ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
สาธุสาธุสาธุครับ
ชัดเจนครับ กราบ อนุโมทนา
ที่นั่งบนรถยนต์-บนเครื่องบินจะจัดเป็นที่นั่งสูง-ใหญ่ไหม?ครับ(อุจจาสยนมหาสยนา)
1.ที่ห้ามเพราะเป็นการทรมานสัตว์..2.รองเท้า...เพราะไม่ให้มีการสะสม3.ห้ามขับ.ขี่.เพราะ ถ้าชนคนตาย.จะเป็น.ปาราชิก......ผมเข้าใจแบบนี้...
กระผมก็ จบปริยัติธรรม เปรียญธรรม ประโยค ๓ ผมเรียนท่านพระมหาที่จัดสัมมนาในเชิงพระธรรมวินัย ถ้าการตั้งกระทู้ถามว่าในเมื่อสมณ อาศัยการจาริกไปตามที่ได้รับกิจนิมนต์แล้วพระเถระทีสารถี ขับยานไปให้ถือว่าผิดไหม ถ้ามาออกกฎที่ห้ามพระภิกษุขับรถ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องห้ามนั่งด้วย อย่าเห็นว่า การที่เดินทางด้วยยานพาหนะก็ผิดพระธรรมวินัยหมดก็ไม่ให้นั่งด้วยก็แล้วกัน ห้ามพระเถระผู้ใหญ่นั่งรถด้วย ให้เดินไปตามกิจนิมนต์ด้วยถึงควรยิ่ง
ชัดเจนดีครับ อนุโมทนาครับอาจาย์
สาธุ ติดตาม ฟังธรรม ข้อ ธรรมมะจาก คณะพระวิทยากร เป็นความรู้ ทุกยูทูป ในฐานะที่ไม่ใช่พระ เป็นปุถุชน แต่ เป็นปุถุชนที่ชอบสดับ สาธุ
ดีชั่วมันอยู่ที่ใจคุณท่านทั้งหลาย
พระแถวบ้านผมมีอยู่รูปนึงสวดอะไรก็ไม่ได้ทำตัวเป็นจอมขมังเวทย์สวดได้อย่างเดียวคือนะโม ชอบโกหกคนอื่นที่มาบวชใหม่ว่าตัวเองบวชได้ 30 กว่าพรรษาที่ไหนได้พึ่งบวชได้แค่พรรษาเดียวพระรูปนี้คนแถวบ้านผมไม่ใส่บาตรให้เลย วัดอยู่อีกที่ขับรถไปบิณฑบาตอยู่อีกที่ กลับมาอีกทีก็นู่น 4-5 โมงเย็นไม่เคยลงศาลากับพระรูปอื่นๆสักทีแบบนี้อาบัติไหมครับ
ฟังดูๆแล้วพระที่ถาม ต้องการเอาชนะ เอาเหตุผลเข้าตัวเอง และฟังดูเหมือนจะอวดความรู้ตัวเอง ว่าฉันก็รู้นะ
หลักธรรมในโลกแต่ยุคต้องปรับปรุงไปตามโลกาวิวัฒน์นั้นตามความเหมาะสมในเจตนานั้นถึงความถูกต้องและชัดเจนและเหมาะสมในหลักธรรมอย่างถูกต้องในแต่ยุคสมัยตากห่างใช่ใหมขอรับท่านพระคุณเจ้ารับเช่นขับเองนี้ไม่สมควรอย่างยิ่งแล้วครับตามเจตนาหลักธรรมของพระพุทธองค์เป็นเช่นนั้นกระเข้าใจถูกต้องหรือไม่ขอรับท่านพระคุณเจ้าทั้งหลายขอรับสัตว์เป็นไปตามสมควรในเหตุแล้วแต่กรณีเหตุเจตนาที่สมควรจริงๆเท่านั้นโดยแท้ในสัจธรรมที่เป็นจริงในเจตนาแห่งจิตที่เราสัมผัสใด้เองด้วยตัวเราที่รู้แก่วาระจิตที่เรารู้ ในเจตนาที่ถูกต้องในหลักธรรมนั้นใช่หรือไม่ขอรับท่านพระคุณเจ้าขอรับเดินเพื่อธุดงค์นั้นเป็นหลักธรรมที่เป็นสัจธรรมที่แท้จริงแก่ควรการปฏิบัติยิ่งแล้วปฏิบัติใด้มากที่สุดควรปฏิบัติยิ่งแล้วเพื่อความเจริญในหลักธรรมที่แท้จริงเพื่อประโยชน์สุขในทางธรรมและทางโลกใด้อย่างแท้จริงเหตุในเจตนาอนุโลมในหลักธรรมข้อนี้คือเหตุอยู่ที่จิตในข้ออนุโลมข้อนั้นๆต่างหากเช่นมีจำเป็นมากแค่ไหนในสถานที่นั้น,เวลานั้นมีความสำคัญในชีวิตมนุษย์และสัตว์โลกนั้นมากน้อยเพียงใดใช่หรือไม่ขอรับท่านพระคุณเจ้าทั้งหลายขอรับโปรดเมตตทานชี้แจงทางสว่างแจ้งในข้อหลักธรรมที่แท้จริงแก่เกล้ากระผมผู้น้อยด้อยซึ่งปัญญาด้วยเถิดขอรับแล้วแต่จะมีเมตตทานแก่เกล้ากระผมเห็นตามสมควรเุถิดขอรับท่านพระคุณเจ้าทั้งหลายขอรับขออนุโมทนาบุญนี้กับท่านพระคุณเจ้าทั้งหลายด้วยเถิดขอรับขออโหสิกรรมแก่เกล้ากระผมด้วยเถิดขอรับที่ใด้ล่วงเกินท่านพระคุณเจ้าทั้งหลายด้วยกาย,วาจา,ใจก็ดีโดยมีเจตนาหรือไม่เจตนาแห่งกายและจิตนี้มนุษย์ตอนนี้ขอรับโปรดอโสิกรรมในบาปกรรมนี้ด้วยเถิดขอรับท่านพระคุณเจ้าที่บรรลุในหลักธรรมที่เจริญปัญญาด้วยธรรมแห่งจิตที่แท้จริงขอรับอนุโมทนา สาธุขอรับท่านพระคุณเจ้าครูบาร์อาจารย์ทุกท่านขอรับสาธุในธรรมข้อรับ
อะไรบวชมิได้บวชด้วยความเบื่อหน่าย.เพื่ิอ
คำถามนี้ช้าไป๕ปี..ซื้อรถเป็นชื่อของตัวเองผ่อนค่างวดเองอาบัติหรือไม่..ใช้ชื่อผู้อื่นซื้อไว้ใช้เองผ่อนด้วยเงินตัวเองอาบัติหรือไม่ขับไปเพลิดเพลินไปหรือวั นไหนไม่ได้ขับไปไหนมาไหนรู้สึกหงุดหงิดอาการแบบนี้....
อ้าวไม่งั้นถ้าไปนิมนต์พระจากวัดมาสวดที่บ้านเนี่ยคือห้ามพระนั่งรถเหรอ ยังไง
ในฐานะชาวบ้าน พุทธศาสนิกชน เห็นว่า สิกขาบทเรื่อง "พระนั่งยาน" นี้ไม่ได้ก่อให้เกิดความเศร้าหมองแก่จิตใจ พุทธศาสนิกชนอะไรเลย ผิดไม่ผิดก็แล้วแต่พระคุณเจ้าทั้งหลาย จะมีมติอย่างไร ชาวบ้านก็ยอมรับได้ทั้งนั้นขอรับ (สรุปคือ ตามใจพระคุณเจ้าเถ่อะว่า จะปฎิบัติกันอย่างไร)
สังเกตสิ่งรอบข้่างที่เกิดขึ้นรอบตัวเราที่เกิดขึ้นสถานที่ต่างกับสิ่งต่างในประเทศต่างบนโลกใบนี้สามารถบ่งบอกอะไรใด้บ้างในทางโลกและทางธรรมที่อาจจะสามารถเป็นจริงในองค์ความรู้ตางๆที่เกิดขึ้นด้วยสติปัญญาหรือภาวะรู้ด้วยจิตณาณบุคคลธรรมดาซึ่งด้วยสาวกในอตีดมาเกิดนั้นมีจริงเท็จแท้ประการใดโปรดชี้แจงในหลักธรรมข้อเหล่านี้ด้วยเถิดว่าพระพุทธองค์ท่านและเหล่าสาวกท่านพระคุณเจ้าครูบาร์อาจารย์ทุกท่านที่บรรลุด้วยธรรมเป็นพระโสดาบันหรือระดับสูงกว่านี้มีส่วนในการเมตตาทานในธรรมเหตุด้วยณานนั้นให้บุคคลธรรมดาใด้มีดวงตาแห่งธรรมนั้นในข้อนั้นตามระดับขึ้นต่างไปตามเหตุแห่งจิตในเมตตาทานเมตตาธรรมแก่เขามนุษย์ผู้นั้นใด้หรือไม่ขอรับเหตุที่ว่าบังเอิญบ่อยเป็นจริงบ่อยเห็นว่าเกิดขึ้นจริงบ่อยในรูปนิมิตรในลักษณ์กายสัมผัสด้วยตาและสัมผัสในรูปเสียงที่ไพเรอะในเมตตาธรรมที่ทรงพระเมตตาทานแก่บุคคลธรรมดาในตัวบุคคลมนุษย์ในร่างกายซึ่งสมมุติขึ้นด้วยวาระบวชแห่งจิตมีความเป็นไปได้เพียงไหนขอรับโปรดเมตตาธรรมเพื่อเป็นเมตตทานแก่มนุษย์โดยส่วนรวมที่อาศัยบนโลกนี้ใด้รู้แจ้งสว่างแก่ใจมนษย์บนโลกนี้ทุกคนเพื่อเป็นธรรมทานแก่สัตว์โลกและเหล่าสาวกของพระพุทธองค์ท่านที่อ่อนในหลักธรรมน้อยซึ่งสมองและปัญญาที่ชาญฉลาดในดวงจิตแห่งธรรมของท่านพระคุณเจ้าทั้งหลายด้วยเถิดขอรับท่านขออนุโมทนาในบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ด้วยเถิดขอรับสาธุสาธุสาธุขอรับท่านพระคุณเจ้าครูบาร์อาจารย์ทุกท่านขอรับ
ผู้ถาม เคร่งมากเลย ปัจจุบัน ท่านอยู่โรงพยาบาล หรือ วัด
ทำไมต้องไปด้วยร่องเท้าเท่านั้น (ผู้ถามกว่าไว้) ก็ต้องตอบว่า สมัยพุทธกาลยังไม่มียานยนต์ พระพุทธองค์ท่านเลยไม่ได้บัญญัติไว้ สมัยนี้มีรถขึ้นมา ก็ต้องวินิจเหมือนเรือน่าจะถูกที่สุด ถ้าเรือได้ แสดงว่ารถยนต์ก็ต้องได้ (ขอเรียนถามแล้ว รถยนต์ที่มีสตรีขับ พระสามารถนั่งโดยสารไปได้ไหม ?)
หลวงพ่อที่ถาม เดินมาหรือครับ ขอให้ท่านปฏิบัติให้ได้นะสาธุๆ
หลวงพ่อท่านอาจจะตีความแตกกว่าก็ได้เล่มที่หน้าที่ท่านยังบอกเลยอย่าคิดมากท่านอ่านตามหนังสือมาพูดไง ไม่มีพระที่ไหนทำได้ดอกแม้แต่คณะวิทยากรก็ทำไม่ได้ดอก นี้ไงมันเป็นที่มากูปฏิบัติมึงไม่ปฏิบัติไงครับ...
