ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
สาธุอัญเชิญพุทธวจน(1)"ไม่พึงฆ่าสัตว์เอง ไม่พึงใช้ผู้อื่นให้ฆ่า และไม่พึงอนุญาตให้ผู้อื่นฆ่า"(2)"ไม่พึงลักเอง ไม่พึงใช้ให้ผู้อื่นลัก ไม่พึงอนุญาตให้ผู้อื่นลัก"(3)"ชักชวนผู้อื่นเพื่องดเว้นจากปาณาติบาต"(4)"มังสวณิชชา" พึงเว้นจากการค้าขายเนื้อสัตว์.ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามพุทธวจน"เป็นเหตุ"กินมังสวิรัติ"เป็นผล"🙏พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาตธรรมิกสูตรที่ ๑๔.[๓๓๓]จริงอยู่สาวกไม่พึงได้เพื่อจะถูกต้องธรรมของภิกษุ ล้วนด้วยอาการที่มีความหวงแหน สาวกวางอาชญาในสัตว์ทุกหมู่เหล่า ทั้งผู้ที่มั่นคงทั้งผู้ที่ยังสะดุ้งในโลกแล้ว ไม่พึงฆ่าสัตว์เอง ไม่พึงใช้ผู้อื่นให้ฆ่า และไม่พึงอนุญาตให้ผู้อื่นฆ่า.แต่นั้น สาวกรู้อยู่ พึงเว้นสิ่งที่เขาไม่ให้อะไรๆ ในที่ไหนๆ ไม่พึงใช้ให้ผู้อื่นลัก ไม่พึงอนุญาตให้ผู้อื่นลัก 🙏พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๙ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๑สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค.เวฬุทวารสูตรว่าด้วยธรรมปริยายอันควรน้อมเข้ามาในตน"ตนเองย่อมงดเว้นจากปาณาติบาตด้วย ชักชวนผู้อื่นเพื่องดเว้นจากปาณาติบาตด้วย กล่าวสรรเสริญคุณแห่งการงดเว้นปาณาติบาตด้วย กายสมาจารของอริยสาวกนั้น ย่อมบริสุทธิ์โดยส่วนสามอย่างนี้."🙏สำหรับฆารวาสที่ซื้อหาอาหารกินเอง(ภิกษุขอทานเลี้ยงชีพ ซื้อสิ่งของอาหารเองไม่ได้ตามธรรมวินัย แต่ก่อนรับเนื้อสัตว์มาฉันก็ต้องพิจารณาพระธรรมวินัยข้อ"เนื้อบริสุทธิ์ 3" ก่อนฉันเนื้อ).การ "ซื้อเนื้อสัตว์" มากิน ในศีลข้อหนึ่ง พระพุทธเจ้าได้ทรงบัญญัติไว้ว่า การฆ่าสัตว์นั้น มีทั้งการลงมือฆ่าเอง และรวมถึง อาณตฺติกปโยค คือ"การใช้ให้ผู้อื่นฆ่าให้เรา" ด้วยซึ่งรวมถึง การซื้อเนื้อสัตว์มากิน คือการใช้บริการผู้อื่นเข่นฆ่าแล่เนื้อสัตว์แทนเรา เราจึงไม่ต้องลงมือเข่นฆ่าเอง แม้ไม่ทำให้ศีลข้อหนึ่งขาดทะลุแต่ก็ทำให้ด่างพล้อยเศร้าหมอง (ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค พรหมชาลสูตร) (ธัมมิกสูตร) ."การซื้อเนื้อสัตว์กิน"นั้นก็ยังเป็นการอนุญาตให้เขาฆ่า และยังเป็นการชักชวน(ด้วยลาภสมบัติเงินของเรา) ให้ผู้อื่นทำปาณาติบาตด้วย ซึ่งขัดแย้งกับพุทธวจนที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอน.การ "ซื้อกินเนื้อสัตว์" ในศีลข้อสอง พระพุทธเจ้าก็ทรงบัญญัติเรื่อง (อนุโลมโจรกัมม์) ไว้ด้วย ซึ่งหนึ่งใน อนุโลมโจรกัมม์ ก็คือการเว้นจากการสมคบโจร การรับซื้อของโจร การซื้อกินเนื้อสัตว์นั้น เป็นการซื้อของโจร โจรที่เข่นฆ่าตีชิงเอาเลือดเนื้อร่างกายสัตว์เจ้าของ ที่เขาไม่ยินยอมให้ มาเป็นของตน ก่อนเอามาขาย."การซื้อเนื้อสัตว์กิน"นั้นก็ยังเป็นการอนุญาตให้เขาลัก และยังเป็นการชักชวน(ด้วยลาภสมบัติเงินของเรา) ให้ผู้อื่นลักเอาเลือดเนื้อร่างกายสัตว์ด้วย ซึ่งขัดแย้งกับพุทธวจนที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอน🙏การ "ซื้อกินเนื้อสัตว์" เมื่อขัดแย้งกับศีลข้อหนึ่งและศีลข้อสอง จึงขัดแย้งกับอริยมรรคข้อสัมมากัมมันตะ.ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามพุทธวจน"เป็นเหตุ"กินมังสวิรัติ"เป็นผล" เมื่อฆารวาสตั้งใจปฏิบัติตามพุทธวจน ไม่ย่อหย่อน ก็จะถวายอาหารมังสวิรัติแก่ภิกษุโดยอัตโนมัติ🙏เชิญฟังธรรมะของพระพุทธเจ้า ที่ชาวพุทธที่นิยมกินเนื้อสัตว์ พากันมองข้ามและไม่พูดถึงกัน ที่ยูทูปที่มีชื่อวีดีโอว่า "660815 13 รวมสูตรการไม่กินเนื้อสัตว์กับพุทธ"
รวบรวมมาได้ดีมาก.... โมทนาสาธุ
สงสารสัตว์ครับต้องถูกฆ่าตายต้องถูกทรมาน ต้องถูกเบียดเบียนทั้งชีวิตตั้งแต่เกิดมาจนถึงต้องถูกฆ่าตายในตอนสุดท้าย อีกด้วย .... โลกเรามนุษย์มีความสามารถสูง มากๆรู้กันอยู่ มีทางออกมากมายครับ เกี่ยวกับอาหาร ไม่ทานเนื้อสัตว์ ก็อยู่ได้ดีมากๆ ทุกๆท่าน หาข้อมูลใน TH-cam สิ มีชีวิตที่ดีกว่าหลายเท่าด้วย ..... ถ้ามัวแต่ ยึดติด กับการกินเนื้อสัตว์ ก็จะไม่รู้ว่ามีอาหารอื่นที่ดีกว่าหลายเท่า เรื่องสุขภาพที่ดีและอายุขัยที่ยืนยาวหลายเท่าก็จะเข้าใจได้โดยไม่ยาก.
เข้ามาฟังครั้งแรก ศรัทรามากๆค่ะ จะหาโอกาส ไปกราบพระอาจารย์นะค่ะ
พระเป็นผู้อยู่ง่ายจะเนื้อสัตว์หรือผักหญ้าอยู่ที่ตอนฉันจิตเราปรุงแต่งแค่ไหนพระอริยทั้งหลายท่านบรรลธรรมไม่ใช่เรื่องการขบฉัน
อยากให้คุณมาดูข้อมูล ดูคลิปนี้กันเยอะๆนะคะตัวเองปฏิบัติธรรมสายกรรมฐานมา 18 ปีแล้ว ก็กินมังสวิรัติไม่ได้กินเนื้อสัตว์ก็ไม่ค่อยเจ็บป่วยและมีภูมิต้านทานเยอะกว่าคนกินเนื้อสัตว์ค่ะ ❤❤❤
ข😊😊
เข้าใจว่า ท่านสอนให้ไม่กินเนื้อสัตว์ในมุมมองของท่านเอง ไม่ได้ให้พระสงฆ์งดเว้นเนื้อสัตว์ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็เป็นการไม่เชื่อคำสอนของพระพุทธเจ้า ลุกลามไปถึงการทำให้สงฆ์แตกแยก ซึ่งเป็นอนันตริยกรรม แต่อาจารย์เสถียรสอนให้มีความเมตตากรุณาต่อเหล่าสัตว์ อยู่ที่ผู้ฟังต้องใช้โยนิโสมนสิการให้ดี อาจารย์เสถียรก็กล่าวไว้ถูกนะ แล้วแต่ว่าเราจะพิจารณาอย่างไร ใช้สามัญสำนึกของปุถุชน ที่สามารถเลือกทานอาหารได้ แต่พระสงฆ์ไม่สามารถเลือกอาหารเองได้ ต้องทานตามที่โยมใส่บาตรมาให้ จึงเลือกไม่ได้ ต้องเป็นผู้ที่เลี้ยงง่าย พระพุทธเจ้ากำหนดไว้นั้นถูกต้องแล้ว ครับ...
ใส่บาตรเลือกไม่ได้แต่บอกคนได้ว่าอย่าเอาเนื้อสัตว์มาใส่บาตรแค่นี้ก็ กระทำ ได้ บอกสอนได้ ชื่อว่าสงฆ์เป็นผู้สอนธรรมแก่คน ได้บุญ ได้กุศลโดยทั่วกัน เป็นสิ่งสมควร กว่า ครับ
@@user-kf8dh7yn7nพระจะไปบอกโยมให้ทำแบบนั้นแบบนี้ไม่สมควรนะคะ เท่ากับเลือกอาหาร พระพุทธเจ้าได้กล่าวไว้แล้วให้พระสงฆ์กินง่าย อยู่ง่าย ไม่งั้นผู้คนจะอยู่ห่างไกลจากการทำบุญ
อาหารเป็นอะไรก็ได้ สำคัญอยู่ที่ ความกำหนัดยินดีในอาหารนั้น
น้อมรับปฏิบัติ สาธุธรรมขอรับ
สาธุ อนุโมทามิจำเสียงท่านได้อยู่ค่ะ
กราบสาธุ.อนุโมทนาบุญด้วยเจ้าค่ะ
อนุโมทนาบุญสาธุๆๆค่ะ
กราบอนุโมทนาบุญเจ้าค่ะ
อนุโมทนาบุญสาธุค่ะ
เอาเรื่องพระไตรปิฏกมาสอนหน่อยคับ
กราบนมัสการพระอาจารย์ ครับ
ยิ่งมาได้ฟังท่านยิ่งเข้าใจและยิ่งไม่กินเนื้อเข้าไปอีก เชื่อที่ท่านพูดบอกทุกอย่างเลยเจ้าคะ🙏🙏🙏
👍
กราบสาธุเจ้าค่ะ
สาธุค่ะ
น้อมกราบ...หลวงพ่อ...สาธุๆๆๆครับ
อนุโมทนาสาธุ
อนุโมธนาสาธุ ครับ
กราบสาธะค่ะ
กราบนมัสการ สาธุครับ
สาธุครับ
สาธุขะขอไห้คนที่ได้ฟังท่านพูดดวงตาคนธรรมด้วยเถอะเจ้าขะ
ขอบคุณพระอาจารย์มากครับให้ความรู้ผมจะนำไปปฏิบัติและติดตามต่อไปครับ
สาธุ สาธุ สาธุ ....
