สำหรับผมถ้าอยากจะใส่ความหลากหลายทางเชื้อชาติ ทางเพศ หรือให้ผู้หญิงมีบทบาทมากขึ้นก็สร้างเรื่องราวใหม่ไปเลยไม่ต้องหากินบุญเก่าและให้เรื่องราวที่เราอยากจะสื่อมีความหมายมากขึ้น เพิ่มคุณค่ามากขึ้น มีแง่คิดที่ดีและให้ความสนุกในเวลาเดียวกัน เรื่องนึงที่ผมชอบมากคือ The Owl House เป็นการ์ตูนแฟนตาซีแม่มดธรรมดาแต่มีการใส่ความหลากหลายทางเพศมาเยอะมากแต่ไม่รู้สึกถึงความยัดเยียดแม้แต่นิดเดียวแถมเนื้อหาก็ยังสนุกด้วย
ถ้าในกลุ่มหนัง Super Hero หญิง เรายังมองว่า Wonder Woman นี่เเหละ น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดี ตัวละครเก่งมาก เเต่ก็ชดเชยด้วยการเรียนรู้อ่ะมันเลยทำใก้เราคอยเอาใจช่วยตลอด เเต่ถ้าไม่นับหนัง Super Heroes ก็ยังคงยกให้ Everything Everywhere All at Once เป็นหนัง Woke ที่ดีที่สุดในความคิดเรา
สิ่งที่ต่างกันระหว่าง Little mermaid กับ into the spiderverse คือ Spider man Mile Morales ถูกเขียนเป็น comic ก่อนหน้าหนังจะสร้างนานแล้วครับ ไม่ใช่เพิ่งมาเขียนบทเอาตอนสร้างหนัง หรือก็คือหนังไม่ได้เปลี่ยนตัวละครให้เป็นคนผิวสี แต่หยิบเอาตัวละครที่เป็นคนผิวสีอยู่แล้วมา
ที่แย่คือทำตัวละครหญิงให้เก่งเกินความเป็นจริงและทำให้ตัวละครชายเป็นพวกโง่หรือตัวตลก ไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่จะไม่ชอบ พ่อเขียนบทให้ผู้ชายอ่อนแอ เกินความจำเป็นกับผู้หญิงเก่งอย่างกับ Super Human ราวกับว่ากลุ่ม Family กำลังจะบอกว่าผู้หญิงเป็นผู้ชายได้ดีกว่าตัวผู้ชายเองอย่างนั้นแหละ ดูไปดูมาแล้วเหนื่อย😂
ครับ ไม่ได้ยัดเยียดเลย ถ้าทีมสร้างมันโว้คมาแต่เริ่ม มันมีเหรอที่จะไม่ทำหนังสนองนีดตัวเองออกมา ดูอย่าง Star war ทุกวันนี้เอานะครับ โว้คมาตั้งแต่หัวยันหาง.
@@paparouzคุณไม่ได้โดนยัดเยียดหรอกครับ เพราะอย่างน้อยคุณสามารถดู/สนับสนุนหนังเรื่องอื่นที่ดีกว่า Star War ได้โดยไม่ถูกบังคับ และดิสนีย์เป็นแค่บริษัทเอกชน ไม่ใช่หน่วยงานรัฐที่ผูกขาดวงการสื่อ ตราบใดที่ดิสนีย์ยังไม่มีการกระทำที่มีลักษณะผูกขาดวงการภาพยนต์เพราะมีคู่แข่งจากค่ายอื่นๆที่พร้อมชิงตลาดได้ หรือถ้ามีการผูกขาด ก็โดนกฎหมายสหรัฐเล่นงานเหมือนกัน
ไมลส์ โมราเรส สำหรับผมไม่ได้เป็นการสลับเชื้อชาติหรือว่ายัดเยียดครับเพราะว่า
1. เค้ามีตัวตนจริง ๆ ในหนังสือการ์ตูน
2. เค้าไม่ใช่ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ผิวดำ เค้ามีนิสัย / เอกลักษณ์ / ครอบครัว / เพื่อน / คนรักของเค้าเอง ไม่ได้ไปขโมยตัวตนของปีเตอร์มาเสียดื้อ ๆ
ซึ่งแตกต่างจากแอเรียลฉบับภาพยนต์ตรงที่เป็นการเปลี่ยนแอเรี่ยลต้นฉบับซึ่งมีผิวขาวผมแดงมาเป็นคนดำผมหยิกดำซะดื้อ ๆ เลย
เหมือนกับเบลด นั่นล่ะครับ ไม่เคยเห็นใครมีปัญหา เพราะมันตรงกับต้นฉบับการ์ตูน
ใช่ครับ ไมลส์มีเนื้อเรื่องอยูืแล้ว ไม่ทำการบ้านมาเลย
เม้นนี้พูดถูกกว่าคลิปทั้งคลิปอีก
จริงครับ ในกรณีของไมลส์ เป็นตัวละครใหม่ คือเปลี่ยนตัวละคร เปลี่ยนstory ไปเลย แบบนี้ใครๆก็โอเค แถมไม่ได้เอาปีเตอร์มาเปลี่ยนสีผิวเฉยๆ แต่เราได้รู้จักสไปเดอร์แมนคนอื่นๆในจักรวาลโลกภาพยนตร์ เพิ่มมิติมากยิ่งขึ้น มันยิ่งทำให้มีเสน่ห์ มากยิ่งขึ้นอีก
คลิปนี้นึกยังไงเอาตัวละครที่มีอยู่แล้วไปเปรียบเทียบกับสิ่งที่เค้ายัดลงไปให้ตัวละครที่มีอยู่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่คนดูรู้สึกแตกต่างในทางอคติ
ตัวละครหญิงแกร่งนี่ ฝรั่งเข้าใจผิดไปมากๆว่าคือ ผญ เพอเฟค เพราะถ้าไปดูฝั่งกาตูนญี่ปุ่น ตัวเอก ผญ แล้วเก่งเยอะมาก แล้วมันเวิคด้วย เพราะต่อให้เก่ง แต่ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ แล้วจุดอ่อนนั้นๆแหละที่สามารถเอามาเล่าเป็นประเด็นในเรื่องได้
ไม่โว้ค แต่คลิ้นช์ สนุกแต่ไม่เวิร์คสำหรับทุกคน ทำไมไม่ลองเทียบกับซีรีย์เกาหลีดูล่ะ เหตุใดสื่อภาพยนตร์เหมือนกัน ใช้คนแสดงเหมือนกัน แต่ครองใจฝั่งตะวันตกได้ทั้งที่คนละวัฒนธรรมเหมือนเมะ
มังงะจีนผู้หญิงเก่งมีเป็น10แต่ก็ไม่เคยมีใครบ่นเพราะถึงจะเก่งแต่ยังไงเดี้ยวในอนาคตก็มีตัวที่เก่งกว่าละมีพื้นที่ให้พวกเธอพัฒนาต่อ
มันคือการตีความผิดๆครับ ผู้หญิงแกร่งเขาคือทำอะไรก็เทพไปหมด สมบูรณ์แบบทุกอย่าง ทำอะไรให้มันดูง่าย(ซึ่งมันดูขัดแย้งกับปัญหาที่มันใหญ่)
คุณดูเรื่องโจโจ้ครับ มีหมดทุก เชื้อชาติคนทุกประเภทแถมดีมากด้วยครับ อย่างโจรีนที่เป็นโจโจ้หญิงอ่ะแล้วมาตั้ง20ปีแล้วมังงะโจโจ้อ่ะ คือผมว่าพวกเมกาเค้าเพิ่งยอมรับอะไรแบบนี้
ถ้าแนว ญ แกร่งชอบแบบยุคก่อน ซาร่า คอนเนอร์ , เอเลน ริปลี่ย์
"ให้โอกาศทุกคนเล่นเป็นบทอะไรก็ได้" ผมไม่เห็นด้วยกับคำนี้เลย มันเป็นข้ออ้างในการยัดเยียดตัวละครโดยไม่ลงทุนลงแรง ถ้าอยากจะให้โอกาสเชื้อชาติอื่นๆ มันมีอีกตั้งหลายวิธีนอกจากการเปลี่ยนสีผิวตัวละคร
+10ล้านเลย อยากได้ตัวละครที่หลายหลาย ก็สร้างใหม่สิ สร้างมาให้คนรัก ไม่ใช่ไปขโมยมาจากคนอื่น // อยากได้ ลิตเติลเมอร์เมตผิวดำ ก็ สร้างใหม่ เขียนเรื่องใหม่สร้างมาใหม่ให้ดีเทียบเท่า ไม่ใช่ ขโมยไปแล้วบอกว่า เอาไป "เติมเต็มฝันของเด็กๆ ผิวดำทั่วโลก" แต่ลืมไปรึปล่าวว่าได้ "ทำลายความฝันของเด็กคนอื่นเหมือนกัน"
"ให้โอกาศทุกคนเล่นเป็นบทอะไรก็ได้" คำนี้เป็นไปได้กับอุตสาหกรรมการพากย์เสียงครับ
จริง นี่ยังไม่รวมเอาคลิโอพัตรามาเป็นคนดำอีก
ถูกต้องครับผม เพราะในความเป็นจริงนักเขียนเขาจินตนาการไว้แล้วว่าตัวละครของเขาจะต้องมีบุคลิกภายในและภายนอกยังไง
