ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
#สำหรับผู้ไม่สะดวกรับฟังด้วยเสียง#ไม่จำเป็นต้องไปสนิทกับใครเร็วมากเกินไปแค่คนคุยถูกคออาจจไม่ใช่มิตรแท้เสมอไป1 อย่ าฝา กความลับไว้กับสายลม เพร าะลมจะก ร ะพื อไ ฟแห่งความลับให้มันไปทั่วผื นป่ า2 มีคน 2 ประเภทที่คุ้มค่ากับการเ ชื่ อถือ 1คนที่ไม่เอ่ยยื มเงิน 2 คนที่ยืมแล้วคืนตรงต ามสั ญ ญ า3 ใช้คำว่า ขอบคุณ ครับ ค่ะ แทนคำว่า ขอบคุณ เฉยๆ แม้จะต่ างกันเพียงแค่คำเดียว แต่คนฟังรู้สึกได้ว่าแตกต่ างกัน ไม่เ ชื่ อ ลoงพูดออกเสียงดู4 อย่ าทำตัวสนิทสนมกับใครเร็วจนเกินไป อย่ าคิดว่าคุยถูก ค อ ก็คือมิตรแท้สห ายจริง5 เวลามีใครยกมือไหว้ ก็ควรรับไหว้ หรือ ไหว้ตอบกลับ การไม่รับไหว้เดินผ่านไปเฉยๆแบ บไม่แคร์ ไม่ใช่การถือไ พ่ เหนือกว่า แต่มันบ่ ง บ o กถึงไม่เคยได้รับการอบรมสั่งสoน6 สิ่งที่ไม่ควรพูดต่อหน้ าคนอื่น ก็ไม่ควรพูดลับหลังคนอื่นเช่นกัน7 เวลาทำผิด อย่ าพย าย ามหาข้อแ ก้ตัว หรือแถจนสีข้างถ ล o ก ผิ ดก็คือผิ ด ยอมรับผิ ดแ บ บแมนๆ เขาก็ให้อ ภั ยได้ง่าย ไม่ยoมรับผิดแถมมาพ าลใส่แบบนี้ยิ่งดูไม่ดี ดูไม่มีความเป็นผู้ใหญ่8 เวลาไปพักแรมกับคนอื่น เมื่อมีใครสักคนหนึ่งในห้องนอนหลับ ก็ต้องรู้จักหยุดพูดคุยหัวเราะเสียงดัง หากมีเรื่องจะคุยกัน ก็ออกจากห้องพักไปคุยข้างนoก9 ต่อให้ใครยินดีให้ยืมโทรศัพท์ใช้แล้วก็รีบส่งคืนและหากใครเปิดรูปในโทรศัพท์ให้ดู ดูรูปนั้นเสร็จก็ส่งคืน อย่ าเสียม า s ย าทเลื่อนดูรูปอื่นๆต่อ เ ห ตุ ผ ลเดียวกัน คุณก็ไม่ชอบให้ใครมายุ่งเรื่องส่วนตัว ใช่ไหม10 ให้เกียรติพนักงานบริการทุกคนที่คุณพบเจอ คุณอ ย ากได้รับการบริการที่ดี เขาก็อ ย ากเจอลูกค้าที่นิสัยดี ใจเขาใจเรา หากคุณเลือกงานได้ คุณก็คงทำงานอย่ างอื่นแทนการรับใช้คนอื่นใช่ไหม
#นิทานธรรมะสอนใจเรื่องตะเกียงวิเศษกาลครั้งหนึ่ง…มีชายหนุ่มคนหนึ่งขุดพบตะเกียงเก่าแก่อันหนึ่งในขณะที่เขากำลังทำสวนอยู่ พอเขาเอามือถูตะเกียงก็ปรากฏว่ามีควันออกมาจากตะเกียง แล้วกลายเป็นยักษ์ตัวใหญ่ยักษ์ตนนั้นพูดกับชายหนุ่มว่า“ขอบใจที่ได้ช่วยให้ฉันเป็นอิสระ ฉันจะตอบแทนท่านโดยรับใช้ท่านท่านจะใช้อะไรฉันก็ได้ แต่มีข้อแม้ว่า เมื่อไรที่ท่านหยุดใช้ฉัน ฉันก็จะกินท่าน”ชายหนุ่มก็ตกลงเพราะเขาเห็นว่าการมีคนรับใช้เป็นเรื่องที่ดีและเขาก็มั่นใจว่าเขาจะใช้ยักษ์ตนนี้ให้ยุ่งอยู่ตลอดเวลาได้ดังนั้นเขาจึงตอบตกลง