ท่านน่าจะขับรถมา
ท่านก็ถามในเรื่องที่ท่านสงสัย..ถ้าท่านรู้แจ้งคงไม่มาสัมนา...สาธุ
ถวนกาม
ผู้ออกบวชโดยความทีต้องการที่จะพ้นทุกข์จริงจริงแล้ว.เรื่องเหล่านี้จะไม่มีทางที่จะทำให้ท่านเดือนร้อนได้มิได้ต่างกับเงินและทองเลย
สาธุ กราบขออนุโมทนาด้วยใจคะ
เห็นพระนั่งแทกซี่พอถึงที่ก็เอาซองหยิบธนบัตรมาจ่ายเงินแบบนี้ได้หรือ ควรจะให้โยมจัดการให้จะเหมาะกว่า พระอาจจะต้องไปเฉพาะกิจนิมนต์ เจ็บป่วยไปรพ ไปแสดงธรรมมีนิมนต์ อันนี้ถึงจะเหมาะ
รถยนต์ในปัจจุบัน. ไม่มีในบัญญัติไม่มีสัตว์ลากไปก็ควรอนุโลมเข้าสงเคราะห์ได้. โดยแบบเป็นผู้โดยสาร ไม่ใช่ขับเอง
สาธุๆ
#กรณีพระขับรถ หลังประชุมได้ลองสอบถามกับ #พระอาจารย์กวิธชะ (ชาวยะไข่) ซึ่งเป็นผู้ชำนาญพระวินัยปิฎกจากประเทศพม่า ท่านก็เห็นว่า หากพระขับรถในเขตหมู่บ้าน ก็จะมีอาบัติทุกกฏด้วยสุสังวุตสิกขาบทในเสขิยวัตรได้ (ข้อไม่สำรวมกายไปในละแวกบ้าน) แต่ถ้าขับในวัดโดยมีเหตุจำเป็น (คือไม่ใช่ขับรถเล่น) ก็ไม่เห็นอาบัติ
@snowden 2018 สาธุครับ เป็นความเห็นที่ตรง
ผมขอถามกลับหน่อยนะครับ ตอนนี้ ถ้าท่านพูดว่าภิกษุสงฆ์ขับ นั่ง โดยสารในรถ แล้วพระเถระอย่านั่งด้วยนะ มีสมณศักดิ์ต้องเดินไปอย่างเดียว
@ร้อยเจ็ด พันห้า จรณะ 15 มีอะไรบ้างหนอ ? บอกข้าน่อยแน ข่อยเพีงมาศึกษาธรรมะ
@@williammail1965 หาใน google เลยครับ
พระไม่สมควรขับทุกๆกรณี แต่โดยสารได้
ถ้าอยู่กรุงเทพมีกิจนิมนเชียงใหม่ ต้องทำยังไงครับถ้านั่งรถไม่ได้
นั่งโดยสารได้ไม่ใช่สัตว์ลาก
ต้องมองไปที่เจตนาว่าทรงบัญญัติสิกขาบทขึ้นเพื่อประโยชน์อะไรเพื่อทำความลำบากแก่พระสงฆ์หรือเพื่อคุ้มครองพระสงฆ์และทำไมไม่ทรงบัญญัติทั้งหมดในคราวเดียวกลับต้องรอให้อธิกรณ์เกิดขึ้นแล้วจึงทรงบัญญัติห้ามเป็นกรณีไป..แต่จากการศึกษาสิกขาบทต่างๆตลอดจนเสขิยวัตรทั้งหมดแล้วเห็นว่านอกจากจะทรงบัญญัติเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยแห่งสงฆ์แล้วส่วนหนึ่งน่าจะเป็นการคุ้มครองพระสงฆ์จากคำติเตียนของชาวบ้านด้วยจึงอยากจะเห็นด้วยว่าจุดประสงค์ของการห้ามไม่ให้พระขึ้นรถหรือยานพาหนะใดๆแต่กลับทรงอนุญาตให้ขึ้นเรือได้นั้นเพราะพาหนะต่างๆในสมัยนั้นเทียมด้วยสัตว์ที่ทรงห้ามก็เพราะเหตุผลว่าเป็นการทรมานสัตว์หรือใครมีเหตุผลอะไรอื่นอีกหรือไมและผมเชื่อว่าพระพุทธองค์มีสายพระเนตรอันยาวไกลหรือจะเรียกว่าอนาคตังสญาณก็ได้จึงทรงแสดงมหาปเทส4หรือแม้แต่อนุญาตให้ถอนสิกขาบทเล็กน้อยได้ในเวลาที่ใกล้จะปรินิพพานและเชื่อว่าในยุคที่ผู้คนสัญจรกันเร็วราวกับจรวดพระพุทธองค์คงไม่ประสงค์ให้สาวกของพระองค์ตกยุคถึงกับเดินเท้าไปประชุมชาวพุทธนานาชาติเป็นแน่
เหตุ.จำเป็นก็คือขณะ ธรรมทูตผู้เป็นธรรมกถึกปรารถนาไปเผยแผ่ประกาศคำพระศาสดาเช่นต่างถิ่นต่างประเทศดังมีตัวอย่างเช่นคำขอของท่านพระเทวทัตและตรงตามการสนทนาธรรมกันว่าเหตุหลักคือการเบียดเบียนสิ่งมีชีวิตซึ่งกันและกัน(ธรรมทั้งหลายล้วนมาจากเหตุ,)อยู่ที่(เจตนา)เจตนาเป็นกรรม....ฯสาธุครับ
ท่านครับถ้าไม่มีคนขับมัน ก็ไปไม่ได้ แล้วพระเถระห้ามนั่งด้วยนะ พระขับรถต้องดูเหตุ ดูปัจจัยสิครับ ถ้าอย่างนั้นพระไม่ต้องรั่งกันเลยสิ
อยากรู้ว่าหลวงพ่อรูปที่ถามเรื่องยานนี่ กลับวัดยังไงครับ เดินหรือรถครับ😅
สมัยนั้น มัแต่เกวียน เสรี่ยง ที่คนหามครับในสมัยนี้ มีรถ คือพาหนะ มันไม่ใช่ ณานในพระพุทธเจ้ากล่าวนะครับ พระที่ไม่เคยไปไหนไกล ก็พุดได้สิครับ จะเดินด้วย รองเท้า อิอิ
ด้วยความเคารพครับ...คำว่า "ยาน"ในกินททสูตร กับ "ยาน"ตามพระวินัย เข้าใจว่าหลายท่านสับสน..กระผมมีความคิดอย่างนี้ว่า เมื่อจะถามเรื่องพระวินัย ก็ควรเอาคำว่า "ยาน"ในพระวินัย คือยานที่เทียมสัตว์ มาเป็นเกณฑ์ ...เหมือนที่มีบางคนสงสัยว่าสิกขาบทของพระมีกี่ข้อ ก็ควรค้นในพระวินัย แต่หากจะถือเอาสิกขาบท 150ข้อ จากพระสูตร ก็ได้คำตอบที่ไม่สอดคล้องกับพระวินัย ด้วยความเคารพครับ
สมัยก่อนคงไม่มีเครื่องยนตร์
ยุคสมัยโลกาภิวัฒน์ พระต้องขับรถได้เพื่อไปเผยแพร่พระศาสนา ไปโรงพยาบาล และพัฒนาวัด
พระวินัยห้ามการขับขี่ครับ
มหาปเทศ4 จบ
สาธุ สาธุ สาธุ บัณฑิตทั้งหลายชอบแล้วที่ช่วยกันใคร่ครวญอยู่ :---) ติดตามฟังต่อไป สาธุ
ทำไมพระวัดนี้ ไว้คิ้วได้ครับ
ตามพระวินัย พระไม่ต้องโกนคิ้วอยู่แล้วนะ มีแต่โกนผมโกนหนวด
อยากทราบถึงรถอัตโนมัติที่ไม่ใช้คนขับพระนั่งไปได้หรือป่าวครับ
สาธุพระนั่งรถนั่งเครื่องบินก็ไม่ผิดมันคนละสมัยสมัยพระพุทธะเจ้าไม่มีรถไม่เครื่องบินให้นั่งถนนยังหาไม่ได้สาพันปีแล้วยังหาวัดไม่เจอครับขอให้ศาสนาจงเจริญครับสาธุ
คำสอนพระพุทธเจ้า เผยแผล่ดี แต่อย่าสงสัยเลยจะดีมากเพราะเมื่อหมดคำสงสัยจะเห็นสิ่งที่สงสัยที่ซ่อยยุในพระธรรมคำสอนเอง คำตอบจะอยู่ตรงไม่สงสัย...อันใหนเป็นอาบัติ ก็ออกจากอาบัติ อาบัติพระนั่งรถแม้ผิด. ก็ผิดน้อยกว่าพระขับรถหรือมีรถเป็นของตนเองเพราะพระมีรถหรือขับรถถึงขั้นทำลายศาสนาทำไห้ศาสนาเศร้าหมองและอาจมีเหตุให้ถึงกับสึกออกจากความเป็นพระใด้คับ...ส่วนอาบัติพระนั่งรถ เป็นอาบัติเดี่ยวถึงที่หมายก็ไปขอปลงอาบัติกับพระที่หมายก็หลุด. ส่วนอาบัติพระขับรถหรือมีรถเป็นของตัวเองเป็นอาบัติต่อเนื่องไม่รุ้จบปลงหลุดยากถึงขั้นลงอบายภูมิ
ในกินททสูตร ถ้าดูบริบทแล้ว เทวดาทูลถามการให้วัตถุสิ่งของอะไรๆชื่อว่าให้อย่างนั้นอย่างนี้ เพื่อให้ผู้รับได้ถือเป็นเจ้าของในการใช้สอย. คือบริบทกล่าวถึงผู้ให้ ให้วัตถุสิ่งของ ผู้รับก็รับวัตถุสิ่งของเป็นของตนเพื่อบริโภคใช้สอย แต่พระองค์กล่าวสรุปโดยยอดคือให้ธรรมทาน...ดังนั้น ยาน ในพระสูตรนี้หมายถึงยานที่ภิกษุจะถือเป็นของส่วนบุคคลได้คือ ยานรองเท้าเท่านั้น แต่ยานคือสัตว์ จะด้วยขี่สัตว์ หรือยานที่เทียมด้วยสััตว์ เช่น เกวียนเทียมโค เป็นต้นนี้ ย่อมไม่ควรแก่สมณะโดยแท้จริง....และคำว่า ให้ผ้า ชื่อว่าให้วรรณะ ก็ไม่ได้กล่าวถึงว่าผ้าอะไรก็ได้ถวายแก่พระสมณะ ย่อมบัณฑิตย่อมกำหนดรู้โดยทางพระวินัยอยุ่แล้วว่า ให้ผ้าแก่สมณะคือให้ผ้าไตรจีวร แม้จะไม่ได้กล่าวว่าผ้าที่สมควรแก่สมณะคือผ้าอะไรก็ตาม...ดังน้นถ้าจะถาม ผ้า ยาน ตามพระวินัยก็ต้องอ่านค้นจากพระวินัยเป็นเกณฑ์ด้วยครับ
กินข้าวเหมือนกัน
#วินิจฉัยเรื่องภิกษุโดยสารรถยนต์หรือเครื่องบินสมควรหรือไม่?มีบางคนเข้าใจว่า ภิกษุไม่ควรโดยสารรถยนต์หรือเครื่องบิน เพราะมีสิกขาบทข้อห้ามภิกษุไปด้วยยาน แต่ความจริงเป็นเช่นนั้นหรือไม่? ในจัมมขันธกะ (วิ.มหา.๕/๒๕๓/๒๓-๒๔) มีสิกขาบทที่ห้ามภิกษุเดินทางไปด้วยยานอยู่ว่าน ภิกฺขเว ยาเนน ยายิตพฺพํ, โย ยาเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ภิกษุทั้งหลาย #ภิกษุไม่พึงไปด้วยยาน รูปใดไป ต้องอาบัติทุกกฏแต่ต่อมา ก็มีพุทธานุญาตให้ภิกษุอาพาธไปด้วยยานได้ ดังสิกขาบทว่าอนุชานามิ ภิกฺขเว คิลานสฺส ยานํ.ภิกษุทั้งหลาย #เราอนุญาตยานสำหรับภิกษุอาพาธยานที่กล่าวถึงในสิกขาบทเหล่านี้ ในนิทานต้นบัญญัติของสิกขาบท หมายถึง #เกวียนซึ่งเทียมด้วยวัว และรวมถึง #ยานที่ใช้คนหรือสัตว์เป็นตัวขับเคลื่อน ดังจะเห็นได้จากพุทธานุญาตต่อๆ มาว่าอนุชานามิ ภิกฺขเว ปุริสยุตฺตํ หตฺถวฏฺฏกํ.ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตยานเทียมวัวเพศผู้ (เกวียน) และยานที่ใช้มือลาก (รถลาก)อนุชานามิ ภิกฺขเว สิวิกํ ปาฏงฺกึ.ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตวอและเปลหามในเรื่องยานเทียมวัวเพศผู้และยานที่ใช้มือลากนั้น ในอรรถกถาท่านอธิบายว่า ยานเทียมวัวเพศผู้ [ภิกษุอาพาธ]สมควรโดยสาร #แม้ว่าสตรีหรือบุรุษเป็นผู้ขับก็ตาม ส่วนยานที่ใช้มือลาก ก็สมควรเช่นกัน แม้ว่าสตรีหรือบุรุษเป็นผู้ลากก็ตาม (ดู วิ.อฏฺ.๓/๑๖๘-๙)ในวิมติวิโนทนีฎีกา (๒/๒๔๐) กล่าวไว้ว่าพระผู้มีพระภาคทรงอนุญาตยานแม้ทุกชนิดสำหรับภิกษุผู้อาพาธ คือ #ผู้ไม่สามารถจะไปได้แม้จะสวมรองเท้าก็ตามถ้าดูจากนิทานต้นบัญญัติและสิกขาบท ยานที่กล่าวถึงทั้งหมด ต่างก็เป็นยานที่ใช้คนหรือสัตว์ในการขับเคลื่อน มิได้เกี่ยวกับยานที่ใช้ยนต์ในการขับเคลื่อนอย่างในปัจจุบัน ดังนั้น จึงเข้าใจ ***เฉพาะภิกษุที่โดยสารเกวียน หรือให้คนลากไปหรือแบกไปโดยวิธีใดก็ตามเท่านั้น จึงจะต้องอาบัติทุกกฏด้วยสิกขาบทนี้ ส่วนภิกษุที่โดยสารรถยนต์หรือเครื่องบิน ซึ่งเป็นพาหนะที่ใช้เครื่องยนต์ แม้จะมิได้อาพาธ ก็ไม่เข้ากับลักษณะของสิกขาบทนี้ หลักที่พอเทียบเคียงได้อีกอย่างคือ #เรือ ภิกษุสามารถโดยสารได้โดยมิจำเป็นต้องอาพาธ (ดูตัวอย่างจากหลายๆ สิกขาบทมีนาวาภิรุหนสิกขาบทเป็นต้น) ก็ทำให้เห็นว่า แม้จะเป็นยาน แต่ถ้ามิใช่ยานที่ทรงห้ามไว้ ก็สมควรที่ภิกษุจะโดยสารได้หมายเหตุ : วินิจฉัยนี้เป็นการวินิจฉัยโดยดูจากนิทานของสิกขาบทเป็นต้น จัดเป็นอัตโนมติของผู้วินิจฉัย ดังนั้น หากมีผู้เห็นต่างโดยคิดว่าน่าจะรวมรถยนต์และเครื่องบินเข้าไปในยานที่ทรงห้ามสำหรับภิกษุที่ไม่อาพาธด้วย ก็สามารถคิดได้ วินิจฉัยนี้เพียงแต่เสนอข้อมูลตามคัมภีร์และแง่มุมวินิจฉัยให้เท่านั้น ส่วนใครจะถือมติใด ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละบุคคล จิรํ ติฏฺฐตุ สทฺธมฺโมขอพระสัทธรรมจงดำรงมั่นตลอดกาลนานพระมหาภาคภูมิ สีลานนฺโท
ไม่ทราบว่าจะฝากคำถามกลับไปอย่างไร หลังจากฟังแล้วผมมีข้อคาใจ หลายประเด็น1.องค์แห่งการต้องอาบัติ หนึ่งในนั้นคือต้องด้วยการสงสัยและการวินิจฉัยออกมาว่า "น่าจะ" ให้ "บัณฑิตพึงใคร่ครวญ"ซึ่งคำว่า "น่าจะ" ก็แปลชัดเจนตรงตัวอยู่แล้วว่า ยังสงสัยอยู่ว่าสิ่งนี้ควรหรือไม่ควร ดังนั้นก็ควรวินิจฉัยลงว่า "เป็นอาบัติ"และการไม่ใช้รถ ใช้การเดินก็ไม่ได้เป็นอะไรที่ทำได้ยากเย็น ลำบาก ก็คิดว่า ทำตามสิกขาบทโดยตรง ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร หรือเปล่าครับ?2.จากที่ฟัง บอกว่า ยานที่ใช้แรงคนสัตว์ ใช้ไม่ได้ แล้วเรือที่พาย ไม่ได้ใช้แรงคนหรือครับ? ก็ใช้แรงคนพายอยู่ดีหรือบอกรถยนต์ ใช้เครื่องยนต์ลาก ก็ต้องใช้แรงคนมาควบคุมอยู่ดี และคนที่มาควบคุมไม่ได้ใช้แรงงานหรืออย่างไร? แค่ใช้แรงงานมากหรือน้อยเท่านั้น? สัตว์ที่เอาไว้โดยสาร พระขี่เองไม่ได้ ก้ต้องอาศัยคนบังคับ และเมื่อสัตว์มันวิ่งแล้ว คนที่บังคับ ก็ใช้แรงไม่ต่างกับขับรถยนต์อยู่ดี
นมัสการครับพระควรใช้สติปัญญาที่มี หาทางประพฤติปฏิบัติให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัยมากกว่าการหาทาง หาช่องโหว่ เพื่อมารองรับการกระทำของตนให้ถูก หรือเปล่าครับกราบเรียนถาม
PHUKIJJ LAOJERUNKULคือเรามั่นใจแน่นอนว่าพระนั่งรถยนต์จะต้องอาบัติใช่มั้ย? เราได้อ่านต้นบัญญัติของสิกขาบทเรื่องห้ามภิกษุไปด้วยยานรึยัง? ในต้นบัญญัตินั้น ยานที่ท่านพูดถึงคือยานอะไร?
นานาวินิจฉัยพระวินัย นมัสการครับ ผมถือเอาตรงอาการที่ว่า "สงสัยแล้วยังทำ" กุกกุจจปกตตา ก็ควรจะต้องอาบัติ ไม่เกี่ยวกับว่ายานนั้นคืออะไร
นานาวินิจฉัยพระวินัย แล้วอีกกรณีหนึ่ง สมัยนั้นไม่มีรถยนต์แบบนี้ ก็มิอาจรู้ได้ว่า ถ้าพระองค์มีพระชมมายุอยู่ตอนนี้ จะตัดสินวินิจฉัยอย่างไร? และคำวินิจฉัยที่ออกมาตอนนี้ ใครสามารถฟันธงได้ว่า ถูกต้องสมควรแน่นอน100% บ้างครับ ในเมื่อคำวินิจฉัยบอกว่า "น่าจะ" ให้บัณฑิตพึงใคร่ครวญ และคำว่า "น่าจะ" ก็คือยังสงสัยอยู่ว่าได้หรือไม่? ไม่ใช่หรือครับ และอาการ การต้องอาบัติ6. อย่าง หนึ่งในนั้นคือ "สงสัยแล้วขืนทำ" กราบเรียนถามขอรับ
ไปศึกษา.พุทธวจน.เลย.อย่าเถียงกันถ้าท่านหา้มยาน_ภานะ.ถ้าท่านตัรสว่าไม่ผิดวินัยอะไร.ขับรถ.ถ้าผิดจะไม่มีคนเข้ามาบวชศาสนาท่านก็จะหมดไว.
ใช้คนขับให้ก็ใช้แรงงานเขาเป็นการเบียดเบียนเหมือนเดิมพระตามชนบทก็ไม่ค่อยมีปัจจัยเป็นค่าตอบแทนวิจิกิจฉาความลังเลสงสัย.สัปปายะซึ่งแต่ละสถานที่ไม่เหมือนกันเชื่อว่าท่านทั้งหลายที่มาถกปัญหากันอยู่นี่หลายท่านต้องนั่งรถมา.อาหารบางอย่างนาย.ก.กินแล้วมีประโยชณ์ต่อธาตุขันธ์แต่นาย.ข.กินแล้วกับผิดสำแดงเป็นโทษดังนี้แล
ไม่มีใครมาห้ามหรอพระคุณเจ้าขณะพระศาสดายังเดินเท้าระยะไกลก่วงปันจุบันเลยพระศาสดายังไม่เดือดร้อนวุ่นวายเลยท่าน
โลกยุตสมัยมันเปลี่ยนไปตามยุคตามสมัย.ก็ต้องตามยุคตามสมัย.ท่านที่มาประชุมสัมมนาทุกท่านทุกองค์เนี่ยท่านเดินมารึ
การเอาถ้อยคำที่ปรากฎพระวินัยก็ดี ในพระสูตรก็ดี หรือในธรรมบท ก็ถือว่าแก้ข้อกังขา สงสัยได้ ทำไมวิทยากรไม่ยกมหาปเทส ๔ มาอธิบายถึงพุทธประสงค์ด้ว
Khrin Konraphi สุดยอดครับธรรมข้อนี้ไปได้กับยุคสมัยถ้าจะเอาเล็กๆน้อยๆมาเป็นประเด็นถกเถียงก่ไม่จบ
อันนั้นท่านหมายถึงอนาคตที่ยังไม่มีในวินัย แต่ยานก็คือรถนั้นแหละไม่จำเป็น
กระผมเห็นด้วยครับ เพราะ ธรรมบท มหาปเทส ๔ พระพุทธเจ้าพระองค์ทรงตรัสไว้ การปฏิบัติในสิ่งทั้งปวง จะเห็นควรหรือไม่เห็นควร ให้พุทธพจน์ยกมาเรียบเคียงดู
ไปสหรัฐเหาะเอาเลยจบ😂😂😂😂😂
ท่านรูปที่ตั้งคำถามพยายามหาเห็ดผมมาหักล้างนิมนต์พระเดชพระคุณฯ เดินเถิอครับ
ใช้ปัญญาตอบสิ ดูที่เหตุสิสิ่งที่ทำอะไรเป็นเหตุให้ศีลเศร้าหมองไหม,ให้เกิดบาปอกุศลไหม กิเลสเพิ่มพูลไหม เพราะฉะนั้นที่ห้ามนั่งยานคือยานในที่นี้หมายถึงสัตว์,สิ่งมีชีวิตเพราะ!!!จะเป็นการไปเบียดเบียนสัตว์,สิ่งมีชีวิต เป็นบาปอกุศล
ท่านที่ถามนั้นถามแบบหาเรื่องมากกว่า โทษทีนะ ยานที่ผิดคือสัตว์มีชีวิต เพราะเป็นการทรมานสัตว์มีชีวิต. จงลดมานะละทิฎฐิที่ใจ พิจารนาให้แยบคาย แล้วท่านจะโล่งจิตแจ้งใจ😑 ส่วนพระท่านผู้ตอบๆได้ดี และถ้ายกมหาประเทศสี่มาเทียบเคียงจะง่ายขึ้น ส่วนหลวงตาให้แกเดินเท้าเอาคนเดียว จบนะหลวงตา😑
ผมดีใจที่เห็นพระมาระดมความคิดกันครับ สาธุ
แพะสมัยนี่ทำได้ทุกหย่าง😅
ประเด็นนี้ ภายหลังได้สอบถามกับ #พระอาจารย์กวิธชะ (ชาวยะไข่) ซึ่งท่านเป็นผู้ชำนาญพระวินัย ศึกษาคัมภีร์เกี่ยวกับพระวินัยทั้งพระบาฬี อรรถกถา และฎีกาเป็นต้นครบทั้งหมด เป็นอาจารย์สอนพระวินัยในประเทศพม่า ท่านก็มีวินิจฉัยนัยเดียวกับที่คณะวิทยากรได้ตอบไว้ในคลิป (สัมมนาวันต่อๆ มา จะมีพระอาจารย์กวิธชะมาร่วมตอบคำถามด้วย)
@มน พรเมืองแมน ผมก้อว่างั้นแหละครับ มุ่งประเด็นไปที่การเบียดเบียนสิ่งมีชีวิตต่างหาก พูดตรงเกินมันชวนทะเลาะ
ถามเพื่อให้คณะพระวิทยากรท่านเจอทางตัน เหมือนกับจะอวดรู้ศึกษามาเพื่อจะข่ม พระใบลานเปล่าแท้ๆ ก็ประยุกต์และอนุวัตรตามยุคสมัยบ้างพระพุทธเจ้ายังตรัสไว้
นั่งเรือหาฝั่ง..แต่ไม่กล้าพายเรือ..กลัวพายผิด..ยึดมั่นแต่เรือกับพาย..ชาคิไหนถึงฝั่ง..ชาติไหนทิ้งเรือได้ละ..สาธุ
เอางี้นะ ง่ายๆ เลย อิทธิปาติหารย์ หายตัวไปโลดดด หลวงพ่อ ได้ฌาน 4 นะหลวงพ่อ หายตัวไปบิณบาตร ด้วยนะ ด้วยความเคารพ
ถ้าจะเถรตรงขนาดนั้นก็นิมนต์เดินเอาครับ ไม่มีใครว่า
ยานพาหนะสมัยก่อนใช้สัตว์ เป็นการทรมารสัตว์ รถยนต์ ไม่เป็นไร แต่หากพระขับอย่าวิ่งทับหญ้า ทับสัตว์
Yon Srirong ชอบเม้นนี้
ไอ้คนที่มาว่าพระมาบวชหน่อยสิ
แค่คำว่ายานยังเห็นไม่ตรงกันเลย
😂😂😂😁😁 หลายปีแล้วก็ยังซ่ำเก่า คำถ่ามแบบนี้ ,หลวงพอ ใจร้อนเกิน 😁😁ผู้ตอบเกือบบ่ทัน !
