ไม่อยากไปโรงเรียน ไม่ชอบเข้าสังคม เลยให้หุ่นยนต์ไปแทน?!
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 10 ต.ค. 2023
- _______________________
พิกัดของดีใช้เองจริง
- ไมค์ที่ใช้อัดคลิป
Shopee : shope.ee/AyHn0HAcG
Lazada : s.lazada.co.th/s.jWf3F?cc
- เครื่องทำน้ำแข็ง
Shopee : shope.ee/30HBjUGFiT
Lazada : s.lazada.co.th/s.8a5sJ?cc
- พาวเวอร์แบงค์จิ๋ว
Shopee : shope.ee/3VDpvbIpQ8
Lazada : s.lazada.co.th/s.8hCQl?cc
_______________________
ติดต่องาน : luckfast.official@gmail.com
_______________________
Facebook : / luckfastt
Tiktok : / luckfastt
_______________________
สมัครสมาชิกสนับสนุน LuckFast www.youtube.com/@FastDrama/join
![ตั๋วเมีย (ຕົວະເມຍ) - SOMBATH.97 Ft. YOUD SALAVAN [ Official music video ]](http://i.ytimg.com/vi/GV6qHagpp50/mqdefault.jpg)
ส่วนตัวคิดว่า ต่อให้ใช้หุ่นยนต์ ก็ไม่ช่วยแก้ปัญหาอยู่ดี คนมันจะเลวไปบูลลี่คนอื่น มันหาทางได้ทุกวิถีทาง เช่น ตอนแชท มันก็ cyberbully ได้อยู่ดี หรือหนักกว่าคือตามไปคุกคามถึงบ้าน ถ้าจะแก้ ควรแก้ที่สันดานของเด็กเปรตและพ่อแม่ของมันดีกว่า
แต่อย่าลืมนะหุ่นยนต์มันบันทึกข้อมูลได้ถ้าเก็บข้อมูลเป็นงานวิจัย ไอคนที่บูลลี่คนอื่นบ่อยๆอาจจะไม่มีที่ให้ทำงานในอนาคต
ผมเห็นด้วยนะ มันเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
@@CMiceintel คนบูลลี่ส่วนใหญ่มักรวย
@@user-oc6fy4ce8k
อ้าว ไม่น่ะ!!
@@CMiceintelมันต้องแก้ด้วยหมัดครับ ใครบูลี่ต่อยปากมัน
ผู้ใหญ่ไทยบางคนมักพูดว่า "เด็กสมัยนี้ไม่มีความอดทนอะไรกันเลย โตไปจะทำมาหากินอะไรได้ ทำงานยิ่งกว่านี้อีก"
แทนที่จะมองว่าโลกมันเปลี่ยนไปแต่กลับมาซ้ำเติม
จริง
แต่ในข่าวก็คือแทนที่จะเผชิญปัญหา หรือหาทางแก้ไข จะด้วยตัวเองหรือหาผู้ใหญ่ช่วยเหลือ กลับหนีปัญหา มาอยู่ในโลกส่วนตัว แล้วคิดว่าจะอยู่แบบนั้นไปได้ชั่วชีวิตเหรอ
@@miumumewบางคนทำ คลิปหาเงิน รวย โคตรแบบ ยิ่งพวก ชองปลิ่งยิ่งปั่นคลิป
ผมมองว่า อ่อนแอก็แพ้ไปมากกว่าครับ ถ้าแค่เจอวลี "เด็กสมัยนี้ไม่มีความอดทนอะไรกันเลย โตไปจะทำมาหากินอะไรได้ ทำงานยิ่งกว่านี้อีก" แล้วมองว่าเป็นการซ้ำเติม แทนที่จะมองว่ามันคือคำเตือนแล้วเริ่มพัฒนาตัวเอง มันจะทำให้คนคนั้นอยู่ในสังคมที่หลากหลายได้ลำบากนะครับ
@@singballthai-4306 ถ้าถูกบูลลี่ 10 ต่อ 1 ใครเข้มแข็งได้ก็เข้มแข็งไปครับ
ในสังคมเคยมีคนเก่งๆถูกเพื่อนร่วมงานอิจฉา และถูกคนเหล่านนั้นใส่ร้านจนถึงขั้นฆ่าตัวตายก็มี
เก่งจริงครับ แต่อยู่ผิดที่ก็ไม่เจริญ
อย่าว่าแต่ญี่ปุ่นเลย ขนาดประเทศเราเองยังมีเรื่องการบูลลี่เหมือนกัน โดยเฉพาะในช่วงกลุ่มม.ต้น ส่วนตัวพบเจอมาเอง โดนหนักมากทั้งถุ่ยน้ำลายใส่เราแล้วหัวเราะเยาะกับเพื่อนอีกคน ทั้งแกล้งเอาไม้บรรทัดเหล็กฟาดใส่เราแล้วยังยิ้มหัวเราะกันต่อได้เฉย แถมยังล่อชื่อพ่อแม่ ไหนจะไถตังค์ เราโดนมาหมดแล้ว อีกอย่างเรื่องแบบนี้พึ่งเกิดเมื่อปี-2ปีก่อน ตอนนี้เราเชื่อว่าก็ยังมีมาเสมอเพราะเด็กประเทศไทยเท่าที่เราเห็นส่วนใหญ่ วัยรุ่นมีแต่พวกนอกคอก สถุน ไร้มารยาท เห็นแก่ตัว แต่ดีใจมากที่ตัวเองผ่านช่วงนั่นมาได้
ประเทศนี้สุดยอดทุกอย่างจริงๆ เทคโนโลยีอะไรไปไกลมากเลย
จริงครับเป็นอันดับหนึ่งของโลก😂
เหมือนกับแอปเปิ้ลเน่าครับ นอกสวยแต่ในเละ เหมือนสาระขันแลนด์และอื่นๆ
@@jillmichaelkelly2291 😁😁😁จริง
@@jillmichaelkelly2291 ประเทศไหนก็เป็นหมดแหละครับ
@@jillmichaelkelly2291ประเทศสาระขันกับกะลาแลน😁
ถึงจะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แต่อย่างน้อยเค้าก็พยายามแก้ สันดานหน่ะมันอยู่ติดตัว ใครบอกมันไม่ฟังหรอก สำหรับคนโดนบลูลี่แล้ว มันเป็นทางออกเดียวอย่างน้อยยังมีคนช่วยเหลืออยู่ เป็นกำลังใจให้คนถูกบูลลี่นะ❤😊
ฟังดูดี แต่เนื้อแท้คือการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุโคตรๆ ไม่ว่าจะหุ่นยนต์หรือเทคโนโลยีขั้นสูงแค่ไหนก็ช่วยเรื่องพวกนี้ไม่ได้หรอก สิ่งที่ควรแก้ก่อนและจำเป็นจริงๆ คือมายเซ็ทของคนต่างหาก เอาค่านิยมที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ออกไปให้ได้ ประเทศคุณเจริญอยู่แล้ว และรู้แก่ใจอยู่แล้วว่าอะไรคือปัญหา มุมมองความคิดบางอย่างแบบญี่ปุ่นของคุณใช่ไหม แก้มันที่ตรงนั้นสิ หยุดมายเซ็ทที่เป็นพิษเหล่านั้นลง สร้างสถาบัญครอบครัวให้ดี ทำให้บ้านเป็นเซฟโซนของเด็กจริงๆ สร้างเด็กให้เข้มแข็ง มั่นคง มั่นใจ มีความเห็นอกเห็นใจ ฉาดทั้งไอคิว อีคิว เพื่อให้เด็กโตไปเป็นพ่อแม่ที่ดีและสร้างเด็กที่ดีที่จะโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคตต่อไป จะได้ทำลายวงจรอุบาร์วของการกลั่นแกล้งลง เพราะต่อให้สร้างเทคโนโลยีออกมาแค่ไหน สุดท้านปลายทางก็แค่การแยกคนให้ออกห่างจากสังคมมากเข้าไปอีก คนก็จะยิ่งกลัวสังคมภายนอก หลบตัวอยู่หลังเทคโนโลยีมากขึ้น พึงพามันมากขึ้น แค่สังคมก้มหน้าในยุคปัจจุบันนี่ยังแย่ไม่พอเหรอ? อย่าลืมว่าโรงเรียนเนื้อแท้แล้วไม่ใช่แค่สถานศึกษาเล่าเรียน แต่มันคือสถานที่จำลองสังคม ที่เด็กๆ จะต้องไปเรียนรู้และเข้าใจที่สิ่งต้องออกไปเผชิญเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ ไปพัฒนาอีคิวกับเพื่อน คนรอบข้าง คนที่เด็กกว่า โตกว่า หรือเท่ากัน เรียนรู้การใช้ชีวิตที่ต้องมีทั้งสนุก มีความสุข ทุกข์ ผิดหวัง สมหวัง คนดี คนไม่ดี รู้จักกฏ ระเบียบ และการปฏิบัติตัวที่เหมาะสมในสังคม ไปรู้จักตัวเอง ไปรู้จักคนอื่น สารพัดสารเพเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเด็ก และพ่อแม่ครูคือกลุ่มคนที่จะต้องคอยอธิบาย บอก สอนเสริมเข้าไป และการจะทำให้ผู้ใหญ่เหล่านี้ทำได้ดีก็ต้องทำลายมายเซ็ทที่มีพิษที่เป็นกรอบสังคมไปก่อนเลย มายเซ๊ทอะไรที่มันไม่สมเหตุสมผล แก้มัน ปรับมัน อาจไม่ต้องถึงขนาดทำลายมันทิ้ง แต่ต้องปรับมัน การเอาเทคโนโลยีมาแก้ปัญหาเรื่องจิตวิทยา มันไม่ช่วยอะไรเลย
