พระที่ไม่รับเงินท่านอยู่ได้อย่างไร? FAQ โดยพระมหาภาคภูมิ สีลานนฺโท
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 27 ก.ย. 2024
- "#ภิกษุจะมีวิธีบริหารตนไม่ให้ต้องอาบัติในเพราะการรับเงินและการใช้เงินซื้อของได้อย่างไร? และ #คฤหัสถ์จะช่วยภิกษุไม่ให้ต้องอาบัติด้วยสิกขาบทเหล่านั้นได้อย่างไร?"
(ครั้งนี้ไม่ได้พูดแนววิชาการ แต่เป็นการแสดงความรู้สึกส่วนตัวเมื่อเห็นข่าวเกี่ยวกับพระที่มีมากในช่วงนี้)
เคยอธิบายรูปิยสิกขาบทและรูปิยสังโวหารสิกขาบท รวมทั้งวิธีการบริหารตนเพื่อไม่ให้ต้องอาบัติด้วยสิกขาบทเหล่านี้ไว้ค่อนข้างละเอียดในคลิปนี้
#พระกับการรับเงิน bit.ly/2OQbCnP
สามารถศึกษาสิกขาบทเหล่านี้แบบละเอียดตามหลักฐานในพระไตรปิฎก อรรถกถา และฎีกาเป็นต้นได้ในหนังสือ #รูปิยโพธินี ซึ่งโหลดได้ตามลิงค์นี้ drive.google.c...
ดูครบทุกตอนได้ที่ bit.ly/2vOmN85
ติดตามในช่องทางอื่นๆ:
Facebook : เพจนานาวินิจฉัย / mahasilananda
Facebook : พระมหาภาคภูมิ สีลานนฺโท / mahaparkpoom
TikTok : นานาวินิจฉัย / mahasilananda
Instagram : นานาวินิจฉัย / mahasilananda
#โยมที่เขามีศรัทธาจะช่วยพระที่ตั้งใจรักษาพระวินัยมีอยู่แล้ว แม้โยมที่เขาถวายเงินพระก็เหมือนกัน ถ้าเขาไม่อยากช่วยหรือไม่หวังบุญ เขาคงไม่ถวายเงินแต่แรก #ก็เป็นหน้าที่พระนั่นแหละที่ต้องสอนเขา #ให้เขารู้วิธีทำบุญที่จะทำให้พระไม่มีโทษในเพราะการล่วงละเมิดพุทธบัญญัติ แล้วความจริง การดำเนินชีวิตของพระตามพระธรรมวินัยก็ไม่ใช่จะต้องให้โยมมาช่วยมากมายอะไรอยู่แล้ว"
[การจงใจล่วงละเมิดสิกขาบท จัดเป็น #อาณาวีติกกมันตรายิกธรรม คือเป็นสิ่งที่ทำอันตราย หมายถึง #กั้นการบรรลุธรรมในชาติปัจจุบัน และ #ห้ามการบังเกิดในสุคติในภพชาติถัดไป (เรื่องอันตรายิกธรรมมาในนิทานุทเทสของปาติโมกข์และอริฏฐสิกขาบทในปาจิตติยกัณฑ์)]
Phramaha Parkpoom Silanundo
ยอดเยี่ยมมากครับ สุดยอด..จริงๆ
สาธุครับท่านมหา หน้าที่ดำรงรักษาพระวินัยถ้าไม่ใช่หน้าที่ของพระแล้วจะเป็นหน้าที่ใครได้ 🙏
ภิกษุที่ยังไม่บรรลุพระอรหันต์ แต่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยน่าเลื่อมใสเหมือนพระอรหันต์ ผ้ากาสาวพัสตร์คือธงชัยของพระอรหันต์ ถ้าภิกษุทุกรูปปฏิบัติตามพระธรรมวินัยจะแยกไม่ออกเลยว่ารูปใดเป็นพระอรหันต์ จึงน่าเลื่อมใส่ทั้งหมด แต่ถ้ามีรูปไหนผิดพระวินัยก็เห็นได้เลยว่าไม่ใช่พระอรหันต์แน่นอน
แล้วในกรณีทอดผ้าป่าละครับเพราะมีเงินทุกวัดครับในกรณีนี้จะทำอย่างไรครับพระอาจารย์
ที่จริงพระพุทธเจ้าท่านให้เหนือโลก ระบอบทุนนั้นทำให้คนเป็นทาสโดยเฉพาะระบอบทุนนิยมที่ทุกอย่างอยู่ภายใต้ระบอบทุน แต่มันก็อันตรายต่อพุทธศาสนามาก เพราะอาจจะทำให้พระอยู่ใต้ระบอบทุนด้วย อันนี้ต้องระวัง
กราบนมัสการพระอาจารย์ นี่คือตัวอย่างของพระที่ อูชุปฏิปันโน ปฏิบัติตรงไปตรงมาพูดตรงไปตรงมา เกล้ากระผมก็ติดตามดูคลิปพระอาจารย์ เพื่อเสริมความรู้ของตัวเอง มาตลอด แต่คลิปนี้สุดยอด กินใจ รับรู้ได้ถึงอุดมคติ ความคิดเห็น ความงามที่มาจากภายในใจของพระอาจารย์ ที่ทุกวันนี้บุคลากร ที่ทรงคุณค่าในพระศาสนาก็นับวันจะหายากขึ้นทุกที พระอาจารย์ก็เป็นหนึ่ง ในนั้น เป็นแกนหลัก ให้พระรุ่นน้อง จะได้เรียนรู้ตามว่าอะไรควรไม่ควร เป็นบุญ อย่างใหญ่หลวง ของ ทั้งพระทั้งโยมที่จะได้เรียนรู้จากพระอาจารย์ ในกุศลส่วนนี้เกล้ากระผม ขออนุโมทนาด้วย ของมีส่วนแห่งบุญที่พระอาจารย์ได้กระทำแล้วในทุกๆอย่างครับผมกราบนมัสการผม
40ปีผ่านไป สมัยบวชเรียน จนทุกวันนี้ พึ่งจะเจอ พระจริงฯก็วันนี้หละครับ กราบนมัสการ ท่านมหา ถ้าเมืองไทยมีพระสงฆ์ ประพฤติ ปฏิบัติ แบบนี้ ศาสนาพุทธเราคงรุ่เรืองสืบไปอีกหลายพันปี นมัสการ ขอรับ
แต่เขาพูดผิด ในเรื่องการทำน้ำมนต์
ท่านถูกต้องแล้ว สาธุครับ
ผิดคือผิด ต้องยอมรับความจริง
อย่าสนับสนุนพวกบิดเบือน ครับ
พระจับเงินได้คือทำให้เปนช่องโหว่ของพระปลอมทำมาหากินได้
SupermaN My live เขามีวิธีป้องกันอาบัติครับ ตามพระวินัยผมเคยบวชมา สองพรรษาไม่จับเงินเลย โดยมี โยมวัดคอยดูแล ช่วยกันอาบัติพระ ได้ ต้องศึกษาวินัยให้ละเอียด ไม่ใช่เอาสะดวกเข้าว่า ไม่รู้จะบวชมาทำไม ที่คนกับพระต่างกันก็ด้วย ศีล ถ้าพระไม่รักษาศีล จะต่างอะไรกับโยม ภิกขูนัง สิกขา สาชีวะ สะมาปันนา สิกขา(ศีล สมาธิ ปัญญา)และธรรมเป็นเครื่องเลี้ยงชีวิตของภิกษุทั้งหลาย
SupermaN My live ถ้ามีความพยายาม ในการรักษาศีล จริงๆ ก็ทำได้ เหนพระบางพวกอ้างว่ากลัว ไม่มีค่ารถไปสอบไปเรียนนักธรรม เลยยอมผิดศีล เพื่อไปสอบให้ผ่าน สรุปแล้ว บวชมารักษาศีลหรือ มาสอบ ยอมสอบตกแล้วศีลบริสุทธิ์ ยังดีกว่า
สมัยพุทธกาล ยังยอม ตายกันได้เลยเพื่อรักษาศีล รักษาวินัย เขาเสี่ยงชีวิต กันมาแบบนี้ ครูบาอาจารย์ เข้าป่าเข้าดง เพื่อศีลธรรมล้วนๆ เสียสละความสะดวกสบาย มันถึงมีคุณค่าไง
