คนบ้างานคือคนเหงา? | ความสุขโดยสังเกต EP.20

แชร์
ฝัง
  • เผยแพร่เมื่อ 19 ธ.ค. 2019
  • จากความรู้สึกว่าเวลาเป็นเงินเป็นทอง หลายคนเลยเลือกที่จะทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับงาน โดยลืมถามไปว่า เรากำลังบ้างานอยู่หรือเปล่า ความสุขโดยสังเกตพอดแคสต์ ชวนตั้งคำถามกับตัวเองว่า เหตุผลแท้จริงที่ผลักให้เราออกไปทำงานคืออะไร เรากำลังวิ่งหนีอะไรลึกๆ ในใจ หรือมีรูโหว่ในใจอะไรที่เราต้องการเติมเต็ม เพื่อให้ลองถามตัวเองอีกครั้งว่า มันแก้ไขได้ด้วยการทำงานให้มากขึ้นจริงหรือเปล่า?
    ---------------
    THE STANDARD PODCAST : EYE-OPENING FOR YOUR EARS
    พอดแคสต์จากสำนักข่าว THE STANDARD
    Website : www.thestandard.co/podcast
    SoundCloud: / thestandardpodcast
    Spotify : open.spotify.com/show/6Sq8FnI...
    Twitter : / thestandardpod
    Facebook : / thestandardth
    #ความสุขโดยสังเกต #TheStandardPodcast #TheStandardco #TheStandardth
  • แนวปฏิบัติและการใช้ชีวิต

ความคิดเห็น • 88

  • @user-qn9pr4pp1z
    @user-qn9pr4pp1z 4 ปีที่แล้ว +20

    ถ้าเราทำงานที่เรารัก มันเหมือนไม่ใช่งาน มันเหมือนการใช้ชีวิต

  • @maccatoy.review5156
    @maccatoy.review5156 4 ปีที่แล้ว +29

    ระหว่างฟังคลิบนี้ผมนั่งทำงานอยู่ ผมรู้สึกดีมาก ผมโชคดีที่ได้ทำงานที่ชอบ วันนึงผมไม่อยากให้เวลาหมดลงเลย ผมรู้สึกทุกวันว่าทำไมเวลาหมดอีกแล้วยังอยากทำงานอยู่เลย
    อยากให้ทุกคนหางานที่ตัวเองชอบให้เจอ

    • @backtothefuture5210
      @backtothefuture5210 ปีที่แล้ว +2

      ทุกวันนี้เป็นไงบ้างคะ

  • @INKKKE
    @INKKKE 4 ปีที่แล้ว +71

    เคยอกหักค่ะ แล้วตอนนั้นเคว้งมาก ก็เลยหางานทำ ทำงานๆๆๆ ทุกๆอย่าง ทำให้รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่ามากยิ่งขึ้นค่ะ

    • @sarutwitheng4202
      @sarutwitheng4202 4 ปีที่แล้ว +12

      ใช่ค่ะเคยเป็น ทำงานให้หนักเพื่อให้ไม่มีเวลาคิดถึงเขา ทำให้เหนื่อยแล้วก็หลับไป

    • @INKKKE
      @INKKKE 4 ปีที่แล้ว +3

      Sarut _NEW แง่ เข้าใจเลย แต่ตอนนี้เราทำงานน้อยลงแล้วค่ะ เพราะอยากพยายามแบ่งงเวลาให้กับคนที่รักเรา เป็นกำลังใจให้คนที่บ้างานเพราะเรื่องแบบนี้นะคะ :)

    • @iamtingnutthapong1169
      @iamtingnutthapong1169 4 ปีที่แล้ว +3

      สู้ๆนะ😊

    • @saxover2148
      @saxover2148 3 ปีที่แล้ว

      จริงครับ.😂

  • @Aout2002
    @Aout2002 ปีที่แล้ว +1

    เสียดายที่มาได้ฟังหลังอายุ 60 แล้ว "ไม่ยอมให้มีผลงานระดับปานกลางโดยเด็ดขาด" ชอบ ประทับใจ แลำทำมาทั้งชีวิต ผ่านมาแล้ว ได้แค่บอกคนรุ่นหลัง "อย่าทำผิดตามผมอีก ลูกแก้วเมียขวัญ คือ ความสุขแท้จริงของชีวิต" โดนเกือบทุกข้อ แต่แค่คิดว่า "ทำ 100% หรือ 50%. ได้ผลต่างกันไม่มากเท่าสัดส่วนของความพยายาม" สูญเสียโอกาสหลาย ๆ อย่างในชีวิต ที่มันเอาคืนไม่ได้ !

  • @tamamoe1990
    @tamamoe1990 4 ปีที่แล้ว +23

    ได้เงินน้อย ไม่พอใช้ ไม่พอสร้างตัว เลยต้องทำโอที อยู่เวรครับ

  • @user-kd1fr1bw5g
    @user-kd1fr1bw5g 4 ปีที่แล้ว +13

    ไม่ได้บ้างาน ไม่ได้เลือกงาน เพียงแต่ทำแต่งานไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนเพราะคิดว่าสิ้นเปลือง เวลาพักวันหยุดจะอยู่แต่ที่ห้องไม่ไปไหนทั้งนั้นเพื่อพักร่าง

