"ลัวะ" ของแผ่นดินอุษาคเนย์ : สมฤทธิ์ ลือชัย
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 25 ส.ค. 2022
- สมฤทธิ์ ลือชัย นักวิชาการอิสระผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอุษาคเนย์ งานเสวนาวิชาการ “ลัวะ ผู้คน บรรพชนแห่งล้านนา”
จัดโดย สถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ - Social Research Institute CMU ณ ห้องประชุม 1 อาคารรวมวิจัยและบัณฑิตศึกษา สถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วันที่ 17 สิงหาคม 2565
ขอบคุณชาวลัวะ บรรพชนแห่งล้านนา ผู้ก่อสร้างบ้านแปงเมือง แห่งล้านนา
ลัวะคือละโว้
ล้านนาคือเสียมหรือไทครับ ลั๊วะคือละโว้หรือปัจจุบันคือคนลาวกับคนอิสานของไทยปัจจุบัน
ผู้ก่อตั้งล้านนาคือชาวไตค่ะ ไม่ใช่ชาวลัวะ
เยี่ยมเลยค่ะฟังอาจารย์แล้วมีปัญญาเข้าใจมากขึ้นค่ะขอบคุณรายการนี้มาก
ได้รับความรู้ดีมากครับท่านอาจารย์ สมเหตุสมผล เป็นเรื่องน่าสนใจมากๆ(ประวัติศาสตร์ไทยสมควรมีการเปลี่ยนแปลงได้แล้วเพราะมีบุคคลที่มีความรู้ความสามารถหลายคน)คนไนประเทศไทยในปัจจุบันคือคนเผ่าต่างๆในอุษาอาคเนย์มาผสมผสานกัน
ฟังอาจ๋านย์บรรบายกี่เตื้อก่บ่เกยผิดหวัง ดีใจ๋ขนาด ตี่คนบ้านเฮาตางเหนือมีคนเก่งแบบอาจ๋ารย์เจ๊า
อยากทราบว่าพระเจ้าทิพย์ช้างเป็นคนลั๊วะ แล้วมีคำว่าหนานนำหน้าชื่อ แสดงว่าลั๊วะก็พูดภาษาแบบคนพื้นเมืองเหนือปัจจุบันหรอครับ อยากทราบจริงๆครับ
ชาวสยามเรียกล้านนา ว่าลาว ก็มาจาก ลัวะนี่แหละ จากลัวะ กลายมาเป็นลาว
ที่ว่า"หริภุญชัย"เป็นมอญนั้น เพราะเห็นว่า "พระนางจามเทวีที่เป็นราชธิดาของพระเจ้ากรุงละโว้มาครองหริภุญชัย"ใช่หรือไม่? แต่ตามตำนานในล้านนาที่ระบุไว้มีข้อสังเกตุดังนี้:
1.พระนางจามเทวีเป็นราชธิดาของพระเจ้ากรุงละโว้ก็จริง แต่เป็นลูกเลี้ยง
2.ฤาษีวาสุเทพแห่งภูเขาอุจฉตบรรพต
(ดอยสุเทพ)เก็บเอาทารกหญิงคนหนึ่งมาเลี้ยงตั้งชื่อว่า"วี"(ภาษาล้านนาแปลว่า
"พัด") เพราะตอนที่เจอทารกท่านใช้พัดช้อนร่างขึ้นมา พอโตเป็นสาวจึงต่อแพล่องไปตามแม่นํ้าปิง พร้อมกับลิงที่เป็นพี่เลี้ยงของพระนางตั้งแต่ครั้งยังเด็ก (ต่อมา ลิงเหล่านี้คือต้นตระกูลของลิงศาลพระกาฬ)
3.ฤาษีวาสุเทพมีเพื่อนสหธรรมิกเป็นฤาษีเหมือนกันอยู่ที่เขาสมอคอน จ.ลพบุรี
4.ต่อมา เมืองหริภุญชัยขาดเจ้าเมืองผู้สืบทอด ฤาษีวาสุเทพจึงส่งสาส์นไปแจ้งเจ้าเมืองลพบุรีขอเจ้าหญิงจามเทวีกลับมาครองเมืองหริภุญชัยซึ่งเป็นถิ่นกำเนิด
โดยที่ชาวเมืองเห็นชอบด้วยเพราะพระนางก็คือคนบ้านเดียวกัน
5.ตอนที่พระนางเสด็จกลับมาครองเมืองหริภุญชัย ได้พาเหล่าข้าราชบริพาร นักรบ นักบวช ช่างฝีมือกลับไปด้วย
ซึ่งคนเหล่านี้คือชาวเมืองลพบุรี(มอญ)
และชาวเมืองศรีวิชัย(นครศรีธรรมราช)ที่เป็นเครือญาติกับเมืองลพบุรี ดังนั้น ชาวบ้านเมืองหริภุญชัยดั้งเดิมจึงไม่ใช่คนมอญ อย่าหลงเข้าใจผิด
6.ภาษาล้านนา เรียกพม่าว่า"ม่าน" เรียกมอญว่า"เม็ง" เรียกญวนว่า"แกว" เรียกจีนว่า"แข่" สำหรับคำว่า"แขก"นั้นคงไม่ต้องบอกว่าเป็นคนเชื้อชาติไหน ส่วนคน"ไต"หรือ"ไท"นั้น รวมกันไม่ติด จึงอยู่กันแบบกระจัดกระจาย แต่ถ้าหากนับกันตามจำนวนประชากรทั้งหมด คือรวมคนจ้วงในมณฑลกวางสีของจีนไปด้วย ในเอเชียนี้ก็จะมีจำนวนประชากรเป็นรองแค่คนฮั่นของจีนเท่านั้นเอง(ไม่นับคนอินเดีย ซึ่งเป็นอีกสายพันธุ์หนึ่งที่แตกต่างกัน)
ลั๊วะคือคนอิสานกับคนลาวครับ ลั๊วะหรือละว้าเป็นชนพื้นถิ่นของละโว้ ละโว้จะมีแม่น้ำไหลผ่ากลางเมืองคือแม่น้ำโขง
เมื่อก่อนเราจะอยู่กันเป็นแคว้นใครแคว้นมันครับไม่ได้ปนกันแบบนี้
ประวัติศาสตร์ไทยต้องย้อนไปก่อนพุทธกาลที่คนอินเดียต้องการทำการค้ากับพวกแคว้นจิ้นแต่เส้นทางลำบากเพราะต้องผ่านช่องแคบทิเบตจึงทำให้ขนของได้น้อยและล่าช้าจึงเปลี่ยนมาเป็นค้าขายทางเรือ ชาวอินเดียแคว้นกลิงคะได้มายึดเอาภาคใต้ของไทเป็นพื้นที่ทำศูนย์กลางการค้าทางทะเลและได้สร้างเมืองลังกาสุกะปกครองด้วยราชวงศ์วรมันจึงทำให้แคว้นกลิงคะร่ำรวยที่สุดแม้จะเล็กกว่าแคว้นมคธก็ตาม ชาวอินเดียเป็นพวกบ้าศาสนาอย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน สมัยนั้นชาวอินเดียนับถือศาสนาฮินดูเลยอยากสร้างกัมโพชหรือที่เราเรียกว่าเทวาลัยจึงส่งกองทัพย์ให้ขึ้นมาตีเมืองมอญและเมืองลั๊วะ พวกแขกอินเดียนี่แหละที่คนโบราณเรียกว่าขอม การอยู่ใต้อำนาจของกลิงคะจึงทำให้ชาวมอญเรียกตัวเองว่าชาวรามัญ เสียมกกหรือพวกล้านนาหรือจะเรียกอีกอย่างว่าไทได้ยกทัพย์ลงมาตีละโว้และมอญที่อยู่ใต้อำนาจขอมหรือพวกแขกกลิงคะเป็นเวลาเดียวกับพระเจ้าอโศกรบกับกลิงคะพอดีนั่นแสดงถึงผู้นำไทยุคนั้นอยู่ภายใต้อำนาจของแคว้นมคธ เมื่อพระเจ้าอโศกมีชัยเหนือกลิงคะไทจึงได้ปกครองทั้งลาว(ลั๊วะ) รามัญ(มอญ )และจาม(มาลายู) เมื่อหมดยุคพระเจ้าอโศก พวกอาหรับก็ได้เข้ามายึดครองอินเดียและนำศาสนาอิสลามเข้ามาจึงทำให้แคว้นที่เคยอยู่ใต้อาณัตของอินเดียทำสงครามแย่งชิงพื้นที่กันนั่นก็คือช่วงที่อยุธยาต้องรบกับพม่ารามัญบ่อยๆ ถ้าดูในประวัติศาสตร์ไทยจะไม่พบจังหวัดทางภาคอิสานในการรบมีแต่ภาคกลางขึ้นไปถึงสุโขไทนั่นแสดงให้เห็นว่าการปกครองไม่ได้เป็นเอกภาพ