อยากเห็นการอธิบายธรรมที่อยู่ในพระไตรปิฎก.แบบที่พระพุทธเจ้าสอน.มากกว่าการอธิบายแบบโลกๆค่ะ.กลายเป็นอธิบายทางหมอไป จริงๆท่านน่าจะชำนาญทางธรรมมากกว่า อยากฟังธรรมแบบมีที่มาที่ไปค่ะ ขออนุญาต ชี้แจงค่ะ
บาปนะครับ อย่าหมิ่นประมาทคำเทศของพระนะคับ ท่านเทศมีเหตุผลมากๆ ผมฟังแล้วเรียงลำดับอยู่ มีเหตุผลทุกอย่าง คุณเป็นผู้หญิง คุณไม่อาจบวชพระได้ คุณลองไปบาชชีดูนะครับ
@@hfghhjjk9446 ในพระบัญญัติ.ไม่มีบวชชีคะ.แล้วเรียนธรรมะ.ไม่ต้องบวชก็บรรลุธรรม.เช่น.นางวิสาขา.เป็นแม่บ้าน.เป็นพระโสดาบัน.ท่านอนาถบิณทิกะเศรษฐีเป็นพระโสดาบัน.ท่านจิตตคฤหบดีเป็นพระอนาคามี.ส่วนการบริโภคเนื้อสัตว์.ท่านพระเทวทัตเป็นผู้มาขอ.แต่พระองค์ไม่ประทานอนุญาต.แต่พระองค์ทรงห้ามสัตว์มีชีวิตด้วยการเห็น.การรู้.การได้ยิน.เพื่อการเบียดเบียนชีวิตสัตว์.แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงเกิดเป็นสัตว์ต่างๆ.มีโค.มีนกยุง.แม้แต่กิมิชาติคือสัตว์เล็กๆเป็นต้น.เมื่อมีการบริโภค.ก็เป็นบุญทั้งผู้เป็นสัตว์ได้เอาเนื้อของตนเป็นบุญแก่ผู้บริโภคเพื่อให้กายอยู่ได้.สิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสสอน.คือสิ่งที่มีอยู่จริงๆและเป็นอนัตตา.เกิดเพราะเหตุปัจจัย.ดับเพราะเหตุปัจจัย.และพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็มิได้ตรัสห้าม.ผู้มีอาชีพเป็นพรานเป็นต้น.สาเหตุที่ต้องเกิดเป็นพราน.เพราะเหตุและปัจจัย.เป็นต้น.ธรรมะ.เปิดเผยจึงรุ่งเรือง.😊
การเกิดเป็นชายหญิงเกิดจากเหตุปัจจัย.การเกิดแล้วได้เรียนพระธรรมที่ถูกต้องอันพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ดีแล้ว.ย่อมเป็นบุญอย่างยิ่ง.หากเป็นภิกษุในพระศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต้องตรงต่อพระธรรมพระวินัย.ย่อมได้บุญมาก.ผู้ฟังธรรมย่อมได้บุญมาก.หากไม่ตรงต่อพระธรรมพระวินัย.ย่อมบาปอย่างยิ่ง.ผู้ฟังก็ย่อมได้บาปและไม่เป็นประโยชน์สะสมความไม่รู้ต่อไป.
เนื่องจากจิตของคน ละเอียดและหยาบแตกต่างกันไป ท่านจึงใช้ศัพท์ทางวิทยาศาสตร์ ร่วมด้วย เพราะท่านเป็นผู้มีจิตใจดีงามอยากช่วยเหลือชีวิตสัตว์และชีวิตของคนให้พ้นจากบาปและทุกข์ยาก
ท่านสอนดีแล้วท่านมีจิตใจดีงามมีปัญญาสูงเลิศ มีจิตใจดีงามละเอียดอ่อน มีความเอื้อเฟื้อ ต่อสรรพชีวิต หมายถึงทุกๆชีวิต .....ประโยคทำหรือบรรทัดทำใดๆที่คุณได้อ่านมาแล้วมันทำให้เกิดความ เสื่อมลงต่ำถอย ด้านจริยธรรมหรือความดีงาม นั่นแปลว่าเป็นประโยคทำปลอมปลอม อย่าหลงติดกับตำราปลอม หรือตำราที่จริงแต่แทรกด้วยประโยคปลอมๆ
ถ้าฟังแบบมีคุณธรรมจะไม่อยากกินเค้าเลยเราไม่กินเนื้อสัตว์
🙏🙏🙏 กราบพระอาจารย์ ผมอยากทราบว่า นายกของไทยเป็นมังสวิรัติ หรือไม่ครับ
อยากได้เพลงคนรับ
กราบพระอาจารย์ครับเรียนถามว่าในพุทธะประวัติตอนพระเทวทัตทูนเสนอพระพุทธองค์ว่าในพระภิษขุไม่ให้ฉันเนื้อสัตว์ให้ฉันแต่ผักหรือเจในสมัยนี้อย่างเดียวครับและเรื่องไม่ควรฉันเนื้อ10อย่าง#พระอาจารย์ช่วยขยายความให้กระจ่างทีครับ ตอนนี้ผมโดนเพื่อนว่าผมเป็นพวกพระเทวทัตแล้วครับเพราะผมเลิกกินเนื้อสัตว์แล้วครับผมสงสารพวกเขาครับเลิกระยะหนึ่งแล้วครับ ต้องขอกราบขอบพระคุณพระอาจารย์ที่เมตตากับกระผมมานะโอกาสนี้ครับ
๑. ภิกษุทั้งหลายควรอยู่ป่าตลอดชีวิต ภิกษุรูปใดเข้าบ้าน ภิกษุรูปนั้นมีโทษ๒. ภิกษุทั้งหลายควรเที่ยวบิณฑบาตตลอดชีวิต ภิกษุรูปใดยินดีกิจนิมนต์ภิกษุรูปนั้นมีโทษ๓. ภิกษุทั้งหลายควรถือผ้าบังสุกุลตลอดชีวิต ภิกษุรูปใดยินดีผ้าคหบดี ภิกษุรูปนั้นมีโทษ๔. ภิกษุทั้งหลายควรอยู่โคนไม้ตลอดชีวิต ภิกษุรูปใดอาศัยที่มุงที่บัง ภิกษุรูปนั้นมีโทษ๕. ภิกษุทั้งหลายไม่ควรฉันปลาและเนื้อตลอดชีวิต ภิกษุรูปใดฉันปลาและเนื้อภิกษุรูปนั้นมีโทษไปตามลิงค์นี้ก็เจอ อ่านอย่างพิเคราะห์ 84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=01&siri=53ทุกวันนี้ พระก็ยังไปกิจนิมนต์ เข้าบ้าน บางช่วงบางคราว ไม่มีใครว่า เป็นศิษย์เทวทัตทุกวันนี้ พระที่ตระหนัก นิสัย ๔ ของนักบวช ท่านก็บิณฑบาตเป็นปกติ ตลอดชีวิต ไม่มีใครว่า เป็นศิษย์เทวทัตทุกวันนี้ พระที่มักน้อย เน้นเคร่งครัด ท่านก็ยังใช้ผ้าเก่า ผ้าบังสกุลกันอยู่ ไม่มีใครว่า เป็นศิษย์เทวทัตทุกวันนี้ แม้พระธุดงค์จะเหลือน้อยแล้ว แต่ยังคงมีอยู่ ซึ่งท่านก็อยู่โคนไม้ ไม่มีใครว่า เป็นศิษย์เทวทัตแต่....พระที่เข้าใจเรื่องจุลศีล ข้อ ๑ พระที่เห็นว่า บุญจากการให้ของโยม ไม่ควรถูกหักราน ด้วยการเบียดเบียน ท่านก็ไม่ฉันเนื้อสัตว์ ... ทำไมคนว่า เป็นศิษย์เทวทัต... พิจารณาดีๆ เห็นอะไรมั้ย โดยจริงเรื่องนี้อย่าไปเสียเวลาถก เถียง ใดๆกับใครเลย... คนอยากกิน เขาก็หาเหตุผลจะกิน ขณะเดียวกัน ไม่อยากได้ชื่อว่า ผิด ฉะนั้นก็ต้องหาเหตุผลให้การกินเนื้อสัตว์เป็นเรื่อง ถูกต้อง เรื่องไม่กินเนื้อสัตว์ หากชัดเจนแล้ว แม้ใครให้ฟรีๆ ก็ไม่กิน เพราะฟรีวันนี้ ย่อมมีวิบากหนี้วันหน้า... ค้นคว้าต่อได้จากพระสูตรที่ว่าด้วยสังสารวัฏ กรณีเนื้อ ๑๐ อย่าง ขอไว้นำมากล่าวรวมๆ ผ่านการเทศน์ก็แล้วกัน... โมทนา
พระเทวทัตไม่ได้ไปขอให้พระพุทธเจ้าบอกสาวกให้เลิกกินเนื้อสัตว์และให้เป็นมังสวิรัติ เพราะทั้งพระพุทธเจ้า เทวทัต และสาวกทั้งหลายต่างก็เป็นมังสวิรัติอยู่แล้ว แต่ไปเสนอให้พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้ในพระธรรมวินัย ซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสว่าไม่จำเป็น เพราะปิดประตูการกินเนื้อสัตว์ไว้หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นศีลข้อ ๑ อาชีพต้องห้าม พระองค์ไม่เคยบังคับใคร มีแต่แนะนำให้ละเว้น เช่น เว้นจากการฆ่าสัตว์ ฯลฯ ไม่ได้บอกว่า ห้ามฆ่าสัตว์ เป็นต้น
ลอง search ช่อง เสน่ห์นางชี แล้วฟังเรื่อง พระเทวทัต ในมุมมองคนศึกษาพุทธศาสนาแบบตะวันตกเขามองยังไง สิ่งที่คุณรับรู้มาอาจจะไม่เป็นอย่างนั้น คนเล่าเป็นอดีตนักศึกษา ป.เอก ในเยอรมัน และในคลิปยังเล่าเรื่องคนอื่นในพุทธศาสนาด้วยค่ะ ใช้หลักเหตุผล ไม่มโน ถือว่าเปิดโลกนึงทีเดียว
@@putthiroekpola7197 พระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ทรงห้ามการฉันปลาและเนื้อ ทั้งพระองค์และภิกษุก็ฉันปลาและเนื้อที่เป็นกัปปิยะ คือไม่ผิดวินัยบัญญัติ เป็นของสมควรบริโภค อันได้แก่ปลาและเนื้อที่บริสุทธิ์โดยส่วนสาม อันได้กล่าวมาแล้ว กับไม่ฉันเนื้อที่ต้องห้าม ๑๐ ชนิด เว้นจากนี้แล้วก็ฉันได้ ไม่มีข้อขัดข้องประการใด * อามคันธสูตร
