Wonder and Go - อันไหนดีกว่าห้องซาวน่า หรือห้องอบไอน้ำ Sauna vs Steam Room

เพราะว่าส่วนตัวเราเป็นคนชอบเข้าห้อง Steam มากและเราก็ชอบที่จะเข้าหลังออกกำลังกาย เพราะเรารู้สึกสบายตัว โดยเฉพาะเราไม่ค่อยชอบยืด เลยคิดเอาเองว่าการเข้าห้อง steam ใช้ความร้อนจะช่วยให้ร่างกายเรายืดไปในตัว แต่ถ้าเอาแต่มโน ก็ไม่ชัวร์เเราเลยตั้งใจทำ Content นี้ขึ้นมาเพื่อตัวเองและสาวกห้อง สตีมห้องซาวน่า เพื่อให้แน่ใจว่าเราทำไปเพื่อจุดประสงค์ที่ถูกต้องหรือเปล่า นี่กำลังทำปรโยชน์หรือทำโทษร่างกายกันค่ะ
ก่อนจะไปบอกว่าอันไหนดีไม่ดี เรามาเข้าใจกันก่อนว่า ห้องซาวน่า (SAUNA) กับห้องสตีม ( STEAM) เหมือนหรือต่างกันยังไง ความเหมือนคือห้องทั้งสองจะมีความร้อนพิเศษ แต่ ห้องสตีมจะเป็นความรอนจากไอน้ำ และมีความร้อนระหว่า 110-120 F ส่วนห้องซาวน่าจะเป็นลมร้อน ซึ่งจะมีความร้อนสูงกว่าที่ 160-220 F
ห้องอบไอน้ำ หรือ Steam Room เนื่อจากเป็นไอน้ำ จะดีกับปัญหาระบบทางเดินหายใจบางชนิดเพราะความร้อยช่วยให้โพรงจมูกโล่ง และผิวได้รับความชุ่มชื่นพร้อมกับรูขุมขนได้ปล่อยสิ่งสกปรกออกมา ทำให้ผิวดูใสขึ้น แต่เพราะความชื้น บางคนที่มีปัญหาเรื่องความชื่ยกับปอดก็อาจจะไม่เหมาะที่จะใช้ห้องสตีม และการอยู่ในห้องสตีมช่วยลดความเครียดและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เหมาะสำหรับการพักผ่อนกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกายเป็นอย่างมาก สรุปข้อดี
(1) ช่วยละลายเสมหะและน้ำมูก หายใจโล่งขึ้น
(2) joint pain อาการปวดตามข้อต่อต่างๆ
(3) loose muscle ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
(4) hydrate skin ช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิว
คราวนี้มาถึงห้องซาวน่า ความร้อยช่วยเรื่องการไหลเวียนเลือด และ ช่วยให้ลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ ประโยชน์คล้ายกับห้องสตีมคือช่วยเพิ่มการไหลเวียนและความดัน ดังนั้นคนความดันต่ำจะเหมาะมาก แต่เพราะเป็นอากาศแห้งต้องระวังเรื่องขาดน้ำ ไม่ควรอยู่นานจนเกินไป ไม่เกิน 10 นาทีต่อรอบ และคนเป็นเบาหวานและโรคตับควรระมัดระวังการใช้ห้องซานน่าเป็นพิเศษ ปรึกษาแพทย์ ก่อนใช้นะคะ ข้อดีของ ซาวน่าคือ
(1) joint pain, loose muscle ลดอาการปวดตามข้อต่อ และ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
(2) reduce dementia risk ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคความจำเสื่อม
(3) improve blood pressure ช่วยปรับความดันเลือด
(4) improve immune system ช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกัน

[@nipapanable]

ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ🙏

[@janepammiet.pammyqt227]

ชอบห้อง Steam เพราะรู้สึกว่า ผิวจะไม่แห้งค่ะ