#รักแบบพุทธะ

#เมนูอาหารใจ: #รักแบบพุทธะ
(สำรวมกาย วาจา ใจ) by "เชฟชอบธรรม"
----------------------------------
#เคล็บลับการปรุง:
#คีย์เวิร์ดปลดล็อค (#กุญแจไขรหัสทุกข์)
----------------------------------
"รักแบบพุทธะ" (รักแบบผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน)
1. รักทางโลก
= รักไร้เงื่อนไข, รักด้วยหัวใจ ไม่ใช่หัวคิด
2. รักทางธรรม
= รักมีเงื่อนไข, รักแบบผู้ให้ ไม่หวังตอบแทน
.
.
หลายวันก่อน ได้พาทุกคนไปมองความรักผ่านหลักธรรม ในมุมมองของการ "รักตนเอง" มาแล้ว วันนี้ก็จะขอพาทุกคน ไปมองความรักผ่านหลักธรรม ในมุมมองของการ "รักผู้อื่น" ดูบ้างนะ
.
ความรักเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกคนให้และรับความรักแก่กันได้ ไม่ว่าจะที่บ้าน, วัด, บริษัท, ที่ทำงาน, สังคม, ชุมชน, องค์กร, ประเทศ แต่เราควร"มี"ความรักอย่างเข้าใจ และ"มอบ"ความรักอย่างเข้าใจ กล่าวคือ "รักแบบพุทธะ และ รักด้วยธรรมะ"
.
"#คำว่ารัก" มีนิยามความหมายกว้างขวางมาก แล้วแต่บริบท แล้วแต่ทุกคนจะน้อมไปใช้ในทางไหน เพราะว่า "รักทางโลก" กับ "รักทางธรรม" ก็เปรียบเหมือนคนหนึ่งคน มี2หู, มี2ตา, มี2แขน, มี2ขา ฝั่งซ้ายก็ต้องใช้ ฝั่งขวาก็ต้องใช้ เป็นของคู่เคียงกันมา แยกจากกันไปไม่ได้
เพียงแต่ต้องเลือกใช้ให้ถูกที่, ถูกกาล, ถูกงาน, และถูกคน
.
----------------------------------
1. #รักทางโลก = #รักไร้เงื่อนไข รักด้วยหัวใจ ไม่ใช่หัวคิด
----------------------------------
"คำว่ารัก" (love) มีความหมายว่า
- มีใจผูกพันด้วยความห่วงใย เช่น พ่อแม่รักลูก รักชาติ, รักชื่อเสียง,
- มีใจผูกพันด้วยความเสน่หา, มีใจผูกพันฉันชู้สาว, เช่น ชายรักหญิง,
- ชอบ เช่น รักสนุก รักสงบ.
(ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554)
.
1.1 #รักด้วยหัวใจ
ใครๆก็อยากมี อยากได้ หรืออยากให้ความรักที่ดี แต่เรื่องแบบนี้ ขึ้นอยู่กับคนทั้งสองฝ่าย ปฏิสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่าย (ตบมือสองฝ่าย) โดยมีเจตนาของทั้งสองฝ่ายเป็นสิ่งสำคัญ
ถ้าเราอยากได้รักที่ดี เราก็ต้องให้ความรักที่ดีแก่เค้าด้วย ต้องคิดดี หวังดี เจตนาดี จริงจังจริงใจ มันเป็นเรื่องของ "กฏแรงดึงดูด" เพราะคู่เวรคู่กรรมเก่าของเรามีหลายคน มีหลายภพหลายชาติ แต่ละคนอาจรอกฏของกรรมสัมพันธ์จากเราอยู่
.
- หว่านพืชเช่นไร ย่อมได้เช่นนั้น
- ปลูกต้นไม้แบบไหน ก็ได้ดอกผลแบบนั้น
.
1) รักชอบฝ่ายเลว (ตัณหา)
- รักชอบด้วย กิเลส ตัณหา ราคะ เสน่หา อารมณ์ กามสุข
- รักแบบกามตัณหา = มีแต่ความทะยานอยาก, แก่งแย่งชิงรักหักสวาท
- รักแบบกามสุข = หลงใหลรักใคร่แต่เรื่องกามสุข
- รักแบบอยากได้, อยากมี, อยากเป็น = "กูจะเอาให้ได้"
.
2) รักชอบฝ่ายดี (ฉันทะ)
- รักชอบด้วย ฉันทะ ปรารถนาดี จริงจังจริงใจ
- รักแบบครอบครอง (ตบมือสองฝ่าย) คือ
- รักจริงหวังแต่ง หวังสร้างครอบครัว
- หวังเจริญความสัมพันธ์ทั้ง2ฝ่าย
- ต้องเข้าใจ เรียนรู้ และพร้อมยอมรับ
- ทั้งคู่ตนเอง และครอบครัวทั้ง2ฝ่าย
- แต่งงาน = แต่ง(กับ)งาน
.