พระผู้มีพระภาคตรัสห้ามว่า “อย่าเลยเทวทัต ภิกษุรูปใดปรารถนาก็จงอยู่ป่าเถิด ภิกษุรูปใดปรารถนาก็จงอยู่ในละแวกบ้านเถิด ภิกษุรูปใดปรารถนาก็จงเที่ยวบิณฑบาตเถิด ภิกษุรูปใดปรารถนาก็จงยินดีกิจนิมนต์เถิด ภิกษุรูปใดปรารถนาก็จงถือผ้าบังสุกุลเถิด ภิกษุรูปใดปรารถนาก็จงยินดีผ้าคหบดีเถิด เราอนุญาตถือเสนาสนะตามโคนไม้ ๘ เดือนเท่านั้น เราอนุญาตปลาและเนื้อที่บริสุทธิ์ด้วยอาการ๓ อย่าง คือ (๑) ไม่ได้เห็น (๒) ไม่ได้ยิน (๓) ไม่ได้นึกสงสัย”. // พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [๒. สังฆาทิเสสกัณฑ์] ๑๐. สังฆเภทสิกขาบท นิทานวัตถุ
ขอฟังเรื่องข้อไม่ดีของทุนนิยมขอรับ สาธุขอรับ
สาธุ
เอาคนพูดเสียงจริงๆดีใหม.นี้เสียงหลวงตาจันทร์.สันติอโศก
วัดพุทธํรรม. ตั้งอยู่ที่ไหนค่ะ. ขอทราบเบอร์โทรศัพท์. ด้วยความศรัทธาธรรมยิ่ง
0816120889
🙏🙏🙏
โยมละการฆ่าสัตว์ และ ทานมังสวิรัด มาสิบกว่าปีแล้วเจ้าค่ะ.แต่ยังทานไข่เพื่อบำรุงร่างกายเจ้าค่ะ
อยุ่ที่ไหนคะ
โลโก้ มุมจอด้านขวาบน บอกที่ตั้ง... สำนักพุทธธรรมไว้ชัดเจนแล้ว หากดูต่อผ่านทีวี จะเห็นชัด หากดูผ่านโทรศัพท์มือถือ อาจต้องเพ่งมองนิดหน่อย... ค้นหา ย่อมพบเจอ... โมทนา
นิมนต์ท่านพระอาจารย์นำคำสอนที่ พระเทวทัตมาทุลขอให้พระห้ามฉันเนื้อสัตว์ แต่พระพุทธองค์ไม่สรงอนุญาติ
ถ้าท่านเรียนแพทน่าจะได้เปนหมอใหญ่นะ
ท่านครับช่วยเทศน์การฆ่าสัตว์ทำบุญได้บาป5ประการให้ฟังด้วยครับ
จะอะไรมากมายเพื่อนเอ๋ย ศีลห้าครอบใว้หมด จะต้องเทศอะไรอีก
😢😢😢
.ความรู้นี้ท่านได้แต่ใดมาสาธุอนุโมทนาเจ้าค่ะ
หลวงพ่อคับผมฝึกกินเจถึงจะไม่100/แต่ผมยังเห็นหลวงพ่อดังๆยังบอกว่ากินได้ไม่ผิดและยังบอกว่าจะให้มากินเพื่อผมไม่เข้าใจ
พระดังที่ไม่ใช่พระดีมีอยู่... สึกไปแล้วก็มาก หากจะเอาพระดังมาเป็นเกณฑ์ การห่างไกลจากปาณาติบาต การห่างไกลจากการเบียดเบียน คงไม่เกิดขึ้น... โยมตั้งใจไม่กินเนื้อสัตว์นั้นดีแล้ว แต่ต้องทราบให้ละเอียดว่า เนื้อสัตว์กินได้ หากไม่ได้เบียดเบียนโดยตรง โดยอ้อม และแม้กินได้ หากผู้ใดมุ่งละวางการติดในรสเนื้อที่ตนยังติดอยู่ แม้เป็นเนื้อสัตว์ตายเอง ผู้นั้นก็จะลดงดเว้น เพื่อละกิเลส... โมทนา
บิดเบือนนะพระ
ว่ากัน เป็นเรื่องง่าย แต่อธิบายได้ ตามที่ว่า เป็นเรื่องต้องอาศัยปัญญา และเมตตาจริงๆ
พระท่านสอนดีมาก คนที่ไม่รู้จริง และยังเบียดเบียนสัตว์ จะเป็นบาปมากกว่า สงสารชีวิตสัตว์ อื่นบ้างเขากำลังจะมีทางรอด โลกนี้มีคนใจดีมากมาย ที่เขาสนับสนุนการช่วยเหลือสัตว์ อยู่ทุกมุมโลกนะ พระท่านสอนดี สอนถูกสอนละเอียด ท่านมีความดีงามเป็นที่ตั้ง เป็นที่พึ่งพาของคน ดี และของสัตว์ที่น่าสงสาร ในโลก แบบนี้ ศาสนา จึงมีความ มั่นคง สืบต่อไปได้🙏🙏🙏
เอาแค่เสียงพูดยังหลอกกันเลยใครฟัวก็รู้ว่าเสียงใคร
เสียงใครรึ ?
หลับหูหลับตาฟังจะได้แต่อคติครับ ฟังด้วยปัญญาสิ
ในพุทวจนพระองไม่ได้ห้ามนะท้่น ท่านไม่ได้บอกเดนสัตกินนะแปลไแทั่วนะ กพระองบอกว่าไม่รุ่หรือไม่เหนว่าเขาทำมาเพื่อเราไม่ผิดไปดุได้เลยในพุทธวจน ่ทานตรัสจากพระโอจเองเลย สาวกรุ่นหลังมาบอกผิดจากพระองมากต้องยกพระสุตรมาเลย ชัดดี ไม่ต้องไปตีความเอง เอาคำที่พระองบอกยกคำพุดออกมาเลย
ขอโอกาสค่ะ โยมมองในกรณีการเป็นผู้เลี้ยงง่าย หรือ พระพุทธองค์เผื่อไว้หากเกิดมีเหตุยุคที่หาอาหารยาก แล้วหากมีโยมนำมาถวาย เปิดช่องให้ภิกขุควรกินเพื่อให้ประทังชีวิตอยู่ได้แต่ถ้าเรารังเกียจ รู้สึกไม่ดี ก็ไม่ควรกิน ขออนุโมทนากับทุกท่านด้วยค่ะ ใครไคร่กินก็กิน ใครไม่ไคร่กินก็ไม่กิน พระศาสดาเปิดไว้กว้างๆมากกว่า
พุทธวจน กล่าวว่า ไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน ไม่รังเกียจว่าเขาฆ่าเพื่อเรา ฉันได้ กินได้
เมื่อมีผู้นำมาใส่บาตร หรือถวายพระ หากไม่ใช่เพื่อเรา แล้วเขานำมาเพื่อให้พระเลี้ยงแมว เลี้ยงหมา เลี้ยงเด็กวัดอย่างนั้นหรือ... ลองถามใจคนถวายอาหาร น่าจะมีคำตอบไม่ยาก เรื่องนี้โปรดพิจารณาให้ดีๆ
นำคำพระพุทธเจ้ามาตอบซิ ยกพระสูตรมาครับ
@@litelite5831 [๕๗] พ. ดูกรชีวก ชนใดกล่าวอย่างนี้ว่า ชนทั้งหลายย่อมฆ่าสัตว์เจาะจงพระสมณโคดมพระสมณโคดมทรงทราบข้อนั้นอยู่ ก็ยังเสวยเนื้อสัตว์ที่เขาทำเฉพาะตน อาศัยตนทำ ดังนี้ชนเหล่านั้นจะชื่อว่ากล่าวตรงกับที่เรากล่าวหามิได้ ชื่อว่ากล่าวตู่เราด้วยคำอันไม่เป็นจริง ดูกรชีวกเรากล่าวเนื้อว่า ไม่ควรเป็นของบริโภคด้วยเหตุ ๓ ประการ คือ เนื้อที่ตนเห็น เนื้อที่ตนได้ยินเนื้อที่ตนรังเกียจ ดูกรชีวก เรากล่าวเนื้อว่าเป็นของไม่ควรบริโภคด้วยเหตุ ๓ ประการ นี้แลดูกรชีวก เรากล่าวเนื้อว่า เป็นของควรบริโภคด้วยเหตุ ๓ ประการ คือ เนื้อที่ตนไม่ได้เห็นเนื้อที่ตนไม่ได้ยิน เนื้อที่ตนไม่ได้รังเกียจ ดูกรชีวก เรากล่าวเนื้อว่า เป็นของควรบริโภคด้วยเหตุ ๓ ประการนี้แล. จากชีวกสูตร [๖๐] ดูกรชีวก ผู้ใดฆ่าสัตว์เจาะจงตถาคต หรือสาวกตถาคต ผู้นั้นย่อมประสพบาปมิใช่บุญเป็นอันมาก ด้วยเหตุ ๕ ประการ คือ ผู้นั้นกล่าวอย่างนี้ว่า ท่านทั้งหลายจงไปนำสัตว์ชื่อโน้นมา ดังนี้ ชื่อว่าย่อมประสพบาปมิใช่บุญเป็นอันมาก ด้วยเหตุประการที่ ๑ นี้ สัตว์นั้นเมื่อถูกเขาผูกคอนำมา ได้เสวยทุกข์ โทมนัส ชื่อว่า ย่อมประสพบาปมิใช่บุญเป็นอันมาก ด้วยเหตุประการที่ ๒ นี้ ผู้นั้นพูดอย่างนี้ว่า ท่านทั้งหลายจงไปฆ่าสัตว์นี้ ชื่อว่าย่อมประสพบาปมิใช่บุญเป็นอันมาก ด้วยเหตุประการที่ ๓ นี้ สัตว์นั้นเมื่อเขากำลังฆ่าย่อมเสวยทุกข์ โทมนัส ชื่อว่าย่อมประสพบาปมิใช่บุญเป็นอันมาก ด้วยเหตุประการที่ ๔ นี้ ผู้นั้นย่อมยังตถาคตและสาวกตถาคต ให้ยินดีด้วยเนื้อเป็นอกัปปิยะ ชื่อว่าย่อมประสพบาปมิใช่บุญเป็นอันมาก ด้วยเหตุประการที่ ๕ นี้ ดูกรชีวก ผู้ใดฆ่าสัตว์เจาะจงตถาคตหรือสาวกของตถาคต ผู้นั้นย่อมประสพบาปมิใช่บุญเป็นอันมาก ด้วยเหตุ ๕ ประการนี้.( เนื้อที่ตนไม่เห็น หากไม่เห็น แล้วฉัน เป็นเรื่องควรอยู่ เพราะไม่ได้มีจิตเบียดเบียน ไม่ส่งเสริมการเบียดเบียนโดยปริยายใดๆ แต่หากเห็นว่าเป็นเนื้อสัตว์ แล้วรับมาฉัน คนก็นำมาถวายแล้วๆเล่าๆ การเบียดเบียนก็ดำเนินไปอยู่ (เว้นเพียงผู้ถวายบอกชัด ว่าเป็นเนื้อจากสัตว์ตายเอง ... หากไม่เห็น และไม่มีใครบอก ว่าเป็นเนื้อ หากฉัน ก็ควรอยู่ แต่ผู้ใส่ใจในการไม่เบียดเบียน ย่อมรู้จักถาม หากโยมก็ไม่รู้ว่า เป็นเนื้อสัตว์แท้ หรือเนื้อสัตว์เทียม จะฉันก็ไม่นับเป็นการส่งเสริม เพราะไม่มีเจตนาจะฉันเนื้อสัตว์ ส่วนคำว่า ไม่รังเกียจ ไม่ได้หมาย ถึงรังเกลียด แบบคำไทย เพราะหากนักบวชไม่รังเกลียดการกินเนื้อสัตว์ ท่านย่อมกินเนื้อสัตว์อยู่แล้ว เช่นนี้ พระพุทธองค์จะต้องบอกอีกทำไม แต่รังเกียจ นั้นหมายถึงสงสัย ข้องใจ ว่าเป็นเนื้อสัตว์หรือไม่ จะเป็นการสนับสนุนเบียดเบียนหรือเปล่า ซึ่งหากมีสะดุดใจเช่นนี้อยู่ การเว้นได้ย่อมดีกว่า )
@@Sathianpotiyhan84000 แค่นี้ท่านก็ผิดแล้ว
เขาก็ทำตามๆครูอาจารย์และสำนักเขาครับ..แต่ไม่ทำตามคำสอน.และเดินตามพระตถาคต.นำคำตนเองมากล่าวเนืองๆ.คำของพระตถาคตฟังแล้วมีน้อยนิด.
