In Relationships | SS 2 EP. 09 | เราขยันกันไปทำไม - The Cloud Podcast
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 15 พ.ย. 2024
- ที่มาของแนวคิดค่านิยม ‘ความขยัน’ การสร้างประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงาน และการหาผลประโยชน์จากตัวเอง เป็นผลของการจัดการเวลาของสังคมอุตสาหกรรมที่ไม่สามารถเอาชนะธรรมชาติได้เหมือนสังคมเกษตรกรรม
ดำเนินรายการ : ธเนศ วงศ์ยานนาวา, ช้างน้อย กุญชร ณ อยุธยา
#ธเนศวงศ์ยานนาวา #InRelationships #TheCloud #readthecloud #ListentoTheCloud #TheCloudPodcast
Subscribe The Cloud Podcast ที่
Spotify : spoti.fi/3HZGKNH
Apple : apple.co/3bApjXZ
Podbean : bit.ly/476SFoT
TH-cam : • In Relationships | SS ...
Google Podcast : bit.ly/3njuRsB
ติดตาม The Cloud ได้ตามช่องทางต่างๆ ดังนี้
readthecloud.co
/ readthecloud
/ readthecloud
/ readthecloud.co
ตั้งแต่มีตลาดทุน ไม่ต้องขยันทางกายแล้ว(เฉพาะบางคน) เพราะใช้คนอื่นทำงานแทน 24 ชม. เพียงแต่ต้องวางเงินที่มีให้ถูกที่ถูกเวลา เพราะจะมีคนที่ขยันทำงาน ทำงานแทนคุณ
เราควรขยันแต่พอดี แล้วได้ความคุ้มค่าที่สุดแรกกับเวลา แต่ขยันเกินเหตุุ นุ้นโรงบาลไม่ก็โลงศพ
เวลาและทรัพยากรมีจำกัด..ที่เราต้องขยัน เพื่อสร้างการครอบครองเวลาทำเงินให้ได้มาก และลดopportunity cost ค่าเสียโอกาสในการimbalance ของชีวิต 555ประมาณนั้น แหละ
อาจารย์จะสื่อว่า มนุษย์เรามันไม่ได้มีความขยันแต่แรก ความขยันมาจากแนวคิดของชนชั้นปกครองที่เรียกว่าผู้เจริญ แต่ไม่ได้จะสื่อจะความขยันตรงนี้เป็นสิ่งไม่ดี แต่เดิมก่อนมีการล่าอาณานิคมแถบเราก็มีศาสนาหลักธรรมที่พูดถึงความขยันอยู่เหมือนกัน ท้ายที่สุดไม่ว่าความขยันจะเป็นกุสโลบายของผู้ล่าอาณานิคมเพื่อเอารักเอาเปรียบประเทศใต้ปกครองหรือไม่ แต่ตอนนี้ความขยันเป็นสิ่งจำเป็น ถ้าคนธรรมดาคนนึงอยากจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ระบบทุนนิยมคือการแข่งขัน เราแข่งขันกันตลอดเวลาแม้จะไม่อยากก็ตาม ความขยันจะเป็น 1 ในปัจจัยที่จะทำให้คุณชนะคนส่วนนึง(อาจจะขยันน้อยกว่า)ในสังคมได้
ผมว่าถ้าตีความในวัฒนธรรมองค์กรมันดูจะเหมือนเป็นการขายวิญญาณมากกว่า