การแก้ปัญหา ไม่ได้จำกัดให้อยู่ในแค่วิธีใดวิธีนึ่งนิครับ จะแก้ต้นเหตุเลย หรือ มาแก้ปลายเหตุก่อน หรือใช้ทั้ง 2 อย่างเลย ก็ไม่ผิดไม่ใช่หรอ? เราเปลี่ยนสังคมวันเดียวไม่ได้ครับ
@@noir7748 การแก้ปลายเหตุอย่างเดียวก็ไม่ช่วยเช่นกัน เหมือนปัญหาที่ผอกหางหมูให้ใหญ่ขึ้น แค่นั้น แต่ปลายเหตุมันแก้ง่ายกว่าไง เทคโนโลยีที่มาเติมกิเลสมนุษย์มันถึงได้มีมากขึ้น พร้อมอัตตราการฆ่าตัวตายของคนก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัวด้วย
ถ้าไม่แก้ตอนนี้เลย แล้วปล่อยไปจนหาแก้ที่ต้นเหตุแล้วคนที่เป็นตอนนี้อนาคตมันจะเป็นยังไง ยิ่งรีบช่วยเราว่ายิ่งดีกว่า ค่อยๆหาวิธีตอนหลังก้ได้
ผมเคยคิดว่าคนญี่ปุ่นใช้ชีวิตตอนวัยทำงานเหมือนเป็นหุ่นยนต์ แต่ตอนนี้จะไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว รอบนี้เหล่าเด็กๆจะได้กลายเป็นหุ่นยนต์จริงๆ
เคยโดนตอนมัธยมตอนต้นตอนบูลลี่ต่างๆ สารพัด ตอนนั้นไม่อยากไปเรียนเจอหน้าพวกที่แกล้งทุกสัปดาห์ แต่ทำใจต้องไปเรียนไม่นั้นขาดเรียน พยายามใจเย็นลงไม่สนใจ(ยังเก็บความแค้นในใจอยู่) แม้เรียนจบแล้ว😤🔥
ทุกอย่างบนโลกพัฒนาขึ้นแต่โรงเรียนไม่เคยพัฒนาเลย ทุกปีมีรถซุปเปอร์คาร์ออกมาใหม่แต่ห้องเรียนยังเหมือนเดิม
ตอนนี้ลูกชายผมกำลังโดนบูลลี่ พยายามแก้ปัญหาอยู่ตามหาไอ้เด็กที่แกล้งก็ไม่เจอเพราะมันแอบ บอกครูทางไลน์ครูก็พูดมาแบบสิ้นคิดว่าแค่เด็กเล่นกัน พอถามกับลูกลูกบอกแค่โดนแกล้งยังไงแต่ไม่บอกว่าเป็นใคร จะบังคับก็กลัวลูกจะยิ่งเครียด
ตามเจอต้องเอาให้หนักเลย พวกนี้มันไม่สำนึกจนกว่าจะเจอกลับบ้าง
ตอนนี้คิดว่าลูกถูกขู่ เพราะเวลากลับมาจากโรงเรียนก็จะซึม เสื้อ ผ้าขาด สมุดมีรอยฉีก ให้เงินไปโรงเรียนก็ไม่ได้กินขนม อันนี้ดูจากอาการ จากที่เป็นเด็กร่าเริง ในตาไม่มีความสุขเลย ครูก็ปิดบังไม่ยอมบอก
ผมโดนตลอด3ปีช่วงม.ปลาย มันจะมีอยู่แก็งค์นึงที่ชอบแกล้งชาวบ้านไปทั่ว แต่ผมเคยโดนจับแก้ผ้าต่อหน้าทุกคนในชั้นด้วยซ้ำไป สิ่งที่ช่วยได้มากที่สุดคือครอบครัวและความเข้มแข็งของตัวเองล้วนๆครับ ไม่มีใครที่จะสมบูรณ์แบบในทุกๆด้าน คนพวกนั้มักชอบยกปมด้อยของเรามาทำให้เราอับอายต่อหน้าคนเยอะๆ วิธีของผมคือพัฒนาจุดแข็งของตัวเองและแสดงให้ทุกๆคนเห็น จะทำให้กระแสการล้อปมด้อยเบาบางขึ้นบ้าง และโชคดีที่ครอบครัวผมอบอุ่นมากๆเลยทำให้มีกำลังใจไปเรียนจนจบผ่านมาได้ครับ ปล.เป็นกำลังใจให้น้องๆทุกคนที่กำลังเจออยู่ ให้ผ่านมันไปได้ครับ
โหโดนแบบหนักมากเลยนะอันนี้แจ้งความได้นะครับเนี่ย แต่ก็นะพวกนี้เด็กนิสัยแบบไหนพ่อแม่ก็จะทรงเดียวกัน โถ่ลูกฉันเป็นคนดี ไม่มีใครอยู่ข้างเราหรอกเพราะมันก็กลัวโดนหมายหัว😢
สมัยนี้ชอบการพัฒนาหุ่นยนต์ เหมือนอยู่ในซีรี่ส์ญี่ปุ่น น่าดูอย่างเพลินๆ
ฉันคิดว่ามันเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุนะคะ ทำไมรัฐบาลจะต้องมาแก้ปัญหาที่ตัวเหยื่อด้วย มันไร้สาระมาก ไม่ต่างจากการบอกให้คนที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศแต่งตัวเรียบร้อยขึ้นเลย การแก้ที่พฤติกรรมของเหยื่อ การปรับปรุงบุคลิกภาพพฤติกรรมของเหยื่อเป็นปัญหาส่วนบุคคลนะคะ ปัญหาที่สังคมควรจะแก้ไขจริงๆคือพฤติกรรมของตัวคนที่กลั่นแกล้งกันมากกว่าค่ะ การที่คนคนนึงจะมีพฤติกรรม หนีออกจากสังคมจนกลายเป็น’ ฮิคิโคโมริ ’ เปรียบเสมือนกับตัวแปรตามเท่านั้นแหละค่ะ ตัวแปรต้นจริงๆก็คือคนที่กลั่นแกล้งนั่นแหละคะ
Bully สนุกตรงไหน
ตรงที่เหยื่อทำอะไรไม่ได้เลย
สังคมทำอะไรได้บ้าง
รณรงค์ ปลูกจิตสำนึกให้คนเลิกบูลลี่
ถ้าแค่นั้น แปลว่าสังคมทำอะไรไม่ได้เลย
กฏเกณฑ์ของสังคม มันเอื้อให้เหยื่อเป็นแพะถ้าทนไม่ไหว ส่วนใหญ่คนทำลอยนวลเพราะการยั่วโมโหไม่ผิดกฎหมายเอาผิดไม่ได้
การจะหวังให้ผู้ใหญ่มาแก้จริงจัง ผมบอกจากใจจริงว่ามองไม่เห็นแนวทางที่เป็นรูปธรรมได้เท่านี้แล้วครับ การวางหุ่นยนต์ไว้ ณ สังคมที่มีปัญหา มันก็สะท้อนอะไรได้ดี อย่างน้อยก็ไม่ต้องเสียสุขภาพจิตเหยื่อ
ต่างกันนะครับเพราะเหล่าคนที่โดนบลูลี่เนี่ยต่อให้ทำตัวให้จางแค่ไหนมันก็ยังคงโดนอยู่ดี ถ้าคิดแบบนั้นก็เหมือนกับคนที่แต่งตัวมิดชิดอล้วพอโดนฉุดก็โดนคนบอกว่ายังไม่มิดชิดพอนั่นแหละครับ
@@kumatokunเห็นด้วยครับยิ่งถ้าโดนไปแล้วจะได้เป็นขาประจำครับ
ต่างกันสิครับ ปัจจัยของประเด็นล่วงละเมิดกับ นักเรียนโดนบูลลี่ เอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้ ทั้งอายุของผู้กระทำ การลงโทษทางกฏหมาย และ อีกอย่าง นักเรียนต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิมๆทุกวัน หลีกเลี่ยงไม่ได้เหมือนสถานการณ์ที่คุณเอาเปรียบเทียบ
ปัญหาการบุลลี่ มันแก้ที่ตัวผู้กระทำไม่ได้หรอก มันจะมีเด็กรุ่นใหม่ๆที่จะมีพฤติกรรมการชอบบุลลี่คนอื่น มันจะมีเกิดขึ้นมาใหม่เรื่อยๆในสังคม ไม่จบไม่สิ้น มันไม่ใช่ปัญหาที่จะสามารถแก้ที่ตัวต้นเหตุแล้วปัญหาจะหมดไปได้
