ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
สำหรับเพื่อน ๆ ที่ต้องการดาวน์โหลดไฟล์ตัวอย่างวิธีการคำนวณและเปรียบเทียบเงินเดือน (จากที่เห็นในคลิปนี้) เพื่อนำไปใช้งานต่อ สามารถกดจากลิงก์ด้านล่างได้เลยนะคร้าบ :docs.google.com/spreadsheets/d/1Q7gKA2Me8uJjH6n1-vrzg6IXoZU2O9Zi/edit?usp=sharing&ouid=105664976007587678602&rtpof=true&sd=trueและถ้าใครที่มีคำแนะนำอื่น ๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียกเงินเดือนใหม่ อย่าลืมมาแชร์ไว้ในคอมเมนต์กันด้วยนะคร้าบ หวังว่าเนื้อหาในคลิปจะพอเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อน ๆ ได้บ้างนะครับ ขอบคุณมาก ๆ ครับ 😃
ถ้าได้เป็นเงินสดละครับทำอย่างไรได้บ้าง
สวัสดีครับคุณ Puen ขอบคุณมากๆเลยที่ทักทายเข้ามานะครับ ผมขออนุญาตสอบถามอีกนิดนึงนะครับ "เงินสด" ที่คุณ Puen หมายถึง คือเงินที่อาจจะได้มาจากการจ้างงานแบบรายวันหรืองานฟรีแลนซ์ใช่ไหมครับ?
@@ngandeechannel งานประจำครับ บริษัทอยู่สิงคโปร์ไม่มีฝ่ายบุคคลเลยได้เป็นเงิรสดครับ ตอนนี้หางานในไทยลำบากมากเลยครับ
ขอบคุณมากๆเลยที่แชร์ข้อมูลนะครับคุณ Puen เดี๋ยวไว้ถ้าสะดวกผมรบกวนทักแชทมาทาง Facebook Page ของช่องทีได้ไหมครับ?ตามนี้ได้เลยนะครับ: facebook.com/ngandee.co
ถ้าเกิดว่าเคยทำงาน part-time ในสายงานเดียวกันในต่างประเทศ แต่ฐานเงินเดือนสูงกว่างานเก่าที่เคยทำที่ไทยมากๆ สามารถเอามาพิจารณาต่อรองเงินเดือนได้มั้ยครับ
ถ้าเป็นสายงานเดียวกัน สามารถนำมาต่อรองได้แน่นอนครับ แต่จะต่อรองได้มากหรือน้อยขนาดไหนคงต้องดูอีกที เพราะว่าแต่ละประเทศก็มีค่าครองชีพสูงต่ำแตกต่างกันไปครับ ดังนั้นทางบริษัทฯคงต้องดูจากภาพรวมทั้งหมด เช่น ประสบการณ์ทั้งหมดของตัวเรา รายรับและสวัสดิการปัจจุบัน ประเทศที่เราทำงาน และอื่นๆยังไงขอให้ได้ตัวเลขที่ตรงใจนะครับ ขอบคุณมากๆสำหรับคำถามครับ 🙂
เป็นคลิปที่ดีมีประโยชน์มากค่ะ นอกเหนือจากตัวเงิน ทำให้เราได้คำนึงถึงด้านอื่นๆ ด้วย
ดีใจมากๆเลยที่เนื้อหาในคลิปพอเป็นประโยชน์ให้ได้บ้างครับ ขอบคุณนะครับ 😊
พี่คะ ถ้าพลาดในการบอกตัวเลข ที่บอกต่ำเกินไป แล้วรู้สึกไม่พอใจ (กรณีนี้คือยังไม่ได้มีการเซ็นสัญญาจ้างนะคะ) จะน่าเกลียดมั๊ยถ้าจะบอกตัวเลขให้อีกครั้งในการสัมภาษณ์รอบที่2 แล้วควรจะเริ่มบอกยังไงดี
ขอบคุณมากๆเลยสำหรับคำถามนะครับ ในกรณีนี้ผมขอเสนอให้ลองพิจารณาสิ่งเหล่านี้ดูก่อนครับ:1. อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้เราอยากขอตัวเลขที่สูงขึ้น? มีปัจจัยใดเข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง?2. ตัวเลขใหม่ที่เราอยากขอ จำนวนเงินเพิ่มขึ้นมาจากตัวเลขเดิมที่เคยแจ้งไว้มากมั้ย? ถ้ามาก สาเหตุเพราะอะไร?โดยเวลาที่เราจะดูความต่างของตัวเลขเดิมกับตัวเลขใหม่ ในจุดนี้ผมเสนอว่าให้ลองคำนวณเป็น % ดูก็ได้นะครับ อาจจะทำให้เห็นภาพมากขึ้น เช่น ปัจจุบันผมเงินเดือน 25,000 บาท และเดิมแจ้งบริษัทฯที่ไปสัมภาษณ์ว่าอยากได้เงินเดือนใหม่ที่ 30,000 บาท (เงินขึ้นมา 20%) แต่พอมาคิดอีกที ผมอยากขอตัวเลขใหม่ที่ 32,000 (ขึ้นมา 28% และเพิ่มมา 8% จากตัวเลขเดิม) ในกรณีนี้เราอาจจะต้องมาดูว่า 8% ตรงนี้ที่เราอยากได้เพราะอะไร? เรามีเหตุผลหรือข้อมูลใดมาสนับสนุนบ้างการบอกตัวเลขใหม่อาจจะทำให้เราดูไม่ดีเท่าไหร่ และแน่นอนว่าอาจจะทำให้มีคำถามจากฝั่งจากบริษัทฯด้วยเช่นกันว่าเพราะอะไร แต่ถ้าเรามีข้อมูลมาสนับสนุนคำถาม 2 ข้อด้านบนได้ชัดเจน และสามารถอธิบายบริษัทฯที่ไปสัมภาษณ์ได้อย่างมีเหตุผล ผมคิดว่าเราสามารถบอกตัวเลขใหม่ได้ครับ โดยช่วงโอกาสที่จะบอกทางบริษัทฯ ผมขอเสนอ 2 ช่วง ดังนี้ครับ:1. ระหว่างการคัดเลือก --> ในช่วงระหว่างที่เรายังอยู่ในการสัมภาษณ์ไม่ว่าจะเป็นรอบไหน ถ้าบังเอิญบริษัทฯมีการสอบถามเรื่องตัวเลขขึ้นมา เราก็สามารถบอกตัวเลขใหม่พร้อมเหตุผลได้เลยครับ โดยผมคิดว่าถ้าทางบริษัทฯจะถามเรื่องตัวเลขอีกที อาจจะเป็นช่วงตอนที่เรากำลังจะไปสัมภาษณ์รอบสุดท้าย2. ช่วงหลังผ่านการสัมภาษณ์ --> ถ้าเราผ่านการสัมภาษณ์ แน่นอนว่าทางบริษัทฯจะต้องคุยกับเราเรื่องตัวเลขแน่นอน ซึ่งในจุดนี้เราสามารถแจ้งตัวเลขใหม่พร้อมเหตุผลได้เลยครับสุดท้ายนี้ไม่ว่าตัวเลขจะจบที่เท่าไหร่ ผมขอเสนอให้ลองพิจารณาผลตอบแทนในภาพรวมจากทางบริษัทฯด้วยนะครับ (เงินเดือน, โบนัส, โอกาสในการเรียนรู้, สภาพแวดล้อมการทำงาน, และอื่นๆ) ทั้งนี้เพื่อให้เราเห็นประโยชน์ทั้งในระยะสั้นและยาวหวังว่าจะพอให้แนวทางได้บ้างนะครับ ถ้ามีคำถามเพิ่มเติมตรงไหนบอกผมได้เลยนะครับขอให้โชคดีในการสัมภาษณ์และได้ตัวเลขตามที่คาดหวังนะครับ 🙂
1.ถ้าหางานใหม่ มีไหมคะถ้าขอเพิ่ม(แบบสักสามสี่พันจากที่เขาแจ้งมา) แล้วHRไม่รับเราเข้าทำงาน2.ถ้าได้รับงานในตำแหน่งใหม่ที่ต้องดูแลงานเพิ่มขึ้นทั้งดูแลลูกค้าดูแลหน้าร้าน+หลังร้านและต้องย้ายสาขา ซึ่งไกลจากบ้านของเราเพิ่มอีก80กิโลเมตร ต้องทำงานเพิ่ม7:30-21:30และไม่ได้ใช้พักร้อนเพราะคนไม่พอทำงาน เรายอมมาทำได้สักสองเดือน เราสามารถขอHRส่วนกลางให้ทำเรื่องเพิ่มเงินเดือนหรือค่าน้ำมันเพิ่มเติมได้ไหมคะ3.ต้องใช้คำพูดประมาณไหน เพื่อคุยกับHRส่วนกลางเพื่อได้เงินเพิ่มคะ
