ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 11 ก.ค. 2023
- FACEBOOK : keqduo / keqduo
รายการนี้เป็นคำวิจารณ์ส่วนบุคคล เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ไม่ได้ต้องการสร้างปัญหายุยงปั่นให้เกิดความร้าวฉานใครเห็นต่างไม่เหมือนกันสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ครับ เพราะทุกคนมีความคิดเห็นเป็นของตัวเอง โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม ชอบคุณครับ
00:21 เกริ่น
สาเหตุความล้มเหลว
02:47 ความล้มเหลวที่ 1 จาก การเปลี่ยน CEO
04:13 ความล้มเหลวที่ 2 จาก COVID
04:42 ความล้มเหลวที่ 3 จาก พฤติกรรมคนดูที่เปลี่ยนแปลง
08:29 ความล้มเหลวที่ 3 จาก ความหลากหลาย
12:37 ความล้มเหลวที่ 4 จาก ตัวนักแสดง
13:16 Mulan
14:23 The Little Mermaid
15:34 Blackpanter
16:30 สรุป - ภาพยนตร์และแอนิเมชัน
เสน่ห์ของดีสนีย์คือ จินตนาการ แต่พักหลังเหมือนจะยัดเยียดความเป็นจริงลงไปในหนังเยอะเกิน
เรื่องความหลากหลายนี่แบบ
สร้างสรรค์ ❌
ยัดเยียด ✔
Elemental ขาดทุนก็ไม่แปลก ดิสนี่เล่นไม่โปรโมทเลย น่าจะโดนกระแส little mermaid กลบด้วย วันก่อนมีโอกาสไปดู little mermaid ในโรงหนัง ถ้าไม่เห็นในโฆษณาก่อนหนังฉายก็ไม่รู้เลยว่ามันคือเรื่องอะไร เรารู้แค่คอนเซปของมันที่มี”ธาตุ”มาเกี่ยวข้อง แต่แล้วยังไงต่อ เนื้อเรื่องคร่าวๆมันเป็นยังไง ที่จะสื่อเลยคือหนังมันไม่ไฮฟ์ ไม่ได้สร้างความน่าตื่นเต้นหรือความอยากดูให้ผู้ชม ถ้าจะให้ยกตัวอย่างเรื่องที่สร้างความไฮฟ์ได้ในความคิดส่วนตัวก็น่าจะเป็น Oppenheimer ที่จะเข้าฉายบ้านเราวันที่ 20 นี้ เรื่องนั้นก็บัฟมาเป็นเดือน มีมีมมีอะไรต่างๆที่โฆษณาหนังไปในตัว
+1
รู้ว่ามีเรื่องนี้ก็ตอนที่มีรีวิวตาม YT ละครับ
เราเห็นแต่ตัวอย่างดูน่าดูมาก เนื้อเรื่องน่าจะเป็นสเกลใหญ่ระดับมีการเปลี่ยนแปลงของสังคม แค่ก็ไม่รู้ว่าฉายวันไหน จนวันนี้ถ้าไม่นึกถึงขึ้นมาเอง ก็คงไม่รู้ว่าฉายไปแล้ว เลยเปิดสปอยฟัง พอดูแล้วก็อิหยังวะ เนื้อเรื่องหลักมีแค่ความรักเอง เสียดายกราฟิค เล่นใหญ่เพื่อเนื้อเรื่องแค่นี้เองหรอ เราคาดหวังแบบ zootopia อ่ะ เรื่องนั้นสนุกมากมีทั้งเส้นเรื่องหลัก เส้นเรื่องรอง ครบเครื่องครบรส บอกตามตรงว่าผิดหวังอ่ะ
ไม่ชอบ elemental ครับ ดูแล้วนึกว่าพูดถึงบ้านตัวผมเองที่เป็นคนจีนมาตั้งตัวที่ต่างแดน
ดราม่าทั้งโลกต้องใช้เงินค่าแอดเท่าไหร่ถึงจะกลบได้ครับ จะคุ้มทุนมั้ยฝากไว้ให้คิดอีกมุมครับ
- ดิสนีย์ยัดเยียดความหลากหลายมากเกินไปจริงๆ คือเป็นอะไรกับคนดำก่อน พักหลังเปลี่ยนตัวละครจากคนขาวกลายเป็นดำแทบทุกเรื่อง 😒
- หนังมาร์เวลตอนนี้คือกลายเป็นฮีโร่หญิงพลังหญิงไปแล้ว ฮีโร่ผู้ชายใหม่ๆ (ไม่นับคนเก่า) มีแค่ชางชีักับกลุ่มอีเทนอล 2-3 คน นอกนั้นผู้หญิงหมด
- หนังดีๆ ที่ควรโปรโมท เช่น elementals ควรโปรโมทแต่กลับไม่เลยอ่ะ โดนนางเงือกกลบหมดจนรายได้หดตามไปด้วย
สรุปทำตัวเองแท้ๆ เห็นเงินแล้วไม่สนเรื่องคุณภาพที่ควรมีเหมือนแต่ก่อน
เปลี่ยนเจ้าหญิงเป้นคนดำ เป้นคนผิวสี นางฟ้าเอาคนผิวสีหัวล้านมาเป็นนางฟ้า นางฟ้าไม่จำเป้นต้องมีผม งานงอกเลย
เอาโซโลดำไปเลย
เพราะตอนนี้มันเป็นกระแสและประเด็นหลักในเมกาค่ะ
- เรื่องสีผิว จริงๆมีมานาน แต่ช่วงนี้คือหนักมากขึ้น แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้เลย เดี๋ยวจะโดนหาว่าเหยียดสีผิว แต่คนดำนี่ทำอะไรกับชาติอื่นได้หมดนะ ถ้าเราตอบโต้จะโดนงอแงใส่อีกว่าไปรังแกเค้า ...แต่เอาจริงคนดำที่มีการศึกษาและเข้าใจโลกก็มี แต่น้อย
- ประเด็นฮีโร่หญิง เพราะกระแส women power มาแรงค่ะแบบว่า ญ/ช เท่าเทียมกัน เราก็ว่าดี แต่บางมีก็มากเกินไป และคนก็มักจะตีประเด็นไปผิดๆ แบบว่าโลกนี้ไม่ต้องมีผช.ก็ได้ หรือไม่ก็ ชั้นเป็นญ.แกร่ง ทำไรเองได้ไม่ต้องพึ่งผช. เอาจริงๆนะเราว่าผญ.ไม่ต้องเก่งแกร่งขนาดนั้นก็ได้ เหนื่อยจะตาย
แล้วก็พวก LGBTQA+++ ไรพวกนี้ก็ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องเยอะค่ะ จนเรารำคาญคนพวกนี้ไปเลย ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เราไม่เคยต่อต้านพวกเพศทางเลือกนะ ออกจะชอบด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้มันเยอะไป เช่นว่ากระเทยที่ยังไม่แปลงเพศ ล่ำบึก มีหนวด ก็ออกมาเรียกร้องว่าสามารถเข้าห้องน้ำ/ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าผญ.ได้ เพราะเค้า identify ว่าเป็นผญ. ดังนั้นเค้าจะใช้พื้นที่ส่วนตัวของผญ.ได้ ไรงี้ ....จริงๆยังมีมากกว่านี้อีกนะคะ สังคมเมกาตอนนี้น่าปวดหัวมาก
@@natmeykใช่ครับแต่ก่อนรู้สึกเฉยๆนะกับคนประเภทนี้แต่มาได้ทำงานด้วยรู้สึกรำคาญมากๆ ชอบกอดชอบลวนลามเข้าใจผู้หญิงเลยเวลาโดนลวนลามมันน่ารำคาญขนาดไหน😅😅😅😅😅
@@thiraphan7239 เวลาผู้หญิงโดนลวมลาม เราไม่ได้รู้สึกรำคาญค่ะ เรารู้สึกขยะแขยง อีกอย่าง ผช.โดนเพศที่สามลวมลาม กับ ผญ.โดนผช.แท้ๆลวนลามมันต่างกันนะคะ มากกว่าความขยะแขยงคือการที่ผช.ด้อยค่าเรา
สาเหตุหลักๆ ที่ผมเริ่มไม่โอเคก็คือ
1. star war เดิมทีลูคัสฟิล์มยังไม่ถูกดิสนี่ย์ซื่อ ภาค1-6 ช่วง1-3 ดูเเล้วมันในเรื่องของเจไดเเละสงคราม 4-6เนื่อเรื่องเข้มข้น ส่วน7-9 มันโหลยโถ้ยไม่สมกับการรอคอย (ก่อนพ่อผมเสียชีวิต พ่อทันดูภาค7 ยังหลับคาโรงหนัง)
2. ไม่เคารพคนดู จากทีมงานสร้างความฝันกลับกลายเป็นทำลายความฝันซะเอง โดยเฉพาะ ปีเตอร์เเพน คือผิดหว้งจริงๆ ยกเว้น นักเเสดงที่เล่นเป็น กัปตัน ฮุค ส่วน the little mermaid ความประทับใจเเรกพบคือ 0 ผสมกับดิสนี่ย์ปู้ยี่ปู้ยำ จนป่นปี้มาอย่างต่อเนื่องเเละหลายเรื่อง จนร฿้สึกเริ่มหมดศรัทธาที่เคยให้ไป คล้ายๆกับคยที่ทำผิดซ้ำซากแล้วไม่สำนึก ถ้าจะพิสูจน์ตัวเองต้องกินเวลาพอสมควรล่ะ เพราะทำผิดหวังไว้เยอะ
เข้าใจเลยครับผมแฟนครับ Star Wars แต่ภาค 7 8 9 แล้ว มันไม่ได้เรื่องเลยและแย่มากครับ 😢😢
ผมแฟนอินเดียน่า โจนส์ก็ผิดหวังครับ
ผมแบนดิสนีย์ตั้งแต่ดู Starwar7 นี่แหละ แต่ 8,9 ก็อุตส่าห์ไปดูให้มันจบไตรภาค หลังจากนั้นก็ Good Bye..