ยักษ์นั้นจึงถามว่า“นายต้องการให้ฉันรับใช้เรื่องใดบ้าง แต่อย่าลืมนะ…ถ้านายหยุดใช้ฉันเมื่อใด…ฉันก็จะกินนาย”ชายหนุ่มคนนั้นตอบว่า “ฉันต้องการวังหลังหนึ่งเพื่อฉันจะได้เข้าไปอยู่”ทันใดนั้นยักษ์ก็เนรมิตวังหลังหนึ่งได้ ชายหนุ่มตกใจ…เพราะเขานึกว่า ยักษ์คงใช้เวลาสักปีกว่าจะสร้างวังเสร็จทีนี้เขาต้องคิดอย่างรวดเร็วว่าจะขอให้ยักษ์ทำอะไรต่อไปดีเขาบอกยักษ์ให้ “สร้างถนนกว้างๆ ไปถึงหน้าวัง”ทันใดนั้นถนนก็ปรากฏอยู่ต่อสายตาเขา“ฉันต้องการสวนล้อมรอบวัง” เขาสั่งต่อไปทันทีความต้องการของเขาก็ปรากฏต่อหน้าเขา “ฉันต้องการ…..”เขาก็ขอไปเรื่อยๆ แต่เขาเริ่มต้น วิตกว่าอีกไม่ช้าเขาก็จะขอจนหมดแล้วและอีกอย่างเขาคงเข้าไปอยู่ในวังอย่างผาสุกไม่ได้…เพราะเขาต้องคอยมานั่งสั่งยักษ์ให้ทำงานตลอดเวลาในที่สุดเขาก็คิดหาทางออกได้เขาขอให้ยักษ์สร้างเสาต้นหนึ่งให้สูงสุด ซึ่งยักษ์ก็เนรมิตให้ทันทีทันใดเขาพูดกับยักษ์ว่า “ข้าขอให้เจ้ายักษ์ปีนเสาต้นนี้ช้าๆ ไปถึงยอดแล้ว…ให้ปีนลงมาช้าๆ เช่นกัน พอถึงพื้นก็ให้ปีนขึ้นไปบนยอดใหม่อีกครั้งแล้วให้ปีนขึ้นปีนลงเช่นนี้ตลอดเวลาไม่ให้หยุดเลย”ยักษ์ตนนั้นก็เลยต้องปีนขึ้นปีนลงตลอดเวลาตามคำสั่งของนายชายหนุ่มจึงเริ่มหายใจได้ทั่วท้อง ขณะนี้เขาปลอดภัยแล้วชายหนุ่มมีเวลาที่จะเข้าไปอยู่ในวังอย่างมีความสุข ตั้งแต่นั้นมายักษ์ตนนี้เปรียบเสมือน “ความคิด” และ “จิตใจ” ของเราถ้าเรารู้จักใช้ความคิดของเรา และควบคุมความคิดของเราให้ดีเราจะได้รับผลดีจากความคิดของเรา“ถ้าเราต้องการจะทำอะไร…ให้ดีให้ถูกต้อง”“เราต้องควบคุมจิตใจของเราให้สงบ”…เหมือนกับชายหนุ่มในนิทานที่สามารถควบคุมยักษ์ตนนั้นได้ และสามารถทำให้ความต้องการของเขาลุล่วงสำเร็จได้ถ้าเราควบคุมความคิดของเราไม่ได้ มันจะสร้างปัญหาให้กับเราเราจะเริ่มต้นนั่งคิดว่าจะไปซื้ออะไร จะไปกินอะไรดี หรือจะไปเที่ยวไหนดี ฯลฯความต้องการจะครอบคลุมจิตใจของเรา ครอบคลุมอารมณ์ของเราเราจะหวั่นไหวต่อความโลภ ความโกรธ และความอิจฉา เป็นต้นสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นถ้าเราไม่รู้จักควบคุมความคิดของเราเช่นเดียวกับยักษ์ตนนั้นที่ข่มขู่ชายหนุ่มตลอดเวลาเราต้องควบคุมความคิดของเราตลอดเวลาชายหนุ่มคนนี้ใช้ให้ยักษ์ปีนขึ้นลงที่เสาสูงต้นนั้น…เราก็สามารถใช้ลมหายใจเข้าออกของเรา…ซึ่งอยู่กับเราตลอดเวลานั้นเป็นเสาสูงแทนนิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า“ผู้มีปัญญาย่อมรู้จัก…ที่จะใช้ความคิดของตนเอง”เราจะเห็นได้ว่า