เดินไปธุระได้ป่าวถ้าได้ค่อยคุยกัน
ช้างกับม้ากับรถ ผมสงสัยว่ามันเหมือนกันตรงใหน..ถ้าฝึกเล่นเพื่อความสนุกสนานเล่นก็ไม่ควรแต่นี้มันเป็นยานที่ไม่มีชีวิต
สาธุ
ถ้าไม่อาสัยยานพระพุทธศาสนาจะถึงประเทศไทยหรอ คิดสิครับ ศาสนาเชนยังไม่ออกจากอินเดียเลยเพราะเขาห้ามไปในยาน
ท่านก็นั่งเรือมามั้ง
นั้นมันสมัยพุทธกาล.นี้โลกเขาไปถึงไหนแล้ว
หลวงพ่อแกคงไม่เข้าใจที่พระยกเรื่องเรื่อวว่านั่งโดยสารเรือได้เพราะไม่ใช้แรงงานสัตว์ลาก ฉะนั้นการนั่งรถยนต์ก็ย่อมได้ยานน่ะต้องแยกเป็นยานพาหะนะ ส่วนสะพานหรือร่มน่ะไม่เกี่ยวข้องกับวินัยข้อนี้เลย ท่านไม่อนุญาติให้นั่งเพราะถือหลักเมตตาไม่เบียดเบียนแรงงานสัตว์หรือคนที่ลากประสงค์แค่นี้ กับการนั่งยานในเชิงว่าแห่แหนแบบกษัติย์คือนั่งเอาโก้ไม่ได้มีจุดประสงค์ในการเดินทางแบบนี้ก่ไม่ควร ผมวินิฉัยเอง
+1 ถ้าใช้วิจารณญาน เข้าใจได้ตามนั้นครับ
สมัยนี้ทำไม่ได้แล้ว อาบัติเล็กน้อย
ผมเห็นด้วยนะครับที่ขี่ได้ แต่ให้ขับเองหรือเป็นเจ้าของนี้คงไม่ใช่เพราะถือเป็นทรัพย์ด้วย และไม่เหมาะสมชาวโลกติเตียน
จริงนะสมัยพุทธกาลนั้นพระศาสดาใช้เดินทางเท้ามาตลอดเลย
มหาปเทศ4จบ
มหากลุ่มนี้ต้องเจอหลวงตามหาบัว...
สมัยก่อนมันไม่มีรถแบบสมัยนี้ พระองค์ท่านจึงให้ใช้รองเท้าอย่างเดียว
หลวงพ่อช่างไม่มีมารยาทเอาชะเลยคำพูดก็ไม่นุ่มนวน แถมยังพูดแทรกพระวินัยธรที่กำลังพูดอยู่เสมอๆ
พิธีกร...หลวงพ่อท่านถามไม่ได้หมายคำว่าท่านปฏิบัติได้ดอก...
หลวงพ่อออกแนวจะไปนิพานนะครับ
สามล้อเครื่องไม่อาบัติ สามล้อถีบอาบัติ นั่งรถใช้คน,สัตว์ลากเป็นอาบัติ ตนนั่งรถเข็นใช้มอเตอร์หรือใช้มือตัวเองหมุนล้อไม่อาบัติ ฉะนั้นถ้าเป็นเครื่องกลไม่อาบัติ ถ้าใช้แรงคนแรงสัตว์เป็นอาบัติ ยกเว้นชราภาพมากหรืออาพาธหนักต้องหามในที่รถยนต์จักรยานยนต์เข้าไม่ถึง
สรุปว่าได้หรือไม่ได้ครับผมว่าเรื่องเป็นเรื่องสภามติของคณะสงฆ์นะค รับ
คำสอนก็บอกว่า ห้ามทำผิด เช่น ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ เสพเมถุน พูดเท็จ ดื่มสุรา
กล้าหรอที่ให้นั่งรถยนต์มีอาบัติ ถ้าให้มีอาบัติ คงต้องไปเคลียกับพระสังฆราชก่อนเลยมั้ง
ถ้าพายเรือไปได้ ทำไมขับรถยนต์ถึงไม่ได้
รณพงศ์ มิ่งศิริ สมัยผมบวชเณรพระรูปนึงเคร่งมากออกบิณทบาตเดินใม่เหลียวแลซ้ายขวาเดินตรงใม่เลี้ยวใม่เว้นวันนึงฝนตกตอนกลางคืนพอเช้ามาน้ำท่วมทางที่เดินบิณทบาตทางตรงนั้นมันจะต่ำเป็นแอ่งอยู่แล้วน้ำเลยขังถึงตาตุ่มแต่มันมีเนินที่พอหลีกเว้นเพื่อนข้างหลังเว้นหมดมีพระรุปนี้บอกว่าอย่าแตกแถวต้องระเบียบสำรวมแกเดินลุยคนเดียวประมานสมเมรตก้อจะพ้นแอ่งแกลุยเลยเหยีบเสดแก้วกรืออะไรใม่รู้เย็บสิบเอ็มบวมบิณทบาตรใม่ได้ตั้งหลายวันเลย
โลกวัชชะ ขึ้นอยู่กับสังคมนั้นๆยอมรับหรือไม่ยอมรับ ไม่ทั่วไป
รณพงศ์ มิ่งศิริ พายเรือ ไม่สามารถชนคนตายได้ ไม่เหยียบตัวสัตว์ให้ตายได้ แต่ขับรถ เห็นชนคนตายมาแล้ว บาดเจ็บก็เยอะ สร้างความเดือดร้อนให้ตัวเองและคนอื่นได้ (ในบางครั้งที่พลาด)
เรื่อนี่พระพุทธเจ้าให้นั่งได้ ให้จำพรรษาบนเรื่อได้แต่รถปัจจุบันนี่เราไม่รู้ครับ
เรือก็ห้ามพายเอง
ภิกษุหาสวดตามงานต่างๆไปเอาบทสวดมาจากพระพุทองค์ไหนครับ(เพราะผมเห็นบ้างวัดสวดงานศพต้องจ่ายหลายหมื่น.เข้าขายหลอกลวงมั้ยแบบนี้
อันนั้นก็ไม่ได้อันนี้ก็ไม่ได้..วินัย227ข้อ..จนมาถึง.พ.ศ.นี้..อาจจะมีมากกว่าพันข้อแน่เลย..พากันกำหนดกฎเกณออกมาเองทั้งนั้น..
ยาน(รถยนต์,เครื่องบิน)ที่มีคนขับ คนขับก็ใช้แรงงานคนอยู่นะครับ
รณพงศ์ มิ่งศิริ ไม่ได้ใช้แรงลากครับ แค่นั่งขับ
ถัาขับผิดเจ้าข้า
แรงงานคนลากหรอ
แล้วถ้ามีกิจนิมนต์ไกลๆและต้องทำวันนั้นล่ะ ต้องเหาะไปเลยใช่ป่ะ55
หลวงพ่อเก่งนะผู้ตั้งสามยังอ้อแอ้ๆ
ท่านเรียนมาจากอะไร ตีความหมายไม่แตกหรือ
ที่ผมไม่ควรคือ "พระนั่งรถหรู" เสียสมณสารูปครับถ้ารถเมล์ แท๊กซี่ รถบ้านๆ นิมนต์เลยครับ สาธุ
พระธรรมวินัยก็เคร่งเกิน ถ้าไม่ให้พระนั่งรถ จาให้พระเดินไปเหรอ เวลาฝนตกล่ะทำไง คือให้พระเดินตากฝนช่ายมั๊ย ถึงจาไม่ผิดรึ
ทางสายกลางครับ....
สอนคนอื่นได้สอนตัวเองได้หรือป่าว
ขุดหลุมดักตัวเอง
เอาคนมาขับก็เท่ากับว่าทรมารคนขับ
มีคำถามว่า พระภิกษุ ต้องอาบัติขนาดใด ถึงจะทำการภาวนา ไม่ได้ฌาณ หรือฆารวาส ต้องมีมนทินขนาดใด ถึงจะทำการภาวนาไม่ได้ฌาณ ครับผม
อาบัติที่ทำให้จิตใจเศร้าหมอง ก่อกวนจิตใจนั้นแหละ
ไม่เข้าใจว่าการเว้นจากสิ่งเหล่านี้ได้แล้วเป็นเหตุให้บรรลุได้เหรอ ก็ไม่เห็นบรรลุกัน ยุคสมัยเปลี่ยนไป แต่จะกลับไปทำแบบสมัยป่าดงเอามาเป็นหลักปฏิบัติ บ้างข้อก็พอสงเคราะห์ได้ หากจะเอาเป็นเอาตายขนาดนั้นคงไม่แบ่งศีลออกเป็นประเภทหรอกว่าอะไรเป็นศีลได้บ้าง ศีลบางข้อผมยังไม่เข้าใจเลยว่าเป็นเหตุให้ถึงนิพพานได้จริงหรือไม อย่างเช่น ห้ามทำคำข้าวให้ใหญ่นัก ในเสขิยวัตร ผมถามหน่อย แค่คำข้าวเป็นเหตุให้บรรลุธรรมได้ยังไง อธิบายเป็นธรรมทานใ้ห้ผมฟังหน่อยซิบรรลุยังไง ที่พากันอ้างหนักอ้างหนาว่า ศีลเป็นเหตุให้ถึงนิพพาน
นั่งเครื่องบินไม่น่าได้ เป็นยานนะเพราะอวดอุริตด้วย เพราะเหาะ นั่งหรือยืนเหนืออากาศ โธ่อยากหาเรื่อวพระ ไปหากินดีกว่าไหม
ไม่ใช่โยงมั่ว
ผมเคยเห้นทา่นไม่ใส่รองแต่ทา่นมีรถสว่นตัว
อธิบาย วกไป วนมา ให้แน่นกว่านี้ค่อยออกมาเก่ง
ทำไมต้องยึดกฏเก่าแก่..ในเมื่อยุคสมัยมันเปลี่ยนไป...พระชั้นผู้ใหญ่..มีเงินทอง..หาซื้อใว้ใช้งานเองได้..จ้างคนขับรถได้..แต่พระชั้นสามัญ...ลำบากในการเดินทาง..ยิ่งอยู่ไกลจากตัวเมือง..ไกลชุมชน..มีความจำเป็นต้องใช้รถในการเดินทาง..และ.คนขับขี่ก้อมีความจำเป็นต้องขับขี่เอง
ภิกษุทั้งหลวยไม่ควรบังคับขับขี่ยานด้วยตนเองแต่คฤหัตถ์ผู้มีศรัธานิมนต์ให้พระภิกษุโดยสารไปได้
ด้วยความเคารพค่ะความเห็นส่วนตัวค่ะตัองดูทีเจตนาค่ะถ้าไปบรรยายธรรมต่างประเทศจะให้เดินไปหรือค่ะด้วยความเคารพค่ะ
ท่านก็ตอบ ว่า กรณีโดยสารมิใช่หรือ โดยสารได้แต่ ห้ามขับ เอง จาก ปุถุชน
ผมเข้าใจว่าท่านห้ามไช้สัตว์ลากแต่ยุคนี้ไม่ไช่สัตว์ลากผมคิดว่ายานที่ไม่ไช่สัตว์น่าจะไช้ได้นะครับ
แล้ววัดอาชาทองใช่ม้าเป็นพาหนะผิดไม่คับที่ออกบินฑบาตร
ผิดแน่ เอาที่สบายตัวรู้ว่ายุไกลก็ยังไม่มาที่ไกล้ แต่ดันไปขี่ม้า
วัดนั้นสาขา วัดเส้าหลินขี่ม้าฝึกวรยุทธ
เดี๋ยวนี้พระขับรถส่วนตัวซิ่งเลยค่ะ
ห้ามทำผิด บอกเขาไป
สาธุสาธุสาธุครับ
ชัดเจนครับ กราบ อนุโมทนา
ที่นั่งบนรถยนต์-บนเครื่องบินจะจัดเป็นที่นั่งสูง-ใหญ่ไหม?ครับ(อุจจาสยนมหาสยนา)
1.ที่ห้ามเพราะเป็นการทรมานสัตว์..