คนไทยไม่ใช่ชาติพันธุ์เดียวและดินแดนไทดั้งเดิมได้ตกเป็นของพม่ากับจีนหมดแล้ว
ไทเรา ผสมทุกเชื้อชาติ เลือดผสมทุกคน
ข้อมูลแน่นมากค่ะอาจารย์
ชอบครับ อาจารย์ สัมฤทธิ เล่าแล้วฟัง สนุก ดีครับ
ขอบคุณครับอ.สมฤทธิ์
ลั่วก้อคือเจ้าถิ่นเพราะเขาลั่วกว่าคนอื่นๆ. เห็นกับความเห็นท่านเรื่องละวะบุรีครับ. สุดๆครับ
ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทยครับ ชัดเจนไหมครับ ถ้าเราไม่รวมเลือดเนื้อเมื่อไหร่จะไม่มีชาติเชื้อไทยครับ ประเทศไทยประกอบไปด้วยชาติพันธุ์หลายเชื้อชาติ แต่รวมเลือดเนื้อแล้วเป็นชาติเชื้อไทยครับ
เพิ่งมาฟังอ จชอบมากอยากให้ปฏิรูปการเรียนประวัติศาสตร์ไทยเพราะยังไงมันต้องมีเผ่าต่างๆเข้ามาเกี่ยวข้อง ในด้านการเมืองการรบปกครอง แต่ประวัติศาสตร์ไทยนอกจากไม่บอกแล้วให้ลบเลือนสูญหายไม่ให้รับรู้แถบป้ายร้ายป้ายสีก็มี มีแต่ตัวเองดี เก่งคนดียว
ประวัติศาสตร์ไทยในสถานศึกษาโรงเรียนมหาลัยมันตอแหล5555
เขตที่เจริญของว้าในพม่า อยู่ภาคเหนือ เป็นเขตปกครองพิเศษที่2 ภาษาก็พูดก็ยังมีอยู่ค่ะ แต่ใช้ภาษาจีนจะสะดวกมากกว่า เงินยังใช้หยวน และมีหลายชนเผ่าอาศัยอยู่ที่นั้น...
ลั๊วะเป็นชนเผ่ารักความสงบไม่ชอบความวุ่นวาย ไม่เชื่อมาดูที่น่านครับผมก็ ลั๊วะครับ
ลัวะ ภาษากูยแปลว่า สวย เผ่าคนสวย
ถ้าผสมกับเผ่าอื่นก็สวยแหละ ถ้าไม่ผสมก็ดำคล้ำ ดั้งแหมบ การผสมของ dna ทำให้ร่างกายแข็งแรง และรับยีนเด่นของเผ่าพันธุ์อื่่นมาด้วย
เข้าใจละครับ ลพบุรี ละโว้ คือ ลั๊วะบุรี นี่เอง
ลัวะคือคนกลุ่มคนที่มีความรู้เรื่องเหล็กสูงมาก ในยุคเหล็กตอนต้นลัวะครองไปทั้วอุสาคเนเพราะมีอาวุธเหล็กคุณภาพดีกว่าคนกลุ่มอื่นที่ด้อยกว่า
ออสโครเอเชียติก หนึ่งในชาติแรกๆในโลกที่มีความสามารถด้านโลหะ (มิฉะนั้น อินเดียจะไม่มาที่เลยที่เดียว นั้นหมายความว่า อินเดียมาที่นี้เพื่อเอาสิ่งนี้กลับไปเมืองเขา ความสัมพันธ์นี้เป็นมาก่อนสมัยประวัติศาสตร์มาแล้วอย่างหน่อยก็1 พันปีด้วย) ฉะนั้นแล้วจึงเริ่มมีการก่อตั้งสังคมรัฐมากขึ้นในราวๆค.ศ 1-2 สันนิษฐานได้ว่า เพื่อรวบรวมตัวกันเพื่อหาช่องขายสิ้นค้าให้อินเดีย ก็รู้กันชัดแล้วว่า คือฟูนัน คือเป็นอาณาจักรรวมตัวกันของเผ่า ออสโตรเอเอชียติก ปรากฏคำภาษาพูด ลักษณะ และชื่อพื้นเมืองต่างๆเยอะในยุคนี้ ทั้งที่ระบุในจารึกของฟูนัน พวกนี้อารยธรรมก็ไม่แพ้อินเดียเท่าไหร่ เพียงแต่ว่า ยังไม่มีสังคมรัฐ จึงรับอิทธิพลจากอินเดีย
ลัวะแถวดอยแม่โถ เชียงใหม่ ตีเหล็กเก่งมาก
ผมชอบคำว่าไร่หมุนเวียนครับ เพราะในความจริงแล้วชาวบ้านเขาทำแบบนั้นจริงๆ
ยอมรับอาจารย์ครับผมเชื่อ99้เปอเชน
ขอมรับวัฒนธรรมอินเดียผ่านศรีลังกาครับ เพราะอินเดียร่วมยุคขอมคือมุสลิมนะจารย์ อย่ามั่วเม็ดคิดว่าตัวรู้แน่แต่กลวงเปล่าว่ะ
🤣🤣🤣
เป็นไปได้อย่างอาจารย์สมฤทธิ์เล่า เผ่านี้(Austro-asiatic) มักจะเอาก้อนหินมาตั้งเพื่อสักการะตามต้นไม้ บ้านเรือน
สนับสนุนการยกเลิกคำว่า"ส่วย"ที่ใช้เรียกกลุ่มชาติพันธุ์"กวย,กูย,โกย"อยากให้ผลักดันให้เป็นรูปธรรม ขอขอบคุณอาจารย์ครับ
ผมเพิ่งรู้ว่า ส่วน กวย โกย คนเหนือเรียก ขะหมุ
เขาเรียกเราว่าสวยเราก็เรียกเขาว่าเสียม
เด็กๆรุ่นใหม่เขาพูดไทยกันหมดแล้วมีคนแก่ไม่กี่คนที่ยังพูดภาษาสวย
@@suncarnegie4747 อยู่ในตระกูลภาษาเดียวกันเฉยๆคับ มีบางคำใช้ร่วมกันบ้าง แต่คุยกันจริงๆ คงยากคับ น่าจะไม่รุ้เรื่อง ค่อยๆแกะค่อยๆแปลอาจจะได้คับ
@@user-rf8ds2xr6l บ้านผมพูด"กูย"ล้วนๆเลยคับ ไม่มีเขมรกับลาวมาปนเลย
สูดยอดนะครับ เสกพวกลัวะ ให้เป็นมอญครองละโว้ได้แล้วไปไหนหมด แล้วมอญใหม่เป็นใครล่ะ
สังคมไทยชอบด้อยค่าของชนเผ่าอืนคนไทยเลนไม่รู้ต้นสายโคตเง้าของตน
ยินดีคับ
นี่เป็นความคิดของท่านคนเดียวใช่มั้ยครับ..จะให้รวมมั้ยครับ..จะเริ่มตั้งแต่อโยธยา ตอนพระไชยราชาแห่งอโยธยาเข้ามาล้านนา..ลองไปดูหน่อยมั้ยครับ
ขออนุญาต แชร์ข้อมูลไปครับ อ.
