'Gaslighting' สิ่งน่ากลัวในความสัมพันธ์ | Mission To The Moon EP.1112
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 19 เม.ย. 2021
- คำว่า Gaslight ที่แปลว่าตะเกียงนั้น ถูกใช้เพื่อเปรียบเปรยภาวะการถูกชักใยจากคนอื่น และทำให้สับสนเกี่ยวกับความทรงจำหรือการรับรู้ของตนเอง โดยมาจากภาพยนตร์เรื่อง 'Gaslight' (1944) ซึ่งมีเรื่องราวเกี่ยวกับสามีที่ต้องการฮุบสมบัติของภรรยา โดยการทำให้ภรรยาคิดว่าตัวเองเป็นคนบ้า วันนี้เรามาลองทำความรู้จักกับสิ่งที่เรียกว่า Gaslight ที่สามารถพบได้ในทุกความสัมพันธ์กัน
#MissionToTheMoon
#MissionToTheMoonPodcast
ติดตาม Mission To The Moon Media ได้ที่
Website: bit.ly/3oHFe99h
Facebook: bit.ly/32Oe4nW
Twitter: bit.ly/2TyBOH6
Blockdit: bit.ly/3jI0pEk
TH-cam: bit.ly/2TyTXVg
TikTok: bit.ly/35Gq8aX
SoundCloud: bit.ly/3e4Tzax
Podbean: bit.ly/3oCqU1g
Spotify: spoti.fi/37MNajh
Apple Podcast: apple.co/3oK1JKy
Instragram: bit.ly/2OMR30a
Clubhouse: @mttmclub
ขอบคุณมากค่ะ "สิ่งไหนที่เป็นความจริง สิ่งนั้นก็จะเป็นความจริงตลอดไป อย่าให้ใครมาบิดเบือน" gaslighter ก็แค่พยายามลดคุณค่าของเราค่ะ พยายามบอกว่าเราคิดไปเอง หรือเป็นบ้า พยายามควบคุมเรา และโยนความผิดให้เรา พยายามทำให้เราสับสนระหว่างความจริงกับเรื่องที่เขาสร้างขึ้นมา ตอนนี้กำลังเจอคนพวกนี้อยู่ค่ะ กำลังสู้ค่ะ โดยการทำแบบที่มันทำกับเรานั่นแหละค่ะ 😆
เราต้องนิ่งที่สุด แล้วให้เขาตายตามธรรมชาติ
เจอประจำในที่ทำงานค่ะ แต่ก็รู้อยู่ว่าเค้าตั้งใจด้อยค่าเรา
เคยทั้งโดนเอง เคยทั้งเป็นเอง ทั้งตั้งใจ และ ไม่ตั้งใจ
ที่เคยโดนมีหลากหลายมากแต่ที่ไม่ชอบเลย คือ "การเปลี่ยนความทรงจำ" เช่น การพูดเชิงทะเลาะกันเราจำได้ว่าเขาพูดเต็ม 2 รูหู แต่เมื่อเวลาผ่านไปเขากลับจำไม่ได้และบอกว่าไม่ได้พูด วิธีที่ใช้แก้ไข คือ ก่อนจะคุยกันจะเอากระดาษมาเขียนหัวข้อเรื่องที่จะเคลียร์กัน แล้วจดโน้ต เหตุ และ ผลที่แต่ละคนกล่าวอ้างในความเป็นจริง ลงวันที่ไว้ด้วย ซึ่งบทสนทนา จบได้ไวมาก และ เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
ในส่วนที่ใช้เองแบบ ตั้งใจ คือ พอเราเห็นเขา Gaslighting มา ตอนที่เรามีสติเราก็เริ่มคิดว่า มันไม่ใช่ล่ะ เราก้อเริ่มต้องหาอะไรมากล่าวอ้างเหตุและผลเพื่อเพิ่มน้ำหนัก ไม่ให้เรื่องมันออกนอกทะเล
ในส่วนที่ใช้แบบไม่ตั้งใจ คือ พูดเชิงทะเลาะ แล้วมีอารมณ์ โดนฝ่ายตรงข้ามพาไป เราก้อเริ่ม Gaslighting แบบไม่ตั้งใจ บางครั้งแบบโง่ๆด้วยนะ พอจบบทสนทนา ใจเย็นลงแล้ว มานั่งนึึกดีๆ เอ้า ทำไมเราพูดยังงั้นวะ ? ข้อมูลบางอย่างที่เอามากล่าวอ้างเรายังไม่สรุปกันก่อนเลยแต่เราก้อเอามาใช้ Gaslighting ไปแล้ว สุดท้ายก้อต้องตามไปขอโทษอีก