  • @porn1chai
    @porn1chai 4 ปีที่แล้ว +12

    เมื่อก่อนเคย อยากเป็นคนที่ทุกคนรัก ไม่ทะเลาะกับใคร อยากได้คำชื่นชม
    เวลาทำความดี ก็อยากให้คนอื่นรู้และพูดชม เคยคิดว่าคนที่ทำความดีอย่างน้อยให้คำชมกลับไปเป็นกำลังใจให้เขาได้ทำต่อไป ซึ่งเราก็อยากได้คำชม
    เดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปแล้ว มีความสุขจากความเรียบง่าย ทำในสิ่งที่สบายใจ ในปริมาณที่สบายใจ ไม่ได้ทำเต็มความสามารถ
    แค่ทำเท่าที่อยากทำ เลิกคิดว่าใครจะเห็น จะชม หรือ จะตำหนิ เลิกอวดรวย อวดเก่ง อวดตำแหน่ง
    และ ล่าสุดที่รู้สึกแล้วยังแปลกใจกับตัวเองคือ ไม่อยากได้รับคำชมแล้ว อยู่ดีๆก็คิดขึ้นมาว่า เวลาใครมาชมเราว่า คุณสุภาพจังเลย คุณมีรสนิยมดีนะครับ คุณประสบความสำเร็จในสิ่งใดๆ หรือคุณสวย หล่อ หุ่นดี ฯลฯ มันกลายเป็นว่า ถ้าเรายึดคำชมนั้นเราก็จะต้องรักษา ความสุภาพ รสนิยมดี ทำให้ประสบความสำเร็จต่อไป รักษาหน้าตา หุ่นให้ดีตลอดไป คือ คำชมเป็นการกดดันให้รักษาสภาพนั้นๆไว้ ซึ่งเราอาจจะอยากทำสบายๆ อิสระก็จะอึดอัดกับคำชม

  • @pandastaff
    @pandastaff 4 ปีที่แล้ว +4

    เราเองไม่ใช่คนบ้างานขนาดนั้น แต่ก็ยอมรับว่าการกระทำบางอย่างมีไว้เพื่อหนีปัญหาที่แท้จริงเช่นกัน

  • @pookieb6429
    @pookieb6429 4 ปีที่แล้ว +11

    อกหัก จึงอยากทำงานหนักๆเพื่อไม่ให้มีเวลานึกถึงคนนั้น เอาเวลามาทำประโยชน์น่าจะดีกว่า

  • @imMina1638
    @imMina1638 4 ปีที่แล้ว +1

    ดีใจที่วันนี้ได้ฟังค่ะ ทำให้สังเกตเห็นตัวเองมากขึ้น

  • @user-dp7fq9tc8l
    @user-dp7fq9tc8l 4 ปีที่แล้ว +2

    ชอบเสียงมากค่ะเสียงน่าฟังมีพลัง

  • @k.blablabla2978
    @k.blablabla2978 3 ปีที่แล้ว +5

    เพิ่งได้รู้วันนี้ว่าอาการบ้างานเพราะต้องการเติมเต็มบางอย่างไม่ได้เป็นแค่กับเราคนเดียว ตอนแรกคิดว่าตัวเองจะบ้าซะแล้ว 5555 เคยเป็นบ้าเป็นหลังเหมือนกันค่ะ แต่เป็นกับการเรียน ไม่ใช่การทำงาน ตอนนั้นยังเรียนอยู่มหาลัย ความสัมพันธ์ในความรักและก็เพื่อนไม่มีอะไรดีสักอย่าง แล้วจู่ๆ ก็เหมือนมีไรมาเข้าสิงไม่รู้ เราตั้งใจเรียนอย่างหนักหน่วง เรียนแบบเอาเป็นเอาตาย ไม่มีความยืดหยุ่นในตัวเองเลย จนกระทั่งเกรดพุ่งทะยานจาก 2.2 เป็น 3.7 คิดว่าเกรดจะเป็นสิ่งยืนยันได้ว่าเราก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นนะ มองกลับไปแล้วก็ไม่เคยเสียใจแต่น่าเศร้านิดนึงตรงที่ตอนนั้นเราแทบไม่มีใครเลย ไม่มีใครไปเพื่อนอ่านหนังสือเราก็ไปคนเดียว ขับรถมอเตอร์ไซค์กลับดึกๆดื่นๆ เราก็ไม่กลัว จนบางอย่างมันขาดหายไปในชีวิตมหาลัย ตรงนี้ความเสียดายมันกลับมากกว่าความภูมิใจที่เราเรียนดีขึ้นอีก

    • @mylollipop537
      @mylollipop537 3 หลายเดือนก่อน

      จริงค่ะ เหมือนชีวิตขาดสีสันอะไรบางอย่างไปจริงๆ😢

  • @dosfullo
    @dosfullo 4 ปีที่แล้ว +6

    ทำไมผมตรงข้ามมากเลยไม่เข้าใจคนบ้างานจริงๆเว้ยยยยยยยยยย
    แต่เริ่มเข้าใจแล้วนิดนึงอยากพิสูจน์ด้วยตาตัวเองเพราะไม่เคยคิดมุมนี้เลย เดี้ยวลองมคนรอบตัว

  • @chariya587
    @chariya587 4 ปีที่แล้ว +1

    บ้างานของแท้ 👍🏻👍🏻👍🏻 ขอบคุณที่แนะนำค่ะ

  • @user-cj9rh6jb7s
    @user-cj9rh6jb7s 4 ปีที่แล้ว

    ขอบคุณมากนะครับ

  • @thikhat8197
    @thikhat8197 4 ปีที่แล้ว +1

    เรากำลังเป็นอยู่เลยค่ะ ขนาดแค่มีวันหยุดยังรู้สึกว่าเสียเวลามากๆ ไม่ต้องการอยู่บ้านว่างๆ อยากออกไปทำงาน

  • @kritchanatchaipanya225
    @kritchanatchaipanya225 4 ปีที่แล้ว

    ขอบคุณจริงๆคับ

  • @chutikanh3106
    @chutikanh3106 4 ปีที่แล้ว +3

    ดิฉันชอบทำงานมากค่ะ​ ฟังแล้วตรงทุกข้อเลย

  • @dedechannel5055
    @dedechannel5055 4 ปีที่แล้ว +3

    อยากมีกินมีเก็บในอนาคต

  • @user-kg9ro2zn5h
    @user-kg9ro2zn5h 4 ปีที่แล้ว +4

    ตายคาบริษัทจะได้3อย่าง..1.หรีด1พวง2.เจ้าภาพ1คืน.3.เงินใส่ซองนิดหน่อยผ่านไปเดือนนึงเก้าอี้ที่เราเคยนั่งก็มีคนมานั่งแทนแล้วเราก็จะกลายเปนผู้ถูกลืม...โลกมันเปนแบบนี้

