ASEAN Weekly: สำรวจค่ายวัดและกลศึกอยุธยา-อังวะคราวเสียกรุงครั้งที่ 2
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 8 พ.ค. 2017
- ในโอกาสครบรอบ 250 ปีปัจฉิมกาลอยุธยา ASEAN Weekly เทปนี้ ดุลยภาค ปรีชารัชช พาชม "วัดแม่นางปลื้ม" พร้อมสำรวจชัยภูมิและกลศึกของกองทัพในสมัยรัฐจารีตทั้งสองฝ่าย โดย "วัดแม่นางปลื้ม" เป็นโบราณสถานแห่งหนึ่งที่มีความสำคัญ ด้วยเป็นหนึ่งในค่ายวัดของพม่าช่วงสงครามเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 มีที่ตั้งอยู่ใกล้กับหัวรอ และอยู่ตรงข้ามกับป้อมมหาไชยในกำแพงพระนคร โดยมีคลองคูเมืองคั่นอยู่ นับเป็นจุดที่แคบที่สุดจุดหนึ่งของแนวป้องกันของอยุธยา
ทั้งนี้ภายหลังศึกพระเจ้าอลองพญาที่สามารถตั้งค่ายประชิดกรุงศรีอยุธยาจากด้านวัดหน้าพระเมรุ ทำให้หลังจากนั้นในสงครามคราวเสียงกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 นักการทหารอยุธยาพยายามแก้ไขไม่ให้ต้องรับศึกแบบประชิดกำแพงพระนคร ด้วยการตั้งค่ายสำคัญบริเวณวัดรอบพระนคร เช่น วัดหน้าพระเมรุ วัดพุทไธสวรรย์ วัดเกาะแก้ว วัดมณฑป วัดพิชัย วัดไชยวัฒนาราม อย่างไรก็ตามเมื่อกองทัพพม่าสามารถขับไล่ทหารอยุธยาจากค่ายวัดได้ ก็เข้ามาตั้งป้อมสวมทับบริเวณค่ายวัดประชิดพระนครทุกด้าน จนกระทั่งเมื่อผ่านฤดูน้ำหลากไปแล้ว ก็มีการใช้กลศึกขุดอุโมงค์เพื่อเข้าประชิดกำแพงก่อนจุดไฟสุมรากกำแพงที่ป้อมมหาไชยบริเวณหัวรอ สามารถเข้าพระนครได้ในที่สุด
สำหรับวัดแม่นางปลื้ม นอกจากตัววัดที่อยู่ในจุดสำคัญทางยุทธศาสตร์แล้ว "หลวงพ่อขาว" ภายในวิหารวัดก็มีพุทธศิลป์โดดเด่น บ้างก็มีผู้เสนอข้อสันนิษฐานแนวประติมานวิทยาว่ามีลักษณะคล้ายพระพุทธรูปพม่า โดยอาจจะสร้างในช่วงที่กองทัพพม่าเข้ามาอยู่บริเวณค่ายวัดเพื่อให้เป็นขวัญกำลังใจ ทั้งนี้ดุลยภาคเสนอว่าปริศนาดังกล่าวจะเป็นกรณีศึกษาที่ส่งผลดีต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ไทย-พม่าในปัจจุบัน หากนักโบราณคดีทั้ง 2 ประเทศเข้ามาร่วมศึกษาค้นคว้า จะทำให้เกิดขยายพรมแดนความรู้แก่แวดวงวิชาการและสำหรับประชาชนทั้ง 2 ประเทศ
ช่วงนี้บ้าประวัติศาสตร์มากเลือดรักชาติพุ่งปรี้ดเลย คิดถึงนะ นครหลวงอยุธยา ครั้งนึงเคยไปอาศัยยุ
น่าจะใช้แผนสมเด็จพระนเรศวร คือ ไม่ตั้งรับ แต่ออกไปสกัดทันทีเมื่อได้ข่าวศึก ถ้ารบแบบนี้อาจไม่เสียกรุงก็ได้
ในละครย่านิ่มดูดวง แล้วพูดว่าเสียกรุงครั้งแรก ก็จะต้องมีครั้งที่สอง
อยุธยาเกี่ยวอะไรกับกรุงรัตนโกสินแล้วเกี่ยวอะไรกับคนต่างจังหวัด
ไปมาแล้ว วัดแม่นางปลื้ม เก่ามากเข้าวัดไปนึกว่าอยู่ ช่วง200ปีที่แล้ว สมบูรณ์มาก
มีในเอกสารประวัติศาสตร์บอกแค่ว่า เเถบเขาพนมดงรัก มีชาวเขมรป่าดง อาศัยอยู่ในแถบนั้นมาเป็นเวลาช้านาน
เอกสารจีนกล่าวใว้ว่า เป็นอาณาจักรฟูนัน เจนละบก(ที่ราบสูงโคราช) และไม่มีเขตแบ่งชัดเจนเหมือนสมัยนี้
