"เทรนด์ผิวดี ตัวช่วย งานผิว 4 ประการ" : หมอชวนคุย :【คุยกับหมออัจจิมา】

แชร์
ฝัง
  • เผยแพร่เมื่อ 21 ก.พ. 2024
  • หมอชวนคุย ตอน เทรนด์ผิวดี ตัวช่วย งานผิว 4 ประการ
    โดย : ดร.แพทย์หญิงอัจจิมา สุวรรณจินดา
    Skin quality คืออะไร ?
    คำว่า Skin quality #คุณภาพผิว ที่ดี โดยเราสามารถใช้นิยามนี้ได้กับผิวของคนทุกเชื้อชาติ ไม่ว่าจะผิวขาว ผิวเอเชีย หรือผิวคล้ำ ซึ่งจะประกอบไปด้วยองค์ประกอบ 4 อย่าง ได้แก่
    1. #สีผิว (Skin tone)
    #สีผิว ของเรานั้นควรจะเรียบเนียนและสม่ำเสมอ แต่ถ้าเมื่อใดก็ตามที่สีผิวไม่เสมอกัน จะหมายถึงสีผิวที่คุณภาพไม่ดี โดยปัญหาอาจพบได้ตั้งแต่การที่เห็น #เส้นเลือดฝอย บริเวณใบหน้าชัด มี #ผื่น ที่หน้า หรือมีอาการ #หน้าแดง ซึ่งสิ่งเหล่านี้บ่งบอกถึงคุณภาพของผิวที่ไม่ดี การแก้ปัญหาสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอจะต้องพิจารณาว่าปัญหานั้นมีสาเหตุมาจากสีอะไร หากปัญหามาจากสีแดง จะใช้วิธีการรักษาด้วยการยิง #เลเซอร์ ที่ #เส้นเลือดฝอย หากปัญหาคือการมีเม็ด #สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ เช่น #ฝ้า #จุดด่างดำ จะสามารถใช้วิธีการรักษาได้หลากหลาย ทั้งการใช้ยาทาที่ช่วยในการลดสี การทำ #Pico Laser หรือ #เลเซอร์ เม็ดสีอื่นๆ เพื่อช่วยปรับสีผิวให้มีความนุ่มเนียนและสม่ำเสมอกัน การใช้ #PDRN #PN ที่สามารถเพิ่มความแข็งแรงสมบูรณ์ของคอลลาเจนใต้ผิวได้นั้น ก็สามารถช่วยลดการสร้างเม็ดสีได้ การใช้สาร Botulinum toxin หรือที่เรียกว่า #Botox ในการฉีดลดริ้วรอย ก็มีคุณสมบัติในการช่วยลดตัวร้างเม็ดสีเช่นกัน การฉีด #CaHA (Calcium Hydroxylapatite) ซึ่งในปัจจุบันได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยใช้ในการกระตุ้นการสร้างผิวใหม่ขึ้นมา หรือแม้กระทั่งการใช้สาร #HyaluronicAcid ในการฉีดที่ผิว เพื่อให้ผิวดูสว่างขึ้นจากการมีคอลลาเจนมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการทำ #Ultrasound ร่วมกับ #สารทำให้ผิวขาว (#Whitening agent) แบบพิเศษ เพื่อที่จะสามารถนำยาเข้าสู่ผิวแล้วกระตุ้นให้เกิดความขาวใสของผิวได้
    2. พื้นผิว (Skin surface)
    ปัญหาส่วนใหญ่ของพื้นผิวนั้น คือ #ผิวไม่เรียบเนียน ซึ่งอาจเป็นได้หลายอย่าง ทั้งการมี #รูขุมขนกว้าง โดยเมื่ออายุมากขึ้นก็มักจะมีรูขุมขนที่ใหญ่ขึ้นตามมา โดยเกิดจากคอลลาเจนที่ทำให้เกิดความตึงของรูขุมขนนั้นลดน้อยลง การที่มี #ผิวแห้ง ซึ่งจะทำให้เห็นเหมือนผิวเป็นร่อง หรือการมี #ริ้วรอย ทั้ง #ตีนกา และ #ร่องแก้ม รวมถึงการที่มีผิวไม่เรียบเนียนจากการมี #แผลเป็น มี #ขนที่หน้า มี #สิว #เนื้องอก #หูด ที่บริเวณใบหน้า ทุกปัญหาเหล่านี้บ่งบอกถึงการมีคุณภาพผิวที่ไม่ดี
    โดยวิธีการแก้ปัญหาพื้น #ผิวไม่เรียบเนียน นั้นแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับว่าสาเหตุนั้นมาจากอะไร หากเกิดจากการ #ขาดคอลลาเจน ก็ต้องกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน โดยอาจจะใช้สารในกลุ่ม #CaHA #Hyaluronic Acid การทำ #เลเซอร์ การทำ #Ultrasound และการใช้ #คลื่นความถี่วิทยุ เพื่อให้สามารถสร้างคอลลาเจนขึ้นมาได้ใหม่ หากเกิดจาก #ริ้วรอย ให้ฉีด #Botox เพื่อให้เกิดการกระตุ้นการสร้างผิวใหม่ได้อย่างเป็นธรรมชาติ หากเกิดจากการที่มี #ผิวแห้ง ตัวที่สามารถช่วยได้จะเป็นสารในกลุ่ม #Hyaluronic Acid หรือ #Hyaluronic Acid ที่ร่วมกับ #กลีเซอรอล รวมถึงกลุ่ม #PDRN / #PN ซึ่งกลุ่มนี้จะเรียกว่า #Biostimulators ซึ่งช่วยกระตุ้นในการสร้างเซลล์ผิวใหม่ หรือหากมีผิวที่ไม่เรียบเนียนจากการที่มี #แผลเป็น #หลุมสิว โดยถ้าเป็นหลุมเก่าอาจจะต้องอาศัย #คลื่นความถี่วิทยุ แต่ถ้าเป็นหลุมใหม่ จะสามารถใช้ #Pico Laser หรือเลเซอร์ #VBeam ได้ หรืออาจจะต้องรักษาร่วมกับการ #ตัดพังผืด ใต้ผิว การใช้ Chemical Peel หรือการใช้ #Microneedling รวมถึงการ #ขัดหน้า เพื่อให้พื้นผิวเรียบขึ้น แต่ถ้าปัญหามาจากการมีขน ก็ต้องใช้ #เลเซอร์ ในการ #กำจัดขน หรือหากมีความไม่เรียบของผิวจากการมี #สิวอุดตัน #สิวอักเสบ ก็ต้องแก้ด้วยวิธีการ #รักษาสิว จากที่กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นได้ว่าในแต่ละปัญหาจะมีวิธีในการรักษาในแบบของตัวเอง ซึ่งจะสามารถช่วยให้พื้นผิวมีความเรียบเนียนขึ้นมาได้
    3. ความกระชับของผิว (Skin firm)
    คุณภาพผิวที่ดีนั้นผิวควรจะต้องมีความ #กระชับ #ยืดหยุ่น #ชุ่มชื้น และ #เต่งตึง ดังนั้นวิธีการรักษาที่ใช้จะต้องเป็นการเพิ่มคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิว โดยอาจจะใช้ #คลื่นเสียง #CaHA และ #Hyaluronic Acid ในการช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิว คอลลาเจน และอีลาสตินใหม่ รวมถึงยังสามารถใช้ #PDRN / #PN เพื่อช่วยสร้างผิวใหม่ อีกทั้งยังให้ความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อีกด้วย
    4. ความเปล่งปลั่งของผิว (Skin glow) ปัญหาจากการที่มี #ผิวแห้ง #ผิวหมอง #ผิวคล้ำ นั้นส่งผลให้ความเปล่งปลั่งของผิวหายไป ซึ่งวิธีการรักษาจะเป็นการมุ่งเน้นไปยังผิวด้านบน เพื่อให้มีการกระตุ้นเซลล์ผิวที่ดีและสร้างผิวขึ้นมาได้ใหม่ โดยจะแนะนำวิธีการรักษาที่สามารถใช้แก้ปัญหาหลาย ๆ อย่างได้ในตัวเดียวเป็นสารในกลุ่ม Botulinum toxin หรือ #Botox ที่ปกติแล้วมักจะใช้ในการ #ลดริ้วรอย แต่มันยังสามารถใช้ในการเพิ่มความกระชับของผิวได้อีกด้วย แต่จะต้องมีวิธีการฉีดที่แตกต่างกันออกไป และต้องมีการเลือกให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์และสภาพผิวของแต่ละบุคคล และยังแนะนำเป็นตัวที่ช่วยในการสร้างเซลล์ผิวใหม่อย่าง #CaHA และ #PDRN #PN หรือจะใช้ #Hyaluronic Acid ในการกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่แล้วใช้รวมกับ #กลีเซอรอล ในการเพิ่มความชุ่นชื้นควบคู่กันไปด้วย นอกจากนี้ยังสามารถใช้ #คลื่นความถี่วิทยุ #Ultrasound หรือแม้กระทั่งยาทา เช่น #วิตามินเอ #Salicylic Acid ที่ช่วยในการ #ผลัดเซลล์ผิว ได้ ดังนั้นหากใช้วิธีการรักษาเหล่านี้ ปัญหา #หน้าหมองคล้ำ #ผิวแห้ง ไม่เปล่งปลั่งก็จะหมดไป
    #จุดด่างดำ #หลุมสิว #ริ้วรอย #กระชับรูขุมขน #ผิวหมองคล้ำ
    ----------------------------------------------
    เมดดิไซน์ คลินิก (อัจจิมาสหคลินิก)
    -- ดร.แพทย์หญิงอัจจิมา สุวรรณจินดา --
    แพทย์ผู้ชำนาญการด้านผ่าตัดผิวหนัง มะเร็งผิวหนัง
    และเลเซอร์ผิวหนัง ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี
    โทรศัพท์ : 0-2954-9440
    Call-Center : 089-900-6100
    Line : @medisci
  • แนวปฏิบัติและการใช้ชีวิต

ความคิดเห็น • 1

  • @kk.fromthailand
    @kk.fromthailand 2 หลายเดือนก่อน

    ทำไมหมอไม่พูดถึงไหมน้ำ (PLLA, PDO, PCL) เลย พูดแต่ CaHa