แม้แต่ความคิดก็เปรียบได้กับเหรียญสองด้านที่มีทั้งแง่ดีก่อให้เกิดประโยชน์ และแง่ลบที่สามารถบั่นทอนทำลายเราได้ ดังนั้น เราจึงควรรู้จักฝึกพัฒนาความคิดของเราให้ดี
#12วิธีคิดบวกหลุดจากคิดลบแค่ทำให้ครบชีวิตก็ปัง!คนที่ประสบความสำเร็จหลายคนพูดว่า ความคิดสามารถกำหนดชีวิตของคนได้ ที่สำคัญต้องรู้จักมองโลกในแง่ดี หลายคนเข้าใจผิดว่าคนคิดบวกคือพวกโลกสวย แต่ในความจริงคนคิดบวกคือคนที่ยังมองทุกอย่างในแบบที่มันเป็น เพียงแต่เลือกโฟกัสเฉพาะด้านที่ดี ทำให้มีวิธีคิดและการดำเนินชีวิตที่ต่างจากคนแบบอื่น มาดูกันว่าพวกเขามีวิธีจัดการมุมมองตัวเองอย่างไร1. รู้จักสร้างความสุขจากภายในหลายคนมองหาความสุขจากสิ่งรอบตัว แต่คนคิดบวกจะสร้างความสุขจากภายในตัวเอง ไม่ว่าสิ่งรอบตัวจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน ความสุขของคนคิดบวกจะไม่มีวันหายไปง่ายๆ2. ฝึกคิดบวกกับทุกปัญหาไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่จะมองเห็นแต่ความทุกข์จากปัญหาที่เกิดขึ้น คนคิดบวกจะมองแต่ข้อดีของทุกปัญหา เพื่อสร้างกำลังใจและเตรียมความพร้อมสำหรับความสำเร็จที่จะมาถึง3. เชื่อมั่นในตัวเองเข้าไว้ยิ่งตกอยู่ในภาวะที่สิ้นหวังมากเท่าไหร่ ยิ่งต้องเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้นเท่านั้น การมองโลกในแง่ร้ายไม่เคยทำให้อะไรดีขึ้น แต่การคิดบวกจะช่วยให้มองเห็นทางออกของปัญหา4. ไม่สนใจคนคิดลบคุณใช้เวลาอยู่กับคนแบบไหน โลกทั้งใบของคุณก็จะเต็มไปด้วยคนแบบนั้น รีบถอยออกมาจากกลุ่มคนที่จะทำให้โลกของคุณหดหู่ ก่อนที่จะสายเกินไป5. ออกกำลังกายสม่ำเสมอการออกกำลังกายทำให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นโดรฟินออกมาให้เรามีความสุข ลดความเครียด และช่วยให้คุณไม่ต้องคิดลบกับรูปร่างของตัวเองอีกด้วย6. ให้เวลากับธรรมชาติหาเวลาเดินเหยียบหญ้าสีเขียวด้วยเท้าเปล่าในตอนเช้าดูบ้าง ถ้าคุณรู้สึกว่าเห็นสีเขียวของต้นไม้แล้วอยากหายใจเข้าลึกๆ เมื่อไหร่ หมายความว่าได้เวลาจัดธรรมชาติให้ตัวเองแล้ว7. ไม่ฟุ่มเฟือยบอกลาภูมิแพ้ป้ายเซลส์หรือโปรโมชั่นที่ไม่จำเป็น