ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
ถ้าใครจะตีความว่า ยาน ในสิกขาบทเรื่องห้ามนั่งยานนี้ รวมเอาพาหนะทุกอย่าง พระก็สามารถนั่งรถในกรณีต้องเดินทางไปที่ไกลๆ ได้อยู่ดี เพราะจัดเป็นผู้อาพาธ ดังที่ฎีกาอธิบายไว้ คือ เป็นผู้ไม่สามารถจะเดินทางด้วยอาศัยแค่รองเท้าไปไหว
การเคร่งครัดในพระวินัยเป็นสิ่งที่ควร แต่อย่าเคร่งเครียด การตีความต้องดูที่เจตนา ยานที่นำไปด้วยแรงคน หรือสัตว์ ถือว่าเป็นการเบียดเบียน หรือทรมาณโดยตรง แต่ยานยนต์ไม่ใช่ ส่วนการที่พระจะขับรถ ก็ต้องพิจารณาเป็นกรณีไป เช่นพระเณรในวัดอาพาธ มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้อได้รับการรักษาแต่ไม่มีคนขับ จะเคร่งวินัยแล้วปล่อยให้คนป่วยตายต่อหน้าต่อตาหรือ นี่เป็นแค่กรณีตัวอย่าง ยังมีเหตุอื่นๆอีกมากมายที่ไม่ได้กล่าวถึง
พระจักขุบาลท่านเดินจงกลมเหยียบแมลงเม่าตาย โดยไม่เจตนา มีภิกษุบางรูปจะปรับอาบัติท่าน แต่ท่านตาบอด และเป็นพระอนหันต์สุขะวิปัสสะโก ไม่ได้มีฤทธิ์ ไม่มีอภิญญา ท่านจึงไม่ต้องอาบัติ
ขออนุโมทนาบุญในการขยายความ ทำให้ชาวพุทธบริษัทกระจ่าง
สาธุ
ยุคสมัยเปลี่ยนไป...พระซื้อของทางไลน์ ทางแอป...ผิดหรือเปล่าครับ
กราบสาธุธรรมครับท่านมหา🙏🙏🙏
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนาครับ
กราบสาธุค่ะ
วินิจฉัยเรื่องยาน โดยพระอาจารย์มหาสมบูรณ์ ฉนฺทโก วัดเขาสนามชัย หัวหิน th-cam.com/video/vhBYUNUmiVA/w-d-xo.htmlsi=xcLySkqQR-OQTqSL
ผู้คนชอบอ้างโลกติเตียน จริงๆโลกไม่ติเตียนหรอก มันติเตียนเองอย่างมากแค่ประเทศไทยติเตียน ชอบอ้างโลก
เป็นอุปการะแก่ชนเป็นอันมากครับ
สาธุ สาธุ
แล้วโยมใส่รองเท้าเข้าโบสถ์?