อยากจะให้เชื่มโยงกับไตรภูมิพระร่วง สมัย พญาลิไท น่าจะชัดแจ้ง มากขึ้นครับอาจารย์
เห็นภาพคนลัวะ นึกถึงกลุ่มคนอเมริกันพื้นเมือง ทั้งในอเมริกาเหนือ และ ในอเมริกาใต้
อยากให้ศึกษาเรื่องนี้จังครับ มันน่าศึกษามากเลยนะ..
..เพราะมันอาจเป็นจิ๊กซอว์สำคัญชิ้นหนึ่งที่จะเติมเต็มในภาพเส้นทางการเดินทางครั้งใหญ่ของโฮโมซาเปี้ยนที่ออกจากแอฟริกา ผ่านเอเชียกลาง สายหนึ่งขึ้นไปทางไซบีเรียแล้วข้ามสะพานเชื่อมทวีปไปสู่ดินแดนอเมริกา ส่วนอีกสายหนึ่งลงมาทางอุษาคเนย์แล้วมีกลุ่มหนึ่งล่องเรือไปอยู่ตามหมู่เกาะแก่งทั่วทะเลจีนใต้ รวมถึงออสเตรเลียและหมู่เกาะทะเลใต้
..ลองพิจารณาดูนะครับ
ลั๊วะกับยวน สมัยนั้นน่าจะแยกแยะกันนะครับ แต่เดี๋ยวนี้ผมไม่รู้เลยแยกไม่ออกครับ ยิ่งใช้ภาษาไทยยวนยิ่งทำให้คนพูดเหมือนกันหมด
คนละกลุ่มกันเลยครับ ลัวะ ยวน ขอมหริภุญชัย
หน้าตาคล้ายเผ่าอินเดียแดงในเมกาอยู่ คงจากถิ่นกำเนิดใกล้เคียงกัน แต่เมกากำหนดเขตให้เขาอยู่คือกันกับเขาเป็นสัตว์เลี้ยง ไม่สมกับที่บอกว่าเห็นแกสิทธิมนุษยชน& ประชาธิปไตยเลย เป็นแค่คำหวานลวงโลก
@@yongyutdolku3503 น่าสนใจครับ ผมเคยพยายาม หาสารคดีเกี่ยวกับเรื่องอเมริกันพื้นเมืองมาจากไหน เคยได้ยินผ่านหูมานิดๆว่า อเมริกันดั้งเดิม เป็นชาวเอเชีย น่าสนใจมากๆครับเรื่องนี้
@@suncarnegie4747 สังเกตจากสีผิว และ รูปหน้า ชาวออสโตรเอเชียติค ลัวะ ข่า บรู กวย เขมร จะมีโครงหน้าเหลี่ยม ผิวออกสีคล้ำกว่าคนเผ่าไทกระได ลัวะผิวเข้มออกน้ำตาล แต่ไทยวน ผิวขาวเหลือง ใบหน้าโครงหน้ากลมออกเรียวยาว
ละโว้ (ลพบุรี) คือลัวะ ตามข้อวินิจฉัยของสมเด็จกรมดำรงฯ
แสดงว่าลัวะ คือมอญโบราณ?
และเป็นเจ้าของวัฒนธรรมทวารวดี?
ติดตามครับ สนใจ มาก
อาจารขอคับนำคลิบ..ไปต่อยอดกับ..คนลัวะ..กลุ่มปลัง..ให้เขารักตัวเอง...มากกว่าเดิม..
ใช่ครับ คนเมือง หมายถึงชนพื้นเมือง คนถิ่นกำเนิด ไม่ได้จำกัดว่าคือคนล้านนาคนเหนือตอนบน ผมเป็นคนจีนผสมยวนเมืองแพร่ ก็คนเมืองส่วนในบัตรปชช.เป็นคนไทย
คำว่า คนเมืองเป็นคำใหม่ครับ มีใช้เมื่อไม่นานมานี้ แต่ไท-ยวนเป็นคำดั้งเดิมครับ
อยากให้เล่าประวัติกระเทย ม.ช. ให้ฟังหน่อยคะแม่
ລະອຽດດີເດີທ່ານ ມັກຫລາຍເດີ❤
ລາວວາຄຳວາລາວມາຈາກລິວເສັນວາ. ຖ້າລາວວາແບບເນັນໄຫ້ລາວໄຮລາວໄປຮຽນໄຫມ່ເດີ.
อาจารย์เก่งมากๆ. มีเรื่องเล่าว่า ลั๊วะจูงหมามาขายผีใส่สวยดอกคนเมือง ซื้อผีปู่ย่า ไทใหญ่ซื้อผีก๊ะ
ยุดหนึ่งไทยสร้างค่านิยมรัฐชาติมีหนึ่งเดียวคับ เรียนก็มีแค่ประวัติศาสตร์ส่วนกลาง
มอน - ขะแม ป้จบ้น ใช (
เผ่า กิมหมุ ) ຢູ່ໃນປະເທດລາວ ປະຈຸບັນ
ไม่ใช ข้า รุ้ไหม ?
ช่วยให้คนไทยได้รู้ความจริง.ปิดความลับมาสองสามร้อยปี.ซักวันความจริงก็ปรากฎในความจริง.
ถุกต้องครับผม
เยือย เป็นพ่อ กอน เป็นลุก ครัป
ใช่เลย
ຢູ່ລາວເຂດຕາເວັນອອກສຽງໃຕ້ ມີເຜົ່າ ລະແວ ຢູ່ພູລະເວນ ຫລື ບໍລະເວນ
ລາວບໍ່ໄດ້ມາຈາກລະວະ ຫລື ລະແວ ແຕ່ ຄໍາວ່າລາວ ມາຈາກ ລົ້ງ (Long ມັງກອນ ຫລື ນາກ) ຢ່າມົ້ວ
ได้ฟังการก่อเกิดประวัติศาสตร์ชาติไทยแล้ว อ.สมฤทธิ ลือชัย กับ อ.สุจิตต์ วงษ์เทศ และ รายการประวัติศาสตร์นอกตำรา แล้ว สุดๆๆๆ ครับ เหมื่อนได้ออกจากกระลาแลนด์ ที่ทางราชการไทยตีกรอบ ครอบเอาไว้ เพียงเพื่อผลประโยชน์สูงสุด สว่นบนสุดอย่างเดียว
เหมือนกันเลยครับทำให้คิดได้ลากหลายอย่างครับ
เห็นด้วยครับ.
