That comment might be a bit too generic. I teach in a STEM program and students there can match up against their foreign counterparts. The only catch is that there are only so many Thai people wanting to do a STEM grad program each year. The bulk majority of students are foreign. This is the case elsewhere, such as at Mahidol Uni, as well
สังคมไทยไม่น่าจะมีปัญหากับใบปริญญา แต่มีปัญหากับจริยธรรม
ทรานสคริป ใบรบ.มหาลัย
ประเด็นไม่ใช่ความเป็น ดร. ศจ. แต่คือความซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมาของคนที่จะมาเป็น สว. ถ้าเริ่มต้นด้วยการหลอก เรื่องมั่ว เรื่องไม่จริง. แล้วต่อไปเขาจะมีพฤติกรรมอย่างไรในกาทำหน้าที่ที่สำคัญ
เข้าไปกินแตงโมหวานอร่อยดีนะซื่อๆตรงๆมันจะดูแปลกปลอม😊
เป็นการเอาเปรียบหรือการปล้นโอกาสของคนอื่นที่เขาเรียนจริง หรือที่เขาไม่มีเงินซื้อ
ศร. ไม่ใช่ ศจ😂
ถูกอบรมสั่งสอน "ต้องเป็นเจ้าคนนายคน" ต้องทำแบบอย่างที่บรรพบุรุษ เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า โดยไม่บอกว่าได้มาอย่างไร
ใช่เลยครับ
ค่านิยม มันไม่ได้เกิดจากประเทศไทยนะ ค่านิยมเนี้ยฝรั่งเป็นคนคิด และในต่างประเทศทั่วโลกและทั่วทั้งจักรวาลและกาแล็กซีนี้ เราเอาค่านิยมของฝรั่งมาใช้ ในเรื่องของวุฒิการศึกษา
ใช่ และ ""แข่งกันแต่งตัวให้ดูดีของกินของใช้หรูหรา...เมื่อใช้เงินเยอะก็หารายได้หลายๆทางโดยไม่สนใจถูกผิด....
วุฒิการศึกษามันไม่สำคัญกับคนที่มีเส้นมีสายหรอกครับ เพราะงานมีรออยู่แล้วแค่ไปซื้อหาใบประกาศมาอ้างนิดหน่อยก็ทำงานได้แล้ว แต่สำหรับคนจนหรือไม่มีเส้นต้องเรียนให้หนักเพื่อได้ใบปริญญาไปต่อสู้กับคนเป็นหมื่นเพื่อจะได้งาน
จริงครับ
ต้องลงโทษคนที่ใช้วุฒิปลอมเพื่อชวนเชื่อให้ได้ประโยชน์ เป็นเยี่ยงอย่าง
สังคมไทยตอนนี้จับทางได้แล้ว ว่าอาชีพที่ยั่งยืน มีกินมีใช้มีเกียรติ มีคนคนนับหน้าถือตา และไม่มีทางจน มีแต่ความร่ำรวย ก็คืออาชีพการเมือง ดังนั้นจึงพยายามแสวงหาการได้มาซึ่งวุฒิทางการศึกษา เพื่อต่อยยอดในอาชีพนี้ ส่วนวุฒิภาวะนั้นไม่จำเป็นในอาชีพนี้
เกียรติ ชนชั้น
ฝังรากในสังคมไทย
ใช่เกาะกินภาษีปชชสุขสบายเป็นกอบเป็นกำ😊
นักการเมืองถึงอยากให้ลูกหลานสืบทอดอาชีพนัักการเมือง เพราะห็นแจ้งแล้วว่าไม่มีงาน ไหนดีเท่า
รู้มั้ยว่าคนที่กว่าจะได้ศาสตร์ตราจารย์ ใช้เวลาครึ่งชีวิตกว่าจะได้มา มันแสดงให้เห็นว่าเค้าพยายามและเก่งแค่ไหน
แล้วจู่ๆมีคนๆนึงใช้เวลา3ปีเพื่อสร้างตำแหน่งปลอมเข้ารับราชการเผ็นสว.ที่ต้องบริหารประเทศ แค่เข้ามาก็ปลอมแล้ว
ค่านิยมสังคมระบบอุปถัมภ์ มักต้องแสดงสถานะให้ดูสูงกว่าคนอื่นๆ
คนไทยควรกล้าคิด กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง เป็นประโยชน์ต่อสังคม
สนับสนุนคนดี ที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนร่วม
เอาพวกเอาพ้องไว้ก่อน
ครวยคับ
เง่าจังมีแต่ไว้อวด
รายนี้เป็นเพียง 0.01% สั่งตรวจสอบดูสิ พวกนักการเมืองทั่งระดับชาติ ท้องถิ่น พวกมียศตำแหน่งนำหน้า
รักคุณครูจุ๊ยมากๆได้พบตัวจริงแลัวรู้สึกอบอุ่น มีจิตใจสมเป็นครู อนาคตเมื่อประทศไทยเปลี่ยนได้ ขอให้ได้เป็น รมต.กระทรวงศึกษาธิการ และขอให้ได้แต่งงานกับคนที่ดีจริงๆและมีครอบครัวที่มีความสุขมากๆ
การเรียน เป็น ระดับ ขั้นตอนไป เพื่อ ที่จะ พัฒนา ความคิด และมันสมอง และ หน้าที่ที่ตน ควร วางตัว ในสังคม และการปฏิบัติ และใช้ความคิด เป็น ระดับขั้นตอน