มันไม่ใช่ว่าคนทุกคนจะเล่นบทนั้นได้
@@satoru15299 เหมือน พ่อแม่ คนผิดขาว ลูกเป็นลิโก ผิวดำซะงั้น พ่อแม่เป็นคนจีน ลูกเป็นลิโกผิวดำ เรียกว่า ยัดเยียดมากกว่าจะเป็น woke
คือ อย่างสไปเดอร์แมน ไมล์ เป็นตัวละครหลัก ที่สร้างเนื้อเรื่องของตัวเองมาอย่างยาวนาน ซึ่งก็คือบทบาทนี้ผมมองว่า ควรจะเป็นคนผิวดำเพราะเคารพต้นฉบับที่สุดแล้ว ปัญหาของการwokeคือ เค้าเลือกที่จะไม่สร้างสรรค์ตัวละครนั้นขึ้นมา แต่เลือกที่จะเอาความWOKE ไปยัดใส่ตัวละคร"โดยไม่เคารพต้นฉบับบมากกว่า" สมมุติว่าตัวละครหลักเป็นเอลฟ์ ซึ่งในนิยายระบุว่า ผิวขาว ผมสีบรอนส์ คุณจะมาเปลี่ยนคาแรกเตอร์เป็น ผิวดำ ผมว่า มันไม่เหมาะ และไม่เคารพต้นฉบับเลย เรื่องนี้มันจะแก้ก็แก้ได้ ด้วยการเพิ่มตัวละครใหม่ซักคนนึง แต่ทางค่าย D กลัวว่า ถ้าสร้างตัวละครนั้นขึ้นมา จะขายไม่ออกมากกว่า ก็เลยยัดเยียดความ WOKE ลงในตัวละครหลัก อันนี้ผมแค่พูดถึงเรื่องรูปร่างนะครับ
ถ้าตัวดำจากเอลฟ์ผมจะเรียกว่าอ๊อคแทนละ😂😂😂
เหมือน พ่อแม่ คนผิดขาว ลูกเป็นลิโก ผิวดำซะงั้น พ่อแม่เป็นคนจีน ลูกเป็นลิโกผิวดำ เรียกว่า ยัดเยียดมากกว่าจะเป็น woke
@@ตํานานพญานาค-ป1สเหมือน พ่อแม่ คนผิดขาว ลูกเป็นลิโก ผิวดำซะงั้น พ่อแม่เป็นคนจีน ลูกเป็นลิโกผิวดำ เรียกว่า ยัดเยียดมากกว่าจะเป็น woke
สมัยก่อนหนังเพื่อนหญิงพลังหญิงก็มีตั้งเยอะแยะ ก็ดูสนุก ไม่เห็นดูแปลกผ่านความ Woke เหมือนสมัยนี้เลย Kill Bill ยังงี้ Tom Rider เวอร์ชั่นแองเจลีนาโจลี่ยังงี้ ก็ดัง เป็นหนังที่ใครก็ชื่นชม แต่หนัง Woke ที่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะมันถูกทำจากคนที่โง่แต่คิดว่าตัวเองฉลาดแล้ว ถ้าคนทำหนังฉลาดมันก็จะกลายเป็นหนังสนุกที่ได้ความ Woke เป็นสาระของหนังทำให้ดูมีคุณค่า
จริงครับ พวก ซาร่า คอนเนอร์ , เอเรน ริปรีย์ โคตร ญ แกร่งแต่ไม่ได้ Woke ยัดเยียด แบบสมัยนี้
เหมือน พ่อแม่ คนผิดขาว ลูกเป็นลิโก ผิวดำซะงั้น พ่อแม่เป็นคนจีน ลูกเป็นลิโกผิวดำ เรียกว่า ยัดเยียดมากกว่าจะเป็น woke
@@Asphyxia.666สมัยนี้มันประสาทแดกมากกว่าตื่นจนดีดป่านอัดมาเต็มกราฟสูดเต็มคาราเบล
@@Asphyxia.666ที่พูดมาคือ woke นะ woke แบบจริงๆ ไม่ใช่ยัดเยียด ไม่ใช่ fake woke
มันไม่มีใครชอบตัวละครแบบ แมรี่ ซู /แกรี่ สตรูว์ (เก่งรอบด้าน เก่งไปหมด เป็นที่รักของทุกคน) แบบนั้นมันมีความน่าเบื่อมากเกินไป แถมเรื่องเพศควรเป็นองค์ประกอบรองๆท้ายๆด้วยซ้ำ(ถ้าตัวละครมันดีมาก ดีจริงๆ ไม่มีใครใครสนใจเรื่องเพศเป็นเรื่องหลักกันแล้ว จะสนใจว่า เขาเจอปัญหาอย่างไร มีอดีตอย่างไร และจะก้าวข้ามสิ่งนั้นไปได้หรือไม่ ?) เพราะมันไม่ใช่แก่นหลักของสารที่จะสื่อ ะไม่อย่างนั้นมันจะผิวเผินเบาหวิวทั้งเรื่อง ธีมเรื่อง รวมถึงการสื่อสารที่ไม่ไหลลื่นด้วย แถมแนวคิดที่พยายาจะสื่อออกมาผ่านเหตุการณ์มันก็ดัน กลวงเปล่า อีก
.
อย่างไรเสียหนังก็มีไว้เพื่อความบันเทิงที่สอดแทรกแง่คิด(Edutainment) ไม่ใช่เอาแนวคิดทื่อๆตรงๆมาปาอัดใส่คนดู แล้วใส่บริบทให้ฝืนให้ตัวละครอื่นดูชั่วร้ายหรือโง่จนเกินไป แบบที่เห็นหนัง โว้คเป็นอยู่ตอนนี้ สุดท้ายแล้วผู้สร้างหนังก็ต้องไม่แถ ยอมรับความเห็นของคนดู นักวิจารณ์บ้างว่า ไอ้ที่ทำมาน่ะมันฝืนจริงๆ ไม่ใช่ไปโยนข้อหาว่า พวกคุณมันเหยียดเพศ ลัทธิปิตาธิปไตย หรืออ้างอะไรเพียงเพราะไม่กล้ายอมรับว่า สิ่งที่ทำออกมามันห่วย(ไม่ว่าจะ แก่นเรื่องที่ห่วย หรือการนำเสนอที่ห่วย)
มันไม่ใช่การนำเสนอจริง ๆ นั่นแหละ
มันเป็นแค่...การยัดเยียด
พอเข้าไปดู คนเขาก็จะรู้สึกเหมือนจ่ายค่าตั๋วหนังไปชมโฆษณาความหลากหลาย
wokeดีครับแต่ความคิดความอ่านของคนที่เคลื่อนไหวเรื่องนี้แย่มากเขาไม่ได้อยากเท่าเทียมแต่อยากกดขี่ผู้ชายกดขี่คนขาวกดขี่คนหน้าตาดี เรื่องชูประเด็นหญิงแกรงผมไม่ติดใจอะไรมันน่าสนใจด้วยซ้ำ แต่ภาพที่เห็นจากตัวละครเหล่านั้นมันดูกรวงมาก ขาดแรงผลักดันขาดพลังขาดที่มาที่ไปที่จะทำให้เชื่อถึงความเข้มแข็ง เพราะทุกอย่างมันดูง่ายดายไปหมดแค่เดินสวย ๆ ทุกอย่างก็สำเร็จแล้ว
สำหรับผมถ้าอยากจะใส่ความหลากหลายทางเชื้อชาติ ทางเพศ หรือให้ผู้หญิงมีบทบาทมากขึ้นก็สร้างเรื่องราวใหม่ไปเลยไม่ต้องหากินบุญเก่าและให้เรื่องราวที่เราอยากจะสื่อมีความหมายมากขึ้น เพิ่มคุณค่ามากขึ้น มีแง่คิดที่ดีและให้ความสนุกในเวลาเดียวกัน
เรื่องนึงที่ผมชอบมากคือ The Owl House เป็นการ์ตูนแฟนตาซีแม่มดธรรมดาแต่มีการใส่ความหลากหลายทางเพศมาเยอะมากแต่ไม่รู้สึกถึงความยัดเยียดแม้แต่นิดเดียวแถมเนื้อหาก็ยังสนุกด้วย
แต่หนูผีดันยกเลิกซะงั้นแปลกดี
มันไม่สายกลาง เสรีนิยมคือซ้าย อนุรักษ์นิยมคือขวา โวคคือเสรีภาพไร้ขอบเขตและเหตุผล อาจจะมีเหตุผลแต่เป็นแบบโวคๆ นอกจากพวกโวคแล้วไม่มีใครเข้าใจ ดีที่สุดคือสายกลาง อนุรักษ์เสรีนิยม เหมือนประเทศไทย อะไรที่ต้องอนุรักษ์ก็อนุรักษ์ไว้นอกนั้นเสรีหมด ประเทศไทยเป็นพหุวัฒนธรรม เราอนุรักษ์เอกลักษณ์คนไทย แต่เปิดรับวัฒนธรรมอื่นด้วย ตราบใดที่วัฒนธรรมนั้นไม่ทำลายอัตลักษณ์ความเป็นไทยของเรา ประเทศไทยเรียกว่า มิกซ์แอนด์แมตช์
มีตัวละครเป็น ญ หรือ เป็น ช ไม่สำคัญ ประเด็นคือไม่เคารพตัวละครต้นฉบับ ตัวละครเป็น ช ดันไปเปลี่ยนเป็น ญ ตัวละครผิวขาว ดันไปเปลี่ยนผิว ดำ คู่รัก ช/ญ ดันกลายเป็นคู่เกย์
ถ้าคิดเรื่องขึ้นใหม่ ตัวละครใหม่ มันจะไม่มีปัญหา แต่นี่ดันไปเปลี่ยนเนื้อหาจาก บทเก่า!!