ถ้าไม่กินเนื้อจะไม่ขาดโปรตีนหรือครับ
ไม่ขาดหรอกขะดิฉันเจมาตั้งแต่ปี2555ทุกวันนี้ยังทําไร่ทํานาได้เหมือนเดิมอายุ55แล้วยังแข็งแรงอยู่เลยขะ
พระพุทธเจ้า อนุญาต ให้กินเนื้อสัตว์พระเทวทัต บอกห้ามกินเนื้อสัตว์ และ ให้อยู่ โคนไม้
ชีวกสูตร มีอยู่ เพียงอ่านอย่างพินิจ ต่อไปจะไม่กล่าวตู่พระพุทธเจ้า ไม่กล่าวตู่สงฆ์สาวก ....
พวกเราจะฟังใคร.จะเดินตามใคร.พระตถาคตหรือเหล่าสาวก.พระตถาคตก็ทรงบัญญัติไว้แล้ว..งดเว้นจากการฆ่าสัตว์..ไม่ได้ห้ามกินเนื้อสัตว์...ถึงเราจะไม่กินเนื้อสัตว์.สัตว์มันก็ต้องถูกฆ่าอยู่แล้ว..เราไม่สามารถไปห้ามไม่ให้คนทั้งโลกฆ่าสัตว์ได้..ไม่สามารถไปห้ามคนทั้งโลกไม่กินเนื้อสัตว์ได้...พระตถาคตทรงกล่าว..สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม..
หากจะเดินตามพระตถาคต... โปรดทราบว่า พระตถาคตสอนไว้ดังนี้... วณิชชสูตรว่าด้วยการซื้อขายที่อุบาสกไม่ควรประกอบ[๑๗๗] ภิกษุทั้งหลาย การซื้อขาย ๕ ประการนี้ อันอุบาสกไม่พึงกระทำ การซื้อขายศัสตรา ๑การซื้อขายสัตว์ ๑การซื้อขายเนื้อสัตว์ ๑การซื้อขายน้ำเมา ๑การซื้อขายยาพิษ ๑ภิกษุทั้งหลาย การซื้อขาย ๕ ประการนี้แล อันอุบาสกไม่พึงกระทำ.กรณีสัตว์ การซื้อเป็นการส่งเสริมเบียดเบียน การขายเป็นการเข้าไปถือในกรรมสิทธิ์ชีวิตสัตว์ วิบากไม่น่ายินดีเลย
“พระเทวทัต” เสนอความคิดตัวเอง ทูลขอ พระพุทธเจ้า1. ภิกษุทั้งหลายจักต้องอยู่ในป่าตลอดชีวิต จะอาศัยในเขตแดนบ้านไม่ได้ 2. ภิกษุทั้งหลายจักต้องเที่ยวบิณฑบาตตลอดชีวิตจะยินดีรับนิมนต์ไปฉันในเรือนไม่ได้ 3. ภิกษุทั้งหลายจักต้องนุ่งห่มแต่ผ้าบังสุกุลตลอดชีวิต จะรับผ้าจีวรจากผู้นำมาถวายไม่ได้ 4. ภิกษุทั้งหลายจักต้องอยู่โคนไม้ตลอดชีวิต จะเข้าอาศัยที่มุงบังไม่ได้ และ 5. ภิกษุทั้งหลายจักต้องไม่กินเนื้อกินปลาตลอดชีวิต ผู้ที่กินมีความผิดสุดท้าย “พระพุทธองค์” ก็ไม่ทรงอนุญาตสักข้อ ... จนพระเทวทัตพาภิกษุส่วนหนึ่งแยกออกไปจากกลุ่ม (อันนี้จริงไหมครับ)
พระสูตร หากอ่านอย่างครบ อย่างวิเคราะห์ จะเห็นนัยสำคัญๆ ที่ทุกวันนี้หลายที่ นำเสนออย่างฉาบฉวย... ในที่นี้มีหลายความเห็น น่าอ่าน น่าเชื่อถือ ลองอ่านแล้ววิเคราะห์ดู... โมทนา
@@Sathianpotiyhan84000 นั่นก็เป็นสิ่งหนึ่งครับ ทุกวันนี้ ต่างแต่ละครูบาก็บอกว่าตัวเองถูก คนอื่นผิด จนผมในที่อยู่ในสถานะ คนที่พยายามศึกษา ก็พาสับสน ว่าสิ่งที่เราศึกษาไปถูกทางรึไม่ รึยังไง
@@aoffer100 สุดโต่งด้านไดด้านหนึ่งไม่ดีถ้า อยู่ในสังคมที่ไม่กินผัก บอกว่าจะกินผักธรรม ก็ไปไม่ได้ เพราะสงจะกินผัก 5555
พุทธวจน เหมือนจะสอนอีกแบบเจ้าค่ะ
เอาง่ายๆนะคับ โลกนีมีการกินเนื้อมนุษย์ ทั้วโลก ผมของถามคุยว่า ผมขอซื้อขาคุณ พันล้าน คุนยังคิดแล้วคิดอีก (อันนี้ ผมต่อลองกับคุน )นะสมมุด ว่าคุณพูดไม่ได้ (ไม่มีการต่อลอง) กับคุน ผมมีลูกน้อง10คนไปจับขาคุณแล้วตัดขาคุน แล้วเอาไปให้คนอื่นกินเลย โดนไม่ได้ขอ หรือต่อลอง เพราะคุนพูดไม่ได้ คุณจะโกรดปะ เอาขาคุนไปแล้วไม่ได้ ขอ พิดศีล ลักขโมยไม้ พระพุทธเจ้า บอกว่า 1ห้ามฆ่าสัตว์ 2ห้าม ลักขโมย พระบางรูป ยังไม่รับเงิน ที่โจร มาขโมย เลย กฏหมายไทยเหมือนกันรับของซื้ิอของโจร ยังผิดเลย แล้วเราเอาตังที่เราหามา แล้วซื้อ สัตว์ กิน มันตรงตามธรรมที่พระพุทธเจ้า บอกในธรรมวินัยเลย ง่ายๆๆ (แต่ถ้าวัวตัวนั้น เดินมา แล้วขาบมีดมาแล้ว เดินตามเรามาทุกให้เราฆ่า และกินมัน หรือมันยอมตาย เพือให้เรากินมัน อันนั้น คือเนื้อบริสุทธิ์ ผมจะกินมัน ตรงตามธรรมพระพุทธเจ้า
ท่านไม่ควรพูดขัดพระพุทธเจ้า
คุณกำลังเข้าใจผิด เพราะว่าพระท่านสอนดีมากแล้ว ถูกต้องตามหลักจริยธรรมของคนด้วย
ฟังพระคุณเจ้าได้ความรู้และรู้สึกเกรงกลัวต่อบาปและเป็นจริงเป็นเหตุและผลดิฉันจะพยามลดละไม่กินเนื้อสัตย์ให้มากที่สุดเจ้าค่ะสาธุๆๆ
กราบนมัสการท่านอาจารย์ข้าพเจ้ากินเจมา4เดือนแล้วสุขภาพร่างกายแข็งแรงมาก
โมทนา... เมตตาเป็นมารดาของกุศลธรรมทั้งปวง
ตั้งแต่ปฎิบัติมาก็ไม่กินเนื้อสัตว์คิดว้าพระพุธเจ้าไม่ฉันเนื้อเพราะพระองศ์ตั้งศีลไว้แล้ว
พระพุทธเจ้า ให้ทานได้ ค่ะ
พระอาจารย์ครับผมอยากทำบุญกับอาจารย์ครับตอนนี้ผมร่างกายป่วยเหลือเกิน
สาธุ
อัญเชิญพุทธวจน
(1)"ไม่พึงฆ่าสัตว์เอง ไม่พึงใช้ผู้อื่นให้ฆ่า และไม่พึงอนุญาตให้ผู้อื่นฆ่า"
(2)"ไม่พึงลักเอง ไม่พึงใช้ให้ผู้อื่นลัก ไม่พึงอนุญาตให้ผู้อื่นลัก"
(3)"ชักชวนผู้อื่นเพื่องดเว้นจากปาณาติบาต"
(4)"มังสวณิชชา" พึงเว้นจากการค้าขายเนื้อสัตว์
.
ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามพุทธวจน"เป็นเหตุ"
กินมังสวิรัติ"เป็นผล"
🙏
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗
ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
ธรรมิกสูตรที่ ๑๔
.
[๓๓๓]
จริงอยู่สาวกไม่พึงได้เพื่อจะถูกต้องธรรมของภิกษุ ล้วนด้วยอาการที่มีความหวงแหน สาวกวางอาชญาในสัตว์ทุกหมู่เหล่า ทั้งผู้ที่มั่นคงทั้งผู้ที่ยังสะดุ้งในโลกแล้ว ไม่พึงฆ่าสัตว์เอง ไม่พึงใช้ผู้อื่นให้ฆ่า และไม่พึงอนุญาตให้ผู้อื่นฆ่า
.
แต่นั้น สาวกรู้อยู่ พึงเว้นสิ่งที่เขาไม่ให้อะไรๆ ในที่ไหนๆ ไม่พึงใช้ให้ผู้อื่นลัก ไม่พึงอนุญาตให้ผู้อื่นลัก
🙏
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๙ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๑
สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค
.
เวฬุทวารสูตร
ว่าด้วยธรรมปริยายอันควรน้อมเข้ามาในตน
"ตนเองย่อมงดเว้นจากปาณาติบาตด้วย ชักชวนผู้อื่นเพื่องดเว้นจากปาณาติบาตด้วย กล่าวสรรเสริญคุณแห่งการงดเว้นปาณาติบาตด้วย กายสมาจารของอริยสาวกนั้น ย่อมบริสุทธิ์โดยส่วนสามอย่างนี้."
🙏
สำหรับฆารวาสที่ซื้อหาอาหารกินเอง
(ภิกษุขอทานเลี้ยงชีพ ซื้อสิ่งของอาหารเองไม่ได้ตามธรรมวินัย แต่ก่อนรับเนื้อสัตว์มาฉันก็ต้องพิจารณาพระธรรมวินัยข้อ"เนื้อบริสุทธิ์ 3" ก่อนฉันเนื้อ)
.
การ "ซื้อเนื้อสัตว์" มากิน ในศีลข้อหนึ่ง พระพุทธเจ้าได้ทรงบัญญัติไว้ว่า การฆ่าสัตว์นั้น มีทั้งการลงมือฆ่าเอง และรวมถึง อาณตฺติกปโยค คือ"การใช้ให้ผู้อื่นฆ่าให้เรา" ด้วยซึ่งรวมถึง การซื้อเนื้อสัตว์มากิน คือการใช้บริการผู้อื่นเข่นฆ่าแล่เนื้อสัตว์แทนเรา เราจึงไม่ต้องลงมือเข่นฆ่าเอง แม้ไม่ทำให้ศีลข้อหนึ่งขาดทะลุแต่ก็ทำให้ด่างพล้อยเศร้าหมอง (ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค พรหมชาลสูตร) (ธัมมิกสูตร)
.
"การซื้อเนื้อสัตว์กิน"นั้นก็ยังเป็นการอนุญาตให้เขาฆ่า และยังเป็นการชักชวน(ด้วยลาภสมบัติเงินของเรา) ให้ผู้อื่นทำปาณาติบาตด้วย ซึ่งขัดแย้งกับพุทธวจนที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอน
.
การ "ซื้อกินเนื้อสัตว์" ในศีลข้อสอง พระพุทธเจ้าก็ทรงบัญญัติเรื่อง (อนุโลมโจรกัมม์) ไว้ด้วย ซึ่งหนึ่งใน อนุโลมโจรกัมม์ ก็คือการเว้นจากการสมคบโจร การรับซื้อของโจร การซื้อกินเนื้อสัตว์นั้น เป็นการซื้อของโจร โจรที่เข่นฆ่าตีชิงเอาเลือดเนื้อร่างกายสัตว์เจ้าของ ที่เขาไม่ยินยอมให้ มาเป็นของตน ก่อนเอามาขาย
.
"การซื้อเนื้อสัตว์กิน"นั้นก็ยังเป็นการอนุญาตให้เขาลัก และยังเป็นการชักชวน(ด้วยลาภสมบัติเงินของเรา) ให้ผู้อื่นลักเอาเลือดเนื้อร่างกายสัตว์ด้วย ซึ่งขัดแย้งกับพุทธวจนที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอน
🙏
การ "ซื้อกินเนื้อสัตว์" เมื่อขัดแย้งกับศีลข้อหนึ่งและศีลข้อสอง จึงขัดแย้งกับอริยมรรคข้อสัมมากัมมันตะ
.
ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามพุทธวจน"เป็นเหตุ"
กินมังสวิรัติ"เป็นผล"
เมื่อฆารวาสตั้งใจปฏิบัติตามพุทธวจน ไม่ย่อหย่อน ก็จะถวายอาหารมังสวิรัติแก่ภิกษุโดยอัตโนมัติ
🙏
เชิญฟังธรรมะของพระพุทธเจ้า ที่ชาวพุทธที่นิยมกินเนื้อสัตว์ พากันมองข้ามและไม่พูดถึงกัน ที่ยูทูปที่มีชื่อวีดีโอว่า "660815 13 รวมสูตรการไม่กินเนื้อสัตว์กับพุทธ"
รวบรวมมาได้ดีมาก.... โมทนาสาธุ
สงสารสัตว์ครับต้องถูกฆ่าตายต้องถูกทรมาน ต้องถูกเบียดเบียนทั้งชีวิตตั้งแต่เกิดมาจนถึงต้องถูกฆ่าตายในตอนสุดท้าย อีกด้วย .... โลกเรามนุษย์มีความสามารถสูง มากๆรู้กันอยู่ มีทางออกมากมายครับ เกี่ยวกับอาหาร ไม่ทานเนื้อสัตว์ ก็อยู่ได้ดีมากๆ ทุกๆท่าน หาข้อมูลใน TH-cam สิ มีชีวิตที่ดีกว่าหลายเท่าด้วย ..... ถ้ามัวแต่ ยึดติด กับการกินเนื้อสัตว์ ก็จะไม่รู้ว่ามีอาหารอื่นที่ดีกว่าหลายเท่า เรื่องสุขภาพที่ดีและอายุขัยที่ยืนยาวหลายเท่าก็จะเข้าใจได้โดยไม่ยาก.
เข้ามาฟังครั้งแรก ศรัทรามากๆค่ะ จะหาโอกาส ไปกราบพระอาจารย์นะค่ะ
พระเป็นผู้อยู่ง่ายจะเนื้อสัตว์หรือผักหญ้าอยู่ที่ตอนฉันจิตเราปรุงแต่งแค่ไหนพระอริยทั้งหลายท่านบรรลธรรมไม่ใช่เรื่องการขบฉัน
อยากให้คุณมาดูข้อมูล ดูคลิปนี้กันเยอะๆนะคะ
ตัวเองปฏิบัติธรรมสายกรรมฐาน
มา 18 ปีแล้ว
ก็กินมังสวิรัติไม่ได้กินเนื้อสัตว์
ก็ไม่ค่อยเจ็บป่วยและมีภูมิต้านทานเยอะกว่าคนกินเนื้อสัตว์ค่ะ ❤❤❤
ข😊😊
เข้าใจว่า ท่านสอนให้ไม่กินเนื้อสัตว์ในมุมมองของท่านเอง ไม่ได้ให้พระสงฆ์งดเว้นเนื้อสัตว์ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็เป็นการไม่เชื่อคำสอนของพระพุทธเจ้า ลุกลามไปถึงการทำให้สงฆ์แตกแยก ซึ่งเป็นอนันตริยกรรม แต่อาจารย์เสถียรสอนให้มีความเมตตากรุณาต่อเหล่าสัตว์ อยู่ที่ผู้ฟังต้องใช้โยนิโสมนสิการให้ดี อาจารย์เสถียรก็กล่าวไว้ถูกนะ แล้วแต่ว่าเราจะพิจารณาอย่างไร ใช้สามัญสำนึกของปุถุชน ที่สามารถเลือกทานอาหารได้ แต่พระสงฆ์ไม่สามารถเลือกอาหารเองได้ ต้องทานตามที่โยมใส่บาตรมาให้ จึงเลือกไม่ได้ ต้องเป็นผู้ที่เลี้ยงง่าย พระพุทธเจ้ากำหนดไว้นั้นถูกต้องแล้ว ครับ...
ใส่บาตรเลือกไม่ได้แต่บอกคนได้ว่าอย่าเอาเนื้อสัตว์มาใส่บาตรแค่นี้ก็ กระทำ ได้ บอกสอนได้ ชื่อว่าสงฆ์เป็นผู้สอนธรรมแก่คน ได้บุญ ได้กุศลโดยทั่วกัน เป็นสิ่งสมควร กว่า ครับ
@@user-kf8dh7yn7nพระจะไปบอกโยมให้ทำแบบนั้นแบบนี้ไม่สมควรนะคะ เท่ากับเลือกอาหาร พระพุทธเจ้าได้กล่าวไว้แล้วให้พระสงฆ์กินง่าย อยู่ง่าย ไม่งั้นผู้คนจะอยู่ห่างไกลจากการทำบุญ
อาหารเป็นอะไรก็ได้ สำคัญอยู่ที่ ความกำหนัดยินดีในอาหารนั้น
น้อมรับปฏิบัติ สาธุธรรมขอรับ
สาธุ อนุโมทามิ
จำเสียงท่านได้อยู่ค่ะ
กราบสาธุ.อนุโมทนาบุญด้วยเจ้าค่ะ
อนุโมทนาบุญสาธุๆๆค่ะ
กราบอนุโมทนาบุญเจ้าค่ะ
อนุโมทนาบุญสาธุค่ะ
เอาเรื่องพระไตรปิฏกมาสอนหน่อยคับ
กราบนมัสการพระอาจารย์ ครับ
ยิ่งมาได้ฟังท่านยิ่งเข้าใจและยิ่งไม่กินเนื้อเข้าไปอีก เชื่อที่ท่านพูดบอกทุกอย่างเลยเจ้าคะ🙏🙏🙏
👍
กราบสาธุเจ้าค่ะ
สาธุค่ะ
น้อมกราบ...หลวงพ่อ...สาธุๆๆๆครับ
อนุโมทนาสาธุ
อนุโมธนาสาธุ ครับ
กราบสาธะค่ะ
กราบนมัสการ สาธุครับ
สาธุครับ
สาธุขะขอไห้คนที่ได้ฟังท่านพูดดวงตาคนธรรมด้วยเถอะเจ้าขะ
ขอบคุณพระอาจารย์มากครับให้ความรู้ผมจะนำไปปฏิบัติและติดตามต่อไปครับ
สาธุ สาธุ สาธุ ....