ส่วนตัวคิดว่าเหมาะไม่เหมาะอยู่ที่เจนตนา ครับ
เคยฟังมาว่าหลวงปู่มั่นไม่ยอมนั่งรถ รูปอื่นเลยไม่กล้ารับนิมนต์ สรุปพระวินัยตั้งขึ้นตามข้อที่ชาวบ้านมองพระในทางไม่ดีซึ่งอาจจะจริงหรือไม่ไม่รู้ เพียงแต่ดูไม่น่าเลื่อมใส
ท่านเห็นการณ์ไกลว่าถ้าไม่มีแบบอย่าง ภิกษุรุ่นหลังจะติดสบาย
เป้าหมายคือการไม่เบียดเบียน เห็นชัดว่าต้องใช้ทุกอย่างแบบ สมดุลย์ ล
อาจารย์ท่านพระมหากระผมมีปัญหาอยากจะสอบถามมากเลยครับผมขอความอนุเคราะห์ด้วยครับผม
❤️👍👍
บางทีโยมไม่เข้าใจวินัยพระอย่างแจ่มแจ้ง เอิาความรู้สึกตัวเองเป็นที่ตั้งวินิจฉัยเอง
บางคนอ่านพระวินัยแค่ผิวเผินแล้วตีความจริงจังไปปรับอาบัติพระเลยก็มี ซึ่งจริงๆ พระวินัยมีรายะเอียดมากที่ต้องศึกษาและหลายสิกขาบทก็ไม่ใช่เข้าใจได้ง่าย
ต้องเรียนถึงขั้นระดับไหนถึงมีความรู้ระดับนี้ได้หรอครับ
เรียนหลายปีอยู่
แค่อ่านๆมาก
สาธุสาธุพระอาจารย์
พระนั่งรถคงไม่มีอาบัติ.แต่ถ้าขับรถเองไปตามกิจจำเป็นเหมาะสมและมีเอกสารครบถูกต้องขับตามกฎของพรบ.ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์กฎฯบ้านเมืองที่ใช้บังคับโดยทั่วไปทำไมจะต้องเกิดอาบัติด้วยล่ะ.?.ส่วนถ้าจะไปมีอุบัติเหตุในส่วนเกี่ยวกับฯอาญาก็ต้องรับผิดชอบเป็นการส่วนตัวเหมือนกับคนทั่วไป.ส่วนมีรถส่วนตัวเองใว้ใช้ตามสภาพปัจจุบันหากได้มาโดยถูกต้องคงไม่น่าจะไปถึงอาบัติเช่นเดียวกัน.การเดินทางในสภาพทุกวันนิรถฯโดยสารมักจะกีดกันพระเพราะเกรงจะรับผู้โดยสารที่เป็นหญิงค่อยไม่ได้.ทุกๆท่านอย่าคิดมากกันไปจนเกินเหตุ...เป็นความคิดเห็นเฉพาะตัว
พระนั่งรถได้ไปธุระ จำเป็น แต่แม่ง.พระขับรถเองเป็นเจ้าของเองนี่ต่างหากที่ไม่เหมาะ
ยุคสมัยเปลี่ยนไป. เพราะกินมาม่ารอบดึกผิดหรือเปล่าครับ
เยอะเลยกินอาหารยามวิกาลแต่ญาติโยมยังเลี้ยงดู ส่งเสริมเดียรถีมาแอบบวชในพุทธศาสนา
นักบวชต้องต้องคำถามตัวเองก่อนว่าเข้า มาบวชเพื่ออะไร(การบวชเป้าหมายคือแสวงหาทางพ้นทุกข์เพื่อเข้าสู่ความเป็นอริยบุคคล)ถ้าผิดไปจากนี้ถือว่าเป็นพวกโมฆะบุรุษ
รู้มากหลีกเรี่ยงมาก
ศาสนาพุทธ เป็นศาสนาที่แบ่งแยก กีดกันเพศหญิงอย่างเด่นชัด ทั้งๆที่มนุษย์ทุกผู้ทุกนามก็ออกมาจากที่เดียวกัน ทำไมครับ