  • @coachneng1417
    @coachneng1417 4 ปีที่แล้ว

    ขอบคุณนะคะ

  • @pooree4488
    @pooree4488 2 ปีที่แล้ว

    ตรงกับตัวเองทุกอย่างเลยครับ

  • @failogy
    @failogy 4 ปีที่แล้ว +8

    เห็นด้วยครับ ในมุมที่ว่า ถ้าจะทำอะไรแบบบ้าคลั่ง ควรหันมาวิเคราะห์ตัวเองซักหน่อยว่า ทำไปเพราะปมอะไรบางอย่างในใจหรือเปล่า?
    แต่เอาจริงๆนะ มันยากที่จะรอดพ้นจากปมใจใน มันเป็นตัวขับเคลื่อน(drive)หลัก อยู่เบื้องหลังเลย ว่าแต่ละคนจะลงมือทำอะไร. แต่อย่างน้อย ถ้าลงมือทำไปด้วยความเข้าใจตัวเอง ก็น่าจะดีกว่า.

  • @wany2350
    @wany2350 4 ปีที่แล้ว +3

    คือ ผมอยากเก่งครับ ผมทำจนไม่คิดถึงใครเลย อาจจะเพราะผมมีปมด้อย
    เลยอาจจะเก่งมากจนให้คนอื่นยอมรับ

  • @stephaniesisi1071
    @stephaniesisi1071 4 ปีที่แล้ว +4

    ຂອບໃຈຫຼາຍ ໆ

  • @baby_airock2383
    @baby_airock2383 4 ปีที่แล้ว +1

    ถ้างานที่รักและชอบ นะครับ

  • @sarayootnuannaw8918
    @sarayootnuannaw8918 4 ปีที่แล้ว +2

    ผมไม่บ้างาน แต่ในทุกวันผมจะบ้าฝึกกีต้าร์ ให้เก่งขึ้นๆในทุกๆวัน เพื่อให้รู้สึกภูมิใจในตัวเองครับ

  • @PinkStarFaiz
    @PinkStarFaiz 4 ปีที่แล้ว +1

    ทำเพราะเหงาค่ะ กลับบ้านไปก็อยู่คนเดียว แฟนไม่มี พ่อแม่ไม่ค่อยได้คุย คุยกันไม่เท่าไรก็ทะเลาะกัน ก็เลยไม่มีไรทำ ก็นั่งทำงานต่อไปดีกว่า อย่างน้อย ในออฟิศยังมีคนเดินไปเดินมา ไม่เหงา เจ้านายชมว่าขยัน ดูมีคุณค่า

  • @nathanalgren1750
    @nathanalgren1750 4 ปีที่แล้ว +1

    ขอบคุณมากครับ :)

  • @pasinphadungcharoen5311
    @pasinphadungcharoen5311 4 ปีที่แล้ว +3

    มีตามที่คุณนิ้วกลมบอกนิดหน่อย อาจเพราะผมทำงานเกี่ยวกับศิลปะ เลยต้องคิด ชอบท้าทายตัวเอง ทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆและให้รายละเอียดกับมันด้วยตัวผมเองเท่านั้น(คนอื่นมาทำแทนได้ยากจริงๆ) แต่ผมก็โชคดีมากเพราะผมไม่คิดว่าทำงาน เรากำลังทำในสิ่งที่ชอบสิ่งที่รักมากกว่า ส่วนด้านอื่นๆของชีวิตก็บาลานซ์ให้ดีที่สุด ขอบคุณEP.20ครับ^^

  • @user-qj3nn8rf3o
    @user-qj3nn8rf3o 4 ปีที่แล้ว

    ขอบคุณครับ

  • @puypuy6374
    @puypuy6374 4 ปีที่แล้ว

    21/6/62 ฟังอีพีนี้ เดี๋ยวไล่ย้อนดูทุกอีพี

  • @Popechannel-jd8jh
    @Popechannel-jd8jh 3 ปีที่แล้ว

    ดีครับ

  • @sintia4397
    @sintia4397 4 ปีที่แล้ว +6

    หลวงพ่อสอนว่า
    คนด่าไม่ให้โกรธว่ายากแล้ว........
    คนชมยังไงไม่ให้ยิ้ม ยิ่งยากกว่า

    • @nouveauriche5371
      @nouveauriche5371 3 ปีที่แล้ว +1

      ขอบคุณ​มากค่ะ

  • @panidachayakun7764
    @panidachayakun7764 3 ปีที่แล้ว

    แค่ชื่อก็ใช่แล้วค่ะ

  • @user-hd8cu3jg5i
    @user-hd8cu3jg5i 3 ปีที่แล้ว

    ยังจนเลยต้องบ้างานครับ

  • @touchybaby009
    @touchybaby009 4 ปีที่แล้ว +53

    ปาวครับ คือคนเป็น หนี้ 55555

  • @janethara18
    @janethara18 3 ปีที่แล้ว +1

    ไม่เคยคิดว่าตัวเองบ้างานจนมาคลิปนี้
    ทำงานทุกวัน คิดงานตลอดเวลาจนเวลาไปเที่ยวยังรู้สึกผิดเพราะไม่ได้ทำงาน5555

  • @TWENTY2SIX_Foto
    @TWENTY2SIX_Foto 4 ปีที่แล้ว

    ผมเอง ประสบความสำเร็จ ด้านการงานระดับหนึ่ง เป็นช่างภาพฟรีแลน ที่มีงาน ที่มีคุณภาพ ได้ลงแข่งวิ่งฮาฟมาราธอนได้หลายเหรียญ แต่ ความสัมพันธ์กับคนที่รัก ไม่ดีเลย เกิดจากผม บ้างานไปหรือไม่