ต่อให้สิ่งนี้ที่ญี่ปุ่นพยายามทำมันเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุหรือไม่ แต่ถ้าทำแล้วประสบความสำเร็จ และถ้าสามารถช่วยได้จริงๆ มันจะส่งผลดีต่อตัวเด็กนักเรียน ผลลัพธ์ต่างหากคือสิ่งที่ควรจะโฟกัส
เคยโดนแต่แบบการด่าบูลลี่ทางกายนี้ไม่เคยโดน จนมีวันนึงพอโดนมากๆก็เริ่มไม่ไหวในหัวนี้คือไม่ไหวละ ในหัวนี้คือหันหลังไปซัดหน้ามันแล้วอะหมัดมันร้อนๆแล้วอะ แต่เผอิญครูเขาเข้ามาคุยพอดีแล้วเขาเป็นนิสิตมาช่วยสอนอะแล้วเป็นคาบสุดท้ายของเขาด้วย นี้เลยหัวเย็นลงได้ไม่อยากทำให้วันสุดท้ายของเขาพัง
ไทยก็มีโดนบูลลี่เยอะแค่ไม่ค่อยมีใครทำแบบสำรวจ ผมเองก็โดนมาช่วงม.ต้น-ม.ปลาย เวลามองอะไรก็ไม่กล้ามองผมสายตาสั้นเวลาเจอคนหน้าคุ้นๆที่ไกลๆมองเพ่งๆไปหน่อยก็โดนหาว่ามองหน้าหาเรื่องทุกวันนี้ติดนิสัยก้มหน้าไปเลย คือแว่นก็ใส่แหละแต่ใส่แค่ตอนเรียนเพราะไม่ได้สั้นมาก
ไม่ใช่แค่เด็กบลูลี่กันเองนะ(มองจากในไทยตอนที่เรายังเรียนอยู่)แม้แต่ครูยังบลูลี่เด็กอะบ่อยด้วย พอเจอญี่ปุ่นทำแบบนี้คือรู้สึกดีแทนเด็กญุี่ปุ่นเลยถึงต้องเรียนที่บ้านแต่แบบนี้มันทำให้เด็กสามารถเข้าสังคมได้ง่าย ป้องกันการบลูลี่ได้พอสมควรถือว่าดีเพราะเด็กที่โดนบลูลี่บางทีเขาจะกลัวการไปโรงเรียนจริงๆนะเพราะเขาไม่รู้ว่าเขาจะโดนอะไรบ้างในแต่ละวัน แต่ในกรณีหุ่นยนต์นี่เด่นไปจริงๆ5555
ปัญหาคือ ไปก็ถูกบูลลี่ ไม่ไปก็ไม่มีเพื่อน
ไม่คอยช่วยหรอก คนมันจะบูลลี่ยังไงก็หาวิธีจนได้ ไม่ได้ทางกายก็ได้ทางคำพูด ยังไม่รวมการราดน้ำชักปลั๊ก ยกหุ่นไปทุ่ม ก่อกวนที่ตัวหุ่นแทนบลาๆ สารพัด การบูลลี่ไม่มีวันหมดไปจากโลกนี้ มีแค่หนทางเดียวคือมนุษย์ต้องสูญพันธุ์ทั้งหมดเท่านั้น
ญี่ปุ่นต้องลงโทษควรกระทำผิดไม่ใช่หนีปัญหา คนที่บูลลี่คนอื่นควรจะได้รับการลงโทษ ไล่ออกไปจากโรงเรียนเลยถ้าแน่จริงอ่ะ
เอาจริงๆคนไม่เคยโดนไม่รู้หรอกครับว่ามันเจ็บปวดเเค่ไหนเพราะเราใช้ความคิดของผู้ใหญ่ส่วนเด็กความคิดเค้าคือเด็ด
ดูเจ๋งดีนะครับแต่พอเป็นแบบนั้น ผมก็เลยคิดว่าถ้าใช้หุ่นยนต์มาเรียนแทนจะไม่โดนพวกที่ชอบบูลลี่มาเล็งที่ตัวหุ่นยนต์แทนหรอครับ ก็ไม่ต่างอะไรจากเดิมเลยแค่ตัวเราไม่ได้ไปอยู่ในเหตุการณ์ตรงนั้นเองแต่เป็นหุ่นยนต์
อย่างน้อยรัฐบาลก้อเล็งเห็นถึงปัญหาแล้วยังพยายามแก้ไขนะ เพราะนักเรียนถึงทุกคน บางคนเรียนเก่งแต่โดนบลู่ลี่เรยไม่อยากไปเรียน
คนขี้อิจฉาครับผมก็เคยโดนตอนเด็กๆทั้งกายทั้งใจ แต่ผมคิดกลับกันครับสงสารเขามากกว่าพ่อแม่ไม่รักหรือเรียกร้องความสนใจ
ปัญหาบูลลี่มีอยู่ทุกชาติเเละสิ่งที่ทำให้เกิดปัญหาใหญ่จริงๆเพราะครูเเละผู้ปกครองนั้นเเหละครับ จากใจคนเคยโดนเลยนะครูต้องคุมเด็กให้ได้เเละต้องใส่ใจเด็กที่โดนรังเเกกลุ่มนั้นเป็นพิเศษซึ่งใครโดนเเกล้งอาการมันก็ออกมาให้เห็นเเล้วครับ จากใจคนที่โดนบูลลี่นะครับเรื่องพวกนี้มันช่วยได้เเค่ชั่วคราวเท่านั้นเเหละครับในเมื่ออนาคตเราก็ต้องโดนบีบให้เข้าสังคมอยู่ดี ที่เรื่องการบูลลี่มันบานปลายก็เพราะครูประเมินความสามารถของเด็กต่ำเกินไปเพราะคิดว่าเป็นเเค่เด็กจะทำอะไรได้หรือไม้ก็เเค่การเเกล้งของเด็กๆเเต่อย่าลืมนะว่าเด็กมันจำอะไรได้ง่ายกว่าพวกผู้ใหญ่หัวโบราณดังนั้นมันคือการปลูกฝังให้เด็กๆเหล่านั้นกลัวการเข้าสังคมไปเลยเพราะขนาดคนที่สามารถช่วยเราได้ยังไม่สามารถหยุดเหตุการณ์นี้ได้เลย เรื่องพวกนี้คนที่ฉลาดไม่เคยโดนมักใช้หลักการณ์เเก้ไขเเต่คนที่โดนมักจะใช้ประสบการณ์ในการเเก้ไขครับ เเล้วไอ้พวกที่เห็นเด็กโดนรังเเกหรือเด็กไปรังเเกคนอื่นเเล้วบอกว่ามันคือการเล่นกันของเด็กๆผมขอบอกเลยนะครับว่าพวกคุณกำลังปลูกผังเเนวคิดเรื่องความรุนเเรงลงไปในเด็กโดยที่สมองอันน้อยนิดของพวกคุณจะคิดตามมันทันเลยด้วยซ้ำ จากใจคนที่เคยโดนบูลลี่ครับ
ดีจังเลย เราก็ไม่อยากไปโรงเรียนเหมือนกันตอนเด็กๆเพราะโดนแกล้งเนี่ยล่ะ ทุกวันเลย บอกที่บ้านว่าอยากย้ายที่เรียนที่บ้านก็ไม่สนใจ😢 ถึงผ่านมานานแล้วแต่จำได้ทุกรายละเอียดเลย ถ้าได้แบบญี่ปุ่นชีวิตคงมีความสุขขึ้นเยอะ
อีกหน่อย ญี่ปุ่นจะสร้างหุ่นยักษ์ให้ประชาชนขับละ อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ ถ้าญี่ปุ่นเอาจริง😂😂😂
ถ้าแม่งมีปัญญาหาหุ่นไปเรียนแทนได้ คงไม่โดนบูลลี่หรอก แล้วจะส่งเพื่ออะไร ถ้าไม่ไปเองใช้คอมคุยกับครูเอาก็ได้ เอาหุ่นยนต์ไปทำอะไรดีไม่ดีหุ่นหายฉิบ 555
อย่าว่าแต่เด็กเลยคับ ครูยังใส่ท้ายเปลี่ยนนามสกุลนักเรียนด้วยคำหยาบสมัยผมเป็นเด็กเลยคิดว่าเป็นเรื่องปกติ
โหยดีอะ ไทยน่าทำบ้าง ไทยนี่ก็หนักพอๆกัน
มาดูช่องน้อง ได้เปิดโลกกว้าง คอนเทนต์ ดี๊ดี แถมเป็นคนที่สื่อสารเข้าใจง่ายกระชับ และอาหารน้องแมวต้องอรอ่ยแน่ๆเลย น้องๆนั่งเรียแถวกินกันอย่างมีความสุข
โดนครับเพราะว่าอ้วนมาก เลยเรียนได้ที่หนึ่งทุกปีแม่งเลย 555 เพื่อนเลยเกรงใจ 😂😂😂😂
ผมเป็นคนหนึ่งที่เคยโดนมาก่อนครับบอกเลยว่า เหมือนอยู่ในนรกจริงเลยครับ ตอนนั้นถึงขั้นคิดฆ่าตัวตายและฆ่าคนได้เลยครับ แต่ก็ยังดีที่รอดและสามารถผ่านมันมาได้ครับถึงแม้มันจะทิ้งร่องรอยไว้ในใจและบนร่างกายไว้ก็ตาม นี้เป็นหนึ่งในเรื่องที่เลวร้านมากที่สุดในชีวิตเลยครับ และความผิดส่วนหนึ่งก็มาจากอาจารย์ด้วยที่ทำเป็นว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยไม่สนใจ
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่พัฒนาปรับปรุงแก้ไขหุ่นยนต์เก่งมาก😂😂
เขาจะขับกันดั้มไปรบแล้ว หันมาดูประเทศตัวเอง😌
กลับมามองประเทศตัวเอง คนเก่งๆเพียบแต่ไม่มีเงินทุนมาช่วยสนับสนุน เห้อเลยครับ
@@user-im8jk7xi7wเห็น guntank รุ่น prototype ของญี่ปุ่นยัง?
