันไหนดีครับ กำลังสนใจ
ICE
แบตใช้ได้แค่ 8ปี
ค่าแบตปัจจุบัน 5-6แสน
ค่าแบต ตกปีละ 62,500 บาท (จะวิ่งหรือจอด แบตก็เสื่อมตามกาลเวลา)
**ยังไม่ได้บวกค่าไฟฟ้าที่ต้องชาร์ทนะ**
รถน้ำมัน วิ่ง 3000 กิโล/ปี ใช้น้ำมัน 300ลิตร(ตีกลมๆ ลิตรละ 35บาท 1ลิตรวิ่งได้ 10โล)
สรุปเสียค่าน้ำมัน ปีละ 10,500บาท
อันไหนคุ้มกว่ากัน 😅
@@klarWorks ใจอยากได้แมวแต่ติดใช้น้อย วิ่งไปกลับชลบุรีรอบละ300กิโลปีละ3-4รอบ เลยคิดว่าไม่น่าคุ่ม ถ้าคนใช้ทุกวันคุ้มแน่
@@RmuttOzii วิ่งทุกวัน แบตยิ่งเสื่อมเร็วครับ
จากอายุแบต 8ปี ก็เหลือ 5ปี
แบต 5แสน ใช้แค่5ปี ค่าใช้จ่ายก็ตก ปีละ 1แสน หรือเดือนละ 8,300บาท(ยังไม่รวมค่าไฟฟ้าในการชาร์ท)
รถไฟฟ้าอายุใช้งาน6-8ปี หมดอายุต้องทิ้ง ถ้าราคาไม่เกิน3แสนถึงจะน่าใช้
มีรถไฟฟ้าเป็นคันที่2 ชาร์ทที่บ้าน นานๆจะชาร์ทข้างนอก ขับทุกวัน เที่ยวเยอะกว่าเดิม ไม่ค่อยคิดมาก ประหยัดดีส่วนรถน้ำมัน นานๆก็ถอยเข้าออกที
แต่ 5-8ปี แบตเสื่อม ต้องเปลี่ยนแบตใหม่
ราคาแบตตอนนี้คือ 5-6 แสนบาท
แต่ลองคิดต่ำๆ 3แสนบาท แสดงว่า เราต้องเสียค่าเสื่อมแบต 3-5พันบาท/เดือน
(คำนวณจาก 3แสน หาร 8ปี หาร 12เดือน)
ประหยัดโลละ 2 บาทกว่า ถ้ารถราคาต่ำกว่า ล้าน วิ่ง8 ปี คืนทุนแล้ว ขอให้เป็นรถคันที่2 ของบ้าน
สำหรับผมรถไฮบริดตอบโจทย์สุดในยุคนี้แล้วไม่ว่าจะเป็นฮอนด้าหรือโตโยต้า ส่วนรถไฟฟ้ารอดูอีกสัก3-5ปีละกัน😊
ตอนซื้อราคารถตลาดแต่ราคาซ่อม รถสปอร์ต ตอนนี้แม้กระทั่งเรื่องปัญหาน้ำท่วมก็เพิ่มเข้ามาในเงื่อนไขการตัดสินใจ
เรื่องแบตไม่ให้ผลักภาระให้คนซื้อรถ ควรเป็นแบบ SWAP ให้หมด มีศูนย์ที่ดูและตรวจสอบแบต 24ชม
ค่าน้ำมันต่อสัปดาห์ 8,000-10,000 และพร้อมก็ใช้แล้ว ดีจริง และติด tou วงจร 2 ใช้งานสะดวกก ประหยัดไปอีก เอาค่าน้ำมันมาคืนค่ารถ นับ 8 ปี ก็เท่าราคารถแล้วครับ
มันเหมือนมือถือไปแล้ว ไม่ใช่เครื่องบอกฐานะครับ
รถก็เปรียบเสมือนหญิงสาว ได้พบเจอ ได้รู้จัก ได้ทักทาย แล้วตกหลุมรัก สินสอดจะหนักหนาฉันก็จะคว้าเธอมาให้ได้
มันคือระเบิดเวลาอีกลูกนึง รอการระเบิด อีก7-8 พอแบ็ตเสื่อมก็จอดทิ้งเป็นสุสาน ซื้อแบตพอกับซื้อรถใหม่ แล้วอย่าไปหวังว่าแบตจะถูกลงเพราะแร่ที่เอามาทำแบตมันหายาก เคยเห็นทองคำถูกลงไหม เคยเห็นแบตอัลคาไลน์ถูกลงไหมผลิตจนล้นโลกแล้วยังแพงขึ้นตลอด
ตลกดีนะครับ ที่คนซื้อรถไฟฟ้า พูดถึงแบตเสื่่อม 6-7 ปี ยังไงก็คุ้ม
เพราะผมเองใช้รถน้ำมัน Toyota vios มา 14 ปี แทบไม่เคยต้องซ่อมอะไร มีแอร์เสียรอบนึง นอกนั้นไม่เคยเสีย แค่เปลี่ยนอะไหล่หรือน้ำมันเครื่องตามรอบเวลา เวลาใช้สบายใจมาก เพราะไม่เคยงอแง ซอฟแวร์ไม่มี เลยไม่มีอะไรต้องกังวล
สำหรับรถไฟฟ้า ผมว่าระวังอาการงอแง ลองดูเถอะ ใช้ไปซักระยะมีแน่นอนครับ