diarycrazydrumm วัดผมไม่มีโยมดูแลทำไงครับ รับเงินผิดวินัยพระแทบทุกรูปรู้หมดไม่ใช่วัดทุกวัดจะมีโยมดูและคอยรับใช้ช่วยจ่ายค่ารถค่าน้ำค่าไฟฟ้าค่าอุปกรการเรียนให้ตลอดใคร์จะมาคอยรับใช่พระ และถ้าพระใหม่ๆไม่มีคนรู้จักไม่มีชื่อเสียงแบบท่านมหาใครเค่าจะมาถามว่าอยากได้อะไรยิ่งพระที่ไม่มีโยมพ่อโยมแม่หรือเป็นกำพร้าไรญาติพี่น้องไม่มีคนคอยช่วยทุกคนรู้ครับว่ารับเงินผิดแต่พระที่รับเงินก็ไม่ได้แปลว่าเค้าจะเป็นคนเลว
คุณพระรูปหนึ่ง สกุลในเมือง สาธุครับ ต้องหาหมู่คณะ สายพระธรรมยุต หรือหนองป่าพง มีหลายร้อยสาขา ต้องไป อยู่ กับหมู่พวกที่ถูกต้อง ปฏิบัติถูกต้อง ดีกว่า
ขอบคุณที่ยึดมันในธรรมในวินัยของพระศาสดา ไม่บิดเบือน ถูกต้องตรงจริง
ยินดีในบุญครับ ผมเคยบวชแบบไม่รับเงินและไม่มีเงินเป็นของส่วนตัว ผมจะเดินทางไปไหนไม่มีปัญหา ใช้ไม่พอหรอกครับ โยมที่ศึกษาพระธรรมวินับสมัยนี้มีเยอะครับ เราปฎิบัติอันเป็นบุญถูก ผลบุญนั้นก็จะหนุนส่งให้การปฎิบัติตัวเป็นไปได้เองครับ 🙏🙏🙏
ขอท่านชี้นำผมไปในทางแจ้ง ในวัดที่บวชนั้นพระไม่รับเงินแล้วคนป่วยที่ต้องรักษาตัวทำอย่างไรได้บ้าง
มีโยมคอยดูแลหายูกยามาถวาย ถ้าป่วยเคสหนักๆก็แจ้งโยมที่ปวารณาไว้ให้หารถ หรือ ญาติของพระเองก็ได้ครับ มีโยมคอยช่วยเหลือครับ เท่าที่เคยเห็นมา
ถ้าภิกษุบวชเพราะมีความศรัทธาในตถาคต ก็จะต้องปฏิบัติตามพระวินัยที่พระองค์ทรงบัญญัติไว้อย่างเคร่งครัด
ไม่ว่ายุคสมัยใด ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่หมื่นกี่แสนปี พระธรรมวินัยที่พระองค์บัญญัติไว้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปได้
ผู้ที่อ้างว่าเวลาเปลี่ยนไปแล้ว การปฏิบัติของสงฆ์จำเป็นต้องเปลี่ยนไป นั่นเป็นเพราะเขาขาดศรัทธาในพระตถาคต เขาไม่เชื่อในความเป็นสัพพัญญูของพระองค์ จึงกล้าอาจหาญแสดงความคิดเห็นขัดแย้งกับพระองค์
อย่าลืมกันครับ ภิกษุเป็นผู้สันโดษ
ลองอ่านพระสูตรดูครับ
[๑๒๔] ดูกรมหาบพิตร อย่างไร ภิกษุชื่อว่าเป็นผู้สันโดษ? ดูกรมหาบพิตร ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้สันโดษด้วยจีวรเป็นเครื่องบริหารกาย ด้วยบิณฑบาตเป็นเครื่องบริหารท้องเธอจะไปทางทิสาภาคใดๆ ก็ถือไปได้เอง ดูกรมหาบพิตร นกมีปีกจะบินไปทางทิสาภาคใดๆ ก็มีแต่ปีกของตัวเป็นภาระบินไปฉันใด ภิกษุก็ฉันนั้นแล เป็นผู้สันโดษด้วยจีวรเป็นเครื่องบริหารกาย ด้วยบิณฑบาตเป็นเครื่องบริหารท้อง เธอจะไปทางทิสาภาคใดๆ ก็ถือไปได้เอง
ดูกรมหาบพิตร ด้วยประการดังกล่าวมานี้แล ภิกษุชื่อว่าเป็นผู้สันโดษ.
[พระไตรปิฎกไทย(ฉบับหลวง) เล่ม ๙ หน้า ๖๘]
ภิกษุออกบวชไม่ใช่เพื่อแสวงหาโภคทรัพย์ แต่ออกบวชเพื่อรู้อริยสัจ ๔
[๑๖๕๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ก็กุลบุตรเหล่าใดเหล่าหนึ่งในอดีตกาล ออกบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบ กุลบุตรเหล่านั้นทั้งหมด ออกบวชแล้วเพื่อรู้อริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง
กุลบุตรเหล่าใดเหล่าหนึ่งในอนาคตกาล จักออกบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบ กุลบุตรเหล่านั้นทั้งหมด จักออกบวชเพื่อรู้อริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง
กุลบุตรเหล่าใดเหล่าหนึ่งในปัจจุบันกาล ออกบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบ กุลบุตรเหล่านั้นทั้งหมด ออกบวชอยู่ เพื่อรู้อริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง
อริยสัจ ๔ เป็นไฉน? คือ ทุกขอริยสัจ ทุกขสมุทัยอริยสัจ ทุกขนิโรธอริยสัจ ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ ก็กุลบุตรเหล่าใดเหล่าหนึ่งในอดีตกาล ... ในอนาคตกาล ... ในปัจจุบันกาล ออกบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบ กุลบุตรเหล่านั้นทั้งหมด ออกบวชเพื่อรู้อริยสัจ ๔ นี้แลตามความ
เป็นจริง
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึงกระทำความเพียรเพื่อรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา.
[พระไตรปิฎกไทย(ฉบับหลวง) เล่ม ๑๙ หน้า ๔๑๓-๔๑๔]
ขออนุโมทนาสาธุ .. อยากเห็น " ภิกษุ " แบบท่านมหามาก ๆ เป็นอีกหนึ่งพลังใจให้ท่านมหาครับ
สาธุครับท่านมหา ท่านออกมาชี้แจงอธิบายเพื่อความเข้าใจพระวินัยที่ถูกต้อง เป็นการรักษาพระวินัยที่พระบรมศาสดาได้บัญญัติไว้ดีงามแล้ว เท่ากับช่วยรักษาพระพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่ต่อไปยาวนาน เป็นกุศลอานิสงส์มหาศาลหาประมาณมิได้ครับ ขอกราบอนุโมทนากับท่านมหาครับ 🙏
ส่วนใครที่ออกมาจ้วงจาบหยาบคายเพราะอคตินำหน้าสติปัญญาแยกแยะผิดถูกไม่ได้ ตามประสาสัตว์โลกปากพล่อยยุคไซเบอร์สมัยนี้ ก็ปล่อยเขาไป วิบากใครวิบากมันครับ
สาธุ
เป็นพระหนุ่มที่มีความคิดที่สร้างสรรค์ครับ ทำก่อนจะได้รู้ ว่าได้หรือไม่ ที่ไม่ได้คืออะไร ค่อยหาทางแก้ไข แต่ถ้าปฏิเสธก่อนที่ยังไม่เริ่มเลย...ก็กลัวความลำบากเสียแล้ว มีหลักคิดที่ดีครับ ขอให้ท่านบรรลุธรรมนะครับ...ถ้ามีพระแบบท่านสักครึ่ง ..ศาสนาพุทธ และคนในประเทศนี้คงจะดีกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้ครับ...