ເລື່ອງລາວຕ່າງຽທີ່ໄທຂຽນມານັ້ນແລ້ວແຕ່ຫນັກຂຽນໄຕ້ຄົມດາບ ເພາະຢ້ານຕາຍຍ້ອນອໍານາດຈື່ງເປັນການປ່ຽນຕໍານານແບບຕາເວັນຕົກເພາະຮຽນມາຈາກຕາເວັນຕົກ
ມັນວາເຄືອມວາລາວມາຈາກເຄືອມວາລົວ້ ນີ້ວາອາຈານຜີບາ
จารึก ( ลึก ) อยู่นาน
ตำนาน ( นาน ) ละเอียด
ไทยแท้ในประเทศไทยมีกี่เเปอร์เซ็น ภาษาไทยกะไดเป็นภาษาที่ใช้ในทางการค้า เมื่อนานๆเข้าก็ใช้แพร่หลายในแถบนี้ คนเชื่อชาติอื่นๆก็เริ่มใช้ภาษาไทยกะไดเป็นภาษาหลัก ซึ่งพวแเขาเหล่านั้นพื้นเพก็ไม่ใช่พวกไทยกะได
ไทยแท้ไม่น่าจะมีในโลกนะครับ
ไท ไต คือภาษาพูด
แต่เชื้อสายชาติพันธุ์มันมีหลากหลาย
เราผสมปนเปกันจนแยกไม่ออก แล้วมันก้อไม่แตกแยก ไม่แปลกแยก แถมยังเปิดใจกว้างยอมรับกับคนต่างเชื้อสาย แต่เวลาพูดใช้ภาษาไท ไต เป็นภาษากลาง
..แต่เราโดนล้างสมองในช่วงเวลาที่ลัทธิชาตินิยมมันเบ่งบานเต็มที่..จนเราเสียทรงไปในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา
..เราควรตื่นจากประวัติศาสตร์ผีบอกได้แล้ว..
อาจารย์ลวัะสามต้ามเชียงตุงเขาเก่งมากเรื่องงานช่างเหล็กทำปืนแก็บขายมีชื่อเสียงมากคนแถวนี้นิยมซื้อมาใช้ป้องกันตัวและล่าสัตว์เดี๋ยวนี้มีการทำอยู่ครับ
ขอบคุณอาจารย์ผู้บรรยาย..ได้ความรู้เพิ่มเยอะเลยครับ
🙏🙏🙏ครูบาศรีวิชัย ครูบาอภิชัย หรือ ครูบาขาวปี เคยผจญภัยมา🙏🙏🙏
ที่ประเทศลาวสมัยเรียนเมื่อ5-60ปีก่อจะยกให้เผ่าลั้วคือต้น ตระกูลเผ่าลาว และเป็นเผ่าที่ใหญ่ที่สุดในลาว
How he said the word Lao came from the word Leouk means he doesn't know anything about Lao people as a race. Go back and do more research on Lao.
นิสัยคนไทยเป็นแบบนี้มาแต่งบรรพบุรุษชอบเอาความคิดตนเป็นที่ตั้ง
ฟังอาจารย์คลิปไหน แล้วอยากแต่งนิยายเลย
เท่าที่ผมสอบถามคนเขมรกัมพูชาเขาไม่รู้จักคำว่าขอมครับ และเขาปฏิเสธว่าเขาไม่ใช่ขอม แต่ผมไม่ทราบว่าในอินเดียมีภาษาเขมรหรือไม่ครับ
ขอมคือพวกทมิฬจากอินเดียใต้ อพยพมาปกครองชาวเขมรป่าดง คือชาวพื้นเมืองโบราณที่อาจารณ์พูดถึง คือคน กวย คนชอง แขมร์ และชาวเขมรเขายกย่องขอมทมิฬเป็นกษัติรย์ของพวกเขา
แล้วเสาอโศกในอินเดียจะบอกในแง่ไหนเกี่ยวพันกับเสมาหรือไม่
หริภุชัยในข้อสันนิษฐานของอาจารย์ใกล้เคียงกับสิ่งที่ผมเคยได้ยินมาจากการตรวจสอบอายุพระรอดลำพูนของกลุ่มที่ใช้วิทยาศาสตร์วิเคราะห์มาเหมือนกันนะครับว่าไม่น่าจะถึง1,300ปีแต่น่าจะอยู่ในข่วงเวลา900ปี+-ครับ...แต่จะจริงเท็จยังไงผมไม่ทราบนะครับแต่ที่อาจารย์ตั้งสมติฐานมามันตรงกันกับที่ผมเคยได้ยินมาครับ...
ต่อไปคงเจ้านั้นและ
พวกเรามาจากที่เดียวกัน
คนพื้นเมือง มีความสำคัญ แน่นอน ครับ ปัจจุบัน เรียกว่าไทย(อยู่ในประเทศไทย) ความใจกว้าง หรือความเข้าใจ ในชาติพันธ์ุ เปนสิ่งที่น่ายกย่องครับ ร้อยเรียงความจริง ประวัติศาสตร์ เพื่อการอยู่ร่วมกัน
สิบเอกกองแลรบกับสุวรรณพรหมาพรหมมี
หินตั่งทีหนองนาคำก็มีและมีพระหินทีหนองหอยไปดูสิ
ได้ความรู้เยอะเลย
ดูแต่ที่ราบสุงที่ไทอพยบมาซิไม่มีคนอยู่เลยแบทที่เลียยังอยู่ไม่ใด้😮😮
หน้าตาแตกผิวพรรณต่างกันมากเลย ดี.เอ็น.เอ ก็คงไม่กระมังครับ.
