ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
ทำไมเราต้องดื่มน้ำวันละ 2 ลิตรร่างกายเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบเป็นจำนวนมาก แต่เมื่อายุมากขึ้นก็จะทดแทนด้วยไขมันและปริมาณน้ำก็จะลดลง โดยเฉพาะในเพศหญิงจะมีสัดส่วนไขมันต่อน้ำจะสูงมากกว่าผู้ชายร่างกายเราจะสูญเสียน้ำทุกวัน จาก1. จากทางเดินหายใจ การหายใจ การพูด ต่อวันประมาณ 600 cc2. ทางผิวหนัง อาจจะเป็นเหงื่อ หรือ การระเหยไปเลยโดยไม่เห็นเหงื่อก็เป็นได้ บางครั้งเหงื่อจะเป็นการขับความร้อนที่สูงเกินไปออกไปข้างนอก ยิ่งถ้าเรายิ่งร้อนเหงื่อก็จะยิ่งออกมากขึ้น แต่จะเห็นเหงื่อเป็นเม็ดหรือไม่ขึ้นอยู่กับความชื้นในอากาศ ถ้าชื้นมาก อาจจะเห็นเป็นเม็ดๆเหมือนประเทศไทย แต่ในประเทศที่แห้งมากๆถึงเราไม่ร้อน ไม่มีเหงื่อก็จะมีการสูญเสียน้ำออกไป โดยเฉลี่ย วันละ 500 cc คนที่อยู่บนเครื่องบิน หรือ ที่สูงๆที่มีความกดอากาศต่ำ แรงดันน้ำก็จะดันน้ำออกจากร่างกายได้มากขึ้น จะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากกว่าปกติ ดังนั้นคนที่ขึ้นเครื่องบินจะต้องดื่มน้ำมากกว่าปกติ มิเช่นนั้นเลือดจะขาดน้ำ และ อาจเกิดลิ่มเลือดที่ขาหรือบริเวณต่างๆของร่างกายได้ตอนที่1
3. ปัสสาวะ บางคนมากน้อยไม่เท่ากัน ร่างกายเราจะมีกระบวนการสลายสารอาหารต่างๆและสมดุลเกลือแร่ และจะมีคุณสมบัติของเหลวในร่างกายที่มีความเข้มเข้นและต้องการดึงน้ำเข้ามาสู่ตัวเอง เรียกว่า osmolarity ซึ่ง จะมีค่าคงที่ค่าหนึ่งถ้าสูงไป จะดึงน้ำมาไว้ปริมาณเยอะ แต่ถ้าตรงกันข้ามถ้าต่ำจนเกินไป ก็จะปล่อยน้ำออกมาเยอะๆ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ไม่ดีเช่นกัน เลือดของเราจะมี osmolarity 290 mOsm/L จะมีบางโรคที่ทำให้ค่านี้สูงหรือต่ำกว่านี้ แต่สิ่งที่มีความเกี่ยวข้องกับปัสสาวะ คือ ปัสสาวะจะควบคุม ความเข้มข้นของ osmolarity โดยไตของเรา แล้วไตเราก็จะตอบสนองต่อฮอร์โมนต่างๆ เช่น ADH ย่อมาจาก Antidiuretic Hormone ( Anti= ต่อต้าน diuretic= ปัสสาวะ)หรือ เรียกว่า Vasopressin เป็นฮอร์โมนช่วยทำให้เลือดหดตัว, BNP, ANP สุดท้ายจะทำให้ไตเรามีความสามารถในการสร้างปัสสาวะเข้มเข้นแตกต่างกัน ไตเรามีความสามารถจำกัดทำให้ปัสสาวะเข้มข้นมากที่สุดได้ 1,200 mOsm/L ( คือถ้าเราขาดน้ำมากๆแล้ว ปัสสาวะเราจะเข้มข้นที่สุดได้ที่ 1,200 mOsm/L) ตอนที่2
ปกติร่างกายเราจะมีการสร้าง osmolarity ในที่ต่างๆ เช่น จากโซเดียม โปตัสเซียมที่เรากินเข้าไป หรือ การสลายโปรตีนต่างๆแล้วทำให้เกิดยูเรียขึ้นมาในร่างกาย ทั้งหมดเป็นส่วนประกอบที่ทำให้เกิด osmolarity ขึ้นมา แต่ร่างกายจะต้องขับทิ้งออกไปประมาณ 600 mOsm ต่อวัน ร่างกายเราไม่สามารถขับ osmolarity เปล่าๆได้ต้องมีน้ำเป็นส่วนประกอบด้วยเสมอ เหมือนกับเวลาเราอาบน้ำ เราไม่สามารถปัดสิ่งสกปรกออกจากร่างกายได้ เราจะต้องใช้น้ำเพื่อชะล้างสิ่งสกปรกออกไปด้วย ปริมาณน้ำน้อยที่สุดเป็นเท่าไหร่ ซึ่งไตของเราทำหน้าที่ตรงนี้อยู่ ไตเราขับได้สูงสุด 1,200 mOsm/L แต่ถ้าเรามี 600 mOsm ให้ขับ เราก็ต้องใช้น้ำครึ่งลิตรเป็นต้นดังนั้นรวมๆกันแล้ว ที่เราต้องสูญเสียน้ำทางผิวหนังวันละ 500 cc ทางเดินอากาศ 400 cc ทางอุจจาระอีก 200 cc รวมกันเป็น 1,100 cc รวมกับอีก 500 cc รวมกันเป็น 1,600 cc เป็นปริมาณขั้นต่ำต่อวันที่ร่างกายเราสูญเสียไปต่อวัน ดังนั้นเราจะต้องดื่มน้ำเข้าไปให้มากกว่าที่ต้องสูญเสียไป ตอนที่3
ต่อให้เราพยายามอย่างไรเราไม่สามารถดื่มน้ำเพียงวันละ 1,600 cc แล้วจะเพียงพอ นั่นหมายถึงไตเราจะต้องทำงานหนักตลอดเวลา เพื่อทำให้ปัสสาวะเราเข้มข้น ผ่านไปนานๆจะทำให้มีปัญหาได้ เช่น นิ่วในไต ในกรวยไต นิ่วในท่อไต เป็นต้น หรือ ปัญหาต่างๆในแง่การขาดน้ำ ร่างกายก็พยายามจะเก็บน้ำไว้ก็ไม่มีให้เก็บ กินเข้าไปทำไหร่ก็ออกไปหมดเลย ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการดื่มน้ำปริมาณ 2 ลิตรต่อวันถ้าเราหลงป่า แล้วเราดื่มน้ำปัสสาวะตัวเองได้หรือไม่ อย่างที่กล่าวมาข้างต้น หากร่างกายเราต้องการสงวนน้ำ ก็จะทำให้ปัสสาวะเข้มข้นมากๆ แต่จะสงวนอย่างไรก็ต้องขับสารเป็นพิษออกมาจากร่างกายด้วย ปัสสาวะของเราก็จะเข้มข้นสูงสุดถึง 1,200 mOsm/L หากเราดื่มเข้าไป เลือดเราจากที่มีความเข้มอยู่ที่ 290 mOsm/L ก็จะกลายเป็น 300 หรือ 3ร้อยกว่า ร่างกายก็จะเกิดปัญหา พอร่างกายมีความเข้มข้นในเลือดสูงมากขึ้น แสดงว่ามี osmol ที่จะต้องขับมากขึ้น เราก็จะยิ่งหิวน้ำเพื่อเอามาขับของเสียที่เราดื่มปัสสาวะเข้าไปตอนที่4
เช่นเดียวกันกับหากเราไปหลงในทะเล เราก็ไม่ควรดื่มน้ำทะเล ด้วยเหตุผลคล้ายๆกัน เพราะทะเลทั่วๆไปความเข้มข้นของเกลือ หรือ โซเดียมจะอยู่ที่ 3.5% แต่น้ำเกลือที่ใช้ในโรงพยาบาลเข้มข้นเพียง 0.9% (ซึ่งจริงๆเข้มข้นกว่าในเลือดของเรานิดนึงด้วย) หรือ เข้มข้นกว่าน้ำเกลือที่ให้ทางเส้นเลือดถึง 4 เท่าและอาจจะเข้มข้นกว่าร่างกายเราถ้าเราท้องเสีย หรือ อยู่ในภาวะเหนื่อยหอบ มีไข้ ร่างกายจำเป็นจะต้องระบายความร้อนทางผิวหนังเพิ่มขึ้น เราก็ต้องให้น้ำเพิ่มขึ้นด้วยแล้วเราดื่มน้ำได้ มากที่สุดเท่าไหร่ เมื่อร่างกายเราขับน้ำออกมา จะต้องมี osmol ออกมาด้วยเสมอ ด้วยความเจือจางที่สุดจะต้องมี osmol ปนออกมาอย่างน้อย 50 mOsm/L นั่นหมายถึง ถ้าเจือจางที่สุดที่สามารถปัสสาวะออกมาได้คือ 12 ลิตร ในแต่ละวัน แต่อาจจะมากกว่านั้นเพราะร่างกายเราสามารถขับออกทางผิวหนัง ทางเดินหายใจ ทางเดินอาหาร อาจจะถึง 13-14 ลิตร แล้วแต่ร่างกายบางคนอาจรับได้ถึง 17-20 ลิตรก็เป็นได้ แต่ไม่จำเป็นต้องกินมากขนาดนั้น ปัญหาคือ ถ้าเรากินแบบนี้นานๆจะทำให้ร่างกายเรามีความเจือจางมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วจะทำให้ร่างกายเกิดปัญหาได้ตอนที่5
ปัญหาหลักๆที่เกิดน้ำเกิน-น้ำขาด ก็คือ โซเดียม ซึ่งโซเดียมมีหน้าที่เป็นสารสื่อประสาท ถ้าสูงหรือต่ำไปก็ไม่ดี อาจทำให้มีปัญหาทางสื่อประสาทได้ เช่น เห็นภาพหลอน งง เบลอ ชามือ ชาเท้า ชัก หมดสติ ช๊อคได้ นี่จึงเป็นที่มาว่า ทำไมเราถึงควรดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร ไม่จำเป็นต้องเป็นน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียว อาจปนมากับอาหาร น้ำอย่างอื่นก็มีน้ำเป็นส่วนประกอบ หากวันหนึ่งที่เราสามารถได้น้ำ 2 ลิตร ก็ค่อนข้างจะปลอดภัยตอนที่6
น้ำที่ออกจากร่างกายต่อวันหายใจ 400มลอุจจาระ 200 มลผิวหนัง 500 มลปัสสาวะ อีกอย่างน้อย 500 มลรวมแล้ว 1,600 มล 🔎เราควรดื่มน้ำมากกว่า 1.6 ลิตร ต่อวัน คือมากกว่า น้ำขวดใหญ่ 1 ขวด ค่ะ แต่นี่คือขั้นต่ำ ดังนั้น 📌คุณหมอแนะนำว่าควรดื่มน้ำ 2 ลิตรต่อวันค่ะ
ขอบคุณค่ะคุณหมอ เพิ่งรู้ค่ะว่าเราสูญเสียน้ำไปจากการหายใจ การพูด ร้องเพลง ทางอุจจาระ และทางผิวหนังคือเหงื่อ ซึ่งขึ้นอยู่กับความชื้นในร่างกาย อีกทางคือทางปัสสาวะ ซึ่งควบคุมได้ทางไตของเรา การที่ร่างกายขาดน้ำมีความสำคัญในการขับน้ำออกจากร่างกาย ซึ่งต้องมีน้ำเป็นส่วนประกอบ จึงต้องดื่มน้ำเกิน 1,600 มิลลิลิตรต่อวัน เพื่อป้องกันปัสสาวะเข้มข้น เกิดนิ่วในไตได้ ควรมีน้ำเหลือใช้เพื่อให้ไตทำงานได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตามการดื่มน้ำเกินหรือขาดมีปัญหากับโซเดียมมีผลกับการชาตามมือ เท้า การมีโรคต่าง ๆ ในร่างกาย และที่สำคัญเพิ่งรู้ว่าการพูด การร้องเพลง การหายใจ ก็มีส่วนทำให้ร่างกายต้องสูญเสียน้ำค่ะ ขอบคุณคุณหมอมากค่ะที่ทำให้เข้าใจว่าทำไมเราต้องดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร ขอให้คุณหมอและน้องโรซี่มีความสุขมาก ๆ นะคะ ขอบคุณมากค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ🙏🏻 #หมอแทน #ทำไหมต้องดื่มน้ำวันละ2ลิตร ส่วนตัวจะดื่ม เกิน 2 ลิตร ถ้ารวมน้ำที่อยู่ในอาหารด้วยก็น่าจะมากกว่า แต่ก็ขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่ทำในแต่ละวันด้วยค่ะวันนี้ได้ทราบเหตุผลที่ต้องดื่มวันละ2ลิตร ที่เข้าใจมาคือคิดเองสูญเสียน้ำทางเหงื่อ ปัสสาวะ ไม่คิดว่าการหายใจ การพูดก็เสียเหงื่อด้วยเยอะเหมือนกัน รู้แต่ว่าถ้าวันไหนเหงื่อออกเยอะ เช่น ออกกำลังกาย ตอนเล่นแบดมินตัน เหงื่อจะออกเยอะมาก มาก มีเพื่อนที่เล่นด้วยกันเหงื่อเยอะมากเปียกทั้งชุดเหงื่อหยดไหลเป็นทางเลยเลอะคอร์ดจนต้องเช็ดก่อนเล่นไม่ได้ต้องเปลี่ยนชุดใหม่แล้วก็จะกินน้ำกันเยอะ มากๆ เลยค่ะ เหมือนออกเยอะต้องเอาเข้าเยอะ💧ร่างกายเราสูญเสียน้ำต่อวัน💧💧ทางเดินหายใจ การหายใจ การพูด ต่อวันประมาณ 400มล💧ทางผิวหนังอาจเป็น เหงื่อ หรือระเหยไปเลยไม่เห็นเป็นเหงื่อก็ได้ เฉลี่ยวันละ 500 มล ถ้าอยู่บนเครื่องบิน หรือที่สูง ความกดอากาศต่ำแรงดันน้ำจะดันน้ำออกจากร่างกายมากจะทำให้สูญเสียน้ำมากกว่าปกติ จึงต้องดื่มน้ำมากกว่าปกติ💧ทางอุจจาระ เฉลี่ยประมาณ 200 มล💧ทางปัสสาวะ อย่างน้อย 500 มลสรุปรวมน้ำเราสูญเสียต่อวันประมาณ 400+500+200+500= 1,600มล เราจึงควรที่จะดื่มน้ำมากกว่า 1,600 มล เหตุผลทำไหมเราต้องดื่มวันละ 2 ลิตร
ได้คำตอบชัดเจนแล้วค่ะ ควรดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร ซึ่งรวมทั้งน้ำเปล่า และน้ำที่อยู่ในอาหารด้วย #เมื่อไรที่เรารู้สึกกระหายน้ำมาก ๆ ก็น่าจะแสดงว่าร่างกายเราขาดน้ำอย่างรุนแรงนะคะ ร่างกายจึงส่งสัญญาณให้เราดื่มน้ำเข้าไปนะคะ #ขอบคุณอาจารย์มากค่ะ🥰
สวัสดีค่ะ คุณหมอแทนเหตุผลเป็นเช่นนี้นี่เอง ขอบคุณค่ะคุณหมอ ที่นำมาอธิบาย เช่นนั้นแล้ว ถ้าตื่นนอนแล้วดื่มแก้วที่1-2 แก้วที่3(8.00) 4(10.00) 5(12.00) 6(14.00) 7-8(16.00) 9(18.00) แก้วที่10(20.00) ~2ลิตรน่าจะได้😁นะคะ
การดื่มน้ำน้อยเกินไปอาจเกิดผลเสียต่อร่างกาย ดังต่อไปนี้ 🔹ไตทำงานหนักขึ้น และปัสสาวะมีสีเข้ม เพราะน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย🔹มีโอกาสติดเชื้อทางเดินปัสสาวะส่วนล่างได้ง่าย🔹มีสารก่อนิ่วตกตะกอน อาจป็นเหตุของโรคนิ่วได้🔹ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ 🔹ปวดข้อ กระดูกอ่อนในหลายๆ ส่วนของร่างกาย🔹เป็นริดสีดวงทวาร🔹สมองเสื่อม 🔹ปากแห้ง ตาแห้ง ผิวแห้ง🔹เหนื่อยล้าง่าย เซื่องซึม
สำหรับท่านใดที่ดื่มน้ำน้อย และอยากฝึกนิสัยที่ดีให้แก่ตนเองในการดื่มน้ำ ขวดน้ำยักษ์ที่มีปริมาตรและประโยคให้กำลังใจในการดื่มน้ำเขียนไว้ข้างขวดช่วยได้นะคะ 🤓เมื่อก่อนดื่มน้ำน้อย แต่ตอนนี้ใช้วิธีจิบบ่อยๆระหว่างวันจากขวดน้ำของตัวเอง มันจะมีปริมาตรเขียนไว้ ทำให้สามารถนำไปตอบคุณหมอได้ว่าในหนึ่งวัน เราดื่มน้ำเปล่าประมาณเท่าไหร่จากคนที่ไม่ค่อยดื่มน้ำเปล่า ดื่มกาแฟเป็นหลัก ตอนนี้ดื่มน้ำเปล่าประมาณ 3-4 ลิตรต่อวันโดยไม่รู้สึกฝืนค่ะ (ที่ดื่มน้ำเปล่าเยอะก็เพราะว่าดื่มกาแฟเยอะเช่นกัน555)
ขอขอบคุณ
น้ำเปล่า..ชา..กาแฟ..น้ำผลไม้..โซดา..ทานเป็นประจำทุกวันค่ะคุณหมอ..ผสมๆกัน..แต่ให้เค้าลดหวานลง..ตอนนี้ชอบทานพวก sparkling apple juice..อร่อยดีค่ะ..!!บางช่วงบ้าสับปะรด..ส้ม yuzu..แล้วแต่ว่าช่วงไหนอยากทานอะไร..มันหอมๆดีค่ะ..ตอนนี้มีออกมาใหม่สุดของ starbucks..honey ruby grape fruit coldbrew..อร่อยค่ะคุณหมอ..เค้าใช้ส่วนผสมเข้ากันดีนะคะน่าจะใส่กาแฟด้วยนิดนึงหอมดีค่ะ..!!ก็ไม่รู้วันนึงทานน้ำได้ถึง 2 ลิตรหรือเปล่า..น้ำเปล่าจะทานเยอะเป็นบางวันค่ะถ้าวันไหนทานเค็มมากๆ...🐯🦝😁
(ส่วนที่ 1)🌟หัวข้อวันนี้น่าสนใจมากเลยค่ะ 🙏ขอขอบคุณอาจารย์หมออย่างยิ่งค่ะ ที่ได้มาให้ความรู้ และทำให้เข้าใจอย่างกระจ่างเลยค่ะว่า ทำไมถึงต้องดื่มน้ำเยอะๆ และควรจะดื่มน้ำแค่ไหนในแต่ละวัน ทำไมเราต้องดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร❓ร่างกายของคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบเป็นส่วนมาก แต่เมื่ออายุมากขึ้น จะถูกทดแทนด้วยไขมันเป็นส่วนใหญ่ ปริมาณน้ำในร่างกายก็จะลดลง โดยเฉพาะผู้หญิง สัดส่วนของไขมัน ต่อ น้ำในร่างกายจะสูงกว่าของผู้ชาย *️⃣แล้วควรดื่มน้ำมากน้อยแค่ไหนต่อวัน❓ร่ายการมีการสูญเสียน้ำทุกวัน เมื่อมีการสูญเสียออกไปแล้วไม่เอาน้ำกลับเข้ามาทดแทน ร่ายกายก็จะขาดน้ำไปเรื่อยๆ ก็จะส่งผลทำให้เกิดปัญหาต่อร่างกายหลายอย่าง*️⃣สูญเสียน้ำจากทางใดได้บ้าง➡️1 ทางการหายใจ การพูด จะมีการสูญเสียน้ำไปในทางเดินหายใจ วันละประมาณเฉลี่ย 400 มิลลิลิตร➡️2 ทางอุจจาระ หรือทางลำไส้ใหญ่ น้ำโดยเฉลี่ยในนั้นประมาณ 200 มิลลิลิตร➡️3 ทางผิวหนัง ออกมาในรูปของเหงื่อ หรือเป็นการระเหยไปเลย โดยเฉลี่ยเสียน้ำทางผิวหนังประมาณวันละ 500 มิลลิลิตร➡️4 ปัสสาวะ ร่ายกายจะมีกระบวนการสลายสารอาหารต่างๆและมีสมดุลเกลือแร่อยู่ ซึ่งร่างกายต้องรักษาสมดุลเกลือแร่ทั้งหมดไว้ให้ได้ คำหนึ่งที่ต้องรู้จักคือ Osmolarity เป็นคุณสมบัตรของเหลวในร่างกายอย่างหนึ่งที่มีความเข้มข้นและพยายามที่จะดึงเอาน้ำมาสู่ตัวเอง Osmolarity ในร่างกายของเราจะต้องมีค่าคงที่ค่าหนึ่ง ถ้าสูงเกินไปก็แปลว่ามันดึงน้ำเข้ามาไว้ตรงบริเวณนั้นเยอะๆ ซึ่งไม่ดี แต่ถ้ามันต่ำจนเกินไปมันก็จะปล่อยน้ำทิ้งไปที่อื่นหมด ซึ่งก็ไม่ดีเช่นกัน
