ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
ขอมองอีกมุมนะครับคุณหมอ ด้วยความบีบรัดของสังคม ทำให้พ่อแม่หรือคนเลี้ยงลูกอาจจะไม่มีเวลามากพอที่จะอยู่ดูแลลูก หรือดูแลให้หายเองครับ หรือแม้แต่ผู้ใหญ่ก็เหมิอนกัน หากเราป่วย การต้องลางานมารักษาอาการนั้นอาจจะเป็นปัญหาไม่เท่ากันของแต่ละคนครับ บางคนปากกัดตีนถีบ ลา 1 วันก็ขาดรายได้ไป 1 วัน ไม่ว่าจะต้องลามารักษาตัวเองหรือดูแลลูกที่ป่วยก็ตาม คนเหล่านี้ถึงเลือกวิธีกินยาฆ่าเชื้อ เพื่อให้อาการป่วยนั้นหายได้เร็วขึ้น แม้คุณหมออาจจะแย้งว่ามันอาจจะไม่ได้ช่วยให้หายได้เร็วขึ้น แต่ความเชื่อของคนเป็นสิ่งที่ลบล้างได้ยากครับ ผมเองเวลาลูกป่วยก็เครียดและเหนื่อยอย่างที่หมอว่า หลายครั้งที่พยายามจะให้ลูกหายเอง แต่เวลาผ่านไป 1 วัน 3 วัน 5 วัน ทำไงก็ไม่หาย สุดท้ายก็ต้องจบที่ยาฆ่าเชื้ออยู่ดีครับ ยิ่งช่วงโควิดมาตรการของบางโรงเรียน ก็ไม่อยากให้เด็กป่วยไปโรงเรียนแม้ป่วยเพียงเล็กน้อย ก็กลายเป็นว่าหากเค้ายิ่งใช้เวลาหายช้าก็จะขาดเรียนไปอีก ผมเข้าใจที่คุณหมอพยายามรณรงค์กันมานาน ผมเองก็อยากให้มันทำได้ครับ แต่คุณหมอก็คงรู้ว่ามันยาก ขอยกตัวอย่างนะครับ เพื่อนผมเป็นเภสัชฯขายยา ทุกวันนี้ก็มีคนป่วยมาซื้อยากับเค้า ด้วยเหตุผลที่ว่า ไปโรงพยาบาลแล้วไม่ได้ยาฆ่าเชื้อ มาซื้อก็บ่น ไปหาหมอเสียเวลาตั้งนาน แต่ได้ยาแค่ตามอาการแต่ไม่ได้ยาฆ่าเชื้อ กินไม่หายรึหายช้า สุดท้ายเค้าก็ต้องมาซื้อยาฆ่าเชื้อเองอยู่ดี ในมุมผมนะครับตุณหมอ ผมเองก็ไม่ได้มีชีวิตสบายที่จะมีเวลารักษาตัวเองหรือคนที่รัก เช่น ลูก เมีย มากนัก แม้ผมจะรู้ว่าการทำแบบนี้ (ซื้อยาฆ่าเชื้อกินเอง) มันอาจจะส่งผลเสียในระยะยาว แต่ด้วยความบีบคั้นของชีวิต ผมก็จำต้องเลือกปัจจุบันก่อนครับ ก็ต้องหาทางให้อาการป่วยมันไปจากเราให้ไว้ที่สุด และก็คงต้องยอมรับผลในอนาคตที่จะต้องได้รับครับ พูดแล้วก็เศร้า ขอบคุณคุณหมอมากครับที่ให้ความรู้ที่ดีเสมอครับ ผมก็หวังว่าสังคมเราในภาพรวมจะดีขึ้น ปัญหาที่คุณหมอคุยอยู่นี้ คงแก้กันที่วงการแพทย์ไม่ได้แน่ๆครับ
เห็นด้วยค่ะ การนอนสำคัญมากกกกกกกกกกก บ้านนี้เน้นให้ลูกนอนเยอะๆ ทำสภาพห้องให้มืดน่านอน ไม่มีเสียงมารบกวน เข้านอนสองทุ่มทุกวัน เล่นข้างนอก ออกกำลังกาย สี่วันต่อวีค ตอนนี้จะสิบปีแล้ว พอสองทุ่มลูกจะหาวนอน ปิดไฟ ไม่ถึงสิบห้านาทีหลับ รูทีนสำคัญพ่อ แม่ เป็นคนกำหนดรูทีน ไม่ใช่ลูกมากำหนด เวลากิน นอนเอง
ขอบคุณคุณหมอคร้บ
❤
เอาเวลาไหนติวหนังสือละ
พื้นฐาน พ่อแม่ ไม่เข้าใจอันตรายจากการกินยา แค่อยากให้ลูกหายเร็วๆ เพื่อกลับไปเรียนเร็วๆ รพ.เอกชนก็จ่ายเยอะ คลีนิกก็จ่ายยาคล้ายๆ กัน ทำให้ การกินยาในไทย ถือ ปกติ พ่อแม่ มีความรู้อันตรายจากการกินยาต่อเนื่องน้อยมาก อยากให้คุณหมอ พูดถึงเด็กสมัยนี้ รับยาฆ่าเชื้อ ยาแก้ไอ ยาลดเสมหะ ยาแก้แพ้ บ่อยๆ จะส่งผลต่อสุขภาพอนาคตเด็กอย่างไร
อนาคตคุณหมอจบใหม่ อายุยังน้อยๆ จะนึกภาพธรรมชาติที่เราๆเคยสัมผัสกันออกบ้างมั้ยน้อ กลัวแต่จะเคยชินอยู่กับเมืองแล้วคุณหมอเองก็ป่วยบ่อยๆ 😢 แค่ส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ เกษตรธรรมชาติ ด้วยการพยายามซื้อหามากินให้มากที่สุด เกษตรกรเหล่านี้เขาช่วยดูแลธรรมชาติแทนหลายๆคนค่ะ ดีต่อทุกฝ่ายค่ะ ดิฉันเองก็หนึ่งในเกษตรกรเหล่านั้น ที่สัญญาว่าจะฟื้นฟูธรรมชาติให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ
เป็นเภสัชกรที่ทำงานร้านยามาก่อน ผู้ปกครองตื๊อจะซื้อยาฆ่าเชื้อให้ได้ ไม่จ่ายก็โดนด่าไปพูดต่อก็มี คิดว่าไม่มียาฆ่าเชื้อ ซึ่งเขาชอบเรียกว่ายาแก้อักเสบ ไม่มีก็คิดไปเองว่าลูกหลานจะไม่หาย ไม่ให้เด็กได้สร้างภูมิเองหรือการเช็ดตัวล้างจมูกก็ไม่ทำ เคยพาร์ทรพ.เอกชน ก็จ่าย Augmentin ในเด็กบ่อยมาก กลายเป็นว่ามาขอซื้อ Augmentin กันบ่อยพอมาอยู่ต่างจังหวัดความรู้ในการดูแลลูกของผู้ปกครองเป็นศูนย์ ไม่แปลก ด.ญ.ก็เป็นแม่คนแล้วค่ะ สงสารย่ายายเลี้ยงลูกไม่ทันโตต้องมาเลี้ยงหลานแล้ว แล้วตัวเองก็เหนื่อย 😅
หมอหลายท่านมากๆก็ให้ยาฆ่าเชื้อง่ายมากค่ะ ไม่ใช่แค่เภสัชกร เจอมากับตัว พยายามขอดูอาการก่อน แล้วก็พบว่าหลายทีก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ ลูกก็หายเองได้
กรณียาฆ่าเชื้อที่จ่ายเกินความจำเป็นโดยหมอเองก็มีให้เจอกันบ่อยๆ ช่วยรณรงค์ให้ด้วยค่ะ โดยเฉพาะในโรงพยาบาลเอกชน เจอเคสเหมือนที่หมอบกมาเปะเลย
เคยพบข้อมูลว่าเด็กที่คลอดโดยการผ่าคลอด เด็กจึงไม่ได้รับจุลินทรีย์ที่เด็กคลอดตามธรรมชาติจะได้เมื่อถุงน้ำคร่ำแตกและขณะผ่านช่องคลอดของมารดา จุลินทรีย์นี้มีผลมากน้อยขนาดไหนต่อภูมิแพ้และสุขภาพเด็กค่ะ(ทางตะวันตกจะคลอดตามธรรมชาติกัน บ้านเราผ่าคลอดเยอะมากๆ ค่ะ)
การนอนของเด็กสำคัญมากที่บ้านให้ลูกนอนไม่เกิน 20.00 น ต้องเข้าห้องนอนทันที จะหลับอีกทีก็ 20.30 น. แต่ให้เค้าตัองเข้าห้องนอนทุกวันไปก่อน คุย เล่น กับเค้าก็หลับไปเอง ลูกอายุ 8 ปี ในปัจจุบัน
ส่วนนึงต้องยอมรับว่าที่เขาไปซื้อยากินเพราะถูกกว่า ไปหาหมอทีนึงเดี๋ยวนี้ต้องมี2พันกว่าบาท ค่าหมอและบริการพยาบาลก็ล่อไปพันกว่าแล้ว ถ้ามีหมอที่คิดค่าตรวจซักร้อยสองร้อย เขาก็คงไปกันหรอก ส่วนภูมิแพ้ ส่วนนึงเลยผมคิดว่าเพราะนมวัวนี่แหละ อยากให้ลูกสูงอัดนมวัวเยอะซะจนจากเด็กแข็งแรงกลายเป็นภูมิแพ้ไปเลย
เห็นด้วยกับการไปรพ.โครตเสียเวลากว่าจะได้ตรวจได้เจอหมอ ไปร้านขายยาคือจบ สะดวกกว่ามากกกก
อาหาร การนอน การใช้ชีวิต คือจุดสำคัญที่สุด ที่มนุษย์ในยุคปัจจุบัน เดินทางผิด โดยเฉพาะสังคมไทย คุณหมอทั้งสองท่าน คือเสียงสะท้อนของความจริง ที่ควรมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงโดยเร็ว ในประเทศชาติเราค่ะ ขอบคุณคุณหมอทั้งสองท่านมากค่ะ💐💐💐💐💐
เราทุกวันนี้เลี้ยงลูกวัย2ขวบ ไม่เคยได้นอนดึกเลย เพราะต้องนอนพร้อมลูก พาลูกนอนตั้งแต่2ทุ่ม ชวนลูกเดินขึ้นลงบันไดเวลาขึ้นรถไฟฟ้า เสาอาทิตพาลูกออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน เหนื่อยค่ะ แต่เพื่อลูก เพื่อร่างกายที่แข็งแรงของลูก เรายอมเหนื่อยค่ะ เราไม่ชอบเห็นลูกป่วย
ประเทศไทย มีแต่เรื่องผมประโยชน์ คับ คุณหมอ บ้างคนขายยาโดยที่ไม่ได้เรียน แต่สามารถขายยาได้ เพียงแต่เอารูปปใครไม่รู้มาแปะไว้ในร้าน ว่าเป็นเภสัช ผมย้ายมาอยู่แคนนาดา ผมไม่สบายไปหาหมอ หมอบอกว่าไม่ต้องกินยา คุณกลับไปนอนพักผ่อน กินอาหาร แล้วมันจะหายเอง กรณี เป็นไข้เป็นหวัดนะคับ
การไปหาหมอ มีค่าใช้จ่ายสูงมาก ทำให้ผู้ปกครองต้องซื้อยาทานเองเพราะเขาเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย
ถ้าให้พูดตรงๆ คือ สภาพแวดล้อมและการเลี้ยงดู สมัยนี้กับสมัยก่อนต่างกันมาก เด็กสมัยก่อนพ่อแม่เลี้ยงตามธรรมชาติ แบบ โตกลางดิน กินกลางทราย อยู่กับธรรมชาติจริงๆ ของเล่นไม่ได้มีอะไรเยอะ หาทำกันเองจากธรรมชาติรอบตัว ลูกดินลูกหินก็ปั้นเองดีดเล่นกันไป รวมกลุ่มกันวิ่งเล่นแถวบ้าน พ่อแม่ก็ไม่ได้ประคบประหงมอะไรมากมาย ต้องเรียนรู้ที่จะแข็งแกร่งและมีชีวิตรอดให้ได้ด้วยตัวเอง ร่างกายและจิตใจเลยถูกบ่มเพาะให้แข็งแกร่งโดยอัตโนมัติ ผ่านดินผ่านทรายสภาพอากาศตามธรรมชาติ ร่างกายก็สร้างภูมิคุ้มกันจากสภาพแวดล้อมที่พบเจอนั่นแหละแต่เด็กสมัยนี้เหมือนโตในเรือนกระจก ทุกอย่างรอบตัวเหมือนถูกปรุงแต่งไว้ให้แล้ว พ่อแม่ประคบประหงมทุกอย่าง ผลที่ตามมาคือ บอบบางทั้งร่างกายและจิตใจ เจออะไรที่ไม่เคยเจอในชีวิตก็แทบก็ปรับตัวไม่ได้
