คนไทยไม่ใช่พุทธ เพราะเชื่อสิ่งที่พระพุทธเจ้าต่อต้าน EP2
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 9 ก.ย. 2021
- บทนำ #พุทธธรรม #EP2 ลัทธิที่ตรงข้ามกับพุทธศาสนาคือ
1. เชื่อกรรมจากชาติก่อน
2. ชอบไหว้เจ้า เทพ เทวดา ขอพร บนบานสิ่งที่เรียกว่า "สิ่งศักดิ์สิทธิ"
3. เชื่อโชคดวง/พระเจ้า กำหนดไว้ เพิกเฉย ไม่ลงมือแก้ไข
พุทธ แปลว่า ตื่น ไม่งมงาย มีลักษณะดังนี้
1. จิตของชาตินี้ ไม่เกี่ยวข้องกับจิตชาติก่อน
2. มนุษย์ต้องพึ่งตนเอง อย่าฝากความหวังไว้ที่เทพ/พระเจ้า
3. Being Proactive ตระหนักถึงปัญหา และตัดสินใจแก้ไขตามศักยภาพ
ติดตามได้จากเพจ / %e0%b8%ab%e0%b8%a5%e0%...
![[LIVE] : ONE ลุมพินี 60 วันนี้!! คู่เอก "สุริยันต์เล็ก vs ฤทธิเดช"](http://i.ytimg.com/vi/2ls0lZplik4/mqdefault.jpg)
1)เชื่อกรรมเก่าส่งผลถึงปัจจุบัน
2)อ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์
3)เชื่อโชคลาง ดวงดี/ไม่ดี
ความเชื่อนอกพระพุทธศาสนา
คำสอนของพระพุทธศาสนา
1)จิตปัจจุบัน
2)พึ่งตนเอง
3)ตระหนักถึงปัญหา/แก้ไข
อาครับผมว่าอาจารพูดถูกแต่ไม่ทั้งหมดพระพุทธเจ้าสอนเรื่องหลักกรรมคือการกระกระทำคือทำดีกับทำชั่วคำพูดของอาจารขัดแย้งคำสอนของพระพุทธเจ้าแสดงว่าวะตะสงสารการเวียนว่ายตายเกิดไม่มีเพราะไม่มีชาติก่อนแสดงว่าการบำเพ็ญบาระมีของพระพุทธเจ้าในชาติก่อนไม่มีหลายอย่างในการบันยายนั้นขัดแย้งมากผมถามว่าก่อนมาบรรยายได้ปฏิบัติธรรมทำกรรมฐานมาบ้างหรือเปล่าอาจารหลงทางหรือเปล่า
@@user-jh4no5dh8x
ท่านสื่อตรงประเด็น
ท่านเองก็ถือหลักกาลามสูตรสิบจึงเห็นความย้อนแย้ง(เช่นอาตมา)
💥👉ท่านชฎิลสามพี่น้องสุดยอดโลกีย์ปัญญาแต่เพราะขาดองค์ความรู้วิปัสสนาญาณ๑๖จากพระพุทธเจ้าจึงหลงอีโก้งัดข้อกับพระพุทธเจ้าเป็นหลายเดือนตลอดที่ถูกพระพุทธเจ้าทรงฤทธิ์ปราบเป็นพันๆครั้งกว่าจะสิ้นพยศ(จริงมั๊ย)
@@user-jq6zd9hg1n ถ้าท่านมีกามลสูตร ท่านต้องไม่เชื่อว่า คำพูดเหล่านั้นบนพระไตรปิกฎว่า มันมีกรรมเก่า นรก สวรรค์ ต้องไม่ปักใจเชื่อนะครับ มันอาจไม่ได้เป็นคำพูดของพระพุทธเจ้าก็ได้ อย่าลืม พระพุทธเจ้าอยู่ในอินเดีย ที่นับถือ พราหมณ์ ที่มีอนวคิดเวียนว่าย ตายเกิด
@@user-jq6zd9hg1n เรื่องนี้จริงแท้แน่นอนครับ หลวงพี่พระพุทธองค์ทรงปราบทิฐิของชดินสามพี่น้อง
ก็เพราะเราไม่รู้ว่าในอดีต หรือเด็กๆ เกี่ยวข้องกันอย่างไรนั่นล่ะ..คือช่องว่างคำตอบว่าคืออะไร?เป็นมาอย่างไร?(ความไม่รู้ ไม่ใช่หมายถึงอีกคำตอบฟากฝั่งหนึ่งถูกต้องครับ)
เพราะมีอวิชชาเป็นเครื่องกั้น มีตัณหา เป็นเครื่องผูก สัตว์จึงท่องเที่ยวไปในสังสารวัฏ ตลอดกาลยืดยาวนานถึงเพียงนี้
ข้อเสียของการสอนธรรมะคือการพูดสอนแบบเข้าใจยาก ใช้ภาษาที่ฟังแล้วงง
ฟัง พุทธวะจะนะ ที่ถูกต้อง แท้จริง
จะเข้าใจ
ไม่หลงทาง ไม่หวั่นไหว
มั่นคง
ดุจเสาหิน ยาว 16 ศอก
ปักลงในดิน 8 ศอก
และจะแยกแยะได้ ว่า
อะไร(ใคร)คือพุทธ
อะไร(ใคร)คือเดรฉานวิชา พิธีกรรม ที่สืบทอดกันมา
Ex.หมอหยอง เดิมเป็นหมอดู ที่บางพวกให้คุณค่ากับเขา จนชื่อดังระดับชาติ
ทำนายมั่ว และไม่เป็นจริง
ทำให้ คนทำงานในภาคตะวันออก
เดินทางหนีตาย กลับบ้านเกิด
เป็นเหตุให้ บางคนต้องเสียชีวิตจากอุบัติเหตุกลางทาง
ต่อมา เห็นล่าสุด
แต่งตัวเป็นพราหมณ์ ทำพิธีกรรม ในสถานที่แห่งนึง
และต่อมา ก็เสียชีวิต
น่าอนาจ พวกผู้วิเศษ หยั่งรู้ทุกเรื่อง ที่ไม่สมควรรู้ และ
พวกมียศตำแหน่ง ทั้งหลาย
ทำมิจฉาชีพ เป็นนิจ
เข้าไม่ถึง มรรค 8 และอริยะสัจสี่
อวิชชา= ไม่รู้ เมื่อไม่รู้ ว่าสังขาร ที่จริงมันคือความทุก ยังหลงว่าการเกิดมาตั้งอยูบนโลกนี้มันสบายมันยังเพลินในกามคุณอยู่
คิดอย่างนี้ก้อยังไม่พ้นทุก
ต้องคิดว่า เกิด แล้วต้อง ดับ ทุกอย่าง
มีหมื่นแสนโลกธาตุ ก้อยังดับ และแปรปรวนอยู่ตลอดเวลา
แม้ความสุข และ ความทุกข์ เกิด แล้วก้อต้อง ดับ
ทุกอย่างมันก้อเป็นอย่างนี้ ตถาคตกว่าจะหยุดการเกิดได้ ใช้เวลา หมดไป แสนกับ
สี่อสงไขย นับจำนวนชาติไม่ได้
อย่างเราแค่ เพิ่งเริ่มใหม่ ยังอีกแสนนานกว่าจะหลุดพ้น สิ่งที่ทำได้คือความดีเท่านั้น
วัด - พระ ทุกวันนี้ ก้กลายเป็นสิ่งสมมุติไปแล้ว
จะหาบุคคลที่เป็นพระโดยจิตใจยากนัก ทำดีทำกับไครก้อได้ แค่มีความสุข และไม่ลำบากกายลำบากใจ ก้อพอ
@@tienleati8536 ลองไปฟังธรรมะระดับสูงที่ใช้ภาษาง่ายๆได้ที่นี่ th-cam.com/channels/iBR_xFCXi68GCVwsCYN6Aw.html
ญาติธรรมตอบได้ดีค่ะ
สาธุค่ะ
ถูกต้องที่สุด ยิ่งพระมียศ มีตำแหน่ง ผมไม่ไหว้เลย มีพระธรรมไว้ในใจ พอแล้ว
พระรัตนตรียคือพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์
สาธุ
พุทธ หมายถึง ผู้รู้ ผู้ตื่น และผู้เบิกบาน
นั่นหมายถึง พระอริย พระอรหัต์ ไม่ใช่พระปุถุชน หรือปุถุชนทั่วไป
คนที่เป็นพุทธแท้จริงคือผู้ที่เห็นและเข้าใจ อริยสัจสี่ และไตรลักษณ์ อย่างชัดเจน แจ่มแจ้ง
ครับ 👍
สาธุครับ
แค่นั้นแหละจบ
เมื่อไรคุณบอกว่าเป็นพุทธแท้ นั้นแหละ คุณพุทธเทียม จริงๆ กิเลสตัวตน ในสมองที่คิดมันพยามแบ่งแยก ให้บอกว่าของกูแท้ แต่พวกที่ได้ธรรมะแท้จริง มันมีแต่สงสารแบะ เมตตาสัตว์โลก ที่หลงไปในกิเลส มากกว่าที่จะมาจัดความอันนั้นแท้อันนั้นเทียม ผมสังเกตุได้ ไอ่พวก ชอบพูด ว่าพุทธต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นพระสายนักอ่าน พวกอ้างว่าเป็นสายปัญญา แต่จริงๆไม่ใช่ปัญญา ที่ทีีตัดกิเลส แต่เป็นปัญญา สมองจากประสบการณ์ ตาหูจมูก ที่ได้ดห็นได้อ่าน ได้ยินมา พอมาอ่าน พระไตรปิฎก ก็ใช้แค่ประสปการทางสมอง พิจารณา วิเคราะห์ นั้นแกละเป็นการสร้างตัวตน และ แบ่งแยกว่าไอ้นั้นแท้ ไอ้นั้นเทียม
@@zaphone5130 ท่าอ่านพระไตรปิฎกแล้วยัง จับใจความสำคัญไม่ได้นั้นและกิเลส พาตีไปมั่วหลงอยู่ทิศดี อย่างนั้นจริงอย่างนี้ถูกอันนั่นและเท็จมัวเมาในกิเลสตน
วิทยาศาสตร์มี2รูปแบบคือ
1.รูปธรรม อยู่ภายนอกตัวตน เช่นประดิษฐ์รถยนต์ จรวด ซึ่งต้องค้นหาพัฒนาได้อีกเรื่อยๆไม่นิ่ง
2.นามธรรม อยู่ภายในตัวคน คือจิตใจ พระพุทธเจ้าคนพบธรรมชาตินี้ มีรูปแบบวิธีปฏิบัติได้ผลชัดเจน ไม่เปลี่ยนแปลงมา2500ปีแล้ว
คงต้องอาศัยหลักกาลามสูตร (เกตปุตตะสูตร ตามพระไตรปิฎก) พิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนปลงใจเชื่อ
_ สิ่งใดเป็นกุศล ไม่มีโทษ มีประโยชน์ ผู้รู้สรรเสริญ ไม่ก่อทุกข์ สิ่งนั้นก็ควรเชื่อ พึงปฏิบัติตาม
_ สิ่งใดเป็นอกุศล มีโทษ ไม่เป็นประโยชน์ ผู้รู้ติเตืยน ก่อทุกข์ สิ่งนั้นก็ไม่ควรเชื่อ ไม่ปฏิบัติตาม
เดินทางสายกลางครับ...ยังไกว้พระขอพร สวดมนต์ไหว้พระอยุ่ครับ...แต่ไม่เน้นใส่บาตร...เน้นเป็นเจริญภาวนา...
ทันทีที่เรารู้ว่าเส้นทางชีวิตของเราเดินไปทางไหน ชีวิตก็จะโยนเราไปอีกทาง ชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน และไม่มีใครกำหนดไว้ ตัวเราที่กำหนดปัจจุบันนี่แหละ ที่มันจะส่งผลถึงตัวเราในอนาคต
วะยะธัมมา สังขารา อัปปมาเทนะ สัมปาเทถะ
คุณพูดได้ดีมาก ถูกต้องตรงจริง..ครับ..
“ดูก่อนสุทัตตะ สังสารวัฏนี้ หาเบื้องต้นเบื้องปลายได้โดยยาก สัตว์ผู้พอใจในการเกิดย่อมเกิดบ่อยบ่อย และการเกิดบ่อยบ่อยนั้น ตถาคตกล่าวว่า เป็นความทุกข์ เพราะสิ่งที่ติดตามความเกิดมาก็คือความแก่ชรา ความเจ็บปวดทรมาน และความตาย”
ข้อความนี้ พระพุทธเจ้าตรัสกับใคร ?
@@user-li2em1xy7c ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี มีนามเดิมว่า “สุทัตตะ” เป็นบุตรของเศรษฐีสุมมะ มีภรรยาชื่อนางบุญญลักขณา มีบุตร ๔ คน บุตรชาย ชื่อว่า กาละ มีธิดา ๓ คน คือ มหาสุภัททา จูฬสุภัททา และสุมนา ท่านเป็นคนใจบุญตั้งโรงบริจาคทานแก่ยาจกวณิพกเป็นประจำจึงมีผู้เรียกขานท่านว่า “อนาถบิณฑิกะ” หรือ ผู้มีก้อนข้าวเพื่อคนอนาถา
ในมรรคมีองแปด จะต้องเลิ่มจากสัมมาธิฐิ 10 เป็นจุดเริ่มต้น คือ 1 .อัตถิทินนัง ทานมีผล 2 .อัตถิยิตถัง ยัญพิธีมีผล พิธีกรรม 3. อัตถิหุตัง การพลีกรรม มีผล 4 .อัตฐิสุขะตะทุกขะตานังกรรมมานังพลังวิปาโก กรรมมีผล 5. อัตถิอยังโลโก โลกนีมี 6.อัตถิ ปะโลโลโก โลกหน้ามีโลกหน้ามี 7. อัตถีมาตา พ่อมี 8.อัตถิมาตา แม่มี 9. อัตฐิ โอปะปาติกา สัตว์ทีเกิดทางจิตมี 10. อัตถิสมณะพรหมณา สัมมะกตา เยอิมังจะ โลกังจะ สยังอภิญยา สัจฉิกัตตะวา ปเวตีติ พระหรือสมณะผูหยั่งรูโลกนี้โลกหน้ามี ทั้งสิบหัวข้อในมรรคองแปดถูกอาจารย์ยกเลิก7
มันเป็นคลิปสั้นครับ อธิบายยาวคนฟังคนติดตาม น้อย ครับ ผมฟังดูหลายๆคลิป ท่านอาจารย์ท่าน จะเน้นหลักอธิบาย ทั้งของแนวอโศกและแนวสวนโมกข์ครับ แล้วแต่ว่าคลิปไหนพูดถึงเรื่องอะไร
มองต่างมุมครับ สิ่งที่จิตปุถุชน ไม่อาจหยั่งถึง ก็มิได้หมายความว่าจะไม่มีอยู่จริง มันเป็นปัจจัตตัง ผู้รู้ย่อมรู้ได้เฉพาะตน
ดีมาก ผมแชร์ไปแล้วให้หลายคนได้ฟัง!จะได้ตาสว่าง!
ผมเชื่อเรื่องกรรม แต่ไม่งมงายครับ
แค่ทำทุกๆวันให้ดีก็พอแล้ว
ปัจจุบันถ้าเราทำดีก็จะรู้สึกได้เอง
ใครทำชั่วคนทำอาจไม่รู้ แต่เรารู้ในสิ่งที่เขาทำ
เรื่องไหว้เทพขอพร ร่างทรงองคเจ้า
พวกนี้ผมไม่สนใจอยู่แล้ว.
ผมกราบไหว้ระลึกถึงในคำสอนของ
พระพุทธเจ้าเท่านั้นครับ.