2.รองเท้า...เพราะไม่ให้มีการสะสม
3.ห้ามขับ.ขี่.เพราะ ถ้าชนคนตาย.จะเป็น.ปาราชิก...
...ผมเข้าใจแบบนี้...
กระผมก็ จบปริยัติธรรม เปรียญธรรม ประโยค ๓ ผมเรียนท่านพระมหาที่จัดสัมมนาในเชิงพระธรรมวินัย ถ้าการตั้งกระทู้ถามว่าในเมื่อสมณ อาศัยการจาริกไปตามที่ได้รับกิจนิมนต์แล้วพระเถระทีสารถี ขับยานไปให้ถือว่าผิดไหม ถ้ามาออกกฎที่ห้ามพระภิกษุขับรถ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องห้ามนั่งด้วย อย่าเห็นว่า การที่เดินทางด้วยยานพาหนะก็ผิดพระธรรมวินัยหมดก็ไม่ให้นั่งด้วยก็แล้วกัน ห้ามพระเถระผู้ใหญ่นั่งรถด้วย ให้เดินไปตามกิจนิมนต์ด้วยถึงควรยิ่ง
ชัดเจนดีครับ อนุโมทนาครับอาจาย์
สาธุ ติดตาม ฟังธรรม ข้อ ธรรมมะจาก คณะพระวิทยากร เป็นความรู้ ทุกยูทูป ในฐานะที่ไม่ใช่พระ เป็นปุถุชน แต่ เป็นปุถุชนที่ชอบสดับ สาธุ
ดีชั่วมันอยู่ที่ใจคุณท่านทั้งหลาย
พระแถวบ้านผมมีอยู่รูปนึงสวดอะไรก็ไม่ได้ทำตัวเป็นจอมขมังเวทย์สวดได้อย่างเดียวคือนะโม ชอบโกหกคนอื่นที่มาบวชใหม่ว่าตัวเองบวชได้ 30 กว่าพรรษาที่ไหนได้พึ่งบวชได้แค่พรรษาเดียวพระรูปนี้คนแถวบ้านผมไม่ใส่บาตรให้เลย วัดอยู่อีกที่ขับรถไปบิณฑบาตอยู่อีกที่ กลับมาอีกทีก็นู่น 4-5 โมงเย็นไม่เคยลงศาลากับพระรูปอื่นๆสักทีแบบนี้อาบัติไหมครับ
ฟังดูๆแล้วพระที่ถาม ต้องการเอาชนะ เอาเหตุผลเข้าตัวเอง และฟังดูเหมือนจะอวดความรู้ตัวเอง ว่าฉันก็รู้นะ
หลักธรรมในโลกแต่ยุคต้อง
ปรับปรุงไปตามโลกาวิวัฒน์
นั้นตามความเหมาะสมใน
เจตนานั้นถึงความถูกต้อง
และชัดเจนและเหมาะสม
ในหลักธรรมอย่างถูกต้อง
ในแต่ยุคสมัยตากห่างใช่
ใหมขอรับท่านพระคุณเจ้ารับ
เช่นขับเองนี้ไม่สมควรอย่างยิ่งแล้วครับตามเจตนาหลัก
ธรรมของพระพุทธองค์เป็น
เช่นนั้นกระเข้าใจถูกต้องหรือ
ไม่ขอรับท่านพระคุณเจ้าทั้ง
หลายขอรับ
สัตว์เป็นไปตามสมควรในเหตุ
แล้วแต่กรณีเหตุเจตนาที่สมควรจริงๆเท่านั้นโดยแท้ในสัจธรรมที่เป็นจริงในเจตนา
แห่งจิตที่เราสัมผัสใด้เองด้วย
ตัวเราที่รู้แก่วาระจิตที่เรารู้ ใน
เจตนาที่ถูกต้องในหลักธรรม
นั้นใช่หรือไม่ขอรับท่านพระคุณเจ้าขอรับ
เดินเพื่อธุดงค์นั้นเป็นหลักธรรมที่เป็นสัจธรรมที่แท้จริง
แก่ควรการปฏิบัติยิ่งแล้วปฏิบัติใด้มากที่สุดควรปฏิบัติ
ยิ่งแล้วเพื่อความเจริญในหลัก
ธรรมที่แท้จริงเพื่อประโยชน์สุขในทางธรรมและทางโลกใด้อย่างแท้จริงเหตุในเจตนา
อนุโลมในหลักธรรมข้อนี้คือ
เหตุอยู่ที่จิตในข้ออนุโลมข้อ
นั้นๆต่างหากเช่นมีจำเป็นมาก
แค่ไหนในสถานที่นั้น,เวลานั้น
มีความสำคัญในชีวิตมนุษย์และสัตว์โลกนั้นมากน้อยเพียงใดใช่หรือไม่ขอรับ
ท่านพระคุณเจ้าทั้งหลายขอรับ
โปรดเมตตทานชี้แจงทางสว่างแจ้งในข้อหลักธรรม
ที่แท้จริงแก่เกล้ากระผมผู้
น้อยด้อยซึ่งปัญญาด้วยเถิด
ขอรับ
แล้วแต่จะมีเมตตทานแก่
เกล้ากระผมเห็นตามสมควร
เุถิดขอรับท่านพระคุณเจ้า
ทั้งหลายขอรับ
ขออนุโมทนาบุญนี้กับท่าน
พระคุณเจ้าทั้งหลายด้วยเถิด
ขอรับ
ขออโหสิกรรมแก่เกล้ากระผม
ด้วยเถิดขอรับที่ใด้ล่วงเกินท่านพระคุณเจ้าทั้งหลาย
ด้วยกาย,วาจา,ใจก็ดีโดยมี
เจตนาหรือไม่เจตนาแห่ง
กายและจิตนี้มนุษย์ตอนนี้
ขอรับโปรดอโสิกรรมในบาป
กรรมนี้ด้วยเถิดขอรับ
ท่านพระคุณเจ้าที่บรรลุใน
หลักธรรมที่เจริญปัญญา
ด้วยธรรมแห่งจิตที่แท้จริง
ขอรับอนุโมทนา สาธุขอรับ
ท่านพระคุณเจ้าครูบาร์อาจารย์ทุกท่านขอรับ
สาธุในธรรมข้อรับ
อะไรบวชมิได้บวชด้วยความเบื่อหน่าย.เพื่ิอ
คำถามนี้ช้าไป๕ปี..ซื้อรถเป็นชื่อของตัวเองผ่อนค่างวดเองอาบัติหรือไม่..ใช้ชื่อผู้อื่นซื้อไว้ใช้เองผ่อนด้วยเงินตัวเองอาบัติหรือไม่ขับไปเพลิดเพลินไปหรือวั นไหนไม่ได้ขับไปไหนมาไหนรู้สึกหงุดหงิดอาการแบบนี้....
อ้าวไม่งั้นถ้าไปนิมนต์พระจากวัดมาสวดที่บ้านเนี่ยคือห้ามพระนั่งรถเหรอ ยังไง
ในฐานะชาวบ้าน พุทธศาสนิกชน เห็นว่า สิกขาบทเรื่อง "พระนั่งยาน" นี้ไม่ได้ก่อให้เกิดความเศร้าหมองแก่จิตใจ พุทธศาสนิกชนอะไรเลย ผิดไม่ผิดก็แล้วแต่พระคุณเจ้าทั้งหลาย จะมีมติอย่างไร ชาวบ้านก็ยอมรับได้ทั้งนั้นขอรับ (สรุปคือ ตามใจพระคุณเจ้าเถ่อะว่า จะปฎิบัติกันอย่างไร)
สังเกตสิ่งรอบข้่างที่เกิดขึ้น
รอบตัวเราที่เกิดขึ้นสถานที่
ต่างกับสิ่งต่างในประเทศต่าง
บนโลกใบนี้สามารถบ่งบอก
อะไรใด้บ้างในทางโลกและ
ทางธรรมที่อาจจะสามารถ
เป็นจริงในองค์ความรู้ตางๆ
ที่เกิดขึ้นด้วยสติปัญญาหรือ
ภาวะรู้ด้วยจิตณาณบุคคล
ธรรมดาซึ่งด้วยสาวกในอตีด
มาเกิดนั้นมีจริงเท็จแท้ประการใดโปรดชี้แจงในหลัก
ธรรมข้อเหล่านี้ด้วยเถิดว่า
พระพุทธองค์ท่านและเหล่า
สาวกท่านพระคุณเจ้าครูบาร์
อาจารย์ทุกท่านที่บรรลุด้วย
ธรรมเป็นพระโสดาบันหรือ
ระดับสูงกว่านี้มีส่วนในการ
เมตตาทานในธรรมเหตุด้วย
ณานนั้นให้บุคคลธรรมดาใด้
มีดวงตาแห่งธรรมนั้นในข้อนั้นตามระดับขึ้นต่างไปตาม
เหตุแห่งจิตในเมตตาทาน
เมตตาธรรมแก่เขามนุษย์ผู้
นั้นใด้หรือไม่ขอรับเหตุที่ว่า
บังเอิญบ่อยเป็นจริงบ่อยเห็น
ว่าเกิดขึ้นจริงบ่อยในรูปนิมิตร
ในลักษณ์กายสัมผัสด้วยตา
และสัมผัสในรูปเสียงที่ไพเรอะในเมตตาธรรมที่ทรงพระเมตตาทานแก่บุคคลธรรมดา
ในตัวบุคคลมนุษย์ในร่างกาย
ซึ่งสมมุติขึ้นด้วยวาระบวชแห่งจิตมีความเป็นไปได้เพียง
ไหนขอรับโปรดเมตตาธรรมเพื่อเป็นเมตตทานแก่มนุษย์
โดยส่วนรวมที่อาศัยบนโลก
นี้ใด้รู้แจ้งสว่างแก่ใจมนษย์
บนโลกนี้ทุกคนเพื่อเป็นธรรม
ทานแก่สัตว์โลกและเหล่าสาวกของพระพุทธองค์ท่าน
ที่อ่อนในหลักธรรมน้อยซึ่ง
สมองและปัญญาที่ชาญฉลาด
ในดวงจิตแห่งธรรมของท่าน
พระคุณเจ้าทั้งหลายด้วยเถิด
ขอรับท่าน
ขออนุโมทนาในบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ด้วยเถิดขอรับ
สาธุสาธุสาธุขอรับ
ท่านพระคุณเจ้าครูบาร์อาจารย์ทุกท่านขอรับ
ผู้ถาม เคร่งมากเลย ปัจจุบัน ท่านอยู่โรงพยาบาล หรือ วัด
ทำไมต้องไปด้วยร่องเท้าเท่านั้น (ผู้ถามกว่าไว้) ก็ต้องตอบว่า สมัยพุทธกาลยังไม่มียานยนต์ พระพุทธองค์ท่านเลยไม่ได้บัญญัติไว้ สมัยนี้มีรถขึ้นมา ก็ต้องวินิจเหมือนเรือน่าจะถูกที่สุด ถ้าเรือได้ แสดงว่ารถยนต์ก็ต้องได้ (ขอเรียนถามแล้ว รถยนต์ที่มีสตรีขับ พระสามารถนั่งโดยสารไปได้ไหม ?)
หลวงพ่อที่ถาม เดินมาหรือครับ ขอให้ท่านปฏิบัติให้ได้นะสาธุๆ
หลวงพ่อท่านอาจจะตีความแตกกว่าก็ได้เล่มที่หน้าที่ท่านยังบอกเลยอย่าคิดมากท่านอ่านตามหนังสือมาพูดไง ไม่มีพระที่ไหนทำได้ดอกแม้แต่คณะวิทยากรก็ทำไม่ได้ดอก นี้ไงมันเป็นที่มากูปฏิบัติมึงไม่ปฏิบัติไงครับ...