จริงเลย นะครับมีอยู่ 3 ข้อหลักๆ แต่ทำไม่ได้หรอก เพราะผลประโยชน์ห่วงโช่แม่งเยอะ1.วัคซีน ควรมีคุณภาพ อันดับแรก ตั้งแรกแรกเกิดมาถึง 4 ขวบ เพื่อภูมิคุ้มกันที่ดี ปัจจุบันนี้ไม่พอ และคุณภาพอย่างขี้กาก2.สุขศึกษา การส่งเสริมโภชนาการต่าง ๆกระทรวง กับผู้ค้าและผลิตควรคุยกัน และให้แนะนำไปแนวทางทีดี ไม่ใช่บ้าโฆษณา3.มึงไม่ควรปล่อยให้มีโฆษณาส่งเสริมหากินในเด็ก ผลิตภันฑ์สุขภาพต่างๆของใช้ต่างๆ อย่างมั่ว อ้างประโยชน์เกินจริง ปล่อยเฉยเลย ถามจริงๆ ปล่อยกันแบบนี้ จะแกยังไง
กราบขอบพระคุณคุณหมอทั้ง2ที่ออกมาพูดเรื่องนี้นะคะ สมัยก่อนอาศัยอยู่ประเทศไทย ปัจจุบันย้ายไปอยู่ประเทศเบลเยี่ยมมา7ปีแล้ว สุขภาพของทุกคนในครอบครัวดีขึ้นมาก ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการไม่ได้กินยาปฏิชีวะนะเลย นอกจากจะป่วยหนักอาการเพียบจริงๆหมอจึงจะจ่ายยาปฏิชีวะนะระดับอ่อนที่สุดมาให้
ขอยกตัวอย่างลูกสาวเพื่อนเลยค่ะ อายุแค่ 3 ขวบเข้าออก รพ.เป็นสนามเด็กเล่นเลยค่ะ เราเลยต่อว่าเพื่อนไป แค่ตัวร้อนนิดหน่อยทำไมถึงต้องพาไปนอนรพ. คำตอบที่ได้ อิฉันจะเป็นลม!!! เพราะทำประกัน!!! ต้องใช้ให้คุ้ม!!! เลยเจอว่าขนาดหนัก จะเอะอะใช้ยาฆ่าเชื้อกับลูกทุกครั้งที่ป่วย เดี๋ยวโตไปลูกเจอดื้อยาแล้วจะรู้สึก ตั้งแต่นั้นนางเลิกเลยค่ะ นี่ป่วยครั้งล่าสุดคือติดโควิดแค่นั้น
จริงค่ะ เอะอะอะไรก็ไปหาหมอ นิดหน่อยก็พึ่งยา เราอยู่ต่างประเทศแค่เด็กเป็นหวัด คนเป็นแม่ก็ต้องหาวิธีให้หายโดยธรรมชาติ เพราะแค่เป็นหวัดหมอไม่รับนัดค่ะ ไปร้านขายยาก็จะได้แค่ชาของเด็กแค่นั้น ที่นี่น้ำมูกไหล,ไอ เป็นเรื่องธรรมชาติมากเพราะอากาศเปลี่ยนวันละ3รอบ
ลูกเป็นหวัดเจ็บคอ หาหมอคลิกนิกก็จ่ายยาฆ่าเชื้อตลอดเลยค่ะ แต่เราไม่ให้ลูกทานใช้เช็ดตัว ให้ดื่มน้ำ ทานผลไม้มีวิตามินซีพักผ่อนเยอะๆ
ผมสละเวลาเป็นอย่างมากครับ เพื่อให้ลูกน้อยของผมใด้นอน2ทุ่มตรง เพราะไม่ใช่วิถีชีวิตผมเลย ต้องเข้านอนไปพร้อมลูกแล้วค่อยแอบออกมาตอนลูกหลับสนิทแล้ว
สุขภาพสำคัญที่สุดมากกว่า สิ่งอื่นใด พ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่างแบบอย่างที่ดีให้เด็กๆ เห็น คุณหมอทั้งสองท่านพุดคุยในสิ่งที่ถูกต้องที่สุด ขอบคุณมากนะคะ 😊
เราโทษตัวเอง เราผ่าคลอดลูกไม่ได้รับ นอร์มอลฟรอล่า เลี้ยงในห้องแอร์ไม่ได้สัมผัส ดินทราย ทุกวันนี้ คันมาก สงสารลูกที่สุด ฝากบอกพ่อแม่เลี้ยงธรรมชาติ ดีที่สุด
เห็นด้วยกับหมอในทุกเรื่องเลยค่ะ โดยส่วนตัวเราสอนพิเศษ เราก็จะให้คำแนะนำเด็กเหมือนหมอค่ะ แต่มันไม่ง่ายเด็กยังนอนดึก เล่นเกม ขอบคุณหมอทั้งสองท่านนะคะ
ขอบคุณหมอทั้งสองท่านครับ คนไทยยังขาดการศึกษา ขาดความเข้าใจอีกพอสมควรครับ ขอบคุณที่หมอ ออกมาช่วยครับ
ผมเด็กยุค 80 เป็นภูมิแพ้อากาศแต่เด็กๆ เล่นกีฬาออกแดดเป็นประจำก็ยังไม่หาย ตอนนี้อายุ42 ได้โรครูมาตอยด์มาเป็นของขวัญ 😊ส่วนตัวมองว่าเป็นเพราะอาหาร สิ่งแวดล้อม นอนดึก และวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป ตามนี้เลยครับ เราจะทำอะไรได้ ยุคมันเปลี่ยนไปแล้วครับ
เรื่องอาหารมีผลมากครับ คนบ้านนอกอย่างผมไปเจอคนกรุงเทพฯกินอาหารแล้วงงเลย จะไม่ป่วยได้ไง
กินไรบ้างคะตัวอย่างที
@@personalopinionimnotthai8153ที่เคยเห็น พ่อแม่หลายคนมักซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้ง โจ๊กคัพ หรือไส้กรอกให้ลูกกินไปโรงเรียนตอนเช้าเป็นประจำ ซึ่งอาหารพวกนี้กินประจำทำให้เด็กป่วยได้ค่ะ หมูปิ้งและไส้กรอกทำให้เกิดโอกาสเป็นมะเร็งสูง โจ๊กคัพเต็มไปด้วยโซเดียม แม้แต่ซีเรียลกินประจำก็ไม่ดีค่ะ ฯลฯ ประมาณนี้ค่ะ
กินผักไม่หลากหลาย ไม่ได้กินผักพื้นบ้าน อยู่ในห้องแอร์เกือบตลอดเวลา ห้องแอร์นี้ตัวดีเลย ภูมิแพ้ถามหา ออกไปข้างนอกภูมิแพ้ก็ขึ้นทันที
@@personalopinionimnotthai8153 ยังกินอาหารปรุงใหม่ จ่ายกับข้าวตลาดสด ผักปลามีอยู่รอบบ้านครับ คนในกรุงเทพฯกินอาหารตามร้าน สั่งอาหารกล่อง ใช้สารปรุงรส ถนอมอาหารมากเกินไป กินนานๆระบบร่างกายรวน
จริงมากค่ะ บอกเลยว่าคนกรุงเทพกินอาหารไร้คุณภาพและเต็มไปด้วยสารพิษ
ตอนนี้เหมือนว่าทุกๆ generation ที่เกิดมา ค่าความแข็งแรง สุขภาพ จะดรอปลงเรื่อยๆอย่างมีนัยสำคัญ - รุ่นลูก ป่วยกันเกือบตลอด ตั้งแต่ยังไม่เข้าเนิร์สเซอรี่ ยิ่งพอเข้าโรงเรียนยิ่งหนัก เปิดเทอมปุ๊บป่วยไม่หยุด บางคนพอเริ่มประถม-มัธยมก็ปวดโน่นนี่ เป็นโรค office syndrome กันแล้ว - รุ่นเรา gen x-y ตอนเราเด็กๆ แทบไม่เคยป่วย และไม่เคยต้องนอน รพ เลย มาเริ่มป่วยโน่นนี่. ไมเกรนภูมิแพ้ราวๆอายุ 20+ ปวดหลังปวดคอ office syndrome ตอน 30+ ตอนนี้ก็ปวดหลังเรื้อรังมาตลอด- รุ่นพ่อแม่ baby boomer พ่อกับแม่เรา จนตอนนี้ อายุ 75 แล้ว ยังไม่มีอาหารปวดเรื้อรังที่ใดทั้งสิ้น ยังมีแรงดี ความอึดมากกว่าเราที่อายุ 40 (แต่ก็เริ่มมีภูมิแพ้อาหารและยาต่างๆเล็กน้อยซึ่งมาเป็นตอนอายุเยอะนี่แหละ และมึความดันเล็กน้อยตามอายุ) เรามองว่าพ่อกับแม่นี่เทพมาก ต้องมีสูตรโกงอะไรแน่ๆ- ใดๆคือ พ่อก็บอกว่า ปู่ต่างหากที่เทพของจริง อย่างพ่อนี่ยังจิ๊บๆ เพราะสมัยก่อนปู่ค้าขาย เพื่อส่งลูก 4 คนเรียนหนังสือ ปู่แจวเรือไปเอาของมาขายจากระโนดไปกลับปากพนังครั้งละ 7 วัน 7 คืน ได้อยู่บ่อยๆ (แจวกลางวัน นอนพักในเรือกลางคืน) พ่อไม่สามารถทำได้มันโหดเกินไป เราก็ว่าใช่ นั่นมันระดับซุปเปอร์แมนแล้ว (ข้อเสียคือปู่ป่วยเป็นมาลาเรีย เพราะสมัยก่อนไม่มียารักษา)- แม่ก็บอกว่า ยายก็เทพกว่า เพราะตอนยายอายุ 85 ยายไม่มีโรคประจำตัวใดๆเลย และยังไปปีนเขาได้อยู่เลย แต่ที่ยายเสียกะทันหันเพราะติดเชื้อในกระแสเลือด สรุปว่า ความแข็งแรง มันลดลงรุ่นต่อรุ่น สมัยก่อนแข็งแรงมาก แต่ข้อเสียคือเทคโนโลยีและการแพทย์ยังไม่ดีเหมือนปัจจุบัน ในขณะที่การแพทย์ปัจจุบันมันก้าวหน้าไปเรื่อยๆแต่คนก็ดันอ่อนแอลง
เห็นด้วย พ่อแม่ต้องรู้จักให้อาหารที่ดี ตอนนี้อาหารถุงเต็มห้างขนมเยอะกว่า. ปีที่แล้วมาก ขนมถุงในห้างและอีกมากมายทานแล้ว ก่อโรคให้เด็กๆระยะยาว ตัวเองก็เคยให้ลูกทาน แต่โชคดีที่ได้มีโอกาส ได้เรียนรู้ถึงโทษและปริมาณขนมถุงทั้งในและต่างประเทศเข้าสู่ซุปเปอร์มาร์เกตจำนวนมากขึ้นมหาศาล และสอนลูกตอนโตว่าไม่ควรบริโภค จะบริโภคก็ได้บ้าง และลูกๆก็ปฎิตามความหวังดีของแม่ ตอนอยุ่ไทยลูกเล็กเจอจ่ายยาแอนตี้ไบโอติก ขนาดที่อยู่สิงคโปร์ลูกไม่เคยได้ยาแบบนี้แถมถ้าไอมากๆหมอให้ยาธรรมชาติและสอนวิธีเคาะปอดจนเสมหะหาย เราเองเป็นภูมิแพ้ผิวหนังเจอแต่ยากดภูมิ กินมากก็ไม่ได้พอเลิกก็เป็นมากขึ้น ต้องยอมรับว่ามีหมอส่วนใหญ่เก่งในการรักษาโรคจริงหรอ สุดท้ายโรคก็ไม่หาย แต่ไม่สอนให้แก้ที่ต้นเอง ดีที่มีคุณหมออย่าง สองท่านนี้และอีกหลายท่านให้ความรู้เรื่องโรคและสาเหตุการรักษาที่ไม่เน้นใช้ยาฝรั่งจนเกินความจำเป็น ไปรพ ทีไรเห็นทุกคนถือถุงยากันมากโดยเฉพาะผู้สูงวัย หากผู้ปกครองรู้ว่าลูกป่วยก็อย่าส่งไปแพร่เชื้อในที่คนมากเช่น รร สถานรับเลี้ยง ตอนลูกอยู่สิงคโปรฺ ไม่ค่อยเห็นเด็กๆป่วยเลยคะ ตอนนี้ลูกๆโตแล้วเวลาเป็นอะไรไม่ค่อยจะทานยาแล้ว ทานแค่จำเป็นไม่ทานยาฆ่าเชื้อเลยคะ สุดท้ายก็หายนะคะ
เด็กสมัยนี้ไม่ได้อยู่แต่หน้าจอนะครับ เขามีการดูแลสุขภาพมากกว่าแต่ก่อนซะอีก ทั้งหาอาหารเสริมมากิน ออกไปเล่นกีฬากับเพื่อนเยอะเเยะครับ คนที่ไม่ชอบเล่นกีฬา ก็ออกกำลังกายที่บ้าน งานอดิเรกบางคนก็เกี่ยวกับการออกกำลังกายนะครับ เช่นการเต้น cover มันก็เป็นการคาร์ดิโออีกอย่างนึง ส่วนเรื่องการนอน ที่บอกว่าเด็กเล่นเกมจนดึก เด็กเขาก็อยากมีความสุขของตัวเองนะครับ ก่อนหน้านั้นเขาก็ต้องทำการบ้าน ทำงานที่รร.สั่งมา อ่านหนังสือ กว่าจะได้พัก ก็ดึกแล้ว ถ้าให้เด็กมันวนลูบแบบนี้มันไม่มีความสุขหรอกครับ แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังมีคนที่เล่นเกมจนดึกมีเยอะจริงครับ แต่ไม่ใช่กับเด็กทุกคนนะครับ