สวัสดีครับคุณ Lookgate ขอบคุณมากๆเลยที่ทักทายเข้ามานะครับ ผมขอตอบคำถามตามลำดับดังนี้ครับ 🙂1. มีครับ มีกรณีที่บริษัทฯตัดสินใจไม่รับผู้สมัครเข้าทำงานเพราะเรียกเงินเดือนเพิ่มจากที่คุยกันไว้ (ทั้งนี้เพราะงบการจ้างอาจจะไม่พอหรือด้วยปัจจัยอื่นๆ) ดังนั้นถ้าให้ดีที่สุดคือผู้สมัครควรคำนวณตัวเลขและเหตุผลจากฝั่งเราให้ชัดเจน และทำการคุยเรื่องเงินเดือนที่คาดหวังกับบริษัทฯที่ไปสัมภาษณ์ในช่วงการคัดเลือกครับ (หรือหลังจากที่ผ่านสัมภาษณ์) รวมถึงสอบถามรายละเอียดสวัสดิการอื่นๆที่เราต้องใช้ในการทำงานกับที่บริษัทฯนั้นๆมาด้วย เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจของเราครับ2. ต้องดูว่างานที่เพิ่มขึ้นในตำแหน่งใหม่รวมถึงลักษณะการทำงานที่เปลี่ยนไปนี้เป็นสิ่งที่บริษัทฯเคยแจ้งเราแล้วหรือไม่ครับ2.1 หากบริษัทฯเคยแจ้งแล้ว --> เราลองปรึกษากับบริษัทฯหรือ HR ได้ แต่อาจจะมีการเพิ่มหรือปรับสวัสดิการอะไรต่างๆยากหน่อย เพราะเคยเป็นสิ่งที่ถูกชี้แจงไปแล้ว2.2 หากเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นปุปปับหรือมาแบบไม่คาดคิด --> ลองร่างเหตุผลฝั่งเราขึ้นมาแล้วลองปรึกษา HR ดูได้เลยครับ เพราะฟังดูแล้วสภาพการทำงานเปลี่ยนไปค่อนข้างเยอะ (เฉพาะที่ต้องเดินทางไปที่ทำงาน 80 กิโลฯก็ถือว่ามีเหตุผลสมควรแล้วที่จะขอค่าน้ำมันเพิ่ม)3. ผมเสนอให้ใช้เหตุผลและข้อมูลในการคุยกับบริษัทฯครับ คุณ Lookgate ลองทำข้อมูลออกมาดูเลยครับว่าลักษณะและสภาพการทำงานที่เคยทำเมื่อเทียบกับปัจจุบันมีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้าง และอะไรเป็นที่มาของเราในการขอปรึกษาบริษัทฯเรื่องการเพิ่มเงินเดือน (หรือสวัสดิการอื่นๆ) ในครั้งนี้อีกหนึ่งคนที่จริงๆแล้วเราน่าจะพอปรึกษาได้ก็คือหัวหน้างานของเรานะครับ (ในกรณีที่เราสามารถคุยเรื่องนี้ได้) เพราะบริษัทฯหลายที่เวลาจะมีการเพิ่มเงินเดือน/ปรับสวัสดิการอะไรต่างๆนั้น หนึ่งในคนที่ควรจะเห็นชอบ (และในบางครั้งก็เป็นคนอนุมัติด้วย) ก็คือหัวหน้างานของเรานั่นเองหวังว่าจะพอเป็นประโยชน์ได้บ้างนะครับ หากมีคำถามเพิ่มเติมตรงไหนบอกผมได้เลยนะครับ 🙂
@@ngandeechannel ขอบคุณที่ทำคลิปดีๆมาให้ และขอบคุณที่สละเวลาตอบคำถามของเราอย่างละเอียด🙏จากงานเก่าที่เคยสอบถามไป ตอนนี้เราตัดสินใจลาออกแล้วค่ะเลยอยากจะสอบถามว่าการสมัครที่ใหม่เราจะใส่เงินเดือน +เพิ่ม30%เลยดีไหมคะ เพราะที่ใหม่ได้วันหยุดน้อยลงกว่าเดิมการบวกเพิ่มคิดจากฐานเงินเดือนอย่างเดียวหรือคิดจากเงินเดือนรวมค่าอื่นๆที่ได้รับตายตัวเป็นประจำทุกเดือนคะเราไม่ทราบฐานเงินเดือนบริษัทใหม่ที่ต้องการสมัคร เราสามารถโทรสอบถามฐานเงินเดือนกับhrก่อนส่งresumeดีไหมคะ หรือ ควรทำอย่างไรถึงจะทราบฐานเงินเดือนบริษัทใหม่เพื่อไว้พิจารณาก่อนส่งresumeคะ
สวัสดีครับคุณ Lookgate ขอบคุณมากๆเลยที่ทักทายกันมาอีกครั้งนะครับ 🙂 ผมขอตอบคำถามตามนี้นะครับผม:1. การใส่เงินเดือนเพิ่ม 30% --> ในส่วนนี้ผมขอเสนอให้พิจารณาหลายๆปัจจัยควบคู่กันครับ เช่น อายุงานของที่ทำงานปัจจุบัน สวัสดิการที่อาจจะหายไป (เช่น วันหยุดน้อยลงอย่างที่แจ้ง) และอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องอายุงาน ถ้าได้ทำงานที่เดิมมาซักระยะนึงแล้ว (เช่น 2-3 ปี) ก็จะยิ่งช่วยให้เรามีน้ำหนักมากขึ้นสำหรับการเรียกเพิ่ม 30% ของเราครับ โดยในบางกรณีเราอาจจะบวก % เพิ่มเข้าไปซัก 5% - 10% จากตัวเลขที่เราต้องการจริงๆด้วยก็ได้นะครับ (เผื่อถูกต่อรอง) เช่น ผมอาจจะขอเงินเดือนเพิ่มไป 30% จากเดิม (แต่จริงๆในใจตั้งเอาไว้แล้วว่าถ้าได้เพิ่มซักประมาณ 25% ก็ถือว่าโอเคแล้ว)2. การคำนวณเพื่อบวกเพิ่ม --> สามารถคิดจากฐานเงินเดือนรวมค่าอื่นๆที่ได้รับตายตัวประจำเดือนได้ครับ โดยเราอาจจะลองเปรียบเทียบอีกทีเมื่อไปถึงจุดที่ต้องคุยเรื่องเงินเดือนและสวัสดิการ ถ้าบริษัทฯนั้นๆไม่สามารถให้ค่าอื่นๆเหมือนกับที่เราได้อยู่ในปัจจุบัน อาจจะต้องสอบถามทางบริษัทฯดูว่ามีสวัสดิการอื่นๆอะไรมาทดแทนได้บ้างครับ (เช่น เดิมผมเคยได้ค่าเดินทางต่อเดือนเป็นเงินสด ถ้าบริษัทฯอีกที่ให้ค่าเดินทางผมเป็นเงินสดไม่ได้ ผมอาจจะลองดูว่าบริษัทฯนั้นๆมีอะไรมาทดแทนให้ผมได้บ้าง เช่น บัตรน้ำมัน การให้เบิกค่าเดินทางตามเลขไมล์ หรืออื่นๆ)3. การถามเงินเดือนก่อนส่ง resume --> ผมเสนอว่าให้ลองพิจารณาจากตำแหน่งงาน ลักษณะงาน และบริษัทฯที่เราสนใจก่อนครับ ถ้าน่าสนใจจริงๆลองสมัครดูก่อนเลย ส่วนเรื่องเงินเดือนเป็นอะไรที่เราค่อยหาจังหวะคุยกับ HR บริษัทฯนั้นได้ครับ (ถ้าเค้าติดต่อมา) โดยผมเสนอว่าถ้าได้มีโอกาสคุยกับทางบริษัทฯ ให้หลีกเลี่ยงการถามเรื่องเงินเป็นอย่างแรก ลองสอบถามเรื่องลักษณะงาน การเติบโตกับองค์กร และอื่นๆก่อน จากนั้นค่อยถามเรื่องเงินเป็นอย่างท้ายครับหวังว่าจะพอเป็นประโยชน์ได้บ้างและถ้ามีคำถามเพิ่มเติมบอกผมได้เลยนะครับ ขอให้ได้งานที่ตรงใจนะครับ 😀
@@ngandeechannel ขอบคุณมากนะคะ ที่สละเวลามาตอบคำถาม🙏ตอนนี้สงสัยว่า เรามีประสบการณ์ตรงกับงานที่สมัครใหม่ โดยมีประสบการณ์สิบกว่าปีค่ะ ไม่มีวุฒิปริญญาตรี อาศัยการเลื่อนตำแหน่งมาเรื่อยๆ จนได้ตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายและทำมา5ปีค่ะ อดทนกับงานเก่ามาสักระยะตามที่เคยเล่าเมื่อครั้งก่อน ตอนนี้ส่งResumeสมัครงานไปแล้ว ทางhrส่งลิงค์ใบสมัครที่เป็นรูปแบบบริษัทมาให้กรอก มีข้อความว่าอนุญาตให้ตรวจสอบข้อมูลต่างๆได้ เรายินดีให้ตรวจสอบค่ะ แต่ที่กังวลคือ เรามีแค่ประสบการณ์ ไม่มีวุฒิปริญญาตรีตามที่บริษัทลงประกาศ ทางhrส่งใบสมัครมาให้กรอกเพราะสนใจเราทั้งๆที่ไม่มีวุฒิปริญญาตรี หรือส่งใบสมัครมาเพื่อเก็บผลงานจำนวนใบสมัครว่ามีคนสนใจงานนี้คะ เรามีโอกาสได้งานไหมคะ หรือจะถามทางhrโดยตรงเรื่องวุฒิการศึกษามีผลไหม เราควรใช้คำพูดประมาณไหนดีคะ เรากังวลที่ลาออกแล้วแต่ยังไม่ได้งานใหม่ ไม่ได้ใจร้อนที่ตัดสินใจลาออกแต่ด้วยเราเห็นว่าเสียสุขภาพกายและใจจากเวลาทำงานที่ยาวนานเกินไป วันละ13-14ชม. หลายเดือนติด ในวันหยุดก็ให้เราโทรตามงานกลับลูกน้องวันหยุดบางวันโทรให้เข้ามาทำครึ่งวันโดยไม่สนใจว่าเรามีธุระไหม(ต่อว่าเราธุระเยอะ การทำธุระในวันหยุดงานของเรา มันผิดมากหรอคะ)เคยเปิดอกคุยกับหัวหน้างานแล้ว เขาบอกกลับมาว่าไม่คิดจะให้อะไรบริษัทเลยหรอ(เราคิดว่าเราให้เยอะแล้วเพราะพักร้อนสามปีติดไม่เคยได้ใช้) จึงลาออกค่ะ