ยังมีอีก
ชาวเยอ ศรีสะเกษ
ชาวโซ่(โทร)สกลนคร
ชาวกุลา อุบล
ชาวจามโบราณ ก่อนเป็นแขก
สังเกตการนับเลข
มวย เบีย ไบ บอน
หมู่สูอู้แม่นแล้วคนเฒ่าบ่าเก่ากะขะกะคะงะยีนยันเน้อ
พานก็มีลัวะ
ลัวะ เผ่ามอญ
เผ่าตระกูลแอสโตรเอเชียติก หนึงในชาติที่ยอมรับทั่วโลกว่า เป็นมีชำนาญด้านโลหะ
พวกข่า พวกปูนอง และชาติพันธุ์ที่ป่าทั้งเขมร ทั้งแล้ว คือ100% เหมือนกับภาพสลักบนผนังบายน ทั้งดุ้ล หูยาว ไม่สวมเสื้อ ปิดอวยะเภศอย่างภาพสลัก
ประวัติศาสตร์ควรศึกษาแต่ต้องศึกษาเองไม่ต้องมีในตำราเรียนเพราะไม่ได้ใช้ในชีวิดประจำวัน
หรือวิชาสังคมก็ไม่จำเป็นต้องมี
ใครอยากรู้ศึกษาเอาเอง ประเทศไทยต้องปฏิวัติการศึกษาให้ตรงกับยุคสมัยเพื่อเป็นผู้นำโลกไม่ใช่กับไปยังจุดเดิมนั้นคือความจริงหรืออยู่กับปัจจุบัน
บัวขาวเป็น ชาวกุย
ราชวงค์สุดท้ายของลาว
ยงมีมาก
ชาวอูราวะประเทศญี่ปุ่นก็น่าจะเป็นชาวลัวะนะครับ ลองพูดอูราวะเร็วๆดูสิ มันออกเสียงลัวะชัดๆ
อันนี้ มุก เหรอครับ อิอิ
นักการเมืองหรือผู้ฝักใฝ่ทางการเมือง ไม่ได้เรียนรู้ความจริงความเป็นธรรม ความถูกต้องทางการเมือง แต่ต้องการได้อำนาจทางการเมือง จึงปุกระดมแปรเปลี่ยนความคิดทางการเมือง ให้เกิดความเข้าใจผิดต่อกัน ให้เผ่าพันธ์ไท/ไต /ลาว (เดียว)ด้วยกันหรือในเขตประเทศเดียวกัน แตกแยกกัน เกลียดกัน..ชังกัน..จนอยากให้แยกบ้านแยกเมือง แยกประเทศ..หรือให้รบราฆ่าฟันกัน (ดังอ้างประชาธิปไตยจนคนไทยในภพภูมิเดียวกันต้องทำร้ายกัน ต้องเข่นฆ่ากัน) เคยไปถามหญิงสาวนางหนึ่งที่ทำงานในสถานที่ราชการจังหวัดแพร่ มีความเห็นว่าอยากแปลเปลี่ยนแผ่นดิน ไปอยู่กับพม่า มากกว่าการอยู่กับสยาม..(อดีต ล้านนาเคยขึ้นกับลาว และเคยขึ้นต่อพม่ามาแล้ว นี่ก็ด้วยความคิดไม่เป็นไทยแก่ตัว จนต้องไปรับเอาอำนาจของชาติอื่นมาเป็นนายเข้าครอง ตัวอย่างชาติล่มสลายที่เห็นในปัจจุบัน คือมอญ...) เกิดมาแล้วชาติหนึ่งมีเขตแดนดินที่มีเส้นแบ่งเป็นข้อตกลงยอมรับกัน อย่าไปสร้างความแตกแยกอีกเลย ดูตัวอย่างยูเครนและรัสเซียปัจจุบัน...ผู้เดือดร้อนตกทุกข์ได้ยากคือประชาชนคนในชาติ อย่าลืมว่าหากไม่หยุดการสร้างความแตกแยก ขัดแย้ง การเข่นฆ่ากันการทำลายล้างกัน จะไม่มีที่สิ้นสุด แต่อย่างใด???จงหยุดสร้างความแตกแยกเสีย....(ประวัติศาสตร์คือความคาดคเนย์ ที่อาจเป็นความจริง และไม่ใช่ความจริง เสมอไปดูได้จากประวัติศาสตร์ความเป็นมาของชนชาติไทยในอดีต เป็นต้น)
09:00 18:00 20:30 25:00
ทำไม ลัวะ กับ ว้า พูดคนละภาษากันเลยครับ ไม่ใกล้เคียงเหมือน ไทย ไทยใหญ่ ลาว
ชอบฟังอาจารย์วิเคราะห์ประวัติศาสตร์ทุกเรี่องค่ะ
เวลานักประวัติศาสตร์ไทยพูดถึงเขมรโบราณบ่อยๆเขาหมายถึงเขมรโบราณนั้นคือใครผมไม่อาจทราบได้ แต่ถ้าพูดถึงคนกัมพูชาโบราณผมรู้ว่าคือคนเขมร หรือเขาจะหมายถึงพระเจ้าชัยวรมัน พระเจ้าสุริยวรมัน ซึ่งไม่ใช่ภาษาเขมรหรือภาษากัมพูชา จึงไม่ใช่คนเขมรโบราณ และประเทศเขมรโบราณ แต่นักประวัติศาสตร์ไทยส่วนใหญ่ก็ยังคงพูดคำว่าเขมรโบราณเป็นผู้สร้างนครวัด
เรียงประโยคได้งงไปหน่อย. คนโบราณ เขายังไม่เรียกตัวเองว่า กัมพูชา จึงไม่ถือเป็น คนกัมพูชาโบราณ เพราะสมัยก่อนมันไม่มีประเทศ คนถิ่นอื่นเดินทางมาปะปนกับคนพื้นเมืองได้อย่างเสรี ฉะนั้นถ้าพูดเขมรได้ก็นับเป็นคนเขมร ถึงแม้จะเป็นคนมาลายู ชวา กูย มอญ ลาว ลังกา หรืออะไรก็ตาม คำว่า เขมรโบราณ จึงเป็นคำเรียกกลุ่มคนพูดภาษาตระกูล มอญขแมร์ ไม่ใช่การระบุเชื้อชาติว่าเป็นคนกัมพูชาอย่างเดียว นักประวัติศาสตร์ไทยแต่ละภาคเขาจะศึกษากันอย่างละเอียด ถ้าจับใจความไม่ถูกก็จะสับสนตีความหมายกันไม่ค่อยเข้าใจ
เขมรโบราณ น่าจะหมายถึงชาวทมิฬอินเดียใต้ที่มาปกครองชาวออสโตเอเชียติค เช่น คนป่าเผ่าเขมร กวย ชอง ลัวะ มีวิวัฒนาการสร้างปราสาทด้วยหินศิลาแลง จากต้นแบบจากอินเดียมาสู่เอเชียใต้
อีสาน ลาวเรียกพี่สาวว่า "เอื้อย" ก้มีการออกเสียงคล้ายๆกันครับ
คนในประเทศลาวปัจจุบัน ตาม dna จะมียีนแบบลั่วะ ข่า ข่ามุ อยู่สูงมาก ถ้ายีนแบบคนไตกะได จะมีรูปหน้าแบบลื้อพวกลื้อ เมืองสิงห์ หน้าออกจีนๆ คือผิวไม่คล้ำง่ายเมื่อโดนแดด หน้าไม่เหลี่ยมดั้งแหมบแบบออสโตรเอเชียติก
ยิ่งฟังยิ่งทำให้เป็นวิชาหน้าเบื่อจดจำไปก็ใช้ไม่ได้ครับเพราะไม่รู้อันไหนเชื่อได้เชื่อไม่ได้ ยิ่งคนไม่มุ่งหวังศึกษาเฉพาะทางยิ่งทำให้รู้สึกน่าเบื่อ แล้วของที่มีในระยะร้อยปีสองร้อยปียังชำระไม่ได้แตกแยกเถียงกันจนมึน อย่าทำให้คนทั่วไปเลิกสนใจประวัติศาสตร์ครับ