*นี่คือนักวิชาการพระ พูดตรงไปตรงมา มีหลักฐาน ไม่ตีความเข้าข้างพวกตน/พูดมั่ว พระดีไม่อดตาย ใครๆ ก็อยากทำบุญกับพระดี*
สาธุครับ. ทานให้ความรู้ดีครับ การบำรุงพระศาสนาที่ดีคือเราต้องอ่านพระไตยปิฎกเองครับ แล้วช่วยกันทำตามคำของพระศาสดาให้ตรงให้ถูกต้องครับ อย่าให้ใครมาเสริมเติม หรือลดคำสอน. ผิดก็แก้ไขเพราะทุกคนมีสติปัญญาไม่เท่ากัน แต่คนที่รู้ว่าผิดแต่จะแก้คำสอนว่า คำสอนไม่ทันกาลเวลา ผมยังเห็นว่าคำสอน ทันทุกยุคทุกสมัยครับ ขอให้ท่าน เผยแผ่คำสอนที่ดีแบบนี้ต่อไปครับ
จะบวชกันไปทำไม
เป็นเจ้าชายสิทธัตถะ ก็มีความสุขสบายแบบนี้แหละ งานการไม่ต้องทำ มีปราสาท 3 ฤดู มีแต่ผู้หญิง ไม่มีชายปน สนมนับพันนาง มีดนตรีประโคมขับร้องทุกวัน อาหารเลิศรส บำรุงด้วยกามคุณแทบทุกอย่าง เท่าที่จะหามาได้
แต่มาวันนึง ได้มองเห็นภัยในชีวิต เห็นภัยในการ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เห็น สมณะเพศ ก็ทรงละทิ้งทุกอย่าง เพื่อออกแสวงหา อมตะธรรม
ผู้ออกบวชก็เช่นเดียวกัน ก็เพราะศรัทธา และ ต้องการแสวงหาโมกขธรรม มิใช่รึ จึงประพฤติพรหมจรรย์
แต่มาวันนึง ลาภ ยศ สักการะ แก้ว แหวน เงิน ทอง หน้าตาทางสังคมมากมาย ผู้คนกราบไหว้ บูชาด้วยอามิสมากมาย กลับถลำตกหล่นลงไปสู่ก้นเหวแห่งอสรพิษ จมอยู่ในกองมูถคูถ หลงลืมปณิธานที่เคยปาวารณาไว้ตอนท่องคำขานนาค ตอนรับกรรมฐานจากพระอุปปัชฌา ไม่นำพาต่อพระวินัยและสิกขา ย่อหย่อนในการบำเพ็ญสมณธรรม หลงระเริงไปกับกิเลสตัณหาทางโลก สุดท้ายก็ต้องได้รับผลกรรม ทั้งในโลกนี้ และ โลกหลังความตาย ช่างน่าสมเพชยิ่งนัก
ตัดปัญหาทุกอย่าง ก็แค่พระไม่ต้องไปยุ่งกับเรื่องเงินๆทองๆ ลาภยศสรรเสริญ สมณศักดิ์ หรือกิจการทางโลก ให้พระท่านบำเพ็ญสมณธรรมเพียงอย่างเดียว ตามพระธรรมวินัยที่พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้
การบิณฑบาตรเลี้ยงชีพ เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าได้ทรงอนุญาติและบัญญัติไว้ มันยังไม่เพียงพออีกรึ
ส่วนเรื่องโลกๆ ก็ให้ฆารวาสดำเนินการเอง เพียงเท่านี้ ปัญหาเหล่านี้ก็จะไม่เกิด ให้วุ่นวายจนถึงทุกวันนี้ เพราะฆารวาส ตรวจสอบ ฆาราวาสเอง จะง่ายกว่าไปรบกวนตรวจสอบพระภิกษุสงฆ์
เพียงเท่านี้ พระภิกษุสงฆ์ และ พระศาสนา ก็จักยังคงเจริญงอกงาม ไม่แปดเปื้อนไปกับสิ่งโสมมทางโลก ถึงจะช่วยไม่ได้ทั้งหมด แต่อย่างน้อย โลกก็ไม่ติเตียน
ท่านพูดถูกต้องครับ แต่ท่านทำได้หรือยัง สาธุครับผม
อยู่วัดยังต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟเลยท่าน
ใช้เงินกลางสงฆ์ ไม่มีเงินส่วนตัว ในการจ่าค่าสาธารณูปโภค เจริญพร
ท่านพระมหาครับ การใช่อินเตอร์เนต การใช้กล้องถ่ายรูป ผิดวินัยไหมครับ การที่ท่านดืมน้ำโดยไม่มีที่กรอง ผิดวินัยไหมครับ มส.เคยมีคำสั่งห้ามพระ ใช้กล้องถ่ายรูปใช่ไหมครับ
เป็นตามพระวินัยจริงๆขอรับ สาธุ
มาเถียงกันเรื่องเงินอยู่อย่างนี้แหละ บ้านเมืองจึงฉิบหาย ทำไม่เราไปหยึดติดกันหนักกันหนา ใครจับก็จับไป ใครไม่อยากจับก็ทำไป พูดถึงเรื่องวินัยแล้ว เถึยงกันไม่จบหรอก...ใครจะจับไม่จับมันเรื่องของเฉพาะตน ถามจริงๆว่า ท่านที่กำลังพูดอยู่อย่างนี้ ใช้โทรศัพท์รุ่นไหน ที่อัดลงยูทูป ใช้ฟรีหรือต้องใช้เงิน...
โอ้โหคุณอาจหาญมาก คุณมั่วได้ที่
โดยส่วนตัวผม ผมเห็นว่าพุทธบัญญัติที่บัญญัติไว้นั้นดีแล้ว จริงอยู่พระดีๆก็มีเยอะ แต่ในมุมกลับกันพระไม่ดีก็มีเยอะเหมือนกัน การให้พระจับเงินหรือมีเงินได้นั้นเป็นการให้ลุแก่อำนาจของกิเลสได้ ซึ่งทำให้เกิดการยึดมั่นถือมั่น และหลงออกจากคำสอนของพระพุทธเจ้าได้ การบวชเรามาบวชเพื่อละ โมหะ โทสะ โลภะ ไม่ได้บวชมาเพื่อ มี หรือ เก็บ โดยมีความเพียรเป็นฐานในการสร้างสม กินเท่าที่ได้ทานมา อยู่เพียงแค่โยมอุปัฏฐากก็เพียงพอแล้ว อย่ามาอ้างถึงยุคสมัยว่ามันเปลี่ยนไปเลย สมัยก่อนเป็นป่าเป็นเขาพระสงฆ์องค์เจ้าเข้าก็เดินกัน ถ้ามาอ้างกันแบบนี้อีกหน่อยพุทธบัญญัติหรือคำสอนก็ถูกเปลี่ยนแก้ไขไปตามความเห็นของสาวกที่อยากให้เป็นซิ พระสงฆ์สาวกทั้งหลายไม่ใช่พระพุทธเจ้า ไม่มีใครมาบอกว่านั้นได้นี้ไม่ได้ แต่พระพุทธเจ้าตรัสไว้แล้วคิดไว้ดีแล้วพระองค์มองเห็นแล้วว่ามันจะทำให้เป็นปัญหา จึงได้บัญญัติไว้ แล้วถ้าผ่านไปนานๆเข้าพุทธบัญญัติข้อนี้ก็คงจะหายไปเพราะจากการอนุโลม พระสงฆ์ทุกวันนี้มีแต่กิจนิมนต์ ลาภสักระ มีไหมสักกี่องฆ์ ที่จะอยู่ในศีลาจารวัตร มุ่งฝึกฌานสมาบัติ ตีบตัวเองให้หลุดพ้นออกจากวังวนแห่งทุกข์ อยู่เป็นพระให้สมกับ ข้าวกับแกงที่ชาวบ้านเค้าถวายให้ อย่ามาเพียงอยู่ยังชีพในกาสาวพัสตร์เท่านั้นเลย เรื่องแบบนี้ควรถือพุทธบัญญัติเป็นใหญ่ แล้วค่อยมาดูกันไปกรณีๆไป เพราะเป็นสาวกของพระองค์แล้วย่อมควรจะยอมรับและถือปฏิบัติให้ได้ดี
ชื่นชมและอนุโมทนากับท่านด้วย ถือว่าเป็นผู้ที่ตรงยึดมั่นในธรรมวินัยอย่างแท้จริงซึ่งปัจจุบันหาได้ยากจริงๆ
สาธุ สาธุ สาธุ ท่านผู้เจริญ
เกจิ อตฺตโน เหตุํ อปทิสนฺติ.
วิปาโก หิ กมฺมุนา วตฺตติเยว.
ต่างคนต่างหาข้ออ้างเข้าข้างตัวเอง
แต่ผลของกรรมย่อมไม่เข้าข้างใคร
(อัญญตรอุบาสก)
ใช้ใบปวารณาแบบธรรมยุติก็ไม่พ้นอาบัติเพราะยังยินดีอยู่เป็นแค่รูปแบบสร้างภาพ ไม่มีในพุทธกาล
มหากำลังรัอนแรง ท่านเรียนมา แต่ลองมาออกเที่ยว ออกแสดงธรรมบ้างครับ *จะได้รู้ชีวิตจริงๆ*
แล้วทำไมพระต้องขวนขวาย ต้องวุ่นวาย ต้องออกไปเที่ยวล่ะ เพราะพระคือผู้สงบ มีแต่ความอยาก อยากเที่ยว อยากไปเห็นนั่นเห็นนี่ จะเข้าไปบวช
หลอกกินข้าวชาวบ้านทำไม
เก็บไว้ในหทัยเถอะเชื่อดิอย่าไปยุง กรรมใครกรรมมัน เชื่อได้เลย ดูที่เจตนาผู้ถวายดิ.
ขออนุโมทนาสาธุครับผม ถูกก็ว่าไปตามถูก ผิดก็ว่าไปตามผิด
ถ้าพวกเรายังรับเงินอยู่ เราก็สละเงิน แล้วแสดงอาบัติ ก็คนจากโทษข้อนี้นะครับ
พระภิกษุ ผู้มีอาบัติติดตัว ย่อมมีทุคติป็นที่หวังนะครับ.
สาธุ สาธุ สาธุ ครับ...