จริงแล้วไม่ใช่แค่ปริญญา เป็น มากกว่า จริงๆ
กรณีเรื่องที่ดังอยู่ในขณะนี้ เรามองว่าเป็นเรื่อง “จิตสำนึกของตัวบุคคล” มากกว่าสิ่งอื่นใด
ใบปริญญากินไม่ได้ แต่มีไว้อวด เปนใบเบิกทาง สำหรับสายราชการ
เก่ง เข้าใจ มีหลักคิดที่่ดี มีอนาคต แต่เสียดาย ไม่มีโอกาสในการได้ทำงาน
แนวคิดวิเคราะห์ เสนอ ของครูจุ้ย work มากๆ
เน้นวุฒิป.ตรี ไม่พอ อายุเกิน35 40 เริ่มหางานยากแล้ว จะเอาแต่อายุน้อยๆเน้นประสบการณ์ จะไปหาที่ไหนวะ
มันเป็น Norm ทางสังคมค่ะ ลองคิดดูว่าหากจะพิจารณาเลื่อนขั้นแต่เราจบไม่สูง ซึ่งมีผลงาน ทำงานเก่ง ทุกอยากครบ ขาดแต่วุฒิมารองรับ เทียบกับคนที่จบสูงจะโดนเปรียบเทียบอยู่แล้ว เราเอาเกณฑ์นี้มาชี้วัดความเก่งนานล่ะค่ะ ถ้าจะเปลี่ยนคงอีกซักพัก เพราะความเข้าใจว่ามันเป็นตัวชี้วัดคุณสมบัติบางอย่าง แต่ในการตรวจสอบก็ยากตามค่ะ ด้วยบางครั้งเขาพูดให้เราฟังเราจะไปเช็คที่ไหนว่าสิ่งที่เขาพูดจริงไม่จริง
รักครูจุ๊ยค่ะ เข้าใจพูด ฉลาด
เรื่องนี้มันปลูกฝังกันมานานแล้ว ยังมีอีกหลายเรื่อง ในสังคมนี้
ผมจบ ปวส. แต่ผมต้องไปนั่งเป็นล่าม แปลภาษาอังกฤษ ให้เจ้านายฝรั่ง. ไปนั่งแปลให้ ผู้จัดการสินเชื่อ ของธนาคารใหญ่....กรูงง เป้นถึง ผจก. สินเชื่อน่าจะจบปริญญาแน่นอน...แต่พูดสื่อสาร ภาษาอังกฤษไม่ได้เลย !!!!
เคยเห็นแบบนี้เหมือนกัน ขนาดด๊อกเตอร์พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ก็มี
@@kedsudaratchadawisitkul887 เป็นเพราะ "ระบบการศึกษาไทย..สอนให้คนไร้การศึกษา "
สังคมไทยบ้าใบปริญญาไม่เกินความจริงเลยค่ะ ครูใหญ่ปัจจุบันนิยมเรียกผอในโรงเรียนประถมศึกษาต่างจังหวัดเป็นโรงเรียนเล็กๆประจำหมู่บ้านจบ ดร
พอเห็นเส้นทางที่ได้มาของปริญญาเอกนั่นแล้วก้อถอนหายใจ ผอ จบปริญญาเอกเด็กๆในโรงเรียนมีพัฒนาการทางการเรียนดีขึ้นมั๊ย ไม่เลยตามมีตามเกิดของเด็กบ้านนอกเหมือนเดิม แต่ ผอ ขยันหาโครงการมาเรี่ยใรเงินผู้ปกครองและชาวบ้านบ่อยมาก
สว.ดร.นันทนา นันทวโรภาส ของแท้ของจริงไม่ปลอมสมศักดิ์ศรีคำว่าผู้ทรงคุณวุฒิ
ถ้าเรียนจริงจบมาจริง ก็ไม่มีปัญหาหรอก
เมืองนอกเน้นทำงานไม่เน้นวุฒิ เน้นวุฒิเฉพาะสายงานวิชาการ
นี่ราชการนะเห้ย ใช้วุฒปลอม สมควรเหรอ
ก็จริงอยู่อ่ะคับ แต่เขามีคนสำเรจกาศึกษาขั้นพื้นฐานหรอภาคบังคับมากกว่าเรา เขาจึงเจริญได้ด้วยคนมีการศึกษาทัดเทียมกัน และสตีฟจ้อบ และซัคเคอร์เบิรกก็ไม่ได้รู้ทุกเรื่อง เขายังจำเป็นต้องจ้างคนจบสาขาต่างๆมาช่วยงาน ไม่งั้นก็ไม่เติบโตได้ขนาดนี้
เค้าก็เน้นนั้นละแต่ไม่มากเท่าพี่ไทย
เค้าก็เน้นวุฒิ สำหรับคนมีเงิน และสมองดี ก็อยากเรียนฮารเวิรด พริ้นสตัน เยลล์ mit, ucla, nyu,
ไอที่คุณว่าเขาจบปวส กันทั้งนั้นนะ เยอรมันถ้าเกรดไม่ได้มากกว่า3ไม่ได้เข้ามหาลัยนะครับ เมกาถ้าไม่เก่งก็เข้าไม่ได้
เป็นรายการที่ดี ปัญญาชนเข้าใจ แต่รากหญ้าจะงงเหมือนไปด่าพวกเขา๕๕๕
ก็สำคัญแหละ แต่ต้องผ่านกระบวนการเรียนการสอบที่ถูกต้อง จากสถาบันที่ถูกรับรองเท่านั้น สมัครงานยังงัยก็ต้องใช้ทั้งในและ ตปท
พี่ชายเราก็เรียนจบปริญญาโทจากอเมริกา
ได้ตำแหน่ง ศาตราจารย์
เพราะตัองทำผลงานทางวิชาการให้ผ่านก่อน
กว่าจะได้ตำแหน่งศาสตราจารย์
ไม่ใช่เรื่องง่าย. สำหรับคนที่ร่ำเรียนมาจริงคะ
คุณ สองคุณ พูดถูกค่ะ
คิดถึงครูจุ๊ย
จำแว่นนี้ได้ตลอดช่วงอนาคตใหม่ รอเข้ามาคืนพร้อมธนาทร
ก้าวไกล ออกรายการทุกรายการทุกคนออกสื่อหมด พูดคุยทุกปัญหา ฝั่งรัฐบาลไม่ค่อยเห็นมีใครถูกรับเชิญมาพูดคุยถกปัญหาเลย เพราะอะไร
รัฐบาล soft brain.
