บุหลันเถา : ปี่พาทย์เสภา คณะครูสุรเดช กิ่มเปี่ยม
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 4 เม.ย. 2021
- บุหลันเถา : ปี่พาทย์เสภา คณะครูสุรเดช กิ่มเปี่ยม
ปี่ใน : ครูสุรพล หนูจ้อย
ระนาดเอก : ครูสุรเดช กิ่มเปี่ยม
ระนาดทุ้ม : ครูเผชิญ กองโชค
ฆ้องวงใหญ่ : ครูสาธิต แสงบุญ
ฆ้องวงเล็ก : ครูศักดิ์ชัย ลัดดาอ่อน
กลองสองหน้า : ครูสมพงษ์ นุชพิจารณ์
ฉิ่ง : ครูอุทัย ปานประยูร
การแสดงบรรเลงปี่พาทย์เสภารายการดนตรีไทยพรรณนา ตอน เสือ สิงห์ กระทิง แรด จัดการแสดงเมื่อวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๒๓ ณ โรงละครแห่งชาติ ซึ่งประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของการจัดปี่พาทย์ประชันวง รายการประชันนี้มีอาจารย์เสรี หวังในธรรม เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
ซึ่งเป็นการประชันวงบรรเลงเพลง ๔ ช่วง คือ โหมโรง เพลงเถา เดี่ยวเครื่องมือ และเพลงลา โดยมีวงดนตรีที่ประชันกันในครั้งนั้นทั้งหมด ๔ วง ประกอบด้วย
๑.วงครูสุพจน์ โตสง่า
๒.วงครูสุรเดช กิ่มเปี่ยม
๓.วงครูพัฒน์ บัวทั่ง
๔.วงครูเมธา หมู่เย็น
- ประวัติเพลงบุหลันเถา -
เพลงบุหลันเดิมเป็นเพลงอัตราจังหวะสองชั้นทำนองเก่า นิยมนำไปบรรเลงและขับร้องประกอบการแสดงละครนอก ไม่นิยมใช้กับละครในหรือโขน เป็นเพลง ๒ ท่อนสั้นๆ เดิมเรียกชื่อว่า เพลงชกมวย
ต่อมาครูทัต นักดนตรีในวงดนตรีของสมเด็จ เจ้าพระยาบรมมหาสุริยวงศ์ ได้แต่งขยายเป็นอัตราจังหวะสามชั้นเมื่อสมัยรัชกาลที่ ๕ โดยรวบทำนองเพลงชกมวยอัตราจังหวะสองชั้นซึ่งมี ๒ ท่อนให้เป็นเพลงท่อนเดียว และนำทำนองใบ้คลั่งท่อนที่ ๓ มาดัดแปลงทำนองใหม่ให้เป็นท่อน ๒ เรียกชื่อใหม่ว่า เพลงบุหลัน
ครั้งต่อมา สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ทรงนำเพลงบุหลันสามชั้นของครูทัต มาดัดแปลงทำนองและเปลี่ยนเสียงใหม่เพื่อให้เหมาะกับการบรรเลงด้วยแตรวง ทรงพระนิพนธ์เพลงนี้เมื่อยังดำรงพระยศเป็นเสนาบดีกระทรวงทหารเรือ ราว พ.ศ.๒๔๕๖ ถึง พ.ศ.๒๔๖๓ นอกจากนี้ยังมีนักดนตรีนำเพลงบุหลันชกมวยสามชั้นของครูทัต ไปแต่งตัดเป็นอัตราจังหวะสองชั้นและชั้นเดียว ครบเป็นเพลงเถาหลายทางด้วยกัน คือ
๑.ทางพระเพลงไพเราะ (โสม สุวาทิต) แต่งเมื่อ พ.ศ.๒๔๗๕
๒.ทางวังบูรพา คุณหญิงชิ้น ศิลปบรรเลง อธิบายว่า หลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) แต่งเมื่อ พ.ศ.๒๔๔๕ ขณะที่อายุ ๒๕ ปี โดยแต่งทั้งเที่ยวแรกและเที่ยวกลับทางเปลี่ยน
๓.ทางวังบางขุนพรหม จางวางทั่ว พาทยโกศล แต่งเมื่อ พ.ศ.๒๔๗๓ ในอัตราจังหวะสามชั้นเที่ยวแรกแต่งโดยดำเนินลีลาตามแนวของครูทัต เที่ยวกลับได้แต่งเปลี่ยนลีลาใหม่ ในอัตราจังหวะสองชั้น แต่งให้มีสำเนียงเขมร ส่วนในอัตราจังหวะชั้นเดียวโดยแต่งให้มีสำเนียงลาว
- บทร้องบุหลันเถา -
สำหรับบทร้อง จากเรื่องอิเหนา พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๒ ตอนท้าวดาหาและบริวารเสด็จกลับจากการแก้บนและเที่ยวชมวิลิศมาหราคีรี ในระหว่างทางเมื่อมืดลงดวงจันทร์ได้ส่องแสงโชติช่วงอยู่เบื้องบน เบื้องล่างมีแสงโคมส่องทางสว่างไสว ระเด่นบุษบาประทับมาในราชรถคันหนึ่ง เผยม่านออกชมแสงจันทร์อย่างเพลิดเพลิน หาทราบไม่ว่าอิเหนากับสี่พี่เลี้ยงได้ปลอมตัวเป็นอำมาตย์ขับขี่ม้าวนเวียนอยู่ในขบวนใกล้ราชรถนั้น .