@@lookgatemarvel6673 สวัสดีครับคุณ Lookgate ขอบคุณมากๆเลยที่ทักทายกันเข้ามานะครับ ผมขออนุญาตตอบคำถามตามนี้นะครับ 🙂:1. วุฒิปริญญาตรี --> จากมุมมองของผม การสรรหาบุคลากรในระดับที่มีประสบการณ์ 8-10 ปีขึ้นไปแล้วนั้น ในบางครั้งวุฒิปริญญาตรีอาจไม่ได้เป็นปัจจัยที่ส่งผลขนาดนั้นครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่เราเริ่มเห็นแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆของแต่ละบริษัทฯในการให้ความสำคัญกับประสบการณ์และความสามารถของผู้สมัครมากกว่าวุฒิการศึกษา แต่สุดท้ายแล้วทุกอย่างยังขึ้นอยู่กับแนวปฏิบัติและมุมมองของบริษัทฯแต่ละที่ด้วย ดังนั้นในกรณีนี้ผมคิดว่าถ้ามีโอกาสได้พูดคุยกับทาง HR ของบริษัทฯนั้นๆ คุณ Lookgate สามารถแจ้งเค้าได้ครับเรื่องของวุฒิการศึกษา โดยอาจจะบอกว่าเราอยากแจ้งล่วงหน้าไว้ให้ชัดเจนอีกครั้ง (จากที่ได้เคยแจ้งไว้แล้วในใบสมัคร) เพราะฝั่งเราต้องการอยู่บนพื้นฐานของความโปร่งใสกับบริษัทฯสำหรับข้อมูลในส่วนนี้และเข้าใจว่าวุฒิปริญญาตรีเป็นสิ่งที่บริษัทฯได้กำหนดไว้ในประกาศตำแหน่งงาน ส่วนในเรื่องของโอกาสการได้งานผมคิดว่าขึ้นอยู่กับบริษัทฯนั้นๆครับว่าจะพิจารณาปัจจัยหลักอื่นๆมากน้อยขนาดไหน (เช่น ประสบการณ์และความสามารถของผู้สมัครอย่างที่ผมได้แจ้งไปก่อนหน้านี้)2. HR ที่ติดต่อมา --> ผมเชื่อว่า HR ของบริษัทฯนั้นๆสนใจในประสบการณ์ของคุณ Lookgate จริงๆครับ เพราะถ้าคุณ Lookgate มีประสบการณ์ตรงถึง 10 ปีในตำแหน่งงานที่สมัคร ผมคิดว่าโปรไฟล์ก็น่าจะเป็นอะไรที่น่าสนใจกับทางบริษัทฯอยู่แล้ว ดังนั้นผมคิดว่าในกรณีนี้ทาง HR ไม่ได้ต้องการทำผลงานในเรื่องของจำนวนใบสมัครครับ และถึงแม้ว่า HR จะต้องการข้อมูลในส่วนนี้ผมเชื่อว่าเค้าน่าจะสามารถตรวจสอบจากในระบบได้ครับว่ามีคนสมัครงานเข้ามาในตำแหน่งนี้กี่คน3. การลาออกจากที่ทำงานเก่า --> คุณ Lookgate ได้ทำงานมาแล้วถึง 3 ปีกับที่บริษัทฯเก่า ดังนั้นผมเชื่อว่าคุณ Lookgate น่าจะได้มีการไตร่ตรองและเห็นภาพอย่างชัดเจนแล้วว่าลักษณะงานที่ทำนั้นส่งผลต่อสุขภาพกายและใจของเรามากน้อยขนาดไหน ส่วนเรื่องการทำธุระของเราในวันหยุดงานเป็นสิทธิของลูกจ้างอยู่แล้วครับดังนั้นคือไม่ใช่เรื่องผิดเลย ส่วนเรื่องการขอให้เข้าไปทำงานด่วนอาจจะต้องดูที่เจตนาและวิธีการบริหารจัดการของบริษัทฯครับว่ามีประสิทธิภาพมากน้อยขนาดไหน อะไรคือเหตุผลและที่มาที่ไปของการที่เราต้องเข้าไปทำงานแบบกะทันหัน อย่างไรก็ตามผมเสนอว่าอะไรที่ผ่านมาแล้วก็ขอให้ผ่านไป ถือว่าให้เราเรียนรู้จากสิ่งที่เรารู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ดีและไม่ดีจากประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมาเพื่อนำไปปรับใช้และเป็นข้อคิดกับการทำงานในครั้งต่อๆไปครับหวังว่าจะพอเป็นประโยชน์ได้บ้างและถ้ามีคำถามเพิ่มเติมบอกผมได้เลยนะครับ ขอเป็นกำลังใจให้ครับ ☺
ได้ประโยชน์และดีมากเลยครับ
ขอบคุณมากๆเลยนะครับ 🙂🙏
เยี่ยมมาก ติดตามเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณมากๆเลยนะครับ :)
จะลองนำไปใช้ดู แล้วจะกลับมาอัพเดทนะคะ ขอบคุณค่ะ ❤️
ขอบคุณเช่นกันนะครับ ขอให้ได้งานใหม่ที่ตรงใจนะครับ 🙂
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ เป็นคำเเนะนำที่ดีมากๆค่ะ
ขอบคุณมากๆเลยนะครับ ดีใจที่เนื้อหาเป็นประโยชน์ครับ 🙂
พี่ค่ะ ถ้าสมมุติว่าเราเพิ่งเริ่มทำงานบริษัทเป็นครั้งแรกเราจะต้องขอเงินเดือนเท่าไหร่ได้ค่ะ
สวัสดีครับน้องอรยา ขอบคุณมากๆเลยสำหรับคำถามนะครับ จริงๆแล้วเงินเดือนเด็กจบใหม่มีหลายเรทมากเลยตั้งแต่ 12,000 ไปจนถึง 25,000 หรือ 30,000 (หรือสูงกว่านี้อีกก็มี) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายงาน บริษัทฯที่เราสมัครงาน รวมถึงวุฒิและประสบการณ์ที่ผ่านมาของตัวเราด้วยครับทีนี้ถ้าเราไม่แน่ใจว่าจะเรียกเงินเดือนสำหรับงานแรกเท่าไหร่ดี พี่ขอเสนอวิธีคร่าวๆตามด้านล่างนะครับ1. ลองค้นหาข้อมูลในเน็ตและลองสอบถามคนรู้จัก --> ลองหาดูในเน็ตคร่าวๆก่อนก็ได้ครับว่าสายงานที่เราอยากทำเค้าให้เงินเดือนประมาณเท่าไหร่สำหรับเด็กจบใหม่ หรือถ้าเรามีเพื่อนหรือรุ่นพี่ที่กำลังหางานหรือทำงานในสายงานหรือตำแหน่งที่ใกล้เคียงกัน อาจะลองถามเค้าดูก็ได้นะครับว่าเค้าได้เงินเดือนที่เท่าไหร่ (ทั้งนี้ต้องลองดูดีๆนะครับว่าเพื่อนหรือรุ่นพี่เรายินดีที่จะแชร์ข้อมูลมั้ย ประกอบกับต้องเผื่อใจไว้ด้วยว่าต่างคนต่างโปรไฟล์ ดังนั้นเงินเดือนอาจจะไม่ได้เท่ากันเสมอไปถึงแม้ว่าอาจจะได้งานในตำแหน่งเดียวกัน) จุดประสงค์สำหรับข้อนี้คือเพื่อที่เราจะได้มีตัวเลขตั้งต้นในใจไว้ก่อนว่าเราอยากเรียกที่เท่าไหร่2. ลองคำนวณค่าใช้จ่ายและแผนเก็บเงินของเรา --> ต่อจากข้อ 1 เมื่อเราได้ตัวเลขในใจแล้ว (เช่น 15,000) ให้ลองดูว่าเงินเดือนเท่านี้สามารถใช้จ่ายสำหรับค่ากินอยู่ ค่าเดินทาง หรืออื่นๆได้มั้ย ถ้าดูแล้วโอเคก็ยึดที่ตัวเลขนี้ได้เลยครับ3. ถามบริษัทฯที่เราไปสัมภาษณ์ --> เวลาที่เราไปสัมภาษณ์ ถ้าถูกถามว่าเราคาดหวังเงินเดือนที่เท่าไหร่ เราอาจจะลองถามเค้าดูก็ได้นะครับว่าเงินเดือนตามโครงสร้างบริษัทฯสำหรับตำแหน่งที่เราสมัครอยู่ที่เท่าไหร่ จะได้เป็นการเก็บข้อมูลสำหรับตัวเราและเผื่อไว้สำหรับเปรียบเทียบกับบริษัทอื่นด้วย (สมมุติถ้าเรามีโอกาสไปสัมภาษณ์มากกว่า 1 ที่) ทีนี้เวลาจะบอกเงินเดือนฝั่งเรา อย่าลืมบอกเผื่อถูกต่อรองไว้ด้วยนะครับ (เช่น ถ้าตัวพี่อยากได้เงินเดือน 13,000 พี่อาจจะบอก HR ว่าพี่ขอที่ 15,000)คร่าวๆประมาณนี้นะครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้ได้บ้าง ถ้ามีคำถามตรงไหนบอกพี่ได้เลยนะครับ 🙂
มีไฟล์ให้ดาวน์โหลดไหมครับ
สวัสดีครับคุณ Sirin ขออภัยที่ผมตอบกลับช้านะครับ สามารถใช้ลิงค์ด้านล่างหรือลิงค์ที่อยู่ในรายละเอียดของวิดีโอได้เลยนะครับ:drive.google.com/u/0/uc?id=1Q7gKA2Me8uJjH6n1-vrzg6IXoZU2O9Zi&export=downloadขอให้ได้งานที่ตรงใจครับ ☺
เป็นประโยชน์มากเลยครับ คลิปนี้ดู่ผอนคลาย ดูสบายๆ เป็นกำลังใจให้ครับ
ขอบคุณพี่บอมมากๆเลยนะคร้าบ ต่อไปน่าจะทำคลิปในลักษณะนี้ออกมาแทนครับ :)
พี่ครับ บริษัทเขียนเงินเดือนเริ่มต้นไว้ในเว็บหางานไว้ 3หมื่นบาท (ยินรับนักศึกษาจบใหม่ ปสก.0-2 ปี) ซึ่งผมก็ยังไม่มีประสบการณ์ทำงาน ผมควรตอบยังไงดีครับ แล้วถ้าเกิดผมตอบไปน้อยกว่าเงินเริ่มต้นที่บริษัทเขียนไว้(แบบประมาณ 2หมื่น+) มีโอกาสที่บริษัทจะเสนอเงินเดือนให้เราน้อยกว่าที่บริษัทแจ้งไว้ในเว็บมั้ยครับ