ผมจะขยายความเพิ่มเติมให้ครับ ในข้อมูลที่ถูกต้อง พระพุทธเจ้าไม่ได้ห้ามกีดกันเรื่องสตรีเพศครับ อย่าลืมนะครับ พระพุทธเจ้าให้มีภิกษุณี แต่พอหลังพระองค์ปรินิพพาน ในเวลาไม่นานต่อมา เหล่าพระที่เดิมมาจากตระกูลของพราหมณ์...ได้ทำการแบ่งแยก กีดกัน ไม่ให้ผู้หญิงบวช ทุกวันนี้เลยมีแค่ภิกษุเป็นหลัก ซึ่งจริงๆพระพุทธเจ้าไม่ใช่ผู้ที่ตัดเรื่องไม่ให้สตรีบวชครับ เป็นความผิดของภิกษุยุคหลังต่อมาครับ ในสมัยพระองค์ยังอยู่...พระองค์ทรงยกย่องเหล่าภิกษุณีเป็นอันมาก ส่วนหลายๆเรื่องที่อ่านมาว่า....พระพุทธเจ้าห้ามหรือดูแคลนเหล่าสตรีไม่ให้บวชนั้น มันคือเรื่องที่ถูกแต่งขึ้นมาล้วนๆครับ ผมเองศึกษามา 30 กว่าปี เข้าใจเลยครับว่าในหลายๆเรื่องของพระศาสนา มีเรื่องที่ถูกแต่งเติมมั่วเยอะแยะครับ ขอให้คุณจงเชื่อมั่นว่า พระพุทธเจ้า..ท่านไม่เคยดูหมิ่นกดขี่เหล่าสตรีครับ 😊😊
ผมว่าคุณเข้าใจผิดแล้วนะพระพุทธเจ้าไม่ทรงแบ่งแยก แต่เพื่อป้องกันการลวนลามของพระบางรูปที่คิดไม่ดีไง เช่นการประเคนของห้ามรับกับมือสตรีโดยตรง เพราะว่าป้องกันการลวนลวมของพระต้องเข้าใจด้วย
ไม่มีอาบัติค่ะ พระแถวบ้าน ไปไหนทำธุระ กิจนิมนต์ ไปหาหมอ นั่งรถไปหมด บางทีก็ต้องขับรถเอง เพราะโยมคิดค่าขับครั้งละ500 ไม่รวมเติมน้ำมัน มันแพงไม่ไหว
ไม่ช้ดเจนกาํกวม
เขาห้ามเอาวัวเพศเมียเทียมรถ เพราะยุคนั้น มันไม่มีเทคโนโลยี ถ้าวัวมันท้อง แล้วคลอดตอนเอามาเทียมรถรับพระ " จะเป็นยังไง?" วินิจฉัยอะไร ท่าน! มองลึกๆ ดูยุคสมัยของการตั้งกฏด้วย.
รถ หญิงขับ สองต่อสอง เมื่อกล่าวธรรมอาจโดนข้อ กล่าวเกิน 6 พยางค์ไหมครับพูดและแชท ภายโทรศัพท์ เกิน 6 คำ วินิจฉัยอย่างไรครับ
เรื่องกล่าวธรรมบาฬีให้ผู้หญิงฟัง มันเป็นอีกสิกขาบทหนึ่งซึ่งต้องอาบัติได้ยาก เพราะส่วนใหญ่พระมักแสดงธรรมภาษาไทยกันอยู่แล้ว
17:50 อนึ่ง เรากล่าวอย่างนี้ว่า ‘ผู้ต้องการหญ้าพึงแสวงหาหญ้า ผู้ต้องการไม้พึงแสวงหาไม้ ผู้ต้องการเกวียนพึงแสวงหาเกวียน ผู้ต้องการบุรุษพึงแสวงหาบุรุษ’แต่เราไม่กล่าวเลยว่า ‘พึงยินดี พึงแสวงหาทองและเงินโดยประการใดๆ”
ตอนนั้นพูดตกคำว่า "แสวงหาไม้ไป"