ของไทยมันยังบูชาคนมีเมียน้อยไม่แปลกใจ
ต้องเป็นพวกบ้านรวยเท่านั้นแหละ
แล้วส่วนใหญ่เด็กรวยๆก็ไม่ค่อยมีปัญหากันหรอก จะเป็นเด็กที่ชอบอยู่คนเดียว เก็บกด รูปร่างหน้าตา ไม่ดี หรือดีเกินไป เด็กกลุ่มนี้จะโดนซะส่วนใหญ่ แต่จะมีสักกี่คนที่มีตังค์ซื้อ 😂😂
จัดอันดับเทคโนโลยี ญี่ปุ่นอยู่อันดับ1ของโลก อยู่เบื้องหลังซัพพลายอุตสาหกรรมไฮเอนทั่วโลก
These Countries Have the Most Technological Expertise
ยุโรปกับอเมริกาเทคโนโลยีสู้เอเชียไม่ได้เลย
คนเอเชียฉลาด
@@user-fl2cw5no5cwhy do you like insulting japan people
@@user-fl2cw5no5chate??Japanese
@@user-fl2cw5no5cwhat? Love bullying
อาจจะเป็นเพราะคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่มักจะชอบการทำตัวเองให้ไม่โดดเด่น ไม่เป็นจุดสนใจ เขาเลยชื่นชมคนที่กล้าแสดงออกมากๆ เลยทำให้คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ชื่นชอบคนไทย เพราะคนไทยเป็นเผ่าพันธุ์ประเภทหิวแสงตลอดเวลากันซะส่วนใหญ่ 😂
ผมเป็นคนพิการทางด้านการมองเห็นเเละได้บิน ตอนประถมผมโดนเเกล้งหนักมาก ทั้งโดนขโมยดินสอ ยางลบ,ทำเเว่นขยายผมเเตกบ้าง ทำกล้องส่องกระดานผมพังบ้าง กว่าจะหลุดพ้นจากการโดนเเกล้งมาได้ก็ตอนม.ต้น เพื่อนที่เเกล้งผมก็คิดได้เเล้วเเหละว่าไม่ควรเเกล้งคนพิการอย่างผม
ผมทนมาได้เพราะมีเพื่อนในเกมกับหมาและแม่ที่บ้านครับ อย่างน้อยๆ กลับบ้านมาจากโรงเรียนที่มีแต่พวกบูลลี่ ก็ยังมีคนที่คอยเยียวยาใจ
ใครอยากมองว่า หูว เทคโนโลยีไปไกล ล้ำ ช่างคิด แต่เรากลับมองว่า ระบบสังคมของมนุษย์โลกกำลังล้มเหลวอย่างรุนแรง และตัวอย่างแรกที่เห็นชัดที่สุดก็สังคมญี่ปุ่นเนี่ยแหละ เลยกลายเป็นสังคมสร้างคนมีปัญหาออกมามากมาย ปัญหาหลักของญีปุ่นคือ มีระบบการหล่อหลอมคนให้ออกมาเป็นแพทเทิลเดียวกัน ไม่ยอมรับความแตกต่าง ทั้งที่มนุษย์มันต้องมีความแตกต่างอยู่แล้ว พอกดดันมากๆก็อย่างที่เห็น ไทยเองก็กำลังตามไปติดๆ ตอนนี้เริ่มมีค่านิยมทำอะไรตามๆกัน ทำตัวตามกระแส ใครอยู่นอกกระแสคือแปลก แตกแยก เริ่มไม่ค่อยยอมรับความแตกต่าง ทั้งที่เหมือนจะชอบความแตกต่างนะ แต่จริงๆไม่ เห็นได้ชัดจากใครคิดไม่เหมือนก็ไปตัดสินเขาและ ว่าไอ้นี่มันพวกคนนี้ ไอ้นี้มันอีกฝั่ง นี่แหละชัดสุดๆ
ส่วนตัวเคยโดนบลูลี่มาในหลายๆแบบ ตั้งแต่อนุบาลจนถึง ม.3 การเอาคืนอะดีที่สุดละ พอมันรู้ว่าเราสู่มันจะหยุดไปเอง (แต่เราต้องชนะนะ ถ้าแพ้จะโดนบลูลี่หนักกว่าเดิม) จุดพลิกผันของเรา คือ ตอน ป.6 เราต่อยหัวหน้าหัวโจกสลบ ในหมัดเดียว แต่ก็เกือบโดนอีก 10 กว่าคนรุม แต่อาจารย์มาเห็นก่อน เราไม่โดนอาจารย์ด่าหรือว่าเลย เพราะเป็นเด็กประกวดมารยาทของโรงเรียน 555555+ พอ ม.1-ม.3 ข่าวเราต่อหัวโจกสลบมันแพร่กระจายเราเลยไม่โดนบลูลี่ แต่ที่ญี่ปุ่นกำลังทำนั้น มันจะทำให้เด็กเข้าสังคนไม่ได้ แก้ปัญหาไม่เป็น แถมจะโดนบลูลี่หนักกว่าเดิมอีก แบบว่า "อ้าวววว ไอ้เด็กเก็บตัวมาแล้วหรอวะ"และก็ลากไปหลังโรงพละ อะไรประมาณนี้
ไม่ต้องทำไรมากเลยคิดไรมาก ให้เงินครอบครัวเด็กเปิดโลกภายนอกประเทศญี่ปุ่นที่ไม่เครงเครียดให้มาไทยกอได้ เด็กพวกนั้นจะได้รุ้จักคำว่า ไม่เป็นไร สบายๆ
เรานี่เริ่มโดนไอ้กลุ่มหัวโจกบูลลี่ตั้งแต่ป.1
แรกๆมันก็ไม่ได้แย่อะไรมากมายหรอก
แต่พอขึ้นป.2-ป.3 มันก็เริ่มแรงขึ้นๆตามอายุ
จนขึ้นป.4-5-6 ช่วงชีวิตนี่แหละที่หนักสุด
เพราะตั้งแต่ป.1-ป.6 เราต้องเรียนอยู่ห้อง
เดียวกับเพื่อนกลุ่มเดียวยาวนานถึง6ปีกว่า
หมายถึงว่า เพื่อนร่วมชั้นจะไม่เปลี่ยนเลย..
แล้วกลุ่มพวกนี้คือลูกคนรวยประจำตำบล
เราเคยไปฟ้องครูแล้ว แต่ครูก็ไม่ได้สนใจ
บอกกับเราว่า เพื่อนแค่หยอกเล่นเฉยๆ
ทั้งที่เราอดทนมานานจนขึ้นป.4อ่ะ ถึงกล้าพูด
แต่ก็ไม่แปลกใจหรอก เพราะอีพวกครูทั้งหลาย
ก็เป็นตัวบูลลี่เรา ตั้งฉายาให้เราว่า”อีจืด”
“อีหวานเย็น” “อีเต่า” “อีหน้าจืด” ฯลฯ
คือเรียกเราแบบนี้แทนชื่อ จนเพื่อนล้อตาม
เราเกลียดทั้งครูทั้งไอ้พวกนั้นฝังใจหนักมาก
ตั้งแต่ช่วงป.4ขึ้นไป เราเลยกลายเป็นคนจืดๆ
ชอบนั่งเหม่อลอยไปเองเพราะเหนื่อยหน่ายใจ
กับชีวิต ที่ต้องมาเจออะไรแย่ๆซ้ำๆในช่วงนี้
และในโรงเรียนด้วย การเรียนแย่ลงไปเรื่อยๆ
ขอยายให้พาย้ายโรงเรียนก็ไม่กล้าย้าย
เพราะเรากลายเป็นคนขี้กลัวขี้ระแวงไปแล้ว
กลัวสังคมไหม่ๆจะยิ่งเลวร้ายกว่าเดิม เพราะ
มีแค่โรงเรียนเดียวไกล้ๆกัน ที่สามารถย้ายได้
แล้วโรงเรียนนั้นก็ค่อนข้างเกลียด(อิจฉา)
โรงเรียนเราพอสมควร เพราะมีอะไรดีกว่า
จนขึ้นป.6 เราเลยเริ่มอยากจะทำตัวเกเรบ้าง
จากที่เงียบเก็บกดมานาน เราเลยลองรังแก
เพื่อนห้องข้างๆ ด้วยการบังคับจูงแขนเค้าไว้
ให้เค้าตามเราไปทุกที่ตอนช่วงพักเที่ยง
แล้วอีครูตัวดีเห็นเราจูงแขนเดินผ่านหน้า
มันมาเตือนเราทันทีเลย หลังจากพักเที่ยงเสร็จ
จังหวะนั้นเราแบบ แค้นมากๆสุดๆแล้วจริงๆ
มันหมดศรัทธากับทุกๆอย่าง เกลียด ขยะแขยง
เพราะเราเคยรักและเคารพครูคนนี้ที่สุด
ตอนที่เรารวบรวมความกล้าไปฟ้องครู
เราหวังมากๆ ว่าครูคนนี้จะช่วยเราแน่นอน
เพราะบ้านอยู่ข้างๆกันแต่ครูก็เลือกที่จะปกป้อง
อีพวกขี้บูลลี่ อีพวกที่รวยเพราะแม่ได้ผัวฝรั่ง
ขนาดอีพวกทั้งพยามลากพยามอุ้มเราเข้าป่า
หลังอาคารเรียน เพื่อจะท้าตีท้าต่อยกับเรา