ขออภัยที่พี่มาตอบช้านะครับน้อง Alongkorn พี่ขออนุญาตตอบทีละคำถามตามนี้นะครับ 🙂:1. การตอบคำถาม -> ถ้าถูกถามเรื่องเงินเดือน แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะตอบยังไง ให้ลองถามทางบริษัทฯดูก็ได้ครับ ว่าถ้าตามโครงสร้างเงินเดือนของบริษัทฯ + ประสบการณ์/ประวัติของตัวเรา บริษัทฯให้เงินเดือนเริ่มต้นที่เท่าไหร่? 2. โอกาสที่อาจจะได้เงินเดือนน้อยกว่าที่บริษัทฯแจ้งไว้ในเว็บไซต์ -> มีครับ เพราะถึงแม้บริษัทฯจะแจ้งไว้ว่าเงินเดือนเริ่มต้นที่ 30K แต่ในความเป็นจริงมีปัจจัยหลายอย่างมากๆที่บริษัทฯต้องพิจารณาก่อนที่จะเสนอเงินเดือนให้กับผู้สมัคร (เช่น ประสบการณ์ ทักษะ ศักยภาพที่ผู้สมัครแสดงให้เห็นในการสัมภาษณ์ รายได้ของผู้สมัครในปัจจุบัน และอื่นๆ) ดังนั้นฝั่งเราเองอาจจะต้องเผื่อใจไว้ด้วยนิดนึงครับ สิ่งสำคัญคือให้ดูว่าตอนที่บริษัทฯเสนอตัวเลขเงินเดือนมาแล้วนั้น เมื่อเรานำมาพิจาณาประกอบกับปัจจัยอื่นๆ (เช่น โอกาสในการเติบโตทางสายงาน โอกาสในการเรียนรู้ รายจ่ายที่มีอยู่ และอื่นๆ) ตัวเลขและ offer นั้นสมเหตุสมผลจากในมุมเราหรือไม่ ถ้าเรายังไม่โอเค ก็ให้ลองต่อรองดูครับ โดยอย่าลืมว่าเหตุผลที่เราจะใช้ในการต่อรองนั้นก็ต้องฟังดูสมเหตุสมผลต่อทางบริษัทฯด้วยเช่นกันหวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้ได้บ้างนะครับ ถ้ามีคำถามตรงไหนเพิ่มเติมบอกพี่ได้เลยนะครับ 🙂
พี่คะ ถ้าเขาบอกคร่าวๆมา แล้วในใบสมัครเขาให้เขียนเงินเดือนที่คาดหวัง เราสามารถเขียนเพิ่มไปได้ไหมคะ ถ้าเรามีคะแนนภาษาสูงกว่าคุณสมบัติที่รับสมัคร
สวัสดีครับคุณ TTM 98 ขอบคุณมากๆเลยสำหรับคำถามนะครับ ในกรณีนี้อาจจะขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัยครับ เช่น 1. ตำแหน่งนั้นจริงๆแล้วต้องใช้ภาษาอื่นๆในการทำงานมากน้อยขนาดไหน? รวมถึงคะแนนภาษาของเราสูงกว่าสิ่งที่บริษัทฯกำหนดไว้มากน้อยขนาดไหน? --> ถ้าตำแหน่งงานนั้นต้องใช้ภาษาค่อนข้างเยอะ (เช่น ติดต่อกับชาวต่างชาติทุกวัน) รวมถึงถ้าคะแนนของเราสูงกว่าเกณฑ์ค่อนข้างมาก เราอาจจะเขียนตัวเลขเพิ่มไปได้ครับ เพราะถือว่าเป็นจุดขายของตัวเราและเป็นสิ่งที่บริษัทฯมองหาจริงๆ2. ตัวเลขเงินเดือนที่เราจะเขียนเพิ่มเมื่อเปรียบเทียบกับเงินเดือนที่ทางบริษัทฯเคยแจ้งมาคร่าวๆ --> อาจจะต้องลองดูว่าเมื่อเทียบกันแล้วตัวเลขจากฝั่งเราเพิ่มขึ้นมามากน้อยขนาดไหน3. ถ้าเราเคยทำงานที่อื่นมาแล้ว --> อาจจะต้องลองเปรียบเทียบเงินเดือนใหม่ที่เราต้องการกับสิ่งที่เราได้ในปัจจุบันด้วยครับว่าเพิ่มขึ้นมาแบบสมเหตุสมผลไหมหวังว่าจะพอเป็นประโยชน์ให้ได้บ้างนะครับ ถ้ามีคำถามเพิ่มเติมบอกผมได้เลยนะครับ 🙂
@@ngandeechannel ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณมากๆเลยที่ทักทายเข้ามาและขอให้ได้งานที่ตรงใจนะครับ 🙂
ที่ทำงานใหม่ ผมได้เงินเดือนเท่าเดิมครับ ที่ใหม่ได้เป็นพนักงานประจำที่เก่าผมเงินเดือนสูงอยู่แล้ว แต่เป็นสัญญาจ้างผมก็เลย OK กับที่ใหม่ แถมตัวงานที่ใหม่ ช่วยในการพัฒนาตัวเองขึ้นกว่าเดิมเยอะมากและยิ่งขอเพิ่มเงินเดือนสูง ความคาดหวังจากที่ใหม่ก็จะสูงตาม ไปแล้วทำไม่ได้ตามที่บริษัทใหม่คาดหวัง ก็มี % จะไม่ผ่านทดลองงาน
ขอบคุณมากๆเลยที่มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแชร์มุมมองดีๆกันนะครับ 🙂เรื่องของความมั่นคงในหน้าที่การงาน (งานประจำ/งานสัญญาจ้าง) รวมถึงโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง ถือเป็นปัจจัยสำคัญเลยที่คนหางานควรนำมาพิจารณาเวลาย้ายงานส่วนเรื่องการขอเงินเดือนเพิ่มขึ้นสูงและความคาดหวังจากที่ทำงานใหม่ก็เป็นสิ่งที่ในหลายๆครั้งมาคู่กันจริงๆ ถ้ายังไงตอนแรกยังไม่ได้เรียกเงินเพิ่มขึ้นสูง ผมขอให้ได้ตัวเลขที่โดนใจตอนที่ปรับเงินเดือนประจำปีนะครับ 💪ขอบคุณอีกครั้งครับ
พี่ครับผมค่อนข้างลังเลที่เก่าผมเงินเดือน13000 ค่าเดือนทาง1000 ทำงาน จ-ศ หยุด ส เว้น ส ที่ใหม่เขาให้เรทเริ่มต้นของวุฒิปวสเลยครับคือ11500 ผ่านโปร12700 ค่าบ้าน5000 ทำงาน จ-ศ หยุด ส อเเบบนี้เราควรทำยังไงดีครับ ผมมีประสบการณ์มาเเล้วมีใบผ่านงาน ที่ใหม่เป็นบริษัทเครือน้ำมันมีความมั่นคงสูงครับเเต่เรทเงินเดือนน้อยมาก
ขอบคุณคุณ Tawan มากๆเลยนะครับที่ทักทายเข้ามา สำหรับกรณีนี้ผมขออนุญาตลองเปรียบเทียบคร่าวๆดูประมาณนี้นะครับ1. ที่ทำงานปัจจุบันข้อดี- เงินเดือนมากกว่า- ค่าใช้จ่ายน้อยกว่าข้อเสีย- จำนวนวันทำงานเยอะกว่า- ความมั่นคงอาจจะน้อยกว่า (ถ้าฟังจากที่คุณ Tawan แจ้ง)2. ที่ทำงานใหม่ข้อดี- ความมั่นคงสูง (ถ้าฟังจากที่คุณ Tawan แจ้ง)- จำนวนวันทำงานน้อยกว่าข้อเสีย- เงินเดือนน้อยกว่า- ค่าใช้จ่ายสูงกว่าผมเสนอให้คุณ Tawan ลองเปรียบเทียบดูนะครับว่าอะไรเป็นปัจจัยที่สำคัญกับตัวเรามากที่สุด จากนั้นให้ลองดูว่าที่ทำงานไหนตอบโจทย์ตัวเราในส่วนนั้นมากที่สุดโดยเวลาที่พิจารณา ขอให้คุณ Tawan นึกถึงปัจจัยอื่นๆด้วยนะครับ เช่น โอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง การเติบโตไปกับบริษัทฯ โอกาสในการนำประสบการณ์ทำงานไปต่อยอด และอื่นๆหวังว่าจะพอเป็นประโยชน์ให้ได้บ้างนะครับ ถ้ามีคำถามเพิ่มเติมบอกผมได้เลยนะครับ ขอบคุณครับ 🙂
สำหรับเพื่อน ๆ ที่ต้องการดาวน์โหลดไฟล์ตัวอย่างวิธีการคำนวณและเปรียบเทียบเงินเดือน (จากที่เห็นในคลิปนี้) เพื่อนำไปใช้งานต่อ สามารถกดจากลิงก์ด้านล่างได้เลยนะคร้าบ :
docs.google.com/spreadsheets/d/1Q7gKA2Me8uJjH6n1-vrzg6IXoZU2O9Zi/edit?usp=sharing&ouid=105664976007587678602&rtpof=true&sd=true
และถ้าใครที่มีคำแนะนำอื่น ๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียกเงินเดือนใหม่ อย่าลืมมาแชร์ไว้ในคอมเมนต์กันด้วยนะคร้าบ
หวังว่าเนื้อหาในคลิปจะพอเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อน ๆ ได้บ้างนะครับ ขอบคุณมาก ๆ ครับ 😃
ถ้าได้เป็นเงินสดละครับทำอย่างไรได้บ้าง
สวัสดีครับคุณ Puen ขอบคุณมากๆเลยที่ทักทายเข้ามานะครับ ผมขออนุญาตสอบถามอีกนิดนึงนะครับ "เงินสด" ที่คุณ Puen หมายถึง คือเงินที่อาจจะได้มาจากการจ้างงานแบบรายวันหรืองานฟรีแลนซ์ใช่ไหมครับ?