สรุป หนังไม่เคารพตื้นฉบับ
เหมือน พ่อแม่ คนผิดขาว ลูกเป็นลิโก ผิวดำซะงั้น พ่อแม่เป็นคนจีน ลูกเป็นลิโกผิวดำ เรียกว่า ยัดเยียดมากกว่าจะเป็น woke
2:00 ทำไม Spiderman คนว่าดี : เพราะ มันนำเสนอ อีกด้าน อีกแบบที่คนผิวใช้ชีวิต ดีๆ (ไม่ได้จะ ยัดความคิด แต่ Meg สุด)
3:20 ไม่ได้มีการนำเสนออะไร ใหม่ๆเลย แค่เปลี่ยนสีผิว (คิดงานตื้นไป จะทำอะไร ต้องเจาะให้สุดเพิ่ม เขื่อน )(แล้วจะเจาะยังไงนี้แหละ)
4:41 คนเขียนบทรุ่นใหม่ไม่เข้าใจการ Implement ทำให้สำเร็จ แค่เอามาเปลี่ยนสีผิว
เพราะมันคือ ไมล์ โมราเลส ที่เป็นสไปเดอร์แมนผิวสี ไม่ใช่ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ย้อมดำ
@@batrogue2338 ถ้าเป็นแบบนั้น ก็โดนถล่มเละครับ ลองดิ 55
เหมือน พ่อแม่ คนผิดขาว ลูกเป็นลิโก ผิวดำซะงั้น พ่อแม่เป็นคนจีน ลูกเป็นลิโกผิวดำ เรียกว่า ยัดเยียดมากกว่าจะเป็น woke
WOKEในตอนนี้ความหมายคือผู้หญิงเป็นผู้อยู่เหนือกว่าผู้ชายครับ ถ้าเกิดทำหนังหรือสื่อเเบบปกติหรือทำเองโดยไม่เอาตัวระครเก่าหรือเนื้อเรื่องที่มีอยู่เเล้วมาทำใหม่ก็ดีอยู่หรอกครับเเต่ส่วนใหญ่มันเล่นเอาบทหรือเรื่องที่มีอยู่เเล้วมาเปลี่ยนทั้งบทบาทหรือเปลี่ยนทั้งสีผิวจนเเบบจะเป็นคนละเรื่องจากเค้าโครงเดิมเลยครับ คือผมอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้จริงๆครับเเต่ขอเอาเป็นว่าสำหรับผมความมายของWOKEเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจมากกว่าจะเป็นสิ่งที่น่าสรรเสริญครับ
เหมือน พ่อแม่ คนผิดขาว ลูกเป็นลิโก ผิวดำซะงั้น พ่อแม่เป็นคนจีน ลูกเป็นลิโกผิวดำ เรียกว่า ยัดเยียดมากกว่าจะเป็น woke
0:05 ไม่รู้นะตัวเรารู้สึกว่ามันยัดเยียดเกิน แล้วมาใช้คำว่าเท่าเทียมมาครอบ จริงๆมันก็ไม่ใช่ เห็นผู้กำกับหนังเขาเอามาโต้ครั้งนึงนะสมัยนั้น แต่จริงๆแล้วรู้สึกว่ามันยัดเยียดมากกว่า
ตัวละครบทนำผู้หญิงสมัยนี้หลายเรื่องมันแมรี่ซู แมรี่ซูไม่พอ หลายตัวยังปากดีอวดเก่งอีกต่างหาก เหมือนรู้สึกว่าไม่โชว์พาวร์เดี๋ยวคนอื่นไม่รู้ว่าเก่ง มันจึงน่าเบื่อและน่าหมั่นไส้ไปพร้อมกัน แถมเก่งอยู่คนเดียวทั้งเรื่อง มีอะไรให้น่าดู สมัยก่อนตัวละครหญิงแกร่งที่มีบทนำมันก็มี แต่ผู้หญิงเหล่านั้นเขาไม่ได้ดูแมรี่ซูแบบนี้ เขาแกร่งแต่ก็เคยผ่านจุดที่แย่ จุดที่อ่อนแอ เปราะบาง ที่เคยแพ้ เคยโดนหลอก ก่อนที่ก้าวข้ามมันมาได้อย่างทุลักทุเล และที่สำคัญไม่มีบทพูดจิกกัดสังคที่มันไม่เข้ากับบริบทเรื่องราวของหนังแบบตัวละครหญิงสมัยนี้ด้วย
มีคนเคยพูดว่าการทำให้คนกลุ่มหนึ่งมีคุณค่า ไม่ได้หมายความว่าจะต้องด้อยค่าคนอีกกลุ่ม... ปากบอกอยากได้ความเท่าเทียม แต่การกระทำคือพยายามจะเหนือกว่าและกดอีกฝ่ายให้ต่ำ นั่นคือสิ่งที่หนังสมัยนี้ทำออกมา และนั้นแหละคือปัญหา
ปล.สไปเดอร์แมนของไมล์ มันเป็นคนผิดดำอยู่แล้วตั้งแต่ในฉบับการ์ตูนเล่มนะครับ ฉะนั้นจึงแปลว่าสไปเดอร์แมนเวอร์ชั่นคนดำนี้ ไม่ได้มีการคัดแปลงอะไรเลย ซึ่งเป็นคนละเรื่องคนและบริบทกับกับเงือกน้อย(ทำไมหลายคนชอบเอาสองเรื่องนี้มาเทียบกนจังเลยทั้งที่บริบทมันไม่เกี่ยวกันเลย) แต่เมื่อไหร่ที่เขาดันทำให้ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์เป็นคนผิวดำนี่สิ ผมว่าถึงเนื้อเรื่องหมือนเดิมก็คงโดนด่าไม่ต่างจากเงือกน้อยหรอก สิ่งที่เขาทำให้มันประสบความสำเร็จจริงนอกจากเนื้อเรื่องที่สนุกแล้ว ก็คือการเคารพต้นฉบับที่ยังทำให้ปีเตอร์เป็นปีเตอร์ และสร้างตัวละครใหม่ที่เป็นคนผิวดำขึ้นมาเลย พร้อมเล่าเรื่องใหม่ทั้งหมดไปเลย โดยที่ไม่ไปแตะต้องสไปเดอร์แมนต้นตำหรับอย่างปีเตอร์ ไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับเรื่องวัฒนธรรมนะครับ
ถ้าในกลุ่มหนัง Super Hero หญิง เรายังมองว่า Wonder Woman นี่เเหละ น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดี ตัวละครเก่งมาก เเต่ก็ชดเชยด้วยการเรียนรู้อ่ะมันเลยทำใก้เราคอยเอาใจช่วยตลอด เเต่ถ้าไม่นับหนัง Super Heroes ก็ยังคงยกให้ Everything Everywhere All at Once เป็นหนัง Woke ที่ดีที่สุดในความคิดเรา
Wokeเนี่ยอุดมการณ์ดีแต่วิธีผิดเต็มๆเลยครับ มันต้องค่อยๆปรับค่อยๆแทรกไม่ใช่ยัด
เช่นการเปลี่ยนสีผิวแทนตัวละครเดิม หรือด่าคนดูอ้อมๆ บางเรื่องก็ด่าใส่ตรงๆด้วยคำพูดเลยอย่างในเรื่อง (The Batman) อยากให้คนยอมรับต้องค่อยๆเปลี่ยนแต่พวก Woke เนี่ยใจร้อนมากๆอยากมากจนตัวสั่น ยิ่งเติมความขัดแย้งลงไปอีก ที่น่ากลัวคือพวก Fake Woke แอบอ้างความเท่าเทียมกลายเป็น Cancle culture ปิดกั้นคนเห็นต่างไปซะงั้น 😢