หมดกันกับเนื้อเรื่อง Starwar ที่แฝงแนวคิดอะไรมากมาก ความแยบยล ความค่อยเป็นค่อยไปของเนื้อเรื่อง
กลายเป็นหนังหักมุม มุกตลกราคาถูก มนต์ขลังไม่มีเหลือ
ซี่รีย์สตาร์วอร์สคือไม่ชอบกองทัพลูกกระจ๊อกมาก ออกมาให้โดนยิงทำไม ไม่มีความเก่งกาจอะไรเลย ยิงใครก็ไม่โดน แถมยานต่างๆ ก็ประหลาด ต้องเล็งก่อนยิงด้วยรึ? สรุปชอบโรควันตอนเดียว
9:08 อีนี่แหละตัวการทั้งหมดของความล้มเหลว หนังสร้างชื่อเรื่องใหม่ดีๆไม่ทำ ทำหนังที่ลบความดีงามของเรื่องที่มีก่อนหน้าเกลี้ยง
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ เพราะภาพยนตร์และการ์ตูนจะต้องซื่อสัตย์กับต้นฉบับ ไม่ใช่เป็นพื้นที่เรียกร้องความหลากหลาย
+1 เห็นด้วยเลยค่ะ เป็นเพราะอีนี่นี้เอง
คิดเหมือนกัน เพิ่งรู้ว่ามีการตั้งแผนกนี้ขึ้นมาโดยเฉพาะ และ....อีนี่เอง ที่เป็นตัวการ ทำเอาหนังป่วนไปหมด
อิตัวการ ทำลายลอเลียลกู
ใช้เลย อิด*กทองเนียแหละ
Disney เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เขามีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้
และใช่ครับ เขาก็ต้องรับผลกระทบให้ได้ด้วย 😅😅😅😅
นางเงือกนิกโก
แต่คนดูซึ่งเป็นคนจ่ายตังค์ ก็มีสิทธิ์ที่จะแอนตี้ ไม่ดูหนังที่ทำลายความรู้สึกดีๆได้เหมือนกัน
ไม่ถูกใจ กูก็ไม่พูดส่ง ง่ายๆ
อีนี่เอาอีโก้ตัวเองมายัดใส่ในหนังและผู้บริโภคที่โดนยัดเยียดอย่างน่าเกลียดเลย
@@jarjarmanmanเราก็จ่ายเงินดูไหม 😏🙄
หนังไม่ควรไส่ความหลากหลายมาตังแต่แรก เพราะเวลาแค่1-3ชัวโมงหนังควรโฟกัสที่เนื้อเรื่องและตัวเอก แต่ดีสนี่ดันไส่ความหลากหลายที่ไม่จำเป็นเข้าไปเบียด แอร์ทามของตัวเอกและเนื้อเรื่องทำไห้เวลานำเสนอที่น้อย ยิ่งน้อยเข้าไปอีกแล้วดิสนี่ยังชอบไส่คนดำเกย์ เข้าไปในเรื่องที่ต้นฉบับไม่มีทำไห้มันไม่กลืนไปกับเรื่อง
ต้องเป็นคนขาวกับคนดำคู่lgbt ด้วย 555
ต่อไปถ้าหนังเจ๊งไปเรื่อยๆ ก็คงรู้เองว่า คนดูเขารู้สึกยังไง กับการที่ถูกยัดเยียดเรื่องพวกนี้มากเกินไป
เอลเมนทอลดีมากกกก สมบูรณ์แบบ แต่ๆๆๆไม่เคยรู้จักหรือเห็นการโปรโมทหนังมาก่อน เห็นตอนออกโรงสักพัก เรื่องคนผิวสีมันดูยัดเยียด ซึ่งมันไม่ได้ จะส่งเสริมก็ควรจะทำให้มันเนียนๆ ทำให้คนส่วนมากชอบมากกว่าด่า
กลยุทธ์ความหลากหลายนั้นไม่ถูกที่ถูกทาง มันไม่จำเป็นเอามายัดเยียดให้คนดูผ่านหนัง คนดูหนังเพื่อความบันเทิงนั้นคือประเด็นสำคัญ
อวสาน woke Disney
😂5555
ใช่ๆๆ 55555
รอดูมันยับพวก woke ทำให้หนังยุคใหม่หมดความสนุก
ร่วมแสดงความยินดีกับอวสานนี้ครับ ^ ^
😂
ถ้ากูเป็นนางฟ้าแม่ทูนหัวคงเสกให้ตัวเองมีผมก่อนเลย นางเงือกคือเปลี่ยนสีเพราะโลกร้อนหรอ LGBT คนดำ ใส่มาจนขนาดคนที่เป็น LGBT กับคนดำเองดูแล้วยังมองบน แล้วยังทำผิดซ้ำๆเดิมๆไม่แคร์เสียงกร่นด่าใดๆก็ต้องยอมรับชะตากรรมด้านรายได้และคำวิจารณ์ไปค่ะ มันไม่ใช่ความหลากหลายมันคือความซำซากจำเจกับบทและพล็อตเรื่องเดิมๆอย่างที่แอดว่า คนดูต้องลุ้นกับเซอร์ไพร์สซ้ำๆว่าเรื่องใหม่จะมีอะไรแปลกๆยัดมาอีกไหม ที่นอกจากไม่เคารพต้นฉบับแล้วยังกลายเป็นความยัดเยียดที่คนดูไม่ได้อยากดูแต่ก็ต้องทนดูเพราะคนทำใส่มา เอาจริง Disney มันคือ DNA เป็นสิ่งมหัศจรรย์ลำดับที่ 8 ของโลกไปแล้วมันไม่เจ๊งหรอก ธุรกิจ หุ้น บ.ลูกอื่นๆที่ทำกำไรมันยังมีมากมาย แต่จะบอกว่ารายได้ไม่มาขนาดนี้หรอก ถ้า FC หรือติ่งคนที่รักในแบรนด์ไม่ไปดู บางคนไปดูเพราะงานภาพ เช่น Lion King บางคนไปดูเพราะเป็นติ่งเจ้าหญิงคนนี้ เช่น Beauty & The Beast บางคนดูภาค 1 แล้วชอบมากเลยอยากไปดูภาค 2 ต่อ เช่น Frozen / Maleficent บางคนคือไปดูเพราะไม่มีเหตุผลแต่เพราะเป็นดิสนีย์เลยไปดู แค่นั้นเลย คนรักดิสนีย์เยอะมากนะ แต่ดิสนีย์ก็ทำคนที่รักอกหักมาหลายรอบแล้วเช่นกัน อีเจ๊ความหลากหลายสมควรแล้วที่จะลาออก เข้ามาทำความฉิบหายวายป่วงไปหมด ถ้าอยู่ต่อคงได้เห็นสโนว์ไวท์กินซอยจุ๊แทนแอปเปิ้ล หรือไลอ้อนคิงภาค 3 ที่ตัวเอกเป็นควาย หรือเจ้าหญิงนิทราที่ออโรร่าโดนกรอกยาเมลาโทนินแทนเอานิ้วจิ้มเครื่องปั่นด้ายอะไรทำนองนี้ค่ะ