ลัทธิอุบาตอื่นผมไม่สนใจครับ
โอเคคับอาจารย์ ผมเริ่มเข้าใจแล้ว
ได้กลับมาฟังคลิปนี้อีกรอบผมเลยเข้าใจ
พุทธเจ้า คนพบว่าชีวิตคือทุกขัง
จึงค้นหาว่า ทำอย่างไรจึงจะพ้นจากทุกขัง
แล้วพุทธเจ้า ก็ค้นพบว่า ทุกขังเกิดในปัจจุบัน
การจะดับทุกขัง ต้องดับที่ปัจจุบัน
เพราะการไปดับทุกขังในอดีต ทำไม่ได้ มันผ่านไปแล้ว
การดับทุกขังในอนาคต ทำไม่ได้ มันยังไม่เกิดขึ้น
เพราะพระองค์ พบว่าอะไรคือทุกขัง
จึงพบว่า อะไรคือเหตุแห่งทุกขัง
เพราะ รู้ว่าอะไรคือเหตุแห่งทุกขัง
จึงพบว่า อะไรคือการพ้นจากทุกขัง
เพราะ รู้ว่าการพ้นจากทุกขังคืออะไร
จึงสามารถมารถ แจกแจงวิธีการพ้นจากทุกขังได้
เพราะไม่ควรสนใจทุกขังในอดีต
จึงไม่ต้องสนใจทุกขังในอดีตชาติ
เพราะไม่ต้องสนใจทุกขังในอนาคต
จึงไม่ต้องสนใจทุกขังในอนาคตชาติ
เพราะงั้น ถึงมีอยู่ ก็เหมือนไม่มี เพราะไม่สนใจ
ที่ไม่สนใจ เพราะไม่มีผลกับ"ปัจจุบัน"
จะเชื่อว่ามี หรือไม่เชื่อว่ามี ก็ไม่มีผลกับทุกขังปัจจุบัน
ถึงรู้ว่ามีอดีต ก็เป็นแค่อดีต แก้ไขไม่ได้
แล้วยิ่งเป็นอดีตชาติ ยิ่งไม่รู้ว่ามี เพราะจำไม่ได้
และถึงเชื่อว่ามีก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเป็นอดีตเช่นกัน
แล้วก็เป็นอดีตที่จำไม่ได้ ระลึกไม่ได้
อดีต กำหนด ปัจจุบัน
ปัจจุบัน กำหนด อนาคต
อดีต และ อนาคต ถือเป็นสมมติ
ทุกขังในอดีต ผ่านไปแล้ว ไม่มีผลกับจิตเรา
ทุกขังในอนาคต ยังไม่เกิดขึ้น ไม่มีผลกับจิตเรา
ทุกขังในปัจจุบัน ควรพิจารณาให้ดี
พระพุทธเจ้าทรงชี้ทางดับทุกข์ สำหรับผู้ที่มีปัญญาเหมาะสม(สามารถจะเข้าถึงธรรมที่พระองค์สอนได้)
พระพุทธสอนให้ประกอบเหตุแห่งความสุข
(สอนให้ทำดีี้ทางไปสวรรค์)
พระพุทธเจ้าทรงสอน ปิดเหตุแห่งความทุกข์
(สอนให้ละเว้นความชั่ว ปิดเหตุแห่งอบายภูมิ)
้ห็นไหมว่า พระพุทธเจ้าทรงทำมากกว่าที่คุณคิด
เพราะคนเรามีปัญญาำม่เท่ากัน การสอนจึงต้องต่าง ไม่ใช่ว่า พระองค์สอนแบบเดียว อย่างที่คุณเข้าใจ
การมองพุทธศาสนาอย่างแคบๆ สุดท้ายก็ไปสรูปว่า ชาติหน้าไม่มีจริง ตายจากชาตินี้แล้วจบ
แล้วก็ไม่ทำความดีอะไร เพราะเห็นว่า ไม่จำเป็น
นั่นคือ มิจฉาทิฏฐิ
บางอย่างใช่
บางอย่างไม่ใช่
ถ้าใช่หมดที่ถูกต้อง
อ.ลอยเยี่ยมเลย
ไม่ใช่อละผิดเยอะเลย
พระศาสดาตรัสว่า "จิต"เรานี้เกิดดับอยู่ตลอดเวลา ดวงหนึ่งเกิดขึ้นดวงหนึ่งดับไปตลอดวันตลอดคืน วนเวียนอยู่ในขันธทั้ง4(รูป-เวทนา-สัญญา-สังขาร.)นั้นแหละ.
เริ่มต้นได้ ดีมากๆครับอยากติดตามตอนต่อไปเสียแล้วละครับ.
จิตของพระเวสสันดร เชื่อมต่อกับจิตของเจ้าชายสิตถัตถะ ในเรื่องของการสละ
พระเวสสันดร สละพระนางมัทรีและสองกุมาร
เจ้าชายสิตถัตถะ สละพระนางพิมพาและพระราหุล
อันเป็นการสละได้ยาก ดังนั้นเจ้าชายสิตถัตถะจึงสามารถออกแสวงหาโมกขธรรมได้
รวมถึงอดีตชาติอีกมากมายที่เจ้าชายสิตถัตถะ ได้สร้างสมบารมีเพื่อพระโพธิญาณเรียกว่าปรมัตถปรมี
หากไม่มีการเชื่อมต่อในอดีตชาติแล้ว ใครก็ตามที่ปราถนาจะเป็นพระพุทธเจ้าโดยหวังจะทำความดีอย่างยิ่งยวดในชาตินี้
แล้วก็จะได้เป็นพระพุทธเจ้าเช่นนั้นคงมีพระพุทธเจ้ามากมายเกิดขึ้นแน่
ดังนั้นจิตของบุคคลในชาตินี้จึงเชื่อมต่อกรรมในชาติก่อน
อืม
เรื่องพระเวสสันดรนั้น เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อสอนให้คนรู้จักเสียสละประโยชน์ส่วนตน เพื่อส่วนรวม อันเป็นหลักศีลธรรมอันดีของมนุษย์ ถ้าสอนเป็นคำพูดว่าให้เสียสละเพื่อสังคม มีจิตสาธารณะ ฯ คนก็ไม่ชอบฟัง ถึงฟังแล้วไม่นานก็ลืม แต่ถ้าแต่งเป็นเรื่องเป็นนิทานอย่างนี้ คนปัญยาน้อยก็เข้าใจ และลืมยาก ส่วนคนมีปัญญาเขาจะเข้าใจหลักการนี้ดีอยู่แล้ว ซึ่งคนมีปัญญาน้อยก็จะรับเอานิทานไปเป็นแบบอย่าง ซึ่งได้ประโยชน์เหมือนกันทั้งสองพวก
@@omsinmonk เรื่องพระเวสสันดร เป็นเรื่องที่แต่งขึ้น หรือไม่นั้น เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล ไม่อาจชี้ชัดว่าจริงหรือแต่งขึ้น เพียงยกมาประกอบเท่านั้น ประเด็นสำคัญคือ จิตของบุคคลในชาตินี้เชื่อมต่อกรรมในชาติก่อน
เรามีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่ง จักทำกรรมใด ดีก็ตาม ชั่วก็ตาม เราจะเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น
@@weerayuth7734 ความเชื่อเรื่องกรรมจากชาติปางก่อนนั้นเป็นแค่ความเขื่อที่สืบต่อกันมาโดยไม่สามารถพิสูจน์ได้ ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่คำสอนที่แท้จริงของพระพุทธเจ้า เป็นคำสอนของศาสนาพราหมณ์ ที่ปลอมปนเข้ามาอยู่ในพุทธศาสนามาช้านานแล้วโดยชาวพุทธเกือบทั้งหมดไม่รู้ตัว
@@omsinmonk พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
โสดาบัน 3 (ท่านผู้บรรลุโสดาปัตติผลแล้ว, ผู้แรกถึงกระแสอันนำไปสู่พระนิพพาน แน่ต่อการตรัสรู้ข้างหน้า)
1. เอกพีชี (ผู้มีพืชคืออัตตภาพอันเดียว คือ เกิดอีกครั้งเดียว ก็จักบรรลุอรหัต)
2. โกลังโกละ (ผู้ไปจากสกุลสู่สกุล คือ เกิดในตระกูลสูงอีก 2-3 ครั้ง หรือเกิดในสุคติอีก 2-3 ภพ ก็จักบรรลุอรหัต)
3. สัตตักขัตตุงปรมะ (ผู้มีเจ็ดครั้งเป็นอย่างยิ่ง คือ เวียนเกิดในสุคติภพอีกอย่างมากเพียง 7 ครั้ง ก็จักบรรลุอรหัต)
พระโสดาบัน จิตเชื่อมต่อกับอดีตชาติ หรือนี่เป็นคำสอนของศาสนาพราหมณ์ หรือนี่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ หรือนี่ก็เป็นเรื่องแต่งขึ้น ???