ดูชื่อเจ้าของสื่อสิครับ
เชิญแล้วไม่กล้ามาครับ น้ำท่วมปาก
สังคมไทยเป็นสังคมอุปถัมภ์ การทำงานรับราชการยึดถือวุฒิทางการศึกษมากกว่าความสามารถ(เรียนเพื่อเป็นเจ้าคนนายคน) ดังนั้นการได้วุฒิทางการศึกษาจึงจำเป็น เอาแต่ใบกระดาษ เพื่อประกอบการเข้าสู่ระบบอุปถัมภ์
สังคมศักดินา จบมหาลัยชั้นนำ แต่สร้างนวัตกรรมไม่ได้อยู่ในเซพโซนระบบราชการ และรัฐวิสาหกิจ
คำถามแรกที่ผมโดนถามตอนสมัครงานที่ต่างประเทศคือ คุณทำอะไรได้บ้าง? ทำเงินหรือทำงานส่วนไหนให้เขาได้บ้าง? อันนี้ทำได้ไหม? เรื่องวุฒิเขาดูเฉพาะแค่ที่ผ่านqualificationของเขา เขาไม่ได้สนใจเลยด้วยซ้ำว่าเรียนที่ไหนมา เกรดดีมั้ย ผมแนะนำให้เรียนเพื่อเอาความรู้ ไม่ใช่เรียนเอาวุฒิเท่านั้น😂😂😂
ครูจุ๊ย สุดยอด 👍🧡🧡🧡🧡
มีฝรั่งคนหนึ่ง เขาจบ oxford แต่มาเป็นครูสอนโรงเรียนนานาชาติที่ไทย แถวบางนา เพื่อ มีวันหยุดเยอะ ใช้ชีวิตอิสระ ขี่ BigBike ท่องเที่ยวต่างจังหวัด หรือปิดเทอม ได้ไปต่างประเทศ ไม่ใช่แค่เที่ยว แต่ เพื่อจิตอาสา ไปช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยอย่าง
เช่นตอนพายุเข้าทำลายประเทศฟิลิปปินส์ เขาก็ ไปฟิลิบปินส์ หรือ ครูฝรั่งเศส ใช้วันหยุดในการ ทำ เหมือน pilgrim เดินจากเกาะเหนือ ถึงเกาะใต้ ที่ NZ พวกเขาเรียนมาเพื่อ เป็นครู หาเลี้ยงชีพ และ อิสระในการใช้ชีวิต ไม่ได้มุ่งหาเงิน หาเกียรติ หาอำนาจซึ่งมัน ปลอม
😊....ใช้ค่ะ..มันเป็นกระบวนการ หล่อหลอม.ให้เกิดนักวิจัยที่มากประสปการณ์ ..ซึ่งนำคุณประโยนช์.มาสู่ประเทศชาติ..😮..เพื่อนำไปพัฒนาประเทศชาติของเรา😊
หนูชอบฟังครูจุ๊ยคุยเรื่องการศึกษา ได้มุมมองใหม่ๆทุกครั้งเลย
มีเยอะ ตะเกียกตะกาย ทำได้ทุกอย่างให้ได้ปริญญา ตำแหน่งและยศ
ผมไม่เห็นว่าคนที่จบด็อกเตอร์บางคนไม่เห็นมีประโยชน์เก่งแต่เขียน/พูดแต่ทำงานภาคสนามไม่ได้เรื่องผมเคยท้าบรรดาด็อกเตอร์ที่สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งบรรดาด็อกเตอร์แต่ละคนขึ้นบรรยายจะพูดไทยปนฝรั่งพอให้โอกาสถามผมจึงถามว่าในฐานะผมเป็นชาวนาท่านไม่ต้องพูดไทยปนฝรั่งเหมือนกินขนมปังจิ้มกะปิจะพูดไทยหรือฝรั่งก็เอาอย่างใดอย่างหนึ่งถึงแม้ผมเป็นชาวนาก็ฟังรู้เรื่อง มีด็อกเตอร์คนหนึ่งคงหมั่นใส้ผมจึงเชิญผมออกมาหน้ากระดานและพูดว่าคุณลองเขียนลองดูไม่ใช่เก่งแต่พูด/ฟังเหมือนเมียเช่าฝรั่ง ผมจะบชอล์กแล้วบอกคุณพูดมาเลยผมจะลากภาษาอังกฤษให้ดู ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรผมเขียนได้หมดแล้วพูดต่อว่าผมชาวนาทำได้เหมือนคุณแต่ผมขอท้าบรรดาด็อกเตอร์ทั้งหมดทำแข่งกับผมไหมโดยเอาจอบขุดดินคนละเล่มขุดที่สนามนิด้านี่แหละเริ่ม8.00-15.00พักเที่ยง1ชั่วโมงใช้เวลา7วันใครจะแข่งกับผมปรากฎว่าเงียบจนคุณหญิงอัมพร มีสุขที่นั่งอยู่ข้างๆผมตบเข่าผมฉาดใหญ่และประกาศว่า คนนี้เพื่อนฉันเอง
ด๊อกเตอร์เมืองไทยหลายๆคนพูดและเขียนภาษาอังกฤษไม่ได้ ถ้าให้พูดก็จะได้คะแนนเท่าหมอเกศกมล ส่วนมากถ้ามีเงินปรนเปรออาจารย์ที่ปรึกษา ก็จบง่ายดายเวลาให้ทำงานจะรู้เลยว่าไม่มีความรู้ไม่ทักษะอะไรเลย
