งาน "ลอยกระทง" เพิ่งแพร่กระจายหลัง พ.ศ.2492? : ขรรค์ชัย-สุจิตต์ ทอดน่องท่องเที่ยว
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 25 พ.ย. 2023
- ย้อนชมรายการเก่าเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 "ลอยกระทง" ประเพณีประดิษฐ์ที่เริ่มแพร่หลายสมัยกรุงเทพฯ
เดินทางทอดน่องท่องเที่ยวเพื่อศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์-โบราณคดี-วัฒนธรรมของสังคมไทย ไปกับ 2 กุมารสยาม "ขรรค์ชัย บุนปาน - สุจิตต์ วงษ์เทศ"
#ขรรค์ชัยสุจิตต์ #ทอดน่องท่องเที่ยว #ลอยกระทง
Facebook : / khanchaisujit
ท่านสุจิตต์พูดตรงประเด็นเสมอ...จึงมักจะไปขัดลาบขัดก้อยของใครหลายๆคนอยู่เสมอ__ขอให้สุขภาพแข็งแรงอยู่เปลี่ยนแปลงสิ่งไม่ถูกต้องไปนานๆๆๆๆๆๆ
คนไทย ( สยาม ) เขาลอยกระทงกันมา ตั้งแต่เมืองศรีเทพแล้ว 😂😂 ลอยในคลองคูเมือง บูชา ผี บรรพชน ในวันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำนองเต็มสองตลิ่ง 🤣🤣🤣🤣🤣
( หลักฐานในหลุมฝังศพ นั่นไง เขาใช้หม้อภาชนะดินเผาในการลอย )
เขมรรร สาวก
เอาจริงๆคนไทยส่วนใหญ่ไม่เคยสนใจเรื่องวัฒนธรรมทุกอย่างที่เกิดขึ้นในไทยจริงๆหรอกครับที่สนใจมีแค่นักท่องเที่ยวผมอายุ40ลอยกระทงแค่2ครั้งเล่นสงกรานแค่ครั้งเดียววัด สไบ ปราสาท รำ บ่าบอไรไม่เคยสนใจเลย คนไทยส่วนใหญ่แค่ทำตามที่เค้าทำตามๆกันมาแค่นั้นแหละ 5555
@@unixGaminอย่าเอาแต่คิดเองคนเดียวสิครับ ผมก็เกิด 2526 เหมือนกัน แล้วถ้าคุณไมสนใจจริง จะรู้เรื่องที่เขมรเคลมไทยทุกเรื่องได้ยังไง ถอดเสื้อผ้าออกให้หมดเหลือแต่หำสิ ถ้าคิดว่ามันคือสิ่งที่ทำตามๆกัน
ผมฟังทั้ง 2 ท่านมานานแล้วครับทำให้รู้ว่า ความจริงของประวัตศาสตร์ของเมืองไทยเป็นเช่นไร
สรุปให้ฟังทีครับอ.ว่าเราเปนใครขโมยเค้ามามั้ยจะได้ยอมเพื่อนบ้านแล้วหลังจากนี้อ.จะปฎิบัติตัวแบบไหนพรุ่งนี้ผมจะได้ไปไหว้ลูกน้องเขมร
สุดยอดเลย อยากให้ประเทศเรามีนักวิชาการแบบนี้หลายๆ คนเนอะ สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิฯ
สันนิษฐานดึครับ ติดตามฟัง ตลอดครับ ทำต่อไปครับ แม้จะมีคนไม่ชอบ แต่เราชอบเพราะ มีมุมมองที่แปลกใหม่