Disney น่าจะลืมข้อสำคัญ ของผู้ก่อตั้ง คือคุณ Walt Disney แก่จะสร้างโลกเทพนิยาย เจ้าหญิงเจ้าชาย โลกแห่งเวทมนต์ ดูตอนนี้จิ มั่วไปหมด
เดิมๆเป็นตัวละครไหม่แบบคนละคนกันเลยเช่นการที่จะเปลี่ยน Tinkerbell ให้เป็นตัวละครผิวดำแทนที่จะเพิ่มเพื่อน Tinkerbell ที่เป็นนางฟ้าผิวดำอยู่แล้วมาแทน(นางฟ้าในพีน็อคคีโอ้น่ากลัวมากขอบอก)
ใช้ครับ จะมีผมที่ยาวสลวยหน่อยก้อไม้ได้
@@user-gn1si8dj3e นางเป็นตัวแทนผู้ป่วยมะเร็งที่ต้องทำคีโมจนหัวล้านค่ะ ดิสนีย์นางบอกว่าอย่างนั้น อันนี้ไม่ได้มุกนะ อันนี้คือนางบอกอย่างนี้จริง ๆ เด้อ 5555
@@nokaton อ้อเหรอครับ อันนี้ไม่ทราบ
แต่อันที่จริงช่วงของพินอลคิโอ้ น่าจะยังไม่น่ามี คีโมมั้ง
หรือนางฟ้าก้อไม่น่าเป็นมะเร็งนะ ว่ามั้ยครับ
@@nokaton ยุคพินอคคิโอยังไม่น่าจะมีคีโมนะ อันนี้ดิสนี่แถแน่ๆ 55555
น่าจะไม่ตายหรอก แต่ผลกำไรจะไม่น่าพอใจอยู่ไปเรื่อยๆ มันก็แอบเสียหน้า เพราะที่ผ่านมาครองความเป็นหนึ่งมาตลอด เดี๋ยวเขาก็ต้องปรับให้กลับมาดี เพราะยังไงถึงคนจะด่า แต่คนก็ไปดูอยู่ดี คนด่าเงือกน้อยก็ดูกันทุกคน แต่ถ้าทำดีรายได้ก็พุ่ง เหมือนการ์เดี้ยน3 แต่ที่เหลือก็แบบ...
😂😂😂😂ด่าแต่ไม่ได้ไปดูนะครับ ผมไปดู
มันเป็นการตลาดที่เเย่มากเลยนะ
ถ้าทางค่ายคิดว่าการที่ ทำหนังมาให้คนด่าเพื่อสร้างกระเเส เเล้วทำให้คนที่เห็นอยากรู้ว่า "มันเเย่ขนาดนั้นเลยหรอ" เเล้วทำให้คนไปดูโดยไม่คำนึงถึง Fan Base ของค่ายหรือเรื่องนั้นๆ
"ความเห็นส่วนตัวนะ คือการตลาดเเบบนี้มันได้เงินไหม เอาตรงๆมันก็ได้ ยิ่งคนด่า มันก็ยิ่งมีคนอยากรู้ว่ามันเเย่เเล้วเสียเงินไปดู คือมันได้เงินนะ เเต่มันทำร้ายตัวค่ายเอง ทั้งชื่อเสียงที่อุสาห์สั่งสมมา เเละ ความคาดหวังจาก เเฟนๆ อีก
ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันนะว่า ทำไมค่ายต้องไปเอาใจคนส่วนน้อยเเทนเเฟนคลับส่วนใหญ่ :/
กรณี เเนวสร้างมาให้คนด่าเสียตังค์ไปดูก็มีอยู่นะ เช่น Velma เนี่ย ถึงไม่ใช่หนังหรืออะไร ผมเเค่เปรียบเทียบเฉยๆว่า จุดประสงค์ของมันคือสร้างมาให้คนด่า เเต่ถ้าจะด่า ก็ต้องเสียเงินให้ (HBO max ป่ะ? จำไม่ได้)
โดยสรุปเเล้วคือ ยังไงค่ายพอเห็นว่ารายได้มันตกเรื่อยๆ เเฟนคลับน้อยลงเรื่อยๆ เดี๋ยวเขาก็คงจะกลับมาทำดีๆเเบบเดิม เเหละ มั้งนะ :P "
(ข้อมูลถูกผิด หรือ มั่วๆ ยังไงขออภัยนะ)
เงือกแทบจะเข้าเนื้อ เกือบเจ๊งด้วย
ว่าไปแล้วสงสารแฟนคลับแอเรียลจัง อุตส่าห์รักมาก ตามสนับสนุนมา30กว่าปี แต่ก็ต้องมาอกหัก เนื้อหาการ์ตูนโดนยำเละเทะจนกลายเป็นคนละเรื่อง😢 ถูกเอาสิ่งที่รักไปเป็นเครื่องมือทางการเมืองเฉย
พวกที่ชอบบอกว่าไม่เอาแอเรียลดำ=เหยียด ก็ไม่คิดถึงใจคนที่ชอบมานานเลยอะ คนที่อกหักจริงๆก็ได้แต่ทำใจเงียบๆ ซะงั้น แต่เอาเถอะ ดีสนีย์เลือกที่จะทิ้งแอเรียลต้นฉบับเองนะ รายได้ถึงได้เจ๊งยับเข้าเนื้อขนาดนี้ คิดว่าตัวเองเป็นค่ายยักษ์ใหญ่ แบรนด์ระดับลิตเติ้ลเมอร์เมด ยังไงก็พันล้านแน่ไม่ว่าจะทำออกมาเละแค่ไหน เจอรายได้แดงเถือกติดลบ เหอะๆ😂
เอาจริงๆนะถ้าจะเอาคนดำมาเล่นก็เลือกสวยหน่อยก็ได้ คนดำสวยๆทรงเจ้าหญิงก็มี แต่เลือกคนนี้มา ไม่สวยจริงๆ ไม่มีออร่าเจ้าหญิงเลย แล้วแสดงแข็งโป๊ก แต่พูดมากไม่ได้ บอกไม่สวย=เหยียดอีก
@@natwaritthapaliyanan4172 ก็มันไม่สวยจริงๆ ไอพวกที่บอกเหยียดดักหน้าก็แค่พวกยอมรับความจริงไม่ได้ ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ไม่สวยก็คือไม่สวยไม่มีอะไรมากกว่านี้
@@leebonasoความสวยอยู่ในสายตาคนดู
แต่คราวนี้คนดูทุกคนเห็นตรงกัน
Disney = woke ของแท้ครับ เพราะกลัวพวกLGBTมากเกินไป ชอบตัดตัวละครมากเกินไป และใส่ความยัดเยียดที่กลัวกลุ่มLGBTมากเกินไป