แต่ที่บ้านเลี้ยงนมแม่ 16:27 ลูกป.1ชอบเล่นนอกบ้านเล่นดินเล่นบอลเล่นแบสฯหกคะเมนตีลังกาม้วนหน้าม้วนหลังไม่นิ่งเล่นเกมน้อยมากแกชอบของเล่นต่อโลโก้ดินน้ำมัน แต่ก็ยังป่วยบ่อย แต่ป่วยแทบไม่ไปหาหมอให้กินยาพาราเวลาเป็นไข้ไอกินน้ำผึ้งกับมะนาว(จนท้องเสีย😅)มีน้ำมูกล้างจมูก นอนเช้าทุ่มกว่าก็นอน แต่ยังคงป่วยบ่อยมากตั้งแต่ขึ้นป.1ก่อนหน้าแทบไม่ป่วยอาจเพราะเพื่อนป่วยเลยติดกัน จนพ่อแม่ปวดหัวมากๆเล่นเว้นอาทิตย์เดือนป่วย3รอบรอบละ5-6วันเลยทีเดียวจากเมื่อก่อนวัน2วันหาย
ทำทุกอย่างนะคะ ไม่ให้นอนดึกมาตั้งแต่เด็ก ปิดไฟ ออกกำลังกาย จำกัดการดูจอ ตอนยังไม่ไปโรงเรียนไม่เคยป่วยเลย พอไปโรงเรียนเท่านั้นแหละค่ะ สุดท้ายก็ภูมิแพ้
เหมือนหลานเลยค่ะ
สภาพแวดล้อมล้วนๆ เลยครับ ฝุ่น ควัน เสียง ในประเทศไทยมีหมด ลองไปเทียบกับประเทศนอร์ดิก เพื่อนบางคนโชคดีทำประกะนให้ลูกอย่างดีเลย พึ่งออกจากโรงบาล 4 วัน โดนค่ารักษาไป 120,000แล้วอีกอย่างโรคเยอะมากหลังตั้งแต่มีโควิด เชื้อโรคมีวิวัฒนาการสูง ใครมีลูกยุคนี้ เหนื่อย ค่าใช้จ่ายสูง เด็กโตกลัวพัฒนาช้าด้วยอีก
ขอบคุณสำหรับหัวข้อนี้นะคะ อยากให้ทุกคนตระหนักการใช้ชีวิต โดยเริ่มต้นที่ครอบครัวของทุกคนค่ะ❤
จริงๆค่ะคุณหมอ ต่างประเทศจะจ่ายยาให้แต่ละทีคือเข้มมากๆค่ะ พอเด็กหายแล้วให้หยุดแล้วทิ้งยาเลย ค่ะถ้าใช้ยาเกินขนาดเด็กก็ดื้อยาค่ะ
เป็นตอนที่ดีมาก คุณหมอจุดประกายความคิดให้หลายคน เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีรอคนรุ่นใหม่หมอรุ่นใหม่สานต่อ
โรงพยาบาลบาลจ่ายยาฆ่าเขื้อให้คนไข้เอง ลูกผมหมอจ่ายบ่อยมาก การบริการโรงพยาบาลก็เป็นปัญหา ทำให้คนต้อหนีไปพึ่งร้านขายยา
คุณหมอค่า ยายอย่างเราเลี้ยงหลานมา4ปี ยายเสียสละหน้าจอทุกชนิด24ชม.ค่ะ พากินนอนตรงเวลา ดูแลใส่ใจ แต่คนในบ้านหาว่ายายเอาใจหลาน ถ้ายุกับพ่อแม่ก็นอนดึกร้อยเปอร์เซนต์ค่ะ
คุณยายทำถูกต้อง ดีมากแล้วค่ะ 😊
ใช่ค่ะ สิ่งแวดล้อม ยาเกินจำเป็น อาหาร ขาดผักผลไม้ ขาดการออกกำลังกาย น้ำตาล น้ำอัดลม หมกมุ่นกับสื่อ การนอนไม่ตามนาฬิกาชีวิต จากแสงแดด สายลม ธรรมชาติช่วยได้
ขอพระเจ้าอวยพร คุณหมอทั้งสองท่าน ที่ให้ความรู้ที่ดีมากๆเลย❤❤❤❤
เรื่องเด็กนอนดึกมีผลมากจริงๆครับ ถึงจะนอนครบ8-9 ชม. ก็ไม่สดชื่น หงุดหงิดง่าย ร่างกายอ่อนแอครับ(เจอกับตัวเอง)
ชอบคำที่คุณหมอพูดมากค่ะ ร้านขายยาในบ้านเราไม่มีจรรยาบรรณในวิชาชีพของตนเองจริงๆ บางร้านปล่อยให้คนงานในบ้านหรือคนเลี้ยงลูกของตัวเองมาขายยาด้วยซ้ำไป สงสารผู้บริโภคจริงๆ
การเลี้ยงดูด้วยค่ะ เด็กสมัยก่อนสมัยนี้เลี้ยงดูไม่เหมือนกัน เด็กสมัยนี้ส่วนใหญ่แล้วจะอยู่แต่ในห้องที่มีแอร์ แต่เด็กสมัยก่อนเค้าจะเล่นกลางแจ้งเหงื่อออกก็ปล่อยเหงื่อออกเล่นทรายบ้างเล่นฝุ่นบ้างให้ร่างกายได้คุ้นชินกับเชื้อโรคต่างๆเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน แล้วก็อาหารการกินด้วยสารเร่งมันมีน้อยแต่ว่าสมัยนี้ เนื้อแทบทุกชนิดจะมีสารเร่งอยู่ในตัว และด้วยการกินของคนสมัยนี้กับสมัยก่อนก็ไม่เหมือนกันคนสมัยก่อนจะเน้นผักแล้วก็เนื้อ แต่สมัยนี้ส่วนใหญ่ถ้าบ้านมีฐานะหน่อยก็จะเน้นเนื้อแล้วก็ผัก มันเลยทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายไม่ค่อยพัฒนาให้เท่าทันกับสภาพแวดล้อมหรือเชื้อโรคต่างๆด้วย
กินผักไม่ได้ช่วยเสริมภูมิครับ ออกไปเล่นข้างนอกคลุกฝุ่นทราย ไม่ได้ทำให้ร่างกายคุ้นกับเชื้อโรคครับ นอนในห้องแอร์ไม่ได้ส่งผลกับร่างกายขนาดนั้น นอนในห้องแอร์ออกจะดีด้วยซ้ำครับ เพราะแอร์สมัยนี้มีตัวกรองอากาศด้วย เรื่องการที่กินเนื้อ เพราะร่างกายเด็กต้องการโปรตีนมากกว่าไฟเบอร์ครับ เพราะอยู่ในช่วงเจริญเติบโต ส่วนการเล่นของเด็กสมัยนี้ ไม่ได้อยู่แต่หน้าจออย่างเดียว เพราะเด็กสมัยนี้ก็ออกไปวิ่งเล่นกัน ออกกำลังกายกันเยอะกว่าแต่ก่อนด้วย ดูแลสุขภาพดีกว่าสมัยก่อนอีกนะคับ ส่วนเรื่องการเลี้ยง ส่วนเรื่องสารในอาหาร อันนี้เรื่องจริงครับ ที่มีสารเยอะ แต่ส่วนใหญ่จะเจอในพวกค้าเนื้อสัตว์เถื่อนครับ ในที่ๆมีมาตราฐานและที่ๆมีจรรยาบรรณ หาได้น้อยครับ ที่จะเจอสารเร่ง ส่วนเรื่องการเลี้ยงดู อยู่ที่ครอบครัวครับ จะเหมารวมสมัยนี้ไม่ได้คับ สมัยนี้พ่อแม่สอนเด็กเรื่องสุขภาพก็มีเยอะครับ แต่ก็มีครอบครัวที่ไม่สอนเรื่องดูแลสุขภาพ สอนแต่เรื่องที่ยุคก่อนมันดี แต่ยุคนี้ไม่ใช่
ผมคนนนท์ครับ เป็นภูมิแพ้ ได้จากฝั่งพ่อ แพ้อากาศเย็น แพ้ฝุ่น แพ้ขนสัตว์ แต่โตขึ้นออกกำลังกายแล้วอาการพวกนี้แทบไม่แสดงออกเลยครับ เห็นชัดมากกับการแพ้อากาศเย็นๆ ของผม เมื่อก่อนตอนไปเรียนพิเศษผมจะนั่งจามจนปวดท้อง แล้วก็น้ำมูกไหลตลอดคาบเลย แต่ตอนนี้ก็แค่หนาวๆ แทน ฝุ่นตอนกวาดถูบ้านก็ยังจามอยู่ดีครับ ส่วนขนสัตว์คือโตมากแทบไม่ได้เล่นแมวเลย ที่บ้านก็ไม่ได้เลี้ยงสัตว์เลยไม่รู้อาการตอนนี้ครับ 😸
ขอแย้งครับยาลดน้ำมูกซื้อได้ตามร้านขายยาครับ หมอก็พูดเวอร์ไปนะครับ ยาลดน้ำมูกถ้าเค้าขอบัตรประชาชนก็ให้ไป ลงชื่อก็ไม่เห็นมีอะไรเลยครับ เงินในบัญชีก็ไม่ได้หาย ลองถามเหตุผลเค้าดูสิครับว่าทำไมเค้าถึงขอดูบัตรประชาชน
ที่คุณหมอพูดน่าจะหมายถึงยาลดน้ำมูกบางกลุ่มค่ะ (เภสัชบอกว่ายากลุ่มนี้ลดน้ำมูกได้ดี) เราไปเจอมาจริงๆค่ะ ลูกเรากินยาลดน้ำมูกที่เภสัชจ่ายมาแล้วไม่หายทเภสัชเลยบอกว่ามีอีกตัวแต่ต้องมีบัตรประชาชน หรือสูติบัตรตัวจริง เราต้องกลับไปเอาสูติบัตรลูกค่ะถึงจะได้ยาตัวนี้ แต่กินแล้วน้ำมูกลดจริงค่ะ
ความเห็นส่วนตัวนะคะ ภูมิแพ้จริงๆก็มีมานานแล้ว เราเป็นเด็กก็มีน้ำมูกเจอฝุ่นก็จามตลอด ไม่ได้รับการรักษา การแพทย์เข้าถึงลำบากกว่าสมัยนี้ และสมัยนี้อากาศเปลี่ยนไปกว่าตะก่อนมากๆ สวิงมากใน 1 วัน😢😢
เด็กๆบ้านนี้หาลุงหมอปรเมศ คุณหมอน่ารักมาก ไม่ค่อยให้ยาอะไรที่ไม่ค่อยจำเป็น คุณหมอให้เน้นล้างจมูกกับพักผ่อนให้เพียงพอ
ส่วนเภสัชแถวบ้านก็ดี ไม่ค่อยยัดยาฆ่าเชื้อหรือยาแก้อักเสบให้เลย
สวัสดีค่ะคุณหมอทั้งสองท่านที่ให้ความรู้ค่ะขออนุญาติแชร์ประสบการณ์ค่ะเคยเป็นภมิแพ้อากาศตั้งแต่เด็กสุขภาพไม่ดีมากๆค่ะมาหายปกติ10ปีแล้วค่ะกินอาหารปรุงแต่งน้อยที่สุดตากแดดค่ะปัจจุบันไม่กินเนื้อสัตว์สุขภาพดีค่ะไม่เป็นหวัดมาหลายปีแล้วค่ะกินตามหมอคือนพ.บุญชัย อิศราพิสิษฐ์กินอาหารเป็นยาไม่กินยาทุกชนิดค่ะและศ.ดร.นพ.วิชัย เอกทักษิณโรคภูมิแพ้รุนแรงคุณหมอสองท่านนี้รักษาหายค่ะ❤❤
ไม่จริงค่ะ หมอนี่แหละตัวดี สั่งยาฆ่าเชื้อเก่งมาก แต่พูดก็พูด ไม่ใช้ก็ไม่หาย
ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ ที่สกิดให้แม่คนนี้รู้ตัว ว่าสิ่งธรรมดาที่สมควรทำและได้ผลมากอย่างเช่นการนอนของเด็ก เป็นสิ่งที่ควรใส่ใจมากกว่านี้ 😊
ฟังแล้วรู้สึกผิดมากที่ใส่ใจลูกยังไม่ดีพอ
ช่วยแชร์ออกไป.ให้ได้ความรุ้กันค่ะ.ขอบคุณค่ะ❤❤❤
ขอบคุณคุณหมอมากๆเป็นประโยชน์มากกับเด็กเเละผู้ปกครอง สมัยก่อนใช้ไม้เรียวค่ะ วางกฏ ไม่คือไม่ พูดไม่ต้องถึงสามคำ ถ้ายังดื้อไม้เรียวต้องถึงเเล้ว
ขอบคุณคุณหมอทั้ง 2 ท่าน ที่มาช่วยให้ความรู้ที่ถูกต้องค่ะ
ขอบคุณค่ะ..อยากให้ปัญหานี้ออกมาพุดนานแล้วค่ะ..เพราะเด้กป่วยมากกินแต่ยา. แต่พ่อแม่รุ่นใหม่ไม่ค่อยเชื่อ..ขอบคุณค่ะ
1. เชื่อโรคปัจจุบัน เยอะกว่าสมัยก่อน2. สุขภาพเด็กแย่กว่าสมัยก่อนมาก ด้วยสภาพแวดล้อมปัจจุยต่าง ๆ เช่น อาหารปัจจุบันสะอาดก็จริงแต่เต็มไปด้วยสารเคมี ไม่แปลกที่ร่างกายจะแย่กว่า ฝุ่นเอย ไมโครพลาสติดเอย กัมภาพรังสีเอย สารกันบูดเอย อีกเยอะ3. การเลี้ยงดูจากผู้ปกครอง ต่อมาจากข้อที่สอง การทำงานปัจจุบันใช้ชีวิตที่ทำงานมากกว่าที่บ้านอีก สมัยก่อนพ่อแม่กลับมาเล่นกับลูก พาลูกเจอป่าเจอไม้ เจอธรรมชาติ ซึ่งพูดตรง ๆ เราก็มนุษย์คนหนึ่ง เป็นสัตว์ ร่างกายไม่ได้ปรับตัวเพื่อให้อยู่พื้นที่ที่มีแต่ปูนซีเมนซ์4. สภาพแวดล้อม มันคล้อมจองกับสามข้อที่ผ่านมา มนุษย์ได้ภูมิคุ้มกันมาง่ายเกินไปจนไม่มีภูมิคุ้มกัน (ภูมิคุ้มกันระยะสั้น) จากวัคซีน จากยา จนเชื่อโรคดื้อขึ้นเรื่อย ๆ ไม่สัมพันธ์กับการสร้างภูมิคุ้มกันลงในระดับพันธุกรรม สุดท้ายแล้วเรากลายเป็นสิ่งมีชีวิตเดียวที่พึ่งสารเคมีเพื่ออยู่รอดดำรงเผ่าพันธุ์