ขึ้นกับอายุ วัยหนุ่มสาวก็ขยันเพื่อ สะสมไว้ใช้ตอนแก่ แต่จะขยันมากน้อยขึ้นกับความโลภ ถ้าเอาแต่พอดีก็ไม่เหนื่อยไม่เครียดมาก พอแก่เข้าวัยเกษียณแล้ว ควรดูแลตัวเองก็พอแล้ว
ยังดีที่พวกคุณยัง คิดได้ และ อะไรคือแรงผลัก อะไรคือแรงจูงใจ
ชอบที่อาจารย์จิ้มสมองกับคำว่าศีลธรรมและจริยธรรม เอามาพูดในแนวที่มันจะ ridiculous way as possible ว่าจริงๆมันคืออะไรกันแน่ ทำไมคนโดยเฉพาะชนชั้นกลางจำนวนมากที่ยึดติดกับสิ่งนี้เพื่อให้ดูสูงส่งยิ่งกว่าชนชั้นอื่นๆ(ทั้งบนและล่าง)ชอบคิดว่าทุกสังคมทุกยุคทุกสมัยแม่งจะเหมือนกันไปหมด ทั้งที่มันก็เปลี่ยนไปมาตลอดตามขั้วอำนาจของพื้นที่และช่วงเวลานั้นๆ
ความขยัน ขี้เกียจ มันขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของแต่ละคนค่ะ และเป็นสิ่งที่ต้องถูกปลูกฝังตั้งแต่วัยเยาว์ ไม่มีใครอยากทำในสิ่งที่ไม่เจริญ แค่ว่าจิตสำนึกยังไม่ตื่น เพราะทุกคนต้องเกิดมามีกรรมเป็นของตัวเอง เพราะอะไรต้องมีคนขยัน คนขี้เกียจ เมื่อหมดกรรม คนนั้นจะมีจิตสำนึกที่ดีขึ้น กรรมก็คือบทเรียนที่ต้องเรียนรู้ในแต่ละชาติภพ การเรียนรู้ในแต่ละภพชาติ ก็หลาย ชาติก่อนเราอาจเคยเป็นคนรวยและขยัน แต่อาจจะยังไม่เข้าใจคนที่ลำบาก มองว่าเขาขี้เกียจ ชาตินี้ก็เลยต้องมารับบทเรียนเป็นคนจน อะไรแบบนี้แหละค่ะ เพราะอะไรพระพุทธเจ้าสอนให้เราเมตตาและรู้จักให้อภัย เพราะโลกนี้เป็นโรงเรียนสำหรับจิตวิญญาณได้ลงมาเรียนรู้รับบททดสอบก็แค่นั้นเองค่ะ
แล้วเราจะอยู่เฉยๆไปทำไม ในเมื่อยังไงก็ต้องตายอยู่แล้ว ทำอะไรก็ได้ให้สุดๆก่อนตาย
บนโลกนี้มีมนุษ100พ่อพันแม่ จะให้คิดเหมือนกันมันไปหมดก็คงไม่ใช่เรื่อง🥱
เฉดสีของชีวิต มันมีตั้งแต่มนุษย์ที่ชอบความสงบเรียบง่ายที่เร้นกายใช้ชีวิตในหุบเขา ไปจนใช้ถึงใช้ชีวิตโลดโผนท้าทายปีนป่ายสู่ยอดเขา..หัวใจของมันคือการได้เลือกโดยไม่ถูกบีบคั้น นั่นคือเสรีภาพจากนิยาม 'ขยัน/ขี้เกียจ' ครับ
เขาไม่ได้บอกให้อยู่เฉยๆ เขาอธิบายแนวคิดอรรถประโยชน์นิยม
คนไม่เข้าใจก็ติดกับอยู่แค่นี้
เขาถึงให้คนขยันเป็นพนักงาน ส่วนคนเข้าใจคิดเป็นให้เป็นผู้บริหาร บริหารคนขยันให้ทำงานแทน แล้วให้ค่าตอบแทนต่างๆจูงใจให้ทำงานหนักให้
ขยันเพื่องานเพื่อเงินทอง เพราะทุกสิ่งขับเคลื่อนด้วยเงิน
ชอบอีพีนี้
คนขี้เกียจมัดมีความฉลาด อย่างหนึ่งคือ เขาจะหาทางลัดสู่เป้าหมายเสมอ