ใช้Viosต่อไปครับ👍🏼
อนาคตรถ ev จะวิ่งได้เยอะ แต่ถ้าคุณไม่ได้ไปไหนไกลทุกวัน ก็เลือกซื้อวันนี้ได้เลย
เพราะสุดท้ายไฟหมด ก็ชารจ ที่บ้านไม่ได้ออกไกล 500 กิโลทุกวัน / ถามใจตัวเอง ว่าจะเอาประหยัด หรือ จะเอาสวยหรู เพิ่มด้วย
ผมใช้2คันทั้งน้ำมันทั้งไฟฟ้า จากประสบการณ์ก็รถคันนึงแค่เปลี่ยนเติมน้ำมันเป็นไฟฟ้า ถ้าใช้ไฟฟ้าเป็นคันเดียวก็ได้นะแต่ระยะแบตขับจริงต้องได้500โลขึ้น แต่ถ้าอนาคตจุดชาร์จมันมีทุกอำเภอแบบปั้มน้ำมัน 350โลก็พอ ถ้าซื้อมาแล้วก็ใช้ยาวๆไปจนมันเสื่อมครับเหมือนตู้เย็นเครื่องซักผ้าถึงจะคุ้ม
ขนาดผมยังไม่มายเรื่องราคาน้ำมันแต่ก็ยังเบืรอเรื่องราคาน้ำมันเลยขายรถน้ำมันทิ้ง เลยหันไปซื้อรถไฟฟ้ามาใช้ประหยัดกว่ากันเยอะเลยที่สำคัญขับดีกว่ารถน้ำมันเสียอีกไม่ต้องรอรอบ
นะเวลานี้ผมไม่เอา ไม่เอารถ ev เพราะทุกวันนี้สว่านแบตราคาแพงๆที่ผมใช้ พอแบตเสียยังไม่อยากเปลี่ยนเลย แบตแพงเกิน สู้ทิ้งแล้วซื้อเครื่องใหม่คุ้มกว่ามาก
ทำนองเดียวกับรถ ev พอถึงเวลาเปลี่ยนแบต รถevรุ่นใหม่คงถูกและคุ้มกว่าเปลี่ยนแบต
อารมณ์ ขับรถกอลฟ์ ครอบไฟเบอร์ หันมาใช้รถEvกันเยอะๆนะครับ ลดมลภาวะ ลดการนำเข้าน้ำมัน ที่ขาดดุลมากมาย
อยากทราบว่าภายในแบตฯเนี่ย อนาคตมันสามารถใช้ด้วยกันได้ไหม เช่นซื้อเนต้าวันนี้ แบตเป็นโมดูลนี้ บล็อคนี้ อีกสิบปีข้างหน้ามีแบตแบบใหม่ ตอนนั่นน่ะมันสามารถเอามาใส่กันได้ไหมครับ
อยู่ที่ระบบชาตครับ ต่อไปจะมีคนคิดตัว ชาตตัวบาลานซ์เซลล์ เหมือนวงการแบตเตอรี่แพ็คขายที่ทำ BMS,inverter กันเองด้วย รถน้ำมันยังแปลงไปใช้ไฟฟ้าได้ หัวใจอยู่ที่ inverter ครับ
พี่เวลตอบผมหน่อยครับ ว่าค่าคาร์บอนมอนน็อกไซจากรถน้ำมันนี่มันมากพอจะทำให้เกิดภาวะเรือนกระจกร้ายแรงไหมครับ ถ้าเราเปลี้ยนไปใช้EVทั้งหมดเราจะลดค่าคาร์บอนได้จริงๆหรอครับ ที่ผมอ่านมามันแค่14%จากยานพาหนะทั้งหมด ส่วนมากมาจากเรือส่งสินค้ากับเครื่องบิน งี้ถ้าเป้าหมายคือลดคาร์บอนกับเตรียมพร้อมน้ำมันหมดโลก มันจะคุ้มค่าจริงๆหรอครับกับการขุดเหมืองลิเทียมมาทำแบตแต่แลกกับแหล่งน้ำบริเวณนั้นต้องพัง แล้วแบตเสื่อมสภาพก็เอามารีไซเคิลได้คุ้มค่าขนาดไหน ผมรู้สึกว่าการเปลี้ยนไปใช้ EV มันก็แค่หาข้ออ้างให้นายทุนหากำไรได้ในช่วงเปลี้ยนผ่านนี้ มันไม่ได้ดีต่อโลกอะไรเลยก่อนที่น้ำมันจะหมด แหล่งน้ำสะอาดก็คงหมด และอากาศก็เป็นพิษเหมือนเดิม โลกจะอยู่ไม่ได้ซะก่อน
ผู้ผลิตรถEVมันทำตัวของมันเอง คือค้าแบตกำไรเกินควร ถ้าแบตไม่แพงมันไปรอดแน่นอน..แต่นี่ยังทำไม่เก่ง ยังไม่มีประสบการณ์เลย มันก็โขกราคาค่าแบตเคัาแล้ว มีอย่างที่ไหนรถใช้น้อยถึงเวลา8ปี ก็ต้องซื้อแบตใหม่ราคา5-8แสน มันเอาเปรียบผู้บริโภคเกินไป แต่ถัาเป็นรถสันดาป รถใช้น้อยก็เสียค่าน้ำมันน้อยมันแฟร์ๆดี