อยากเห็นการอธิบายธรรมที่อยู่ในพระไตรปิฎก.แบบที่พระพุทธเจ้าสอน.มากกว่าการอธิบายแบบโลกๆค่ะ.กลายเป็นอธิบายทางหมอไป จริงๆท่านน่าจะชำนาญทางธรรมมากกว่า อยากฟังธรรมแบบมีที่มาที่ไปค่ะ ขออนุญาต ชี้แจงค่ะ
บาปนะครับ อย่าหมิ่นประมาทคำเทศของพระนะคับ ท่านเทศมีเหตุผลมากๆ ผมฟังแล้วเรียงลำดับอยู่ มีเหตุผลทุกอย่าง คุณเป็นผู้หญิง คุณไม่อาจบวชพระได้ คุณลองไปบาชชีดูนะครับ
@@hfghhjjk9446 ในพระบัญญัติ.ไม่มีบวชชีคะ.แล้วเรียนธรรมะ.ไม่ต้องบวชก็บรรลุธรรม.เช่น.นางวิสาขา.เป็นแม่บ้าน.เป็นพระโสดาบัน.ท่านอนาถบิณทิกะเศรษฐีเป็นพระโสดาบัน.ท่านจิตตคฤหบดีเป็นพระอนาคามี.ส่วนการบริโภคเนื้อสัตว์.ท่านพระเทวทัตเป็นผู้มาขอ.แต่พระองค์ไม่ประทานอนุญาต.แต่พระองค์ทรงห้ามสัตว์มีชีวิตด้วยการเห็น.การรู้.การได้ยิน.เพื่อการเบียดเบียนชีวิตสัตว์.แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงเกิดเป็นสัตว์ต่างๆ.มีโค.มีนกยุง.แม้แต่กิมิชาติคือสัตว์เล็กๆเป็นต้น.เมื่อมีการบริโภค.ก็เป็นบุญทั้งผู้เป็นสัตว์ได้เอาเนื้อของตนเป็นบุญแก่ผู้บริโภคเพื่อให้กายอยู่ได้.สิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสสอน.คือสิ่งที่มีอยู่จริงๆและเป็นอนัตตา.เกิดเพราะเหตุปัจจัย.ดับเพราะเหตุปัจจัย.และพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็มิได้ตรัสห้าม.ผู้มีอาชีพเป็นพรานเป็นต้น.สาเหตุที่ต้องเกิดเป็นพราน.เพราะเหตุและปัจจัย.เป็นต้น.ธรรมะ.เปิดเผยจึงรุ่งเรือง.😊
การเกิดเป็นชายหญิงเกิดจากเหตุปัจจัย.การเกิดแล้วได้เรียนพระธรรมที่ถูกต้องอันพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ดีแล้ว.ย่อมเป็นบุญอย่างยิ่ง.หากเป็นภิกษุในพระศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต้องตรงต่อพระธรรมพระวินัย.ย่อมได้บุญมาก.ผู้ฟังธรรมย่อมได้บุญมาก.หากไม่ตรงต่อพระธรรมพระวินัย.ย่อมบาปอย่างยิ่ง.ผู้ฟังก็ย่อมได้บาปและไม่เป็นประโยชน์สะสมความไม่รู้ต่อไป.
เนื่องจากจิตของคน ละเอียดและหยาบแตกต่างกันไป ท่านจึงใช้ศัพท์ทางวิทยาศาสตร์ ร่วมด้วย เพราะท่านเป็นผู้มีจิตใจดีงามอยากช่วยเหลือชีวิตสัตว์และชีวิตของคนให้พ้นจากบาปและทุกข์ยาก
ท่านสอนดีแล้วท่านมีจิตใจดีงามมีปัญญาสูงเลิศ มีจิตใจดีงามละเอียดอ่อน มีความเอื้อเฟื้อ ต่อสรรพชีวิต หมายถึงทุกๆชีวิต .....ประโยคทำหรือบรรทัดทำใดๆที่คุณได้อ่านมาแล้วมันทำให้เกิดความ เสื่อมลงต่ำถอย ด้านจริยธรรมหรือความดีงาม นั่นแปลว่าเป็นประโยคทำปลอมปลอม อย่าหลงติดกับตำราปลอม หรือตำราที่จริงแต่แทรกด้วยประโยคปลอมๆ
ถ้าฟังแบบมีคุณธรรมจะไม่อยากกินเค้าเลยเราไม่กินเนื้อสัตว์
🙏🙏🙏 กราบพระอาจารย์ ผมอยากทราบว่า นายกของไทยเป็นมังสวิรัติ หรือไม่ครับ
อยากได้เพลงคนรับ
กราบพระอาจารย์ครับเรียนถามว่าในพุทธะประวัติตอนพระเทวทัตทูนเสนอพระพุทธองค์ว่าในพระภิษขุไม่ให้ฉันเนื้อสัตว์ให้ฉันแต่ผักหรือเจในสมัยนี้อย่างเดียวครับและเรื่องไม่ควรฉันเนื้อ10อย่าง
#พระอาจารย์ช่วยขยายความให้กระจ่างทีครับ ตอนนี้ผมโดนเพื่อนว่าผมเป็นพวกพระเทวทัตแล้วครับเพราะผมเลิกกินเนื้อสัตว์แล้วครับผมสงสารพวกเขาครับเลิกระยะหนึ่งแล้วครับ ต้องขอกราบขอบพระคุณพระอาจารย์ที่เมตตากับกระผมมานะโอกาสนี้ครับ
๑. ภิกษุทั้งหลายควรอยู่ป่าตลอดชีวิต ภิกษุรูปใดเข้าบ้าน ภิกษุรูปนั้นมีโทษ
๒. ภิกษุทั้งหลายควรเที่ยวบิณฑบาตตลอดชีวิต ภิกษุรูปใดยินดีกิจนิมนต์ภิกษุรูปนั้นมีโทษ
๓. ภิกษุทั้งหลายควรถือผ้าบังสุกุลตลอดชีวิต ภิกษุรูปใดยินดีผ้าคหบดี ภิกษุรูปนั้นมีโทษ
๔. ภิกษุทั้งหลายควรอยู่โคนไม้ตลอดชีวิต ภิกษุรูปใดอาศัยที่มุงที่บัง ภิกษุรูปนั้นมีโทษ
๕. ภิกษุทั้งหลายไม่ควรฉันปลาและเนื้อตลอดชีวิต ภิกษุรูปใดฉันปลาและเนื้อภิกษุรูปนั้นมีโทษ
ไปตามลิงค์นี้ก็เจอ อ่านอย่างพิเคราะห์ 84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=01&siri=53
ทุกวันนี้ พระก็ยังไปกิจนิมนต์ เข้าบ้าน บางช่วงบางคราว ไม่มีใครว่า เป็นศิษย์เทวทัต
ทุกวันนี้ พระที่ตระหนัก นิสัย ๔ ของนักบวช ท่านก็บิณฑบาตเป็นปกติ ตลอดชีวิต ไม่มีใครว่า เป็นศิษย์เทวทัต
ทุกวันนี้ พระที่มักน้อย เน้นเคร่งครัด ท่านก็ยังใช้ผ้าเก่า ผ้าบังสกุลกันอยู่ ไม่มีใครว่า เป็นศิษย์เทวทัต
ทุกวันนี้ แม้พระธุดงค์จะเหลือน้อยแล้ว แต่ยังคงมีอยู่ ซึ่งท่านก็อยู่โคนไม้ ไม่มีใครว่า เป็นศิษย์เทวทัต
แต่....พระที่เข้าใจเรื่องจุลศีล ข้อ ๑ พระที่เห็นว่า บุญจากการให้ของโยม ไม่ควรถูกหักราน ด้วยการเบียดเบียน ท่านก็ไม่ฉันเนื้อสัตว์ ... ทำไมคนว่า เป็นศิษย์เทวทัต... พิจารณาดีๆ เห็นอะไรมั้ย
โดยจริงเรื่องนี้อย่าไปเสียเวลาถก เถียง ใดๆกับใครเลย... คนอยากกิน เขาก็หาเหตุผลจะกิน ขณะเดียวกัน ไม่อยากได้ชื่อว่า ผิด ฉะนั้นก็ต้องหาเหตุผลให้การกินเนื้อสัตว์เป็นเรื่อง ถูกต้อง เรื่องไม่กินเนื้อสัตว์ หากชัดเจนแล้ว แม้ใครให้ฟรีๆ ก็ไม่กิน เพราะฟรีวันนี้ ย่อมมีวิบากหนี้วันหน้า... ค้นคว้าต่อได้จากพระสูตรที่ว่าด้วยสังสารวัฏ กรณีเนื้อ ๑๐ อย่าง ขอไว้นำมากล่าวรวมๆ ผ่านการเทศน์ก็แล้วกัน... โมทนา
พระเทวทัตไม่ได้ไปขอให้พระพุทธเจ้าบอกสาวกให้เลิกกินเนื้อสัตว์และให้เป็นมังสวิรัติ เพราะทั้งพระพุทธเจ้า เทวทัต และสาวกทั้งหลายต่างก็เป็นมังสวิรัติอยู่แล้ว แต่ไปเสนอให้พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้ในพระธรรมวินัย ซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสว่าไม่จำเป็น เพราะปิดประตูการกินเนื้อสัตว์ไว้หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นศีลข้อ ๑ อาชีพต้องห้าม พระองค์ไม่เคยบังคับใคร มีแต่แนะนำให้ละเว้น เช่น เว้นจากการฆ่าสัตว์ ฯลฯ ไม่ได้บอกว่า ห้ามฆ่าสัตว์ เป็นต้น
ลอง search ช่อง เสน่ห์นางชี แล้วฟังเรื่อง พระเทวทัต ในมุมมองคนศึกษาพุทธศาสนาแบบตะวันตกเขามองยังไง สิ่งที่คุณรับรู้มาอาจจะไม่เป็นอย่างนั้น คนเล่าเป็นอดีตนักศึกษา ป.เอก ในเยอรมัน และในคลิปยังเล่าเรื่องคนอื่นในพุทธศาสนาด้วยค่ะ ใช้หลักเหตุผล ไม่มโน ถือว่าเปิดโลกนึงทีเดียว