ผู้หญิงเก่งพระเอกพิการในนิยายจีนซีรีย์จีนดีๆเยอะแต่ไม่ได้เก่งแบบไร้เทียมทานแบบของdisney เขาสู้ด้วยกำลังไม่ได้ก็ใช้สมองหักเหลี่ยมเฉือนคมกันดูลุ้นได้อารมณ์มากๆแม้จะเก่งแค่ไหนก็เป็นคนร้องไห้เป็นอ่อนแอเป็นมีจุดอ่อนเหมือนกันและยังต้องให้คนรอบค้างคอยสนับสนุนถึงจะชนะแบบลากเลือด disneyทำตัวละครเอก แมรี่ ซู เกินไปหมดสนุกเลย แบบstar wars rogue one กำลังดีมีเพื่อนคอยช่วยให้มันได้ลุ้นกันบ้าง5555
สิ่งที่ต่างกันระหว่าง Little mermaid กับ into the spiderverse คือ Spider man Mile Morales ถูกเขียนเป็น comic ก่อนหน้าหนังจะสร้างนานแล้วครับ ไม่ใช่เพิ่งมาเขียนบทเอาตอนสร้างหนัง หรือก็คือหนังไม่ได้เปลี่ยนตัวละครให้เป็นคนผิวสี แต่หยิบเอาตัวละครที่เป็นคนผิวสีอยู่แล้วมา
หลักการที่ดี แต่ถ้ารู้สึกถูกยัดเยียด สุดโต่งเกินไป ไม่เปิดช่องให้คนคิดแบบอื่นได้ ไม่แปลกที่คนจำนวนมากจะปฏิเสธ
แต่มันแปลกดีที่คนที่เรียกร้องแบบนี้ ดันมาทำอะไรย้อนแย้งกับหลักการที่ตัวเองพูด
เรียกร้องความยุติธรรมและเท่าเทียมทางเพศ แต่ดันไม่เคารพเพศตรงข้ามซะเอง
เราอยู่ในยุคที่ ถ้าไม่ชอบดูหนังเกย์ แปลว่าเราเหยียดเกย์ 🤣🤣🤣
ที่แย่คือทำตัวละครหญิงให้เก่งเกินความเป็นจริงและทำให้ตัวละครชายเป็นพวกโง่หรือตัวตลก ไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่จะไม่ชอบ พ่อเขียนบทให้ผู้ชายอ่อนแอ เกินความจำเป็นกับผู้หญิงเก่งอย่างกับ Super Human ราวกับว่ากลุ่ม Family กำลังจะบอกว่าผู้หญิงเป็นผู้ชายได้ดีกว่าตัวผู้ชายเองอย่างนั้นแหละ ดูไปดูมาแล้วเหนื่อย😂
ตัวละครหญิงแกร่งแบบไร้เหตุที่มานี่ไม่ชอบสุดแล้ว โดยเฉพาะมู่หลานเวอชั่นหนังนี่แบบเหลือเกินจริง เวอชั่นกาตูนสร้างมาตรฐานดีมาก พูดถึงการพยายาม การพิสูจตัวตน แต่หนังมันอยากโชว์แค่ว่าผญเก่งนะเว้ยไม่ต้องพยายามก็เก่งแน่ ๆ
Woke มันแค่คำบังหน้า ที่จริงมันคือเกมมหาอำนาจตอนนี้สหรัฐ กำลังมองไปที่แอฟริกา นี่คือดินแดนอันทรงพลังในด้านทรัพยากรต่อจากหมุดของเอเชียที่เริ่มอิ่มตัว สหรัฐจึงเริ่มสร้าง demand ผ่านความเชื่อด้านวัฒนธรรมที่เคยทำกับเอเชียมาแล้ว ดังนั้นตอนนี้เราจะเริ่มเห็นคนดำมีบทบาทในสื่ออเมริกาอย่างหนีไม่พ้น
ปัญหาของการ woke ใน Hollywood มันเริ่มต้นตั้งแต่เบื้องหลังเลยครับ
หลายๆเรื่อง ลองไปดูรายชื่อทีมงาน ทั้งผู้กำกับ คนเขียนบทดูก็ได้
แล้วเราก็อาจจะงงว่า "ใครวะ?" แล้วพอไปดูผลงานในอดีต หลายๆคนไม่มีผลงานอะไรดีๆมาก่อนด้วยซ้ำ
แต่ดันได้จับพลัดจับผลู มาทำหนังที่มีทุนเป็นร้อยล้าน กับแฟรนไชส์ ที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว ซะงั้น
หรืออย่างสตาร์วอร์ส ที่ทางโปรดิวเซอร์มายุ่งกับการสร้างหนังมากเกินไป ต้องการจะส่ง "ข้อความ" มากกว่า "ทำให้หนังสนุก"
แล้วดันมีปัญหาในกองถ่ายอีก มันเลยได้อะไรที่เละเทะอย่างไตรภาคดิสนีย์ออกมา
คือพวก woke นี่ถ้าดูคอนเซปต์เริ่มต้นจริงๆ มันก็ดีแหละ แต่พอเอาเข้าจริง ไม่ใช่
เพราะพวกนี้มันขาดคมมอนเซนส์มาก แต่ดันได้ไปอยู่คำแหน่งที่มีอำนาจ เลยไม่สามารถสร้างผลงานที่คนทั่วไป รู้สึกมีส่วนร่วมได้ออกมา
พูดถึงผู้จัดสตาวอปัจจุบันรึป่าวครับ 5555
ผญ ในงานฝรั่งต้องชนะทุกอย่าง ห้ามโดนตัวร้ายทำร้าย และ ต้องเจ้าชู้มีสเน่ห์แบบ เจมส์ บอน แล้วมันจะไปสนุกอะไรละ
ตัดมาที่งานทางเอเชีย อย่างญี่ปุ่น ผญ ไม่ได้เก่งไปสะทุกอย่าง แต่ใช้ความสามารถในการแก้ปัญหา หรือ ถ้าปัญหามันแก้ไม่ได้ก็สามารขอความช่วยเหลือได้ มันทำให้ตัวละครมีมิติมากขึ้น ไม่ได้ over power เกินไปคนดูเอาใจช่วย
สไปเดอร์แมน เขาไม่ได้เปลี่ยนปีเตอร์ปาร์คเกอร์นะครับ
เขาแค่นำเสนอ ไมล์โมราเรส ซึ่งเป็นสไปเดอร์แมนผิวสีอยู่แล้ว
และบาร์บี้ ลอง woke แค่เอา ผญ ผิวสีมาเล่นนำสิครับ ผมก็ว่าเละ
ทั้งคลิปเกือบดี แต่พลาดตรงประเด็นสไปเดอร์แมนผิวสี คือ"ไมล์ โมราเลส" มีแต่เดิมตั้งแต่ในคอมมิคก่อนจะมาสร้างเป็นหนังแล้วครับ ถ้าสไปเดอร์แมนจะwoke ก็ต้องเปลี่ยน " ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ " เป็นผิวสีสิครับ
ลามมาวงการเกมละ เละเทะละตอนนี้
โทษพวกพรรคการเมือง Democrat เลยครับ
ถ้า woke แล้วเนื้อเรื่องดีก็เล่นนะ
@@badlotusxoดีไม่ดีไม่ใช่ประเด็นหรอก ไม่ดีก็เจ๊ง แต่ประเด็นคือ Woke แล้วมาพาลฟาดงวงฟาดงากับคนอื่นๆค่านิยมต่างกับที่พวก Woke ต่างหาก
WOKE มันเอา STAR WARS ของชั้นไปทำเป็นหนังอะไรก็ไม่รู้
frozen น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นเพราะมันประสบความสำเร็จมาก เป็นจุดเปลี่ยนของนิทานเจ้าหญิงของดิสนี่ย์ เสียงชมทำให้ดิสนี่ย์หลงทาง เค้าก็พยายามยัดทุกอย่างให้เข้ากับสมัย จนดูฝืนทำพอมากเข้าคนก็เริ่มอึดอัด แต่ถ้าเล่าใหม่แบบ คูเอล่า มันสนุกและแปลกใหม่คนดูก็ไม่ได้บ่นอะไร
ในประเด็นเรื่องตัวละครสมบูรณ์เกินไปนี่มันไม่ใช่แค่หนัง woke แต่มันเป็นปัญหาที่ลามไปในงานสร้างสรรค์ในยุคนี้เกือบทุกวงการเลยครับ ทั้งการ์ตูนญี่ปุ่น จีน เกาหลี ตัวละครแนวเก่งโดดจากทุกตัวละคร ไร้จุดอ่อน(หรือมีแค่เพื่อกันโดนด่า/ให้ตัวละครน่าเอ็นดู) เต็มไปหมดเลย
