Baldur's Gate 3 : วิธีเล่น Oath of Vengeance เบื้องต้น Pure Build [ DnD + Baldur's Gate Guide ]
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 29 มิ.ย. 2024
- สนับสนุนด้วยการ Donate ผ่านช่องทาง Tipme หรือโอนตรง ได้ตามด้านล่างนี้
- Tipme
tipme.in.th/planettriplep
( เลือกได้ระหว่าง True Wallet และ Promptpay ไม่หักเงิน )
- โอนตรง ( ไม่มีหักเงิน )
986-3-42826-4 กรุงไทย
00:00 - สวัสดี Vengeance มือใหม่
01:18 - Vengeance คือใคร พร้อมการโรลเพลย์เบื้องต้น
03:12 - Tenets วัฒนธรรมการฝึกและข้อประพฤติตัว
04:33 - Leveling การอัปความสามารถ
04:40 - Level 1
06:42 - การอัป Status Pure Vengeance
07:27 - คำศัพท์ DnD ประจำวัน : Concentration คืออะไร?
09:33 - Level 2 และการใช้งาน Smite 4 รูปแบบ
12:55 - Level 3 การใช้พลังโอวาทศักดิ์สิทธิ์ Vengeance
14:30 - Level 4 Feat ที่ 1
15:10 - Level 5 เวทย์มนต์เฉพาะตัว Vengeance
16:36 - Level 6
16:56 - Level 7 Exclusive Passive
17:23 - Level 8 Feat ที่ 2
18:12 - Level 9 เวทย์มนต์เฉพาะตัว Vengeance ครั้งที่ 2
20:39 - Level 10 Exclusive Aura
20:05 - Level 11 Improved Divine Smite
21:26 - Level 12 Feat ที่ 3
24:54 - อ่านต่อใน Comment - เกม
ตอบคำถาม Vengeance มือใหม่
1. เราต้องมีเนื้อเรื่อง Background ที่แน่น ๆ เหมือนที่ผมเล่นใน Live หรือไม่ ?
ตอบ มีเอาไว้ถือว่าเป็นกำไรครับ ตอนเล่นเกมจริง ๆ จะช่วยให้เราตัดสินใจทางเลือกได้ง่ายมาก ( ถ้าคุณจะเล่นโรลเพลย์อะนะ )
- แต่ไม่จำเป็นต้องอิงตามเนื้อเรื่อง DnD เป๊ะ ๆ หรอกครับ คุณสามารถเขียนขึ้นมาใหม่ได้เลย อย่างของผม Order of The Blue Moon นี้ข้อมูลน้อยมาก
ขนาดทางเว็บ DnD จริง ๆ ใน Rulebook หรือ Wiki ยังหาได้น้อยจนแทบไม่ทราบว่าพวกเขาปิดตัวภาคีไปเมื่อปีไหน ลาง ๆ ว่าปี 1372 DR. ก่อนเกิดเหตุการณ์ BG3 ประมาณ 100 ปีนิด ๆ
แต่เนื่องจากชีวิตปกติการเล่น DnD ของผม ผมนับถือ Selune เป็นหลักอยู่แล้ว มาเจอ BG3 ที่เล่นประเด็นกับ Shadowheart และ Shar ด้วย
ตัวเลือกการเป็นอัศวินจากภาคีแสงจันทร์ The Blue Moon มันเลยลงตัวครับ สำหรับการจะเล่นคู่กับ Shadowheart ใน Live สดช่องเรานี่แหละ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
2. อะไรคือ Order of The Blue Moon ?