ครูทั้งโรงเรียนนั่งแดกข้าวกันอยู่ไกล้ๆ
แต่กลับไม่มีใครเห็นไม่มีใครสนใจ อีนั่นมันพา
พวกมา7-8คน เรานั่งเล่นหมากเก็บกับพี่สาว
พี่สาวก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ โว๊ะ นึกได้กูโคดเกลียด
โคดสมเพชชีวิตตัวเองเลย ที่ต้องมาเจอกับ
อะไรแบบนี้ตั้งแต่เด็ก และไม่มีใครสนใจเลย
#พอละ_ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ
#แค่อยากแชร์เรื่องราวที่เจอมา
*อ้อ พอจบม.1 แม่เราก็มารับไปเมืองนอกค่ะ
แต่พออยุ่ที่นี่1ปึ พอกลับไปเยี่ยมเมืองไทย
อีลูกคนรวยหัวโจก มันให้พี่มันมาข่มขื*เรา
มันยังส่งคนมาพรากความบริสุทธิ์เราไปอีก
โคดชั่วร้ายเลย จะแต้งตำรวจก็ไม่ได้
เพราะเราถ้าเราติดคดีความ เราจะมีปัญหา
ในการเดินทางกลับเมืองนอก มันไม่ได้อ่ะ
ก็เลยต้องปล่อยและเก็บมันไว้คนเดียว…
#จบจริงๆแล้ว_ขอบคุณทุกคนมากๆค่ะ
โกรธว้อย อ่านแล้วรู้เลยว่าความอยุติธรรม ความเมินเฉยต่อปัญหา มันรุนแรงมากมานานเท่าไรแล้ว
เข้าใจนะครับ คนเข็มแข้งเท่านั้นถึงจะรอดตั้งแต่แนวโน้มอะไรหล่อหลอม แต่ก็ยากที่จะพูดถึงเพราะแก้ไขไม่ได้ คุณอ่อนแอก่อนไปที่จะเหมาะกับสิ่งที่พเชิญตอนนั้น แต่ก็เข้าใจ ขอให้สมหวังกับโลกที่สดสัยนะครับ อ่อนโยนแต่อย่าอ่อนแอบอกตัวผมด้วยแหละ
ผมขอยอมรับครับผมเคยล้อเพื่อนร่วมชันครับตอน ม.1 ยอมรับว่าคิดน้อยไปจริงๆตอนนั้นคิดแค่ความสนุกของตัวเองแล้วไม่คิดถึความรู้สึกของเพื่อนเพราะตอนนั้นคิดว่าหยอกแซวแค่นี้เเอง แต่ไม่คำนึงถึงคนฟัง แล้วมานั่งนึกเสียใจจนถึงทุกวันนี้😢😢😢 เพราะฉะนั้นขอฝากเดือนถึงน้องๆหลานๆ วัยเด็กหรือวัยกำลำเรียนทำอะไรให้คิดมากๆเข้าไว้ก่อนจะพูดก่อนจะล้อเล่นอะไรให้คิดเสมอว่าถ้าเปลี่ยนจากเราเป็นคนพูดเป็นคนฟังเราจะรู้สึกยังไง แล้วอย่าแม้แต่จะคิดว่าถ้าเป็นเราเรื่องแค่นี้เราไม่อายไม่เสียใจเด็ดขาด เพราะความรู้สึกมันต่างกันเข้าอาจโดนล้อมาทั้งชีวิตจนจิตใจพังไปหมดแล้วก็ได้
แล้วที่คอมเมนท์ในครั้งนี้เพราะรู้สึกเสียใจกับการกระทำของตัวเองในอดีตจริงๆ จึงอยากขอโทษเพื่อนๆทุกคนกับการกระทำที่เคยผ่านมา และอยากเตือนน้องๆเอาไว้วันนี้อาจเห็นว่าเป็นแค่เรื่องสนุกหยอกขำๆแต่คนฟังเค้าไม่ขำด้วยมันจะทำลายจิตใจ ความรู้สึก จนเป็นตราบาปติดตัวไปตลอดชีวิตของเค้าเลยก็ได้ ฝากไว้แค่นี้ 😢😢
ในฐานะที่เป็นคนแนวๆฮิคิโคโมริ ส่วนตัวไม่ชอบเป็นจุดสนใจ แต่ถ้าเป็นหุ่นยนต์ก็เฉยๆนะ เป็นตัวละครในเกม อาจต้องการความสนใจสุดๆเลยก็ได้. ที่เห็นฮิคิโคโมริบางส่วน ที่สะท้อนในมังงะ อนิเม โลกจริงจะล้มเหลว แต่ในเกมดันเทพสุดๆซะงั้น เอาเวลาไปลงเกมหมด. ในเกมดูป๊อบ แต่ชีวิตจริงก็อ่ะนะ อีกแบบ.. การใช้หุ่นยนต์มาเรียนแทนก็ค่อนข้างดีเลยนะ ญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับประชากรเขามาก
มองไทยแล้วกุมขมับ ไม่แปลกใจที่จะกล่าวว่าต่างโลกไปได้เฉพาะคนญี่ปุ่น
ประเทศเขาน่าอิจฉาตรงที่ว่า ถึงมันจะไม่เวิร์คร้อยเปอร์เซ็น แต่เขาก็แสดงให้เห็นว่ากำลังพยายามแก้ไขปัญเลขน้อยนี้อยู่
ต่างจากบางประเทศในแถบเอเชียที่รูปประเทศเป็นขวานโบราณ ที่ชอบมองเรื่องนี้ว่าเป็นปัญหาเด็กๆเล่นกันโตมาเดี๋ยวก็เรียนรู้ได้เอง ทุ้ยยย
เราก็เคยโดนบูลลี่นะ ถึงจะไม่หนักถึงขั้นด่าหรือทำร้ายร่างกายแบบรุนแรง แต่มันก็ทำให้เราไม่กล้าที่จะคุยกับคนอื่น หรือคนในห้อง ไม่คุยกับเลยตั้งแต่ป.3-จนเรียนจบม.3ย้ายมาที่ใหม่นั้นแหละถึงดีขึ้น
แล้วทำไมไม่เรียนออนไลน์ไปเลยไม่ต้องมาสร้างหุ่นอะไรเพิ่ม😂
ตอนเด็กเราก็เคยโดนบูลลี่ค่ะ ตั้งแต่ล้อรูปร่าง ชื่อพ่อแม่ ลามไปถึงเอากระเป๋าเราไปทิ้งถังขยะเลย จากคนที่เคยโดนบูลลี่ เราสนใจเทคโนโลยีที่ครูสตรีมแล้วนักเรียนสามารถเอาอวตารมาเรียนมากเลยค่ะ คิดว่าเจ๋งดีสำหรับเรา
Ai จะครองโลกในไม่ช้า 😂 เข้าใจคนโดนนะ ทำไมคิดถึงหนังเรื่อง1
ไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบในการกล้าเเสดงออก ยอมรับเลยเราเป็นคนนึงที่ไม่ชอบเวลาที่ต้องไปพรีเซนหน้าห้อง ไม่ชอบถ่ายรูปตัวเอง ในโทรศัพย์มีรูปตัวเองสัก2-3รูปเองมั้งเเบบไม่เห็นหน้าด้วยจากบรรดาพันกว่ารูป เเต่อาจารก็ชอบให้ถ่ายรูปตัวเอง ชอบให้ไปพรีเซนต์ พอไม่ชอบเราก็ทำได้เเย่ ยิ่งโดนเพื่อนบุลลี่อีก ยิ่งไม่มีความมั่นใจ การที่ได้เรียนออนไลน์ช่วงโควิดที่ผ่านมาคือเราคิดว่ามันทำให้เราเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆได้มากขึ้นจริงๆ จากที่ฟังคือถ้าไทยมีงี้บ้างก็ดีนะ เป็นการมีตัวเลือกให้เด็กดีด้วย เอาเเบบตัวหุ่นยนต์ไม่จำเป็นต้องเดินได้ก็ได้ เเค่ให้นั่งอยู่ในห้องเรียนไปพร้อมเพื่อนก็พอ
อย่างล้ำ
ตัดมาที่บ้านเรา.....😂😂😂
ว้าวว😂😂😂
ไม่น่าเวิคปมว่าควรจัดการคนที่บูลลี่
มันหนักถึงขั้นต้องทำอย่างงี้แล้ว.... แบบรู้สึกแย่แทนบ้านเขาจริงๆ 😥
บ้านเราถ้าสำรวจกันจริงๆจังๆ ก็ไม่แพ้บ้านเขาหรอก
ตอนเรียนอยู่ ไม่เคยมีแบบสำรวจอะไรพวกนี้เข้ามาเลย
@@LylinPraputsonr ส่วนตัวนะจากที่โดนมาคิดว่าคงพอๆกับที่ญี่ปุ่นแหละถ้าไม่ใช้เพราะผมซวยเองอะนะ
เกาหลีก็หนักเหมือนกันครับ
เอเชียไม่ต่างกัน
@@LylinPraputsonr อันนี้ส่วนตัวรู้ดีครับเพราะเคยโดนมากับตัว และเคยดูผลสำรวจด้วยว่าประเทศเราติดอันดับสอง ซึ่งญี่ปุ่นอยู่อันดับหนึ่ง.