- สามชั้น ท่อน ๑ -
ครั้นค่ำสนธยาราตรีกาล
จึงเผยม่านออกชมแสงบุหลัน
- สามชั้น ท่อน ๒ -
ทรงกลดหมดเมฆอยู่พรายพรรณ แสงจันทร์จับแสงรถทรง
- สามชั้น ท่อน ๓ -
แสงโคมประทีปทองส่องสว่าง กระจ่างจับพุ่มไม้ไพรระหง
- สามชั้น ท่อน ๔ -
พวงพยอมหอมหวลลำดวนดง สายหยุดประยงค์โยทะกา
- สองชั้น ท่อน ๑ -
หอมกลิ่นกล้วยไม้ที่ใกล้ทาง ตรัสบอกบาหยันพลางแล้วแลหา
- สองชั้น ท่อน ๒ -
ลมหวนอวลกลิ่นสุมาลย์มา ระคนกลิ่นบุหงาร่ำไป
- สองชั้น ท่อน ๓ -
เรไรจักจั่นสนั่นเสียง เพราะเพียงดนตรีปี่ไฉน
- สองชั้น ท่อน ๔ -
บุหรงร้องพร้องเพรียกพงไพร ฟังเพลินเจริญใจไปมา
- ชั้นเดียว ท่อน ๑ -
เมื่อเอยเมื่อนั้น
ระเด่นมนตรีในกล้า
- ชั้นเดียว ท่อน ๒ -
เป็นทัพหลังรั้งพลโยธา เวลาค่ำคำนึงถึงเทวี
- ชั้นเดียว ท่อน ๓ -
จึงปลอมแปลงเป็นอำมาตย์ ชวนพี่เลี้ยงราชทั้งสี่
- ชั้นเดียว ท่อน ๔ -
ทรงสินธพชาติพาชี ฝ่าพลมนตรีขึ้นมา.
(ที่มาข้อมูลการบรรเลง : อาจารย์อานันท์ นาคคง
ที่มาประวัติเพลง : อาจารย์สมพล อนุตตรังกูร)
เทปเสียงนี้ ได้บันทึกเสียงจากการออกอากาศสดทางรายการวิทยุ ประมาณปี พ.ศ.๒๕๔๗
ที่มาภาพถ่าย : เพจปี่พาทย์ธนากร คีตการ
สำเนาเสียงจากเทปคาสเซ็ท : ฉัตรกร เกตุมี
เพื่อการเผยแพร่อนุรักษ์เพลงไทยในการศึกษา มิได้มีเจตนาละเมิดลิขสิทธิ์และแสวงหารายได้
ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ : / @deklenkhimchannel7019
ทางระนาดเอก ของครูเดช ช่างสวยงามจริงๆ ครับ รสมือท่านสุดยอดมากๆ
สายประชันแห่งกรมศิลป์ต้องยกให้เขา 👍
กลอนระนาดสุดมาก
ครูดวงเนตร ร้องใช่ไหมครับ
เป็นคนร้องของกองดุริยางค์ทหารอากาศ.ชื่อ.จริยา.เอนกศรี.สมัยเดียวกับครูละมูล.เผือกทองคำ.คนระนาด
@@kesiwattanayothin2053 จริยา เอนกศรี เป็นลูกศิษย์ครูชม รุ่งเรือง บ้านดุริยะประณีต สมัยครูชมสอน ขับร้องที่โรงเรียน สตรีวัดระฆัง