@@ngandeechannel งานประจำครับ บริษัทอยู่สิงคโปร์ไม่มีฝ่ายบุคคลเลยได้เป็นเงิรสดครับ ตอนนี้หางานในไทยลำบากมากเลยครับ
ขอบคุณมากๆเลยที่แชร์ข้อมูลนะครับคุณ Puen เดี๋ยวไว้ถ้าสะดวกผมรบกวนทักแชทมาทาง Facebook Page ของช่องทีได้ไหมครับ?
ตามนี้ได้เลยนะครับ: facebook.com/ngandee.co
ถ้าเกิดว่าเคยทำงาน part-time ในสายงานเดียวกันในต่างประเทศ แต่ฐานเงินเดือนสูงกว่างานเก่าที่เคยทำที่ไทยมากๆ สามารถเอามาพิจารณาต่อรองเงินเดือนได้มั้ยครับ
ถ้าเป็นสายงานเดียวกัน สามารถนำมาต่อรองได้แน่นอนครับ แต่จะต่อรองได้มากหรือน้อยขนาดไหนคงต้องดูอีกที เพราะว่าแต่ละประเทศก็มีค่าครองชีพสูงต่ำแตกต่างกันไปครับ ดังนั้นทางบริษัทฯคงต้องดูจากภาพรวมทั้งหมด เช่น ประสบการณ์ทั้งหมดของตัวเรา รายรับและสวัสดิการปัจจุบัน ประเทศที่เราทำงาน และอื่นๆ
ยังไงขอให้ได้ตัวเลขที่ตรงใจนะครับ ขอบคุณมากๆสำหรับคำถามครับ 🙂
เป็นคลิปที่ดีมีประโยชน์มากค่ะ นอกเหนือจากตัวเงิน ทำให้เราได้คำนึงถึงด้านอื่นๆ ด้วย
ดีใจมากๆเลยที่เนื้อหาในคลิปพอเป็นประโยชน์ให้ได้บ้างครับ ขอบคุณนะครับ 😊
พี่คะ ถ้าพลาดในการบอกตัวเลข ที่บอกต่ำเกินไป แล้วรู้สึกไม่พอใจ (กรณีนี้คือยังไม่ได้มีการเซ็นสัญญาจ้างนะคะ) จะน่าเกลียดมั๊ยถ้าจะบอกตัวเลขให้อีกครั้งในการสัมภาษณ์รอบที่2 แล้วควรจะเริ่มบอกยังไงดี
ขอบคุณมากๆเลยสำหรับคำถามนะครับ ในกรณีนี้ผมขอเสนอให้ลองพิจารณาสิ่งเหล่านี้ดูก่อนครับ:
1. อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้เราอยากขอตัวเลขที่สูงขึ้น? มีปัจจัยใดเข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง?
2. ตัวเลขใหม่ที่เราอยากขอ จำนวนเงินเพิ่มขึ้นมาจากตัวเลขเดิมที่เคยแจ้งไว้มากมั้ย? ถ้ามาก สาเหตุเพราะอะไร?
โดยเวลาที่เราจะดูความต่างของตัวเลขเดิมกับตัวเลขใหม่ ในจุดนี้ผมเสนอว่าให้ลองคำนวณเป็น % ดูก็ได้นะครับ อาจจะทำให้เห็นภาพมากขึ้น เช่น ปัจจุบันผมเงินเดือน 25,000 บาท และเดิมแจ้งบริษัทฯที่ไปสัมภาษณ์ว่าอยากได้เงินเดือนใหม่ที่ 30,000 บาท (เงินขึ้นมา 20%) แต่พอมาคิดอีกที ผมอยากขอตัวเลขใหม่ที่ 32,000 (ขึ้นมา 28% และเพิ่มมา 8% จากตัวเลขเดิม) ในกรณีนี้เราอาจจะต้องมาดูว่า 8% ตรงนี้ที่เราอยากได้เพราะอะไร? เรามีเหตุผลหรือข้อมูลใดมาสนับสนุนบ้าง
การบอกตัวเลขใหม่อาจจะทำให้เราดูไม่ดีเท่าไหร่ และแน่นอนว่าอาจจะทำให้มีคำถามจากฝั่งจากบริษัทฯด้วยเช่นกันว่าเพราะอะไร แต่ถ้าเรามีข้อมูลมาสนับสนุนคำถาม 2 ข้อด้านบนได้ชัดเจน และสามารถอธิบายบริษัทฯที่ไปสัมภาษณ์ได้อย่างมีเหตุผล ผมคิดว่าเราสามารถบอกตัวเลขใหม่ได้ครับ
โดยช่วงโอกาสที่จะบอกทางบริษัทฯ ผมขอเสนอ 2 ช่วง ดังนี้ครับ:
1. ระหว่างการคัดเลือก --> ในช่วงระหว่างที่เรายังอยู่ในการสัมภาษณ์ไม่ว่าจะเป็นรอบไหน ถ้าบังเอิญบริษัทฯมีการสอบถามเรื่องตัวเลขขึ้นมา เราก็สามารถบอกตัวเลขใหม่พร้อมเหตุผลได้เลยครับ โดยผมคิดว่าถ้าทางบริษัทฯจะถามเรื่องตัวเลขอีกที อาจจะเป็นช่วงตอนที่เรากำลังจะไปสัมภาษณ์รอบสุดท้าย
2. ช่วงหลังผ่านการสัมภาษณ์ --> ถ้าเราผ่านการสัมภาษณ์ แน่นอนว่าทางบริษัทฯจะต้องคุยกับเราเรื่องตัวเลขแน่นอน ซึ่งในจุดนี้เราสามารถแจ้งตัวเลขใหม่พร้อมเหตุผลได้เลยครับ
สุดท้ายนี้ไม่ว่าตัวเลขจะจบที่เท่าไหร่ ผมขอเสนอให้ลองพิจารณาผลตอบแทนในภาพรวมจากทางบริษัทฯด้วยนะครับ (เงินเดือน, โบนัส, โอกาสในการเรียนรู้, สภาพแวดล้อมการทำงาน, และอื่นๆ) ทั้งนี้เพื่อให้เราเห็นประโยชน์ทั้งในระยะสั้นและยาว
หวังว่าจะพอให้แนวทางได้บ้างนะครับ ถ้ามีคำถามเพิ่มเติมตรงไหนบอกผมได้เลยนะครับ
ขอให้โชคดีในการสัมภาษณ์และได้ตัวเลขตามที่คาดหวังนะครับ 🙂
1.ถ้าหางานใหม่ มีไหมคะถ้าขอเพิ่ม(แบบสักสามสี่พันจากที่เขาแจ้งมา) แล้วHRไม่รับเราเข้าทำงาน
2.ถ้าได้รับงานในตำแหน่งใหม่ที่ต้องดูแลงานเพิ่มขึ้นทั้งดูแลลูกค้าดูแลหน้าร้าน+หลังร้านและต้องย้ายสาขา ซึ่งไกลจากบ้านของเราเพิ่มอีก80กิโลเมตร ต้องทำงานเพิ่ม7:30-21:30และไม่ได้ใช้พักร้อนเพราะคนไม่พอทำงาน เรายอมมาทำได้สักสองเดือน เราสามารถขอHRส่วนกลางให้ทำเรื่องเพิ่มเงินเดือนหรือค่าน้ำมันเพิ่มเติมได้ไหมคะ
3.ต้องใช้คำพูดประมาณไหน เพื่อคุยกับHRส่วนกลางเพื่อได้เงินเพิ่มคะ
สวัสดีครับคุณ Lookgate ขอบคุณมากๆเลยที่ทักทายเข้ามานะครับ ผมขอตอบคำถามตามลำดับดังนี้ครับ 🙂
1. มีครับ มีกรณีที่บริษัทฯตัดสินใจไม่รับผู้สมัครเข้าทำงานเพราะเรียกเงินเดือนเพิ่มจากที่คุยกันไว้ (ทั้งนี้เพราะงบการจ้างอาจจะไม่พอหรือด้วยปัจจัยอื่นๆ) ดังนั้นถ้าให้ดีที่สุดคือผู้สมัครควรคำนวณตัวเลขและเหตุผลจากฝั่งเราให้ชัดเจน และทำการคุยเรื่องเงินเดือนที่คาดหวังกับบริษัทฯที่ไปสัมภาษณ์ในช่วงการคัดเลือกครับ (หรือหลังจากที่ผ่านสัมภาษณ์) รวมถึงสอบถามรายละเอียดสวัสดิการอื่นๆที่เราต้องใช้ในการทำงานกับที่บริษัทฯนั้นๆมาด้วย เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจของเราครับ
2. ต้องดูว่างานที่เพิ่มขึ้นในตำแหน่งใหม่รวมถึงลักษณะการทำงานที่เปลี่ยนไปนี้เป็นสิ่งที่บริษัทฯเคยแจ้งเราแล้วหรือไม่ครับ
2.1 หากบริษัทฯเคยแจ้งแล้ว --> เราลองปรึกษากับบริษัทฯหรือ HR ได้ แต่อาจจะมีการเพิ่มหรือปรับสวัสดิการอะไรต่างๆยากหน่อย เพราะเคยเป็นสิ่งที่ถูกชี้แจงไปแล้ว
2.2 หากเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นปุปปับหรือมาแบบไม่คาดคิด --> ลองร่างเหตุผลฝั่งเราขึ้นมาแล้วลองปรึกษา HR ดูได้เลยครับ เพราะฟังดูแล้วสภาพการทำงานเปลี่ยนไปค่อนข้างเยอะ (เฉพาะที่ต้องเดินทางไปที่ทำงาน 80 กิโลฯก็ถือว่ามีเหตุผลสมควรแล้วที่จะขอค่าน้ำมันเพิ่ม)
3. ผมเสนอให้ใช้เหตุผลและข้อมูลในการคุยกับบริษัทฯครับ คุณ Lookgate ลองทำข้อมูลออกมาดูเลยครับว่าลักษณะและสภาพการทำงานที่เคยทำเมื่อเทียบกับปัจจุบันมีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้าง และอะไรเป็นที่มาของเราในการขอปรึกษาบริษัทฯเรื่องการเพิ่มเงินเดือน (หรือสวัสดิการอื่นๆ) ในครั้งนี้