การบริหารเงินล้มเหลวจะทำให้คุณต้องผิดหวังกับตัวเองอย่างรุนแรง เก็บเงินไปลงทุนหรือสร้างความทรงจำดีๆ ให้ตัวเองดีกว่าเยอะ8. ยอมรับในความผิดพลาดวิธีเดียวที่จะเรียนรู้และเติบโตได้คือการยอมรับในสิ่งที่เราทำพลาดไป ถึงมันจะทำให้รู้สึกแย่ แต่มันเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าเรากำลังเรียนรู้การเลือกหนทางเดินที่ถูกต้อง9. จริงจังกับความรับผิดชอบเมื่อถึงเวลาเกิดปัญหา คนคิดบวกจะไม่โยนความผิดหรือจมอยู่กับความทุกข์ที่เกิดขึ้น แต่จะโฟกัสในสิ่งที่ทำได้และพยายามแก้ไขปัญหานั้น โดยไม่เสียเวลาปวดหัวกับเรื่องที่ประเมินแล้วว่าควบคุมไม่ได้10. ควบคุมความคิดของตัวเองฝึกควบคุมความคิดเลวร้าย การมองโลกในแง่ลบให้อยู่ในกรงที่มิดชิดที่สุดในสมอง เพราะถ้าคุณควบคุมความคิดตัวเองไม่ได้แสดงว่าคุณจะควบคุมการกระทำและคำพูดไม่ได้ไปด้วย11. เชื่อว่าทุกปัญหามีทางแก้ไม่มีอะไรแย่ไปกว่าการสิ้นหวัง คนคิดบวกจะไม่ “พยายาม” คิดว่าตัวเองสามารถแก้ไขปัญหาได้ แต่เขา “รู้” ว่ามีวิธีก้าวผ่านปัญหาไปได้ด้วยความเชื่อที่แข็งแกร่งกว่าเดิม12. ปฏิเสธให้เป็นคนคิดบวกจะรู้เสมอว่าควรทำอะไรให้คนรู้สึกดี อะไรจำเป็นและที่สำคัญ ทำในสิ่งที่ต้องทำให้ดีที่สุด ไม่แบกรับความคาดหวังที่เกินตัววิธีง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้ ลองเปิดใจฝึกดูแล้วคุณจะรู้ว่า "เลือกรดน้ำให้กับความคิดที่สร้างประโยชน์ให้กับตนเอง อย่ารดน้ำให้กับความคิดด้านลบ คุณภาพชีวิตมาจากคุณภาพความคิดของเราเอง"#ขอให้ได้พิจารณาด้วยสติ ด้วยปัญญา ด้วยภูมิธรรม คุณพระรักษาเทวดาคุ้มครอง ขอให้มีความเจริญในธรรม ทุกท่าน ทุกคนครับ
นอบน้อมกราบ คติธรรมคำสอนจากท่านอานนท์ เพื่อนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน อยากจะฟังซ้ำๆหลายครั้ง(อยากฟังเรี่องใหม่ๆค่ะ)กราบขอบพระคุณนะคะท่าน
อนุโมทนาสาธุครับ😊
สาธุสาธุสาธุเจ้าคะ
🙏สวัสดีค่ะ คุณอานนท์เล่าเรื่องขอขอบคุณข้อคิดคติธรรมนะค่ะและอนุโมทนาบุญในส่วนข้อคิดดีค่ะสาธุ🙏🧖
กราบอนุโมทนา 🙏🙏🙏ค่ะ
กราบอนุโมทนาสาธุครับ
ขอบพระคุณมากค่ะ สำหรับคำแนะนำ❤❤❤❤❤
สวัสดีมีสุขยาม5ทุ่มค่ะคุณอานนท์ กราบ🙏🙏🙏อนุโมทามิ.🍏🍏🍏🍏🍏🍏🍏🍏🍏🍏
กราบอนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะขอบคุณมากนะค่ะสาธุสาธุสาธุค่ะเฮงๆๆๆปังๆๆๆรวยๆๆๆ
#สำหรับผู้ไม่สะดวกรับฟังด้วยเสียง