The Little Mermaid ผิวสีไม่แปลกเพราะแม่งทำมานานแต่ แต่ แต่ แต่ มันไม่ดูฉากเลยอยู่ใต้ทะเลคือมองไม่เห็นเลย คือสีมันนโทรนเดียวกันคือมองไม่ออกเลย ผมแดงก็ไม่แดงดึงสีโทรนไม่ได้เลย
ผมไม่ว่าถ้าจะใส่ชาว LGBT แต่ใส่ให้มันพอดี พอดี ดีที่สุดแล้ว
ล่าสุดสโนไวท์ดำกับ LGBT ทั้งเจ็ด ยัดเยียดได้อีก.... 😩 รอเจ๊งตามนางเงือกอีกเรื่อง 🙄
เพื่อนผมที่เป็น LGBTQ ที่ไปดูหนังมาแล้วถึงขั้นพูดกับผมว่า หลอนผวานางเอกเวอร์นี้มาก บางช้อตมันชวนให้รู้สึกแบบนั้นจริงๆน่ะแหละ 😂
@@romeonor8862โศก555 คนแคระมีแค่คนเดียวด้วยนะ😢
@@farm007555 ผมว่าคนเดียวอันนี้อาจจะปล่อยมาไม่หมดที
เริ่มจากสโนว์ ไวท์ก่อนเลยจ้า นักแสดงบ้งยิ่งกว่าแอเรียลอี้กกกกก กว่าจะคิดได้เอาตำนานมายำเละไปหลายเรื่องละ จะเหลืออะไรให้ขุดมากู้หน้าได้อีกเนี่ย
สำหรับผมใครจะชอบอะไรไม่ชอบอะไร ผมไม่รู้ แต่การ์ตูนที่สร้างความฝันให้กับเด็กๆ กลับมาเป็นเครื่องมือในการยัดเยียดให้กับเด็กๆ และ แม้ผมจะโตเป็นผู้ใหญ่ ผมก็อยากดูหนังที่เรารู้สึกได้กลับเป็นเด็กอีกครั้ง ชีวิตประจำวันมันก็เครียด แค่อยากจะดูหนังที่เป็นหนัง และเล่นเกมที่เป็นเกม จะมีก็ขอให้มันเป็นสิ่งที่เป็นธรรมชาติ ทำให้เขาเป็น 1 เดียวกับบท ไม่ใช่แค่ ยัดให้มี คนดูเขาดูออกนะว่าอะไรยัดเข้ามา อะไรคือบริบทของหนัง
และผมสนับสนุนความหลากหลาย แต่ไม่สนับสนุนความยัดเยียด
สาเหตุมาจากป้า Latondra นี่เอง มิน่ายัดเยียดให้แอเรียลกูต้องเป็นคนผิวสีให้ได้ ไงละเจ๊งไปสิ 😏
ยังมี snowwokeอีกรออยู่เผื่อจะพลิกวิกฤติเป็นวิกฤตได้😅😅😅
หมดกันกับเงือกน้อยยังจำได้เลยว่าเคยดูสมัยเด็กๆไปดูโรงด้วยซ้ำ สนุกมากตอนนั้นนางเอกขาว น่ารัก ดื้อนิดๆ ปีะทับใจมากกาตูนเรื่องนี้ แต่มาเวอร์ชั่นลูกหลาน 😢😢😢😢 นางเงือกนิโกร ผมเป็นเจ้าชายคงจะไม่มองอะ กลายเป็นหนังตลก ไม่ได้ว่าคนผิวสีนะแต่มันไม่เหมาะที่จะเป็นนางเงือกแสนสวย
นางเงือกนิโกร😂😂😂
มันยัดเยียด LGBT มากไป จนพวกนี้จะเป็นอภิสิทธิ์ชนแล้ว ส่วนเรื่องผิว มันต้องเอาเรื่องของคนผิวสีมาสร้าง ไม่ใช่เอาคนผิวสีมายัดลงไปในเรื่องเก่า ควรทำอย่างมู่หลาน ที่เอาเรื่องของจีนมาสร้าง หรือใน แอมฟิเบียนสร้างเรื่องใหม่ที่ตัวละครเป็นคนไทย หรือ แบล็คแพนเทอร์ ที่เป็นฮีโร่คนดำอยู่แล้ว
อืมๆ
ใช่เลย พวกมันส่วนใหญ่ได้คืบอยากเอาศอกจะตาย
หลักๆเลยคือ หลากหลายทางเพศ แต่จำเจด้านเนื้อเรื่อง แบบผิดที่ผิดทาง ไปหลากหลายในเรื่องเดิมที่มีอยู่ก่อนอย่าง little mermaid แต่ไปจำเจในเรื่องที่ต้องการความหลากหลายอย่าง Elemental
Little mermaid : พรี่จะเปลี่ยนภาพจำเพื่อ? มันแทบจะเป็น Iconic ของบริษัท ระดับเดียวกับมิกี้เมาส์เลย
Elemental : เห็นตัวอย่างก็รู้เลยว่าเนื้อเรื่องกลวงแน่นอน เนื้อเรื่องคงไม่มีอะไรเลยนอกจาก อะไรสักอย่างที่เข้ากันไม่ได้แต่พยามปรับตัวให้เข้ากันได้
และอีกหลายๆเรื่องก็เป็นแบบนี้ อย่างที่ในคลิปบอกเลย เปลี่ยนแค่ setting แต่อย่างอื่นเหมือนๆกันหมด
Percy Jackson ก็อีกเรื่อง ผมนี่เป็นแฟนนิยายลุงริคเลย ตัวละครอย่างแอนนาเบธ นี่มีอยู่ในจักรวาลหนังสือแกประมาณสัก 15 เล่มได้มั้งถ้ารวมที่ไปโผล่ๆ แว็บๆในภาค spin off อื่นๆอีก ทำไปทำมาแกมาเปลี่ยนเป็นแบบนี้คือเศร้าเลย อุสาคอยมาตั้งนาน ตามตั้งแต่ภาคหลักยันภาคเสริม ยันไปซีรีย์อื่นในจักรวาล เศร้าเลย
เน้นความหลากหลาย แต่เห็นหนังคนเอเซียนและชาวผมแดง ไม่กี่เรื่อง แต่เห็นแต่ผิวสี 10 กว่าเรื่องจย้า
จริงครับ คนเอเชียน้อยมากมาก
พูดง่ายๆ คือ เอาใจคนดำ กับ LGBT แต่โดยภาพรวมแล้ว คือ ยัดเยียดเกิน
ส่วนตัวที่รับไม่ได้เลย คือ ในพินน็อคคิโอ นางฟ้าที่เคยสวยสง่างาม กลายเป็น คนผิวดำหัวโล้น หลอนมาก
ก็ผู้บริหารความเท่าเทียมของดิสนี่เป็นคนดำ คนดำเลยต้องมาก่อนคนเอเชีย ขนาดเงือกน้อยยังต้องเปลี่ยนเป็นคนผิวสีเลย
คนดูเพื่อความบันเทิง ไม่ใช่ความหลากหลาย จะใส่มาเพื่อ?