อีกหนึ่งคนที่จริงๆแล้วเราน่าจะพอปรึกษาได้ก็คือหัวหน้างานของเรานะครับ (ในกรณีที่เราสามารถคุยเรื่องนี้ได้) เพราะบริษัทฯหลายที่เวลาจะมีการเพิ่มเงินเดือน/ปรับสวัสดิการอะไรต่างๆนั้น หนึ่งในคนที่ควรจะเห็นชอบ (และในบางครั้งก็เป็นคนอนุมัติด้วย) ก็คือหัวหน้างานของเรานั่นเอง
หวังว่าจะพอเป็นประโยชน์ได้บ้างนะครับ หากมีคำถามเพิ่มเติมตรงไหนบอกผมได้เลยนะครับ 🙂
@@ngandeechannel ขอบคุณที่ทำคลิปดีๆมาให้ และขอบคุณที่สละเวลาตอบคำถามของเราอย่างละเอียด🙏
จากงานเก่าที่เคยสอบถามไป ตอนนี้เราตัดสินใจลาออกแล้วค่ะ
เลยอยากจะสอบถามว่าการสมัครที่ใหม่เราจะใส่เงินเดือน +เพิ่ม30%เลยดีไหมคะ เพราะที่ใหม่ได้วันหยุดน้อยลงกว่าเดิม
การบวกเพิ่มคิดจากฐานเงินเดือนอย่างเดียวหรือคิดจากเงินเดือนรวมค่าอื่นๆที่ได้รับตายตัวเป็นประจำทุกเดือนคะ
เราไม่ทราบฐานเงินเดือนบริษัทใหม่ที่ต้องการสมัคร เราสามารถโทรสอบถามฐานเงินเดือนกับhrก่อนส่งresumeดีไหมคะ หรือ ควรทำอย่างไรถึงจะทราบฐานเงินเดือนบริษัทใหม่เพื่อไว้พิจารณาก่อนส่งresumeคะ
สวัสดีครับคุณ Lookgate ขอบคุณมากๆเลยที่ทักทายกันมาอีกครั้งนะครับ 🙂 ผมขอตอบคำถามตามนี้นะครับผม:
1. การใส่เงินเดือนเพิ่ม 30% --> ในส่วนนี้ผมขอเสนอให้พิจารณาหลายๆปัจจัยควบคู่กันครับ เช่น อายุงานของที่ทำงานปัจจุบัน สวัสดิการที่อาจจะหายไป (เช่น วันหยุดน้อยลงอย่างที่แจ้ง) และอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องอายุงาน ถ้าได้ทำงานที่เดิมมาซักระยะนึงแล้ว (เช่น 2-3 ปี) ก็จะยิ่งช่วยให้เรามีน้ำหนักมากขึ้นสำหรับการเรียกเพิ่ม 30% ของเราครับ โดยในบางกรณีเราอาจจะบวก % เพิ่มเข้าไปซัก 5% - 10% จากตัวเลขที่เราต้องการจริงๆด้วยก็ได้นะครับ (เผื่อถูกต่อรอง) เช่น ผมอาจจะขอเงินเดือนเพิ่มไป 30% จากเดิม (แต่จริงๆในใจตั้งเอาไว้แล้วว่าถ้าได้เพิ่มซักประมาณ 25% ก็ถือว่าโอเคแล้ว)
2. การคำนวณเพื่อบวกเพิ่ม --> สามารถคิดจากฐานเงินเดือนรวมค่าอื่นๆที่ได้รับตายตัวประจำเดือนได้ครับ โดยเราอาจจะลองเปรียบเทียบอีกทีเมื่อไปถึงจุดที่ต้องคุยเรื่องเงินเดือนและสวัสดิการ ถ้าบริษัทฯนั้นๆไม่สามารถให้ค่าอื่นๆเหมือนกับที่เราได้อยู่ในปัจจุบัน อาจจะต้องสอบถามทางบริษัทฯดูว่ามีสวัสดิการอื่นๆอะไรมาทดแทนได้บ้างครับ (เช่น เดิมผมเคยได้ค่าเดินทางต่อเดือนเป็นเงินสด ถ้าบริษัทฯอีกที่ให้ค่าเดินทางผมเป็นเงินสดไม่ได้ ผมอาจจะลองดูว่าบริษัทฯนั้นๆมีอะไรมาทดแทนให้ผมได้บ้าง เช่น บัตรน้ำมัน การให้เบิกค่าเดินทางตามเลขไมล์ หรืออื่นๆ)
3. การถามเงินเดือนก่อนส่ง resume --> ผมเสนอว่าให้ลองพิจารณาจากตำแหน่งงาน ลักษณะงาน และบริษัทฯที่เราสนใจก่อนครับ ถ้าน่าสนใจจริงๆลองสมัครดูก่อนเลย ส่วนเรื่องเงินเดือนเป็นอะไรที่เราค่อยหาจังหวะคุยกับ HR บริษัทฯนั้นได้ครับ (ถ้าเค้าติดต่อมา) โดยผมเสนอว่าถ้าได้มีโอกาสคุยกับทางบริษัทฯ ให้หลีกเลี่ยงการถามเรื่องเงินเป็นอย่างแรก ลองสอบถามเรื่องลักษณะงาน การเติบโตกับองค์กร และอื่นๆก่อน จากนั้นค่อยถามเรื่องเงินเป็นอย่างท้ายครับ
หวังว่าจะพอเป็นประโยชน์ได้บ้างและถ้ามีคำถามเพิ่มเติมบอกผมได้เลยนะครับ ขอให้ได้งานที่ตรงใจนะครับ 😀
@@ngandeechannel ขอบคุณมากนะคะ ที่สละเวลามาตอบคำถาม🙏
ตอนนี้สงสัยว่า เรามีประสบการณ์ตรงกับงานที่สมัครใหม่ โดยมีประสบการณ์สิบกว่าปีค่ะ ไม่มีวุฒิปริญญาตรี อาศัยการเลื่อนตำแหน่งมาเรื่อยๆ จนได้ตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายและทำมา5ปีค่ะ อดทนกับงานเก่ามาสักระยะตามที่เคยเล่าเมื่อครั้งก่อน ตอนนี้ส่งResumeสมัครงานไปแล้ว ทางhrส่งลิงค์ใบสมัครที่เป็นรูปแบบบริษัทมาให้กรอก มีข้อความว่าอนุญาตให้ตรวจสอบข้อมูลต่างๆได้ เรายินดีให้ตรวจสอบค่ะ
แต่ที่กังวลคือ เรามีแค่ประสบการณ์ ไม่มีวุฒิปริญญาตรีตามที่บริษัทลงประกาศ
ทางhrส่งใบสมัครมาให้กรอกเพราะสนใจเราทั้งๆที่ไม่มีวุฒิปริญญาตรี หรือส่งใบสมัครมาเพื่อเก็บผลงานจำนวนใบสมัครว่ามีคนสนใจงานนี้คะ
เรามีโอกาสได้งานไหมคะ หรือจะถามทางhrโดยตรงเรื่องวุฒิการศึกษามีผลไหม เราควรใช้คำพูดประมาณไหนดีคะ
เรากังวลที่ลาออกแล้วแต่ยังไม่ได้งานใหม่ ไม่ได้ใจร้อนที่ตัดสินใจลาออกแต่ด้วยเราเห็นว่าเสียสุขภาพกายและใจจากเวลาทำงานที่ยาวนานเกินไป วันละ13-14ชม. หลายเดือนติด ในวันหยุดก็ให้เราโทรตามงานกลับลูกน้องวันหยุดบางวันโทรให้เข้ามาทำครึ่งวันโดยไม่สนใจว่าเรามีธุระไหม(ต่อว่าเราธุระเยอะ การทำธุระในวันหยุดงานของเรา มันผิดมากหรอคะ)เคยเปิดอกคุยกับหัวหน้างานแล้ว เขาบอกกลับมาว่าไม่คิดจะให้อะไรบริษัทเลยหรอ(เราคิดว่าเราให้เยอะแล้วเพราะพักร้อนสามปีติดไม่เคยได้ใช้) จึงลาออกค่ะ
@@lookgatemarvel6673 สวัสดีครับคุณ Lookgate ขอบคุณมากๆเลยที่ทักทายกันเข้ามานะครับ ผมขออนุญาตตอบคำถามตามนี้นะครับ 🙂:
1. วุฒิปริญญาตรี --> จากมุมมองของผม การสรรหาบุคลากรในระดับที่มีประสบการณ์ 8-10 ปีขึ้นไปแล้วนั้น ในบางครั้งวุฒิปริญญาตรีอาจไม่ได้เป็นปัจจัยที่ส่งผลขนาดนั้นครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่เราเริ่มเห็นแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆของแต่ละบริษัทฯในการให้ความสำคัญกับประสบการณ์และความสามารถของผู้สมัครมากกว่าวุฒิการศึกษา แต่สุดท้ายแล้วทุกอย่างยังขึ้นอยู่กับแนวปฏิบัติและมุมมองของบริษัทฯแต่ละที่ด้วย ดังนั้นในกรณีนี้ผมคิดว่าถ้ามีโอกาสได้พูดคุยกับทาง HR ของบริษัทฯนั้นๆ คุณ Lookgate สามารถแจ้งเค้าได้ครับเรื่องของวุฒิการศึกษา โดยอาจจะบอกว่าเราอยากแจ้งล่วงหน้าไว้ให้ชัดเจนอีกครั้ง (จากที่ได้เคยแจ้งไว้แล้วในใบสมัคร) เพราะฝั่งเราต้องการอยู่บนพื้นฐานของความโปร่งใสกับบริษัทฯสำหรับข้อมูลในส่วนนี้และเข้าใจว่าวุฒิปริญญาตรีเป็นสิ่งที่บริษัทฯได้กำหนดไว้ในประกาศตำแหน่งงาน ส่วนในเรื่องของโอกาสการได้งานผมคิดว่าขึ้นอยู่กับบริษัทฯนั้นๆครับว่าจะพิจารณาปัจจัยหลักอื่นๆมากน้อยขนาดไหน (เช่น ประสบการณ์และความสามารถของผู้สมัครอย่างที่ผมได้แจ้งไปก่อนหน้านี้)