(ส่วนที่ 2)🩸เลือดของเราจะมี Osmolarity อยู่ที่ประมาณ 290 mOsm/L (milliosmole/liter) จะมีโรคบางโรคที่ทำให้ค่านี้สูง/ต่ำ ที่ไม่เหมือนกัน ปัสสาวะ ของคนเรา จะควบคุม ความเข้มข้นของ Osmolarity ได้โดยไตของเรา และไตก็จะตอบสนองต่อฮอร์โมนชนิดต่างๆ ในร่างกาย เช่น ฮอร์โมน ADH (Antidiuretic Hormone) และมีอีกชื่อหนึ่งคือ Arginine Vasopressin (AVP หรือ Vasopressin) ฮอร์โมนตัวนี้ไปช่วยในการทำให้เส้นเลือดของเรามีการหดตัว มีตัวอื่นๆอีกเช่น BNP (Brain Natriuretic Peptide) หรือ ANP ทั้งหมดทั้งมวลคือทำให้ไตมีความสามารถในการสร้างปัสสาวะที่มีความเข้มข้นได้แตกต่างกัน แต่ไตก็มีความสามารถที่จำกัดคือ ทำให้ปัสสาวะเข้มข้นสูงสุดได้ที่ 1200 mOsm/L คือถ้าเราขาดน้ำมากๆ ปัสสาวะจะออกมาเข้มข้นสูงสุดที่ 1200 mOsm/L *️⃣ตัวเลขนี้มีความสำคัญอย่าง❓ปกติแล้วร่างกายจะมีการสร้าง Osmolarity ออกมาจากที่ต่างๆ เช่น โซเดียมที่กินเข้าไป โพแทสเซียมที่กินเข้าไป หรือพวกการสลายพวกโปรตีนต่างๆ จะทำให้เกิดยูเรีย ขึ้นมาในร่างกายเรา ทั้งหมดนี้เป็นส่วนประกอบ ทำให้เกิด Osmolarity ขึ้นมา แต่ร่างกายจะต้องขับทิ้งออกไป แต่ละวันจะขับทิ้งประมาณ 600 mOsm ต่อวัน ร่ายกายจะไม่สามารถขับทิ้งเฉพาะ Osmolarity เปล่าๆได้ ต้องนี้น้ำเป็นส่วนประกอบเท่านั้น ไตสามารถขับปัสสาวะได้เข้มข้นที่สุด 1200 mOsm/L ถ้าเรามี 600 mOsm ให้ขับทิ้งออกไป ก็ต้องใช้ 500 มิลลิลิตร เพราะฉะนั้น เราสูญเสียน้ำทางผิวหนัง 500 มิลลิลิตร ทางเดินหายใจ 400 มิลลิลิตร และทางอุจจาระอีก 200 มิลลิลิตรรวมกัน 1100 มิลลิลิตร ถ้าบวกกับที่ขับทิ้งอีก 500 มิลลิลิตร ก็จะได้เป็น 1600 มิลลิลิตร ไม่ว่าจะมีการขาดน้ำอย่างเต็มที่อย่างไรเราก็จะมีการสูญเสียน้ำปริมาณเท่ากับ 1600 มิลลิลิตร ออกไปทุกวัน ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดก็คือเราจะต้องดื่มน้ำให้มากกว่า 1600 มิลลิลิตรต่อวัน แต่นี่เป็นการยกตัวอย่างแบบสุดโต่ง หมายความว่าถ้าเราไม่ได้ดื่มน้ำอะไรเข้าไปเลย ปัสสาวะเราเข้มข้นมากที่สุดได้เท่าไหร่ ถ้าเราไม่ปัสสาวะเลยไม่ได้ เพราะว่าถ้าเราไม่ปัสสาวะออกมาเลย สิ่งต่างๆซึ่ง เป็นของเสียเช่น ยูเรีย พวกกลุ่มที่เป็นโซเดียมโพแทสเซียม หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เรารับประทานเข้าไปมันจะไปคั่งอยู่ในร่างกายของเรา ก็จะทำให้ร่างกายของเราทำหน้าที่ผิดปกติไป ดังนั้นจึงมีเหตุผลที่ร่างกายจะต้องขับมันออกมาและขับมันออกมาเปล่าๆไม่ได้ต้องมีน้ำตามออกมาด้วยเป็นปัสสาวะ ดังนั้น จึงเป็นที่มาของการ เสียน้ำไปทางปัสสาวะ ดังนั้นโดยรวมแล้วก็คือ 1600 มิลลิลิตร ที่ต้องใช้ในแต่ละวันแต่เราไม่สามารถดื่มน้ำได้แค่ 1600 มิลลิลิตรต่อวันแล้วทุกอย่างจะดี นั่นเป็นเพราะว่าไตของเราต้องทำงานหนักตลอดเวลา ทำให้ปัสสาวะเข้มข้นตลอดเวลา ผ่านไปนานๆ ก็จะมีปัญหาได้ เวลาปัสสาวะเข้มข้นมากๆนานๆ ก็จะทำให้เกิดนิ่ว เป็นนิ่วในไต นิ่วในกรวยไต นิ่วในท่อไต หรือว่ามีปัญหาต่างๆในแง่ของการขาดน้ำ ร่ายกายก็พยายามเก็บน้ำไว้แต่ไม่มีให้เก็บ เข้ามาเท่าไหร่ก็ออกไปหมดเลย ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลให้ดื่มน้ำเกิน 1600 มิลลิลิตร ก็เลยเป็น ที่มาของการดื่มน้ำ 2 ลิตร/วัน เกินมา 400 มิลลิลิตรเพื่อให้มีเหลือมีใช้บ้าง ก็จะสามารถช่วยให้ไตทำงานได้ดีขึ้น
(ส่วนที่ 3)*️⃣ถ้าเราไปหลงป่า แล้วเราไม่มีน้ำดื่มจริงๆ เราดื่มน้ำปัสสาวะตัวเองได้หรือเปล่า❓เมื่อร่างกายขาดน้ำปัสสาวะของเราก็จะเข้มข้นมากๆ เพื่อที่จะพยายามสงวนน้ำไว้ในร่างกายของเรา แต่ยังไงก็ต้องปัสสาวะออกมา เพราะมันต้องขับสารที่ เป็นพิษต่อร่างกายออกมาด้วย พอมันขับออกมาแล้ว ปัสสาวะของเราก็จะมีความเข้มข้นที่สูงมาก 1200 mOsm/L และเมื่อเลือดเราความเข้มข้นอยู่ที่ประมาณ 290 mOsm/L ถ้าดื่มน้ำปัสสาวะที่มีความเข้มข้น 1200 mOsm/L ถ้าเอาเข้าไปในเลือด ก็จะเกิดความเข้มข้นที่สูงขึ้น mOsm ในร่างกายของเราก็จะสูงขึ้น แทนที่จะเป็น 290 อาจจะเป็น 300 ถึง 300 กว่า พอร่างกายมีความเข้มข้นในเลือดสูง มากๆ ก็แปลว่ามีสารพิษ osmole ที่จะต้องขับออกไปให้มากขึ้น แทนที่ปกติจะมี 600 mOsm อาจจะเป็น 800 หรือ 1000 คือถ้าท่านดื่มปัสสาวะของตัวเองเข้าไป จนมี 1200 mOsm ที่ต้องขับ ก็แสดงว่าท่านต้องปัสสาวะออกมา 1 ลิตร ถ้าไม่ทันยิ่งเสียน้ำเข้าไปใหญ่ ดังนั้นท่านก็จะยิ่งหิวน้ำมากขึ้น ร่างกายเราจะบ่งบอกว่า ต้องการน้ำเพิ่มขึ้นเพราะว่า เราต้องไปขับของเสียที่เรากินเข้าไปเองเพิ่มขึ้น*️⃣ก็เช่นเดียวกับที่ไปหลงในทะเล แล้วจะดื่มน้ำทะเลได้ไหม❓คำตอบคือ ไม่ได้ ยิ่งดื่มก็จะยิ่งหิวน้ำเพราะว่า ปริมาณเกลือแร่ในน้ำทะเลสูงมาก ถ้าเป็นทะเลโดยทั่วๆไป ความเข้มข้นของโซเดียมหรือ ว่าเกลือทั่วๆไป จะอยู่ที่ประมาณ 3.5% น้ำเกลือที่เราปกติให้กันในโรงพยาบาลที่เป็นน้ำเกลือเปล่าๆจะอยู่ที่ 0.9% และ 0.9% นี้ก็สูงกว่าในเลือดของเราด้วย แปลว่าจะทานดื่มน้ำทะเลเข้าไป ช่วงที่ท่านขาดน้ำ ก็จะยิ่งทำให้ร่างกายของท่าน มีความหิวน้ำเพิ่มขึ้น ต้องการน้ำเพิ่มขึ้นเพื่อที่จะเอาไปขับเกลือแร่ที่ได้รับเกินไปออกมา ทางปัสสาวะอีกรอบหนึ่งภาวะอื่นที่จะต้องดื่มน้ำเข้าไปมากขึ้นเช่น▶️1 ถ้าท่านมีท้องเสีย▶️2 มีการหายใจเหนื่อยหอบ▶️3 มีไข้ ร่างกายต้องการระบายความร้อนผ่านทางเหงื่อ ผ่านทางผิวหนังเพิ่มขึ้น
(ส่วนที่ 4)*️⃣ดื่มน้ำได้มากที่สุดแค่ไหน❓คิดมาจากอะไร❓คำตอบคือ คิดมาจากความเข้มข้นของปัสสาวะ เวลาที่เราได้รับน้ำเกินเข้าไปในร่างกาย ร่างกายก็จะขับน้ำที่เป็นส่วนเกินออกมาข้างนอก ยังไงก็ต้องมี osmole ปนมาอยู่ดี โดยร่างกายเราทำปัสสาวะให้เจือจางมากที่สุด ได้อยู่ที่ 50 mOsm/L ในแต่ละวันจะมีประมาณ 600 mOsm ที่ต้องขับทิ้ง และถ้าท่านขับออกมาได้เจือจางที่สุดคือ 50 mOsm/L จะขับ 600 mOsm/L ออกหมดได้ก็จะใช้น้ำประมาณ 12 ลิตร จริงๆแล้วอาจจะอยู่ที่ 13-14 ลิตร แต่ว่าความสามารถของร่างกายของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน อาจจะทำได้มากกว่านั้นอาจจะ 17 ถึง 20 ลิตร แต่ไม่มีความจำเป็นจะต้องไปดื่มมากขนาดนั้น เพราะปัญหาก็คือถ้าเราดื่มมากขนาดนี้นั่นนาน ก็จะทำให้ร่างกายเรามีความเจือจางมากขึ้นเรื่อยๆแล้วก็จะเกิดปัญหาต่อร่างกายได้ ปัญหาหลักๆเมื่อเรามีภาวะน้ำเกินกับน้ำขาด เกลือแร่ชนิดหนึ่ง ซึ่งมีปัญหามากที่สุดก็คือ โซเดียม มีหน้าที่ในการสื่อสารสื่อประสาทของเรา ถ้าสูงเกินไปก็ไม่ดี ต่ำเกินไปก็ไม่ดีเช่นกัน ทางเดินสื่อประสาทของเราจะมีปัญหาต่ำหรือสูงไปก็จะมีอาการทางระบบประสาท เช่นเห็นภาพหลอน มือชา เท้าชา จนถึงขั้นหมดสติชักได้ และเสียชีวิตได้เวลาที่โซเดียมมีความผิดปกติมากๆ✳️นี่คือที่มาของการที่เราควรจะดื่มน้ำประมาณวันละ 2 ลิตร โดยน้ำ 2 ลิตรนี้ไม่จำเป็นจะต้องเป็นน้ำเปล่าอย่างเดียว เช่นในอาหารก็มีน้ำเป็นส่วนประกอบ🛑จะมีโรคบางโรคซึ่งไม่สามารถจะได้น้ำมากขนาดนี้คือ 🔺ถ้าคนไหนมีไตวาย การได้น้ำมากเกินไปก็จะมีปัญหา เพราะไม่สามารถขับน้ำออกไปได้ ก็จำเป็นต้องลดปริมาณน้ำลง และจะต้องลด osmole คือสิ่งที่ร่างกายต้องขับทิ้ง เช่นแต่ท่านทานเค็มเข้าไปเยอะๆ ร่างกายจะต้องไปเอาปัสสาวะไปขับทิ้งออกมา แต่เนื่องจากไตของท่านเสียไปแล้ว ขับออกมาไม่ได้ ก็จะปัญหาเรื่องเกลือแร่ที่คั่งอยู่ในร่างกาย🔺 ถ้ามีหัวใจวาย หัวใจบีบเลือดออกไปเลี้ยงไตไม่ได้ ไตก็จะวายตามมา ร่างกายขับน้ำออกไปไม่ได้ร่างกายก็จะมีน้ำเกิน ในกรณีนี้ก็ต้องงดน้ำลง🔺 คนที่มีปัญหาไฮโปไทรอยด์ ไทรอยด์ทำงานต่ำผิดปกติ ร่างกายก็จะเก็บน้ำไว้ในร่างกายก็จะมีปัญหาอีก🔺 ยาบางอย่าง ก็จะทำให้เก็บน้ำไว้ในร่างกายเพิ่มขึ้น🔺 บางโรคก็ต้องงดเฉพาะน้ำเปล่าๆ แต่ทานน้ำที่มีเกลือแร่ปน คือโรค SIADH
👍👍❤️♥️ สุดยอดซุ่มอ่ะ หยอกๆ 😆
ลองตามสูตรนี้ ก็ได้ค่ะไม่ยาก และไม่ได้มากเลยจริงๆ ค่ะ1. หลังตื่นนอน และก่อนนอน (รวม 2 แก้ว * 250 cc)2. ระหว่าง (ก่อน) มื้ออาหาร 3 มื้อ (3)3. ระหว่าง (หลัง) มื้ออาหาร 3 มื้อ (3)แค่นี้ ก็ได้อย่างต่ำ 8 แก้ว * 250 cc. รวม 2 ลิตร/วันแล้วค่ะ ไม่นับที่จะคอแห้ง หากใช้เสียงมาก, หรือให้ช่วยความรื่นคอ ขณะรับประทานอาหาร, และกระหาย หากสูญเสียเหงื่อ หรืออากาศร้อน และที่ได้จากอาหาร ผัก และผลไม้เพิ่มเติมเมื่อก่อน ดื่มน้ำน้อยมาก พอไปบริจาคเลือด ซึ่งต้องดื่มน้ำก่อนบริจาค 3-4 แก้ว* 200 cc. และควรดื่มต่อวัน ให้ได้วันละ 2 ลิตร เพื่อการสร้างชดเชยและบำรุงรักษาระบบเพื่อการสร้างเม็ดเลือดที่ดี เลยทำให้ต้อง "ฝึก" การดื่มน้ำวันละ 2 ลิตรไปโดยปริยาย และทำให้ สามารถบริจาคเลือด ได้ทุก 3 เดือนอย่างสม่ำเสมอค่ะ ตั้งขวดน้ำ 1.5 ลิตร 2 ขวด ใกล้ตัวดื่มเรื่อยๆ ทีละน้อย อย่ายกดื่มรวดเดียวทั้งแก้ว หรือทีละมากๆ .. ไตจะขับทางปัสสาวะเสียหมด จะทำให้ไตทำงานหนักเกินไปได้ค่ะ
สวัสดีค่ะคุณหมอธนีย์บางครั้งคนเราก็ลืมนึกถึง ความสำคัญของน้ำที่มีต่อร่างกาย จนอาจเกิดภาวะการขาดน้ำ คุณหมออธิบายถึงสาเหตุดารขาดน้ำ และปริมาณที่ร่างกายต้องการน้ำในแต่ละวัน อย่างละเอียดและเข้าใจง่าย การดื่มน้ำให้เพียงพอเป็นสิ่งจำเป็นมากSIADH เป็นภาวะโซเดียมในร่างกายต่ำ จากน้ำที่เกินเข้ามาในกระแสเลือด เข้าใจยากจริงค่ะขอบคุณมากค่ะ ขอให้คุณหมอและครอบครัว มีสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัย และมีความสุขนะคะ
คุณมนต์ดื่มวันละ 2 ลิตรไหมคะ หรือมากกว่านั้นคะ
@@FragranzaTrippa ดื่มน้ำเยอะค่ะวันละ 2-3 ลิตรค่ะ ขอบคุณมากนะคะ คุณทริปป้า ⚘💙⚘
@@boomsong5729 ดื่มพอๆกันเลยค่ะ
คุณหมออธิบายละเอียด ชัดเจนมากคะ ทำให้ต้องกลับมาเช็คตัวเองด้วย ขอบคุณคุณหมอมากคะ ทำคลิปดีๆ มีสาระประโยชน์จริงๆคะ
ขอบคุณความรู้ที่คุณหมอ นำมาบอกกล่าวมากค่ะ.. ยิ่งฟังคุณหมอพูด ..ยิ่งรู้สึกผิดในการดูแลสุขภาพมาก ...ต้องรีบเปลี่ยนวิธีการดูแลสุขภาพ เพิ่มละค่ะ..น้ำปล่าวดื่มน้อยมากกก..ดื่มตอนกินวิตามิน..และก่อนนอน ...กับตื่นนอนเท่านั้นค่ะ..น่าจะไม่เกิน 800 มล.น้อยมาก..เพราะชอบดื่มแต่ น้ำผึ้งโซดามะนาว..
คุณหมอ คือสงสัยอะไรคุณหมอทำคลลิปตลอดเลย ขอบคุณนะครับ มีประโยชน์มากๆ
ตอนนี้กำลังทำอยู่ค่ะหันมาดื่มน้ำจริงจัง ใส่ขวด 2ลิตรไว้แต่เช้าแล้วจิบไปเรื่อยๆ รู้สึกดี สดชื่น เวลาออกกำลังกาย แขนจะฉ่ำๆ และไม่มีกลิ่นปากยิ่งมาฟังจากคุณหมอ ยิ่งมีความรู้มากขึ้น ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ
ขอบคุณ มากค่ะ คุณ Dr.Tany. อธิบายได้น่าฟังมากที่สุด เคยสงสัยเรื่องนี้มานาน ดีใจที่ Dr.Tany ได้เข้ามาอธิบายให้ทราบค่ะ.
ชื่นชมคุณหมอมากๆค่ะเป็นข้อมูลที่ต้องการคำตอบค่ะ
ขอบคุณมากๆค่ะอ.หมอ👏👏👏 เข้ามาฟังคลิปย้อนหลังค่ะ อ.หมอ เก่งที่สุดค่ะ🙋🙋🙋
ขอบคุณค่ะ เข้าใจและได้ความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย สุขภาพของเรามากๆค่ะ
ขอบคุณอาจารย์หมอมากค่ะคลิปวันนี้ทำไมเราต้องดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร เรื่องน้ำๆวันนี้เป็นประโยชน์มากเลยค่ะ การหายใจก็ทำให้สูญเสียน้ำด้วย ปกติดื่มน้ำน้อยค่ะ เคยได้ยินเสมอว่าควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ8 แก้วค่ะ ถ้าเฉลี่ยแก้วละ200 cc. จำนวน 8 แก้วก็ประมาณ 1,600 cc. เป็นเป้าหมายที่ควรทำแล้วค่ะแค่เรื่องน้ำๆ มองข้ามไม่ได้แล้วค่ะ มาฟังอาจารย์หมออธิบายได้ความรู้ความเข้าใจมากกว่าในเน็ตทั่วไป ขอบคุณ อจ.หมอมากมายเลยค่ะ 🌷 🙏
ขอบคุณ คุณหมอมากๆ ค่ะ ฟังคุณหมอตลอดทุกคลิป ได้ความรู้ดีๆ โดยไม่มีแอบแฝง โฆษณาหรือขายของเลย ชื่นชมคุณหมอมากๆ ค่ะ
ขอบพระคุณอ.หมอให้ความรู้ดีๆเช่นเคยคะ และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันคะ
เพิ่งได้ติดตามคุณหมอค่ะได้ความรู้ เข้าใจได้ง่าย บางคลิปได้แง่คิดชีวิตเลยค่ะรู้สึกคุณหมอใช้เวลาในหนึ่งวันอย่างคุ้มค่าและมีคุณภาพมาก ๆนับถือค่ะ
ขอบคุณ คุณหมอค่ะ ตอนนี้ดื่มวันละสองลิตรกว่าค่ะ เดินวันละหมื่นกว่าก้าวค่ะ (เพราะเมื่อสองเดือนติดโควิดค่ะ)
ขอบคุณนะคะ ส่วนตัวก้จะดื่มน้ำให้ได้ประมาณ 2 ลิตรทั้งๆที่ถ้าคำนวณตาม นน แล้ว จะดื่มได้แค่ 1,200 นิดๆ ยิ่งได้ฟังเช่นนี้แล้วยิ่งมั่นใจว่าสามารถดื่มเกินได้🙏
สวัสดีค่ะคุณหมอแทน ตอนนี้หนูเป็นโควิดมา 3 วันแล้ว รักษาตัวมา 3 วันด้วยตัวเอง ด้วยสมุนไพร กับยาเม็ด รักษาตัวอยู่ที่บ้าน กินน้ำเยอะ ๆ ดีขึ้นมาก ๆ เลยค่ะ แนะนำสมุนไพรไทย ๆ ก็ดีเช่นกันนะคะ ช้าหน่อยแต่ยั่งยืนดีค่ะ นำมาต้มดื่มสดชื่นไปอีกแบบค่า ขอบพระคุณพี่หมอที่แนะนำในทุก ๆ คลิปนะคะ ตอนนี้ที่เป็นก็ดูคลิปคุณหมอตลอดในการปฏิบัติตัว และรักษา ป้องกันเชื้อไม่ให้แพร่ไปยังคนใกล้ตัวด้วยค่ะ ตอนนี้ก็พยายามไม่ใช้เสียงเยอะ ค่ะเพราะเป็นนักร้อง 555 อยากให้เสียงฟื้นฟูเร็ว ๆ จังค่ะ
หายไวไวน่ะค่ะ ป้าก็เคยผ่านมาแล้วเช่นกันสู้ๆๆลูกเดี่ยวก็ดีเองค่ะเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ✌️✌️✌️🥰
หายไวๆนะครับ ระหว่างนี้งดใช้เสียงไปก่อนมันจะหายไวขึ้นครับ
@@สวยอําไพแจ่มดี ขอบพระคุณมาก ๆ ค่ะคุณป้า ❤️ จะสู้ค่ะ ฮึง้าาาาา สุขภาพแข็งแรง ๆ นะคะ
@@DrTany ขอบพระคุณมาก ๆ ค่ะคุณหมอ ❤️ จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมให้ได้ค่ะ ไม่กลัวอยู่แว้ว ฮึง้าา 55
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับอาจารย์เป็นความรู้ในชีวิตประจำวันมากๆ จะนำไปให้ความรู้คนรอบข้างต่อๆไปครับ
คลิปนี้ซึ้งเลยค่ะ เพราะเคยมีภาวะขาดน้ำ ดูเป็นเรื่องธรรมดาแต่สำคัญมากจริงๆ ขอบคุณคุณหมอค่ะ
Goodmorning ค่ะคุณหมอแทน พูดเรื่องการดื่มน้ำ ก็ชอบเลยตอนที่บอกร้องเพลง😁😁ก็สูญเสียน้ำได้55จริงที่สุดค่ะ เพราะสังเกตตัวเอง พอร้องนานๆหลายเพลง เสียงเริ่มแหบ และคอแห้งมาก สังเกตน้องที่เค้าเปิดห้องปาร์ตี้สำหรับในแอ๊ป เค้าจะมีน้ำอยู่ข้างกายตลอด ร้องไปเค้าดื่มน้ำไปด้วยเป็นระยะๆสังเกตเค้าเสียงดีไม่ตกร้องติดต่อกันหลายเพลงเลยทำตามช่วยให้เสียงดีขึ้นจริงๆ และพี่อีกคนดื่มน้ำเยอะมากคนนี้ไม่ยอมดื่มน้ำเย็นเลยดื่มน้ำปกติบอกเสียงจะดี มีคำถามค่ะคุณหมอ 1)ตัวเองสังเกตว่าดื่มน้ำอัดลมบ้าง น้ำผลไม้ต่างที่ขาย อยู่บ้างที่ดื่มมากๆแล้วปัสสวะสีเข้ม คิดว่าต้องมีสารอะไรผสมแน่เลย อันนี้ขอความคิดเห็นค่ะ2)ก็ชอบดื่มน้ำมากๆ เชื่อว่าช่วยเรื่องผิวพรรณ แต่ผิวก็ยังแห้งนะคะ3)ทำไมพอดื่มน้ำมากในหน้าหนาวหรืออากาศเย็นเมื่ออยู่ในห้องแอร์บางทีเข้าห้องน้ำเป็นสี่ห้าครั้งในเวลาไม่ห่างกัน เลยตอนทำงานอยู่ ตอนนี้ปกติค่ะสงสัยจังค่ะ ขอบคุณนะคะคุณหมอ🙏⚘
ขอบคุณค่ะ น้ำสำคัญต่อร่างกายจริงๆ 💧ช่วงนี้ดื่มเยอะเหมือนกัน🤔 แต่ขี้เกียจวิ่งเข้าห้องน้ำน่ะค่ะ ยิ่งหน้าฝนด้วย… และความจุในกระเพาะปัสสาวะแต่ละคนไม่เท่ากันด้วยมั้งคะ (ปกติเหงื่อก็ไม่ค่อยออก ถ้าไม่ได้เล่นกีฬา ขนาดเล่นกีฬาเหงื่อยังออกน้อยเลย😅) ทราบค่ะ…หลงป่ายังไงก็ไม่ดื่ม😨ค่ะ …เคยดูสารคดีมีวิธีหาน้ำจากหลายแหล่งอยู่เหมือนกัน…🤩
อยากให้เล่าเกี่ยวกับโรค SIDH ค่ะ จะรอฟัง
ฟังคลิปนี้จบแล้วนึกถึงหนังสือเรื่อง Water: For Health, for Healing, for Life: You're Not Sick, You're Thirsty! ที่เคยอ่านช่วงม.ปลาย ตอนนั้นอ่านฆ่าเวลาพาคุณย่าไปพบหมอ แล้วก็ลืมเนื้อหาไปหมดแล้ว ช่วงนั้นจำได้ว่า เคยไปอ่านเกี่ยวกับผู้แต่งนส.เรื่องนี้ แล้วมีความเห็นประมาณว่าหมอท่านนี้มีความคิดไม่เหมือนใครที่เชื่อว่าแค่น้ำสามารถรักษาได้ทุกโรค อารมณ์เหมือนต่อต้านการใช้ยา เลยอ่านไม่จบเดี๋ยววันนี้จะลองกลับไปอ่านดูอีกทีค่ะ ว่ามันเขียนว่ายังไงบ้าง แต่อันดับแรกต้องเช็ดทำความสะอาดก่อน หนังสือเก่ามากกก เดี๋ยวภูมิแพ้ขึ้น 🤧