พุทธแท้ต้องพุทธวจนเท่านั้น
พุทธแท้ต้องธรรมวินัยเท่านั้น❗🙂
กลับมาดูเป็นครั้งที่2 เข้าใจพุทธธรรมมากขึ้น นำพุทธธรรมมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันให้ใช้ชีวิตอย่างเข้าใจโลกและมีความสุข
ติดตามน่ะครับ อ.ลอยให้แง่คิดดีๆ อยู่เสมอ แก่นธรรมะบรรลุได้จากความรู้แจ้ง-เห็นจริง...จากการปฏิบัติเท่านั้น
เมื่อจะพิจารณาหลักพุทธธรรมในเชิงวิทยาศาสตร์ ควรมีตรรกะในความคิดว่า ข้อธรรมต่างๆของพระพุทธองค์ ควรสอดรับ ไม่ขัดแย้งกัน โดยประการทั้งปวง ข้อธรรมใดที่เราเห็นว่าขัดแย้งกัน เราควรเห็นว่า
เราอาจมีความเห็นผิดและเราควรต้องแก้ไขความเห็นหรือความเชื่อของเราเพื่อให้สอดรับกับข้อธรรมอื่นๆ จึงอาจนับได้ว่าเป็นหลักพุทธธรรมเชิงวิทยาศาสตร์ครับ
เช่นเรื่องกรรม พระพุทธองค์สอนว่ากายเรานี้เป็นผลของกรรมเก่า(การได้กายเป็นมนุษย์ ถือเป็นกรรมเก่า) การเวียนว่ายตายเกิดจึงมี หรือการทีเราเป็นไปในทุกวันนี้ก็อาจนับว่าเป็นกรรมเก่าหรือการกระทำในอดีต แต่ ผัสสะก่อให้เกิดการกระทำใหม่หรือกรรมใหม่ทั้งดีและร้าย ขึ้นอยู่กับสติทีมีในปัจจุบัน การไม่นำเรื่องกรรมมาพิจารณาอาจขัดแย้งกับคำสอนของพระองค์ได้สักวันนะครับ
พุทธ วจน สาธุ
เรื่องกรรมเป็น1ใน
อจินไตย ควรรู้และเข้าใจ
เท่าที่พระพุทธเจ้าทรง
ตรัสบอกสอนเท่านั้นพอ
เช่นควรสร้างกรรม
ไม่ดำ ไม่ขาว เป็นไป
เพื่อความสิ้นกรรม
(อริยมรรคมีองค์8)
@@13082511 ขอสอบถามนะครับผมว่า แล้วเหตุแรก กรรมแรก ที่เราทำ ที่เป็นตัวชี้ว่า เราต้องมาชดใช้กรรม จนต้องมาเวียนว่ายตายเกิดทุกวันนี้ เกิดขึ้นตอนไหนครับ พระพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ตรงส่วนไหนหรือเปล่าครับผม
@@13082511 เรื่อง "กรรม" พระพุทธเจ้าสอนว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรศึกษา ไม่ควรสนใจ (อจินไตย) เพราะเป็นเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์แก่การศึกษาเรื่องการดับทุกข์ (อริยสัจ ๔) ถ้าใครหลงไปศึกษาเข้าแล้ว ก็จะทำให้ปวดหัว เสียเวลาเปล่า รวมทั้งยังจะทำให้เกิดความเห็นผิด (มิจฉาทิฏฐิ) ขึ้นมาได้ และเมื่อมาศึกษาเรื่องการดับทุกข์ ก็จะทำให้ศึกษาไม่เข้าใจ
อย่างเช่น เมื่อเราศึกษาเรื่องกรรมที่เป็นคำสอนของศาสนาพราหมณ์ที่ผสมอยู่ในพุทธศาสนา แล้วเราก็เกิดความเห็น (ความเข้าใจ) ว่า มีจิตที่เป็นอัตตาเวียนว่ายตายเกิดเพื่อรับผลกรรม ซึ่งเมื่อเรามีความเข้าใจและเชื่อเช่นนี้ขึ้นมาและยึดมั่นว่าเป็นความเห็นหรือความเชื่อที่ถูกต้องแล้ว
เมื่อเรามาศึกษาเรื่องอริยสัจ ๔ เพื่อนำหลักอริยสัจ ๔ ของพระพุทธเจ้ามาปฏิบัติเพื่อดับทุกข์ ก็จะทำให้เรานำเอาความเชื่อว่าจิตเป็นอัตตา มาเป็นหลักในการศึกษา ซึ่งก็จะทำให้เราเกิดความเข้าใจผิดไปว่า ความทุกข์ตามหลักอริยสัจ ๔ ของพระพุทธเจ้านั้น คือการเกิดร่างกายขึ้นมา (เกิดร่างกายแก่ เจ็บ ตาย พลัดพราก เป็นต้น) และสาเหตุของความทุกข์ก็คือ กรรมเก่าที่ได้ทำไว้ตั้งแต่ชาติก่อนๆทางร่างกาย รวมทั้งยังเข้าใจผิดต่อไปอีกว่า การที่เราจะพ้นทุกข์ (นิพพาน) ได้ ต้องปฏิบัติ ศีล สมาธิ ปัญญาเพื่อที่จะได้ไม่กลับมาเกิดอีก (คือเข้าใจผิดว่านิพพานคือการตายแล้วไม่กลับมาเกิดอีก)
ความจริงแล้ว พระพุทธเจ้าสอนเรื่องอริยสัจ ๔ ไว้ว่า ความทุกข์ คือ ความเศร้าโศก หรือความเสียใจ ความหนักเหนื่อยใจ ความไม่สบายใจ ความคับแค้นใจฯ เกิดขึ้นจากกิเลส (โดยมีอวิชชาเป็นต้นเหตุให้เกิดกิเลส) ส่วนความไม่มีทุกข์ (นิพพาน) เกิดจากการดับกิเลสให้ไม่มีในจิต (แม้เพียงชั่วคราว) ซึ่งวิธีการปฏิบัติเพื่อให้จิตนิพพานนั้นสรุปอยู่ที่ การใช้ปัญญากับสมาธิมาทำงานร่วมกัน (โดยมีศีลเป็นพื้นฐานอยู่ก่อนแล้ว) ซึ่งหัวใจของการปฏิบัติก็คือ ปัญญา โดยหัวใจของปัญญาก็คือ ความเข้าใจที่ถูกต้อง (สัมมาทิฏฐิ) ว่า จิตใจของเราและทุกชีวิตนั้นเป็นอนัตตา (ไม่ใชอัตตา)
สรุปว่า ความเชื่อเรื่องกรรมชนิดข้ามภพข้ามชาตินั้น เป็นความเห็นผิดอย่างยิ่ง เพราะเป็นความเห็นที่ตรงข้ามกับคำสอนของพระพุทธเจ้าที่สอนว่า จิตใจของเรานั้นเป็นอนัตตา (ที่ไม่สามารถออกจากร่างกายที่ตายไปแล้วได้ หรือไม่มีการเกิดขึ้นมาใหม่ให้เหมือนเดิมได้) แต่เรื่องกรรมชนิดข้ามภพข้ามชาติกลับสอนว่า จิตใจของเรานั้นเป็นอัตตา (ที่สามารถออกจากร่างกายที่ตายไปแล้วได้ หรือมีการเกิดขึ้นมาได้ใหม่ให้เหมือนเดิมได้อีก ที่เรียกว่าการเวียนว่ายตายเกิดเพื่อรับผลกรรมจากชาติก่อนๆ)
ดังนั้นใครที่ยังเชื่อเรื่องกรรมชนิดข้ามภพข้ามชาติว่าเป็นเรื่องจริงอยู่ ก็จัดว่ายังไม่รู้จักและเข้าใจหลักอริยสัจ ๔ ของพระพุทธเจ้าได้อย่างถูกต้อง (ยังเป็นมิจฉาทิฏฐิอยู่)
ขอบคุณครับอาจารย์ลอยซึ่งมากครับ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน อย่าฝากความหวังไว้กับใคร.
@@chutipas817 อาศัยการดับของอะวิชา
ขอบคุณครับ
อยากให้อาจารย์ อภิปรายเรื่อง "ความบังเอิญไม่มีในโลก" ในแบบพุทธธรรม ดูบ้างครับ
ฟังแล้วช็อคนนิดนึง หากกรรมเก่าไม่มีจริง จิตไม่เชื่อมโยงอย่างที่กล่าวมาแล้ว
ฉะนั้น เรื่อง บาป / บุญ / คุณ-โทษ นั้นมีจริง หรือไม่
ผมแย้งอาจารย์มา คลิปนี้คบิปที่ 3 ครับ อย่าหวั่นไหวเพราะใครครับ แต่ไม่ปิดกั้นการรับฟังครับ
บาปบุญคุณโทษ เป็นสิ่งสมมติขึ้นเพื่อความสงบเรียบร้อยของสังคมเช่นเดียวกับกฎหมาย
สาธุค่ะ
ถ้าคนเราตายเเล้วศูนย์ อย่างนั้นก็เเสดงว่าเราเกิดชาตนี้เป็นชาตเเรก เพราะชาตที่เเล้วก็ต้องไม่มี เเละถ้าเราเกิดมาชาติเเรกจริง คนที่เป็นคู่เเฝดเเท้กันน่าจะต้องเหมือนกันทุกประการทั้งรูปร่างหน้าตานิสัยใจคอ เกิดมาจากเบ้าหลอมเดียวกันโครโมโซมเดียวกันยีนเดียวกัน แค่ปรากฏว่าคอดออกมาแล้วก็ไม่เหมือนกันเเค่คล้ายกัน ถามทำไมทั้งทั้งที่พี่น้องเกิดมาจากพ่อแม่เดียวกันแต่ไม่เหมือนกันถ้าเชื่อว่าชาติที่แล้วไม่มีก็ไม่รู้จะตอบคำถามยังไง แต่ถ้าเชื่อว่าชาติที่แล้วมีถ้าอย่างนั้นมีคำตอบเพราะทำบุญเเละบาปในชาติที่แล้วมาต่างกันถึงเกิดพ่อแม่เดียวกันก็ไม่เหมือนกัน
ขอบพระคุณค่ะอาจารย์
ขอบคุณอาจารย์ครับ รอชมตอนต่อไปครับ
นาๆๆจิตตัง....เอาที่สบายใจคับ
มีหลายศาสนาในประเทศไทย
แค่ดูพาดหัวก็เข้าใจตรงกับผมเลยล่ะ.จริง ! ใช่ ! "คนไทยไม่ใช่ชาวพุทธ"เพราะเชื่อและทำตรงกันข้ามกับพระพุทธเจ้าทรงอุตส่าห์บำเพ็ญนานเเสนนานเพื่อตรัสรู้"มาสั่ง มาสอนเหล่าบุคคลต่างๆ.พูดง่ายๆคนไทยส่วนมากกกกก....พุทธเพียงปากพุทธเพียงเขียนใส่ในทะเบียนบ้าน,บัตรประชาชน.จริงจริ้ง.