ผมรู้สึกโล้งใจที่รู้ว่าวัฒนธรรมไทยทั้งหมดจริงๆไม่มีอะไรเลยเราแค่เอาของคนอื่นมาทำเพื่อการตลาดเท่านั้นผมจะได้ไม่รู้สึกผิดมากที่ไม่เคยสนใจเลยดีแล้วครับ555
สรรชัย ธิวงษา... กล่าวถึงตำนานลอยสะเปา ลอยสะตวง ลอยไฟ ลอยโขมด ของล้านนา เกิดขึ้นในยุคหริภุญไชย เมื่อราว พ.ศ. 1491 ด้วยการจัดดอกไม้ธูปเทียน เครื่องสักการะ เครื่องอุปโภค บริโภค ใส่ลงในสะเปา หรือสะตวง ลอยลงน้ำแม่ปิง แม่กวง แม่ทา ในเดือนยื่เป็ง ให้คนอยู่มีความสุข คนที่ล่วงลับไปสู่ภพภูมที่ดี ความเชื่อนี้ ผ่านยุคสมัย จากภาคเหนือ สู่ภาคกลาง จนกลายเป็นลอยกระทงในที่สุด
ชอบคับรายการนี้
ตาสว่างครับอาจารย์
น.12.51..ตามที่คุณสุจิตต์ นำภาพมาประกอบ ผมคิดว่าน่าจะเป็นพิธีทำขวัญข้าวมากกว่านะครับ
ด่าแกบ่นแกไปหลายคลิป แต่ผมก็ติดตามชอบมานอนฟังแกเล่า ขวางกระแสดี
ลอยกระทง สงกรานต์ ดังไปไกลเพราะความสนุกสนาน อีกที่ไหน ก็ยิ้มไม่ง่าย อาหารอร่อย คนแต่งตัวสวยแต่เรื่องสวยที่ไหนก็มีและเลียนแบบ แต่จะทำได้ ดีหรือไม่ส่วนนทท.มา แบบกันเองเพราะ นิสัย และความกันเองของคนพื้นที่ที่ไม่ต้อง อุปโลกน์ ปั้นแต่ง เป็นการ หลอกลวง แต่ก็มีบ้างที่แสดง หุหุ สรุป เชื่อ แล้วครับว่า ลอยกระทง มีเริ่มสมัยร.3 แต่สรุป การส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่ประสบผลสำเร็จวัน แฮปปี้ วาเลนไทน์ แบบไทยไทย ครับ
การลอยกระทงของชาวไทย น่าจะเลียนแบบประเพณีลอยกระทงของชาวจีนมากกว่าเลียนแบบประเพณีของชาวฮินดู
จากการเผยแพร่ศาสนาฮินดูและพุทธศาสนา ตะเกียงน้ำมักพบเห็นได้ในเทศกาลแบบดั้งเดิมและพิธีกรรมบูชายัญในพื้นที่ซึ่งมีการนับถือศาสนาฮินดูและพุทธศาสนาเถรวาทในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ศาสนาพุทธของจีนซึ่งได้รับความนิยมในเอเชียตะวันออกยังได้สืบทอดโคมไฟน้ำของชาวพุทธและผสมผสานเข้ากับความเชื่อในท้องถิ่นด้วย
ขอบคุณค่ะ อ.ทั้งสองดูแลสุขภาพด้วยนะคะ
รู้ดีไปหมดแสนรู้จริงนะ
จอง แปลว่า ผูก,มัด ส่วนคำว่า เปรียง ภาษาเขมรปัจจุบันออกเสียงว่า เปรง แปลว่า น้ำมัน ครับ
ลอยกระมงอิวานก็คือไหลเรือไฟนั่นเองจุด
ประสงค์คือดารขอขมาแม่นำ้ไม่เฉะาะแม่นำ้รวมสิ่งของต่างๆด้วยที่ใช้ประโยขน์เช่น บันได ขัว คีไฟก้อนเส้า ปักตูเข้าบริเวณซึ่งจะมีคำบูชาเฉพาะอย่างไปตามแบบอิสาน