อนุโมทนาครับ
ลองมาอยู่บ้านนอก หลวงพี่ ที่อยู่ที่ฉันอย่างที่นั่งพูดขณะนี้ ก็หาไม่เจอหรอก
มีครับและสามารถทำได้ครับ บิณฑบาตฉันได้ทุกวันครับ เงินไม่ได้จำเป็นไม่มีก็ไม่ตายครับ แต่ไม่มีอาหารฉันถึงจะตายครับ ไม่ว่าจะที่ไหนตราบใดที่ยังมีศรัทธาจากญาติโยม หรือศาสนายังมีอยู่ ยังไงพระ ไม่มีเงินก็อยู่ได้ครับ
เห็นด้วยครับ @@apivithmanutchan2498
สมัยก่อนท่านก็อยู่บ้านนอกนะครับ อยู่วัดท่ามะโอ วัดเขา อยู่มาแล้ว วัดเป็นเกาะก็เคย ก็ไม่เห็นมีปัญหา
พูดเรื่องวินัยขัดใจพระ พูดเรื่องธรรมมะขัดใจโยม ท่านมหาต้องทำให้ดู อยู่ให้เห็น ..พวกเรานี่มาเสวยสุขมรดกพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทำไว้ทั้งนั้นแหละลองไปเผยแผ่และพูดเรื่องวินัยในถิ่นทุรกันดารดูสิ ท่านเคยอ่านประวัติพ่อแม่ครูบาจารย์บ้างหรือเปล่า..การกระทำของท่านมันขัดแย้งในตัวของมันเอง อย่ายกพระวินัยโดยไม่สำรวจตัวเองมันเแ็นดาบ2คมที่พร้อมย้อนกลับทำลายตัวเองให้ข้อคิดพิจารณานะและขอให้เจริญในธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาตลอดไป สาธุๆๆ
พระวินัยที่ทรงตรัสไว้ดีแล้ว ไม่ใช่อัตถกิลมัตถานุโยค (ทางสุดโต่งอย่างเคร่ง)
พระวินัยที่ตรัสไว้ดีแล้ว คือ ทางสายกลาง
การยอมรับว่าทำไม่ได้ ยังดีเสียกว่า พยายามบิดเบือนพระธรรมวินัย
พระภิกษุสามเณรที่ไม่เคารพพระวินัยที่ทรงประกาศไว้ดีแล้ว
ไม่ทราบหรือว่า หากล่วงพระวินัยแล้ว มีโทษ
อาจนำไปสู่ทุคติ วินิบาตได้หากประพฤติผิดเนืองๆ ไม่เคารพพระวินัย
ทว่า..กลับสั่งสอนญาติโยมให้รักษาศีล ๕ กลัวบาปกรรม กลัวทุคติ
ช่างน่าเก็บไปคิดครับ
อนุโมทนา
พระวินัยบัญญัติ มีเหตุให้ต้องบัญญัติหลากหลายครับ บางข้อท่านก็บัญญัติตามบริบทสังคมในสมัยนั้น มันก็เป็นทางสายกลางสำหรับกาลนั้น พระพุทธเจ้าท่านเป็นพระสัพพัญญู ท่านรู้ว่าเมื่อกาลสมัยเปลี่ยนไป บริบทย่อมเปลี่ยน สิ่งที่เคยเชื่อ เคยนิยม ในสมัยต่อมา อาจเปลี่ยนไปได้ ท่านถึงตรัสเปิดทางไว้ให้ ว่า ถ้าสิกขาบทเล็กน้อยข้อใด ไม่เหมาะกับกาลสมัย จะยกเลิกเสียก็ได้ นั่นแสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพ สมเป็นพระศาสดาโดยแท้ เพียงแต่พระอานนท์ ในขณะนั้น คิดไม่ทัน เพราะมัวแต่วิตกกังวลเรื่องการปลงอายุสังขารของพระองค์ เลยไม่ทันได้ทูลถามว่าสิกขาบทเล็กน้อยเหล่านั้นได้แก่ข้อใดบ้าง / จริงอยู่ว่า พระวินัยที่ทรงบัญญัติไว้แล้ว ไม่ใช่ อัตถกิลมัตถานุโยค แต่ .... ผู้มีปัญญา ย่อมคำนึงถึงกาล หรือบริบทอื่นประกอบด้วยเสมอ จะเห็นชัดว่า แม้ในสมัยพุทธกาลเอง พระวินัยบางข้อ ก็มีการเพิ่มเติมอนุบัญญัติ เพื่อแก้ไขปรับปรุง ให้เหมาะกับกาลภายหลัง หรือบางข้อก็ประกาศยกเลิกไปก็มี ... / ที่กล่าวมา ไม่ได้หมายความว่า ผมสนับสนุนให้มีการยกเลิกสิกขาบทเรื่องรับเงินรับทองนะครับ เพียงแต่ต้องการให้ทุกฝ่าย ช่วยกันหาทางออก หาความพอดีในการดำเนินชีวิตของพระสงฆ์ในสมัยปัจจุบัน ซึ่งต้องเป็นข้อที่ปฏิบัติได้จริงแก่พระทุกรูป ไม่ใช่ทำได้เฉพาะบางรูปบางท่านที่มีแต่ผู้แวดล้อมอุปัฏฐาก ไม่เคยต้องลำบากในปัจจัยสี่ ขณะที่พระส่วนใหญ่ไม่ได้มีอย่างนั้น /
@@coolplanet7 รอคำตอบ หรือทางชี้แนะเจ้าค่ะ
ปัญหาไม่ใช่การ " แตะต้องทรัพย์ " แต่คือ " ความยินดีในทรัพย์ " ง่ายๆคือ ใช้เงินได้แต่ห้ามสะสม
ไม่ใช่ยินดีไม่ยินดีอย่างที่คุณเข้าใจแล้วมาอวดรู้ผิดๆ
จับก็อาบัติ มีครอบครองก็อาบัติ ยินดีก็อาบัติ อาบัติทั้ง 3 อย่าง ถ้ามีเงินจับเงิน จะยินดีไม่ยินดี ก็อาบัติ
พระวินัยคือพุทธบัญญัติ อย่าคิดเองเออเอง
@@omgwth7567 ขอบคุณที่ช่วยเพิ่มเติมครับ ข้อนั้นผมรู้แต่ ไม่เถียงเลยแม้แต่น้อย...ครั้นจะมาอธิบาย ตามพุทธวินัยตรงๆ แบบนั้นในทางโลกใครจะมาเข้าใจ และก็จะมีไม่น้อยที่จะบอกว่า มันทำได้ยากในโลกปัจจุบัน...ผมแค่บอกตามประสา "ชาวบ้าน " แต่ถ้าจะเอาแบบถูกต้องก็แบบคุณชี้แนะแหละครับ ...ขอบคุณครับ
@@omgwth7567 ดูที่เจตนาของผู้ถวายดิ
ไม่มีเงิน.มึงไปเชียงใหม่.ทำไง.ว๊ะ.?