ขอบคุณ อ. ลอย ที่ทำคลิปให้ความรู้แบบนี้มากเลยนะคะ อยากให้คนมาดูเยอะ ๆ แล้วทำความเข้าใจพุทธแท้ให้มาก ๆ ชอบคำว่า being proactive มากเลยค่ะ สิ่งนี้สำคัญจริง ๆ
อาจารย์ยังพูดไม่ถูกต้องทั้งหมด พระพุทธเจ้าสามารถระลึกชาติได้ ถึงเรียกว่า ทศชาติชาดก เช่นชาติที่เป็นพระมหาชนกเป็นต้น ส่วนตัวตนของเรานั้น มันประกอบด้วยขันธ์ 5 รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ แน่นอนว่ารูปอาจไม่เกี่ยวข้องกัน แต่อีก 4 ส่วนที่เหลืออาจเกี่ยวข้องกันซึ่งปัจจุบันวิทยาศาสตร์ยังไปไม่ถึง ส่วนเรื่องที่มีผู้ลิขิตไว้แล้วนั้นมีอยู่จริงเพราะเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่มีบางส่วนเท่านั้นที่เราควบคุมได้ บางส่วนเราควบคุมไม่ได้ และพระพุทธเจ้าสอยใก้เราอยู่กับปัจจุบัน คืออย่าอาลัยถึงอดีด อย่าคร่ำครวญถึงอนาคตที่มาไม่ถึง ครับ
❤😂.ขอจงสว่างไสวท้วนทั่วกัน...พระพุทธเป็นผู้เห็นหนทางที่ปลุกให้ตื่นจากสาเหตุที่เป็นสหทัยทั้งหมดเท่าที่โลกสร้างทุกอย่างขึ้นมา...สัญญาเป็นเชื้อเหนี่ยวนำอุปโลก.แลอุปทานจึงตามติดคิดวาดแบบตั้งรูปขันธ์ในที่สุดคือโลกทั้งใบ..โดยมีจิตแลใจเป็นตัวก่อเหตุทุกสภาวะนี่แล...สาธุๆๆโลกคือองค์ทุกข์แลขังสัตว์ไว้ทั้งหมด...สาธุ😢😮😅
#กฏแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ
ทุกชีวิต
ทุกศาสนา
ล้วนตกอยู่ภายใต้กฏของพระพุทธ
เป็นกฏธรรมดาของธรรมชาติ
เป็นไปตามกรรมเลยครัช
ขอบคุณอาจารย์ลอยมากครับ
ขอบคุณโลกปัจจุบันที่มีโซเชียลมีเดีย อย่่างน้อยเราและน้องๆ คนรุ่นใหม่ ก็สามารถรับรู้ เลือกรับ สิ่งที่เป็นประโยชน์เข้ามาในชีวิตได้
สมัยก่อนโดนครอบ ไม่ให้คิดเลย อันนี้คือเหตุผลที่ผมส่งลูกเรียนอินเตอร์ตั้งแต่ 2 ขวบครึ่ง ปัจจุบันอายุลูกชาย 11 ขวบแล้ว เขาโตและได้คิด ได้กล้าทำไม่ยึดติดในกรอบเดิมเกินไป
อาจารย์พูดถูกทุกอย่าง อาจารย์โชคดีที่เลือกอยู่ต่างประเทศ ถ้าอยู่กะลาแลนด์ไม่ได้พูดหรอกครับ เพราะประเทศนี้ปกครองโดยเทวดาและคนดีเผด็จการเสนานุภาพ ต้องการให้ประชาชนโง่ จน เจ็บ เจ๊ง และไม่ต้องการให้ประเทศพัฒนา ถ้าประชนฮลาดขึ้น พวกมันจะอยู่ไม่ได้
ทำไมประเทศไทยถึงเชื่อเรื่องพวกนี้เยอะมากละคะ หญิงอยากเป็นพุทธแท้ เพิ่งศึกษาคำสอนพระพุทธเจ้าค่ะ ขอบคุณที่ช่วยเตือนนะคะ
พุทธ โมเดล
อาจารย์สมบูรณ์แบบมากครับ ทั้งศาสนาพุทธและวิทยาศาสตร์
ศึกษาพุทธวจนวัดนาป่าพงครับถูกต้องตรงจริง..
ใช่ค่ะ
หัวข้อนี้ตรงมากๆครับท่าน
ฟังอาจารย์แค่10นาทีคุ้มค่ามากๆ
แต่บางที...มันก็ต้องทำใจ
เพราะคนที่ไม่ได้ปฏิบัติธรรม
ไม่เคยสวดมนต์
จิตใจจะไขว้เขว!จึง มีความเชื่อดั่งที่ ท่านอาจารย์ลอยบอกนั้นแล!
ขอเพียงเชื่อแล้วทำความดี
อย่าเบียดเบียนผู้อื่นให้เสียหาย
อย่าทำอะไรในความเชื่อที่ทำให้ตนเองเดือดร้อน
เท่านี้ก็เท่ากับ ไม่ทำกรรมชั่ว!
พึ่งได้ฟังครั้งแรกมีประโยชน์มาก
ได้ความรู้ความเข้าใจมากขึ้น
ขอบคุณมากครับ
ขอบพระคุณครับ
ขอบคุณอาจารย์
ช่องดีๆ ที่พูดเรื่องแบบนี้ สาระความรู้แบบนี้มีน้อยครับ ขอให้พูดเรื่องแบบนี้เยอะๆ
เช่นกันครับผมชอบมากๆ อ ลอย อธิบายได้ครอบคลุม ละเอียดทั้งทางโลกและทางธรรม แม้ผู้มีความรู้จบแค่ป.4 ก็สามารถเข้าใจได้ง่ายโดยไม่มีข้อกังขาสงสัย ฟังคลิปรอบแรกไม่เข้าใจ เปิดฟังอีกครั้งแล้วจะเข้าใจทั้งหมดครับ
ขอบคุณมากครับ ชอบมากครับ
กลับมาฟัง ครั้ง ที่ 2
อยากให้ทำคลิป อธิบายเพิ่มเติม ในเรื่องของภพชาติครับ ถ้าหากว่าภพชาติไม่มีจริงแล้วเหตุใดคนเราจึงเกิดมาไม่เท่าเทียมกันครับ ทำไมธรรมชาติถึงไม่สร้างมนุษย์ให้มีความฉลาด มีฐานะเงินทองเท่ากันเมื่อแรกเกิด ก็เท่ากับว่าคนที่เกิดมาโง่หรือบ้า ก็ไม่มีสิทธิได้เข้าถึงนิพพาน จนหมดอายุขัยไปตามธรรมชาติไม่มีโอกาสได้หลุดพ้น ติดตาม อ.ทุกคลิปครับ อยากให้มีทฤษฎีมาหักล้างเรื่องนี้ครับ
ทำหมันให้หมดก็ไม่เกิดแล้วค่ะ
ที่ว่าทำไมคนเกิดมาไม่รวยเท่ากันก็อาจจะเป็นไปได้ที่ธรรมชาติไม่ได้สร้างให้เกิดมาเพื่อร่ำรวยเงินทอง แต่ให้เกิดมามีชีวิตเหมือนกัน ย้อนกลับไปยุคแรกเริ่ม มนุษย์ยุคหิน ปัจจุบัน มนุษย์ ได้ทำทรัพสมบัติ ขึ้นมาเอง เพื่อแลกเปลี่ยน กับสิ่งที่ต้องการ
ผมคิดเองว่าเราควรต้องแยกระหว่างสิ่งที่มีหรือไม่มี กับสิ่งที่ควรเชื่อหรือไม่ควรเชื่อ
ผมเชื่อว่าธรรมชาติไม่ได้ให้ยุติธรรมครับ แต่ตายก็จบไม่เหลือแม่แต่ความว่างเปล่าเท่าๆกัน
สิ่งที่ทุกคนอยากได้อยากมีก็คืออำนาจวััตถุคือสิ่งที่ภูมิใจถ้าทุกคนไม่ได้สิ่งนี้ที่เท่าเทียมก็จะคิดว่าตัวเองไม่เท่าเทียมผมเชื่อว่าธรรมชาติทำให้เกิดมาเพื่อวัดใจของแต่ละคนมากกว่าครับ ว่าใครจะดีหรือชั่วส่งผลให้การกระทำ เพราะสิ่งที่ติดตัวเราไปตอนตาย ก็คงจะมีแต่ความดีและชั่วของแต่ละคนเท่านั้น
เปิดโลกเลยครับ ขอบคุณอาจารย์มากครับ
อนุโมทนาสาธุค่ะอาจารย์
ขอบคุณครับอาจารย์
สิ่งที่มีค่าคือปัญญา ขอบคุณมากนะครับ
นี่เเหละครับ พุทธะ ต้องเริ่มเข้าใจตรงนี้ก่อน ไม่งั้นนานไปสุดท้ายลังเล หลงทาง ซะงั้น
ขอบคุณครับ... อาจารย์
ชอบมากถึงมากทีสุดคับขอบพระคุณคับ
ผมติดตามชอบทุกคลิปเลยแต่ละคลิปมี เหตุและผล ความเป็นจริง ไม่งมงาย ได้ฟังแล้วทำให้ เข้าใจคำว่าศาสนาพุทธขึ้นเยอะพอสมควร
ขอบพระคุณท่านอาจารย์ ผมติดตามท่านอาจารย์ทุกคลิป แต่ละคลิปเปิดโลกทัศน์ และเปลี่ยนมุมมอง การใช้ชีวิต ผมไปตลอดกาลครับ
อ.ลอยเป็นศาสดาของคุณแล้วล่ะ
🙏🙏🙏ขอบพระคุณค่ะ
ชอบครับ
ดิฉันเข้าใจที่อาจารย์ลอยพยายามจะบอกชาวพุทธนะคะ แต่เพราะคนพุทธส่วนใหญ่ไม่ศึกษาพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้ากันเลย จึงยังหลงเชื่อในเรื่องผิดๆ ตามๆ กันมา แนะนำให้ฟังพระธรรมจากพระไตรปิฏกเพื่อให้เกิดความเป็นพุทธบ้างไม่มากก็น้อยในชาติที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์นี้ค่ะ จากคำบรรยายของพระอาจารย์สมบัติ นันทิโก ค่ะ
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า ตำราที่เราศึกษานั้น คือคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธเจ้า่? และครูอาจารย์ที่เรานับถือนั้น ท่านมีความเห็นที่ถูกต้องแล้ว?