คือมันเป็นปัญหาที่มือสมัครเล่นเจอกันเป็นปกติ แต่เรากลับเจอปัญหานี้ในเรื่องที่ตีพิมพ์มากขึ้นเฉยเลย
เมสเซจบาร์บี้ มันออกมาแบบน้ำไหลไฟดับมาก ตอนดูในโรงก็คือนั่งร้องไห้ืไปเยอะเลย หลักๆคือ บาร์บี้มันไม่ได้เพอร์เฟค แล้วทุกอย่างมันก็สื่อออกมาดี แต่มู่หลาน ลิตเติ้ลเมอร์เมด กัปตันมาร์เวล ไม่ได้ให้อะไรแบบนั้น มันเลยไม่สนุกแถมน่าเบื่อ ขอบคุณที่มาแจกแจงให้ฟัง เห็นด้วยทุกประการค่ะ
เอา ตัวละครเดิม มายัดWoke
แทนที่จะ สร้าง ตัวละครใหม่ๆ
มันจึงเกิดการ เปรียบเทียบ ไง
แค่เริ่ม ก็ผิดแล้ว
ผู้หญิง - คนผิวสี - เอเชีย
กำลังกลายเป็นผู้มีกำลังซื้อ
การจะทำหนังเพื่อเอาใจคนเหล่านี้
สปอนเซอร์ชอบ แต่ จะเอามาใส่แล้วหนังจะ อร่อยรึเปล่า ก็ อยู่ที่ ผู้กำกับครับ
คลิปดีทุกคลิปเลยครับ อยากให้ทำเเบบนี้ต่อไปนะครับ
พวกหนังภาคต่อมันจะมี สิ่งที่ชอบทำคือเอาตัวละครเก่าๆที่เรารักมาปู้ยี่ปู้ยำให้เป็นคนแก่ที่ทำอะไรไม่เป็นใส่ผญเก่งๆมาคนนึง ถามหน่อยทำไปเพื่อ ตัวละครใหม่เราก็ไม่ผูกพันตัวละครเก่าก็ทำมาง่อย คิดว่าแฟนหนังจะชอบหรอ
อยากให้มี woke กับหนังแนวอื่นบ้าง อย่างคิงคองxก๊อตซิลล่า ทำไมล่ะครับคิงคิงต้อง base on ลิงสายพันธุ์กลอลิล่าด้วย ทำไมลิงกังลิงแสมไม่ได้แสงกับเค้าบ้าง ถ้าพล๊อตมันดีคนดูก็สนุกแค่นั้น ลิงกังตูดแดงๆตัวใหญ่ๆกัดกับก๊อตซิลล่าที่เหมือนวรนุช กัดกันแย่งถุงแกงปนเปื้อนรังสีไรงี้
ที่คุณพูดมาก็น่าคิด คิดไปคิดมาข้าวพุ่งเลย55555
พูดไปเรื่อยอะครับ เปลี่ยนสไปเดอร์แมนเป็นคนดำอะไร ไมล์ มอราเลสเป็นคนผิวสีอยู่แล้วครับตั้งแต่วันแรกที่comicออก ไอสไปเดอร์แมนคนขาวมันคือปีเตอร์
ไปใหญ่แล้ว
จริง จขคพูดได้มั่วมาก
ไมโมราเรสเป็นคนดำอยู่แล้วป่ะ ไม่ใช่เปลี่ยนปีเตอร์ปาร์คเกอร์เป้นคนดำ เจ้าของช่องนี่โครต Woke เลย
ใช่ เห็นสองสามช่องแล้วที่พูดเรื่องนี้ เอาชอบเอาสไปเดอร์แมนของไมล์ไปเทียบกับเงือกน้อย ทั้งที่บริบทไม่เกี่ยวกันเลย เพราะสไปเดอร์แมนผิวดำ มันเป็นคนดำมาตั้งแต่ต้นฉบับแล้ว แตถ้าเมื่อไหร่เขาเปลี่ยนปีเตอร์ ปาร์เกอร์เป็นคนผิดดำนี่สิ โดนด่ายับพอกับเงือกน้อยแน่
@@shot4shii ต่างครับ เปลี่ยนเชื้อชาติตัวละครกับสร้างตัวละครขึ้นมาใหม่มันเหมือนกันตรงไหน ก็เค้าอยากสร้างตัวละครผิวสีมันผิดอะไร มันworkหรือยัดเยียดตรงไหน หรือทั้งโลกต้องเป็นคนขาวถึงจะไม่ worke
@@CROW-uy9zv ผมก็งงเหมือนกัน ทำข้อมูลผิดกันหลายช่องมาก หนังมันก็ออกตั้งนานละไม่รู้จักหาข้อมูลก่อนหรือยังไง ช่องที่เค้าแก้ข่าวก็มีตั้งเยอะไม่ดู
ผมเป็นคนนึงเลยที่ชอบจนเข้าขั้นคลั่ง strong women อย่างมาเรีย ฮิล แต่พอได้ฟังแนวคิดของกลุ่มแนวนี้คือแบบ “ไม่ นั่นไม่เรียก หญิงแกร่ง ผู้หญิงแกร่งเขาไม่มาคิดอะไรบ้าๆแบบนี้ พวกแกมันเพ้อเจ้อ คนเราไม่มีทางสมบูรณ์ได้โดยไม่เสียอะไรไป ” แล้วทุกวันนี้ก็กลายเป็นพวกเหยียดไป😂😂😂😂
สื่อออกมาได้ชัดเจนมากเลยครับ
Storytelling ได้ดีและตรงประเด็นมากๆคคับ โดยเฉพาะประเด็นที่ค่ายยัดเยียดเนื้อหาที่แทบจะไม่รู้สึกเลยว่าเขาจะแคร์ว่าตัวละครจะมีความ related กับผู้ชมรึเปล่า และประเด็น empower คนกลุ่มต่างๆที่ดิสนี่ย์ดูพยายามจนล้นเกินและสุดท้ายกลับกลายเป็นผลกระทบด้านลบไปซะงั้น
หาความเท่าเทียมหรือหาแสง(ในภาพยนตร์)ดูแล้วน่าเบื่อมากรู้สึกเสียดายตังที่ไปดู(ยกเว้นสไปดี้กับบาบี้ที่ดูไม่ยัดเหยียดเกินไปดูแล้วสนุก)
ง่ายๆครับ นโยบาย DEI ของดิสนีย์กลับมาทำร้ายตัวดิสนีย์เอง
Invincibleผมดูจบ2SSแล้ว เลยไปลองหาแบบคอมมิคดูรายละเอียด ทำให้ผมสงสัยว่าทำไมเปลี่ยนสีผิวตัวละคร
1.แฟนพระเอกจากเป็นคนขาวผมบลอนด์ กลายเป็นคนดำ
2.แม่พระเอกจากเป็นคนดำ เปลี่ยนเป็นคนเอเชีย
ผมไม่เข้าใจ ว่าเขาจะเปลี่ยนทำไมในเมื่อตัวละคร เอเชีย,คนดำ หรือคนขาวมีในคอมมิคอยู่แล้ว
วิเครห์ออกมาได้ดีมากครับ
อยากให้พี่ทำ ปัญหาของละครโทรทัศน์ไทยค่ะ
Clip โคตรดี จริง ได้ความรู้
ค่าย Disney นี่รวยมากจนพยายามสร้างคอนเทนต์เน้นปริมาณมากเกินไปในยุคหลัง พยายามที่จะผลักดันค่านิยม Woke แต่กลับผิดที่ผิดทาง จนคนเริ่มเกลียดอะไรแนวนี้ ต้องขอบคุณ Spiderverse และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ Barbie ที่ทำให้หนังสื่อถึงการตื่นรู้ที่ถูกต้องที่หนังควรนำเสนอ
จริงๆตลอดสิบปี เค้าก็ทำกันมาตลอด ตื่นรู้กันมานานแล้ว ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ทำไมพวก Woke คิดว่าเป็นเรื่องใหม่ ตลอดที่ผ่านมาที่เค้าทำกันมาตลอดโดยที่ไม่ต้องเรียกร้องอะไร มันไร้ค่าเลยเหรอ
ปัญหาความ Woke เกิดจากคนกลุ่มWokeที่ไม่ยอมรับความหลากหลายจริงเหมือยอย่างที่พูดพยายามยัดเยียดรสนิยมผิดปรกติให้คนปรกติ มันก็เลยเป็นปัญหา