ถ้า elemental ทำเป็นการ์ตูนซีรี่ย์ผมว่าน่าสนใจนะ🎉
ชอบมาเวลมาก่อนน่ะ แต่พอจบ end game รู้สึกไม่สนุกเหมือนก่อนแล้ว ที่จะเลิกดูเลยและตัดสินใจว่าจะไม่ไปดูอีกต่อไปคือหลังๆมาต่อข้อมูลไม่ทัน ยิ่งเป็นคนที่ไม่มีเวลาไปดูซีรี่ย์ที่ลงสตรีมมิ่ง คือจบเลย ไม่รู้เรื่อง ตอน หมอแปกกับสไปเดอร์แมนคืองงจริงๆ จู่ๆทำไมแวนด้ามีลูก ยิ่ง multiverse คือยิ่ง งง และฮีโร่ที่ผุดมาเป็นดอกเห็ดแต่ไม่สร้างความประทับใจหรือขลังเหมือนแต่ก่อน เลยคิดว่าคงหยุดก่อนละกัน
สไปเดอร์แมนภาคmultiverse ที่มี3คน ดูจบถึงกับอุทาน ไม่สนุกเลยยย ขนาดชอบ tom holland ยังไม่ไหวจริงๆ เซนดายาปกติเราชอบนางนะ แต่พอขึ้นจอใหญ่แล้วไม่สวยเลย ไม่มีออร่านางเอกเลย ดูเป็นgirl next doorเวอร์ชั่นไม่มีออร่าอ่ะ
Mermaid ทุนสร้าง 250 ล้านเหรียญ
รายได้ครึ่งนึงแบ่งให้โรงหนัง
ค่าโปรโมท 140 ล้านเหรียญ
จะได้ทุนต้อง 640 ล้านเหรียญครับ
ไม่ใช่ 560 ล้านดอลล่า แอดต้องหาข้อมูลให้แน่นกว่านี้
จำได้ว่า 560 ล้านว่ามาจากวิเคราะห์ข่าวต่างประเทศครับเพราะเห็นคนเอามาแชร์ช่วงที่เถียงรายได้ของหนังเรื่องนี้
ค่าโปรโมทเขาไปหักลบกับ รายได้ทางอื่นอยู่แล้วครับ พวกลิขสิทธิ์ สตรีมมิ่ง ของเล่น
@@starwanchannel2020 รายได้อื่นไม่รู้ครับ หนังเรื่องนี้จะได้ทุน 640 ล้านเหรียญ
@@watch7009 อธิบายต้นทุนไปแล้วครับ
ขอ เว็บไซต์อ้างอิงหน่อยครับ
เรื่องทุนสร้าง โปรโมท หลายๆแหล่งข่าวที่อ้างอิงตัวเลขเท่าทุน เขาประเมินไว้ที่560ล้านนะครับ ส่วนใหญ่ เรื่องค่าโปรโมทผมก็บอกไปแล้วว่าเขาหักจากทางอื่นไม่งั้นหนังทุกเรื่องคงเจ๊งหมดครับ ถ้านับแค่รายได้จากฉายโรง
ที่พิมพ์ว่าดอลล่าร์ต้องมี "ร์" ไม่ใช่ ดอลล่า แล้วเวลาพูดควบกล้ำ หรือการอ่าน ร ล เหมือนกันเป๊ะ ไม่มีกระดกลิ้นหรือความแตกต่างอะไรเลย คิดจะทำคลิปแนวนี้ต้องใส่ใจเรื่องเหล่านี้ด้วยครับ
ยอมรับจริงๆ ว่าไม่ว้าว ไม่รู้สึกอยากดูเลย ทั้งๆที่ปกติดูแต่หนังดีส แต่ดีสที่ผ่านมา ทำให้รู้สึกเมิดได้อย่างสิ้นเชิง
ความเมจิกมันไม่เหลือ ในฐานะคนที่ดูผลงานของดิสนีย์มาตั้งแต่เด็ก เราอยากเห็นภาพยนตร์ที่มันแฟนตาซีกว่านี้
กลับไปดูการ์ตูนยุคต้นๆก่อนพวก Animation CG จะเข้ามาจะเห็นความต่างในจิตนาการมากๆ สมัยเดิมเอาสิงสาราสัตว์มาเป็นตัวละครอย่างโรบินฮูด ไม่มีคน แต่สมัยใหม่เอาเรื่องคนแล้วแอนิเมชั่นคนเหมือนเดิมมันขาดจินตนาการ ดิสนี่ย์เริ่มต้นหนูพูดได้แบบมิกกี้เมาส์ เป็ดพูุดได้แบบโดนัลดัก สมัยนี้ไม่มีแล้ว
@@user-zy3tl3bb6j โรบินฮู้ดชอบมากเลย เด็กๆดูสนุกมาก กลายเป็นสมัยนี้คนจินตนาการน้อยลงซะงั้น
ดูลิปนี้เข้าใจง่าย ชัดเจน ข้อมูลถูกต้อง มากๆๆเรย กดติดตามให้แล้วนะครับ
กลยุทธ์ DEI มันดีนะครับ แต่บังเอิญสลับผิดเป็น DIE แทน 😂😂
ทุกสังคมมีคนแตกต่าง โดยไม่ต้องมาระบุอยู่แล้ว เพราะเราทุกคนล้วนต่างกัน ไม่ว่าจะเพศสภาพ เชื้อชาติ ค่านิยม แนวคิด
การเอามายัดเยียดในหนังโดยไม่จำเป็นมันทำให้รู้สึกแย่มากกว่าอะ (แต่แบบให้คนดูสัมผัสความหลากหลายโดยไม่ต้องระบุ -ให้ตีความเอาเองอย่าง Encanto ก็ยังโอเคอยู่นะ)
น่าจะเป็นอย่างงั้น ไอเดียนี้ 50:50 ถ้าทำออกมาดี ก็เป็น DEI แต่ถ้าทำออกมาห่วย ก็เป็น DIE แทน
ทำด้วยใจรัก กับ ทำเพื่อผลกำไร ก็น่าจะรู้อยู่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง เป็นกันเกือบทุกวงการแล้ว เกม หนัง ซีรีย์ การ์ตูน อนิเมะ อนิเมชั่น เศร้าใจ
ลองสังเกตช่วงที่หนัง live action ของดิสนีย์ออกมาแรกๆพวก lion king, beauty and the beast, aladdin ที่ยังเคารพต้นฉบับไม่ยัดเยียด รายได้กับคำวิจารณ์ค่อนข้างไปในทางดีทั้งนั้น แต่พอเรื่มยัดเยียดมีแต่ดิ่งลงๆจ้า
หนังสวนสนุก แบบที่ มาติน สกอเซซี่ เคยกล่าวใว้ไง มันตื่นเต้น เร้าใจ แต่ไม่ลึกซึ้งกินใจ และภาพยนต์คือการเล่าเรื่องราว ไม่ใช้สื่อสำหรับส่งเสริมยัดเยียดความเท่าเทียมแต่เพียงเท่านั้น
กูเบื่อการยัดเยียดคนดำมาในหนังมากค่า อย่าหาทำ diversity หลากหลายได้ แต่ใช่ทำออกมาให้มัน out stand หรือมี privilege ใดๆ กว่าชนชาติ เชื้อชาติ เพศสภาพ อื่นค่า
เสียดายเงือกน้อย ถ้าต้องการหลากหลายก็เขียนเรื่องใหม่ดีกว่า
Blackpanter ถ้าเปลี่ยนนักแสดงคงไปได้สวยเพราะแฟนคลับรับได้ หลายๆคนอยากให้ไมเคิล บีจอร์แดนมาแสดงแทน
ปัญหาคือบทให้ตายไปภาคก่อนแล้วน่ะสิครับ หรือจะให้มาจาก multiverse มันก็น่าจะหาจุดมาเกี่ยวเนื่องยากอีก
นักแสดงตายคนดูเข้าใจ แต่ยัดเหยียดพลังหญิงคือคนดูไม่ยอมรับ ถ้าเปลี่ยนนักแสดงรายได้น่าจะดีกว่านี้ แบล็คแพนเทอร์ ไม่ว๊าวแล้ว
มั่วแต่เเช่งdisney จนลืมไปว่า wb ลงทุนไป2000 ล้านแต่ยังได้กลับมาไม่ถึงครึ่งทางเลย 5555
มันจะไม่แย่ ถ้าเขาไม่ทำลายตัวละครที่เรารักด้วยการตัดฉากเปลี่ยนสีผิว ไม่ได้เหยียด แค่อยากให้ตัวละครที่เรารักออกมามีชีวิต ไม่ใช่เปลี่ยนจนเหลือแต่ชื่อเรื่อง😢
บาร์บี้ วันพีช แคสตรงบท ประสบความสำเร็จมากๆ แฟนการ์ตูนอยากได้แค่นี้แหละ อยากเห็นตัวละครในการ์ตูนมีขีวิตจริงๆ แต่ดิสนี่ไม่เข้าใจจุดนี้เลย ถ้าเริ่มแคสก็ทำลายความฝันของแฟนการ์ตูนแล้ว มันจะไปเหลืออะไร
มีค่ายย่อยในเครือเยอะไป เล่นซื้อเค้าไปทั่ว พอมาอยู่ใต้ชายคาดิสนี่ก็ต้องรับนโยบายเป็นมิตรกับเด็กๆต้องไม่โหดมากมาย เลือดไม่ท่วมจอไปอีกตัวหนังบางเรื่องมันเลยแลดูจืดๆเหมือนกั๊กๆไว้ การเปลี่ยนรูปลักษณ์ตัวละครอีก มันแลดูยัดเยียดให้คนดูต้องเปลี่ยนไปชอบหนังนิยายบางเรื่องเลยไปต่อไม่เป็น...