ต้องให้คนดีไปบวชพระแล้ว
แต่ว่าคนดีไม่ชอบบวชคนดีชอบแต่จับผิดพระด่าพระ
พวกที่ว่าพระด่าพระไม่ใช่คนดีจริงหรอก
@@สมปราถนาS จริง
๑.แค่ประเด็นให้ทุกวัดทั่วประเทศ..ให้รับใบปวารณา แล้วให้ทายกจัดการเงินแทนพระ..ยังทำไม่ได้ จึงอย่าพูดถึง..การมิรับเงินทั่วประเทศ อันไหนง่ายกว่า ลองพิจารณาดู
๒.เราจะไม่เปลี่ยนพระธรรม-วินัย ให้พระรับเงินได้..(จะทำไปทำไม มีวิธีง่ายๆ ดังเดิม เมื่อท่านพระรับ..ถ้าต้องการความบริสุทธิ์แห่งศีลก็สละ นำไปช่วยคน..ช่วยโรงพยาบาล..แล้วปลงอาบัติ ทำไมต้องสุดโต่ง..ดังที่ว่า..(สายกลาง...เดินได้ด้วยปัญญา..)ทีเหยียบหญ้า บ้วนน้ำลาย..ทำไมเผลอทำได้..มิงั้นต้องเปลี่ยนหมดหรือ..มันมีวิธี สุดท้ายใจท่านโลภหรือไม่ หากรับแล้วช่วยคน ดังหลวงพ่อคูณ..อาบัติสักแต่ภาพที่ท่านรับ แต่อาบัติต้องใจท่านมิได้เลย..(มิใช่ดีแต่ยึด..ต้องๆๆ ตลอด...แต่สุดท้ายใจกลับมีแต่ทุกข์ และแตกสามัคคี การสวยแต่ภาพภายนอก..ก็มิได้บอกว่า..นี่แหละกลวิธี..ใช่มันก็แค่หลอกตาโยมให้ดูดี..แล้วมันจะชี้ชัดได้หรือว่า นี่พระจริง
ใช่แล้วครับที่คุณพูดถูกต้องที่สุดเอะอะถ้าเป็นเงินห้ามจับไม่รู้ศึกษาเรื่องรูปิยะ(แปลว่าเงินและทองมาแค่ไหน...แต่สำหรับผม...นั่นมันเงินรูปีของแขกชัดๆแต่นี่มันสังคมไทยถ้าพระภิกษุจับเงินไม่ได้เมื่อใดที่ผู้ไปบวชแต่พ่อแม่จนแม้ข้าวกรอกหม้อก็ไม่มีก็ปล่อยให้พ่อแม่ตายไปซะทั้งที่มันควรจะทำได้...ใช่หรือไม่
สาธุ พระแท้จริงๆ
บัญญัติสิกขาบทของพระพุทธเจ้าคือทางสายกลางของภิกษุ ภิกษุที่ไม่กระทำตามก็แสดงว่าไม่เชื่อพระศาสดาตั้งแต่แรก ควรหรือไม่ที่จะบวชในพระศาสนาของพระองค์ ขออนุโมทนาสาธุ กับ Phramaha Parkpoom Silanundo ด้วยครับ
น้อมกราบสาธุเจ้าค่ะ เคารพรักศรัทธายิ่งพระสงฆ์สาวกในธรรมวินัยของ พระพุทธเจ้า ไม่อดไม่ยากไม่ลำบากหรอกเจ้าค่ะ
พระรับเงินที่มีเจตนาดี ก็คือพระดี พระรับเงินที่มีเจตนาไม่ดีก็คือพระไม่ดี เจตนาไม่ดีคือเมื่อรับมาแล้วไม่เอื้อเฟื้อแก่เพื่อนมนุษย์ด้วยกันไม่แบ่งปันทำสาธาระณะประโยช์ส่วนรวมเก็บสะสมไว้เป็นสมบัติของตนได้ร้อยอยากได้ล้านอันนี้มีเจตนาไม่ดีถือว่าเป็นพระเลว พระพุทธเจ้าทรงมีพระปัญญามองรอบรู้ด้วยพระปัญญาญาญรู้ถึงเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคต(หมายถึงปัจจุบันเรานี้) จึงได้บอกวิธีแสดงอาบัติไว้ หมายถึงท่านบอกเป็นนัยยะว่าเมื่อพระสงฆ์มีเจตนาดีรับเงินและทองด้วยเจตอันดีแล้วก็จงยอมรับว่าเป็นอาบัติ พระสงฆ์จงแสดงอาบัติของตนให้ภิษุอื่นทราบด้วย วิธีนี้ ทำเช่นนี้ ทำแบบนี้ ด้วยความมีเจตนาดีของภิษุรูปนั้น อาบัตินั้นถือว่ามีอันตกไป อันนี้คือพระปัญญาญาญของพระพุทธเจ้าพระองค์จะไม่ทรงปิดกั้นเจตนาดีของถิกษุในพระพุทธศาสนาจะบอกวิธีแก้คือการแสดงอาบัติเอาไว้ในศิลทุกๆข้อ ยกเว้นอาบัติปาราชิก ชึ่งหาเจตนาดีไม่ได้ในอาบัติทั้ง4ข้อนี้ อาบัติทุกข้อมีไว้ใช้บังคับพระเลวให้กลับตัวกลับใจเท่านั้น ส่วนพระดีๆเห็นสตรีตกน้ำ มองหาคนช่วยไม่ได้ก็จงช่วยตามความสามารถของท่านเถิดอย่าปล่อยให้เขาจมน้ำตายไปต่อหน้าต่อตา ถึงแม้ท่านจะเป็นอาบัติก็จงเป็นอาบัติอย่างภาคภูมิใจ เพราะพระพุทธเจ้าสอนเราว่าสิ่งใดที่เราทำไปแล้วระลึกขึ้นได้ตามหลังแล้วมีความสุขใจนั่นคือกุศล สิ่งใดทำไปแล้วระลึกได้ตามหลังแล้วเป็นทุกข์นั่นคือบาปอกุศล สรุปพระคุณเจ้ารูปใดมีความปราถนาจะรับเงินก็จงรับด้วยเจตนาอันเป็นกุศลเถิด เมื่อท่านมีจิตอันเป็นกุศลข้าพเจ้าจะจดจำท่านไว้ตลอดไปว่าท่านคือพระดีเป็นสาระณะของข้าพระเจ้าตลอดไป
ถ้าท่านยังเป็นพระอยู่ในลักษณะนี้ผมขออนุญาตชี้แจ้งให้ถึงสว่าง การแสดงอาบัตินั้นถ้าหากผิดบ่อยๆแล้วแสดงบ่อยๆจะมีความสำนึกได้อย่างไร งั้น ฉันข้าวเย็นบ่อยๆ ปลงทุกวันก็ทำได้สิท่าน เงิน เป็นอนามาสวัตถุด้วยซ้ำ หากท่านมองลงไป การอยู่ของพระควรสมถะไม่ยินดีไม่อยากได้ไม่อยากมี ตัดกิเลสออกจากตนให้อุบาสกอุบาสิกาเลื่อมใส พระผู้ไม่สงสัยคำของตถาคต หากผู้ซึ่งยังอยู่ในสมณเพศบรรพชิต ยังทำแล้วปลงอาบัติเป็นอาจินไม่ได้สำนึกศีลจะคงมีทำไม ถ้ารู้ว่าไม่ดีควรสองฆารวาสให้รู้แจ้งดีกว่ามาเข้าข้างตัวเอง หรือบวชเพราะหาเงินอันนั้นก็เป็นกรรมของท่าน ศาสนาเสื่อมลงเพราะคนในศาสนาเอง
อย่าน้อมลาภเข้าหาตัวเองแล้วกัน ไม่ได้เป็นเกจิดัง เป็นมหาหลวงพ่อดัง ไวยาวัจกรณ์จะมีหรือ พระมีเป็นแสน ใครจะมาบริการได้ทุกรูป บางรูปต้องไปเรียนศึกษา ,ไปรักษาพยาบาล ,เยี่ยมญาติ ,ไปปฏิบัติธรรม,ไปทำธุรเกี่ยวกับสงฆ์สังฆกรรมต่างๆก็ต้องใช้ปัจจัย เอาแบบได้มาด้วยความดี และใช้จ่ายให้เหมาะกับสามณรูป ใช้ส่วนตัวแล้วที่เหลือก็ช่วยสงฆ์ด้วยกัน ช่วยสาธารณะกุศล ช่วยวัด ไม่ใช้จ่ายไปในทางที่ผิด สมัยเปลี่ยนไปแล้ว พระพุทธยังทรงอนุโลมให้เลย ตามแต่เหตุการณ์ยุคสมัย จับเงินพอปลงอาบัติได้ ดูอย่างครูบาอาจารย์ที่ท่านใช้เงิน เช่น หลวงพ่อฤษีลิงดำ,หลวงพ่อคูณ,หลวงตามหาบัวฯลฯได้มาก็ใช้ไปแบบมีประโยชน์ต่อตนเองและสาธารณะชน(ยาวหน่อยนะ)
สาธุๆๆครับผม
ท่านอาจารย์มหาท่าน"นำหลักการ"
มากล่าวให้พิจารณาเปนสิ่งควรอนุโมทนาครับ...