ก็เหมือนให้วิศวกรไปผสมปูน ตอกเสาเข็ม สร้างอาคารอะ จะปฏิบัติเก่งเท่าช่างก่อสร้างที่ทำมาทั้งชีวิตไหม ในทางกลับกันการประเมินโครงสร้างของอาคารต่างๆให้มีความปลอดภัยช่างก่อสร้างจะทำได้คุณภาพเท่าวิศกรไหม แต่ละอาชีพล้วนมีทักษะที่ต่างกัน ทุกๆอาชีพมีความสำคัญเหมือนๆกันหมด อย่าดูถูกกันเองเลย
พูดความจริงโดนใจผมมาก ครับเรื่องเกี่ยวกับเด็ก
ติดตามครูจุ๊ยครับ
ประเดนตราม่าหมอเกศไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรมันมีแบบนี้มานานแล้วไม่มีคนที่พอเพีนงสำหรับการให้โอกาศแก่ตัวเองถ้ามีช่องทางทำได้เพราะคนทุกคนรักตัวเองทั้งนั้นโทษเขาไม่ได้หรอกเพราะเขามีกำลังพออนาคตที่สดใสไร้อุปสรรคขวากหนามย่อมเป็นที่ต้องการของชีวิตเพราะฉนั้นโทษหมอไม่ได้ในเมื่อมันมีหนทางให้ทำได้และไม่ผิดกฎหมายเพีนงแต่คนไทยรับไม่ได้เท่านั้นเองคนที่ไม่มีปัญญาก็อดอิจฉาเสียไม่ได้นี่คือสังคมไทย
ครูจุ๋ยให้ข้อมูลเห็นภาพอุปสรรคต่างๆที่เป็นสาเหตุให้ประเทศพัฒนาไปช้ากว่าที่เป็น เราควรพัฒนาการเมืองไทยให้เหมือนประเทศที่พัฒนาแล้วเช่นกัน เพราะเขาเข้ามาบริหารบ้านเมือง เขาเป็นผู้ที่เข้ามาวางนโยบาย ในทุกมิติ แค่เส้นทางที่เขาเข้าสู่เส้นทางการเมืองก็ยังซื้อเสียง ไม่คัดสรรคุณภาพของนักการเมืองว่าเหมาะสมที่จะมานำประเทศไปสู่การพัฒนาที่ดีได้ มันก็เป็นอีกหนึ่งทางตันในการพัฒนาประเทศ
การศึกษา ไม่ใช่ทางเดียวที่สำคัญที่สุด เป็นใบเบิกทางอยู่ในโลกกว้างเท่านั้น แต่ความซื่อสัตย์เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในสังคมไทยทุกคน
สวัสดีครับครูจุ๋ย ไกลบ้าน
รอกลับคืนพร้อมธนาทร
สังคมที่นิยม "คำนำหน้า"
บางคนมีไว้อวดกัน จ่ายครบจบแน่ คุณภาพก็ตามสภาพ
ประเด็นว่า คนอยากมี อยากเป็น แต่ไม่กระทำตนพัฒนาตน คือ ขี้เกียจ ขี้คร้านที่จะเรียน
เราเคยได้ยินคำพูดนี้ไม่รู้จริงไหม คนที่จบดอกเตอร์จะมั่นใจในตัวเองสูง คิดว่าตัวเองเก่ง ใครพูดแนะนำอย่างไรไม่ฟัง ยกเว้นพระกับหมอดู
พระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบคนไทยต้องฟังแล้วนำไปคิดดู ส่วนคนที่ไปเชื่อหมดดูคนเขาเรียกว่า"ไอ้โง่งมงาย"
มันการันตีว่าคุณ มีความรู้ ขยัน อดทน มีความรับผิดชอบในระดับหนึ่ง
ฟังแล้วเสียดายโอกาสคนในประเทศจัง คือ จะทำได้หรือเปล่า อาจจะยังไม่รู้ แต่อย่างน้อย มันดูมีแนวทาง มีแนวความคิด มีเป้าหมายว่าจะทำอะไร
ใบปริญญาไม่ได้เปลียนหมาให้เป็นคน.555
"จบปริญญาจะได้เป็นเจ้าคนนายคน " "ปริญญาเป็นใบเบิกทางเรียนให้จบไปเหอะ" ได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆเลยผู้ใหญ่ชอบพูดกันแบบนี้ แต่ไม่มีใครเคยบอกเลยว่าหลังจากได้มาแล้วต้องทำอะไรต่อ
สถาการณ์ ป.โท-ป.เอก ในบ้านเราอยู่ในสภาวะวิกฤตไม่ต่างกับการศึกษาภาคบังคับ หรือ ป.ตรี เลยครับ
ประเทศไทยให้ privilege กับใบปริญญา มากกว่าคำว่า ดร. มากกว่าองค์ความรู้ที่ได้รับจากการเรียน(การทำ)