ตัวอย่าง ตื่น6.30ดื่ม2แก้วทานข้าว7โมง เว้นไป2ชั่วโมง9โมง1แก้วแล้วก็10และ11โมงหลังเที่ยงบ่าย2-3-4-5 ช่วงค่ำอย่าอัดมาก ได้ลุกฉี่กลางคืนข้อดีของการกินน้ำทั้งวันคือเลิกอยากของหวาน ของจุกจิก
คุณหมอคะ กรณีผู้ป่วยติดเตียง ใส่สายให้อาหารทางสายยาง ต้องการน้ำ กับสารอาหารอย่างไรคะ ขอบคุณค่ะ
ก่อนอื่นต้องถามหมอที่ดูแลตอนก่อนที่จะออกจาก รพ ครับ แต่ละคนมีความต้องการไม่เท่ากัน
@@DrTany ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณ คุณหมอมากค่ะ ได้ความรู้มากเลยค่ะ จะได้รู้สึกสำคัญว่า ทำไมต้องทานน้ำให้ได้เท่านั้นเท่านี้ เพราะแบบนี้นี่เอง ไล่ฟังคุณหมอทุกคลิปนะคะ ☺️💞
ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ เป็นเรื่องที่รู้ แต่ไม่เข้าใจที่มา และสาเหตุเลยค่ะ จนวันนี้ได้เข้าใจเสียที 👍👍👍👍
รบกวนสอบถามคุณหมอค่ะ แรงดันน้ำในโพรงสมองสูง (วัดค่าจากการเจาะน้ำในไขกระดูกสันหลังไปตรวจค่ะ) เกิดจากสาเหตุอะไรคะ และมีวิธีรักษาอย่างไรคะ ขอขอบพระคุณมากนะค่ะ
มีหลายสาเหตุครับ เช่น มีการอุดตันทางเดินน้ำในสมอง มีการสร้างที่มากผิดปกติ หรือมีการดูดซึมน้ำได้น้อยลงในโพรงสมอง การรักษาขึ้นกับสาเหตุครับ ถ้าแก้ไม่ได้ก็อาจต้องใส่สายระบายน้ำในโพรงสมองเข้าไปที่ช่องท้องหรือช่องหัวใจแทนครับ ตรงนี้ต้องสอบถามหมอที่รักษาครับ
ขอบคุณค่ะ ได้ความรู้มากมาย จะได้ดูแลตัวเองให้ดีขึ้น
ขอบคุณคะ ดีใจที่ คุณหมอมาให้ความรู้ ขอบคุณพระคุณอย่างสูงค่ะ พึ่งรู้ระบบร่างกายบนเครื่องบินคะ
สวัสดีคะ=ประเทศไทย ชุ่มช้ำมากๆคะรถติดมาก ขอบคุณคะคุณหมอ ตาก็ดื่มน้ำเยอะมากคะวันหนึ่งอาจะเกินหรือบางวันถ้าไม่ค่อยมีเวลาก็น้อยกว่าคะ แต่พยามดื่มน้ำให้เยอะคร่า.😊👍 ตาขอให้คุณหมอมีความสุข สุขภาพแข็งแรงและปลอดภัยนะคะ.🙏🇹🇭😷🌹💕
สะกดผิดๆ อะไรเยอะ
ขอบคุณค่าาคุณหมอ สำหรับคำแนะนำการดื่มน้ำที่เหมาะสมค่ะ 🤩- เนื้อหามีประโยชน์มากค่ะ คุณหมออธิบายละเอียด ฟังเพลินค่า 🙂 - คุณหมอพักดื่มน้ำค่าา 🍵🍒😃- ทิ้งท้ายด้วยสุภาษิตเกี่ยวกับน้ำนะค้าา..."น้ำร้อนปลาเป็น น้ำเย็นปลาสบาย....ย" 😆😆"สุขกาย สบายใจ ทุกท่านค่าาา..." 🌻🥰
สวัสดีคะ .ขอบคุณมากตะสำหรับความรู้ดีๆป้า ดื่มนำมากและทำให้ปัสสวะบ่อบมาก มีปัญหาไหมคะ
ข้อมูลจาก สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า _การดื่มน้ำมากเกินไป ทำให้เกิดภาวะน้ำเป็นพิษเสียชีวิตได้_ 🔊การดื่มน้ำนั้นเป็นสิ่งจำเป็น เพราะน้ำเป็นส่วนประกอบ 2 ใน 3 ของร่างกาย แต่หากดื่มน้ำมากเกินไปคือ _วันละ 6-7 ลิตร_ จะส่งผลให้ร่างกายได้รับน้ำปริมาณมากเกินไปในเวลารวดเร็วเกิดภาวะน้ำเกินหรือน้ำเป็นพิษ (Water Intoxication) ส่งผลให้ปวดศีรษะ ตะคริว ชัก หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง คลื่นไส้ อาเจียน บวม ส่งผลกระทบต่อเซลล์สมอง ซึ่งอาจอันตรายจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ 🔊นอกจากนี้ การดื่มน้ำมากเกินไป ทำให้ความเข้มข้นของแร่ธาตุโซเดียมลดลง การได้รับน้ำมากเกินกว่าอัตราการขับถ่ายของไตจะมีผลทำให้เกิดภาวะโซเดียมในเลือดต่ำหรือ _ไฮโปแนทรีเมีย (Hyponatremia)_ จะส่งผลให้มึนงง ความคิดสับสน หมดสติ ชักและอาจเสียชีวิตได้
@ FragranzaTrippa ขอบคุณมากนะคะ ⚘💙⚘
สวัสดีค่ะคุณหมอขอบพระคุณมากค่ะ💐
ความรู้เดิมๆ เราควรดื่มน้ำ 6-8 แก้วต่อวัน หรือ 1.5-2 ลิตร แต่ไม่ได้รู้ถึงที่มาที่ไป อาจารย์มาอธิบายในคลิปนี้ ทำให้รู้ถึงเหตุผลว่าทำไมเราต้องดื่มน้ำวันละ 2 ลิตรร่างกายเราสูญเสียน้ำทุกวัน ทางการหายใจ 400 มล. ทางผิวหนัง 500 มล. ทางอุจจาระ 200 มล. ทางปัสสาวะ 500 มล. โดยรวมแล้ว 1,600 มล. แต่เราจะดื่มน้ำแค่ 1,600 มล.ไม่ได้ เพราะจะทำให้ไตทำงานหนักตลอดเวลา ทำให้ปัสสาวะเข้มข้น ผ่านไปนานๆ จะทำให้เกิดปัญหาได้ เช่น นิ่วในไต นิ่วในกรวยไต นิ่วในท่อไต หรือร่างกายขาดน้ำได้ จึงเป็นเหตุผลให้ดื่มน้ำเกิน 1,600 มล. ก็เลยเป็นที่มาของการดื่มน้ำ 2 ลิตรต่อวัน เกินมา 400 มล. เพื่อให้มีเหลือใช้บ้าง ช่วยให้ไตทำงานได้ดีขึ้นมาถึงตรงนี้ทำให้คิดไปเองเลยว่า ไตของดิฉันคงจะแย่แน่แล้ว 😓😥 เพราะเป็นคนที่ดื่มน้ำน้อยมากๆ น้อยที่สุดในปฐพีหรือเปล่า 😂😂 มีใครดื่มน้ำน้อยเหมือนดิฉันบ้างไหม มาเป็นเพื่อนกัน 😆😅 ใน 1 วัน น้ำเปล่าขวดเล็ก 600 มล. ยังดื่มไม่หมดเลยค่ะ ดิฉันอ้างไปที่ลักษณะการทำงานที่เร่งรีบ ไม่สามารถที่จะปลีกตัวไปดื่มน้ำ เข้าห้องน้ำได้เลยตั้งแต่เช้าถึงเที่ยง เป็นเช่นนี้ประจำ แต่ก็คิดอยู่ตลอดว่าจะทำอย่างไรดีให้เราดื่มน้ำได้เยอะๆ ขอบคุณค่ะอาจารย์สำหรับคลิปนี้ สำคัญกับดิฉันมากๆ ค่ะ คงต้องมาจัดการกับตัวเองอย่างจริงจังแล้ว ทำยังไงดีจะดื่มน้ำได้เยอะๆ เห็นอาจารย์ตอบในเม้นว่า "ดื่มน้ำน้อยต้องแก้ที่นิสัยก่อน" ดิฉันนี่นิสัยไม่ดีเอาซะเลย 😂😂 โอเคค่ะ ต่อไปจะพยายามทำนิสัยให้ดีๆ นะคะ 😁ปล. ดิฉันได้อ่านเม้นที่อาจารย์ตอบคำถาม ชอบมากๆ ค่ะ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ควรพลาดอาจารย์เน้นตลอด เช่น การทำความสะอาดหลังเข้าห้องน้ำ ให้เช็ดจากหน้าไปหลัง สุดยอดค่ะ 👍
☺️💕👍👍
@@Hoshi1451 น้องกุ้งดื่มน้ำเยอะป่าววว
@@maneeann ไม่เยอะค่ะ บางทีขวดเล็กยังไม่หมดเลย 😅 มาฟังคลิปเรื่องน้ำของ อจ.ต่อไปจะดื่มให้ได้ค่ะอย่างน้อย8แก้วค่ะ
แต่ก่อนไม่เคยถึง1ลิตร ตั้งแต่เป็นโควิดลงปอดไปนิดหน่อย คุณหมอที่รักษาบอกว่า ต้องดื่มน้ำเปล่าให้ได้วันละ1.5ลิตร เพื่อไล่อาการเหนื่อยง่ายจากโควิดลงปอดช่วงแรก ที่อยู่ฮอทพิเทล แค่เดินก็เหนื่อยหอบ มันเหลือเชื่อมากเลยคะ ดีขึ้น ยิ่งกว่ายาวิเศษอีกคะ ผ่านมา1ปี ทุกวันนี้ก็ยังปฏิบัติเหมือนเดิมคะ กินน้ำเปล่าแบบไม่เย็น วันละ1.5ลิตร กินจนติดเป็นนิสัย เพราะตอนออกจาก ฮอทพิเทล ปอดยังมีรอยเปื้อน คุณหมอบอกว่าต้องกินน้ำเยอะ มันจะหายไปเองรอยเปื้อน มันมีประโยชน์มากจริงๆคะ
สวัสดีค่ะ คุณหมอแทน ป้าขอโทษค่ะฟังเพลินๆๆเลยขอบคุณข้อมูลในคริปนี้น่ะค่ะการดื่มน้ำมากเกินก็ไม่ดี การดื่มน้ำน้อยก็ไม่ดีอีกเพราะฉนั้นควรที่จะต้องดื่มให้พอดีกับร่างกายของเราจริงๆๆค่ะ บางวันเราก็ทานผลไม้บ้าง บางวันก็ทานน้ำชุปบ้างหรือทุกสิ่งอย่างตามที่คุณหมอได้กล่าวไว้ในหัวข้อ ขอขอบคุณน่ะค่ะคุณหมอแทน สุขภาพดีมีความสุขน่ะค่ะและน้องโรชี่ด้วยค่ะ🙏🏼♥️♥️♥️🥰ค่ะ
ได้ความรู้ต่างๆมากมายเลยค่ะสงสัยว่าเป็นร้อนในบ่อยมากๆ ทำให้รู้สึกกระหายน้ำตลอดเวลาเลยค่ะ จิบน้ำตลอดเลย อยากทราบว่าเพราะอะไรถึงเป็นร้อนในบ่อยคะคุณหมอ และมีวิธีรักษา ให้ไม่เป็นบ่อยไหมคะ
พวกนั้นต้องเริ่มที่การพักผ่อนให้พอและดื่มน้ำให้พอ นอกจากนั้นควรเปลี่ยนแปรงสีฟันทุกๆเดือนครับ บ้วนปากทำความสะอาดบ่อยๆด้วยน้ำยาบ้วนปากก็ช่วยได้ครับ
ผัก ผลไม้ 5 ชนิดที่มีปริมาณน้ำเยอะ เพิ่มน้ำ เพิ่มความชุ่มชื้นให้ร่างกายอันดับ 1 แตงกวา🥒อันดับ 2 ผักกาดแก้ว🥬อันดับ 3 ผักคึ่นฉ่าย🫒อันดับ 4 มะเขือเทศ🍅อันดับ 5 แตงโม🍉
เด็กๆเคยทานลูกตาล ชอบมาก ค่ะ เพราะข้างในมีน้ำเต็มเลยค่ะ เหมือนเสี่ยวหลงเปา สมัยนี้ 555
@@CherryChonny อร่อยค่ะ ยิ่งอ่อนๆหน่อยจะนุ่มมาก
@@FragranzaTrippa เด็กๆ🤚มือเล็กๆจับแล้วเต็มมือเลยค่ะ กัดทีน้ำหกเต็มคาง 555 บางลูกหวาน บางลูกเค็มๆ สมัยนี้ไม่ได้ทานเลย เคยทานแต่แบบหั่นมาแล้ว ไม่ได้ซดน้ำข้างในเลยค่ะ 🫣🤣😂
@@CherryChonny เคยเจอที่แม็คโครนะ แต่แข็งมากเลยอ่ะ...
เอาทั้งหมดปั่นรวมกันกับน้ำแข็ง เย้ๆ
คุณหมอ ธนีย์: ก่อนอื่นขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง เกี่ยวกับเรื่อง ทำไมเราต้องดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร เท่าที่เคยอ่านมาแหล่งและฟังคลิปคุณหมอในเมืองไทย บางท่านก็บอกว่า ต้องดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว บางท่านก็บอกว่า 2-2.5 ลิตร ส่วนหนังสือที่เขียนโดยคุณหมอบางท่านในอเมริกาที่อ่านมา จากการที่คนไข้ถามเรื่องจะต้องกินน้ำเท่าไรจึงจะพอในแต่ละวัน คุณหมอในอเมริกาก็ตอบว่า ถ้าร่างกายคนปกติ เมื่อไรที่หิวน้ำก็ให้กินน้ำ จนหายหิวน้ำ นอกจากคนที่ร่างกายไม่ปกติ ต้องไปหาหมอ หลังจากฟังที่คุณหมอธนีย์ เล่าที่ไปที่มาของน้ำให้ฟัง น่าสนใจมากมีหลายเรื่องที่ร่างกายเป็นของเราแต่กลับไม่ทันคิด และไม่ได้สนใจเท่าที่ควร ฟังคลิปนี้แล้วได้รับความรู้มากมาย และเข้าใจง่ายมาก แม้จะซับซ้อน แต่สนุก ฟังได้เพลินมาก คำถามที่อยากจะถามคุณหมอในตอนท้ายที่คุณหมอพูด ถ้าคุณหมอพอจะมีเวลาตอบให้เป็นวิทยาทาน ก็คือ สำหรับตัวเองที่เป็นไฮโปไทรอยด์ ซึ่งไทรอยด์ทำงานผิดปกติมานานปี ตามที่เคยแจ้งให้คุณหมอทราบ ตอนนี้กินยา Levothyroxine 7.5 mg. แล้วคนไข้จะรู้ได้ยังไงว่าตามที่คุณหมอบอกว่า ร่างกายจะเก็บน้ำไว้ แล้วจะทราบได้ยังไง ว่าร่างกายเก็บไว้มากน้อยแค่ไหน หรือว่าทางเดียวที่จะทราบคือ ต้องไปสอบถามกับคุณหมอที่ดูแลเรื่องไฮโปไทรอยด์ให้ ขอขอบคุณคุณหมอธนีย์เป็นอย่างยิ่งอีกครั้ง สำหรับความรู้ใหม่ๆ ทุกครั้งแวะเข้ามาฟังที่คุณหมอพูดไม่ว่าเรื่องอะไร ได้รับความรู้และอธิบายได้ชัดเจน เข้าใจง่าย ทุกครั้ง
กรณีนั้นทานน้ำได้ปกติตามที่ผมเล่าในคลิปครับ และถ้ามีอาการบวมที่ขาอันนั้นแปลว่าร่างกายมีน้ำเกิน ควรไปตรวจกับหมอหาสาเหตุเพิ่มครับ
@@DrTany ขอบคุณมากค่ะ ชัดเจนค่ะ เข้าใจ ชอบคุณมาก คิดว่าไม่มีปัญหาค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ โทษที สะกดผิดค่ะ
อาจารย์คะ ยาบางอย่างที่อาจารย์บอกว่า อาจจะทำให้ร่างกายเก็บน้ำเอาไว้ นั่นคือ การคั่งน้ำ หรือเปล่าคะ ไปหาข้อมูลมาว่าเป็นยาดังต่อไปนี้ แต่ไม่แน่ใจว่าถูกหรือไม่ค่ะ🔹ยาคุมกำเนิดบางยี่ห้อที่มีปริมาณเอสโตรเจนสูง🔹ยากลุ่ม NSAIDs เช่น Ibuprofen และ Naproxen🔹ยารักษาอาการปวดเส้นประสาท Pregabalin และ Gabapentin🔹ยาต้านแคลเซียม Amlodipine🔹ยารักษาโรคเบาหวาน Pioglitazone และ Rosiglitazone
ประมาณนั้นครับ
@@DrTany ขอบคุณมากค่ะอาจารย์...
ดูจบแล้วรีบไปหยิบน้ำมาดื่มเลยค่ะ 😅 ขอบคุณมากๆค่ะ อธิบายเข้าใจง่ายฝุดๆ
เป็นกำลังใจให้อาจารย์หมอแทน ตลอดกาลค่ะ☺️ ได้ความรู้ด้วยค่ะจากคำถามที่คนถามเข้ามาแล้วอาจารย์หมอเข้ามาตอบ🙏ขอให้อาจารย์หมอมีความสุขมากๆค่าาา พักผ่อนด้วยนะคะ🐶🌹☺️☺️☺️
ดีมาก ๆ เลยค่ะ ชัดเจนเข้าใจได้ง่าย เอาไปใช้สอนเด็ก ๆ ต่อได้เลยค่ะ ขอบคุณนะคะ
มีประโยชน์มากค่ะ...ขอบคุณคะ
🙏🙏🙏ขอบคุณค่ะ❤❤❤
😊🌼🍃⚀ เราสูญเสียน้ำทางการหายใจ และ ทางอุจจาระ เป็นปริมาณเท่าไหร่ต่อวัน🔺️ ทางแรกก็คือทางการหายใจ การพูดการหายใจต่อวัน ไม่ว่าเราจะพูดมากพูดน้อย ร้องเพลง หรือว่าหายใจเฉยๆโดยที่ไม่ได้พูดเลยก็จะมีการสูญเสียน้ำไปในทางเดินหายใจของเราวันหนึ่งก็เฉลี่ย 400 มิลลิลิตร หรือ 400 cc นั่นเอง🔺️ อีกทางคืออุจจาระหรือลำไส้ใหญ่ซึ่งปกติจะต้องมีการสร้างอุจจาระออกมา โดยน้ำเฉลี่ยในนั้นก็ประมาณ 200 มิลลิลิตร 🔺️ ทีนี้รวมกันก็เป็น 600 มิลลิลิตร คลิป ทำไมเราต้องดื่มน้ำวันละ 2 ลิตรขอบคุณมากค่ะ🌹❤🌹
วันนี้ยอดผู้ติดตามช่อง TH-cam ของ Doctor Tany เพิ่มเป็น ✴3.12 แสนคน✴แล้วค่ะเป็นช่องที่นำเสนอความรู้ด้านสุขภาพ เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ติดตามแล้วคุณภาพชีวิตจะดีขึ้นค่ะ💐💐💐💐💐💐💐💐💐💐ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ💐💐💐💐💐💐💐💐💐💐
@ FragranzaTrippaขอบคุณมากนะคะ ⚘💙⚘@ Doctor Tanyยินดีกับคุณหมอด้วยนะคะ พักผ่อนมากๆนะคะ นอนหลับฝัน...ฝันหวาน ราตรืสวัสดิ์ค่ะ 🌻🧡🌻
@@boomsong5729 ยินดีค่ะ...
ขอบคุณค่ะคุณหมอ เราเป็นคนนึงที่ต้องดื่มน้ำเยอะมากๆต่อวันเพราะชอบเป็นร้อนในที่ปาก วันไหนดื่มน้ำน้อยคือแผลขึ้นเลยค่ะ ต้องดื่มให้ได้ 1.6-2 ลิตร ตามที่หมอแทนแนะนำ🫡 ส่วนอีกหมอคือหมอดูบอกว่าเป็นคนธาตุไฟแรง เลยต้องกินน้ำเยอะๆ😂
ขอบพระคุณค่ะคุณหมอมีสาระดีๆมาฝากทุกวันข้อมูลเชื่อถือได้เสมอ อนุโมทนาสาธุค่ะ🙏❤️
🙏🙏🙏ค่ะ คุณหมอ 🥰🥰🥰
สวัสดีค่ะ ขอให้สดชื่นทั้งวัน การงานราบรื่น สบายใจ ตลอดเวลานะคะ ขอบคุณค้าา
ขอบคุณค่ะคุณหมอ🙏… ฟังแล้วต้องปรับพฤติกรรมตัวเองด่วนเลยค่ะ😊 เพราะปกติ ดื่มน้ำน้อยมาก 1- 1.5 ลิตร เอง 😅✌️✌️
การดื่มน้ำ เรื่องธรรมดาที่ไม่ธรรมดา เป็นความรู้ที่ดีมากสำหรับทุกคนเลยค่ะได้ยินคุณหมอ นักโภชนาการและจากที่คุณครูสอนตั้งแต่ชั้นประถมว่าเราควรดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้ว ต่อมาก็เป็น 1.5-2 ลิตรต่อวันก็เชื่อจามนั้นมาตลอด ไม่เคยสงสัยเลยว่าทำไม แต่วันนี้คุณหมอกรุณาอธิบายเหตุผลเป็นความรู้ที่ดีมากที่ทุกคนควรรู้เลยค่ะปกติเป็นคนชอบดื่มน้ำและดื่มเยอะอยู่แล้วจึงไม่เข้าใจคนที่ไม่ชอบดื่มน้ำหรือดื่มน้ำไม่พอ แต่ถ้ายุ่งจนไม่มีเวลาดื่มน้ำนี่เข้าใจค่ะ เคยเป็นแต่ไม่บ่อยเพราะร่างกายจะเตือนตัวเองเสมอว่าเธอหิวน้ำ! ควรดื่มน้ำได้แล้วคุณหมอคะ การดื่มน้ำเย็น (น้ำใส่น้ำแข็ง) มีผลเสียกับร่างกายจริงไหมคะ เป็นคนชอบดื่มน้ำใส่น้ำแข็งมากค่ะ แต่จะโดนดุบ่อย ๆ ว่ากินน้ำเย็นมันไม่ดี ต้องดื่มน้ำอุ่นค่อนไปทางร้อนถึงจะดี แต่เราไม่ชอบอ่ะค่ะ ดื่มน้ำอุ่นรู้สึกคอแห้ง ไม่ชื่นใจเหมือนน้ำเย็นเคยอ่านเจอว่าการดื่มน้ำเย็นช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานเก่งขึ้น เพราะร่างกายจะปรับอุณหภูมิน้ำให้เท่ากับอุณหภูมิของร่างกาย ถือเป็นการเผาลาญพลังงานอย่างหนึ่งจริงไหมคะ
สวัสดีค่ะคุณหมอขอบคุณข้อมูลดีๆ
คุณหมอสบายดีน่ะค่ะผ่านวิกฤษผลข้างเคียงใาได้ฉิวเฉียดค่ะ
สบายดีครับผม
ขอบคุณมากค่ะ สนใจเรื่องนี้มากค่ะ ปกติทานน้ำวันละ 4 ลิตรอย่างต่ำ ต้องพกน้ำตลอดเวลา ถ้าขาดหน้ามืด ปวดหัวจะเป็นลมค่ะ ระดับน้ำตาลในเลือดพอดีเส้น (เกือบสูง) ไม่ทานเค็มค่ะ แบบนี้ควรจะไปพบคุณหมอด้านไหนมั้ยคะ ขอบคุณมากค่ะ
ไม่มีครับ ควรออกกำลังกายทุกวันก่อนครับ
@@DrTany ขอบคุณคุณหมอมากๆ นะคะ กรุณามาตอบค่ะ
ขอบคุณค่ะอาจารย์🙏🥰เมื่อวานเพิ่งส่องกล้องลำไส้ใหญ่ค่ะตัดpolypไปตรวจรอผล ก่อนส่องกล้องเตรียมลำไส้ทานยาระบายผสมน้ำครั้งละ2,000ml2ครั้ง ไม่เคยทานน้ำมากขนาดนี้เลยค่ะ แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี😅😁🥰
สวัสดีค่ะพี่หนึ่ง🌹
ขอให้ไม่มีปัญหาอะไรนะครับ
ขอให้หายเร็วๆนะคะหนึ่ง...