ใช่ค่ะ บิดเบือนไปหมดค่ะ สัทธรรมปุณฑริกสูตร พระสูตรสุดท้ายที่พระพุทธองค์สอน พิสูตรได้ตามหลักวิทยาศาสตร์
สาระสำคัญของพระสูตรนี้ น่าจะกล่าวถึงยาน 3 อย่าง ที่พาสรรพสัตว์ข้ามพ้นวัฏฏะสงสาร
ขอบคุณอาจารย์มากๆครับ ฟังแล้วเกิดปัญญาทุกครั้ง
🙏 ขอบพระคุณครับ❗../..💐..🎀
ชอบมากครับ เป็นความรู้ ที่ผมสนใจมากแต่ไม่รู้จะฟังจากใครที่ไม่ใช่พระ ขอบคุณครับ
อยากรู้ไปที่ศูนย์ยุวพุทธิกสมาคมกทมมีอาจารย์ไม่ใช่พระสอนนะจะได้รู้เยอะค่ะพวกเราส่วนากเรียกว่าเป็นพุทธตามสำเนาทะเบียนบ้านไม่ได้รู้เรื่องอะไรยิ่งมายุคนี้ศาสนากำลังเสื่อมถอยตัวพระเองเป้นผู้ทำและกับศาสนาอื่นมาร่วมทำลายสารพัดวิธีมันก็เสื่อมเร็วดั่พระพุทธเจ้าทรงทำนายเอาไว้ถ้าเราชาวพุทธไม่ช่วยกันดูแลศาสนาจะหายไปไวกว่าที่คิดพระพุทธเจ้าฝากศาสนาไว้กับบริษัท4มีภิกษุ ภิกษุณี อุบาสกและุอุบาสิกาค่ะ
ศาสนาพุทธคือวิทยาศาสตร์ล้วนๆ มีหลักและเหตุผลทุกๆอย่าง
คนไทยส่วนใหญ่ไร้สาระครับ พุทธคือวิทยาศาสตร์ความจริง
@@tinnakitboonvai1771 คนไทยส่วนใหญ่นับถือผีครับ
คนไทยหลายคนลืมไปว่าศาสนาพุทธเกิดจากการทดลองที่ลองมาเกือบทุกศาสนาทุกเเนวปฎิบัติ
ก็ไม่ล้วนหรอกครับ... ขึ้นอยู่กับที่หยิบยกส่วนไหนมาอธิบาย ซึ่งมีหลายส่วน.. หรือส่วนที่เสริมแต่งกันมา จนทำให้ไม่ใช่หลักวิทยาศาสตร์มีส่วนที่ผสม ปนเปจนกันแยก
ซึ่งอาจารย์ หยิบยกส่วนเป็นวิทยาศาสตร์มาอธิบายได้ดีครับ
พุทธคือพุทธ วิทยาศาสตรคือวิทยาศาสตร์
สาธุครับอาจารย์
ชัดเจนขอบคุณคะ🙏👍
ผมเคยฟังแต่ พุทธวจน วันนี้ได้มาฟังอาจารย์ลอยอธิบายเรื่องพุทธธรรม เป็นคลิปที่ 2 แล้วครับ และจะเข้ามาฟังในคลิปต่อไปครับ
@เจมส์บอนด์ น้อยน้อย ผมทราบครับผมอยากฟังในแง่ของผู้ที่ยึดหลักวิทยาศาสตร์จาก อ.ลอย อยากฟังคำอธิบายศาสนาในแบบของ อ.ลอย ส่วน อ.คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล ผมก็ชอบฟังท่านในแง่ของหลักฐานทางศาสนาที่มีลายลักษณ์อักษรที่เก่าที่สุดเท่าที่จะมี และไม่มีคำแต่งใหม่(ตามที่อาจารย์บอกไว้) สุดท้ายทั้ง2ท่าน เป็นอาจารย์ผมทั้งคู่ครับ ท่านหนึ่งสอนคณิตตอนผมเรียน ม .ปลาย อีกท่านสอนธรรมะผมครับ สามารถนำหลักคิดไปใช้ในชีวิตจริงได้ทั้ง 2 แบบเลยครับ 😄😄😄
@เจมส์บอนด์ น้อยน้อย เราจะรู้ได้อย่างไรว่าคำสอนในตำรานั้นคือคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธเจ้า หรือไม่ใช่คำสอนที่แท้จริงของพระพุทธเจ้า?