@@putthiroekpola7197 พระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ทรงห้ามการฉันปลาและเนื้อ ทั้งพระองค์และภิกษุก็ฉันปลาและเนื้อที่เป็นกัปปิยะ คือไม่ผิดวินัยบัญญัติ เป็นของสมควรบริโภค อันได้แก่ปลาและเนื้อที่บริสุทธิ์โดยส่วนสาม อันได้กล่าวมาแล้ว กับไม่ฉันเนื้อที่ต้องห้าม ๑๐ ชนิด เว้นจากนี้แล้วก็ฉันได้ ไม่มีข้อขัดข้องประการใด * อามคันธสูตร
พระผู้มีพระภาคตรัสห้ามว่า “อย่าเลยเทวทัต ภิกษุรูปใดปรารถนาก็จงอยู่ป่า
เถิด ภิกษุรูปใดปรารถนาก็จงอยู่ในละแวกบ้านเถิด ภิกษุรูปใดปรารถนาก็จงเที่ยว
บิณฑบาตเถิด ภิกษุรูปใดปรารถนาก็จงยินดีกิจนิมนต์เถิด ภิกษุรูปใดปรารถนาก็จง
ถือผ้าบังสุกุลเถิด ภิกษุรูปใดปรารถนาก็จงยินดีผ้าคหบดีเถิด เราอนุญาตถือ
เสนาสนะตามโคนไม้ ๘ เดือนเท่านั้น เราอนุญาตปลาและเนื้อที่บริสุทธิ์ด้วยอาการ
๓ อย่าง คือ (๑) ไม่ได้เห็น (๒) ไม่ได้ยิน (๓) ไม่ได้นึกสงสัย”. // พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [๒. สังฆาทิเสสกัณฑ์] ๑๐. สังฆเภทสิกขาบท นิทานวัตถุ
ขอฟังเรื่องข้อไม่ดีของทุนนิยมขอรับ สาธุขอรับ
สาธุ
เอาคนพูดเสียงจริงๆดีใหม.นี้เสียงหลวงตาจันทร์.สันติอโศก
วัดพุทธํรรม. ตั้งอยู่ที่ไหนค่ะ. ขอทราบเบอร์โทรศัพท์. ด้วยความศรัทธาธรรมยิ่ง
0816120889
🙏🙏🙏
โยมละการฆ่าสัตว์ และ ทานมังสวิรัด มาสิบกว่าปีแล้วเจ้าค่ะ.แต่ยังทานไข่เพื่อบำรุงร่างกายเจ้าค่ะ
อยุ่ที่ไหนคะ
โลโก้ มุมจอด้านขวาบน บอกที่ตั้ง... สำนักพุทธธรรมไว้ชัดเจนแล้ว หากดูต่อผ่านทีวี จะเห็นชัด หากดูผ่านโทรศัพท์มือถือ อาจต้องเพ่งมองนิดหน่อย... ค้นหา ย่อมพบเจอ... โมทนา
นิมนต์ท่านพระอาจารย์นำคำสอนที่ พระเทวทัตมาทุลขอให้พระห้ามฉันเนื้อสัตว์ แต่พระพุทธองค์ไม่สรงอนุญาติ
ถ้าท่านเรียนแพทน่าจะได้เปนหมอใหญ่นะ
ท่านครับช่วยเทศน์การฆ่าสัตว์ทำบุญได้บาป5ประการให้ฟังด้วยครับ
จะอะไรมากมายเพื่อนเอ๋ย ศีลห้าครอบใว้หมด จะต้องเทศอะไรอีก
😢😢😢
.ความรู้นี้ท่านได้แต่ใดมาสาธุอนุโมทนาเจ้าค่ะ
หลวงพ่อคับผมฝึกกินเจถึงจะไม่100/แต่ผมยังเห็นหลวงพ่อดังๆยังบอกว่ากินได้ไม่ผิดและยังบอกว่าจะให้มากินเพื่อผมไม่เข้าใจ
พระดังที่ไม่ใช่พระดีมีอยู่... สึกไปแล้วก็มาก หากจะเอาพระดังมาเป็นเกณฑ์ การห่างไกลจากปาณาติบาต การห่างไกลจากการเบียดเบียน คงไม่เกิดขึ้น... โยมตั้งใจไม่กินเนื้อสัตว์นั้นดีแล้ว แต่ต้องทราบให้ละเอียดว่า เนื้อสัตว์กินได้ หากไม่ได้เบียดเบียนโดยตรง โดยอ้อม และแม้กินได้ หากผู้ใดมุ่งละวางการติดในรสเนื้อที่ตนยังติดอยู่ แม้เป็นเนื้อสัตว์ตายเอง ผู้นั้นก็จะลดงดเว้น เพื่อละกิเลส... โมทนา
บิดเบือนนะพระ
ว่ากัน เป็นเรื่องง่าย แต่อธิบายได้ ตามที่ว่า เป็นเรื่องต้องอาศัยปัญญา และเมตตาจริงๆ
พระท่านสอนดีมาก คนที่ไม่รู้จริง และยังเบียดเบียนสัตว์ จะเป็นบาปมากกว่า สงสารชีวิตสัตว์ อื่นบ้างเขากำลังจะมีทางรอด โลกนี้มีคนใจดีมากมาย ที่เขาสนับสนุนการช่วยเหลือสัตว์ อยู่ทุกมุมโลกนะ พระท่านสอนดี สอนถูกสอนละเอียด ท่านมีความดีงามเป็นที่ตั้ง เป็นที่พึ่งพาของคน ดี และของสัตว์ที่น่าสงสาร ในโลก แบบนี้ ศาสนา จึงมีความ มั่นคง สืบต่อไปได้🙏🙏🙏
เอาแค่เสียงพูดยังหลอกกันเลยใครฟัวก็รู้ว่าเสียงใคร
เสียงใครรึ ?
หลับหูหลับตาฟังจะได้แต่อคติครับ ฟังด้วยปัญญาสิ
ในพุทวจนพระองไม่ได้ห้ามนะท้่น ท่านไม่ได้บอกเดนสัตกินนะแปลไแทั่วนะ กพระองบอกว่าไม่รุ่หรือไม่เหนว่าเขาทำมาเพื่อเราไม่ผิดไปดุได้เลยในพุทธวจน ่ทานตรัสจากพระโอจเองเลย สาวกรุ่นหลังมาบอกผิดจากพระองมากต้องยกพระสุตรมาเลย ชัดดี ไม่ต้องไปตีความเอง เอาคำที่พระองบอกยกคำพุดออกมาเลย
ขอโอกาสค่ะ โยมมองในกรณีการเป็นผู้เลี้ยงง่าย หรือ พระพุทธองค์เผื่อไว้หากเกิดมีเหตุยุคที่หาอาหารยาก แล้วหากมีโยมนำมาถวาย เปิดช่องให้ภิกขุควรกินเพื่อให้ประทังชีวิตอยู่ได้
แต่ถ้าเรารังเกียจ รู้สึกไม่ดี ก็ไม่ควรกิน ขออนุโมทนากับทุกท่านด้วยค่ะ ใครไคร่กินก็กิน ใครไม่ไคร่กินก็ไม่กิน พระศาสดาเปิดไว้กว้างๆมากกว่า
พุทธวจน กล่าวว่า ไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน ไม่รังเกียจว่าเขาฆ่าเพื่อเรา ฉันได้ กินได้
เมื่อมีผู้นำมาใส่บาตร หรือถวายพระ หากไม่ใช่เพื่อเรา แล้วเขานำมาเพื่อให้พระเลี้ยงแมว เลี้ยงหมา เลี้ยงเด็กวัดอย่างนั้นหรือ... ลองถามใจคนถวายอาหาร น่าจะมีคำตอบไม่ยาก เรื่องนี้โปรดพิจารณาให้ดีๆ
นำคำพระพุทธเจ้ามาตอบซิ ยกพระสูตรมาครับ
@@litelite5831 [๕๗] พ. ดูกรชีวก ชนใดกล่าวอย่างนี้ว่า ชนทั้งหลายย่อมฆ่าสัตว์เจาะจงพระสมณโคดม
พระสมณโคดมทรงทราบข้อนั้นอยู่ ก็ยังเสวยเนื้อสัตว์ที่เขาทำเฉพาะตน อาศัยตนทำ ดังนี้
ชนเหล่านั้นจะชื่อว่ากล่าวตรงกับที่เรากล่าวหามิได้ ชื่อว่ากล่าวตู่เราด้วยคำอันไม่เป็นจริง ดูกรชีวก
เรากล่าวเนื้อว่า ไม่ควรเป็นของบริโภคด้วยเหตุ ๓ ประการ คือ เนื้อที่ตนเห็น เนื้อที่ตนได้ยิน
เนื้อที่ตนรังเกียจ ดูกรชีวก เรากล่าวเนื้อว่าเป็นของไม่ควรบริโภคด้วยเหตุ ๓ ประการ นี้แล
ดูกรชีวก เรากล่าวเนื้อว่า เป็นของควรบริโภคด้วยเหตุ ๓ ประการ คือ เนื้อที่ตนไม่ได้เห็น
เนื้อที่ตนไม่ได้ยิน เนื้อที่ตนไม่ได้รังเกียจ ดูกรชีวก เรากล่าวเนื้อว่า เป็นของควรบริโภค
ด้วยเหตุ ๓ ประการนี้แล.
จากชีวกสูตร
[๖๐] ดูกรชีวก ผู้ใดฆ่าสัตว์เจาะจงตถาคต หรือสาวกตถาคต ผู้นั้นย่อมประสพบาป
มิใช่บุญเป็นอันมาก ด้วยเหตุ ๕ ประการ คือ ผู้นั้นกล่าวอย่างนี้ว่า ท่านทั้งหลายจงไปนำสัตว์
ชื่อโน้นมา ดังนี้ ชื่อว่าย่อมประสพบาปมิใช่บุญเป็นอันมาก ด้วยเหตุประการที่ ๑ นี้ สัตว์นั้น
เมื่อถูกเขาผูกคอนำมา ได้เสวยทุกข์ โทมนัส ชื่อว่า ย่อมประสพบาปมิใช่บุญเป็นอันมาก ด้วย
เหตุประการที่ ๒ นี้ ผู้นั้นพูดอย่างนี้ว่า ท่านทั้งหลายจงไปฆ่าสัตว์นี้ ชื่อว่าย่อมประสพบาปมิใช่
บุญเป็นอันมาก ด้วยเหตุประการที่ ๓ นี้ สัตว์นั้นเมื่อเขากำลังฆ่าย่อมเสวยทุกข์ โทมนัส ชื่อว่า
ย่อมประสพบาปมิใช่บุญเป็นอันมาก ด้วยเหตุประการที่ ๔ นี้ ผู้นั้นย่อมยังตถาคตและสาวก
ตถาคต ให้ยินดีด้วยเนื้อเป็นอกัปปิยะ ชื่อว่าย่อมประสพบาปมิใช่บุญเป็นอันมาก ด้วยเหตุ
ประการที่ ๕ นี้ ดูกรชีวก ผู้ใดฆ่าสัตว์เจาะจงตถาคตหรือสาวกของตถาคต ผู้นั้นย่อมประสพบาป
มิใช่บุญเป็นอันมาก ด้วยเหตุ ๕ ประการนี้.