บ้านผม มี Gas lighter ครับ แต่ตอนนี้ผมไม่กลัวหรอก ผมระบุได้ชัดเจนว่าเป็นใคร และผมมีวิธีป้องกัน ทั้งด้าน ความจริง และ จิตใจ Gas lighter กลัวความจริงมากที่สุดครับ เราต้องเป็นคนที่มี Self esteem Self actualization เยอะๆ และ พยายามหาข้อเท็จจริงให้มากที่สุด ไว้ป้องกันตัว
แฟนเก่าเราเลยค่ะ Gaslighter เราแพ้ขนแมวแล้วคันมากแพ้มากเกาจนเลือดไหล นางบอกว่า ผมว่าคุณไม่ได้แพ้แมว คุณมโนไปเองแล้วเกาจนมันเลือดออก คุณขี้มโนจัง เราอึ้งสุดๆ โดนทำให้ลดคุณค่าตัวเองหลายอย่างมากค่ะ ป้องกันไม่ได้หรอก เขาเคยจะเอาตำรวจมาจับเราไปส่งโรงพยาบาลบ้าเพราะเขาบอกว่าเรามโนและเป็นโรคประสาท
@@katelynnawisitt โอ้ว ตอนนั้นแก้สถานการณ์ยังไงครับ
เคยมีเพื่อนคนนึงที่ทำให้เราสับสนในความเป็นตัวเองมาก เพราะเราให้ความสำคัญกับเพื่อนคนนี้จึงฟังเค้าทุกอย่างกลายเป็นรู้สึกว่าสิ่งที่เราทำผิดเสมอ เช่น ไปไหนไม่บอกเค้า กลับบ้านไม่บอก การที่เรามีเพื่อนหลายคนก็ผิดอีก เราเครียดมากเป็นปีจนเราไปคุยกับเพื่อนคนอื่นๆซึ่งคนบอกที่เราเป็นอ่ะปกติมาก ทางนั้นอ่ะไม่ปกติ เป็นไปได้ว่าคิดมากกว่าเพื่อนแต่ใช้คำว่าเพื่อนเรียกร้องความสนใจกับเรา เราเลยตัดเพื่อนคนนั้นเลย เสียใจมากว่าเราดีกับเค้าขนาดนั้นทำไมเค้าถึงทำร้ายจิตใจเราขนาดนี้
เราเลยค่ะตอนนี้ เจอสถานการณ์แบบนี้เครียดและเบื่อมาก พยามจะหลุดพ้นแบบไม่ให้เค้าเสียใจค่ะ
เราเคยคบกับคนนึงมา2 ปี สุดท้ายมาจับได้ว่าโกหกตั้งแต่เรื่องที่บ้านยันที่ทำงานเลยจ่ะละยังมีโลก3 ใบอีก ถ้าจะมโนได้ขนาดนี้แนะนำไปทำงานกันตนานะคะ
สตอรี่เหมือนเรามากค่า สองปีเหมือนกัน. 😭😭😭
@@monhealthystein7188 กลับมาดูแลตัวเองนะคะ. เรารู้สึกว่า เราต้องฮิลตัวเองเยอะเลย แบบมันชอบทำให้เรารู้สึกผิด รู้สึกไม่มีค่า ทำให้เราดูแย่.เพื่อตัวมันจะได้อยู่เหนื่อกว่า แต่เราต้องเตื่อนตัวเองนะคะว่าเราไม่ได้เป่นแบบนั้น สู้ๆคะเป่นกำลังใจให้นะคะ 💪🏼💪🏼💪🏼
กลัวจะเจอแบบนี้จัง
ขำที่บอกไปทำงานกันตนา 55555
นี่เราโดนGaslightกันมา 7 ปีแล้วใช่มั้ย😂
ขอบคุณมากนะคะ ฟังแล้วก็สนุกดี ในโลกใบนี้เราจะเจอคนหลายๆประเภท สิ่งที่เราทำได้ คือตั้งสติ
2:40 3:40 4:00 5:15 5:30
1. รู้ว่าอีกฝั่งพูดโกหกแน่ๆ
2. อีกฝั่งปฏิเสธว่าไม่ได้พูดไม่ได้ทำ
3. เอาความรัก ชื่อเสียง เงินทองเป็นตัวประกัน
4. #ทำแบบต่อเนื่องยาวนาน
5. สิ่งที่พูดไม่ตรงกับสิ่งที่ทำ
6. ซับซ้อนไปไม่เข้าใจ
7. ต้องการให้คุณสับสนตัวเอง
8. ติดพนัน/ยา/เหล้า