Woke ได้ไม่ผิดแต่ต้องทำยังไงให้ดูสนุกก็ควรให้ความสำคัญกับบทภาพยนตร์ ไม่ใช่แค่ให้ความสนใจเกี่ยวกับWokeมากเกินไป
บทหนัง/ซีรีส์=50%และwoke=50%
🤔😎🤓😌😀😃
บทหนัง/ซีรีส์=20%และwoke=80%
🤔🤦😒🙄
ถ้าเรื่องไอเดีย woke มาใช้แล้วปังต้องยกให้บาร์บี้ยืนหนึ่ง มันเป็นหนังเรื่องนึงที่ดูจบแล้วร้องไห้ แม่ก็พูดว่าถ้ามันทำร้ายจิตใจมากนักก็ไม่ต้องไปดูมัน แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่าเราไม่ได้ร้องไห้เพราะเราเศร้า แต่เราร้องไห้เพราะทุกอย่างที่เราเก็บกดในใจมาทั้งชีวิต เราพูดไม่ได้ แต่บาร์บี้พูดให้หมดแล้ว เราไม่รู้จะมีใครเข้าใจไหม แต่มันยากมากจริงๆที่จะเข้าใจว่าทำไมเราถึงร้องไห้หลังจากดูบาร์บี้จบ
วิเคราะห์ได้ตรงใจมากเลยค่ะ woke เป็นสิ่งที่ดีคือมันนำเสนอแง่มุมของกลุ่มที่โดนกดทับทั้งจากสังคม ค่านิยม หรือเชื้อชาติ สร้างทั้งความตระหนักและทำให้หนังมีมิติ
แต่ปัญหาส่วนใหญ่ที่เจอคือวิธีการที่ผู้สร้างนำเสนอ แนวทางที่ d*sn*y พยายามใส่เข้ามามันใส่เข้ามาแบบไม่ได้เข้าใจหรือใส่ใจอะไรเลย คนเลยดูแล้วรู้สึกว่าหนังมันยัดเยียด หนังที่ทำหลังๆมาก็น่าเบื่อ แล้วก็มาโทษเพราะความ woke ถึงทำให้หนังไม่สนุกยังงัยล่ะ! ไม่ใช่แค่วงการหนังนะ วงการเกมก็ด้วยอะ ทั้งที่จริงแล้วเรื่องอื่นๆ เกมอื่นๆมัน woke กันมาตั้งนานคือจะทำให้ดีมันก็ทำได้แต่แค่ไม่ทำ ไม่ใส่ใจแค่นั้นเลย
Woke เป็นเรื่องที่ดีครับ ที่องค์กรใหญ่ๆ ตื่นรู้และให้ความสำคัญการความแตกต่างหลากหลายในมนุษย์ แต่บางอันมันยัดเยียดเข้าไปเฉยๆ หาแก่นสารหาเหตุผลและหาประเด็นใหม่ไม่ได้ แค่ใส่ความหลากหลายเข้าไปหวังจะเป็นกระบอกเสียงแต่ดันแป๊ก เพราะแค่ใส่เข้ามา ไม่ได้คิดเหตุผล ตรรกะไว้รองรับ
ง่ายๆเลยนะ เรื่องว่าทำไม Spider-Man: Across the Spider-Verse (2023) กับ The Little Mermaid (2023) ได้รับ feedback ที่ต่างกันสุดขั้ว ในการฉายช่วงเวลาใกล้ๆกัน
เป็นเพราะ เรื่องนึงเค้า respect ตัวละครต้นฉบับเดิม ที่เป็นตัวละครในดวงใจใครหลายๆคน คือ Spider-Man (Peter Parker) โดยการที่ไม่เปลี่ยน story เดิมของ Peter Parker แถมยังนำมาส่งเสริม story ของ Spider-Man คนใหม่คือ Miles Morales อีกด้วย ทำให้กลุ่มคนที่ชอบ Spider-Man (Peter Parker) เดิม ก็สามารถเข้าถึงหรือยอมรับกับการมี Spider-Man (Miles Morales) ได้ รวมถึงยังเป็นการสร้างกลุ่ม fanbase ใหม่ที่อาจจะชอบ Spider-Man คนใหม่นี้มากกว่าก็ได้
ในขณะที่ The Little Mermaid นี่ ทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม คือเอาตัวละคร No.1 Disney princess ในดวงใจของใครหลายๆคน คือ Ariel มาเปลี่ยน appearance จากหน้ามือเป็นหลังมือ จากที่เป็นสาวสวยผมแดงสลวย ตัวเล็ก น่ารัก มาเป็น สาวผิวสี ผม dreadlocks น่าตาไม่ค่อยชวนให้อิน แล้วยังตีแสกหน้าบอก fanbase เป็นนัยๆว่าถ้าไม่ยอบรับ Ariel คนใหม่นี้ แสดงว่าเหยียดสีผิว (racist) รวมไปถึง การให้สัมภาษณ์ของนักแสดงที่มั่นสุดๆ ในการ represent Ariel คนผิวสี ทำแบบนี้มันก็ไม่แปลกที่จะโดนด่า fanbase เดิมเค้าก็รัก Ariel เดิมของเค้า มาทำลายภาพจำดีๆไปหมด
ผมเองก็เป็น 1 ในคนที่ชื่นชอบตัวละคร Ariel ฉบับต้นฉบับมาก อยากจะบอกจากใจถึง Disney เลยนะ ทำไว้ดูเองเถอะครับ
สำหรับผมการ woke ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย เป็นเรื่องที่ดีด้วยซ้ำ หนังดีหรือไม่ดีมันอยู่ที่บท หารกำกับการแสดง แต่ก็เข้าใจครับว่าการทีสังคมจะก้าวหน้า มันก็มักจะมีแรงต้านอยู่เสมอ พวกแอนตี้ก็แค่ไม่ชอบเห็นความเปลี่ยนแปลงแค่นั้นเอง
การที่สร้างตัวละครที่เรียกว่า Strong and perfect female ขึ้นมามันไม่ดีเพราะจะทำให้ตัวละครหญิงประเภทนี้จะไม่มีการพัฒนาตัวเองเพื่อที้จะก้าวผ่านปัญหาที่เจอเลยเลยเพราะเขาเก่งทุกอย่างบนโลกนี้มันไม่มีหรอกคนที่ Perfect ทุกอย่างแบบนั้นทุกคนล้วนมีข้อดีข้อเสียกันหมดไม่ว่าใครก็ตาม
ความต่างกันของทั้งสองเรื่องคือ สไปเดอร์แมนมันคือตัวไมล์โมราเลสมันเป็นคนละคนกับปีเตอร์ปาร์คเกอร์มันก็เลยไม่มีปัญหา แต่ลิตเติ้ลเมอร์เมดมันคือแค่เอาคนดำมาแทนที่ตัวละครเก่าไปเลยนี่แหละ แต่ปัญหาใหญ่มันอยู่ที่คนเขียนบทนั่นแหละ
ทำไมถึงไม่สร้างเนื้อเรื่องใหม่ อันนี้ผมพอเดาได้ครับ คือเขาไม่ได้มีไอเดียอะไร แล้วเขาก็แบกชื่อเสียงเดิมของหนังเรื่องนั้นอยู่ สิ่งที่เขาทำมันง่ายกว่าถ้าจะดึงคนที่เคยชอบแอเรียลมาดูแล้วยัดเยียดสิ่งที่ตัวเองอยากสื่อเข้าไปเลย
โว้ก เป็นเรื่องดี แต่คนที่นำไปใช้กลับใส่อัตตาหรือความเป็นตัวตนของตนเข้าไป โว้กจึงกลายเป็นสิ่งไม่ดีในสายตาคนทั่วไป หนังโว้กที่ดีก็มี เช่น บาบี้ หนังโว้กเต็มขั้นเลย แต่นำเสนอได้ดี ไม่รู้สึกยัดเยียด ต่างจากหลายเรื่องที่ ยัดเยียดอัตตาของผู้สร้างและทีมลงไป จนเลอะเทอะ