เราไม่อะไรกับmermaidนะส่วนตัวคิดว่าออกมาดีเลยฮาลีย์ มีเสียงทรงพลังมาก เสียงไซเรนเราว่าถ้ามองข้ามสีผิว หนังเรื่องนี้ทำออกมาดีเลย
เห็นด้วยกับ อันที่ 4 ครับ ดูแล้วรู้สึกเหมือนกันจริงๆ
ตอนก่อนๆยังใช้ได้ ยังดียังปังอยู่แต่ตอนนี้ไม่ค่อยไหวละ เราก็เป็นlgbtนะแต่รู้สึกว่าอาจจะยัดเยียดเกินไปมันดูยัดเยียดสุด elemental encanto หนังแรกๆก็ยังดีดูได้ แต่ที่เหลือๆมันไปไม่รอดแล้ว
สโนไวท์ ขาวเหมือนหิมะ ไม่ใช่ดำเหมือนถ่าน แต่ความจรืงค่าตั๋วแพงมาก 500 ต่อหัว ค่าตั๋วและของว่าง ค่าอาหารอีก 1 มื้อ พาลูก 2 คนไปดูแบบประหยัดก็สามสี่พันแล้ว
CEO คิดถึงแต่ผลกำไร แต่หนังของดิสนี่กลับไม่มีกำไร 🤣🤣
12:00 นี่คือเหตุผลที่ผมเกลียด ดิสนีย์ ให้ช่วงเวลานี้ มากที่สุด
ดิสนีย์เค้าอยากจะทำหนังแบบไหนก็ได้ เพราะเค้าคิดว่ายังไงๆก็มีคนดูสตรีมมิ่งและขึ้นราคาได้ทุกเมื่อ
ขอติเรื่องไมค์หน่อยครับ ช่วยทำให้เสียงดีๆขึ้นหน่อยครับ พี่เล่าได้ดีแต่เสียงไมค์ตัดอารมณ์ มากเลยย
หนังต่อไปของ woke Disney อยากเห็นblack panther เป็นคนผิวขาวและแชงชีเป็นคนผิวดำส่วนกับตันเมกาขอคนเอเชียและrocketขอเป็นหมาแทนแรคูน
ไหนๆ จะ woke แล้ว ก็ควรเอาให้สุด ควรเปลี่ยน Thor กับ กัปตันอเมริกา เป็นคู่ LGBTQ ด้วย
แฟนๆหลายคนอาจถูกใจก็ได้
ขอความล้มเหลวของDc และWbด้วยครับ
ปรับปรุงไมค์หน่อยนะ 😊
น้ำเสียงดีแล้ว
หลากหลายตามใจตัวเองก็นั้นละฮะ ทำหนังไว้ดูเองละก๊านนน
Elementle ดีมากนะ ถ้าเข้าใจสิ่งที่เขาพยายามจะสื่อ
Guardians of the galaxy 3 กับ spider man across the spider รายได้โครตเยอะ เสียงวิจารดีมาก มีสองเรื่องนี้ รายได้เยอะ
เหมือนว่าพอตั้ง DEI มาแล้ว ก็ต้องพยายามทำผลงานเพื่อทอดแทรกความหลากหลายเอาไว้ในทุกเรื่อง แต่บางทีก็เกินพอดีหรือดัดแปลงมากเกินไป ขาดความกลมกล่อมอ่ะ ซึ่งอาจเป็นเพราะประสบการณ์ในการทอดแทรกสื่อยังใหม่และน้อยเกิน ต่อไปต้องมีการปรับให้พอดีกับคนดูที่มีหลากหลายสถานะและหลากหลายความเห็นด้วย
เจ้งไปยิ่งดี ให้กลุ่มอื่นมาบริหารมารเวลแทน🎉
ส่วนตัวมีทั้งส่วนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เราไม่เคยฟังคำวิจารณ์เพราะอยากไปดูหนังด้วยตัวเอง ตัดสินเอง ความชอบคนไม่เหมือนกัน ทำไมต้องให้นักวิจารณ์มาบอกว่ามันดีไม่ดีแล้วทำให้หนังกระแสไม่ดี รายได้ตก ส่วน Disney plus เราไว้ดูเก็บตกรายละเอียด หนังเข้าใหม่ไปดูโรงหมดเพราะจอใหญ่ เสียงกระหึ่ม จุใจ ต่างกับดูใน iPad/TV แน่นอน ขอเป็นกำลังใจให้ Disney ทำหนังดีดีออกมา บางเรื่องที่สังคมสะท้อนก็ควรฟัง เช่น little mermaid แม้ว่าส่วนตัวจะไม่ติดกับนสด หลัก แต่ก็เห็นด้วยว่าควรทำตามฉับบอะนิเมชั่น
ใช่เลยครับ
มันจบแล้วครับนาย
ดิสนีย์เคยมีช่วงที่จะเจ๊งในสมัยก่อนแต่ก็กลับมารุ่งเรืองได้ ตอนนี้อาจจะมีโอกาสถ้าดิสนีย์รับฟังคนดู
ยัดเยี่ยนจัดๆ สาเหตุหลัก😂 เหมือนมีปมมากกว่ารณรงค์
ลิตเติลเมอร์เมดนี่เราไม่มีปัญหากับตัวนางเอกนะ แต่เราเกลียดกุ้งหอยปูปลามากกว่า น่ากลัวเกิ๊น ถ้าเรายังเด็กเราคงเก็บไปฝันร้ายเลยมั้ง แต่ละตัวคือไม่อยากจะเรียกชื่อแม่งเลย
คอนเทนต์มีแต่เอาใจ woke ก็สมควรแล้วที่รายได้ชิหาย
ยอมรับนะว่าสมัยก่อนการ์ตูนหริอหนังของดิสนีย์ก็ตามจะมีผลงานที่ดีมากๆ มนต์เสน่ห์ แห่งการจินตนาการ สนุกสนาน.....แต่มาตอนหลังดิสนีย์ยัดเยียดความหลากหลายมากเกินไปจนมันไปทำลายต้นฉบับดั้งเดิมหมด โดยไม่สนความรู้สึกของคนที่เค้ารักและจดจำตัวละครดั้งเดิม
ยังมีสโนว์ไวท์อีกเรื่องรอเข้าฉาย
สโนไวน์ กับ lgbt ทั้ง 7 นี่นะ ข่าวว่ามีนักแสดงคนแคะคนเดียว 55555 แม้งสุดๆไปเลยยัดเยียดชิป ตีความห่างไกลกับต้นฉบับ บอกว่าความหลากหลายแต่คนเอเซียไม่ค่อยโดดเด่นเมื่อเทียบกับคนดำ
สังเกตเลยเรื่องไหนที่Wokeหนักๆส่วนมากจะได้คะแนนรีวิวดีๆจากนักวิจารณ์
นักวิจารณ์กับสื่อหลักเป็นพวกwokeเยอะ มายาคติว่าwokeคือเสรีนิยม เปิดกว้าง ใจกว้าง อะไรแบบนี้ ใครwokeดูหัวก้าวหน้า แต่ตอนนี้เริ่มไม่ใช่ละ กระแสwokeเริ่มตีกลับเยอะแล้ว
คะแนนนักวิจารณ์ดีเพราะชอบ woke แต่รายได้สวนทางกับคำวิจารณ์
อวสานแล้วดิสนี่ย์ 555 วอร์เนอร์กำลังรุ่งสุดๆ เดอะแฟรชโกยเงินไม่หยุด