ยกตัวอย่าง เอาคนไทยไปกินอาหารริมทางที่อินเดียดู ขี้แตกแน่นอน เมื่อเทียบกับคนอินเดียที่กินเป็นประจำทุกวัน ชีวิตปกติไม่ท้องเสียอะไรมาก ต้องยอมรับนะว่าบางครั้งอะไรที่สะอาดปราศจากเชื้อโรคเกินไปมันก็เป็นดาบสองคมกลับมาทำร้ายเราเหมือนกัน
ไม่ใช่ชาวบ้านนะคะที่ใช้antibioticว่ายาแก้อักเสบ เพราะหมอคลินิคกับร้านขายยาซึ่งเป็นเภสัชหรือไม่ใช่ เค้าเรียกแบบนั้นค่ะ
เพราะเด็กสมัยใหม่หยุดสร้างภูมิคุ้มกันตัวเองเกิดจากความสดวกสบาย ในการใชชีวิต
เด็ก 2 คน ที่ดูแลอยู่เคยมีอาการแบบที่คุณหมอทั้ง 2 พูดแม่กับย่าของเด็กตอบแบบแถกตลอดว่าเด็กดูโทร ดูแท็บเล็ตส่วนเราให้คำตอบว่าโทรก็มีส่วน แต่ที่มีส่วนโดยตรง คือการหายใจสูดดมผลิตภัณฑ์ซักผ้าทุกยี่ห้อ ผลิตภัณฑ์สระผมทุกยี่ห้อ สบู่ทุกยี่ห้อส่งกลิ่นหอมแสบตาแสบคอ แน่นหน้าอก ตาเหลือก ไข้ขึ้นสูง เช็ดตัวเท่าไรก็ไม่ลดกลิ่นติดเสื้อผ้า ติดตัว เจอห้องนอนแอร์ เจอรถตู้แอร์ เจอห้องประชุมแอร์ เจออากาศชื้นวันฝนตก เด็กจะมีอาการคลื่นไส้ ทรมานมากฉันถามเด็กว่า ไปโรงพยาบาลหาหมอไหม เด็กตอบว่าไม่ไป โรงพยาบาลเชื้อโรคมากฉัน ขูดขับพิษ (กวาซา)ให้ ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ในท้องตลาด ในห้างสรรพสินค้าเลย ให้ดื่มวิตามินซี ที่ไม่ใช่ของโรงพยาบาล ไม่ใช่จากร้านขายยาปัจจุบันฉันไม่ต้องไปเสียเวลาวิเคราะห์สาเหตุอื่นๆทันทีที่เด็กมีอาการมาจากโรงเรียน และสถานที่ชุมชนทุกแห่งฉันแก้ไขด้วยวิธีนี้ตลอด เนื่องจากเด็กไม่ชอบสวมแมสก์ ส่วนฉันสวมแมสก์ 2 ชั้น ตลอดเวลา เด็กแข็งแรงดีมากๆผู้ใหญ่จะอ้วนเผละผละลดน้ำหนักไม่ลง บางคนไอแห้งๆ เรื้อรัง นานเท่าไรก็ไม่หาย อาศัยดื่มเบียร์ เพราะคิดว่าเป็นความดันต่ำ บางคนความดันสูง บางคนเป็นเยื่อนัยน์ตาแดง ตามัว
ฟังแล้วน่าสนใจมาก เป็นปัญหาทั่วไปที่ได้ยินจากคนใ้กล้ตัวที่ครอบครัวมีเด็กและเด็กเล็กบ่อยมาก แล้วหลายเรื่องมองข้ามไปจริง ๆ ส่วนตัวกำลังวางแผนเรื่องมีครอบครัว เป็นประโยชน์มาก ขอบคุณค่ะ
ที่บ้านให้นอน 2ทุ่มไม่เกินเลยค่ะ ..ไม่หลับก็ไม่ให้เปิดไฟ ไม่ให้คุยกัน สุดท้ายก็หลับค่ะ 20:30 ตื่น 6โมง
สมัยผมเป็นเด็กบ้านนอก บ้านยากจน เล่นแต่ฝุ่นกับดินตัวดำปี๋ กินผักไม้ น้ำพริก ไม่ค่อยป่วยไข้ สร้างภูมิคุ้มกันไปในตัว
เห็นด้วยครับ อาหารดี อากาศดี อารมณ์ดี จะไม่อ่อนแอคนช่วงเจนเอ็กซ์โชคดีจริงๆ ครับ เห็นทั้งอนาล็อกและดิจิตอล
ขอให้เน้นสมุนไพรเป็นอาหาร ส่งเสริมการสร้างภูมิต้านทานสร้างได้จากตัวเราเอง
ตอนนี้ก็คงจะดีขึ้นเพราะในกรุงเทพเราก็เริ่มมีสวนและต้นไม้มากขึ้นจร้าและก็ขอบคุณคลิบดีๆ มาให้ความรู้ค่ะคุณหมอ
ไม่มี ลูกดีสุดครับแต่ก็ว่าไป ความแต่ละคน ไม่เท่ากัน
เห็นด้วยที่สุด เราอธิบายไปก็ไม่มีประโยชน์เขาต้องการยาตามที่อยากได้ เพื่อความสบายใจ😂
ลูกสาวป่วยเป็นไข้เรื้อรัง3เดือนต่อเนื่อง หาหมอทุกๆ3 วัน กินยาก็ไม่หาย น่าสงสารลูกมากค่ะ หมอคลีนิคไล่ไปโรงบาล เราพาลูกไปรักษาที่สถาบันสุขภาพเด็ก คุณหมอให้ทานยาต้านเชื้อ5 วัน น้องหาย คุณหมอจับฉีดวัคซีน แล้วก็นัดไปฉีดวัคซีนเสริมภูมิ ตอนนี้ลูกไม่ป่วยแล้ว รู้สึกน้องมีภูมิขึ้น
ขอบคุณคุณหมอทั้ง 2 ท่าน ที่ให้ความรูเนะคะ สมัยนี้สังคมเปลี่ยนไปเยอะปัจจัยต่างๆที่มีผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน และสุขภาพจริงๆ หวังที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีที่เหมาะสมโดยเริ่มจากตัวเองและครอบครัวค่ะ ความสมดุลในชีวิตเป็นเรื่องสำคัญจริงๆคะ ❤
ถ้ามีเงินมีที่ตจว. ผมจะพยายามรักษาสิ่งแวดล้อมตรงนั้นเอาไว้ เหมือนช่วยเก็บอากาศดีๆ เก็บพืชผักปลอดสารไว้ให้ลูกหลานเมื่อวาน 13ธค66 ขับรถจากพัทยาเข้ากทม. ฝุ่นคือหนามากๆๆๆ ถ้ารัฐควบคุมเรื่องมลพิษได้ดีกว่านี้ เลิกเกรงใจนายทุน เมืองไทยยังมีหวัง
รู้สึกผิดกับลูกมากๆเลยครับ รักษาเขาด้วยยาฆ่าเชื้อมาหลายครั้ง ด้วยความที่ทนเห็นลูกไอเยอะ ตัวร้อน ก็หันไปพึ่งยาฆ่าเชื้อ ตอนนี้เริ่มหยุดให้ยาฆ่าเชื้อแล้วครับ แต่ก็ยากมากที่ลูกจะไม่ป่วย เพราะอยู่เนิทร์เซอรี่ ทั้ง 2 คนเลยครับ (ใช้ยาZithroครับ) ตอนนี้ลูกเริ่มมีอาการแปลกๆ ทั้งผิวหนังแห้ง ปากแห้ง ผิดปกติครับ และป่วยบ่อยกว่าเดิม
ถ้าเป็นที่อิตาลีการจ่ายยา ต้องเป็นหมอออกใบสั่งยาให้เท่านั้นค่ะถึงจะไปซื้อยาได้ นอกจากเป็นยาพวกพาราเซตามอลหรือยาแก้ไอค่ะที่สามารถไปซื้อเองที่ร้านขายยาได้
ประเทศไทยซื้อยาชนิดแรงๆได้ง่ายจริงๆค่ะ😢นี้อาศัยอยู่ประเทศญี่ปุ่นถ้าไม่มีเอกสารใบออกยาจากคุณหมอจะไปซื้อยาขอซื้อยายากมากค่ะ
เด็กสมัยนี้เกิดมาไม่เคยสัมผัสดินธรรมชาติ ไม่เกิดภูมิคุ้มกันโดยธรรมชาติ ดูเด็กต่างจังหวัดแข็งแรง
ใช่เด็กสมัยนี้ไม่แข็งแรงอ่อนแอหรือแม่เวลาคลอดไม่ได้อยู่ไฟ หรือลูกลอดแก้วคือเด็กไม่เกิดธรรมชาติ ส่วนตัวมีส่วนน้ะ
เกิดมา50ปีพึ่งได้รู้เรื่องการใช้ยายาฆ่าเชื้อ หมอที่รพ.น่าจะให้ความรู้กับพ่อแม่ถึงเหตุผลของการไม่จ่ายยาฆ่าเชื้อ เพราะเราสงสัยตลอดว่าทำไมหมอไม่จ่ายยาฆ่าเชื้อ
20ปีแล้วที่บ้านต้องซื้อน้ำดื่ม จากเคยดื่มน้ำฝนได้ 5ปีแล้วต้องมีหน้ากากอนามัยติดตัวฝุ่นควันเยอะขึ้น อาหารก็ปรุงแต่งเยอะยาเยอะ คนป่วยก็เยอะขึ้นโรคที่ไม่ค่อยรู้จักก็เยอะขึ้น และอีกหลายเรื่อง 😢😢😢
ไปหาหมอค่าตรวจมันแพงเสี่ยงกินยา ร้านขายยาดีกว่า ไม่ต้องต่อคิวยาว
เป็นประโยชน์อย่างมากค่ะ ขอบคุณ คุณหมอวินัย 🙏ขอบคุณ คุณหมอนัท 🙏 เป็นอย่างยิ่งค่ะ
จริงครับ ลูกชาย 5 ขวบเป็นภมิแพ้ เสี่ยงจะเป็นไซนัส ตอนนี้กำลังดูแลรักษาอยู่ครับ
ขอขอบคุณ...องค์ความรู้นี้..ใช้ได้จริงครับ
เป็น EP.ที่มีประโยชน์มากๆ ขอบคุณคุนหมอทั้งสองท่านมากนะค่ะ
สมัยเด็กๆ ผมไม่เคยได้อยู่บ้านเลยครับ😂 อยู่แต่ตามสวน ไร่นา บ่อดินจับปลานู้นน555 ห่อเกลือ ห่อข้าวใส่ใบตองไปกินปลาเผา เป็นวัยที่สนุกมากๆ ไม่เคยมานั่งเล่นโทรศัพท์เหมือนเด็กๆสมัยนี้หรอกครับ เพราะไม่มีให้เล่น😂😂😂
น้องที่บ้าน7ขวบไม่ดูจอแต่อ่านหนังสือชอบอ่านซอมบี้มากๆ ไม่ค่อยชอบๆออกกำลังกายเลยค่ะ เค้าเหนื่อยง่าย เป็นภูมิแพ้
ขอบคุณคุณหมอทั้งสองท่านด้วยครับที่ช่วยให้ความกระจ่างกับปัญหาสำคัญของครอบครัว
ลูกสาวตื่นเช้าน้ำมูกไหลทุกวัน พอสายๆ ก็จะหาย กินยา กินวิตามินก็ เหมือนเดิม วนไป
ขอบคุณมากเลยค่ะคุณหมอ ลูกป่วยบ่อยมาก และโดนจ่ายยา ฆ่าเชื้อ จาก นพ.ถี่มาก
เด็กเด๋วนี้ไม่ต้องเข้าแถว ตากแดด เลยไม่แข็งแรง แดดยามเช้า ก็มีประโยชน์นะ
เดี๋ยวนี้แดดแรงจะตาย อากาศก้ร้อนกว่าเมื่อก่อน เราเป็นผู้ใหญ่ยังไม่อยากตากแดดเลยค่ะ😅
จริงค่ะ หลานเป็นหวัดบ่อยมาก ใช้ยาฆ่าเชื้อเยอะค่ะ ไอนิดนึงก็ป้อนยา
เกิดจากการใส่แมส ไม่ได้ปรับภูมิตามธรรมชาติ ลองให้เด็ก ทาน นมเปรี้ยว กล่องเล็กๆพอครับต่อวัน เด็กจะไม่ป่วยตัวร้อน แต่อาจจะมีแค่หวัดเล็กน้อย แต่หายเร็ว
เป็นปัญหาระดับชาติเลยค่ะผู้ใหญ่บางคนก็ไม่เข้าใจค่ะ🥲🥲🥲
ผมว่าถ้าเราเจอคนเป็นภูมิแพ้ เปอร์เซนต์มากขึ้นจนผิดสังเกตุ มันควรมีการศึกษาว่าเราเจอ หรือสัมผัสสิ่งมีพิษอะไรบางอย่างที่ เราใช้กัน แต่ยังระบุตัวไม่ได้ว่าไอ้ตัวนี้เป็นปัญหาก็ได้ครับ สมมุติพวก สารกันบูด หรือ ถุงพลาสติค มันไปพ่นสารเคลือบบางอย่างแล้วคนไปสัมผัสก็แพ้ หรือสีทาบ้านมีเคมีที่เราไม่รู้มาก่อนว่าจะแพ้
❤ขอบคุณที่ทำให้เจอคลิปคุณหมอทั้ง 2 ท่านนี้ ลูกอายุ 3.7ปี กำลังเครียดว่าลูกป่วยบ่อยอาการภูมิแพ้ ขอบคุณคำแนะนำที่มีประโยชน์กับดิฉันมากๆ ค่ะ❤❤😊😊
ตรงใจสุดๆค่ะ..จริงทุกสถานการณ์..ขออนุญาตแชร์นะคะ.เพี้ยงขอให้ผู้ปกครองเด็ก เข้าใจ ใส่ใจสิ่งเหล่านี้ด้วยเถิด..