เกี่ยวข้าวก่อนเกี่ยวกับมรสุมน้อย ขึ้นอยู่กับ สมัยก่อนข้าวพื้นเมืองไวแสง เข้าหน้าหนาว แสงกลางวันสั้น เลยออกรวงเร็ว สุกก่อน สมัยนี้ส่วนมากมีข้าวผสมพันธุ์มาไม่ให้ไวแสง ระยะออกรวงขึ้นกับระยะเวลา ให้ข้อมูล จะได้ครบด้านนะลุงสุจิต น่าจะเลียนแบบระยะเวลา แบบยึด ป๊ะกะตึ๋น แบบโหราศาสตร์ล้านนาเป็นหลัก
❤❤❤
แล้วที่คนเขมรพยายามเคลมว่าลอยกระทงส่งจากพระนครมาสุโขทัยก็เลอะเทอะไปกันใหญ่สิงานนี้
หมดกัน เฮ้อ งั้นก็เปลี่ยนชื่อเทศกาลเป็น"ลอยประทีป"เถอะครับ
มันคือหัวใจของพิธีกรรม ส่วนรูปแบบกระทงมันแค่เปลือก มันฟรีสไตล์ได้อยู่แล้ว จะได้ไม่ต้องไปแย่งกระดูกกับข้างบ้านทั้งที่เราก็มี
หลักฐานประวัติศาสตร์ชัดเจนมาตั้งนานแล้ว ฝรั่งมังค่าก็เห็นมาหลายร้อยปี
รู้ได้ยังไงครับว่าศาสนาผี มีการลอยเครื่องเซ่นเมื่อ 3พันปีที่แล้ว
ไม่มีลอยเครื่องเซ่น มีแค่ทำเครื่องเซ่นไว้ตามใต้ต้นไม้ ทุ่งนา ป่าเขา ไม่มีใครจะไปลอยลงน้ำ. เขาใช้ดอกบัวของมงคล
ก็เห็น มาตั้งแต่ ปู่ย่าตายยาย เขาเรียก ลอยเคราะ (เอาไปทิ้งในป่าหรือที่รกร้าง) สิ่งไม่ดี ออกไป เอาเครื่องเซ่นใส่ เอาดินปั้นรูปคน สัตว์ใส่ 😅😅
ได้ความรู้ใหม่
เห็นภาพครับอาจารย์ ...
ใครไม่ทำเราทำจบ😅สานต่อโบราณ😊ตะวันตกไม่มี😊
ประวัติศาสตร์มันเดา ๆคาดคะเนตามหลักฐานจริง3 เท็จ7ครับ
เห็นหัวนมอาจารย์เลยค่ะ😅 ชอบความรู้ที่ให้นะค่ะ
นะคะ ไม่ใช่ นะค่ะ
อยากรู้ประวัติศาสตร์ไม่ต้องคาดเดาดูมิติพิศวงแจ่มแจ้ง
พื้นถิ่นภาคกลางเป็นดินแดนของมอญโบราณ มอญ-เขมรใช้ภาษาตระกูลออสโตเอเซียติค แล้วกลุ่มคนภาษาตระกูลไทลงมาปะปน สองตระกูลภาษาจึงปะปนกัน ภาษาที่ไม่ใช่คำไทยจึงอาจเป็นภาษามอญเจ้าของแผ่นดินเดิมหรือก็คือคนไทยทุกวันนี้นั่นแหละ ไม่ใช่เขมร
ถูกต้องครับ
6:30
ตามทุกคลิปครับ แต่หลัง ทนฟังไม่ค่อยได้
คำตรงมักขวางหู ยาดีย่อมขม
โนเบลรอมอบ ปัดโถ่
@@user-uz7cz5oe3k ขอบคุณครับที่เตือนสติ
ขอมตัวดํา จะเป็นไทได้ไง ล้านนาและสุโขทัยเรียกไอ้ตัวดําภาคกลางว่าขอม ขอมคือคน
ตระกูลมอญ-เขมร โครตเง้าของคนภาคกลาง คนภาคกลางคือมอญเขมรที่พูดภาษาตระกูลไท
ไทยไม่ควรทะเลาะกับเขมร เรื่อง ประวัติศารตร์ เนื่องจาก รัฐประชาชาติ เช่น ปท. ไทย ปท.เขมร เพิ่งมีมา 200-300 ปี