ตอบ ก่อนเหตุการณ์ BG3 เกิดประมาณ 130 ปี มีเหตุการณ์ที่เทพี Selune ปะทะกับ เทพี Shar ( 2 เทพถือว่ากำเนิดขึ้นมาเป็นองค์แรก ๆ ของโลก และเป็นพี่น้องฝาแฝดกัน )
ทั้ง 2 คนไม่ลงรอยกันตั้งแต่สมัยพระแม่ Chauntea กำเนิดมาบนโลกในยุคการสร้างโลกเลย ถ้าจำไม่ผิดจากหนังสือ " สงคราม Selune & Shar ใน BG3 " เขาเล่าว่า
- Chauntea สั่งให้ 2 เทพีสร้างความอบอุ่นขึ้นมาให้แก่โลกยามราตรี ซึ่ง Selune สร้างความสว่างของแสงจันทร์ที่มอบชีวิตให้แก่โลกได้เหมาะสมกว่า
- ส่วน Shar กลับสร้างความืดมิดที่ไม่ตรงโจทย์ท่านแม่ Chauntea เกิดเป็นความืดยามกลางคืนที่คอยฝังความกลัวใส่คน
- Chauntea เลยโปรดปราน Selune มากกว่า Shar คู่แฝด
คู่แฝด Selune และ Shar เลยจิกเปียกันมาตั้งแต่สมัยสร้างโลก และคอยแก่งแย่งชิงดีทุกยุคสมัย
ในปี 1358 DR. เทพ Shar หวังจะปกครองช่วงดินแดนตะวันตกเฉียงใต้นามว่า Swordcoast ( อ่านว่า ซอร์ดโคทส์ ไม่ สะ-หวอดนะ ) หรือดินแดนที่ทั้ง Baldur's Gate / Waterdeep / Greenest ตั้งอยู่
ช่วงนั้นลัทธิ Shar เรืองอำนาจมาก ๆ และทางภาคีแสงจันทร์ของ Selune มีน้อยกว่า พระนางเลยต้องร่วมมือกับร่างอวตารครั้งที่ 2 ของเทพี Mystra
จัดตั้งกองกำลังแสงจันทร์ที่มีพลังของ 2 เทพีอยู่ในกองรบ ซึ่งใช้ชื่อว่า Order of The Blue Moon นั่นเองครับ
- มีสมาชิก 64 คน ประกอบไปด้วยเหล่า นักกวี ( Bard ) พาลาดิน ( Paladin ) นักเวทย์ ( Sorc ) อยู่ในนั้นพอสมควร
- สมาชิก 64 คน บางท่านจะได้รับพลังเวทย์มนต์ 1 แขนงที่ชื่อว่า Lunar Magic ( เวทย์แสงจันทร์ ) ทำให้คนที่มีบัพนี้จะแข็งแกร่งอย่างมากในช่วงพระจันทร์เต็มดวง ทุกเดือนในวันที่ 30 1 2
- และจะไร้พลังในวันที่ 15 16 17 ที่เป็นคืนเดือนดับ
- นักรบ 64 คนมีตำแหน่งต่างกันไป แต่ระดับสูง ๆ จะมีตำแหน่งคือ MoonKnight
- มีหัวหน้ากองรับตำแหน่ง High MoonKnight นามว่า Xale of the Starry Glen
- คนที่มีพลัง Lunar Magic สามารถใช้ควบคุมเหล่าผู้ติดคำสาป Lycanthropy ได้ 100% ทำให้นำกำลังตรงนี้มาช่วยสู้ได้เช่นกัน
- และเหล่า Lycanthropy ที่มาช่วย ก็มักจะโดนพระแม่ Selune สั่งสอนในทางที่ดี ให้รู้จักคุมพลังกลายร่างได้แม้พระจันทร์จะเต็มดวง ไม่ทำร้ายใคร และปกป้องผู้อื่น ---------> เหมือนคุณพ่อน้อง Shadowheart ใน BG3
- ทหารกองรบที่มีตำแหน่ง Knight of the Bluemoon จะมีความสามารถในการอัญเชิญสัตว์ขี่มาใช้งานได้ สัตว์ขี่จะมีลักษณะนิสัยที่ตรงกับเจ้าของทุกประการ
สัตว์ขี่ที่ว่าไม่ใช้ม้าธรรมดาทั่วไป แต่จะเป็นเหล่า Fey หรือพลังงานที่ผันแปรรูปร่างเป็นสัตว์วิเศษ อย่างเช่น