คนที่รู้จริงแล้วกล้าชี้
ในโอกาศที่เหมาะสมหายากครับ สาธุ สาธุ สาธุ
พระวินัย จริงๆ ลาภไม่ ขาด สายหรอกครับ ไม่ว่าท่านจะยู่นะทีใด บนสุด ในถ้ำ ป่าศรัทธาก็ไปหาเองครับผม
กราบนมัสการเจ้าค่ะท่านสอนถูกต้องเลยเจ้าค่ะถ้าใครปฏิบัตจริงจะรู้ว่าเทวดามีจริงไม่จำเป็นว่าจะเป็นพระเสมอไปเป็นผู้มีศีลมีเมตตาก็มีโอกาสรับรู้ค่ะจริงค่ะว่าพระไม่รับเงินอยู่ไม่ได้นั้นไม่จริงดังที่ท่านพูดค่ะ ขอให้มีศีลบริสุทธิไปไหนไม่อดดอกจริงดังท่านพูดค่ะสาธุเจ้าค่ะ ขอกราบนอบน้อมด้วยความศัทธาเจ้าค่ะ
บางที่บางแห่งที่รับรู้มา ต่อหน้าก็รับเฉพาะใบปวารณา แต่ต่อมาก็เอาบัญชีมาเคลียร์จ่ายกันที่หลัง ที่อยู่ ใน กทม. ก็มีมากมาย เพียงแค่รูปแบบเท่านั้นเอง ภาพออกมากับการกระทำมันต่างกันโดยสิ้นเชิง
ถ้าไม่ให้พระท่านจับเงิน โยมจะต้องไม่เก็บเงินจากพระในสิ่งจำเป็น เช่น ขึ้นรถลงเรือ หยูกยา สิ่งของต่างๆที่จำเป็นด้วย
ไม่ต้องใช้ครับ ไม่ต้องขึ้นรถ ลงเรือ ป่วยให้ฉันน้ำมูตรเน่า
บ้านผมรถโดยสารประจำทางไม่เก็บเงินจากพระครับ
นิสัยพระภิกษุอย่างหนึ่งที่สำคัญ ที่พระศาสดาตรัสสอนคือ "ความมักน้อย" ความเป็นผู้เลี้ยงง่าย อยู่ง่าย ๆ ไม่สะสมทรัพย์สิน ทำไมนิสัยนี้พระสมัยนี้หลงลืมกันหมด รู้หรือเปล่าว่าเราดำรงชีพด้วยพึ่งปัจจัย 4 จากชาวบ้านที่เขาศรัทธา เมื่อชาวบ้านเขาศรัทธาเขาจึงเต็มใจ ควักเงินที่แสนจะหายากของเขา จ่ายเป็นค่าอาหารซื้อไว้เลี้ยงดูพระท่าน ไหนจะค่ายา ค่าไฟฟ้า อีกสารพัด พระทั้งหลายรู้ไหมว่าชาวบ้านเขารักพวกท่านเขาจึงทำเช่นนั้น แล้วท่านล่ะ รักพวกชาวบ้านเขาบ้างเปล่า เขาอยากเห็นพระทั้งหลายเป็นพระดี อยู่ในพระธรรมวินัย น่ากราบ น่าไหว้ น่าสละทรัพย์สินเลี้ยงดูท่าน แล้วท่านล่ะเป็นพระดีแล้วหรือยัง วัน ๆ ยุ่งแต่เรื่อง เงิน ๆ ทอง ๆ เขาใส่ซองให้เท่าไร มีข่าวมัวหมองตลอด ก็มาจากพระรับเงินทองนี้เอง ยังมาพูดดักคอพระที่เขาออกมาเตือนให้สำรวมรังวังเรื่อง เงินทองอีก หากท่านรู้สึกว่าการบวชเป็นพระแล้วไม่รับเงินทอง แล้วมันรู้สึกลำบากจังเลย พึ่งรู้ไว้เถ่อะว่า ท่านกำลังใช้ชีวิตที่ห่างไกลจาก สิ่งที่พระศาสดาต้องการให้พระเป็นแล้ว ได้โปรดตระหนัก กลับตัวกลับใจเสียใหม่เถิดพระคุณเจ้าทั้งหลาย
นมัสการครับพระอาจารย์ ขอบคุณมากครับ ตามมาหลายลิปแล้วครับ เป็นประโยชน์มากๆครับ
ทุกที่ได้ฟังทุกคลิป....จะรู้สึกดีแบบน่าประหลาด แม้ผมจะ33ปี แต่ยังไม่ได้บวชเลยด้วยกิจทางโลก ใจอยากจะบวชเหมือนกันครับ ดูคลิปหลายคลิปแล้ว ในระยะเวลา3 เดือน วันนี้ไตร่ตรองดีแล้ว ว่าอยากฟังธรรมเลยกดติดตาม
เช่นกันเลยครับ
ท่านพูดว่าไม่รับตังไม่รับของแต่มีคนบำรุงช่วยเหลือ ผมว่ามันแย้งกับความเป็นจริงนะ มันต้องดูด้วยว่าพระื่เขาไม่รับเงินแล้วอยู่ได้ต้องดูสถานที่การเป็นอยู่อีกหลายอย่างด้วย ไม่รับเงินแล้วอยู่ได้ผมว่ามันแย้งกับความจริง เพราะแต่ละวัดความเป็นอยู่มันต่างกันวัดทั้งประเทศมันไม่เหมือนกัน. ท่านพูดว่าไม่รับเงินแล้วมีโยมช่วยเหลือผมว่าไม่จริงนะขนาดเงินค่าข้าว40บาททางร้านยังเก็บพระเลย ไม่ให้พระรับเงินเลยแล้วอยู่ได้ไม่จริง
กราบอนุโมทนาสาธุครับ ที่ได้เผยแพร่พระธรรมวินัยของสมเด็จพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
อนุโมทนาสาธุครับท่านภันเต
ท่านพูดถูก คณะกรรมการวัดหรือญาติโยมก็ดูแลได้ไม่ใช่เงินก่อสร้างถือคนเดียว
อนุโมทนาครับ เห็นพระจิตสำนึกดีแล้วชื่นใจ
ที่พระพุทธเจ้าไม่ให้พระรับเงิน ผมเดาว่า พระรับไม่ได้ แต่ไวยาวัจกรรับได้ จะได้ให้โยมช่วยตรวจสอบพระ ไม่ให้พระใช้นอกลู่นอกทาง พระจะได้ไม่วุ่นวายเรื่องเงินทอง เอาเวลาไปทำอย่างอื่น
สอบถามท่านมหาถึงเรื่องนี้เป็นข้อข้องใจ
1.กรณีพระป่วยแต่ไม่เงินไปรักษาตัวในการรักษาใช้เงินมาไม่มีพ่อแม่ลูกหลานหรือไวยาวัจกรดูแลเรื่องพวกนี้จะมีทางออกยังไง
2.การที่มีไวยวัจกรดูแลเรื่องเงินแล้วพระไปบอกสิ่งที่ต้องการให้หาหรือนำมา(นอกเหนือจากปัจจัย4)มันยังเป็นความอยากอยู่หรือไม่ มันยังเป็นกิเลสอยู่ไหม
3.พระสงฆ์ความอยู่แบบสมถะไม่ยินดีกับอะไร หรือต้องการอะไร สิ่งของในวัดที่ซื้อที่สร้างควรจะเป็นญาติโยมที่ต้องมองเห็นว่าควรมีแก่พระหรือไม่แล้วจัดหามา พระภิกษุควรจะนิ่งเรียบมีอะไรก็ใช้ไม่มีก็ไม่ใช้ หรือแค่แนะนำสิ่งที่ถูกที่ควรเท่านั้น
ปล.กรณีไวยวัจกร ผมยังคิดว่าผู้รับสนองกิเลสจากพระอยู่ เพราะเหมือนสนองความต้องการโดยใช้เงินอยู่ในเรื่องของเงินไม่รวมเรื่องอื่นๆครับ
ขอความรู้เพื่อปฏิบัติให้ถูกครับ
1.โรงพยาบาลสงฆ์ ตึกสงฆ์อาพาธ หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ติดต่อหน่วยบริการสาธารณสุขใกล้วัด (ยินดีในยาตามมีตามได้)
2.ไวยาวัจกรที่ฉลาดจะช่วยประคับประคองพระให้อยู่ในธรรมวินัย
3.พระควรยินดีในกุศล...ในอธิศีล...
ปล.ไวยาวัจกรต้องฉลาด ท่านเป็นได้
ในพระไตรปิฎก พระพุทธองค์ได้กล่าวไว้ว่า อาบัติเล็กๆน้อยในอนาคตสามารถยกเว้นได้เพื่อให้พระภิกษุสามารถดำรงชีพอยู่ได้ตามสถานการณ์ ตามหลักทางสายกลางของพระพุทธองค์คะ
ตอนผมบวชผมใช้วิธีติด QR Code พร้อมเพย์ไว้ที่ฝาบาตเลยครับเวลาบินทบาตรโยมเห็นก็สแกนใส่บาตรก็มี เวลาซื้อของก็สแกนพร้อมเพย์, ทรูมันนี่ และมองว่าเงินในบัญชีเป็นเลขเพื่อใช้แลกปัจจัย ไม่ใช่เงินทอง ก็น่าจะเลี้ยงบาลีได้อยู่ ก็มันไม่ใช่เงิน มันคือตัวเลขที่ญาติโยมให้ไว้แลกปัจจัยที่จำเป็น 555+
มันยุ่งยากทางจิต ความจิงจับได้ตามสมควร ที่ห้ามคือการสะสมแค่นั้นเอง จับได้แต่ไม่สงเคราะห์ด้วยกิเลสคับ ท่านมหา พูดถูกแต่ไม่รอบด้าน
ท่านชี้แจงไว้รอบด้านแล้วครับ เงิน คือ สิ่งที่ไม่ควรยุ่งเกี่ยวสำหรับพระท่านจึงพูดถึงไวยาวจกรไงครับ แค่พึงรับก็เป็นกิเลสถ้าจะตัดกิเลสก็ไม่พึงรับ แล้วพระควรตัดกิเลสไหมครับ แล้วโยมควรมอบกิเลสไหมครับ
ไม่มีเงินเติมเนตไลว์สดนะครับท่าน
อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุ
เห็นด้วยกับพระอาจารย์ ถ้าปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบตามหลักคำสอนของพระพุทธองค์ อุบาสก อุบาสิกาย่อมเสื่อมใส ศรัทธานับถือ โยมย่อมถวายอำนวยความสะดวกสบายอยู่แล้ว
ถ้าอยู่แต่วัดและไม่เดินทางไกลไม่รับเงินได้ แต่ถ้าออกนอกวัดเดินทางไกลรถไม่ฟรีร้านอาหารไม่ฟรี
สาธุๆๆคร้บผมใด้ความรู้มากเลยคร้บ
สังเกตสีจีวรเป็นสีสายวัดป่าหรือธรรมยุตจะเคร่งครัดไม่ถือเงิน เยี่ยมครับหลวงพี่ แต่แว่นตา เหล็กดัดฟัน มือถือ ค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำ ค่าไฟ ใครจ่ายให้ครับ
น่าจะโยมจ่ายให้ครับ ใช้ปัญญาเอาครับทำไวก็ได้ไม่ให้ผิดวินัย และไม่เบียดเบียนใคร
เรื่องเงินให้โยมดูแลยิ่งน่าเป็นห่วงแต่ถ้าจะให้พระดูแลก็จะหาว่าจับเงินอีก..ผมว่าควรออกกฎหมายมาเลยให้มันถูกต้องที่สุดว่าให้ฟรีรักษาฟรี(โรงบาลสงฆ์ก็มีแต่คงไม่ทั่วถึง..ละมั้ง)และถ้าให้ไปส่งไกลๆก็ให้มีบิลไว้อ้างเจ้าหน้าที่เพื่อให้เจ้าของรถไปเบิกเอาคือทุกอย่างทั้งอาหารและสิ่งต่างๆที่จำเป็นกับพระต้องมีบิล...แต่ก็อย่างว่าหละครับถ้าทำแบบผมว่าช่องทางที่มิจฉาชีพจะเข้ามาบวชคงเยอะน่าดู...สรุปก็ตัวบุคคลเท่านั้นแหละครับ...เฮ้ออออออออออ
โยมทำเองครับ ท่านต้องการอะไรก็ไปบอกโยมปวารณา
นมัสการหลวงพี่ครับ
พอฟังได้เต็มหูเต็มใจครับหลวงพี่ กล่าวแบบถูกต้องไม่ใช่ตามใจกล่าวมั่วๆเหมือนรูปอื่น
ถ้าหากพระทุกรูปที่บวชเข้ามายึดตามจุดประสงค์หลักของการบวชที่พระศาสดากำหนดและญาติโยมมีความเข้าใจในวินัยบัญญัติในส่วนที่พระกับโยมต้อง้กี่ยวข้องกันในเรื่องต่าง ๆก็สามารถทำได้,และพระศาสนาก็จะดำรงอยู่ได้นาน.