@@MahaSilananda ครับผม ประเด็นที่ผมไม่เคยสังเกตตามที่ท่านยก คือ แสวงหาเกวียน ตรงนี้แม้ไม่ได้บอกให้ขึ้นตรงๆ แต่ก็มีนัยยะได้อยู่ครับผม ขอบพระคุณครับ
กราบสาธุเจ้าค่ะ
ถ้ามีความจำเป็นพึ่งผู้ใดไม่ได้รถก็ไม่จอดรับขับเลยครับ
พระอาจารย์ผมอายุหกสิบกว่าๆก็บวชเป็นพระอยู่ขับรถพาพระอายุหกสิบห้าหกสิบหกปีบิณฑบาตรในหมู่บ้านแล้วก็กลับผมกลัวผิดวินัยมากไม่อยากมีอาบัติฟังพระอาจารย์อธิบายแล้วรู้สึกว่าโล่งมากครับขอขอบคุณมากๆครับ
ถ้าใครจะตีความว่า ยาน ในสิกขาบทเรื่องห้ามนั่งยานนี้ รวมเอาพาหนะทุกอย่าง พระก็สามารถนั่งรถในกรณีต้องเดินทางไปที่ไกลๆ ได้อยู่ดี เพราะจัดเป็นผู้อาพาธ ดังที่ฎีกาอธิบายไว้ คือ เป็นผู้ไม่สามารถจะเดินทางด้วยอาศัยแค่รองเท้าไปไหว
การเคร่งครัดในพระวินัยเป็นสิ่งที่ควร แต่อย่าเคร่งเครียด การตีความต้องดูที่เจตนา ยานที่นำไปด้วยแรงคน หรือสัตว์ ถือว่าเป็นการเบียดเบียน หรือทรมาณโดยตรง แต่ยานยนต์ไม่ใช่ ส่วนการที่พระจะขับรถ ก็ต้องพิจารณาเป็นกรณีไป เช่นพระเณรในวัดอาพาธ มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้อได้รับการรักษาแต่ไม่มีคนขับ จะเคร่งวินัยแล้วปล่อยให้คนป่วยตายต่อหน้าต่อตาหรือ นี่เป็นแค่กรณีตัวอย่าง ยังมีเหตุอื่นๆอีกมากมายที่ไม่ได้กล่าวถึง
พระจักขุบาลท่านเดินจงกลมเหยียบแมลงเม่าตาย โดยไม่เจตนา มีภิกษุบางรูปจะปรับอาบัติท่าน แต่ท่านตาบอด และเป็นพระอนหันต์สุขะวิปัสสะโก ไม่ได้มีฤทธิ์ ไม่มีอภิญญา ท่านจึงไม่ต้องอาบัติ
ขออนุโมทนาบุญในการขยายความ ทำให้ชาวพุทธบริษัทกระจ่าง
สาธุ
ยุคสมัยเปลี่ยนไป...พระซื้อของทางไลน์ ทางแอป...ผิดหรือเปล่าครับ
กราบสาธุธรรมครับท่านมหา🙏🙏🙏
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนาครับ
กราบสาธุค่ะ
วินิจฉัยเรื่องยาน โดยพระอาจารย์มหาสมบูรณ์ ฉนฺทโก วัดเขาสนามชัย หัวหิน
th-cam.com/video/vhBYUNUmiVA/w-d-xo.htmlsi=xcLySkqQR-OQTqSL
ผู้คนชอบอ้างโลกติเตียน จริงๆโลกไม่ติเตียนหรอก มันติเตียนเองอย่างมากแค่ประเทศไทยติเตียน ชอบอ้างโลก
เป็นอุปการะแก่ชนเป็นอันมากครับ
สาธุ สาธุ
แล้วโยมใส่รองเท้าเข้าโบสถ์?