  • @SingleSweetGirl
    @SingleSweetGirl 4 ปีที่แล้ว

    เราเข้าใจในมุมนี้ เคยผ่านมาแระ

  • @ROMANMAKEAMOVE.
    @ROMANMAKEAMOVE. 4 ปีที่แล้ว

    ดีมากเลยครับ

  • @chatchaibourngam9305
    @chatchaibourngam9305 4 ปีที่แล้ว +2

    ทำไมๆ ถึงต้องเข้ามาตอบคำถาม ที่ผมสงสัยทุกที หรือว่า สังคมกำลังขับเคลื่อนไปคล้ายๆกัน ขอบคุณมากครับ สำหรับ คอลัมเนื้อหาดีๆแบบนี้

  • @littlel2616
    @littlel2616 4 ปีที่แล้ว +1

    เหงา คะเพราะต้องการลืมความเจ็บปวด

  • @user-qn9pr4pp1z
    @user-qn9pr4pp1z 4 ปีที่แล้ว

    กาย ใจ จิต

  • @thedreamoflittlehooper1581
    @thedreamoflittlehooper1581 2 ปีที่แล้ว

    ผมว่าคนประมาณ​80%ที่ฟังช่องนี้ล้วนบ้างานคับ😅

  • @user-ug1it7ds3p
    @user-ug1it7ds3p 3 ปีที่แล้ว

    นี่บ้างานมากตอนนี้เพราะชอบสนุกดี แต่พอเพื่อนแวะมาหานานๆทีก่สนุกดีแต่บ่อยๆรู้สึกอึดอัด ไม่เหงาแฮะช๊อปปชอบ เพราะต้องเข้าใจเริ่มจากศูนย์มันก่จะเหนื่อยหน่อย แต่พอลงตัวคิดว่าคงจะโอเครขึ้น ถ้าลงตัวก่ปล่อยแล้วเที่ยวแบบสบายจายยยยยยยย นะน้องนะ🤣😂 แล้วดั๊านนเผอิญเที่ยวมาเยอะแระทุกรูปแบบ เที่ยวเก่งไม่ได้แปลว่าเท่ห์ ผ่านมาหมดแระเที่ยวจนเบื่อ เพราะใช้เงินตัวเองที่หามาเองใช้เที่ยวใช้จ่ายมันภูมิใจกว่ากันเย๊อะะะะะะะ

  • @mathematictrader4848
    @mathematictrader4848 4 ปีที่แล้ว +2

    ถ้าตอบเลย ผมว่าคนบ้างานคือคนไม่ขี้เหงาครับ ไม่ติดเพื่อน ไม่โหยหาสังคม
    ไม่งั้นบ้างานไม่ได้หรอกครับ

  • @eyeawassada2890
    @eyeawassada2890 ปีที่แล้ว

    เป็นผญ ที่บ้างาน ไม่ชอบตัวเองเลยค่ะ เหมือนหลงไปอยู่ในอีกมิติ ที่คนอื่นเข้าไม่ถึง ออยเกินเหตุไม่เข้าใจตัวเอง😭😭

  • @empotongnak5710
    @empotongnak5710 3 ปีที่แล้ว

    ทำงานหนัก เพราะอยากเห็นผลของงาน มันจะออกมาได้ดีประมาณไหนน้า..ทำไปก็คิดประมาณนี้

  • @fear0zero
    @fear0zero 4 ปีที่แล้ว

    อีกอย่างคือผลประทบครับ หัวหน้าตรงเป็นแบบในคลิป70%++เลยครับ(ไม่รู้แค่มุมส่วนตัว) ลูกน้องเลยเหนื่อยและมีแนวโน้มจะบ้างานตามแล้วครับ 😞
    สั่งงานส่งข้อมูล 5ทุ่มบ้าง ตี5บ้าง วันดีคืนดีโทรมาคุยสรุปงานตอน4ทุ่ม วางสายเกือบเที่ยงคืน เสาร์อาทิตย์ถ้าไม่ลาหรือแจ้งล่วงหน้าว่ามีธุระ ตามงานเหมือนวันปกติ ต้องไปหยุดวันจันทร์ที่หัวหน้าประชุม เสร็จกลางคืนวนลูปต่อ -*-
    ***งานบริหารงานตัวแทนฝั่งเซลส์นะครับ

  • @therkak2724
    @therkak2724 4 ปีที่แล้ว +7

    ສະບາຍດີວັນເສົາ....