กราบสาธุธรรมเจ้าค่ะ
มหาประเทศ๔กัปปิยะและอกัปปิยะ พิจารณาดู ยกตัวอย่างกัปปิยะ อาหารสิ่งสมควรในชีวิตแต่เมื่อผิดเวลากลายเป็นไม่ควร และ อกัปปิยะ เงินสิ่งไม่สมควรแต่เมื่อเกิดเหตุเข้ารักษาร่ายกายเข้าโรงบาลงูกัด หรึอมีเหตุเดินทางจำเป็นหนีภัยที่เกิดขึ้นขณะเงินกลายเป็นสมควร..การวิจารพระไม่ใช่หน้าที่ใคร ..ธรรมและวินัย.ตั้งอยู่“ตรงนี้พระเข้ารู้ดี“กิเลสรู้เฉพาะตนเอง“ตัวใครใครรู้“
แล้วท่านทำไมไม่ดูภาพรวมในบริบทอื่นๆที่พระอาจารย์หลายๆรูปมาอธิบายดูบ้างละ ท่านก็เป็นแค่พระนักคิดรูปหนึ่งเท่านั้น เรียนจบมาแต่ไม่สามารถวิเคราะห์พระธรรมและพระวินัยให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของพระพุทธองค์ได้อย่างแท้จริง..กลับไปศึกษามาใหม่เถอะครับ
ปุจฉาครับ ท่านมหา
1.พระที่นำเครื่องนุ่งห่มไตรจีวร ไปขาย อาบัติข้อไหน
2. สังฆทาน ไตรจีวรเวียนวน หยอดตู้ตามศรัทธาที่กระทำกันอยู่ตามวัดต่างๆ สามารถทำได้ไหม.
1. พระซื้อขายของ ก็เป็นนิสสัคคีย์ปาจิตตีย์ด้วย รูปิยสังโวหารสิกขาบท
2. ต้องดูรายละเอียดเป็นกรณีๆ ไป เช่น ใครเป็นคนตั้งตู้, ใครเป็นคนเอาเงินออกมา
ไล่จับผิดอาบัติพระ แต่ไม่ดูดีชั่วในตัวเอง พระยุค 0.4ฆราวาสยุค4.0 ยังมาเถียงกันเรื่องจะจับเงิน ทั้งที่ๆเรื่องนี้คนยุคก่อนเขาเถียงกันมาก่อนเเล้ว
สาธุสาธุสาธุ พระธรรมก็ดีวินัยก็ดีที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ถูกต้องตรงจริงเป็นอะกาลิโกไม่จำกัดการเวลา ,
แล้วใคร่เขาจ้างมาบวชละครับ ถึงจะต้องถอนทุน ไม่เขาใจแก่นแท้ของการบวชพระตามหลักพระพุทธศาสนา..ชอบครับท่านมหา ถูกของท่าน
ท่านพูดถูกครับ ถูกต้องเลยครับ
ผมเป็นลูกศิษวัดป่าใช้ยาที่ได้ทำขึ้นและยาสมุนไพรตากแห้งแลกเปลี่ยนแทนเงิน ใช่ครับพระไม่รับเงินมีอยู่มาก แต่ที่รับเงินท่านยังไม่ละทางโลกเช่นโทรศัพไอโฟนโน๊ตบุคค่าเน็ตเอ่ยอ้างไปหาหมอรักษาโรงบาลสงมี เปรียบเทียบครับ
พระพุทธเจ้าเปรียบเงินทอง เหมือนดั่งอสรพิษสำหรับภิกษุ ซึ่งปรากฏในคำภีร์ อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท พาลวรรคที่ 5 ความว่า.....
เช้าวันหนึ่งในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าได้เสด็จออกบิณฑบาตรโปรดสัตว์ ไปพร้อมด้วยพระอานนท์ พระองค์เสด็จผ่านชาวนาทีกำลังไถนาอยู่ ชาวนาพักการไถนาแล้วถวายบังคม
พระพุทธองค์ทอดพระเนตรเห็นถุงเงิน ตกอยู่ไม่ไกลจากชาวนาจึงตรัสกับพระอานนท์ว่า “อานนท์ นั่นอสรพิษ เธอเห็นไหม”
พระอานนท์ ตอบ "เห็น พระเจ้าข้า อสรพิษร้าย"
ชาวนาได้ยินพระพุทธดำรัส ที่ตรัสกับพระอานนท์ คิดว่ามีงูอยู่แถวนี้ ต้องฆ่าให้ได้ ทิ้งไว้จะทำอันตรายตน ว่าแล้วเราก็ถือปฏักไป สอดส่ายตามองหางู แต่ไม่เห็นมีงู ดูไป เห็นแต่ถุงเงินมากมาย เขาดีใจ รีบโกยดินกลบไว้ แล้วไถนาต่อไป
ถุงเงินนั้น ที่แท้โจรปล้นมาแล้วทำตกไว้ เจ้าของเงินเสียดาย เกณฑ์บ่าวไพร่ออกติดตาม สะกดรอยตามรอยเท้าชาวนา พาไปจนพบถุงเงิน จึดคิดว่าชาวนานี่แหละคือเจ้าโจรตัวดี จึงรีบจับไปส่งเจ้าหน้าที่ ทำตามกฎหมายเคร่งครัด ชี้โทษชัดให้ประหารชีวิต
ก่อนจะนำไปประหาร ชาวนาพร่ำพรรณาอยู่หลายหนว่า
“อานนท์ เธอเห็นอสรพิษไหม…เห็นพระเจ้าข้า”
“อานนท์ เธอเห็นอสรพิษไหม…เห็นพระเจ้าข้า”
เจ้าหน้าที่มีความประหลาดใจไต่ถาม “ทำไมเจ้าออกนามพุทธอนุชา อสรพิษนั่นล่ะ อยู่ไหน”
ชาวนาเล่าแจ้งแถลงไข อ้างพระพุทธเจ้าให้เป็นพยาน เจ้าหน้าที่จึงงดการประหารไว้ พาชาวนาไปเฝ้าพระราชา
พระราชาจึงไปกราบทูลพระพุทธองค์ว่าชาวนาอ้างพระพุทธองค์เป็นพยาน พระพุทธองค์จึงทรงเล่าเรื่องราวให้ฟัง ชาวนาจึงพ้นจากความตายโดยอาศัยพระกรุณา
สาธุอนุโมทนาบุญครับ
หมดยุคสอนโยมแล้ว
ทุกวันนี้โยมสอนพระแทบจะทุกอาราม
พูดมีทางออกได้แค่นี้ พูดให้เค้าฟังสั้นๆก็ได้ว่าไปอ่านดูเอาเองก็ได้ ท่านก็อยู่กุฎิห้องสะบายทำไมไม่อยู่ใต้โคนไม้ล่ะ พระที่จับเงินเค้าก็อยู่ได้ไม่ทุกข์ไม่สุขอะไร
พระพุทธเจ้าสอนให้อด มิใช่สอนให้อิ่ม / เป็นพระศิษย์พระพุทธเจ้า เวลาแสดงความคิดเห็นต้องมีเหตุผลหลักการและนิ่งมากกว่าเด็กมัธยมนะครับพระอาจารย์
ถ้ามันลำบากขนาดนั้นก็สึกออกไปเลย
ผมว่าโยมที่เป็นชาวพุทธพอเห็นพระไปยืนอยู่หน้าร้านค้าก็ต้องรีบเข้ามาถามท่านเลยว่าท่านต้องการอะไร โยมขอปวารณากับท่าน
ถ้าสิ่งของที่ท่านต้องการมันเหมาะสมและมีความจำเป็นสำหรับท่าน ก็ถวายท่านเลยไม่ต้องคิดเงินกับพระ
ไม่ใช่มัวแต่จะจ้องจับผิด เอากล้องโทรศัพท์มาถ่าย แล้วเอาไปลงเฟสด่ากันให้สนุกปาก