ไม่ว่ามันจะเวิร์คหรอไม่เวิร์คก็ต้องมารอดูผลกัน
แต่สิ่งที่คัญ คือเค้าไม่มองข้ามปัญหา และไม่โทษเด็ก เค้าเห็นให้ความสำคัญกับปัญหาของเด็กจริงๆ
แค่นี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหาแล้ว คนละเรื่องกลับประเทศที่อะไรเด็กก็ผิด
อารมณ์เหมือนการบำบัดอาการกลัวการเข้าสังคม เค้าคงไม่ได้ให้ใช้ระยะยาว ท่าให้ใช้นานไปเด็กจะไม่มีประสบการณ์เข้าสังคมจริงๆจนส่งผลเสียในอนาคตที่เด็กต้องออกไปทำงานต้องเข้าสังคม สมัยเด็กผมก็เคยโดนบูลลี่จนทนไม่ไหวระเบิดอารมณ์ออกมาต่อหน้าเพื่อนทั้งห้อง หลังจากนั้นผมก็มองหน้าใครไม่ติดอึดอัดไปหมดแล้วก็เริ่มขาดเรียนจนสุดท้ายลาออกมาเรียน กศน.แทน แต่ กศน.ต่างจากรร.ปกติสิ้นเชิง ไม่มีการบูลลี่แต่คุณจะหาเพื่อนรุ่นเดียวกันแทบไม่มีส่วนใหญ่จะเป็นคนโตมาเรียนเอาวุฒิ สรุปชีวิตวัยรุ่นผมเสียไปตลอดกาลเพราะการโดนบูลลี่ ปัจจุบันก็เข้าสังคมไม่เก่งคุยรู้เรื่องกับแค่คนแก่ๆไม่กล้าคุยกับรุ่นเดียวกันเลยมันกลายเป็นปมที่ไม่มีวันหายถึงจะหายตอนนี้ก็สายไปแล้ว
ผมเคยถูก bully เพราะเป็นคนอ้วนครับ ใช่ครับแค่เพราะ 'ความอ้วน' ผมเป็นเด็กอ้วนมาตั้งแต่เด็กๆ ใช้ชีวิตเรือยมาไม่ได้มีปัญหาอะไรเป็นพิเศษ แต่นรกนี้ เกิดขึ้นตอนผมย้ายไปเรียน ม.ปลายที่โรงเรียนแห่งนึง ผมไม่มีเพือนเลยตัวคนเดียวและคิดว่าจะหาเพื่อนใหม่ได้ไม่ยาก แต่เพียงแค่สัปดาห์แรก ผมก็เจอการ bully รูปร่างหน้าตา จากเพื่อนร่วมห้อง ผมถูกจับแยกไปนั่งโต๊ะเดี่ยว (ปกติโต๊ะเรียนที่นี่จะนั่งเป็นคู่ๆ) โดนแก๊งผู้หญิงล้อว่า ไออ้วนหมูตอน หน้าสิว ตัวเหม็นเปรี้ยว แล้วก็ทำท่าทางบีบจมูก ทำหน้าตาอี๋เหมือนเจอขยะ เสียงเพื่อนๆที่รักยังก้องในหัวผม เสียงหัวเราะ ที่ดังลั่นห้อง ไม่มีใครช่วยผม หรือเห็นใจ ผมเริ่มออกห่าง ซึมเศร้า และสุดท้ายผมไม่ไปโรงเรียนจนโดนอาจารย์โทรตาม หลังจากนั้นก็มีพวกผู้ชาย มาตบหัว ต่อยแขน ต่อยท้อง ผมไม่สู้ ผมอ่อนแอเกินไป ผมเคยคิดว่าถ้าได้ไปจากโลกนี้ไกลๆ คงจะดีไม่น้อย แต่นั้นแหละครับ ผมทนมาได้ 3 ปี ผมจบ ม.6 เกรดต่ำเตี้ยเรี่ยดิน เพราะ งานกลุ่มผมไม่ค่อยจะทำ การเรียนแย่ สุขภาพจิตก็แย่ และผมโชคดีเหลือเกิน ที่เลือกเรียนมหาวิทยาลัยต่างจังหวัด เจอเพื่อนที่ดี สังคมที่ไม่ bully และยังพาผมออกกำลังกาย ทุกวันนี้ผมดีขึ้น แต่ผลพวงจากตอนนั้น ทำให้ผมมีภาวะกลัวผู้หญิง และเกลียดผู้หญิงที่ชอบเหยียด และเกลียดพวกผู้ชายที่ทำตัวอันธพาล แม้เขาจะไม่ได้ทำอะไรผม ผมก็เกลียดเฉยเลย และมีอาการซึมเศร้าด้วยครับ สุดท้ายนี้ผมอยากจะบอกว่า "บาดแผลที่ใครบางคนฝากไว้ คนที่ทำเขาอาจจะลืม แต่บาดแผลนี้จะอยู่กับคนโดนกระทำไปจนวันตาย"
เราก็โดนเพียงเพราะขี้โรคร่างกายไม่แข็งแรงขาดเรียนบ่อย ไปโรงเรียนโดนคนแกล้ง แต่ทั้งห้องกลับเมินเฉย ป่วยเกือบตาย ไม่มีใครในห้องสนใจจนเพื่อนบ้านใกล้กันแต่อยู่ต่างห้องเห็นผิดสังเกตุจึงรอดตายมาได้ พอมัธยมก็ยังโดนรังแกอยู่จากคนที่ดันรู้จักกับคนที่เคยรังแกตอนประถมทั้งที่เปลี่ยนที่เรียนย้ายไปไกลแล้วแท้ๆ ชีวิตย่ำแย่ไม่ต่างจากเดิม แม้ถึงม.ปลายด้วยสภาพที่เกิดขึ้นตอนม.ต้นทำให้มีเพื่อนแค่คนเดียวนอกนั้นขอบคุรที่ไม่รังแกกัน แต่ก็ใช่ว่าจะมีอะไรดีขึ้นนัก ตอนมหาลัยปีแรกถือว่าดีแต่พอเริ่มเรียนตามไม่ทันก้กระจัดกระจายตัวใครตัวมันจนปัจจุบันก็ยังไร้เพื่อน เกลียดสังคมจนกลายเป็นคนหนีสังคม เข้าสังคมได้ยากปรับตัวลำบาก ตอนทำงานก็แรกๆดีแต่พอเขาเริ่มรู้อาการหนีสังคมของเราก็โดนโดดเดี่ยวอีกครั้ง เข้าใจว่าไม่ใช่ความผิดพวกเขายังไงสังคมมันก็แบบนี้แค่ตัวเองก็ลำบากกันแล้วจะมีใครช่วยเหลือหรือก้ไม่ ปัจจุบันครอบครัวยังไม่สนและกลายเป้นโรคติดต่อกันหมดคือเริ่มไม่พูดคุยกัน บ่นด่าตลอด ทำดีไม่เคยเห็น ผิดเล็กน้อยบ่นด่าเป็นเรื่องใหญ่ ยังดีที่ยังไงครอบครัวก็ยังรักกันไม่ถึงขั้นบ้านแตกและบ่นด่าก้คงเพราะเป็นห่วง แต่ก็แค่ไม่แน่วันหนึ่งมันอาจจะระเบิด การโดนรังแกในวัยเด็ก การถูกเมินเฉย การอยุติธรรมในตอนตัดสินข้อพิพาท ส่งผลมากกว่าที่คนไม่เข้าใจจะเข้าใจ เพราะไม่เคยโดนจะไปเข้าใจอะไรเผลอๆส่วนใหญ่ก้เป้นพวกที่เมินเฉยเห้นว่าไม่ใช่เรื่องของตนนั่นแหละที่สนับสนุนความรุนแรง
ถ้าเปรียบเทียบนะโรงเรียนก็ คือ สถานที่ที่พื้นที่หนึ่งเปรียบเสมือน ระบบนิเวศน์ซึ่งประกอบด้วยนักล่า ( พวกบูลลี่ ) กับผู้ถูกล่า ( เด็กเรียน ) มี ครู ซึ่งเปรียบเสมือนพืช ที่คอยให้สารอาหารหรือก็คือความรู้กับเด็กเรียน (ผู้ถูกล่า) ส่วนผู้ล่าก็ช่างแม่งมันเพราะมันไม่กินพืชไม่เอาความรู้วันๆแดกแต่เนื้อคอยจับผู้ถูกล่ากิน การจะทำให้เด็กเรียน (ผู้ถูกล่า ) ในระบบนิเวศน์ที่เรียกว่าโรงเรียนนั้นปลอดภัย ก็แค่ กำจัดผู้ล่าออกไป คือง่ายๆ จับแยกออก เอาพวกบูลลี่ไปเรียนที่บ้านห้ามมาโรงเรียนให้เรียนออนไลน์ไปเลยไม่ต้องมา...ใครมาก็ส่งกลับบ้านแม่งให้หมดพวกผู้ถูกล่าอย่างเด็กเรียนก็จะได้ปลอดภัย และสามารถที่จะอยู่รวมกันเป็นสังคมสังคมหนึ่งได้จากสถานที่ถูก เรียกว่าโรงเรียน....อยู่ได้อย่างปลอดภัย ส่วน พวกบูลลี่ ( ผู้ล่า ) ก็จับเรียนแต่ที่บ้านให้เป็นพวกฮิคิโมริไปเลย พวกเอ็งไม่ต้องเข้าสังคมหรอกอยู่เเต่ที่บ้านในห้องแคบๆที่เปรียบเสมือนกรงตลอดไปเถอะ