9. #คนใกล้ตัวคุณถูกโน้มน้าวให้ไม่ชอบคุณ
#ความจริงก็คือความจริง อย่าให้ใครมาบิดเบือนหรือกล่าวหาคุณได้
ชอบการสรุปและคำแนะนำมากนะคะ จริงๆสามารถใช้รับมือกับปัญหาอื่นๆ ที่ไม่ใช่ gaslighting ได้อีก
อันที่ 3 ตัวประกันจะอธิบายได้ดีขึ้นก็คือแบบ
1. ...อาจมีผลต่อการประเมินสิ้นปี (งาน)
2. ...เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรอ (เพื่อน)
3. ไม่มีใครรักเธอเท่ากับครอบครัว (ครอบครัว)
4. เธอจะอยู่ได้ยังไงท่าไม่มีชั้น (คนรัก)
5. ท่าเธอทำ/ไม่ทำ...ชั้นจะ...มา (เอาความสัมพันธ์และความรู้สึกมาเป็นตัวประกัน)
ประเด็นน่าสนใจมากค่ะ ชอบ ๆๆ
เรื่องนี้น่าสนใจมาก และเป็นเหตุการณ์ที่เราเองก็เคยตกอยู่ในวังวนนั้นมาก่อน โดยที่ไม่ได้รู้จักปรากฏการณ์ gaslighting มาก่อนเลย น่าเสียดายที่เราน่าจะได้รู้ตัวเร็วกว่านี้ ว่าสิ่งที่เผชิญอยู่มันคือสิ่งที่ไม่ปกติ เราปล่อยให้เขาทำให้เรารู้สึกด้อยค่าตัวเองอยู่ซะตั้งนาน และการจะกู้สิ่งที่เรียกว่า "ความสำนึกในคุณค่าของตัวเอง" กลับคืนมา มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย😢
ขอบคุณมากค่ะกำลังตกเป็นเหยื่ออยู่ มีประโยชน์มากเลยค่ะ
ขอบคุณมากๆค่ะ
ชอบหัวข้อนี้น่าสนใจมากค่ะ คิดว่าที่ไทยมีคนพูดถึงหัวข้อพวกนี้น้อยมาก
เป็นช่องที่ดีมากๆ สำหรับฟังเพื่อพัฒนาตนเอง
ข้อมูลดีมากๆเลย
😇🙏ขอบคุณมากค่ะ
อยากให้เอาเรื่องแนวนี้มาลงเยอะๆ ชอบฟังครับผม ขอบคุณครับ
ดีมากๆ เลยค่ะ
ชอบมากครับอันนี้เพิ่งโดนมาเลย
ขอบคุณมากคับ
ขอบคุณมากค่ะ
🙏👍พบได้ทุกความสัมพันธ์ ที่ปลอมปน จริงบ้าง แต่ไม่ทั้งหมด ไม่รุ้จะมาในเวลาใด ทั้งรู้ตัว , ไม่รู้ตัว...มันซ่อน ย้อนแย้ง จนทำ ? ก้อไปแบบ งง ๆ จนหมดไฟ
คุณภาพเสียงคือดีมาก
ขอบคุณค่ะ
สภาพที่ถูกผู้อื่นครอบงำ(อย่างแนบเนียนหรือไม่ก็ตาม)จนแยกเรื่องจริงเรื่องเท็จไม่ได้จนถูกชักใยให้ทำตามความต้องการของผู้ครอบงำชักใย
วิธีแก้คงต้องเพิ่มแหล่งข้อมูลอื่น ไม่ปล่อยให้ตนเองอยู่ใน สภาพถูกแหล่งข้อมูลผูกขาดการป้อนข้อมูลเพื่อบงการ
และหาทางสร้างสิ่งถ่วงดุลพร้อม การพยายามตั้งคำถามกับทุกสิ่งให้ได้มากที่สุด
ของเราโดนสร้างข่าวลือว่ามั่วผู้ชายกับไม่ปกติ คนอื่นๆก็เชื่อ ทั้งที่เราเป็นคนเงียบๆ แต่เราถามเพื่อนสนิททุกคนไม่มีใครบอกเราเป็นแบบนั้นเลยค่ะ จริงๆเกือบคิดแล้วบุคลิกเราอาจจะเป็นอย่างนั้น แต่เหอะไม่เลย
เคยเจอมาหมดเลยค่ะ ส่วนตัวเรียกคนแบบนี้ว่าฉลาดแต่เรื่องโง่ๆ
ฉลาดแต่เรื่องเลวๆ คับ
อยากรู้วิธีการเลือกนาฬิกาปลุกครับ
เคยเจอเหตการณ์นี้ ต้องตั้งสติดีๆเลย เพราะเคยคิดว่าเค้าพูดแบบนั้นแล้วจะได้ประโยชน์อะไร มาฟังepisodeนี้ อ่อ คนแบบนี้ก็มี เข้าใจละ