พยามตั้งใจฟังและตั้งใจฟังมากกว่าคลิบอื่นๆที่เคยฟัง แต่ทำไมรูัสึกว่าไม่ได้คำตอบอะไีรเลย ตั้งชื่อคลิปว่าเราขยันไปทำไม รอฟังตั้งนานเล่าประวัติศาสสะงััน พยามเชื่อมโยงประวัติศาสที่เล่ากับหัวข้อที่ตั้งก็ยังไม่เข้าประเดนสักที เล่าประวัติศาสต่อ
แล้วแกพูดศัพท์อังกฤษเยอะมาก สรุปไม่ได้ปะติดปะต่ออะไรกันเลย พูดไปเรื่อยๆ ยกคนนู้นขึ้นมายกอันนี้ขึ้นมา
แล้วสรุป “เราขยันไปทำไม”
ใครเข้าใจแกพูดสรุปให้ฟังหน่อย
คิดเช่นเดียวกันครับ เหมือนพูดไปเรื่อยๆ
เหมือนจะสรุปตั้งแต่ต้นกับตอนท้าย ว่าคือเรื่อง maximize profit ครับ ขูดรีดตัวเองเพื่อให้ดำรงอยู่ได้โดยเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด อันนี้เท่าที่ผมเข้าใจ
โจทนี้พี่โจนน่าจะพูดได้ตรงประเด็นมากกว่าใครไม่เชื่อลองไปฟังดูครับ
นั้นแหละคับ เราขยันกันไปทำไม คำถาม ที่คำตอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ฟังแล้วคิดต่อ ถ้าฟังแล้วจะหาแค่คำตอบ ก็จะไม่ได้อะไร
บางคนไม่ได้ฟังจนจบ แต่พูดเป็นตุเป็นตะ
ชื่นชอบครับ
ก็ลอง จนดูสิ จะได้รู้
คำพูดที่กล่าวมา ก็แค่ เข้าข้างตัวเอง
เออ เราขยัน ไปทำไม อยากได้อะไร ในความขยัน เพราะแต่ละคนไม่เหมือนกัน เออ อยากรู้เหมือน แต่ถ้ารู้แล้วก็ไม่สนใจ ขอบคุณคะ โสภา เมืองจันทบุรี
ขยันต้องถูกที่ด้วย...
หลายๆเม้นฟังให้จบค่อยเม้นเถอะ จะได้ไม่ดูเสร่อ
ขยันมีกิน ขี้เกียจก็ไม่มีกิน ง่ายๆ
เกียจคร้านการงาน คือ อบายมุข ตามหลักพระพุทธศาสนา
ทำงานเกินตัว หรือใช้เงินเกินตัว ขอบคุณคะ โสภา เมืองจันทบุรี
ผมไม่เคยมีความคิดนี้หัว ทุกครั้งที่เหนื่อยผมจะนึกถึงตอนโควิดครับ โลกล็อคดาวน์ทุกคนจะเป็นจะตายเท่ากัน ผมคิดได้เลยว่าคนเราถ้าไม่มีอะไรทำชีวิตมันไม่มีจริงๆ นั่งหายใจทิ้งมา3ปีชึวิตเราทุกคนหายไปคนละ3ปี บทเรียนจากวิกฤติโควิดทำให้คนไม่มีเวลามาคิดเล็กคิดน้อย คิดแค่ว่าจะทำยังไงให้ชีวิตมีความหมายและใช้ชีวิตให้มีประโยชน์มีความสุขที่สุด
นั้นแหละอรรถประโยชน์นิยม
ที่เราขยันเพราะเราต้องการความสุขที่เราต้องการมันจริงๆ ที่เราเลือกเอง ถึงแม้สิ่งนั้นอาจไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนเห็นด้วย แล้วทุกคนทำเหมือนกันไหม ลองมองดูชาวบ้านสิ เขาทำไปทำไม เขาบ่นให้ใคร
ถ้าทุกคนบนโลกใบนี้ขยัน ก็จะไม่มีงานหรือธุรกิจและบริการที่แก้pain pointให้กับมนุษย์
คำตอบของหน้าปกคลิบเสี่ยวๆนี้ คือ