❤❤❤❤❤
อดีต..ทำให้คิดว่า" ความยั่งยืนในเรื่องใด ไม่มีเสมอไปเพราะความไม่เที่ยงไม่แน่นอน"ครับ..แต่เราจะต้องรักษา..ความดีงามไว้ตลอดไป
ฟูนัน เกิดก่อนอยุธยา เป็น1000ๆปี
กรุงศรีอยุธยา พ.ศ. 1893 พ.ศ. 2310 สร้างปีขาล ดับปีกูล อายุ 417 ปี
ผมว่ายุทธศาสตร์ พม่านั้น ได้รับอิทธิพลจากชาติ ตะวันตก เช่น โปรตุเกส ฮอลันดา ที่ได้เคยบันทึกการรบ สมัยโรมันที่สามารถเอาชนะพวกกอลได้ นำความรู้นั้นมาประยุกต์ ใช้กับอยุธยา
ที่แพ้ครั้งที่สองคนไทยสมัยนั้นคงจะเหมือนสมัยนี้โกงกินบ้านเมืองห่วงแต่ความสบายของตัวเองขุนนางชั่วมีอำนาจประชาชนโง่เง่าเข้ากับขุนนางชั่วขายชาติขายแผ่นดินเหมือนกันเด๊ะ
ประวัติศาสตร์ที่บิดเบือน..นำมาซึ่งการเกลียดชังของคนในชาติ....การเสียกรุงครั้งที่ 2 นั้น
อโยธยามีความเก่งกล้าสามารถ......แต่พม่ามีความสามารถมากกว่า.....และคนอโยธยามีความสามัคคีกลมเกียวกล้าหาญรักเมือง.....สู้รบกับพม่า 1ปีครึ่งจนอาหารในเมืองหมดจนเป็นสาเหตุทำให้เกิดการเสียกรุง.....ประวัติศาสตรมีไว้เพื่อศึกษามิได้มีไว้เพื่อความเกลียดชัง
สุรศักดิ์ อรรคบุตร ใช่ครับ ถ้าอยุทธยาไม่แข็งคงสู้ศึกไม่ได้ถึง14เดือนแน่นอน
ปัญญา ใจดี ชัยภูมิอยุธยาไม่ได้ตีง่ายๆนะคับ พม่านันทบุเรงมีห้าแสนยังตีพระนเรศวรไม่ถึงแสนไม่ได้เลยคับ
สุรศักดิ์ อรรคบุตร พม่าเนี่ยนะเก่งสมัยพระนารายพระนารายส่งกองมัพไปถึงพม่าพม่าไม่กล้าออกมาสู้เลยคับ มันไม่ได้เก่งหรอกตอนแรกมันมาสามหมื่นเองที่แพ้เพราะเจ้าเมืองต่างๆขี้ขลาดเองคับให้คนให้สเบียงเองตอนแรกมันหะมาตรแค่มะริดถวายตะนาวศรีพอเห็นตีง่ายก็รองตีเลื่อยถ้าเป็นอดีตนะคะบถ้าประเทศราชถูกตีก็ตะไปตีคืนทันทีแต่ผมก็ไม่รุ้ทำไมตอนนั้นเราถึงไม่ส่งกองทัพไปตีคืนถ้าส่งไปแต่แรกไม่หน้าจะเสียกรุงได้สมัยพระนารายมีการสันนิทานว่าคนในอณาจักรมีหนึ่งล้านคนคือสมัยนั้นเยอะมากเลยนะคับมันมาแค่สามหมื่นเองถ้าส่งกองทัพไปตีคืนผมคิดว่ายังไงก้ไม่แตก เจ้าเมืองต่างๆกลัวเองคับผมว่า แต่มันก็ไม่ทันแล้วไม่งั้นอยุธยาและวัดอยุธยาคงจะสวยมากๆคงจะมีแต่ทอง รองซื้อหนังสือรุกรานสยามในนามพระเจ้าดูคับจะได้รุ้สมัยพระนารายยิ่งใหญ่ขนาดไหนพม่าไม่ได้ครึ่งบอกตรง
Chatchawan Angkaew ที่พูดมันคนละยุคคนละสมัยห่างกันเป็นร้อย ๆ ปี เราพูดถึงเรื่องเสียกรุงครั้งที่สองสมัยพระเจ้าเอกทัศ แต่คุณไปพูดถึงสมัยพระนารายณ์ แล้วแบบนี้มันจะเจอคำตอบของความจริงไหมคัฟ ......แล้วที่ผมบอกว่าพม่าเก่งเพราะตอนทำศึกกับกรุงศรี พม่าอีกด้านก็ทำศึกกับจีนไปพร้อมกันด้วย สามารถทำศึกสองด้านในเวลาพร้อมกัน.....แต่ก็ยังเอาชนะกรุงศรีอยุธยาได้......ศึกษาจากประวัติศาสตร์นะคัฟ ไม่ได้คิดเอง...พูดเอง....พงศาวดาลมีหลายเล่มหลายเชื้อชาติแต่เนื้อหาจะสอดคล้องกันลองศึกษาหลาย ๆ ที่คัฟ ....