เป็นเรื่องที่ตรงใจมากๆค่ะ ขอบคุณ คุณหมอทั้ง 2 ท่านมากๆค่ะ 💚
หมูที่กินกันทุกวันทุกวันเนี่ยเค้าฉีดยาฆ่าเชื้อเท่าไหร่อ่ะกว่าหมูจะไม่ตายในคอกมันดื้อตั้งแต่อยู่ที่หมูหมากาไก่แล้ว มันเลี่ยงอะไรไม่ได้ทั้งนั้นแหละนอกจากคุณจะไม่กินอะไรเลย นี่คือไทยแลนด์ กินกุ้งกินปลากินหมึกเค้าก็ใส่ฟอร์มาลีนตั้งแต่ยังไม่ออกจากเรือ
❤❤ เยี่ยม มาก ครับ คุณหมอ ❤❤❤
เคยสงสัยเหมือนกันว่า.ทำไมเด็กสมัยนี้ถึงเป็นภูมิแพ้กันมาก.ทั้งๆที่ตอนท้อง.แม่เด็กก็ดูแลตัวเองดีมาก.เทียบกับสมัยรุ่นพ่อแม่เรา.ซึ่งกินอยู่แบบธรรมขาติ.ไม่มีอาหารเสริมแบบปัจจุบัน
ขอบคุณไนคำแนะนำคะคุณหมอ
ขอบคุณคุณหมอครับ
คนเป็นภูมิแพ้เยอะจริงๆครับคุณหมอ
หมอพูดดีมากค่ะ ชอบฟัง
เราเจอร้านขายยาเอาพนักงานธรรมดาที่ไม่ใข่เภสัชมาจ่ายยา ที่รู้เพราะตอนถามวิธีกินยา เขาโทรถามคนปลายสาย
ขอมองอีกมุมนะครับคุณหมอ ด้วยความบีบรัดของสังคม ทำให้พ่อแม่หรือคนเลี้ยงลูกอาจจะไม่มีเวลามากพอที่จะอยู่ดูแลลูก หรือดูแลให้หายเองครับ หรือแม้แต่ผู้ใหญ่ก็เหมิอนกัน หากเราป่วย การต้องลางานมารักษาอาการนั้นอาจจะเป็นปัญหาไม่เท่ากันของแต่ละคนครับ บางคนปากกัดตีนถีบ ลา 1 วันก็ขาดรายได้ไป 1 วัน ไม่ว่าจะต้องลามารักษาตัวเองหรือดูแลลูกที่ป่วยก็ตาม คนเหล่านี้ถึงเลือกวิธีกินยาฆ่าเชื้อ เพื่อให้อาการป่วยนั้นหายได้เร็วขึ้น แม้คุณหมออาจจะแย้งว่ามันอาจจะไม่ได้ช่วยให้หายได้เร็วขึ้น แต่ความเชื่อของคนเป็นสิ่งที่ลบล้างได้ยากครับ ผมเองเวลาลูกป่วยก็เครียดและเหนื่อยอย่างที่หมอว่า หลายครั้งที่พยายามจะให้ลูกหายเอง แต่เวลาผ่านไป 1 วัน 3 วัน 5 วัน ทำไงก็ไม่หาย สุดท้ายก็ต้องจบที่ยาฆ่าเชื้ออยู่ดีครับ ยิ่งช่วงโควิดมาตรการของบางโรงเรียน ก็ไม่อยากให้เด็กป่วยไปโรงเรียนแม้ป่วยเพียงเล็กน้อย ก็กลายเป็นว่าหากเค้ายิ่งใช้เวลาหายช้าก็จะขาดเรียนไปอีก ผมเข้าใจที่คุณหมอพยายามรณรงค์กันมานาน ผมเองก็อยากให้มันทำได้ครับ แต่คุณหมอก็คงรู้ว่ามันยาก ขอยกตัวอย่างนะครับ เพื่อนผมเป็นเภสัชฯขายยา ทุกวันนี้ก็มีคนป่วยมาซื้อยากับเค้า ด้วยเหตุผลที่ว่า ไปโรงพยาบาลแล้วไม่ได้ยาฆ่าเชื้อ มาซื้อก็บ่น ไปหาหมอเสียเวลาตั้งนาน แต่ได้ยาแค่ตามอาการแต่ไม่ได้ยาฆ่าเชื้อ กินไม่หายรึหายช้า สุดท้ายเค้าก็ต้องมาซื้อยาฆ่าเชื้อเองอยู่ดี
ในมุมผมนะครับตุณหมอ ผมเองก็ไม่ได้มีชีวิตสบายที่จะมีเวลารักษาตัวเองหรือคนที่รัก เช่น ลูก เมีย มากนัก แม้ผมจะรู้ว่าการทำแบบนี้ (ซื้อยาฆ่าเชื้อกินเอง) มันอาจจะส่งผลเสียในระยะยาว แต่ด้วยความบีบคั้นของชีวิต ผมก็จำต้องเลือกปัจจุบันก่อนครับ ก็ต้องหาทางให้อาการป่วยมันไปจากเราให้ไว้ที่สุด และก็คงต้องยอมรับผลในอนาคตที่จะต้องได้รับครับ พูดแล้วก็เศร้า
ขอบคุณคุณหมอมากครับที่ให้ความรู้ที่ดีเสมอครับ ผมก็หวังว่าสังคมเราในภาพรวมจะดีขึ้น ปัญหาที่คุณหมอคุยอยู่นี้ คงแก้กันที่วงการแพทย์ไม่ได้แน่ๆครับ
เห็นด้วยค่ะ การนอนสำคัญมากกกกกกกกกกก บ้านนี้เน้นให้ลูกนอนเยอะๆ ทำสภาพห้องให้มืดน่านอน ไม่มีเสียงมารบกวน เข้านอนสองทุ่มทุกวัน เล่นข้างนอก ออกกำลังกาย สี่วันต่อวีค ตอนนี้จะสิบปีแล้ว พอสองทุ่มลูกจะหาวนอน ปิดไฟ ไม่ถึงสิบห้านาทีหลับ รูทีนสำคัญพ่อ แม่ เป็นคนกำหนดรูทีน ไม่ใช่ลูกมากำหนด เวลากิน นอนเอง
ขอบคุณคุณหมอคร้บ
❤
เอาเวลาไหนติวหนังสือละ
พื้นฐาน พ่อแม่ ไม่เข้าใจอันตรายจากการกินยา แค่อยากให้ลูกหายเร็วๆ เพื่อกลับไปเรียนเร็วๆ รพ.เอกชนก็จ่ายเยอะ คลีนิกก็จ่ายยาคล้ายๆ กัน ทำให้ การกินยาในไทย ถือ ปกติ พ่อแม่ มีความรู้อันตรายจากการกินยาต่อเนื่องน้อยมาก อยากให้คุณหมอ พูดถึงเด็กสมัยนี้ รับยาฆ่าเชื้อ ยาแก้ไอ ยาลดเสมหะ ยาแก้แพ้ บ่อยๆ จะส่งผลต่อสุขภาพอนาคตเด็กอย่างไร
อนาคตคุณหมอจบใหม่ อายุยังน้อยๆ จะนึกภาพธรรมชาติที่เราๆเคยสัมผัสกันออกบ้างมั้ยน้อ กลัวแต่จะเคยชินอยู่กับเมืองแล้วคุณหมอเองก็ป่วยบ่อยๆ 😢 แค่ส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ เกษตรธรรมชาติ ด้วยการพยายามซื้อหามากินให้มากที่สุด เกษตรกรเหล่านี้เขาช่วยดูแลธรรมชาติแทนหลายๆคนค่ะ ดีต่อทุกฝ่ายค่ะ ดิฉันเองก็หนึ่งในเกษตรกรเหล่านั้น ที่สัญญาว่าจะฟื้นฟูธรรมชาติให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ
เป็นเภสัชกรที่ทำงานร้านยามาก่อน ผู้ปกครองตื๊อจะซื้อยาฆ่าเชื้อให้ได้ ไม่จ่ายก็โดนด่าไปพูดต่อก็มี คิดว่าไม่มียาฆ่าเชื้อ ซึ่งเขาชอบเรียกว่ายาแก้อักเสบ ไม่มีก็คิดไปเองว่าลูกหลานจะไม่หาย ไม่ให้เด็กได้สร้างภูมิเองหรือการเช็ดตัวล้างจมูกก็ไม่ทำ เคยพาร์ทรพ.เอกชน ก็จ่าย Augmentin ในเด็กบ่อยมาก กลายเป็นว่ามาขอซื้อ Augmentin กันบ่อย
พอมาอยู่ต่างจังหวัดความรู้ในการดูแลลูกของผู้ปกครองเป็นศูนย์ ไม่แปลก ด.ญ.ก็เป็นแม่คนแล้วค่ะ สงสารย่ายายเลี้ยงลูกไม่ทันโตต้องมาเลี้ยงหลานแล้ว แล้วตัวเองก็เหนื่อย 😅
หมอหลายท่านมากๆก็ให้ยาฆ่าเชื้อง่ายมากค่ะ ไม่ใช่แค่เภสัชกร เจอมากับตัว พยายามขอดูอาการก่อน แล้วก็พบว่าหลายทีก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ ลูกก็หายเองได้
กรณียาฆ่าเชื้อที่จ่ายเกินความจำเป็นโดยหมอเองก็มีให้เจอกันบ่อยๆ ช่วยรณรงค์ให้ด้วยค่ะ โดยเฉพาะในโรงพยาบาลเอกชน เจอเคสเหมือนที่หมอบกมาเปะเลย
เคยพบข้อมูลว่าเด็กที่คลอดโดยการผ่าคลอด เด็กจึงไม่ได้รับจุลินทรีย์ที่เด็กคลอดตามธรรมชาติจะได้เมื่อถุงน้ำคร่ำแตกและขณะผ่านช่องคลอดของมารดา จุลินทรีย์นี้มีผลมากน้อยขนาดไหนต่อภูมิแพ้และสุขภาพเด็กค่ะ
(ทางตะวันตกจะคลอดตามธรรมชาติกัน บ้านเราผ่าคลอดเยอะมากๆ ค่ะ)
การนอนของเด็กสำคัญมากที่บ้านให้ลูกนอนไม่เกิน 20.00 น ต้องเข้าห้องนอนทันที จะหลับอีกทีก็ 20.30 น. แต่ให้เค้าตัองเข้าห้องนอนทุกวันไปก่อน คุย เล่น กับเค้าก็หลับไปเอง ลูกอายุ 8 ปี ในปัจจุบัน
ส่วนนึงต้องยอมรับว่าที่เขาไปซื้อยากินเพราะถูกกว่า ไปหาหมอทีนึงเดี๋ยวนี้ต้องมี2พันกว่าบาท ค่าหมอและบริการพยาบาลก็ล่อไปพันกว่าแล้ว ถ้ามีหมอที่คิดค่าตรวจซักร้อยสองร้อย เขาก็คงไปกันหรอก
ส่วนภูมิแพ้ ส่วนนึงเลยผมคิดว่าเพราะนมวัวนี่แหละ อยากให้ลูกสูงอัดนมวัวเยอะซะจนจากเด็กแข็งแรงกลายเป็นภูมิแพ้ไปเลย
เห็นด้วยกับการไปรพ.โครตเสียเวลากว่าจะได้ตรวจได้เจอหมอ ไปร้านขายยาคือจบ สะดวกกว่ามากกกก
อาหาร การนอน การใช้ชีวิต
คือจุดสำคัญที่สุด ที่มนุษย์ในยุคปัจจุบัน เดินทางผิด โดยเฉพาะสังคมไทย
คุณหมอทั้งสองท่าน คือเสียงสะท้อนของความจริง ที่ควรมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงโดยเร็ว ในประเทศชาติเราค่ะ ขอบคุณคุณหมอทั้งสองท่านมากค่ะ💐💐💐💐💐
เราทุกวันนี้เลี้ยงลูกวัย2ขวบ ไม่เคยได้นอนดึกเลย เพราะต้องนอนพร้อมลูก พาลูกนอนตั้งแต่2ทุ่ม ชวนลูกเดินขึ้นลงบันไดเวลาขึ้นรถไฟฟ้า เสาอาทิตพาลูกออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน เหนื่อยค่ะ แต่เพื่อลูก เพื่อร่างกายที่แข็งแรงของลูก เรายอมเหนื่อยค่ะ เราไม่ชอบเห็นลูกป่วย
ประเทศไทย มีแต่เรื่องผมประโยชน์ คับ คุณหมอ บ้างคนขายยาโดยที่ไม่ได้เรียน แต่สามารถขายยาได้ เพียงแต่เอารูปปใครไม่รู้มาแปะไว้ในร้าน ว่าเป็นเภสัช ผมย้ายมาอยู่แคนนาดา ผมไม่สบายไปหาหมอ หมอบอกว่าไม่ต้องกินยา คุณกลับไปนอนพักผ่อน กินอาหาร แล้วมันจะหายเอง กรณี เป็นไข้เป็นหวัดนะคับ
การไปหาหมอ มีค่าใช้จ่ายสูงมาก ทำให้ผู้ปกครองต้องซื้อยาทานเองเพราะเขาเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย
ถ้าให้พูดตรงๆ คือ สภาพแวดล้อมและการเลี้ยงดู สมัยนี้กับสมัยก่อนต่างกันมาก
เด็กสมัยก่อนพ่อแม่เลี้ยงตามธรรมชาติ แบบ โตกลางดิน กินกลางทราย อยู่กับธรรมชาติจริงๆ ของเล่นไม่ได้มีอะไรเยอะ หาทำกันเองจากธรรมชาติรอบตัว ลูกดินลูกหินก็ปั้นเองดีดเล่นกันไป รวมกลุ่มกันวิ่งเล่นแถวบ้าน พ่อแม่ก็ไม่ได้ประคบประหงมอะไรมากมาย ต้องเรียนรู้ที่จะแข็งแกร่งและมีชีวิตรอดให้ได้ด้วยตัวเอง ร่างกายและจิตใจเลยถูกบ่มเพาะให้แข็งแกร่งโดยอัตโนมัติ ผ่านดินผ่านทรายสภาพอากาศตามธรรมชาติ ร่างกายก็สร้างภูมิคุ้มกันจากสภาพแวดล้อมที่พบเจอนั่นแหละ
แต่เด็กสมัยนี้เหมือนโตในเรือนกระจก ทุกอย่างรอบตัวเหมือนถูกปรุงแต่งไว้ให้แล้ว พ่อแม่ประคบประหงมทุกอย่าง ผลที่ตามมาคือ บอบบางทั้งร่างกายและจิตใจ เจออะไรที่ไม่เคยเจอในชีวิตก็แทบก็ปรับตัวไม่ได้