Hippogriff -------> พบเจอได้บ่อยในกองรบ
Griffon ----------> พบเจอได้บ่อย
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อ่านต่อใน Reply
3. วัฒนธรรมการฝึกของ Paladin คืออะไร
ตอบ Paladin ทุกท่านจะมีลักษณะเฉพาะในการดำรงอาชีพตัวเอง บางคนลุ่มหลงในพลังเพราะถูกฝึกมาแบบนั้น หรือบางคนเก่งวางแผนไม่เจอกับใครตรง ๆ เราก็จะไม่เห็นเขาอยู่ในแนวหน้าสนามรบ
วัฒนธรรมการฝึกจึงแบ่งได้เป็น 4 อย่างครับ
3.1 Ardent ( ยอดฝีมือการรบ )
- Ardent Paladin จะละทิ้งความสามารถในการรักษาออกไปทั้งหมด เขาจะร่าย Lay on Hands ไม่ได้เลย ไม่มีความมุ่งเน้นในการรักษา แต่เด่นเรื่องการทำสงครามและลุ่มหลงในพลังอย่างมาก
พาลาดินแบบนี้จะมีทักษะป้องกันตัวที่น้อยกว่าใคร ตายง่าย แต่ส่วนมากฝีมือจะไร้เทียมทานพอสมควรจนศัตรูต่อกรไม่ไหว
การฝึกในรูปแบบ Ardent จะใกล้เคียงกับ Avenging ของ Vengeance เช่นกัน เพียงแต่ว่า Ardent อยู่เพื่อทำลายล้างเท่านั้น ไม่คิดจะพิพากษาใครอย่างถูกต้องเท่ากับ Vengeance
เนื่องจากการละทิ้ง Lay on Hands ออกไป ทำให้พวกเขาได้รับ Ardent Vow แทน ( การโจมตีครั้งต่อไป +5 Damage + เพิ่มจากค่า Wisdom Modifier เช่นกัน
คือเกิดมาเพื่อฆ่าจริง ๆ ครับ Ardent จะมีนิสัยใจคอไม่ถูกปากคนอื่นเขา ทำให้คนไม่อยากจะไปสุงสิงด้วย
3.2 Avenging ( ศรัทธาในการลงทัณฑ์ )
- Avenging Paladin จะเปรียบเสมือนตัวแทนพระเจ้าที่คอยดูแลความสงบสุขทั่วไปในโลก การฝึกของพวกเขาจะเน้นไปทางทำลายล้าง และไม่เน้นการฝึกรักษาเท่าที่ควร
แต่ยังคงมีใจในการช่วยเหลืออยู่นะครับ ทำให้สามารถร่าย Lay on Hands ได้เหมือนเดิม
ภารกิจของพวกเขาเชื่อว่าเกิดมาเพื่อทำหน้าที่ในการลงโทษคนผิดแทนตัวพระเจ้า และฝันสูงสุดคือการเป็นตุลาการศักดิ์สิทธิ์ขององค์เทพนั้น ๆ
ส่วนมากเราจะเจอพาลาดิน Vengeance ถูกฝึกมาแบบ Avenging มากกว่า Ardent ครับ ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่ถูกฝึกแบบ Ardent มา Vengeance คนนั้นอาจจะเลือกเดินทางสายมืดไปเลย
3.3 Protect ( พิทักษ์รักษาชีพ )
- พบเจอได้บ่อยที่สุดของพาลาดิน นี่เป็นการฝึกที่เน้นในการตั้งรับ สวนกลับ รักษาชีวิตมากที่สุดแล้วครับ พาลาดินท่านไหนที่ถูกฝึกมาแบบนี้ส่วนมากจะได้ดิบได้ดีจนไต่เต้าเป็นอัศวินชั้นสูงได้เสมอ
หรือเป็นหัวหน้าประจำภาคีนั้น ๆ ไปเลย คอยแจกจ่ายงานให้แก่ท่านอื่นตามประสงค์ของพระเจ้าหรือสิ่งที่เชื่อ
การฝึกจะเน้นให้ใช้ดาบโล่เป็นหลัก และขัดเกลาให้เก่งด้านเวทย์ป้องกัน + รักษาอย่างสูง พวกเขาจะทำดาเมจได้น้อย แต่ก็ไม่ถึงกับฆ่าใครไม่ได้เลย