เราไม่เข้าใจค่ะ🥺ว่าทำไมคนแบบในคลิปถึงทำแบบนั้นกับคนอื่น สุดท้ายคนที่เค้าทำร้ายมากที่สุดก็คือตัวเค้าเอง ทุกวันนี้เราก็ยังไม่เข้าใจค่ะ เค้ามีปมในใจเหรอคะ?! สิ่งที่เค้าทำมันมีแต่เสียกับเสีย ทั้งทำลายคุณค่าความเป็นมนุษย์ของตัวเค้าเองด้วย คนที่เคยเจออะไรแบบนั้น จะต้องทำใจยังไงเหรอคะ!?😢ถึงสามารถก้าวข้ามผ่านความรู้สึกผวาและสะเทือนใจจากเหตุการณ์นั้นไปได้
ถ้าแค่เรื่องความสัมพันธ์(ไม่ใช่อาชญากรรม) นี่ก็เป็นเรื่องปกติของสิ่งไม่ดีที่มีบนโลกนี้ค่ะ เรางงว่าปัจจุบันจะมีการบัญญัติศัพท์อะไรเหล่านี้และทำให้มันดูน่าสนใจมากขึ้น หรือว่า... คนที่เกิดมาภายหลังมีความอ่อนแอทางด้านอารมณ์และสังคมมากเกินไป เพราะถ้าเรารู้ว่าสิ่งไหนถูกต้อง และสิ่งไหนควรทำเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์โดนโบ้ย มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรือประหลาด มันก็แค่การใช้ชีวิต สิ่งที่น่ากลัวกว่าโดน gaslighting คือ การที่ไม่รู้ตัวเองว่าสิ่งไหนถูกผิดและไม่สามารถจดจำตัวเองได้มากกว่า การตั้งคำศัพท์ใหม่และพยายามโยงชีวิตให้ดูยาก จะทำให้ชีวิตดูยากตามคำศัพท์ที่บัญญัติเพิ่มขึ้น การรู้ว่าเราทำอะไรอยู่และสิ่งนั้นถูกหรือไม่ ง่ายๆแค่นี้ก็ปกป้องตัวเองจากความเพี้ยนๆของโลกได้เยอะแยะ
ใช่ค่ะมันอาจจะเป็นแค่สิ่งนึงที่ไม่ดีแต่สิ่งที่ไม่ดีสิ่งนี้มันมีผล มากกว่าที่คุณคิด ปัญหาของ gaslight มันคือ มันทำให้เหยื่อเริ่มตั้งคำถามว่า จริงๆแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นจริงหรือไม่จริงมั นส่งผลต่อปัญหาถึง ความมั่นใจของเหยื่อ ส่วนใหญ่แล้วคนที่โดนอะไรแบบนี้บ่อยๆ โดยที่ส่วนใหญ่คือไม่รู้ตัวนั้น จะชอบมีปัญหาเกี่ยวกับ anxiety, panic attack, self esteem ต่างๆนานา ตามมา ซึ่ง มันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ เชิงของสุขภาพจิตในอนาคต
แล้วมันไม่ได้เป็นปัญหาที่เกี่ยวกับเรื่องว่า คนส่วนใหญ่มีความอ่อนแอทางด้านอารมณ์ด้วยเพราะคนส่วนใหญ่ที่โดนอะไรในลักษณะนี้ มันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกว่าเขาอ่อนแอแต่มันทำให้เขาตั้งคำถามว่าสิ่ง ที่เขาจำได้มันจริงหรือไม่จริงซึ่งเราว่ามันไม่เกี่ยวกับความอ่อนแอทางอารมณ์แต่มันทำให้เขาสับสนในความเป็นจริงของตนเองที่ตนเองมีซึ่งจริงๆมันเป็นอะไรที่อันตรายมากนะคะ เรามองว่าคุณอาจจะมองเรื่องนี้ง่ายไป คือมันไม่ง่ายขนาดนั้นถ้าไม่โดนเองไม่รู้เลยแล้วผลลัพธ์ของมัน ทำลายสุขภาพจิตของคนโดยแบบว่ากว่าคุณจะรู้คือมันมีปัญหาตามมาเยอะแยะแล้วค่ะ อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น
