ฎีกา InTrend EP.18 ทำประกันชีวิตแต่ไม่บอกว่าเคยตรวจพบมะเร็ง จะได้ค่าสินไหมทดแทนหรือไม่
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 12 พ.ค. 2021
- ฎีกา InTrend ep.18 ทำประกันชีวิตแต่ไม่บอกว่าเคยตรวจพบมะเร็ง จะได้ค่าสินไหมทดแทนหรือไม่
The Host : กองสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ สำนักงานศาลยุติธรรม
Guest Host : สรวิศ ลิมปรังษี
ที่ปรึกษา : สรวิศ ลิมปรังษี, สุริยัณห์ หงษ์วิไล, จีรวรรณ เจริญยศ
Show Creator : นันทวัลย์ นุชนนทรี, ศณิฏา จารุภุมมิก
Episode Producer & Editor : ศณิฏา จารุภุมมิก, ปนัสยา ชื่นอุระ
Sound Designer & Engineer : กฤตภาส ทองแจ้ง, กิติชัย โล่สุวรรณ
Coordinator & Admin : สุภาวัชร์ ดลมินทร์, โสรัตน์ ไวศยดำรง
Art Director : สุภาวัชร์ ดลมินทร์, ปันจารีณ์ สุวรรณโภชน์ ทศพร ศิลาบำเพ็ญ
Webmaster : ผุสชา เรืองกูล, วชิระ โรจน์สุธีวัฒน์
การที่เราทำประกันชีวิตก็ด้วยความมุ่งหมายที่จะได้รับความคุ้มครองและได้รับการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในยามที่เกิดเหตุตามที่ทำประกันภัยไว้ แต่กรณีที่มักเกิดขึ้นอยู่เสมอคือการที่ผู้เอาประกันภัยไม่ได้เปิดเผยข้อมูลให้ครบถ้วน ทำให้มีปัญหาว่ากรณีเช่นนี้จะส่งผลต่อสัญญาประกันภัยที่ทำไว้ รวมถึงสิทธิที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนหรือไม่ เพียงใด
จันทราได้เคยไปตรวจรักษาที่โรงพยาลบาลแห่งหนึ่งเมื่อสามปีที่แล้วเนื่องจากมีอาการผิดปกติบริเวณหูด้านขวา แพทย์ผู้ตรวจตั้งข้อสังเกตว่าน่าจะเป็นมะเร็งผิวหนัง และได้นัดจันทราให้ไปทำการผ่าตัดในอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา แต่เมื่อถึงวันนัดจันทราไม่ได้พบแพทย์ตามที่นัดไว้ ในปีถัดมา จันทราได้ขอทำประกันชีวิตกับบริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่งพร้อมสัญญาพิเศษเพิ่มเติม โดยในการขอทำประกัน จันทราได้ตอบคำถามสุขภาพตามแบบที่บริษัทประกันชีวิตกำหนดในข้อที่ถามว่า “เคยได้รับการวินิจฉัย หรือรับการรักษา หรือตั้งข้อสังเกตโดยแพทย์ว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งหรือไม่” จันทราระบุว่าไม่เคยตรวจพบโรคดังกล่าว ต่อมาเมื่อปีที่แล้วจันทราได้เข้ารับการรักษาผ่าตัดก้อนเนื้อที่หลังหูข้างขวาและได้ทำเรื่องขอเบิกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลจากบริษัทประกันชีวิต บริษัทได้ลองตรวจสอบประวัติการรักษาของจันทราจึงพบว่าเคยได้รับการตรวจและแพทย์ได้วินิจฉัยไว้ดังกล่าว บริษัทจึงได้ส่งหนังสือบอกกล่าวเพื่อบอกล้างสัญญาประกันชีวิตที่จันทราทำไว้และไม่ยอมจ่ายค่าสินไหมทดแทน จันทราจึงได้ฟ้องบริษัทประกันชีวิตเพื่อเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันชีวิตที่เคยทำไว้