3.4 Virtuous ( จ้าวกลยุทธ์แห่งพลังศรัทธา )
- พาลาดินที่โดนฝึกมาแบบนี้จะใช้หลักคำสอนของพระเจ้าที่นับถือในการดำรงชีวิตอย่างที่สุด มักจะพก Holy Symbols ติดตัวไว้เสมอเพื่อแจกจ่ายศรัทธาแก่คนอื่น
พวกเขาจะนิยมใช้อาวุธระไกลเป็นหลัก และจะเก่งด้านค่าสถานะ Wisdom อย่างมาก ฝึกฝนจิตใจอย่างเข้มแข็งจนไม่โดนใครซื้อใจง่าย ๆ หรือร่ายเวทย์ลุ่มหลงก็ไม่เป็นผล ( ต้านทานเก่ง )
ในสนามรบพวกเขาจะอยู่แนวหลังและคุมสนามได้ดีกว่าใครจากระยะไกล พร้อมทั้งเป็นมันสมองในกองรบที่ดีมากกว่าการฝึกแบบอื่นด้วย
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ได้นั่งฟังแล้ว โอเค เอาละ นับความผิดของแกไว้ซะ
ชอบมากเลยครับ ทำอีกเยอะๆนะครับ
ละเอียดดีมาก ติดตามครับ
ยินดีครับ
Vengeance นี่มันซับคลาสที่ผมว่าเก่งที่สุดในสายพาลาดินเลยครับ (อาจจะเพราะสไตล์ผมชอบเล่นแนวเบิร์สดาเมจด้วยแหละ และ D&D 5e เน้นการปิดเกมไวมากกว่ายืนแทงค์อย่างเดียว)
Devotion นอกจากต้องรักษามาตรฐานสูงแล้ว ความสามารถเสกดาบ +5 to hit จริง ๆ ดีมากแต่กลับต้องใช้ action เสียเทิร์น แต่ Vengeance ใช้แค่ bonus action กด Vow ใส่บอส ก็ฟัน Advantage ทุกดอกต่อได้ทันทีเหมือนบาร์บาเรี่ยนแล้ว Oath Spells ของ Vengeance แต่ละอันนี่สุดมาก ทั้ง Misty Step ทั้ง Hold Person แล้วยังมี Haste อีก คือกะเอาตายให้ได้จริง ๆ ทั้งที่หลักการปฏิบัติไม่เคร่งยุ่งยากเท่าแท้ ๆ แถมใน BG3 ยังโกงขึ้นไปอีก
แต่ก็เข้าใจว่าโฟกัสหน้าที่มันไปคนละทางกัน เพราะการมี Devotion กับ Ancient ในกลุ่มก็อุ่นใจด้วยออร่าของพวกเขา แต่ Vengeance มันเกิดมาเพื่อล่าบอสโดยเฉพาะ
ถ้าเลือกได้ อยากจะให้ Larian นำ Oath of Conquest มาใส่ด้วยจะได้ลึกกว่านี้ครับ เพราะนั่นเป็น Class ที่ทำให้ Paladin เป็น Warlock + Assassin + War Priest ในตัวสุด ๆ
ที่เล่นมาแล้วในกระดาน DnD ถือว่าถูกใจผมเป็นอันดับ 2 รองจาก Vengeance เลย
- Guide Strike ยังไงก็ไม่พลาดตีโดนแน่ ๆ
- Hold Person
- Cloud Kill
- Invincible Conqueror ขอแค่อันนี้มาใส่ใน BG3 แล้วใส่ Item ช่วยลด Roll Nat 20 ทั้งหมด ที่คำนวนคร่าว ๆ คือ Roll แค่ 12 15 ก็ถือว่า Crit บ่อยแล้วครับ ไม่ไปกระทบกับชุด Set Paladin ใหญ่ ๆ ที่ต้องใส่มากเท่าไหร่
คลิปดีมากครับ เพลินๆเลย
ขอบคุณครับผม
ชอบมากครับ ทำคอนเท้นเกียวกับ BG3 เยอะๆ นะครับ ขอบคุณครับ
❤ขอบคุณฮะ
พี่ฮะ Thunder คือสายฟ้าฟาดไม่ใช่อ่อ ทำไมมันไม่เป็นดาเมจที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้าอะครับ?