-ก็เพราะว่าเราเเทบทุกคนอยู่ในสภาวะสังคมที่นิยมการเเข่งขันมีการวัดความสามารถให้เป็นไปตามมาตรฐานเพื่อให้เป็นประชากรที่มีศักยาภาพเป็นเเรงงานในการขับเคลื่อนประเทศ นี่เเหละคือคำตอบ ใครเก่งได้ผลประโยชน์เยอะ(เเต่อาจจะมีภาระเยอะ) ซึ่งในความเป็นจริงเเล้วคนเราต้องการเเค่ปัจจัย 4 ที่มีคุณภาพ(ซึ่งไม่มีความจำเป็นต้องราคาเเพง) เเละประสบการณ์ชีวิตที่ดี(การได้ท่องเที่ยวหรือได้ทำงานที่ตัวเองสนใจอยากทำ) สิ่งอำนวยความสะดวกก็อย่างมากก็เเค่รถยนต์เเละน้ำสะอาดไฟฟ้า
บางกรณีอาจจะมาจากกลุ่มที่
1.มีหนี้สินเป็นมรดก(น่าเห็นใจ)
2.ใช้จ่ายเกินตัว ไม่ประมาณตัวเอง เกรงสังคม
-ใช้รถยี่ห้องเเพง(ถ้างบน้อยควรซื้อมือ 2 ยี่ห้อตลาดปีเก่าๆ สำหรับชนชั้นกลางสภาพดี หรือไม่ก็ขับมอไซค์หรือใช้ขนส่งสาธารณะไปเลยจะดีมาก)
-กูสร้างบ้าน (เอาจริงๆถ้างบน้อยไม่อยากมีหนี้สามารถสร้างเองได้ ตัวอย่างตามสลัมอิสลามตามภาคใต้หรือหมู่บ้านชาวประมงหรือเช่าอยู่จะบ้านจะหอก็อยู่ได้)
-ใช้ของเเพงโดยไม่ใช่เหตุหรือมีความจำเป็น อย่างเช่นของเเพง
3.คนที่ประมาทในชีวิตไม่รู้จักประมานชีวิต
-ทำตังเองให้อยู่ในความเสี่ยงโดยไม่จำเป็น อย่างเช่น เล่นการพนัน, ขับรถเร็ว, กินอาหารขยะ
-ไม่รู้จักวางเเผนการเงินการลงทุน
-กู้เงินมาลงทุนมั่วๆ ตามน้ำไม่ศึกษามาดี ไม่รู้ที่มา
เเต่ถึงอย่างไรที่กล่าวมาเป็นเพียงปัญหาซึ่งวิธีเเก้ปัญหาดีๆที่พอจะนึกออก (คือสิ่งที่เราต้องเหนื่อยเมื่อเราก่อปัญหาให้ตัวเองเพื่อเเก้มัน)
1.สร้างรากฐานตัวเอง มีงานมีการที่มั่นคง ให้มีเงินหมุนในระบบ
2.หารายได้เพิ่ม
3.หารายได้อย่างฉลาด ทันโลกเป็นที่ต้องการอย่างเเท้จริง ตอบโจทย์ตลาดที่อาจจะไม่ได้เเสดงความต้องการจนกระทั่งเราสร้างอุปทานมันขึ้นมาเองไม่เกี่ยงงาน ไม่เลือกงานไม่ยากจน
ปล.หากท่านคิดว่าท่านรวยเเล้วไม่มีปัญหาก็ขอให้คิดอย่างนั้นต่อไปนะจ้ะ อย่าพลาดขึ้นมาหระ
กาม กิน กลัว กดทับ ครับ😢
ขยันอย่างเดียวไม่พอต้อง ฉลาดด้วย
ไม่เห็นด้วยครับ บางคนไม่ได้ฉลาดตั้งแต่แรก แต่ใช้ความขยันเข้าว่า จนสุดท้ายเป็น master ทางด้านนั้นๆก็มีเยอะ ถึงแม้บางครั้งลงมือทำแรกๆอาจจะมีข้อผิดพลาดบ้าง แต่ทำไปเถอะ ถ้าไม่ได้ทำให้เราหรือใครตาย/บาดเจ็บอะไร ระยะยาวแล้วเราก็จะเก่งขึ้นแน่นอน 100%
ฉลาดทุกคนใครจะยอมมาแยกปูนให้คับ555
@@f1td431แบกปูน = ไม่ฉลาด
นี่คือจิตใต้สำนึกคุณ ?