แถมยังมี ป.โท-ป.เอก อีกกลุ่มที่ดูจะเป็นส่วนใหญ่ของบ้านเราที่คิดว่าเรียน postgrad เพื่อหา connection (rather than gaining knowledge from experience sharing via their own experience) แล้วไม่วายชุดความคิดนี้ก็โดนแพร่กระจายมาที่สายอื่นๆ
ซึ่งส่งผลให้คุณภาพและความเข้มข้นทั้งการเรียน coursework และกระบวนการทำวิจัยมันถดถอยเพื่อให้ fit กับความต้องการของคนส่วนใหญ่
That comment might be a bit too generic. I teach in a STEM program and students there can match up against their foreign counterparts. The only catch is that there are only so many Thai people wanting to do a STEM grad program each year. The bulk majority of students are foreign. This is the case elsewhere, such as at Mahidol Uni, as well
เราจบแค่ High school แต่อยากฟัง😊
ที่เรียน ป.ตรี ครับ 1. เรียนเพราะสารงานที่อยากทำจริง 2. เพื่อครอบครัว 3.สารงานตั้งการเรียนให้จบป.ตรี
คนที่เรียนจบโทจบเอกมาจริงๆ มันก็น่าชมเชยจริงๆ เพราะมันไม่ใช่เรียนกันง่ายๆ ถ้ามีวุฒิจริงๆก็ไม่ผิดเลยถ้าเขาจะภูมิใจในตัวเอง แต่ปัญหาคือพวกปลอมวุฒินี่แหละ แล้วถ้าพวกองค์กรหน่วยงานต่างๆยังหลับหูหลับตาอีก จริยธรรมก็ไปหมดสังคมไทย
คนรวยอวดโก้ คนโง่อวดฉลาด คนขลาดอวดกล้า คนบ้าอวดดี ลองสำรวจตัวราเองว่าอวดอะไรอยู่รึเปล่า อวดสิ่งใดอยู่แปลว่าเราขาดแคลนสิ่งนั้นในใจของเราเอง ขาดมากจนทุกข์กลัวคนอื่นๆจะมองว่าเราขาดไม่มีสิ่งนั้นจึงดิ้นรนแสวงหาสิ่งนั้นมาอวดแม้ปลอมก็ยอม
แว่นตาสีส้มเก๋ไก๋มากๆเลยคะ😊
คนที่มีทักษะด้านอาชีวะที่เชี่ยวชาญ ควรได้รับปริญญาเอก
มันต้องแก้ให้เป็นเหมือนต่างประเทศ ที่ใครจะรับจ้างงานฝีมืออะไร ต้องมีใบรับรองฝีมือ
แค่นี้ ต่อให้จบอาชีวะ ก็มีใบรับรอง/ปริญญาได้แล้ว
ดุษฎีบัณฑิต ถ้ามีของมากพอ เดี๋ยวก็ได้เสนอชื่อ
นักศึกษาไทยเรียนจบมาไม่มีงานทำ นักศึกษาต่างประเทศทั่วโลก จบมาก็ไม่ได้น้อยกว่าประเทศไทยไม่มีงานทำเหมือนกันครับ ไปเปิดหาดูได้ทั่วโลกก็จะรู้ความจริงว่าไม่มีชาติใดในโลกนี้ที่กำหนดว่าจะให้นักศึกษาเรียนคณะนั้นคณะนี้จำนวนกี่คนตามความต้องการของตลาดไม่มีครับ และไม่มีมหาวิทยาลัยไหนหรือรัฐบาลของประเทศใดบนโลกนี้ ให้หลักประกัน ของการมีงานทำให้กับนักศึกษาที่จบการศึกษาได้ครับ ไม่ทราบว่าพวกท่านที่กำลังบ่นดูถูกประเทศตัวเองอยู่เนี่ยเคยไปศึกษาต่างประเทศไหมครับว่านักศึกษาที่จบใหม่ในแต่ละประเทศเนี่ยไม่มีงานทำกี่คน พวกท่านไม่เคยศึกษาดู ไม่มีคนไทยตัวไหน ไปทำสารคดี เกี่ยวกับนักศึกษาที่กำลังจะจบใหม่ ไม่ว่าจะในอเมริกาอังกฤษหรือยุโรป ว่าพวกเขาเหล่านั้นจบมาแล้วมีงานทำหรือไม่ มีแต่พวกนั่งเสกนั่งบ่นด่าประเทศตัวเอง Project วิจัยที่ผมแนะนำนะไอ้พวกที่เรียนจบปริญญาตรีหรือจะจบปริญญาเอกนะไม่ต้องไปศึกษาอะไรเยอะไปต่างประเทศไปศึกษาดูซิ ประเทศไหนก็ได้ที่ว่าเอาแจ่มๆอ่ะ ไปวิจัยดูซิว่าประเทศเขานักศึกษาจบใหม่มีตกงานบ้างหรือไม่ หรือเรียนจบไปแล้วไม่มีงานทำบ้างหรือไม่