เอาจริงปะ ตั้งแต่เล่น DnD ครั้งแรกกูก็งงเหมือนกันว่าทำไมใช้แบบนี้ แต่มันเป็นงั้นจริง ๆ
Thunder Damage มีคำนิยามใน Rulebook 5E ว่า
" เป็นการทำดาเมจที่เกิดจากการ [ กระทบกันอย่างแรงมาก ] - [ กระแทกจนเกิดคลื่นเสียง หรือ คลื่นพลังกระจายตัวออกจากแหล่งกำเนิดอย่างรุนแรง ]
จนทำให้ให้เกิดเสียงตามมาคล้ายกับสายฟ้าฟาด " ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพวกไฟฟ้า หรือ Lightning แต่อย่างใด
Thunder Damage จะไม่ทำให้ใครต้องติดสถานะ Shocked ( ช็อกชะงัก ) หรือ Electruced ( ไฟฟ้าดูด ) --------> แต่จะเป็นการพลักให้ศัตรูกระเด็นออกไปอย่างไกลเลยทีเดียว
อย่าง Thunderous Smite จะมีคำนิยามในหนังสือ 5E ว่า
" เป็นการลงพลังขั้นสุดยอด ฟาดศัตรูจนเกิด [ เสียงที่ดังสนั่นลั่นทุ่งไปไกลจนใคร ๆ ก็ได้ยินทั้งสนามรบ ] และเมื่อเกิดคลื่นเสียงแบบนี้ จึงทำให้ศัตรูที่โดนจะกระเด็นออกไป "
ดังนั้นไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับสายฟ้าอะไรเลยจ้า
ปล. พึ่งในคลิปว่าตัวเองเขียน Savage Attacker เป็น Save Attacker
เสริมให้ครับว่า ใน D&D จัด Thunder กับ Lightning เป็นความเสียหายคนละประเภทกัน
Lightning ง่าย ๆ คือโดนฟ้าผ่า ไฟฟ้าช็อต
Thunder คือ การสั่นสะเทือนจนหินจะถล่ม เสียงที่ดังจนแก้วหูแทบแตก (เวทมนตร์สาย Thunder ส่วนมากจะมาคู่กับเสียงที่ดังไปไกลมาก เวลาเล่นแคมเปญจริง ๆ ต้องระวังเรื่องอย่าง ก็อบลินทั้งรังรู้ว่าเราลอบเข้ามาและกรูเข้ามารุมด้วย)
@@Konjapost ผมมีคลิปอธิบาย + Live แยกให้แล้วครับสำหรับ Thunder เพราะเรื่องนี้มันคนละส่วนอยู่แล้วเป็นทุนเดิม
ไม่ว่ายังไง Thunder ก็ไม่มีทาง Stealth ได้ เว้นซะว่าร่ายอยู่ในโดม Silence ( แต่เวทย์ต้องเป็นพวก Sometic ร่ายมือ ร่ายจากไอเทม ไม่ร่ายจากปากออกเสียง ) แต่ยังไงก็ไร้ผลอยู่ดี Silence ซับทั้งเสียง + Damage ออกหมดนั่นแหละครับ
คุณมีพาราดินของคุณ ผมมีพาราเซตามอลของผมก็พอแล้ว
ehh
อธิบายโคตรดี
มือใหม่ได้แต่นั่งมองตาปริบ ๆ ขอบคุณคุณปอนด์ที่มาอธิบายให้เข้าใจง่ายขึ้นค่ะ
อยากให้ช่วยพูดเรื่องว่าตอนไหนควร react ได้ไหมคะ ทางนี้เล่นแบบงูๆปลาๆมาจน act 3 แล้วค่ะ แต่ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจว่าเราควรกดตอนไหนดี
Reaction นี้คงต้อง Guide ให้ผมว่าอยากจะทราบของอาชีพไหนก่อนได้ไหมครับ เดี๋ยวจะนำไปเน้นให้ถูกจุดตอนทำคลิปเลย
แต่ละอาชีพ + ไอเทมที่ใช้มีจังหวะ Reaction เยอะเหมือนกัน ถ้าได้สโคปอาชีพมาหน่อยเดี๋ยวผมลงลึกให้ครับ
สอนDevotion หน่อยครับ ตอนนี้เล่นในกระดานถึงเวล3แล้ว อยากเข้าใจแนวการเล่น และการโรลเพลย์ครับ
ลำดับต่อไปของ Guide ก็คือ Devotion นี่แหละครับ คิดว่าคงจะเป็นอาทิตย์หน้าถึงจะเสร็จและได้ดูกัน