1.2 #ไม่ใช่หัวคิด
- ไม่ใช้หัวคิด ไม่ใช้อารมณ์ความรู้สึกนึกคิด
- ถ้าใช้หัวคิด =คิดเยอะ =คาดหวังเยอะ =วางแผนเยอะ
- เหนื่อยทั้งตัวเรา, เหนื่อยทั้งตัวเค้า
- รูปร่าง, หน้าตา, ฐานะ, การศึกษา, ครอบครัว, ไลฟ์สไตล์, รสนิยม
- ไม่ใช้หัวคิด = ไม่มีข้อแม้, ไม่มีมิจฉาทิฐิ
- ไม่มีสเปค สูงต่ำดำขาว, ตี๋หมวยรวยทรัพย์
- ใช้ความรู้สึก "ถามใจตัวเอง" ไม่ต้องถามใคร
- "รักชอบเค้าจริงใช่มั้ย?", "ยอมรับนิสัยเค้าได้มั้ย?"
- ส่วนจะเข้ากันได้มั้ย, จะไปด้วยกันได้มั้ย, จะเหมาะสมกันมั้ย มันก็มีช่องทางออกให้เราอยู่ ก็ต้องทดลองเรียนรู้ คบหาดูใจกันก่อน
.
1.3 #รู้จักเข้าใจนำไปใช้
1) ถ้าพิจารณาจริงๆแล้ว ความรักทางโลก มันมีบริบทที่กว้างนะ ไม่จำเป็นต้องหมายความกับแฟน กับคนรักเท่านั้น จริงๆยังครอบคลุมถึงความรักแบบ ครอบครัว, พ่อแม่ลูก, ญาติพี่น้อง, เพื่อนร่วมงาน, เพื่อนบ้าน, เพื่อนร่วมสังคม
.
2) "..ในดำก็มีขาว ในขาวก็มีดำ
ในดีก็มีเสีย ในเสียก็มีดี
ไม่มีใครดีสุดขั้ว ไม่มีใครชั่วสุดขีด
ดีอย่างเสียอย่าง ปะปนกันไป.."
.
- เรื่องนี้..เค้าไม่ดี, นิสัยข้อนี้..เค้าไม่ดี
- ไม่ใช่..เค้าไม่ดี อย่าเหมาเข่งรวม ตีค่าเค้าไม่ดีทั้งตัวตน
- แล้วจริงๆนะ ไอ้ที่ว่าไม่ดีน่ะ ก็คือ ไม่ดีสำหรับเรา ข้อนี้มันไม่ถูกจริตเรา ข้อนี้ไม่ดีในสายตาเรา
- (ซึ่งสถานการณ์เดียวกัน คนอื่นอาจจะไม่คิดแบบนี้ก็ได้ ไม่ทุกข์ก็ได้)
.
คุณต้องแยกให้ออกนะ ระหว่าง
- ความประพฤติไม่ดี คือ ผิดศีลธรรม, ผิดกฏหมาย, ผิดกฏกติกา, มารยาทสังคม อันนี้พิจารณาตามหลักธรรมะได้เองเลย ว่าจะทนหรือไม่ทน, เรารับได้หรือรับไม่ได้กับแบบนี้
- นิสัยไม่ดี ไม่ถูกใจ คือ ไม่ตรงกับความพอใจ, ความไม่พอใจของเรา
.
3) ที่สำคัญคือ ต้องไม่ตัดสิน ต้องไม่เปรียบเทียบ แต่ละคนไม่เหมือนกัน
- แม้แต่พี่น้องกัน แม้แต่บ้านเดียวกัน แม้แต่ฝาแฝดกัน ยังนิสัยไม่เหมือนกัน
- แล้วนี่ต่างคน ต่างที่มาต่างที่ไป, ต่างพื้นฐาน, ต่างความคิด, ต่างจิตต่างใจ
- สำคัญคือ ต้องไม่เปรียบเทียบ คนใหม่คนเก่า, คนที่เราอยากได้
.
4) อีกข้อสำคัญที่อยากฝากไว้!! คือ "ต้องไม่คาดหวัง ต้องไม่กดดัน ต้องไม่จ้องจับผิด"
- ทำไมถึงทำแบบนี้ แล้วทำไมไม่ทำแบบนี้
- อย่าจ้ำจี้จ้ำไช อย่าจู้จี้ขี้บ่น
- ตกลงที่เค้าต้องทำต้องเป็น คือต้องทำต้องเป็น ให้ได้ตามที่เราพอใจ ไม่พอใจเหรอ
- อย่าลืมนะ เค้าคือสิ่งมีชีวิต!! ไม่ใช่ ตุ๊กตา หรือ หุ่นยนต์!!
- หมาแมวสัตว์เลี้ยง เรายังคาดหวัง ควบคุมเค้าไม่ได้เลย
.
ขอย้ำอีกครั้งว่าอย่านะ!! เพราะสิ่งนี้ถ้าเกิด และตอกย้ำบ่อยๆเข้า มันจะกลายเป็น การบั่นทอนความมั่นใจ ของตัวเค้าและตัวเราให้ลดลง และทำให้เค้าสูญเสียความมั่นใจในตัวเองไปด้วย คราวนี้เค้าก็จะกลายเป็นคนขาดความมั่นใจ ทำอะไรก็จะขาดๆ เกินๆไปจริงๆ
.
อ่านบทความ(ฉบับเต็ม) ส่วนที่เหลือต่อจนจบ คลิก
bit.ly/3WtYVEI