ท่านน่าจะขับรถมา
ท่านก็ถามในเรื่องที่ท่านสงสัย..ถ้าท่านรู้แจ้งคงไม่มาสัมนา...สาธุ
ถวนกาม
ผู้ออกบวชโดยความทีต้องการที่จะพ้นทุกข์จริงจริงแล้ว.เรื่องเหล่านี้จะไม่มีทางที่จะทำให้ท่านเดือนร้อนได้มิได้ต่างกับเงินและทองเลย
สาธุ กราบขออนุโมทนาด้วยใจคะ
เห็นพระนั่งแทกซี่พอถึงที่ก็เอาซองหยิบธนบัตรมาจ่ายเงินแบบนี้ได้หรือ ควรจะให้โยมจัดการให้จะเหมาะกว่า พระอาจจะต้องไปเฉพาะกิจนิมนต์ เจ็บป่วยไปรพ ไปแสดงธรรมมีนิมนต์ อันนี้ถึงจะเหมาะ
รถยนต์ในปัจจุบัน. ไม่มีในบัญญัติไม่มีสัตว์ลากไป
ก็ควรอนุโลมเข้าสงเคราะห์ได้. โดยแบบเป็นผู้โดยสาร ไม่ใช่ขับเอง
สาธุๆ
#กรณีพระขับรถ หลังประชุมได้ลองสอบถามกับ #พระอาจารย์กวิธชะ (ชาวยะไข่) ซึ่งเป็นผู้ชำนาญพระวินัยปิฎกจากประเทศพม่า ท่านก็เห็นว่า หากพระขับรถในเขตหมู่บ้าน ก็จะมีอาบัติทุกกฏด้วยสุสังวุตสิกขาบทในเสขิยวัตรได้ (ข้อไม่สำรวมกายไปในละแวกบ้าน) แต่ถ้าขับในวัดโดยมีเหตุจำเป็น (คือไม่ใช่ขับรถเล่น) ก็ไม่เห็นอาบัติ
@snowden 2018 สาธุครับ เป็นความเห็นที่ตรง
ผมขอถามกลับหน่อยนะครับ ตอนนี้ ถ้าท่านพูดว่าภิกษุสงฆ์ขับ นั่ง โดยสารในรถ แล้วพระเถระอย่านั่งด้วยนะ มีสมณศักดิ์ต้องเดินไปอย่างเดียว
@ร้อยเจ็ด พันห้า
จรณะ 15 มีอะไรบ้างหนอ ?
บอกข้าน่อยแน ข่อยเพีงมาศึกษาธรรมะ
@@williammail1965 หาใน google เลยครับ
พระไม่สมควรขับทุกๆกรณี แต่โดยสารได้
ถ้าอยู่กรุงเทพมีกิจนิมนเชียงใหม่ ต้องทำยังไงครับถ้านั่งรถไม่ได้
นั่งโดยสารได้ไม่ใช่สัตว์ลาก
ต้องมองไปที่เจตนาว่าทรงบัญญัติสิกขาบทขึ้นเพื่อประโยชน์อะไรเพื่อทำความลำบากแก่พระสงฆ์หรือเพื่อคุ้มครองพระสงฆ์และทำไมไม่ทรงบัญญัติทั้งหมดในคราวเดียวกลับต้องรอให้อธิกรณ์เกิดขึ้นแล้วจึงทรงบัญญัติห้ามเป็นกรณีไป..แต่จากการศึกษาสิกขาบทต่างๆตลอดจนเสขิยวัตรทั้งหมดแล้วเห็นว่านอกจากจะทรงบัญญัติเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยแห่งสงฆ์แล้วส่วนหนึ่งน่าจะเป็นการคุ้มครองพระสงฆ์จากคำติเตียนของชาวบ้านด้วยจึงอยากจะเห็นด้วยว่าจุดประสงค์ของการห้ามไม่ให้พระขึ้นรถหรือยานพาหนะใดๆแต่กลับทรงอนุญาตให้ขึ้นเรือได้นั้นเพราะพาหนะต่างๆในสมัยนั้นเทียมด้วยสัตว์ที่ทรงห้ามก็เพราะเหตุผลว่าเป็นการทรมานสัตว์หรือใครมีเหตุผลอะไรอื่นอีกหรือไมและผมเชื่อว่าพระพุทธองค์มีสายพระเนตรอันยาวไกลหรือจะเรียกว่าอนาคตังสญาณก็ได้จึงทรงแสดงมหาปเทส4หรือแม้แต่อนุญาตให้ถอนสิกขาบทเล็กน้อยได้ในเวลาที่ใกล้จะปรินิพพานและเชื่อว่าในยุคที่ผู้คนสัญจรกันเร็วราวกับจรวดพระพุทธองค์คงไม่ประสงค์ให้สาวกของพระองค์ตกยุคถึงกับเดินเท้าไปประชุมชาวพุทธนานาชาติเป็นแน่
เหตุ.จำเป็นก็คือขณะ ธรรมทูตผู้เป็นธรรมกถึกปรารถนาไปเผยแผ่ประกาศคำพระศาสดาเช่นต่างถิ่นต่างประเทศ
ดังมีตัวอย่างเช่นคำขอของท่านพระเทวทัต
และตรงตามการสนทนาธรรมกันว่า
เหตุหลักคือการเบียดเบียนสิ่งมีชีวิตซึ่งกันและกัน
(ธรรมทั้งหลายล้วนมาจากเหตุ,)อยู่ที่(เจตนา)เจตนาเป็นกรรม....ฯสาธุครับ
ท่านครับถ้าไม่มีคนขับมัน ก็ไปไม่ได้ แล้วพระเถระห้ามนั่งด้วยนะ พระขับรถต้องดูเหตุ ดูปัจจัยสิครับ ถ้าอย่างนั้นพระไม่ต้องรั่งกันเลยสิ
อยากรู้ว่าหลวงพ่อรูปที่ถามเรื่องยานนี่ กลับวัดยังไงครับ เดินหรือรถครับ😅
สมัยนั้น มัแต่เกวียน เสรี่ยง ที่คนหามครับ
ในสมัยนี้ มีรถ คือพาหนะ มันไม่ใช่ ณานในพระพุทธเจ้ากล่าวนะครับ พระที่ไม่เคยไปไหนไกล ก็พุดได้สิครับ จะเดินด้วย รองเท้า อิอิ
ด้วยความเคารพครับ...คำว่า "ยาน"ในกินททสูตร กับ "ยาน"ตามพระวินัย เข้าใจว่าหลายท่านสับสน..กระผมมีความคิดอย่างนี้ว่า เมื่อจะถามเรื่องพระวินัย ก็ควรเอาคำว่า "ยาน"ในพระวินัย คือยานที่เทียมสัตว์ มาเป็นเกณฑ์ ...เหมือนที่มีบางคนสงสัยว่าสิกขาบทของพระมีกี่ข้อ ก็ควรค้นในพระวินัย แต่หากจะถือเอาสิกขาบท 150ข้อ จากพระสูตร ก็ได้คำตอบที่ไม่สอดคล้องกับพระวินัย ด้วยความเคารพครับ
สมัยก่อนคงไม่มีเครื่องยนตร์
ยุคสมัยโลกาภิวัฒน์ พระต้องขับรถได้เพื่อไปเผยแพร่พระศาสนา ไปโรงพยาบาล และพัฒนาวัด
พระวินัยห้ามการขับขี่ครับ
มหาปเทศ4 จบ
สาธุ สาธุ สาธุ บัณฑิตทั้งหลายชอบแล้วที่ช่วยกันใคร่ครวญอยู่ :---) ติดตามฟังต่อไป สาธุ
ทำไมพระวัดนี้ ไว้คิ้วได้ครับ
ตามพระวินัย พระไม่ต้องโกนคิ้วอยู่แล้วนะ มีแต่โกนผมโกนหนวด
อยากทราบถึงรถอัตโนมัติที่ไม่ใช้คนขับพระนั่งไปได้หรือป่าวครับ
สาธุพระนั่งรถนั่งเครื่องบินก็ไม่ผิดมันคนละสมัยสมัยพระพุทธะเจ้าไม่มีรถไม่เครื่องบิน
ให้นั่งถนนยังหาไม่ได้สา
พันปีแล้วยังหาวัดไม่เจอครับขอให้ศาสนาจงเจริญครับสาธุ
คำสอนพระพุทธเจ้า เผยแผล่ดี แต่อย่าสงสัยเลยจะดีมาก
เพราะเมื่อหมดคำสงสัยจะเห็นสิ่งที่สงสัยที่ซ่อยยุในพระธรรมคำสอนเอง คำตอบจะอยู่ตรงไม่สงสัย...
อันใหนเป็นอาบัติ ก็ออกจากอาบัติ อาบัติพระนั่งรถ
แม้ผิด. ก็ผิดน้อยกว่าพระขับรถหรือมีรถเป็นของตนเอง
เพราะพระมีรถหรือขับรถถึงขั้นทำลายศาสนาทำไห้ศาสนาเศร้าหมองและอาจมีเหตุให้ถึงกับสึกออกจากความเป็นพระใด้
คับ...ส่วนอาบัติพระนั่งรถ เป็นอาบัติเดี่ยวถึงที่หมายก็ไปขอปลงอาบัติกับพระที่หมายก็หลุด. ส่วนอาบัติพระขับรถหรือมีรถเป็นของตัวเองเป็นอาบัติต่อเนื่องไม่รุ้จบปลงหลุดยาก
ถึงขั้นลงอบายภูมิ
ในกินททสูตร ถ้าดูบริบทแล้ว เทวดาทูลถามการให้วัตถุสิ่งของอะไรๆชื่อว่าให้อย่างนั้นอย่างนี้ เพื่อให้ผู้รับได้ถือเป็นเจ้าของในการใช้สอย. คือบริบทกล่าวถึงผู้ให้ ให้วัตถุสิ่งของ ผู้รับก็รับวัตถุสิ่งของเป็นของตนเพื่อบริโภคใช้สอย แต่พระองค์กล่าวสรุปโดยยอดคือให้ธรรมทาน...ดังนั้น ยาน ในพระสูตรนี้หมายถึงยานที่ภิกษุจะถือเป็นของส่วนบุคคลได้คือ ยานรองเท้าเท่านั้น แต่ยานคือสัตว์ จะด้วยขี่สัตว์ หรือยานที่เทียมด้วยสััตว์ เช่น เกวียนเทียมโค เป็นต้นนี้ ย่อมไม่ควรแก่สมณะโดยแท้จริง....และคำว่า ให้ผ้า ชื่อว่าให้วรรณะ ก็ไม่ได้กล่าวถึงว่าผ้าอะไรก็ได้ถวายแก่พระสมณะ ย่อมบัณฑิตย่อมกำหนดรู้โดยทางพระวินัยอยุ่แล้วว่า ให้ผ้าแก่สมณะคือให้ผ้าไตรจีวร แม้จะไม่ได้กล่าวว่าผ้าที่สมควรแก่สมณะคือผ้าอะไรก็ตาม...ดังน้นถ้าจะถาม ผ้า ยาน ตามพระวินัยก็ต้องอ่านค้นจากพระวินัยเป็นเกณฑ์ด้วยครับ
กินข้าวเหมือนกัน
#วินิจฉัยเรื่องภิกษุโดยสารรถยนต์หรือเครื่องบินสมควรหรือไม่?
มีบางคนเข้าใจว่า ภิกษุไม่ควรโดยสารรถยนต์หรือเครื่องบิน เพราะมีสิกขาบทข้อห้ามภิกษุไปด้วยยาน แต่ความจริงเป็นเช่นนั้นหรือไม่?
ในจัมมขันธกะ (วิ.มหา.๕/๒๕๓/๒๓-๒๔) มีสิกขาบทที่ห้ามภิกษุเดินทางไปด้วยยานอยู่ว่า
น ภิกฺขเว ยาเนน ยายิตพฺพํ, โย ยาเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส.
ภิกษุทั้งหลาย #ภิกษุไม่พึงไปด้วยยาน รูปใดไป ต้องอาบัติทุกกฏ
แต่ต่อมา ก็มีพุทธานุญาตให้ภิกษุอาพาธไปด้วยยานได้ ดังสิกขาบทว่า
อนุชานามิ ภิกฺขเว คิลานสฺส ยานํ.
ภิกษุทั้งหลาย #เราอนุญาตยานสำหรับภิกษุอาพาธ
ยานที่กล่าวถึงในสิกขาบทเหล่านี้ ในนิทานต้นบัญญัติของสิกขาบท หมายถึง #เกวียนซึ่งเทียมด้วยวัว และรวมถึง #ยานที่ใช้คนหรือสัตว์เป็นตัวขับเคลื่อน ดังจะเห็นได้จากพุทธานุญาตต่อๆ มาว่า
อนุชานามิ ภิกฺขเว ปุริสยุตฺตํ หตฺถวฏฺฏกํ.
ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตยานเทียมวัวเพศผู้ (เกวียน) และยานที่ใช้มือลาก (รถลาก)
อนุชานามิ ภิกฺขเว สิวิกํ ปาฏงฺกึ.
ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตวอและเปลหาม
ในเรื่องยานเทียมวัวเพศผู้และยานที่ใช้มือลากนั้น ในอรรถกถาท่านอธิบายว่า ยานเทียมวัวเพศผู้ [ภิกษุอาพาธ]สมควรโดยสาร #แม้ว่าสตรีหรือบุรุษเป็นผู้ขับก็ตาม ส่วนยานที่ใช้มือลาก ก็สมควรเช่นกัน แม้ว่าสตรีหรือบุรุษเป็นผู้ลากก็ตาม (ดู วิ.อฏฺ.๓/๑๖๘-๙)
ในวิมติวิโนทนีฎีกา (๒/๒๔๐) กล่าวไว้ว่า
พระผู้มีพระภาคทรงอนุญาตยานแม้ทุกชนิดสำหรับภิกษุผู้อาพาธ คือ #ผู้ไม่สามารถจะไปได้แม้จะสวมรองเท้าก็ตาม
ถ้าดูจากนิทานต้นบัญญัติและสิกขาบท ยานที่กล่าวถึงทั้งหมด ต่างก็เป็นยานที่ใช้คนหรือสัตว์ในการขับเคลื่อน มิได้เกี่ยวกับยานที่ใช้ยนต์ในการขับเคลื่อนอย่างในปัจจุบัน
ดังนั้น จึงเข้าใจ ***เฉพาะภิกษุที่โดยสารเกวียน หรือให้คนลากไปหรือแบกไปโดยวิธีใดก็ตามเท่านั้น จึงจะต้องอาบัติทุกกฏด้วยสิกขาบทนี้ ส่วนภิกษุที่โดยสารรถยนต์หรือเครื่องบิน ซึ่งเป็นพาหนะที่ใช้เครื่องยนต์ แม้จะมิได้อาพาธ ก็ไม่เข้ากับลักษณะของสิกขาบทนี้
หลักที่พอเทียบเคียงได้อีกอย่างคือ #เรือ ภิกษุสามารถโดยสารได้โดยมิจำเป็นต้องอาพาธ (ดูตัวอย่างจากหลายๆ สิกขาบทมีนาวาภิรุหนสิกขาบทเป็นต้น) ก็ทำให้เห็นว่า แม้จะเป็นยาน แต่ถ้ามิใช่ยานที่ทรงห้ามไว้ ก็สมควรที่ภิกษุจะโดยสารได้
หมายเหตุ : วินิจฉัยนี้เป็นการวินิจฉัยโดยดูจากนิทานของสิกขาบทเป็นต้น จัดเป็นอัตโนมติของผู้วินิจฉัย ดังนั้น หากมีผู้เห็นต่างโดยคิดว่าน่าจะรวมรถยนต์และเครื่องบินเข้าไปในยานที่ทรงห้ามสำหรับภิกษุที่ไม่อาพาธด้วย ก็สามารถคิดได้ วินิจฉัยนี้เพียงแต่เสนอข้อมูลตามคัมภีร์และแง่มุมวินิจฉัยให้เท่านั้น ส่วนใครจะถือมติใด ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละบุคคล
จิรํ ติฏฺฐตุ สทฺธมฺโม
ขอพระสัทธรรมจงดำรงมั่นตลอดกาลนาน
พระมหาภาคภูมิ สีลานนฺโท
ไม่ทราบว่าจะฝากคำถามกลับไปอย่างไร หลังจากฟังแล้วผมมีข้อคาใจ หลายประเด็น
1.องค์แห่งการต้องอาบัติ หนึ่งในนั้นคือต้องด้วยการสงสัย
และการวินิจฉัยออกมาว่า "น่าจะ" ให้ "บัณฑิตพึงใคร่ครวญ"
ซึ่งคำว่า "น่าจะ" ก็แปลชัดเจนตรงตัวอยู่แล้วว่า ยังสงสัยอยู่ว่าสิ่งนี้ควรหรือไม่ควร ดังนั้นก็ควรวินิจฉัยลงว่า "เป็นอาบัติ"
และการไม่ใช้รถ ใช้การเดินก็ไม่ได้เป็นอะไรที่ทำได้ยากเย็น ลำบาก ก็คิดว่า ทำตามสิกขาบทโดยตรง ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร หรือเปล่าครับ?
2.จากที่ฟัง บอกว่า ยานที่ใช้แรงคนสัตว์ ใช้ไม่ได้ แล้วเรือที่พาย ไม่ได้ใช้แรงคนหรือครับ?
ก็ใช้แรงคนพายอยู่ดี
หรือบอกรถยนต์ ใช้เครื่องยนต์ลาก ก็ต้องใช้แรงคนมาควบคุมอยู่ดี และคนที่มาควบคุมไม่ได้ใช้แรงงานหรืออย่างไร? แค่ใช้แรงงานมากหรือน้อยเท่านั้น?
สัตว์ที่เอาไว้โดยสาร พระขี่เองไม่ได้ ก้ต้องอาศัยคนบังคับ และเมื่อสัตว์มันวิ่งแล้ว คนที่บังคับ ก็ใช้แรงไม่ต่างกับขับรถยนต์อยู่ดี
นมัสการครับ
พระควรใช้สติปัญญาที่มี หาทางประพฤติปฏิบัติให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัยมากกว่าการหาทาง หาช่องโหว่ เพื่อมารองรับการกระทำของตนให้ถูก หรือเปล่าครับ
กราบเรียนถาม
PHUKIJJ LAOJERUNKUL
คือเรามั่นใจแน่นอนว่าพระนั่งรถยนต์จะต้องอาบัติใช่มั้ย? เราได้อ่านต้นบัญญัติของสิกขาบทเรื่องห้ามภิกษุไปด้วยยานรึยัง? ในต้นบัญญัตินั้น ยานที่ท่านพูดถึงคือยานอะไร?
นานาวินิจฉัยพระวินัย นมัสการครับ ผมถือเอาตรงอาการที่ว่า "สงสัยแล้วยังทำ" กุกกุจจปกตตา ก็ควรจะต้องอาบัติ ไม่เกี่ยวกับว่ายานนั้นคืออะไร
นานาวินิจฉัยพระวินัย แล้วอีกกรณีหนึ่ง สมัยนั้นไม่มีรถยนต์แบบนี้ ก็มิอาจรู้ได้ว่า ถ้าพระองค์มีพระชมมายุอยู่ตอนนี้ จะตัดสินวินิจฉัยอย่างไร? และคำวินิจฉัยที่ออกมาตอนนี้ ใครสามารถฟันธงได้ว่า ถูกต้องสมควรแน่นอน100% บ้างครับ ในเมื่อคำวินิจฉัยบอกว่า "น่าจะ" ให้บัณฑิตพึงใคร่ครวญ และคำว่า "น่าจะ" ก็คือยังสงสัยอยู่ว่าได้หรือไม่? ไม่ใช่หรือครับ และอาการ การต้องอาบัติ6. อย่าง หนึ่งในนั้นคือ "สงสัยแล้วขืนทำ"
กราบเรียนถามขอรับ
ไปศึกษา.พุทธวจน.เลย.อย่าเถียงกัน
ถ้าท่านหา้มยาน_ภานะ.ถ้าท่านตัรสว่าไม่ผิดวินัยอะไร.ขับรถ.ถ้าผิดจะไม่มีคนเข้ามาบวช
ศาสนาท่านก็จะหมดไว.
ใช้คนขับให้ก็ใช้แรงงานเขาเป็นการเบียดเบียนเหมือนเดิมพระตามชนบทก็ไม่ค่อยมีปัจจัยเป็นค่าตอบแทนวิจิกิจฉาความลังเลสงสัย.สัปปายะซึ่งแต่ละสถานที่ไม่เหมือนกันเชื่อว่าท่านทั้งหลายที่มาถกปัญหากันอยู่นี่หลายท่านต้องนั่งรถมา.อาหารบางอย่างนาย.ก.กินแล้วมีประโยชณ์ต่อธาตุขันธ์แต่นาย.ข.กินแล้วกับผิดสำแดงเป็นโทษดังนี้แล
ไม่มีใครมาห้ามหรอพระคุณเจ้าขณะพระศาสดายังเดินเท้าระยะไกลก่วงปันจุบันเลยพระศาสดายังไม่เดือดร้อนวุ่นวายเลยท่าน
โลกยุตสมัยมันเปลี่ยนไปตามยุคตามสมัย.ก็ต้องตามยุคตามสมัย.ท่านที่มาประชุมสัมมนาทุกท่านทุกองค์เนี่ยท่านเดินมารึ
การเอาถ้อยคำที่ปรากฎพระวินัยก็ดี ในพระสูตรก็ดี หรือในธรรมบท ก็ถือว่าแก้ข้อกังขา สงสัยได้ ทำไมวิทยากรไม่ยกมหาปเทส ๔ มาอธิบายถึงพุทธประสงค์ด้ว
Khrin Konraphi สุดยอดครับธรรมข้อนี้ไปได้กับยุคสมัยถ้าจะเอาเล็กๆน้อยๆมาเป็นประเด็นถกเถียงก่ไม่จบ
อันนั้นท่านหมายถึงอนาคตที่ยังไม่มีในวินัย แต่ยานก็คือรถนั้นแหละไม่จำเป็น
กระผมเห็นด้วยครับ เพราะ ธรรมบท มหาปเทส ๔ พระพุทธเจ้าพระองค์ทรงตรัสไว้ การปฏิบัติในสิ่งทั้งปวง จะเห็นควรหรือไม่เห็นควร ให้พุทธพจน์ยกมาเรียบเคียงดู
ไปสหรัฐเหาะเอาเลยจบ😂😂😂😂😂
ท่านรูปที่ตั้งคำถามพยายามหาเห็ดผมมาหักล้างนิมนต์พระเดชพระคุณฯ เดินเถิอครับ
ใช้ปัญญาตอบสิ ดูที่เหตุสิสิ่งที่ทำอะไรเป็นเหตุให้ศีลเศร้าหมองไหม,ให้เกิดบาปอกุศลไหม กิเลสเพิ่มพูลไหม เพราะฉะนั้นที่ห้ามนั่งยานคือยานในที่นี้หมายถึงสัตว์,สิ่งมีชีวิตเพราะ!!!จะเป็นการไปเบียดเบียนสัตว์,สิ่งมีชีวิต เป็นบาปอกุศล
ท่านที่ถามนั้นถามแบบหาเรื่องมากกว่า โทษทีนะ ยานที่ผิดคือสัตว์มีชีวิต เพราะเป็นการทรมานสัตว์มีชีวิต. จงลดมานะละทิฎฐิที่ใจ พิจารนาให้แยบคาย แล้วท่านจะโล่งจิตแจ้งใจ😑 ส่วนพระท่านผู้ตอบๆได้ดี และถ้ายกมหาประเทศสี่มาเทียบเคียงจะง่ายขึ้น ส่วนหลวงตาให้แกเดินเท้าเอาคนเดียว จบนะหลวงตา😑
ผมดีใจที่เห็นพระมาระดมความคิดกันครับ สาธุ
แพะสมัยนี่ทำได้ทุกหย่าง😅
ประเด็นนี้ ภายหลังได้สอบถามกับ #พระอาจารย์กวิธชะ (ชาวยะไข่) ซึ่งท่านเป็นผู้ชำนาญพระวินัย ศึกษาคัมภีร์เกี่ยวกับพระวินัยทั้งพระบาฬี อรรถกถา และฎีกาเป็นต้นครบทั้งหมด เป็นอาจารย์สอนพระวินัยในประเทศพม่า ท่านก็มีวินิจฉัยนัยเดียวกับที่คณะวิทยากรได้ตอบไว้ในคลิป (สัมมนาวันต่อๆ มา จะมีพระอาจารย์กวิธชะมาร่วมตอบคำถามด้วย)
@มน พรเมืองแมน ผมก้อว่างั้นแหละครับ มุ่งประเด็นไปที่การเบียดเบียนสิ่งมีชีวิตต่างหาก พูดตรงเกินมันชวนทะเลาะ
ถามเพื่อให้คณะพระวิทยากรท่านเจอทางตัน เหมือนกับจะอวดรู้ศึกษามาเพื่อจะข่ม พระใบลานเปล่าแท้ๆ ก็ประยุกต์และอนุวัตรตามยุคสมัยบ้างพระพุทธเจ้ายังตรัสไว้
นั่งเรือหาฝั่ง..แต่ไม่กล้าพายเรือ..กลัวพายผิด..ยึดมั่นแต่เรือกับพาย..ชาคิไหนถึงฝั่ง..ชาติไหนทิ้งเรือได้ละ..สาธุ
เอางี้นะ ง่ายๆ เลย อิทธิปาติหารย์ หายตัวไปโลดดด หลวงพ่อ ได้ฌาน 4 นะหลวงพ่อ หายตัวไปบิณบาตร ด้วยนะ ด้วยความเคารพ
ถ้าจะเถรตรงขนาดนั้นก็นิมนต์เดินเอาครับ ไม่มีใครว่า
ยานพาหนะสมัยก่อนใช้สัตว์ เป็นการทรมารสัตว์ รถยนต์ ไม่เป็นไร แต่หากพระขับอย่าวิ่งทับหญ้า ทับสัตว์
Yon Srirong ชอบเม้นนี้
ไอ้คนที่มาว่าพระมาบวชหน่อยสิ
แค่คำว่ายานยังเห็นไม่ตรงกันเลย
😂😂😂😁😁 หลายปีแล้ว
ก็ยังซ่ำเก่า คำถ่ามแบบนี้ ,
หลวงพอ ใจร้อนเกิน 😁😁
ผู้ตอบเกือบบ่ทัน !
