จับ VAR หาอดีต (ถ้าวันนั้นโลกมี VAR)

แม้พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้จะเพิ่งเปิดม่านบรรเลงเพลงแข้งผ่านไปเพียงแค่ 3 นัด (หรือ 2 นัดสำหรับบางทีม) แต่จำนวนลูกจุดโทษที่เกิดขึ้นก็ปาเข้าไปแล้วถึง 20 ครั้ง (เป็นการยิงเข้า 18 ลูก / พลาด 2 ลูก) ซึ่งดูแล้วก็ไม่มีวี่แววว่าความถี่จะลดลง จึงคาดการณ์กันได้ว่าฤดูกาลนี้อาจจะเป็นฤดูกาลที่จะมีลูกจุดโทษเกิดขึ้นเยอะที่สุดตั้งแต่มีพรีเมียร์ลีกมาเลยก็ว่าได้
ซึ่งเราคงไม่สามารถปฎิเสธได้เลยว่าหนึ่งในสาเหตุหลัก ย่อมมาจากการที่พี่ VAR นั้นทำงานกันขยันขันแข็งเสียยิ่งกว่าอะไรดี จะเหตุการณ์ใหญ่เล็กแค่ไหน ก็ไม่สามารถเล็ดลอดสายตาพี่เค้าไปได้แม้แต่น้อย (โดยเฉพาะแค่แฮนด์บอลที่เกิดขึ้นก็ 6 ลูกไปแล้ว แทบจะเป็น 1 ใน 3 ของทั้งหมดที่ลูกจุดโทษที่เกิดขึ้น)
นี่ยังไม่นับไปถึงเรื่องการตรวจจับการยืนบนเส้นของผู้รักษาประตูอันละเอียดลออที่ทำให้การเซฟลูกจุดโทษของดาบิดเดแฮที่นานๆทีจะเกิดขึ้นมีอันต้องเป็นหมันไปเสียฉิบ ซึ่งพอพูดถึงเคสนี้แล้วค่อยๆคิดทบทวน ก็พาลให้นึกไปถึงลูกจุดโทษที่ถ้าเป็นคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับฟุตคลับแล้วย่อมไม่มีทางลืมได้ลง
ใช่ครับ ผมกำลังพูดถึงลูกจุดโทษของเทพบุตรเปียทองคำ โรแบร์โต บาจโจ้ (หรือที่สมัยนั้นออกเสียงกันว่า บั๊กโจ้)ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกปี ‘94 ณ ดินแดนที่เรียกเกมกีฬาฟุตบอลว่าซอคเกอร์นั่นแล
นัดนั้น เกมระหว่างอิตาลีและบราซิลเสมอกัน 0-0 ในช่วงเวลาปกติจนถึงต่อเวลาพิเศษ ทำให้ต้องตัดสินแชมป์โดยการยิงลูกจุดโทษ ซึ่งลูกจุดโทษที่พี่เปียทองคำของเราต้องรับหน้าที่สังหาร เป็นลูกตัดสินว่าทีมชาติอิตาลีจะได้มีโอกาสลุ้นต่อชีวิตออกไปอีกไหม
ภาพลูกฟุตบอลที่ลอยข้ามคามไปแบบไม่ใกล้เคียง พร้อมกับชายผู้ที่พาทีมอัซซูรี่มาไกลจนถึงจุดนี้ยืนคอตก ยังคงติดตาคนที่ได้อดหลับอดนอนเพื่อนั่งดูในคืนนั้นไม่เสื่อมคลาย (โดยเฉพาะแฟนบอลอิตาลีที่เริ่มดูฟุตบอลโลกครั้งนั้นเป็นครั้งแรก)
// ถ้ามาถึงจุดนี้แล้ว ใครยังไม่ได้กดดูคลิป แนะนำว่าลองกดดูจนจบ แล้วกลับมาอ่านต่อนะครับ //
// ส่วนใครดูจบแล้ว อ่านต่อตรงนี้ได้เลยครับ //
จากคลิป จะเห็นได้ชัดเจนว่า ทัฟฟาเรล ผู้รักษาประตูของบราซิล ออกมาจากเส้นก่อนที่พี่โจ้ของเราจะวางเท้ายิงประตูอย่างแน่นอน ซึ่งแปลว่าถ้าในยุคนั้นมี VAR ละก็ อิตาลีย่อมมีโอกาสได้เตะจุดโทษลูกนี้ใหม่อีกครั้ง และคงนำไปสู่ความเป็นไปได้ที่นับไม่ถ้วนของจักรวาลคู่ขนานที่จะเกิดจากตอนจบของฟุตบอลโลก‘94 ที่เปลี่ยนไป
แน่นอนว่าถ้าหากถามตัวบาจโจ้ว่า ถ้า VAR ตัดสินให้พี่เค้าเตะจุดโทษลูกนั้นใหม่อีกครั้ง ผมคิดเอาเองว่าเจ้าตัวก็คงไม่ปฎิเสธอย่างแน่นอน เพราะมันคือการต่อชีวิตให้กับทีมชาติอิตาลีและอาจจะนำไปสู่การขึ้นไปเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 4 เป็นทีมแรกของโลก (ณ ตอนเริ่มทัวร์นาเมนต์ มีทีมที่ได้แชมป์ฟุตบอลมากที่สุด 3 สมัยอยู่ 3 ทีม คือ บราซิล เยอรมนี และ อิตาลี)
แต่สุดท้ายแล้ว สิ่งนั้นก็ไม่เกิดขึ้นจริง ซึ่งทำให้ซีนที่เกิดขึ้นนั้น เป็นหนึ่งในซีนที่คลาสิกที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกซีนหนึ่งเลยทีเดียว
นั่นอาจจะเป็นเพราะบางที
“ ความเศร้าของลูกผู้ชาย มันก็ดูน่าหลงไหลยิ่งกว่าความยินดียามเค้าได้ชัยชนะมา ”
AF
#ฟุตคลับ
#footclubthai
#FootClub
#ถ้าคุณรักฟุตบอลเราคือเพื่อนกัน
เครดิต
คลิปต้นฉบับจาก youtube : Soccerex
ตัดต่อโดย ฟุตคลับ