  • @nookkulnaree
    @nookkulnaree 4 ปีที่แล้ว

    แนวโน้มคนบ้างานน่าจะเป็นคนลักษณ์3ในenneagram

  • @Popechannel-jd8jh
    @Popechannel-jd8jh 3 ปีที่แล้ว

    อยากมีเงินเก็บเยอะๆเพื่อลูกครับ

  • @user-pe9vy4qe8g
    @user-pe9vy4qe8g 2 ปีที่แล้ว

    ถ้าเหลือ 24 ชม. สุดท้าย ผมจะไปทำงานเพื่อที่จะได้พบกับคนที่คุ้นเคยครับ

  • @sta9706
    @sta9706 4 ปีที่แล้ว

  • @gyhufuj5188
    @gyhufuj5188 4 ปีที่แล้ว

    ไช่ๆเพาะสังเกตดุคนรอบตัวก้มักจะเปนอย่างนั้นจิงๆ

  • @annyconsy
    @annyconsy 4 ปีที่แล้ว

    หนี้เยอะค่ะ

  • @Aunchi
    @Aunchi 2 ปีที่แล้ว

    🥺

  • @hideko911
    @hideko911 4 ปีที่แล้ว +1

    ที่ญี่ปุ่นมีเยอะนะ ตายคาโต๊ะทำงาน

  • @puritk.9817
    @puritk.9817 4 ปีที่แล้ว +1

    (แกะเทปคำพูด)
    .
    คุณเป็นคนบ้างานหรือเปล่าครับ? เมื่อตอนที่แล้วเราพูดถึงเรื่องความรู้สึกว่าเวลาเป็นเงินเป็นทอง จนทำให้บางคนรู้สึกผิดที่ปล่อยเวลาทิ้งไปโดยไม่ทำอะไรเลย ซึ่งทรรศนคติแบบนี้ทำให้
    บางคนเป็นคนบ้านงาน การติดงานก็เหมือนการติดเหล้า เลิกไม่ได้ถ้าไม่ได้ทำก็จะเป็นทุกข์ หงุดหงิด ฟังเผิ่นๆแล้วดูดี เหมือนเป็นคนขยัน แต่ก็มีคนบ้างานจำนวนหนึ่งที่บ้ามากจนตายคาโต๊ะทำงาน โดยเฉพาะสังคมที่ให้ความสำคัญกับการทำงานหนัก ในไทยเองก็มีคนบ้างานอยู่เยอะพอสมควรเหมือนกัน
    .
    คำว่า workaholism ปรากฏในภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน ในปี 19971 มาจนถึงวันนี้เราทำงานมากกว่าตอนนั้นถึง 200 ชั่วโมง วัดกันง่ายๆคือเราทำงานมากกว่า 50 ปีก่อนปีละ 1 เดือน ดูแล้วเราบ้างานมากขึ้นมาก และโลกก็เหมือนจะหมุนไปทางนั้นจนเรารู้สึกว่ายิ่งทำงานเยอะก็ยิ่งดีคำถามก็คือว่า ทำไมเราถึงทำงานหนักขนาดนั้น ถ้าเกิดว่าเหตุผลมันนอกเหนือจากการหาเลี้ยงชีพแล้ว
    .
    ในหนังสือ emotion equation ซึ่งเขียนโดยคูณ Chip Conley กล่าวว่าการเสพติดงานก็เหมือนกับการเสพติดอย่างอื่น คือเราเสพติดมันเพื่อเปลี่ยนอารมณ์ตัวเอง หรืออยากหนีไปจากอารมณ์บางอย่างของเรา นั้นอาจเป็นความกลัวที่ครอบงำเราอยู่ เช่นความรู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณค่าหรือไม่เป็นที่รักของคนอื่น หรือความกลัวเช่นกลัวความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง ไม่อยากใช้เวลากับคนรักที่ยาวนาน หรืออาจจะกลัวความล้มเหลว หรือแม้กระทั่งกลัวความสำเร็จ

    • @puritk.9817
      @puritk.9817 4 ปีที่แล้ว

      .
      บางคนที่ฟังอยู่อาจรู้สึกว่าตัวเองก็ทำงานหนักแต่ไม่แน่ใจว่าอยู่ในเคสบ้างานหรือเปล่า หรือบางทีคนใกล้ตัวของคุณอาจจะมีอารมณ์คล้ายๆกันนี้จะเข้าข่ายคนที่บ้างานหรือเปล่า ผมก็เลยมี check list มาให้ลองตรวจสอบกันดู ลองไล่ไปทีละข้อนะครับว่าคุณเป็นแบบนี้หรือเปล่า
      1.คุณมักจะทำงานติดพันจนละเลยครอบครัว เพื่อน หรือสุขภาพตัวเอง คือถ้าทำงานแล้วเลยเวลา ถ้ามันจะตี 4 ไปสัก 2 วันก็ไม่เป็นไรถ้าเราได้ทำงานที่เราอยากจะทำ
      2.ถ้าให้วาดแผนภูมิวงกลมที่แสดงที่มาของความนับถือตัวเอง งานจะมีสัดส่วนมากกว่าเรื่องอื่นในชีวิต
      3.เวลาไปงานปาร์ตี้คุณจะคุยกับคนในเรื่องงานเยอะมาก ถ้านับเป็นเปอร์เซ็นคือ 70 - 80%
      4.คุณคาดหวังความสมบูรณ์แบบของงานมาก ชอบทำเองมากกว่ามอบหมายให้คนอื่นทำ
      5.คุณเป็นคนคิดข้ออ้างในการบอกคนอื่นและตัวเองว่าทำไมต้องทำงานหนักเก่งมากๆ
      6.คุณคิดว่าชื่อเสียงเงินทองและการยอมรับจะแก้ปัญหาในชีวิตคุณได้
      7.ความนับถือตนเองของคุณขึ้นอยู่กับเสียงปรบมือหรือความคิดเห็นของคนอื่นมากเลยใช่ไหม
      8.คุณมีปัญหาเรื่องการนอนหลับยากเพราะคิดไม่หยุด พอถึงตอนนอนความคิดเรื่องงานยังหลั่งไหลอยู่
      9.คุณรู้สึกว่าการเข้าใจอารมณ์โดยใช้เหตุผลอธิบาย มันง่ายกว่าปล่อยตัวเองไปสัมผัสกับอารมณ์นั้น เช่น จะเข้าใจความรักก็ต้องนำเหตุผลมาอธิบายว่า เพราะเป็นแบบนี้ฉันจึงรักเขา
      10.คุณเคยนั่งเฉยๆโดยไม่ทำอะไรเลย ได้ถึง 10 นาทีได้หรือเปล่า
      ถ้าตอบว่าใช่เกินครึ่งหนึ่ง คุณอาจเป็นคนหนึ่งที่เข้าข่ายว่าอาจเป็นคนบ้างาน
      .
      ผมสนใจที่คุณ Conley บอกว่าเราบ้างานเพราะเราอยากจะหนีจากความรู้สึกบางอย่าง ก็เลยนึกถึงตัวเองที่ช่วงหนึ่งเคยทำงานหนักมากๆ น่าจะเป็นเพราะปมบางอย่างในใจตัวเองก็ได้ว่าผมอยากได้รับการยอมรับ อยากได้รับความรัก อาจเป็นเพราะในตอนเด็กเคยมีความรักกับผู้หญิงคนที่เรารักเขา แต่ไม่ได้รับความรักกลับมา และรู้สึกตลอดเวลาเลยว่าเหมือนมีรูโหว่ในตัวเอง แล้วเราต้องการการเติมเต็มจากการยอมรับจากคนอื่น ก็เลยทำงานหนักเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองมีคุณค่ามากพอ แต่ในกรณีของคนอื่นอาจจะบ้างานเพื่อต้องการหลีกหนีบางอย่างในตัวเอง