จริงเลย นะครับมีอยู่ 3 ข้อหลักๆ แต่ทำไม่ได้หรอก เพราะผลประโยชน์ห่วงโช่แม่งเยอะ
1.วัคซีน ควรมีคุณภาพ อันดับแรก ตั้งแรกแรกเกิดมาถึง 4 ขวบ เพื่อภูมิคุ้มกันที่ดี ปัจจุบันนี้ไม่พอ และคุณภาพอย่างขี้กาก
2.สุขศึกษา การส่งเสริมโภชนาการต่าง ๆกระทรวง กับผู้ค้าและผลิตควรคุยกัน และให้แนะนำไปแนวทางทีดี ไม่ใช่บ้าโฆษณา
3.มึงไม่ควรปล่อยให้มีโฆษณาส่งเสริมหากินในเด็ก ผลิตภันฑ์สุขภาพต่างๆของใช้ต่างๆ อย่างมั่ว อ้างประโยชน์เกินจริง ปล่อยเฉยเลย
ถามจริงๆ ปล่อยกันแบบนี้ จะแกยังไง
กราบขอบพระคุณคุณหมอทั้ง2ที่ออกมาพูดเรื่องนี้นะคะ สมัยก่อนอาศัยอยู่ประเทศไทย ปัจจุบันย้ายไปอยู่ประเทศเบลเยี่ยมมา7ปีแล้ว สุขภาพของทุกคนในครอบครัวดีขึ้นมาก ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการไม่ได้กินยาปฏิชีวะนะเลย นอกจากจะป่วยหนักอาการเพียบจริงๆหมอจึงจะจ่ายยาปฏิชีวะนะระดับอ่อนที่สุดมาให้
ขอยกตัวอย่างลูกสาวเพื่อนเลยค่ะ อายุแค่ 3 ขวบเข้าออก รพ.เป็นสนามเด็กเล่นเลยค่ะ เราเลยต่อว่าเพื่อนไป แค่ตัวร้อนนิดหน่อยทำไมถึงต้องพาไปนอนรพ. คำตอบที่ได้ อิฉันจะเป็นลม!!! เพราะทำประกัน!!! ต้องใช้ให้คุ้ม!!! เลยเจอว่าขนาดหนัก จะเอะอะใช้ยาฆ่าเชื้อกับลูกทุกครั้งที่ป่วย เดี๋ยวโตไปลูกเจอดื้อยาแล้วจะรู้สึก ตั้งแต่นั้นนางเลิกเลยค่ะ นี่ป่วยครั้งล่าสุดคือติดโควิดแค่นั้น
จริงค่ะ เอะอะอะไรก็ไปหาหมอ นิดหน่อยก็พึ่งยา เราอยู่ต่างประเทศแค่เด็กเป็นหวัด คนเป็นแม่ก็ต้องหาวิธีให้หายโดยธรรมชาติ เพราะแค่เป็นหวัดหมอไม่รับนัดค่ะ ไปร้านขายยาก็จะได้แค่ชาของเด็กแค่นั้น ที่นี่น้ำมูกไหล,ไอ เป็นเรื่องธรรมชาติมากเพราะอากาศเปลี่ยนวันละ3รอบ
ลูกเป็นหวัดเจ็บคอ หาหมอคลิกนิกก็จ่ายยาฆ่าเชื้อตลอดเลยค่ะ แต่เราไม่ให้ลูกทานใช้เช็ดตัว ให้ดื่มน้ำ ทานผลไม้มีวิตามินซีพักผ่อนเยอะๆ
ผมสละเวลาเป็นอย่างมากครับ เพื่อให้ลูกน้อยของผมใด้นอน2ทุ่มตรง เพราะไม่ใช่วิถีชีวิตผมเลย ต้องเข้านอนไปพร้อมลูกแล้วค่อยแอบออกมาตอนลูกหลับสนิทแล้ว
สุขภาพสำคัญที่สุดมากกว่า สิ่งอื่นใด พ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่างแบบอย่างที่ดีให้เด็กๆ เห็น คุณหมอทั้งสองท่านพุดคุยในสิ่งที่ถูกต้องที่สุด ขอบคุณมากนะคะ 😊
เราโทษตัวเอง เราผ่าคลอดลูกไม่ได้รับ นอร์มอลฟรอล่า เลี้ยงในห้องแอร์ไม่ได้สัมผัส ดินทราย ทุกวันนี้ คันมาก สงสารลูกที่สุด ฝากบอกพ่อแม่เลี้ยงธรรมชาติ ดีที่สุด
เห็นด้วยกับหมอในทุกเรื่องเลยค่ะ โดยส่วนตัวเราสอนพิเศษ เราก็จะให้คำแนะนำเด็กเหมือนหมอค่ะ แต่มันไม่ง่ายเด็กยังนอนดึก เล่นเกม ขอบคุณหมอทั้งสองท่านนะคะ
ขอบคุณหมอทั้งสองท่านครับ คนไทยยังขาดการศึกษา ขาดความเข้าใจอีกพอสมควรครับ ขอบคุณที่หมอ ออกมาช่วยครับ
ผมเด็กยุค 80 เป็นภูมิแพ้อากาศแต่เด็กๆ เล่นกีฬาออกแดดเป็นประจำก็ยังไม่หาย ตอนนี้อายุ42 ได้โรครูมาตอยด์มาเป็นของขวัญ 😊
ส่วนตัวมองว่าเป็นเพราะอาหาร สิ่งแวดล้อม นอนดึก และวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป ตามนี้เลยครับ
เราจะทำอะไรได้ ยุคมันเปลี่ยนไปแล้วครับ
เรื่องอาหารมีผลมากครับ คนบ้านนอกอย่างผมไปเจอคนกรุงเทพฯกินอาหารแล้วงงเลย จะไม่ป่วยได้ไง
กินไรบ้างคะตัวอย่างที
@@personalopinionimnotthai8153ที่เคยเห็น พ่อแม่หลายคนมักซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้ง โจ๊กคัพ หรือไส้กรอกให้ลูกกินไปโรงเรียนตอนเช้าเป็นประจำ ซึ่งอาหารพวกนี้กินประจำทำให้เด็กป่วยได้ค่ะ หมูปิ้งและไส้กรอกทำให้เกิดโอกาสเป็นมะเร็งสูง โจ๊กคัพเต็มไปด้วยโซเดียม แม้แต่ซีเรียลกินประจำก็ไม่ดีค่ะ ฯลฯ ประมาณนี้ค่ะ
กินผักไม่หลากหลาย ไม่ได้กินผักพื้นบ้าน อยู่ในห้องแอร์เกือบตลอดเวลา ห้องแอร์นี้ตัวดีเลย ภูมิแพ้ถามหา ออกไปข้างนอกภูมิแพ้ก็ขึ้นทันที
@@personalopinionimnotthai8153 ยังกินอาหารปรุงใหม่ จ่ายกับข้าวตลาดสด ผักปลามีอยู่รอบบ้านครับ คนในกรุงเทพฯกินอาหารตามร้าน สั่งอาหารกล่อง ใช้สารปรุงรส ถนอมอาหารมากเกินไป กินนานๆระบบร่างกายรวน
จริงมากค่ะ บอกเลยว่าคนกรุงเทพกินอาหารไร้คุณภาพและเต็มไปด้วยสารพิษ
ตอนนี้เหมือนว่าทุกๆ generation ที่เกิดมา ค่าความแข็งแรง สุขภาพ จะดรอปลงเรื่อยๆอย่างมีนัยสำคัญ
- รุ่นลูก ป่วยกันเกือบตลอด ตั้งแต่ยังไม่เข้าเนิร์สเซอรี่ ยิ่งพอเข้าโรงเรียนยิ่งหนัก เปิดเทอมปุ๊บป่วยไม่หยุด บางคนพอเริ่มประถม-มัธยมก็ปวดโน่นนี่ เป็นโรค office syndrome กันแล้ว
- รุ่นเรา gen x-y ตอนเราเด็กๆ แทบไม่เคยป่วย และไม่เคยต้องนอน รพ เลย มาเริ่มป่วยโน่นนี่. ไมเกรนภูมิแพ้ราวๆอายุ 20+ ปวดหลังปวดคอ office syndrome ตอน 30+ ตอนนี้ก็ปวดหลังเรื้อรังมาตลอด
- รุ่นพ่อแม่ baby boomer พ่อกับแม่เรา จนตอนนี้ อายุ 75 แล้ว ยังไม่มีอาหารปวดเรื้อรังที่ใดทั้งสิ้น ยังมีแรงดี ความอึดมากกว่าเราที่อายุ 40 (แต่ก็เริ่มมีภูมิแพ้อาหารและยาต่างๆเล็กน้อยซึ่งมาเป็นตอนอายุเยอะนี่แหละ และมึความดันเล็กน้อยตามอายุ)
เรามองว่าพ่อกับแม่นี่เทพมาก ต้องมีสูตรโกงอะไรแน่ๆ
- ใดๆคือ พ่อก็บอกว่า ปู่ต่างหากที่เทพของจริง อย่างพ่อนี่ยังจิ๊บๆ เพราะสมัยก่อนปู่ค้าขาย เพื่อส่งลูก 4 คนเรียนหนังสือ ปู่แจวเรือไปเอาของมาขายจากระโนดไปกลับปากพนังครั้งละ 7 วัน 7 คืน ได้อยู่บ่อยๆ (แจวกลางวัน นอนพักในเรือกลางคืน) พ่อไม่สามารถทำได้มันโหดเกินไป เราก็ว่าใช่ นั่นมันระดับซุปเปอร์แมนแล้ว (ข้อเสียคือปู่ป่วยเป็นมาลาเรีย เพราะสมัยก่อนไม่มียารักษา)
- แม่ก็บอกว่า ยายก็เทพกว่า เพราะตอนยายอายุ 85 ยายไม่มีโรคประจำตัวใดๆเลย และยังไปปีนเขาได้อยู่เลย แต่ที่ยายเสียกะทันหันเพราะติดเชื้อในกระแสเลือด
สรุปว่า ความแข็งแรง มันลดลงรุ่นต่อรุ่น สมัยก่อนแข็งแรงมาก แต่ข้อเสียคือเทคโนโลยีและการแพทย์ยังไม่ดีเหมือนปัจจุบัน ในขณะที่การแพทย์ปัจจุบันมันก้าวหน้าไปเรื่อยๆแต่คนก็ดันอ่อนแอลง
เห็นด้วย พ่อแม่ต้องรู้จักให้อาหารที่ดี ตอนนี้อาหารถุงเต็มห้างขนมเยอะกว่า. ปีที่แล้วมาก ขนมถุงในห้างและอีกมากมายทานแล้ว ก่อโรคให้เด็กๆระยะยาว ตัวเองก็เคยให้ลูกทาน แต่โชคดีที่ได้มีโอกาส ได้เรียนรู้ถึงโทษและปริมาณขนมถุงทั้งในและต่างประเทศเข้าสู่ซุปเปอร์มาร์เกตจำนวนมากขึ้นมหาศาล และสอนลูกตอนโตว่าไม่ควรบริโภค จะบริโภคก็ได้บ้าง และลูกๆก็ปฎิตามความหวังดีของแม่
ตอนอยุ่ไทยลูกเล็กเจอจ่ายยาแอนตี้ไบโอติก ขนาดที่อยู่สิงคโปร์ลูกไม่เคยได้ยาแบบนี้แถมถ้าไอมากๆหมอให้ยาธรรมชาติและสอนวิธีเคาะปอดจนเสมหะหาย เราเองเป็นภูมิแพ้ผิวหนังเจอแต่ยากดภูมิ กินมากก็ไม่ได้พอเลิกก็เป็นมากขึ้น ต้องยอมรับว่ามีหมอส่วนใหญ่เก่งในการรักษาโรคจริงหรอ สุดท้ายโรคก็ไม่หาย แต่ไม่สอนให้แก้ที่ต้นเอง ดีที่มีคุณหมออย่าง สองท่านนี้และอีกหลายท่านให้ความรู้เรื่องโรคและสาเหตุการรักษาที่ไม่เน้นใช้ยาฝรั่งจนเกินความจำเป็น ไปรพ ทีไรเห็นทุกคนถือถุงยากันมากโดยเฉพาะผู้สูงวัย หากผู้ปกครองรู้ว่าลูกป่วยก็อย่าส่งไปแพร่เชื้อในที่คนมากเช่น รร สถานรับเลี้ยง ตอนลูกอยู่สิงคโปรฺ ไม่ค่อยเห็นเด็กๆป่วยเลยคะ ตอนนี้ลูกๆโตแล้วเวลาเป็นอะไรไม่ค่อยจะทานยาแล้ว ทานแค่จำเป็นไม่ทานยาฆ่าเชื้อเลยคะ สุดท้ายก็หายนะคะ
เด็กสมัยนี้ไม่ได้อยู่แต่หน้าจอนะครับ เขามีการดูแลสุขภาพมากกว่าแต่ก่อนซะอีก ทั้งหาอาหารเสริมมากิน ออกไปเล่นกีฬากับเพื่อนเยอะเเยะครับ คนที่ไม่ชอบเล่นกีฬา ก็ออกกำลังกายที่บ้าน งานอดิเรกบางคนก็เกี่ยวกับการออกกำลังกายนะครับ เช่นการเต้น cover มันก็เป็นการคาร์ดิโออีกอย่างนึง ส่วนเรื่องการนอน ที่บอกว่าเด็กเล่นเกมจนดึก เด็กเขาก็อยากมีความสุขของตัวเองนะครับ ก่อนหน้านั้นเขาก็ต้องทำการบ้าน ทำงานที่รร.สั่งมา อ่านหนังสือ กว่าจะได้พัก ก็ดึกแล้ว ถ้าให้เด็กมันวนลูบแบบนี้มันไม่มีความสุขหรอกครับ แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังมีคนที่เล่นเกมจนดึกมีเยอะจริงครับ แต่ไม่ใช่กับเด็กทุกคนนะครับ