ตอนนี้ผมว่าปัญหาของ Woke คือผิดที่ผิดทาง Woke แบบฝืนๆ การจะฝืนเปลี่ยนบทหนังโดยฝืนความ Woke ลงไป มันเลยดูไม่ใช่ แต่ถ้าแต่งขึ้นใหม่เพื่อ Woke มันดีกว่า
คือเราดูหนัง ดูละคร ดูการ์ตูน เราต้องการแค่ความสนุกมั้ยครับ
ไมส์ โมลาเลส มันเป็นตัวละครหลักจากจักรวาลอัลติเมทโดนแมงมุมตัวเดียวกับปีเตอร์ตัวละครมันปูมาเป็นคนดำแต่แอร์เรียลมันยัดเยียดถ้ามันเป็นตัวละครมันผิวสีตั้งแต่แรกก็ว่าไปอย่าง
จริงๆเรื่องคนดำสาวเก่งนะมันมีมานานแล้ว และในอดีตเรื่องที่มันดีนะมีเยอะด้วย หณิงแกร่งในเรื่งสมัยเก่าชัดที่สุดคืออาธีน่า เทพสาวสุดโกงที่ไม่เคยแพ้ใครเลย โวปนะเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำที่สุด และสไปเดอร์คนดำไม่โวป ผมต้องบอกเลยการตระหนักรู้นะไม่มีค่าอะไรเลย ยิ่งทำยิ่งแย่ยิ่งดันมันยิ่งทำไห้คนดำสาวแกร่งและเพศทางเลือก ได้แสงที่ไม่ควรจะได้มากจนมันแย่ สิ่งที่ควรทำคือไห้เกียรติกันแค่นั้นก็พอ อยากทำหนังหณิงเด่นก็ทำบาร์บี้ก็ทำมาแล้ว อยากทำหนังคนดำสไปดี้คนดำทีชาล่าก็ทำมาแล้ว แค่ทำไห้มันตรงบริบทของเรื่อง แต่บอกหนังชายเป็นใหณ่แต่โวปสร้างหนังไห้หณิงเก่งโดยไม่ที่มาที่ไป ก็จะเก่งจะทำใมเราดูหนังบ้าพลังอย่างก็อตซิล่า ตัวที่ถือว่าโคตรเก่งยังมีอุปสรรไม่ได้ชนะได้ง่ายๆ แต่โวปไม่ไส่อุปสรรอะไรเลยทุกอย่างง่ายไปหมด อย่างเงือกดำจุดไคลแม็กขับเรือฝ่าพายุปะทะตัวร้าย เงือกดำที่ขึ้นเรือครังแรกกลับสวมวิญญานวินดีเซล ขับเรือที่จับเป็นครังแรกฝ่าพายุที่ต่อไห้กับตันที่ขับเรือมาสิบปีก็ทำไม่ได้ทำได้เฉย
- 5:13 ขอแซะหน่อยครับ คนทำหนังคงเห็นว่ากระแสอนิเมะพระเอก นางเอกเทพมันบูมมั้ง มากี่เรื่องก็ขายได้ เลยสร้างหนังที่ตัวเอก เก่งเจ๋ง แก้ปัญหาได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องคิดหรือผ่านการฝึกฝนแต่อย่างใด -พอไล่อ่านคอมเม้นท์ก็จะแบบเมื่อไร่จะสู้กัน ท่าน...เก่งจังเลย แบบไม่สนว่าเรื่องปูมายังไงดำเนินเรื่องแบบไหน สิ่งที่ทำจะเกิดผลอย่างไร เลยเอาสถิติตรงนี้มาสร้างหนังมั้ง ว่าตรรกะป่วยแค่ไหนไม่สน แค่ตัวเอกเทพก็แบกได้ 😁😂(หยอกๆนะพี่)
@@shot4shii ตัวเอกในหนังทำตัวเหมือนพระเอกโชเน็นก็มีเยอะ แล้วแต่เรื่องบางตัวก็น่ารำคาญ เลยวัดความสำเร็จไม่ได้ แต่ถึงจะไม่ได้ชอบหรือดูโชเน็นหรือแนวตัวเอกเทพ แต่ก็หวังว่าจะไม่ไปล่อตีนใครเข้านะครับ55😁
สำหรับผมผมชอบบาร์บี้นะมันก็อาจจะวกจริงแต่ว่ามันเป็นวกที่สนุกส่วน little mermaid ไปไกลไกลไกล
กระแสมันตรงข้ามเลยมากกว่า ยิ่งทำให้มันเกินไป มันยิ่งทำให้เกิดผลลบ มีเด็กผู้หญิงผิวสี โดนเพื่อนบูลลี่เพราะ เพื่อนในห้องเป็นแฟนคลับของ little mermaid มันก็เป็นการทำร้ายคนผิวสีไปในทางอ้อม
งั้นขอถามในฐานะเป็นผู้ชายหน่อยนะ หลังจากนี้ผู้ชายจะต้องง้อผู้หญิงอย่างเดียวต้องทำตามพรุ่งนี้อย่างเดียวผู้ชายไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจอะไรทั้งสิ้นเพราะว่ามันจะไม่เท่าเทียมหรือยังไง? ถ้าผู้หญิงเก่งหมดงั้นไม่จำเป็นต้องมีผู้ชายในหนังก็ได้เนาะ
poor thing woke มั้ย เห็นฉากบาร์บี้คุยกันแล้วเสียงเข้าในหัว ให้พลังแบบน้ำไหลไฟดับ ยอมรับคนพากษ์ไทยเลย😂😂😂
มาแล้วครับ ผมจะรอดูนะ❤😊
ไม่เคยติดเรื่อง ผญ หรือเพศ3 4 5 6 ผิวจะดำขาวเขียวเหลืองแดงก็ไม่ติด
แต่พักหลังมานี้อะไรที่มันชวน (ห้ะ) ถี่ไปหน่อยถี่จนเลี่ยนอะ เผลอไม่ได้เอะอะจะหญิงจะดำให้ได้เลย
มันทำให้รู้สึกเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้ต้องการความเท่าเทียมแต่ต้องการเหนือกว่าเลยต่างหาก
ส่วนตัวผมไม่ชอบ miles นะแต่ถ้าถามว่าคุณภาพเนื้อเรื่อง ก็ok ดีเยี่ยมตาม มาตราฐานและคามคาดหวัง แต่แค่ไม่ชอบไมลส์เฉยๆ ส่วนตัวมว่าไม่ woke นะเพราะ ต้นกำเนิดมันก็ ผิวดำอยู่ละแม้จะแจ้งเกิดตอน 2010s แต่มันก็ผิวสีนี้มาโดยกำเนิด ไม่ได้ force เปลี่ยน สีผิว แบบ nick fury
ที่ไม่ชอบเพราะตัวไมล์ ไม่ใช่ peter parker (หมายถึงความเกี่ยวข้องด้านชื่อไม่ใช่ตัว peter earth616) มันคือใครไม่รู็ที่ มีพลังแมงมุม แล้วก็จับพลัดจับพลู่ มาจักาล แมงมุมสะงั้นเพียงเพราะทีพลัง แม้จะ มี canon event แต่มันแปลกกว่าชาวบ้านคนอื่นๆเยอะไปอะ เลยดูเหมือนไม่ใช่ spider man แต่เป็นใครไม่รู้ที่มีพลัง แมงมุมมากกว่า
Woke ไม่ผิด ผิดที่ ใช้ยังไงตังหาก
ถ้าอยากจะช่วยจริงๆ ควรทำหนังเเบบ เเบล็คเพนเธอร์ จะช่วยได้มากกว่า ไม่ใช่มาเปลี่ยนสีผิวตัวละคร ที่อยู่มานาน จนมันเป็นภาพจำไปเเล้ว
เเค่มันออกมาเยอะเกิ๊นจนเบื่ออะ เเค่นั้นเองนานๆมีซักเรื่อง2เรื่องแก้เลี่ยนก็พอ
1. มันไม่เกี่ยวกับว่า woke หรือไม่ คนเขียนเนื้อเรื่องออกมากาก แล้วทำให้ woke เสียชื่อ
2. คนไม่เปิดกว้างเรื่อง woke และใช้คำนี้เปลืองมากในทุกเรื่อง