2. HR ที่ติดต่อมา --> ผมเชื่อว่า HR ของบริษัทฯนั้นๆสนใจในประสบการณ์ของคุณ Lookgate จริงๆครับ เพราะถ้าคุณ Lookgate มีประสบการณ์ตรงถึง 10 ปีในตำแหน่งงานที่สมัคร ผมคิดว่าโปรไฟล์ก็น่าจะเป็นอะไรที่น่าสนใจกับทางบริษัทฯอยู่แล้ว ดังนั้นผมคิดว่าในกรณีนี้ทาง HR ไม่ได้ต้องการทำผลงานในเรื่องของจำนวนใบสมัครครับ และถึงแม้ว่า HR จะต้องการข้อมูลในส่วนนี้ผมเชื่อว่าเค้าน่าจะสามารถตรวจสอบจากในระบบได้ครับว่ามีคนสมัครงานเข้ามาในตำแหน่งนี้กี่คน
3. การลาออกจากที่ทำงานเก่า --> คุณ Lookgate ได้ทำงานมาแล้วถึง 3 ปีกับที่บริษัทฯเก่า ดังนั้นผมเชื่อว่าคุณ Lookgate น่าจะได้มีการไตร่ตรองและเห็นภาพอย่างชัดเจนแล้วว่าลักษณะงานที่ทำนั้นส่งผลต่อสุขภาพกายและใจของเรามากน้อยขนาดไหน ส่วนเรื่องการทำธุระของเราในวันหยุดงานเป็นสิทธิของลูกจ้างอยู่แล้วครับดังนั้นคือไม่ใช่เรื่องผิดเลย ส่วนเรื่องการขอให้เข้าไปทำงานด่วนอาจจะต้องดูที่เจตนาและวิธีการบริหารจัดการของบริษัทฯครับว่ามีประสิทธิภาพมากน้อยขนาดไหน อะไรคือเหตุผลและที่มาที่ไปของการที่เราต้องเข้าไปทำงานแบบกะทันหัน อย่างไรก็ตามผมเสนอว่าอะไรที่ผ่านมาแล้วก็ขอให้ผ่านไป ถือว่าให้เราเรียนรู้จากสิ่งที่เรารู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ดีและไม่ดีจากประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมาเพื่อนำไปปรับใช้และเป็นข้อคิดกับการทำงานในครั้งต่อๆไปครับ
หวังว่าจะพอเป็นประโยชน์ได้บ้างและถ้ามีคำถามเพิ่มเติมบอกผมได้เลยนะครับ ขอเป็นกำลังใจให้ครับ ☺
ได้ประโยชน์และดีมากเลยครับ
ขอบคุณมากๆเลยนะครับ 🙂🙏
เยี่ยมมาก ติดตามเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณมากๆเลยนะครับ :)
จะลองนำไปใช้ดู แล้วจะกลับมาอัพเดทนะคะ ขอบคุณค่ะ ❤️
ขอบคุณเช่นกันนะครับ ขอให้ได้งานใหม่ที่ตรงใจนะครับ 🙂
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ เป็นคำเเนะนำที่ดีมากๆค่ะ
ขอบคุณมากๆเลยนะครับ ดีใจที่เนื้อหาเป็นประโยชน์ครับ 🙂
พี่ค่ะ ถ้าสมมุติว่าเราเพิ่งเริ่มทำงานบริษัทเป็นครั้งแรกเราจะต้องขอเงินเดือนเท่าไหร่ได้ค่ะ
สวัสดีครับน้องอรยา ขอบคุณมากๆเลยสำหรับคำถามนะครับ จริงๆแล้วเงินเดือนเด็กจบใหม่มีหลายเรทมากเลยตั้งแต่ 12,000 ไปจนถึง 25,000 หรือ 30,000 (หรือสูงกว่านี้อีกก็มี) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายงาน บริษัทฯที่เราสมัครงาน รวมถึงวุฒิและประสบการณ์ที่ผ่านมาของตัวเราด้วยครับ
ทีนี้ถ้าเราไม่แน่ใจว่าจะเรียกเงินเดือนสำหรับงานแรกเท่าไหร่ดี พี่ขอเสนอวิธีคร่าวๆตามด้านล่างนะครับ
1. ลองค้นหาข้อมูลในเน็ตและลองสอบถามคนรู้จัก --> ลองหาดูในเน็ตคร่าวๆก่อนก็ได้ครับว่าสายงานที่เราอยากทำเค้าให้เงินเดือนประมาณเท่าไหร่สำหรับเด็กจบใหม่ หรือถ้าเรามีเพื่อนหรือรุ่นพี่ที่กำลังหางานหรือทำงานในสายงานหรือตำแหน่งที่ใกล้เคียงกัน อาจะลองถามเค้าดูก็ได้นะครับว่าเค้าได้เงินเดือนที่เท่าไหร่ (ทั้งนี้ต้องลองดูดีๆนะครับว่าเพื่อนหรือรุ่นพี่เรายินดีที่จะแชร์ข้อมูลมั้ย ประกอบกับต้องเผื่อใจไว้ด้วยว่าต่างคนต่างโปรไฟล์ ดังนั้นเงินเดือนอาจจะไม่ได้เท่ากันเสมอไปถึงแม้ว่าอาจจะได้งานในตำแหน่งเดียวกัน) จุดประสงค์สำหรับข้อนี้คือเพื่อที่เราจะได้มีตัวเลขตั้งต้นในใจไว้ก่อนว่าเราอยากเรียกที่เท่าไหร่
2. ลองคำนวณค่าใช้จ่ายและแผนเก็บเงินของเรา --> ต่อจากข้อ 1 เมื่อเราได้ตัวเลขในใจแล้ว (เช่น 15,000) ให้ลองดูว่าเงินเดือนเท่านี้สามารถใช้จ่ายสำหรับค่ากินอยู่ ค่าเดินทาง หรืออื่นๆได้มั้ย ถ้าดูแล้วโอเคก็ยึดที่ตัวเลขนี้ได้เลยครับ
3. ถามบริษัทฯที่เราไปสัมภาษณ์ --> เวลาที่เราไปสัมภาษณ์ ถ้าถูกถามว่าเราคาดหวังเงินเดือนที่เท่าไหร่ เราอาจจะลองถามเค้าดูก็ได้นะครับว่าเงินเดือนตามโครงสร้างบริษัทฯสำหรับตำแหน่งที่เราสมัครอยู่ที่เท่าไหร่ จะได้เป็นการเก็บข้อมูลสำหรับตัวเราและเผื่อไว้สำหรับเปรียบเทียบกับบริษัทอื่นด้วย (สมมุติถ้าเรามีโอกาสไปสัมภาษณ์มากกว่า 1 ที่) ทีนี้เวลาจะบอกเงินเดือนฝั่งเรา อย่าลืมบอกเผื่อถูกต่อรองไว้ด้วยนะครับ (เช่น ถ้าตัวพี่อยากได้เงินเดือน 13,000 พี่อาจจะบอก HR ว่าพี่ขอที่ 15,000)
คร่าวๆประมาณนี้นะครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้ได้บ้าง ถ้ามีคำถามตรงไหนบอกพี่ได้เลยนะครับ 🙂
มีไฟล์ให้ดาวน์โหลดไหมครับ
สวัสดีครับคุณ Sirin ขออภัยที่ผมตอบกลับช้านะครับ สามารถใช้ลิงค์ด้านล่างหรือลิงค์ที่อยู่ในรายละเอียดของวิดีโอได้เลยนะครับ:
drive.google.com/u/0/uc?id=1Q7gKA2Me8uJjH6n1-vrzg6IXoZU2O9Zi&export=download
ขอให้ได้งานที่ตรงใจครับ ☺
เป็นประโยชน์มากเลยครับ คลิปนี้ดู่ผอนคลาย ดูสบายๆ
เป็นกำลังใจให้ครับ
ขอบคุณพี่บอมมากๆเลยนะคร้าบ ต่อไปน่าจะทำคลิปในลักษณะนี้ออกมาแทนครับ :)
พี่ครับ บริษัทเขียนเงินเดือนเริ่มต้นไว้ในเว็บหางานไว้ 3หมื่นบาท (ยินรับนักศึกษาจบใหม่ ปสก.0-2 ปี) ซึ่งผมก็ยังไม่มีประสบการณ์ทำงาน ผมควรตอบยังไงดีครับ แล้วถ้าเกิดผมตอบไปน้อยกว่าเงินเริ่มต้นที่บริษัทเขียนไว้(แบบประมาณ 2หมื่น+) มีโอกาสที่บริษัทจะเสนอเงินเดือนให้เราน้อยกว่าที่บริษัทแจ้งไว้ในเว็บมั้ยครับ
ขออภัยที่พี่มาตอบช้านะครับน้อง Alongkorn พี่ขออนุญาตตอบทีละคำถามตามนี้นะครับ 🙂:
1. การตอบคำถาม -> ถ้าถูกถามเรื่องเงินเดือน แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะตอบยังไง ให้ลองถามทางบริษัทฯดูก็ได้ครับ ว่าถ้าตามโครงสร้างเงินเดือนของบริษัทฯ + ประสบการณ์/ประวัติของตัวเรา บริษัทฯให้เงินเดือนเริ่มต้นที่เท่าไหร่?