เอาจริงๆนะ บางคนไม่เคยเหยียดเพศยอมรับได้หมดจากใจ
แต่ ฉาก แมนๆจุบกัน มันก้มีคนที่ไม่เหยียดที่เขาไม่ได่อยากเห็นแบบนี้ มันไม่ได้น่าดูสำหรับทุกคน ที่จะยัดๆมา แล้วพอบางคนเค้าไม่ได้อยากเห็น ก้ไปตีหน้าว่าเขาเหยียดช
ก็ไม่มีปัญหากับความหลาดหลายนะ แต่มันชอบไปเปลี่ยน childhood ของใครหลายๆคนนี่แหละ 😅
ตอนเเรกเฉยๆกับ Lgbtq
เเต่เริ่มรู้สึกรำคาญ เพราะ Disney เนี่ยเเหละ
ว่าเเม่ง จะต้องการ การยอมรับ อะไรมาขนาดนั้น
คนดูชอบความมันและอลังการ นักวิจารณ์ชอบเนื้อหา
หนังของดีสนี่จะแฝงความรุนแรงแบบไร้สาระทุกๆเรื่อง รวมทั้งยัดเยียดสิ่งที่ตนเองอยากนำเสนอทุกเรื่อง
กลายเป็นความน่าเบื่อ
ล่าสุด Snowwhite. กับ คนแคระ(???) ทั้ง7 จร้า โครตสุดยอดความหลากหลาย
เค้าว่าบทเปลี่ยนจากคนแคระ เป็น 7 ประหลาดแห่งกังหนำ พวกคนแคะด่ายับ บทแสดงยิ่งหายากๆ ยังมาแย่งพวกตรูอีก
ก็หานักแสดงที่เป็น คนแคระ ผิวดำ ที่เป็น LGBT ก็จะได้ความหลากหลายครบในคนๆเดียวไปเลย
มันไม่ใช่ แต้ก็พยายามยัด
โดยส่วนตัวในเรื่องการมีบทบาทของชาวผิวสีมีมากขึ้นเราว่าก็ไม่ติดอะไรนะ แต่ติดตรงที่ว่าภาพจำตัวละครเราติดตามาแต่เด็กว่าเป็นผิวขาวจึงขัดแย้งกับความชอบส่วนตัวนิดหน่อย แทนที่จะคงไว้ซึ่งตัวละครเดิมผิวขาวหลักแล้วสร้างการ์ตูนหรือหนังที่เป็นชาวผิวสีเด่นออกมาใหม่หรือหนังที่characterตัวเอกเป็นชาวผิวสีเราคิดว่าน่าจะโอเคกว่า
มีใครเคยดูสโนว์ไวท์ที่เป็นภาพยนตร์แบบไลฟ์แอ็คชั่นหรือยังคะ นิยามตัวละครเจ้าหญิงสโนว์ไวท์ จะต้องมีผิวขาวดุจหิมะ ปากสีแดงเหมือนเลือดที่หยดลงบนหิมะ แต่คนที่มารับบทเป็นเจ้าหญิงสโนว์ไวท์ มีลักษณะไม่ตรงตามที่ควรจะเป็น การที่เจ้าหญิงสโนไวท์มีผิวขาวและปากแดงสีเลือดไม่ใช่การเหยียดสีผิว แต่เป็นเพราะเจ้าหญิงสโนไวท์ต้องเป็นแบบนั้น ชื่อก็บอกแล้วว่าสโนว์ไวท์ หรือแปลตรงตัวว่า หิมะสีขาว ไม่ใช่หิมะสีน้ำตาล
รอดิสนีย์มาเป็นสิบปีเพื่อจะได้ดูlive action สุดท้ายหักหลังกันได้เจ็บเเสบ จากรักมากคือเกลียดเลย ไม่รู้ว่าทั้งชีวิตนี้จะมีโอกาสได้ดูเเอเรียลที่เเทัจริงไหม
ไม่ดูนานละหนัง Disney ยุคใหม่ อึดอัดกับความยัดเยียด และเนื้อเรื่องที่วนๆอยู่ที่เดิมทุกเรื่อง ทำเราผิดหวังซ้ำๆซากๆกับการเลือกนักแสดงด้วย
คาวมหลากหลายกับความยัดเยียดมันคือเส้นบางๆครับ แต่ผมรู้สึกว่าหนังบางเรื่องคือการยัดเยียดครับ เช่น บทตามต้นฉบับของตัวละครเป็นอย่างนึง พอเอามาทำหนังก็ยัดไปเป็นอีกอย่างนึง อันนี้ไม่โอเคครับ
ความหลากหลายของดิสนีย์์ไม่ได้เป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติ แต่เป็นการยัดเยียดเกินไป พ่อแม่คงไม่อยากให้ลูกมาเจอความหลากหลายแบบนี้ตั้งแต่เด็ก
บางทีกลุ่มคนที่ดีสนีย์พยายามยัดบทให้ เขาก็อาจจะไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองด้อยค่าอย่างที่ดิสนีย์คิดก็ได้นะ
เดี๋ยวสโนว์ไวท์กับคนต่างเชื้อชาติทั้ง 7 ก็จะไปอีกเรื่องไม่สิ่ไม่ใช่แค่ต่างเชื้อชาตินี่หว่าต่างเพศสภาพด้วย
แอเรียล ดั่งเดิมผมตายในความคิดตั้งแต่เห็นภาคนี้แล้วครับ 😂😀555
เสียดายเรื่องครูเอลล่ามากคือนี่อยากดูมากแต่นางกลับเอาไปลงแอปคือเราว่านางควรเอามาใส่ในโรงหนังเหมือนเดิมอะ ถ้าเอามาใส่คงทำรายได้เยอะเลยเพราะหนังน่าดูมากกกกก
ความหลากหลายมันเป็นเรื่องที่ดีครับ..แต่ถ้าใส่มาแบบยัดเยียดจนดูมากเกินทุกเรื่องแบบมากกว่าเหมาะสมยังไงมันเกินไปครับ บ้างเรื่องก็ทำลายความทรงจำวัยเด็กของคนรุ่นเก่าไปเลย ยิ่งถ้าทางค่ายทำแบบนี้หรืออีกค่ายที่ไม่แพ้กันอย่าง Netflix ถ้าเขายัดเยียดความหลากหลายแบบนี้ ยิ่งทำให้คนไม่ชอบกลุ่มคน LGBTQ ยิ่งโดนเกลียดและไม่ยอมรับจากสังคมบางกลุ่มเพิ่มขึ้นมากกว่าผลดี ที่จะทำให้คนยอมรับนะครับในมุมผม
จริงๆฝรั่งเขาไม่ได้โอเพ่นขนาดไทยนะ แค่มีกฎหมายแต่งงานได้เฉยๆ แต่ในระดับสังคมไทยยังยอมรับมากกว่าเยอะ
อยากทำแบบของตัวเอง
ก็ดูเองละกัน ไม่เคารพงานต้นเรื่อง จะใส่ตัวละครแบบไหนก็ใส่
ถ้าจะระบายสี ผืนผ้าใบส่วนใหญ่เป็นสีขาว ดูโล่งไม่ยุ่งเยอะ แต่พอแต้มสีไปมากเกิน ก็ดูวุ่นวาย ปั่นป่วน ความบริสุทธิ์ของเรื่องราวในสมัยก่อน มันไม่เหลือแล้ว