เป็นกำลังใจให้นะคะ นางฟ้าชุดขาว🌹🌹🥰🥰
@@Hoshi1451 ขอบคุณค่ะน้องกุ้ง🙏💖😍
ผมเป็นคนที่ท้องผูกเป็นประจำ ตอนนี้แก้ปัญหาด้วยการดื่มน้ำประมาณ 1200 มล. และตามด้วยกาแฟดำ หลังตื่นนอนทันที เกือบทุกเช้า จากการสังเกตุตัวเองพบว่า น้ำจะไหลผ่านกระเพาะอาหารและลงไปที่ลำไส้ จนถึงลำไส้ใหญ่ จนไปถึงอุจจาระที่อยู่ในท้อง ผลคือจะเริ่มปวดอุจจาระในเวลาประมาณ 30 นาที และจะถ่ายออกมาจดหมด รวมถึงอาหารที่ทานมื้อสุดท้ายด้วย ที่ทราบเพราะว่าอาหารบางอย่างจะเป็น indicate ของมื้อได้ดีมากๆ เช่น ข้าวโพด หรือ เห็ดเข็มทอง เป็นต้น และบางครั้งก็จะได้กลิ่นกาแฟที่พึ่งดื่มไปตามออกมาด้วย ที่ว่ามาทั้งหมด มันจะได้ผลดีก็ต่อเมื่อทำหลังจากตื่นนอนทันที หากผ่านไปเลย 1 ชั่วโมง มันจะไม่ค่อยได้ผลแล้ว ทำแล้วรู้สึกดีเลยทำอย่างนี้เป็นประจำครับ ไม่ทราบอย่างนี้คุณหมอมีความเห็นอย่างไรครับ
ทำดีละครับ
ขอบคุณมากครับคุณหมอ 😁
คุณหมอคะ รบกวนขอถามนอกเรื่องค่ะ มีอยู่ช่วงหนึ่งเราทำงานหนักมากอาหารก็ทานไม่เป็นเวลา น้ำก็ไม่ค่อยได้ทานนั่งอยู่หน้าคอมทั้งวันแทบไม่ขยับเขยื้อนไปไหน แล้วจู่จู่ก็เกิดอาการปวดท้องมากๆด้านซ้ายปวดแบบไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนค่ะ ตอนปัสสาวะคือต้องค่อยๆออกมาทีละนิดไม่มีแรงเบ่ง เพราะปวดมากค่ะคิดว่าสองสามวันน่าจะหาย ไม่ได้ไปหาหมอและไม่ได้ทานยาค่ะ โชคดีที่มันก็ค่อยๆดีขึ้น และหายปวดแล้วค่ะ เหตุการณ์ผ่านมา 6 เดือนแล้วค่ะ เราไม่ได้ปวดท้องแบบนั้นแล้วค่ะ ไม่กล้าให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นอีกค่ะ 1) ถ้าเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ หรือลำไส้อักเสบ อาการคือจะปวดท้องไหมคะ 2) ถ้าไม่ได้รักษา แต่หายปวดท้องแล้ว ถือว่าหายอักเสบ ได้ไหมคะ คุณหมอขอบคุณมากค่ะ 🙏😊
1) ปวดครับ 2) น่าจะครับ
มีคำถามค่ะ1.หากอวัยวะในร่างกายเรายังทำงานปกติ เราสามารถขาดน้ำได้มากสุดกี่วัน/กี่ชม. ก่อนที่เราจะตายคะ?2.ทำไมเวลาเราป่วยและต้องเติมน้ำเกลือที่รพ. เราถึงตัวบวมคะ?ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ😊🙏
1) อย่างมากก็สามวันครับ 2) เคยพูดไปแล้วครับ ตามนี้ครับ th-cam.com/video/Tmu5lKChd6s/w-d-xo.html
@@DrTany ขอบคุณจ้าวว คุณหมอ🙏
สุดยอด ครูผู้ให้จริงๆคะ ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ
สวัสดีค่ะ เคยได้ฟังคลิปท่านหนึ่งเขาใช้วิธีธรรมชาติบำบัดในการรักษาก็มีคำแนะนำการดื่มน้ำเช่นกันค่ะ มีคำแนะนำที่ดีๆเยอะเลย แต่มีที่ไม่เห็นด้วยคือเขาบอกว่าการดื่มน้ำปัสสาวะของตัวเองเพื่อรักษาโรค เอามาสระผม มันได้ด้วยเหรอค่ะ🤔🤔 ตอนนี้เลิกติดตามล่ะจริตไม่ตรงกันค่ะ😄😄
สุดยอดมากคับคุณหมอ กับความรู้ดีๆ ที่คุณหมอนำมาเล่าให้ฟัง ขอบคุณคุณหมอมากครับ
ขอบคุณคุณหมอแทนมากนะคะ ได้ความรู้มากมายมีคุณค่าเสมอ สำหรับตัวเองไม่ค่อยจำว่าดื่มน้ำเท่าไร ต้องจำบ้างแล้วแต่ไม่ดื่มน้ำเย็น น่าจะไม่ขาด สังเกตุจากสีของปัสสาวะ ปกติดีมาก เข้าห้องน้ำบ่อย กลัวว่าจะเกิน ต้องหันมาจำในแต่ละวัน ขอบคุณคุณหมออีกครั้งค่ะ มีคนพูดว่าสูงอายุไม่ควรดื่มน้ำก่อนนอนจริงไหมคะ
ดื่มก่อนนอนมันทำให้ปวดปัสสาวะตอนนอนได้ครับ
ขอบคุณคุณหมอมากๆนะคะ
ขอบคุณคะคุณหมอ😊
เหมือนได้คุยกะหมอเลย..ขอบคุณในสาระที่ทุกคนควรทราบ-ดูแลตัวเองเบี้องต้น
สวัสดีค่ะคุณหมอ เป็นคนชอบดื่มน้ำเปล่าค่ะ ขอบคุณข้อมูลนะคะ ขอให้คุณหมอมีสุขภาพแข็งแรงตลอดไปคร๊😊😍😍
ขอบคุณค่ะคุณหมอ ขอให้คุณหมอยิ่งสอนยิ่งเก่งเป็นทวีคูณ
ผมเป็นนศ.เภสัช เข้ามาฟังได้ความรู้ดีๆติดตัว จริงๆเคยเรียนเรื่องOsmolarityมาแล้วแต่เรียนกลไกมากกว่า พวกHyper,Iso,Hypotonic แต่ในเชิงการทำงานของไตกับค่าคขข.ของยูเรีย,ไอออนที่ต้องขับออกยังเรียนไม่ถึง น่าจะต้องรอเรียนในระบบขับถ่าย ถือว่าได้เรียนล่วงหน้าไปก่อนครับ^_^
555 เรื่องนี้ปกติอาจจะไม่มีสอนครับ หรือสอนแต่ก็ไม่สอนโดยตรงครับ
สวัสดีคะคุณหมอ แล้วน้ำหนักตัว น้อย การดื่มน้ำเท่ากับทต่คุณหมอแนะนำเลยไหมคะ ตัวเล็ก ผอม น้ำหนัก 40-42คะ
อธิบายดีมากจริงๆค่ะ ทำคลิปดีๆแบบนี้ต่อไปนะคะคุณหมอ❤
ขอบคุณมากค่ะ เป็นเรื่องที่กำลังสงสัยพอดีเลย
ขอบคุณค่ะคุณหมอ🙏 ได้ความรู้ชัดเจนมากเลยค่ะนู๋อยากรู้เพิ่มเติมค่ะ ว่าทำไมเราต้องเดินให้ได้ 10,000 ก้าว/วัน และต้องเข้านอนไม่เกิน 4 ทุ่ม ค่ะ😊
ไม่ต้องทำเช่นนั้นหรอกครับ แค่เราออกกำลังกายทุกวัน และพักผ่อนให้เพียงพอก็เป็นใช้ได้ครับ
แล้วจริงรึเปล่าคะว่าการดื่มน้ำต้องดื่มแบบค่อยๆจิบ ถ้ากินน้ำครั้งละมากๆทีเดียวไม่ดีต่อร่างกายเพราะจะทำให้ไตทำงานหนัก ข้อมูลมีมาหลายทาง สับสนค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ไม่จริงๆครับ คนที่ให้ข้อมูลเช่นนั้นคงไม่รู้เรื่องระบบร่างกายของเรา ดังนั้นไม่ต้องสนใจครับ ที่สำคัญข้อมูลหลายๆทางไม่ต้องไปรับมาครับ ส่วนมากที่แชร์กันมามันไม่ถูกสักอย่างครับ
ขอบคุณมากค่ะ หลงเข้าใจผิดมาสิบกว่าปี😅
🗓 ศุกร์ 26 ส.ค. 2565ขอบคุณอาจารย์หมอแทน สำหรับข้อมูลเรื่องการดื่มน้ำต่อวันค่ะ 💬 💦 ร่างกายมีน้ำเป็นส่วนประกอบในผู้หญิงถ้าอายุมากขึ้นปริมาณน้ำในร่างกายจะถูกทดแทนด้วยสัดส่วนของไขมันจะเป็นส่วนใหญ่💦🥛🍸 💬 ปริมาณน้ำที่ควรบริโภคต่อวันคำนวณจากอะไร?ก่อนอื่นร่างกายมีการสูญเสียน้ำทุกวัน ถ้าเราไม่เอาน้ำเข้ามาทดแทนร่างกายก็จะสูญเสียน้ำทุกวัน ส่งผลทำให้เกิดปัญหาต่อร่างกาย หลายๆ ด้าน 💦 ร่างกายสูญเสียน้ำทางไหนบ้าง1 ) เวลาพูดและการหายใจ แม้ว่าจะหายใจเฉย ๆ วันนึงมีการสูญเสียน้ำประมาณ 400 มิลลิลิตร หรือ 400 cc 2 ) สูญเสียน้ำทางอุจจาระหรือทางลำไส้ใหญ่ ปริมาณเฉลี่ย 200 มิลลิลิตร3 ) ทางผิวหนังโดยการสูญเสียน้ำออกมาในรูปของเหงื่อ หรือมีการระเหยไปเลยก็ได้ บางครั้งมีการขับเอาความร้อนที่สูงเกินไป ออกมาข้างนอกดังนั้นยิ่งถ้าเรายิ่งร้อน แล้วก็ยิ่งมีการออกมากขึ้น 🥵เหงื่อออกมาเป็นเม็ดหรือไม่เป็นเม็ดขึ้นอยู่กับความชื้นในอากาศ ถ้าอากาศชื้นมากๆเหงื่อจะออกมาเป็นเม็ด ๆ 🥶 ⛄️ แต่ถ้าไปอยู่ในประเทศที่อากาศแห้งมากๆ ถึงเราไม่มีเหงื่อถึงจะไม่ร้อนร่างกายก็ยังมีการสูญเสียน้ำ ออกไปเพิ่มขึ้น โดยเฉลี่ยแล้วเราสูญเสียน้ำทางผิวหนัง 500 ซีซีต่อวัน💦 ถ้ารวมจากข้อหนึ่ง มีการสูญเสียน้ำรวม ๆ ร่างกายจะสูญเสียน้ำ 1100 มิลลิลิตร4 ) ✈️ ✈️ คนที่อยู่บนเครื่องบินจะมีการสูญเสียน้ำกว่าปกติ เนื่องจากอยู่บนพื้นดินธรรมดาจะมีแรงกดดันอากาศที่สูงจะเป็นตัวไปกดไม่ให้น้ำระเหยออกไปได้เร็วขึ้น-> ⛰⛰ แต่ถ้าเราไปอยู่บนที่สูงๆ ซึ่งมีแรงกดดันอากาศน้อย ดังนั้นแรงดันน้ำที่อยู่ในร่างกายของเราจะดันออกไปข้างนอกได้ง่ายขึ้น 💦 ก็จะมีการสูญเสียน้ำไหลมากขึ้น💦 ดังนั้น คนที่เดินทางบนเครื่องบินมีความจำเป็นที่จะต้องดื่มน้ำมากกว่าปกติ มิฉะนั้นเลือดในร่างกายของท่านจะขาดน้ำ จะว่งผลต่อ การเกิดลิ่มเลือดที่ขา ที่ต่างๆ ได้ ซึ่งจะอันตราย⏱🍸🥛🍸🥛 ดังนั้นอย่างน้อยในหนึ่งวันเราควรดื่มน้ำ 1100 cc5 ) มีอีกส่วนหนึ่งคือปัสสาวะ น้ำปัสสาวะของเรา บางคนปัสสาวะมากบางคนปัสสาวะน้อยขึ้นอยู่กับอะไร ? เราต้องทราบการทำงานของไตและปัสสาวะ ร่างกายของเรามีการสลายสารอาหารต่างๆ และมีสมดุลย์ของเกลือแร่ในร่างกายอยู่ ร่างกายต้องรักษาสมดุลย์เกลือแร่ทั้งหมดของร่างกายไว้ให้ได้ มีคำหนึ่งคือ Osmolarity ซึ่งเป็นคุณสมบัติของของเหลวในร่างกายอย่างนึง ที่มีความเข้มข้นแล้วจะพยายามดึงเอาน้ำเข้ามาสู่ตัวเอง ร่างกายของเราต้องมีค่าคงที่อยู่ค่าหนึ่ง ถ้ามันสูงเกินไปจะดึงเอาน้ำเข้ามา🩸 เลือดมี 290 มิลลิออสโม ต่อลิตร mOsm/L (milliosmole)ก็จะมีโรคบางโรคที่ทำให้ขณะนี้มันสูงและต่ำไม่เท่ากันถ้าต่ำเกินไปก็จะปล่อยน้ำทิ้งออกไปหมดเลยซึ่งมันก็จะไม่ค่อยดี💦 ปัสสาวะ จะทำหน้าที่ ควบคุม Osmolarity ควบคุมได้โดยไตของเรา และไตก็จะตอบสนองต่อฮอร์โมนชนิดต่างๆมหาศาลเช่นฮอร์โมนเอดีเอช ADH ต่อต้าน antidiuretic hormones ขอบคุณมากค่ะ อาจารย์หมอแทน วันนี้จดเบาๆ ก่อนค่ะ 😴😴🥱🥱☀️☀️☀️☀️☀️☀️ Have a happiness time with a lovely Rosy ค่ะ
ขอบคุณค่ะ Tany สำหรับ 💖💖💖💖💖💖💖💖💖💖💖💖💖💖 Have a wonderful & happiness time with a lovely Rosy. Take care of yourselves both Rosy & Tany.
ผมกินวันละ 3 ลิตรขั้นต่ำ แรกๆก็ฝืน หลังๆจะไม่พอด้วยซ้ำ รู้สึกชีวิตสดชื่นขึ้นครับ
อาจารย์คะ อายุ น้ำหนัก activity มีผลต่อปริมาณน้ำที่ต้องทานมั้ยคะแล้วการทานเครื่องดื่มที่ไม่ใช่น้ำเปล่าตลอดเวลา โทษเหมือนเราทานปัสสวะหรือเปล่าคะ
1) มีครับ แต่อย่างน้อยต้องทำได้เท่าในคลิปที่ผมบอกไป 2) ไม่ครับ โทษขึ้นกับว่ามันคืออะไร แต่ไม่มีทางเหมือนกันครับ
ขอบคุณที่ไห้ความรู้ครับอาจารย์
สอบถามค่ะ การทานน้ำเยอะไปมีผลให้ไตทำงานหนักไหมคะ คือชอบทานน้ำเย็นๆ น่าจะทานวันละราวๆ 3 ลิตร ทีนี้เริ่มเป็นความดัน เลยพยายามลดโซเดียม ผลคือ ตรวจเลือดรอบล่าสุด โซเดียมต่ำ หมอบอกให้ลดน้ำ แต่แบบนี้คือเราสามารถเพิ่มโซเดียมแทน หรือกินเค็มมากขึ้นได่ไหมคะ
มันก็สามารถที่จะทำได้ครับ แต่ผมว่าน่าจะต้องหาสาเหตุที่โซเดียมต่ำก่อนนะครับ การกินน้ำแค่ 3 ลิตรต่อวันไม่น่าจะทำให้มันต่ำได้ถ้าไม่มีเหตุผลอื่นครับ
@@DrTany ขอบคุณค่า
อยากทราบความรู้เกี่ยวกับอาการ ods สาเหตุ อาการ ผลต่อสมอง และการรักษาครับ
โซเดียมในเลือดต่ำ hyponatremia พบใด้บ่อยในผู้ป่วยที่มีภาวะเลือดออกใต้เยื่ออะแร็กนอยด์เนื้องอกในสมอง และการบาดเจ็บของสมองส่วนมากมักเกิดจากภาวะSIADHหรือCSW รวมทั้งภาวะพร่องฮอร์โมนต่อมหมวกไตการรักษา ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงการให้3%NACIเป็นวิธีการรักษาที่เหมาะสมในการแก้ไขภาวะดังกล่าวผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรือโซเดียมในเลือดต่ำ วิธีการรักษา จำกัดปริมาณของสารน้ำในภาวะSIADH ยากลุ่มDemeclocyclineFlurdrocortisoneอาการแสดงภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ ระบบประสาทจะใด้รับผลโดยตรงเมื่อโซเดียมในเลือดต่ำนำไปสู่ภาวะสมองบวมเนื่องจากการเคลื่อนที่จากภายนอกเซลล์เข้าสู่เซลล์ที่มีosmolality เมื่อโซเดียมในเลือดต่ำกว่า125ใด้แก่ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน กล้ามเนื้อเกร็งกรณีโซเดียมลดลงอย่างรวดเร็วผู้ป่วยมีอาการรุนแรงมากขึ้นจะชัก โคม่า ปล.เราไม่แน่ใจเหมือนกันนะคะว่าใช่โรคนี้ไหม แต่เดียวคุณรอคุณหมอมาอธิบายเพิ่มเติมเพื่อความแน่ใจของคุณนะคะ
ส่วนมากเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของโซเดียมเร็วเกินไปในคนที่มีความเสี่ยง เช่น ขาดสารอาหารแต่ต้น ส่วนการรักษาคืออย่าให้โซเดียมเปลี่ยนแปลงเร็วเกินไป ถ้าเราแก้ไขแล้วมันเปลี่ยนเร็วก็ต้องทำให้มันกลับไปใกล้เคียงเดิมก่อน ส่วนที่เหลือก็รักษาประคับประคองเท่านั้นครับ ผลการรักษาไม่ค่อยดี มีคนเสียชีวิตแม้ว่าจะพยายามรักษาเต็มที่แล้วก็ตาม ดังนั้นป้องกันไว้ตั้งแต่แรกดีที่สุดครับ
@@DrTany ขอบคุณครับอาจารย์ ในกรณีที่ค่าโซเดียมจากผลเลือดในวันที่คนไข้มา ร.พ. วัดได้ 96 จะมีโอกาสที่คนไข้เป็น ODS มาก่อนเจาะเลือดมั้ยครับ แล้วการสแกน MRI ในวันเดียวกันนั้นเลยสามารถทราบได้หรือไม่ว่าผู้ป่วยอาจมีภาวะ ODS มาก่อนแล้ว
@@phl9969 โอกาสเป็นไปได้มันมีแต่ไม่มากครับ มันจะเป็นตอนมาถึงรพ แล้วรักษานี่แหละครับ แต่ไม่ว่ายังไง ODS ถ้าเป็นแล้วมันทำอะไรไม่ได้เลยครับ ต้องภาวนาให้รอดและดีขึ้นโดยไม่มีผลข้างเคียงเหลือ ซึ่งโอกาสมีน้อยมากๆ และการรักษาก็ไม่มีอะไรที่เราทำเป็นพิเศษ ไม่มียา ไม่มีเทคโนโลยีใดๆที่ช่วยได้ ทำได้เพียงรักษาระดับโซเดียมไม่ให้มันเปลี่ยนแปลงเร็วเกินไปเท่านั้นครับ
ขอบคุณความรู้ดีๆครับ
ขอบคุณมากค่ะคุณหมอถ้ามีโอกาสอยากให้คุณหมอพูดเกี่ยวกับเรื่องโรครูมาตอยก็หรือ SLE ค่ะ
หากผมไม่เสียเหงื่อจากการออกกำลังกายหรืออยู่กลางแจ้ง ผมปัสสาวะ ประมาณ 4-7 ลิตร/วัน. หากผมไม่กินเกลือหรือกินน้อย ปริมาตรปัสสาวะมากกว่า 7 ลิตร.ปัสสาวะกลางคืนประมาณ 2-4 ลิตรผมไม่เคยมีอาการติดเชื้อของสมองและระบบประสาท. ผมเคยสลบ 1 ครั้ง โดยอุบัติเหตุจักรยานล้ม ศีรษะด้านล่าง มีรอยกระแทก เป็นแผลใหญ่ / ลึก.2 วันถัดมา จากสลบ ผมไม่สามารถบริจาคโลหิต ครั้งที่ 60 ได้อีกเลย เพราะผลตรวจ HIV สรุปไม่ได้. ผลตรวจนี้เป็นเช่นนี้ไม่ว่าไปตรวจโรงพยาบาลใด รวมทั้งศิริราชและสภากาชาด ช่วง 10 ปีที่ไปตรวจมา -- ผมอยากบริจาคโลหิต. ช่วงที่ผมเริ่มเข้าร่วมโครงการวิจัยอัลไซเมอร์ของโรงพยาบาล โดยเป็นอาสาสมัคร. ผลตรวจเลือด HIV ก็เป็นแบบเดิม. ทางโครงการให้ตรวจแบบพิเศษ พบว่า ผมไม่ได้เป็น HIV. แต่ธนาคารเลือดก็ไม่รับเลือดของผมอยู่ดี. ตอนแรกผมสงสัยว่า เป็นเพราะวัคซีนบาดทะยัก ที่ทำให้มีโปรตีนเพิ่มขึ้นในการตรวจ HIV. ตอนนี้ผมสงสัยว่า อาจเป็นโปรตีนที่เกี่ยวข้องในการทำให้ผมขับเกลือออกจากร่างกายทางปัสสาวะมากจนผมเกิดอาการกระหายน้ำอย่างมากทั้งกลางวันและกลางคืน เพราะคนส่วนใหญ่คงไม่มีโปรตีนนี้ขึ้นมาในการทดสอบ HIV. ผมขอปรึกษาว่า ต่องทำอย่างไร ผมจะหลับดีขึ้น -- ต้องกินเกลือในน้ำ / อาหาร อย่างไร หรือต้องทำอะไร? ผมจับหลัก จับแนวทางไม่ถูกเลย. การรักษาจาก แพทย์ที่เชี่ยวชาญเรื่องนี้ มีโอกาสขนาดไหนในการรักษาอาการนี้? CSW ช่างเป็นอาการหายาก. ผมเป็น CSW?
กรณีของคุณต้องเริ่มใหม่หมดครับ มันดูยุ่งเหยิงไปหมด ต้องเริ่มที่อาการที่เด่นที่สุด จากนั้นก็ซักประวัติตามแนวทางของอาการ แต่ไม่ควรเริ่มที่ว่าเราทำอะไรไปบ้างแล้ว ฯลฯ ไม่งั้นมันจะไม่มีทางไปถึงวินิจฉัยได้เลยครับ
ขอบคุณความรู้จากอจ.หมอค่ะ
คุณหมออธิบายละเอียดมากเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ
คุณหมอคะ สงสัยว่า 1) เวลาเราอาบน้ำ นานๆ แล้ว นิ้วเหี่ยวๆ หาข้อมูลเค้าบอกว่าเป็นเพราะน้ำค่อยๆซึมกลับเข้าไปในร่างกายได้ใช่ไหมคะ ( ออสโมซิส ) แบบนี้เรานับน้ำส่วนนี้ อยู่ใน 2 ลิตรไหมคะ2) เวลาอาบน้ำเสร็จใหม่ๆเล็บจะนิ่มมากเลยค่ะ เราชอบตัดเล็บหลังจากอาบน้ำเสร็จค่ะ ทำไมเล็บถึงนิ่มได้หรือคะ คุณหมอ ขอบคุณมากค่ะ
1) ก็อาจจะแบบนั้นครับ ไม่นับครับ และต่อให้นับจะนับได้เหรอครับ 2) น้ำเข้าไปในเล็บครับ
Thanks!