ไม่เข้าใจ ยิ่งฟังยิ่งงงครับ
ฟัง3รอบละค่ะ พยายามจับใจความอยู่ ใครเข้าใจช่วยอธิบายทีนะคะ
@@Doraemon_doraemiเอาแบบคร่าวๆนะครับ อธิบายทั้งหมดคงไม่ไหว
วัฒนธรรมการทำงานหนักค่านิยมความขยัน เริ่มมากจากยุค ศตวรรษที่ 18 ยุคอุตสาหกรรม กิจการต้องการรีดประโยชน์จากคนให้มากที่สุด ก็เลยสร้างค่านิยมอันนี้ขึ้นมา เพื่อผลิตบุคลากร ที่มีค่านิยมความขยัน เพื่อความก้าวหน้าของประเทศ…… เหนื่อยแล้ว 😅
ฟังธเนศก็แบบนี้แหละครับ ยิ่งไปอ่านหนังสือแกยิ่งจะงง 5555
ต้องพื้นฐานทางสังคมศาสตร์ก่อนนะ เราถูกครอบงำไม่เก๊ตความคิดอะไรที่แปลกๆแบบนี้ จริงๆมันไม่ใหม่หรอก post modern มีมาหลายสิบปีแล้ว ยิ่งสังคมไทยยิ่งกว่ากะลา คนเข้าใจยาก
สมัยผมเรียน ด๊อกเตอร์ พูดกับผมว่า....
โง่แล้วขยัน กับฉลาดแต่ขี้เกียจ เลือกแบบไหน?
คุณ อาจารยเเละพิธกร คุณ รักษาธรรมชาติเเละเเก้ไข ธรรมชาติอยู่เหรอ พูดสะหล่อเลย คุณ2 คนใช้รถใช้นำมันเหมือนกันใช่ป่ะ
งง
ขยันเพราะระบบทุนนิยมไง
ตอนนี้ มีเครื่องทุนแรงเยอะแยะ มีคอมพิวเตอร์ มีแทรกเตอร์ มีโดรน ไม่ต้องใช้แรงงานเยอะแล้วไง
🎉🎉🎉
“เราขยันกันไปทำไม” ชื่อฟ้อนต์อะไรหาซื้อหรือโหลดได้ที่ไหนคัพ?
ไม่มีใครตอบเลย!!!
เล้วทำไมต้องขี้เกียจ
ขี้เกียจทำให้สบาย
ผมเป็นคนขี้เกียจนะ แต่จะขี้เกียจเฉพาะตอนค่าตอบแทนน้อย และจะขยันถ้าค่าตอบแทนเยอะเท่านั้น
เหมาะกับการเป็นลูกจ้าง
มีเงิน เลือกได้อยากขยัน อยากขี้เกียจ
ไม่มีเงิน เลือกได้ เหรอ😑
ขี้เกียจได้อะไร
+
เอาเงินไปซื้อเบนซ์ ครับ
พูดไปเรื่อย ไม่คุ้มค่าเน็ต😅