EนางเงือกVer.นี้เด็กเห็นยังร้องไห้อ่ะคิดเอาเองละกัน!!!555
ส่งเสริมความหลากหลายแต่ส่วนใหญ่จะไม่มีค่อยคนเอเชียอยู่ในสมการเลยหลากหลายเท่าคนผิวสี5555555
เลิกยีดเยียด และทำตามสิ่งที่มันมีมา ถ้าจะทำสิ่งใหม่ ก็ทำเรื่องใหม่แต่งใหม่ ไม่ต้องเอากาตูนมารีเมคในคน เพราะแต่ละอย่างพักกกก
ที่มาของคำว่า ไม่ตรงปก
จริงๆแล้วซินเดอเรลล่าเป็นนิโกร😂
ไม่ชอบคำว่า “ความหลากหลายที่มากเกินไป” มันดูอคติเกินส่วนตัวชอบความหลากหลายมากแต่เรียกว่า “หาจุดลงตัวยังไม่เจอ” ดีว่าจะอธิบายได้มากกว่าอีก
ส่วนตัวคิดว่า หลายเรื่องก็ดูลงตัวไม่แย่ แต่บางเรื่องมันก็Woke มากเกินไป และที่แย่ที่สุดคือการยัดเยียดครับ ส่วนตัวผมเฉยๆกับการใส่ความหลากหลายนะ ขอแค่ไม่มากเกินไปจนขัดสายตา
มันก็มากเกินไปจริงๆ
อเมริกาที่โผล่มาในด๊อกเตอร์สเตรจ เราคิดว่าเป็นคู่รักเลสเพราะจักรวาลเขามีเเต่ผู้หญิงเขาอาจจะมองเป็นปกติเหมือน ชญรักกันอะ จักรวาลเขาก็มองว่าญญเป็นปกติอะ 😅
ของทุกค่ายในปีนี้ อินเดียน่าโจนส์5 ถือว่าเจ๊งขาดทุนหนักสุด ทุนสร้าง295ล้านไม่นับค่าโปรโมท แต่ตอนนี้ยังไม่คืนทุนเลย
ตั้งแต่ช่วงปี 2020 มากหนังของดิสนีย์แต่เรื่องใช่ทุนสร้างมากถึง 200 ล้านแทนจะเกือบทุกเรื่องเลยเพราะว่าทุกเรื่องจะต้องแบ่งให้โรงภาพยนตร์ครึ่งหนึ่งนะครับ
ขออนุญาตตอบนะคะ อันนี้ไม่เกี่ยวนะคะ ทุนสร้างคือทุนสร้างเลยค่ะ ส่วนค่าแบ่งให้โรงภาพยนตร์แยกต่างหากค่ะ ดังนั้นหนังเรื่องนึงจะคุ้มทุนได้ต้องทำรายได้เป็นเท่านึงของ ทุนสร้างค่ะ เช่นเรื่อง A มีทุนสร้าง 150 ล้าน แสดงว่าเรื่อง A ต้องทำรายได้อย่างน้อย 300 ล้านค่ะ ถึงจะคุ้มทุนเพราะต้องเอาไปแบ่งให้โรงภาพยนตร์ครึ่งนึงไงคะ แถมไหนจะค่าโปรโมทอะไรอีก ดังนั้นที่บอกทุนสร้างก็ตามชื่อเลยค่ะ มันคือทุนสร้างในการผลิตหนังเรื่องนึงค่ะ
ลองดูในมุมมองที่ไม่ได้คาดหวังอะไรมันก็สนุกดีนะ อาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราเคยดูมาแต่ต้องยอมรับในเสียงของนางเอกจริงๆ
❤
พอดูคลิปนี้แล้ว รู้สึกอยากให้ทางแอดเปลี่ยนการเรียกคนผิวดำหน่อยนะคะ ถ้าอยากให้เกียจเค้าจริงๆควรใช้คำว่าผิวดำไม่ใช่ผิวสี เพราะการเรียกผิวสีถือว่าไม่เกียจต่อสีผิวเค้า คนผิวดำเค้าภูมิใจในผิวตัวเองกันนะคะ ควรเรียกดำไปเลย เหมือนที่เรียนคนผิวขาวว่าขาว
อย่างที่2 การแสดงออกถึงความหลากหลายของเพศในหนังของดิสนีย์นี่ยอมรับค่ะว่าภูมิใจและดีใจมากที่ดิสนีย์แสดงออกอย่าเปิดเผย แต่มันมากจนเกินไป กลุ่มเพศทางเลือกเค้าแค่ต้องการการแสดงออกอย่างเท่าเทียมไม่ให้ดูเด่นออกมาแบบนี้ ลดได้ควรลดนะคะ
อย่างที่3 อยากให้แอดทำการบ้านมากกว่านี้ รายได้ของดิสนีย์เดี๋ยวนี้ยอมรับค่ะว่ามันไม่ได้ถล่มทลายเหมือนหนังเก่าๆแต่ดิสนีย์ก็รายได้หลายช่องทางมากกว่านั้น คำว่าต้นทุนต่อรายได้อ่ะค่ะ ในหนังแต่ล่ะเรื่องมีการขายลิขสิทธิ์ด้วยนะคะทั้งการแปลและการขายสินค้า ไม่ใช่แค่การฉายในโรงเพราะเป็นปกติอยู่แล้วที่รายได้มันจะตกเพราะเหตุการโควิด งั้นก็ต้องเหมารวมทุกค่ายเลยไหมคะเรื่องรายได้เพราะเห็นว่าตกกันหมด นี้ว่าดิสนีย์ถือว่าสูงค่อนข้างมากเลยให้ช่วงโควิด รายได้ของสตีมมิ้งก็สูง รายได้ของการขายสินค้าก็สูงเช่นกัน
เพราะเรทรายได้ในสมัยก่อนที่เค้าแจ้งมาก็ต้องรวใของพวกนี้ด้วย ไม่งั้นดิสนีย์ไม่กล้าผลิตหนังออกมาหรอกค่ะถ้ามันจะขาดทุมเป็นสิบยี่สิบล้านแบบนั้น (ถ้าจะให้ข่าวควรทำการบ้านมากกว่านะคะ) เป็นห่วงผู้ที่เสพสื่อของคุณด้วยนะคะ ไม่อยากให้รับข้อมูลผิดๆ
- จะเรียก สีเรียก ดำ ก็ภาษาไทยสื่อความหมาย มันเสือกอะไร กับโลกกว้างที่เค้าเรียก เค้าใช้ภาษาไทย?
-อ่อ ขาดทุนเกิน 10-20 แน่ๆค่ะคุณน้อง
เค้าทำการบ้านมาดีประมาณนึงละครับ
และขาดทุนหนักกว่าที่คิดด้วย ถ้าเทียบทุน +ค่าโปรโมท(ที่ไม่เปิดเผย) กับตัวเลขใน box office ไปแหกตาดูบ้างก็ได้นะครับ ข้อมูลมันเปิดเผย
ทีงี้บอกให้เรียกดำ พอคนสเปนเรียกnegro(คำว่าดำภาษาสเปน ไม่ใช่คำหยาบเลย เป็นคำใช้ทั่วไป) กลับถูกคนดำด่าว่าเหยียด ไม่รู้จะเอาใจยังไง
ส่วนขาดทุน ข้อมูลเจ้าของคลิปบอกถูกแล้ว เพราะต้องเปิดเผยในนักลงทุนดู ขาดทุนยับจริงๆตั้งแต่มาเป็นwoke แปลว่าคนส่วนใหญ่เขาไม่เอา