ขอบคุณค่ะคุณหมอมีความรู้มากๆ
ทำไมเราต้องดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร
ร่างกายเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบเป็นจำนวนมาก แต่เมื่อายุมากขึ้นก็จะทดแทนด้วยไขมันและปริมาณน้ำก็จะลดลง โดยเฉพาะในเพศหญิงจะมีสัดส่วนไขมันต่อน้ำจะสูงมากกว่าผู้ชาย
ร่างกายเราจะสูญเสียน้ำทุกวัน จาก
1. จากทางเดินหายใจ การหายใจ การพูด ต่อวันประมาณ 600 cc
2. ทางผิวหนัง อาจจะเป็นเหงื่อ หรือ การระเหยไปเลยโดยไม่เห็นเหงื่อก็เป็นได้ บางครั้งเหงื่อจะเป็นการขับความร้อนที่สูงเกินไปออกไปข้างนอก ยิ่งถ้าเรายิ่งร้อนเหงื่อก็จะยิ่งออกมากขึ้น แต่จะเห็นเหงื่อเป็นเม็ดหรือไม่ขึ้นอยู่กับความชื้นในอากาศ ถ้าชื้นมาก อาจจะเห็นเป็นเม็ดๆเหมือนประเทศไทย แต่ในประเทศที่แห้งมากๆถึงเราไม่ร้อน ไม่มีเหงื่อก็จะมีการสูญเสียน้ำออกไป โดยเฉลี่ย วันละ 500 cc คนที่อยู่บนเครื่องบิน หรือ ที่สูงๆที่มีความกดอากาศต่ำ แรงดันน้ำก็จะดันน้ำออกจากร่างกายได้มากขึ้น จะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากกว่าปกติ ดังนั้นคนที่ขึ้นเครื่องบินจะต้องดื่มน้ำมากกว่าปกติ มิเช่นนั้นเลือดจะขาดน้ำ และ อาจเกิดลิ่มเลือดที่ขาหรือบริเวณต่างๆของร่างกายได้
ตอนที่1
3. ปัสสาวะ บางคนมากน้อยไม่เท่ากัน ร่างกายเราจะมีกระบวนการสลายสารอาหารต่างๆและสมดุลเกลือแร่ และจะมีคุณสมบัติของเหลวในร่างกายที่มีความเข้มเข้นและต้องการดึงน้ำเข้ามาสู่ตัวเอง เรียกว่า osmolarity ซึ่ง จะมีค่าคงที่ค่าหนึ่งถ้าสูงไป จะดึงน้ำมาไว้ปริมาณเยอะ แต่ถ้าตรงกันข้ามถ้าต่ำจนเกินไป ก็จะปล่อยน้ำออกมาเยอะๆ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ไม่ดีเช่นกัน เลือดของเราจะมี osmolarity 290 mOsm/L จะมีบางโรคที่ทำให้ค่านี้สูงหรือต่ำกว่านี้ แต่สิ่งที่มีความเกี่ยวข้องกับปัสสาวะ คือ ปัสสาวะจะควบคุม ความเข้มข้นของ osmolarity โดยไตของเรา แล้วไตเราก็จะตอบสนองต่อฮอร์โมนต่างๆ เช่น ADH ย่อมาจาก Antidiuretic Hormone ( Anti= ต่อต้าน diuretic= ปัสสาวะ)หรือ เรียกว่า Vasopressin เป็นฮอร์โมนช่วยทำให้เลือดหดตัว, BNP, ANP สุดท้ายจะทำให้ไตเรามีความสามารถในการสร้างปัสสาวะเข้มเข้นแตกต่างกัน ไตเรามีความสามารถจำกัดทำให้ปัสสาวะเข้มข้นมากที่สุดได้ 1,200 mOsm/L ( คือถ้าเราขาดน้ำมากๆแล้ว ปัสสาวะเราจะเข้มข้นที่สุดได้ที่ 1,200 mOsm/L)
ตอนที่2
ปกติร่างกายเราจะมีการสร้าง osmolarity ในที่ต่างๆ เช่น จากโซเดียม โปตัสเซียมที่เรากินเข้าไป หรือ การสลายโปรตีนต่างๆแล้วทำให้เกิดยูเรียขึ้นมาในร่างกาย ทั้งหมดเป็นส่วนประกอบที่ทำให้เกิด osmolarity ขึ้นมา แต่ร่างกายจะต้องขับทิ้งออกไปประมาณ 600 mOsm ต่อวัน
ร่างกายเราไม่สามารถขับ osmolarity เปล่าๆได้ต้องมีน้ำเป็นส่วนประกอบด้วยเสมอ เหมือนกับเวลาเราอาบน้ำ เราไม่สามารถปัดสิ่งสกปรกออกจากร่างกายได้ เราจะต้องใช้น้ำเพื่อชะล้างสิ่งสกปรกออกไปด้วย ปริมาณน้ำน้อยที่สุดเป็นเท่าไหร่ ซึ่งไตของเราทำหน้าที่ตรงนี้อยู่ ไตเราขับได้สูงสุด 1,200 mOsm/L แต่ถ้าเรามี 600 mOsm ให้ขับ เราก็ต้องใช้น้ำครึ่งลิตรเป็นต้น
ดังนั้นรวมๆกันแล้ว ที่เราต้องสูญเสียน้ำทางผิวหนังวันละ 500 cc ทางเดินอากาศ 400 cc ทางอุจจาระอีก 200 cc รวมกันเป็น 1,100 cc รวมกับอีก 500 cc รวมกันเป็น 1,600 cc เป็นปริมาณขั้นต่ำต่อวันที่ร่างกายเราสูญเสียไปต่อวัน ดังนั้นเราจะต้องดื่มน้ำเข้าไปให้มากกว่าที่ต้องสูญเสียไป
ตอนที่3
ต่อให้เราพยายามอย่างไรเราไม่สามารถดื่มน้ำเพียงวันละ 1,600 cc แล้วจะเพียงพอ นั่นหมายถึงไตเราจะต้องทำงานหนักตลอดเวลา เพื่อทำให้ปัสสาวะเราเข้มข้น ผ่านไปนานๆจะทำให้มีปัญหาได้ เช่น นิ่วในไต ในกรวยไต นิ่วในท่อไต เป็นต้น หรือ ปัญหาต่างๆในแง่การขาดน้ำ ร่างกายก็พยายามจะเก็บน้ำไว้ก็ไม่มีให้เก็บ กินเข้าไปทำไหร่ก็ออกไปหมดเลย ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการดื่มน้ำปริมาณ 2 ลิตรต่อวัน
ถ้าเราหลงป่า แล้วเราดื่มน้ำปัสสาวะตัวเองได้หรือไม่ อย่างที่กล่าวมาข้างต้น หากร่างกายเราต้องการสงวนน้ำ ก็จะทำให้ปัสสาวะเข้มข้นมากๆ แต่จะสงวนอย่างไรก็ต้องขับสารเป็นพิษออกมาจากร่างกายด้วย ปัสสาวะของเราก็จะเข้มข้นสูงสุดถึง 1,200 mOsm/L หากเราดื่มเข้าไป เลือดเราจากที่มีความเข้มอยู่ที่ 290 mOsm/L ก็จะกลายเป็น 300 หรือ 3ร้อยกว่า ร่างกายก็จะเกิดปัญหา พอร่างกายมีความเข้มข้นในเลือดสูงมากขึ้น แสดงว่ามี osmol ที่จะต้องขับมากขึ้น เราก็จะยิ่งหิวน้ำเพื่อเอามาขับของเสียที่เราดื่มปัสสาวะเข้าไป
ตอนที่4
เช่นเดียวกันกับหากเราไปหลงในทะเล เราก็ไม่ควรดื่มน้ำทะเล ด้วยเหตุผลคล้ายๆกัน เพราะทะเลทั่วๆไปความเข้มข้นของเกลือ หรือ โซเดียมจะอยู่ที่ 3.5% แต่น้ำเกลือที่ใช้ในโรงพยาบาลเข้มข้นเพียง 0.9% (ซึ่งจริงๆเข้มข้นกว่าในเลือดของเรานิดนึงด้วย) หรือ เข้มข้นกว่าน้ำเกลือที่ให้ทางเส้นเลือดถึง 4 เท่าและอาจจะเข้มข้นกว่าร่างกายเรา
ถ้าเราท้องเสีย หรือ อยู่ในภาวะเหนื่อยหอบ มีไข้ ร่างกายจำเป็นจะต้องระบายความร้อนทางผิวหนังเพิ่มขึ้น เราก็ต้องให้น้ำเพิ่มขึ้นด้วย
แล้วเราดื่มน้ำได้ มากที่สุดเท่าไหร่
เมื่อร่างกายเราขับน้ำออกมา จะต้องมี osmol ออกมาด้วยเสมอ ด้วยความเจือจางที่สุดจะต้องมี osmol ปนออกมาอย่างน้อย 50 mOsm/L นั่นหมายถึง ถ้าเจือจางที่สุดที่สามารถปัสสาวะออกมาได้คือ 12 ลิตร ในแต่ละวัน แต่อาจจะมากกว่านั้นเพราะร่างกายเราสามารถขับออกทางผิวหนัง ทางเดินหายใจ ทางเดินอาหาร อาจจะถึง 13-14 ลิตร แล้วแต่ร่างกายบางคนอาจรับได้ถึง 17-20 ลิตรก็เป็นได้ แต่ไม่จำเป็นต้องกินมากขนาดนั้น ปัญหาคือ ถ้าเรากินแบบนี้นานๆจะทำให้ร่างกายเรามีความเจือจางมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วจะทำให้ร่างกายเกิดปัญหาได้
ตอนที่5
ปัญหาหลักๆที่เกิดน้ำเกิน-น้ำขาด ก็คือ โซเดียม ซึ่งโซเดียมมีหน้าที่เป็นสารสื่อประสาท ถ้าสูงหรือต่ำไปก็ไม่ดี อาจทำให้มีปัญหาทางสื่อประสาทได้ เช่น เห็นภาพหลอน งง เบลอ ชามือ ชาเท้า ชัก หมดสติ ช๊อคได้
นี่จึงเป็นที่มาว่า ทำไมเราถึงควรดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร ไม่จำเป็นต้องเป็นน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียว อาจปนมากับอาหาร น้ำอย่างอื่นก็มีน้ำเป็นส่วนประกอบ หากวันหนึ่งที่เราสามารถได้น้ำ 2 ลิตร ก็ค่อนข้างจะปลอดภัย
ตอนที่6
น้ำที่ออกจากร่างกายต่อวัน
หายใจ 400มล
อุจจาระ 200 มล
ผิวหนัง 500 มล
ปัสสาวะ อีกอย่างน้อย 500 มล
รวมแล้ว 1,600 มล
🔎เราควรดื่มน้ำมากกว่า 1.6 ลิตร ต่อวัน คือมากกว่า น้ำขวดใหญ่ 1 ขวด ค่ะ แต่นี่คือขั้นต่ำ ดังนั้น
📌คุณหมอแนะนำว่าควรดื่มน้ำ 2 ลิตรต่อวันค่ะ
ขอบคุณค่ะคุณหมอ เพิ่งรู้ค่ะว่าเราสูญเสียน้ำไปจากการหายใจ การพูด ร้องเพลง ทางอุจจาระ และทางผิวหนังคือเหงื่อ ซึ่งขึ้นอยู่กับความชื้นในร่างกาย อีกทางคือทางปัสสาวะ ซึ่งควบคุมได้ทางไตของเรา การที่ร่างกายขาดน้ำมีความสำคัญในการขับน้ำออกจากร่างกาย ซึ่งต้องมีน้ำเป็นส่วนประกอบ จึงต้องดื่มน้ำเกิน 1,600 มิลลิลิตรต่อวัน เพื่อป้องกันปัสสาวะเข้มข้น เกิดนิ่วในไตได้ ควรมีน้ำเหลือใช้เพื่อให้ไตทำงานได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตามการดื่มน้ำเกินหรือขาดมีปัญหากับโซเดียมมีผลกับการชาตามมือ เท้า การมีโรคต่าง ๆ ในร่างกาย และที่สำคัญเพิ่งรู้ว่าการพูด การร้องเพลง การหายใจ ก็มีส่วนทำให้ร่างกายต้องสูญเสียน้ำค่ะ ขอบคุณคุณหมอมากค่ะที่ทำให้เข้าใจว่าทำไมเราต้องดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร ขอให้คุณหมอและน้องโรซี่มีความสุขมาก ๆ นะคะ ขอบคุณมากค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ🙏🏻 #หมอแทน
#ทำไหมต้องดื่มน้ำวันละ2ลิตร
ส่วนตัวจะดื่ม เกิน 2 ลิตร ถ้ารวมน้ำที่อยู่ในอาหารด้วยก็น่าจะมากกว่า แต่ก็ขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่ทำในแต่ละวันด้วยค่ะ
วันนี้ได้ทราบเหตุผลที่ต้องดื่มวันละ2ลิตร ที่เข้าใจมาคือคิดเองสูญเสีย
น้ำทางเหงื่อ ปัสสาวะ ไม่คิดว่าการหายใจ การพูดก็เสียเหงื่อด้วยเยอะเหมือนกัน รู้แต่ว่าถ้าวันไหนเหงื่อออกเยอะ เช่น ออกกำลังกาย
ตอนเล่นแบดมินตัน เหงื่อจะออกเยอะมาก มาก มีเพื่อนที่เล่นด้วยกันเหงื่อเยอะมากเปียกทั้งชุดเหงื่อหยดไหลเป็นทางเลยเลอะคอร์ดจนต้องเช็ดก่อนเล่นไม่ได้ต้องเปลี่ยนชุดใหม่แล้วก็จะกินน้ำกันเยอะ มากๆ เลยค่ะ เหมือนออกเยอะต้องเอาเข้าเยอะ
💧ร่างกายเราสูญเสียน้ำต่อวัน💧
💧ทางเดินหายใจ การหายใจ การพูด ต่อวันประมาณ 400มล
💧ทางผิวหนังอาจเป็น เหงื่อ หรือระเหยไปเลยไม่เห็นเป็นเหงื่อก็ได้ เฉลี่ยวันละ 500 มล ถ้าอยู่บนเครื่องบิน หรือที่สูง ความกดอากาศต่ำแรงดันน้ำจะดันน้ำออกจากร่างกายมากจะทำให้สูญเสียน้ำมากกว่าปกติ
จึงต้องดื่มน้ำมากกว่าปกติ
💧ทางอุจจาระ เฉลี่ยประมาณ 200 มล
💧ทางปัสสาวะ อย่างน้อย 500 มล
สรุปรวมน้ำเราสูญเสียต่อวันประมาณ 400+500+200+500= 1,600มล เราจึงควรที่จะดื่มน้ำมากกว่า 1,600 มล เหตุผลทำไหมเราต้องดื่มวันละ 2 ลิตร
ได้คำตอบชัดเจนแล้วค่ะ ควรดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร ซึ่งรวมทั้งน้ำเปล่า และน้ำที่อยู่ในอาหารด้วย #เมื่อไรที่เรารู้สึกกระหายน้ำมาก ๆ ก็น่าจะแสดงว่าร่างกายเราขาดน้ำอย่างรุนแรงนะคะ ร่างกายจึงส่งสัญญาณให้เราดื่มน้ำเข้าไปนะคะ #ขอบคุณอาจารย์มากค่ะ🥰
สวัสดีค่ะ คุณหมอแทน
เหตุผลเป็นเช่นนี้นี่เอง ขอบคุณค่ะคุณหมอ ที่นำมาอธิบาย เช่นนั้นแล้ว ถ้าตื่นนอนแล้วดื่มแก้วที่1-2 แก้วที่3(8.00) 4(10.00) 5(12.00) 6(14.00) 7-8(16.00) 9(18.00) แก้วที่10(20.00) ~2ลิตรน่าจะได้😁นะคะ
การดื่มน้ำน้อยเกินไปอาจเกิดผลเสียต่อร่างกาย ดังต่อไปนี้
🔹ไตทำงานหนักขึ้น และปัสสาวะมีสีเข้ม เพราะน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
🔹มีโอกาสติดเชื้อทางเดินปัสสาวะส่วนล่างได้ง่าย
🔹มีสารก่อนิ่วตกตะกอน อาจป็นเหตุของโรคนิ่วได้
🔹ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ
🔹ปวดข้อ กระดูกอ่อนในหลายๆ ส่วนของร่างกาย
🔹เป็นริดสีดวงทวาร
🔹สมองเสื่อม
🔹ปากแห้ง ตาแห้ง ผิวแห้ง
🔹เหนื่อยล้าง่าย เซื่องซึม
สำหรับท่านใดที่ดื่มน้ำน้อย และอยากฝึกนิสัยที่ดีให้แก่ตนเองในการดื่มน้ำ ขวดน้ำยักษ์ที่มีปริมาตรและประโยคให้กำลังใจในการดื่มน้ำเขียนไว้ข้างขวดช่วยได้นะคะ 🤓
เมื่อก่อนดื่มน้ำน้อย แต่ตอนนี้ใช้วิธีจิบบ่อยๆระหว่างวันจากขวดน้ำของตัวเอง มันจะมีปริมาตรเขียนไว้ ทำให้สามารถนำไปตอบคุณหมอได้ว่าในหนึ่งวัน เราดื่มน้ำเปล่าประมาณเท่าไหร่
จากคนที่ไม่ค่อยดื่มน้ำเปล่า ดื่มกาแฟเป็นหลัก ตอนนี้ดื่มน้ำเปล่าประมาณ 3-4 ลิตรต่อวันโดยไม่รู้สึกฝืนค่ะ
(ที่ดื่มน้ำเปล่าเยอะก็เพราะว่าดื่มกาแฟเยอะเช่นกัน555)
ขอขอบคุณ
น้ำเปล่า..ชา..กาแฟ..น้ำผลไม้..โซดา..
ทานเป็นประจำทุกวันค่ะคุณหมอ..ผสมๆกัน..แต่ให้เค้าลดหวานลง..ตอนนี้ชอบทานพวก sparkling apple juice..อร่อยดีค่ะ..!!บางช่วงบ้าสับปะรด..ส้ม yuzu..แล้วแต่ว่าช่วงไหนอยากทานอะไร..มันหอมๆดีค่ะ..ตอนนี้มีออกมาใหม่สุดของ starbucks..honey ruby grape fruit coldbrew..อร่อยค่ะคุณหมอ..เค้าใช้ส่วนผสมเข้ากันดีนะคะน่าจะใส่กาแฟด้วยนิดนึงหอมดีค่ะ..!!