แต่ปัญหาคือ ชาตินิยม หลัง 2475 สร้างภาพจำใหม่ ที่ทำให้ ไทยต้องทะเลาะกับเพื่อนบ้าน เนื่องจากเข้าใจผิดจากตำราเรียนที่บิดเบือน--ตอนนี้ต้องชำระประวัติศาสตร์และ ตำราเรียนใหม่
มันก็เเอาข้ออความของคนอื่นมาพูดใส่คามคิดของตัวเองกลายเเป็นตัวเองที่ถูกตต้องเพราะไล่จับจุดผิดของคนอื่น ยังไงงเมื่อลอยกระทงมัันดังงเเพราะไทยทํทาแฏิวัติตามยุคสมัยก่อน ย่อมเป็้นผู้นํา เหมือนการกาารสร้างกระทงยักษ์แแห่ตามถนนและลอยนํ้า จนทําตามกันทุกปีเพราะเด็ก โรงเรียนในเชียงทําใหม่ เพราะความสนุก ดดังนั้้นการงมโข่งอ้างโน่นนนี่นั่นแต่่ไร้ซึ่งงการปรับเปลี่ยนไปปตามยุคสมัยยคุณก็จะถูกทิ้งหรือลืมไปเลย เมื่อไทยทําดีแล้วมันมีปัญหาอะไรของแกจิตต์เขมร
รู้มากครับสากกะเบือยันเรือรบ
ประวัติศาตร์ก็เป็นอย่างนี้เเหละชำระใหม่ได้เสมอตามหลักฐานที่พบ เเต่ประเด็นคือทำเเล้วได้อะไร
นี่แหละครับ คือความที่เป็นไป ลอยกระทงพึ่งมีมาในสมัยที่มีกรุงเทพฯ เรากำลังปูและชงเรื่องไห้เขมร
สุดท้ายไทยก็เอาประเพณีนี้มาจากเขมร เพราะเขมรบอกลอยกระทงอยู่ในกำแพงวัด ต่อไปเราก็จะเดาออกได้ว่า
ทุกสิ่ง ทุกอย่าง นั้นมาจากเขมร ในบางครั้งเราก็ไม่จำเป็นต้องบอกว่าเริ่มจากตรงไหน เพียงเราบอกว่า
วัฒนธรรม ประเพณี ศิลปะ ของไทยมาจากเขมร แบบนี้เราก็พอรู้ได้แล้วครับ ถ้าเขมรบอกว่าเขาคืออรยธรรมเริ่มแรกของโลก
เชื่อผมเถอะครับว่า จะมีคนเชื่อ ถ้าคนที่เชื่อนั้นกระทำตนไห้มีอิทธิพล ต่อ สังคม การเมือง การปกครอง ก็ยิ่งทำไห้
ความเชื่อนั้นได้รับความเจริญรุ่งเรืองสืบต่อไป
--ไห้ผมเดาต่อก็น่าจะเดาได้ ว่า สงกรานต์ ก็น่าจะมีมาช่วงอยุธยา แต่ความจริงที่สุดก็คือ บนกำแพงวัดมีสงกรานต์จารึกอยู่
วัฒนธรรมร่วมของคนแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครับ ไม่มีประเทศได้เป้นเจ้าของถ้าจะมีใครมาอ้างก็ให้เขาอ้างไปเราอย่าไปเอาอย่างเขาก็พอ หลายอย่างก็เอามาจากอินเดีย อินเดียไม่เคยมาตราหน้าเลยว่าใครลอกเลียนวัฒนธรรมเขามา
เขมร เอาไปจาก เมืองศรีเทพ จร้าาา
มีหลักฐานอยู่ในหลุมฝังศพ
