โลกเปลี่ยนไปทุกวัน ตามให้ทัน หรือ ตกยุคไป
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 7 พ.ค. 2024
- ทุกวันนี้เรากำลังอยู่ในยุคสมัยแห่งความไม่แน่นอน มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นได้จากทุกมุมโลก และเพียงแค่มันอุบัติขึ้น ก็สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่กับแวดวงธุรกิจและการใช้ชีวิตประจำวันของพวกเราทุกคนได้
เหมือนที่เราพูดกันบ่อยๆ ในคลาสด้านสตาร์ทอัพว่า “วันนี้เป็นวันที่อัตราเร่งการเปลี่ยนแปลงของโลก ช้าที่สุดในชีวิตของคุณ” แปลว่าอะไรน่ะเหรอครับ ก็แปลว่า วันพรุ่งนี้ โลกจะเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นอีก และในวันต่อๆ ไปก็จะเร็วขึ้นไปเรื่อยๆ ชนิดที่ว่า ใครไม่เริ่มปรับตัวทันที เดี๋ยวนี้ ก็ไม่ทันแล้วครับ
แล้วการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างที่จะเกิดขึ้น หลายคนคงอยากรู้ล่วงหน้าเพื่อจะได้เตรียมตัวถูก
ผมขอตอบคำถามนี้ด้วยงานวิจัยของไอบีเอ็ม ซึ่งได้ไปสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้ กับบรรดาเบอร์หนึ่งขององค์กรระดับโลกทั้งโลก
งานวิจัยนี้สรุปไว้แบบนี้ครับ “80% ของ CEO ทั่วโลกคาดว่า ในวันข้างหน้าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เป็นการเปลี่ยนแปลงซึ่งจะมาจากที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น”
ฟังดูเหมือนจะไม่ได้ความรู้อะไรเพิ่มเติมนะครับ แต่จริงๆ แล้วบทสรุปนี้ซ่อนความจริงที่ล้ำลึกเอาไว้ว่า
“ไม่ต้องสนใจว่าเมื่อไหร่ ไม่ต้องสนใจว่าเรื่องอะไร ที่สำคัญคือ เราต้องพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงจากทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั่นเอง”
ผมพูดสไลด์นี้มาหลายปี คนจำนวนมากยังรู้สึกเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ไม่ได้คิดว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญจะมาถึงเราได้รวดเร็วขนาดนั้น
แต่วันนี้ทุกคนคงได้ลิ้มรสความรุนแรงของการเปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่งเข้าไปแล้ว “โควิดนายทีน” ไวรัสร้ายที่ทำให้หลายประเทศต้องตัดสินใจ ล็อคดาวน์ จนทำให้ธุรกิจทั้งใหญ่เล็ก ต้องซบเซาจนถึงขั้นล้มหายตายจากกันเลยทีเดียว
นี่แค่หนึ่งการเปลี่ยนแปลง “ซึ่งจะมาจากที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น” เท่านั้น แล้วหลังจากนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรตามมาอีกบ้าง เราก็คงไม่อาจคาดเดาได้ รู้แต่เพียงว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงที่สุดและเราจะพบเห็นมันได้บ่อยที่สุด ก็คือ การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี
การที่อุปกรณ์จำพวกเซ็นเซอร์และอุปกรณ์บันทึกข้อมูลมีราคาถูกลงอย่างเห็นได้ชัด ประกอบกับการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ทำให้แนวคิด IoTs เป็นจริงขึ้นมา
ธุรกิจสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลที่เกิดขึ้นจากทุกมุมของกิจการ จนกลายเป็น Big Data ที่จะช่วยเปิดมุมมองความสัมพันธ์ของข้อมูลทางธุรกิจแบบที่เราไม่มีทางรู้ด้วยตัวเราเองกับ Excel
ไม่ใช่เพียงแค่นั้น อุปสรรคใหญ่ที่สุดอุปสรรคเดิมเรื่องเซิร์ฟเวอร์ที่มีต้นทุนสูงทั้งในด้านการลงทุนติดตั้ง ด้านการใช้งาน ด้านการบำรุงรักษา กลับถูกแทนที่ด้วยบริการคลาวด์เซิร์ฟเวอร์ที่พร้อมให้ใช้ฟรี หรือจ่ายในราคาที่ถูกกว่าเดิมเป็นร้อยเป็นพันเท่า
แถมพ่วงด้วยการพัฒนาเอไอที่สามารถช่วยเราคิดวิเคราะห์ และเลือกการตัดสินใจได้อย่างเหมาะสมในชั่วพริบตา แม้ว่าจะมีข้อมูลมากมายขนาดไหนก็ตาม
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่จะนำไปสู่อนาคตที่หลายคนไม่อยากให้เกิดขึ้น อนาคตที่แรงงานไทยและแรงงานอาเซียนมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีโดยเฉพาะ AI
จากผลการวิจัยของ ILO คาดการณ์ไว้ว่า ภายในปี 2025 แรงงานอาเซียนกว่า 140,000,000 คนจะตกงาน เฉพาะในประเทศไทยนั้น มีแรงงานเสี่ยงตกงานกว่า 17 ล้านคน
อุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกส์ แรงงานในอุตสาหกรรมนี้ 74% เสี่ยงตกงาน รองลงมาคือ ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ 73% และธุรกิจค้าปลีก 68%
ตัวเลขคาดการณ์นี้ เกิดจากการเปลี่ยนแปลงเพียงด้านเดียวคือ เทคโนโลยีและนวัตกรรม แต่นี่ไม่ได้แปลว่าทุกบริษัทจะลดคนลงเหลือแค่ประมาณ 30% ซึ่งดูเหมือนจะไม่มีทางเป็นไปได้เลย แต่ยังแปลได้อีกว่ามีบริษัทจำนวนหนึ่งที่ต้องลดคนลง 100% หรือก็คือต้องปิดกิจการลงไป เพราะปรับตัวล่าช้าจนไม่สามารถแข่งขันในธุรกิจได้อีกต่อไป
ขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า โลกเปลี่ยนไปทุกวัน ตามให้ทันหรือตกยุคไป อยากให้อนาคตของตัวเองและองค์กรเป็นอย่างไร คุณต้องเป็นผู้เลือกเองครับ - แนวปฏิบัติและการใช้ชีวิต
ทุกวันนี้โลกก็เปลี่ยนเร็วมากจนตามไม่ทันแล้วครับ 😂
เร็วจริงๆ ครับ ขนาดผมว่าผมตามตลอด ก็ยังตกข่าวหลายๆ เรื่องเลย
โลกเปลี่ยนไปทุกวัน ตามให้ทัน หรือ ตกยุคไป
นี่แหละที่พี่โน๊ส อุดม บอกว่า ความรู้ของคนยุคเก่าตกยุคไปแล้ว
เห็นตัวเลขคนตกงานแล้วอยากร้องไห้ 😂
@@user-ll6wo3mt4v นี่ยังเป็นแค่คาดการณ์นะครับ ไม่รู้ของจริงจะมากกว่าหรือน้อยกว่า