ก็ไม่รู้วันนึงทานน้ำได้ถึง 2 ลิตรหรือเปล่า..น้ำเปล่าจะทานเยอะเป็นบางวันค่ะถ้าวันไหนทานเค็มมากๆ...🐯🦝😁
(ส่วนที่ 1)
🌟หัวข้อวันนี้น่าสนใจมากเลยค่ะ
🙏ขอขอบคุณอาจารย์หมออย่างยิ่งค่ะ ที่ได้มาให้ความรู้ และทำให้เข้าใจอย่างกระจ่างเลยค่ะว่า ทำไมถึงต้องดื่มน้ำเยอะๆ และควรจะดื่มน้ำแค่ไหนในแต่ละวัน
ทำไมเราต้องดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร❓
ร่างกายของคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบเป็นส่วนมาก แต่เมื่ออายุมากขึ้น จะถูกทดแทนด้วยไขมันเป็นส่วนใหญ่ ปริมาณน้ำในร่างกายก็จะลดลง โดยเฉพาะผู้หญิง สัดส่วนของไขมัน ต่อ น้ำในร่างกายจะสูงกว่าของผู้ชาย
*️⃣แล้วควรดื่มน้ำมากน้อยแค่ไหนต่อวัน❓
ร่ายการมีการสูญเสียน้ำทุกวัน เมื่อมีการสูญเสียออกไปแล้วไม่เอาน้ำกลับเข้ามาทดแทน ร่ายกายก็จะขาดน้ำไปเรื่อยๆ ก็จะส่งผลทำให้เกิดปัญหาต่อร่างกายหลายอย่าง
*️⃣สูญเสียน้ำจากทางใดได้บ้าง
➡️1 ทางการหายใจ การพูด จะมีการสูญเสียน้ำไปในทางเดินหายใจ วันละประมาณเฉลี่ย 400 มิลลิลิตร
➡️2 ทางอุจจาระ หรือทางลำไส้ใหญ่ น้ำโดยเฉลี่ยในนั้นประมาณ 200 มิลลิลิตร
➡️3 ทางผิวหนัง ออกมาในรูปของเหงื่อ หรือเป็นการระเหยไปเลย โดยเฉลี่ยเสียน้ำทางผิวหนังประมาณวันละ 500 มิลลิลิตร
➡️4 ปัสสาวะ ร่ายกายจะมีกระบวนการสลายสารอาหารต่างๆและมีสมดุลเกลือแร่อยู่ ซึ่งร่างกายต้องรักษาสมดุลเกลือแร่ทั้งหมดไว้ให้ได้ คำหนึ่งที่ต้องรู้จักคือ Osmolarity เป็นคุณสมบัตรของเหลวในร่างกายอย่างหนึ่งที่มีความเข้มข้นและพยายามที่จะดึงเอาน้ำมาสู่ตัวเอง Osmolarity ในร่างกายของเราจะต้องมีค่าคงที่ค่าหนึ่ง ถ้าสูงเกินไปก็แปลว่ามันดึงน้ำเข้ามาไว้ตรงบริเวณนั้นเยอะๆ ซึ่งไม่ดี แต่ถ้ามันต่ำจนเกินไปมันก็จะปล่อยน้ำทิ้งไปที่อื่นหมด ซึ่งก็ไม่ดีเช่นกัน
(ส่วนที่ 2)
🩸เลือดของเราจะมี Osmolarity อยู่ที่ประมาณ 290 mOsm/L (milliosmole/liter) จะมีโรคบางโรคที่ทำให้ค่านี้สูง/ต่ำ ที่ไม่เหมือนกัน
ปัสสาวะ ของคนเรา จะควบคุม ความเข้มข้นของ Osmolarity ได้โดยไตของเรา และไตก็จะตอบสนองต่อฮอร์โมนชนิดต่างๆ ในร่างกาย เช่น ฮอร์โมน ADH (Antidiuretic Hormone) และมีอีกชื่อหนึ่งคือ Arginine Vasopressin (AVP หรือ Vasopressin) ฮอร์โมนตัวนี้ไปช่วยในการทำให้เส้นเลือดของเรามีการหดตัว มีตัวอื่นๆอีกเช่น BNP (Brain Natriuretic Peptide) หรือ ANP ทั้งหมดทั้งมวลคือทำให้ไตมีความสามารถในการสร้างปัสสาวะที่มีความเข้มข้นได้แตกต่างกัน แต่ไตก็มีความสามารถที่จำกัดคือ ทำให้ปัสสาวะเข้มข้นสูงสุดได้ที่ 1200 mOsm/L คือถ้าเราขาดน้ำมากๆ ปัสสาวะจะออกมาเข้มข้นสูงสุดที่ 1200 mOsm/L
*️⃣ตัวเลขนี้มีความสำคัญอย่าง❓
ปกติแล้วร่างกายจะมีการสร้าง Osmolarity ออกมาจากที่ต่างๆ เช่น โซเดียมที่กินเข้าไป โพแทสเซียมที่กินเข้าไป หรือพวกการสลายพวกโปรตีนต่างๆ จะทำให้เกิดยูเรีย ขึ้นมาในร่างกายเรา ทั้งหมดนี้เป็นส่วนประกอบ ทำให้เกิด Osmolarity ขึ้นมา แต่ร่างกายจะต้องขับทิ้งออกไป แต่ละวันจะขับทิ้งประมาณ 600 mOsm ต่อวัน ร่ายกายจะไม่สามารถขับทิ้งเฉพาะ Osmolarity เปล่าๆได้ ต้องนี้น้ำเป็นส่วนประกอบเท่านั้น ไตสามารถขับปัสสาวะได้เข้มข้นที่สุด 1200 mOsm/L ถ้าเรามี 600 mOsm ให้ขับทิ้งออกไป ก็ต้องใช้ 500 มิลลิลิตร เพราะฉะนั้น เราสูญเสียน้ำทางผิวหนัง 500 มิลลิลิตร ทางเดินหายใจ 400 มิลลิลิตร และทางอุจจาระอีก 200 มิลลิลิตรรวมกัน 1100 มิลลิลิตร ถ้าบวกกับที่ขับทิ้งอีก 500 มิลลิลิตร ก็จะได้เป็น 1600 มิลลิลิตร ไม่ว่าจะมีการขาดน้ำอย่างเต็มที่อย่างไรเราก็จะมีการสูญเสียน้ำปริมาณเท่ากับ 1600 มิลลิลิตร ออกไปทุกวัน ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดก็คือเราจะต้องดื่มน้ำให้มากกว่า 1600 มิลลิลิตรต่อวัน แต่นี่เป็นการยกตัวอย่างแบบสุดโต่ง หมายความว่าถ้าเราไม่ได้ดื่มน้ำอะไรเข้าไปเลย ปัสสาวะเราเข้มข้นมากที่สุดได้เท่าไหร่ ถ้าเราไม่ปัสสาวะเลยไม่ได้ เพราะว่าถ้าเราไม่ปัสสาวะออกมาเลย สิ่งต่างๆซึ่ง เป็นของเสียเช่น ยูเรีย พวกกลุ่มที่เป็นโซเดียมโพแทสเซียม หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เรารับประทานเข้าไปมันจะไปคั่งอยู่ในร่างกายของเรา ก็จะทำให้ร่างกายของเราทำหน้าที่ผิดปกติไป ดังนั้นจึงมีเหตุผลที่ร่างกายจะต้องขับมันออกมาและขับมันออกมาเปล่าๆไม่ได้ต้องมีน้ำตามออกมาด้วยเป็นปัสสาวะ ดังนั้น จึงเป็นที่มาของการ เสียน้ำไปทางปัสสาวะ ดังนั้นโดยรวมแล้วก็คือ 1600 มิลลิลิตร ที่ต้องใช้ในแต่ละวัน
แต่เราไม่สามารถดื่มน้ำได้แค่ 1600 มิลลิลิตรต่อวันแล้วทุกอย่างจะดี นั่นเป็นเพราะว่าไตของเราต้องทำงานหนักตลอดเวลา ทำให้ปัสสาวะเข้มข้นตลอดเวลา ผ่านไปนานๆ ก็จะมีปัญหาได้ เวลาปัสสาวะเข้มข้นมากๆนานๆ ก็จะทำให้เกิดนิ่ว เป็นนิ่วในไต นิ่วในกรวยไต นิ่วในท่อไต หรือว่ามีปัญหาต่างๆในแง่ของการขาดน้ำ ร่ายกายก็พยายามเก็บน้ำไว้แต่ไม่มีให้เก็บ เข้ามาเท่าไหร่ก็ออกไปหมดเลย ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลให้ดื่มน้ำเกิน 1600 มิลลิลิตร ก็เลยเป็น ที่มาของการดื่มน้ำ 2 ลิตร/วัน เกินมา 400 มิลลิลิตรเพื่อให้มีเหลือมีใช้บ้าง ก็จะสามารถช่วยให้ไตทำงานได้ดีขึ้น
(ส่วนที่ 3)
*️⃣ถ้าเราไปหลงป่า แล้วเราไม่มีน้ำดื่มจริงๆ เราดื่มน้ำปัสสาวะตัวเองได้หรือเปล่า❓
เมื่อร่างกายขาดน้ำปัสสาวะของเราก็จะเข้มข้นมากๆ เพื่อที่จะพยายามสงวนน้ำไว้ในร่างกายของเรา แต่ยังไงก็ต้องปัสสาวะออกมา เพราะมันต้องขับสารที่ เป็นพิษต่อร่างกายออกมาด้วย พอมันขับออกมาแล้ว ปัสสาวะของเราก็จะมีความเข้มข้นที่สูงมาก 1200 mOsm/L และเมื่อเลือดเราความเข้มข้นอยู่ที่ประมาณ 290 mOsm/L ถ้าดื่มน้ำปัสสาวะที่มีความเข้มข้น 1200 mOsm/L ถ้าเอาเข้าไปในเลือด ก็จะเกิดความเข้มข้นที่สูงขึ้น mOsm ในร่างกายของเราก็จะสูงขึ้น แทนที่จะเป็น 290 อาจจะเป็น 300 ถึง 300 กว่า พอร่างกายมีความเข้มข้นในเลือดสูง มากๆ ก็แปลว่ามีสารพิษ osmole ที่จะต้องขับออกไปให้มากขึ้น แทนที่ปกติจะมี 600 mOsm อาจจะเป็น 800 หรือ 1000 คือถ้าท่านดื่มปัสสาวะของตัวเองเข้าไป จนมี 1200 mOsm ที่ต้องขับ ก็แสดงว่าท่านต้องปัสสาวะออกมา 1 ลิตร ถ้าไม่ทันยิ่งเสียน้ำเข้าไปใหญ่ ดังนั้นท่านก็จะยิ่งหิวน้ำมากขึ้น ร่างกายเราจะบ่งบอกว่า ต้องการน้ำเพิ่มขึ้นเพราะว่า เราต้องไปขับของเสียที่เรากินเข้าไปเองเพิ่มขึ้น
*️⃣ก็เช่นเดียวกับที่ไปหลงในทะเล แล้วจะดื่มน้ำทะเลได้ไหม❓
คำตอบคือ ไม่ได้ ยิ่งดื่มก็จะยิ่งหิวน้ำเพราะว่า ปริมาณเกลือแร่ในน้ำทะเลสูงมาก ถ้าเป็นทะเลโดยทั่วๆไป ความเข้มข้นของโซเดียมหรือ ว่าเกลือทั่วๆไป จะอยู่ที่ประมาณ 3.5% น้ำเกลือที่เราปกติให้กันในโรงพยาบาลที่เป็นน้ำเกลือเปล่าๆจะอยู่ที่ 0.9% และ 0.9% นี้ก็สูงกว่าในเลือดของเราด้วย แปลว่าจะทานดื่มน้ำทะเลเข้าไป ช่วงที่ท่านขาดน้ำ ก็จะยิ่งทำให้ร่างกายของท่าน มีความหิวน้ำเพิ่มขึ้น ต้องการน้ำเพิ่มขึ้นเพื่อที่จะเอาไปขับเกลือแร่ที่ได้รับเกินไปออกมา ทางปัสสาวะอีกรอบหนึ่ง
ภาวะอื่นที่จะต้องดื่มน้ำเข้าไปมากขึ้นเช่น
▶️1 ถ้าท่านมีท้องเสีย
▶️2 มีการหายใจเหนื่อยหอบ
▶️3 มีไข้ ร่างกายต้องการระบายความร้อนผ่านทางเหงื่อ ผ่านทางผิวหนังเพิ่มขึ้น
(ส่วนที่ 4)
*️⃣ดื่มน้ำได้มากที่สุดแค่ไหน❓คิดมาจากอะไร❓
คำตอบคือ คิดมาจากความเข้มข้นของปัสสาวะ เวลาที่เราได้รับน้ำเกินเข้าไปในร่างกาย ร่างกายก็จะขับน้ำที่เป็นส่วนเกินออกมาข้างนอก ยังไงก็ต้องมี osmole ปนมาอยู่ดี โดยร่างกายเราทำปัสสาวะให้เจือจางมากที่สุด ได้อยู่ที่ 50 mOsm/L
ในแต่ละวันจะมีประมาณ 600 mOsm ที่ต้องขับทิ้ง และถ้าท่านขับออกมาได้เจือจางที่สุดคือ 50 mOsm/L จะขับ 600 mOsm/L ออกหมดได้ก็จะใช้น้ำประมาณ 12 ลิตร จริงๆแล้วอาจจะอยู่ที่ 13-14 ลิตร แต่ว่าความสามารถของร่างกายของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน อาจจะทำได้มากกว่านั้นอาจจะ 17 ถึง 20 ลิตร แต่ไม่มีความจำเป็นจะต้องไปดื่มมากขนาดนั้น เพราะปัญหาก็คือถ้าเราดื่มมากขนาดนี้นั่นนาน ก็จะทำให้ร่างกายเรามีความเจือจางมากขึ้นเรื่อยๆแล้วก็จะเกิดปัญหาต่อร่างกายได้
ปัญหาหลักๆเมื่อเรามีภาวะน้ำเกินกับน้ำขาด เกลือแร่ชนิดหนึ่ง ซึ่งมีปัญหามากที่สุดก็คือ โซเดียม มีหน้าที่ในการสื่อสารสื่อประสาทของเรา ถ้าสูงเกินไปก็ไม่ดี ต่ำเกินไปก็ไม่ดีเช่นกัน ทางเดินสื่อประสาทของเราจะมีปัญหาต่ำหรือสูงไปก็จะมีอาการทางระบบประสาท เช่นเห็นภาพหลอน มือชา เท้าชา จนถึงขั้นหมดสติชักได้ และเสียชีวิตได้เวลาที่โซเดียมมีความผิดปกติมากๆ
✳️นี่คือที่มาของการที่เราควรจะดื่มน้ำประมาณวันละ 2 ลิตร
โดยน้ำ 2 ลิตรนี้ไม่จำเป็นจะต้องเป็นน้ำเปล่าอย่างเดียว เช่นในอาหารก็มีน้ำเป็นส่วนประกอบ
🛑จะมีโรคบางโรคซึ่งไม่สามารถจะได้น้ำมากขนาดนี้คือ
🔺ถ้าคนไหนมีไตวาย การได้น้ำมากเกินไปก็จะมีปัญหา เพราะไม่สามารถขับน้ำออกไปได้ ก็จำเป็นต้องลดปริมาณน้ำลง
และจะต้องลด osmole คือสิ่งที่ร่างกายต้องขับทิ้ง เช่นแต่ท่านทานเค็มเข้าไปเยอะๆ ร่างกายจะต้องไปเอาปัสสาวะไปขับทิ้งออกมา แต่เนื่องจากไตของท่านเสียไปแล้ว ขับออกมาไม่ได้ ก็จะปัญหาเรื่องเกลือแร่ที่คั่งอยู่ในร่างกาย
🔺 ถ้ามีหัวใจวาย หัวใจบีบเลือดออกไปเลี้ยงไตไม่ได้ ไตก็จะวายตามมา ร่างกายขับน้ำออกไปไม่ได้ร่างกายก็จะมีน้ำเกิน ในกรณีนี้ก็ต้องงดน้ำลง
🔺 คนที่มีปัญหาไฮโปไทรอยด์ ไทรอยด์ทำงานต่ำผิดปกติ ร่างกายก็จะเก็บน้ำไว้ในร่างกายก็จะมีปัญหาอีก
🔺 ยาบางอย่าง ก็จะทำให้เก็บน้ำไว้ในร่างกายเพิ่มขึ้น
🔺 บางโรคก็ต้องงดเฉพาะน้ำเปล่าๆ แต่ทานน้ำที่มีเกลือแร่ปน คือโรค SIADH
👍👍❤️♥️ สุดยอดซุ่มอ่ะ หยอกๆ 😆
ลองตามสูตรนี้ ก็ได้ค่ะ
ไม่ยาก และไม่ได้มากเลยจริงๆ ค่ะ
1. หลังตื่นนอน และก่อนนอน (รวม 2 แก้ว * 250 cc)
2. ระหว่าง (ก่อน) มื้ออาหาร 3 มื้อ (3)
3. ระหว่าง (หลัง) มื้ออาหาร 3 มื้อ (3)
แค่นี้ ก็ได้อย่างต่ำ 8 แก้ว * 250 cc. รวม 2 ลิตร/วันแล้วค่ะ ไม่นับที่จะคอแห้ง หากใช้เสียงมาก, หรือให้ช่วยความรื่นคอ ขณะรับประทานอาหาร, และกระหาย หากสูญเสียเหงื่อ หรืออากาศร้อน และที่ได้จากอาหาร ผัก และผลไม้เพิ่มเติม
เมื่อก่อน ดื่มน้ำน้อยมาก
พอไปบริจาคเลือด ซึ่งต้องดื่มน้ำก่อนบริจาค 3-4 แก้ว* 200 cc. และควรดื่มต่อวัน ให้ได้วันละ 2 ลิตร เพื่อการสร้างชดเชยและบำรุงรักษาระบบเพื่อการสร้างเม็ดเลือดที่ดี เลยทำให้ต้อง "ฝึก" การดื่มน้ำวันละ 2 ลิตรไปโดยปริยาย และทำให้ สามารถบริจาคเลือด ได้ทุก 3 เดือนอย่างสม่ำเสมอค่ะ
ตั้งขวดน้ำ 1.5 ลิตร 2 ขวด ใกล้ตัว
ดื่มเรื่อยๆ ทีละน้อย อย่ายกดื่มรวดเดียวทั้งแก้ว หรือทีละมากๆ .. ไตจะขับทางปัสสาวะเสียหมด จะทำให้ไตทำงานหนักเกินไปได้ค่ะ
สวัสดีค่ะคุณหมอธนีย์
บางครั้งคนเราก็ลืมนึกถึง ความสำคัญของน้ำที่มีต่อร่างกาย จนอาจเกิดภาวะการขาดน้ำ คุณหมออธิบายถึงสาเหตุดารขาดน้ำ และปริมาณที่ร่างกายต้องการน้ำในแต่ละวัน อย่างละเอียดและเข้าใจง่าย การดื่มน้ำให้เพียงพอเป็นสิ่งจำเป็นมาก
SIADH เป็นภาวะโซเดียมในร่างกายต่ำ จากน้ำที่เกินเข้ามาในกระแสเลือด เข้าใจยากจริงค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ ขอให้คุณหมอและครอบครัว มีสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัย และมีความสุขนะคะ
คุณมนต์ดื่มวันละ 2 ลิตรไหมคะ หรือมากกว่านั้นคะ
@@FragranzaTrippa
ดื่มน้ำเยอะค่ะวันละ 2-3 ลิตรค่ะ ขอบคุณมากนะคะ คุณทริปป้า ⚘💙⚘
@@boomsong5729 ดื่มพอๆกันเลยค่ะ
คุณหมออธิบายละเอียด ชัดเจนมากคะ ทำให้ต้องกลับมาเช็คตัวเองด้วย ขอบคุณคุณหมอมากคะ ทำคลิปดีๆ มีสาระประโยชน์จริงๆคะ
ขอบคุณความรู้ที่คุณหมอ นำมาบอกกล่าวมากค่ะ.. ยิ่งฟังคุณหมอพูด ..ยิ่งรู้สึกผิดในการดูแลสุขภาพมาก ...ต้องรีบเปลี่ยนวิธีการดูแลสุขภาพ เพิ่มละค่ะ..น้ำปล่าวดื่มน้อยมากกก..ดื่มตอนกินวิตามิน..และก่อนนอน ...กับตื่นนอนเท่านั้นค่ะ..น่าจะไม่เกิน 800 มล.น้อยมาก..เพราะชอบดื่มแต่ น้ำผึ้งโซดามะนาว..
คุณหมอ คือสงสัยอะไรคุณหมอทำคลลิปตลอดเลย ขอบคุณนะครับ มีประโยชน์มากๆ
ตอนนี้กำลังทำอยู่ค่ะหันมาดื่มน้ำจริงจัง ใส่ขวด 2ลิตรไว้แต่เช้าแล้วจิบไปเรื่อยๆ รู้สึกดี สดชื่น เวลาออกกำลังกาย แขนจะฉ่ำๆ และไม่มีกลิ่นปากยิ่งมาฟังจากคุณหมอ ยิ่งมีความรู้มากขึ้น ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ
ขอบคุณ มากค่ะ คุณ Dr.Tany. อธิบายได้น่าฟังมากที่สุด เคยสงสัยเรื่องนี้มานาน ดีใจที่ Dr.Tany ได้เข้ามาอธิบายให้ทราบค่ะ.
ชื่นชมคุณหมอมากๆค่ะ
เป็นข้อมูลที่ต้องการคำตอบค่ะ
ขอบคุณมากๆค่ะอ.หมอ👏👏👏 เข้ามาฟังคลิปย้อนหลังค่ะ อ.หมอ เก่งที่สุดค่ะ🙋🙋🙋
ขอบคุณค่ะ เข้าใจและได้ความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย สุขภาพของเรามากๆค่ะ
ขอบคุณอาจารย์หมอมาก
ค่ะคลิปวันนี้ทำไมเราต้อง
ดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร เรื่องน้ำๆ
วันนี้เป็นประโยชน์มากเลย
ค่ะ การหายใจก็ทำให้สูญ
เสียน้ำด้วย ปกติดื่มน้ำน้อย
ค่ะ เคยได้ยินเสมอว่าควร
ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ8 แก้ว
ค่ะ ถ้าเฉลี่ยแก้วละ200 cc.
จำนวน 8 แก้วก็ประมาณ
1,600 cc. เป็นเป้าหมายที่
ควรทำแล้วค่ะแค่เรื่องน้ำๆ
มองข้ามไม่ได้แล้วค่ะ มาฟัง
อาจารย์หมออธิบายได้
ความรู้ความเข้าใจมากกว่า
ในเน็ตทั่วไป ขอบคุณ อจ.
หมอมากมายเลยค่ะ 🌷 🙏
ขอบคุณ คุณหมอมากๆ ค่ะ ฟังคุณหมอตลอดทุกคลิป ได้ความรู้ดีๆ โดยไม่มีแอบแฝง โฆษณาหรือขายของเลย ชื่นชมคุณหมอมากๆ ค่ะ
ขอบพระคุณอ.หมอให้ความรู้ดีๆเช่นเคยคะ และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันคะ
เพิ่งได้ติดตามคุณหมอค่ะ
ได้ความรู้ เข้าใจได้ง่าย
บางคลิปได้แง่คิดชีวิตเลยค่ะ
รู้สึกคุณหมอใช้เวลาในหนึ่งวัน
อย่างคุ้มค่าและมีคุณภาพมาก ๆ
นับถือค่ะ
ขอบคุณ คุณหมอค่ะ ตอนนี้ดื่มวันละสองลิตรกว่าค่ะ เดินวันละหมื่นกว่าก้าวค่ะ (เพราะเมื่อสองเดือนติดโควิดค่ะ)
ขอบคุณนะคะ ส่วนตัวก้จะดื่มน้ำให้ได้ประมาณ 2 ลิตรทั้งๆที่ถ้าคำนวณตาม นน แล้ว จะดื่มได้แค่ 1,200 นิดๆ ยิ่งได้ฟังเช่นนี้แล้วยิ่งมั่นใจว่าสามารถดื่มเกินได้🙏
สวัสดีค่ะคุณหมอแทน ตอนนี้หนูเป็นโควิดมา 3 วันแล้ว รักษาตัวมา 3 วันด้วยตัวเอง ด้วยสมุนไพร กับยาเม็ด รักษาตัวอยู่ที่บ้าน กินน้ำเยอะ ๆ ดีขึ้นมาก ๆ เลยค่ะ แนะนำสมุนไพรไทย ๆ ก็ดีเช่นกันนะคะ ช้าหน่อยแต่ยั่งยืนดีค่ะ นำมาต้มดื่มสดชื่นไปอีกแบบค่า ขอบพระคุณพี่หมอที่แนะนำในทุก ๆ คลิปนะคะ ตอนนี้ที่เป็นก็ดูคลิปคุณหมอตลอดในการปฏิบัติตัว และรักษา ป้องกันเชื้อไม่ให้แพร่ไปยังคนใกล้ตัวด้วยค่ะ ตอนนี้ก็พยายามไม่ใช้เสียงเยอะ ค่ะเพราะเป็นนักร้อง 555 อยากให้เสียงฟื้นฟูเร็ว ๆ จังค่ะ
หายไวไวน่ะค่ะ ป้าก็เคยผ่านมาแล้วเช่นกันสู้ๆๆลูกเดี่ยวก็ดีเองค่ะเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ✌️✌️✌️🥰
หายไวๆนะครับ ระหว่างนี้งดใช้เสียงไปก่อนมันจะหายไวขึ้นครับ
@@สวยอําไพแจ่มดี ขอบพระคุณมาก ๆ ค่ะคุณป้า ❤️ จะสู้ค่ะ ฮึง้าาาาา สุขภาพแข็งแรง ๆ นะคะ
@@DrTany ขอบพระคุณมาก ๆ ค่ะคุณหมอ ❤️ จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมให้ได้ค่ะ ไม่กลัวอยู่แว้ว ฮึง้าา 55
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับอาจารย์
เป็นความรู้ในชีวิตประจำวันมากๆ จะนำไปให้ความรู้คนรอบข้างต่อๆไปครับ
คลิปนี้ซึ้งเลยค่ะ เพราะเคยมีภาวะขาดน้ำ ดูเป็นเรื่องธรรมดาแต่สำคัญมากจริงๆ ขอบคุณคุณหมอค่ะ
Goodmorning ค่ะคุณหมอแทน พูดเรื่องการดื่มน้ำ ก็ชอบเลยตอนที่บอกร้องเพลง😁😁ก็สูญเสียน้ำได้55จริงที่สุดค่ะ เพราะสังเกตตัวเอง พอร้องนานๆหลายเพลง เสียงเริ่มแหบ และคอแห้งมาก สังเกตน้องที่เค้าเปิดห้องปาร์ตี้สำหรับในแอ๊ป เค้าจะมีน้ำอยู่ข้างกายตลอด ร้องไปเค้าดื่มน้ำไปด้วยเป็นระยะๆสังเกตเค้าเสียงดีไม่ตกร้องติดต่อกันหลายเพลงเลยทำตามช่วยให้เสียงดีขึ้นจริงๆ และพี่อีกคนดื่มน้ำเยอะมากคนนี้ไม่ยอมดื่มน้ำเย็นเลยดื่มน้ำปกติบอกเสียงจะดี มีคำถามค่ะคุณหมอ 1)ตัวเองสังเกตว่าดื่มน้ำอัดลมบ้าง น้ำผลไม้ต่างที่ขาย อยู่บ้างที่ดื่มมากๆแล้วปัสสวะสีเข้ม คิดว่าต้องมีสารอะไรผสมแน่เลย อันนี้ขอความคิดเห็นค่ะ2)ก็ชอบดื่มน้ำมากๆ เชื่อว่าช่วยเรื่องผิวพรรณ แต่ผิวก็ยังแห้งนะคะ3)ทำไมพอดื่มน้ำมากในหน้าหนาวหรืออากาศเย็นเมื่ออยู่ในห้องแอร์บางทีเข้าห้องน้ำเป็นสี่ห้าครั้งในเวลาไม่ห่างกัน เลยตอนทำงานอยู่ ตอนนี้ปกติค่ะสงสัยจังค่ะ ขอบคุณนะคะคุณหมอ🙏⚘
ขอบคุณค่ะ น้ำสำคัญต่อร่างกายจริงๆ 💧ช่วงนี้ดื่มเยอะเหมือนกัน🤔 แต่ขี้เกียจวิ่งเข้าห้องน้ำน่ะค่ะ ยิ่งหน้าฝนด้วย… และความจุในกระเพาะปัสสาวะแต่ละคนไม่เท่ากันด้วยมั้งคะ (ปกติเหงื่อก็ไม่ค่อยออก ถ้าไม่ได้เล่นกีฬา ขนาดเล่นกีฬาเหงื่อยังออกน้อยเลย😅) ทราบค่ะ…หลงป่ายังไงก็ไม่ดื่ม😨ค่ะ …เคยดูสารคดีมีวิธีหาน้ำจากหลายแหล่งอยู่เหมือนกัน…🤩
อยากให้เล่าเกี่ยวกับโรค SIDH ค่ะ จะรอฟัง
ฟังคลิปนี้จบแล้วนึกถึงหนังสือเรื่อง Water: For Health, for Healing, for Life: You're Not Sick, You're Thirsty! ที่เคยอ่านช่วงม.ปลาย ตอนนั้นอ่านฆ่าเวลาพาคุณย่าไปพบหมอ แล้วก็ลืมเนื้อหาไปหมดแล้ว ช่วงนั้นจำได้ว่า เคยไปอ่านเกี่ยวกับผู้แต่งนส.เรื่องนี้ แล้วมีความเห็นประมาณว่าหมอท่านนี้มีความคิดไม่เหมือนใครที่เชื่อว่าแค่น้ำสามารถรักษาได้ทุกโรค อารมณ์เหมือนต่อต้านการใช้ยา เลยอ่านไม่จบ
เดี๋ยววันนี้จะลองกลับไปอ่านดูอีกทีค่ะ ว่ามันเขียนว่ายังไงบ้าง แต่อันดับแรกต้องเช็ดทำความสะอาดก่อน หนังสือเก่ามากกก เดี๋ยวภูมิแพ้ขึ้น 🤧
ตัวอย่าง ตื่น6.30ดื่ม2แก้ว
ทานข้าว7โมง เว้นไป2ชั่วโมง
9โมง1แก้วแล้วก็10และ11โมง
หลังเที่ยงบ่าย2-3-4-5
ช่วงค่ำอย่าอัดมาก ได้ลุกฉี่กลางคืน
ข้อดีของการกินน้ำทั้งวันคือ
เลิกอยากของหวาน ของจุกจิก
คุณหมอคะ กรณีผู้ป่วยติดเตียง ใส่สายให้อาหารทางสายยาง ต้องการน้ำ กับสารอาหารอย่างไรคะ ขอบคุณค่ะ
ก่อนอื่นต้องถามหมอที่ดูแลตอนก่อนที่จะออกจาก รพ ครับ แต่ละคนมีความต้องการไม่เท่ากัน
@@DrTany ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณ คุณหมอมากค่ะ ได้ความรู้มากเลยค่ะ จะได้รู้สึกสำคัญว่า ทำไมต้องทานน้ำให้ได้เท่านั้นเท่านี้ เพราะแบบนี้นี่เอง ไล่ฟังคุณหมอทุกคลิปนะคะ ☺️💞
ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ เป็นเรื่องที่รู้ แต่ไม่เข้าใจที่มา และสาเหตุเลยค่ะ จนวันนี้ได้เข้าใจเสียที 👍👍👍👍
รบกวนสอบถามคุณหมอค่ะ แรงดันน้ำในโพรงสมองสูง (วัดค่าจากการเจาะน้ำในไขกระดูกสันหลังไปตรวจค่ะ) เกิดจากสาเหตุอะไรคะ และมีวิธีรักษาอย่างไรคะ ขอขอบพระคุณมากนะค่ะ
มีหลายสาเหตุครับ เช่น มีการอุดตันทางเดินน้ำในสมอง มีการสร้างที่มากผิดปกติ หรือมีการดูดซึมน้ำได้น้อยลงในโพรงสมอง การรักษาขึ้นกับสาเหตุครับ ถ้าแก้ไม่ได้ก็อาจต้องใส่สายระบายน้ำในโพรงสมองเข้าไปที่ช่องท้องหรือช่องหัวใจแทนครับ ตรงนี้ต้องสอบถามหมอที่รักษาครับ
ขอบคุณค่ะ ได้ความรู้มากมาย จะได้ดูแลตัวเองให้ดีขึ้น
ขอบคุณคะ ดีใจที่ คุณหมอมาให้ความรู้ ขอบคุณพระคุณอย่างสูงค่ะ พึ่งรู้ระบบร่างกายบนเครื่องบินคะ
สวัสดีคะ=ประเทศไทย ชุ่มช้ำมากๆคะรถติดมาก ขอบคุณคะคุณหมอ ตาก็ดื่มน้ำเยอะมากคะวันหนึ่งอาจะเกินหรือบางวันถ้าไม่ค่อยมีเวลาก็น้อยกว่าคะ แต่พยามดื่มน้ำให้เยอะคร่า.😊👍 ตาขอให้คุณหมอมีความสุข สุขภาพแข็งแรงและปลอดภัยนะคะ.🙏🇹🇭😷🌹💕
สะกดผิดๆ อะไรเยอะ
ขอบคุณค่าาคุณหมอ สำหรับคำแนะนำการดื่มน้ำที่เหมาะสมค่ะ 🤩
- เนื้อหามีประโยชน์มากค่ะ คุณหมออธิบายละเอียด ฟังเพลินค่า 🙂
- คุณหมอพักดื่มน้ำค่าา 🍵🍒😃
- ทิ้งท้ายด้วยสุภาษิตเกี่ยวกับน้ำนะค้าา...