    • @puritk.9817
      @puritk.9817 4 ปีที่แล้ว

      .
      สิ่งที่น่าสนใจในหนังสือเล่มนี้คือเขาบอกว่าการบ้างานเกิดกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง เพราะว่าผู้หญิงเป็นเพศเปิดเผยความรู้สึกต่อกันและกันมากกว่า ผู้ชายจะไม่ค่อยพูดความรู้สึกภายในของตนเองออกมา การที่เขาเก็บไว้ทำให้เขาทำงานหนักเพื่อปกป้องตัวเอง พออยู่ในโหมดการทำงานหรือพูดถึงเริ่องการทำงานแล้ว มันก็เหมือนกับการหลีกหนีจากคนอื่นๆ ภาระอื่นๆที่เขาคิดว่าหนักหนาสำหรับเขา เช่น ชีวิตครอบครัว ความไม่พอใจในตัวเอง โดยคิดว่าความสำเร็จในเรื่องงาน จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านั้นได้ทำให้ตัวเองรู้สึกดีกับตัวเองได้ แต่ในบางกรณีอาจกลับกลายเป็นปัญหาหนักขึ้นไปอีก อย่างคุณมีปัญหากับที่บ้านแต่เอาเวลามาทุ่มเทกับงาน ก็กลายเป็นว่าไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนที่บ้าน อาจจะทำงานเก่งแต่ล้มเหลวในความสัมพันธ์ นั่นก็เป็นสิ่งที่อาจเป็นไปได้
      .
      ความรู้สึกว่าชอบทำงานอาจเกิดขึ้นจากการที่ทำงานแล้วรู้สึกว่าเราเอาอยู่ ควบคุมมันได้ดี ในขณะที่โลกใบอื่นเราอาจควบคุมมันไม่ได้เลย พอหันไปในเรื่องครอบครัว ชีวิตส่วนตัว ความสัมพันธ์ เพื่อน ญาติมิตร เราอาจรู้สึกว่าเราควบคุมไม่อยู่เลย ก็เลยทำให้เราหันเข้าไปหาชีวิตงานเพราะเราทำมันได้ดี ตรงนี้น่าคิดครับว่าการที่เราไม่เข้าใจความรู้สึกลึกๆของตัวเอง อาจเป็นรากฐานที่ทำให้เราทำงานหนักมาก เพราะเราไม่รู้ว่ารูโหว่ที่ต้องการเติมเต็มมันอยู่ตรงไหน เราจึงพยายามอุดมันด้วยการทำให้ตัวเองยอมรับตัวเองด้วยความเก่งที่มากขึ้นเรื่อยๆ แต่ในขณะเดียวกัน ยิ่งทำงานหนักเข้าไปเรื่อยๆ เราก็ยิ่งละเอียดอ่อนต่อความรู้สึกตัวเองน้อยลงไปเรื่อยๆ เพราะเราไม่มีเวลาให้กับตัวเอง เราไม่มีเวลาให้กับความรู้สึกที่มันอยู่ลึกๆข้างในตัวเรา
      .
      ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้แนะนำว่า ให้ลองเงยหน้าขึ้นมาจากงานที่ทำสักนิดหนึ่ง แล้วถามตัวเองด้วยคำถามสำคัญเหล่านี้ว่า
      เรามีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร?
      เมื่อเราตายไปแล้วเราจะทิ้งอะไรไว้เป็นตำนานในโลกใบนี้? เรามีความยินดีในชีวิตอย่างแท้จริงที่ไม่ได้เกิดจากการทำงานครั้งสุดท้ายเมื่อไร?
      อะไรที่ทำให้เราค้นพบความยินดีนั้น?
      และถ้าคุณมีชีวิตอีกเพียง 24 ชั่วโมง จะใช้เวลาที่เหลือทำอะไร?และเป็นอะไร?
      เขาบอกว่าคำถามเหล่านี้ ใช้ถามตัวเองเพื่อแยกการบ้างานกับการทำตามเสียงที่หัวใจตัวเองเรียกร้องให้ชัดเจนขึ้น
      .