คนไทยมีในพื้นที่มานานจากยุคหินที่เขียนสีตามถ้ำแล้ว และมีวิวัฒนาการ 4000 กว่าปี อย่างที่บ้านเชียง จากบ้านเชียง กว่า 1500 ปีสู่ยุคโลหะ การถลุงแร่ทองแดงและตะกั่ว กลายเป็นแหล่งผลิตสำริด ก่อตั้งเมือง อย่างศรีเทพ หริปุญชัย ละโว้ สุโขทัย และสุวรรณภูมิ คนพื้นถิ่นเราน่าจะแพร่ขยายพันธุ์เต็มพื้นที่อิสานและทั่วประเทศได้ อาจารย์รอบรู้แต่ความรู้ที่ให้ฟังแล้วแอบแฝงไหมครับแค่สงสัย
คนไทยมาทีหลังน่าจะเป็นของลวัะมากกว่่
ลองศึกษาที่มาของคำว่า "ไท ไทย " คนเมืองพริบพรี เรียก คนพูดภาษา กลาง(กรุงเทพ) ว่า "พูดไท้"
ลัวะภาษาเหนือหมายถึงคนฉลาดหัวหมอใช่หรือเปล่า
ลัวะคือคน_ลวักะคือคนฉลาด
ลาวภาษาแต้จิ๋วแปลว่าคนบ้านนอกคนต่างจังหวัด
แต้จิ๋ว หลายคนก็มียีนออสโตเอเชียติก คือ ดั้งแหมบ หน้าเหลี่ยม แต่ยีนแบบจีนฮั้นและยีนไตกะได ทำให้คงรูปหน้าแบบจีน
รากของภาษาแต้จิ๋ว คนจีนฮั่นยังบอกว่า เป็นภาษาคนนอกด่าน หรือ ภาษาหมิ่นหนาน(หมิ่นเย่ว์)
หมินหนาน หรือ หมินเย่ว์(เฉาชาน)ใช้ภาษาแต้จิ๋ว( เฉาชานหัว) ก็คือหนึ่งในกลุ่มไป๋เยว์ ( หมินเย่ว์ ในพื้นที่ฝูเจี้ยนในปัจจุบัน)baike.baidu.com/item/%E5%8D%97%E8%B6%8A/33266
คนโบราณในพื้นที่เฉาซานถือเป็นสาขาหนึ่งของไป่เยว่โดยธรรมชาติ www.163.com/dy/article/E5KVBP3L0521BPDC.html
แต่เนื่องจาก ชาวเตี้ยนไป๋ไม่ใช่ลูกหลานของนางเสียนไท่แต่เป็นลูกหลานของชาวที่ราบลุ่มภาคกลางโบราณ ปัจจุบัน คนในท้องถิ่นไม่รู้ว่า "นาฮัว" แปลว่าอะไร ปล่อยให้ว่างลำพังในภาษาไป่เยว่ แต่สิ่งที่ทางการนำมาคือ "ภาษาจีนกลาง" ของที่ราบภาคกลางซึ่งผสมผสานกับภาษาไป่เยว่ที่หลงเหลืออยู่ประปรายในท้องถิ่น ปัจจุบัน "ภาษาถิ่นหลี่" "ภาษาถิ่นหลี่" คล้ายกับ " ภาษาแคะ” ภาษาเฉาซาน และภาษาท้องถิ่นอื่น ๆ ที่มีต้นกำเนิดมาจากการอพยพทางวัฒนธรรมของที่ราบลุ่มภาคกลาง ภาษาถิ่นเหล่านี้คือ “ซากดึกดำบรรพ์ที่มีชีวิต” ที่คงลักษณะของเสียงโบราณและคำโบราณมากมาย
0668.es/threads/89737/
而本人在查阅前辈乡人的著作中,枉下推论周云先生只说对了一半!中原夏朝的官方语言是保留在广东不错,但不是现在的粤语(白话),而是当地更为古老的方言,代表性的是"黎话"(或“海话”),生存在电白一带,早在梁朝时候世代为南越首领的冼太夫人统一统治了当地的各族,这才是百越族,所以当地才有"那霍"等地名,当时的方言才是百越语,但到了武则天的时候,因冼太夫人后人得罪了武则天而遭灭九族,族人不是杀尽就是远迁改名换姓,电白一带荒无人烟50多年,才有从中原一带官员辞官路过见是风水宝地却没人烟,才在当地定居下来发展成现在的电白人,所以电白人并不是冼太夫人后代,而是古中原人后代,现在当地人才不知道"那霍"是什么意思,更不懂百越语,而该官员带来的才是中原"官话",与当地残留下来的零星百越语结合而成了现在的"黎话","黎话"与"客家话"、潮汕话等与中原文化迁徙有一定渊源的地方语言都非常相似,这些方言才是保留古音特点和古词语较多的"活化石"。
如果从长相上看,广东人的长相更相近于古中原人,不信你可以看看古代留下来的画像,而现在的内地人早经过金、元、清朝等外族入侵,特别是元朝入侵后的新婚初夜制度,而改变了基因,身高、相貌更接近于北方民族。
而广州话最早应是赵佗建立的南越国官方语言,但广州作为南方的政治文化中心,历经各个朝代的官话变迁,才是现在的粤语(白话),就如现在的普通话一样并不是古汉人的语言,早已与古代南越国方言相去甚远,而电白却没有这么幸运。
有心的话找找把“黎话”(或“海话”)的某些词语与古文对比一下,你会发现根本就不用普通话来翻译。
更多证据有待感兴趣的族人深入挖掘肯定或否定,本人不敢说是正确推论,一家之言。
คนแต้จิ๋วก็คือลูกผสมระหว่างพวกคนฮั่นอพยพพาวัฒนธรรมเข้ามาผสมมาปกครองกับกลุ่มไป๋เย่วตามพื้นที่ภูขาในยุคฉิน เฉกเช่นเดียวกับกลุ่ม หวู่เย่ว์หรือกลุ่มคนพูดภาษากวางตุ้ง เพราะยังคงทิ้งร่องรอยของสำเนียงและภาษาดึกดำบรรพ์ ไว้ ถ้ามองให้เห็นภาพ ก็เหมือนคนมอญเขมร รับภาษาไตกะได แต่ยังคง ไว้ซึ่งเสียง ร. ในสำเนียงแบบเขมรอยู่ ยังไงยังงั้น จะหน้าตาออกจีนมากจีนน้อยก็ขึ้นอยู่กับว่ารับ dna กลุ่มไหนเข้าไปมากน้อยแค่นั้น
ลั๊วะ...คนพื้นถิ่น...คนไท..คนไต๋..มากลับการค้ายขาย....พื้นที่ติดต่อกัน..ภาคใต้ของจีน...คนไต๋..ใช้ภาษาตระกูลไท....ลงมาค้าขายจึงใช้ภาษาไท...เป็นภาษากลาง....ภาษาตระกูลไท...เข้ามาแบบจริงจังในภูมิภาคนี้ระยะเวลา...พ.ศ..1,000..ขึ้นไป....ประเทศจีนสู้รบกันบ่อย...คนหนีลงมาเรื่อยๆๆๆๆๆ....ผสมกันไปมา...ใช้ภาษาไทเป็นภาษากลางในการสื่อสาร....จนพัฒนาจนมาถึงทุกวันนี้.....คนลั๊วะ..คือคนพื้นถิ่น....มีประเดนให้น่าคิด....ภาษาตระกูลลงมาในภูมิภาคนี้เมื่อไหร่...หาระยะได้ใกล้เคียงได้...เราก็จะรู้ความจริง....คนพื้นถิ่นภาษาถิ่นเริ่มหายไป...ครับ....
ใครเขาเรียนประวัติศาสตร์กันแบนี้ อันนู้นชาตินี่อันนี้ชาตินั้น นี้มันความคิดพวกเขมรครั่งชาติ ไม่ใช่ประวัติศาสตร์อาเซียน
@@kwangko5577 นี่ล่ะครับ...สิ่งที่ต้องตามหา...ชนชาติไตและภาษาลงมาเมื่อไหร่....หักล้างกันครับ....ที่รู้คือ...คนในภูมิภาคนี้.กินข้าวเหนียวมากว่า..2..พันปี...ตอนนี้ใครจะเขียนให้ใครเด่น..ตามยุคสมัยที่เรื่องอำนาจมากกว่า.....