( เนื้อที่ตนไม่เห็น หากไม่เห็น แล้วฉัน เป็นเรื่องควรอยู่ เพราะไม่ได้มีจิตเบียดเบียน ไม่ส่งเสริมการเบียดเบียนโดยปริยายใดๆ แต่หากเห็นว่าเป็นเนื้อสัตว์ แล้วรับมาฉัน คนก็นำมาถวายแล้วๆเล่าๆ การเบียดเบียนก็ดำเนินไปอยู่ (เว้นเพียงผู้ถวายบอกชัด ว่าเป็นเนื้อจากสัตว์ตายเอง ... หากไม่เห็น และไม่มีใครบอก ว่าเป็นเนื้อ หากฉัน ก็ควรอยู่ แต่ผู้ใส่ใจในการไม่เบียดเบียน ย่อมรู้จักถาม หากโยมก็ไม่รู้ว่า เป็นเนื้อสัตว์แท้ หรือเนื้อสัตว์เทียม จะฉันก็ไม่นับเป็นการส่งเสริม เพราะไม่มีเจตนาจะฉันเนื้อสัตว์ ส่วนคำว่า ไม่รังเกียจ ไม่ได้หมาย ถึงรังเกลียด แบบคำไทย เพราะหากนักบวชไม่รังเกลียดการกินเนื้อสัตว์ ท่านย่อมกินเนื้อสัตว์อยู่แล้ว เช่นนี้ พระพุทธองค์จะต้องบอกอีกทำไม แต่รังเกียจ นั้นหมายถึงสงสัย ข้องใจ ว่าเป็นเนื้อสัตว์หรือไม่ จะเป็นการสนับสนุนเบียดเบียนหรือเปล่า ซึ่งหากมีสะดุดใจเช่นนี้อยู่ การเว้นได้ย่อมดีกว่า )
@@Sathianpotiyhan84000 แค่นี้ท่านก็ผิดแล้ว
เขาก็ทำตามๆครูอาจารย์และสำนักเขาครับ..แต่ไม่ทำตามคำสอน.และเดินตามพระตถาคต.นำคำตนเองมากล่าวเนืองๆ.คำของพระตถาคตฟังแล้วมีน้อยนิด.
ถ้าไม่กินเนื้อจะไม่ขาดโปรตีนหรือครับ
ไม่ขาดหรอกขะดิฉันเจมาตั้งแต่ปี2555ทุกวันนี้ยังทําไร่ทํานาได้เหมือนเดิมอายุ55แล้วยังแข็งแรงอยู่เลยขะ
พระพุทธเจ้า อนุญาต ให้กินเนื้อสัตว์
พระเทวทัต บอกห้ามกินเนื้อสัตว์ และ ให้อยู่ โคนไม้
ชีวกสูตร มีอยู่ เพียงอ่านอย่างพินิจ ต่อไปจะไม่กล่าวตู่พระพุทธเจ้า ไม่กล่าวตู่สงฆ์สาวก ....
พวกเราจะฟังใคร.จะเดินตามใคร.พระตถาคตหรือเหล่าสาวก.พระตถาคตก็ทรงบัญญัติไว้แล้ว..
งดเว้นจากการฆ่าสัตว์..
ไม่ได้ห้ามกินเนื้อสัตว์...
ถึงเราจะไม่กินเนื้อสัตว์.สัตว์มันก็ต้องถูกฆ่าอยู่แล้ว..เราไม่สามารถไปห้ามไม่ให้คนทั้งโลกฆ่าสัตว์ได้..ไม่สามารถไปห้ามคนทั้งโลกไม่กินเนื้อสัตว์ได้...พระตถาคตทรงกล่าว..สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม..
หากจะเดินตามพระตถาคต... โปรดทราบว่า พระตถาคตสอนไว้ดังนี้... วณิชชสูตร
ว่าด้วยการซื้อขายที่อุบาสกไม่ควรประกอบ
[๑๗๗] ภิกษุทั้งหลาย การซื้อขาย ๕ ประการนี้ อันอุบาสกไม่พึงกระทำ
การซื้อขายศัสตรา ๑
การซื้อขายสัตว์ ๑
การซื้อขายเนื้อสัตว์ ๑
การซื้อขายน้ำเมา ๑
การซื้อขายยาพิษ ๑
ภิกษุทั้งหลาย การซื้อขาย ๕ ประการนี้แล อันอุบาสกไม่พึงกระทำ.
กรณีสัตว์ การซื้อเป็นการส่งเสริมเบียดเบียน การขายเป็นการเข้าไปถือในกรรมสิทธิ์ชีวิตสัตว์ วิบากไม่น่ายินดีเลย
“พระเทวทัต” เสนอความคิดตัวเอง ทูลขอ พระพุทธเจ้า
1. ภิกษุทั้งหลายจักต้องอยู่ในป่าตลอดชีวิต จะอาศัยในเขตแดนบ้านไม่ได้
2. ภิกษุทั้งหลายจักต้องเที่ยวบิณฑบาตตลอดชีวิตจะยินดีรับนิมนต์ไปฉันในเรือนไม่ได้
3. ภิกษุทั้งหลายจักต้องนุ่งห่มแต่ผ้าบังสุกุลตลอดชีวิต จะรับผ้าจีวรจากผู้นำมาถวายไม่ได้
4. ภิกษุทั้งหลายจักต้องอยู่โคนไม้ตลอดชีวิต จะเข้าอาศัยที่มุงบังไม่ได้ และ
5. ภิกษุทั้งหลายจักต้องไม่กินเนื้อกินปลาตลอดชีวิต ผู้ที่กินมีความผิด
สุดท้าย “พระพุทธองค์” ก็ไม่ทรงอนุญาตสักข้อ ... จนพระเทวทัตพาภิกษุส่วนหนึ่งแยกออกไปจากกลุ่ม (อันนี้จริงไหมครับ)
พระสูตร หากอ่านอย่างครบ อย่างวิเคราะห์ จะเห็นนัยสำคัญๆ ที่ทุกวันนี้หลายที่ นำเสนออย่างฉาบฉวย... ในที่นี้มีหลายความเห็น น่าอ่าน น่าเชื่อถือ ลองอ่านแล้ววิเคราะห์ดู... โมทนา
@@Sathianpotiyhan84000 นั่นก็เป็นสิ่งหนึ่งครับ ทุกวันนี้ ต่างแต่ละครูบาก็บอกว่าตัวเองถูก คนอื่นผิด จนผมในที่อยู่ในสถานะ คนที่พยายามศึกษา ก็พาสับสน ว่าสิ่งที่เราศึกษาไปถูกทางรึไม่ รึยังไง
@@aoffer100
สุดโต่งด้านไดด้านหนึ่งไม่ดี
ถ้า อยู่ในสังคมที่ไม่กินผัก บอกว่าจะกินผัก
ธรรม ก็ไปไม่ได้ เพราะสงจะกินผัก 5555
พุทธวจน เหมือนจะสอนอีกแบบเจ้าค่ะ
เอาง่ายๆนะคับ โลกนีมีการกินเนื้อมนุษย์ ทั้วโลก ผมของถามคุยว่า ผมขอซื้อขาคุณ พันล้าน คุนยังคิดแล้วคิดอีก (อันนี้ ผมต่อลองกับคุน )นะสมมุด ว่าคุณพูดไม่ได้ (ไม่มีการต่อลอง) กับคุน ผมมีลูกน้อง10คนไปจับขาคุณแล้วตัดขาคุน แล้วเอาไปให้คนอื่นกินเลย โดนไม่ได้ขอ หรือต่อลอง เพราะคุนพูดไม่ได้ คุณจะโกรดปะ เอาขาคุนไปแล้วไม่ได้ ขอ พิดศีล ลักขโมยไม้ พระพุทธเจ้า บอกว่า
1ห้ามฆ่าสัตว์
2ห้าม ลักขโมย พระบางรูป ยังไม่รับเงิน ที่โจร มาขโมย เลย กฏหมายไทยเหมือนกันรับของซื้ิอของโจร ยังผิดเลย แล้วเราเอาตังที่เราหามา แล้วซื้อ สัตว์ กิน มันตรงตามธรรมที่พระพุทธเจ้า บอกในธรรมวินัยเลย ง่ายๆๆ (แต่ถ้าวัวตัวนั้น เดินมา แล้วขาบมีดมาแล้ว เดินตามเรามาทุกให้เราฆ่า และกินมัน หรือมันยอมตาย เพือให้เรากินมัน อันนั้น คือเนื้อบริสุทธิ์ ผมจะกินมัน ตรงตามธรรมพระพุทธเจ้า
ท่านไม่ควรพูดขัดพระพุทธเจ้า
คุณกำลังเข้าใจผิด เพราะว่าพระท่านสอนดีมากแล้ว ถูกต้องตามหลักจริยธรรมของคนด้วย
ฟังพระคุณเจ้าได้ความรู้และรู้สึกเกรงกลัวต่อบาปและเป็นจริงเป็นเหตุและผลดิฉันจะพยามลดละไม่กินเนื้อสัตย์ให้มากที่สุดเจ้าค่ะสาธุๆๆ
กราบนมัสการท่านอาจารย์ข้าพเจ้ากินเจมา4เดือนแล้วสุขภาพร่างกายแข็งแรงมาก
โมทนา... เมตตาเป็นมารดาของกุศลธรรมทั้งปวง
ตั้งแต่ปฎิบัติมาก็ไม่กินเนื้อสัตว์คิดว้าพระพุธเจ้าไม่ฉันเนื้อเพราะพระองศ์ตั้งศีลไว้แล้ว
พระพุทธเจ้า ให้ทานได้ ค่ะ
พระอาจารย์ครับผมอยากทำบุญกับอาจารย์ครับตอนนี้ผมร่างกายป่วยเหลือเกิน