    • @puritk.9817
      @puritk.9817 4 ปีที่แล้ว

      .
      ซึ่งถ้าคำตอบออกมาว่า ถ้าเหลืออีก 24 ชั่วโมงเราจะเลือกทำงานที่เราทำอยู่นี่แหละ ถ้าเราอยากจะทิ้งอะไรให้เป็นตำนานก็คือผลงานที่เราทำอยู่นี่แหละ ถ้าเราตอบอะไรแบบนั้นก็นับว่าเราเป็นคนโชคดีเพราะว่าสิ่งที่เราทำอยู่คือสิ่งเดียวกับที่หัวใจเราอยากทำหรือเรียกร้องต้องการ แต่ถ้าเกิดถามคำถามแล้วอึกอั๊กตอบได้ยากหรือใช้เวลาคิดกับมันนาน ๆ นั่นอาจสะท้อนได้ว่างานได้ครอบงำชีวิตของเราจนเราตัดขาดกับสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับงานไปจนหมด
      .
      มีงานวิจัยที่แยกคนบ้างานออกเป็น 3 ประเภท
      - แบบที่ 1 บ้างานแบบย้ำคิดย้ำทำ
      คือชอบทำให้ยุ่งเข้าไว้ หางานมากองใส่ตัวเองเยอะ โดยไไม่สนคุณภาพว่าจะทำมันได้ดีหรือเปล่า ยิ่งทำเยอะยิ่งเพิ่มความสนุก ซึ่งจริงๆความสนุกนั่นก็คือความเครียดที่เพิ่มให้กับตัวเองมากขึ้น คืออยากตัดเองออกจากโลกใบอื่น แล้วหมกตัวอยู่ในโลกแห่งงานนั้น คำแนะนำของคนที่บ้างานประเภทนี้ ในหนังสือเล่มนี้บอกว่าควรได้รับการบำบัด
      - แบบที่ 2 บ้างานเพราะคาดหวังความสมบูรณ์แบบ
      เขาบอกว่าลึกๆของคนที่ชอบความสมบูรณ์แบบ เป็นคนที่ต้องการควบคุมคนอื่น และพยายามใช้ความควบคุมนี้ลงมาในงาน คำแนะนำคือต้องฝึกฝนเพื่อผ่อนปรนความคาดหวังของตัวเองลงบ้าง
      - แบบที่ 3 บ้างานเพราะมุ่งความสำเร็จ
      เป็นคนที่ทำงานแล้วอยากสำเร็จมากๆ เขาบอกว่าแบบนี้สุขภาพจิตจะดีกว่าแบบอื่น แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องระวังคือระวังการเสพติดความนับถือตัวเองหรือคิดว่าตัวเองคือฮีโร่จากความสำเร็จนั้น เพราะว่าถ้าเราเสพติดจากการเป็นฮีโร่ มันเท่ากับว่าเราเอาการยอมรับตัวเองไปแขวนไว้กับความคิดเห็นของคนอื่น
      .
      ส่วนที่น่าสนใจในเรื่องนี้คือเรื่องต้นทุนค่าเสียโอกาส ในทางธุรกิจหากเราลงทุนเรื่องเวลาหรือเงินไปกับกิจกรรมหรือการค้าหนึ่ง เราไม่สามารถเอาเงินและเวลานั้นไปลงทุนกับกิจกรรมอื่นได้อีกแล้ว นั่นคือค่าเสียโอกาส คำถามว่าเรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร เป็นคำถามที่กระตุ้นให้คิดถึงค่าเสียโอกาสที่ว่านี้ เพราะว่าทุกครั้งที่เราทุ่มเทให้กับงานเพิ่มขึ้น 1 งาน นั่นเท่ากับว่าเราเสียโอกาสที่จะเอาเวลาและพลังงานไปใช้กับอย่างอื่นในชีวิต เช่น การออกกำลังกาย การดูแลตัวเอง ความสัมพันธ์ หรือว่ามิตรภาพ
      .

    • @puritk.9817
      @puritk.9817 4 ปีที่แล้ว

      .
      2 ประเด็นหลักที่อ่านแล้วได้ทบทวนตัวเอง คือ "สิ่งที่เราต้องการจริงๆในชีวิตคืออะไร" กับ "ค่าเสียโอกาส" ซึ่งมีส่วนเชื่อมโยงกันอยู่ ในการที่เราทำงานเยอะๆเพื่อพิสูจน์ว่าฉันทำได้ ฉันเก่ง ลึกๆแล้วเราอาจจะมีรูโหว่บางอย่างอยู่ในหัวใจที่ต้องการการเยียวยาจากคนอื่นซึ่งถมไม่มิดเลยด้วยงาน ไม่ว่าคุณจะถมงานลงไปแค่ไหน รูโหว่นั้นอาจไม่มีวันเต็ม เช่น เราอาจสูญเสียคนที่เรารักไป เราอาจมีบาดแผลในวัยเด็กบางอย่างที่ไม่ได้รับความไว้ใจจากใครสักคน หรือเราอาจผิดหวังในความรักในวัยหนุ่มสาว แล้วเราก็แสวงหาการยอมรับจากคนอื่น ต้องการเสียงปรบมือจากคนอื่น พอได้รับแล้วก็รู้สึกดีกับมันอยากได้อีก แต่เราลืมไปว่าทุกครั้งที่เราทำงานหนักขึ้น เราก็สูญเสียโอกาสที่ใช้เวลากับคนที่เรารักและเหลือเวลาให้กับเขาน้อยลงไปอีก จึงมีคำพูดที่ว่า lucky in game แต่ unlucky in love คนที่ประสบความสำเร็จในการทำงานมากๆ ความสัมพันธ์ก็อาจไม่ค่อยดี คนที่ประสบความสำเร็จในการทำงานมากๆ เขาอาจรู้สึกว่างๆเปล่าเวลาอยู่กับตัวเองว่างๆก็ได้ เพราะเขาไม่มีเวลาเหลือในการดูแลใครเลย
      .
      ตอนที่ผมทำรายการ ได้มีโอกาสได้เดินทางและพูดคุยกับศิลปิน ดารา นักร้องหลายๆคน ผมได้เรียนรู้สิ่งหนึ่่งว่า คนเหล่านี้เคยผ่านช่วงเวลาที่พวกเขาฝากความสุขไว้กับความคาดหวัง ความรักของแฟนๆพวกเขาซึ่งมีจำนวนมาก แล้วเขาก็กดดันให้ตัวเองต้องไปรับเสียงปรบมือ เสียงกรี๊ด เสียงหัวเราะจากคนดูหรือแฟน ๆ ตลอดเวลา พอไม่ได้เขาก็จะรู้สึกแย่ เขาค่อย ๆ เรียนรู้ผ่านประสบการณ์ชีวิตว่า เขาแขวนความสุขของตัวเองไว้บนความคาดหวังหรือการยอมรับจากคนอื่น พอเรียนรู้ผ่านมาแล้วเขาจึงกลับมาทบทวนกับตัวเอง ฟังเสียงหัวใจตัวเองอีกครั้งว่า จริง ๆ แล้วความสุขในชีวิตมันอยู่ตรงไหนกันแน่
      .
      ซึ่งคนทำงานทั่วไปก็เป็นเหมือนกัน เราพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อเอาชนะเพื่อนให้ได้ เพื่อที่จะได้รับคำชมจากหัวหน้า เพื่อที่จะได้รับรางวัล ราวกับว่าการงานคือหนทางเส้นเดียวที่จะพาเราไปสู่ความสุข ยิ่งได้รับคำชื่นชมมามากก็ยิ่งเสพติดและกัลบกลายเป็นว่าทำงานหนักมากขึ้น เพื่อให้ได้รับคำชมมากขึ้น ในขณะเดียวกันเราก็ยิ่งห่างไกลความสัมพันธ์ใกล้ตัวและห่างไกลจากตัวเราเรื่อยๆ ทั้งที่ตามความเป็นจริงแล้วเราอาจไม่ได้ต้องการการยอมรับจากคนมากมาย เราไม่ได้ต้องการความสำเร็จที่เพิ่มเรื่อยๆ อย่างไม่รู้จบ แต่เราต้องการทบทวนกับหัวใจตัวเองว่า "ถ้าเราให้เวลากับคนใกล้ชิด เราก็อาจได้ความรักที่เราตามหาก็ได้" "ถ้าเราให้เวลากับตัวเองมากขึ้น เราก็อาจจะพบก็ได้ว่าตัวเราในแบบที่เป็นอยู่มันก็โอเคแล้ว น่านับถือแล้ว" และเมื่อยอมรับตัวเองได้เราก็ไม่จำเ็นต้องไปวัดคุณค่าด้วยไม้บรรทัดของใคร
      .