@@kwangko5577 พิธีนั่งเมือง เบอร์นาตซิค (Bernatzik) เขียนไว้เมื่อ ค.ศ. 1964 ว่า ที่เมืองเชียงตุงในปี พ.ศ. 2470 พวกชาน (คนไทยในรัฐฉาน เมืองเชียงตุง) มีการทําพิธีรําลึกถึงความสําคัญที่ชนเผ่าตนสามารถยึดครองอํานาจได้เป็นประจําทุกปี โดยจัดให้ชาว “ว้า” (ละว้า หรือลัวะ) คนหนึ่งขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์ซึ่งประดับประดาด้วยเครื่องสูง ต่อจากนั้นพวกชานก็จะเข้ามาทําท่าใช้กําลังขับไล่ “ว้า” ผู้นั้นลงจากบัลลังก์ พิธีจําลองประวัติศาสตร์ซึ่งตรงกับที่พรรณนาไว้ในพงศาวดารเมืองเชียงตุงว่า “พิธีนั่งเมือง” นี้ยุติลงด้วยการเลี้ยงฉลองชัยชนะ
ในพงศาวดารเชียงตุงกล่าวถึง “พิธีนั่งเมือง” ไว้ว่า หลังจากที่ได้สร้างหอคํา (ปราสาททอง) เสร็จแล้ว คนไทยก็ให้พวก “ละว้า” นั่งรับประทานอาหารอยู่บนหอคํา จากนั้นก็กําหนดให้คนถือแส้ไปทําท่าขับไล่พวกละว้าให้ลงจากหอคํานั้น แล้วพญาผู้ครองเมืองจึงขึ้นไปนั่งบนแท่นในหอคําแทน พิธีนี้สะท้อนให้เห็นว่าชน เผ่าไทเป็นผู้มาทีหลัง ยึดครองพื้นที่ แย่งอํานาจการปกครองจากพวกละว้าได้ แล้วขับไล่พวกละว้าออกไป (ข้อมูลข้างต้นนี้ได้มาจากหนังสือ “ลัวะเมืองน่าน” ของ ชลธิรา สัตยาวัฒนา)
ปัจจุบันคนเหนือก็เรียกพวก ข่า ขามุ มอญ(ออกเสียงแบบคนเหนือเรียกมอย ม้อย) ละว้า แบบดูถูกอยู่นะ
คนไทยมาจากอินเดียคับเป็นชาวมคธ
@@ideal3i ใช่เลยครับ...คนไทยสมัยหลังโดนฝรั่งเศษหลอกเอา...เชื่อยิ่งกว่าพ่อแม่พูดสั่งสอนมาอีกครับ...พุทธประวัติบอกชัดๆๆๆๆ...แต่นักโบราณคดีเชื่อฝรั่งเศษเป็นจริงเป็นจังไปเสียแล้ว
เขมรอยู่มาก่อน1800ปี
เเขมร์ครับกัมพูชาคือแขมร์เหมนคืผู้นำเอาวัฒนธรรมอินเดียเข้าสู่สุวรรณภูมิเขาทานเนยไม่ชอบอาบน้ำกลิ่นตัวเหม็นเลยได้ชื่อว่าเหม็นไม่ใช่เขมรครับ
ลั๊วะ กับ ยวน สมัยนั้นอาจจะแยกแยะกัน แต่สมัยนี้ปะปนกันหมดเลย แยกไม่ถูกครับ ยิ่งพูดยวนไปหมด ผมมก็งงครับ
ลั๊วะปัจจุบันเหลืออยู่กี่ที่หล่ะ แทบจะสูญพันธุ์
@@user-pc2lc6up9k 555สูญพันธุ์เลยเหรอครับ 555 น่าจะปนกันหมดจริงครับ และชาวยวนมักจะมีบทบาทมากในยุคหลัง จนเรียกตัวเองว่าคนเมืองในปัจจุบัน เป็นไปได้ว่ากลืนชาติแบบที่เขาพูดกันนะครับ เดาเอา 555
ยุครัตนโกฯ(หก)
ไม่พูดถึงไตลาว แต่พูดภาษาเครือเดียวกัน
ชาวเวียตนามมีผิวขาวเหลืองแบบจีนน่าเป็นมองโกลอยด์ ไม่มีผิวเข้มแบบออสโตรเอเซียติก และภาษาเขียนก็เป็นแบบกิ่งไม้แบบจีนพึ่งมาเปลี่ยนเป็นแบบภาษาฝรั่งเศสหลังเป็นเมืองขึ้น เราเองน่าจะเป็นมองโกลอยด์ผิวเหลืองเพราะมีก้นสีดำเป็นจ้ำเรียกว่าไอ้ตูดหมึก และเราน่าจะเป็นญาติกับจ้วง เพราะภาษาเราพื้นฐานออกเสียงแบบเดียวกันเพียงว่าเรารับภาษาบาลีสันสกฤต จนเราเดี๋ยวนี้สื่อสารกับพวกจ้วงแทบไม่รู้เรื่อง ชื่อคนไทยเดี๋ยวนี้ก็ยาวๆเป็นชื่อสันสกฤตทั้งนั้น ตอน ขงเบ้งมาปราบเบ้งเฮ็ก เมื่อพศ. 700 กว่ากล่าวถึงเบ้งเฮ็ก มีรูปร่างผิวคล้ำ ชาวเมืองก็กินของสดของคาวคงน่าจะเป็นลาบเลือด และแต่งตัวรบด้วยเกราะหวาย ขงเบ้งลวงนักรบพวกนี้ลงน้ำและจุดไฟด้วยน้ำมันดินนักรบของเบ้งเฮ็กจึงตายลงเป็นจำนวนมาก เชื่อว่าคนในบังคับเบ้งเฮ็กเป็นคนไทยเพราะกินเนื้อดิบแบบคนอีสานกับคนเหนือ
อู้เป่นกุๆมะๆลาก่อนเน้อ
ในเมืองไทย มันก็ สงบสุขมาตลอดนี้ ไม่เหฟ้นมีใครกดใคร ต่างจาก อินโดนีเซีย มาเลเซีย ข้อมูลอื่นๆ ก็ แน่นดี แต่ ดู เอาความเห็นส่วนตัวทางลบ ๆ มาใส่ ในคำบรรยายเยอะจัง แถมไว้วิจารณ์พุทธศาสนาอีกว่ากดคนลั้วะ ชักจะเพี้ยนป่าวค่ะ แต่คนระดับคุณคงไม่ฟังความเห็นผู้อื่นหรอก เพราะเกมส์ของคุณคือ ผู้วิจารณ์ผู้อื่น
สรุปคร่าว ข้อมูลวิชาการแน่น ขอชื่นชม แต่ แย่มากที่เอาความเห็นส่วนตัว มาชี้นำ ซึ่ง ดูมันเว่อร์เกินไป สังคมไทย มันไม่มีใครกดใครรุนแรงหรือด้อยค่ากันจนไม่เหลือความเป็นคนอย่างที่คนบรรยาย
แถน ต้นคำมาจากเวียดนาม เพี้ยนมาจาก เทียน ภาษาจีน ที่แปลว่าฟ้า
ถามก่อนเวลามหาวิทยาลัยจัดงานเขาพูดถึงใครเปนคนจัดงานภารโรงหรือประธานนักเรียนผอ.หรืออธิการไม่มีส่วน
ประวัติ โบราณ เขียนขึ้น ด้วยกลุ่มบุคคล แอบแฝงด้วยผลประโยชน์ และ มโนขึ้นเอง ซึ่งเชื่อถือแทบ ไม่ได้ เช่นในประเทศ ไทย มีอยู่หลายกลุ่มชน มีทั้ง อพยพโยกย้าย หรืออยู่ถิ่นเดิมหรือ หลบซ่อน แต่ก็เป็นเผ่าพันธุ์เดียวกันทั่วโลก อาจมีความแตกต่างด้านภาษาและ อัตลักษณ์ ไปตามสิ่งแวดล้อม