@@VBOY1990 เช่นกันครับ
พวกนอกรีตผมสงสัยเพียงข้อ1ข้อเดียวข้ออื่นผมเห็นคล้อยตาม อ. เราสร้างกรรมดีในชาตินี้เพราะเชื่อว่าใน ชาติหน้าจะพบเจอในสิ่งที่ดีกว่าในปัจจุบัน
@เจมส์บอนด์ น้อยน้อย
ถูกบ้างผิดบ้าง เพราะเอาสาวกภาษิตเข้ามาผสมปนเป นี้เป็นเหตุให้พลัดหลงเข้าสู่มิจฉาทิฏฐิโดยไม่รู้ตัว
ถูกต้อง มากเลย. และในระยะต่อไปนี้. มนุษยชาติ. ควรหันมากินมังสะวิรัตให้คล่องแคร่ว. และอย๊่ได้แบบไม่ต่อต้าน. เราเองก็กำลังติดตามความเป็นไปที่เป็นพุทธแบบอิสระ. คือความพิจารณาธรรมแบบ อิสระวิทยาธรรมที่เป็นสากล. มันควรเป็นผลที่มีอานุภาพกว้างไกลที่รู้แจ้งแบบไม่มีข้อโต้แย้งได้. ที่ผู้ถือธรรมในกะลายังไม่เข้าใจในผล
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ อาจารย์ ลอย ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ กำลังค้นหาตัวเองอยู่
ระวังจะหลงทางครับ
เรื่องธรรมะ ต้องปฏิบัติ ไม่อย่างนั้นหลงตำราหลงความรู้ที่จำมาได้ง่าย ๆ
เมื่อมีความเห็นผิด ไปนั่งในหัวใจใครแล้ว ยากมากที่จะแก้ไข
ศึกษาให้รอบด้าน โดยเฉพาะพระที่ท่านสำเร็จแล้ว ลองปฏิบัติตามดู ให้เกิดผลเบื้องต้นของสมาธิ
ก็จะพอเข้าใจพระศาสนาตามลำดับ วาสนาบารมีของตน.. ( ถ้าศีลห้ายังปฏิบัติไม่ได้ก็ยังไม่พ้นนรก อย่าได้ไปตำหนิใคร ๆ )
@ชายไทย สัญชาติไทย ไปเรียบร้อยแล้ว ผู้ปฏิบัติจะไม่มีการคัดค้านสิ่งที่พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้
พระตถาคตตรัสไว้ชัดครับ จิตดวงนี้ดวงเดียวที่เวียนว่ายได้สังขารเกิดตาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการเกิดตายในลักษณะรูปสังขารต่างๆจึงเกี่ยวเนื่องด้วยเหตุต้น ผลกรรมส่ง ซึ่งมีทั้งกุศลกรรมและอกุศลกรรม เหตุกรรม และผลกรรมที่ส่งไห้จิตนี้ได้สังขารของความเกิด ทั้งนี้เพราะตัว อวิชชาคือ ความโง่หลง ติดยึดอยู่ในกุศลกรรมและอกุศลกรรมจึงส่งผลไห้เวียนว่ายเกิดและตายไม่จบสิ้น หากแจ้งต่อ(จิตเดิมแท้)พระนิพพานเสียก็ตัดกรรมเหล่านั้นได้ ส่วนจิตที่โง่หลงเวียนว่ายเกิดตายในสังขารภพชาติ จะกี่แสนชาติก็จิตดวงเดียวนี้ เมื่อชาติก่อนกับชาตินี้ก็จิตนี้ไม่ไช่จิตอื่นจิตไคร ตั้งแต่เกิดจนบัดนี้หลับๆดื่นๆก็จิตดวงเดียวนี้ ส่วนคำว่าจิตชาติก่อนชาติใดไม่เกี่ยวพันกันเพราะเป็นคนละดวงคนละชาตินั้น นั่นเป็นมิจฉาทิฏฐิ มันก็จิตดวงเดียวนี้แหละ แต่มันมาจุติได้สังขารที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละชาติ ก็เพราะ กุศลกรรม และอกุศลกรรมส่งผล ดังนั้นจะว่าจิตดวงนี้ไม่เกี่ยวเนื่องด้วยอดีตกรรมนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้ ส่วนตอนเป็นเด็กทารกจิตเป็นแบบหนึ่งนิสัยแบบหนึ่ง โตมาเป็นหนุ่มเป็นอีกแบบ แก่มาเปลี่ยนไปอีกแบบ แล้วจะไปกล่าวว่าจิต ตอนเด็ก มาหนุ่มจนแก่ ไม่เกี่ยวเนื่องกันนั้นย่อมเป็นมิจฉาทิฏฐิ เพราะมันคือจิตดวงเดียวนี้ แต่ที่มันแปรเปลี่ยน มันลืมบ้าง เพราะสภาวะกิเลสหรือสัญญาเหล่านั้นมันไม่เที่ยง มันสามารถเปลี่ยนไปตามอำนาจกิเลสที่จรเข้ามาห่อหุ้มครอบงำ หรือเปลี่ยนไปเพราะภูมิความรู้หรือภูมิจิตภูมิธรรมก็ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่า จิตมีสองดวงสามดวงสี่ดวงมีล้านๆดวงมาผลัดเปลี่ยนกันได้ มันก็ดวงเดียวนี้แหละ แต่ในส่วนความคิดอารมณ์ต่างๆที่แตกแยกย่อยนั้นท่านเรียกว่า (จิตเจตสิก) จิตเกิดจิตดับ หรือจิตปลอมๆ ไม่ไช่จิตเดิมแท้แต่ประการใด จิตเกิดๆดับๆนี่แหละที่มันมีทั้งกุศลและอกุศล หากหลงเข้าไปยึดถือเอาว่านั่นคือ จิตเดิมแท้หรือ(พระนิพพาน) อ้ายตัวจิตเดิมแท้นั่นแหละคือผู้ที่ยังโง่ยังหลง(อวิชชา) อ้ายจิตเดิมแท้ดวงเดียวนี่แหละจึงต้องได้มาจุติได้สังขารภพชาติในลักษณะต่างๆตามแต่กุศลกรรมและอกุศลกรรมที่ยึดมั่นพึ่งพิงนั้นส่งผลไม่จบไม่สิ้น หากบุคคลไม่แจ้งจิตเดิมแท้แห่งตน หรือจิตเดิมแท้นี้ไม่ยอมตื่นขึ้นมาเห็นแจ้งความจริงแห่งตน เมื่อนั้น จิตเดิมหรือหรือพุทธะก็คือปุถุชนผู้ยังโง่หลงอยู่ ต่อเมื่อจิตเดิมแท้ตื่นขึ้นมาเห็นแจ้งความจริงแห่งตน เมื่อนั้นจิตเดิมแท้ก็คือพุทธะคือ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน นี่ มันพ้นโง่หลงกันที่ตรงนี้ สรุปมันก็จิตดวงเดียวนีแหละครับ พระตถาคตจึงตรัสว่า จะชาติไหนๆ ภพไหนๆก็จิตดวงเดียวนี้ ไม่ไช่จิตอื่นจิตไคร และอีกคำตรัสหนึ่งในคิริมานนทสูตรมีอยู่ว่า เมื่อครั้งเราตถาคตยังไม่บรรลุซึ่งพระนิพพาน(จิตเดิม) เราตถาคตซึ่งยังเวียนว่ายอยู่ในวัฏฏะ เราตถาคตก็ยังทรงประกอบกรรมดี อาศัยกุศลกรรมเป็นสิ่งค้ำจุนประคับประคองไปในระหว่างวัฏฏะ ต่อเมื่อเราตถาคตได้บรรลุแล้วซึ่งพระนิพพาน กุศลกรรมนั้นเราตถาคตก็ได้ละวางปล่อยทิ้งไปหมดแล้วย่อมจะไม่พึ่งพิงอีก นั่นไง จะว่าเวไนยสัตว์เกิดตายโดยไม่เกี่ยวเนื่องด้วยกรรมได้อย่างไรกัน
ขอบคุณ ตั้งใจพิมพ์มาอย่างยาว สาธุ
สาธุครับ
จิต มโน วิญญาณ คือสิ่งเดียวกัน แต่เกิดขึ้นคนละจังหวะ จิตนีเกิดดับอยู่ตลอดวันตลอดคืน วิญญาณเวียนว่ายตายเกิดไม่มี แต่ “สัตว์”ต่างหากที่เวียนว่ายในวัฏสงสาร สัตว์จะยึดจิตดวงใหม่ไปเลื่อยๆ แต่เมื่อสัตว์ปล่อยวางขันธ์ห้าได้แล้ว โดยเฉพาะปล่อยวางวิญญาณ ก็จะได้ “อรหันต์” พระอรหันต์ท่านไม่ใช้จิต มโน วิญญาณแล้ว ท่านจะใช้ “วิมุติญาณทัศนะ” ในนิพพานไม่มีดิน น้ำ ลม ไฟ ไม่มีกว้าง ยาว สั้น งาม หรือ ไม่งาม ไม่มีอะไรไปปรุงแต่งมันได้ เป็น “อสังขตะธาตุ” เป็นอมตะ ส่วน ภพทั้งสาม คือ กามภพ รูปภพ อรูปภพ เป็น “สังขตะธาตุ” เป็นอนัตตา คือมีขึ้น ตั้งอยู่ แล้วแตกสลายไป.