ส่วนตัวคิดว่าเหมาะไม่เหมาะอยู่ที่เจนตนา ครับ
เคยฟังมาว่าหลวงปู่มั่นไม่ยอมนั่งรถ รูปอื่นเลยไม่กล้ารับนิมนต์ สรุปพระวินัยตั้งขึ้นตามข้อที่ชาวบ้านมองพระในทางไม่ดีซึ่งอาจจะจริงหรือไม่ไม่รู้ เพียงแต่ดูไม่น่าเลื่อมใส
ท่านเห็นการณ์ไกลว่าถ้าไม่มีแบบอย่าง ภิกษุรุ่นหลังจะติดสบาย
เป้าหมายคือการไม่เบียดเบียน เห็นชัดว่าต้องใช้ทุกอย่างแบบ สมดุลย์ ล
อาจารย์ท่านพระมหากระผมมีปัญหาอยากจะสอบถามมากเลยครับผมขอความอนุเคราะห์ด้วยครับผม
❤️👍👍
บางทีโยมไม่เข้าใจวินัยพระอย่างแจ่มแจ้ง เอิาความรู้สึกตัวเองเป็นที่ตั้งวินิจฉัยเอง
บางคนอ่านพระวินัยแค่ผิวเผินแล้วตีความจริงจังไปปรับอาบัติพระเลยก็มี ซึ่งจริงๆ พระวินัยมีรายะเอียดมากที่ต้องศึกษาและหลายสิกขาบทก็ไม่ใช่เข้าใจได้ง่าย
ต้องเรียนถึงขั้นระดับไหนถึงมีความรู้ระดับนี้ได้หรอครับ
เรียนหลายปีอยู่
แค่อ่านๆมาก
สาธุสาธุพระอาจารย์
พระนั่งรถคงไม่มีอาบัติ.แต่ถ้าขับรถเองไปตามกิจจำเป็นเหมาะสมและมีเอกสารครบถูกต้องขับตามกฎของพรบ.ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์กฎฯบ้านเมืองที่ใช้บังคับโดยทั่วไปทำไมจะต้องเกิดอาบัติด้วยล่ะ.?.ส่วนถ้าจะไปมีอุบัติเหตุในส่วนเกี่ยวกับฯอาญาก็ต้องรับผิดชอบเป็นการส่วนตัวเหมือนกับคนทั่วไป.ส่วนมีรถส่วนตัวเองใว้ใช้ตามสภาพปัจจุบันหากได้มาโดยถูกต้องคงไม่น่าจะไปถึงอาบัติเช่นเดียวกัน.การเดินทางในสภาพทุกวันนิรถฯโดยสารมักจะกีดกันพระเพราะเกรงจะรับผู้โดยสารที่เป็นหญิงค่อยไม่ได้.ทุกๆท่านอย่าคิดมากกันไปจนเกินเหตุ...เป็นความคิดเห็นเฉพาะตัว
พระนั่งรถได้ไปธุระ จำเป็น แต่แม่ง.พระขับรถเองเป็นเจ้าของเองนี่ต่างหากที่ไม่เหมาะ
ยุคสมัยเปลี่ยนไป. เพราะกินมาม่ารอบดึกผิดหรือเปล่าครับ
เยอะเลยกินอาหารยามวิกาลแต่ญาติโยมยังเลี้ยงดู ส่งเสริมเดียรถีมาแอบบวชในพุทธศาสนา
นักบวชต้องต้องคำถามตัวเองก่อนว่าเข้า มาบวชเพื่ออะไร(การบวชเป้าหมายคือแสวงหาทางพ้นทุกข์เพื่อเข้าสู่ความเป็นอริยบุคคล)ถ้าผิดไปจากนี้ถือว่าเป็นพวกโมฆะบุรุษ
รู้มากหลีกเรี่ยงมาก
ศาสนาพุทธ เป็นศาสนาที่แบ่งแยก กีดกันเพศหญิงอย่างเด่นชัด ทั้งๆที่มนุษย์ทุกผู้ทุกนามก็ออกมาจากที่เดียวกัน ทำไมครับ