    • @puritk.9817
      @puritk.9817 4 ปีที่แล้ว

      .
      หากใครก็ตามที่กำลังรู้สึกว่ากำลังทำงานหนักแบบไม่รู้จบ และรู้สึกว่าทำไมเราถึงทำงานหนักมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าในเกณฑ์ของการเลี้ยงชีพมันจะเพียงพอแล้ว อาจลองทบทวนดูสักนิดว่าเรากำลังวิ่งหนีความรู้สึกลึก ๆ อะไรภายในใจรึเปล่า? หรือมีรูโหว่อะไรที่เราต้องการแล้วยังไม่ได้รับรึเปล่า? ทั้งหมดนั้นสามารถแก้ไขได้ด้วยการทำงานมากขึ้นเรื่อย ๆ รึเปล่า?
      .
      เราอาจไม่ได้ต้องการเสียงปรบมือนับร้อยนับพัน ตรงกันข้ามเราควรมีเวลาปรบมือให้กับคนใกล้ตัวของเราบ้าง มีเวลาชื่นชมคนรัก พ่อ แม่ พี่ น้อง เพื่อนฝูง ของเรา แล้วเราอาจจะได้สัมผัสกับความรักที่ไม่ต้องพิสูจน์ตัวเอง เป็นความรักที่รักเราในแบบที่เราเป็นโดยที่เราไม่ต้องเป็นคนเก่ง คนเด่น คนดัง และสำคัญที่สุดเราควรมีเวลาทำความเข้าใจตัวเองและปรบมือให้กับคนที่สำคัญที่สุดในชีวิต นั่นก็คือ "ตัวเราเอง" แล้วเราก็อาจจะได้เรียนรู้ว่าเราสามารถปรบมือให้กับตัวเองได้ ยอมรับตัวเองในแบบที่เราเป็นอยู่ได้ โดยที่ไม่ต้องเก่งไปกว่านี้ ไม่ต้องเจ๋งไปกว่านี้ และไม่ต้องประสบความสำเร็จไปมากกว่านี้ แค่ไม่วิ่งหนีตัวเองเพื่อไปเป็นอย่างอื่น
      .
      และคนที่ปรบมือให้กับตัวเองได้ ก็จะเป็นคนที่มีความสุข ขอให้ทุกคนมีความสุขครับ

  • @eimikosx9790
    @eimikosx9790 4 ปีที่แล้ว

    เลิกงานเร็วไม่มี คนไปกินข้าวด้วยคับ 555

  • @user-bt9fw2ow1p
    @user-bt9fw2ow1p 7 หลายเดือนก่อน

    ถ้า ส่ง คลิปนี้ ให้คนๆนึง เขาจะด่า มั้ยนะ 😂😂

  • @namourjolie1126
    @namourjolie1126 4 ปีที่แล้ว +1

    ถ้าทำงานแล้วมีความสุขก็ทำไป อย่าต่อว่าคนอื่นที่ทำงานดึกดื่นไม่ได้เหมือนตัวเอง คนอื่นมีภาระ มีครอบครัวต้องดูแล ฮึ่ยยย บ่นๆหัวหน้าบ้าๆ

  • @kennochachloe1446
    @kennochachloe1446 4 ปีที่แล้ว +1

    ทำใมชอบทำบทความ
    ให้คนรังเกียจเงินทอง..
    คนทำงานสิดี..
    บ้าทำงาน..ดีกว่าบ้าไม่ทำงาน
    มีงานก็มีเงิน..
    ตัวเองและครอบครัวก็สบาย
    ไม่ต้องเที่ยวขอยืมเงินใคร..
    ดีกว่าคนบ้าไม่ทำงาน..
    ตัวเองก็เดือดร้อนยังทำให้
    ครอบครัวเดือดร้อนอีกด้วย

    • @stonehin
      @stonehin 4 ปีที่แล้ว +6

      เขาให้บาลานซ์ไม่ใช่ไม่ให้ทำเลย

    • @SocuteKwan
      @SocuteKwan 4 ปีที่แล้ว +4

      ให้ทำงานแบบไม่เบียดเบียนสุขภาพตัวเองอ่ะค่ะ

  • @switch9308
    @switch9308 4 ปีที่แล้ว

    😆😆

  • @sunsun7438
    @sunsun7438 ปีที่แล้ว

    7

  • @user-hm8gg7vc9v
    @user-hm8gg7vc9v 3 ปีที่แล้ว

    สรุปผมบ้า55