การขังผู้ล่าไว้ยิ่งทวีความรุนแรงของผู้ล่า เปรียบขังหมาพิตบุลสุดท้ายเจ้าของมันก็กัด ส่วนผู้ถูกล่าเมื่อทำได้แค่ซ่อนตัว นอกจากไม่เกิดประโยชน์ต่อใคร ยังเป็นปัญหาครอบครัวได้อีก การแก้ปัญหา อยู่ที่คนในสังคมนี่แหละ แต่จากที่ดูๆ ไม่ต่างจากเดิมเลย แถมแย่กว่าเดิมด้วย เอาแค่การบุลลี่กันด้วยคำพูดหรือพิมพ์แชทมากขึ้นน่าจะเป็นตัวอย่างเล็กๆได้ หากคำนึงถึงสภาพสังคม เราอาจเห็นเด็ก14ก่อเหตุอะไรๆได้อีกเยอะ ความรุนแรง การเพิกเฉยต่อความรุนแรง การขาดความรับผิดชอบของครอบครัวหรือสังคมเช่นโรงเรียนหรือแค่บนท้องถนน อย่าว่าแต่คนจะหนีสังคมมากขึ้น อาชญากรอาจจะเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ
จากโดนบูลี่ เป็น introvert แทน เพราะอยู่แต่บ้าน
อนาคตกันดั้มต้องมาละ😂😂😂
อีกเดี๋ยวก็ขับกันดั้มไปเรียนขับไปรบทำสงคราม😁
การกลั่นแกล้งเป็นปัญหาโลกแตกที่ไม่มีวันแก้ได้ ต้องแก้เฉพาะหน้าและสังเกตการ์ณเท่านั้น อันนี้คือความยากจริงๆเลยล่ะ
วิธีนี้ไม่น่าแก้ปัญหาได้ในระยะยาว แถมสร้างปัญหาใหม่ได้อีกตะหาก
ผมโดนตอนย้ายโรงเรียนใกล้บ้านตอน ป.6 ยาวไป จนถึง ม.1 ช่วงนั้น คือนรกมาก ว่าโดนบูลลี่ พอเอาพ่อมา ด่า ครูมาประจาร หน้าเสาธง กลายเป็นทำให้เรา กลายเป็นจุดเด่นไปอีก ถึงขั้นกับ เคยโดนขู่ว่า มืงระวังโดนดัก กระทืบนะ พอเอาไปบอกแม่แม่ก็ย้าย รร. พอย้าย ปุ๊บม.2-3 นึกว่าจะรอดละ สรุป ก็ลูปเดิม loser ชิพหาย โดนบูลลี่เหมือนเดิม ถ้าเราเป็นประเภื เก๊ๆกังๆ มึนๆ แอ๊กๆ ส่วนมาก จะโดน ไอ้พวกนี้ บูลลี่ สุดท้าย การแก้ ก็คือ ทำอะไรไม่ได้ แต่คิดในหัว 2 อย่างคือ จบชีวิตตัวเอง กับ ซื้อปืน มาฆ่าไอพวก นี้ แต่นั่นแหละ มันก็แค่ชั่ววูบ ละนะ สุดท้ายก็ทำไรไม่ได้ สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่า ช่างแม่ง เราแข็งแกร่ง อดทนซะอย่างจบครับ เพราะเราทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว
แล้วหุ่นยนต์โดนเด็กบูลลี่แกล้งอีกที
ขุนน้องแมวให้สุขภาพดีด้วย อาหารแมวเปียก KANIVA
shope.ee/4pjjPOAhhQ
s.lazada.co.th/s.8tCWN?cc
อ่อ มีอนิเมะเรื่องนึงเคยเอ่ยถึงประเด็น และวิธีแก้ไขแบบนี้ ในเรื่องนั้น ผลคือ หุ่นโดนกระทืบแทนคน สรุป ช่วยแก้ปัญหาคนที่โดนกระทำได้(หรือเปล่าหว่า) แต่คนกระทำยังสันดานแย่เหมือนเดิม
เทคโนโลยีแค่ไหนก็แก้ไม่ได้ ต้องแก้ที่คน
จริงๆก็เเค่ทำให้เด็กที่มีประวัติการบูลลี่คนอื่น หางานยากโดนสังคมประนามทำให้ใช้ชีวิตลำบากก็โอเคละมั้ง
กว่ามันจะออกไปถึงวัยทำงาน มันทำร้ายชีวิตคนอื่นก่อนมันจะจบไปเท่าไรแล้ว
ผมเคยโดนบลูลี่ตั้งแต่ ป.3 ถึง ม.3
ช่วงประถมมันเจอเด็กหลายประเภทเข้ามาไงเหมือนมันมีพวกเด็กที่ตั้งแกงค์ ตอนช่วง ป.3ยังไม่หนักแค่แบบตบหัวเฉยๆ ผมว่าหลายคนเคยทำ ด้วยความที่ประเทศไทยตอนนั้นยังบังคับเรื่องทรงผมอยู่ ผมก็โดนอย่างนั้นอยู่เรื่อยมา แต่มันทวีคูณขึ้นเรื่อยๆตอนอยู่ช่วงป.4 - ป.5 อันนี้คือลุมต่อยเลยแต่คือไม่อยากไปเรียนมากๆ จนแบบเพื่อนไม่เข้าหาเลยไปเข้าหากับเด็กแทน มันมีช่วงนึงทนไม่ไหวเลยไปบอกพ่อ แล้วพ่อมาบอกคุณครูที่รร. พวกนี้ก็เช็ดไปอยู่พักนึง จนผ่านไปสัก2อาทิตย์ก็เอาใหม่อีกละ หนักสุดน่าจะเอาหัวกดโถส้วมเนี่ยแหละในประถม ม.ต้นก็เหมือนกัน อยู่แบบทรมานสุดๆ โดนล้อชื่อพ่อไม่เท่าไหร่โดนดูถูกนี่สิหนักเลย คุมอารมณ์ไม่ได้ด้วยเลยหัวร้อนง่าย เหมือนได้ใจพวกนั้นแล้วก็โดนลุมต่อยเหมือนกัน ช่วงแบบพักเที่ยงคือโครตทรมานอะแบบอยู่ในห้องไอพวกนี้ขึ้นมาแล้วก็มา อะอ้าวใส่ แล้วก็ไปนั่งที่เดิมแล้วก็ตะโกนด่าชื่อพ่อผมแล้วก็ปาน้ำแข็งใส่หลังไม่ก็เอาไข่มุกมาพ่นใส่ ช่วงนึงที่ไปมีปัญหากะกลุ่มพวกมัน มันก็รอจังหวะผมเข้าห้องน้ำแล้วมาลุมกระทืบนี่แหละโครตทรมานอะ แต่ขึ้นปวช.มารู้สึกดีขึ้นเยอะไม่เจอปัญหาแบบนี้ขึ้นเลยมีแค่สงครามทางสมองใครหมดความอดทนคือผู้แพ้ แต่หลักๆผมเชื่อเลยว่า สังคมแบ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงม.ต้น-ม.ปลาบเนี่ยแหละ
ผมเคยโดนเรื่องฟันทอง แต่ผมชิว ไม่รู้สึก แล้วไปโรงเรียนได้ ลอกอินรายวัน 100บาท
นอกจากการทำแบบนี้แล้ว แล้วคนที่บูลลี่คนอื่นล่ะได้จัดการเขามั้ยจัดการยังไง คิดว่าคนโดนบูลลี่น่าจะอยากรับรู้ตรงนี้ด้วย ถ้าไม่อย่างนั้นคนทำผิดก็ยิ่งได้ใจเพราะมันเห็นชัดเลยว่ารังแกคนอื่นแบบนี้แล้วได้ผล สุดท้ายมันก็ต้องไปแก้ที่จิตสำนึกคนอยู่ดี
⭐
ถ้าจะทำแบบนั้น เรียนออนไลน์ ง่ายกว่าไหม
ลูกเราก็โดนบูลลี่ตอนอยู่ชั้นประถมจนถึงมัธยมเหมือนกันค่ะ (3รุม1)โดนจนนางทนไม่ไหวนางเลยจับทุ่มรายตัว สรุปแขนเดาะไปหนึ่ง ที่เหลือหน้าซีด ตั้งแต่นั้นมาพวกนั้นก็ไม่กล้าแกล้งอีกเลยย #จริงๆแล้วคนญี่ปุ่นจะตาขาวมากไม่กล้าสู้ใครหรอกเพราะเก่งแต่ใช้ปาก!!!
