เขมรพวง : ครูนฤพน​ธ์ ดุริย​พันธุ์​ ขับร้อง​ ปี่พาทย์ไม้นวมคณะดุริย​พันธุ์

แชร์
ฝัง
  • เผยแพร่เมื่อ 15 มี.ค. 2024
  • เขมรพวง : ครูนฤพน​ธ์ ดุริย​พันธุ์​ ขับร้อง​ ปี่พาทย์ไม้นวมคณะดุริย​พันธุ์
    ควบคุมวงดนตรี : ครูแช่มช้อย ดุริย​พันธุ์
    ขับร้อง : ครูนฤพนธ์ ดุริยพันธุ์
    ขลุ่ยเพียงออ : ครูเทียบ คงลายทอง
    ระนาดเอก : ครูสุ​พจน์​ โต​สง่า
    ระนาดทุ้ม : ครูสุชาติ คล้ายจินดา
    ระนาดทุ้มเหล็ก : ม.ล.สุรักษ์ สวัสดิกุล
    ฆ้องวงใหญ่ : ครูสมชาย ดุริย​ประณีต
    ฆ้องวงเล็ก : ครูสืบศักดิ์ ดุริย​ประณีต
    ซออู้ : ครูจงกล ศุขสายชล (วรยศ)​
    กลองแขก : ครูอนันท์​ ดุริย​พันธุ์
    กลองแขก : ครูปรีชา ชุ่มชูศาสตร์
    ฉิ่ง : ครูสุดใจ สดใส
    โหม่ง : ครูทัศนัย พิณพาทย์
    - เขมรพวง -
    เพลงเขมรพวง อัตราจังหวะสองชั้นของเก่า ประเภทหน้าทับปรบไก่ มี ๒ ท่อน มี ๔ จังหวะ ท่อนที่ ๒ มี ๖ จังหวะ
    ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงปรับเพลงร้องสำหรับประกอบ “การแสดงภาพนิ่ง” (Tableau Vivant) ขึ้นถวายสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร มีอยู่ ๘ เรื่อง แต่เฉพาะในเรื่องขอมดำดินทรงบรรจุทำนองเขมรพวงให้ร้องในบทของพระประทุม (ท้าวพันธุม) พระนิพนธ์นั้ขึ้นต้นว่า “เมื่อนั้นพระประทุมสุริยวงศ์ทรงขรรค์” เนื้อร้องและทางดนตรีในชุดน้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายจนแม้แต่ผู้ที่มิใช่นักร้องนักดนตรีก็จำเอาไปร้องกัน ด้วยความที่จำแต่เนื้อร้องจึงทำให้ผู้ที่ไม่รู้จักชื่อเพลงที่แท้จริงเรียกเพลงเขมรพวงไปตามบทร้องว่า “ เขมพระปทุม”
    ประมาณ พ.ศ.๒๔๖๐ - ๒๔๖๒ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ได้ทรงนิพนธ์ขยายขึ้นเป็นอัตราจังหวะสามชั้น โปรดให้จางวางทั่ว พาทยโกศล แต่งชั้นเดียวต่อจนครบเป็นเพลงเถา ทรงเขียนเป็นโน้ตสากลประทานให้กองดุริยางค์ทหารเรือบรรเลงโดยวงโยธวาทิต มีทั้งทางร้องและทางดนตรีทั้งเที่ยวต้นและเที่ยวกลับอย่างละ ๒ เที่ยวไม่เหมือนกัน จึงต้องร้องทั้งเถายาวถึง ๑๒ ท่อน ใช้เวลาบรรเลงนานมาก บทร้องโปรดให้นางเจริญ พาทยโกศล ตัดตอนมาจากบทเสภาเรื่องขุนช้าง ขุนแผน ตอนขุนแผนขึ้นเรือนขุนช้างแล้วชมม่านฝีมือวันทอง ทางร้องทรงพระกรุณาต่อประทานคุณหญิงไพฑูรย์ กิตติวรรณ ด้วยพระองค์เอง
    ราว พ.ศ.๒๔๖๐ หลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) ได้นำเพลงเขมรพวงมาแต่งขยายขึ้นเป็นอัตราจังหวะชั้น ให้มีสำนวนทำนองเป็นทางกรอสำเนียงเขมร แบบเดียวกับเขมรเลียบพระนคร และเรียกชื่อตามของเดิมว่า “เพลงเขมรพวง” แม้เพลงนี้จะแต่งภายหลังเพลงเขมรเลียบพระนครแต่ก็เป็นเพลงทางกรอที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายที่สุด ยิ่งกว่าเพลงใดๆ ในบรรดาเพลงทางกรอของหลวงประดิษฐไพเราะ และถือเป็นแบบฉบับของเพลงประเภททางกรอ
    เมื่อราว พ.ศ.๒๔๖๔ สมัยที่นิยมร้องเพลงเถากันโดยทั่วๆ ไป หมื่นประคม เพลงประสาน (ใจ นิตยผลิน) ได้คิดตัดแต่งจากอัตราจังหวะสองชั้นของเดิมลงเป็นอัตราชั้นเดียว ครบเป็นเพลงเถา โดยทางร้องชั้นเดียวนั้น นายเหมือน ดูรยประกิต เป็นผู้คิดขึ้น.
    - บทขับร้อง -
    บทขับร้องนี้นำมาจากบทเสภาเรื่อง ขุนช้างขุนแผน ตอน พลายแก้วเป็นชู้กับนางพิม.
    - สองชั้น -​
    เจ้างามปลอดยอดรักของพลายแก้ว
    ได้มาแล้วเจ้าอย่าผลักให้กลับหนี
    พี่ยอมตายไม่เสียดายแก่ชีวี
    แก้วพี่อย่าพึ่งพร่ำรำพันความ
    พี่ผิดพี่ก็มาลุแก่โทษ
    จงคลายโกรธแม่อย่าถือว่าหยาบหยาม
    พี่ชมโฉมโลมลูบด้วยใจงาม
    ทรามสวาทดิ้นไปไม่ใยดี
    - ชั้นเดียว -​
    รอยเล็บแม่จึงเจ็บด้วยหยิกต้อง
    ขัดข้องเพราะเจ้าปัดสลัดพี่
    ค้อนควักผลักพลิกแล้วหยิกตี
    ถ้อยทีถูกข่วนแต่ล้วนเล็บ.
    (ที่มาประวัติเพลง : บล็อกโพส เมฆลอย)
    ที่มาภาพถ่ายครูนฤพนธ์ ดุริยพันธุ์ : อาจารย์อานันท์ นาคคง
    เทปคาสเซ็ท​ เพลงไทยเดิม นฤพน​ธ์​-สุรางค์ ดุริย​พันธุ์​ ชุด บุหลัน
    บริษัท กมลสุโกศล จำกัด KCS.๔๔
    สำเนาเสียงจากเทปคาส​เซ็ท​ : ฉ​ั​ต​รกร​ เกตุ​มี
    เพื่อการเผยแพร่อนุรักษ์​เพลงไทย​ใน​การศึกษา​ มิได้มีเจตนาละเมิดลิขสิทธิ์และแสวง​หารายได้
    ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ : / @deklenkhimchannel7019

ความคิดเห็น •