น่าจะเดินรอบๆให้เห็นด้วยนะคะ
พวกคุณคงไม่รู้หรอกว่าจะสู้จนสินเลือดหยดสุดท้ายมันเจ๋งแค่ไหน(จากเด็กค่ายบางระจั)
555555
ได้ความรู้มากครับ
เเต่ผมชอบประวัติศาสตร์อยุธยาด้วยน่ะอ่านเเล้วสนุกดี
น่าสนใจ ดูไว้เวลาไปเที่ยวจะน่าสนุกมากขึ้น
ขอบคุณครับ
ใช้คำว่าโมดิฟรายกับพระพุทธรูปควรไปศึกษามาใหม่น่ะอาจารย์ลูกศิษย์
ที่เสียครั้งที่สองเพราะคนไทย แก่งแย่งชิงดีกัน อยากเป็นใหญ่ ไม่มีความสมัคคี และมีใส้ศึกด้วย จากความคิดของผมเอง
อาจารย์น่าจะเป็นแม่ทัพพม่ากลับชาติมาเกิดทราบรายละเอียดดีมาก
Sakl Goffather 555
Sakl Goffather 😂 😂 😂
กล้องสั่นมาก ควรจะใช้ระบบกันสั่น
417ปีอยุธยา ถือว่าอยู่ได้นานกว่าจะเสื่อม
ผมไม่ได้เสียกรุงศรีกับพวกพี่ๆครับเพราะสมัยนั้นไม่มีประเทศ เป็นระบบเมืองใหญ่ปกครองเมืองเล็ก หรือไม่ก็รบชนะมาถ้าอ่อนเเอก็เเยกตัวออกมาปกครองตัวเองอีกที เเถมบ้านผมเป็นเเค่ชุมชนกระจายกันอยู่ตามสายน้ำ มูล เสียว โดน โขง ชี สงคราม สำราญ หรือ หนองน้ำ เช่น หนองหาร ห้วยตามาย ห้อยศาลา
อยุธยาบ้านเกิดผม คือราชอาณาจักรที่เป็นต้นกำเนิดของสยามประเทศจนมาเป็นประเทศไทยโดยแท้จริง
อยุธยามันคือบรรพบุรุจ คือต้นกำเนินของสยามหรือไทยในตอนนี้
ถ้ามึงไม่ใช่คนสยามก็ทิ้งบัตรชาชนซ่ะ แล้วขนเาอผ้าไปเขมรไม่ก็ลาว โอเครป่ะ
สงสัยเกิดในสมัยอยุธยา
ศึกษาสิครับ อ่านมากๆผมว่าดี คิดเยอะๆ ครับ
อายุกรุงหมดแล้วบุญกรุงหมดแล้ว ยังไงก็แพ้
ชะตาเมืองขาดแล้วยังไงก็แพ้
เสถียรสวัสดิ์ ศราวุธ ผู้พันเบิร์ดได้มาเล่นบทพระเจ้าตากสินมหาราชในศรีอโยธยาภาค2แล้ว
เสถียรสวัสดิ์ ศราวุธ ชอบประชาไทยทีวีมากเลย
อาจารย์ดุลยภาคพลปรีชารัตน์เล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ศรียุธยาได้มันมากเลยขอรับกระผม
เห็นอาจารย์ท่านหนึ่งว่าถ้าค่ายวัดพนัญเชิงไม่แตกก่อนรักษาได้อีกสัก15วันคงกรุงไม่แตก พม่าใกล้จะกลับอยู่แล้วเพราะจีนมาแล้วแต่ต้องยอมรับพม่านะคับเขาเก่งจริงไม่เก่งจริงจีนไม่แพ้หลอกเปิดศึกทุกทางแต่ชนะหมดสุดยอดไหมละ แค่จีนก็หน้ากลัวแล้ว พอค่ายวัดพนัญเชิงเสียสเบียงที่มาทางใต้ก็จบเลย
หนนั้น จีนไม่ได้แพ้นะ แพ้มาห้าหน พอหนหกยกกำลังของจริงมา อะแซหวุ่นกี้เสมอกับจีน แต่ขอเป็นไมตรีเพราะจีนมีกำลังพลไม่สิ้นสุดจะยกมาอีกกี่ครั้งก็ได้ ยอมเป็นไมตรี จนมังระกริ้วมาก ทั้งที่สงครามเป็นต่อแต่ยอมเลิกทัพ
มีสาระ....เมือใหรท่านทักษินจะกลับมา
ืทําไมไม่รวบรวมกําลังทั้งหมดออกมาต่อสู้นอกเมืองนี่แหละทําให้คนอยุทธยาตายเป็นล้านคน
สมัยนั้นคนไม่ถึงล้านคับ มีประมาณ2-3แสนมีทั้งเด็ก สตรี คนชรา คนทรยศ
อ้ายคน' เมืองงง หายไปไหนหมดนะตอนพระนารายเขาสันนิทานมีตั้งล้านคน
มีแค่หลักแสนครับหลักล้านไม่ถึง
มีบันทึกไว้ว่าช่วงปลายกรุงศรี มีประชากรที่อาศัยอยู่ในกรุงศรีศรีอยุธยาขึ้นหลักล้านคน แต่ตอนใกล้เสียกรุงศรีมีประชากรหลบเข้าไปอยู่ในพระราชวังหลักแสนคน