ดีที่การสู้จบลงได้ดี อย่างน้อยไม่เจอกับความอยุติธรรมต่อ
ตอนล็อคอินหุ่นอยู่ที่บ้าน เสียงในหัวนี่แบบ '' Main system activating combat mode '' เจอกูแน่เพื่อน รังแกกูดีนัก แต่น่าจะเป็นไปได้ยาก จะเช่าหุ่นแบบนี้ ตัวละกี่บาท หรือ แจกฟรี? ทำเป็นมัลติเวิส ไม่ก็แบบคล้ายๆ VR chat แต่พัฒนาให้มีลุกเล่นมากกว่าเดิม เช่นวาดรูป เขียนกระดานความละเอียดสูง หรือ เพิ่มปฏิสัมพันธ์กับพวกobject ในเกมให้ได้หลากหลายมากขึ้น น่าจะเป็นไปได้มากกว่า ในแง่ของต้นทุนและการเข้าถึง หรือไม่ก็เทคโนโลยีไปถึงขั้นโฮโลแกรมตัวที่ห้องเรียน แต่ตัวจริงนั่งอยู่บ้าน ผ่านตัวแกนเนอร์ที่ติดอยุ่ในห้อง (น่าจะตายก่อนถึงยุคแบบนั้น) จริงๆ
ญี่ปุ่น คืออันดับหนึ่งของโลก สำหรับผม
ไทยเราควรเอาอย่างญี่ปุนเรื่องนี้นะ อย่ามาอ้างว่าแค่เด็กเล่นกันเพื่อเอาสะดวกของตัวเอง แบบนั้นครูขี้เกียจแก้ปัญหาค่ะ
พี่โชคดีแล้วที่พี่ไม่โดนบูลี่ครับ ผมเคยโดนบูลี่จนผมปล่อยระเบิดอารมณ์แค้นออกมาไม่ก็เก็บตัวเลยแต่โดนบังคับให้ไปโรงเรียนอีก ชีวิต 🥹
ผมเคยโดนบูลี่มาเยอะมาก 1ปีนห้อนน้ำ 2ล้อชื่อพ่อชื่อแม่ 3ชกต่อย 4ย้อเย้ยปมด้อย ผมแยกออกมาได้เพราะการย้ายห้อง
โดนแกล้งโดนหยาม กลัว อยู่แต่บ้านอยู่แต่ห้องแล้วเอาไปเป็นป่วยทางจิต แล้ว จะไปทำงานไหวเหรอเพราะเวลาทำงานต้องรับผิดชอบรับประกันต่างๆนาๆ แถมมีการแทงข้างหลังในที่ทำงานอีก จะไหวเหรอถ้าประคบประหงมขนาดนั้นต้องเป็นไปถึงเมื่อไร สมัยก่อนเหรอ แซะแซว แกล้งเยอะ ต่อยคาโต๊ะเลยจบเราเจ็บบ้างเพื่อนเจ็บบ้าน ผู้ใหญ่ก็จะทำโทษกันไป แต่เด็กสมัยนี้ครูตีก็เอาแล้วเรื่องใหญ่เรื่องโต ถ้าต่อยกันคงแจ้งความเลยมั้งสงสัย เอาจริงๆเพราะรุ่นหลังๆเนี่ยล่ะให้ท้ายจนเสียนิสัยเด็ก ทีนี่พอโดนเด็กก้าวราวใส่ก็ไปว่าพ่อแม่ไม่ก็โรงเรียนต่อ
ป้องกันการบลูลี่ และทุกคนก็จะกลายเป็นฮิคิโคโมริ 🤣
แล้วหุ่นก็โดนพังต่อ
เหมือนมีหนังเรื่องนึงนะ ที่ติดกล้องไว้กับเด็ก เพื่อดูพฤติกรรม แบบ ฝั่งลงไปเชื่อมต่อกับประสาทตาเลย ไม่แน่นะ ประเทศญี่ปุ่นอาจจะไปถึงขั้นนั้นเลยก็ได้
รอบนี้มีดราม่าหุ่นยนต์โดนบูลลี่ชัวว
สังคมในนั้นมันแย่ ผมรู้และผมก็เข้าใจดี ผมหวังว่าในประเทศเราจะมีวิธีการแก้ไขปัญหานี้ได้
ควรแก้ไขปัญหาให้ออกมาในรูปแบบกฎหมายเลย โดยให้มีการลงโทษประนามหรือเรียกให้ผู้ปกครองต้องชดใช้รับผิดชอบกับเรื่องตรงนี้แบบจัดเต็ม โดยให้เด็กที่บูลลี่ต้องทำงานชดใช้สังคมและพ่อแม่ต้องถูกปรับในฐานละเลยต่อหน้าที่ผู้ปกครอง ส่วนครูประจำชั้นหากปล่อยให้นักเรียนของตนมีการกลั้นแกล้งกันต้องถูกสอบสวนและพิจารณา
ในที่สุดก็มีจริง คุยเล่นกับเพื่อนตั้งแต่สมัยเรียสแล้ว😂😂😂😂😂
Love? Bullying
เป็นเรื่องจริงครับที่บอกครูหรือผู้ปกครองแล้วไม่ช่วยอะไร บางทียิ่งหนักด้วยหรือโดนผู้ปกครองขอให้ทนๆไปจนเรียนจบ
ไทยหรือ เอเชีย ก็มีปัญหานี้กันทั้งนั้น ขนาดเมืองนอกประเทศเจริญๆแทบตะวันตกยังมีเลยมันถึงมีเหตุยิงกัน แต่น้อยกว่า
ฟังแล้วแอบอิจฉายุคสมัยนี้อยู่นิดหน่อยเลย
เพราะมีเทคโนโลยีหลาย ๆ ด้านที่สามารถช่วยเหลือได้
โดยสมัยเรา เพราะเป็น รร.ญ ล้วน
พวกบูลลี่จึงใช้วาจาในการบูลลี่ใส่
ซึ่งเจ็บใจมากที่พยายามขอพ่อแม่ซื้อเครื่องอัดเสียงแล้ว
แต่พ่อแม่ไม่ยอม และไม่ยอมให้ย้ายโรงเรียน
เพราะมองว่าการศึกษาที่นี่ดีอยู่แล้ว
ทำให้เราต้องทนตั้งแต่ ป2-ม6 (10 ปี ได้....)
ซึ่งถามว่าพวกบูลลี่ได้กรรมตามสนองมั้ย ?
คำตอบคือ ได้เพียงแค่ 1/4 ของกลุ่มบูลลี่
เพราะ 2 อาทิตย์สุดท้ายก่อนจบ ม6
ทาง รร. เริ่มทยอยติดกล้องวงจรปิด
แล้วบังเอิญได้ภาพตอนพวกเขากำลังรุมบูลลี่ใส่อยู่พอดี
สำหรับเราแล้ว ในยุคปัจจุบัน หากมีการบูลลี่ หรือมีอันตรายใด ๆ
การมีอุปกรณ์บันทึกหลักฐาน จะเสียง หรือวีดีโอ ต้องเอาหมดค่ะ
มันคืออาวุธป้องกันตัวเพียงไม่กี่อย่างในตอนนี้
เพราะยังไงสมัยนี้ แทบทุกคนก็ต้องพกมือถือกันอยู่แล้ว
ทำไมผู้ใหญ่ชอบบอกกับเด็กที่โดนบูลลี่ว่า"พวกนั้นก็แค่เล่นด้วยเฉยๆ"ตลอดเลยหรอครับ
เดี๋ยวหุ่นยนต์โดนBOOLYสเปคแทน.กลายเป็นAIล้างผลาญอีก.
จะใช้หุ่นยนต์ก็แปลว่าการเลี้ยงดูไม่เคยมองมุมสะท้อนในวัยตัวเอง
เลย กลายเป็นผู้ใหญที่หลงลืมสร้างโลกสวยกับลูกหลาน.
ความจริงถ้าHIKIเยอะขนาดนี้ คงต้องสร้างสถานศึกษากับคนพวกนี้
โดยเฉพาะแล้วละ น่าจะลงทุนน้อยกว่าให้ประชาชนซื้อหุ่นนะ.
ตอนเรียนเคยโดนบูลลี่แรงๆโดนท้าลากไปตบตอนนั้นอยู่ช่วงมัธยมต้นเราโดนทนจนสุดๆแล้วจริงๆเลยแก้ปัญหาโดยการทำเหมือนอากาศไม่ได้ยินไม่สนใจโดนด่าก็ทำเป็นเฉยจนสุดท้ายเหมือนมันทนไม่ไหวจะมาหาเรื่องเราอีกแต่เราก็สู้กับเท่าที่ทำได้เจ็บเป็นเจ็บขอแค่ได้สู้เอาเข้าจริงมันตัวคนเดียวสู้ไม่ได้หรอกต้องหาพวกไอ้พวกนี้นิ พอมันรู้ว่าเราเอาจริงมันก็ไม่มายุ่งกับเราไปเอง งงเหมือนกัน555ผ่านมา10กว่าปีแล้วตอนนี้ลูกของคนนั้นเป็นฝ่ายถูกบูลลี่ซะเองจะสมน้ำหน้าก็ยังไงอยู่สงสารมากกว่าลูกต้องชดใช้สิ่งที่แม่เคยทำไว้
เชื่อผมครับถ้าแรกๆที่ใช้หุ่นยนต์อาจไม่มีการบูลลี่แต่ถ้ามันสำเร็จแล้วใช้ไปนานๆก็จะมีหุ่นยนต์รุ่นใหม่ๆออกมาทีนี้แหละก็จะเกิดการบูลลี่ขึ้นมาอีกอยู่ดี พอเข้าใจทีผมจะสื่อมั้ยครับ
อันนี้วิธีแก้ส่วนตัวผมนะ เพราะตัวผมใช้วิธีนี้
คือผมจะเลือกแสดงประมาณแกล้งร้องให้ เสียใจ
เพราะผมเคยตอบโต้ทางร่างกายไปแล้ว แต่คนได้ผลเสียก็คือผมคนเดียว เพราะงั้นส่วนตัวผมเลยใช้วิธีนี้
เพราะถ้าเกิดเลือกไม่ตอบโต้อะไรเลย มันจะตกเป็นเป้ามากกว่าเดิมซะอีก แต่สุดท้ายอะไรแบบนี้ก็ขึ้นอยู่กับจิตใจคนด้วยละนะ
ขอให้โฆษณาเข้าช่องเยอะๆนะครับสู้ๆกำลังใจจากแฟนคลับนะครับเลิฟยู
เคยโดนแก้ปัญหาด้วยการลาออก หลังจากนั้นพอมีปัญหาเล็กๆน้อยๆก็ลาออก ติดนิสัยหนีปัญหาไปเลย
ก็ต้องทนให้ได้นั้นเเหละมีทุกโรงเรียน มันจะมีไม่กี่ตัวหรอกที่ชอบเเกล้ง มีทางเดียวเอากําปั้นหยุมดังมัน เดี๋ยวมันก็ไม่กล้าเเกล้งเอง ยิ่งทําตัวติ๋มๆมันยิ่งได้ใจพวกนี้ บอกครูคงไม่ช่วยอะไร จะโดนหนักกว่าเดิม เเต่ถ้ามีพ่อโหดๆบอกให้พ่อมาด่ามันเลย อันนี้ช่วยได้เเน่นอนมันจะไม่กล้ายุ่งเลย
นึกถึงหนังเรื่องนึงของญี่ปุ่นแหะ😂
Racism japanese people
Why do you like insulting japan people
No joke
Bullying stop
มันเกี่ยวอะไรด้วยหนัง
เคยโดนบูลลี่นะ บางครั้งก็สู้กลับ ขนาดหล้อชื่อพ่อชื่อแม่ยังมีเลย
ที่แย่ไปกว่านั้นโดนพี่มอปลายแกล้ง เตะต่อยจนต้องฟ้องพ่อและเรียกผู้ปกครองมา เคลียร์
😢
ผมที่เรียน Ai แล้วเห็นข่าวนี้แล้วรู้สึก ว้าว😮 รอดูผลคับ