ผมจะขยายความเพิ่มเติมให้ครับ ในข้อมูลที่ถูกต้อง พระพุทธเจ้าไม่ได้ห้ามกีดกันเรื่องสตรีเพศครับ อย่าลืมนะครับ พระพุทธเจ้าให้มีภิกษุณี แต่พอหลังพระองค์ปรินิพพาน ในเวลาไม่นานต่อมา เหล่าพระที่เดิมมาจากตระกูลของพราหมณ์...ได้ทำการแบ่งแยก กีดกัน ไม่ให้ผู้หญิงบวช ทุกวันนี้เลยมีแค่ภิกษุเป็นหลัก ซึ่งจริงๆพระพุทธเจ้าไม่ใช่ผู้ที่ตัดเรื่องไม่ให้สตรีบวชครับ เป็นความผิดของภิกษุยุคหลังต่อมาครับ ในสมัยพระองค์ยังอยู่...พระองค์ทรงยกย่องเหล่าภิกษุณีเป็นอันมาก ส่วนหลายๆเรื่องที่อ่านมาว่า....พระพุทธเจ้าห้ามหรือดูแคลนเหล่าสตรีไม่ให้บวชนั้น มันคือเรื่องที่ถูกแต่งขึ้นมาล้วนๆครับ ผมเองศึกษามา 30 กว่าปี เข้าใจเลยครับว่าในหลายๆเรื่องของพระศาสนา มีเรื่องที่ถูกแต่งเติมมั่วเยอะแยะครับ ขอให้คุณจงเชื่อมั่นว่า พระพุทธเจ้า..ท่านไม่เคยดูหมิ่นกดขี่เหล่าสตรีครับ 😊😊
ผมว่าคุณเข้าใจผิดแล้วนะพระพุทธเจ้าไม่ทรงแบ่งแยก แต่เพื่อป้องกันการลวนลามของพระบางรูปที่คิดไม่ดีไง เช่นการประเคนของห้ามรับกับมือสตรีโดยตรง เพราะว่าป้องกันการลวนลวมของพระต้องเข้าใจด้วย
ไม่มีอาบัติค่ะ พระแถวบ้าน ไปไหนทำธุระ กิจนิมนต์ ไปหาหมอ นั่งรถไปหมด บางทีก็ต้องขับรถเอง เพราะโยมคิดค่าขับครั้งละ500 ไม่รวมเติมน้ำมัน มันแพงไม่ไหว
ไม่ช้ดเจนกาํกวม
เขาห้ามเอาวัวเพศเมียเทียมรถ เพราะยุคนั้น มันไม่มีเทคโนโลยี ถ้าวัวมันท้อง แล้วคลอดตอนเอามาเทียมรถรับพระ " จะเป็นยังไง?" วินิจฉัยอะไร ท่าน! มองลึกๆ ดูยุคสมัยของการตั้งกฏด้วย.
รถ หญิงขับ สองต่อสอง เมื่อกล่าวธรรมอาจโดนข้อ กล่าวเกิน 6 พยางค์ไหมครับ
พูดและแชท ภายโทรศัพท์ เกิน 6 คำ วินิจฉัยอย่างไรครับ
เรื่องกล่าวธรรมบาฬีให้ผู้หญิงฟัง มันเป็นอีกสิกขาบทหนึ่งซึ่งต้องอาบัติได้ยาก เพราะส่วนใหญ่พระมักแสดงธรรมภาษาไทยกันอยู่แล้ว
17:50 อนึ่ง เรากล่าวอย่างนี้ว่า ‘ผู้ต้องการหญ้าพึงแสวงหาหญ้า ผู้ต้องการไม้พึงแสวงหาไม้ ผู้ต้องการเกวียนพึงแสวงหาเกวียน ผู้ต้องการบุรุษพึงแสวงหาบุรุษ’
แต่เราไม่กล่าวเลยว่า ‘พึงยินดี พึงแสวงหาทองและเงินโดยประการใดๆ”
ตอนนั้นพูดตกคำว่า "แสวงหาไม้ไป"
@@MahaSilananda ครับผม ประเด็นที่ผมไม่เคยสังเกตตามที่ท่านยก คือ แสวงหาเกวียน ตรงนี้แม้ไม่ได้บอกให้ขึ้นตรงๆ แต่ก็มีนัยยะได้อยู่ครับผม ขอบพระคุณครับ
กราบสาธุเจ้าค่ะ
ถ้ามีความจำเป็นพึ่งผู้ใดไม่ได้รถก็ไม่จอดรับขับเลยครับ
พระอาจารย์ผมอายุหกสิบกว่าๆก็บวชเป็นพระอยู่ขับร
ถพาพระอายุหกสิบห้าหกสิบหกปีบิณฑบาตรในหมู่บ้านแล้วก็กลับผมกลัวผิดวินัยมากไม่อยากมีอาบัติฟังพระอาจารย์อธิบายแล้วรู้สึกว่าโล่งมากครับขอขอบคุณมากๆครับ