ลองหาข้อมูลเกี่ยวกับ emotional abusive relationship ซึ่ง gaslighting เป็นหนึ่งใน feature ของมันเลยดูนะคะ สื่อฝรั่งมีให้ดูให้อ่านเยอะมาก แล้วคุณจะเห็นว่า ผลของมันน่ากลัวว่ามุมมองที่คุณได้เขียนไว้ค่ะ
@@jleeee1787 อันนี้ขอไม่พูดไปถึง abusive relationship นะคะ เพราะรายการพูดแค่ gaslight ค่ะ แต่เราก็งงจริงๆค่ะ (อันนี้ไม่ได้ประชดนะ งงจิง) เพราะคุณยืนยันว่าไม่ได้อ่อนแอทางอารมณ์ แต่คุณกลับบอกว่า 'เหยื่อที่ตั้งคำถามว่าที่เกิดขึ้นจริงหรือไม่จริงมั นส่งผลต่อปัญหาถึง ความมั่นใจของเหยื่อ ส่วนใหญ่แล้วคนที่โดนอะไรแบบนี้บ่อยๆ โดยที่ส่วนใหญ่คือไม่รู้ตัว' - -" ??? คือเราอะมองว่า เพราะอ่อนแอทางด้านอารมณ์ถึงทำให้ไม่รู้ตัว ไม่มั่นใจ งงในตัวเองค่ะ (เพราะไม่ได้มีปัญหาทางด้านสมอง ความจำเสื่อม ร่างกายบกพร่อง) และคนทีไม่มี self esteem นั่นแหละที่มีความอ่อนแอทางด้านอารมณ์ในความคิดเราค่ะ (เราอาจจะผิดตามหลักวิชาการของนักจิตวิทยาหรือเปล่าไม่แน่ใจค่ะ) เราจะบอกวิธีแก้ให้ อาจจะดูโบราณไม่ทันสมัย ก็คืออ่านหนังสือธรรมะช่วยได้ค่ะ เป็นธรรมะที่พระปฏิบัติให้ไว้นะคะ นี่พูดจริงๆนะ เพราะเราอ่านมาแต่เด็กเลย ไม่ใช่ว่าชีวิตเราจะไม่โดนแบบนี้ แต่เราไม่เคยสับสนในตัวเองเลยค่ะ และอย่าคิดว่าจะมีใครมาทำร้ายเราได้ง่ายๆ จริงๆเรามีอะไรอยากจะพูดมากกว่านี้อีกเกี่ยวกับที่คุณฟังๆๆกัน แต่ก็ยาวเกินค่ะ
@@myicy48 เรื่องการบัญญัติศัพท์ของสมัยนี้ผมก็เคยตั้งคำถามนะว่า "มันจำเป็นรึเปล่า ?" ตอนแรกผมคิดว่ามันไม่จำเป็น ทำไมต้องลงรายละเอียดเยอะ เสียเวลานั่งอ่าน นั่งฟัง แต่พอลองศึกษาดู เออจริงมันแตกต่าง มันมีรายละเอียดอะไรที่เราไม่รู้อีกเยอะ ยิ่งถ้าการบัญญัติศัพท์มันทำให้น่าสนใจขึ้นผมว่ามันก้อเป็นสิ่งที่ดีนะ ผมคนนึงล่ะที่สนใจก็มาฟังๆ แล้วก้อเอาไปเล่าต่อ แต่คงไม่ได้ไปบอกถึงคำศัพท์ยากๆให้คนฟังทุกคนฟัง เพราะ แต่ละคนรับข้อมูลได้ต่างกันเอาที่เขาเข้าใจก้อพอ
ส่วนเรื่องความอ่อนแอทางอารมณ์ มันไม่ได้มีแค่ยุคนี้หรอกนะคับ ผมมองว่ามันมีมานานแล้วครับ เช่น ชาวบ้านที่เชื่อในพ่อมดหมอผีก้อมีมานานแล้ว หรือย้อนไปอีกหลายร้อยปีที่คนยังเชื่อเรื่องเทพเจ้ากันอยู่ เขาทำและเชื่อเพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจอะไรบางอย่าง เพียงแค่สมัยนี้ประชากรเยอะขึ้น ข้อมูลเข้าถึงง่ายขึ้น ก้อเลยทำให้ดูว่าคนอ่อนแอทางอารมณ์เยอะขึ้น ผมว่าขึ้นอยู่กับคนที่เราเจอด้วยคับ ว่าเราเจอคนแบบไหนบ่อยกว่ากันเราก้อจะมีภาพจำไปแล้วว่าคนรุ่นนี้นะมันอ่อนแอ มันไม่ขยัน อะไรก้อว่าไปคับ