ในการทำประกันชีวิตนั้น บริษัทรับประกันภัยจะตกลงทำสัญญาประกันชีวิตหรือไม่ หรือจะเรียกค่าเบี้ยประกันภัยมากน้อยเพียงใดย่อมขึ้นอยู่กับ “ความเสี่ยง” ที่ผู้เอาประกันภัยแต่ละคนมีอยู่ว่ามีมากน้อยเพียงใด ถ้ามีความเสี่ยงมากก็อาจจะเรียกเบี้ยประกันภัยให้สูงขึ้น หรืออาจจะไม่ยอมรับประกันเลยหากความเสี่ยงมากจนไม่คุ้มกับค่าเบี้ยประกัน แต่ความเสี่ยงจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับข้อมูลสุขภาพที่ผู้เอาประกันภัยให้แก่บริษัทรับประกันภัย เนื่องจากโดยสภาพบริษัทไม่สามารถให้ผู้เอาประกันภัยแต่ละคนตรวจสุขภาพก่อนทำสัญญาได้ เพราะจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายจำนวนมาก โดยที่สำหรับผู้เอาประกันภัยส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด ดังนั้น การพิจารณาจึงอาศัยข้อมูลที่ผู้เอาประกันภัยให้ไว้เป็นสำคัญ
ลักษณะดังกล่าวของสัญญาประกันภัยที่อาศัยการให้ข้อมูลที่ถูกต้องนี้จึงทำให้สัญญาประกันภัยถือเป็น “สัญญาที่ต้องการความสุจริตและความไว้วางใจ” ระหว่างคู่สัญญาเป็นสำคัญ ผลของการไม่เปิดเผยข้อมูลที่มีความสำคัญ โดยเฉพาะ “ข้อมูลที่อาจเป็นเหตุจูงใจให้ผู้รับประกันภัยเรียกเบี้ยประกันภัยสูงขึ้นหรือบอกปัดไม่ทำสัญญา” คือจะทำให้สัญญาประกันภัยนั้นตกเป็น “โมฆียะ” ซึ่งจะทำให้บริษัทรับประกันภัยมีสิทธิที่จะบอกล้างให้สัญญาประกันภัยนั้นให้ตกเป็นโมฆะหรือเสียเปล่าไปทั้งหมดได้
ในกรณีของจันทรา ปรากฏว่าแพทย์ได้เคยตั้งข้อสังเกตไว้ก่อนแล้วว่าจันทราน่าจะเป็นมะเร็ง แม้จันทราจะไม่ได้ไปรับการรักษาตามที่กำหนดก็ตาม และยังมีความไม่แน่นอนอยู่ว่าความจริงแล้วอาการของจันทราจะเป็นมะเร็งจริง ๆ หรือไม่ หรือเป็นมะเร็งชนิดใดกันแน่ที่จะมีอันตรายถึงขนาดเป็นอันตรายต่อชีวิตหรือไม่ก็ตาม เพราะการตรวจให้ได้ผลชัดเจนขนาดนั้นอาจต้องมีกระบวนการและขั้นตอนที่ต้องทำเพิ่มเติม แต่การที่แพทย์ตั้งข้อสังเกตไว้ก็เท่ากับว่าจันทราเองรับรู้อยู่แล้วว่าตนมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งสูง จะมากจะน้อยจันทราจึงควรต้องบอกข้อมูลนี้ให้บริษัทประกันทราบ ส่วนเมื่อแจ้งแล้วบริษัทประกันจะทำอย่างไรเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่เมื่อจันทราไม่ได้แจ้งข้อมูลสำคัญนี้ให้บริษัทประกันทราบ จึงทำให้สัญญาประกันชีวิตระหว่างจันทรากับบริษัทประกันชีวิตตกเป็น “โมฆียะ” ดังที่ได้กล่าวไว้
เมื่อบริษัทประกันได้ใช้สิทธิ “บอกล้าง” ภายใน 1 เดือนนับแต่ทราบมูลอันจะบอกล้างได้ หรือทราบข้อมูลว่าแพทย์เคยตรวจและตั้งข้อสังเกตว่าจันทราเป็นมะเร็ง สัญญาประกันชีวิตนี้จึงตกเป็นโมฆะเสียเปล่ามาแต่ต้น จันทราจึงคงมีสิทธิได้รับค่าเบี้ยประกันภัยที่จ่ายไปคืน แต่ไม่มีสิทธิได้รับการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามสัญญา
กรณีของจันทรานี้อาจจะเห็นได้ชัดเจนว่าโรคที่ปกปิดไว้กับโรคที่มาตรวจรักษาภายหลังและเป็นเหตุของการขอการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นโรคเดียวกัน แต่ผลของการปกปิดข้อมูลที่สำคัญนี้มีมากกว่านั้น แม้แต่ว่าสุดท้ายผู้เอาประกันเสียชีวิตหรือประสบเหตุเป็นโรคอย่างอื่นนอกจากที่ปกปิดไว้ก็ตาม แต่ผลของการที่สัญญาเป็นโมฆียะนี้เกิดขึ้นแล้วตั้งแต่มีการเข้าทำสัญญาโดยปกปิดข้อมูลสำคัญ ทำให้บริษัทประกันจึงอาจใช้สิทธิบอกล้างสัญญาได้เมื่อทราบข้อมูลที่ปกปิดไว้