@@warutpattaragosol1371 ครับอันนั้นเข้าใจครับ แต่เขมรบอกเขาคือต้นฉบับ ต้นแบบ ที่ไทยเอาของเขามา และเราก็กำลังปูทางไห้เขมรว่า สิ่งที่เก่าแก่กว่ากรุงเทพฯ คือนครวัด เมื่อสิ่งไหนที่มีอยู่ในไทยช่วงสถาปนาขึ้นเป็นกรุงเทพฯ สิ่งนั้นย่อมใหม่กว่านครวัด โดยเขาก็ใช้หลักฐานจากตรงนี้ สรุปคือ ทุกศิลปะ ประเพณี วัฒนธรรม เรามาจากเขมรใช่มั้ย เมื่อเป็นเช่นนั้น เรา ผู้นำประเทศ ผู้มีอำนาจ หน้าที่ฟันธงไปเลยว่าทุกอย่างเริ่มจากเขมร เราจะได้ยอมรับและพัฒนามันไปในรูปแบบของเรา เราจะได้ไม่ต้องมาหวงแหน ปกป้อง กับศิลปะ ประเพณี วัฒนธรรม ที่ไม่ใช่ของเรา และเราก็บอกต่างชาติอย่างความภาคภูมิใจไปเลยว่า เหล่านี้ไม่ใช่ของไทย ทั้งหมดมันมาจากเขมร
@@metahiso ครับผมก็เคยเห็นเขาบอกว่า ศรีเทพก็เป็นของเขมรอยู่ครับเพราะมันมีมาอยู่แต่ในยุคนั้นแล้ว เขาในที่นี้ก็คือท่านสุจิตต์นี่แหละครับ ผมก็เลยมองว่าท่านกำลังปูทางแนวความคิดไห้เขมรมีข้อมูลว่า ข้อมูลนั้นก็เอามาจากไทย เพราะสุดท้ายก็จะโยงไปอีกว่า มอญ ก็คือเขมร เมื่อสิ่งไหนเกิดจากมอญ มันก็คือเขมร
@@user-mv1by2fe9i
ออ .. ตรงนี้เคลม ไม่ได้ จ๊ะ
เพราะ เขมร นับเลขฐาน 5
แต่ สยาม ไท นับเลขฐาน 10
ก็เอาหลักฐานตามจารึก หน่วยนับต่าง ๆ ปีปฏิทิน
... ตัดศรีเทพไปได้เลย เคลมมาไม่ถึง แน่นอน
อาจารย์พูดดไม่สู้กำแพง
นึกว่ามาจากผนังเขม555
ความจริงชนะทุกอย่างที่โกหกความพูดได้ทำได้โดยไม่ติดขัด
คลิปเก่าๆรายการนี้ก็เอากำแพงอังกอร์มาอ้างนะ แต่ความจริงเป็นภาพพิธิไหว้ต้นกะเพราของอินเดีย
ผนังนครวัดมันน่าเชื่อถือได้ครับถ้าคนเขมรเข้าไม่ไปเปลี่ยนเเปลงอะไรเเต่ตอนนี้มันไม่น่าเชื่อถือเเล้วครับเพราะคนเขมรเล่นเปลี่ยนแปลงลบข้อความบิดเบียนเป็นว่าเล่น
กระทงเป็นภาษาจีน
รำคาญเสียงแทรกมากๆ😅😅😅
เเบบนี้ วางตามทาง3เเพ่ง ไหว้ผีไร้ญาติ😅ตามสะดวก ไม่เป็นประเพณีเเล้ว
เขาลอยกระทงกันมาตั้งแต่เมืองศรีเทพ แล้ว
ลอยบูชา ผี บรรพชน
ในคูคลองรอบเมืองนั่นแหละ
ดอกบัวคือตัวแทนบูชาพุทธศาสนา ไหว้ผีใช้ดอกอื่นๆ ดั้งนั้นมีจากพิธีพุทธศาสนา ฑรามณ์ฮินดู
@@good1809
ลอยกระทง เขาใส่ เหรียญ 10 บาท ของมีค่าลงไปด้วย จึงเป็นความเชื่อ ผีบรรพชน ที่สืบเนื่องกันมาจนถึงปัจจุบัน
พระ ไม่จับเงิน นะจ๊ะ
ถ้าพุทธแท้ ๆ ตามคำสอน จะไม่ใส่เหรียญในกระทง จร้าาา มันต่างกันหน่อยนึง นะ
สังเกตได้ง่าย ๆ
มีหลักฐานทางโบราณคดีไหมครับ
@@AKN6671