"น้ำร้อนปลาเป็น น้ำเย็นปลาสบาย....ย" 😆😆
"สุขกาย สบายใจ ทุกท่านค่าาา..." 🌻🥰
สวัสดีคะ .ขอบคุณมากตะสำหรับความรู้ดีๆ
ป้า ดื่มนำมากและทำให้ปัสสวะบ่อบมาก มีปัญหาไหมคะ
ข้อมูลจาก สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า _การดื่มน้ำมากเกินไป ทำให้เกิดภาวะน้ำเป็นพิษเสียชีวิตได้_
🔊การดื่มน้ำนั้นเป็นสิ่งจำเป็น เพราะน้ำเป็นส่วนประกอบ 2 ใน 3 ของร่างกาย แต่หากดื่มน้ำมากเกินไปคือ _วันละ 6-7 ลิตร_ จะส่งผลให้ร่างกายได้รับน้ำปริมาณมากเกินไปในเวลารวดเร็วเกิดภาวะน้ำเกินหรือน้ำเป็นพิษ (Water Intoxication) ส่งผลให้ปวดศีรษะ ตะคริว ชัก หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง คลื่นไส้ อาเจียน บวม ส่งผลกระทบต่อเซลล์สมอง ซึ่งอาจอันตรายจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
🔊นอกจากนี้ การดื่มน้ำมากเกินไป ทำให้ความเข้มข้นของแร่ธาตุโซเดียมลดลง การได้รับน้ำมากเกินกว่าอัตราการขับถ่ายของไตจะมีผลทำให้เกิดภาวะโซเดียมในเลือดต่ำหรือ _ไฮโปแนทรีเมีย (Hyponatremia)_ จะส่งผลให้มึนงง ความคิดสับสน หมดสติ ชักและอาจเสียชีวิตได้
@ FragranzaTrippa
ขอบคุณมากนะคะ ⚘💙⚘
สวัสดีค่ะคุณหมอ
ขอบพระคุณมากค่ะ💐
ความรู้เดิมๆ เราควรดื่มน้ำ 6-8 แก้วต่อวัน หรือ 1.5-2 ลิตร แต่ไม่ได้รู้ถึงที่มาที่ไป อาจารย์มาอธิบายในคลิปนี้ ทำให้รู้ถึงเหตุผลว่าทำไมเราต้องดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร
ร่างกายเราสูญเสียน้ำทุกวัน ทางการหายใจ 400 มล. ทางผิวหนัง 500 มล. ทางอุจจาระ 200 มล. ทางปัสสาวะ 500 มล. โดยรวมแล้ว 1,600 มล. แต่เราจะดื่มน้ำแค่ 1,600 มล.ไม่ได้ เพราะจะทำให้ไตทำงานหนักตลอดเวลา ทำให้ปัสสาวะเข้มข้น ผ่านไปนานๆ จะทำให้เกิดปัญหาได้ เช่น นิ่วในไต นิ่วในกรวยไต นิ่วในท่อไต หรือร่างกายขาดน้ำได้ จึงเป็นเหตุผลให้ดื่มน้ำเกิน 1,600 มล. ก็เลยเป็นที่มาของการดื่มน้ำ 2 ลิตรต่อวัน เกินมา 400 มล. เพื่อให้มีเหลือใช้บ้าง ช่วยให้ไตทำงานได้ดีขึ้น
มาถึงตรงนี้ทำให้คิดไปเองเลยว่า ไตของดิฉันคงจะแย่แน่แล้ว 😓😥 เพราะเป็นคนที่ดื่มน้ำน้อยมากๆ น้อยที่สุดในปฐพีหรือเปล่า 😂😂 มีใครดื่มน้ำน้อยเหมือนดิฉันบ้างไหม มาเป็นเพื่อนกัน 😆😅 ใน 1 วัน น้ำเปล่าขวดเล็ก 600 มล. ยังดื่มไม่หมดเลยค่ะ ดิฉันอ้างไปที่ลักษณะการทำงานที่เร่งรีบ ไม่สามารถที่จะปลีกตัวไปดื่มน้ำ เข้าห้องน้ำได้เลยตั้งแต่เช้าถึงเที่ยง เป็นเช่นนี้ประจำ แต่ก็คิดอยู่ตลอดว่าจะทำอย่างไรดีให้เราดื่มน้ำได้เยอะๆ
ขอบคุณค่ะอาจารย์สำหรับคลิปนี้ สำคัญกับดิฉันมากๆ ค่ะ คงต้องมาจัดการกับตัวเองอย่างจริงจังแล้ว ทำยังไงดีจะดื่มน้ำได้เยอะๆ เห็นอาจารย์ตอบในเม้นว่า "ดื่มน้ำน้อยต้องแก้ที่นิสัยก่อน" ดิฉันนี่นิสัยไม่ดีเอาซะเลย 😂😂 โอเคค่ะ ต่อไปจะพยายามทำนิสัยให้ดีๆ นะคะ 😁
ปล. ดิฉันได้อ่านเม้นที่อาจารย์ตอบคำถาม ชอบมากๆ ค่ะ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ควรพลาดอาจารย์เน้นตลอด เช่น การทำความสะอาดหลังเข้าห้องน้ำ ให้เช็ดจากหน้าไปหลัง สุดยอดค่ะ 👍
☺️💕👍👍
@@Hoshi1451 น้องกุ้งดื่มน้ำเยอะป่าววว
@@maneeann
ไม่เยอะค่ะ บางทีขวดเล็กยังไม่หมดเลย 😅 มาฟังคลิปเรื่องน้ำของ อจ.ต่อไป
จะดื่มให้ได้ค่ะอย่างน้อย8แก้วค่ะ
แต่ก่อนไม่เคยถึง1ลิตร ตั้งแต่เป็นโควิดลงปอดไปนิดหน่อย คุณหมอที่รักษาบอกว่า ต้องดื่มน้ำเปล่าให้ได้วันละ1.5ลิตร เพื่อไล่อาการเหนื่อยง่ายจากโควิดลงปอดช่วงแรก ที่อยู่ฮอทพิเทล แค่เดินก็เหนื่อยหอบ มันเหลือเชื่อมากเลยคะ ดีขึ้น ยิ่งกว่ายาวิเศษอีกคะ ผ่านมา1ปี ทุกวันนี้ก็ยังปฏิบัติเหมือนเดิมคะ กินน้ำเปล่าแบบไม่เย็น วันละ1.5ลิตร กินจนติดเป็นนิสัย เพราะตอนออกจาก ฮอทพิเทล ปอดยังมีรอยเปื้อน คุณหมอบอกว่าต้องกินน้ำเยอะ มันจะหายไปเองรอยเปื้อน มันมีประโยชน์มากจริงๆคะ
สวัสดีค่ะ คุณหมอแทน ป้าขอโทษค่ะฟังเพลินๆๆเลยขอบคุณข้อมูลในคริปนี้น่ะค่ะการดื่มน้ำมากเกินก็ไม่ดี การดื่มน้ำน้อยก็ไม่ดีอีกเพราะฉนั้นควรที่จะต้องดื่มให้พอดีกับร่างกายของเราจริงๆๆค่ะ บางวันเราก็ทานผลไม้บ้าง บางวันก็ทานน้ำชุปบ้างหรือทุกสิ่งอย่างตามที่คุณหมอได้กล่าวไว้ในหัวข้อ ขอขอบคุณน่ะค่ะคุณหมอแทน สุขภาพดีมีความสุขน่ะค่ะและน้องโรชี่ด้วยค่ะ🙏🏼♥️♥️♥️🥰ค่ะ
ได้ความรู้ต่างๆมากมายเลยค่ะ
สงสัยว่าเป็นร้อนในบ่อยมากๆ ทำให้รู้สึกกระหายน้ำตลอดเวลาเลยค่ะ จิบน้ำตลอดเลย อยากทราบว่าเพราะอะไรถึงเป็นร้อนในบ่อยคะคุณหมอ และมีวิธีรักษา ให้ไม่เป็นบ่อยไหมคะ
พวกนั้นต้องเริ่มที่การพักผ่อนให้พอและดื่มน้ำให้พอ นอกจากนั้นควรเปลี่ยนแปรงสีฟันทุกๆเดือนครับ บ้วนปากทำความสะอาดบ่อยๆด้วยน้ำยาบ้วนปากก็ช่วยได้ครับ
ผัก ผลไม้ 5 ชนิดที่มีปริมาณน้ำเยอะ เพิ่มน้ำ เพิ่มความชุ่มชื้นให้ร่างกาย
อันดับ 1 แตงกวา🥒
อันดับ 2 ผักกาดแก้ว🥬
อันดับ 3 ผักคึ่นฉ่าย🫒
อันดับ 4 มะเขือเทศ🍅
อันดับ 5 แตงโม🍉
เด็กๆเคยทานลูกตาล ชอบมาก ค่ะ เพราะข้างในมีน้ำเต็มเลยค่ะ เหมือนเสี่ยวหลงเปา สมัยนี้ 555
@@CherryChonny อร่อยค่ะ ยิ่งอ่อนๆหน่อยจะนุ่มมาก
@@FragranzaTrippa เด็กๆ🤚มือเล็กๆจับแล้วเต็มมือเลยค่ะ กัดทีน้ำหกเต็มคาง 555 บางลูกหวาน บางลูกเค็มๆ สมัยนี้ไม่ได้ทานเลย เคยทานแต่แบบหั่นมาแล้ว ไม่ได้ซดน้ำข้างในเลยค่ะ 🫣🤣😂
@@CherryChonny เคยเจอที่แม็คโครนะ แต่แข็งมากเลยอ่ะ...
เอาทั้งหมดปั่นรวมกันกับน้ำแข็ง เย้ๆ
คุณหมอ ธนีย์: ก่อนอื่นขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง เกี่ยวกับเรื่อง ทำไมเราต้องดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร เท่าที่เคยอ่านมาแหล่งและฟังคลิปคุณหมอในเมืองไทย บางท่านก็บอกว่า ต้องดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว บางท่านก็บอกว่า 2-2.5 ลิตร ส่วนหนังสือที่เขียนโดยคุณหมอบางท่านในอเมริกาที่อ่านมา จากการที่คนไข้ถามเรื่องจะต้องกินน้ำเท่าไรจึงจะพอในแต่ละวัน
คุณหมอในอเมริกาก็ตอบว่า ถ้าร่างกายคนปกติ เมื่อไรที่หิวน้ำก็ให้กินน้ำ จนหายหิวน้ำ นอกจากคนที่ร่างกายไม่ปกติ ต้องไปหาหมอ
หลังจากฟังที่คุณหมอธนีย์ เล่าที่ไปที่มาของน้ำให้ฟัง น่าสนใจมากมีหลายเรื่องที่ร่างกายเป็นของเราแต่กลับไม่ทันคิด และไม่ได้สนใจเท่าที่ควร ฟังคลิปนี้แล้วได้รับความรู้มากมาย และเข้าใจง่ายมาก แม้จะซับซ้อน แต่สนุก ฟังได้เพลินมาก
คำถามที่อยากจะถามคุณหมอในตอนท้ายที่คุณหมอพูด ถ้าคุณหมอพอจะมีเวลาตอบให้เป็นวิทยาทาน ก็คือ สำหรับตัวเองที่เป็นไฮโปไทรอยด์ ซึ่งไทรอยด์ทำงานผิดปกติมานานปี ตามที่เคยแจ้งให้คุณหมอทราบ ตอนนี้กินยา Levothyroxine 7.5 mg. แล้วคนไข้จะรู้ได้ยังไงว่าตามที่คุณหมอบอกว่า ร่างกายจะเก็บน้ำไว้ แล้วจะทราบได้ยังไง ว่าร่างกายเก็บไว้มากน้อยแค่ไหน หรือว่าทางเดียวที่จะทราบคือ ต้องไปสอบถามกับคุณหมอที่ดูแลเรื่องไฮโปไทรอยด์ให้
ขอขอบคุณคุณหมอธนีย์เป็นอย่างยิ่งอีกครั้ง สำหรับความรู้ใหม่ๆ ทุกครั้งแวะเข้ามาฟังที่คุณหมอพูดไม่ว่าเรื่องอะไร ได้รับความรู้และอธิบายได้ชัดเจน เข้าใจง่าย ทุกครั้ง
กรณีนั้นทานน้ำได้ปกติตามที่ผมเล่าในคลิปครับ และถ้ามีอาการบวมที่ขาอันนั้นแปลว่าร่างกายมีน้ำเกิน ควรไปตรวจกับหมอหาสาเหตุเพิ่มครับ
@@DrTany ขอบคุณมากค่ะ ชัดเจนค่ะ เข้าใจ ชอบคุณมาก คิดว่าไม่มีปัญหาค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ โทษที สะกดผิดค่ะ
อาจารย์คะ ยาบางอย่างที่อาจารย์บอกว่า อาจจะทำให้ร่างกายเก็บน้ำเอาไว้ นั่นคือ การคั่งน้ำ หรือเปล่าคะ ไปหาข้อมูลมาว่าเป็นยาดังต่อไปนี้ แต่ไม่แน่ใจว่าถูกหรือไม่ค่ะ
🔹ยาคุมกำเนิดบางยี่ห้อที่มีปริมาณเอสโตรเจนสูง
🔹ยากลุ่ม NSAIDs เช่น Ibuprofen และ Naproxen
🔹ยารักษาอาการปวดเส้นประสาท Pregabalin และ Gabapentin
🔹ยาต้านแคลเซียม Amlodipine
🔹ยารักษาโรคเบาหวาน Pioglitazone และ Rosiglitazone
ประมาณนั้นครับ
@@DrTany ขอบคุณมากค่ะอาจารย์...
ดูจบแล้วรีบไปหยิบน้ำมาดื่มเลยค่ะ 😅 ขอบคุณมากๆค่ะ อธิบายเข้าใจง่ายฝุดๆ
เป็นกำลังใจให้อาจารย์หมอ
แทน ตลอดกาลค่ะ☺️ ได้ความรู้ด้วยค่ะจากคำถามที่คนถามเข้ามาแล้วอาจารย์หมอเข้ามาตอบ🙏ขอให้
อาจารย์หมอมีความสุข
มากๆค่าาา พักผ่อนด้วย
นะคะ🐶🌹☺️☺️☺️
ดีมาก ๆ เลยค่ะ ชัดเจนเข้าใจได้ง่าย เอาไปใช้สอนเด็ก ๆ ต่อได้เลยค่ะ ขอบคุณนะคะ
มีประโยชน์มากค่ะ...
ขอบคุณคะ
🙏🙏🙏ขอบคุณค่ะ❤❤❤
😊🌼🍃⚀ เราสูญเสียน้ำทางการหายใจ และ
ทางอุจจาระ เป็นปริมาณเท่าไหร่ต่อวัน
🔺️ ทางแรกก็คือทางการหายใจ การพูดการหายใจต่อวัน ไม่ว่าเราจะพูดมากพูดน้อย ร้องเพลง หรือว่าหายใจเฉยๆโดยที่ไม่ได้พูดเลยก็จะมีการสูญเสียน้ำไปในทางเดินหายใจของเรา
วันหนึ่งก็เฉลี่ย 400 มิลลิลิตร หรือ 400 cc นั่นเอง
🔺️ อีกทางคืออุจจาระหรือลำไส้ใหญ่ซึ่งปกติจะต้องมีการสร้างอุจจาระออกมา โดยน้ำเฉลี่ยในนั้นก็ประมาณ 200 มิลลิลิตร
🔺️ ทีนี้รวมกันก็เป็น 600 มิลลิลิตร
คลิป ทำไมเราต้องดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร
ขอบคุณมากค่ะ
🌹❤🌹
วันนี้ยอดผู้ติดตามช่อง TH-cam ของ Doctor Tany เพิ่มเป็น ✴3.12 แสนคน✴แล้วค่ะ
เป็นช่องที่นำเสนอความรู้ด้านสุขภาพ เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ติดตามแล้วคุณภาพชีวิตจะดีขึ้นค่ะ
💐💐💐💐💐💐💐💐💐💐ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ💐💐💐💐💐💐💐💐💐💐
@ FragranzaTrippa
ขอบคุณมากนะคะ ⚘💙⚘
@ Doctor Tany
ยินดีกับคุณหมอด้วยนะคะ
พักผ่อนมากๆนะคะ
นอนหลับฝัน...ฝันหวาน ราตรืสวัสดิ์ค่ะ 🌻🧡🌻
@@boomsong5729 ยินดีค่ะ...
ขอบคุณค่ะคุณหมอ เราเป็นคนนึงที่ต้องดื่มน้ำเยอะมากๆต่อวันเพราะชอบเป็นร้อนในที่ปาก วันไหนดื่มน้ำน้อยคือแผลขึ้นเลยค่ะ ต้องดื่มให้ได้ 1.6-2 ลิตร ตามที่หมอแทนแนะนำ🫡 ส่วนอีกหมอคือหมอดูบอกว่าเป็นคนธาตุไฟแรง เลยต้องกินน้ำเยอะๆ😂
ขอบพระคุณค่ะคุณหมอมีสาระดีๆมาฝากทุกวันข้อมูลเชื่อถือได้เสมอ อนุโมทนาสาธุค่ะ🙏❤️
🙏🙏🙏ค่ะ คุณหมอ 🥰🥰🥰
สวัสดีค่ะ ขอให้สดชื่นทั้งวัน การงานราบรื่น สบายใจ ตลอดเวลานะคะ ขอบคุณค้าา
ขอบคุณค่ะคุณหมอ🙏… ฟังแล้วต้องปรับพฤติกรรมตัวเองด่วนเลยค่ะ😊 เพราะปกติ ดื่มน้ำน้อยมาก 1- 1.5 ลิตร เอง 😅✌️✌️
การดื่มน้ำ เรื่องธรรมดาที่ไม่ธรรมดา เป็นความรู้ที่ดีมากสำหรับทุกคนเลยค่ะ
ได้ยินคุณหมอ นักโภชนาการและจากที่คุณครูสอนตั้งแต่ชั้นประถมว่าเราควรดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้ว ต่อมาก็เป็น 1.5-2 ลิตรต่อวันก็เชื่อจามนั้นมาตลอด ไม่เคยสงสัยเลยว่าทำไม แต่วันนี้คุณหมอกรุณาอธิบายเหตุผลเป็นความรู้ที่ดีมากที่ทุกคนควรรู้เลยค่ะ
ปกติเป็นคนชอบดื่มน้ำและดื่มเยอะอยู่แล้วจึงไม่เข้าใจคนที่ไม่ชอบดื่มน้ำหรือดื่มน้ำไม่พอ แต่ถ้ายุ่งจนไม่มีเวลาดื่มน้ำนี่เข้าใจค่ะ เคยเป็นแต่ไม่บ่อยเพราะร่างกายจะเตือนตัวเองเสมอว่าเธอหิวน้ำ! ควรดื่มน้ำได้แล้ว
คุณหมอคะ การดื่มน้ำเย็น (น้ำใส่น้ำแข็ง) มีผลเสียกับร่างกายจริงไหมคะ เป็นคนชอบดื่มน้ำใส่น้ำแข็งมากค่ะ แต่จะโดนดุบ่อย ๆ ว่ากินน้ำเย็นมันไม่ดี ต้องดื่มน้ำอุ่นค่อนไปทางร้อนถึงจะดี แต่เราไม่ชอบอ่ะค่ะ ดื่มน้ำอุ่นรู้สึกคอแห้ง ไม่ชื่นใจเหมือนน้ำเย็น
เคยอ่านเจอว่าการดื่มน้ำเย็นช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานเก่งขึ้น เพราะร่างกายจะปรับอุณหภูมิน้ำให้เท่ากับอุณหภูมิของร่างกาย ถือเป็นการเผาลาญพลังงานอย่างหนึ่งจริงไหมคะ
สวัสดีค่ะคุณหมอขอบคุณข้อมูลดีๆ
คุณหมอสบายดีน่ะค่ะ
ผ่านวิกฤษผลข้างเคียงใาได้ฉิวเฉียดค่ะ
สบายดีครับผม
ขอบคุณมากค่ะ สนใจเรื่องนี้มากค่ะ ปกติทานน้ำวันละ 4 ลิตรอย่างต่ำ ต้องพกน้ำตลอดเวลา ถ้าขาดหน้ามืด ปวดหัวจะเป็นลมค่ะ ระดับน้ำตาลในเลือดพอดีเส้น (เกือบสูง) ไม่ทานเค็มค่ะ แบบนี้ควรจะไปพบคุณหมอด้านไหนมั้ยคะ ขอบคุณมากค่ะ
ไม่มีครับ ควรออกกำลังกายทุกวันก่อนครับ
@@DrTany ขอบคุณคุณหมอมากๆ นะคะ กรุณามาตอบค่ะ
ขอบคุณค่ะอาจารย์🙏🥰เมื่อวานเพิ่งส่องกล้องลำไส้ใหญ่ค่ะตัดpolypไปตรวจรอผล ก่อนส่องกล้องเตรียมลำไส้ทานยาระบายผสมน้ำครั้งละ2,000ml2ครั้ง ไม่เคยทานน้ำมากขนาดนี้เลยค่ะ แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี😅😁🥰
สวัสดีค่ะพี่หนึ่ง🌹
ขอให้ไม่มีปัญหาอะไรนะครับ
ขอให้หายเร็วๆนะคะหนึ่ง...