การที่เราทำสัญญาประกันชีวิตก็คงหวังได้รับความคุ้มครองตามที่ตกลงและได้เสียค่าเบี้ยประกันไว้ แต่ขณะเดียวกันการเข้าทำสัญญาก็คงต้องทำด้วยความสุจริตด้วยกันทุกฝ่าย หากมีข้อมูลหรือข้อเท็จจริงใดที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ปรากฏในแบบคำถามที่บริษัทประกันต้องการรู้ก็ควรต้องบอกไปตามความเป็นจริง ถ้าทำแบบนี้แล้วก็คงไม่ต้องห่วงว่าสัญญาจะมีปัญหาและทำให้ไม่ได้รับความคุ้มครองอย่างที่ต้องการ
(คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 71/2563)
ขอบคุณครับ
😊😊😊ขอบคุณมากครับ
มันต้องเป็นสาระสำคัญถึงขนาด-ถ้ารู้แล้วจะไม่มีการทำสัญญานั้นๆ (สำคัญผิดในสาระสำคัญมั้ง) เหมือนคุ้นๆ แต่จำไม่ค่อยได้ 😄😄😄
ใช้มาตราของประกันภัยเลยครับมาตรา 865 ถ้าใช้เรื่องสำคัญผิดในสาระสำคัญของนิติกรรมจะเป็นโมฆะไปเลยตาม156 และมาตรา 865 มีระยะการบองล้างโมฆียะกรรมสั้นกว่านิติกรรมที่สำคัญผิดในคุณสมบัติตามมาตรา 157 ครับ
การทำประกันกับบริษัททางออนไลน์เชื่อถือได้แค่ไหน การเคลมต้องใช้เวลาเท่าไหร่ ในการเอาประกันโรคร้ายน่ะค่ะ
แล้วคนที่เป็นhivละคะสามารถทำประกันชีวิตอารัยได้บ้างหรือทำไม่ได้เลยคะ😢😢
ติดตามมาเสมอค่ะ ได้ความรู้ดีมาก ท่านพูดไม่น่าเบื่อเลย เข้าใจง่าย น่าฟัง
คนทั้่วไปถ้ามีการวินิจฉัยว่ามีโอกาสเป็นมะเร็ง คือต้องรีบตรวจรักษา ไม่สามารถรีบทำประกันเพื่อจะใช้สิทธิเรียกร้องได้เพราะก่อนทำประกันต้องแถลงตามความเป็นจริง
รถชนแล้วต้องซ่อมก่อน เขาถึงจะรับทำประกัน
ทำประกันยังไม่ถึงเดือน ตรวจเนื้องอกก่อน ประกันจะจ่ายมั้ยคะ
แล้วแต่ดุลยพินิจของบริษัท แต่ตามหลัก เนื้องอกถ้ายังไม่เกิน 120 วัน บริษัทไม่จ่ายครับ เพราะยังไม่เลยระยะเวลารอคอยโรค
บ่อยเลยที่ตัวแทนประกันไม่ถามอะไรเลย แต่ติ๊กหน้าข้อความ ไม่เคยเป็น ทุกรายการเลย เมื่อเราเซ็นชื่อลงไป เท่ากับเราปกปิดบริษัทประกัน
เปลี่ยนคนเลยครับ ตัวแทนแบบนี้เค้าเรียกเฮงซวย จะเอาแต่เงินครับ ผิดจรรยาบรรณตัวแทนด้วย ตัวแทนดีๆยังมีอีกเยอะ
ถ้าตรวจไม่พบก่อนทำประกันจะได้สินไหมทดแทนไหมครับ
มันจะมีระยะเวลารอคอยอยู่ โรคหวัดทั่วไป 30 วัน โรคพิเศษ 120 วัน และภายใน 2 ปี ทุกการเคลมบริษัทสามารถขอตรวจสอบประวัติสุขภาพย้อนหลังได้ แต่ถ้าเกิน 2 ปีบริษัทจะชดเชยทุกเคสแล้วครับ
ต้องแยกเป็นสองสัญญาค่ะ
-ประกันชีวิต กรณีไม่เปิดเผยปกปิดข้อมูลที่เป็นสาระสำคัญ
(ข้อมูลที่ถ้าหากบริษัททราบก่อนทำประกันจะมีผลต่อการพิจารณารับประกันว่า1.ไม่รับหรือ2.รับโดยเพิ่มเบี้ยหรือ3.รับโดยมีบันทึกสลักหลังเงื่อนไขการคุ้มครอง)
จะมีระยะเวลาบอกล้าง 2 ปี
-สัญญาเพิ่มเติม
มีระยะเวลารอคอยตามเงื่อนไขของแต่ละแบบ
และระยะเวลาบอกล้างกรณีไม่เปิดเผยข้อมูลภายใน5ปี
ดิฉันทำประกันโรคร้ายแรงเอาไว้ทางเพศบอกว่าเป็นโรคมะเร็งผิวหนังต้องผ่าตัดออกผ่าตัดเสร็จแล้วประกันไม่ยอมจ่ายสินไหมดิฉันควรจะทำอย่างไรก่อนทำไม่เคยมีประวัติของโรคมะเร็งทำประกันมา 7-8ปีแล้ว
บริษัทอะไรครับ
บริษัทไหนครับ
มีทั้งขู่ว่าเพียงมาสายทั้งที่บรอษัทมีการกำหนดระดับผู้จัดการไม่ต้องรูดบัตรค่ะแต่พอเจอมะเร็งเดือนถัดมามาเลิกจ้างว่าเจ็บปีวยแทนแต่สองเดือนก่อนให้เขียนใบลาออกล่วงหน้าค่ะ
อาจารย์จะปรึกษาค่ะอาจารยอยู่ตึกอะไรค่ะพอจะโทรมาได้ไหมค่ะเรื่องแรงงานค่ะ0956066778หนูเจอกับตัวเองบังคัับให้เขียนใบลาออกทั้งที่มีหนังสือเลิกจ้างด้วยค่ะ