Woke แค่การทำ โฆษณาเจตนา ไม่ได้สงเสนิมความเท่าเทียบ ปัญหาการทำโฆษณา ทำหนัง ทำสื่อ แบบนี้จะสร้างความเกียจชั่ง ต่อสังคม ก็แค่นั้น
ฝ่าบาทในแบล็คแพนเตอร์คือเท่และทรงพลังมาก ทำไมชาว woke ไม่สร้างตำนานของตัวเอง
เอาจริงนะ แค่อยากดูหนังที่สมัยเด็กๆได้มาดู ไม่ใช่มาดัดแปรงให้มันกลายเป็นแบบนี้ wokeดีๆก็มีแต่ดีสนีสคือไม่ได้เลย สื่อให้ผู้ชมไม่ได้เลย
เอเรียลเปลี่ยนเป็นผิวดำ ผมว่ามันมีอะไรลึกซึ้งนะ เพราะยุคนี้โลกร้อน ค่าดัชนี UV สูงขึ้นมาก ผิวเลยดำ เขารณรงค์เรื่องลดโลกร้อน 😅
The batman ก็จัดการเรื่องนี้ได้ดีครับ เปลี่ยนหลายอย่างไม่ขัด
ทำไมคลิปนี้เสียงพูดแปลกๆฟังไม่ค่อยชัดเลยฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเลยครับ ไม่สบายหรือเปล่าครับ 😢
ช่วงนี้ผมดูหนัง นางเอกเป็นคนดำซะส่วนใหญ่ ดูจนจะเอือมแล้วครับ
หนังหญิงแกร่งที่ ไม่ยัดเยียด ไม่ Woke ผมขอยกให้เฟรนไชส์ Alien
อยากให้ แอด เอา ครีโอพัตรา ฉบับ เน็ตฟริก มาทำหน่อยครับ
คือมันไม่เข้าอะ มันไม่คือ มันไม่ได้ จริงๆ มันเหมือนการยัดเหยียดจริงๆ เหมือนพยายามเจาะตลาดของคนอีกกลุ่ม แต่มองข้ามคนอีกกลุ่ม
ซีรี่ย์ที่ดูแล้วรู้สึกไม่ยัดเยียด ตอนนี้ยกให้ house of dragon ทั้งประเด็นเรื่องเพศ ผู้หญิง เพศที่สาม ผิวดำ ครบจบในเรื่อง แต่กลมกล่อม
อยากนำเสนอความ woke ออกมาเเต่มือไม่ถึง + ขี้เกียจ ก็ได้เท่านั้นละ เจ๊งไปจ้า
ปัญหาคือการทำหนังแบบส่งๆของพวกwoke
เดี๋ยวนี้หนังที่มีกลุ่มเพื่อน จะสังเกตได้ว่ามาแทบจะครบทุกเชื้อชาติทุกเพศสภาพ และมักจะมีตัวละครสาวฮอตเป็นตัวร้ายๆแรงๆ
ได้ยินว่าอิทธิพลของกลุ่ม Woke นี่ ถึงขนาดรัฐบาลสหรัฐยังต้องเกรงใจ
คงความออริจินอลไว้จบ เนิ้อเรื่อง เรื่องราวๆของหนังนั้นๆเป็นมายังไง ตัวละครลักษณะไหนก็แคสให้ตรงกับลักษณะนั้น มันก็จบ แต่นี่ยัดเยียดจังเพื่อ ?
ไมล์ ผมว่าเขาทำมาถูกต้องแล้วครับ ไม่รู้สึก woke นะ เพราะเขามีตัวตนอยู่ตามแต่ในcomicอยู่แล้ว
นางเงือกงี้ผมนึกว่าผีพรายเผ่นก่อนละ มีปืนก็ลั่นใส่ก่อนเลย😂😂
Kick ass คือหนังที่ตอบโจทย์สำหรับทั้งชายแท้ตลกโปกฮาและwoke
สไปเดอร์แมนชูศรีมันมีอยู่แล้วในคอมมิค
1)มันไม่เกี่ยวว่า Woke หรือไม่ Woke เพราะต่อให้เป็นหนังแนว(Genre)ถูกใจมหาชน ไม่ถูกใจ woke ถ้าคุณภาพแย่ ก็คือแย่ครับ แถมหนังก็แฟนตาซีอยู่แล้ว ต่อให้ตัวละครกลายเป็น woke ก็ไม่แปลก จะหาว่าเขายัดเยียดก็ไม่ได้เพราะเขาไม่ได้บังคับให้คนดูทุกช่องทีวีทุกวันศุกร์ เวลา 6 โมงเย็นสักหน่อย สิ่งที่ควรติจริงๆคือ ผู้สร้างหนังไม่แสดงจุดยืนอย่างเหมาะสมเมื่อโดนวิจารณ์ครับ
2)ถ้าเป็นหนังอิงประวัติศาสตร์แล้วใส่ความ woke หรือสื่อไปทางเอียงเอนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยไม่ศึกษาเสียก่อน อันนี้ผมเข้าใจได้ เพราะต้องเคารพความถูกต้องของเหตุการณ์ประวัติศาสตร์จริง
สรุป หนังไม่ได้แย่เพราะ woke มันแย่เพราะคุณภาพหนังและการแสดงจุดยืนของคนสร้างหนังเมื่อโดนวิจารณ์เท่านี้เองครับ
ครับ ไม่ได้ยัดเยียดเลย ถ้าทีมสร้างมันโว้คมาแต่เริ่ม มันมีเหรอที่จะไม่ทำหนังสนองนีดตัวเองออกมา ดูอย่าง Star war ทุกวันนี้เอานะครับ โว้คมาตั้งแต่หัวยันหาง.
@@paparouzคุณไม่ได้โดนยัดเยียดหรอกครับ เพราะอย่างน้อยคุณสามารถดู/สนับสนุนหนังเรื่องอื่นที่ดีกว่า Star War ได้โดยไม่ถูกบังคับ และดิสนีย์เป็นแค่บริษัทเอกชน ไม่ใช่หน่วยงานรัฐที่ผูกขาดวงการสื่อ ตราบใดที่ดิสนีย์ยังไม่มีการกระทำที่มีลักษณะผูกขาดวงการภาพยนต์เพราะมีคู่แข่งจากค่ายอื่นๆที่พร้อมชิงตลาดได้ หรือถ้ามีการผูกขาด ก็โดนกฎหมายสหรัฐเล่นงานเหมือนกัน
@@paparouz แหงอยู่แล้วครับ ทำหนังเอาใจเฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นเรื่องปกติครับ พบได้ทุกแนวไม่จำเป็นต้องเป็นแนว Woke เสมอไปครับ แต่คุณไม่ได้โดนยัดเยียดหรอกครับ เพราะคุณก็สามารถไม่สนับสนุน/ไม่ดูหนัง Star Wars ได้โดยไม่โดนถูกบังคับ แถมมีหนังอีกหลายเรื่องที่แนวคล้าย Star Wars ที่ไม่ Woke และสนุกกว่าให้เลือกดูได้ครับ
@@eighteendollars7205 สรุปคือจะทำออกมายังไงก็ได้ ไม่ต้องคิดถึงความรู้สึกของแฟนหนัง ที่ดูกันมาเป็นสิบๆ ปี เพียงเพื่อสนองนี้ดลัทธิการเมืองห่วยๆของตัวเอง อยากมีพื้นที่ของตัวเองจนต้องมาเบียดบังพื้นที่คนอื่นจนเละเทะ แบบนี้ก็ได้ใช่มั้ยครับ ความดีของไอ้พวก Woke
ถ้าจะคิดตรรกะแบบนี้ รายการหลัง 6 โมงเย็นวันศุกร์ไม่ต้องดูก็ได้ ไม่ได้ยัดเยียดเหมือนกัน.
Woke Disney 😂😂😂😂
รอดูสโนว์ไวท์ผิวสี ...
ก้ยังไม่เข้าใจ ว่า มันคืออะไร
การที่มีคนดำ มันจะไม่ผิดเลยเว้ย ถ้าไม่ทะลึ่งเปลี่ยนสีผิวจากต้นฉบับ ลองทำหนังโอบาม่า หรือ มาตินลูเธอคิงเป็นคนขาวดูสิ พวกคนดำมันก็รับไม่ได้เหมือนกันนั่นแหละ 😅
ไม่มีเหตุผลใดๆที่ แอเรียลต้องเป็นคนดำเล่น