หลักฐาน ก็ ในหลุมฝังศพ นั่น ไง สิ่งของมีค่ามากมายของคนตาย ก็ส่งให้คนตายไปด้วย
ศาสนา ผีบรรพชน จะใส่ของมีค่าเข้าไปด้วยเสมอ
... คนจีน ฝัง ไม่ได้ใส่อะไร
... คริสตจักรฝัง ทิ้งเลย
... อิสลาม ฝังประหนัดพื้นที่
การฝังศพของแต่ละศาสนา ก็ไม่เหมือนกัน นะจ๊ะ
ความหมาย เปลี่ยนไปตามยุคสมัย เพื่อให้ดีงาม
ติดตามครับอาจารย์
ลอยกระทงเริ่มที่กทม.ขอบอกว่า..ไม่จริง..เพราะเกิดมานานแล้ว..ทางเหนือเรียกว่า..ยี่เป็ง..มาตั้งหลายชาติแล้วตามเอกสารหนังสืออักษรพื้นเมือง..ทำไมไม่ศึกษาให้ถ่องแท้ก่อนที่จะเอามาขึ้นหัวข้อแบบนี้..ประเดี๋ยวเขมรตูดดำก็เอาไปอ้างพ่นน้ำลายเหมือนไทยมาจากภูเขาอัลไตอีกล่ะ...เหมือนพึ่งมาขุดพบเมืองศรีเทพนี่ล่ะ..ถ้าพบก่อนหน้าประวัติศาสตร์ก็คงเปลี่ยนไปแล้ว..หลายๆคนข้องใจมาก..
สารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคเหนือ กล่าวไว้ว่า
“…เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นตามแบบประเพณีของกรุงเทพฯ ผู้ที่เริ่มการลอยกระทงในเชียงใหม่เป็นคนแรกน่าจะเป็นพระราชชายา เจ้าดารารัศมีในช่วงประมาณ พ.ศ.2460-2470 โดยจุดเทียนบนกาบมะพร้าวทำเป็นรูปเรือเล็ก หรือรูปหงส์ และใช้ท่อนไม้ปอทำเป็นรูปเรือ แต่ก็ไม่เป็นที่นิยมทั่วไปเพราะชาวล้านนายังนิยมการประดับประทีปโคมไฟตามบ้านเรือน และมักจัด ตั้ง ธัมม์หลวง หรือเทศน์มหาชาติในวัน ‘เพ็ญเดือนยี่’ ตามประเพณีอยู่…”
เชิงอรรถ:
ศรีเลา เกษพรหม. “ลอยกระทง,” สารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคเหนือ เล่ม 11 (ยักขินี-ลี้, อำเภอ). น. 5852.
ยี่เป็งไม่เคยมีลอยอะไรลงน้ำ
มีแต่สร้างประตูป่า เล่นดอกไม้ไฟ ปล่อยโคมลอย
จะไปง่าวภาคเหนือลอยโคมบ่อมีลอยกระทรง จะไปเอาของมอญเขมรมาหยัง
ทางล้านนามีแต่ลอยโกม ลอยกลางวันเรียกว่าลอยโกมควัน ลอยกลางคืนเรียกว่าลอยโกมไฟ มีการจุดบอกไฟดอก มีกาาจุดผางประทีป แต่ไม่มีการลอยกระทง
ที่น่าสนใจคือในรัฐฉานมีประเพณีลอยกระทงที่จังหวัดเมืองยองด้วย คนในท้องถิ่นบอกว่าสืบถามคนเฒ่าคนแก่ได้ความว่าทำมานานมาก น่าจะประมาณร้อยปีที่แล้ว ไม่ใช่วัฒนธรรมใหม่จากเมืองไทยที่เพิ่งแพร่เข้าไป
ผมไม่เคยศรัทธาในการลอยกระทงมาตั้งแต่เด็กแล้วยิ่งโตขึ้นยิ่งเห็นว่ามันเป็นการทำลายแม่น้ำลำคลองแบบสิ้นคิด