2. โอกาสที่อาจจะได้เงินเดือนน้อยกว่าที่บริษัทฯแจ้งไว้ในเว็บไซต์ -> มีครับ เพราะถึงแม้บริษัทฯจะแจ้งไว้ว่าเงินเดือนเริ่มต้นที่ 30K แต่ในความเป็นจริงมีปัจจัยหลายอย่างมากๆที่บริษัทฯต้องพิจารณาก่อนที่จะเสนอเงินเดือนให้กับผู้สมัคร (เช่น ประสบการณ์ ทักษะ ศักยภาพที่ผู้สมัครแสดงให้เห็นในการสัมภาษณ์ รายได้ของผู้สมัครในปัจจุบัน และอื่นๆ) ดังนั้นฝั่งเราเองอาจจะต้องเผื่อใจไว้ด้วยนิดนึงครับ สิ่งสำคัญคือให้ดูว่าตอนที่บริษัทฯเสนอตัวเลขเงินเดือนมาแล้วนั้น เมื่อเรานำมาพิจาณาประกอบกับปัจจัยอื่นๆ (เช่น โอกาสในการเติบโตทางสายงาน โอกาสในการเรียนรู้ รายจ่ายที่มีอยู่ และอื่นๆ) ตัวเลขและ offer นั้นสมเหตุสมผลจากในมุมเราหรือไม่ ถ้าเรายังไม่โอเค ก็ให้ลองต่อรองดูครับ โดยอย่าลืมว่าเหตุผลที่เราจะใช้ในการต่อรองนั้นก็ต้องฟังดูสมเหตุสมผลต่อทางบริษัทฯด้วยเช่นกัน
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้ได้บ้างนะครับ ถ้ามีคำถามตรงไหนเพิ่มเติมบอกพี่ได้เลยนะครับ 🙂
พี่คะ ถ้าเขาบอกคร่าวๆมา แล้วในใบสมัครเขาให้เขียนเงินเดือนที่คาดหวัง เราสามารถเขียนเพิ่มไปได้ไหมคะ ถ้าเรามีคะแนนภาษาสูงกว่าคุณสมบัติที่รับสมัคร
สวัสดีครับคุณ TTM 98 ขอบคุณมากๆเลยสำหรับคำถามนะครับ ในกรณีนี้อาจจะขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัยครับ เช่น
1. ตำแหน่งนั้นจริงๆแล้วต้องใช้ภาษาอื่นๆในการทำงานมากน้อยขนาดไหน? รวมถึงคะแนนภาษาของเราสูงกว่าสิ่งที่บริษัทฯกำหนดไว้มากน้อยขนาดไหน? --> ถ้าตำแหน่งงานนั้นต้องใช้ภาษาค่อนข้างเยอะ (เช่น ติดต่อกับชาวต่างชาติทุกวัน) รวมถึงถ้าคะแนนของเราสูงกว่าเกณฑ์ค่อนข้างมาก เราอาจจะเขียนตัวเลขเพิ่มไปได้ครับ เพราะถือว่าเป็นจุดขายของตัวเราและเป็นสิ่งที่บริษัทฯมองหาจริงๆ
2. ตัวเลขเงินเดือนที่เราจะเขียนเพิ่มเมื่อเปรียบเทียบกับเงินเดือนที่ทางบริษัทฯเคยแจ้งมาคร่าวๆ --> อาจจะต้องลองดูว่าเมื่อเทียบกันแล้วตัวเลขจากฝั่งเราเพิ่มขึ้นมามากน้อยขนาดไหน
3. ถ้าเราเคยทำงานที่อื่นมาแล้ว --> อาจจะต้องลองเปรียบเทียบเงินเดือนใหม่ที่เราต้องการกับสิ่งที่เราได้ในปัจจุบันด้วยครับว่าเพิ่มขึ้นมาแบบสมเหตุสมผลไหม
หวังว่าจะพอเป็นประโยชน์ให้ได้บ้างนะครับ ถ้ามีคำถามเพิ่มเติมบอกผมได้เลยนะครับ 🙂
@@ngandeechannel ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณมากๆเลยที่ทักทายเข้ามาและขอให้ได้งานที่ตรงใจนะครับ 🙂
ที่ทำงานใหม่ ผมได้เงินเดือนเท่าเดิมครับ ที่ใหม่ได้เป็นพนักงานประจำ
ที่เก่าผมเงินเดือนสูงอยู่แล้ว แต่เป็นสัญญาจ้าง
ผมก็เลย OK กับที่ใหม่ แถมตัวงานที่ใหม่ ช่วยในการพัฒนาตัวเองขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก
และยิ่งขอเพิ่มเงินเดือนสูง ความคาดหวังจากที่ใหม่ก็จะสูงตาม ไปแล้วทำไม่ได้ตามที่บริษัทใหม่คาดหวัง ก็มี % จะไม่ผ่านทดลองงาน
ขอบคุณมากๆเลยที่มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแชร์มุมมองดีๆกันนะครับ 🙂
เรื่องของความมั่นคงในหน้าที่การงาน (งานประจำ/งานสัญญาจ้าง) รวมถึงโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง ถือเป็นปัจจัยสำคัญเลยที่คนหางานควรนำมาพิจารณาเวลาย้ายงาน
ส่วนเรื่องการขอเงินเดือนเพิ่มขึ้นสูงและความคาดหวังจากที่ทำงานใหม่ก็เป็นสิ่งที่ในหลายๆครั้งมาคู่กันจริงๆ ถ้ายังไงตอนแรกยังไม่ได้เรียกเงินเพิ่มขึ้นสูง ผมขอให้ได้ตัวเลขที่โดนใจตอนที่ปรับเงินเดือนประจำปีนะครับ 💪
ขอบคุณอีกครั้งครับ
พี่ครับผมค่อนข้างลังเล
ที่เก่าผมเงินเดือน13000 ค่าเดือนทาง1000 ทำงาน จ-ศ หยุด ส เว้น ส
ที่ใหม่เขาให้เรทเริ่มต้นของวุฒิปวสเลยครับคือ11500 ผ่านโปร12700 ค่าบ้าน5000 ทำงาน จ-ศ หยุด ส อ
เเบบนี้เราควรทำยังไงดีครับ ผมมีประสบการณ์มาเเล้วมีใบผ่านงาน ที่ใหม่เป็นบริษัทเครือน้ำมันมีความมั่นคงสูงครับเเต่เรทเงินเดือนน้อยมาก
ขอบคุณคุณ Tawan มากๆเลยนะครับที่ทักทายเข้ามา สำหรับกรณีนี้ผมขออนุญาตลองเปรียบเทียบคร่าวๆดูประมาณนี้นะครับ
1. ที่ทำงานปัจจุบัน
ข้อดี
- เงินเดือนมากกว่า
- ค่าใช้จ่ายน้อยกว่า
ข้อเสีย
- จำนวนวันทำงานเยอะกว่า
- ความมั่นคงอาจจะน้อยกว่า (ถ้าฟังจากที่คุณ Tawan แจ้ง)
2. ที่ทำงานใหม่
ข้อดี
- ความมั่นคงสูง (ถ้าฟังจากที่คุณ Tawan แจ้ง)
- จำนวนวันทำงานน้อยกว่า
ข้อเสีย
- เงินเดือนน้อยกว่า
- ค่าใช้จ่ายสูงกว่า
ผมเสนอให้คุณ Tawan ลองเปรียบเทียบดูนะครับว่าอะไรเป็นปัจจัยที่สำคัญกับตัวเรามากที่สุด จากนั้นให้ลองดูว่าที่ทำงานไหนตอบโจทย์ตัวเราในส่วนนั้นมากที่สุด
โดยเวลาที่พิจารณา ขอให้คุณ Tawan นึกถึงปัจจัยอื่นๆด้วยนะครับ เช่น โอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง การเติบโตไปกับบริษัทฯ โอกาสในการนำประสบการณ์ทำงานไปต่อยอด และอื่นๆ
หวังว่าจะพอเป็นประโยชน์ให้ได้บ้างนะครับ ถ้ามีคำถามเพิ่มเติมบอกผมได้เลยนะครับ ขอบคุณครับ 🙂