ชาวพุทธที่ดีเขาไม่ทำกันอย่างนี้หรอก โดยเฉพาะคนในเมืองมักจะติดนิสัยตัวใครตัวมัน ไม่ค่อยมีน้ำใจ ห่างไกลวัด (ขออภัยด้วยครับถ้าล่วงเกินใคร แต่ที่พูดไปนี้มันเป็นความจริง!! )
จริงค่ะท่าน พระงาม วัดก็งาม โยมก็งาม ถึงจะเป็นที่ลำบากยากแค้น โยมก็ตั้งใจมาทำบุญ คนที่มาแถก็มีแต่คนที่ร่วมโกงกินกับเงินวัดทั้งนั้น เป็นคนเลวทั้งสิ้น
พระที่ปฎิบัติดี ถ้าท่านมีบุญบารมีเต็ม ที่สะสมมากาลก่อน ต่อให้มีเงินหรือวัตถุมากมายมากองอยู่ตรงหน้า ยังไงท่านก็บรรลุธรรมครับ
ท่านอธิบายเข้าใจดีมาก
สาธุค่ะ
สาธุ ครับ
ท่านอาจจะดัดฟันตอนก่อนบวชก็ได้นะ ท่านก็พูดตามพระธรรมวินัยนิ ดีออกขยายคำพระศาสดาออกไปตามพระธรรมวินัยบัญญัติ สิ่งที่พระศาสดาให้กระทำก็ทำ สิ่งที่พระศาสดาไม่ให้กระทำก็ไม่ต้องทำ ไม่มีข้อเเม้ใดๆทั้งสิ้น ถ้าใครบวชมาเเล้วทำไม่ได้ กลัวความลำบาก ไม่ว่าพระบ้านนอก พระเมือง รักษาธรรมวินัยไม่ได้หรือทำๆเเบบฆารวาส ก่อนอย่ามาบวชเลย ออกไปเป็นฆาวาสจะสะดวกกว่า เป็นคนพุทธจริง ต้องศึกษาด้วย เท็จจริงเป็นยังไงในพระพุทธศาสนา จะได้ไม่ลงอบายเวลาเเสดงความคิดเห็น...
สาธุค่ะๆ
รับไปเถอะอยู่ที่เจตนาจะไปใช้สมัยนี้อยู่ไม่เหมือนเมื่อก่อนไม่มีอะไรฟรีหมดทุกอย่าง(ปลาตัวไหนเน่าก็จับตัวนั้นออกอย่าไปปกป้องกันก็พอแล้ว)
พระรับเงินมีเหตุผลมากมายที่จำเป็นจะต้องรับ เพราะทุกอย่างไม่ได้ ได้มาฟรีๆทุกอย่างต้องใช้เงินซื้อหามาทั้งนั้น ญาติโยมที่ถวายเงินให้ก็อยากได้บุญส่วนพระที่รับเงินมาก็อยากได้ไว้ใช้จ่าย มันก็สมอยากด้วยกันทั้ง2ฝ่าย
พระภิกษุสงฆ์ มีกฎหมายคุ้มครองอยู่3ฉบับ 1.พรบ.คณะสงฆ์2505 2.พุทธบัญญัติ 3.กฏหมายบ้านเมือง ถ้ามันยากทำไม่ได้ก็ลาสิกขา ไปประกอบอาชีพอื่นเสีย จะได้ไม่เป็นภาระแก่สงฆ์ด้วยกัน
สาธุ สาธุ สาธุ
ผู้ที่รับเงินทองของมีค่าต่างๆ ผมว่าท่านก็เป็นผู้ควรเคารพอยู่ดีๆ ท่านมีทานก็สร้างแต่สาธารณะ ประโยชน์ กุฏี วิหาร โรงเรียน โรงพยาบาล รถเก็บขนขยะ เห็นมากับตาจับมากับมือ ที่ควรเห็นใจพระในเมือง ดูแลสามเณรเป็น 10-20 รูป เป็นทั้งพ่อทั้งแม่ จ่ายค่าน้ำค่าไฟ เหตุใดท่านถึงทำเช่นนั้น เพราะอยากสืบทายาส หากไม่มีสามเรณเข้าบวชแล้ว คงจะมีพระผู้เฒ่าเผ้าวัด ส่วนวัยรุ่นคงจะหลไปตามกระแสสังคม พอแก่ตัวถึงจะนึกถึงความสุขใด้หนอ ที่จะมากว่าคาวสุขมนุษย์ ก็คือ สวรรค์ ก็จะมาบวชบำเพ็ญ จะมีใครแตกฉานและสืบทอดพระศาสนาต่อไป.
กราบอนุโมทนาสาธุ
สาธุ เห็นด้วยครับ
ความรู้..เอาอะไรมาวัด..แก่แต่ไม่ศึกษาแล้วจะเอาวิชามาจากใหน...คนยุคใหม่รู้ให้จริงสิ่งที่เรียน....
เรื่องรับเงินนี่ เหมือนมีพระวัดใหญ่ท่านท่านนึง ที่ชอบเทศน์ดัดเสียงนิ่มนวล อัพคลิบหาข้ออ้างรับเงิน และโจมตีท่านมหาภาคภูมิว่าเป็น กลุ่มวินัยนิยม ไม่เข้าใจสมัยใหม่ ฟังๆดูแล้วแกอยากหาเงินใช้อ่ะนะ แต่พูดให้ตัวเองดูดีแล้วโจมตีพระที่ทำตามวินัยบัญญัติเรื่องรับเงินว่า ไม่เข้าใจบริบทสังคม
พระมัค่าทุกอย่างเหมีอนกันค่าน้ำค่ไฟค่ารถใหัมาดูที่บ้านนอกญาติโยมยากจนใครจะมาจ่ายใหัละท่านอยากใหัมาเหนก่อนจะพูดในจุดที่ ท่านอยู่สบาย2พันปีที่แล้วกับพ.ศ.นี้มันคนละอย่นะที่ท่านมาพูดนะทำไดัรึยังนะ
สาธุ
ทำไมพูดอยู่ข้อเดียวครับ พูดถึงศีลข้ออื่นบ้าง เอาให้หมดทุกข้อ ทำไม่ได้ก็สึกให้หมด เท่าที่รู้ พระมหานิกายรับเงินสด พระธรรมยุติ รับเช็ค (ใบปวารณา)
Alex Sanders ธรรมยุติบางรูปก้อซองครับ
สมัยพระพุทธเจ้าท่านสึกพระที่จับเงินเลยรึ
ท่านตั้งใจใว้ตั้งแต่ยังไม่ใด้บวชเณรว่าถ้าบวชแล้วจะไรับเงิน
จนใด้บวชเณรตั้งแต่ปีสี่แปดแล้วใด้ศึกษาวินัยมาก่วาบรรษาเพี่อจะมาสั่งสอนพระเณรให้ใด้รู้วินัยแล้วคุณใด้เรียนบ้างมัยวินัยพระถึงมาว่าท่าน
ฟังคลิปนี้แล้วอยากสึกเลยครับเพราะบวชมา15พรรษาแล้ว. แต่ไม่เคยรักษาศีลข้อนี้ได้เลย รับเงินทองมาใช้ ยากครับที่จะปฏิบัติข้อนี้ได้ เพราะไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องใช้เงินจับเวินทั้งนั้น ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ ค่ารถไปหมอ ค่ายารักษาโรค ผมว่าผมทำไม่ได้ครับ อยากสึกเพราะอยู่ไปก็ไม่สามารถบรรลุธรรมได้ติดสิขายทข้อนี้แหละ
มีใจคิดไว้ก็ดีแล้วครับ ในอนาคต หากปัจจัยพร้อมอาจจะสามารถรักษาได้ก็ได้ อย่างน้อยก็ควรชำระศีลให้บริสุทธิ์ก่อนมรณภาพ
สาธุท่านกล่าวถูกต้องแล้ว ถวายต้องผ่านไวยาวัจกร ที่พระองค์นั้นไว้ใจและชี้เป็นตัวแทน แต่รับเงินทองโดยตรงไม่ได้
คนที่ใช้ความอยากเพื่อให้ประโยชน์เข้าหาตัวครับท่านพระอาจารย์ สาธุครับ