เป็นกำลังใจให้นะคะ นางฟ้าชุดขาว🌹🌹🥰🥰
@@Hoshi1451 ขอบคุณค่ะน้องกุ้ง🙏💖😍
ผมเป็นคนที่ท้องผูกเป็นประจำ ตอนนี้แก้ปัญหาด้วยการดื่มน้ำประมาณ 1200 มล. และตามด้วยกาแฟดำ หลังตื่นนอนทันที เกือบทุกเช้า จากการสังเกตุตัวเองพบว่า น้ำจะไหลผ่านกระเพาะอาหารและลงไปที่ลำไส้ จนถึงลำไส้ใหญ่ จนไปถึงอุจจาระที่อยู่ในท้อง ผลคือจะเริ่มปวดอุจจาระในเวลาประมาณ 30 นาที และจะถ่ายออกมาจดหมด รวมถึงอาหารที่ทานมื้อสุดท้ายด้วย ที่ทราบเพราะว่าอาหารบางอย่างจะเป็น indicate ของมื้อได้ดีมากๆ เช่น ข้าวโพด หรือ เห็ดเข็มทอง เป็นต้น และบางครั้งก็จะได้กลิ่นกาแฟที่พึ่งดื่มไปตามออกมาด้วย ที่ว่ามาทั้งหมด มันจะได้ผลดีก็ต่อเมื่อทำหลังจากตื่นนอนทันที หากผ่านไปเลย 1 ชั่วโมง มันจะไม่ค่อยได้ผลแล้ว ทำแล้วรู้สึกดีเลยทำอย่างนี้เป็นประจำครับ ไม่ทราบอย่างนี้คุณหมอมีความเห็นอย่างไรครับ
ทำดีละครับ
ขอบคุณมากครับคุณหมอ 😁
คุณหมอคะ รบกวนขอถามนอกเรื่องค่ะ มีอยู่ช่วงหนึ่งเราทำงานหนักมากอาหารก็ทานไม่เป็นเวลา น้ำก็ไม่ค่อยได้ทานนั่งอยู่หน้าคอมทั้งวันแทบไม่ขยับเขยื้อนไปไหน แล้วจู่จู่ก็เกิดอาการปวดท้องมากๆด้านซ้ายปวดแบบไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนค่ะ
ตอนปัสสาวะคือต้องค่อยๆออกมาทีละนิดไม่มีแรงเบ่ง เพราะปวดมากค่ะ
คิดว่าสองสามวันน่าจะหาย ไม่ได้ไปหาหมอและไม่ได้ทานยาค่ะ โชคดีที่มันก็ค่อยๆดีขึ้น และหายปวดแล้วค่ะ
เหตุการณ์ผ่านมา 6 เดือนแล้วค่ะ เราไม่ได้ปวดท้องแบบนั้นแล้วค่ะ ไม่กล้าให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นอีกค่ะ
1) ถ้าเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ หรือลำไส้อักเสบ อาการคือจะปวดท้องไหมคะ
2) ถ้าไม่ได้รักษา แต่หายปวดท้องแล้ว ถือว่าหายอักเสบ ได้ไหมคะ คุณหมอ
ขอบคุณมากค่ะ 🙏😊
1) ปวดครับ 2) น่าจะครับ
มีคำถามค่ะ
1.หากอวัยวะในร่างกายเรายังทำงานปกติ เราสามารถขาดน้ำได้มากสุดกี่วัน/กี่ชม. ก่อนที่เราจะตายคะ?
2.ทำไมเวลาเราป่วยและต้องเติมน้ำเกลือที่รพ. เราถึงตัวบวมคะ?
ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ😊🙏
1) อย่างมากก็สามวันครับ
2) เคยพูดไปแล้วครับ ตามนี้ครับ th-cam.com/video/Tmu5lKChd6s/w-d-xo.html
@@DrTany ขอบคุณจ้าวว คุณหมอ🙏
สุดยอด ครูผู้ให้จริงๆคะ ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ
สวัสดีค่ะ เคยได้ฟังคลิปท่านหนึ่งเขาใช้วิธีธรรมชาติบำบัดในการรักษาก็มีคำแนะนำการดื่มน้ำเช่นกันค่ะ มีคำแนะนำที่ดีๆเยอะเลย แต่มีที่ไม่เห็นด้วยคือเขาบอกว่าการดื่มน้ำปัสสาวะของตัวเองเพื่อรักษาโรค เอามาสระผม มันได้ด้วยเหรอค่ะ🤔🤔 ตอนนี้เลิกติดตามล่ะจริตไม่ตรงกันค่ะ😄😄
สุดยอดมากคับคุณหมอ กับความรู้ดีๆ ที่คุณหมอนำมาเล่าให้ฟัง ขอบคุณคุณหมอมากครับ
ขอบคุณคุณหมอแทนมากนะคะ ได้ความรู้มากมายมีคุณค่าเสมอ สำหรับตัวเองไม่ค่อยจำว่าดื่มน้ำเท่าไร ต้องจำบ้างแล้วแต่ไม่ดื่มน้ำเย็น น่าจะไม่ขาด สังเกตุจากสีของปัสสาวะ ปกติดีมาก เข้าห้องน้ำบ่อย กลัวว่าจะเกิน ต้องหันมาจำในแต่ละวัน ขอบคุณคุณหมออีกครั้งค่ะ มีคนพูดว่าสูงอายุไม่ควรดื่มน้ำก่อนนอนจริงไหมคะ
ดื่มก่อนนอนมันทำให้ปวดปัสสาวะตอนนอนได้ครับ
ขอบคุณคุณหมอมากๆนะคะ
ขอบคุณคะคุณหมอ😊
เหมือนได้คุยกะหมอเลย..ขอบคุณในสาระที่ทุกคนควรทราบ-ดูแลตัวเองเบี้องต้น
สวัสดีค่ะคุณหมอ เป็นคนชอบดื่มน้ำเปล่าค่ะ ขอบคุณข้อมูลนะคะ ขอให้คุณหมอมีสุขภาพแข็งแรงตลอดไปคร๊😊😍😍
ขอบคุณค่ะคุณหมอ ขอให้คุณหมอยิ่งสอนยิ่งเก่งเป็นทวีคูณ
ผมเป็นนศ.เภสัช เข้ามาฟังได้ความรู้ดีๆติดตัว จริงๆเคยเรียนเรื่องOsmolarityมาแล้วแต่เรียนกลไกมากกว่า พวกHyper,Iso,Hypotonic แต่ในเชิงการทำงานของไตกับค่าคขข.ของยูเรีย,ไอออนที่ต้องขับออกยังเรียนไม่ถึง น่าจะต้องรอเรียนในระบบขับถ่าย ถือว่าได้เรียนล่วงหน้าไปก่อนครับ^_^
555 เรื่องนี้ปกติอาจจะไม่มีสอนครับ หรือสอนแต่ก็ไม่สอนโดยตรงครับ
สวัสดีคะคุณหมอ แล้วน้ำหนักตัว น้อย การดื่มน้ำเท่ากับทต่คุณหมอแนะนำเลยไหมคะ ตัวเล็ก ผอม น้ำหนัก 40-42คะ
อธิบายดีมากจริงๆค่ะ ทำคลิปดีๆแบบนี้ต่อไปนะคะคุณหมอ❤
ขอบคุณมากค่ะ เป็นเรื่องที่กำลังสงสัยพอดีเลย
ขอบคุณค่ะคุณหมอ🙏 ได้ความรู้ชัดเจนมากเลยค่ะ
นู๋อยากรู้เพิ่มเติมค่ะ ว่าทำไมเราต้องเดินให้ได้ 10,000 ก้าว/วัน และต้องเข้านอนไม่เกิน 4 ทุ่ม ค่ะ😊
ไม่ต้องทำเช่นนั้นหรอกครับ แค่เราออกกำลังกายทุกวัน และพักผ่อนให้เพียงพอก็เป็นใช้ได้ครับ
แล้วจริงรึเปล่าคะว่าการดื่มน้ำต้องดื่มแบบค่อยๆจิบ ถ้ากินน้ำครั้งละมากๆทีเดียวไม่ดีต่อร่างกายเพราะจะทำให้ไตทำงานหนัก ข้อมูลมีมาหลายทาง สับสนค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ไม่จริงๆครับ คนที่ให้ข้อมูลเช่นนั้นคงไม่รู้เรื่องระบบร่างกายของเรา ดังนั้นไม่ต้องสนใจครับ ที่สำคัญข้อมูลหลายๆทางไม่ต้องไปรับมาครับ ส่วนมากที่แชร์กันมามันไม่ถูกสักอย่างครับ
ขอบคุณมากค่ะ หลงเข้าใจผิดมาสิบกว่าปี😅
🗓 ศุกร์ 26 ส.ค. 2565
ขอบคุณอาจารย์หมอแทน สำหรับข้อมูลเรื่องการดื่มน้ำต่อวันค่ะ
💬
💦 ร่างกายมีน้ำเป็นส่วนประกอบในผู้หญิงถ้าอายุมากขึ้นปริมาณน้ำในร่างกายจะถูกทดแทนด้วยสัดส่วนของไขมันจะเป็นส่วนใหญ่
💦🥛🍸 💬 ปริมาณน้ำที่ควรบริโภคต่อวันคำนวณจากอะไร?
ก่อนอื่นร่างกายมีการสูญเสียน้ำทุกวัน ถ้าเราไม่เอาน้ำเข้ามาทดแทนร่างกายก็จะสูญเสียน้ำทุกวัน ส่งผลทำให้เกิดปัญหาต่อร่างกาย หลายๆ ด้าน
💦 ร่างกายสูญเสียน้ำทางไหนบ้าง
1 ) เวลาพูดและการหายใจ แม้ว่าจะหายใจเฉย ๆ วันนึงมีการสูญเสียน้ำประมาณ 400 มิลลิลิตร หรือ 400 cc
2 ) สูญเสียน้ำทางอุจจาระหรือทางลำไส้ใหญ่ ปริมาณเฉลี่ย 200 มิลลิลิตร
3 ) ทางผิวหนังโดยการสูญเสียน้ำออกมาในรูปของเหงื่อ หรือมีการระเหยไปเลยก็ได้ บางครั้งมีการขับเอาความร้อนที่สูงเกินไป ออกมาข้างนอกดังนั้นยิ่งถ้าเรายิ่งร้อน แล้วก็ยิ่งมีการออกมากขึ้น
🥵เหงื่อออกมาเป็นเม็ดหรือไม่เป็นเม็ดขึ้นอยู่กับความชื้นในอากาศ ถ้าอากาศชื้นมากๆเหงื่อจะออกมาเป็นเม็ด ๆ
🥶 ⛄️ แต่ถ้าไปอยู่ในประเทศที่อากาศแห้งมากๆ ถึงเราไม่มีเหงื่อถึงจะไม่ร้อนร่างกายก็ยังมีการสูญเสียน้ำ ออกไปเพิ่มขึ้น โดยเฉลี่ยแล้วเราสูญเสียน้ำทางผิวหนัง 500 ซีซีต่อวัน
💦 ถ้ารวมจากข้อหนึ่ง มีการสูญเสียน้ำรวม ๆ ร่างกายจะสูญเสียน้ำ 1100 มิลลิลิตร
4 ) ✈️ ✈️ คนที่อยู่บนเครื่องบินจะมีการสูญเสียน้ำกว่าปกติ เนื่องจากอยู่บนพื้นดินธรรมดาจะมีแรงกดดันอากาศที่สูงจะเป็นตัวไปกดไม่ให้น้ำระเหยออกไปได้เร็วขึ้น-> ⛰⛰ แต่ถ้าเราไปอยู่บนที่สูงๆ ซึ่งมีแรงกดดันอากาศน้อย ดังนั้นแรงดันน้ำที่อยู่ในร่างกายของเราจะดันออกไปข้างนอกได้ง่ายขึ้น 💦 ก็จะมีการสูญเสียน้ำไหลมากขึ้น
💦 ดังนั้น คนที่เดินทางบนเครื่องบินมีความจำเป็นที่จะต้องดื่มน้ำมากกว่าปกติ มิฉะนั้นเลือดในร่างกายของท่านจะขาดน้ำ จะว่งผลต่อ การเกิดลิ่มเลือดที่ขา ที่ต่างๆ ได้ ซึ่งจะอันตราย
⏱🍸🥛🍸🥛 ดังนั้นอย่างน้อยในหนึ่งวันเราควรดื่มน้ำ 1100 cc
5 ) มีอีกส่วนหนึ่งคือปัสสาวะ น้ำปัสสาวะของเรา บางคนปัสสาวะมากบางคนปัสสาวะน้อยขึ้นอยู่กับอะไร ?
เราต้องทราบการทำงานของไตและปัสสาวะ ร่างกายของเรามีการสลายสารอาหารต่างๆ และมีสมดุลย์ของเกลือแร่ในร่างกายอยู่ ร่างกายต้องรักษาสมดุลย์เกลือแร่ทั้งหมดของร่างกายไว้ให้ได้ มีคำหนึ่งคือ Osmolarity ซึ่งเป็นคุณสมบัติของของเหลวในร่างกายอย่างนึง ที่มีความเข้มข้นแล้วจะพยายามดึงเอาน้ำเข้ามาสู่ตัวเอง ร่างกายของเราต้องมีค่าคงที่อยู่ค่าหนึ่ง ถ้ามันสูงเกินไปจะดึงเอาน้ำเข้ามา
🩸 เลือดมี 290 มิลลิออสโม ต่อลิตร mOsm/L (milliosmole)
ก็จะมีโรคบางโรคที่ทำให้ขณะนี้มันสูงและต่ำไม่เท่ากัน
ถ้าต่ำเกินไปก็จะปล่อยน้ำทิ้งออกไปหมดเลยซึ่งมันก็จะไม่ค่อยดี
💦 ปัสสาวะ จะทำหน้าที่ ควบคุม Osmolarity ควบคุมได้โดยไตของเรา และไตก็จะตอบสนองต่อฮอร์โมนชนิดต่างๆมหาศาลเช่นฮอร์โมนเอดีเอช ADH ต่อต้าน antidiuretic hormones
ขอบคุณมากค่ะ อาจารย์หมอแทน วันนี้จดเบาๆ ก่อนค่ะ 😴😴🥱🥱
☀️☀️☀️☀️☀️☀️ Have a happiness time with a lovely Rosy ค่ะ
ขอบคุณค่ะ Tany สำหรับ 💖💖💖💖💖💖💖💖💖💖💖💖💖💖 Have a wonderful & happiness time with a lovely Rosy. Take care of yourselves both Rosy & Tany.
ผมกินวันละ 3 ลิตรขั้นต่ำ แรกๆก็ฝืน หลังๆจะไม่พอด้วยซ้ำ รู้สึกชีวิตสดชื่นขึ้นครับ
อาจารย์คะ อายุ น้ำหนัก activity มีผลต่อปริมาณน้ำที่ต้องทานมั้ยคะ
แล้วการทานเครื่องดื่มที่ไม่ใช่น้ำเปล่าตลอดเวลา โทษเหมือนเราทานปัสสวะหรือเปล่าคะ
1) มีครับ แต่อย่างน้อยต้องทำได้เท่าในคลิปที่ผมบอกไป 2) ไม่ครับ โทษขึ้นกับว่ามันคืออะไร แต่ไม่มีทางเหมือนกันครับ
ขอบคุณที่ไห้ความรู้ครับอาจารย์
สอบถามค่ะ การทานน้ำเยอะไปมีผลให้ไตทำงานหนักไหมคะ คือชอบทานน้ำเย็นๆ น่าจะทานวันละราวๆ 3 ลิตร ทีนี้เริ่มเป็นความดัน เลยพยายามลดโซเดียม ผลคือ ตรวจเลือดรอบล่าสุด โซเดียมต่ำ หมอบอกให้ลดน้ำ แต่แบบนี้คือเราสามารถเพิ่มโซเดียมแทน หรือกินเค็มมากขึ้นได่ไหมคะ
มันก็สามารถที่จะทำได้ครับ แต่ผมว่าน่าจะต้องหาสาเหตุที่โซเดียมต่ำก่อนนะครับ การกินน้ำแค่ 3 ลิตรต่อวันไม่น่าจะทำให้มันต่ำได้ถ้าไม่มีเหตุผลอื่นครับ
@@DrTany ขอบคุณค่า
อยากทราบความรู้เกี่ยวกับอาการ ods สาเหตุ อาการ ผลต่อสมอง และการรักษาครับ
โซเดียมในเลือดต่ำ hyponatremia พบใด้บ่อยในผู้ป่วยที่มีภาวะเลือดออกใต้เยื่ออะแร็กนอยด์
เนื้องอกในสมอง และการบาดเจ็บของสมองส่วนมากมักเกิดจากภาวะSIADHหรือCSW รวมทั้งภาวะพร่องฮอร์โมนต่อมหมวกไต
การรักษา ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงการให้
3%NACIเป็นวิธีการรักษาที่เหมาะสมในการแก้ไขภาวะดังกล่าว
ผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรือโซเดียมในเลือดต่ำ วิธีการรักษา จำกัดปริมาณของสารน้ำในภาวะSIADH ยากลุ่มDemeclocycline
Flurdrocortisone
อาการแสดงภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ ระบบประสาทจะใด้รับผลโดยตรงเมื่อโซเดียมในเลือดต่ำนำไปสู่ภาวะสมองบวมเนื่องจากการเคลื่อนที่จากภายนอกเซลล์เข้าสู่เซลล์ที่มีosmolality เมื่อโซเดียมในเลือดต่ำกว่า125
ใด้แก่ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน กล้ามเนื้อเกร็ง
กรณีโซเดียมลดลงอย่างรวดเร็วผู้ป่วยมีอาการรุนแรงมากขึ้น
จะชัก โคม่า
ปล.เราไม่แน่ใจเหมือนกันนะคะว่าใช่โรคนี้ไหม แต่เดียวคุณรอคุณหมอมาอธิบายเพิ่มเติมเพื่อความแน่ใจของคุณนะคะ
ส่วนมากเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของโซเดียมเร็วเกินไปในคนที่มีความเสี่ยง เช่น ขาดสารอาหารแต่ต้น ส่วนการรักษาคืออย่าให้โซเดียมเปลี่ยนแปลงเร็วเกินไป ถ้าเราแก้ไขแล้วมันเปลี่ยนเร็วก็ต้องทำให้มันกลับไปใกล้เคียงเดิมก่อน ส่วนที่เหลือก็รักษาประคับประคองเท่านั้นครับ ผลการรักษาไม่ค่อยดี มีคนเสียชีวิตแม้ว่าจะพยายามรักษาเต็มที่แล้วก็ตาม ดังนั้นป้องกันไว้ตั้งแต่แรกดีที่สุดครับ
@@DrTany ขอบคุณครับอาจารย์ ในกรณีที่ค่าโซเดียมจากผลเลือดในวันที่คนไข้มา ร.พ. วัดได้ 96 จะมีโอกาสที่คนไข้เป็น ODS มาก่อนเจาะเลือดมั้ยครับ แล้วการสแกน MRI ในวันเดียวกันนั้นเลยสามารถทราบได้หรือไม่ว่าผู้ป่วยอาจมีภาวะ ODS มาก่อนแล้ว
@@phl9969 โอกาสเป็นไปได้มันมีแต่ไม่มากครับ มันจะเป็นตอนมาถึงรพ แล้วรักษานี่แหละครับ แต่ไม่ว่ายังไง ODS ถ้าเป็นแล้วมันทำอะไรไม่ได้เลยครับ ต้องภาวนาให้รอดและดีขึ้นโดยไม่มีผลข้างเคียงเหลือ ซึ่งโอกาสมีน้อยมากๆ และการรักษาก็ไม่มีอะไรที่เราทำเป็นพิเศษ ไม่มียา ไม่มีเทคโนโลยีใดๆที่ช่วยได้ ทำได้เพียงรักษาระดับโซเดียมไม่ให้มันเปลี่ยนแปลงเร็วเกินไปเท่านั้นครับ
ขอบคุณความรู้ดีๆครับ
ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ
ถ้ามีโอกาสอยากให้คุณหมอพูดเกี่ยวกับเรื่องโรครูมาตอยก็หรือ SLE ค่ะ
หากผมไม่เสียเหงื่อจากการออกกำลังกายหรืออยู่กลางแจ้ง ผมปัสสาวะ ประมาณ 4-7 ลิตร/วัน. หากผมไม่กินเกลือหรือกินน้อย ปริมาตรปัสสาวะมากกว่า 7 ลิตร.
ปัสสาวะกลางคืนประมาณ 2-4 ลิตร
ผมไม่เคยมีอาการติดเชื้อของสมองและระบบประสาท.
ผมเคยสลบ 1 ครั้ง โดยอุบัติเหตุจักรยานล้ม ศีรษะด้านล่าง มีรอยกระแทก เป็นแผลใหญ่ / ลึก.
2 วันถัดมา จากสลบ
ผมไม่สามารถบริจาคโลหิต ครั้งที่ 60 ได้อีกเลย เพราะผลตรวจ HIV สรุปไม่ได้. ผลตรวจนี้เป็นเช่นนี้ไม่ว่าไปตรวจโรงพยาบาลใด รวมทั้งศิริราชและสภากาชาด ช่วง 10 ปีที่ไปตรวจมา -- ผมอยากบริจาคโลหิต.
ช่วงที่ผมเริ่มเข้าร่วมโครงการวิจัยอัลไซเมอร์ของโรงพยาบาล โดยเป็นอาสาสมัคร. ผลตรวจเลือด HIV ก็เป็นแบบเดิม. ทางโครงการให้ตรวจแบบพิเศษ พบว่า ผมไม่ได้เป็น HIV. แต่ธนาคารเลือดก็ไม่รับเลือดของผมอยู่ดี. ตอนแรกผมสงสัยว่า เป็นเพราะวัคซีนบาดทะยัก ที่ทำให้มีโปรตีนเพิ่มขึ้นในการตรวจ HIV. ตอนนี้ผมสงสัยว่า อาจเป็นโปรตีนที่เกี่ยวข้องในการทำให้ผมขับเกลือออกจากร่างกายทางปัสสาวะมากจนผมเกิดอาการกระหายน้ำอย่างมากทั้งกลางวันและกลางคืน เพราะคนส่วนใหญ่คงไม่มีโปรตีนนี้ขึ้นมาในการทดสอบ HIV.
ผมขอปรึกษาว่า ต่องทำอย่างไร ผมจะหลับดีขึ้น -- ต้องกินเกลือในน้ำ / อาหาร อย่างไร หรือต้องทำอะไร? ผมจับหลัก จับแนวทางไม่ถูกเลย.
การรักษาจาก แพทย์ที่เชี่ยวชาญเรื่องนี้ มีโอกาสขนาดไหนในการรักษาอาการนี้? CSW ช่างเป็นอาการหายาก. ผมเป็น CSW?
กรณีของคุณต้องเริ่มใหม่หมดครับ มันดูยุ่งเหยิงไปหมด ต้องเริ่มที่อาการที่เด่นที่สุด จากนั้นก็ซักประวัติตามแนวทางของอาการ แต่ไม่ควรเริ่มที่ว่าเราทำอะไรไปบ้างแล้ว ฯลฯ ไม่งั้นมันจะไม่มีทางไปถึงวินิจฉัยได้เลยครับ
ขอบคุณความรู้จากอจ.หมอค่ะ
คุณหมออธิบายละเอียดมากเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ
คุณหมอคะ สงสัยว่า
1) เวลาเราอาบน้ำ นานๆ แล้ว นิ้วเหี่ยวๆ หาข้อมูลเค้าบอกว่าเป็นเพราะน้ำค่อยๆซึมกลับเข้าไปในร่างกายได้ใช่ไหมคะ ( ออสโมซิส ) แบบนี้เรานับน้ำส่วนนี้ อยู่ใน 2 ลิตรไหมคะ
2) เวลาอาบน้ำเสร็จใหม่ๆเล็บจะนิ่มมากเลยค่ะ เราชอบตัดเล็บหลังจากอาบน้ำเสร็จค่ะ ทำไมเล็บถึงนิ่มได้หรือคะ คุณหมอ ขอบคุณมากค่ะ
1) ก็อาจจะแบบนั้นครับ ไม่นับครับ และต่อให้นับจะนับได้เหรอครับ 2) น้ำเข้าไปในเล็บครับ
Thanks!
ขอบคุณค่ะคุณหมอมีความรู้มากๆ