เดินไปธุระได้ป่าวถ้าได้ค่อยคุยกัน
ช้างกับม้ากับรถ ผมสงสัยว่ามันเหมือนกัน
ตรงใหน..ถ้าฝึกเล่นเพื่อความ
สนุกสนานเล่นก็ไม่ควร
แต่นี้มันเป็นยานที่ไม่มีชีวิต
สาธุ
ถ้าไม่อาสัยยานพระพุทธศาสนาจะถึงประเทศไทยหรอ คิดสิครับ ศาสนาเชนยังไม่ออกจากอินเดียเลยเพราะเขาห้ามไปในยาน
ท่านก็นั่งเรือมามั้ง
นั้นมันสมัยพุทธกาล.นี้โลกเขาไปถึงไหนแล้ว
หลวงพ่อแกคงไม่เข้าใจที่พระยกเรื่องเรื่อวว่านั่งโดยสารเรือได้เพราะไม่ใช้แรงงานสัตว์ลาก ฉะนั้นการนั่งรถยนต์ก็ย่อมได้
ยานน่ะต้องแยกเป็นยานพาหะนะ ส่วนสะพานหรือร่มน่ะไม่เกี่ยวข้องกับวินัยข้อนี้เลย ท่านไม่อนุญาติให้นั่งเพราะถือหลักเมตตาไม่เบียดเบียนแรงงานสัตว์หรือคนที่ลากประสงค์แค่นี้ กับการนั่งยานในเชิงว่าแห่แหนแบบกษัติย์คือนั่งเอาโก้ไม่ได้มีจุดประสงค์ในการเดินทางแบบนี้ก่ไม่ควร ผมวินิฉัยเอง
+1 ถ้าใช้วิจารณญาน เข้าใจได้ตามนั้นครับ
สมัยนี้ทำไม่ได้แล้ว อาบัติเล็กน้อย
ผมเห็นด้วยนะครับที่ขี่ได้ แต่ให้ขับเองหรือเป็นเจ้าของนี้คงไม่ใช่เพราะถือเป็นทรัพย์ด้วย และไม่เหมาะสมชาวโลกติเตียน
จริงนะสมัยพุทธกาลนั้นพระศาสดาใช้เดินทางเท้ามาตลอดเลย
มหาปเทศ4จบ
มหากลุ่มนี้ต้องเจอหลวงตามหาบัว...
สมัยก่อนมันไม่มีรถแบบสมัยนี้ พระองค์ท่านจึงให้ใช้รองเท้าอย่างเดียว
หลวงพ่อช่างไม่มีมารยาทเอาชะเลย
คำพูดก็ไม่นุ่มนวน แถมยังพูดแทรกพระวินัยธรที่กำลังพูดอยู่เสมอๆ
พิธีกร...หลวงพ่อท่านถามไม่ได้หมายคำว่าท่านปฏิบัติได้ดอก...
หลวงพ่อออกแนวจะไปนิพานนะครับ
สามล้อเครื่องไม่อาบัติ สามล้อถีบอาบัติ นั่งรถใช้คน,สัตว์ลากเป็นอาบัติ ตนนั่งรถเข็นใช้มอเตอร์หรือใช้มือตัวเองหมุนล้อไม่อาบัติ ฉะนั้นถ้าเป็นเครื่องกลไม่อาบัติ ถ้าใช้แรงคนแรงสัตว์เป็นอาบัติ ยกเว้นชราภาพมากหรืออาพาธหนักต้องหามในที่รถยนต์จักรยานยนต์เข้าไม่ถึง
สรุปว่าได้หรือไม่ได้ครับผมว่าเรื่องเป็นเรื่องสภามติของคณะสงฆ์นะค รับ
คำสอนก็บอกว่า ห้ามทำผิด เช่น ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ เสพเมถุน พูดเท็จ ดื่มสุรา
กล้าหรอที่ให้นั่งรถยนต์มีอาบัติ ถ้าให้มีอาบัติ คงต้องไปเคลียกับพระสังฆราชก่อนเลยมั้ง
ถ้าพายเรือไปได้ ทำไมขับรถยนต์ถึงไม่ได้
รณพงศ์ มิ่งศิริ สมัยผมบวชเณรพระรูปนึงเคร่งมากออกบิณทบาตเดินใม่เหลียวแลซ้ายขวาเดินตรงใม่เลี้ยวใม่เว้นวันนึงฝนตกตอนกลางคืนพอเช้ามาน้ำท่วมทางที่เดินบิณทบาตทางตรงนั้นมันจะต่ำเป็นแอ่งอยู่แล้วน้ำเลยขังถึงตาตุ่มแต่มันมีเนินที่พอหลีกเว้นเพื่อนข้างหลังเว้นหมดมีพระรุปนี้บอกว่าอย่าแตกแถวต้องระเบียบสำรวมแกเดินลุยคนเดียวประมานสมเมรตก้อจะพ้นแอ่งแกลุยเลยเหยีบเสดแก้วกรืออะไรใม่รู้เย็บสิบเอ็มบวมบิณทบาตรใม่ได้ตั้งหลายวันเลย
โลกวัชชะ ขึ้นอยู่กับสังคมนั้นๆยอมรับหรือไม่ยอมรับ ไม่ทั่วไป
รณพงศ์ มิ่งศิริ พายเรือ ไม่สามารถชนคนตายได้ ไม่เหยียบตัวสัตว์ให้ตายได้ แต่ขับรถ เห็นชนคนตายมาแล้ว บาดเจ็บก็เยอะ สร้างความเดือดร้อนให้ตัวเองและคนอื่นได้ (ในบางครั้งที่พลาด)
เรื่อนี่พระพุทธเจ้าให้นั่งได้ ให้จำพรรษาบนเรื่อได้
แต่รถปัจจุบันนี่เราไม่รู้ครับ
เรือก็ห้ามพายเอง
ภิกษุหาสวดตามงานต่างๆไปเอาบทสวดมาจากพระพุทองค์ไหนครับ(เพราะผมเห็นบ้างวัดสวดงานศพต้องจ่ายหลายหมื่น.เข้าขายหลอกลวงมั้ยแบบนี้
อันนั้นก็ไม่ได้อันนี้ก็ไม่ได้..วินัย227ข้อ..จนมาถึง.พ.ศ.นี้..อาจจะมีมากกว่าพันข้อแน่เลย..พากันกำหนดกฎเกณออกมาเองทั้งนั้น..
ยาน(รถยนต์,เครื่องบิน)ที่มีคนขับ คนขับก็ใช้แรงงานคนอยู่นะครับ
รณพงศ์ มิ่งศิริ ไม่ได้ใช้แรงลากครับ แค่นั่งขับ
ถัาขับผิดเจ้าข้า
แรงงานคนลากหรอ
แล้วถ้ามีกิจนิมนต์ไกลๆและต้องทำวันนั้นล่ะ ต้องเหาะไปเลยใช่ป่ะ55
หลวงพ่อเก่งนะ
ผู้ตั้งสามยังอ้อแอ้ๆ
ท่านเรียนมาจากอะไร ตีความหมายไม่แตกหรือ
ที่ผมไม่ควรคือ "พระนั่งรถหรู" เสียสมณสารูปครับ
ถ้ารถเมล์ แท๊กซี่ รถบ้านๆ นิมนต์เลยครับ สาธุ
พระธรรมวินัยก็เคร่งเกิน ถ้าไม่ให้พระนั่งรถ จาให้พระเดินไปเหรอ เวลาฝนตกล่ะทำไง คือให้พระเดินตากฝนช่ายมั๊ย ถึงจาไม่ผิดรึ
ทางสายกลางครับ....
สอนคนอื่นได้สอนตัวเองได้หรือป่าว
ขุดหลุมดักตัวเอง
เอาคนมาขับก็เท่ากับว่าทรมารคนขับ
มีคำถามว่า พระภิกษุ ต้องอาบัติขนาดใด ถึงจะทำการภาวนา ไม่ได้ฌาณ หรือฆารวาส ต้องมีมนทินขนาดใด ถึงจะทำการภาวนาไม่ได้ฌาณ ครับผม
อาบัติที่ทำให้จิตใจเศร้าหมอง ก่อกวนจิตใจนั้นแหละ
ไม่เข้าใจว่าการเว้นจากสิ่งเหล่านี้ได้แล้วเป็นเหตุให้บรรลุได้เหรอ ก็ไม่เห็นบรรลุกัน ยุคสมัยเปลี่ยนไป แต่จะกลับไปทำแบบสมัยป่าดงเอามาเป็นหลักปฏิบัติ บ้างข้อก็พอสงเคราะห์ได้ หากจะเอาเป็นเอาตายขนาดนั้นคงไม่แบ่งศีลออกเป็นประเภทหรอกว่าอะไรเป็นศีลได้บ้าง ศีลบางข้อผมยังไม่เข้าใจเลยว่าเป็นเหตุให้ถึงนิพพานได้จริงหรือไม อย่างเช่น ห้ามทำคำข้าวให้ใหญ่นัก ในเสขิยวัตร ผมถามหน่อย แค่คำข้าวเป็นเหตุให้บรรลุธรรมได้ยังไง อธิบายเป็นธรรมทานใ้ห้ผมฟังหน่อยซิบรรลุยังไง ที่พากันอ้างหนักอ้างหนาว่า ศีลเป็นเหตุให้ถึงนิพพาน
นั่งเครื่องบินไม่น่าได้ เป็นยานนะ
เพราะอวดอุริตด้วย เพราะเหาะ นั่งหรือยืนเหนืออากาศ โธ่อยากหาเรื่อวพระ ไปหากินดีกว่าไหม
ไม่ใช่โยงมั่ว
ผมเคยเห้นทา่นไม่ใส่รองแต่ทา่นมีรถสว่นตัว
อธิบาย วกไป วนมา ให้แน่นกว่านี้ค่อยออกมาเก่ง
ทำไมต้องยึดกฏเก่าแก่..ในเมื่อยุคสมัยมันเปลี่ยนไป...พระชั้นผู้ใหญ่..มีเงินทอง..หาซื้อใว้ใช้งานเองได้..จ้างคนขับรถได้..แต่พระชั้นสามัญ...ลำบากในการเดินทาง..ยิ่งอยู่ไกลจากตัวเมือง..ไกลชุมชน..มีความจำเป็นต้องใช้รถในการเดินทาง..และ.คนขับขี่ก้อมีความจำเป็นต้องขับขี่เอง
ภิกษุทั้งหลวยไม่ควรบังคับขับขี่ยานด้วยตนเองแต่คฤหัตถ์ผู้มีศรัธานิมนต์ให้พระภิกษุโดยสารไปได้
ด้วยความเคารพค่ะความเห็นส่วนตัวค่ะตัองดูทีเจตนาค่ะถ้าไปบรรยายธรรมต่างประเทศจะให้เดินไปหรือค่ะด้วยความเคารพค่ะ
ท่านก็ตอบ ว่า กรณีโดยสารมิใช่หรือ โดยสารได้แต่ ห้ามขับ เอง จาก ปุถุชน
ผมเข้าใจว่าท่านห้ามไช้สัตว์ลากแต่ยุคนี้ไม่ไช่สัตว์ลากผมคิดว่ายานที่ไม่ไช่สัตว์น่าจะไช้ได้นะครับ
แล้ววัดอาชาทองใช่ม้าเป็นพาหนะผิดไม่คับที่ออกบินฑบาตร
ผิดแน่ เอาที่สบายตัวรู้ว่ายุไกลก็ยังไม่มาที่ไกล้ แต่ดันไปขี่ม้า
วัดนั้นสาขา วัดเส้าหลินขี่ม้าฝึกวรยุทธ
เดี๋ยวนี้พระขับรถส่วนตัวซิ่งเลยค่ะ
ห้ามทำผิด บอกเขาไป