ใช้ครับ เขาถึงแยก ระหว่างตำนาน กับ ประวัติศาสตร์ไงครับ
ใครที่ฟังประวัติศาสตร์ร้อยพ่อพันแม่ แล้วเชื่อทันที คือพังมาก เราควรไปศึกษาประวัติศาสตร์ชุมชน หมู่บ้าน และพิพิธภัณฑ์วัตถุโบราณด้วยตัวเอง จะเห็นชัดเจนว่าอะไรเป็นอะไร แล้วถึงมาฟังจะทำให้ตีความถูกต้อง
พะเยาก็มีลั้ว
ลำปางก็มีลั้ว
ลัวะไม่ใช่ลาวลัวะคือมอญข่าญกรูกุยขมุกโซครับเรืองที่อาจาร์ยพูดมาทังหมดถูกตอ้งครับแต่ที่ผิดคือลาวจริงๆคือคนกลุ่มไททังหมดแต่ก่อนคนไทคือมีอาณาจักอ้ายลาวอยู่ตอนใต้ของจีนแต่ไปเป็นไทต่างๆเหนือเชียงใหม่คือลาวล้านช้างเวียงจันหลวงพระบางคืออาณาจัดลาวล้านช้างครับ
นี่ก็ถูกอีกครับ พวกไตต่อมาคือลาว ตั้งเมืองขึ้นก่อน ไทตามมาภายหลังขอรับ เลิกเสียทีข่มระหว่างกัน เอาแบบมาจากพวกอารยันที่เข้ามายึดอินเดีย แล้วลังกาก็เลียนแบบพวกอินเดียขาวอีกที ถึงมีปัญหาระหว่างคนลังกาและชาวทมิฬมาจนทุกวันนี้
จริงๆแล้วคนตะไทลาวนี้มาทีหลังครับคือคนที่อยู่ดินแดนนี้คือลั่วหรือตะกูลมอญเขมรหลักฐานมีคนกลุ่มตะกูลไทลาวคือพ่อขุนเม็งรายปูคือปู่เจ้าลาวเม็งมาจากสิบสองปันนาขุนเม็งรายมาปกครองถาคเหนือเชียงใหม่ลำพูลพ่อขุนรามคำแหงปู่คือปู่เจ้าลาวจกมาจากเชียงทองหลวงพระบางครับ ทีมาปกครองสุโขทัยคือคนหลวงพระสุโขทัยสุพรรณ์บูรีนครศรีธรรมราชสำเนียงเหน่อเหมือนกันครับคนนครศรีธรรมราชยังใช้ศัพย์ลาวหลวงพระบางอยู่เลนครับเช่นบ่าวสูหมากขนัด(หรือสัปรด)เช่นคำว่าลูกของผลไม้ยังใช้ศัพย์ลาวคือหนว่่ยและใช้คำพี่พูดกับผู้ใหญหรือคนที่นับหรือและคยอืนยังคำว่าเพิ่นเติ่นครับฯลฯ
@@charoonwattanasin5545 ครับคือคลิปที่แล้วผมลืมเขียนคำว่าล้านนาคนับสมัยร5เมียของท่านคือเจ้าดารารัศมีเจ้าดารารัศมีท่านบอกว่าท่านเป็นลาวครับมาจากเชียงใหม่ครับหลักมีและตอ้งเขาใจกอ่นว่าคนกลุ่มตะกูลไทลาวนี้เนียกกลุ่มคนว่าไทเช่นไทบ้านไทเมืองและแตกกระจ่ายกันไปสร้างบ้านแปลงเมืองเป็นกลุ่มไทต่างขึ้นในประวัติศาสตร์มีบันทึกไว้ว่าทางตอนใต้ของมีอาณาจักรอ้ายลาวจีนรุกรานจนอยู่ไม่ได้จึงแตกไปเป็นกลุ่มไทยตา่งๆขึ้นไปคนระทิตย์ระทางและว่าลาวไทใหญ่ก็ยังคำว่าลาวอยู่ตามพื้นและตอนใต้ของจีนล้านนาล้านช้างนี้จะฟังภาษากลุ่มไทต่างออกคนภาคใต้นะคนศรีธรรมยังใช้ศัพย์เดิมอยู่สว่นกลุ่มต่างที่นอกประเทศไทยเช่นไทผาเกไทคำตีไทอ้ายตอนอยู่อินเดียไทจ้วงไทอ้ายคงไทโหลงไทสิบปันนา.จีนและไทดำไทแดงไทดอ่นไทนุงคนเผ่าไทพวกนี้คนลาวล้านนาลาวล้านช้างฟังออกครับเพราะศัพย์ที่เขาใช้ยังใช้ศัพย์เดิมอยู่แต่ไทยสยามนันเป็นลูกผสมมอญเขมรศัพย์ที่ใช้ในปจุบันนี้เป็นเยอะครับเพราะเป็นลูกปสมเช่นคำว่าจมูกตูดเดินกะบาลเจริญสะอาดสะพานมะกรูดมะนาวลูกเพกาปลาเห็ด(คนกรุงว่าทอดมัม)แต่คนสุโขทัยพิดโลกพิจิตสิงบุรีชัยนาทอยุธยาเรียกปลาเห็ดเหมือนเขมรพระเนตรเพลิงเสด็จเป็นภาษาเขมรเช่นคำว่ากะดอเป็นภาษาเขมร
ใช่แล้ว..ถ้าลัวะเป็นลาว ไทยสยามยิ่งลัวะใหญ่
พิธีนั่งเมือง เบอร์นาตซิค (Bernatzik) เขียนไว้เมื่อ ค.ศ. 1964 ว่า ที่เมืองเชียงตุงในปี พ.ศ. 2470 พวกชาน (คนไทยในรัฐฉาน เมืองเชียงตุง) มีการทําพิธีรําลึกถึงความสําคัญที่ชนเผ่าตนสามารถยึดครองอํานาจได้เป็นประจําทุกปี โดยจัดให้ชาว “ว้า” (ละว้า หรือลัวะ) คนหนึ่งขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์ซึ่งประดับประดาด้วยเครื่องสูง ต่อจากนั้นพวกชานก็จะเข้ามาทําท่าใช้กําลังขับไล่ “ว้า” ผู้นั้นลงจากบัลลังก์ พิธีจําลองประวัติศาสตร์ซึ่งตรงกับที่พรรณนาไว้ในพงศาวดารเมืองเชียงตุงว่า “พิธีนั่งเมือง” นี้ยุติลงด้วยการเลี้ยงฉลองชัยชนะ
ในพงศาวดารเชียงตุงกล่าวถึง “พิธีนั่งเมือง” ไว้ว่า หลังจากที่ได้สร้างหอคํา (ปราสาททอง) เสร็จแล้ว คนไทยก็ให้พวก “ละว้า” นั่งรับประทานอาหารอยู่บนหอคํา จากนั้นก็กําหนดให้คนถือแส้ไปทําท่าขับไล่พวกละว้าให้ลงจากหอคํานั้น แล้วพญาผู้ครองเมืองจึงขึ้นไปนั่งบนแท่นในหอคําแทน พิธีนี้สะท้อนให้เห็นว่าชน เผ่าไทเป็นผู้มาทีหลัง ยึดครองพื้นที่ แย่งอํานาจการปกครองจากพวกละว้าได้ แล้วขับไล่พวกละว้าออกไป (ข้อมูลข้างต้นนี้ได้มาจากหนังสือ “ลัวะเมืองน่าน” ของ ชลธิรา สัตยาวัฒนา)
ปัจจุบันคนเหนือก็เรียกพวก ข่า ขามุ มอญ(ออกเสียงแบบคนเหนือเรียกมอย ม้อย) ละว้า แบบดูถูกอยู่นะ