@@PlanetTripleP ขอบคุณมากๆนะครับ
อยากได้ เนื้อหาของ Warlock ครับ ผมชอบสาย Elditch Blast มาก (ยังไ่มจบ ACT1 เลย) ไม่รู้จะเล่นไปทางไหนดี อยากรู้ว่ามีสายไหนบ้าง (ตอบอย่างเดียวไม่ต้องทำคลิปก็ได้ครับแต่ถามได้คลิปจะดีัมาก)
คิว Warlock อีกนานครับ ณ ตอนนี้เรียงคิวแล้วซึ่ง Warlock จะค่อนข้างท้าย ๆ เลยใน 12 อาชีพ
@@PlanetTripleP มรป จะรอครับ
สอบถามหน่อยนะครับนอกจาก Haste ที่ทําให้ตีได้ 3 ที (รึป่าว) อีก 2 ตีครั้งที่ 4 มาจากไหนหรอครับหรือผมพลาดอะไรตรงไหนในคลิปไปรึป่าว
ป.ล เล่นเเต่ในกระดานไม่รู้อะไรมากจากไหนเลยรบกวนผู้รู้หน่อยครับ
BG3 มีกฏ Homebrew ที่ต่างจาก 5E พอสมควรครับ แต่ถ้าอยากจะตีเยอะ ๆ ก็ตามนี้
1. Normal Attack
2. Extra Attack ( Level 5 )
3. Haste ( ในกระดานควรจะได้แค่ทีเดียว ไม่มีครั้งที่ 4 )
4. ** Extra Attack ครั้งที่ 2 จาก Haste ** ( นี่แหละครั้งที่ 4 ครับ BG เขาทำมาเพิ่ม )
5. ดื่มยา Bloodlust ทำให้ได้ Action เพิ่มอีก 1 ครั้ง จึงกลายเป็นตีครั้งที่ 5
6. Extra Attack จาก Bloodlust อีกรอบ
7. Bous Action ด้วยการใช้ Feat Great Weapon Master
เบ็ดเสร็จร่วม 7 ทีครับ
สำหรับ Fighter อาจจะกลายเป็น 9 ครั้งได้เลยครับ เพราะมี Action Surge
@@PlanetTripleP ขอบคุณครับ
ถ้าผมไม่อัพ str แต่ไปกินยาเพิ่ม str แทนจะได้เปล่าครับหรือว่าอัพ str ไปเลยดีกว่า
ถ้าเรามั่นใจว่ายาเราเหลือในทุก Fight ก็ใช้ครับ
แต่ตัวละครหวังพึ่งยา Hil Giant อย่างเดียวจะลำบากหน่อย เพราะยาอย่างอื่นจะตอบโจทย์ได้มากกว่า
ไม่คิดจะอัพ STR แต่ไปลง DEX อย่างเดียวก็ได้
แต่ต้องใช้พวกอาวุธ Finese แทน เพราะจะได้เอาค่า Damage จาก DEX
*** สปอย ***
- มีถุงมือ Hill Gaint อยู่แล้วที่ทำให้ STR เด้งถึง 23 ทันทีใน ACT3
@@PlanetTripleP ขอบคุณครับ
Ac 24 โหดมาก ศัตรูได้สัมผัสตัวบ้างไหม😂
AC ปกติผมจะอยู่ที่ 26 - 29 ครับ
26 27 สำหรับตอนกด Mirror Image
29 ตอนกด Shield
ตัวที่ตีแบบ Melee ยังไงก็ตีไม่เข้าครับ เว้นซะว่าทอยติด Nat 20
แต่ถ้าเป็นเวทย์ผมจะแพ้บ่อยสุดคือพวก Dex Save
เวทย์จะโดนผมบ่อยสุด
หันมาที่โต๊ะ DnD ที่ผมรันส่วนใหญ่
Pc : Paladin เล่นยังไงครับ
Me : Smite ครับ!!!
คิดไรไม่ออกก็บอก Smite ไปนั่นแหละ หากินได้ทุกจังหวะ
ขอ oathbreaker หน่อยครับ
ยังไม่ถึงคิวครับ อีกสักพัก
ขอหนอนสมองหน่อยค่ะ ❤
Tadpole อยู่ในกระบวนการเขียนสคริปแล้วครับ + เก็บข้อมูลทดลองนิดหน่อย ภายในอาทิตย์หน้าก็น่าจะพร้อมแล้ว ( ถ้าผมตัดเสร็จ )
พลังทั้ง 25 แบบของปรสิตพร้อมรับชมตาม Request แล้วนะครับ :th-cam.com/video/TEmr6ro_Cfs/w-d-xo.htmlsi=BcjFReKRy-rn38gn