ถ้าจะมองว่าคนที่เกิดมาภายหลังมีความอ่อนแอทางอารมณ์ ผมก้อมองว่าเป็นทุกยุคทุกสมัยคับ ทุกรุ่น ทุกเพศ ทุกอายุ มีคนที่อ่อนแอ และ เข้มแข็งทั้งนั้นคับ และ หลายคนมีความอ่อนแอทางอารมณ์ไม่เหมือนกันมันแล้วแต่เรื่อง เพียงแต่เด็กสมัยนี้น่าสงสารตรงที่เกิดมาในยุคที่ข้อมูลเยอะแยะเต็มไปหมด แล้วผู้ใหญ่ก้อไม่สามารถอธิบายได้ เพราะ ผู้ใหญ่ก้อตามข้อมูลไม่ทันเหมือนกัน
เรื่องหนังสือธรรมะก้อเป็นอีกหนทางนึงที่ช่วยได้คับ แต่ไม่ใช่กับทุกคน แต่ละคนปัญญาไม่เหมือนกันคับ ผมคนนึงล่ะที่เคยอ่านหนังสือธรรมะแล้วไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไรได้เลย อาจจะเพราะ ปัญญาผมเข้าไม่ถึงหรือคนสอน สอนไม่ดี หรือ บุญไม่ถึงอะไรก้อว่าไป ผมก้อต้องไปหาคนที่แนะนำ สอนในเรื่องเฉพาะทางที่เขาเข้าใจจริงๆปัญหาถึงจะแก้ได้ เพื่อนผมหลายคนย้ายจาก พุทธ ไป คริสต์ ก้อเยอะ ย้ายไปแล้วเขาก้อบอกว่าชีวิตเขาดีขึ้น ในขณะที่ผมนับถือพุทธอยู่ผมก้อไม่ไปแย้งเขา กลับแสดงความยินดีกับเขาด้วยซ้ำ คนเราควรมีทางเลือกให้กับชีวิตเยอะๆคับ
ผมไม่ได้มีความรู้ในด้านจิตวิทยา หรือ เข้าใจการแยกแยะในอารมณ์อะไร แต่ผมว่า gaslight มันมีทั้ง เชิงบวก และ เชิงลบ นะ ขึ้นอยู่กับเจตนา และ ผลลัพธ์ของผู้ใช้
อย่างที่เรากำลังถกกันอยู่เนี่ยก้ออาจกำลังเกิด gaslighting กันอยู่ก้อได้คับ
@@Noombansumran P1 ถ้าคิดว่าบัญญัติศัพท์มันดีก็ดีค่ะ เราแค่บอกว่างง เพราะจริงๆเราว่าเหมือนพยายามทำให้ดูเยอะ ทั้งที่มันธรรมดา แต่ที่เราไม่ค่อยพีคกับมัน (ถ้าไม่เกี่ยวกับอาชญากรรมนะคะ) เพราะเราว่าตั้แต่ยุคไหนมันก็มีคนไม่ยอมรับผิด ขี้โบ้ยมาตั้งนาน เพียงแต่เราจะมีวิธีจัดการกับอารมณ์ตัวเอง และรับมือคนเหล่านั้นได้หรือไม่ต่างหาก
P2 ความอ่อนแอทางอารมณ์กับความเชื่อ คนละเรื่องกันค่ะ (มีสร้อยต่ออีกว่าไม่ขยัน ซึงมันไม่เกี่ยวไรเลย)
P3 ใช่เล้ย
P4 จริงๆไม่ต้องพุทธก็ไ้ดค่ะ ศาสนาไหนก็สอนดีหมด เพียงแต่พุทธศาสนาจะเน้นเรื่องจิต และสติ ที่บอกให้อ่านธรรมะไม่ใช่ว่าจะให้ธรรมะไปช่วยแก้ปัญหา แต่หมายถึงถ้าเรามีสติ จิตใจมั่นคง เราจะสามารถหาวิธีแก้ปัญหาต่อไปได้ และในกรณีgas ก็จะไม่ถูกชักจูงหลอกง่ายๆ หรือสมมติถูกหลอก ก็ต้องดูอีกว่าใครหลอก เขามีจุดประสงค์อะไร อาจจะดีหรือไม่ดี แต่เราจะรู้
P5 ใช่เล้ย
P6 ถ้าไม่ได้อ่านข้อความข้างบน มาเจอประโยคนี้คือจบค่ะ จบจัด งงในงง มันในมึน สับสนในตัวเองไปกันใหญ่ละ