แต่ที่บ้านเลี้ยงนมแม่ 16:27 ลูกป.1ชอบเล่นนอกบ้านเล่นดินเล่นบอลเล่นแบสฯหกคะเมนตีลังกาม้วนหน้าม้วนหลังไม่นิ่งเล่นเกมน้อยมากแกชอบของเล่นต่อโลโก้ดินน้ำมัน แต่ก็ยังป่วยบ่อย แต่ป่วยแทบไม่ไปหาหมอให้กินยาพาราเวลาเป็นไข้ไอกินน้ำผึ้งกับมะนาว(จนท้องเสีย😅)มีน้ำมูกล้างจมูก นอนเช้าทุ่มกว่าก็นอน แต่ยังคงป่วยบ่อยมากตั้งแต่ขึ้นป.1ก่อนหน้าแทบไม่ป่วยอาจเพราะเพื่อนป่วยเลยติดกัน จนพ่อแม่ปวดหัวมากๆเล่นเว้นอาทิตย์เดือนป่วย3รอบรอบละ5-6วันเลยทีเดียวจากเมื่อก่อนวัน2วันหาย
ทำทุกอย่างนะคะ ไม่ให้นอนดึกมาตั้งแต่เด็ก ปิดไฟ ออกกำลังกาย จำกัดการดูจอ ตอนยังไม่ไปโรงเรียนไม่เคยป่วยเลย พอไปโรงเรียนเท่านั้นแหละค่ะ สุดท้ายก็ภูมิแพ้
เหมือนหลานเลยค่ะ
สภาพแวดล้อมล้วนๆ เลยครับ ฝุ่น ควัน เสียง ในประเทศไทยมีหมด ลองไปเทียบกับประเทศนอร์ดิก
เพื่อนบางคนโชคดีทำประกะนให้ลูกอย่างดีเลย พึ่งออกจากโรงบาล 4 วัน โดนค่ารักษาไป 120,000
แล้วอีกอย่างโรคเยอะมากหลังตั้งแต่มีโควิด เชื้อโรคมีวิวัฒนาการสูง ใครมีลูกยุคนี้ เหนื่อย ค่าใช้จ่ายสูง เด็กโตกลัวพัฒนาช้าด้วยอีก
ขอบคุณสำหรับหัวข้อนี้นะคะ อยากให้ทุกคนตระหนักการใช้ชีวิต โดยเริ่มต้นที่ครอบครัวของทุกคนค่ะ❤
จริงๆค่ะคุณหมอ ต่างประเทศจะจ่ายยาให้แต่ละทีคือเข้มมากๆค่ะ พอเด็กหายแล้วให้หยุดแล้วทิ้งยาเลย ค่ะถ้าใช้ยาเกินขนาดเด็กก็ดื้อยาค่ะ
เป็นตอนที่ดีมาก คุณหมอจุดประกายความคิดให้หลายคน เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีรอคนรุ่นใหม่หมอรุ่นใหม่สานต่อ
โรงพยาบาลบาลจ่ายยาฆ่าเขื้อให้คนไข้เอง ลูกผมหมอจ่ายบ่อยมาก การบริการโรงพยาบาลก็เป็นปัญหา ทำให้คนต้อหนีไปพึ่งร้านขายยา
คุณหมอค่า ยายอย่างเราเลี้ยงหลานมา4ปี ยายเสียสละหน้าจอทุกชนิด24ชม.ค่ะ พากินนอนตรงเวลา ดูแลใส่ใจ แต่คนในบ้านหาว่ายายเอาใจหลาน ถ้ายุกับพ่อแม่ก็นอนดึกร้อยเปอร์เซนต์ค่ะ
คุณยายทำถูกต้อง ดีมากแล้วค่ะ 😊
ใช่ค่ะ สิ่งแวดล้อม ยาเกินจำเป็น อาหาร ขาดผักผลไม้ ขาดการออกกำลังกาย น้ำตาล น้ำอัดลม หมกมุ่นกับสื่อ การนอนไม่ตามนาฬิกาชีวิต จากแสงแดด สายลม ธรรมชาติช่วยได้
ขอพระเจ้าอวยพร คุณหมอทั้งสองท่าน ที่ให้ความรู้ที่ดีมากๆเลย❤❤❤❤
เรื่องเด็กนอนดึกมีผลมากจริงๆครับ ถึงจะนอนครบ8-9 ชม. ก็ไม่สดชื่น หงุดหงิดง่าย ร่างกายอ่อนแอครับ(เจอกับตัวเอง)
ชอบคำที่คุณหมอพูดมากค่ะ ร้านขายยาในบ้านเราไม่มีจรรยาบรรณในวิชาชีพของตนเองจริงๆ บางร้านปล่อยให้คนงานในบ้านหรือคนเลี้ยงลูกของตัวเองมาขายยาด้วยซ้ำไป สงสารผู้บริโภคจริงๆ
การเลี้ยงดูด้วยค่ะ เด็กสมัยก่อนสมัยนี้เลี้ยงดูไม่เหมือนกัน เด็กสมัยนี้ส่วนใหญ่แล้วจะอยู่แต่ในห้องที่มีแอร์ แต่เด็กสมัยก่อนเค้าจะเล่นกลางแจ้งเหงื่อออกก็ปล่อยเหงื่อออกเล่นทรายบ้างเล่นฝุ่นบ้างให้ร่างกายได้คุ้นชินกับเชื้อโรคต่างๆเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน แล้วก็อาหารการกินด้วยสารเร่งมันมีน้อยแต่ว่าสมัยนี้ เนื้อแทบทุกชนิดจะมีสารเร่งอยู่ในตัว และด้วยการกินของคนสมัยนี้กับสมัยก่อนก็ไม่เหมือนกันคนสมัยก่อนจะเน้นผักแล้วก็เนื้อ แต่สมัยนี้ส่วนใหญ่ถ้าบ้านมีฐานะหน่อยก็จะเน้นเนื้อแล้วก็ผัก มันเลยทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายไม่ค่อยพัฒนาให้เท่าทันกับสภาพแวดล้อมหรือเชื้อโรคต่างๆด้วย
กินผักไม่ได้ช่วยเสริมภูมิครับ ออกไปเล่นข้างนอกคลุกฝุ่นทราย ไม่ได้ทำให้ร่างกายคุ้นกับเชื้อโรคครับ นอนในห้องแอร์ไม่ได้ส่งผลกับร่างกายขนาดนั้น นอนในห้องแอร์ออกจะดีด้วยซ้ำครับ เพราะแอร์สมัยนี้มีตัวกรองอากาศด้วย เรื่องการที่กินเนื้อ เพราะร่างกายเด็กต้องการโปรตีนมากกว่าไฟเบอร์ครับ เพราะอยู่ในช่วงเจริญเติบโต ส่วนการเล่นของเด็กสมัยนี้ ไม่ได้อยู่แต่หน้าจออย่างเดียว เพราะเด็กสมัยนี้ก็ออกไปวิ่งเล่นกัน ออกกำลังกายกันเยอะกว่าแต่ก่อนด้วย ดูแลสุขภาพดีกว่าสมัยก่อนอีกนะคับ ส่วนเรื่องการเลี้ยง ส่วนเรื่องสารในอาหาร อันนี้เรื่องจริงครับ ที่มีสารเยอะ แต่ส่วนใหญ่จะเจอในพวกค้าเนื้อสัตว์เถื่อนครับ ในที่ๆมีมาตราฐานและที่ๆมีจรรยาบรรณ หาได้น้อยครับ ที่จะเจอสารเร่ง ส่วนเรื่องการเลี้ยงดู อยู่ที่ครอบครัวครับ จะเหมารวมสมัยนี้ไม่ได้คับ สมัยนี้พ่อแม่สอนเด็กเรื่องสุขภาพก็มีเยอะครับ แต่ก็มีครอบครัวที่ไม่สอนเรื่องดูแลสุขภาพ สอนแต่เรื่องที่ยุคก่อนมันดี แต่ยุคนี้ไม่ใช่
ผมคนนนท์ครับ เป็นภูมิแพ้ ได้จากฝั่งพ่อ แพ้อากาศเย็น แพ้ฝุ่น แพ้ขนสัตว์ แต่โตขึ้นออกกำลังกายแล้วอาการพวกนี้แทบไม่แสดงออกเลยครับ เห็นชัดมากกับการแพ้อากาศเย็นๆ ของผม เมื่อก่อนตอนไปเรียนพิเศษผมจะนั่งจามจนปวดท้อง แล้วก็น้ำมูกไหลตลอดคาบเลย แต่ตอนนี้ก็แค่หนาวๆ แทน ฝุ่นตอนกวาดถูบ้านก็ยังจามอยู่ดีครับ ส่วนขนสัตว์คือโตมากแทบไม่ได้เล่นแมวเลย ที่บ้านก็ไม่ได้เลี้ยงสัตว์เลยไม่รู้อาการตอนนี้ครับ 😸
ขอแย้งครับยาลดน้ำมูกซื้อได้ตามร้านขายยาครับ หมอก็พูดเวอร์ไปนะครับ ยาลดน้ำมูกถ้าเค้าขอบัตรประชาชนก็ให้ไป ลงชื่อก็ไม่เห็นมีอะไรเลยครับ เงินในบัญชีก็ไม่ได้หาย ลองถามเหตุผลเค้าดูสิครับว่าทำไมเค้าถึงขอดูบัตรประชาชน
ที่คุณหมอพูดน่าจะหมายถึงยาลดน้ำมูกบางกลุ่มค่ะ (เภสัชบอกว่ายากลุ่มนี้ลดน้ำมูกได้ดี) เราไปเจอมาจริงๆค่ะ ลูกเรากินยาลดน้ำมูกที่เภสัชจ่ายมาแล้วไม่หายทเภสัชเลยบอกว่ามีอีกตัวแต่ต้องมีบัตรประชาชน หรือสูติบัตรตัวจริง เราต้องกลับไปเอาสูติบัตรลูกค่ะถึงจะได้ยาตัวนี้ แต่กินแล้วน้ำมูกลดจริงค่ะ
ความเห็นส่วนตัวนะคะ ภูมิแพ้จริงๆก็มีมานานแล้ว เราเป็นเด็กก็มีน้ำมูกเจอฝุ่นก็จามตลอด ไม่ได้รับการรักษา การแพทย์เข้าถึงลำบากกว่าสมัยนี้ และสมัยนี้อากาศเปลี่ยนไปกว่าตะก่อนมากๆ สวิงมากใน 1 วัน😢😢
เด็กๆบ้านนี้หาลุงหมอปรเมศ คุณหมอน่ารักมาก ไม่ค่อยให้ยาอะไรที่ไม่ค่อยจำเป็น คุณหมอให้เน้นล้างจมูกกับพักผ่อนให้เพียงพอ
ส่วนเภสัชแถวบ้านก็ดี ไม่ค่อยยัดยาฆ่าเชื้อหรือยาแก้อักเสบให้เลย
สวัสดีค่ะคุณหมอทั้งสองท่านที่ให้ความรู้ค่ะขออนุญาติแชร์ประสบการณ์ค่ะเคยเป็นภมิแพ้อากาศตั้งแต่เด็กสุขภาพไม่ดีมากๆค่ะมาหายปกติ10ปีแล้วค่ะกินอาหารปรุงแต่งน้อยที่สุดตากแดดค่ะปัจจุบันไม่กินเนื้อสัตว์สุขภาพดีค่ะไม่เป็นหวัดมาหลายปีแล้วค่ะกินตามหมอคือนพ.บุญชัย อิศราพิสิษฐ์กินอาหารเป็นยาไม่กินยาทุกชนิดค่ะและศ.ดร.นพ.วิชัย เอกทักษิณโรคภูมิแพ้รุนแรงคุณหมอสองท่านนี้รักษาหายค่ะ❤❤
ไม่จริงค่ะ หมอนี่แหละตัวดี สั่งยาฆ่าเชื้อเก่งมาก แต่พูดก็พูด ไม่ใช้ก็ไม่หาย
ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ ที่สกิดให้แม่คนนี้รู้ตัว ว่าสิ่งธรรมดาที่สมควรทำและได้ผลมากอย่างเช่นการนอนของเด็ก เป็นสิ่งที่ควรใส่ใจมากกว่านี้ 😊
ฟังแล้วรู้สึกผิดมากที่ใส่ใจลูกยังไม่ดีพอ
ช่วยแชร์ออกไป.ให้ได้ความรุ้กันค่ะ.ขอบคุณค่ะ❤❤❤
ขอบคุณคุณหมอมากๆเป็นประโยชน์มากกับเด็กเเละผู้ปกครอง สมัยก่อนใช้ไม้เรียวค่ะ วางกฏ ไม่คือไม่ พูดไม่ต้องถึงสามคำ ถ้ายังดื้อไม้เรียวต้องถึงเเล้ว
ขอบคุณคุณหมอทั้ง 2 ท่าน ที่มาช่วยให้ความรู้ที่ถูกต้องค่ะ
ขอบคุณค่ะ..อยากให้ปัญหานี้ออกมาพุดนานแล้วค่ะ..เพราะเด้กป่วยมากกินแต่ยา. แต่พ่อแม่รุ่นใหม่ไม่ค่อยเชื่อ..ขอบคุณค่ะ
1. เชื่อโรคปัจจุบัน เยอะกว่าสมัยก่อน
2. สุขภาพเด็กแย่กว่าสมัยก่อนมาก ด้วยสภาพแวดล้อมปัจจุยต่าง ๆ เช่น อาหารปัจจุบันสะอาดก็จริงแต่เต็มไปด้วยสารเคมี ไม่แปลกที่ร่างกายจะแย่กว่า ฝุ่นเอย ไมโครพลาสติดเอย กัมภาพรังสีเอย สารกันบูดเอย อีกเยอะ
3. การเลี้ยงดูจากผู้ปกครอง ต่อมาจากข้อที่สอง การทำงานปัจจุบันใช้ชีวิตที่ทำงานมากกว่าที่บ้านอีก สมัยก่อนพ่อแม่กลับมาเล่นกับลูก พาลูกเจอป่าเจอไม้ เจอธรรมชาติ ซึ่งพูดตรง ๆ เราก็มนุษย์คนหนึ่ง เป็นสัตว์ ร่างกายไม่ได้ปรับตัวเพื่อให้อยู่พื้นที่ที่มีแต่ปูนซีเมนซ์
4. สภาพแวดล้อม มันคล้อมจองกับสามข้อที่ผ่านมา มนุษย์ได้ภูมิคุ้มกันมาง่ายเกินไปจนไม่มีภูมิคุ้มกัน (ภูมิคุ้มกันระยะสั้น) จากวัคซีน จากยา จนเชื่อโรคดื้อขึ้นเรื่อย ๆ ไม่สัมพันธ์กับการสร้างภูมิคุ้มกันลงในระดับพันธุกรรม สุดท้ายแล้วเรากลายเป็นสิ่งมีชีวิตเดียวที่พึ่งสารเคมีเพื่ออยู่รอดดำรงเผ่าพันธุ์
ยกตัวอย่าง เอาคนไทยไปกินอาหารริมทางที่อินเดียดู ขี้แตกแน่นอน เมื่อเทียบกับคนอินเดียที่กินเป็นประจำทุกวัน ชีวิตปกติไม่ท้องเสียอะไรมาก ต้องยอมรับนะว่าบางครั้งอะไรที่สะอาดปราศจากเชื้อโรคเกินไปมันก็เป็นดาบสองคมกลับมาทำร้ายเราเหมือนกัน