ไม่มีประเทศใดบนโลกใบนี้ทั้งจักรวาลและกาแล็กซีนี้ ที่สามารถให้หลักประกันของการมีงานทำของนักศึกษาที่จบใหม่ และไอ้คำว่า ให้นักศึกษาไปเรียน ตามคณะหรือตามที่ตลาดต้องการ มันไม่มีมหาวิทยาลัยไหนทั่วโลกทำได้ครับ ทั่วประเทศทั่วโลกนักศึกษาที่เรียนจบใหม่ๆตกงานเยอะครับ จำนวนคนที่เรียนจบคณะที่ตลาดต้องการมีมากเกินความจำเป็น บางคณะมีความประสงค์ให้เรียนกันได้น้อยๆจบกันได้น้อย จะได้อัพเงินเดือนสูงๆเช่นพวกหมอพยาบาลแพทย์ ลองในมหาวิทยาลัย จุฬาธรรมศาสตร์นำร่องก่อนเลย เปิดรับแบบไม่อั้นโดยไม่ต้องสอบสิ มีหรือคนไทยจะไม่ไปเรียน เชื่อได้ถ้าทำแบบนั้นไอ้พวกห่านี้ออกมาโวยวายตายห่า เพราะถ้าคนจบแพทย์หมอพยาบาลเยอะ เงินเดือนที่เคยได้กันมากๆแบบ Over over มันก็จะตกฮวบ ไม่เชื่อประเทศไทยนำร่องก่อนเลยเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาใหม่ เรียนแพทย์หมอพยาบาลไม่ต้องสอบ รับรองคนไปเรียนเพียบ อาจต้องนั่งขี่คอกันเรียนถึง 3 ชั้นน่ะ แต่ทำไมไม่ทำเพราะข้ออ้างมันเยอะ และก็ใช้หลักค่านิยมตามฝรั่ง
มีครับ เป็นบัณฑิตกิติมศักดิ์ของมหาวิทยาลัยชั้นนำ เรียกง่ายๆว่า"ปราชญ์ชาวบ้าน" รู้จริง เก่งจริง ใช้ความรู้ช่วยชาวบ้านให้มีวิชาชีพ
การศึกษาต้องมีระดับมาตรฐานขั้นพื้นฐาน
การทำงานต้องมีการทดสอบภาคปฏิบัติ ในความรู้ความสามารถเบื้องต้น
สังคมไทยมีแต่คนพูดไม่มีคนทำ
กรณีดังกล่าว เป็นกระจกสะท้อนให้เห็นจึงสภาพของสังคมไทย
จบอะไหร่ๆมากัต้องชื้อตําแหน่งค่ะ
เรื่องนี้เป็นเรื่องร้ายบุคคล วิเคราะห์ในระดับมหภาคยาก
เป็นกระบวนการชุบตัวว่าประสบความสำเร็จ ด้วยวิธีการซื้อวุฒิ โพสเที่ยวต่างประเทศ ขับรถหรู กระเป๋าแบนด์เนม โมหน้า
ถ้าจะลองไปทำสกู๊ป
"วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร"
อยากจะรู้เหมือนกันว่าป้องกันราชอาณาจักรไหน ยังไหง
สมัครงานเค้าจะถามว่าจบอะไรมา
ไม่ค่อยถามว่าทำอะไรได้บ้าง ถึงแม้ทำได้ แต่ไม่มีวุฒิก็จบเค้าไม่รับ
พูดได้ดี
🧡🧡🧡🧡🧡🧡
น่าสังเวช มีบางคนจบปริญญาเอกจากอินเดีย พูดภาษาอังกฤษแทบไม่ได้เลย บอกได้แต่ชื่อกับนามสกุล แต่เวลาพูดใช้สรรพนามแทนตัวว่า "ด็อกเตอร์" เช่นพูดกับเด็กใน สนง.ว่า *ชงกาแฟให้ด็อกเตอร์แก้วสิ" แม้แต่พูดโทรศัพท์ก็จะพูด "ฮัลโหล นี่ด็อกเตอร์........พูดนะ" ภาษาแถวบ้านขอบอกว่า *กรูไค่ฮาก"
แล้วไปเรียนเขาพูดภาษาอะไรสมอง😅
ปัจจุบันคอร์สออนไลน์ทันโลกมากกว่าระบบการศึกษาในมหาวิทยาลัยมากครับ แต่เพื่อการได้รับจ้างงานที่แน่นอนจึงจำเป็นต้องมีวุฒืที่จบมา แล้วทักษะที่จำเป็นกับอาชีพนั้นค่อยไปหาศึกษาต่อข้างนอกเอา 555
ปัญหาจะคลี่คลาย ถ้า คนไทยเคารพนับถือตนเอง หากมีกม.เพื่อความเสมอภาค ห้ามระบุคำนำหน้านามทุกเรื่อง ไม่ว่า ชาติ วุฒิการศึกษา ยศ ให้ระบุท้ายชื่อแทน เฉพาะกรณี เช่น ตร. ทหาร. นอกราชการ , ดร. ศ.รศ ผศ. เฉพาะเมื่ออยู่ในวงการเดียวกัน ,เปรียญ นักธรรม , กรณีที่เป็น กิติมศักดิ์ ห้ามแสดง หากอยากแสดง ต้องระบุ กิติมศักดิ์ให้ชัดเจน ..จะได้บ้าง
ไม่จำเป็น แต่สำคัญ
คนที่เข้าใจระบบการศึกษามากที่สุด..เสียดายโอกาสประเทศหมดโอกาสทางการศึกษา