มึงรู้ได้ไง มึงเคยนั่งฟัง เหนอ
อันนี้เป็นพระสูตรไหนครับ
ขอบคุณพระคุณมากค่ะ
ขอบคุณมากค่ะอาจารย์
ผมติดตามอาจารย์นะครับ ผมก็จบด้สนวิทยาศาสตร์ แต่มีความรู้น้อยกว่าอาจารย์
แต่เรื่องนี้บางอย่างไม่ตรงกับสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงสอน.. อาจารย์ลองเปิดใจหาข้อมูลใหม่อย่างรอบด้านหรือลองเข้ามาศึกษาปฏิบัติจริงจังดูนะครับ พระพุทธเจ้าทรงจำแนกปัญญาเป็น 3 ระดับ คือ
๑ ปัญญาที่เกิดจากการอ่านการฟัง =ปัญญาขั้นต้น
๒ ปัญญาที่เกิดจากการคิดวิเคราะห์=ปัญญาขั้นกลาง
๓ ปัญญาที่เกิดจากการปฏิบัติ=ปัญญาขั้นสูง
ถ้าไม่เคยลองพิสูจน์โดยการปฏิบัติ ก็อย่าด่วนสรุปนะครับ
อยากให้อาจารย์อธิบาย นิยตมิจฉาทิฐิ ครับ เพราะเห็นว่าทำไมถึงมีเรื่องโลกนี้ โลกหน้า มีบูชา บวงสรวง ซึ่งขัดกับ ติตถายตนะ
ขอบคุณอาจารย์มากมายเลยค่ะ ทีให้กระจ่างแจ้งในปัญญา เคยคิดมานานเรื่องนี้ค่ะ
มีประโยชน์มากครับ
ผมเป็นคนที่เชื่อเรื่องกรรมของการกระทำ และคิดว่าผมเกิดแค่ชาตินี้ชาติเดียว คนเรามีชาติเดียว นรกสวรรค์ผมไม่เชื่อ ผมเชื่อความถูกต้อง ถูกผิดธรรมชาติบนโลกใบนี้จะสอนเราเอง
@@sophontumnanjit1943 ขอบคุณครับ แต่ผมเป็นคนที่เข้าถึงสมาธิได้ยากสุด วอกแวกไปมา สมาธิสั้นเกิน😂😂😂
5:29 ตอบ ส่วนตัวผมมองว่าร่างกายเราคือธาตุที่อยู่บนโลกใบนี้ครับ ในทางวิทยาศาสตร์ การรวมธาตุ หรือการเกิดของมนุษย์ ทุกคนล้วนแล้วแต่มีจุดกำเนิดเดียวกัน และนี่คือหลักฐานที่เห็นได้ชัดว่านี่คือวิธีการ เกิดการรวมธาตุที่ชื่อว่ามนุษย์ขึ้นมาครับ
คนไทยหยิบเอาทุกความเชื่อมายึดถือไว้ทั้งหมดแล้วถือเอาเป็นความเชื่อรวมของตน น่าเห็นใจมากๆเลยค่ะ
ใช่ แม้แต่วิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นศาสตร์ทางวัตถุ
ยังมีคนพยายามเหมารวม ให้พุทธศาสนา
กลายเป็นวิทยาศาสตร์ให้ได้ พยายามจะเอา
ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ เข้ามาแทนที่ความเชื่อทางศาสนา เพราะเขาคิดว่า คำสอนบางคำสอน
ในพุทธศาสนานั้น มันงมงาย ไร้สาระ ไม่เหมือน
กับวิทยาศาสตร์ที่ดูมีเหตุมีผล เพราะฉะนั้น ก็เลย
พยายามจะเปลี่ยนแปลงพระพุทธศาสนา ให้กลาย
เป็นวิทยาศาสตร์ไปเสียเลย
สาธุ🙏💖
ขอบคุณครับ....ผมได้ความรู้มาก...สำหรับความรู้ต่างๆที่ได้ถ่ายทอด...หลายอย่างทำให้ผมเข้าใจชีวิตมากขึ้น...อาจารย์คือผู้รอบรู้จริงสำหรับผม ขอบคุณครับ...ผมจะติดตามคุณเสมอ ได้โปรดอย่าหยุดนำสิ่งดีๆมาชี้แนะให้พวกเราได้เข้าใจอย่างท่องแท้นะครับ
ความจริงที่แสนเจ็บปวด ต่อสิ่งรอบกายที่เราเจอประจำ
@@flasttv9427 เจ็บปวดแค่ไหนสุดท้ายเราก็ปล่อยวางได้ เพราะมีโลกีมัวเมา
การปฎิบัติของแต่ละบุคคล คือ ช่องทางของคำตอบ
นอกนั้น เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล
อยากได้คำตอบ ตรงไหน ปฎิบัติสิ่งนั้น......
แปลกมากที่หลักสอนหรือคำเทศน์ต่างๆที่ออกมาจากพระในไทยมีแต่เรื่องภพชาติ กฎแห่งกรรมจากชาติปางก่อน
ศรัทธาใครก็ฟังคำสอนของผู้นั้น สัตว์โลกเป็นตามกรรม ต้องต้องศึกษาทิฐิ 62 ของพระพุทธเจ้าแล้วก็เข้าใจทิฐิของคนและเทวดาเอง ฉะนั้นลองศึกษาพุทธวจนล้วนๆ จะเข้าใจความคิดของคนทั้งโลกเอง แต่อาจอาจมีคนแย้งว่าอะไรคือพุทธวจน แต่สำหรับผู้มีปัญญาแก่กล้าเมื่อได้สัมผัสกับพุทธวจนแล้วจะแยกแยะได้เองเช่นเรื่องจริงเรื่องแท้แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์พระองค์ไม่พูด เรื่องจริงเรื่องแท้ประกอบด้วยประโยชน์ ถูกกาลเวลา เป็นไปเพื่อเบื่อหน่าย คลายกำหนัด เพื่อความดับ เพื่อความรู้พร้อม เพื่อยิ่ง เพื่อนิพพาน พระองค์จึงพูดสอน ฉะนั้นผู้มีปัญญาย่อมตัวรอดได้เอง การจะสอนคำสอนของพระองค์ต้องละเอียดปราณีตกว่านี้ครับ อ.ลอยเก่งครับแต่ผมว่าถ้าอ. ลอย อยากบอกเรื่องกรรมในชาติก่อนควรศึกษาเรื่องกรรมก่อนว่าพระพูดว่าอย่างไร มีผลเมื่อไร มีผลอย่างไรในชาตินี้ เพราะมันเป็นเรื่องของกฏอิทัพปัจยะ คือกฏของการเกิดขึ้นของธรรมชาติคือการเกิดของสรรพสิ่ง ของสัตว์โลก ในความคิดส่วนตัวอ.ลอยยังมีความคิดที่ดี แต่ยังมีอัตตาอยู่ครับ สาทุ
เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้ย้อมมี
เพราะความเกิดขึ้นแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น
เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้ย้อมไม่มี
เพราะความดับไปแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงดับไป
ทุกวันนี้พุทธของเราหาคนเผยแพร่แบบแก่นแท้ๆได้น้อยมาก อยากให้มีคนแบบอาจารย์มากๆในสังคมเรา
มีอีกคลิปครับอธิบายได้ดีมาก พิมคำว่า (พุทธนายชุดที่1)เจ้าของคลิปเป็นผู้หญิงครับ
สาธุ
คลิปแบบนี้น่าจะมียอดวิว70ล้านใน24ชั่วโมงบ้าง
เข้าใจอารมณ์เลยครับ... แต่ลำพังคนที่ฟังภาษาไทยของ อจ.ท่านออก ก็มีแต่ชาวไทยเราครับ น่าจะยากสักหน่อย ^_^
คนที่เข้าใจในศาสนาพุทธอย่างแท้จริง เปรียบปริมาณได้เท่ากับดินติดปลายเล็บ เมื่อเทียบกับดินทั่วทั้งปฐพีในโลกนี้
@@user-ei8pk3xz6q อ่านแล้วแทบหมดกำลังใจเลย ช่วยกันเผยแพร่มากๆ อาจกอบกู้โลกได้
มันเป็นธรรมชาติครับ เรื่องปรัชญา ไม่ใช่เรื่องที่ทุกคนสนใจ หรือต้องสนใจตลอดเวลาอะไรประมาณนั้นนะครับ
และคิดว่า ศาสนา ไม่ใช่สิ่งเดียวที่ทำให้คนอยู่ในสังคมอย่างมีความสุขได้
@@tasyjames5586 มันมีตรงไหนที่ย้อนแย้งเหรอครับ เผื่อมีจุดที่ผมมองข้ามไป
พุทธแท้จะเข้าใจเรื่องเหล่านี้ดี แต่จะทำอย่างไรให้ความเข้าใจที่ถูกต้องเหล่านี้มันเผยแพร่ออกไป ในขณะที่สถาบันสงฆ์เองส่วนใหญ่ก็ยังกระทำเรื่องอวิชาเหล่านี้จนปลูกฝังเป็นความเชื่อให้ประชาชนจนกลายเป็นเรื่องปกติแม้แต่ พิธีกรรมต่างๆของหน่วยงานราชการของเราก็ยังไม่พ้นเรื่องเหล่านี้ ทันทีที่นายก และคณะรัฐมนตรีเข้ารับตำแหน่งก็จะต้องมีพิธีกรรมเหล่านี้ ในขณะที่คนเหล่านี้ยังไม่ตื่น เราคงคาดหวังอะไรได้ยาก
เป็นหน้าที่ของผู้ที่รู้แล้วก็ต้องมาช่วยกันเผยแพร่คำสอนที่แท้จริง
พะดังบางคนบอกอย่างมงายในวิทยาสาด
อุทปาทิปัญญา อุทปาทิวิชชา สาธุ สาธุ สาธุ😊😊
อนุโมทนาทุกท่านที่สูงสุดความรู้คือพุทธพจน์เทียบกับวิทยาศาสตร์...สาธุ
อย่าลืม!
พระพุทธองค์หลังจากเสวยวิมุตติสุขอันเกิดจากการตรัสรู้แล้ว
ยังรำพึงอยู่ว่าจะไปสอนใครดี เพราะว่าต้องใช้ปัญญาในการเห็นตามความเป็นจริง
...ขนวัวกับเขาวัวมันเทียบกันไม่ได้