ผมเห็นรถบางยี่ห้อ ออกมาบอกว่ารองรับการเปลี่ยนแบตเป็นแบบ solid state ได้ ในราคาที่ไม่แพงและไม่ยุ่งยาก, อยากซื้อกันไหมครับ😊
ยังไม่ค่อยเลยครับ ถ้าเเบตเสื่อม ต้องมาซื้อเเบตอีกรอบ จ่าย2ต่อ
อาจจะต้องถามคนใช้รถไฟฟ้าว่า อีก 10 ปีข้างหน้า เขาจะขายซื้อคันใหม่เลย หรือจะเปลี่ยนแบตใหม่แล้วใช้คันเดิมใช้ต่อ ซึ่งไม่รู้ว่าราคาขายจะลงขนาดไหน เพราะแบตลูกนึงก็ราคา80% ของรถไฟฟ้า 1 คัน
รถ Ev ไม่เหมาะสำหรับทุกคน ต้องดูการใช้ชีวิต ของแต่ละบุคคล ส่วนตัวผมมองว่า เหมาะสำหรับสาย ทำงานในเมือง ชิวๆ ขับในเมือง ไม่ได้ลุยอะไรมาก อันนี้เหมาะ ถ้าลุยตจว บ่อยๆสมบุกสมบัน อันนี้น่าจะผิดประเภท แล้วแต่สไตล์การใช้ชีวิตของคนขับ
ตอนนี้พูดตรงๆ ชาวบ้านยังรอติดตามเทคโนโลยี แบตเตอรี่ กลัวจะทีการกั๊ก เทตโนโลยีเอาไว้เผื่อขาย อะไหล่ หรือ พัฒนาให้มีเป๋นรุ่นๆเหมือน โทรศัพท์มือถือ ที่มีการพัฒนาใหม่ๆรุ่นเก่าก๋ตกรุ่นไป คิดว่าคนผลิตคงคิดประเด็นด่านการตลาด มากกว้า ที่จะใหคนใช้ได้ใช้แบบคุ้มค่า ใช้จ่ายน้อยประหยัดใช้นาน แบบนี้เขาจะผลิตออกมาหาอะไร
ซื้อก่อนประหยัดก่อน ซื้อทีหลังประหยัดกว่า ราคาค่อยๆลด🎉
อีก10ปีค่อยซื้อ ตอนนั้นน่าจะมีเทคโนโลยีใหม่กว่า..
สำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจคอร์สสร้างอาชีพเกี่ยวกับ EV ทักไปที่
👉🏻lin.ee/Hk3XVIi
หรืออยากรู้เกี่ยวกับ EV เพิ่มเติมติดตามพี่เวลต่อได้ที่ช่อง Welldone Guarantee เลย!
วงการอิเล็คโทรนิคพัฒนาเร็วมากครับรถไฟฟ้าจะคล้ายกับมือถือในอนาคต คือจะตกรุ่นเร็วมาก นี่คือความคิดของผมนะครับ
ล่าสุดเจอน้ำท่วมที่ชลบุรี เจ้าของ😢😢คิดให้ดีกรุงเทพน้ำรอระบาย❤❤❤
คนที่ใช้รถทุกวัน วันละ 20 กิโลเมตร ขึ้นไป ก็คุ้มครับ ถ้าคนไม่ค่อยใช้รถ ไม่แนะนำครับ
แบตอยู่ได้ 10 ปี มันจริงหรือเปล่า คะนไหนขับถึง 10 ปีแล้วบ้าง
แบตเตอรี่จะเสื่อมสภาพเร็วในอากาศร้อนครับ
ไม่แน่ใจว่าเมืองไทยจะอยู่ถึง 10 ปีไหม
ข้อความต้นฉบับ
"Generally, electric vehicle batteries last 10-20 years, but some factors may reduce their lifespan. For instance, batteries may degrade faster in hotter climates as heat does not pair well with EVs. Additionally, charging the battery at a Level 3 station can cause the battery to overheat, as the charging process is too quick. This process can negatively affect performance and longevity."
รถไฟฟ้าถ้าราคาสมควรคือไม่แพงเกินไป ราคาม่เกิน3 แสนกำลังดี ยังไงรถไฟฟ้าก็ดีกว่ารถน้ำมันแน่นอน
คันที่ 2345 จะไปmg byd ประมาณนี้ เพราะรถน้ำมันสำรองตอนรถไฟฟ้าซ่อมนาน