ใบปริญญาไม่ใช่ปัญหา แต่การตรวจสอบวุฒิที่ได้มา สามารถทำได้อย่างถูกต้องนั้นทำอย่างไร เข้าถึงการตรวจสอบได้ยาก-ง่าย เร็วหรือช้า มันสำคัญตรงนี้
ต้องเอาคำอ.ปวิน ในรายการจข. คือ พอมีไตเติ้ล หรูๆเท่ๆ ดร ศจ เท่ากับสำเรดไปแล้ว ในสังคมไทยให้ค่าปานนั้นเลย ได้รับการยอมรับ
เติมอีกหน่อย.. จิงๆมึงก้เก่งเฉพาะเรื่องนั้นๆเท่านั้นๆ อีห่า ! 😂
จบ ปวส. สามารถไปต่อ ปริญญาตรีวิศวกรรม ได้ที่ เทคโนโลยีพระจอมเก้า ใช้เวลา 2 ปี
แบบนี้มีมานาน 50 กว่าปีแล้ว คนที่สอบเข้าได้ จะได้เข้าไปเรียนปีที่ 4 (วิศวะ พระจอมเกล้า ปริญญาตรี หลักสูตร 5 ปี)
ค่านิยมเรียนจบมาสูงๆ จะได้เป็นเจ้าคนนายคน แต่บางคนก็ขึ้เกียจเรียนเลยใช้วิธีเรียนลัดเอา
การเรียนปัจจุบันมันฉาบฉวยมาก มันไม่เหมือนสมัยก่อนที่เรียนถึงรากจริงๆ มันไม่สามารถปรับได้หรอก เพราะฐานเราไม่แน่ เราเลยปรับใช้ไม่ได้ เราไม่รู้จริงในเรื่องใดเรื่องเดียวอย่างแท้จริง ปัจจุบันเด็กสอบ 3 รอบ ยังสอบไม่ผ่านเลย ส่วนนึงมันก็อยู่ที่เด็ก แต่ทักษะของอาจารย์คือต้องพัฒนาเด็กรึเปล่า เอาแค่รากฐานก่อน อย่าเพิ่งพัฒนาเลย
สาวแว่นส้ม ที่น่ารักจากความคิด
ใด้แนวคิดดีมากครับ
โดยส่วนตัวฟังแล้วสรุปได้สั่นๆว่า ต้นตอปัญหามาจากความเหลื่อมล้ำทางสังคม🤔
👏👏👏
ต้องดูความสามารถของตัวเองด้วย มีวุฒิเยอะ แต่ไม่รู้เรื่องอะไร จบนอกแต่พูดอังกฤษไม่ได้ มันหน้าขายหน้า จบกฎหมายแต่ไม่รู้กฎหมายอะไรสักอย่าง
ในสังคมคนธุรกิจขายตรง มีดอกเตอร์มากมาย ใครไม่จบดอกเตอร์ไม่ใส่สูตเสียงไม่ดัง ความเชื่อถือไม่มาก แต่ดอกเตอร์ที่ใช้กันในวงการขายตรง บางครั้งมันก็ล้นออกมานอกวงการ เข้าสู่งานราชการอย่างลืมตัว ผลมันจึงแดงออกมา เสียงหัวเราะจึงดังลั่นทั่วประเทศ เพรานักการเมืองสีตุ่นๆ ดึงมารับใช้ใกล้ชิด ในงานด้านการเมือง คนปกติทั่วไปจะมาทำงานเป็นมือไม้ของนักการเมืองไม่ได้ แต่นักการเมืองก็ไม่เลี้ยงใครจริง ถ้าพลาดก็เข้าคุกไปไม่ใยดี เอามาใช้เพื่อผลประโยชน์ที่เสี่ยงๆ ในระยะสั้นๆ เท่านั้น
ส่วนตัวแล้วคิดว่าการเรียนคือ การสร้างทักษะ (skills set) ที่สามารถ เข้าไปอยู่ในอีกสถานะ และผ่าน social filter เข้าไปได้ เช่น ในวงการวิชาการ มี publish or perish (ตีพิมพ์ หรือตาย) การตีพิมพ์ ก็คือการ break a glass ceiling. ในประเทศไทย มันคือการข้ามผ่าน ระบบ classism รึป่าว
ใบปริญญามันจะไม่สำคัญ ก็ต่อเมื่อ มีระบบการส่งเสริมการศึกษาตลอดชีวิต และการศึกษาเป็นสิ่งที่ทุกคนในสังคมเข้าถึงได้ง่ายค่ะ
สังคมไทยมีปัญหากับใบปริญญามากครับ คือทุกอย่างต้องใช้วุฒิแล้วก็วุฒิ แล้วคนที่เรียนสายอาชีพที่มีทักษะสูงเขาไม่จำเป็นต้องใช้วุฒิสูง ย้ำว่าเขาไม่ต้องใช้วุฒิที่สูงตามทักษะงานเขาแต่ สังคมไทยก็ติดเรื่องใบปริญญาไม่มีเปรียบเหมือนคุณเป็นคนโง่ เป็นแค่ชั้นชั้นแรงงานซึ่งไอ้การคิดแบบเนี่ยมันผิด คนที่เขาอยู่หน้างานเขาอาจจะเข้าใจมากการคุณ หลายๆเรื่องในตำรามันไม่มีสอนให้หรอกน่ะ มันเป็นประสบการณ์ที่ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง แต่ค่านิยมสังคมไทยมองแค่ตัวเลขกับใบปริญญาแล้วมันจะไปสะท้อนทักษะแรงงานยังไง ผมไปสมัครงานผมตอบคำถามสัมภาษณ์ได้เขาก็เล่าให้ผมฟังว่าเขาได้เด็กบริญญามาแต่ทำงานจริงไม่เป็น ความรู้พื้นฐานไม่ได้เลยอย่างเงี่ยไม่เรียกไร้ทักษะหรอมีแต่ใบวุฒิเพื่อเรียกเงินเดือนสูงๆ แต่คนที่มีทักษะฝีมือไม่มีใบวุฒิสูงแต่กลับได้เงินเดือนต่ำๆ