ไม่ใช่ชาวบ้านนะคะที่ใช้antibioticว่ายาแก้อักเสบ เพราะหมอคลินิคกับร้านขายยาซึ่งเป็นเภสัชหรือไม่ใช่ เค้าเรียกแบบนั้นค่ะ
เพราะเด็กสมัยใหม่หยุดสร้างภูมิคุ้มกันตัวเอง
เกิดจากความสดวกสบาย ในการใชชีวิต
เด็ก 2 คน ที่ดูแลอยู่เคยมีอาการแบบที่คุณหมอทั้ง 2 พูด
แม่กับย่าของเด็กตอบแบบแถกตลอดว่าเด็กดูโทร ดูแท็บเล็ต
ส่วนเราให้คำตอบว่าโทรก็มีส่วน แต่ที่มีส่วนโดยตรง คือการหายใจสูดดมผลิตภัณฑ์ซักผ้าทุกยี่ห้อ
ผลิตภัณฑ์สระผมทุกยี่ห้อ
สบู่ทุกยี่ห้อ
ส่งกลิ่นหอมแสบตาแสบคอ แน่นหน้าอก ตาเหลือก ไข้ขึ้นสูง เช็ดตัวเท่าไรก็ไม่ลด
กลิ่นติดเสื้อผ้า ติดตัว เจอห้องนอนแอร์ เจอรถตู้แอร์ เจอห้องประชุมแอร์ เจออากาศชื้นวันฝนตก เด็กจะมีอาการคลื่นไส้ ทรมานมาก
ฉันถามเด็กว่า ไปโรงพยาบาลหาหมอไหม เด็กตอบว่าไม่ไป
โรงพยาบาลเชื้อโรคมาก
ฉัน ขูดขับพิษ (กวาซา)ให้ ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ในท้องตลาด ในห้างสรรพสินค้าเลย ให้ดื่มวิตามินซี ที่ไม่ใช่ของโรงพยาบาล ไม่ใช่จากร้านขายยา
ปัจจุบันฉันไม่ต้องไปเสียเวลาวิเคราะห์สาเหตุอื่นๆ
ทันทีที่เด็กมีอาการมาจากโรงเรียน และสถานที่ชุมชนทุกแห่ง
ฉันแก้ไขด้วยวิธีนี้ตลอด เนื่องจากเด็กไม่ชอบสวมแมสก์ ส่วนฉันสวมแมสก์ 2 ชั้น ตลอดเวลา
เด็กแข็งแรงดีมากๆ
ผู้ใหญ่จะอ้วนเผละผละลดน้ำหนักไม่ลง บางคนไอแห้งๆ เรื้อรัง นานเท่าไรก็ไม่หาย อาศัยดื่มเบียร์ เพราะคิดว่าเป็นความดันต่ำ บางคนความดันสูง บางคนเป็นเยื่อนัยน์ตาแดง ตามัว
ฟังแล้วน่าสนใจมาก เป็นปัญหาทั่วไปที่ได้ยินจากคนใ้กล้ตัวที่ครอบครัวมีเด็กและเด็กเล็กบ่อยมาก แล้วหลายเรื่องมองข้ามไปจริง ๆ ส่วนตัวกำลังวางแผนเรื่องมีครอบครัว เป็นประโยชน์มาก ขอบคุณค่ะ
ที่บ้านให้นอน 2ทุ่มไม่เกินเลยค่ะ ..ไม่หลับก็ไม่ให้เปิดไฟ ไม่ให้คุยกัน สุดท้ายก็หลับค่ะ 20:30 ตื่น 6โมง
สมัยผมเป็นเด็กบ้านนอก บ้านยากจน เล่นแต่ฝุ่นกับดินตัวดำปี๋ กินผักไม้ น้ำพริก ไม่ค่อยป่วยไข้ สร้างภูมิคุ้มกันไปในตัว
เห็นด้วยครับ
อาหารดี อากาศดี อารมณ์ดี จะไม่อ่อนแอ
คนช่วงเจนเอ็กซ์โชคดีจริงๆ ครับ
เห็นทั้งอนาล็อกและดิจิตอล
ขอให้เน้นสมุนไพรเป็นอาหาร ส่งเสริมการสร้างภูมิต้านทานสร้างได้จากตัวเราเอง
ตอนนี้ก็คงจะดีขึ้นเพราะในกรุงเทพเราก็เริ่มมีสวนและต้นไม้มากขึ้นจร้าและก็ขอบคุณคลิบดีๆ มาให้ความรู้ค่ะคุณหมอ
ไม่มี ลูกดีสุดครับ
แต่ก็ว่าไป ความแต่ละคน ไม่เท่ากัน
เห็นด้วยที่สุด เราอธิบายไปก็ไม่มีประโยชน์
เขาต้องการยาตามที่อยากได้ เพื่อความสบายใจ😂
ลูกสาวป่วยเป็นไข้เรื้อรัง3เดือนต่อเนื่อง หาหมอทุกๆ3 วัน กินยาก็ไม่หาย น่าสงสารลูกมากค่ะ หมอคลีนิคไล่ไปโรงบาล เราพาลูกไปรักษาที่สถาบันสุขภาพเด็ก คุณหมอให้ทานยาต้านเชื้อ5 วัน น้องหาย คุณหมอจับฉีดวัคซีน แล้วก็นัดไปฉีดวัคซีนเสริมภูมิ ตอนนี้ลูกไม่ป่วยแล้ว รู้สึกน้องมีภูมิขึ้น
ขอบคุณคุณหมอทั้ง 2 ท่าน ที่ให้ความรูเนะคะ สมัยนี้สังคมเปลี่ยนไปเยอะปัจจัยต่างๆที่มีผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน และสุขภาพจริงๆ หวังที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีที่เหมาะสมโดยเริ่มจากตัวเองและครอบครัวค่ะ ความสมดุลในชีวิตเป็นเรื่องสำคัญจริงๆคะ ❤
ถ้ามีเงินมีที่ตจว. ผมจะพยายามรักษาสิ่งแวดล้อมตรงนั้นเอาไว้
เหมือนช่วยเก็บอากาศดีๆ เก็บพืชผักปลอดสารไว้ให้ลูกหลาน
เมื่อวาน 13ธค66 ขับรถจากพัทยาเข้ากทม. ฝุ่นคือหนามากๆๆๆ
ถ้ารัฐควบคุมเรื่องมลพิษได้ดีกว่านี้ เลิกเกรงใจนายทุน เมืองไทยยังมีหวัง
รู้สึกผิดกับลูกมากๆเลยครับ รักษาเขาด้วยยาฆ่าเชื้อมาหลายครั้ง ด้วยความที่ทนเห็นลูกไอเยอะ ตัวร้อน ก็หันไปพึ่งยาฆ่าเชื้อ ตอนนี้เริ่มหยุดให้ยาฆ่าเชื้อแล้วครับ แต่ก็ยากมากที่ลูกจะไม่ป่วย เพราะอยู่เนิทร์เซอรี่ ทั้ง 2 คนเลยครับ
(ใช้ยาZithroครับ) ตอนนี้ลูกเริ่มมีอาการแปลกๆ ทั้งผิวหนังแห้ง ปากแห้ง ผิดปกติครับ และป่วยบ่อยกว่าเดิม
ถ้าเป็นที่อิตาลีการจ่ายยา ต้องเป็นหมอออกใบสั่งยาให้เท่านั้นค่ะถึงจะไปซื้อยาได้ นอกจากเป็นยาพวกพาราเซตามอลหรือยาแก้ไอค่ะที่สามารถไปซื้อเองที่ร้านขายยาได้
ประเทศไทยซื้อยาชนิดแรงๆได้ง่ายจริงๆค่ะ😢
นี้อาศัยอยู่ประเทศญี่ปุ่นถ้าไม่มีเอกสารใบออกยาจากคุณหมอจะไปซื้อยาขอซื้อยายากมากค่ะ
เด็กสมัยนี้เกิดมาไม่เคยสัมผัสดินธรรมชาติ ไม่เกิดภูมิคุ้มกันโดยธรรมชาติ ดูเด็กต่างจังหวัดแข็งแรง
ใช่เด็กสมัยนี้ไม่แข็งแรงอ่อนแอหรือแม่เวลาคลอดไม่ได้อยู่ไฟ หรือลูกลอดแก้วคือเด็กไม่เกิดธรรมชาติ ส่วนตัวมีส่วนน้ะ
เกิดมา50ปีพึ่งได้รู้เรื่องการใช้ยายาฆ่าเชื้อ หมอที่รพ.น่าจะให้ความรู้กับพ่อแม่ถึงเหตุผลของการไม่จ่ายยาฆ่าเชื้อ เพราะเราสงสัยตลอดว่าทำไมหมอไม่จ่ายยาฆ่าเชื้อ
20ปีแล้วที่บ้านต้องซื้อน้ำดื่ม จากเคยดื่มน้ำฝนได้ 5ปีแล้วต้องมีหน้ากากอนามัยติดตัวฝุ่นควันเยอะขึ้น อาหารก็ปรุงแต่งเยอะยาเยอะ คนป่วยก็เยอะขึ้นโรคที่ไม่ค่อยรู้จักก็เยอะขึ้น และอีกหลายเรื่อง 😢😢😢
ไปหาหมอค่าตรวจมันแพงเสี่ยงกินยา ร้านขายยาดีกว่า ไม่ต้องต่อคิวยาว
เป็นประโยชน์อย่างมากค่ะ
ขอบคุณ คุณหมอวินัย 🙏
ขอบคุณ คุณหมอนัท 🙏 เป็นอย่างยิ่งค่ะ
จริงครับ ลูกชาย 5 ขวบเป็นภมิแพ้ เสี่ยงจะเป็นไซนัส ตอนนี้กำลังดูแลรักษาอยู่ครับ
ขอขอบคุณ...องค์ความรู้นี้..ใช้ได้จริงครับ
เป็น EP.ที่มีประโยชน์มากๆ ขอบคุณคุนหมอทั้งสองท่านมากนะค่ะ
สมัยเด็กๆ ผมไม่เคยได้อยู่บ้านเลยครับ😂 อยู่แต่ตามสวน ไร่นา บ่อดินจับปลานู้นน555 ห่อเกลือ ห่อข้าวใส่ใบตองไปกินปลาเผา เป็นวัยที่สนุกมากๆ ไม่เคยมานั่งเล่นโทรศัพท์เหมือนเด็กๆสมัยนี้หรอกครับ เพราะไม่มีให้เล่น😂😂😂
น้องที่บ้าน7ขวบไม่ดูจอแต่อ่านหนังสือชอบอ่านซอมบี้มากๆ ไม่ค่อยชอบๆออกกำลังกายเลยค่ะ เค้าเหนื่อยง่าย เป็นภูมิแพ้
ขอบคุณคุณหมอทั้งสองท่านด้วยครับที่ช่วยให้ความกระจ่างกับปัญหาสำคัญของครอบครัว
ลูกสาวตื่นเช้าน้ำมูกไหลทุกวัน พอสายๆ ก็จะหาย กินยา กินวิตามินก็ เหมือนเดิม วนไป
ขอบคุณมากเลยค่ะคุณหมอ ลูกป่วยบ่อยมาก และโดนจ่ายยา ฆ่าเชื้อ จาก นพ.ถี่มาก
เด็กเด๋วนี้ไม่ต้องเข้าแถว ตากแดด เลยไม่แข็งแรง แดดยามเช้า ก็มีประโยชน์นะ
เดี๋ยวนี้แดดแรงจะตาย อากาศก้ร้อนกว่าเมื่อก่อน เราเป็นผู้ใหญ่ยังไม่อยากตากแดดเลยค่ะ😅
จริงค่ะ หลานเป็นหวัดบ่อยมาก ใช้ยาฆ่าเชื้อเยอะค่ะ ไอนิดนึงก็ป้อนยา
เกิดจากการใส่แมส ไม่ได้ปรับภูมิตามธรรมชาติ ลองให้เด็ก ทาน นมเปรี้ยว กล่องเล็กๆพอครับต่อวัน เด็กจะไม่ป่วยตัวร้อน แต่อาจจะมีแค่หวัดเล็กน้อย แต่หายเร็ว
เป็นปัญหาระดับชาติเลยค่ะ
ผู้ใหญ่บางคนก็ไม่เข้าใจค่ะ
🥲🥲🥲
ผมว่าถ้าเราเจอคนเป็นภูมิแพ้ เปอร์เซนต์มากขึ้นจนผิดสังเกตุ มันควรมีการศึกษาว่าเราเจอ หรือสัมผัสสิ่งมีพิษอะไรบางอย่างที่ เราใช้กัน แต่ยังระบุตัวไม่ได้ว่าไอ้ตัวนี้เป็นปัญหาก็ได้ครับ สมมุติพวก สารกันบูด หรือ ถุงพลาสติค มันไปพ่นสารเคลือบบางอย่างแล้วคนไปสัมผัสก็แพ้ หรือสีทาบ้านมีเคมีที่เราไม่รู้มาก่อนว่าจะแพ้
❤ขอบคุณที่ทำให้เจอคลิปคุณหมอทั้ง 2 ท่านนี้ ลูกอายุ 3.7ปี กำลังเครียดว่าลูกป่วยบ่อยอาการภูมิแพ้ ขอบคุณคำแนะนำที่มีประโยชน์กับดิฉันมากๆ ค่ะ❤❤😊😊
ตรงใจสุดๆค่ะ..จริงทุกสถานการณ์..ขออนุญาตแชร์นะคะ.เพี้ยงขอให้ผู้ปกครองเด็ก เข้าใจ ใส่ใจสิ่งเหล่านี้ด้วยเถิด..
เป็นเรื่องที่ตรงใจมากๆค่ะ ขอบคุณ คุณหมอทั้ง 2 ท่านมากๆค่ะ 💚
หมูที่กินกันทุกวันทุกวันเนี่ยเค้าฉีดยาฆ่าเชื้อเท่าไหร่อ่ะกว่าหมูจะไม่ตายในคอกมันดื้อตั้งแต่อยู่ที่หมูหมากาไก่แล้ว มันเลี่ยงอะไรไม่ได้ทั้งนั้นแหละนอกจากคุณจะไม่กินอะไรเลย นี่คือไทยแลนด์ กินกุ้งกินปลากินหมึกเค้าก็ใส่ฟอร์มาลีนตั้งแต่ยังไม่ออกจากเรือ
❤❤ เยี่ยม มาก ครับ คุณหมอ ❤❤❤
เคยสงสัยเหมือนกันว่า.ทำไมเด็กสมัยนี้ถึงเป็นภูมิแพ้กันมาก.ทั้งๆที่ตอนท้อง.แม่เด็กก็ดูแลตัวเองดีมาก.เทียบกับสมัยรุ่นพ่อแม่เรา.ซึ่งกินอยู่แบบธรรมขาติ.ไม่มีอาหารเสริมแบบปัจจุบัน
ขอบคุณไนคำแนะนำคะคุณหมอ
ขอบคุณคุณหมอครับ
คนเป็นภูมิแพ้เยอะจริงๆครับคุณหมอ
หมอพูดดีมากค่ะ ชอบฟัง
เราเจอร้านขายยาเอาพนักงานธรรมดาที่ไม่ใข่เภสัชมาจ่ายยา ที่รู้เพราะตอนถามวิธีกินยา เขาโทรถามคนปลายสาย