#ไม่จำเป็นต้องไปสนิทกับใครเร็วมากเกินไปแค่คนคุยถูกคออาจจไม่ใช่มิตรแท้เสมอไป
1 อย่ าฝา กความลับไว้กับสายลม เพร าะลมจะก ร ะพื อไ ฟแห่งความลับให้มันไปทั่วผื นป่ า
2 มีคน 2 ประเภทที่คุ้มค่ากับการเ ชื่ อถือ 1คนที่ไม่เอ่ยยื มเงิน 2 คนที่ยืมแล้วคืนตรงต ามสั ญ ญ า
3 ใช้คำว่า ขอบคุณ ครับ ค่ะ แทนคำว่า ขอบคุณ เฉยๆ แม้จะต่ างกันเพียงแค่คำเดียว แต่คนฟังรู้สึกได้ว่าแตกต่ างกัน ไม่เ ชื่ อ ลoงพูดออกเสียงดู
4 อย่ าทำตัวสนิทสนมกับใครเร็วจนเกินไป อย่ าคิดว่าคุยถูก ค อ ก็คือมิตรแท้สห ายจริง
5 เวลามีใครยกมือไหว้ ก็ควรรับไหว้ หรือ ไหว้ตอบกลับ การไม่รับไหว้เดินผ่านไปเฉยๆแบ บไม่แคร์ ไม่ใช่การถือไ พ่ เหนือกว่า แต่มันบ่ ง บ o กถึงไม่เคยได้รับการอบรมสั่งสoน
6 สิ่งที่ไม่ควรพูดต่อหน้ าคนอื่น ก็ไม่ควรพูดลับหลังคนอื่นเช่นกัน
7 เวลาทำผิด อย่ าพย าย ามหาข้อแ ก้ตัว หรือแถจนสีข้างถ ล o ก ผิ ดก็คือผิ ด ยอมรับผิ ดแ บ บแมนๆ เขาก็ให้อ ภั ยได้ง่าย ไม่ยoมรับผิดแถมมาพ าลใส่แบบนี้ยิ่งดูไม่ดี ดูไม่มีความเป็นผู้ใหญ่
8 เวลาไปพักแรมกับคนอื่น เมื่อมีใครสักคนหนึ่งในห้องนอนหลับ ก็ต้องรู้จักหยุดพูดคุยหัวเราะเสียงดัง หากมีเรื่องจะคุยกัน ก็ออกจากห้องพักไปคุยข้างนoก
9 ต่อให้ใครยินดีให้ยืมโทรศัพท์ใช้แล้วก็รีบส่งคืนและหากใครเปิดรูปในโทรศัพท์ให้ดู ดูรูปนั้นเสร็จก็ส่งคืน อย่ าเสียม า s ย าทเลื่อนดูรูปอื่นๆต่อ เ ห ตุ ผ ลเดียวกัน คุณก็ไม่ชอบให้ใครมายุ่งเรื่องส่วนตัว ใช่ไหม
10 ให้เกียรติพนักงานบริการทุกคนที่คุณพบเจอ คุณอ ย ากได้รับการบริการที่ดี เขาก็อ ย ากเจอลูกค้าที่นิสัยดี ใจเขาใจเรา หากคุณเลือกงานได้ คุณก็คงทำงานอย่ างอื่นแทนการรับใช้คนอื่นใช่ไหม
#นิทานธรรมะสอนใจเรื่องตะเกียงวิเศษ
กาลครั้งหนึ่ง…มีชายหนุ่มคนหนึ่งขุดพบตะเกียงเก่าแก่อันหนึ่ง
ในขณะที่เขากำลังทำสวนอยู่ พอเขาเอามือถูตะเกียง
ก็ปรากฏว่ามีควันออกมาจากตะเกียง แล้วกลายเป็นยักษ์ตัวใหญ่
ยักษ์ตนนั้นพูดกับชายหนุ่มว่า
“ขอบใจที่ได้ช่วยให้ฉันเป็นอิสระ ฉันจะตอบแทนท่านโดยรับใช้ท่าน
ท่านจะใช้อะไรฉันก็ได้ แต่มีข้อแม้ว่า เมื่อไรที่ท่านหยุดใช้ฉัน ฉันก็จะกินท่าน”
ชายหนุ่มก็ตกลงเพราะเขาเห็นว่าการมีคนรับใช้เป็นเรื่องที่ดี
และเขาก็มั่นใจว่าเขาจะใช้ยักษ์ตนนี้ให้ยุ่งอยู่ตลอดเวลาได้
ดังนั้นเขาจึงตอบตกลง ยักษ์นั้นจึงถามว่า