ถ้าพิธีกรรายการไหนยังเรียกแขกรับเชิญที่จบปริญญาเอก (จบจริงหรือซื้อก็ไม่รู้) ว่า 'ท่านด็อกเตอรฺ' อีก ก็ต้องเรียกแขกรับเชิญที่จบปริญญาโท, ปริญญาตรี ว่า "ท่านมหาบัณฑิต และ ท่านบัณฑิต" จึงจะเสมอภาค
การผลิตของมหาวิทยาลัย บัณฑิตต้องขายได้ ขายไม่ได้ควรมีโควต้าการผลิต
ที่จริงการอุดมศึกษาที่ระบบประกันคุณภาพควบคุม แต่เมืองไทยซะอย่าง อะไรก็ควบคุมไม่ได้
ข้อ 1 บ้านรวยอยู่เเล้ว ระดับเจ้าของกิจการ เจ้าของโรงงานเจ้าของบริษัท ขับเบ้นส์ อันนี้ วุฒิไม่สำคัญคับเเต่ ครอบครัว จะกระตุ้นผลักดันให้เกิดความอยาก ในการเรียน ในการมีวุฒิ คนกลุ่มนี้หลายคน เรียนสูง จบนอก เเละเรียนดี
ข้อ 2 ลูกชาวบ้านธรรมดา ไม่มีเส้นสาย อันนี้จำเป็นต้องมีวุฒิ
ข้อ 3 ลูกคนรวย ต่างจังหวัด เจ้าของที่ดิน 100 ไร่ อันนี้ ไม่จำเป้นต้องมีวุฒิ รอสืบทอดมรดก
ข้อ 4 ลูกคนรวยในตัวเมือง ลูกนักการเมือง มีทุน 300ล้าน เปิด เว็ปพนัน เดือนเดียว ได้กำไร 500ล้าน วิ่งเต้นเส้นสายจ่ายส่วย อันนี้ไม่จำเป้นต้องมีวุฒิ
การศึกษา...ได้ตั้งแต่เข้ามหาลัยแล้ว ซื้อข้อสอบก็ได้ อเคยเป็นข่าวระดับปท คนเรียนหมอมีภาษาอังกฤษมากมาย ทำไมแนะนำตัวยังไม่ผ่านเลย
การศึกษาไทยกว้างขวางมากมาย สาวโรงงานและ รปภ. สอบได้เป็นศาล และตำแหน่งราชการหลายคน ดังนั้น การศึกษาจึงอยู่ที่ตนเองที่จะขวนขวายหาความรู้หรือไม่
ส่วนปริญญาสังคมไม่ได้สนใจ แต่คนจบปริญญาเองพยาสร้างความสำคัญให้ตนเองมากกว่านะครับ
แม้ระบบราชการก็มิได้ให้ความสำคัญคุณวุฒิมากนัก แต่เขามองการเริ่มเข้าทำงานและความสามารถในการทำงาน
จนได้ตำแหน่งสูงขึ้น โดยมิได้ดูวุฒิทางการศึกษา
ทุกวันนี้ต้องหาเรียน ป.ตรี เลยอ่ะ ตอนนี้ถือแค่วุฒิม.หกอยู่ ทำอะไรไม่ได้มากเท่าไหร่
ฟังแล้วเสียดายที่ไทยไม่ได้โอกาสคนที่มีความรู้ความสามารถมาบริหารมาคิดกลยุทธ์มาทำให้ประเทศไทยพัฒนา
มีแต่คนเล่นการเมือง มานั่งตรงนั้นแทน ก็ไม่แปลกที่ประเทศพัฒนาได้ช้าถึงช้าที่สุด
เราต้องยอมรับ ใบปริญญาของสถานศึกษาที่มีมาตรฐาน มันน่าเชื่อถือ คนอยู่ในวงการเขารู้กัน อย่าพยายามสร้างสังคมที่เรียนไม่จบก็ประสบผลสำเร็จ มันไม่ใช่ทุกคนและทุกอาชีพ ไม่ใช่ทุกคนบอนทูบี การเป็นแพทย์ ไม่ใช่ก็เป็นได้ แต่ปิ้งลูกชิ้นขาย ทอดสาหร่ายขายใครก็ทำได้ จบนะ
เราไม่สนับสนุนคนโกหกหลอกลวง เพื่อสังคมไทยจะได้เจริญงอกสิ่งดีๆ ไม่ทำผิดทำชั่ว
Bio ในเฟซบุ๊กคนไทย เหมือนกับ CV ใบสมัครงาน😂
นักวิชาการไทยไม่เคยตอบปัญหาได้ตรงประเด็น กลับไปย้อนดูตอน ทำไมไฟฟ้าถึงเเพง 1ชม. สรุปทั้งพิธีกร ทั้งคนดูไม่ได้ความรุ้เชี้ยไรเลย
มีใบปริญญาแล้วไม่ต้องทำงานก็ได้ แต่มีตำแหน่งสูง หาประโยน์ใส่ตัวได้