@@myicy48 P2 มันเรื่องเดียวกันนะคับ มันโยงกันได้ ผมเห็นคนบางกลุ่ม(ซึ่งเยอะซะด้วย)เวลามีปัญหาจริงๆ ไม่รู้จะพึ่งอะไร ก้อไปทางนี้กันทั้งนั้น ถ้าเป็นต่างประเทศก้อคงไปพวกลัทธิอะไรก้อว่าไป ในไทยก้อมีพวกพุทธผสม เช่น พุทธ พิธีพราหมณ์ หรือ พุทธสายอื่นๆ บ้างก้ออาจเจอพระไม่ดีหลอก คนอ่อนแอทางจิตใจจะโดนพวกนี้ชักจูงง่ายมากคับ สำหรับผมพวกคำสอน หรือ คำแนะนำของพวกลัทธิ หรือ พ่อมดหมอผี ที่ไม่สมเหตุสมผล ก้อเป็นการ gaslight อย่างนึงคับ แต่ถ้ามันส่งผลดี ก้อดีไปคับ
สามีเราทำเราตลอดค่ะ แต่มันไม่ยอมรับ พอเรารู้ทันมันจะทำให้เราเป็นคนผิดให้ได้ ร่วมหัวกับคนอื่น มาทำเรา มันจะทำให้เราอยู่ในสายตามัน ไม่ว่าเราไปทำงานไหนมันก็จะไปพูดกับเจ้านายเราให้มาเป็นพวกมันจะพูดประมาณว่าจิตเราไม่ปกติ แล้วจะได้ควบคุมเราได้ จนวันนี้เราขอหย่ามันยังไม่ยอมรับมันจะโวยวายจะทำให้เราผิดให้ได้ เหตุเพราะเค้าอยากทำให้เราคิดว่าเราบ้า เราป่วยทางจิต เพราะตัวมันเองจะได้ไปมีผู้หญิงคนอื่น เวลาเราไปพูดให้ใครฟังคนอื่นจะได้คิดว่าเราป่วยคิดไปเอง เพราะเค้ากล่อมคนใกล้ตัวเราให้คิดแบบนั้นกันหมดแล้ว เราจะได้ยอมให้เค้าไปมีคนอื่นด้วยความจำยอม แต่เราไม่ยอมค่ะ ตอนนี้ตกลงจะหย่ากับมันแล้ว
สงสัยว่า gaslighter เขาจะทำไปเพื่ออะไรอ่ะ แล้วเราควรจะจัดการกับพวกที่เป็น gaslighter & พวกถูก gaslighting อย่างไรคะ
Gas lighter ทำเพื่อ Manipulate เหยื่อให้ได้ผลประโยชน์ส่วนตัว เช่น โยนความผิด เพิ่มอำนาจต่อรองให้ตัวเอง
การจัดการนี่ต้องตั้งสติมากๆ พยายามสื่อสารกับคนอื่น ๆมาก ๆนอกจาก gaslighter เพื่อให้ไม่สับสนระหว่างความจริงกับเท็จ
มันคือวิธีที่พวกแกงค์ค้ายาใช้เลยนะครับมันจะใช้วิธีนี้หลอกเหยื่อให้รับผิดแทนมัน
มันคือเรื่องจริง
ผ่านมาได้แล้วคะ แต่ก็อยากหาวิธีเอาคืน อยู่นะคะ ที่ทำงานคะ
จนบันทึก, กล้อง, อัดเทป หาเหยื่อรวมทีมกัน สร้างเพจ
"ทีมล่าไอ้Gaslighter" แล้วพาทัวร์ไปถล่ม... 555
อยากดูหนังเรื่อง gaslight แต่กลัวดราม่า ใครเคยดูช่วยรีวิวทีค่ะ
เพื่อนผมโดนแบบนี้เลยครับ.เมียแกมีความสัมพันธ์กับพ่อเลี้ยงสามีพอสามีระแคะระคายก็รวมหัวกันปั่นหัวสามีให้งงกับความจริงจนหาว่าสามีเป็นบ้าหึงหวง.ชอบทอดสะพานไปทั่วให้สามีไม่พอใจและใช้อารมณ์จนคนอื่นคิดว่าบ้าจริงๆจนทุกวันนี้จนเขาขาดความมั่นใจไปเลย..เวรกรรม😢
เป็นผู้ถูกกระทำจนเป็นโรคซึมเศร้าเลยค่ะ แต่เดี๋ยวนี้รู้ทันแล้ว แค้นมาก อยากเอาคืน
มันคือเรื่องที่เกิดขึ้นจริงละง่ายกว่าที่หลายคนคิดมากพยามพิสูจน์ความคิดเราเป็นอันอัดแรกว่ามันเป็นความจริงละมองว่าสิ่งที่เค้าพูดเป็นแค่หนึ่งในความคิดเห็นละข้อเท็จจริงเท่านั้นไม่ใช่ความจริงตั้งสติเพื่อน
ปรับปรุงการพูดก็ดีนะคะ
เคยเจอกับตัว เจ้านาย ครอบครัว และคนที่เคยคบ เป็นช่วงเวลาที่แย่มาก
ตรงนะ