“นายต้องการให้ฉันรับใช้เรื่องใดบ้าง แต่อย่าลืมนะ…
ถ้านายหยุดใช้ฉันเมื่อใด…ฉันก็จะกินนาย”
ชายหนุ่มคนนั้นตอบว่า “ฉันต้องการวังหลังหนึ่งเพื่อฉันจะได้เข้าไปอยู่”
ทันใดนั้นยักษ์ก็เนรมิตวังหลังหนึ่งได้ ชายหนุ่มตกใจ…
เพราะเขานึกว่า ยักษ์คงใช้เวลาสักปีกว่าจะสร้างวังเสร็จ
ทีนี้เขาต้องคิดอย่างรวดเร็วว่าจะขอให้ยักษ์ทำอะไรต่อไปดี
เขาบอกยักษ์ให้ “สร้างถนนกว้างๆ ไปถึงหน้าวัง”
ทันใดนั้นถนนก็ปรากฏอยู่ต่อสายตาเขา
“ฉันต้องการสวนล้อมรอบวัง” เขาสั่งต่อไป
ทันทีความต้องการของเขาก็ปรากฏต่อหน้าเขา “ฉันต้องการ…..”
เขาก็ขอไปเรื่อยๆ แต่เขาเริ่มต้น วิตกว่าอีกไม่ช้าเขาก็จะขอจนหมดแล้ว
และอีกอย่างเขาคงเข้าไปอยู่ในวังอย่างผาสุกไม่ได้…
เพราะเขาต้องคอยมานั่งสั่งยักษ์ให้ทำงานตลอดเวลา
ในที่สุดเขาก็คิดหาทางออกได้
เขาขอให้ยักษ์สร้างเสาต้นหนึ่งให้สูงสุด ซึ่งยักษ์ก็เนรมิตให้ทันทีทันใด
เขาพูดกับยักษ์ว่า “ข้าขอให้เจ้ายักษ์ปีนเสาต้นนี้ช้าๆ ไปถึงยอดแล้ว…
ให้ปีนลงมาช้าๆ เช่นกัน พอถึงพื้นก็ให้ปีนขึ้นไปบนยอดใหม่
อีกครั้งแล้วให้ปีนขึ้นปีนลงเช่นนี้ตลอดเวลาไม่ให้หยุดเลย”
ยักษ์ตนนั้นก็เลยต้องปีนขึ้นปีนลงตลอดเวลาตามคำสั่งของนาย
ชายหนุ่มจึงเริ่มหายใจได้ทั่วท้อง ขณะนี้เขาปลอดภัยแล้ว
ชายหนุ่มมีเวลาที่จะเข้าไปอยู่ในวังอย่างมีความสุข ตั้งแต่นั้นมา
ยักษ์ตนนี้เปรียบเสมือน “ความคิด” และ “จิตใจ” ของเรา
ถ้าเรารู้จักใช้ความคิดของเรา และควบคุมความคิดของเราให้ดี
เราจะได้รับผลดีจากความคิดของเรา
“ถ้าเราต้องการจะทำอะไร…ให้ดีให้ถูกต้อง”
“เราต้องควบคุมจิตใจของเราให้สงบ”…เหมือนกับชายหนุ่มในนิทาน
ที่สามารถควบคุมยักษ์ตนนั้นได้ และสามารถทำให้ความต้องการของเขาลุล่วงสำเร็จได้
ถ้าเราควบคุมความคิดของเราไม่ได้ มันจะสร้างปัญหาให้กับเรา
เราจะเริ่มต้นนั่งคิดว่าจะไปซื้ออะไร จะไปกินอะไรดี หรือจะไปเที่ยวไหนดี ฯลฯ
ความต้องการจะครอบคลุมจิตใจของเรา ครอบคลุมอารมณ์ของเรา
เราจะหวั่นไหวต่อความโลภ ความโกรธ และความอิจฉา เป็นต้น
สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นถ้าเราไม่รู้จักควบคุมความคิดของเรา
เช่นเดียวกับยักษ์ตนนั้นที่ข่มขู่ชายหนุ่มตลอดเวลา
เราต้องควบคุมความคิดของเราตลอดเวลา
ชายหนุ่มคนนี้ใช้ให้ยักษ์ปีนขึ้นลงที่เสาสูงต้นนั้น…
เราก็สามารถใช้ลมหายใจเข้าออกของเรา…ซึ่งอยู่กับเราตลอดเวลานั้นเป็นเสาสูงแทน
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
“ผู้มีปัญญาย่อมรู้จัก…ที่จะใช้ความคิดของตนเอง”
เราจะเห็นได้ว่า แม้แต่ความคิดก็เปรียบได้กับเหรียญสองด้านที่มีทั้งแง่ดีก่อให้เกิดประโยชน์ และแง่ลบที่สามารถบั่นทอนทำลายเราได้ ดังนั้น เราจึงควรรู้จักฝึกพัฒนาความคิดของเราให้ดี
#12วิธีคิดบวกหลุดจากคิดลบแค่ทำให้ครบชีวิตก็ปัง!
คนที่ประสบความสำเร็จหลายคนพูดว่า ความคิดสามารถกำหนดชีวิตของคนได้ ที่สำคัญต้องรู้จักมองโลกในแง่ดี หลายคนเข้าใจผิดว่าคนคิดบวกคือพวกโลกสวย แต่ในความจริงคนคิดบวกคือคนที่ยังมองทุกอย่างในแบบที่มันเป็น เพียงแต่เลือกโฟกัสเฉพาะด้านที่ดี ทำให้มีวิธีคิดและการดำเนินชีวิตที่ต่างจากคนแบบอื่น มาดูกันว่าพวกเขามีวิธีจัดการมุมมองตัวเองอย่างไร
1. รู้จักสร้างความสุขจากภายใน
หลายคนมองหาความสุขจากสิ่งรอบตัว แต่คนคิดบวกจะสร้างความสุขจากภายในตัวเอง ไม่ว่าสิ่งรอบตัวจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน ความสุขของคนคิดบวกจะไม่มีวันหายไปง่ายๆ
2. ฝึกคิดบวกกับทุกปัญหา
ไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่จะมองเห็นแต่ความทุกข์จากปัญหาที่เกิดขึ้น คนคิดบวกจะมองแต่ข้อดีของทุกปัญหา เพื่อสร้างกำลังใจและเตรียมความพร้อมสำหรับความสำเร็จที่จะมาถึง
3. เชื่อมั่นในตัวเองเข้าไว้
ยิ่งตกอยู่ในภาวะที่สิ้นหวังมากเท่าไหร่ ยิ่งต้องเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้นเท่านั้น การมองโลกในแง่ร้ายไม่เคยทำให้อะไรดีขึ้น แต่การคิดบวกจะช่วยให้มองเห็นทางออกของปัญหา
4. ไม่สนใจคนคิดลบ
คุณใช้เวลาอยู่กับคนแบบไหน โลกทั้งใบของคุณก็จะเต็มไปด้วยคนแบบนั้น รีบถอยออกมาจากกลุ่มคนที่จะทำให้โลกของคุณหดหู่ ก่อนที่จะสายเกินไป
5. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายทำให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นโดรฟินออกมาให้เรามีความสุข ลดความเครียด และช่วยให้คุณไม่ต้องคิดลบกับรูปร่างของตัวเองอีกด้วย
6. ให้เวลากับธรรมชาติ
หาเวลาเดินเหยียบหญ้าสีเขียวด้วยเท้าเปล่าในตอนเช้าดูบ้าง ถ้าคุณรู้สึกว่าเห็นสีเขียวของต้นไม้แล้วอยากหายใจเข้าลึกๆ เมื่อไหร่ หมายความว่าได้เวลาจัดธรรมชาติให้ตัวเองแล้ว
7. ไม่ฟุ่มเฟือย