ใช่คนประเภทนี้ทำเหวอบางที แม่งบอกเอาของ กล่องเบอเก้อ พอย้ำๆๆ จริงๆจะเอากล่องแซนวิช พอไปสั่งกล่องเบอเก้อ บอกบ้าเปล่า สั่งกล่องแซนวิชไป มึงบ้าเปล่าอยากให้มือถือมีที่อัดเสียงชิบหาย
อีแฟนเก่าเราเป็นครบเลยค่ะ หลุดพ้นมาได้สุขภาพจิตดีมาก
มีอาการติดหมอนวด😂😂
โดนหลอก บางที โดนรุมหลอก ต้องคิดให้ดีใครหลอกใครจริงใครมายุ่งคอยสร้างประเด็นใครมาสร้างสถานการณ์กวนใครก่อน
เจอเยอะตั้งแต่
ม.ปลายยันทำงาน
ผมเป็นคนหรีตะเกียง
เจอกับตัวเองเลย
หัวหน้าเราเอง_
เจ้านายที่ทำงานเลยค่ะ 🥲
เหมือนกันครับ suffer มากตอนนี้
เราใช่วิธีหนีปัญหา5555555
ใช่เลยครับ การจัดฉาก การไปขยายความเรื่องแย่ของเรา โจมตีทุกเรื่อง
มันคือเทคนิคของromance scam
😢
คนเราที่เป็นGas lighter แบบไม่รู้ตัวอารมณ์พาไปแล้วคือเป็นคนที่เคยเป็นทั้งเหยื่อ และเป็นตัวร้าย(ทำตามตอบโต้ศัตรูขณะนั้น) แล้วได้มารู้ตัวทีหลังได้มั้ยครับ? คนจะTranformลอกคราบตัวเองจากอดีตได้คือ หลุดจากสภาพแวดล้อมเดิมๆ โดยสร้างEcoตนเองขึ้นใหม่(สังคมใหม่ เพื่อนใหม่) นี่น่าจะเป็นทางออกใช่มั้ยครับ..Boss?
คนแก๊สไลต์คนอื้นต้องมีนิสัย manipulative ชอบบงการปั่นหัวคนอื่นค่ะ และไม่มีความรู้สึกผิด
11 signs 6:00
😇👍👏🏻👏🏻👏🏻👏🏻👏🏻👏🏻👍👍😊😇
คล้ายพวก narcissistic มั้ยค่ะ
Narcissistic น่าจะเป็นลักษณะของบุคลิกหรือนิสัย gaslighting เป็นการกระทำเพื่อ manipulate บางอย่างครับ
ซี่งคุณน่าจะหมายถึงพวก narcissistic ชอบ gaslighting ฝั่งตรงข้ามหรือคู่สนทนา
@@dometheethad ใช่ค่ะ narcissistic ก็มีลักษณะ gaslighting หลายๆข้อเหมือนกัน มั้ยค่ะ
@@aekkanyaphachaipornthanaph7093 ใช่ครับ narcissistic น่าจะมีพฤติกรรมอีกหลายอย่างเลยครับ ไม่ใช่แค่ gaslight
@@dometheethad ขอบคุณค่ะ
Gaslight
my former boss gossiped that I exaggerated the situation when
deciding not to finish one job because my former subordinate changed the office’ email pw without informing me is the effect from my menopause. เราแจ้งไปว่าเราขอไม่ต่องานที่คุยไว้ว่าจะช่วยทำหลังออกจากตำแหน่งนั้นนะ เพราะลูกน้องที่เคยตกลงกันว่าจะทำงานนี้ด้วยกัน เปลี่ยนพาสไม่แจ้งเรา เราถือว่าปิดกั้นการเข้าถึงข้อมูลกัน ไม่ทราบเราโดน หรือ gaslight ซะเอง555 คือก่อนหน้านี้เจ้านายกับลูกน้องเก่าชอบสมคบคิดทำให้เราดูแย่ในที่ทำงาน บ่อยๆ ดีที่ตำแหน่งนี้ไม่ใช่งานประจำ ชอบจริงๆค่ะ แต่ก่อนหาศัพท์อังกฤษที่ตรงกับสถานการณ์นี้ไม่เจอ ขอบคุณมากค่ะ
กว่าจะเข้าใจแล้วก้อเข้าใจแล้วว่าทำมัยต้องสร้างสถานการณ์ให้เรื่องเป็นไปตามแบบที่เค้าต้องการแต่ก้อออกมาได้แล้ว