บอกลาภูมิแพ้ป้ายเซลส์หรือโปรโมชั่นที่ไม่จำเป็น การบริหารเงินล้มเหลวจะทำให้คุณต้องผิดหวังกับตัวเองอย่างรุนแรง เก็บเงินไปลงทุนหรือสร้างความทรงจำดีๆ ให้ตัวเองดีกว่าเยอะ
8. ยอมรับในความผิดพลาด
วิธีเดียวที่จะเรียนรู้และเติบโตได้คือการยอมรับในสิ่งที่เราทำพลาดไป ถึงมันจะทำให้รู้สึกแย่ แต่มันเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าเรากำลังเรียนรู้การเลือกหนทางเดินที่ถูกต้อง
9. จริงจังกับความรับผิดชอบ
เมื่อถึงเวลาเกิดปัญหา คนคิดบวกจะไม่โยนความผิดหรือจมอยู่กับความทุกข์ที่เกิดขึ้น แต่จะโฟกัสในสิ่งที่ทำได้และพยายามแก้ไขปัญหานั้น โดยไม่เสียเวลาปวดหัวกับเรื่องที่ประเมินแล้วว่าควบคุมไม่ได้
10. ควบคุมความคิดของตัวเอง
ฝึกควบคุมความคิดเลวร้าย การมองโลกในแง่ลบให้อยู่ในกรงที่มิดชิดที่สุดในสมอง เพราะถ้าคุณควบคุมความคิดตัวเองไม่ได้แสดงว่าคุณจะควบคุมการกระทำและคำพูดไม่ได้ไปด้วย
11. เชื่อว่าทุกปัญหามีทางแก้
ไม่มีอะไรแย่ไปกว่าการสิ้นหวัง คนคิดบวกจะไม่ “พยายาม” คิดว่าตัวเองสามารถแก้ไขปัญหาได้ แต่เขา “รู้” ว่ามีวิธีก้าวผ่านปัญหาไปได้ด้วยความเชื่อที่แข็งแกร่งกว่าเดิม
12. ปฏิเสธให้เป็น
คนคิดบวกจะรู้เสมอว่าควรทำอะไรให้คนรู้สึกดี อะไรจำเป็นและที่สำคัญ ทำในสิ่งที่ต้องทำให้ดีที่สุด ไม่แบกรับความคาดหวังที่เกินตัว
วิธีง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้ ลองเปิดใจฝึกดูแล้วคุณจะรู้ว่า "เลือกรดน้ำให้กับความคิดที่สร้างประโยชน์ให้กับตนเอง อย่ารดน้ำให้กับความคิดด้านลบ คุณภาพชีวิตมาจากคุณภาพความคิดของเราเอง"
#ขอให้ได้พิจารณาด้วยสติ ด้วยปัญญา ด้วยภูมิธรรม คุณพระรักษาเทวดาคุ้มครอง ขอให้มีความเจริญในธรรม ทุกท่าน ทุกคนครับ
นอบน้อมกราบ คติธรรมคำสอนจากท่านอานนท์ เพื่อนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน อยากจะฟังซ้ำๆหลายครั้ง(อยากฟังเรี่องใหม่ๆค่ะ)กราบขอบพระคุณนะคะท่าน
อนุโมทนาสาธุครับ😊
สาธุสาธุสาธุเจ้าคะ
🙏สวัสดีค่ะ คุณอานนท์เล่าเรื่อง
ขอขอบคุณข้อคิดคติธรรมนะค่ะ
และอนุโมทนาบุญในส่วนข้อคิดดีค่ะสาธุ🙏🧖
กราบอนุโมทนา 🙏🙏🙏ค่ะ
กราบอนุโมทนาสาธุครับ
ขอบพระคุณมากค่ะ สำหรับคำแนะนำ❤❤❤❤❤
สวัสดีมีสุขยาม5ทุ่มค่ะคุณอานนท์ กราบ🙏🙏🙏อนุโมทามิ.🍏🍏🍏🍏🍏🍏🍏🍏🍏🍏
กราบอนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะขอบคุณมากนะค่ะสาธุสาธุสาธุค่ะเฮงๆๆๆปังๆๆๆรวยๆๆๆ